ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

กังปังตลุยยุทธภพ ตอน นักท่องเวลาพบพู่กันปาฎิหารย์

เริ่มโดย cobra, กันยายน 18, 2019, 09:19:39 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ชอบตอนนี้หรือไม่

ชอบ
45 (95.7%)
ไม่ชอบ
2 (4.3%)

จำนวนสมาชิกโหวดทั้งหมด: 47

cobra

             
กังปังตลุยยุทธภพ ตอน นักท่องเวลาพบพู่กันปาฎิหารย์


6 เดือนก่อนหน้านี้
(เวลานับจากตอนที่แล้ว หลังจากที่กังปังแยกจากกับสองดรุณีง่อไบ๋)
วัดเส้าหลิน อยู่ๆพลันเกิดแสงสว่างขึ้นมาแวบหนึ่งปรากฎร่างชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง คล้ายโผล่ออกมาจากอากาศมากกว่า ดูแปลกประหลาดยิ่ง ดูจากสภาพการแต่งกายแล้วคล้ายกับพวกกระยาจกคนหนึ่ง
มันมองดูซ้ายขวาเมื่อเห็นปลอดคนดีแล้วมันรีบเผ่นแผ่วเข้าไปในตึกแห่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว พลันพอมันเหยีบย่างไปยังไม่ทันจะเข้าไปในห้องหนึ่ง กลับมีเสียงผู้คนในห้องพูดออกมา
"ประสก มาถึงจนได้ซินะ เชิญเข้ามาเถอะ"
มันพอได้ยินก็เปิดประตูเข้าไป โดยไม่มีทีท่าแปลกใจแม้แต่น้อย ประสานมือคำนับพลางกล่าวมา
"คารวะไต้ซือ ข้าคาดอยู่แล้วว่าท่านต้องทราบแน่ว่าเป็นข้ามา"
หลวงจีนชราลุกขึ้นจากเก้าอี้ รับคารวะจากมัน พลางใช้สายตาจับจ้องดูชายแปลกหน้าที่ล่วงล้ำเข้ามาอย่างพิจารณา
"ดูท่านติงซาน ยังเหมือนทุกประการ ตั้งแต่ตอนข้าเป็นเด็กครั้งหนึ่ง และตอนที่ข้าเข้ามาอยู่วัดเส้าหลินตอนได้ 10 ปีครั้งหนึ่ง จนบัดนี้ข้าอายุ  80 แต่ท่านยังคงเหมือนเดิม ไม่ทราบว่าท่านมีเรื่องอะไรให้อาตมาช่วยหรือ"
"ข้าคาดว่าท่านคงทราบเจตนาของข้าอยู่แล้วกระมั่ง ไต้ซือเซี่ยวเซี่ยงจือ"
บัดนี้ทั้งคู่ต่างนั่งสนทนาบนโต๊ะตัวหนึ่ง ผู้มีนามว่า ติงซาน เป็นฝ่ายรินน้ำชาคารวะแก่ไต้ซือเซี่ยวเซี่ยงจือ
"ท่านได้เคยบอกข้าว่าไม่ควรบอกอนาคตแก่ผู้ใด เพราะอาจทำให้ประวัติศาสตร์ที่ควรเปลี่ยนไป แต่โฉนท่านกลับเป็นฝ่ายทำผิดกฎของนักท่องกาลเวลาเสียเอง"
"เรื่องนี้ข้าขอรับผิด ที่ทำลงไป"
"มันไม่ใช่เรื่องที่ท่านทำผิดเพียงครั้ง หรือสองครั้ง ท่านทำไปเป็นสิบครั้งได้แล้วใช่หรือไม่"
ติงซานโดนตำหนิตรงๆ ถึงกับหน้าชาสลดลงไปก่อนกล่าวอย่างสำนึกผิด
"ข้ายอมรับผิดทุกประการ สุดแล้วแต่ไต้ซือกล่าวตำหนิล้วนแต่ถูกต้อง "
หลวงจีนเซี่ยวเซี่ยงจือจึงได้กล่าวเป็นคำสอนของพระออกมา
"บางเรื่องเราไม่สามารถทำอะไรได้เลย เพราะถึงแม้ว่าอะไรๆที่ไม่ทำเลย มันก็เป็นอะไรๆของมันอยู่ดี และถึงบางเรื่องไม่ว่าอะไรๆก็ไม่สามารถทำอะไรให้เป็นอะไรได้ เพราะว่าอะไรๆก็ไม่เป็นอะไรๆอีกต่อไป"
ติงซานได้ฟังจึงรู้แล้วว่า เซี่ยวเซียงจื่อได้รู้แจ้งหมดทุกสิ่งในสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป
"ต้องขออภัยอย่างใหญ่หลวงที่ข้ามารู้ช้าไป จึงทำให้เกิดสิ่งที่ใหญ่หลวงเกิดขึ้น จึงใคร่มาขอคำชี้แนะจากท่าน ว่าควรทำเช่นไรดีจึงจะเกิดผลเสียหายน้อย"
