ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

โชคชะตา กามารมณ์ 2019 ตอนที่ 10

เริ่มโดย pekopon66, มกราคม 01, 2020, 06:37:09 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้


ohshady sweety


Nada


เดช12341


sampa1245


aspiregtx


pootoo7777

หมอนวดชาย ได้ล่อสาวหลายคน เพราะการนวด มั่บยั่วอารมรณสาวดีที่สุด


[email protected]

อ้างจาก: pekopon66 เมื่อ มกราคม 01, 2020, 06:37:09 หลังเที่ยงวางจำหน่ายแล้ว! โชคชะตา กามารมณ์ เล่มที่ 2 ราคาเพียง 69 บาท มีให้อ่านจุใจถึง 10 ตอน 160 หน้า เรื่องราวของดรีมกำลังถลำลึกสู่กลเกมแห่งตัณหาที่เอกเป็นคนมอบให้ รสรักที่รุนแรงและแปลกใหม่กำลังรอสาวน้อยอยู่

http://www.tunwalai.com/ebook/detail?ebookId=6308

ส่วนตอนที่ 10 นี้อยู่ในเล่ม 1 ถ้าใครยังไม่ได้อ่าน สามารถเข้าไปอุดหนุนกันได้ที่

http://www.tunwalai.com/ebook/detail?ebookId=5640
 


แก้วจ้องมองสายตาของเอกตรงที่นั่งข้างคนขับ มือของเธอจากที่ลูบต้นขาเริ่มไล่เรียงลูบขึ้นไปถึงหว่างขา ก่อนที่เธอจะสัมผัสกล่องดวงใจ เอกก็คว้ามือของเธอเอาไว้ก่อน สายตาของเด็กหนุ่มเปลี่ยนไป เขาไม่ใช่คนห่ามอะไรขนาดนั้น

"ไหนบอกว่าใจกล้าไง?" แก้มเบิกตายียวน
"อันที่จริง...เราก็เพิ่งรู้จักกันไม่ถึงวันเองนะ"
"แล้วยังไง?"
"แก้วเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้จัก ไม่สนิทกันด้วย แก้วอาจจะเป็นโร..."

เอกเงียบไม่กล้าพูดต่อ เพราะเพิ่งคิดได้ว่าตนกำลังจะพูดสิ่งที่รุนแรงออกไป ถึงแม้เขาจะแอบคิดแบบนั้นจริงๆก็ตาม เอกไม่เคยเจอผู้หญิงแรงแบบแก้วมาก่อน ถึงแป้ง เพื่อนสาวหุ่นนางแบบจะชอบรุก แต่ก็ไม่ขนาดนี้

"พอเลย รู้นะจะพูดอะไร เก่งมากนะเอกที่ทำให้แก้วหงุดหงิดได้ขนาดนี้" แก้วขมวดคิ้ว
"ร...เราขอโทษ"
"ว่าแต่บ้านเอกอยู่แถวไหน เดี๋ยวแก้วไปส่ง"
"เอ่อ..."

เอกบอกซอยหอพักของตนไป ระหว่างทางแก้วไม่พูดอะไรเลย นอกจากขับรถเธอก็เอาน้ำหอมมาฉีดในรถเท่านั้น เอกนิ่งเงียบรู้สึกผิดแต่ก็ไม่รู้ว่าจะขอโทษยังไงให้อีกฝ่ายไม่คิดมาก เย็นวันนี้รถโล่งไม่ค่อยติดเพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุดราชการ รถจึงออกต่างจังหวัดกันหมด ไม่นานรถก็มาถึงหน้าปากซอยหอพัก

"ด..เดี๋ยวจอดตรงนี้ล่ะ"
"ทำไม? กลัวแฟนเห็นรึไงกัน?"
"อ..อื้อ ประมาณนั้นล่ะ ยังไงก็ขอบคุณมากนะสำหรับวันนี้ เอ่อ...เราขอโทษด้วยจริงๆที่พูดแบบนั้น.."
"จะลงจากรถได้รึยัง ตำรวจจะจับแล้วเนี่ย"

เอกรีบลงจากรถ ส่วนแก้วก็เหยียบคันเร่งออกตัวไปทันที เธอทั้งโกรธ ทั้งหงุดหงิด ในชีวิตนี้เธอไม่เคยถูกใครเหยียดหยามขนาดนี้มาก่อน แก้วหวังว่ากับดักที่เธอวางไว้จะทำให้เอกเจ็บบ้าง

