ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

อาถรรพ์ปลัดขิก ภาค 2 ตอนที่ 6 เข้ม อดีตชาติของป๊อด

เริ่มโดย Kamen Rider V-3, พฤษภาคม 26, 2020, 03:29:18 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

Kamen Rider V-3

คุยก่อนอ่าน

ตอนนี้เข็นออกมาช้าหน่อย  เพราะงานการเริ่มกลับเข้ามาเป็นปกติแล้ว ทีแรกตั้งใจจะลงทีละสองตอนอยากให้เรื่อง
มันเดินหน้าไปไวหน่อยเพราะมีหลายท่านบ่นๆมาอยากให้ป๊อดกลับไปบ้านมากกว่าอยู่ที่บ้านลับแลนี้    ก็ขอแจ้งให้
ทราบครับว่ากลับแน่แต่ขอให้เป็นไปตามพล็อตเรื่องที่วางไว้ก่อน ไม่นานเกินรอแน่ๆครับ


-------------------------------------------


หลังจากผู้ใหญ่ทอง คง และ กระแต ไม่ประสบความสำเร็จในการเจรจา และต้องกลับบ้านใต้ไปก่อนเพราะ
ดูจากท่าทีของผู้ใหญ่ชุ่มและคนบ้านเหนือ เหมือนจะไม่ยอมส่งคนที่ยิงปลั่งมาให้ลงโทษง่ายๆ อีกทั้งทางฝั่ง
ของตนก็มาเพียง 4 คน ผุู้ใหญ่ทองจึงออกอุบายให้เวลา 3 วัน จะกลับมาอีกครั้ง  เพราะตั้งใจว่า การกลับมา
บ้านเหนือในครั้งหน้าจะเตรียมกำลังคนให้พร้อมและลากตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้


ในระหว่างเดินทางกลับบ้านใต้ ผู้ใหญ่ทองก็มีอารมณ์เย็นลง จึงใคร่ครวญลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วก็เกิด
ความสงสัยจึงเอ่ยถามไอ้ปลั่งขึ้น


"เฮ้ย ปลั่ง  เมื่อคืนก่อนเอ็งไปทำอะไรที่บ้านเหนือตอนค่ำๆมืดๆวะ"


ไม่มีเสียงตอบจากปลั่ง จนผู้ใหญ่ทองต้องถามขึ้นอีกครั้งด้วยเสียงที่ดังขึ้นกว่าเก่า


"ไอ้ปลั่ง  กูถามว่า เมื่อคืนมึงไปทำอะไรที่บ้านเหนือตอนค่ำๆมืด"


"เอ่อ....เอ่อ....ฉันไปทำธุระมาจ้ะ"


"ธุระอะไรวะ  มึงตอบมาให้ชัดๆได้ไหม  กูชักรำคาญแล้วนะ"


"ฉันไปหาญาติจ้ะ"


"ไปหาญาติแล้วทำไมต้องกลับตอนค่ำมืดๆ ให้พวกบ้านเหนือมันยิงเอา"


"ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ  ก็ฉันแค่อยากจะถึงบ้านไวๆ"


ผู้ใหญ่ทองฟังคำตอบของปลั่งแล้วรู้สึกไม่สมเหตุสมผล  แต่เมื่อไม่มีอะไรจะถามต่อจึงเฉยเสีย  และตั้งใจว่า
เมื่อถึงบ้านใต้จะสอบสวนเรื่องนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง  แต่ในระหว่างเดินทางต่อนั้นเองผู้ใหญ่ทองก็สังเกตเห็น
หมาราว  3 ถึง 4 ตัว กำลังรุมทึ้งของสิ่งหนึ่งอยู่ที่พุ่มไม้ข้างทาง จึงเพ่งตามองอย่างพิจารณาก็เห็นว่าเป็นซากวัวตัวหนึ่ง
ผู้ใหญ่ทองจึงให้หยุดเกวียนแล้วลงไปดูใกล้ๆพร้อมกับ  คง และกระแต


"ใครเอาวัวมาฆ่าทิ้งที่นี่ล่ะพ่อ"


กระแตถามขึ้นเมื่อเห็นซากวัวนอนตายในสภาพที่สมบรูณ์  แต่บริเวณท้องกลับถูกแหวะออกจนเป็นรูโบร๋ว
แล้วถูกฝูงหมาใช้ปากกัดกระชากส่วนท้องออกมากินอย่างชุลมุน

