ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

เสน่ห์หาหมอผี(สาว) 7

เริ่มโดย twintower, กันยายน 03, 2020, 12:14:08 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

twintower

สายตาที่ส่งมาให้แบบนี้ของเลขาสาวสำหรับอสนีนั้นถึงจะรู้ว่าหมายถึงอะไรแต่ขอวางเฉยไว้ก่อน ส่วนลินดานั้นถึงภายในใจจะมีคำถามมากมายแต่เธอหวังว่าหลังจากที่ได้พบกับพระภิกษุที่อสนีบอก ทุกอย่างมันคงจะคลี่คลายแต่แค่นี้เธอรู้สึกโล่งใจไปพอสมควรทั้งๆที่เธอนั้นไม่สามารถที่จะเล่าเรื่องทั้งหมดได้ แต่พอคิดอีกทีเธอนั้นรู้สึกดีที่อสนีไม่มีคำถามที่อึดอัดกลับมาที่เธอ  จนคืนนั้นที่คอนโดหลังจากที่เธอนั่งบริกรรมเรียบร้อยเธอได้เรียกวิญญาณทั้งหมดมาพบ ก่อนจะเล่าเรื่องให้ฟังเกี่ยวกับคำแนะนำของท่านพระภูมิ วิญญาณทั้งหมดนั้นรู้เรื่องจากแม้นหมดแล้วทั้งเรื่องผีร้ายและเรื่องคัมภีร์ พอเจ้านายสาวมาเล่าเพิ่มเติมพร้อมขอคำปรึกษา แม้นที่มีความรู้ในเรื่องวิชาอาคมสูงกว่าทุกคนได้บอกไปที่คุณหนูหลังจากที่ฟังจนจบ

"บ่าวว่าท่านพระภูมิท่านคงรู้อะไรดีๆเจ้าคะแต่บอกได้ไม่หมดตามวิสัยของเทพผู้ทรงศีลเพราะบางเรื่องมันเป็นเรื่องที่เราไม่ควรรู้ แต่บ่าวได้แต่เดานะเจ้าคะ"

"ยังไงหรือแม้น"

"หลวงตาที่นายอสนีพูดถึง น่าจะเป็นพระที่มีวิชาอาคมสูงเจ้าคะ แต่เป็นพวกที่ไม่โอ้อวดไม่อย่างนั้นท่านพระภูมิท่านไม่แนะนำให้คุยกับนายอสนีที่คงเป็นลูกศิษย์ของหลวงตาท่านนั้นเจ้าคะ"

"อืมน่าคิด ฉันก็คิดแบบนั้นแต่ไม่กล้าถามอะไรออกไป เพราะคุณอัสก็ไม่ถามอะไรกลับนอกจากเรื่องที่ฉันโดนทำร้ายแปลว่าเขาคงพอจะเข้าใจอะไรอยู่ อันนี้ฉันคิดนะแต่ลึกๆก็ไม่รู้อะไร แล้วที่ผ่านๆมาพี่แม้นเคยเจอพระแบบนี้หรือเปล่า สายทองด้วย"

"ดิฉันไม่เคยเจอคะนายหญิง เจอแต่พวกแบบไอ้หมอสุข"

ลินดาพยักหน้า เพราะพอจะรู้ว่าสายทองหมายถึงอะไร ส่วนแม้นนั้นเสริมต่อ

"บ่าวเคยเจอเหมือนกันเจ้าคะในป่าสึก จะมีทั้งพระอรหันต์ กับพระที่มีวิชาขั้นสูง ที่ออกเดินธุดงค์ถ้าเป็นพระอรหันต์เวลาท่านบิณฑบาต พวกเราทั้งนางไม้ รุกขเทวดาจะแห่กันมาใส่บาตรกันเจ้าคะ ส่วนถ้าเป็นพระที่มีวิชาท่านพวกนี้จะเคร่งในธรรมวินัยมากแต่ยังไม่ถึงขั้นอรหันต์ท่านจะมีบทสวดมนต์เพื่อขอบิณฑบาตจากพวกนางไม้ รุกขเทวดาเจ้าคะ พอได้ยินเราบทสวดเราก็แห่กันไปใส่บาตรเพราะใส่บาตรให้พวกท่านเราจะได้บุญกันเยอะเจ้าคะ หลวงตาท่านนี้คงจะเป็นพระที่อยู่ใน2แบบนี้นะเจ้าคะ"

