ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

คลั่งรักผัวแฝด ตอนที่2 ผู้ชายขายน้ำ

เริ่มโดย apinyaporn, มีนาคม 08, 2021, 10:55:47 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

apinyaporn


ผู้ชายขายน้ำ




ตอนที่1 https://xonly8.com/index.php?topic=240743.0


คืนนั้นครูแก้วนอนยิ้มพริ้มอิ่มสุข แถมยังละเมอหัวเราะเบาๆ สามหนุ่มโฮสต์สุดหล่อโดยเฉพาะน้องบอสคงตามมาปรนเปรอต่อในความฝัน ต่างกันกับศรุตาที่นอนก่ายหน้าผากใช้ความคิดวนไปวนมาแต่เรื่องแบล็คพริ้นซ์ ถึงเขาจะไม่เคยพูดเรื่องครอบครัวให้ฟังแต่อาจเพราะเคยผ่านการสูญเสียพ่อมาก่อนจึงพอเข้าใจว่าความโศกเศร้านั้นมีกำลังมหาศาลเพียงใด คิดแล้วก็คิดถึงป๊าที่จากไปตั้งแต่ยังเด็ก คิดถึงจัง


เสียงมือถือตั้งเวลาปลุก ครูแก้วงัวเงียตายังไม่สู้แสงดีเดินซะเงาะซะแงะออกจากห้องนอน ทั้งมึนทั้งเมากว่าจะกลับมาถึงก็เกือบตีห้า ศรุตากำลังเตรียมอาหารเช้า แดดอ่อนๆ ผ่านผ้าม่านสีขาวบางหน้าต่างบานใหญ่เห็นวิวกรุงเทพจากชั้นยี่สิบสอง


สองสาวเพื่อนซี๊คนนึงเกิดนครปฐมแต่ไปโตสงขลาส่วนอีกคนเกิดสงขลาแท้ๆ แต่ไปทำงานเชียงใหม่ สนิทสนมกันที่โรงเรียนไทยจีนหาดใหญ่ตั้งแต่ชั้นมัธยมต้นติดสอยห้อยตามกันไปจนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยไต้หวันพร้อมกัน ครูแก้วเลือกกลับมาเป็นครูที่โรงเรียนไทยจีนสาขาเชียงใหม่ ส่วนศรุตากลับสงขลาไปช่วยธุรกิจส่งผักเข้ามาเลย์เซียของครอบครัว ทั้งสองยังคงติดต่อกันอยู่เสมอไม่ห่างหาย


"เสียดายเงินว่ะ" ครูแก้วบ่น

"เงินชั้นแกจะเสียดายทำไม"

"จะเงินใครก็ชั่งเถอะ เที่ยวคืนเดียวจ่ายเกือบแสนไม่รู้สึกเสียดายบ้างเหรอ"

"แล้วไม่รู้สึกสนุกบ้างเหรอ.." ศรุตายิ้มยักคิ้วยั่วเย้า



"ไอ้สนุกมันก็สนุกอยู่หรอกแต่บ่อยๆ ก็ไม่ไหว คิดถึงวันที่ทุกอย่างมันจะไม่เป็นอย่างใจต้องการบ้างสิ สุขภาพ ธุรกิจ ทุกอย่างมีขึ้นก็ต้องมีลงนะ" ครูแก้วรู้อยู่แล้วว่าเพื่อนสาวเป็นคนยังไงแต่ก็ยังอดเตือนไม่ได้ "จะซื้อห้องคอนโดเดียวกันนี่คิดหนักเลยนะเนี่ย"

"แหม แค่เพื่อนคนเดียวทำไมจะเลี้ยงไม่ได้" ศรุตาเบะปาก

"แล้วนี่แกนัดเจ้าของห้องเค้าไว้กี่โมง" ครูแก้วถาม

"เที่ยง ยังมีเวลา" ศรุตาเหลือบมองนาฬิกาแขวนผนัง


ครูแก้วลงมาจากเชียงใหม่คราวนี้ก็เพราะศรุตาโทรบอกว่าที่ชั้นสิบแปดมีคนจะขายห้องในราคาโควิด เป็นโอกาสดีถ้าจะซื้อไว้เพื่อลงทุนปล่อยเช่าหรือขายต่อเมื่อสถานการณ์ผ่านพ้นวิกฤต อันที่จริงศรุตาอยากจะซื้อเก็บไว้เองตั้งแต่แรกแต่ดูเหมือนเพื่อนสาวคนสนิทจะให้ความสนใจ


