ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

หมู่บ้านเริงรมณ์ ตอนที่ 6

เริ่มโดย pekopon66, ตุลาคม 01, 2019, 10:54:05 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

pekopon66

ตามที่ตกลงกันไว้ ในที่สุดก็วางจำหน่ายแล้วกับ หมู่บ้านเริงรมณ์ เล่มที่ 1 มีทั้งหมดถึง 11 ตอน ห่างจากบอร์ดถึง 5 ตอน! สามารถเข้าไปอุดหนุนได้ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้

http://www.tunwalai.com/ebook/detail?ebookId=5154

และถ้าใครยังไม่ได้อ่าน แฟนผมเป็นคนดี ฉบับรวมเล่ม เข้าไปอุดหนุนได้เช่นกัน

http://www.tunwalai.com/ebook/detail?ebookId=4892

ขอขอบคุณบอร์ดที่ให้โอกาสได้พบเจอกับนักอ่านทุกท่าน และขอขอบคุณนักอ่านทุกๆเป็นอย่างมากที่เข้าไปอุดหนุนกัน เงินเพียงเล็กน้อยของพวกท่าน ทำให้ผมมีกำลังในการผลิตเรื่องสนุกๆออกมา และขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเม้นท์เช่นกัน กราบขอบคุณทุกท่านจริงๆครับ



-----------------------------------------------------------------------------------------------------

วันนี้ผมกับมิ้งค์มีนัดไปเทสหน้ากล้องกันที่บ้านของพี่เชษ ดาราตัวประกอบกล้ามโต ดูท่ามิ้งค์จะตื่นเต้นมาก ผมตื่นขึ้นมาเธอก็แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว กำลังแต่งหน้าแบบอ่อนๆ ให้ดูสวยใสธรรมชาติ แต่ใช้เวลาแต่งนานเกือบชั่วโมง ผมไปอาบน้ำกลับมามิ้งค์ยังไม่เสร็จ



หลังจากแต่งหน้าเสร็จ ภรรยาสาวแสนสวยของผมก็ลุกขึ้นหมุนตัวให้ดู มิ้งค์สวมชุดเดรสสีขาวลายดอกไม้ยาวเกือบถึงเข่า ผ่าอกพอสมควรโชว์เนินอกที่ดันขึ้นมาจากบราดันทรง ทำเอาผมมีอารมณ์หึงหวง แต่วันนี้ผมต้องระงับมันให้ได้ เพื่ออนาคตของภรรยา



"ถ้าเกิดพี่เชษทำอะไรเกินเลย หรือมิ้งค์ทนไม่ไหวบอกพี่นะ พี่จะคอยดูอยู่ตลอด"

"ขอบคุณนะคะ รักพี่อาทิตย์ที่สุดเลย"



มิ้งค์กอดผมก่อนจะหอมแก้มและจุ๊บปากไปคนละที หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จ ผมกับมิ้งค์ก็เดินทางไปบ้านพี่เชษโดยการขับรถ เพราะบ้านเราห่างกันพอสมควร ตัวบ้านของพี่เชษเป็นรุ่นรองจากบ้านของผมหนึ่งระดับ โครงสร้างบ้านและพื้นที่หน้าบ้านจะเล็กกว่า 



พอไปถึงก็เห็นพี่เชษยืนอยู่หน้าบ้านคุยกับชายคนหนึ่งอยู่ เขาเป็นคนผิวคล้ำหน้าดุ หน้าออกไปทางภาคใต้ ผมหยักศก ตัวสูงกว่าพี่เชษตัวใหญ่แต่ไม่ล้ำเท่า อาจจะเคยออกกำลังกายแล้วเลิกไป ผมจอดรถแล้วลงไปกับมิ้งค์



"สวัสดีครับ พี่เชษ" ผมยกมือไหว้ พี่เชษไหว้ผมแบบลวกๆก่อนจะหันไปยิ้มให้มิ้งค์

"สวัสดี สวัสดีค่ะคนสวย วันนี้แต่งตัวมาน่ารักมากเลย"

"วันนี้มิ้งค์รบกวนด้วยนะคะ" มิ้งค์ยิ้ม

"ได้เลย เอาให้เต็มที่นะ วันนี้พี่พาตากล้องมาด้วย เพื่อนพี่เอง หนึ่งในหัวหน้าทีมบริษัทใหม่ของพี่ ชื่อว่าพี่เสาร์"



