ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

ครั้งหนึ่ง ณ.ร้านคาราโอเกะ Part3 ตอนที่ 30 ( ประสบการณ์ตรงของนายโมโนโทน )

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, กันยายน 03, 2020, 01:27:36 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

สวัสดีครับ สวัสดี เนื่องจากมีหลายท่านแจ้งมาว่า

มีลูกค้ามา ออกันเต็มหน้าร้าน ผมเลยขอเปิดร้านเร็วกว่าปกตินิดนึงครับ

ยินดีต้อนรับสมาชิกร้านเกะท่านใหม่ๆด้วย

แล้วก็ขอบคุณสำหรับลูกค้าผู้ที่มาเยี่ยมร้านเกะตั้งแต่ตอนที่ 1 จนถึงปัจจุบัน

รู้สึกขอบคุณมากๆเลยคร๊าบบบบบบ ขอบคุณทุกคอมเมนต์จริงๆครับ  ผมอ่านทุกตอมเมนต์นะครับ สั้นยาวผมก็อ่านหมด

และขอบคุณที่คอมเมนต์กันมาเยอะมาก

และขอบคุณทุก EDIT และแสดงความคิดเห็นเพิ่มหลังอ่านจบ  มันเป็นกำลังใจอย่างดี

อย่างที่บอกครับกระทู้นี้ Free STYLE คอมเมนต์อะไรก็ได้ครับ เพื่อจะอ่านเนื้อหาที่ซ่อนไว้

ไม่จำเป็นต้อง EDIT ไม่ต้องกลัวผิดกฎใดๆ แต่ระวังกระทู้อื่นๆ หมวดอื่นๆด้วยนะครับ

เราต้องทำตามกฎของบอร์ดและกระทู้นั้นๆนะครับ เพราะเวลา MOD ลงดาบก็เด็ดขาดมาก





ปล. เนื้อหาตอนนี้ อาจจะยืดสักหน่อยนะครับ เพราะมันคือ 1 วันจริงๆ




ปล.2 พี่หมิวประมาณนี้เลย








ปล.3 ตอนนี้ก็ 40,000 ตัวอักษร หวังว่าจะยังไม่เบื่อกันนะครับผม




ปล.4 ไอ้มูชู หมาที่บ้านเป็นพันธุ์บางแก้วครับ ผมตั้งชื่อตามมังกรในการ์ตูนมู่หลาน







ปล.5 เผื่อรีดเดอร์ท่านใดสนใจอยากลองอ่านเรื่องนี้ ลองอ่านย้อนหลังได้เลยครับ เผื่อจะชอบ



Part 1


ตอนที่ 1 ตอนที่ 2 ตอนที่ 3

ตอนที่ 4 ตอนที่ 5 ตอนที่ 6


Part 2


ตอนที่ 7 ตอนที่ 8 ตอนที่ 9

ตอนที่ 10 ตอนที่ 11 ตอนที่ 12

ตอนที่ 13 ตอนที่ 14 ตอนที่ 15

ตอนที่ 16 ตอนที่ 17 ตอนที่ 18

ตอนที่ 19




Part 3


ตอนที่ 20 ตอนที่ 21 ตอนที่ 22

ตอนที่ 23 ตอนที่ 24 ตอนที่ 25

ตอนที่ 26 ตอนที่ 27 ตอนที่ 28

ตอนที่ 29





เหตุการณ์ตอนก่อนแบบเร่งด่วน




อยู่ดีๆเพื่อนพี่หมิวก็โทรมาด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก

บอกว่าพี่หมิวอยู่สวนสันติภาพ ปากผมบอกไม่สนใจแต่ใจแม่งตกไปอยู่ปลายตีน

ผมสวมวิญญาณ Eyeshield21 วิ่งตั้งแต่หน้าโรงพยาบาลราชวิถี

ไปจนสุดสวน และก็เห็นว่าพี่หมิวยืนยิ้มอยู่ซึ่งก็รู้ว่ากูโดนหลอกแล้ว

คุยกันไปๆมาๆ สุดท้ายพี่หมิวก็มาบ้านผมจนได้ครับ

ผมเองก็เห็นว่าไม่เป็นอะไร เพราะพี่หมิวก็มาบ้านผมบ่อยๆอยู่แล้ว

แต่กลับกลายเป็นว่าพี่หมิวจากค้างซะงั้น วันนั้นอยู่ดีๆพี่หมิวก็พูดว่า

ไม่อยากเป็นพี่น้องละ ลองเป็นกิ๊กกันวันนึงมั้ย และแล้วเรื่องราวมันก็เกิดขึ้นจนได้



...................