"ขายราคาแบบนี้แม่งมีคนตายรึเปล่าวะ" ครูแก้วบ่น

"ไม่หรอกน่า ที่ขายราคานี้คงเพราะต้องจ่ายเงินสดนั่นแหละตั้งแต่โควิดมานี่พวกทำธุรกิจเจ๊งกันเป็นแถว ถ้าซื้อเพื่อลงทุนก็โอเคเดี๋ยวจะขอต่อราคาอีก"

"หืม.. นี่ก็ถูกแล้วไม่ใช่เหรอ เจ้าของห้องเค้าอาจจะเดือดร้อนเงินก็ได้ยังจะต่อราคาเค้าอีกเหรอ" ครูแก้วท้วงตามประสาคนใจดี

"ปัญหาของเค้าไม่ใช่ของเราของซื้อมาขายไปยังไงธุรกิจก็ต้องมาก่อน แกไปอาบน้ำเถอะ"

"เออ.. " ครูแก้วบิดขี้เกียจ


ย้อนไปเกือบสองอาทิตย์ ทันทีที่เห็นป้ายประกาศขายห้องติดที่บอร์ดศรุตาบอกให้รปภ.ปลดออกทันทีเพราะกลัวใครจะมาแย่ง ประตูลิฟต์เปิดที่ชั้นสิบแปด เมื่อไม่มีนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวจีนคอนโดก็ไร้เสียงดูเงียบเหงารกร้าง ได้ยินเสียงฝีเท้าดังก๊อกแก๊กก้องสะท้อนผนัง


นิติบุคคลสาวอายุราวยี่สิบปลายแต่งกายปราณีตยืนรออยู่ก่อนแล้ว เธอส่งยิ้มสุภาพ "สวัสดีค่ะ .."

"สวัสดีค่ะ" ครูแก้วยิ้มทักทายตามเพื่อนสาว


เสียงกุกกักดังที่ประตูห้อง เจ้าของห้องเปิดประตูออกมาตามเวลานัดหมาย เขายังหนุ่ม หน้าตาดีมาก ตัวสูง อกผายไหล่กว้าง สวมเสื้อเชิ้ตขาวสะอาดผูกเนคไทสีน้ำเงินเข้ม ผมรองทรงหวีเรียบ นัยน์ตาสีเทาเข้มจ้องศรุตาอย่างจริงจัง อึกอักงุนงงอยู่ครู่นึงถึงจะพูดออกมาได้


"พี่โอ๋.." ครูแก้วคิ้วขมวดก้าวถอยแอบอยู่ข้างหลัง


"พี่โอ๋..!! "


เมื่อคืนยังนึกแค้นใจอยู่เลย กว่าหกเดือนมานี้เธอเสียเงินไปไม่ต่ำกว่าห้าแสนแต่กะแค่ถามเบอร์โทรหรือที่อยู่ของแบล็คพริ๊นซ์ทางร้านกลับไม่ยอมปริปาก จริงอยู่ที่มีกฎเหล็กห้ามนัดเจอกับลูกค้านอกร้านแต่เธอแค่อยากจะช่วยเหลือเขาเรื่องพ่อซึ่งก็ควรจะใช้ดุลย์พินิจแยกแยะกันบ้าง ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้เจอกันแบบนี้


เขายิ้มชืด "เชิญเข้าไปดูตามสบายเลยนะครับ ขอโทษทีที่ไม่ได้อยู่ด้วยพอดีผมมีธุระ"


"พี่โอ๋ นี่เตยไง เตยเอง" ศรุตาปัดจัดแต่งทรงผม แปลกใจในท่าทีเฉยชาทำเหมือนคนไม่รู้จักกันของเขา


"อืมมม.. ไม่แน่ใจว่าเคยเจอคุณที่ไหนมาก่อนถ้าจำไม่ได้ก็โทษที พอดีผมรีบไปจริงๆ เชิญดูห้องตามสบายนะครับ"


เขากระชับกระเป๋าสะพายเดินจากไปทิ้งให้ศรุตายืนงง ใช่เขาแน่ๆหรืออาจจะอายไม่อยากให้ใครรู้เรื่องทำงานโฮสต์อยู่ดีๆเจอคนรู้จักแบบนี้เป็นใครก็คงทำตัวไม่ถูก