"ก็น่าคิดนะ แต่ก็นั่นแหละคิดไปก่อนมันก็ไม่ช่วยอะไร ทั้งๆที่ฉันมีคำถามร้อยแปด ว่า ทำไม ทำไม แต่มันก็ไม่ช่วยอะไร"

"ดิฉันว่า นายหญิงลองเล่าให้ฟังก็ได้เจ้าคะว่าที่นายหญิงคิดอยู่นั้นมีอะไรบ้าง ถึงพวกดิฉันอาจจะให้คำตอบไม่ได้แต่อย่างน้อยนายหญิงได้ระบายออกมา พวกเรารู้ดีว่าช่วงนี้นายหญิงเครียดมาก พวกเราเป็นห่วงสุขภาพคะ"

ผีสาวที่ชื่ออินทิราพูดขึ้น ลินดานิ่งคิดสักครู่ก่อนจะบอกไปยังบริวารของเธอ

"ก็จริงนะ อินทิราพูดถูก อย่างน้อยก็มีคนรับฟังและบางทีพวกเธออาจจะช่วยให้คำแนะนำได้บ้าง อย่างแรกเลย ฉันอยากรู้จริงๆว่าคุณอสนีนี่เป็นใครกันแน่ ฉันคิดมาตลอดตั้งเรื่องการออกแบบของเขา คนเราต่อให้เรียนเก่งขนาดไหน ฉลาดขนาดไหน เรื่องฉลาดนี่ฉันเคยเห็นหลายครั้งแล้ว เรื่องพวกตัวเลขในที่ประชุมพอมีคำถามขึ้นเกี่ยวกับตัวเลข ให้คำนวณ คนอื่นคว้าเครื่องคิดเลขคว้าโทรศัพท์มากดคำนวณกันให้วุ่น คุณอัสนั่งดูเฉยๆก็บอกตัวเลขมาได้เลย และมันถูกต้องด้วย ตอนแรกฉันก็นึกว่าพวกไอคิวสูงคิดเลขในใจได้เก่ง แต่พอเห็นคุยกับซินแสแล้ว ฉันว่าเขาต้องมีอะไรที่ดีกว่าไอคิวสูงแน่ คนธรรมดาอะไรที่จะออกแบบตึกโดยที่ถูกต้องหลักฮวงจุ้ย มาหลายตึก เขาต้องมีอะไรกว่าที่เรารู้แน่นอน ภายใต้บุคลิกคนธรรมดา วันนี้ก็เหมือนกัน เรื่องที่เล่า ถ้าเป็นคนทั่วๆต่อให้เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์เก่งๆก็ต้องมีประหลาดใจบ้างแต่นี่กับเฉยๆไม่มีอาการอะไรออกมา"

"ถ้าอย่างนั้นก็อาจเป็นคนดีมีวิชาเหมือนนายหญิงก็ได้เจ้าคะ"

อินทิราเป็นคนตอบ ส่วนแม้นนั้นดูเหมือนจะครุ่นคิดอย่างหนักแต่ไม่พูดอะไรออกมา

"ฉันก็หวังไว้แบบนั้น แต่อาจจะมีอะไรมากกว่านั้นก็ได้ แต่ก็นั่นแหละบางครั้งบางเรื่องถ้าเราไม่รู้มันก็ดีที่สุด"

เป็นคำที่เธอเปรยๆออกมา ก่อนที่เธอจะให้วิญญาณทั้งหลายสลายไปยกเว้นอินทิราที่ตอนนี้มานั่งเปลือยตรงหน้าเธอ ลินดาเอามือลูบตั้งแต่แก้ม ไล่มาที่ซอกคอก่อนจะหยุดที่ทรวงอกอันอวบอิ่ม เธอขยำไปเบาๆโดยที่ผีแม่หม้ายสาวแอ่นกายรองรับการขยำจากนายหญิง ลินดาใช้มือทั้งสองทั้งลูบและขยำไปที่หน้าอกรวมถึงหัวนม จนอินทิราที่ดวงตาหลับพริ้มมีเสียงหายใจถี่ๆ หัวนมนั้นเริ่มบานออก ลินดาอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปลิ้มรสอย่างดูดดื่มทั้ง 2 เต้าสลับไปมา ทำให้อินทิราเริ่มครางออกมา ลินดาดูดนมของผีสาวจนพอใจแล้วกระซิบไปที่อินทิรา

