ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

แฟนผมเป็นคนดี วาเลนไทน์ ตอนที่ 1

เริ่มโดย pekopon66, กุมภาพันธ์ 15, 2020, 07:55:06 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

pekopon66

วางจำหน่ายแล้ว! แฟนผมเป็นคนดี เล่มที่ 3 ราคาเพียง 69 บาท มีให้อ่านจุใจถึง 10 ตอน รวมถึงตอนพิเศษเข้ากับฤดูกาลวาเลนไทน์ เรื่องราวของต้อม แฟนหนุ่มจอมซื่อ และ มิวสิค แฟนสาวสุดหวานซ่อนเปรี้ยวจะเป็นอย่างไร สามารถเข้าไปอุดหนุนกันได้ที่

http://www.tunwalai.com/ebook/detail?ebookId=6843


-------------------------------------------------------------------------------

นิยายตอนนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ แฟนผมเป็นคนดี เล่มที่ 3 เท่านั้น


วาเลนไทน์เป็นวันแห่งความรัก วันที่เราจะได้แสดงความรัก ความปราถนาดีให้แก่คนสำคัญ ซึ่งผมก็เตรียมตัวมาอย่างดี ทั้งดอกกุหลาบช่อโต เค้กก้อนใหญ่เพราะรู้ว่าสิคชอบทานของหวาน และสิคเองก็น่ารักที่ยอมเคลียร์งาน การเรียนและการซ้อมวงให้กับผม



"วันสำคัญก็ต้องอยู่กับคนสำคัญไม่ใช่เหรอ?"



คำตอบของสิคมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ทำให้ใจของผมละลายเป็นช็อคโกแลตโดนความร้อน สิคยังคงน่ารักไม่เปลี่ยนแปลงแม้จะรู้จักกันมานานหลายปี สมกับที่ผมมอบความรัก แรงใจคอยสนับสนุน 



นอกจากสิคจะเป็นคนดีต่อผมแล้ว เธอยังเป็นคนดีของสังคม ในอนาคตเหมาะที่จะเป็นไอดอลให้แก่เด็กๆทั้งหลาย เพราะเมื่อเดือนที่แล้วมีคนติดต่อเข้ามาทางวง SWG69 อยากทาบทามสิคไปแสดงโฆษณาทางสื่อออนไลน์เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ ซึ่งผมเองก็ไม่เคยรู้จักช่องนี้มาก่อน



"เขาบอกว่า อยากให้สิคไปเล่นคล้ายๆหนังสั้น เพื่อสะท้อนให้เห็นปัญหาในช่วงวันวาเลนไทน์"

"แล้วสิคคิดว่าไงอ่า"

"เค้าว่าจะรับนะ ไม่รู้ได้เงินเท่าไหร่ แต่เค้าแค่อยากทำ เผื่อจะช่วยสังคมของเราได้บ้าง ไม่มากก็น้อย"



ผมแทบไม่รู้รายละเอียดงานเลย แต่ถ้าสิคพูดมาแบบนี้ ผมก็พร้อมที่จะสนับสนุนอยู่แล้ว มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกภูมิใจที่ได้รักสิค โดยทีมงานนัดสิคไว้ที่มหาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่มหาลัยที่พวกเราเรียน ผมขออาสาไปด้วยสิคก็ไม่ได้ว่าอะไร พร้อมหันกลับมายิ้มหวานให้



"มีต้อมไปด้วยก็อุ่นใจ"



วันจริงผมกับสิคไปถึงตรงเวลา กองถ่ายเป็นกองเล็กๆ มีไม่ถึงห้าคน ทุกคนรุ่นราวคราวเดียวกับผมทั้งหมด สายตาของทีมงานต่างมองสิคไม่กะพริบ วันนี้เธอมาในชุดนักศึกษาตัวเล็ก กระโปรงอัดพีทยาวไม่ถึงเข่า เพียงแค่สิคยิ้มแล้วยกมือไหว้ ทุกคนก็ตกอยู่ในมนต์สะกดของความน่ารัก



"สวัสดีครับน้องมิวสิค พี่ชื่อคิงนะ"



ชายหนุ่มผิวพรรณดี ดูมีฐานะ หน้าตาหล่อเหลาเจ้าสำอางค์ อายุห่างจากผมไม่กี่ปี คิงแนะนำตัวให้กับพวกเราได้รู้จัก เขาเป็นทั้งเจ้าของช่อง และเจ้าของไอเดียงานในวันนี้ ซึ่งคิงเองก็เป็นคนเลือก สิคจากสาวๆในวง SWG69 ด้วยตัวเอง



"พี่เป็นแฟนคลับน้องมิวสิคตั้งแต่คลิปแรกๆเลยนะ"

"โห ดีใจจัง ยังไงก็ขอขอบคุณนะคะที่เลือกสิคมาทำงานนี้"

"พี่ต่างหากที่ต้องขอบคุณ ตอนแรกกลัวอ่านบทแล้วน้องสิคจะไม่รับ"