ผู้ใหญ่ทองมองซากวัวแล้วก็คิดถึงคำพูดของผู้ใหญ่ชุ่มขึ้นมาได้  จึงเอ่ยถามปลั่งขึ้นอีกครั้ง


"ไอ้ปลั่ง  ผู้ใหญ่ทองเขาให้วัวมึงมาหรือป่าววะ"

"ปะ  ปะ  ป่าว จ้ะ   ไม่ได้ให้   ไม่ได้ให้อะไรฉันเลยจ้ะ"


ผู้ใหญ่ทองไม่เอ่ยอะไรอีก  ให้สัญญาณเกวียนเดินทางต่อ แต่สีหน้ายังกังวลและเต็มไปด้วยความครุ่นคิด

---------------------------


ที่บ้านของผู้ใหญ่ชุ่มในตอนค่ำของวันนั้น  หลังจากเสร็จสิ้นจากการวางแผนให้ลูกบ้านจัดเวรยามเฝ้าระวังเผื่อว่าปอบ
มันจะกลับมาอีกครั้ง  ผู้ใหญ่ชุ่มก็กลับบ้านเข้าห้องนอนทันที เพราะต้องการจะอยู่คนเดียวเงียบๆอย่างใช้ความคิด
ถึงแผนรับมือคนของผู้ใหญ่ทองในอีก 3 วันข้างหน้า  เขารู้ดีว่าคนของผู้ใหญ่ทองนั้นมีทักษะการต่อสู้ดีทุกคน  ซึ่งเมื่อเทียบกับ
ลูกบ้านของเขาแล้ว ก็ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบของบ้านใต้เป็นอย่างมากหากต้องปะทะกัน


ส่วนช้อยที่นอนในห้องชั้นบนติดกับห้องของผู้ใหญ่ชุ่ม ก็ครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับป๊อดในตอนเช้าที่ผ่านมา
มันเป็นความสัมพันธ์ที่ดื่มด่ำและหวาบหวามอย่างที่เธอไม่เคยรู้สึกมาก่อน  แต่อีกใจก็รู้สึกผิดที่ปล่อยตัวปล่อยใจให้กับ
ชายแปลกหน้าที่พึ่งเข้ามาในหมู่บ้านเพียงไม่กี่วัน  เธอกังวลถึงอนาคตว่าจหากพ่อเธอรู้เรื่องนี้เธอจะทำอย่างไร


ถัดลงมาชั้นล่างในห้องเก็บของที่ช้อยได้จัดให้เป็นห้องนอนของป๊อด  ภายในห้องป๊อดกำลังนอนก่ายหน้าผากมองดูเพดานมุ้ง
อย่างใช้ความคิด  เขาคิดถึงเรื่องเมื่อบ่ายที่เขาเสียทีถูกผู้หญิงบ้านใต้หน้าหวาน  ถีบจนล้มลงไปกองกับพื้นอย่างไม่เป็นท่า 
แม้จะรู้สึกเจ็บใจอยู่บ้างที่ถูกผู้หญิงถีบจนเสียเชิงชาย แต่ก็กลับมีความรู้สึกหนึ่งที่พลุ่งพล่านมากกว่าตามประสาของผู้ชายเจ้าชู้ 
นั่นก็คือเขาอยากจะรู้จักและได้พบหญิงสาวคนนั้นอีกสักครั้ง  เขาต้องการจะปราบพยศให้เธอยอมสยบต่อเขาให้ได้

ในขณะที่ป๊อดครุ่นคิดถึงกระแตอยู่  ใบหน้าของคงก็ลอยเข้ามารบกวนจิตใจ เขารู้สึกเกลียดรอยยิ้มและชังน้ำหน้าของคง
อย่างไม่มีสาเหตุจนต้องสลัดความคิดนั้นไปให้พ้นหัวของเขา  แล้วพยายามข่มตาให้หลับ

ยิ่งดึกทั่วบริเวณบ้านก็ยิ่งเงียบสนิท  แต่ป๊อดก็ยังไม่สามารถข่มตาหลับลงได้ เขาคิดจะย่องไปหาช้อยเพราะยังติดใจในรสรัก
ที่พึ่งสมหวังไปเมื่อเช้า แต่ก็ติดตรงที่ผู้ใหญ่ชุ่มก็นอนอยู่ในห้องที่ติดกันจึงล้มเลิกความคิดไป  แล้วมาหวนคิดถึงความปลอดภัย
ของคนที่บ้านแทน  แต่เขาก็ยังเบาใจลงได้เพราะได้ฝากโหงพรายให้ช่วยดูแลเอาไว้แล้ว  หากมีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้นมันก็คง
จะกลับมารายงานเขาทันที 