เซี่ยวเซียงจื่อหยุดคิด แล้วจึงถามติงซาน
"ในอนาคตล่าสุดที่ท่านไปเห็นมาเป็นอย่างไรบ้าง"
"นับว่าเลวร้ายที่สุด เกิดโกลาหนผู้คนล้มหายตายจากไปครึ่งแผ่นดิน"
เซี่ยวเซียงจื่อร้องอืมในใจ เพราะเป็นหนึ่งในอนาคตที่ท่านมองเห็นและเคยวาดภาพไว้เช่นกัน
"แล้วที่ท่านมาต้องการให้ข้าช่วยเช่นไร"
"เพราะไต้ซือสามารถมองเห็นอนาคตได้ โดยไม่ต้องเดินทางไปมาแบบว่า จึงใคร่ขอคำชี้แนะจากท่านว่า ข้าควรไปแก้ไขยังไงถึงจะเกิดผลดีที่สุด เพราะอนาคตต่อจากนี้ หากดำเนินไปเช่นนี้จะเลวร้ายมาก"
"นี้ท่านยังคืดจะแก้ไข อนาคตอีกหรือ สิ่งใดจะเกิดมันย่อมเกิดเป็นไปตามสัจธรรม"
ติงซานได้ฟังจึงเงียบไป แต่แล้วไต้ซือเซี่ยวเซียงจื่อกลับพูดขึ้น
"แต่เอาเถิดข้าจะสงเคราะห์ นี้ก็เป็นวิบากกรรมของข้าเช่นกัน"
ติงซานได้ฟังก็ใจชื้นขึ้น
"แต่ให้ท่านระลึกไว้ ว่าอย่าได้แก้ไขเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ หากเกิดอะไรขึ้นกับข้า ขอให้ท่านอย่าได้โทษตัวเองจมปลักอยู่กับความเศร้าโศกเสียใจ มันเป็นชะตาลิขิต วิบากกรรมที่ข้าต้องได้รับเช่นกัน"
ติงซานได้ฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ เซี่ยวเศียงจื่อพูดดั่งว่าตัวท่านต้องประสบภัยใด
"ท่านไม่ต้องถามให้มากความ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด รบกวนท่าน ไปขนกองกระดาษที่มีอยู่ออกมาให้หมด แล้วคอยฝนหมึกส่งกระดาษให้ข้าอย่าได้ขาด ไม่ต้องกังวลจะไม่มีผู้ใดเข้ามารบกวนทั้งสิ้น"
ติงซานรีบปฎิบัติตามคำสั่งทันที กองกระดาษจำนวนนับพันถูกขนเข้ามา ติงซานเตรียมหมึกจำนวนมากฝนไว้ เซี่ยวเซียงจื่อเมื่อเห็นทุกอย่างพร้อมแล้ว เหมือนหลับตาทำสมาธิอยู่สักพัก ก็หยิบพู่กัน ดึงกระดาษออกมาวาดภาพอย่างรวดเร็ว แผ่นแล้วแผ่นเล่า ยิ่งวาดเหมือนคนที่บ้าคลั่งไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
ติงซานที่อยู่ด้านข้างชักเป็นห่วง จะเอ่ยปากว่าให้ท่านหยุดสักพักก่อนจะดีไหม ก็เห็นซึ่ยวซึยงจื่อหันกลับมามองอย่างคนไม่พอใจ
ที่ติงซานต้องตกใจจนรู้สึกหนาวเหน็บไปทั้งร่างก็คือ นัยน์ตาที่เซี่ยวเซียงจื่อมองมากลับมีเพียงตาขาวไร้ลูกตาดำ มองคล้ายปีศาจอสูรกายที่บ้าคลั่งเตรียมจะทำร้ายผู้คน ติงซานจึงต้องยื่นกระดาษส่งให้ เซึ่ยวเซียงจื่อจึงก้มหน้าวาดภาพต่อไปไม่หยุดจนผ่านไปชั่วยาม รูปที่ถูกวาดเป็นร้อยใบแล้ว  เซึ่ยวซึยงจื่อยังไม่มีทีท่าจะหยุด หรือท่านจะวาดจนกระดาษหมดทั้งกองกระมั่ง
................................
200 ปีก่อนหน้า ณ เมืองเซี่ยงเอี้ยง
ขณะก๊วยเจ๋งอึ้งย้งต่างเข้ามาจับมือทักท่ายปลุกปลอบขวัญพลพรรคอย่างสดฃื่นแจ่มใส
"เมืองเซียงเอี้ยงแม้คนน้อย แต่มากผู้มีฝีมือและวรยุทธกว่ามงโกล เราจะต้านมงโกลถึงที่สุด หากแม้ได้กองทัพหลวงมาตีขนาบได้ทันเมืองเซียงเอี้ยงก็จะรอด"

