ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

-`•Monotone Diary : ครั้งหนึ่ง ณ.ร้านคาราโอเกะ ( ประสบการณ์ตรงของนายโมโนโทน )

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, พฤษภาคม 03, 2020, 03:52:50 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

เรื่องสั้นระหว่างรอ SeaSon III



สวัสดีครับ ยังไงก็ขอใช้นามปากกาว่า " โทน "  ละกันนะครับ หลังจากที่เล่าเรื่องผ่านการบรรยายในตำนานเทพวายุมาแล้ว ระหว่างพักซีซั่นก็ขอเล่าประสบการณ์ตัวเองบ้างละกันครับ มันเป็นครั้งหนึ่งที่จำได้ไม่ลืม เนื้องจากเป็นประสบการณ์ตรงๆ ผมจึงขอใช้นามสมมติของบุคคลนะครับ


อาจจะมีคำหยาบไปบ้างก็ขออภัย แต่อยากถ่ายทอดออกมาจริงๆ เพราะนี่คือประสบการณ์ครั้งหนึ่งที่ลืมไม่ลงจริงๆ


.....



ครั้งหนึ่งช่วงอายุ 22-23 ปี ตอนนั้นผมอกหักก็ได้หนีไปพักใจย่านเขตพระรามสามพร้อมกับหางานทำไปด้วย อย่างน้อยมันก็คงทำให้จิตใจที่ห่อเหี่ยวของผมได้หยุดฟุ้งซ่านบ้าง



นอกจากนี้ผมก็ยังคอยมีเล่นเกมส์ออนไลน์เพื่อหาสังคมใหม่ๆบ้าง และก็ได้เจอเพื่อนกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นคนพื้นที่ พวกเรารู้จักกันมาตั้งแต่ในเกมส์ครับ พอเจอตัวกันจริงๆก็ปรับตัวเข้ากันได้ดี ไอ้เหี้ย ไอ้สัด นี่พูดกันราวกับรู้จักกันมาเป็น 10 ปี อย่างว่าล่ะครับถึงรู้ว่ามันเป็นคำหยาบ แต่เวลาด่าเพื่อนมันก็เป็นคำที่สนุกดีจริงๆ


อ้อผมลืมบอกไปว่าตอนนั้นผมมีเพื่อนที่ค่อนข้างสนิทคนนึง มันทำงานร้านเกมส์ส่วนผมทำงานบริษัทอยู่ ซึ่งแน่นอนเราเล่นเกมส์เดียวกัน พอนานๆไปก็เริ่มนัดกินข้าว กันเที่ยวกัน 6 เดือนผ่านไปผมกับมันก็เริ่มสนิทกันมากขึ้นๆ จนถึงขั้นชวนกันไปตีหรี่


และแล้วหลังจากที่ทำงานแถวๆนั้นอยู่เกือบปี หลังจากที่เงินเดือนพอที่จะขยับขึ้นพอจนพอสามารถออกไปสังสรรค์กับเพื่อนๆได้แล้ว แน่นอนเด็กหนุ่มวัคะนองแบบผมก็ต้องไปตามมันอยู่แล้ว



[ กอล์ฟ ]  :  เฮ้ย ไอ้โทน ไปเกะป่ะ


นั่นคือคำถามเพียงประโยคเดียวที่ถามมา เพราะยังไงซะสำหรับผมตอนนั้นยังไงก็ได้อยู่แล้ว ร้านคาราโอเกะที่ผมไป เป็นคาราโอเกะมุมตึกเล็กๆ แน่นอนว่าต้องมีนวลนาง เด็กดริงค์นั่งกันเต็มหน้าร้าน แต่ผมก็ไม่ได้มองเลย เพราะถึงยังไงผมก็ต้องคิดถึงบิลล์ตอนเก็บเงินด้วย


ถ้าให้แชร์ค่าเหล้า แชร์ค่าอาหาร โอเคผมยอม เพราะยังไงซะผมก็สนุกไปกับมัน ได้กินไปกับมัน แต่สำหรับเด็กดริ๊งค์ ผมในตอนนั้น และเงินที่มีในตอนนั้นบอกเลยว่าต้องตัดใจ แต่ถึงยังงั้นก็เถอะมันมีเด็กคนนึงที่ผมเห็นละแบบต้องหันมอง เพราะหุ่นน้องเขาเป๊ะมากๆ

พอได้เข้าไปในร้านจริงๆ มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมายนะ ถึงจะดูเล็กก็เถอะ แน่นอนว่าไฟถูกปิด เพราะจะได้เอื้ออำนวยแก่ลูกค้า เวลาจะล้วงจะควัก ทุกอย่างในร้านเหมือนๆกันหมดโซฟาแคบๆ และโต๊ะโง่ๆตัวนึงตั้งตรงกลาง แต่ต้องขอชื่นชมอย่างนึงคือ เขาจัดพื้นที่ได้ค่อนข้างดี อันนี้ต้องขอชม


ผมเองก็ไม่ได้อะไรมากมายนะ เพราะยังไงซะผมก็ตั้งใจมาเฮฮากับเพื่อนอยู่แล้ว แน่นอนว่าพอพวกเราเข้าไป สิ่งที่ไอ้กอล์ฟทำ คือรอคิวรีโมท เพื่อกดเพลง เพราะที่นี่เขาให้โต๊ะละ 2เพลง และวนไปเรื่อยๆ มาถึงไอ้กอล์ฟก็จัดก่อนเลย เล่นของสูง เพลงดังของวง Big Ass  ตามมาด้วยเพลงความเชื่อของพี่ตูน


ผมก็นั่งยกแก้วเบียร์ดื่มกินไปเรื่อยๆ ผมเป็นพวกสายชิลล์ ถ้าให้เลือกได้ผมชอบไปนั่งฟังดนตรีสดมากกว่า


[ พี่กอล์ฟ ]  :  เฮ้ยๆ นี่พี่ติมไง เทพทรูประจำกิลด์


และแล้วไอ้กอล์ฟเพื่อนผมก็แนะนำพี่คนนึงให้รู้จัก อันที่จริงพวกเราก็รู้จักเขาดีอยู่แล้ว เขาเป็นคนที่มักจะมีของใหม่ๆในเกมส์ก่อนคนอื่น เพราะเขาเติมหนักจริงๆ ในตอนนั้นพี่ติมอายุ 38 แล้ว


มีการมีงานทำ มีกิจการส่วนตัว จึงไม่แปลกที่เขาจะมีเงินขนาดนั้น ต่างจากพวกผมที่ยังอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 21 – 25 แต่ก็นั่นแหละโลกของเกมส์ออนไลน์มันทำให้คนต่างวัยได้เล่นด้วยกันได้

[ ผม ]  :  สวัสดีครับพี่ติม  ผมโทนครับ

[ พี่ติม ]  :  อ้าวเห้ย !!!  ไอ้โทนเหรอ โห !!!  ได้เจอตัวสักทีไอ้เทพประจำกิลด์


คำทักทายพื้นๆเริ่มทำให้งานเลี้ยงเริ่มสนุก ตัวผมเองในตอนนั้นก็ถือว่าฝีมือพอตัวเลยนะ อาศัยขยันซ้อม ขยันหาเทคนิคการเล่นต่างๆ ฝึกฝน ฝึกฝน จนฝีมือไปเตะตาใครหลายคน