ป๊อดปล่อยความคิดไปเรื่อยจนรู้ตัวว่าคืนนี้เขาคงจะไม่หลับง่ายๆแน่  จึงคิดที่จะทบทวนการเข้าฌาณรำลึกอดีตชาติตามที่หลวงปู่
ในป่าได้สอนไว้   เมื่อครั้งก่อนเขารู้แต่เพียงว่าในอดีตชาติเขามีชื่อว่าเข้ม ถูกพ่อนำมาฝากให้อยู่กับขุนเรือง แต่แล้ว
สมาธิฌาณของเขาก็เสื่อมกำลังลงเพียงแค่นั้น

ป๊อดนั่งในท่าคุกเข่าพนมมือกราบลงกับหมอนสามครั้งแล้วรำลึกถึงหลวงปู่ในป่า  จากนั้นก็เปลี่ยนมาเป็นนั่งขัดสมาธิแล้วปิดตาลง
ภาวนากสินไฟจนจิตของเขานิ่งเข้าสู่ระดับฌาณ  ป๊อดเพ่งมองไปที่กลางดวงกสิณจนมันสว่างเจิดจ้าแล้วจึงตั้งจิตอธิษฐาน
เพื่อระลึกย้อนหลังถึงอดีตชาติ


ภาพในอดีตชาติค่อยๆปรากฏขึ้นเป็นภาพจางๆ  จากนั้นจึงค่อยๆชัดขึ้นทีละน้อยๆตามลำดับ 


เขาเห็นตัวเองในร่างของเข้มกำลังพูดคุยกับนายหมู่จันดี

"ไอ้เข้ม  จากนี้ไปเอ็งต้องเป็นคนไปหาบน้ำมาเทใส่ตุ่มให้เต็มทุกใบ  ถ้าฟืนหมด เอ็งก็ต้องไปผ่าฟืนมาให้ห้องครัวเขา เข้าใจไหม 
อ้ออีกอย่างเอ็งต้องช่วยเขาตำข้าวใส่กระบุงในครัวอย่าให้ขาดล่ะ"


เข้มมีสีหน้าไม่สู้เต็มใจนัก 

"ทำไมฉันได้ทำงานอยู่คนเดียว  คนอื่นๆไม่เห็นต้องทำเลย  นั่นหน่ะพวกมันซ้อมมวยกันอยู่  ทำไมไม่ให้ฉันซ้อมมวยเหมือนพวกมันบ้าง"


เข้มชี้มือไปยังกลุ่มเด็กหนุ่มราวสิบกว่าคน  ที่กำลังจับคู่กันซ้อมมวยกันอย่างขะมักเขม้น


"ไม่ได้เว้ย   เอ็งพึ่งจะมาถึงก็จะซ้อมมวยเลยรึ  เอ็งต้องทำงานฝึกกำลังให้อยู่ตัวก่อน  หนอยจะซ้อมมวยเดี๋ยวข้า
ก็ส่งไปให้พวกมันเตะให้ตายซะหรอก"


"แล้วเมื่อไหร่ฉันจะได้ฝึกมวยล่ะ น้าจันดี"


"อีก 3 เดือน  ทุกคนที่เข้ามาใหม่ที่นี่ เขาทำอย่างนี้กันทุกคน เอ้ารีปไปตักน้ำซะข้าไปก่อนล่ะ"



เข้มมีนิสัยดื้อรั้น  ไม่เชื่อคำใครง่ายๆ พอจันดีเดินจากไปแล้ว เข้มก็เดินเข้าไปหาเด็กหนุ่มคู่หนึ่งที่จับคู่ซ้อมมวยกันอยู่ 
และหนึ่งในนั้นก็คือไอ้ด่ำ  มันเป็นเด็กโข่งที่มีอายุมากที่สุดในค่าย และมีนิสัยค่อนข้างเกเรชอบกลั่นแกล้งคนอื่นอยู่เป็นประจำ
มันแอบมองและฟังเข้มคุยกับนายหมู่จันดีอยู่นานแล้ว  พอเข้มเดินเข้ามาดูมันใกล้ๆมันก็หยุดแล้วหันมามองเข้มอย่างพิจารณา
พอเห็นว่าเข้มตัวทั้งผอมทั้งเล็กก็ยิ้มอย่างกระหยิ่มใจแล้วเอ่ยขึ้น