ไม่มีใครได้ทันสังเกตบนเชิงเทินด้านหนึ่งกลับมีแสงสว่างวาบขึ้นมา ปรากฎมีชายคนหนึ่งออกมาจากแสงวาบที่หายไปตรงนั้น
"คงทันเวลานะ "
ชายผู้นั้นหยิบรูปภาพรูปหนึ่งออกมาดูเทียบ
"ไม่ผิดแน่ ท่านเซี่ยวเซียงจื้ออุตส่าห์อุทิศตน ข้าต้องทำหน้าที่ช่วยเหลือแม่ทัพผูนั้นให้ทันเวลาให้ได้ ต้องเขยิบไปใกล้กำแพงด้านนั้นไม่ให้ใครเห็น"
เป็นติงซานที่พดกับตัวเองในใจ
   "กำลังเริ่มแล้ว"
เสียงทหารตะโกนดังลั่น
"แม่ทัพ มงโกลยิงหินมาแลัว"
ทุกคนต่างตกใจหันไปดูเห็นก้อนหินขนาดมหึมากำลังจะตรงข้ามกำแพงมา ทุกคนต่างมองไปที่ก้อนหินขนาดใหญ่ เป็นจังหวะที่ติงซานรีบวิ่งไปที่เชิงกำแพงโดยไม่มีใครสนใจ
หากก้อนหินนี้ตกลงกลางเมืองผู้คนต้องตายกันเป็นเบือ อานุภาพจากความใหญ่บวกความเร็วที่ตรงเข้ามา
ไม่ผิดกับอุกาบาตที่ตกจากฟ้ามาทำลายทั้งเมืองได้ก็ไม่ปาน
เป็นก๊วยเจ๋งที่ว่องไวกว่าใคร
ใช้กำลังภายในบวกวิชาตัวเบา
อาศัยแท่นดีดตัวขึ้นสูงสุด ตรงเข้าชนกับก้อนหินทันที
อึ้งย้งเห็นก๊วยเจ๋งทำอย่างนั้น
ต้องใจหายวูบ สิ่งที่บังเกิดขึ้นอย่างกะทันหันไม่มีเวลาให้คิดใคร่ครวญใดๆ

"พลังหยุดเวลา"

ติงซานรีบใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางแตะที่หน้าผากตะโกนเสียงดังลั่น
ฉับพลันทุกสิ่งกลับหยุดเคลื่อนไหว แม้แต่ก๊วยเจ๋งที่ลอยตัวกลางอากาศใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างทำลายหินขนาดใหญ่แตกเป็นเสี่ยงๆ มองเห็นเศษก้อนหินที่ลอยค้างกลางอากาศเช่นกัน
"เกือบไปแล้ว เป็นการกระทำที่ห้าวหาญบ้าระห่ำอย่างน่านับถือ"
ติงซานพูดขึ้น
"เพื่อช่วยชาวเมืองกลับอุทิศตนถึงเพียง แต่หินมันใหญ่มากร่วม 500 กิโลได้มั่ง ถึงท่านจะมีวรยุทธสูงก็ไม่อาจทำลายมันได้หมดในคราวเดียวหรอก"
ติงซานหยุดพืจารณาก้อนหินที่แตกออก
"มันยังเหลือก้อนใหญ่ที่จะตกลงมาใส่ตัวท่าน หากโดนก้อนเหล่านั้น ไม่ตายก็มีหวังพิการไปตลอดชีวิต"
"เอาไงดี กระโดดจากตรงนี้ก็ไกลอยู่ แต่ต้องทำได้นะ รูปที่เซี่ยวเซียงวาดก็เป็นตัวข้าคว้ากอดแม่ทัพนั้นไว้ได้นี่ ไม่มีเวลาคิดมาก พลังหยุดเวลาใกล้หมดแล้วด้วย เป็นไงเป็นกัน"
ติงซานคิดแล้วจึงถอยไปตั้งหลักแล้ววิ่งกระโดดถีบบนเชิงกำแพง ออกไปคว้าตัวก๊วยเจ๋งไว้ได้อย่างฉิวเฉียด พร้อมตะโกนขึ้น