และพี่ติมก็ชื่นชมในตัวผมเช่นกัน เขาจึงมักจะเอ็นดูผมเป็นพิเศษนิดนึง อาจจะให้ของในเกมส์บ้าง แบ่งของให้ใช้บ้าง บลาๆ อาจจะเพราะผมเล่นกับแก่บ่อยๆก็ได้มั้ง เอาเป็นว่าเรื่องเกมส์ทิ้งมันไปก่อน


เพราะตอนนี้เหล้า 285 ได้ตั้งตรงหน้าของผมแล้ว ในใจผมคิดว่า ชิบหายแน่คืนนี้ เพียงแค่กลมแรกผ่านไป อาการของพี่ติมก็มาทันที

[ พี่ติม ]  :  เฮ้ย !!!  ห้องวีป่ะ ว่าไง ไอ้โทนไปป่ะ  กอล์ฟว่าไง

[ กอล์ฟ ]  :  ไปครับๆๆๆๆ

[ ผม ]  :  ตรงนี้ก็ได้พี่


ผมตอบไปตรงๆว่าไม่เอา เพราะว่าไม่มีเงินมากมายที่จะหารค่าห้องวี และแน่นอนว่าผมรู้ว่าจุดประสงค์ของพี่ติมแกคือ เรียกเด็ก พูดง่ายๆคือ แกเป็นคนที่หื่นมากๆ พูดเล่นในกิลด์กันตลอดว่าไปตีหรี่ ไปลงอ่าง สารพัด และเพราะด้วยเหตุนี้ พวกเราจึงจำเป็นต้องขึ้นไปห้องวี ตามบัญชาของพี่แก


เพราะพี่แกบอกจะเลี้ยง เป็นธรรมดาที่พวกเพื่อนๆผมจะตามขึ้นไป แต่เอาจริงๆนะ ผมโคตรกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเลย เพราะว่าถ้าขึ้นไปห้องวี รับรองว่า งบบานปลายแน่ๆ


ใครที่เคยอยู่ในช่วงเริ่มทำงานจะรู้ดีว่าเงินนั้นคอนโทรลยากมากๆ ตอนที่ไม่คิดว่าจะได้ใช้ แม่งก็ต้องมีเรื่องมาให้ใช้ตลอด


[ กอล์ฟ ]  :  เฮ้ย ไอ้โทนมึงเอาไง เรียกเด็กป่ะ

[ ผม ]  :  เอาเลย กูไม่มีตังส์  มีแค่ช่วยหาร คนละพันค่าเหล่าเนี่ย

[ กอล์ฟ ]  :  เออ ตามใจมึง


ไม่นานนักเจ้าของร้านก็เดินมาบอกว่า ห้องวี พร้อมแล้ว พวกเราจึงได้ย้ายขึ้นไปข้างบน ต้องบอกเลยว่าผม ไม่ประทับใจห้องวีของที่นี่เท่าไร เพราะมันทั้งเล็ก ทั้งดูไม่น่านั่ง แถมไอ้เครื่องเสียงคาราโอเกะ ก็ไม่ได้ดีไปกว่าข้างล่างเลย โชคดีที่กลิ่นมันยังไม่อับมากเท่าไร


[ พี่ติม ]  :  เฮ้ย ไอ้โทน เรียกเด็กป่ะ พี่ออกค่าดริงค์ให้


[ ผม ]  :  ไม่เอาครับพี่ ตามสบายเลยครับ


ไม่ใช่อะไรหรอกนะ สิ่งที่ผมกลัวคือพี่ติมแม่งเป็นพวกหัวนักธุรกิจ ผมกลัวว่าเขาจะไม่ได้เลี้ยงผมฟรีๆน่ะสิ่ ผมก็ปฏิเสธไป อาจจะเพราะผมไม่มีตังส์จริงๆ อีกอย่างคือไม่มีใครถูกใจ


คือพูดยังไงดี แน่นอนว่าน้องๆทุกคนสวยนะ อิมพอร์ตมาจากดอยเลย บางคนชาวม้ง บางคนมาจากเชียงราย ขาวๆทั้งนั้น แต่ไม่รู้สิ่อาจจะเพราะไม่มีใครถูกใจเลยจริงๆก็ได้น้องจากน้องคนที่ผมเจอตอนเข้าร้าน



ผมเลยไม่อยากตอบรับน้ำใจของพี่ติมเท่าไร เพราะพูดตรงๆ เด็กของร้านที่นี่ผมประเมินแล้วอยู่ในระดับเกรด B ไม่ถึง A อาจจะมี A บาง 2 – 3  คนแต่ก็ถูกโต๊ะอื่นเรียกไปแล้ว ถ้าได้ไม่ถูกใจ ใครอยากจะเสียตังซื้อดริงค์จริงมั้ยครับ


เพลงดังในยุคนั้นถูกกดและร้องออกมารัวๆ ไม่ว่าจะเป็น เล่นของสูง คนที่ถูกรัก มีเก่าๆหน่อยๆ ก็รักเธอให้น้อยลง คาราบาวก็มา บัวลอย มนต์เพลงคาราบาว บางทีเด็กดริ๊งก็หยิบเพลงมาร้องบาง ผีเสื้อใจร้าย ดอกไม้ใจอ่อนงี้ ดอกหญ้าในป่าปูนงี้ เพลงที่แสดงถึงความสู้ชีวิต พวกเธอกดมาร้องกันหลายเพลง


ผมได้แต่บอกตัวเองในใจ ว่าเมื่อไรจะกลับกัน อย่างแรกคือ งบมันเริ่มบานปลายแล้ว พวกน้องเด็กดริงค์เริ่มสั่งนู่น สั่งนี่มากิน ไอ้ผมก็หวั่นๆใจบอกตามตรง กลัวเงินไม่พอหารแล้วโคตรอาย


กลมแรกผ่านไป กลมสองกลมสามค่อยๆผ่านไป และยังมี สปายด์มาอีกโหล โอย ตอนนี้เริ่มเละเทะ เงิน 1 พันของผมมันคงไม่พอที่จะช่วยหารแล้วล่ะ


[ ผม ]  :  ไอ้กอล์ฟ กูกลับก่อนนะ ถ้ามากกว่านี้เดี๋ยวกูช่วยหารไม่ไหว นี่นะเงิน

ผมหยิบเงินยื่นให้ไอ้กอล์ฟ ก่อนที่จะเลี่ยงออกมา แต่ว่า

[ พี่ติม ]  :  เฮ้ย ๆ ๆ   เอาตังแบงค์พันมานี่


พี่ติมเอ่ยขึ้นขณะที่ผมกำลังจะยื่นเงินให้ไอ้กอล์ฟ ผมก็ยื่นให้ทั้งๆที่มึนๆ และเมาๆนั่นแหละ และพี่ติมแกก็รับไปและบอกว่า เอ็งออกแค่นี้พอ ที่เหลือพี่ออกให้