ผมกับมิ้งค์ยกมือไหว้ พี่เสาร์ยิ้มแก้มปริเมื่อเห็นความงามของมิ้งค์ สายตาจ้องมองไปกลางอกแบบไม่เกรงใจผมเลยทีเดียว คนเราจะคบกันได้ นิสัยคงไม่ต่างกัน พี่เชษพาพวกเราเดินเข้าไปในบ้าน แล้วขึ้นไปที่ชั้นสอง 



บริเวณพื้นที่หน้าห้องนอนมีอุปกรณ์มากมาย ผมเองก็ไม่มีความรู้ด้านสื่อโทรทัศน์เลยอธิบายไม่ถูกว่ามีอะไรบ้าง รู้แต่ว่ามันมีจอ อุปกรณ์ควบคุมต่างๆ และสายไฟมากมายที่ต่อจากเครื่องเข้าไปในห้องนอนของพี่เชษ



"ไหนๆมิ้งค์มาเทสหน้ากล้องแล้ว พี่ขอเทสอุปกรณ์ต่างๆของพี่ด้วยเลยละกันนะ ทำกันแบบฟูลเลย"

"ค..ค่ะ" มิ้งค์เห็นอุปกรณ์แล้วเริ่มประหม่า

"เดี๋ยวน้องมิ้งค์เข้าไปนั่งรอในห้องนะ แล้วพี่เสาร์จะจัดแจงเรื่องกล้อง ส่วนพี่จะจัดการเรื่องระบบตรงนี้นิดหน่อย"



พอพี่เชษแกจริงจังขึ้นมาก็ดูน่าเชื่อถือไม่น้อย มิ้งค์เข้าไปในห้องกับพี่เสาร์ เธอนั่งอยู่ตรงขอบเตียง ส่วนพี่เสาร์ก็จัดแจงเรื่องกล้องเรื่องไฟ ซี่งกล้องเป็นกล้องตัวเล็ก แต่ระดับความชัดถือว่าสุดยอดมาก ผมยืนดูโดยไม่อยากเข้าไปกวนการทำสมาธิของเธอ ส่วนพี่เชษก็เซ็ทระบบต่างๆจนภาพในห้องถูกฉายมาที่มอนิเตอร์จอด้านนอก โดยมิ้งค์นั่งอยู่กลางภาพ พี่เชษปิดประตูห้องแล้วเดินกลับมานั่งหลังจอ หยิบไมค์ขึ้นมาพูด



"น้องมิ้งค์ได้ยินที่พี่พูดมั้ยคะ?"

"ค...ค่ะ" 

"ไม่ต้องเกร็งนะ เหมือนเราคุยกันขำๆ มิ้งค์ลองลุกขึ้นแล้วหมุนตัวซิ"



มิ้งค์ทำตามที่บอก เธอลุกขึ้นแล้วหมุนช้าๆ กล้องมีการปรับซูมออกเล็กน้อยให้เห็นมิ้งค์ทั้งตัว พี่เชษนั่งปรับสีในจอ ผมยืนดูแบบไม่มีความรู้เลย พอปรับได้ที่พี่เชษก็พูดต่อ



"ไหนลองแนะนำตัวซิ"

"สวัสดีค่ะ ชื่อ มิ้งค์นะคะ อายุ 29ปี สัดส่วน 36 25 36 ปัจจุบันว่างงานอยู่ค่ะ เพราะต้องดูแลบ้านแล้วก็....แฟนค่ะ" มิ้งค์เขินก่อนจะยิ้มออกมา ผมเผลอยืนยิ้มตาม เธอน่ารักและเป็นธรรมชาติมาก

"แล้วน้องมิ้งค์สนใจจะเป็นนางแบบหรือนักแสดงมากกว่ากันครับ" พี่เชษถาม

"เอาตรงๆ ชีวิตมิ้งค์มีแต่คนชวนไปถ่ายแบบ แต่อันที่จริงมิ้งค์อยากเป็นนักแสดงค่ะ ถึงตัวเองจะอายุเยอะแล้วก็ตาม"