"เชิญค่ะ.." นิติบุคคลคนสวยยิ้มชวนเข้าห้อง


ห้องทูเบดรูมขนาดเจ็ดสิบสองตาราวาส่วนรับแขกถูกตกแต่งเป็นที่ทำงานส่วนตัว โต้ะเขียนแบบตัวใหญ่วางอยู่กลางห้อง ทาวเวอร์แมคเครื่องใหญ่วางข้างโต้ะทำงานที่เต็มไปด้วยม้วนกระดาษ ฝาผนังแขวนภาพศิลปลายเส้นเรขาคณิตแนวโมเดิร์นอาร์ต


ที่เคยบอกว่าทำงานเป็นสถาปนิกในตอนกลางวันสรุปคือเรื่องจริง


"ทางคอนโดมีกฎว่าห้ามขายห้องต่ำกว่าราคาประเมิน แต่ช่วงวิกฤตโควิดเราผ่อนปรนให้เป็นพิเศษค่ะ ไม่ทราบว่าคุณลูกค้ารู้จักกับคุณโอ๋เป็นการส่วนตัวเหรอคะ"

"พอดีอยู่คอนโดนี้เหมือนกันค่ะ อยู่ชั้นยี่สิบสอง"

"อ้าว! จุดใต้ตำตอปล่อยไก่คนกันเองซะแล้ว มิน่าล่ะถึงได้ราคานี้"

"อ๋อ ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวหรอกค่ะอาจแค่เคยเดินสวนกัน" ศรุตาเสียงสลด


"เห็นว่าจะเอาเงินขายห้องไปช่วยผู้รับเหมา ช่วงนี้แย่กันหมด" นิติบุคคลสาวยิ้ม "ถ้าสนใจยังไงเจ้าของห้องพร้อมเก็บของย้ายออกในห้าวันค่ะ แต่ราคานี้บอกตรงๆ เลยว่าถูกมาก"


"เอาเป็นว่าตกลงค่ะ .." ศรุตา พูดเสียงเรียบ "สองล้านเก้า สัญญาซื้อขายพร้อมแล้วใช่ไหมคะ"

"เห้ย..!! " ครูแก้วคุ้นชินกับนิสัยปากไวใจเร็วของเพื่อนแต่นี่มันเงินเป็นล้านควรจะคิดไตร่ตรองก่อนแม้สักสี่ห้านาทีก็ยังดี ก็ไหนว่าจะต่อราคาอีก

"แกไม่เอาชั้นเอาเอง" ศรุตาสีหน้าเรียบเฉย


"ถ้างั้น เดี๋ยวเชิญที่นิติชั้นล็อบบี้แล้วกันค่ะ ช่วงนี้เราคิดค่าธรรมเนียมโอนเพียงยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ถือว่าราคาพิเศษจริงๆ" นิติบุคคลสาวสวยเดินนำทั้งคู่ไปที่ลิฟต์


ทั้งที่อุตส่าห์ได้เบอร์ส่วนตัวของเขามาแล้วแต่ศรุตากลับไม่กล้าโทร ความจริงถ้าเขาจะเล่นเกมส์นี้ก็ควรจะบอกหรือส่งสัญญาณอะไรให้ได้รู้บ้าง บทบาทที่เขาเล่นเป็นคนอื่นที่ไม่รู้จักกันชั่งแนบเนียนจนรู้สึกกลัว กลัวว่ามันจะเป็นแบบนั้นจริงๆ


ครูแก้วแซวว่าตั้งแต่คบกันมาเพิ่งเคยเห็นมุมอ่อนแอกระสับกระส่ายของเพื่อนสาวพร้อมปลอบใจว่ามันก็แค่ละครฉากหนึ่งเท่านั้น "โทรหาเขาสิ เดี๋ยวนี้เลย! " แววตาเพื่อนซุกซนอยากรู้อยากเห็น ศรุตาทำหน้าบึ้งใส่ล้วงกระเป๋าหยิบนามบัตรของเขาออกมา มารุต เทียนธรรม สถาปนิก สูดหายใจลึกแล้วกดหมายเลข


"มารุตครับ.." น้ำเสียงห้วน เรียบ ไร้อารมณ์

"สวัสดีค่ะ เตยนะคะ" ตื่นเต้นมาก เหมือนมีอะไรจุกอยู่ที่คอ


"ใครครับ.." เขาตอบ

"คนที่จะซื้อห้องค่ะ"

