ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_saradio

เศรษฐีใหม่ เศรษฐีหื่น ตอนที่ 4

เริ่มโดย saradio, พฤศจิกายน 28, 2019, 02:22:33 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

saradio



               วิภาวี                                        กุ้ง



   วิภาวี ยืนนิ่งเหมือนทำอะไรไม่ถูก ส่วนกุ้งก็มีอาการตกใจทั้งกลัวทั้งอาย เนื่องจากเธอยังไม่แน่ใจว่า จริงๆแล้ววิภาวีเป็นอะไรกับผมกันแน่ แต่ผมกลับมีสีหน้าอารมณ์เสียนิดหน่อย และพูดขึ้นว่า

   "เธอมาทำอะไรแต่เช้าเนี่ย ยังไม่ 7 โมงเลย"

   สีหน้าน้ำเสียงผมไม่ค่อยสบอารมณ์ ทำให้ วิภาวีหน้าเสียขึ้นไปอีก

   "เออ..คือ..พอดี เออ ฉัน เอ้ย นู๋ ...นู๋ เออ."

   เธอ อ้ำๆอึ้งๆ ตอบ เพราะยังตั้งตัวไม่ทัน และไม่รู้จะตอบยังไง เพราะเธอเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองต้องมาแต่เช้า หรือจริงๆเพราะเธออยากรู้ว่าเมื่อคืนเขากลับมาคอนโดหรือเปล่า หรือไม่ได้กลับ แต่ตอนนี้เธอคงได้คำตอบแล้ว

   ในตอนนั้นผมเห็นเธออ้ำอึ้ง พูดอะไรก็ไม่รู้เรื่อง ก็เลยพูดสวนไปว่า

   "เออ ช่างมันเถอะ ว่าแต่.. เธอจะยืนดูฉันอยู่แบบนี้ใช่มั๊ย"

   วิภาวีถึงได้สติ รีบก้มหน้า และหลบกลับไปห้องรับแขก ผมเห็นเธอหน้าแดงและสีหน้าไม่ดีเหมือนคนกำลังเสียศูนย์ แถมอากัปกิริยาก็ดูเงอะงะราวกับคนสติหลุด ทำให้ผมเริ่มมั่นใจแล้วว่า หัวใจ วิภาวีกำลังสั่นไหวให้กับผม เลยคิดยิ้มเยาะขึ้นในใจ เพราะอยากรู้ว่า เธอจะทำยังไงถ้าเธอต้องรักผู้ชายสองคนในเวลาเดียวกัน

   เมื่อวิภาวีออกไปแล้ว กุ้งก็รีบลุกขึ้นหอบเสื้อผ้าเข้าไปในห้องน้ำ ส่วนผมก็ไปเอาเสื้อคลุมอาบน้ำมาสวมใส่

   ฮั่นแน่ ผิดหวังกันละซิ พวกมึง.. ลุ้นกันเยี่ยวเหนียวเลยนะ คิดว่าจะมี ตรีเพอร์ซั่น หรือ สาด...อดสิมึง ...แต่จริงๆกูก็ลุ้นนะ แต่ก็ทำใจไว้แล้ว  เพราะ ไอ้เหี้ย โอ้ มันไม่ค่อยจะตามใจคนอ่านหรอก เดี๋ยวเสียเนื้อเรื่องมัน และแม่งก็ช๊อบชอบ ตัดจบตอนแบบให้ลุ้น ว่าเฮ้ย ตอนหน้ายังไงว่ะ ได้แน่เว้ย น้ำกระจายแน่ แต่แล้วก็ไม่มีเหี้ยอะไร ให้คนอ่านด่าลับหลัง
   เฮ้ย ...อย่ามาบอกกูว่าอย่าด่ามัน... อะโด่ ...พูดกันตามจริงดีกว่า กูรู้พวกมึงอ่ะ อยากด่ามันหมดทุกคนแหละ แต่ติดที่กฎบอร์ดใช่มั๊ยหละกลัวโดนแบนด์  แหนะ .ยิ้ม.. ยิ้ม ไอ้สัดจริงใช่มั๊ย โดยเฉพาะคนที่ตามอ่านของมันตั้งแต่เรื่องแรกๆอ่ะ  ...ไงหละ มันเคยแต่งให้พวกมึงอ่านจบมั๊ย กี่เรื่องแล้วที่ทำพวกมึงค้างคา
.. แล้วเนี่ย ไม่รู้ว่าเรื่องกูจะจบหรือเปล่า แม่ง...พึ่งเป็นพระเอกเรื่องแรกด้วย"

