ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

Daydream ตอนที่1 เกริ่นนำ

เริ่มโดย apinyaporn, เมษายน 14, 2020, 12:30:33 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

apinyaporn



หลังจากประกาศเลื่อนแล้วเลื่อนอีกในที่สุดผู้โดยสารไฟล์ทที่จะต่อเครื่องไปยังสนามบินสุวรรณภูมิก็ได้รับอนุญาติให้เดินทางต่อได้ รวมเวลาที่ต้องทนแกร่วอยู่ในสนามบินกรุงโดฮาเกือบจะครบยี่สิบสี่ชั่วโมง นี่ถ้าไม่ใช่เพราะคุณตาจอมเผด็จการโทรทางไกลไปตามให้กลับเมืองไทยป่านนี้เธอคงอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ที่ไบรท์ตันกับขนมและอาหารแมวกองโตที่ซื้อมากักตุนไว้ ไม่ต้องออกมาระหกระเหินเร่ร่อนเสี่ยงติดเชื้อโรคระบาดแบบนี้

ทันทีที่เครื่องหยุดสนิทพนักงานต้อนรับชุดฟอร์มสีม่วงประกาศเสียงตามสายให้ทุกคนนั่งอยู่กับที่รอเจ้าหน้าที่คัดกรองขึ้นมารับตัว เกือบหนึ่งชั่วโมงก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวจากภายนอก เจ้าหน้าที่ในชุดป้องกันเชื้อพลาสติกสีขุ่นคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้าคล้ายที่เคยเห็นในหนังไซไฟแนวไวรัสล้างโลกเดินเข้ามากวักมือเรียกผู้โดยสารให้ลุกเดินออกไปทีละคน ระหว่างทางเดินยังมีเจ้าหน้าที่อีกหลายคนตั้งแถวคอยฉีดน้ำยาวัดอุณหภูมิซ้ำแล้วซ้ำอีก นึกแปลกตากับภาพความเคร่งครัดเอาจริงเอาจังเพราะที่อังกฤษตอนที่ออกมาผู้คนยังเดินชิลล์ไม่รู้ร้อนรู้หนาวกันอยู่เลย

          "คุณ.. ณัฐนลิน ตามผมมาทางนี้ครับ"
          "อ๋อ.. ค่ะ"

เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเดินมาบอกเสียงเบา ผู้โดยสารคนอื่นๆเริ่มชี้ชวนกันมองตามตอนที่ณัฐนลินเดินลากกระเป๋าตามเจ้าหน้าที่ออกไปเพียงคนเดียวจนสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่าง ชายหนุ่มในชุดครึ่งท่อนเสื้อยืดสีขาวกางเกงสีเขียวขี้ม้ารองเท้าหนังสีดำเงาแว้บยืนยิ้มหวานรอรับที่จุดตรวจเอกสารและใบรับรองแพทย์

          "ท่านให้พี่มารับน้องลินครับ" เขาบอกน้ำเสียงอบอุ่น
          "สวัสดีค่ะ ..พี่โย" ณัฐนลินยกมือไหว้ น้ำเสียงสีหน้าเรียบเฉย

รถกระบะยกสูงสีดำพุงทะยานออกจากสนามบินมุ่งสู่จังหวัดสระบุรี พี่โยธินสวมหน้ากากยุทธวิธีรุ่นใหม่ล่าสุดสามารถทนทานได้แม้กระทั่งแก๊สพิษซาริน เดาไม่ออกว่าพี่ชายตั้งใจจะเอาให้ฮาหรือกำลังซีเรียสเรื่องที่เธอเพิ่งเดินทางกลับจากอังกฤษ

          "ลินถามจริงๆเถอะ ลูกน้องของคุณตาคนอื่นๆนอกจากพี่โยนี่ไม่เหลือใครให้ใช้อีกแล้วใช่ป่ะ"
          "มีสิ.. คุณตาของลินท่านเคยดำรงตำแหน่งเป็นถึงผบ.ภาคเชียวนะ จะมีลูกน้องแค่พี่คนเดียวได้ไง" เสียงของเขาอู้อี้ฟังแทบไม่ได้ศัพท์
          "แหม.. ก็ถ้ารังเกียจกลัวกันซะขนาดนี้นะ ความจริงให้คนอื่นมารับส่งแทนก็ได้ .. คุณร้อยโทโยธิน" ณัฐนลินเบะปากประชด
          "พันตรีแล้วคร้าบบ.. สงสัยน้องลินไปอยู่เมืองนอกนาน" เขายิ้ม   

          "ถ้าหมายถึงหน้ากากเนี่ย..ของมันมีอยู่แล้วที่กองพัน ไม่เคยได้เอาออกมาใช้ก็เลยถือโอกาสลองเอามาใส่ดู"
          "อึดอัดมั้ยน่ะถามจริง"
          "อึดอัดสิ พี่ก็รออยู่เนี่ยว่าเมื่อไหร่น้องลินจะทักซักที ไม่ฮาเหรอครับ"
          "ไม่ฮาค่ะ.." ณัฐนลินถอนหายใจส่ายหน้า