"เฮ้ย.....เอ็งชื่ออะไรวะ"


"ข้าชื่อเข้ม    แล้วเอ็งล่ะ"


"ข้าชื่อด่ำ  เป็นหัวหน้าของไอ้พวกนี้   ได้ยินว่าพึ่งมาอยู่วันนี้ ทำไมไม่ไปหาบน้ำก่อน  จะมาซ้อมมวยเลยรึ"


"ทำไมต้องหาบน้ำก่อน....ซ้อมมวยไม่เห็นยากอะไร   ต่อยข้าก็ต่อยเป็น เตะข้าก็เตะเป็น"


ด่ำฟังแล้วก็รู้สึกหมั่นไส้ 


"ได้....งั้นเอ็งจะลองซ้อมกับข้าดูไหมล่ะ" 

"เอาสิ"


แล้วด่ำก็ตั้งท่ามวยโดยจรดมวยกว้าง ทิ้งน้ำหนักตัวไปข้างหลัง  เท้าหน้าสัมผัสพื้นเพียงเบาๆ แบบพร้อมที่จะออกอาวุธ
ได้ไกลอย่างไม่พลาด เข้มเห็นอย่างนั้นก็ยกสองมือขึ้นกำหมัดแบบไร้รูปแบบเตรียมที่จะออกหมัด  ตาจ้องมองไอ้ด่ำ
อย่างเตรียมพร้อมรับหากมันออกอาวุธมา   แต่ก็ทำได้เพียงแค่คิด   พลันด่ำก็ถ่ายน้ำหนักมายังเท้าหน้าแล้วเหวี่ยงเท้าหลัง
เตะไปที่หัวไหล่ของเข้มอย่างถนัดถนี่  เสียงแข้งกระทบเนื้อต้นแขนเปลือยเปล่าของเข้มดัง  เผี่ย!

ร่างของเข้มเซไปตามแรงตีนของด่ำ  ถลากลิ้งไกลออกไปอย่างเป็นท่า ท่ามกลางเสียงหัวเราะของคู่ซ้อมคนอื่นๆที่พากัน
หยุดแล้วมาล้อมดูมวยระหว่างด่ำกับเข้ม

เข้มรู้สึกเจ็บที่หัวไหล่ซ้ายมองลงไปเห็นหัวไหล่ตัวเองแดงเป็นปลื้น  แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้รีบลุกขึ้นตั้งหมัดแล้วเดินเข้ามาใหม่ 
ด่ำเห็นว่าเข้มเดินตรงเข้ามาแบบไร้เชิงมวยก็ยิ้มที่มุมปาก  ตั้งท่ามวยในแบบเดิมแต่สลับข้างรอเอาไว้ พอเข้มเข้ามาใกล้ก็ยกเท้าหลัง
ถีบออกไปอย่างเต็มแรง เข้มมัวแต่ระวังเท้าข้างเดิม พอโดนถีบเต็มแรงเข้าเช่นนั้นร่างของเขาก็เซถลาถอยหลัง แล้วล้มม้วนตัว
กลิ้งไปตามแรงตีนท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่างขบขันของคนอื่นๆอีกครั้ง


เข้มรู้สึกทั้งเจ็บทั้งอาย  ก่อนหน้านั้นตอนอยู่ที่บ้านหากมีเรื่องชกต่อยกับใคร เขาก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะโดนคู่ต่อสู้กระทำข้างเดียวแบบนี้ 
เขาจึงแค้นใจและคิดจะเอาชนะไอ้ด่ำให้ได้  รีบยันตัวลุกขึ้นมาแล้วกระโจนเข้าไปหาไอ้ด่ำอย่างรวดเร็ว  ไอ้ด่ำถูกจู่โจม
โดยยังไม่ทันระวังตัวก็ถูกหมัดของเข้มต่อยเข้าเต็มหน้าอย่างจัง จนมันเป็นฝ่ายล้มลงก้นจ้ำบ้ำอยู่กับพื้น


คราวนี้ไม่มีแม้แต่เสียงหัวเราะ เพราะทุกคนรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าไอ้ด่ำมันเอาจริงขึ้นมา  ไอ้ด่ำเอามือลูบปากข้างที่โดนต่อยก็เห็นเลือด
ติดมือมันออกมา  สีหน้าของมันก็เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดขึ้นทันที  มันลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปหาเข้มที่กำลังตั้งท่าอยู่อย่างดีใจที่สามารถ
ทำให้คู่ต่อสู้ล้มลงได้บ้าง  แล้วปราดเข้าไปหา พร้อมกับยกเท้าเตะไปที่ชายโครงของเข้มเต็มแรง

เผี่ย!!...