"ไปที่เตียงกันเถอะ"

"เจ้าคะนายหญิง"

ลินดาประคองร่างผีสาวให้ลุกขึ้นแล้วพาไปที่เตียง อินทิราทอดกายลงไปนอน ลินดาหลังจากจัดการกับเสื้อผ้าของตนเองเรียบร้อยได้โถมตัวลงไปนอนทับทันที แก้มของสองข้างของอินทิราถูกลินดาหอมสลับไปมาก่อนจะเอาปากไปประกบ ลิ้นของทั้งคู่เกี่ยวกันไปมา เป็นการจูบที่ดูดดื่มแขนทั้งสองของอินทิราโอบรอบตัวเจ้านายสาวพร้อมลูบไล้ไปมาตามแผ่นหลัง ใบหน้าของลินดาเลื่อนลงไปที่ทรวงอกของอินทิราอีกครั้ง เธอกัดไปเบาๆก่อนจะดูดสลับไปมา

"อูยยยยยยยยยยยยยยย ซี๊ดดดดดดดดดด"

เสียงครางอย่างแผ่วเบาดังออกมาจากปากผีสาว แล้วร่างของเธอยิ่งผวาเมื่อใบหน้าของเจ้านายสาวสวยเลื่อนไปถึงหน้าท้องลินดาจูบไปลงต่ำไปเรื่อยๆลากลิ้นผ่านขนอุยจากสะดือไปถึงขนหมอยที่ดกดำ ลินดาเล็มหมอยของอินทิราไปเรื่อยๆ จนถึงโคกหีเธอจูบไปเบาๆก่อนจะใช้ลิ้นเลียเข้าไป

"อูยยยยนายหญิงขา เสียวคะ"

ถึงจะถูกเลียมาไม่รู้กี่ครั้งแต่มันก็สร้างความเสียวให้ทุกครั้ง อินทิราครางด้วยเสียงกระเส่า พร้อมแยกขาให้กว้างขึ้น  ลีลาการใช้ลิ้นของลินดานั้นอินทิรารู้ซึ้งดี ยิ่งตอนเป็นคนเธอไม่เคยเจอผู้ชายคนไหมใช้ลิ้นเก่งเท่าลินดาเลย  จนร่างผีสาวเกร็งบิดกายยกตัวสูงขึ้น พร้อมเสียงครางยาว ลินดาเงยหน้ามองแล้วยิ้มก่อนจะจูบไปเบาๆที่โคกหีแล้วเลื่อนตัวขึ้นมา ก่อนจะหอมแก้มผีสาว

"ดีไหม"

"สุขสุดๆเลยคะนายหญิง"

"งั้นต่อกันอีกยก"

เธอพูดพร้อมดึงร่างของผีสาวให้ลุกขึ้นมานั่งทั้งคู่ต่างขยับตัวจนร่างกายแนบชิดกัน อินทิราเริ่มเอามือไปลูบคลำหน้าอกของนายหญิง ก่อนจะบี้ไปที่หัวนม ลินดาแอ่นอกให้ผีสาวลูบคลำได้ถนัดมือ ส่วนเธอเริ่มเอนตัวไปด้านหลังเล็กน้อยเอามือยันไปบนที่นอนพร้อมเริ่มขยับตัว เพราะตอนนี้โคกหีของเธอกับอินทิราประกบกันสนิท อินทิรานั้นเล่นกับนมของเจ้านายอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะขยับตัวตามลินดาแล้วขยับตัวตอบสนอง ครั้งนี้เสียงครางดังออกมาจากปากทั้งคู่พร้อมการขยับตัวเพื่อให้โคกหีของทั้งคู่สีกันไปมา จนลินดาเป็นฝ่ายเร่งจังหวะเสียงครางนั้นดังถี่ขึ้นก่อนจะมีอาการเกร็งตัวและซบไปที่ร่างของอินทิรา พร้อมกับเสียงหายใจอันถี่ของเธอ อินทิราเป็นฝ่ายประคองเธอลงไปนอนบนเตียง ลินดาลงไปนอนซุกที่ทรวงอกของผีสาว ปล่อยให้อีกฝ่ายหนึ่งลูบไล้ไปตามแผ่นหลังจนถึงก้นที่งอนงาม

"มีความสุขไหมคะนายหญิง"

"มีสิ"