"อ๋อ ครับ .. ว่าไง"


"เอ่อ.. คุณจะกลับมาถึงห้องกี่โมงคะ" ศรุตากลั้นใจถาม


เพื่อนสาวกลับไปแล้ว ศรุตากระสับกระส่ายรอเวลา ฝันถึงนัยน์ตาสีเทาเข้ม ร่างสูงไหล่กว้าง เขาปรากฎกายในความมืดจูงมือพาเดินไปยังสถานที่ลึกลับ โพรงถ้ำมืดมิดยังไม่มีใครเคยสำรวจมาก่อน สะดุ้งรู้สึกตัวตื่นรีบควานหามือถือมาดูเวลา สามทุ่ม!! ศรุตารีบลุกขึ้นล้างหน้าหวีผมพยามทำให้ตัวเองดูดีที่สุด






พี่โอ๋มารุตเปิดประตูรับ สีหน้าเรียบเฉยเมย ศรุตาเดินตามเข้าไปในห้องรู้สึกเหมือนกำลังอยู่กับคนแปลกหน้าสองต่อสอง ไม่มีสัมผัสอบอุ่นอย่างที่เคยรู้จัก



"เห็นว่ามีอะไรจะคุย ว่าไงครับ" เขาถาม

"พี่จำเตยไม่ได้จริงๆเหรอ ตอนนี้เราอยู่กันแค่สองคนไม่ต้องเล่นละครหลอกใครแล้ว" ศรุตาน้ำตารื้น "รู้มั้ยว่าเตยห่วงพี่แค่ไหน"


"คุณจะห่วงผมทำไม"

"ตอนที่ป๊าตายเตยก็เสียใจมาก เข้าใจดีว่าการสูญเสียคนที่เรารักมันหนักหนาสาหัสขนาดไหน"


"แล้วนี่คุณรู้ได้ไงว่าพ่อผมตาย"

"คนที่ร้านบอกเมื่อคืนนี้"

"คนที่ร้านบอก .. เดี๋ยวนะ" เขาหยุดทำหน้าครุ่นคิด "หมายถึงว่าคุณเป็นลูกค้าไปเที่ยว..แล้วก็เจอ .. โอเค ผมพอเข้าใจเรื่องราวทุกอย่างแล้ว" เขายิ้มพยักหน้าเบาๆ " โทษที นั่งก่อนสิ"


"แล้วพี่โอ๋เป็นไงบ้างกลับมาแล้วทำไมไม่ไปทำงานล่ะพวกที่ร้านเค้าก็เป็นห่วงกัน" ศรุตาถาม


"ใครเป็นห่วงนะ หึๆ ผู้ชายขายน้ำพวกนั้นน่ะเหรอ" เขายิ้มชืด








Asura4237

เนื้อเรื่องดีนะครับ ติดอย่างเดียวตรงที่มันสั้นไปนิด

peddo

ไอ๊ย่า อยากจะเดา แต่ไม่กล้า เพราะวืดตลอด รอบนี้เหมาะเหม็งเลย แต่ดูเหมือนแฝดเขาจะไม่ถูกกันนะครับ อาจตกเป็นเครื่องมือในการปะทะของคู่แฝด แต่หวังว่าคงไม่โดนแซนด์วิชนะครับ
เอ หรือว่าให้โดนดีนะ

1819

  จะมีคดีพลิกไหมนี่ ทำไมพี่โอ๋ ถึงพูดแบบไม่รู้จักกันมาก่อนเลย หรือ จะมีการแฝดสลับขั้ว
กรุงเทพเป็นเมืองที่มีคนเหงา มากกว่าเสาไฟฟ้า

Khawnkaow


jackkie

เข้าใจแล้วว่าเรื่องฝาแฝด​ขอบคุณ​ครับ​ผู้​เเต่ง​สนุกดี​ครับ​ลุ้น​ฝาแผดจะเหมือนกันหมดไหม

xonly-1454

อยากจะเดาว่าศรุตาทักคนผิด ไปทึกทักเอาคู่แฝดของพี่โอ๋เข้าแล้ว

swbkk

อ๋อ เข้าใจล่ะ ผัวฝาแฝด นึกตั้งนานว่าจะมาไม้ไหนนะ ทำไมแกล้งเป็นไม่รู้จักกัน ที่แท้ แฝดจริงๆ สงสัยนางเอกคงต้องเหนื่อยสองเท่าล่ะ 5 5 5