          "ถ้าลินไม่ฮาพี่จะได้ถอด ใส่ขับรถมองถนนลำบากเหมือนกัน"
          "ก่อนออกมาจากอังกฤษลินก็กักตัวเองค่ะอยู่แต่ในห้อง แถมที่สนามบินโดฮายังตรวจแล้วตรวจอีกตรวจรัวๆใบรับรองแพทย์อะไรก็มี ลินคิดว่าตัวเองคงยังไม่ติดเชื้อค่ะ"

          "ที่นี่เค้าซีเรียสกันขนาดนี้เลยเหรอ.."
          "แล้วที่อังกฤษไม่ซีเรียสเหรอ ข่าวว่าจำนวนผู้ติดเชื้อกันเป็นหมื่นเหมือนกันนะ"
          "หมื่นคนจากทั้งหมดห้าสิบกว่าล้าน.. ที่นั่นประเด็นเรื่องเศรฐกิจเค้าก็ให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน"
          "เรายังไม่ป่วยน่ะสิถึงพูดได้ ยังไงกันไว้ก็ดีกว่าเป็นภาระให้คนอื่นต้องมาตามแก้"

          "ค่ะ .. ทุกคนที่เดินทางกลับมาต้องโดนกักตัวสิบสี่วัน ก็โอเค ลินเข้าใจได้"

          "แต่ก็ดูเหมือนยังมีบางเรื่องระหว่างเราที่ลินทำเหมือนไม่ยอมเข้าใจ พี่ก็อยู่ตรงนี้แล้วไงติดใจสงสัยอะไรทำไมลินไม่ถามซะเลยล่ะ ..พี่อยากตอบ" นายทหารหนุ่มถือพวงมาลัยพลางถอดหน้ากากกันแก๊ซออกหัวหูชุ่มไปด้วยเหงื่อ

          "เรื่องนั้น..ลินไม่อยากรู้แล้วค่ะ"

....................

นาฬิกาบอกเวลาเกือบสองทุ่ม รถกระบะยกสูงขับเคลื่อนสี่ล้อเลี้ยวแยกจากถนนใหญ่เลี้ยวลัดเลาะไปตามถนนหมู่บ้านค่อยๆลดความเร็วจนจอดสนิทที่หน้าด่านจุดสกัดเฉพาะกิจ ชายฉกรรจ์ทำหน้าที่เวรยามหลายคนส่องไฟฉายเดินมารุมรอบตัวรถ พันตรีโยธินกดปุ่มเลื่อนเปิดกระจกยกมือไหว้สวัสดีหนุ่มใหญ่รุ่นพี่

          "นี่ถึงขนาดลงตรวจด้วยตัวเองเลยเหรอครับท่านนายอำเภอ"
          "ผมก็มารอดูนี่ล่ะอยากรู้ว่าคุณจะส่งตัวอะไรกันยังไง 55 ไม่นึกว่าจะมาแบบนี้ .. ยังสงสัยว่าทำไมต้องขอมาตอนค่ำๆมืดๆนึกว่าจะมีลับลมคมใน ถ้ามาตอนกลางวันแดดมันคงร้อนสินะ 55" นายอำเภอเหลือบไปมองผู้โดยสารที่นั่งกระบะหลังชุดเสื้อแจ็คเก็ตกางเกงขายาวสวมหมวกกันน็อคเต็มใบ "ขอวัดอุณหภูมิหน่อยนะคร้าบ" อส.หมู่บ้านค่อยๆเปิดกระจกหมวกกันน็อคเจอดวงตาถลึงจิกโกรธกร้าวอบอวลไปด้วยรังสีอำหิตถึงกับสะดุ้ง "สามสิบหกจุดสอง.."

          "โอเคมั้ยครับพี่" โยธินถามนายนายอำเภอ
          "สามหกไม่มีไข้ ผ่านได้ๆ ตอนแรกผมคิดว่าจะมาเป็นรถปลอดเชื้อเป็นเรื่องเป็นราวเสียอีก ไม่นึกว่าจะเล่นให้ใส่หมวกกันน็อคนั่งกระบะหลังมาแบบนี้ 55 ถามจริงนี่นั่งมาจากสนามบินเลยเหรอ นับถือๆ"

          "งั้นผมขอตัวนะพี่.."
          "โอเคๆ เชิญครับผู้พัน"