หืมมม.....เดี๋ยวนะ รู้สึกแปลกๆวุ้ย ทำไมทุกอย่างเงียบไปว่ะ

   ขณะที่นันทชัย ด่าคนเขียนให้คนอ่านฟัง มันก็รู้สึกอยากตายขึ้นมา ด้วยโรคซึมเศร้า เลยเดินออกไปตรงลานระเบียนสระน้ำ แล้วไปเกาะขอบราวรั้วกั้น มองลงไปยังพื้นเบื่องล่าง ที่สูง30ชั้น แล้วคิดในใจว่า โอ้วว น่าโดดเหลือเกิน

   "เอาแล้วไอ้สัด ไอ้ โอ้ มึงเล่นเหี้ยอะไร กูไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้า กูมีตั้ง 4 หมื่นกว่าล้าน กูจะเศร้าหาแม่มึงเหรอ"

   แล้วมันก็ปีนขึ้นไปบนราวรั้วกั้น

   "ไอ้ โอ้ ไอ้เหี้ย มันสูง ไม่เอา"

   นันทชัยขึ้นไปยืนจังก้าบนราวรั่ว และทำท่าจะโดดลงไป

"กูไม่โดดดดด ไอ้เหี้ย โอ้ออ อย่าเล่นบ้าๆนะมึง ....."

มันก้าวเท้าซ้ายออกไปก่อน แล้วมันก็...

"ไอ้ โอ้ออออออ กูขอโทษ กูยอมแล้ว กูยอมแล้ว กูจะไม่ด่ามึงอีกแล้ว กูเพิ่งเย็ดผู้หญิงในเรื่องไปสองคนเอง นางเอกอีกตั้งหลายคนยังไม่โพล่มาเลย ไอ้เหี้ย กูยังไม่อยากตาย ไอ้สัด เอากูกลับที่เดิม กูขอร้อง นะ นะ พี่โอ้ น้องนันขอร้อง ไหว้แหละ พี่โอ้ นะ นะ"

   ผมโวยวายอ้อนวอนขอร้องมัน จนน้ำหูน้ำตาเล็ด มองลงไป หูยยย..แม่งสูงจนเสียวเยี่ยวแทบแตก แล้วพลันรู้สึกว่าควบคุมตัวเองได้อีกครั้ง เลยโล่งใจอย่างใจหายใจคว่ำ พลันรีบปืนลงจากราวรั้วกั้นและเดินตาลีตาเหลือกกลับเข้าไปในห้องโถง

   "ให้ตายเหอะ พวกมึงไม่ต้องหัวเราะเลยไอ้สัด ไอ้เหี้ยเกือบตายแล้วกู"

   ผมบ่นด้วยอาการหน้าซีดปากสั่น ใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เรื่องนี้สอนให้ผมรู้ว่า อย่าเสือกซ่ากับคนเขียนบท โดยเฉพาะคนอย่าง ไอ้เหี้ย โอ้

ในตอนนั้น ผมพอสงบอาการตื่นเต้นเฉียดตาย ลงไปได้บ้างแล้ว เลยนึกอยากกินอะไรร้อนๆ ให้ความอบอุ่นร่างกาย เพื่อจะได้เรียกขวัญกำลังใจสักหน่อย เลยตะโกนเรียกหา วิภาวี ให้มาชงกาแฟให้