ใช่แล้ว เหตุผลหลักที่เธอไม่ยอมไปเป็นนางแบบซักทีก็เพราะเธออยากจะรอแมวมองจากฝั่งการแสดงมาทาบทามเธอมากกว่า แต่ก็ไม่มีโอกาสเสียที จนอายุอานามเกือบแตะเลขสาม เธอถึงจะมีโอกาส



"อายุไม่ใช่ปัญหาหรอก แต่มันต้องมีหลายๆเรื่อง ไหนๆก็ไหนๆละ พี่ขอเทสหน่อยละกัน เสาร์ช่วยไปยืนข้างน้องหน่อย"



พี่เชษพูดจบพี่เสาร์ก็เดินออกจากหลังกล้องมายืนข้างกับมิ้งค์



"ไหนน้องมิ้งค์ลองมองไปที่พี่เสาร์ แล้วแสดงยังไงก็ได้ให้พี่รู้ว่า น้องมิ้งค์กับพี่เสาร์เป็นแฟนกัน แต่ห้ามพูดนะ ห้ามพูดเด็ดขาด"



ถึงแม้คำสั่งจะขัดใจผมไปบ้าง แต่มันก็เป็นวิธีการทดสอบที่ดีว่ามิ้งค์ที่ไม่เคยเรียนการแสดงมาก่อน จะมีพรสวรรค์มากแค่ไหน มิ้งค์กับพี่เสาร์มองหน้ากัน มิ้งค์พยายามยิ้มแบบเวลาที่ยิ้มให้ผม แต่เธอยังคงเกร็ง พี่เสาร์พยายามส่งสายตาช่วย ไม่น่าเชื่อว่าแกมีวิชาด้านนี้เหมือนกัน 



"ยืนแข็งทื่อไปนะคะ อย่าเกร็ง"



มิ้งค์ตัดสินใจจับมือของพี่เสาร์ทั้งสองข้างขึ้นมา แล้วมองไปที่นัยน์ตาอีกฝ่าย พี่เสาร์ที่หน้าดุยังเขินเมื่ออยู่ต่อหน้าภรรยาผม พี่เสาร์กลั้นยิ้มเอาไว้ แต่มิ้งค์เห็นแล้วหลุดหัวเราะออกมาอย่างธรรมชาติ ก่อนที่เธอจะกอดแขนพี่เสาร์แน่นแสดงความเป็นแฟน ผมที่ควรจะดีใจ กลับหัวร้อนเลยเพราะหน้าอกของมิ้งค์เบียดแขนพี่เสาร์จนยู่ แกต้องรู้สึกอย่างแน่นอน



"ดีมาก ดี ไหนลองใหม่ซิ เอาเป็นว่า ทั้งสองคนยังเป็นแฟนกันเหมือนเดิม แต่พี่เสาร์เพิ่งกลับมาจากเกณฑ์ทหาร 2ปีเต็ม ตัวดำปี๋เลย แสดงความคิดถึงให้พี่ดูหน่อย"



พี่เสาร์ชี้มาที่กล้องด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะพยายามปั้นหน้าเข้าสู่บทบาท มิ้งค์หันหลังหลับตาไปซักครู่ เธอคงคิดเรื่องสมัยที่ผมต้องไปทำงานต่างประเทศเกือบปี ตอนที่เราเจอกันอีกครั้งที่สนามบิน มิ้งค์น้ำตาซึมโกรธผมแน่น และมันก็เป็นอย่างที่ผมคิด



มิ้งค์จินตนาการถึงวันนั้น เธอหันกลับมาด้วยดวงตาระเรื่อ พุ่งเข้าสวมกอดพี่เสาร์เข้าเต็มรัก หน้าอกของมิ้งค์แบนไปกับหน้าท้องของพี่เสาร์ ทั้งสองกอดกันกลมแต่ผมยืนเกร็งเท้าหงิก ท่องไว้ในใจว่ามันคืองาน



"คิดถึงเข้าไว้ นึกว่าจะไม่ได้สัมผัสตัวเธอ นึกว่าจะไม่ได้กอดเธอแบบนี้อีกแล้ว คิดถึงเหลือเกิน ขอมองตาเธออีกซักครั้ง ให้ยืนยันว่ายังมีฉันอยู่ในนั้นเสมอ"



มิ้งค์ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองพี่เสาร์ ทั้งสองสบตากัน วันนั้นที่เรากลับมาพบกันอีกครั้ง พอมิ้งค์มองตาผมแบบนี้ เธอก็ดึงผมเข้าไปจูบเลย ใช่ ผมยืนเท้าเย็นหวังว่ามิ้งค์จะไม่ทำ แต่หน้าของพี่เสาร์ตอนนี้กำลังเขยิบเข้ามา มิ้งค์มีท่าทีเกร็งอย่างเห็นได้ชัด เธอลังเลว่าจะทำดีมั้ย



"หยุดก่อน หยุด คัท!!" 