[ ผม ]  :  เฮ้ยๆๆ พี่ไม่เอาเกรงใจครับ บอกเลี้ยงผมงี้ ละมาหรอยของในเกมส์ผมเปล่าเนี่ย


ผมพูดดักคอไว้เลยเพราะรู้ว่าแกก็เล็งของ +8 +9  ในตัวของผมเหมือนกัน และดูเหมือนว่าผมจะคิดถูกเพราะแกหัวเราะลั่นและบอกมาว่า เซ็งไอ้นี่รู้ทัน เขารับปากผมว่าจะไม่หรอยของๆผมไป แต่ยังไงผมก็ต้องอยู่กินต่อ

[ พี่ติม ]  :  มึงนั่งก่อนไอ้โทน

ผมจำใจนั่งตามที่พี่ติมบอก แต่ทุกอบ่างมันก็ใช่ว่าจะไม่สนุก บรรยากาศสนุกมาก แต่ความกังวลเรื่องเงินของผม มันเลยทำให้สนุกไม่สุด จนกระทั่ง

" พี่คะ ใครเรียกหนู เหรอ "

เสียงเล็กๆ ดังขึ้นมาในจังหวะเพลงจบพอดี ทำให้คนทั้งห้องหันไปมอง ตรงหน้าพวกเราคือเด็กนั่งดริ๊งค์ ผมขาวตัวเล็กๆ สูงประมาณ 165 หน้าตาดีเลยทีเดียว ผมเห็นก็แบบว่า อื้ม แจ่ม และน้องคนนี้คือคนสวยระดับ A ที่ผมบอกไป


[ ติม ]  :  นั่งเป็นเพื่อนน้องพี่หน่อยนะ


น้องคนนั้นจ้องมาที่ผมด้วยสีหน้าที่บึ้งตึง อาจจะเพราะลูกค้าเยอะ หรือเพราะว่าผมหล่อไม่พอ ผมเป็นคนที่หน้าตาบ้านๆธรรมดาๆคนนึงเลยนะ อาศัยแต่งตัวให้ดูดีๆหน่อยเท่านั้นเอง


เอาจริงๆผมก็มีเล็งๆไว้คนนึงน่ะ แต่น้องคนนั้นพี่ติมดันเลือกไปแล้วนี่ดิ่ ผมนั่งเหล่อยู่เป็นชั่วโมงแล้ว บอกตามตรงผมอุทานในใจเลย เยดเข้เอวดีชิบหาย คือน้องคนที่พี่ติมเลือกมาคือหุ่นดีมาก


แน่นไปทั้งตัว แต่ไม่มีย้วยเลย น้องใส่เกางเกงขาสั่นระยิบระยับ และเสื้อกล้ามสายเดียว บอกเลยว่าหนองโพ แถมลีลาการร่อนเอวนี่สุดตีน


" มองไร ไม่กินเหล้าเหรอ "


ชัดเลยสำเนียงนี้ เชียงรายแน่นอน ผมคิดในใจว่าอะไรกันหว่า มันโคตรหงุดหงิดเลยนะที่อยู่ดีๆมาถามกันแบบนี้ ผมไม่ได้อยากจะได้เด็กมานั่งอยู่แล้ว แถมมาทำอารมณ์เสียใส่แบบนี้ผมละโคตรหงุดหงิด

[ ผม ]  :  ค่าดริงค์ นึงเท่าไรหรอ


[ มิ้นต์ ]  :  บอกไม่ได้รอดูบิลล์เอา


ไม่รู้ว่าผมไม่ทำเวรกรรมอะไรไว้นะ แต่ว่าดูเหมือนเธอจะกวนตีนผมจริง ผมเลยยอมควักเงินอีก 500 ยื่นให้เธอไป เธอรับไปก็แบบงงๆ ว่าอะไรกัน ผมก็เลยบอกเธอไปว่า


[ ผม ]  :  ค่าเสียเวลา ถ้าจะมานั่งและพูดกันแบบนี้อย่าเลย ไปดูแลคนอื่นที่รับนิสัยแบบนี้ได้เถอะ


ผมเดินออกจากห้องเลยนะ แต่ก็ไม่ได้กลับ ตอนนั้นผมจำได้ดีว่าหงุดหงิดมากกกก ผมเดินออกมาจากห้องนั้นทันทีโดยมีพี่ติมตะโกนย้ำมาว่า มึงอย่าเพิ่งกลับ



โชคดีของผมที่วันนั้นผมเจอผัวเจ้าของร้านพอดี ผมรู้จักพี่เขาโดยบังเอิญจากสายงาน ที่ทำเพราะมีหลายครั้งผมต้องออกไปพบพี่เขาด้วย


ผมยกมือไหว้พูดคุยทักทายกันพอสมควร ก่อนที่ผมจะเหลือบไปเห็นห้องวี ข้างๆ ผมเลยถามเขาว่า ผมขอเขาไปนั่งข้างในได้มะ รู้สึกๆมึนๆ พี่เขาบอกว่า ตามสบายเลย วันนี้ไม่มีคิวจองห้องวีแล้ว


[ ผม ]  :  ขอบคุณครับพี่จิ๋ว

ผมกล่าวขอบคุณพี่เขาและเดินเข้าไปทันที ทุกอย่างถูกจัดเหมือนอีกห้องเด๊ะๆ เสียงร้องพี่ติมก็หมาเยี่ยวรอสังกะสีดีๆนี่เอง แต่เวลานั้นไม่มีใครสนใจหรอก เพราะไอ้เพื่อนของผมอีก 3-4 ตัว ก็นัวก็ล้วงเด็กดริ๊งกันเพลินไปละ


[ ผม ]  :  เฮ้ออ มึนหัวชิบหาย ไม่น่าห้าวแดรกเพียวเลย


ผมได้แต่ด่าตัวเองที่เสล่อโชว์พาวกินเพียว เพราะปกติผมจะผสมน้ำ+โซดาเป็นประจำ  ผมทิ้งตัวลงบนโซฟาที่สภาพใช้งานน่าจะหลายปีอยู่


แต่ขอแค่ไม่มีกลิ่นผมก็ไม่ว่าอะไร ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร น้องมิ้นต์มันเดินเข้ามาเว้ย คุณผู้อ่าน ผมก็หันไปมองตามเสียงเปิดประตู


ถ้าไม่นับนิสัยนะ ผมบอกเลยวันนั้นผมโคตรโชคดีได้ตัวท็อปของร้านมานั่งเสิร์ฟเหล้า ( แต่ผมอยากได้น้องคนที่พี่ติมเรียกมากกว่า ) น้องมิ้นต์คนสวยเดินมาด้วยหน้านิ่งๆและย่อตัวลงมานั่งและเอ่ยขอโทษ เธอบอกผมว่าโดนลูกค้าบีบตูดมาเลยหงุดหงิด