หลังจากที่ลงจากรถมา เอกก็รีบขึ้นมอเตอร์ไซค์กลับหอทันที เพราะเวลาล่วงเลยไปมากแล้ว เขากลัวว่าดรีมจะคิดมากและเข้าใจผิดอีก แผลเมื่อวานยังไม่ค่อยหายดีเลย

"วันนี้แฟนน้องอยู่ที่หอเหรอ?" จู่ๆคนขับวินมอเตอร์ไซค์ก็ทักขึ้นมา
"ค..ครับ" เอกไม่แปลกใจที่ทุกๆคนจะรู้จักดรีม เพราะเธอสวยจนเป็นที่จับตามองของชายทุกคน
"อ่อ ว่าละ พี่เห็นน้องเดินลงมากับเพื่อนผู้ชายสองคน ตอนแรกก็นึกว่าตาฝาด แต่งตัวซะ..."

ประโยคหลังวินพูดเสียงเบา เขาแค่บ่นพึมพำพลางนึกถึงสาวน้อยทรงโตที่ใส่เสื้อยืดสีขาวแต่ไม่ใส่บราจนเขาแอบเห็นจุก นายสี คือชื่อของวินมอเตอร์ไซค์คนนี้ เขาคือชายที่เคยเข้ามาหยอกล้อดรีม และหวังว่าสักวันจะถูกหวยได้เธอมาเชยชม

"อ่อครับ"

เอกไม่อยากพูดด้วยเยอะ เขาวางใจให้เป็นกลาง เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพราะอันที่จริงดรีมแทบไม่มีเพื่อนชายที่มหาลัยเลย จะมีพร้อมกันสองคนคงเป็นไปได้ยาก จึงทำให้เอกไม่ค่อยเชื่อคำพูดของวินมอเตอร์ไซค์ แต่เอกคงจะถามดรีมอีกทีเพื่อความมั่นใจ

พอขึ้นมาถึงชั้นสี่ เอกก็เหลือบไปเห็นห้องตรงข้ามที่เฉียงออกไปนิดหน่อย เป็นชายหนุ่มใต้สองคนนั่งกินเหล้าสายตาจับจ้องมองมาที่เขา เอกไม่เข้าใจความหมายของสายตานั่น เขาไม่กล้าสบตานานกลัวจะมีเรื่องกัน เอกจึงเคาะประตูเรียกดรีมก่อนจะรีบเข้าห้องไป

"นั่นเหรอวะ แฟนน้องดรีม" เจหัวเราะหึนึงในลำคอดูถูกเอก
"หน้าตาพอได้ แต่อย่างอื่นไม่น่าไหว" หมัดเสริมคำพูดเพื่อน
"หมัด กูว่าพรุ่งนี้พวกเราไปมหาลัยกันดีกว่า" เจทำท่าคิดแน่วแน่
"พ่อแม่ได้ยินคงดีใจน้ำตาไหล แต่ว่าจะไปทำไมวะ?"
"พวกเราต้องหาทางเข้าหาน้องดรีมให้ได้ไง หรือมึงไม่อยากเข้า?"
"อยากสิวะ อยากเข้ามิดด้ามเลยไอ้ห่า" หมัดกระดกเหล้าในมือให้หายช้ำใจ
"ดังนั้นพวกเราจะไปแอบสืบเรื่องราวของน้องดรีมกัน" เจทำหน้ามุ่งมั่นยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด
"ความตั้งใจของมึงกูขอนับถือ.... แต่ไอ้ห่า! พรุ่งนี้มหาลัยปิด น้องดรีมเขาคงไม่ไปมหาลัยหรอกโว้ย!" แผนการณ์ของทั้งสองก็เอวังจบแต่เพียงเท่านี้

เมื่อเปิดประตูเข้าห้องมา เอกก็เห็นดรีมกำลังกวาดพื้นอยู่ เด็กหนุ่มเห็นแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้ ความเก่งและความเป็นแม่บ้านของดรีมเป็นอีกหนึ่งสเน่ห์ที่เอกประทับใจ เขาเดินไปโอบกอดแฟนสาวจากทางด้านหลังแล้วหอมแก้มฟอดโต

"คนอะไรทั้งสวยทั้งเก่ง"
"มาถึงก็ปากหวานเลย หิวรึยัง? เมื่อกี้ดรีมไปซื้อข้าวผัดคะน้ามาให้ ถ้าหิวก็รีบอาบน้ำจะได้มากิน"
"ขอกินคนแถวนี้ก่อนได้ปะละ" มือของเอกเลื่อนขึ้นจากเอวมาที่อก
"กวาดพื้นอยู่เดี๋ยวตีเลย!" 