วิภาวีนั่งหลบหน้าอยู่ที่ห้องรับแขก พอได้ยินเสียงเรียก ก็ทำใจเดินเข้ามา เหมือนตอนนั้นจะตั้งตัวจากอาการซ็อกได้แล้ว เธอก้าวเข้ามาในห้องโถงด้วยสีหน้าราบเรียบ และตรงเข้าไปชงกาแฟโดยไม่พูดอะไร  แต่ผมรู้ว่าเธอเก็บอาการ โดยสังเกตจากแววตาของเธอที่มองผม มันแสดงความค้อนเคืองอยู่

   ผมก็เลยยิ้มแหย่เธอพูดว่า

   "เป็นอะไร ทำหน้ายังกับตูด ทะเลาะกับแฟนมาหรือไง ถึงได้หลบมาที่นี่แต่เช้า"

   "ป่าว สักหน่อย"

   เธอตอบราบเรียบ พยายามทำน้ำเสียงให้เป็นปกติ แต่ก็มีพิรุธในน้ำเสียง

   ผมเลยมองดูเธออย่างนึกขำ เพราะรู้สึกว่าเธอปกปิดความในใจตัวเองไม่มิดเลยจริงๆ และมันมักแสดงออกมาให้เห็นเล็กๆน้อยๆ ในท่าทางกลบเกลื่อนของเธอ ผมเลยถามย้ำไปอีกเพื่อยั่วอารมณ์เธอ

   "ป่าว ได้ยังไง ปกติก็ไม่เห็นมาเช้าขนาดนี้"

   "ก็บอกว่าป่าวไง ก็แค่วันนี้เห็นว่ามีงานเยอะเลยมาแต่เช้า แค่นั่นเอง....."
   เธอเริ่มขึ้นเสียงหลุดอารมณ์หงุดหงิดที่ผมถามเซ้าซี้ และหันไปคนกาแฟพร้อมบ่นงึมงำกับตัวเองเบาๆ ว่า
   "ถามอยู่ได้ คิดว่าอยากจะดูนักเหรอ ใครจะไปรู้ว่าจะมาทำอะไรกันตรงนี้ ห้องก็มีตั้งเยอะแยะไม่เข้าไปทำ บ้าจริงๆ"

   เธอคิดว่าผมจะไม่ได้ยิน แต่ผมเสือกได้ยิน เลยยิ้มพูดว่า

   "เอ๊า ก็ข้างนอกบรรยากาศมันดี ปลอดโปร่งโล่งสบาย ได้ฟิวดีออก"

   วิภาวี ถอนหายใจ มีอารมณ์เหมือนไม่อยากคุยด้วย เลยไม่ได้โต้ตอบอะไร วางแก้วกาแฟที่ชงให้ด้วยความอารมณ์ไม่ดี จนแก้วกระแทกเคาท์เตอร์บาร์เสียงดัง จากนั้นก็แสร้งทำเป็นทำงานต่อ โดยเปิดตูเย็นและตรวจของที่ต้องซื้อเพิ่มเติม

   ผมก็ถือแก้วกาแฟ เดินตามไปยั่วกวนตีนเธอต่อ พูดบอกว่า

   "ของในตูเย็น ก็เพิ่งซื้อไปเมื่อวานไม่ใช่เหรอ"

   ผมบอกทัก วิภาวีถึงกับหน้าเสีย ต้องปิดตู้เย็น แล้วไปเปิดตู้บนชั้นเคาท์เตอร์ เพื่อดูพวกอาการแห้ง

   "พวกนั้นก็ซื้อมาพร้อมกันนั่นแหละ เธอจะหาอะไร"

   ผมบอกอีก

วิภาวี ก็ไม่รู้ตัวเองหาอะไรเหมือนกัน แต่รู้สึกอารมณ์เสียขึ้นมา ระเบิดความหงุดหงิดที่อยู่ในใจ ขึ้นเสียงตวาดใส่ว่า
   "น๋จะทำอะไร เจ้านายอย่ามายุ่งได้มั๊ย มีอะไรก็ไปทำเหอะ จะพากันไปต่อกันในห้องก็ไป น่ารำคาญจริงๆเลย"
   จากคำพูดและอาการของเธอทำให้ผมคิดว่า เธอกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ ถึงได้ไล่ประชดแบบนี้ ทำให้ต้องแอบหัวเราะ แต่ก็แสร้งทำเป็นหน้าดุ พูดว่า