ผมก็ยังคงไม่พูดอะไร เพราะยื่นเงินให้ไปแล้ว ผมเลยบอกไปว่างั้นไปไหนก็ไปเถอะ ตอนนี้มันก็ยังไม่หมดเวลาดริ๊งที่พี่ติมซื้อมา จนกว่ามันจะครบเวลาจะไปนั่งไปนอนไหนก็ไปเถอะ


แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือมิ้นต์เริ่มน้ำตาคลอ ผมก็คิดในใจว่าชิบหายละอะไรเนี่ย มิ้นต์เธอบอกผมว่า ถ้าเจ๊รู้ว่าเธอไม่ทำงานเธอโดนด่าแน่ๆ


คือพูดไงดี  เจ๊ค่อนข้างที่จะเข้มเรื่องงาน เนื่องเพราะร้านเธอเป็นร้านเล็กๆ เธอจึงอยากให้บริการของร้านนี้ประทับใจลูกค้าที่มาใช้บริการ ต้องอธิบายก่อนนะครับว่าร้านนี้อย่างที่บอกเป็นร้านที่คนทั่วไปสามารถมากินดื่มได้


เบียร์ไม่แพงไม่ชาร์จซักบาท ค่าดริงค์ไม่แพง ( เพราะหน้าตาของเด็กด้วย )  อาหารถูกอร่อยพอใช้ได้ แต่ต้องทำใจว่าระบบเครื่องเสียงอาจจะไม่ดีนัก


แต่ด้วยราคามิตรภาพเหมาะสมกับสถานที่ มันจึงทำให้แม้แต่คนที่ค่าจ้างร้ายวัน 300 บาท ก็สามารถมานั่งกินได้นั่นเอง  ที่นี่จึงมีลูกค้าหลายเกรด ทั้งมาเพื่อดื่มสังสรรค์ และตั้งใจมาเพื่อล้วงเด็กดริงค์ นี่เองเป็นเหตุให้มิ้นต์หน้าบูดเป็นตูดลิงล่ะมั้ง


[ ผม ]  :  ก็ไปนั่งกับพี่ติมก็ได้ไป เจ๊เขาจะได้เห็นว่าทำงาน


[ มิ้นต์ ]  :  ไม่ได้อ่ะ พี่จิ๋วเขาบอกเจ๊แล้วว่าหนูต้องดูพี่ ( หมายถึงดูแล ซื้อดริงค์มาแล้วต้องดูแลให้ดี )


[ ผม ]  :  อืมๆๆแล้วแต่


มิ้นต์เขยิบเข้ามานั่งใกล้ๆ จนผมนั้นได้กลิ่นหอมๆจากตัวเธอ พอมองดีๆมิ้นต์ก็ถือว่าน่ารักใช้ได้เลยนะ ตัวเล็กๆ ขาเล็กๆ นมก็ไม่ใหญ่มากพอดีๆตัว ยิ่งมาใส่เสื้อสายเดี่ยวอีก เฮ้ออ มันทำให้ไอ้น้องชายของผมเนี่ยเริ่มมีอาการแล้วจริงๆ

น้องมิ้นต์มันก็ยังคงหน้าตึงอยู่เหมือนเดิม ไม่รู้ว่าเพราะโดนลูกค้ายุให้กินเหล้า หรือเพราะยังอารมณ์ไม่ดีอยู่ เอาจริงน้องมิ้นต์น่ารักไม่เบาเลยนะ เราสองคนยังคงนั่งอยู่ในนั้นแต่ยังคงไม่พูดอะไร และไม่นานนักผมก็เดินกลับเข้าไปที่ห้องหลักอีกครั้ง


[ กอล์ฟ ]  :  มาแล้วโว้ยยยยยยยยย

เสียงเฮ นั้นตามมาติดๆเพราะคนในห้องคิดว่าผมนั้นแอบไปซั่มกับน้องมิ้นต์มา มิ้นต์ที่เดินตามมาก็ยังคงตีหน้านิ่งไม่พูดอะไร ไอ้กอล์ฟวางแก้วเหล้าและเดินมาหาผมทันที


[ กอล์ฟ ]  :  เฮ้ยๆๆ กี่น้ำวะ

[ ผม ]  :  น้ำเชี้ยไร ไม่ได้ไปทำไรกัน

[ กอล์ฟ ]  :  วู๊ว เซ็งเป็ด

ผมโชคดีอย่างคือไอกอล์ฟมันเป็นคนที่เซ้าซี้เท่าไร และมันรู้ดีว่าถ้าผมเอาผมก็จะบอกผม ถ้าไม่ก็คือไม่ หลังจากที่ไอ้กอล์ฟพูด ผมก็เหลือบไปมองที่พี่ติมอีกครั้ง อื้มหืม น้องคนที่ผมเล็งไว้กำลังร่อน ขย่ม เต็มสูบเลย ผมเข้าใจแล้วว่าถ้ามีเมียโคโยตี้ ภาพที่เกิดขึ้นบนเตียงมันจะเป็นยังไง


[ ไอ้กอล์ฟ ]  :  แม่ง ขย่มเป็นแม็กมัซเลยไอ้สัด ( ใครคยเล่น HON จะรู้จัก ) อิจฉาพี่ติมว่ะ


[ ผม ]  :  เออว่ะ อิจฉา


ตอนนี้น้องคนนั้นก็ไม่ได้ถอดเสื้อผ้านะ แต่รู้สึกว่าพอเหล้าเข้าปาก น้องจะกลายเป็นพวกชอบเอนเตอร์เทน นั่งตักร่อน ขย่มเต็มที่ เซอร์วิสแบบสุดๆ มั่บ !!! อยู่ดีๆ ผมก็รู้สึกถึงแรงที่กำลังดึงแขน ผมหันไปอีกครั้งก็พบว่าเป็นน้องมิ้นต์คนหน้าตึงนั่นเอง

เหมือนเธอจะไม่พอใจนะ ที่เห็นผมชมน้องคนนั้น ทั้งๆที่ผมแทบจะไม่ชมเธอเลย เราทั้งคู่ก็นั่งลงด้วยกันนั่นแหละ น้องเขาก็ทำหน้าที่ได้ดีนะ ชงเหล้าอร่อยมาก รสชาติไม่ผิดเพี้ยนเลย เหล้าฝานึง ผสมโซดาน้ำ น้องมิ้นต์ชงได้ดีมากๆ รสชาติไม่ขมจนบาดคอ อันนี้ผมต้องชมเลยจริงๆ


จนเวลาผ่านไปอีก ช.ม. นึง พี่ติมเริ่มเรื้อนมากกว่าเดิม เริ่มบ่นนู่นนี่นั่น จนผมเริ่มกุมขมับ เพราะคำที่หลุดพูดออกมาคือ

" มีใครออกไปค้างกับพี่ได้บ้าง "

ใช่ครับ พี่ติมกำลังหาคนไปล่อนั่นเอง ด้วยเพราะแกโดนทั้ง 285 สปาย แถมยังเบียร์เข้าไป ตอนนี้ดูเหมือนแก จะได้ที่แล้วล่ะ ส่วนตัวผมเองก็ยังนั่งอยู่เฉยๆ จนอากาศมึนๆจากฤทธิ์ของ 285 เริ่มดีขึ้นแล้ว ผมก็เตรียมที่จะกลับบ้าน แต่ว่า มั่บ !!!