"พลังเคลื่อนย้ายเวลา"

สิ้นเสียงติงซานเป็นจังหวะที่อึ้งย้งมองไปเห็นก๊วยเจ๋งกำลังปะทะกับก้อนหินขนาดใหญ่
เกิดเสียงดัง "ตูม" สนั่นราวกับฟ้าผ่าดังลั่นไปทั้วทั้งเมืองจนทุกคนต้องแตกตื่น
พร้อมกับเกิดแสงสว่างวาบขึ้น ราวลูกไฟดวงใหญ่
สิ้นเสียงระเบิด เกิดก้อนหินที่แตกกระจายออก ตกหล่นลงมา อย่างห่าฝน มีบ้างที่โดนหินที่กระจายออกได้รับบาดเจ็บไปบ้าง
มองเห็นฝุ่นตลบไปทั่วบริเวณ
ทุกคนเห็นเช่นนั้น ต่างตะโกนโห่ร้องอย่างยินดีที่ทุกคนรอดตายได้
เสียงตะโกนชมก๊วยเจ๋งดังไปทั่ว
"แม่ทัพก๊วยเจ๋งสุดยอด"
"แม่ทัพก๊วยจงเจริญ ๆ ๆ"
ทุกคนพร้อมใจกันร้อง แม่ทัพก๊วยจงเจริญไม่หยุด
มีเพียงอึ้งย้งพยายามสอดสายตาหาก๊วยเจ๋งแต่ไม่พบ
"ท่านพี่ก๊วยเจ๋ง พี่ก๊วยเจ๋ง มีใครเห็นแม่ทัพก๊วยบ้าง"
เสียงอึ้งย้งเรียกจึงทำให้ทุกคนได้สติ ต่างมองหาก๊วยเจ๋งแต่ไม่มีใครพบ
จึงเกิดการค้นหาก๊วยเจ๋ง แม้ในกองหินที่หล่นลงมาก็ถูกค้นหาแล้ว แต่ไม่มีใครพบเห็นแม้แต่ส่วนใดของก๊วยเจ๋งเลย
สร้างความตกใจให้แก่ทุกคนยิ่งนัก
"พวกเราทุกคนหาทั่วแล้วหรือ ทางกองหินนั้นละหาดูหรือยัง รื้อออกมาดูใหม่"