   "อ่าว ถามคุยด้วยดีๆ ทำมไมาขึ้นเสียงใส่ซะแล้ว ฉันเจ้านายเธอนะ"

   วิภาวี ไม่สนใจ และก็ไม่อยากต่อปากต่อคำ เลยเงียบ แต่ก็ยังทำเป็นทำงานของเธอต่อไป

ในตอนนั้น เสียงกุ้งก็ตะโกนเรียกหาผมขึ้นมาพอดี ว่า

   "พี่นัน พี่นัน มีเสื้อผ้าให้กุ้งเปลี่ยนมั๊ย"

   พอได้ยินกุ้งเรียกมาแบบนั้น ผมเลยนึกจะแกล้งยั่วโมโห วิภาวีขึ้นไปอีก เลยตะโกนตอบกุ้งไปว่า

   "จ้า.. ที่รัก เดี๋ยวพี่หาให้นะ"

   น้ำเสียงผมอ่อนหวานเหมือนคู่รักข้าวใหม่ปลามัน แล้วผมก็หันมายิ้มเย้ยให้วิภาวี ก่อนจะเดินออกจากห้องครัวไปหากุ้งที่นุ่งกระโจมอกด้วยผ้าขนหนูผืนเดียวรออยู่หน้าห้องน้ำ และพาเธอเข้าห้องผมไปหาเสื้อผ้าใส่

   วิภาวีมองตามด้วยความรู้สึกมันไส้และเจ็บลึกๆ บันดาลให้เธอปิดประตูตู้ครัวดัง โครม พร้อมกับความรู้สึกอยากจะร้องไห้ แต่เธอก็ไม่ร้องออกมา

ในตอนนั้น เธอเริ่มรู้ตัวแล้วว่า เธอกำลังหึง เลยทำให้เกิดความสับสนในใจ ว่าทำไมเธอจะต้องรู้สึกหึงเขา ทั้งๆที่เธอเองก็มีแฟนอยู่แล้ว แล้วในที่สุดเธอก็ได้คำตอบจากหัวใจตัวเอง ว่าจริงๆแล้ว เธอเริ่มรักเขา วิภาวีจากที่โมโหหึงก็เริ่มหวั่นใจขึ้นมา เพราะเธอเป็นคนที่ยึดมั่นในรัก ถ้ารักใครแล้วก็ทุ่มเทและเปลี่ยนใจได้ยาก ดังนั้นจึงไม่อยากนอกใจสามีไปรักชายอื่น แม้จะเคยนอนกับผู้ชายอื่นก็ตาม แต่นั่นเป็นเพียงการนอกกายไม่ใช่นอกใจ และเป็นการทำเพื่อสามีแถมสามีเธอก็รู้เห็นด้วย ทำให้เธอไม่รู้สึกผิด

แต่ครั้งนี้ เป็นการนอกใจจริงๆ มันเกิดขึ้นจากความรู้สึกว่ารักจริงๆ ทำให้เธอรู้สึกผิด เลยต้องตั้งสติพยายามสลัดความคิดหึงหวงเขาออกจากหัว และหักห้ามใจตัวเองเอาไว้ ไม่ให้คิดเลยเถิด เพราะอย่างไรเธอก็ยังคิดว่า เธอควรน่าจะใช้ชีวิตคู่อยู่กับสามีตัวเองถึงจะถูก และสามีเธอตอนนี้ ก็ทำตัวดีขึ้นมากแล้ว

ในขณะที่วิภาวี กำลังยืนคิดเซื่องซึมอยู่นั้น ผมก็พากุ้งเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง แต่ผมไม่มีเสื้อผ้าผู้หญิง จึงให้กุ้งใส่เสื้อเชิต และใส่กางเกงในบล็อกเซอร์ของผม โดยที่เธอไม่ได้ใส่ชุดชั้นในใดๆ  เนื่องเพราะเสื้อผ้าเธอเหม็นคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเหล้าและกลิ่นน้ำกาม ผมจึงหอบเอาไปเข้าเครื่องซักผ้าที่อยู่ในห้องซักรีด โดยที่ไม่ได้ใช้วิภาวี เพราะคิดว่ามันจะหักหาญน้ำใจเธอเกินไปหน่อย