[ ผม ]  :  อะไรอีกเนี่ย


ผมหันไปถามมิ้นต์ที่อยู่ดีๆก็กระตุกๆผม สิ่งที่ผมเห็นรีดเดอร์หลายๆท่านคงต้องไม่เชื่อแน่ ๆ เพราะมันคือแววตาที่เหมือนจะอ้อนวอนของมิ้นต์ เจอแบบนี้ผมก็ใจแป้วเหมือนกันครับ เอิ่มผมแพ้ผู้หญิงที่ทำหน้าแบบนี้น่ะ

[ ผม ]  :  มีไร ?

[ มินต์ ]  :  ต่อดริ๊งหนูได้มั้ย

[ ผม ]  :  อ่าว ต่อทำไมอ่ะ นี่ก็จะเลิกงานแล้วไม่ใช่เหรอ

ตอนนั้นเวลาเกือบจะ ตี 1 แล้ว ซึ่งผมก็คิดว่าคงไม่มีอะไรเลยตอบไปอย่างนั้น แต่มิ้นต์หน้าตายังคงเป็นแบบเดิม ถ้ารีดเดอร์ได้มาเห็นนะบอกเลยว่ายังไงก็ใจอ่อน

[ มิ้นต์ ]  :  หนูไม่อยากไปนั่งกับลูกค้าคนอื่น นั่งกับพี่แล้วไม่โดนจับนู่นจับนี่ มันสบายกว่า


[ ผม ]  :  อ่าว อีกชั่วโมงเดียวไม่เป็นอะไรหรอก


[ มินต์ ]  :  นะนะ พี่นะ


แน่นอนผมไม่เอาอ่ะ ทำไมผมต้องเสียเงินให้กับคนที่ไม่เต็มใจบริการด้วยวะ จริงมั้ยครับรีดเดอร์ จริงอยู่ว่าค่าดริ๊งค์พี่ติมเป็นคนออกให้ แต่ผมกลับรู้สึกว่าผมไม่คุ้มที่จะต้องต่อดริงค์น้องมิ้นต์ แต่ว่า....


[ ผม ]  :  เห้ย !!!


[ มินต์ ]  :  แบบนี้ต่อได้ยัง


งานเข้าครับรีดเดอร์ เพราะน้องมิ้นต์ลุกขึ้นและมานั่งคร่อมผมเลยล่ะ แน่นอนว่าของสงวนของน้องเขาที่มีกางเกงขาสั้นกันอยู่มันมาถูกับไอ้หนูของผมเต็มๆ น้องมิ้นต์ก้าวมานั่งขึ้นคร่อม กอดคอ และถามผมตรงๆเลย

[ ผม ]  :  ทำไรเนี่ย

[ มินต์ ]  :  ต่อดริ๊งค์เถอะนะ หนูไม่อยากไปนั่งกับลูกค้าข้างล่าง มีแต่พวกขี้เมาจ้องแต่จะเอาย่างเดียว

[ พี่ติม ]  :  เอาเว้ยยยยยย เทพโทนจะปิดจ๊อบแล้ว จัดเลยๆพี่เลี้ยง


ผมยังคงหนักใจไม่หาย ซึ่งถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ รีดเดอร์หลายคนน่าจะพอเดาได้ว่า พี่ติมมันต้องการอะไร ใช่ครับ ถ้ามันหาเด็กไปกับมันได้ มันต้องให้ผมเล่น 3P  ลุมน้องผู้หญิงคนนั้นแน่ๆ และถ้าผมยอมรับการเลี้ยงดริงค์นี้คือผมก็ไม่สามารถปฎิเสธพี่ติมได้เลยแน่ๆ


[ ผม ]  :  เออๆ ตามนั้นแหละไปขอบคุณพี่ติมซะ ลงไปได้แล้ว


[ มิ้นต์ ]  :  ทำไมหรออ กลัวมีอารมณ์เหรอ


มิ้นต์ไม่พูดเปล่า เธอยังร่อนเอวใส่ผมอีกด้วยบอกเลยตอนนี้ปิ๊กกาจู้ของผมมันเริ่มตื่นตัวแล้ว มิ้นต์เองก็เหมือนจะรู้สึกเหมือนกัน ก็นะกางเกงเธอมันบางซะขนาดนั้นนี่นา ผมเลยตัดสินใจลุกเลย ลุกทั้งๆที่มิ้นต์ยังนั่งคร่อมนั่นแหละ

[ ไอ้กอล์ฟ ]  :  เฮ้ยๆๆๆ  ไอโทนใจเย็นๆ อย่ามาอุ้มแตงตรงนี้


[ พี่ติม ]  :  เอาโว้ยยย

อย่าว่าไอ้กอล์ฟเลยที่ตกใจ มิ้นต์ที่ตั้งใจทำแบบนั้นก็ยังตกใจเลย แต่ที่ผมทำคือวางมิ้นต์ลงและเดินออกจากห้องนั้นทันที อ่ะแน่นอนมันอาจจะไม่เมคเซ็นต์จริงๆ ว่าผมที่โดนยั่วมาแบบนั้นทำไมยังโง่เดินออกไปแบบนั้น นั่นเพราะผมอายครับ


ถามว่าผมเคยมั้ยการเอาผู้หญิง แน่นอนว่าเคย แต่ถ้าจะให้โชว์บอกเลยผมหน้าบางมาก อาจจะเพราะ 1 ร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปเยอะจนขาดความมั่นใจ


เพราะสมัยอยู่มหาวิทยาลัยผมเล่นกีฬา หุ่นดีมีกล้าม แต่พอเรียนจบและเริ่มทำงาน ทำให้เวลาออกกำลังหายไม่มีเลย กล้ามเนื้อที่เคยได้รูปสวยงาม ก็ค่อยๆกลับกลายเป็นกล้ามเนื้อทรงธรรมดา


แน่นอนว่าผมยังมีกล้ามเหลืออยู่นะ ผมยังวิดพื้นและ Sit up ทุกวัน แต่ว่ามันก็คงไม่เข้มข้นเท่าการเล่นกีฬาแน่ๆ นั่นจึงเหตุผลอย่างนึงที่ทำให้ความมั่นใจของผมหายไป


ผมวางน้องมินต์ลงและแน่นอนว่าปิ๊กกาจู้ที่เริ่มแข็งของผม มันไปครูดโดนหน้าท้องน้องมิ้นต์เต็มๆ แต่ด้วยความมืดมันคงไม่มีใครเห็น ไม่มีใครรู้นอกจากผมและมิ้นต์เท่านั้น ผมก้มลงไปบอกเธอใกล้ๆว่า ให้อยู่นี่แหละ ผมจะไปนั่งข้างนอกแปปนึง