"ถ้าเป็นผู้ชายแท้ๆนายหญิงอาจจะสนุกกว่านี้เจ้าคะ"

"บ้าเธอก็รู้อยู่ว่าเป็นไปไม่ได้"

อินทิรายิ้มๆแล้วขยำไปที่ก้นของลินดา ทำเอาลินดาสะดุ้ง

"อุ๊ยเบาๆหน่อยสิ"

ผีสาวเปลี่ยนไปเป็นลูบคลำเบาๆแทน  ลินดาจึงพูดขึ้นมา

"นึกถึงตอนเป็นคนหรือ"

"เจ้าคะ"

"ฉันถามหน่อยสิเวลาโดนข้างหลังนี่เป็นยังไงบ้าง เพราะมันคงไม่เหมือนตอนนี้แบบที่พวกดุจเดือนไปโดนไอ้หมอผีสุข"

"ตอนนี้ถ้าโดนเอาข้างหลังดิฉันคงบอกไม่ได้นายหญิงไม่ได้ แต่ถ้าตอนเป็นคน โดนครั้งแรกมันเจ็บ แล้วจุก ต่อมาก็เสียวคะแล้วนายหญิงจะติดใจมากยิ่งโดน 2 รูพร้อมกัน"

มันเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ลินดาจะชอบถามบรรดาวิญญาณที่เลี้ยงไว้หลังจากนอนด้วยกันเกี่ยวกับเรื่องที่วิญญาณพวกนี้ที่เคยนอนกับผู้ชายตอนมีชีวิตอยู่ อินทิรานั้นหลังจากที่เลิกกับสามีเธอใช้ชีวิตค่อนข้างคุ้มค่า มีผู้ชายมาติดพันเยอะแต่เธอไม่จริงจังกับใครแถมชอบเที่ยวบาร์โฮส ประสบการณ์เซ็กส์ของเธอนั้นเรียกว่ามีมากทั้งแบบ2 รุม1 รวมถึงโดนประตูหลังด้วย ก่อนที่จะถูกฆ่าเพราะความหึงของผู้ชายที่มาตามจีบ ส่วนเรื่องการได้คุยเรื่องพวกนี้ทำลินดาได้รู้เกี่ยวกับประสบการณ์แปลกๆในเรื่องเพศ อย่างแม้นตอนเป็นคนไม่เคยนอนกับผู้ชายมีแต่ผู้หญิง แต่ตอนเป็นนางตะเคียนในป่าลึก แม้นถูกพวกมีอาคมสูงๆส่วนมากเป็นพรานป่าเรียกมาให้นอนด้วยประจำ ซึ่งเรื่องแม้นเคยบอกกับเธอว่า

"บ่าวก็ชอบๆเรื่องพวกนี้อยู่เจ้าคะ ถ้ามีอาคมสูงแล้วเรียกมาเราก็ไม่ปฏิเสธ เพราะเขาไม่ได้บังคับเขาเชิญ แต่ถ้าเป็นพวกอาคมไม่ถึงแล้วบังอาจเรียกก็โดนถีบกระเด็นไปเจ้าคะ"

"แล้วเคยมีพวกที่บังคับบ้างไหม"

"ก็มีเจ้าคะ แต่ถ้าเราสู้ได้ก็เล่นคืนดีไม่ดีเอาถึงตาย แต่ส่วนใหญ่จะมาดี พวกนี้เดินป่านานๆก็กลัดมันเจ้าคะ เหมือนกับบ่าวที่นานๆเจอที เคยมีอยู่หนหนึ่งเจอพวกอาคมสูงแถมเก่งด้วยบ่าวเลยกักไว้สามวันสามคืน แต่เจอประตูหลังเข้าไปด้วยเล่นเอาระบม"

มันสร้างอารมณ์ให้เธออย่างดี อย่างตอนนี้อินทิรากำลังเล่าให้ฟังถึงตอนโดนเล่นประตูหลังครั้งแรก ทำเอาเธอมีอารมณ์ขึ้นมาก่อนจะชวนผีสาวเล่นรักด้วยท่า 69 กันอีกครั้ง ก่อนจะหลับไปด้วยความสุขสม จนถึงเช้าวันเสาร์ลินดามารอ อสนีที่หน้าคอนโด และอสนีนั้นมาตามเวลาที่นัด และเธอประหลาดใจเล็กน้อยตอนที่อสนีโทรมาหาเธอบอกว่าจะมาถึงแล้ว เธอมองหารถที่อสนีใช้ เธอรู้ว่าอสนีใช้รถ 2 คันยี่ห้อ BMW ทั้งคู่ คันหนึ่งเป็นรถเก๋งอีกคันเป็น SUV แต่รถที่อสนีขับมาวันนี้เป็น BENZ G Classรุ่นล่าสุด