ไดอารี่ของนายโทน ตอนที่ 30






หา อึ๊บ !!!  นี่พี่หมิวพูดว่าอึ๊บงั้นเหรอ ชิบหายละ โลกแตกแน่นอน ทำไมพี่หมิวพูดแบบนั้นล่ะ ยิ่งคิดผมก็ยิ่ฃอยากด่าตัวเองว่าไอ้ควายเอ๊ย คิดอะไรตื้นๆแบบนั้น ผมแค่ว่าอยากให้พี่หมิวใส่เสื้อผ้าเร็วๆ


เลยพูดไปว่าโอเคๆ งั้นเป็นกิ๊กกัน ผมแม่งคิดอะไรอยู่วะ ไม่รู้ว่าผมไม่รู้จักพี่หมิวดีพอ หรือพี่หมิวเธอทำอะไรที่ไม่ใช่ตัวของเธอกันแน่ อย่างที่เล่าไว้ตอนที่แล้วครับ พี่หมิวถลกเสื้อออกออกเลย


และคลายขึ้นมาคร่อมผมไว้บนเตียง พี่เหมียวบอกว่าถ้าเป็นกิ๊กกันแล้วลองอึ๊บกันมะ ตอนนั้นคือหัวผมมันร้อนฉ่าไปหมด ไม่รู้ว่าหน้าแดงมั้ยแต่ผมหูอื้อเลยครับ เฮ้ยพี่หมิวน่ะเหรอชวนทำเรื่องแบบนี้


แล้วผมแม่งเหมือนแบบโดนน้ำมันพรายอ่ะ คือแพ้ความขาวบอกตรงๆ แต่ใจนึงก็ไม่อยากโดนกระทืบ ใจนึงก็อยากจะลองทำกับพี่หมิวดู ไม่เอาไม่ได้เว้ยไอ้โทน มึงจะทำอูยยย


พี่หมิวร่อนเอวครับ แล้วแบบร่อนจนร่องมาแนบกับแท่งหรรษาของผมจนได้ พี่หมิวสะดุ้งอื๊อ เบาๆแล้วยังค่อยๆถูไถต่อไป เอาจริงๆไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี ผมได้สติเพราะความเสียว หรือความเสียวมันเรียกสติก็ไม่ทราบได้


ผมบอกพี่หมิวว่าพี่หมิวอย่าทำแบบนี้เลยพี่ นี่ไม่ใช่ตัวพี่เลยนะ พี่หมิวก็ไม่ฟังหรอก เธอกอดคอผมแน่นกว่าเดิมและเลื่อนตัวขึ้นมาจนหน้าอกขาวๆของเธอชิดหน้าผมเลยล่ะ เธอก้มมองผม ผมเงยหน้ามองหน้า และพี่หมิวก็จุ๊ปที่หน้าผากกระพ้มเบาๆ


[ พี่หมิว ]  :  อย่าพูดสิ่ ตอนนี้แค่จูบกันก็พอ


อื้มหืมพูดมันง่ายนะเจ๊ แต่ทำนี่สิ่ยังไง ผมก็ยังไม่กล้าแหละครับบอกตรงๆ แต่พี่หมิวก็ดึงปกเสื้อผมขึ้นไปแล้วถามว่าจะจูบมั้ย โอยนี่มันบังคับขืนใจชัดๆ  แต่ผมเชื่อนะว่ารีดเดอร์หลายท่านคงยอมให้บังคับแหละ


ผมยังโดนพี่หมิวกระชากคอเสื้ออยู่ เธอถามอีกครั้งว่าจะจูบหรือไม่จูบ เนี่ยเชื่อมั้ยตอนเขียนเนี่ยพี่หมิวตีแขนผมเพี๊ยะๆๆๆเลย ตอนแรกจะไม่ให้ลงด้วย แต่พี่เตยบอกว่าให้ผมลงเลยๆ ๆ ๆ


อ่ะกลับมาต่อครับ พี่หมิวกระชากคอเสื้อผมแล้วถามว่าจะจูบมั้ย แล้วแบบพูดตรงๆเลยนะ ความคิดผมตอนนั้นก็เหมือนคอมเมนต์ของรีดเดอร์หลายๆท่านเมื่อตอนที่แล้ว


พี่หมิวลองใจเปล่าวะ พี่หมิวเล่นอะไรแปลกๆเปล่าวะ แล้วคือมันระแวงไงครับ คราวก่อนแค่ละเมอมานอนทับผม ยังตบซะผมเลือดกบปากขนาดนั้น แต่นี่จูบนะเฮ้ย จูบนะ แล้วถ้าจูบไปจริงๆไม่หักคอผมเลยเหรอ


[ พี่หมิว ]  :  หรือโทนไม่รักเจ๊แล้วเหรอ


นั่นไงคำถามพิฆาตมาแล้ว โอยไปไม่เป็นเลยครับ ปกติแล้วเวลาโดนถามแบบนี้คนถามต้องเป็นแฟนจริงป่ะ เวลาผมโดนแฟนถามแบบนี้ผมก็จะรักจ้า รักสิ่ คือเอาจริงๆนะความรักของวัยรุ่นมันอาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่


หรือลึกซึ้งเหมือนคู่ชีวิตที่เรียนรู้กันและกัน ร่วมฝ่าฟันอุปสรรคกันมาหลายปีนะ แต่รักมันก็คือความหวังดีจริงมั้ยครับท่านผู้อ่าน ผมก็รักเจ๊นะ รักในฐานะน้องชายคนนึง ไม่งั้นผมไม่เสี่ยงตีนไปช่วยหรอก