เข้มใช้แขนออกบังไว้ได้ทัน แต่ก็รู้สึกถึงความแรงของการเตะจากไอ้ด่ำจนเจ็บและแสบไปทั้งแขน  ด่ำยังคงเดินปรี่เข้ามาแล้วต่อยหมัดตรง
เข้าที่หน้าของเข้มอย่างจัง  หน้าของเข้มผงะเซถลาไปข้างหลัง  ด่ำไม่รอช้าปราดเข้าไปซ้ำด้วยหน้าแข็งตรงบริเวณชายโครงอีกที
คราวนี้หน้าแข้งของด่ำถูกเข้าที่ชายโครงของเข้มอย่างจัง  เข้มเซไปสองสามก้าวแล้วรู้สึกจุกแน่นจนหายใจไม่ออกค่อยๆทรุดตัว
ลงไปกองกับพื้น  โดยมีด่ำเดินตามไปยืนค้ำอยู่ใกล้ๆ


"เฮ้ย.....ลุกขึ้นมาอย่าใจเสาะ"


เข้มเงยหน้าขึ้นมองดูไอ้ด่ำแล้วกัดฟันฝืนลุกขึ้น  แต่ยังไม่ทันที่จะยืนได้เต็มตัว ไอ้ด่ำก็ยกเท้าเตะรวบขาทั้งสองข้างของเข้มในท่าเถรกวาดลาน
จนเข้มล้มลงก้นจ้ำเบ้าอยู่กับพื้น

เข้มไม่ยอมแพ้พยายามที่จะลุกขึ้นอีกครั้ง ก็ถูกไอ้ด่ำยกเท้าถีบจนเซถลาล้มกลิ้งลงไปอีก แล้วมันก็เดินตามไปติดๆเหมือนจะไม่ยอมให้เข้ม
ได้พักตั้งตัว จนมิ่งซึ่งมองดูอยู่นานแล้วทนดูไม่ได้ร้องห้ามขึ้น


"เฮ้ย....ด่ำ พอเถอะวะ  มันไม่เป็นมวย"


"ด่ำหันมามองมิ่งอย่างเคืองๆ   มันต่อยกูปากแตกมึงเห็นไหม  รึคนเป็นมวยอย่างมึงจะมาออกรับแทน"


พอเจอลูกพาลของด่ำ  มิ่งก็นิ่งแล้วหลบออกไป   ด่ำจึงหันมามองเข้มที่กำลังลุกขึ้นยืน

"มึงทำกูปากแตก   กูขอเอาคืนนะ"


แล้วด่ำก็เหวี่ยงหมัดไปที่หน้าของเข้มตรงครึ่งปากครึ่งจมูก   เข้มล้มลงไปอีกครั้งแต่คราวนี้ที่จมูกและปากของเขาเต็มไปด้วยเลือด
ที่พรั่งพรูออกมาจากรูจมูก


แต่แล้วก็มีเสียงแหลมร้องดังออกมาจากในครัว

"ตายแล้ว......ไอ้ด่ำ  เอ็งจะเกเรมากไปแล้วนะ  อะไรวะมันพึ่งมาได้วันเดียวเอ็งก็รังแกมันจนเลือดตกยางออกเลยรึ"


วาด เป็นลูกมือคนครัวหญิงออกมาเห็นเข้าพอดี  จึ่งวิ่งร้องออกมาอย่างตกใจแล้วโผเข้าไปประคองเข้มขึ้นมา





"ดูสิ ปากแตก  เลือดกำเดาไหลเต็มหน้าเลย  ไอ้ด่ำข้าจะไปฟ้องนายหมู่จันดี"


พอได้ยินอย่างนั้น ด่ำก็เริ่มกังวลกลัวจะถูกลงโทษ  รีบเอ่ยขึ้น

"แหม   พี่วาด  พี่ดูสิ ฉันก็ปากแตกเหมือนกันนะ  มันทำชั้นก่อนเห็นไหมเนี่ย"