"คุณอัสทานอะไรมาหรือยังคะ ถ้ายังแวะทานก่อนก็ได้นะคะ"

"เป็นประโยคแรกที่เธอถามหลังจากขึ้นรถ

"เรียบร้อยแล้วครับ คุณดาละครับ"

"เหมือนกันคะปกติดาตื่นเช้ามาใส่บาตรทุกวันคะ"

ฝ่ายชายพยักหน้าแต่ไม่ถามอะไรต่อ เธอจึงถามด้วยความสงสัย

"คุณอัสซื้อรุ่นนี้มาด้วยหรือคะ ดาไม่เคยเห็นเลย"

"ไม่ใช่ครับของพ่อนะครับ เอามาเช็คที่ศูนย์ตามรอบเมื่อวันก่อน แล้วพ่อก็ขับรถผมกลับบ้าน วันนี้ผมทำหน้าที่ขับไปส่งครับ"

"อ้อ มิน่า"

"จริงๆที่ผ่านมาพ่อจะใช้แต่รถมอเตอร์ไซด์กับปิคอัพครับ ตอนผมเล็กๆก็มอเตอร์ไซด์ต่อมาก็มีรถปิคอัพมือ 2 ไว้ขนของ จนมาถึงทุกวันนี้ ภาพที่ชินตาคือพ่อขับปิคอัพตอนเดียวเกียร์ธรรมดา ไว้ขนข้าว ขนสินค้า แต่คันนี้ตอนจะซื้อก็สองจิตสองใจถามทั้งแม่ถามทั้งผมจะซื้อดีไหม เสียดายตังส์ แต่อยากได้ คือแกไปเห็นจากหนังนะครับเลยอยากได้ บังเอิญดันมีโบชัวร์ส่งไปที่บ้านมันก็ยิ่งกระตุ้นนั่งดูอยู่หลายวัน สุดท้ายแม่ก็บอก ซื้อๆไปเถอะ มีเงินพอจะซื้อก็ซื้อไป มันไม่ได้เดือดร้อนใคร "

ลินดานั่งฟังพร้อมคิดไปด้วย ที่บ้านของอสนีต้องมีฐานะแน่นอนไม่งั้นคงไม่มีรถหรูๆหลายคัน จริงๆมันไม่น่าประหลาดใจเพราะเธอนั้นคิดอยู่แล้วดูจากการแต่งตัว ถึงจะไม่เน้นเสื้อผ้ามียี่ห้อแต่อสนีแต่งตัวดีตลอดไม่เครื่องประดับติดตัว แต่บุคลิกลักษณะพร้อมทั้งการพูดการจามันใช่คนที่บ้านมีฐานะและได้รับการอบรมมาอย่างดี แถมวันนี้ขนาดแต่งตัวตามสบายเสื้อโปโลแขนสั้นกางเกงยีนส์ ยังดูดีและที่แปลกตาที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อนตรงท้องแขนด้านขวาของอสนีดูจะเป็นปานที่เป็นรูปเหมือนสายฟ้า เธอจึงถามไปต่อ

"งั้นต้องถามต่อไปว่าที่บ้านคุณอัสทำอะไรคะ ให้ดาทายต้องค้าขาย"

"ส่วนหนึ่งครับเป็นร้านขายส่ง อีกอย่างคือโรงสีครับ"

"ก็ถือว่าถูกครึ่งหนึ่ง"

เธอพูดด้วยเสียงหัวเราะและตลอดการเดินทั้งคู่ต่างคุยกันเรื่องทั่วๆไปไม่วกมาถึงเรื่องคัมภีร์ จนไปถึงวัด อสนีนำรถไปจอดที่หน้าโบสถ์ ลินดาลงจากรถมองไปรอบๆ เห็นว่าวัดนี้มีอาณาบริเวณไม่กว้างแต่ดูร่มรื่นอย่างมากและเธอรู้สึกสงบมากขึ้นเมื่อเข้ามาในวัด

"เชิญทางนี้ครับคุณดา"