แต่ตอนที่ก้มลงไปนั้น ผมกลับรู้สึกว่าปากของเราสัมผัสกันนิดนึงจริงๆนะ ผมเดินออกไปจากห้องและแน่นอน ผมเดินเข้าห้องอีกห้องที่ว่าง แน่นอนว่าตอนนี้ไอ้แท่งเนื้อที่เอวของผมมันแข็งขึ้นมาแล้ว


ลีลาร่อนของมิ้นต์เริ่มส่งผลกับผมแล้วจริงๆ ไม่ว่าจะทำยังไง สงบใจยังไงมันก็ยังไม่ลงจริงๆ ผมเลยตัดสินใจเดินลงไปข้างล่าง เพื่อเข้าห้องน้ำครับ คงรู้สิ่นะว่าผมจะลงไปทำไร เอาเป็นว่าเรารู้กันก็พอ


และมันก็ช่วยได้เยอะเลย แต่พอออกมาจากห้องน้ำนี่สิ่ แม่จ้าววว น้องคนที่ผมเล็งไว้ดันมายืนอยู่หน้าห้องน้ำพอดี ต้องบอกก่อนว่าที่นี่ไม่มีห้องน้ำแยกนะครับ เพราะเป็นร้านเล็กๆ ทำให้ทั้งชายและหญิงต้องมาเข้าห้องเดียวกัน


ผมมองน้องเขาตาค้างเลย น้องคนงามมาในเสื้อเกาะอกสีดำ กระโปรงสั้นๆคล้ายทรงเอของนักศึกษา แถมยังมัดจุกแบบที่ผมชอบอีก ( ผมชอบทรงที่ เจนนี่ 2002 ทิวาราตรีมัดมาก )


[ น้องคนนั้น ]  :   เอา มิ้นต์ล่ะ


[ ผม ]  :  จะไปรู้เหรอ ว่าแต่เรามาทำไรเนี่ย พี่ติมล่ะ


[ น้องคนนั้น ]  :  โอ่ยยย ให้หนูพักบ้างเถอะ บีบตูดหนูจนเจ็บไปหมดละ


[ ผม ]  :  อ้าว ก็อยากไปล่อตะเข้เองนี่ ช่วยไม่ได้


ผมแย็บเต็มที่เลย พยายามพูดคุยเพื่อสร้างความสัมพันธ์และดูเหมือนว่ามันจะเป็นไปได้ด้วยดี แต่ว่าพอเราคุยกันได้แค่ 5 นาที ไอ้เชี่ยพี่ติมก็เดิมมาตามน้องคนนั้นขึ้นไปอีก บทสนทนาของผมกับน้องในฝันก็ต้องจบลงแค่นั้น


ผมเดินขึ้นมาบนห้องที่เดิมใจนึงยังลังเลว่าจะเข้าห้องไปร้องเกะ หรือ จะพัก ผมตัดสินใจเข้าไปอีกห้องนึงครับ เพราะตอนนี้บรรยากาศในห้องวีของพวกเรา ท่าทางกำลังจะกู่ไม่กลับแล้ว เสียงกรี๊ดมาเต็ม ผมไม่อยากเข้าไป เพราะยังไงก็ต้องโดนมอมเหล้าแน่ๆ


ผมเลยเลือกที่จะเข้ามาในอีกห้องหนึ่งและเมื่อเปิดประตูเข้าไป มิ้นต์ก็นั่งรออยู่ในนั้น ในห้องถูกเปิดแอร์ไว้เรียบร้อย ซึ่งผมก็คิดว่าน่าจะมีคนมาจองห้องวี แต่ว่าไม่ใช่ เพราะคนที่เปิดไว้คือพี่จิ๋วนั่นเอง


[ มิ้นต์ ]  :  พี่จิ๋วบอกให้เปิดไว้ พี่เขาบอกว่าให้รับดริงค์พี่คนเดียวก็พอวันนี้


[ ผม ]  :  อ่อ อืมม


ผมตอบไปแค่นั่นและตรงไปนั่งที่โซฟาตัวนั้นทันที ลมเย็นๆทำให้ผมเริ่มเคลิ้มๆ  แต่ว่าอยู่ดีๆ ยัยมิ้นต์ตัวแสบก็กระเถิบมานั่งข้างๆผมซะเฉยๆเลย มิหนำซ้ำนมของนางยังมาเบียดแขนผมเสียด้วยคร๊าบ รีดเดอร์


[ ผม ]  :  อะไร

[ มิ้นต์ ]  :  เปล่า เมื่อย ง่วง

[ ผม ]  :  ง่วงก็ไปนอน พี่จิ๋วบอกไม่ต้องดริงค์แล้วไม่ใช่เหรอ

[ มิ้นต์ ]  :  อืม แต่ยังไม่เลิกงาน ไปไหนไม่ได้

ยิ่งพูดมิ้นต์ก็ยิ่งเบียดเข้ามาเรื่อยๆ จนตัวผมกับมิ้นต์ติดกันและ แน่นอนว่าด้วยนิสัยของผู้ชายมันก็ต้องมีบ้างที่แอบคิด ผมก็คิดนะว่าถ้าผมจับเธอกดลงและทำอย่างที่ต้องการเธอจะทำยังไง

แน่นอนว่ามันไม่ง่ายเหมือนในละครแน่นอน อีกอย่างผมไม่ได้มีหน้าตาหล่อขนาดที่ว่ามองและหลงแน่นอน เพราะฉะนั้นเลิกคิดไปเลยว่าจะได้ซั่มน้องมิ้นต์


[ มิ้นต์ ]  :  ชอบดาวเหรอ

[ ผม ]   :   ดาวไหน

[ มิ้นต์ ]  :  ก็คนที่พี่ติมเรียกไปไง

อ๋อ ในที่สุดผมก็ได้รู้สักทีว่าน้องเอวดีคนนั้นชื่อดาว เมื่อกี้ตอนที่เจอข้างล้างผมลืมบอกไปครับ รีดเดอร์ว่าพอใกล้ๆ น้องดาวแม่งน่าเอามากๆ


กระโปรงสั้นๆที่แบบว่าฟิตแน่นรัดเข้ากับรูปก้นแน่นๆงอนๆ แถมยังมีขอบกางเกงในนูนมาอีก ผมบอกเลย ว่าอยากจะพาน้องไปโล้สำเภาจริงๆ กลับมาที่ปัจจุบันที่ตอนนี้มิ้นต์แทบจะสิงร่างผมอยู่แล้ว


[ ผม ]  :  อ่อ อืม น่ารักดี

[ มิ้นต์ ]  :  อ่อ

ว่ากันว่าผู้หญิงเป็นเพศที่จำฝังใจ ตอนนั้นผมในวัย 22 รู้ได้ทันทีเลยครับ เพราะมิ้นต์ดูเหมือนจะไม่พอใจ ที่ผมไปชมเพื่อนร่วมงานของเธอเอาซะมากๆ เธอก็เลยจัดการก้าวขามาขึ้นคร่อมผมอีกรอบ และผมบอกได้เลยว่ามันไม่จบแค่คร่อมแน่ๆ