"สิคไม่ปิดโอกาสของตัวเองหรอกค่ะ โดยเฉพาะงานที่ทำเพื่อสังคม"



แฟนของผมสวยทั้งภายนอกและจิตใจ แต่ผมชักอยากจะรู้ว่าบทบาทที่สิคได้รับมันเป็นยังไง ทำไมถึงกลัวว่าจะปฏิเสธ พี่คิงพาพวกเราไปนั่งพักในห้องที่จัดเตรียมไว้ ขณะที่ทีมงานกำลังเช็คแสงกับเทสกล้องอยู่ สิคอ่านบทอีกรอบเตรียมตัวถ่าย ส่วนผมก็นั่งเล่นโทรศัพท์มือถือบนโซฟาตัวเดียวกันกับสิค



โซฟาขนาดใหญ่พอที่คนจะสามารถเอนนอนได้ ผมล่ะอยากมีไว้ที่บ้านสักตัว เอาไว้นอนดูหนัง เล่นเกมส์แล้วหลับคาโซฟาไปเลย พอพูดแล้วหันไปมองสิค ผมก็เผลอคิดเรื่องทะลึ่งใต้สะดือจนต้องรีบสลัดความคิดเหล่านี้ออกไป คนอยู่ตั้งเยอะแยะ จะมาทำอะไรประเจิดประเจ้อคงไม่ดี



"น้องมิวสิค นี่คือ ลุงมิตร ที่จะมาเล่นคู่กับสิคนะ"



ทีแรกผมก็นั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ดีๆ พอได้ยินคำว่าลุง ผมต้องรีบเงยหน้าขึ้นมาดูเลย เขาเป็นชายวัยเกือบหกสิบ ผมบาง สวมแว่น มีริ้วรอยตามวัย ผมหันไปมองหน้าสิคกับพี่คิงสลับกัน สิคดูไม่ตื่นเต้นอะไร แสดงว่าเธอรู้มาก่อนแล้ว



สิคยกมือไหว้ลุงมิตรอย่างมีมารยาท ผมก็รีบไหว้ตาม ลุงมิตรแกก็ยิ้มแย้มดูเป็นผู้ใหญ่ใจดี



"สิคพอจะมีเวลามั้ย พี่อยากให้สิคทำความรู้จักกับลุงมิตรสักครึ่งชั่วโมง ถือว่าละลายพฤติกรรมก่อนเข้าฉากสักหน่อยก็ยังดี" พี่คิงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังเป็นงาน

"ได้สิคะ"

"โอเค เดี๋ยวคุณช่วยออกมารอข้างนอกก่อนละกันนะครับ"



พี่คิงหันมาคุยกับผม แกไม่รู้แม้แต่ชื่อของผมเลย อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าพี่คิงรู้ว่าผมคือแฟนของสิค เขาจะตกใจมากแค่ไหน แต่ตอนนี้มันเป็นเวลางาน ผมจึงทำตามที่พี่คิงบอกอย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้กระทบกับงานของสิค โอกาสเล็กๆแบบนี้อาจจะเปิดประตูของโอกาสที่ใหญ่กว่าก็ได้ 



ผมจะไม่ยอมทำร้ายสิคแน่นอน ผมเดินตามพี่คิงออกมาจากห้อง



"ทำตัวตามสบายนะครับ อีกไม่นานเราจะเริ่มถ่ายกันแล้ว"

"ครับ ได้ครับผม"



พี่คิงพูดแล้วก็เดินกลับไปทำงานต่อ ส่วนผมก็ยืนเก้ออยู่หน้าห้องพักไม่รู้จะไปไหน ผมจึงเดินรอบห้องเล่นแบบไม่คิดอะไร แต่สายตาของผมดันไปเห็นหน้าต่างของห้องพักที่เปิดแง้มอยู่บานนึง ทั้งที่ในห้องเปิดแอร์



สวรรค์เหมือนรู้ใจ จะหาว่าผมเป็นติ่งสิคก็ว่าได้ ผมอยากเห็นเวลาเธอเตรียมตัวหรือทำงาน ผมชอบสายตาของสิคเวลาตั้งใจ มันดูมีเสน่ห์และน่าหลงไหลอย่างบอกไม่ถูก ผมมองซ้ายขวาเมื่อเห็นทางโล่งก็รีบย่องไปแง้มมองดูสิค


ตอนนี้ลุงมิตรลงมานั่งโซฟาคู่กับสิคแล้ว แต่ทั้งสองนั่งเว้นระยะกันพอสมควร อาจจะเพราะไม่สนิทกัน และไม่เคยเจอกันมาก่อน ใบหน้าของสิคดูเป็นกังวลเช่นเดียวกับลุงมิตร ผมแอบเชียร์ส่งกำลังใจไปให้สิคแบบสุดกำลัง 



จากมุมที่ผมยืน ผมเห็นด้านข้างของทั้งสองฝ่าย แต่ผมยืนอยู่ฝั่งเดียวกับที่ลุงมิตรนั่ง นั่นแปลว่าถ้าสิคหันมาหาลุงมิตร ผมจะเห็นใบหน้าของเธออย่างชัดเจน



"หนูชื่อ มิวสิค เหรอ?" ลุงมิตรเป็นฝ่ายชวนคุยก่อน

"อ่าค่ะ ใช่ค่ะลุงมิตร" สิคหันไปยิ้มตาหยีตามสไตล์

"อายุเท่าไหร่เนี่ย ถามได้มั้ย?"