เมื่อไม่มีใครค้นหาร่างกํวยเจ๋งได้พบ จึงมีข้อสรุปเพียงอย่างเดียวว่า
ก๊วยเจ๋งได้ใช้พลังพลว้ตรทั้งหมดเกินขีดจำกัดของตัว จนร่างต้องแตกสลายเป็นจุลไปพร้อมกับก้อนหินแล้ว
"ก๊วยเจ๋งตายแล้ว"
พอนึกถึงว่าก๊วยเจ๋งตายแล้ว ความเดียวดายอ้างว้าง ความโศกสลด เศร้าใจบรรดามี ก็เข้าเกาะกุมหัวใจอึ้งย้ง
จนหลั่งน้ำตาออกเป็นสายนองหน้า
"ไม่จริง เป็นไปไม่ได้  ฮือๆ "
นึกในใจ (คนทั้งคนมันจะสลายหายไปได้ไง ไม่มีเหลือแม้แต่เศ๋ษชิ้นส่วนหรือเศษเสื้อผ้าใดให้เห็น ฮิอ ๆ ๆ)
อึ้งย้งทรุดเข้าลงตรงกองหินเบื่องหน้าที่ค้นหาร่างก๊วยเจ๋ง ส่งเสียงร่ำไห้ไม่หยุดด้วยความเจ็บปวดใจเหลือแสน
เหล่าทหารที่มองอยู่ไม่มีใครคาดว่า อึ้งย้งที่สุขุมรอบคอบโดยตลอดจะแสดงอาการหลุดออกมาให้เห็นเช่นนั้น
แต่ทุกคนก็เศร้าใจเห็นใจ พร้อมกับรับรู้ไปทางเดียวกันนั้นคือ
"แม่ทัพก๊วย ตายแล้ว"
ต่างพากันถอดหมวกเหล็ก นั่งทรุดเข่าลงเป็นการคาราวะต่อดวงวิญญาณของก๊วยเจ๋งผู้ล่วงลับไปแล้ว
ก๊วยพู้ตรงเข้าปลอบใจมารดา ทั้งอึ้งย้งและก๊วยพู้จึงนั่งกอดกันร้องไห้ตรงนั้น
เป็นภาพที่สะเทือนใจทุกคนผู้คน กับการจากไปของก๊วยเจ๋ง
อึ้งย้งเหมือนสิ้นหวังทุกอย่างหมดกำลังแรงใจใดๆ
ทั้งๆที่นางก็เตรียมใจไว้แล้ว ว่าการศึกครั้งนี้จะต้องตาย ก็อยากพลีชีพร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ต่อสู้กับศัตรูในสนามรบ
แต่พอการตายเกิดขึ้นจริงกับก๊วยเจ๋งเช่นนี้ ก็ยากที่จะทำใจ กำลังแย้มยิ้มให้กัน จับมือเห็นกันอยู่ดีๆ เพียงชั่วขณะเดียว
ก๊วยเจ๋งกับจากไปเป็นเศษฝุ่นธุลี โดยไม่มีโอกาสที่ได้ร่ำลาอะไรกัน
..........................................
ทางด้านก๊วยเจ๋งเหมือนล่องลอยในกาลอากาศ ทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเคลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็ว รู้สึกำลังถูกใครกอดประคองอยู่ จึงยกมือโอบไหล่ผู้นั้นให้ถนัด
"ท่านคือใคร ตอนนี้ข้าได้ตายไปแล้วหรือไร"
"ในทางประวัติศาสตร์ต้องนับว่าใช่"
"ประวัติศาสตร์"
ก๊วยเจ๋งทวนคำอย่างงุนงง
"แล้วนี้ท่านจะพาข้าไปไหน"
"ท่านต้องไปช่วยคนผู้หนึ่ง"
"เป็นใครกัน เหตุใดข้าต้องไปช่วย ตอนนี้เมืองเซี่ยงเอี้ยงสำคัญกว่า"
กํวยเจ๋งยังมีน้ำใจห่วงเมืองเซี่ยงเอี้ยง
"ช่วยคนผู้นี้ ก็เหมือนกับช่วยภรรยาท่าน"
"ภรรยาข้าก็มีเพียงอึ้งย้งคนเดียว ตอนนี้นางก็อยู่เมืองเซี่ยงเอี้ยง"
"ข้าไม่ได้หมายถึงนางในตอนนี้ แต่เป็นนางในอีก 200 ปีข้างหน้า
ก๊วยเจ๋งฟังยิ่งงหนัก
"เอาเถอะอย่าเพิ่งถามในตอนนี้ แล้วข้าจะให้ท่านกระจ่างในตอนต่อไป ตอนนี้ข้าต้องใช้พลังอย่างมาก การเดินทางข้ามเวลาไกลๆ แบบนี้อาจทำให้ท่านรู้สึกเหมือนคนกินเหล้าเมาหนัก แล้วถึงที่หมายค่อยคุยกัน"