อสนีบอกเธอพร้อมเดินนำไปด้านข้าง ลินดานั้นนำกระเป๋าที่ถือมาสะพายพร้อมเดินตามอสนีไปติดๆ จนไปถึงกุฏิพระหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่หน้ากุฏิหลังอื่นๆลักษณะเป็นเรือนไม้ผสมปูนที่ยกสูงจากพื้นประมาณเมตรเศษๆ เธอมองขึ้นไปเห็นพระภิกษุวัยชรารูปหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ที่ตั้งอยู่นอกชาน พร้อมกับมีเสียงเรียกลงมา

"มาขึ้นมาเจ้าอัส"

อสนีหันมามองเธอแล้วพยักหน้าก่อนจะเดินนำขึ้นไป พอขึ้นไปเธอเห็นอสนีเดินไปนั่งคุกเข่าตรงหน้าพระชรารูปนั้นแล้วก้มลงกราบ 3 ครั้ง เธอจึงเดินไปนั่งข้างๆแล้วนั่งพับเพียบพร้อมก้มกราบ 3 ครั้งเช่นกัน ก่อนที่อสนีจะพูดขึ้น

"หลวงตาครับ นี่คุณลินดาครับ เธอเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทที่ผมไปออกแบบสร้างตึกหลังใหม่ให้ และตอนนี้เธอมีปัญหาที่จะมาขอคำปรึกษาจากหลวงตานะครับ"

ใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาพร้อมรอยยิ้มหันมาที่เธอก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่การุณย์

"มีเรื่องอะไรหรือโยม"

ลินดาพนมมือขึ้นมาก่อนจะเล่าให้ท่านฟังเหมือนที่เล่าให้อสนี แต่เธอนั้นปิดท้ายเพิ่มเติมไปว่า

"คือคนที่หนูนับถือนะคะ ท่านบอกว่าบารมีของหนูไม่ถึงในการดูแลคัมภีร์โบราณนะคะหลวงตา"

เธอเรียกหลวงตา ตามอสนีแต่ในใจเธอกลับรู้สึกว่าพระภูมิเจ้าที่นั้นชี้ทางสว่างให้เธอจริงๆ ทันทีที่เธอมานั่งตรงหน้าเธอมีความรู้สึกว่าได้มาพบกับพระภิกษุที่เปี่ยมไปด้วยเมตตาบารมี  ก่อนที่หลวงตาจะถามมายังเธอ

"แล้วโยมนำคัมภีร์โบราณเล่มนั้นมาด้วยหรือละ"

"เอามาด้วยคะ"

เธอเปิดกระเป๋าที่วางอยู่ด้านข้างแล้วหยิบคัมภีร์ขึ้นมาก่อนจะส่งให้อสนี

"คุณอัสคะรบกวนด้วยคะ"

อสนีกับหลวงตายิ้มออกมา ก่อนที่อสนีจะรับคัมภีร์แล้วนำไปถวายหลวงตา ลินดาเห็นท่านนั่งเปิดคัมภีร์ที่มีลักษณะเหมือนคัมภีร์ใบลาน ไป2-3 หน้า แล้วมองมาที่เธอก่อนจะถามขึ้นมา

"ต้นตระกูลของโยมเป็นคนทางภาคเหนือใช่หรือเปล่า"

"คะต้นตระกูลของหนูเป็นคนเชียงใหม่คะ"

"อืมใช่จริงๆ ที่อาตมาถามนะ เพราะพอจะเคยได้ยินมาว่าคัมภีร์ลักษณะนี้เขียนขึ้นที่วัดทางภาคเหนือในช่วงปลายๆอยุธยาถึงต้นรัตนโกสินทร์ ก่อนจะหายสาบสูญไป"

ลินดานั้นขนลุกทันที ถึงเธอจะสงสัยว่าหลวงตารู้ได้อย่างไรแต่เธอนั้นไม่กล้าถามแต่พระภิกษุชรานั้นเหมือนจะรู้ว่าเธอคิดอะไรจึงบอกไปที่ลินดา

"ไม่ใช่อิทธิปาฏิหาริย์ อะไรหรอกโยมอาตมาเคยได้ยินเรื่องนี้จากพระอาจารย์ของอาตมาเองเป็นเรื่องเล่าต่อๆกันมา และอาตมาพอจะอ่านภาษาขอมออกเป็นบางคำเลยพอปะติปะต่อได้ ส่วนเรื่องที่โยมบอกว่าเหมือนมีอะไรมารบกวนโยมกับครอบครัวเพราะคัมภีร์เล่มนี้ เท่ากับว่าโยมไม่อยากเก็บไว้แล้วใช่ไหม"