    แต่ผมก็ไม่รู้ว่าเสื้อผ้าผู้หญิงรวมไปถึงชุดชั้นในพวกนี้มันซักยังไง มันเอาเข้าเครื่องสักผ้าได้เลยมั๊ย ก็เลยงกๆเงิ่นๆอยู่

พอดีวิภาวีเดินผ่านมา พอเห็นผมจะซักผ้าแต่ท่าทางดูเงอะงะ ก็นึกรำคาญใจ เข้ามาช่วยจัดการให้ แต่พอพบว่าเป็นเสื้อผ้าของกุ้ง เธอก็ถอนหายใจอย่างถอนฉุนและข่มใจจัดการไปโดยไม่พูดอะไร

   พลันกุ้งก็ตามเข้ามาพอดี พอเห็นวิภาวีกำลังจัดการกับเสื้อผ้าของเธอ ก็อดพูดไม่ได้ว่า

   "คุณวิ คะ คุณซักเสื้อผ้าพวกนี้เป็นหรือป่าวค่ะ มันแพงนะค่ะช่วยระวังด้วย"

   วิภาวีต้องเหลือบมอง และคิดอย่างไม่ค่อยพอใจ จนต้องพูดขึ้นว่า

   "ฉันรู้ ..แต่ถ้าจะให้ดี เสื้อผ้าเธอ เธอก็ควรมาซักเอง โดยเฉพาะพวกชุดชั้นใน ไม่ควรต้องให้เจ้านายฉันต้องมาซักให้แบบนี้"

   กุ้งโดนตอกหน้ากลับมา ก็นึกไม่ยอม เพราะตอนนั้นเธอรู้แล้วว่า วิภาวี ไม่ได้เป็นแฟนกับผม เธอเลยพูดด้วยน้ำเสียงเชิดใส่ว่า

   "จริงๆ ฉันก็ไม่ได้ใช้ให้เขาซัก ซะหน่อย แต่เขาเอามาซักให้ฉันเอง แต่ว่าเธอเป็นแม่บ้าน มันก็เป็นหน้าที่เธอไม่ใช่เหรอ"

   กุ้งพูดด้วยสีหน้าท่าทางเหมือนจะบอกให้รู้ว่า เธอหนะขี้ข้า แต่ฉันกำลังเป็นเมียนายจ้างเธอนะ

วิภาวีถึงกับขบฟัน จนกรามขึ้น นึกด่าในใจว่า หน๋อย อีนี่มันคากคกขึ้นวอชัดๆ ที่ตอนเจอที่สถานเสริมความงาม ไหว้กูซะมือไม้อ่อน พอจับเจ้านายกูทำผัวได้เห็นกูเป็นขี้ข้าซะแล้ว พลันสะกดกลั่นอารมณ์ พูดนิ่มๆคืนไปว่า

   "ขอโทษนะสัญญาจ้างฉันมีเจ้านายคนเดียว คนอื่นฉันไม่นับ และฉันก็ทำงานเป็นเลขาไม่ใช่แม่บ้าน ถ้าเรื่องมากนักก็มาซักเองนะคะ"

   แล้ว วิภาวี ก็ทิ้งผ้าลงกับพื้น และเดินออกไปอย่างไม่สนใจ กุ้งนึกโมโหถึงกับเต้นเร้าๆ งอแงใส่ผมเหมือนจะฟ้องให้ผมจัดการ แต่ผมตอนนั้นผมกำลังสนุกกับการจับสังเกตวิภาวี ก็เลยไม่อยากจะพูดอะไรมาก พอดีโทรศัพท์ดังขึ้นมา เหมือนระฆังช่วย ก็เลยทำมือห้ามกุ้งว่าอย่าเพิ่งวอแว แล้วออกไปคุยโทรศัพท์ ทิ้งให้กุ้งจัดการเสื้อผ้าของตัวเองไป