มิ้งค์กับพี่เสาร์สะดุ้งก่อนจะปล่อยกอดออกจากกัน พี่เชษถอนหายใจแล้วลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูเสียงดัง!! ผมกับมิ้งค์สะดุ้งตกใจ



"น้องมิ้งค์คะ เวลาบิ้วท์อารมณ์ไปถึงนั่นแล้ว เราอย่าหยุดนะ เข้าใจมั้ย ปล่อยมันไปจนกว่าผู้กำกับหรือใครก็แล้วแต่สั่งคัท ถ้าโลเลแบบนี้ต้องถ่ายใหม่นะ โอเคมั้ยคะ?"

"โอเคค่ะ มิ้งค์จะตั้งใจทำให้ดีค่ะ"

"ดีมาก งั้นลองซ้อมกับพี่ดูก่อนซิ"



พี่เชษดึงมิ้งค์เข้าไปกอด พร้อมส่งสายตาคิดถึงโหยหาแรงกล้าจนผมยืนดูหน้ากล้องยังสัมผัสได้ มิ้งค์เอื้อมมือขึ้นมาลูบแก้มปลอบประโลม ก่อนที่ทั้งสองจะประกบปากกัน ผมยืนนับเลขในใจไม่ให้โมโห ท่องว่ามันเป็นงานหวังว่าจะผ่านไปเร็วที่สุด แต่พี่เชษกับมิ้งค์ก็ไม่เลิกจูบกันซักที



แถมดูจะรุนแรงขึ้นอีก พี่เชษสอดลิ้นเข้าไปในปากมิ้งค์แต่ภรรยาของผมเองก็ดันอ้าปากรับ บางจังหวะก็สอดลิ้นกลับไป มือของพี่เชษเอื้อมไปบีบก้นมิ้งค์ทั้งสองข้างนอกเสื้อเดรส ผ่านไปเกือบยี่สิบวิ พี่เชษจึงถอนปากออกพร้อมน้ำลายที่ยืดยาว 



"จำอารมณ์ประมาณนี้ไว้นะ" พี่เชษลูบหัว

"ค..ค่ะ" มิ้งค์ตอบด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา จนไมค์เกือบจับเสียงไม่ได้



พี่เชษเดินออกมาจากห้องปิดประตู ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่พูดกับผมซักคำ แต่แกสั่งมิ้งค์กับพี่เสาร์เล่นกันเหมือนเดิมอีกครั้ง และแล้วภาพปวดใจรอบสองก็ตามมา มิ้งค์กับพี่เสาร์เริ่มปากประกบกัน วิธีการจูบของพี่เสาร์ต่างออกไปกับพี่เชษ



เพราะของพี่เสาร์มันช่างตะกละตะกลาม หิวโหยราวกับไม่ได้กินอะไรมาหลายปี เขางับและดูดริมฝีปากมิ้งค์เป็นว่าเล่น ภรรยาผมโดนส่งอารมณ์มาแรงอย่างงี้ เธอก็ส่งแรงกลับไป มือของเธอลูบไล้ไปทั่วร่างกายฝ่ายชาย มิ้งค์ดูดลิ้นพี่เสาร์อย่างรุนแรง อารมณ์เริ่มพาพี่เสาร์เตลิด มือของเขาจากที่ลูบเอวจู่ๆก็เลื่อนขึ้นมาบีบขยำหน้าอก



"พี่เชษครับ!! แบบนี้มันเกินไปรึเปล่า เพื่อนพี่เขาบีบนมเมียผมแล้วนะ"

"ใจเย็นๆก่อนน้อง ถ้าเกิดน้องมิ้งค์เขาไม่โอเค เขาสะบัดออกมาแล้วรึเปล่า ดูดีๆว่าเขากำลังแสดงกันอยู่ แยกแยะด้วย ดูมือเมียน้องเถอะ"