วาดมองค้อนไอ้ด่ำ  แล้วไม่สนใจมันอีกประคองเข้มเข้าไปในครัวเพื่อทำแผลทันที

--------------------

แล้วป๊อดก็หลุดออกมาจากฌาณด้วยความตื่นเต้น  ภาพและเหตุการณ์ที่เขาได้ย้อนอดีตชาติไปพบเห็นนั้น
มันเหมือนราวกับว่าเขาได้ไปสัมผัสมาด้วยตัวเองจริงๆ  ทั้งความรู้สึกเจ็บแค้น  และเจ็บปวดตามร่างกาย ทั้งรู้สึกขอบคุณ
วาดหญิงสาวรุ่นพี่ที่มีใจกรุณาเอื้อเฟื้อต่อเขา  ป๊อดต้องการจะรู้เรื่องในอดีตชาติเพิ่มเติมอีกว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป 
จึงหลับตาลงเข้าฌาณสมาธิอีกครั้ง  จากนั้นภาพลางเลือนจากอดีตชาติก็ค่อยๆปรากฏชัดขึ้น


มันเป็นเวลาเย็นที่ลานดินหน้าโรงครัว  วาดและแม่ครัวนำข้าวที่หุงเสร็จใหม่ๆ และอาหารออกมาตั้ง  และตักอาหารใส่จานให้กับ
ทหารฝึกหัดที่มาเข้าแถวรอรับอาหาร  เข้มก็เดินไปรับอาหารแล้วออกมากินร่วมกันกับคนอื่นๆ  ขณะที่เขากำลังกินอาหาร
อย่างเอร็ดอร่อยเพราะเหนื่อล้ามาทั้งวัน  ด่ำก็ถือจานข้าวเดินเข้ามาหา


"เฮ้ย  ไอ้เข้ม มึงพึ่งเข้าใหม่  เอาไข่มาให้กูซะ ตามธรรมเนียม"


เข้มเงยหน้ามองตาขวาง 

"ธรรมเนียมอะไรของมึงวะ   กูไม่ให้"


"มึงอยากเจ็บตัวอีกใช่ไหม  กูเป็นหัวหน้าที่นี่ใครมาใหม่ ต้องทำอย่างนี้ทุกคน"

เข้มยืนขึ้นมองหน้าด่ำ ด้วยแววตาที่พร้อมจะสู้อีกครั้ง  แต่แล้วมิ่งก็ยืนขึ้นเอาตัวบังร่างเข้มไว้แล้วเอาไข่ในจานตัวเองส่งให้ด่ำ


"เอ้า  ข้าเอาของข้าให้แทนมันก็แล้วกัน"


ด่ำมองหน้ามิ่งแล้วหันไปเอ่ยขึ้นกับเข้ม

"มื้อหน้ากูจะมาเอาค่าธรรมเนียมกับมึงอีก"


แล้วด่ำก็เดินจากไปพร้อมกับไข่ของมิ่ง   เข้มหันไปมองหน้ามิ่งแล้วเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ

"เอ็งจะให้มันไปทำไมวะมิ่ง"



"ถ้าไม่ให้ เอ็งก็จะโดนมันซ้อมอีก  เอ็งสู้มันได้เหรอวะ"


"สู้ไม่ได้ข้าก็จะสู้   เรื่องอะไรจะให้มันมาทำฝ่ายเดียว"


"ตัวมันใหญ่กว่าเอ็งมาก  แล้วก็เป็นมวยมาก่อนเอ็งหลายปี  เอ็งไม่มีทางสู้มันได้หรอก"


"แล้วเอ็งล่ะมิ่ง  เอ็งทำไมไม่สู้มัน  เอ็งก็ฝึกมวยมาไม่น้อยไปกว่ามันนี่หว่า"


มิ่งก้มหน้าลงอย่างละอาย  แล้วจึงเอ่ยขึ้น

"ที่จริงข้าก็ไม่ชอบขี้หน้ามันเหมือนกัน  แต่ข้าไม่กล้าว่ะ  ตัวมันใหญ่  แรงมันก็เยอะ"


เข้มนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยขึ้น

"งั้นเอาอย่างนี้ไหม  เอ็งกับข้าจับมือกัน  ถ้ามันมาหาเรื่องกับเราคนใดคนหนึ่ง  เราจะสู้กับมันด้วยกัน"


มิ่งทำหน้าแหยๆ  แบบลังเล

"จะดีเหรอวะ  ถ้ามันไม่ล้มเราจะแย่นะเว้ย"