   โทรศัพท์ที่ดังขึ้นมานั้น เป็นสายของบริษัท บริหารทรัพย์สิน เพื่อการลงทุน หรือ กองทรัสต์ โทรมาแจ้งเตือนว่า ผมสามารถเข้าไปตรวจสอบรายงานผลการลงทุนไตรมาสแรก ได้ในเวบไซด์

   ทำให้ผมต้องไปเปิดคอม เพื่อตรวจสอบเงินลงทุนของผม ซึ่งส่วนใหญ่เขาเอาเงินผมไปลงทุนต่างประเทศ และพบว่ามันมีผลกำไรเพิ่มขึ้นเป็นที่น่าพอใจ ทำให้ผมยิ้มอารมณ์ดี เลยตรวจสอบไปยังอีก 3 บริษัทที่เหลือ และทุกบริษัทก็ทำกำไรให้ผมทั้งนั้น จะมากจะน้อยยังไง มันก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่าฝากธนาคารเพื่อกินดอกอยู่มาก

   ในตอนนั้น กุ้ง จัดการเอาเสื้อผ้าตัวเองเข้าเครื่องซักผ้าไปแล้ว แล้วออกมาหาผม เธอมาโอบกอดคอผมจากด้านหลัง ขณะที่ผมกำลังนั่งดูผลรายงานการลงทุนอยู่หน้าคอม แล้วเธอก็หอมแก้มผมแล้วยิ้มพูดว่า

   "พี่นัน เมื่อคืนบอกว่า จะให้กุ้งย้ายมาอยู่ที่นี่ จะให้มาวันไหนหละ"

   "ก็แล้วแต่กุ้งนะ วันไหนก็ได้ พร้อมเมื่อไหร่ก็ย้ายมาได้แลย"

   ผมบอกอย่างอารมณ์ดี และหอมแก้มคืน กุ้งเผยยิ้มอย่างดีใจสุดๆ รีบพูดว่า

   "ถ้าอย่างนั้น วันนี้เลยนะ พี่นันไปช่วยกุ้งขนของนะ"

   ผมก็พยักหน้า แล้วก็ต้องพากันตกใจ เมื่อเสียง เพล้งดังขึ้น ผมกับกุ้งพากันหันไปมอง ก็เห็นวิภาวี ที่เก็บแก้วกาแฟเดินผ่านมาจะเอาไปล้าง ทำหลุดมือตกแตก เธอรีบพูดขอโทษ และรีบหาที่ทำความสะอาดมาเก็บกวาด ดูไปวันนี้ใจคอเธอไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่ ทำอะไรก็ดูเงอะงะไปหมด

   ตอนนั้นผมก็นึกสงสารวิภาวีอยู่เหมือนกัน เธอคงจะอึดอัดใจน่าดู แต่นั่นก็ทำให้ผมรู้ว่า เธอเริ่มที่จะรักผมมากแค่ไหน นี่ก็คงตกใจจนทำแก้วกาแฟหล่น ที่รู้ว่ากุ้งจะมาอยู่ที่นี่

   วิภาวี ตกใจจริงๆ และเธอเริ่มคิดไม่ออกว่า อนาคตเธอจะยืนอยู่ตรงไหน หากกุ้งเข้ามาอยู่ เพราะเธอก็รู้สึกอึดอัด จนไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไง และควรจะอยู่ตรงไหนในคอนโดนี้ คิดถึงตอนที่อยู่กันสองคน เธอสามารถทำอะไรยังไงก็ได้ ไม่ว่าจะนั่งรวมโซฟาเดียวกัน กินของวางและดูหนังไปด้วยกัน หรือจะเป็นตอนที่เขาเล่นคอม เธอก็ยังนั่งอ่านหนังสือใกล้ๆ รอให้เขาเรียกว่าจะเอาอะไร หรือตอนที่เขาลงเล่นน้ำในสระ เธอก็ยังไปนั่งคุยด้วยอยู่ริมขอบสระได้