ขอคุยท้ายเรื่อง
   ในซีรี่ย์นี้คงไม่มีก๊วยเจ๋งออกมาอีก แต่ที่ต้องปูเรื่องเพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจเรื่องยิ่งขึ้น ที่ต้องทำการเฉลยที่ผู้เขียนได้ซ่อนไว้แต่เรก เพราะหากอยู่ๆ มีกํวยเจ๋งโผล่ออกมาจะงงกัน
   ซีรีย์นี้ กังปังและคู่หูตู้เสียวเกียว ยังคงต้องรับมือกับคู่อริเดิมคือพวกเศรษฐีฮิ่ม พร้อมกับกังปังจะได้เจอกับเพื่อนและคู่ปรับคนสำคัญ พร้อมกับอิมเอี้ยงยี้โฉมสคราญที่ว่าสวยที่สุดในบู๊ลิ้มยุคนี้ด้วย และจะมีผู้มีพลังพิเศษออกมาอีกมากมาย รวมทั้งยายพั้วลิ้มที่จะมาใช้พิณสั่งฟ้าออกมาสำแดงเดช พิณของยายพั้วจะร้ายกาจแค่ไหน ต้องติดตามในซีรี่ย์ใหม่ ในชื่อว่าภาคพิณสั่งฟ้าสำแดงเดชเหล่าคนพลังพิเศษปรากฎกาย
   ขอนำมาเกริ่นนำเป็นตัวอย่างก่อน ผู้เขียนจะว่างในเดือนหน้า คงจะเชียนให้ได้ในตอนต้นเดือน
   สำหรับนิยายผู้ขียนหากใคชื่นชอบจะนำไปเผยแพร่ได้แต่ให้พิจารณาดีๆ เพราะทุกสิ่งจะมีคนชอบและไม่ชอบเช่นกัน
   อนึ่งแม้ผู้เขียนก็เช่นผู้เขียนคนอื่น ที่ต้องการเห็นปฏิสัมพันธ์ของนักอ่าน ว่ามีผู้อ่านเป็นมนุษย์ไม่ใช่หุ่นยนตร์เข้ามาอ่าน จึงอยากเห็นความคิดเห็นเพื่อเป็นกำลังใจ และปรับปรุงงานตัวเอง บ่อยครั้งที่ผู้เขียนว่าจะลามือจากการเขียน เมื่อกลับมาอ่านข้อความของผู่อ่านที่ส่งมาก็เกิดกำลังใจที่กลับมาเชียนเรื่องใหม่ แม้จะมีไม่มาก ก็อยากจะเขียนอะไรเพื่อให้ความบันเทิง สิ่งที่ได้รับมันเป็นแค่ความภูมิใจ ที่ได้ทำให้ผู่อ่านเกิดความสนุก บันเทิงเท่านั้นครับ






somc217

รออ่านมานานแล้วครับ
ทั้งเค้าโครงเรื่องและสำนวน ทำให้อ่านแล้วสนุกชวนใหติดตามมากๆ
ขอบคุณมากๆครับ

sunnie06


navy868


Noproblemman

งานนี้น่าสนุกแฮะ
มีทั้งข้ามเวลา มีทั้งหยุดเวลา
จะมีอะไรมาเพิ่มมั้ยเนี่ย
ขอบคุณครับ

pp1659

อยากรู้จังนักท่องเวลาจะพาก๋วยเจ๋งไปช่วยใคร มีวิชาแปลกเยอะจัง

samsung014

ย้อนเวลา ข้ามเวลาได้แบบนี้ ท่าทางจะมีเรื่องให้จัดการเยอะเลยนะครับ

Poowanart Koedmanee

สงสัยว่าก๊วยเจ๋งมาช่วยอึ้งย้งในอีก200ปี(ตอนปัจจุบัน)ยังไง เพราะบอกว่าตอนใหม่ไม่ใช่ตัวหลักของเรื่อง ปล เรื่องนี้คง โล่งเลี่ยนเตียนลื่น ทั้งแผ่นดิน อิอิ

sainsain


ppyyaa


noker

ขอบคุณมากครับที่ได้นำเรื่องนี้มาแต่งต่อ จะรอติดตามผลงานต่อไปครับ

Sawat Songprasop

   เดินเรื่องสนุก เสียดายที่แต่ละตอน รอนานมาก แต่ก็คอยติดตามตลอด
   กังปังกับคู่หูคนใหม่ ได้ท่องยุทธจักรด้วยกันแบบนี้ คงได้พากันทบทวนวิชาต่างๆกันทุกวันคืนแน่ๆ วิทยายุทธก็คงก้าวหน้าเก่งขึ้นไปอีก

thep59

รออ่านมานานแล้วครับ อ่านแล้วสนุกมากๆครับ ดีทั้งเค้าโครงของเรืองและสำนวนครับ ชวนให้ติดตาม รอตอนต่อไปครับ

spr566

ว๊าว ท่านเขียนแบบ back to the future แบบนี้ ต้องอาศัยจินตนาการสูงนะครับ

anant95

สนุกมากอ่านไปหัวเราะไป ขอชมผู้เขียนอย่างจริงใจว่าผสมผสานเนื้อเรื่องได้ดี จะรอติดตามผลงานต่อไปแน่นอน