พอผมหันไปดูก็ยิ่งตะลึงเพราะนอกจากพี่เสาร์จะบีบหน้าอกมิ้งค์อย่างสนุกมือแล้ว ตัวมิ้งค์เองก็ลูบคลำเป้าพี่เสาร์อย่างหื่นกระหาย มันคือการแสดงจริงๆน่ะเหรอ ผมไม่รู้หรอก ทำไมมิ้งค์ไม่หยุดซักที



"คัท!! พอได้แล้วทั้งสองคน เดี๋ยวจะมีคนอกแตกตายซะก่อน"



พี่เชษพูดผ่านไมค์ด้วยหน้าเซ็งๆ พอบอกคัท ทั้งมิ้งค์กับพี่เสาร์ก็ผละออกจากกันทันที แล้วพี่เชษก็เดินเข้าไปซุบซิบอะไรบางอย่างกับมิ้งค์ ทำเอาเธอถอนหายใจแล้วเดินออกมาหาผม



"พี่อาทิตย์ไม่พอใจ?" มิ้งค์เดินออกมาเปิดประเด็นก่อนเลย

"ไม่ใช่อย่างงั้นสิคะ แต่เมื่อกี้มันเกินเลยไปรึเปล่า"

"พี่อาทิตย์ก็ดูหนังมาเยอะนิ หลายเรื่องพระเอกนางเอกก็มีแตะเนื้อต้องตัวบ้าง"

"แต่ว่า.."

"เมื่อกี้มิ้งค์ตั้งใจทำมากรู้ปะ รีบๆทำจะได้จบๆ นึกว่าพี่อาทิตย์จะชม แต่กลับทำงี้ได้ไงอะ" มิ้งค์แย่งพูดจนผมเงียบ

"พี่ขอโทษ" ทั้งที่ผมไม่อยากขอโทษเลย

"ไม่เป็นไร แต่อย่าโกรธมิ้งค์ก็พอแล้ว ถ้ามีอะไรเกินเลยขึ้นมา มิ้งค์จะรีบตะโกนเรียกพี่เลย เหมือนกับตอนพี่อนันต์ไง"

"พูดจริงๆนะ"



มิ้งค์พยักหน้า เราสองคนกอดกันเพื่อปรับอารมณ์ ก่อนผมจะปล่อยมิ้งค์กลับไปในห้องอีกครั้ง ไม่นานพี่เชษก็เดินออกมาตบไหล่ผมแล้วกลับไปนั่งหน้าจอเหมือนเดิม



"เอาล่ะ สรุปว่าน้องมิ้งค์มีพรสวรรค์ใช้ได้เลย แต่อาจจะต้องไปเรียนเพิ่มเติม เพราะการแสดงมีหลากหลายอารมณ์ บางอารมณ์ก็จะดึงออกมาได้ยากกว่านี้"

"ค่ะ...เข้าใจค่ะ"

"งั้นต่อไปพี่ขอทดสอบความกล้าของเราหน่อยนะ"

"ได้ค่ะ ให้มิ้งค์ทำอะไรบอกมาได้เลยค่ะ" สายตาของมิ้งค์ดูมุ่งมั่นและตั้งใจมาก

"น้องมิ้งค์ถอดเดรสออกได้มั้ยคะ?"



ผมตะลึงกับคำสั่ง แต่มิ้งค์ไม่ลังเลแม้แต่น้อย เธอเอื้อมมือไปด้านหลังพยายามรูดซิบ ก่อนที่จะดึงซิบลงและถอดชุดออก เผยให้เห็นชุดชั้นในดันทรงลายลูกไม้สีม่วงเข้ม เข้าเซ็ทกับกางเกงในสีและลายเดียวกัน ช่วยขับผิวให้มิ้งค์ดูขาวสว่าง พี่เชษมองผ่านกล้องยังกลืนน้ำลาย ส่วนพี่เสาร์ที่ยืนข้างๆก็จ้องหุ่นภรรยาผมไม่ปล่อย



"ด..ดีมากจ่ะ...ถือว่าใจกล้าดี แต่พี่ก็ต้องมาดูว่าน้องมิ้งค์มีลิมิตกับงานแค่ไหน"

"มิ้งค์ทำได้ทุกอย่างค่ะ ขอแค่ได้รับโอกาส มิ้งค์จะทำมันอย่างเต็มที่ค่ะ" ถึงจะคงความมั่นใจ แต่ผมก็พอเดาได้ว่ามิ้งค์เริ่มอาย 