"สิบแปดจะสิบเก้าแล้วค่ะ"

"โห เด็กกว่าลูกลุงอีก" ทั้งสองหัวเราะออกมาได้ ผมก็ดีใจ

"ลูกของลุงเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายคะ?"

"เป็นผู้หญิง จะแต่งงานแล้วล่ะ.. ว่าแต่หนูมิวสิคเคยแสดงอะไรพวกนี้มาก่อนมั้ย?"

"ไม่เคยเลยค่ะ ปกติหนูมีแต่เต้นกับร้องเพลง แล้วลุงมิตรล่ะคะ?"

"อ๋อ สมัยก่อนลุงเคยเล่นเป็นตัวร้ายน่ะ สมัยหนุ่มๆ"

"จริงเหรอคะ!?"



สิคตาโตตกใจ ลุงมิตรหยิบโทรศัพท์มือถือแล้วเปิดรูปที่ตัวเองไปหามาจากในอินเตอร์เน็ตมาให้ดู ทั้งสองเริ่มพูดคุยกันอย่างเป็นกันเองมากขึ้น ลุงมิตรเริ่มเล่าชีวิตส่วนตัวว่าตนเป็นนักแสดงตกอับ ทำอาชีพค้าขายทั่วไปเลี้ยงชีพ ไม่มีงานละครมาหลายสิบปีแล้ว 



จนมารู้จักกับพี่คิงซึ่งเป็นคนแถวบ้าน เขาจึงไหว้วานให้มาช่วย ลุงมิตรจึงตบปากรับคำ พอผมได้ยินว่าเป็นอดีตนักแสดงก็ยิ่งดีใจที่สิครับงานนี้ เพราะเธอจะได้ทำงานกับมืออาชีพ โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ



"หนูมิวสิคมีแฟนแล้วใช่มั้ย?" ลุงมิตรยิงคำถามสำคัญ

"อ่า...ใช่ค่ะ" สิคมีอาการกังวลเล็กน้อย

"ตอบมาตรงๆเลยไม่ต้องเกร็ง ถือว่าเราเป็นเพื่อนกัน ไม่ต้องมีอะไรปิดบังกันนะ รับรองว่าลุงไม่เอาไปบอกใคร" ลุงมิตรคงพยายามละลายพฤติกรรมอยู่

"ได้ค่ะ หนูจะพยายาม"

"ไม่ต้องพยายาม เรื่องแค่นี้เอง ว่าแต่เรารักแฟนมากมั้ย?"



ทำไมผมฟังคำถามง่ายๆแบบนี้แต่กลับยืนตัวเกร็งลุ้นขนาดนั้น สิคเองก็ยิ้มก่อนจะหลบสายตา หน้าเริ่มแดงแสดงว่าเธออาย สิคพยักหน้าเบาๆ ทำเอาผมดีใจจนอยากจะกระโดดตะโกนโห่ร้องสักที แต่ก็ต้องเก็บอาการไว้



"ไม่เอาสิ พูดออกมาตรงๆเลย"

"ร..รักมากค่ะ" สิคพูดจบก็ปิดหน้าด้วยความเขินอาย ผมนี่ยืนใจเต้นระรัว

"แล้วปกติเราแสดงความรักต่อแฟนยังไง"

"ก็ยิ้มให้มั่งคะ" สิคฉีกยิ้มกึ่งตลกกึ่งจริงจัง

"แล้วมีอะไรอีก"

"เอ่อ...ก็คงจับมือ กอดแล้วก็หอมมั่งคะ"


 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

koboy

หนูสิคน่าจะได้ประสบการณ์แปลกใหม่ ที่ดีต่อใจจนล้นพ้น จากจิตใจที่ดีอยากมีส่วนช่วยเหลืิสังคมแน่ๆ เลย

Topp458



mootest


lit260499

สิคคงได้เล่นหนังประเภท AV แน่ๆเลย และคงมีประสพการณ์ใหม่ๆบ้างนะ

จรัญ บุญชู

น่าสงสารแฟนสิคจัง...มันกระดูกคนละเบอร์กับสิคเลย...มองสิคในแง่ดีๆตลอด


Nobita Nobituta


l2acing



John Conner

คุณลุงคนดี สิคก็คนดี ไม่มีอะไรทั้งนั้นค่า

suthawatsommana .

ทันเหตุการณืฉลองวาเลนไทน์ซะด้วย อิอิ ขอบคุณคับ ^^

nananews


Thekopoz

หนูสิคเอาอีกแล้ว ได้ช่วยเหลือสังคมอีกแล้ว สงสารต้อมจัง