ถึงบอกจะตีแต่ดรีมก็ตีมือเอกแค่เบาๆ ชายหนุ่มยิ้มก่อนจะหอมแก้มอีกที เอกปล่อยกอดแล้วหันมาถอดเสื้อผ้าตัวเองแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป พอลับสายตาดรีมก็รีบวางไม้กวาดแล้วรีบหยิบเสื้อของเอกขึ้นมาดมทันที เมื่อกี้ตอนที่แฟนหนุ่มกอด เธอได้กลิ่นน้ำหอมที่ไม่คุ้นเคย และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

ดรีมคิ้วขมวดพยายามคิด ทำไมบนเสื้อเอกถึงมีกลิ่น้ำหอมสไตล์ผู้หญิงได้ เพราะถูกเพื่อนแกล้งอีกแล้วงั้นเหรอ ดรีมหันไปมองที่ห้องน้ำด้วยความรู้สึกแน่นอย่างบอกไม่ถูก สาวน้อยได้แต่ภาวนาว่าให้เธอคิดมากไปเอง ผ่านไปสักสิบนาทีเอกก็ออกมา

"เตง วันนี้เตงไปไหนมารึเปล่า?" เอกนึกขึ้นได้ตอนอาบน้ำ พอออกมาก็ถามทันที
"ไม่นะ อยู่แต่ห้อง เค้ารู้สึกเหนื่อยๆน่ะ"
"แล้วมีใครมาเยี่ยมมะ?"
"หึ ไม่มีหรอก เค้าไม่ได้บอกใครว่าจะหยุด"
"อ่อ... ว่าแต่พรุ่งนี้ไปเดินตลาดแถวมีนกันมั้ย?"
"ไปทำไมอ่า ไกลไม่ใช่เหรอ?"
"ก็อยากเที่ยวที่ใหม่ๆบ้าง หยุดทั้งที อีกอย่างน่สจะมีพวกรองเท้าฟุตบอลถูกๆ ของเก่ามันเปิดหมดละ"

ดรีมฉุกคิดขึ้นมาได้ หากเธอขัดใจเอกอยู่แบบนี้มีหวังเขาคงจะมีคนใหม่แน่ๆ ถึงเธอจะร้องไห้และประชดใส่เอก แต่ที่ทำไปก็เพราะรัก ต้องการเรียกร้องความสนใจ ไม่ได้มีเจตนาให้เขาทิ้งไปแต่อย่างใด

"ป..ไปก็ได้ แต่เตงก็รู้ว่าพวกเราไม่ค่อยมีตัง ประหยัดหน่อยก็ดีนะ ไม่อยากกวนพ่อแม่เท่าไหร่"
"อื้อ แน่นอน เค้าสัญญาว่าจะซื้อแต่ของจำเป็น"

ชายหนุ่มยิ้มดีใจก่อนจะเดินไปแต่งตัว ส่วนดรีมก็ทำท่าจะกวาดพื้นต่อแต่ก็มีเสียงโทรศัพท์เข้ามาขัดจังหวะอีก สาวน้อยถอยหายใจก่อนจะเดินมาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู บนหน้าจอแสดงคำว่า พ่อ ออกมา ดรีมรีบรับทันที ปกติพ่อจะไม่โทรมาถ้าไม่มีธุระสำคัญดรีมจะเป็นฝ่ายโทรไปหามากกว่า ครั้งสุดท้ายที่พ่อโทรมาคือตอนที่แม่ของดรีมล้ม

"ฮัลโหลพ่อ"
"นอนรึยังล่ะลูก"
"ยังค่ะ อีกพักใหญ่เลย ตอนนี้กำลังกวาดห้องอยู่ ว่าแต่พ่อมีอะไรรึเปล่า" ดรีมพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
"อ่อ เปล่าหรอก พอดีอาทิตย์หน้าลุงเรืองเขาจะเข้ากรุงเทพ เลยจะแวะเจอลูกกับตาเอกซะหน่อย"