   แต่ตอนนี้ ทุกอย่างมันดูอึมครึมไปหมดสำหรับเธอ และเหมือนเธอเป็นส่วนเกิน ที่จะยืนอยู่ในห้องเดียวกันก็ยังยาก และสาเหตุมันมาจากการที่เธอตัดใจไม่ได้นั่นเอง

   ขณะที่เธอนั่งเหม่อคิดล่องลอย หลบหน้านั่งคนเดียวอยู่ในครัว ก็ต้องสะดุ้งเมื่อถูกผมเรียก และบอกเธอว่า จะเอารถเธอไปขนของที่ห้องกุ้ง แล้วจะให้เธอไปด้วย วิภาวีก็ทำใจ ไปอย่างไม่มีปัญหาอะไร

   แต่กุ้งไม่ได้แค่ไปขนของที่ห้องเธอเท่านั้น ยังพาผมแวะห้าง และอ้อนให้ผมซื้อของให้เธอเต็มไปหมด ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า และรองเท้า ทุกอย่างล้วนเป็นของแบรนด์เนมราคาแพง รวมแล้วเป็นเงินเกือบสามสี่แสน

   เงินจำนวนนี้มันอาจจะเยอะสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับผมมันจิ๊บจ๊อยมาก และมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่ผมจะควักจ่าย ให้กับคู่ขาที่เย็ดได้สะเด่าถูกใจ

   แล้วค่ำคืนนั้นหลังจากวิภาวีกลับไปแล้ว กุ้งก็ตอบแทนผมอย่างถึงพริกถึงขิง โดยเราบรรเลงเพลงรักกันตรงเตียงอาบแดดข้างสระน้ำ ในยามค่ำคืนที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาว บรรยากาศเอ้าท์ดอร์แบบนี้ช่วยเพิ่มอรรถรสได้ยิ่งขึ้นไปอีก

   กุ้งดูดควยผมจนแตกคาปากไปก่อนหนึ่งรอบ แล้วผมก็จับเธอเลียหีจนเสร็จน้ำหีแตกตามมา จากนั้นก็เริ่มสอดเสียบ จับเธอเย็ดท่าหมา กระเด้าเย็ดใส่หนักๆ จนเธอตัวโยกนมกระเพื่อม

   ตับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

   "อ๊อยยยยยย พี่นันขา อู๊ยยยยยยยย ควยพี่นันทำกุ้งเสียวไปหมดแล้ว เสียวจนน้ำหีจะแตกอีกแล้ว อ๊อยยยยย ซีดดดดส์ "

   ตับๆๆๆๆๆๆๆๆ

   "อ้าหหหหห์ ซีดดดดส์ ร้องดังๆ อีร่าน ซีดดดส์ ปล่อยน้ำหีแตกมาเลย อ้าหหหหห์"

   ผมครางคำรามกัดฟันกระเด้าเอว สองมือจับแก้มก้นอีกุ้งที่แอ่นโก้งโค้ง แหวกดูรูหีมัน ที่โดนควยผมกระเด้าเย็ดกระหน้ำ น้ำหีของมันค่อยๆแตก ปี๊ดๆ ออกมา ตามควยผมที่กระเด้าเข้าออก บ่งบอกถึงมันกำลังถึงจุดสุดยอด ผมจึงเร่งซอยเร็วขึ้นไปอีก

   ตับๆๆๆๆๆๆๆๆ

   "อ๊ายยยยยยยยยยยย พี่นัน อู๊ยยยยย กุ้งจะเสร็จแล้วว อู๊ยยยยย  กุ้งจะเสร็จแล้ว อ๊ายยยยยยยยยยยย กุ้งเสร็จแล้ว...น้ำหีแตกแล้ว พี่นัน อู๊ยยยยยยยยย ซีดดดดดส์ โอ๊ยยยยยยยยย ซีดดดดดส์ โอ๊ยยยยยยยยยย"