"เถอะน่าเรามีสองคนจะกลัวอะไร ไม่ลองจะรู้เหรอวะ  อย่างมากก็แค่เจ็บ  ไม่อย่างนั้นมันก็จะกร่างกับเราแบบนี้ไปเรื่อยๆ"


ป๊อดติดตามภาพในอดีตชาติมาถึงตรงนี้  ก็มีความรู้สึกคล้ายจะจดจำเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไปได้ ทันใดนั้นภาพในฌาณสมาธิ
ก็เปลี่ยนเป็นรุ่งเช้าในวันถัดไปอันเป็นเหตุการณ์ที่เขาประทับใจและจดจำมันได้ดี 


หลังจากเหล่าทหารฝึกหัดตื่นนอนแต่เช้ามืดจนเวลาล่วงเข้าสู่เวลาสาย   ถึงเวลาที่จะพักกินมื้อเช้าทุกคนก็ไปพร้อมกันที่ลานดิน
หน้าโรงครัวที่เดิม   มิ่งกับเข้มหลังจากได้อาหารแล้วก็หลบออกมากินมื้อเช้าอยู่ด้วยกัน  แต่ยังไม่ทันที่ตักข้าวใส่ปาก ด่ำก็เดินเข้ามา
แล้วทวงเอาค่าธรรมเนียมกับเข้มอีก

"ไอ้เข้ม   ส่งมา  ค่าธรรมเนียมของกู"


เข้มรอเวลนี้อยู่แล้วผิดกับมิ่งที่มีสีหน้าไม่สู้ดีอยู่ตลอดเวลา   เขาวางจานข้าวลงแล้วยืนขึ้น

"ถ้ากูไม่ให้  มึงจะทำยังไงกับกู"


ดิ่งจ้องมองเข้มตาเขม็ง

"มึงอยากเจ็บตัวจริงๆใช่ไหมไอ้เข้ม"


พูดจบด่ำก็ผลักอกเข้มจนเซถลาถอยหลังไป  แล้วเดินตามติดเข้ามา

"กูขอพูดเป็นครั้งสุดท้าย  ส่งค่าธรรมเนียมมาให้กูซะไม่งั้นมึงเจ็บตัวแน่"


ฉับพลันนั้นเองเข้มก็ยกเท้าเตะไปที่กล่องดวงใจของด่ำจนมันร้องโอ้ก  เอามือกุมแล้วทรุดลงไปกองกับพื้น
เข้มไม่ปล่อยเวลาทองให้ผ่านไป เขาปราดเข้าไปคร่อมร่างไอ้ด่ำแล้วรัวกำปั้นต่อยทั้งซ้ายและขวาอย่างไม่ยอมหยุด

"นี่....นี่....นี่.......มึงจำไว้อย่าได้คิดมารังแกกูอีก  นี่....นี่....นี่......."


มิ่งจ้องมองดูเข้มที่กำลังคร่อมร่างของด่ำซึ่งตัวใหญ่กว่ามากอย่างยอมรับในความใจสู้ของเข้ม  จนเกิดเป็นแรง
ผลักดันให้เขาคิดที่จะสู้อย่างเข้มบ้าง


แต่แล้วเข้มก็ถูกนายหมู่จันดีซึ่งเดินเข้ามาเห็นเหตุการณ์พอดี  อุ้มตัวออกมาจากการคร่อมร่างของด่ำ ซึ่งในตอนนี้
หน้าตามันยับเยินจนดูไม่ได้


"ไอ้เข้ม  ไอ้ด่ำ  อะไรกันวะ กินเข้าอยู่ด้วยกันแท้ๆ กัดกันอย่างกับหมา  วันนี้พวกมึงต้องถูกลงโทษงดข้าวมื้อเย็นทั้งสองคน
แล้วอย่าให้กูเห็นพวกมึงทะเลาะกันอีก ไม่อย่างนั้นกูจะเฆี่ยนซะทั้งสองคนเลย"

เข้มยืนก้มหน้ารับฟังการลงโทษจากจันดีโดยไม่ปริปาก   ผิดกับด่ำที่มีสีหน้าเคร่งขรึมกัดกรามจนเป็นสันนูนด้วยความแค้นใจ


ตั้งแต่วันนั้นมาด่ำก็ไม่ได้มาตอแยกับเข้มอีก  แต่มันจะมองเข้มด้วยความอาฆาตแค้นทุกครั้ง  มันรอโอกาสที่ปลอดคน
หากได้เจอเข้มเมื่อไหร่มันจะเอาคืนแค้นนี้กับเข้มอย่างสาสม