ลุงเรือง เป็นนายทหารที่มีบุญคุณกับทั้งพ่อของดรีมและพ่อของเอกในเรื่องของการเงิน ดรีมกับเอกรู้จักลุงเรืองตั้งแต่เด็ก หลายครั้งที่แกพาดรีมกับครอบครัวไปเที่ยว แกเป็นคนพูดจาโผงผางหนักแน่นตามสไตล์ผู้ปกปักษ์รักษาดินแดน ตัวของแกสูงใหญ่ ผิวแดงคล้ำ หน้าตาดุดัน ดรีมไม่ได้เจอลุงเรืองหลายปีแล้ว เธอเองอดคิดถึงชายผู้เป็นเหมือนญาติคนสำคัญไม่ได้

"อ่อ ได้สิคะ ดีเลย"
"งั้นลูกเอาเบอร์แกไปนะ เผื่อติดต่อคุยกัน"

หลังจากแลกเปลี่ยนข้อมูล พ่อของดรีมก็วางสายไป สาวน้อยหันไปเล่าเรื่องให้แฟนหนุ่มฟังทั้งหมด เอกก็เห็นดีเห็นงามด้วย เพราะลุงเรืองก็มีบุญคุณต่อบ้านเอกเช่นกัน หลายครั้งที่มีปัญหากับเจ้าหนี้นอกระบบ ก็ได้ลุงเรืองนี่ล่ะที่ช่วยแก้ปัญหาให้ ทีแรกเอกนึกว่าแกจะผันตัวเป็นนักการเมืองท้องถิ่น แต่จนถึงบัดนี้ ลุงเรืองก็ยังคงสวมชุดลายพรางอยู่

เช้าวันต่อมา เอกลืมตาตื่นขึ้นมาก็เห็นดรีมกำลังยืนรื้อตู้เสื้อผ้าอยู่อย่างจริงจังในสภาพเซ็กซี่สวมแต่ชุดชั้นในสีชมพู ขลับสีผิวให้ยิ่งขาวขึ้น เอกสังเกตุจากสีหน้าแล้วอีกฝ่ายน่าจะกำลังหงุดหงิดอยู่

"เตง หาอะไรอยู่เหรอ"
"เค้ากำลังหาเสื้อใส่ไปเที่ยวอยู่ไง"
"ใส่อะไรก็สวยน่า ไม่ต้องคิดมากนะ" เอกลุกขึ้นไปหอมศีรษะจากด้านหลัง
"แต่เสื้อซับในเค้าไม่แห้ง จะหาเสื้อสีเข้มๆใส่ แต่ที่มีก็ไม่ถูกใจ" ดรีมยังคงกลัวโป๊อยู่ แต่เอกกลับคิดอะไรขึ้นมาได้
"งั้นตัวนี้เป็นไง" เอกหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนกุดออกมา
"มันบางนะเตง" ดรีมหันมามองแฟนหนุ่ม สายตาของเขาบ่งบอกถึงความต้องการภายในใจ
"หน่านะ ลองใส่ให้เค้าดูหน่อย"

ดรีมไม่อยากขัดใจแฟนอยู่แล้ว เธอหยิบจากมือเอกมาสวมใส่แล้วมันก็เป็นอย่างที่ดรีมพูดจริงๆ เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวนี้บางจนเห็นรอยเสื้อในสีชมพูจางๆ เอกกลืนน้ำลายอึกใหญ่หัวใจเริ่มเต้นเร็วขึ้น สาวน้อยมองตาคู่รักก็รู้ว่าเขาต้องการอะไร เธอไม่พูดอะไรต่อได้แต่หยิบกางเกงผ้ายืดสีดำยาวมาใส่

"สวยมั้ย?" ดรีมถามความเห็นอีกรอบ
"อ..อื้อ สุดยอดเลย"

 เอกมองนางฟ้าตัวน้อยอย่างพินิจพิจารณา ปกติดรีมจะแต่งตัวเรียบร้อยมีซับคลุม นี่เป็นหนึ่งในน้อยครั้งที่เอกจะเห็นเธอในลุคนี้ หลังจากเอกทำธุระส่วนตัวเสร็จ ทั้งสองก็ออกเดินทาง

ระหว่างทางชายหนุ่มรอบทิศต่างจับจ้องมาที่ดรีม สายตาของพวกเขาเอียงต่ำมองอกคู่โตที่ดันเสื้อออกมาแถมยังเห็นรูปร่างของบราสีชมพูเด่นชัด เอกรู้สึกตื่นเต้น หึงหวงและดีใจในเวลาเดียวกัน เขาเริ่มจะเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้ชายหลายคนถึงจับแฟนตัวเองแต่งตัวเซ็กซี่