"ไม่ว่าจะเป็นหนังบู๊ หนังผี หรือหนังรักโรแมนติกอิโรติก น้องมิ้งค์โอเคหมดเลยเหรอคะ" เดี๋ยวนะคำถามแบบนี้

"ค่ะ มิ้งค์โอเคหมด" 

"จะให้ลองฉากบู๊ หรือฉากผีก็ลำบาก งั้นเรามาลองฉากรักละกัน เสาร์เดี๋ยวช่วยเล่นเป็นพระเอกหน่อยนะ"

"เดี๋ยวก่อนๆ หนังรักกูเคยแสดงที่ไหน" พี่เสาร์บอก

"เออๆ เดี๋ยวเข้าไปสอน จำด้วยละ"



พี่เชษปิดไมค์ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้อง พอปิดประตูผมก็ใจหวิวทันทีเพราะเหมือนผมจะได้ยินเสียงล็อคกลอน ผมรีบหันไปมองในจอ พี่เชษเดินไปถึงก็ถอดเสื้อออกทันที โชว์มัดกล้ามอันใหญ่โตและฟิตเปี้ยะ ผมสังเกตุเห็นมิ้งค์แอบกลืนน้ำลายหลายรอบในเวลาสั้นๆ



พี่เชษสั่งให้พี่เสาร์ไปถือกล้องแล้วถ่ายจากด้านข้างเตียงแทน ส่วนมิ้งค์ก็ถูกสั่งให้ขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วเอาผ้าห่มขึ้นมาปิดช่วงเนินอกไว้



"อย่างงั้นละ แล้วดึงสายเสื้อในลง ให้มันไปอยู่ใต้ผ้าห่ม แบบนั้นละ...เห็นมั้ยแค่นี้ก็ดูเหมือนมิ้งค์ไม่ใส่อะไรแล้ว"



จริงอย่างที่พี่เชษว่า เพียงแค่ดึงสายเสื้อในลงก็เหมือนมิ้งค์ไม่ได้ใส่อะไรช่วงบนแล้ว พี่เชษมุดเข้ามาในผ้าห่ม สอดตัวเข้ากลางหว่างขาของมิ้งค์จังหวะนี้เล่นเอาผมหัวร้อนเลย



"ดึงผ้าห่มตรงปลายเท้าขึ้นมานิดนึงดิเสาร์ แบบนั้นละ เห็นมะ จะเห็นขากูอยู่ระหว่างขาน้องมิ้งค์เขา ภาพมันสื่อถึงคนมีอะไรกัน"

"มึงนี่เรียนจากหม่อมมาหรือเปล่าวะ" เสียงพี่เสาร์เข้ามาในกล้อง

"หม่อมไรวะ?"

"หม่อมถนัดเยไง ฮ่าๆ" ทั้งสองหัวเราะกันสนุกสนาน มิ้งค์เองก็ยิ้มแบบเขินๆ ใครบ้าจะไม่เขิน มีผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่สามีมานอนทับอยู่แบบนั้น

"เลิกเล่นๆ น้องเขาอายหมดละ เสาร์เดี๋ยวโฟกัสไปที่ด้านข้างน้องเขาตั้งแต่จนถึงเนินอกนะ ไม่ต้องเห็นนม มันจะโป๊ไป"

"โอเค ประมาณนี้น่าจะได้" พี่เสาร์มองแค่หลังกล้องยังแม่นพอสมควรเลย เพราะผมเองก็เห็นตามที่พี่เชษบอกเท่านั้น

"งั้นเริ่มละนะ น้องมิ้งค์ไม่ต้องเกร็งนะ"



มิ้งค์พยักหน้ารับคำ ทั้งสองก็เริ่มมองตากัน พี่เชษค่อยๆยื่นหน้าลงไปแล้วทั้งสองก็ประกบปากกันอีกครั้ง ทั้งสองจูบกันอย่างดูดดื่มราวกับคู่รัก ไม่รวดเร็วแต่หนักแน่น ทำเอาผมขนลุกไปทั่วตัว มือของพี่เชษขยุกขยิกอยู่ใต้ผ้าห่ม ผมไม่รู้ว่าแกทำอะไร และไม่อยากคิดด้วย ตอนนี้ผมต้องเงี่ยหูฟัง ถ้ามิ้งค์ขอให้ช่วยแม้เสียงจะเบาที่สุด ผมก็จะวิ่งเข้าไป