อส.หมู่บ้านช่วยกันเลื่อนเปิดไม้กั้นอนุญาติให้ผ่านเข้าหมู่บ้านได้ นายอำเภอยกมือบ๊ายบายให้ณัฐนลินที่กำลังงอนสุดขีด เธอถอดหมวกกันน็อคแบบเต็มใบออกปาดเหงื่อที่ชุ่มไปทั้งใบหน้า โขยกเขยกแยกออกจากถนนหมู่บ้านผ่านประตูน้ำเลาะเลียบริมลำคลองจนมาหยุดอยู่ที่หน้ารั้วบ้านไม้หลังใหญ่ยืนทะมึนในความมืด โยธินเปิดประตูรถลงมายืน
       
          "นี่แกล้งกันใช่มั้ยเนี่ยที่ให้ลินใส่หมวกกันน็อคนั่งมาแบบเนี้ย!!" ณัฐนลินตาขวาง
          "ไม่ได้แกล้ง 55 พี่จะไปแกล้งลินทำไม ก็เห็นอยู่ว่าหมู่บ้านเค้าห้ามคนเข้าคนออกซีเรียสกันซะขนาดนั้นเราก็ต้องหาวิธีให้มันเนียนๆหน่อยสิ" โยธินยังนึกขำแปลกใจที่น้องสาวจอมพยศทำตามแผนยอมตกลงร่วมมือง่ายๆ

          "กระเป๋าเดินทางพวกนี้ต้องให้อส.เค้าเอาออกไปเคลียร์ก่อน ลินยังเอาเข้าบ้านไม่ได้"
          "อ้าว.. แล้วแบบนี้จะอาบน้ำอะไรยังไงล่ะนี่ลินไม่ได้อาบน้ำมาสามวันแล้วนะ"
          "เห็นว่าเค้าจัดชุดอะไรเตรียมเอาไว้ให้แล้ว คงจะอยู่ในบ้านนั่นแหละมั้ง"
          "เห็นบ้านนี้แล้วนึกถึงช่วงตอนที่คุณพ่อกับคุณแม่เพิ่งเสียใหม่ๆ .." ณัฐนลินมองลอดซุ้มพวงแสดเข้าไปในบริเวณบ้าน

          "ลินอยู่คนเดียวได้นะ.. ชาวบ้านเค้าเสียงแข็งไม่ยินยอมให้พี่มาอยู่เป็นเพื่อน"
          "ไปไกลๆจะไปไหนก็ไปเลยพี่โยอ่ะ .."

          "โอเคมีอะไรโทรคุยกันพี่อยู่ในค่ายใกล้แค่นี้เอง อีกสิบสี่วันเจอกันจ้ะ" โยธินคว้าหัวน้องสาวมาหอมไม่ให้ทันตั้งตัวจนณัฐนลินตกใจทะลึ่งตัวฉากหนีลูบหัวปัดแต่งผมแก้เขิน

          "ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะ บ้านมันก็คงจะดีใจที่ลินกลับมา" โยธินยิ้มหวาน   

ถึงแม้คุณตาจะไม่ใช่คนท้องถิ่นแต่ท่านก็เป็นทหารประจำการเติบโตอยู่ที่สระบุรีเกือบทั้งชีวิต คุณตา พี่โยธิน และเพื่อนๆรุ่นราวคราวเดียวกันอีกหลายคนในละแวกบ้านริมคลองหลังนี้คือความทรงจำสุดท้าย ก่อนที่ณัฐนลินจะโบยบินจากไปไกลหลายพันกิโลเมตรเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่

....................
....................

 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

pamaaeng


ones26421

น่าสนใจ เดินเรื่องราวเข้ายุคสมัยเลย

Hungry

เนื้อเรื่องน่าสนใจอัพเดทกับสถานการณ์สุดๆ กักตัวสิบสี่วันจะเป็นยังไงรอติดตามครับ

sammyadong

เนื้อเรื่องเข้าสมัยดีครับ ตกลงพ่อพันตรีนั่นแค่พี่ชายหรือมากกว่านั้นครับ

petergg

ทันยุกทันสมัยจริงๆ แต่ต้องกักตัว 14 วันนะน้องลิน
อะไรกันครับเนี่ย

xnuonx

ทันเหตุการณ์สมัยนี้พอดี เรื่องจะดำเนินไปทางไหนเน้อ

cd13579

เกริ่นมาซะดีเลย แต่ส่วนตัวไม่อ่านแนวพี่น้องท้องชนกันนี้สิ หวังว่าจะไม่ใช่แนวนั้นนะครับ
ใครหื้อใครซ่า ข้าแบนเรียบ

Bad Boy

เนื้อเรื่องน่าสนใจอัพเดทกับสถานการณ์สุดๆ กักตัวสิบสี่วันจะเป็นยังไงรอติดตามครับ

ติ๊ก ติ๊ก


neung_cm

กักตัว 14 วันต้องมีอะไรดี ๆ แน่เลย

ppptttmmm


Komratouy13


suratad

เข้ากับสถานการณ์จริงๆ ช่วงกักตัวจะมีอะไรเสียวๆไหมนะ

zero009