แต่ดรีมกลับอายนิดๆ เธอไม่ชินกับการเดินออกมาในที่ชุมชนโดยไม่มีซับในปกป้อง ถึงเธอจะเคยโนบราออกมาทิ้งขยะบ้าง แต่นั่นก็แค่ระยะสั้นและไม่ได้ตั้งใจให้ใครเห็น ตอนที่ขึ้นรถตู้ คนขับก็มองกระจกหลังทุกสามนาที สายตาของเขาเพ่งไปยังจุดหนึ่งอย่างชัดเจน ทำเอาสาวน้อยนั่งหน้าแดงตลอดทาง

รถตู้สุดสายก็ถึงตลาดที่เอกอยากมาพอดี วันนี้เนื่องจากเป็นวันหยุดพิเศษ หลายคนจึงออกต่างจังหวัดกัน ลูกค้าไม่มีพ่อค้าแม่ค้าเองก็น้อยตามไปด้วย คู่รักหนุ่มสาวจึงมีของให้เลือกน้อย รองเท้าที่เอกต้องการก็หาแทบไม่เจอ ดูท่าจะคว้าน้ำเหลว ทั้งสองเดินไปตามบู๊ทที่ปิดตะแกรงเหล็กสนิทเป็นแนวยาว หวังจะเจอร้านที่หลบซ่อนสายตาคนอยู่

"หนูนวดมั้ยหนู นวดแผนไทยราคาไม่แพงนะ"

จู่ๆก็มีชายคนหนึ่งพูดขึ้นมา เขาเป็นชายมีอายุผมบางขาวสีดอกเลา หน้ามีริ้วรอยผิวคล้ำนั่งสูบบุหรี่อยู่หน้าร้านนึงที่เปิดโดดเดี่ยวไร้ผู้คนเดินผ่าน สายตาของเขาเล็งไปที่ดรีมเสียมากกว่าเอก หมอนวดผู้นี้คงอยากจะสัมผัสผิวนุ่มนวลขาวผ่องของดรีมเป็นแน่แท้ ทั้งสองยิ้มปฏิเสธก่อนจะเดินผ่านไป

"ลุงเขาแปลกเนอะ เปิดแบบนี้จะมีลูกค้ามั้ยเนี่ย" ดรีมบ่นชวนคุยไปเรื่อย
"เตงก็ไปอุดหนุนเขาสิ" จู่ๆเอกก็หยุดเดินแล้วหันมามอง
"ไม่เอาหรอก จั้กกะจี๋ตาย อีกอย่างเตงไม่ยอมหรอกจริงมั้ย?"
"ย...ยอมสิ" เอกตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
"ห้ะ!" สาวดรีมอึ้งกับคำตอบ
"เอาตรงๆนะ ตั้งแต่เมื่อวานซืน เค้านอนฝันถึงเตงกับ....ในโทรศัพท์มือถือทุกคืนเลย เวลาที่นั่งเรียนก็แอบคิด อยู่กับเพื่อนก็คิด เค้าอาจจะ...อยากเห็นแบบนั้นอีกก็ได้ เค้านี่มันโรคจิตเนอะ"
"อืม" ดรีมไม่รู้จะตอบว่าอะไร มันจุกในอก เธอไม่คิดว่าหนุ่มที่รักจะกลับมาชอบเรื่องนี้
"ถ...ถ้าเค้าจะขอให้เตงไปนวด...แค่นวดเฉยๆก็ได้"
"แล้วถ้าเค้าบอกว่าไม่ล่ะ" ดรีมคิ้วขมวด
"ก..ก็ไม่เป็นไร เค้าเข้าใจ"

เอกคอตกดูน่าสงสาร เขารวบรวมความกล้าที่มีทั้งหมดพูดความในใจออกมาแล้ว ดรีมสับสน ในใจเธอคิดถึงเรื่องของอาเป็ด อาจารย์ณัฐวุฒิและหนุ่มใต้สองคนปนกัน เธอเองก็เคยผ่านการสัมผัสที่เกินเลยมาแล้วตั้งหลายคน โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่คราวนี้แฟนหนุ่มกลับเป็นฝ่ายเรียกร้องเอง

"เตงแน่ใจเหรอว่าอยากเห็นจริงๆ" เสียงดรีมอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
"อ..อื้อ อยากสิ"
"แล้วเตงจะไม่มารังเกียจเค้าทีหลังใช่มั้ย?"
"แน่นอน เค้าสัญญา"