"คะหลวงตา เพราะหนูกลัวว่าถ้ายังเก็บอยู่อาจจะมีปัญหาไม่สิ้นสุด"

"อืม จริงๆแล้วถ้านำกลับไปเก็บรักษาในวัดที่เขียนคัมภีร์ขึ้นมันจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดคือคัมภีร์ได้กลับไปที่แหล่งกำเนิด แต่ถ้าตอนนี้โยมนำกลับไปก็อาจจะเกิดปัญหาในอนาคตดีไม่ดีไม่จะกลายเป็นบาปโดยที่เราไม่รู้ตัว"

"ยังไงหรือคะหลวงตา"

ลินดาถามไปด้วยน้ำเสียงที่กลัดกลุ้ม

"คืออย่างที่โยมบอกมานะ คัมภีร์แบบนี้ผู้ถือครองต้องมีบารมีจริงๆและที่สำคัญคือ คนที่เขาอยากให้เห็นก็จะเห็น แต่ถ้าเขาไม่อยากให้เห็นก็จะไม่มีใครเห็นเขา นี่แหละคือปัญหาถ้าเกิดมีผู้ใดอยากครอบครองแล้วเกิดหาไม่เจออาจจะสร้างปัญหาให้กับคนที่ดูแลได้ หรือถ้าเจอแล้วอยากได้ครอบครองก็อาจใช้วิธีไม่ถูกต้อง แล้วยิ่งตอนนี้เจ้าอาวาสวัดนั้นยังมีพรรษาไม่มากเท่าไหร่ พูดง่ายๆคือบารมีไม่ถึงนั่นเอง"

"งั้นหนูต้องทำยังไงคะหลวงตา"

 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

zethkhun

ใครจะเป็นผู้ดูเเลคัมภีร์แทนนะ อัสนี หรือหลวงพ่อ

Montakan

 ::HeyHey::วิชาอาคมถ้าไมาหบงคารมย์ก็อยู่ยาว

aunsoiton

อัสนีบารมีถึงแน่นอนน่าจะลองกับลินดาด้วยนะ

yakyedheemak

อัสนีน่าจะเป็นคนเก็บคัมภีร์นี้ใว้นะเพราะเขาไม่ใช่คนธรรมดา

Prasard Komkum

เครียดเรื่องคัมภีร์แล้วมีทางจะทำให้ลินดาหายเครียดหรือเปล่าหน๋อ

Channarong Saekow

หาทางออกได้สะที่น่ะแม่หมอลินดา แล้วจะทำอย่างไรกับเจ้าผีร้ายตนนั้นดีน่ะ

Mylove1234

คนจะดูแลได้ผมนึกถึงฤาษีเป็นคนแรกเลย ว่าแต่วัดทางเหนือทำไมภาษาขอมล่ะ น่าจะภาาล้านนามากกว่านะครับไรต์

ssaa3112

คัมภีร์โบรานถ้ามีบุญจะพบเจอแต่จะรักษาได้ไหมขึ้นกับบารมี แล้วใครหล่ะที่มีบารมีพอที่จะรักษาไว้ได้

sunnies

หลวงตา​จ่ะหาทางช่วยเหลืออย่างไงดี​ ดูท่านจ่ะเป็นพระปฏิบัติ​ดี

Nobita Nobituta

ดีหละเจอทางออกจนได้ แต่ไม่รู้จะต้องจัดการผีหมอสุขอย่างไรกัน

Debaker Singlek

จะเอากลับไปวัดเดิมที่เขียนที่ทำขึ้นมาก็ไม่ได้อีก เพราะเจ้าอาวาสพรรษายังไม่เยอะบารมียังไม่พออีก แล้วใครจะเก็บให้ลินดาละ

pornpat tammalangka

คงต้องให้อสนีเก็บไว้ให้แล้ว

bangsan

สงสัยคัมภีร์ต้องให้นายอัสนี สายฟ้าเป็นคนดูแลไปก่อนก็ได้บางอาจมองเห็นวิชาในคัมภีร์

pp1659

ถ้าหลวงตาไม่เก็บไว้ แล้วใครจะมีบุญบารมีเก็บไว้ให้