[ ผม ]  :  ทำไรเนี่ย บอกว่าไม่ชอบให้ลูกค้าจับ จับนี่ แล้วมาคร่อมทำไม

[ มิ้นต์ ]  :  ก็คร่อม ไม่ได้ทำไร ทำไมมีอารมณ์เหรอ

[ ผม ]  :  ก็เออดิ่ มาคร่อมแบบนี้ผู้ชายที่ไหนก็มีอารณ์ ลุกๆ ซื๊ด


เอาแล้ว แม่สาวหน้าตึงไม่ยอมลงครับ เธอยังคงร่อนต่อไป แถมยังหน้าตาเริ่มเบี้ยวแล้วด้วย ผมเองบอกเลยว่าก็เป็นแค่ผู้ชายคนนึงไม่ใช่พระอิฐ พระปูน เจอแบบนี้ก็มีแข็งกันบ้างแหละ

[ ผม ]  :  ลุกเลยก่อนจะทนไม่ไหว


มิ้นต์ก็ยังไม่มีท่าทีที่จะหยุดร่อนครับ ผมก็ไม่รู้จะทำไงเลยคว้ามั่บไปที่ตูดเล็กๆของเธอ แต่ว่ามันไม่เล็กอย่างที่คิด มันแน่นมากๆๆ แน่นแบบกระชับแน่นเปรี๊ยะเลยอ่ะ มิ้นต์ก็สะดุ้งสิ่ครับเพราะไม่คิดว่าผมจะทำแบบนี้ แน่นอนว่าสันดารผู้ชายที่ตอนนี้ทั้งยังมีอาการเมา และมีผู้หญิงน่ารักมาคร่อมแบบนี้ มันก็ต้องเริ่มทนไม่ไหว ผมบีบตูดแน่นๆของมิ้นต์ไม่หยุด ส่วนเธอเองก็มองค้อนราวกับไม่พอใจ


ตอนนั้นผมคิดเลยนะ พลาดจากน้องดาวไป ยังไงก็ขอน้องมินต์ละกัน แต่ว่าพอผมคิดจะเอาจริงๆ เสียงลึกๆในหัวแม่งดังขึ้นมาว่า ไอสัดไม่มีถุงยาง ผมไม่ได้ดูถูกอาชีพของมิ้นต์นะ มันคืองานของเธอที่ทำให้เธอมีรายได้ แต่มันคนละเรื่องกันกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะผมไม่รู้ว่ามิ้นต์ ทำแบบนี้กับลูกค้าคนอื่นๆรึเปล่า ไม่รู้ว่าเธอมีอะไรกับคนอื่นๆมาหรือเปล่า แน่นอนว่าถ้าผมเอาสดๆล่ะก็ เสี่ยงชิบหายเลย


ไหนจะโรคที่ไม่รู้ว่าจะมีรึเปล่า และอีกอย่างถ้าเกิดมิ้นต์ท้องขึ้นมาล่ะ ผมในวัยแค่นั้นคงไม่มีปัญญาเป็นพ่อคนแน่ๆ ในขณะที่ผมมัวแต่คิดงุ่นง่านนั้น ผมก็เงยหน้ามามองมิ้นต์ซึ่งตอนนี้เธอหน้าตาแบบว่ากำลังได้ที่เลย ปากทั้งสองก็เริ่มบิดเบี้ยวเพราะความเสียว จากการที่ผมบีบตูดของเธอ

ผมคิดในใจตอนนั้นว่ามันเสียวขนาดนั้นเลยเหรอวะ แค่บีบตูดเนี่ย ตอนนี้อารมณ์ของผมเองก็เริ่มไปแล้วเหมือนกัน จากมือทั้งสองที่บีบตูดของมิ้นต์ ผมเริ่มเปลี่ยนมาแซะๆที่หน้าท้องแบนราบของเธอ แน่นอนว่าผมเองก็มีประสบการณ์มาบ้าง ถึงแม้จะไม่มากมายก็เถอะ แต่เรื่องบิ๊วแค่นี้สบายมาก


[ มิ้นต์ ]  :  ซื๊ดดด

เสียงของมินต์เริ่มดังขึ้นพร้อมกับก้มมองลงมาที่ผม แววตาของเธอเปลี่ยนไปแล้ว มันเริ่มเยิ้มๆและบอกกับผมเป็นนัยๆว่า ทำอะไรน่ะ มือผมก็ค่อยๆเลื้อยไป แซะไปเรื่อยๆ แต่มิ้นต์เองก็ไม่ได้มีท่าทีจะห้ามอะไร จนกระทั่ฃอีกนิดเดียวผมก็จะได้สัมผัสเนิ่นหน้าอกของเธอแล้ว เธอกลับหยุดร่อนและมาจับมือของผมเพื่อให้หยุดเพียงเท่านั้น


เสียงหอบกระเส่าของหญิงสาวยังคงดังต่อเนื่อง ส่วนผมเองก็แข็งปั้กเต็มที่แล้ว แต่การจะใช้กำลังมันก็เกินไป และยิ่งถ้ามิ้นต์ร้องขึ้นมา ผมคงจมตีนคาร้านแน่ๆ ตอนนั้นมีทางเลือกให้ผมแค่สองทางคือหยุดทำ และ ฝืนแรงทำต่อไป

แต่จะว่าไปทำไมผมต้องคิดแค่ 2 ตัวเลือกล่ะในเมื่อมันมีตั้งหลายทาง ก็มิ้นต์ไม่ได้ห้ามผมขยำตูดนี่หว่า ใช่มั้ยครับรีดเดอร์ มือที่ถูกมิ้นต์จับไว้ผมก็เกร็งๆสู้แรงนิดๆ แต่อีกมือผมก็ยังขยำตูดของเธอต่อไป คนมันเคยๆแค่มองตาก็รู้ ว่าต้องการอะไร ตอนนี้ผมเองก็อยากจะเอาเธอจริงๆแล้วล่ะ


แน่นอนว่าพอโดนกระตุ้นมากๆ มิ้นต์เองก็คงทนไม่ไหว มืออีกข้างของผมเป็นอิสระและแน่นอนผมไม่รอช้าที่จะเลื้อยขึ้นไปสัมผัสเนินนมของแม่สาวดริ๊งค์คนนี้

[ มิ้นต์ ]  :  ซื๊ดดด ให้จับแล้วยังขยำอีก

มิ้นต์บ่นขึ้นมาทันที ที่ผมเริ่มออกแรงบีบ เอ้าก็คนกำลังมีอารมณ์ แถมนมก็เต็มมือผมก็อยากจะบีบไว้บ้าง ตอนนี้มิ้นต์อารมณ์ก็มาเต็มเหมือนกัน


เธอเปลี่ยนจากการร่อนมาเป็นขย่มเบาๆราวกับอยากจะระบายอารมณ์ออก ตอนนี้ผมกับเธอมีเพียงแค่เนื้อผ้าที่มันกั้นอารมณ์ระหว่างเราเท่านั้น