มิ้งค์หลับตาเคลิบเคลิ้มกับรสจูบของพี่เชษได้อย่างสมจริง เข้าถึงการแสดง บางครั้งเธอก็เป็นฝ่ายรุกล้ำจู่โจมดูดลิ้นและริมฝีปากอีกฝ่าย ผมเองก็เคยถูกมิ้งค์ทำแบบนั้น พี่เชษคงจะรู้สึกดีไม่น้อย หลังจากจูบกันได้ซักพักใหญ่ พี่เชษก็ถอนปากออกแล้วไล่ไปที่แก้ม กกหู มิ้งค์สยิวจนต้องบิดกายกัดรีมฝีปากแน่น



พี่เชษค่อยๆไล่ลงมาที่คอ เวลาที่พี่แกสูดดม กลิ่นตัวของมิ้งค์ก็ลอยมาในหัวผมชัดเจนว่ามันหอมและมีเสน่ห์ดีงดูดแค่ไหน แค่คิดไอ้นั่นผมก็แข็งตัวหนักยืนไม่ไหว ต้องรีบนั่งดูต่อ พี่เชษไล่ลงมาที่ไหปลาร้าก่อนจะมุดหายเข้าไปในผ้าห่ม กล้องยังโฟกัสที่หน้าสยิวของมิ้งค์ ทำให้ผมไม่เห็นพี่เชษ นอกจากเสียงบางส่วนที่ลอดเข้ามาในกล้อง



"แผล่บๆๆ สูดดดดด จ๊วบบ จ๊วบบบ แผล่บบๆๆ"

"อื้มมม อ๊าาา  ซี้ดดดด" 



มิ้งค์มีอาการเกร็งตัว หลับตาพริ้ม เวลาที่เธอครางมันเหมือนกับตอนที่ผมเล้าโลมเธอเลย ถ้านี่ไม่ใช่การแสดง มิ้งค์โดนพี่เชษเล้าโลมจริงๆงั้นเหรอ ผมพยายามข่มใจ บางเรื่องคงต้องยอมไปบ้าง แต่ผมเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้ว มิ้งค์จะไม่ยอมให้เกินเลยอย่างแน่นอน 



"ก็ประมาณนี้นะ" พี่เชษมุดขึ้นมาจากผ้าห่ม หันมาคุยกับเสาร์และมิ้งค์ที่อยู่แนบอกแก

"ค...ค่ะ" 

"น้องมิ้งค์เก่งมากเลยนะครับ น่ารักที่สุด ว่าแต่พร้อมเล่นฉากต่อไปหรือเปล่า พักก่อนได้นะ" พี่เชษพูดพลางลูบหัว

"พ..พร้อมค่ะ"

"ว่าแต่อยากเล่นกับใครก่อน กับพี่ หรือกับพี่เสาร์" 

"อ..เอ่อ..คือ..." มิ้งค์มองผู้ชายทั้งสองสลับไปมา แล้วกลืนน้ำลาย เธอเลือกไม่ถูก

"งั้นกับพี่เสาร์ก่อนละกัน เดี๋ยวพี่เขาจะมาถ่ายในมุม POV นะ ส่วนพี่ที่หลังก็ได้ เราเพิ่งเล่นกันไปเมื่อไม่นานมานี้เอง" พี่เชษยิ้ม  
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

sdsd2sf

ถ่ายหนังอาร์เป็นหนังเอ็กไหมเนี่ย


samsung014

น่าจะได้ผัวเพิ่มอีกสองคนคราวนี้ล่ะ น้องมิ้งค์

man.mattockk


modx000

สงสัยมิ้งจะโดนใต้ผ้าห่มไปแล้วมั๊ง

Tona Akarana


M_ne



0851655958

มาแล้วกลังงรออยู่เลยคราวนี้มิ้งจะรอดไหม

blackjack

 ::Dribbling::  ผมว่าโดนแกล้งถูกเย็ดโดยไม่รู้ตัวแน่

purech


boyza55



3hman

คนมีกะตังค์นี่ เขามีอะไรทำเยอะ ตื่นเต้นดีน้อ