ดรีมใจอ่อนทำตามที่แฟนหนุ่มต้องการ เอกจะไปหาที่หลบมุมโดยจะกดวีดีโอคอลเปิดไว้ แล้วส่งดรีมไปนวดคนเดียวเหมือนกับนกต่อ ถ้าหากเอกทนไม่ไหวก็จะกดวางแล้วโทรเข้าอีกรอบเพื่อส่งสัญญาณ เมื่อตกลงตามแผนแล้วก็เริ่มปฏิบัติการ ดรีมหนีบโทรศัพท์มือถือไว้ตรงกระเป๋าให้ส่วนกล้องโผล่พ้นออกมาเล็กน้อย ส่วนเอกก็แอบไปนั่งดูอยู่ในห้องน้ำที่ไม่ไกลจากนี้

ดรีมเดินกลับมาที่ร้านนวดคนเดียว

"อ้าวหนู...สนใจนวดเหรอจ้ะ" ชายวัยหกสิบเสียงหวานขึ้นมาทันที
"ค่ะ...พอดีเมื่อยขากับเมื่อยหลังนิดหน่อย"
"มาเดี๋ยวพี่นวดให้ ว่าแต่แฟนเราไปไหนแล้วละ" อายุอานามไม่น่าเรียกแทนตัวเองว่าพี่
"เขามีธุระนิดหน่อยน่ะค่ะ หนูเลยว่าจะนวดรอเขานี่ล่ะ"
"ดีๆ ขึ้นมานอนมา"

บู๊ทที่ชายคนนี้เช่าถูกปูด้วยฟูกยกสูงกลายเป็นเตียงขนาดใหญ่พอสมควร ดรีมถอดรองเท้าวางกระเป๋าไว้ตรงมุมนึงของเตียงเพื่อให้เอกมองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน ก่อนที่เธอจะนอนคว่ำลงไป หมอนวดวัยหกสิบยิ้มเยาะออกหน้าออกตา นานมากแล้วที่ไม่มีผู้หญิงขาวสวยแถมทรงสะบึมอย่างงี้มาให้สัมผัส

"ด..ดรีม"

เอกที่นั่งตัวเกร็งอยู่ในห้องน้ำถึงกับกลั้นหายใจดู หลังจากเห็นสีหน้าหื่นกามของหมอนวดแล้วเขาก็ใจสั่นระรัว ชายแปลกหน้าค่อยๆเยื้องกายขึ้นมานั่งด้านข้างตัวหญิงสาว เขาค่อยๆเริ่มนวดจากตรงน่องขา ถึงอายุจะมากแล้วแต่แรงของแกก็ยังดีอยู่

"ขาหนูตึงมากเลยนะลูก ไม่ค่อยได้นวดล่ะสิ" หมอนวดออกแรงบีบพลางวิเคราะห์
"ค..ค่ะ"
"รู้มั้ยขาของเราต้องแบกรับน้ำหนักเกือบทั้งตัว หนูเป็นคนขาเล็ก มันก็เลยต้องทำงานหนักเข้าไปใหญ่"
"อ...อ๋อค่ะ"

มือของหมอนวดก็บีบนวดอย่างจริงจัง น้ำหนักมือกำลังดีทำเอาสาวน้อยที่นอนอยู่รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาทันที เสียตรงที่สายตาแกดันจับจ้องอยู่บั้นท้ายทรงกลมนวลที่ถูกรัดด้วยกางเกงผ้ายืดจนเห็นรอยกางเกงในอย่างชัดเจน ดรีมนอนเพลิดเพลินไม่รู้ตัว มีเพียงเอกเท่านั้นที่นั่งเป้าตุงมองเห็นทุกอย่าง

หลังจากนวดน่องอยู่พักใหญ่ หมอนวดสูงวัยก็ค่อยๆเลื่อนขึ้นมาเหนือหัวเข่า ดรีมนอนเกร็งเมื่อรู้ว่ามือของอีกฝ่ายใกล้จุดสำคัญขึ้นมาอีกนิด แต่หมอนวดก็ยังทำหน้าที่ตามปกติ เวลาแกออกแรงกดมือ ความเจ็บแล่นไปทั่วขาก่อนจะตามมาด้วยความสบาย ดรีมชักจะชอบ

"ถามตรงๆนะ เราไปทำอะไรแรงๆมารึเปล่า กล้ามเนื้อช่วงนี้แข็งไปหมดเลย"