   กุ้งร้องเสียงดัง ปล่อยอารมณ์เต็มที เบ่งน้ำหีจนพุ่งฉีดอัดควยผมที่เย็ดอยู่ ผมเลยชักควยออก ให้เธอปล่อยเบ่งน้ำหีออกมาได้อย่างไม่ถูกอัดอั้น แล้วก็เอาควยไปให้เธออม เธอตัวสั่นงันงกจากอาการเสียวเสร็จถึงจุดสุดยอดที่หี และอมโมกควยให้ผมจนเสร็จคาปาก แล้วผมก็ให้เธออ้าปาก เอาลิ้นเล่นน้ำควยในปากให้ดู แล้วให้บ้วนรดควยผม พร้อมกับให้เธอเลียกินให้หมด

   กุ้งเลียกินน้ำควยผม มองผมด้วยสายตายิ้มหยาดเยิ้ม ดูเธอมีความสุขที่ได้รับในวันนี้ ทั้งจากเงินทองข้าวของที่ได้รับการปนเปรอ และเซ็กส์ที่ถึงใจที่ทำเอาเธอถึงจุดสุดยอดหลายครั้ง มันเลยทำให้เธอคิดว่า เธอโชคดีเหลือเกิน ที่ได้ ผัวรวย ใจปล้ำ และเย็ดเก่งมาครอง และไม่ว่าจะอย่างไรเธอจะไม่มีวันปล่อยให้หลุดมือไปได้เป็นอันขาด


lnw007

โคตรฮาเกือบตายละพระเอก555 สุดยอดมากขอบคุณครับ

nankung

งานนี้ท่าวิจะอยู่ยากแล้ว ถ้าไม่ตบตีแย่งมาก ก็ต้องถอยออกถึงขั้นขอยกเลิกสัญญาแน่ๆ

chapter11

สุดจัดเลยครับพี่นันของเรา แอบเสียใจแทนวิภาวี  ::Crying::

xxxboyz


Heavent01

พระเอกเกือบเป็นโรคซึมเศร้าโดยไม่มีสาเหตุซะแล้ว  555

kupong

รอเคลียนางเอกคนแรกสวยๆแล้วไปเปิดตัวคนใหม่แบบเด็ดๆด้วย

Pigdavil

#7
ไอ้นัน ทาสควย ยอมควย ขอแค่มีหีให้เย็ด ยอมจ่ายตังค์ขนาดนี้ รอดูจะโดนรอกคราบหมดตัวไหม กับอีกุ้ง ผู้หญิงหิวเงิน แต่ก็น่ะเงินมัน 555555

surinzata


bigbuff

ให้ผมเด้า เอ้ยเดานะ น้องกุ้งนี่ผมว่าแค่ชั่วคราวเพราะมันเร็วและหวือหวาเกินไปอาจเบื่อง่ายๆ แต่วิภาวีคงจะเป็นหนึ่งในอีกหลายคนของบรรดานางเอก เพราะยอมขนาดนี้แล้ว  รีบมาต่อเลยครับ

ponchan80

นึกว่าจบแบบหักมุมตายเพราะโรคซึมเศร้าสะแล้ว

kobjuk

น้อง วิภาวี จะทำยังไง ต่อไปครับ ขอติดตามก่อนนะครับ

Narakja Naka

 ::Hmmm::สาดเอ้ยใหนบอกว่าจะโสดไง รีบมีเมียทำใมว้า .. ที่นี้ล่ะปัญหาหึงหวงจะตามมึงมาอีกเพียบ. คนดีๆข้างกายมึงมองข้ามทำใม มึงก็บอกให้มันไปเลิกกะผัวซิ. เฮ้อ.  5555. 

themars9


peddo

ชอบมุขซึมเศร้าครับ ผมว่าสุดท้ายวันนึงแกก็คงมีความรู้สึกเศร้าจริงๆ จนต้องหยุดกะเดี๋ยว จะเพราะเงินหมดหรือไม่มีคนรักจริง สงสารน้องวินะครับ ทั้งเสียใจทั้งรู้สึกผิด อีตานันนี่มันร้ายจริง จะคอยตามสมน้ำหน้าครับ
ขอบคุณ​ครับ​