---------------------------------------

ในตอนเช้าที่บ้านผู้ใหญ่ชุ่ม  ป๊อดตื่นขึ้นมาก็เป็นเวลาสายมากแล้ว เพราะเมื่อคืนเขาได้ใช้ฌาณสมาธิระลึกอดีตชาติของตนเอง
จนเวลาล่วงเข้าไปค่อนคืนจึงได้หลับลง

ป๊อดออกมาจากห้องก็ไม่พบใคร นอกจากข้อยที่เข้าไปทำงานในครัวตามปกติของเธอ  เขาจึงเดินเข้าไปหา


"ช้อย   น้าผู้ใหญ่ กับชื่นไปไหนหล่ะ"


ช้อยเอ่ยตอบป๊อดทั้งที่สองมือยังง่วนอยู่กับงานในครัว

"เข้าไปประชุมลูกบ้าน  เตรียมรับมือคนบ้านใต้ที่จะแห่กันมาหาเรื่องเราในอีก 2 วันข้างหน้า"


"หา...อะไรนะ   ทำไมเขาต้องมาหาเรื่องเราล่ะ"

ช้อยเห็นว่าป๊อดยังไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น จึงเล่าสิ่งที่ได้ยินมาจากผู้ใหญ่ชุ่มให้ป๊อดฟังทั้งหมด


"เอ  ผู้ใหญ่ทองก็ทำไม่ถูกนะ   แล้วน้าผู้ใหญ่จะทำยังไงต่อไปล่ะ"


"ไม่รู้สิ   เห็นพ่อดูกลุ้มๆอยู่นะ  ช้อยสงสารพ่อจัง"


"แต่ผมคิดว่า  ผู้ใหญ่ทองคงฟังความจากทางเขาฝ่ายเดียวและพอดีฝั่งเราก็เป็นคู่กรณีกับเขา  งั้นผมจะช่วยอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น
ให้ผู้ใหญ่ทองฟัง ผมเป็นคนนอกคิดว่าผู้ใหญ่ทองคงฉุกใจคิดขึ้นมาบ้าง  ช้อยไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ"


ช้อยหันมายิ้มให้ป๊อดเป็นเชิงเห็นด้วยแล้วก็หันไปทำงานของเธอต่อ


ป๊อดจึงมองดูช้อยก้มๆเงยๆทำงานในครัวแล้วยิ้มอยู่คนเดียว    ช้อยจดจ่ออยู่กับงานตรงหน้าได้สักพักก็รู้สึกตัวว่า
เธอกำลังจ้องมองอยู่ จึงหันมามองดูพอเห็นว่าป๊อดยิ้มอยู่คนเดียวก็นึกขำ


"บ้าไปแล้วเหรอ  เป็นอะไรยิ้มอยู่คนเดียว"


"ผมคิดถึงวันที่เราทำอะไรกันที่ริมคลอง"


 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
งานเก่าๆของผมเชิญได้ที่ ลิงค์ด้านล่าง

https://xonly8.com/index.php?topic=164918.msg651695#msg651695

ขอบคุณท่าน Kaithai ที่กรุณาจัดทำลิงค์นะครับ


Kamen Rider V-3

งานเก่าๆของผมเชิญได้ที่ ลิงค์ด้านล่าง

https://xonly8.com/index.php?topic=164918.msg651695#msg651695

ขอบคุณท่าน Kaithai ที่กรุณาจัดทำลิงค์นะครับ



chon101


Coleman

อยู่กันแค่สองคนกับข้าวในครัวจะเสร็จทันผู้​ใหญ่​กลับมารึป่าว


Pongsathorn Weerahong

ป้อด จะช่วยแก้ปัญหา จะได้สมหวังกับผญที่ถีบป้อดด้วยไง

Solderman

ช้อยจะยอมดีๆหรือจะให้ใช้น้ำมันกับอาคมลุ้นๆชอบทุกตอนที่อ่านชอบมากเลย


holovelove

ป๊อดเก่งมาก  เรื่องราวอ่านสนุกมากๆครับ  เหมือนเรื่องเพชรพอุมาเลยครับ
เหงาๆ


winnythepooh

จัดการช้อยในครัวเลย แล้วคราวหน้าก็คงถึงคึวกระแต

terapoong48