[ ผม ]  :  ขอได้เปล่า ( ขอ เย ได้มั้ย )


ตอนนั้นผมคิดอะไรก็ไม่รู้นะครับที่ถามไปตรงๆแบบนั้น ถามแบบไม่ได้ดูหน้าตัวเองเลยไปพูดตรงๆแบบนั้น และแน่นอนคำตอบก็คือ

[ มิ้นต์ ]   :   ไม่


อ่ะแน่นอนผมก็หน้าเสียไปดิ่แบบนั้น แต่ผมเองก็ยังไม่หมดอารมณ์นะ ผมเริ่มบิ๊วไปเรื่อยๆ มิ้นต์เองถึงแม้จะปฏิเสธผม แต่ก็ไม่ได้ห้ามให้ผมทำอย่างอื่น แน่นอนว่านิสัยได้คืบจะเอาศอกมันก็ต้องมีกันทุกคน ใช่มั้ยครับรีดเดอร์ทั้งหลาย


แน่นอนว่าได้ได้บนแล้วก็ต้องได้ล่างด้วย ผมพยายามแซะๆๆมือลงไปยังที่นาผืนน้อยของมิ้นต์ แต่ดูเหมือนว่าแม่นางจะรู้ทัน มิ้นคว้ามั่บที่มือของผมทันที ที่มันเริ่มผ่านขอบกางเกงในตัวจิ๋วของเธอ ผมสัมผัสได้ถึงเนินโหนกที่มันเกลี้ยงเกลา ก็อย่างว่าแหละครับทำงานแบบนี้ ใส่กางเกงรัดๆแบบนี้ก็คงจะกลัวเรื่องอับชื้นเป็นธรรมดา

[ มิ้นต์ ]   :  พอเลยให้จับแค่ข้างบน ข้างล่างห้ามนะ

มิ้นต์ทำเสียงดุผมจริงๆครับ แต่นางก็ยังไม่ลงไปจากเอวผมซักที ผมก็เอาใหม่ เริ่มบี้เริ่มคลึงที่ก้นงามๆของน้องมิ้นต์ เธอเริ่มแหงนหน้าซู๊ดปากเพื่อระบายความเสียวบางแล้ว


เสียง อ๊ะ ของเธอดังมาอีกครั้ง เมื่อผมก้มไปงับที่ทรงอกของเธอผ่านเสื้อสายเดียวของเธอ แน่นอนว่ากัดไม่โดนเนื้อในหรอก แต่มันก็ทำให้เธอเสียวบ้างแน่ๆ


[ มิ้นต์ ]  :  ทะลึ่ง จะกัดนมหนูเหรอ


[ ผม ]  :  ก็เห็นว่าทำไรล่ะ ( ตอนนั้นมั่นหน้ามาก )



น้องมิ้นต์สาวดริงค์บ่นอุปเพราะผมเริ่มจะทำเลยเถิดมากเกินไป แต่ว่ารีดเดอร์คิดว่าไงครับ คิดว่าผมจะหยุดเหรอ ก็ไม่ ขึ้นมาร่อนให้ขนาดนี้ยอมให้บีบนมขนาดนี้ ยังไงซะน้องมิ้นต์เองก็ต้องมีอารมณ์บ้างล่ะ


บ่นนักก็ทำให้เงียบซะ ผมลูบเนินสวาทของเธอผ่านเนื้อผ้า จนน้องมิ้นต์ถึงกับสะบัดหน้าเคลิ้ม และจังหวะนั้นเอง ผมยื่นปากเข้าไปประกบจูบกับริมฝีปากบางๆของมิ้นต์ทันที แน่นอนว่าเธอไม่ยอม มิ้นต์ดึงหน้าตัวเองออกไปทันทีและเช็ดปากอย่างไว


[ มิ้นต์ ]  :  ทำอะไรเนี่ยพี่


[ ผม ]  :  เอ่อ


ตอนนั้นผมเริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าผมแม่งพลาดจริงๆ ไอ้เชี่ยไม่ได้สำเนียกตัวเองเลย อยู่ดีๆจะไปจูบแบบนั้นยังไง หน้าตากูก็ไม่ได้หล่อปานสเตฟาน และแน่นอนน้องมิ้นต์ก็ลุกขึ้นจัดแจ้งเสื้อผ้าและเดินออกไปทันที


จูบของผมมันทำให้ทุกอย่างพังเลยครับรีดเดอร์ ตอนนั้นผมแม่งโคตรเฟลเลย จากที่จะได้จะได้อยู่ลอมล่อ พอมั่นหน้ามั่นโหนกไปจูบเขาทีเดียว จบเลย ผมไม่รู้จะไปขอโทษและอธิบายยังไง เพราะต่อให้อ้างว่าอารมณ์พาไปผมก็จงใจจูบเธออยู่ดี


[ ผม ]  :  เฮ้อ อดแดก


ผมบ่นกับตัวเองแบบนั้นจริงๆ ถึงจะบอกตัวเองว่าตั้งใตมากินเหล้า ไม่ได้ตั้งใจมาหาหญิงแต่แรก แต่ว่ามันก็อดที่จะเสียดายไม่ได้จริงๆครับ แต่ดูเหมือนว่าผมจะพอมีโอกาสแก้ตัว



เพราะประตูที่น้องมิ้นต์เดินออกไปเมื่อกี้ มันได้แง้มขึ้นมาอีกครั้ง ผมคิดในใจว่ายังไงก็ต้องขอโทษน้องมิ้นต์ให้ได้ ยังไงซะวันนี้ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ยังไงก็ควรขอโทษไว้ก่อน


แต่ว่าผมนั้นคิดผิดมหันต์เลยครับเพราะคนที่เข้ามาไม่ใช่น้องมิ้นต์ แต่เป็นหญิงสาวในชุดเกาอกสีดำ และกระโปรงสั้นๆฟิตแน่น คนที่เข้ามาในห้องผมคือ น้องดาวครับ



 








เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

xxZxcxx



Treo Chan




biggiggog

งานนี้นึกว่าจะอดซะแล้ว
กลับมามีลุ้นต่อซะงัน
ขอบคุณครับ

nujane_dude


aumoum


KwangPloy

 ::Bloody::


ปรกติจะเห็นพี่โทน ในผลงานเทพวายุ
พอมาเขียนแนวเนื้อเรื่องบอกเล่าประสบการณ์แบบนี้ กลับยิ่งสนุกอ่านเพลินมากขึ้นไปอีก บรรยายได้เห็นภาพมาก เหมือนไปเกะด้วยกันเลย


แต่น้องดาวเข้ามาหาเอง หรือว่านางจะชอบโทนเป็นการส่วนตัวหรือป่าว!

ลุ้น..

แต่คิดว่าโทนต้องเสียตัว! แน่ๆละคืนนี้



Pra-in

แล้วจะได้ใครไม๊เนี่ย ถุงยางก็ไม่มี เล่าเรื่องได้ดีมากๆครับ


ssaa3112