แต่ไอ้ความหมายที่เจ๊พูดมาน่ะมันหมายความว่าอะไรเนี่ย รักก็รักดิ่ไม่เห็นต้องมาทำแบบนี้ ถ้าให้พูดในฐานะผู้ชายคนนึง โอยมีผู้หญิงสาวสวย หุ่นดี นมบึ้มๆ ถอดเสื้อมานั่งตักแบบนี้ใครล่ะจะไม่ชอบ


แต่เข้าใจผมม๊ายยยยย ว่าผมระแวง อีกอย่างผมกลัวตีนพี่แมนด้วยครับ แต่พี่หมิวก็ยังถามผมอีกนะว่าจะจูบมั้ย ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกเลยครับดันไปพูดว่า อื้อๆๆๆ


[ พี่หมิว ]  :  งั้นก็จูบสิ่ อ้าปากเลย


[ ผม ]  :  อะไรเนี่ยพี่หมิว อ้าปากอะไร อึ้ก !!!


ไม่ทันแล้วครับ พี่หมิวประคองหน้าของผมไว้และก้มลงมาจูบเองเลย คือมันเหมือนหนังที่เคยดูหลายๆเรื่องเลยนะ เขาจูบมาและงับริมฝีปากผมไว้และดึงจนมันยืดดด  ผมก็อ๊อยย เอ่บ เอ่บบ ( เจ็บๆ )


แต่เชื่อมั้ยพี่หมิวไม่ปล่อยนะ เธอยังคงงับริมฝีปากล่างของผมไว้แบบนั้น ปลายจมูกของผมสัมผัสได้ถึงลมหายใจออกจากมาจากจมูกของพี่เขาเลย มันอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเลย เสียงหายใจดังฟืด ฟืด อยู่ห่างจากหน้าผมไม่ถึง 1 เซนติเมตร


ตอนนั้นผมคิดในใจนะครับรีดเดอร์ว่านี่ใช่พี่หมิวจริงๆเหรอ นี่ผมจูบกับพี่เขาจริงๆเหรอ มันไม่ใช่แค่จุ๊ปปากและยกออก แต่มันคือจูบเลย ผมรู้ว่ารีดเดอร์หลายท่านผ่านประสบการณ์นี้มาแน่ๆ


ความรู้สึกที่กำลังจูบกันแล้วลมหายใจของแฟนกระทบหน้า กระทบที่ปลายจมูก ตอนนี้ผมก็เป็นแบบนั้นเหมือนท่าน ใจผมมันสับสนน่ะ แต่มันก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก พี่หมิวงับๆริมฝีปากของผมจนพอใจ เธอจึงถอนปากออกมาละบอกว่า


[ พี่หมิว ]  :  จะจูบกันได้ยัง หรือไม่อยากจูบเจ๊

โอยย โดนถามแบบนี้ไปผมก็ไปไม่เป็นเหมือนกันแหละครับ หน้าของเราห่างกันไม่ถึงคืย แล้วไม่แค่นั้นนะพี่หมิวยื่นหน้ามาอีกครั้ง หน้าผาก จมูก ของเราติดกัน โอย ซีรีย์เกาหลีเกินไปมั้งเจ๊


เจ๊เขาก็จับมาจุ๊ปนะ จุ๊ปแล้วถามจูบมั้ย จุ๊ปแล้วถามจูบมั้ย โอยก่อนที่จะได้จูบผมคงกระฉูดก่อนแน่ๆ เชื่อมั้ยว่าน้ำที่เสียไปตั้งแต่ตอนที่ 1 จนถึง ตอนที่ 29 มันไม่มีความหมายเลย


นายโทนที่ถูกพี่หมิวนั่งคร่อมตอนนี้เหมือนเด็กชายที่ยังไม่เคยเรื่องอย่างว่ามาก่อน คือมันประหม่าไปหมด ลืมไปฟมดทุกอย่าง สารภาพอย่างไม่อายเลยตอนนั้นผมลืมแม้กระทั่งว่าจูบยังไง จะเริ่มยังไง และจะไปยังไงต่อ


ท่านผู้อ่านครับอย่าเพิ่งด่าผมเล๊ย  ว่าไอ้โทน ไอ้งั่ง ไอ้อ่อน เฮ้ยเอาจริงๆนะมันแบบตื่นไปหมด เหมือนตอนที่ลงไปแข่งยูโดครั้งแรก เหมือนกับการมี SEX ครั้งแรกเลย



จนพี่หมิวต้องหยิกแก้มเรียกสติผมอ่ะ พี่หมิวถามเมินเจ๊เหรอเหรอ โทนเมินเจ๊เหรอ ผมถึงได้สติ แล้วคำแรกที่พูดกับพี่หมิวคือเอาครับๆๆ เฮ้ย เอาอะไรวะ ชิบหายละไงพูดอะไรออกไปกู


[ พี่หมิว ]  :  หืม เอาอะไรหื๊ม เด็กดื้อ


[ ผม ]  :   ป่ะ ป่ะเปล่าครับ ไม่ได้ทำอะไรครับพี่หมิว


โอยโดนเรียกว่าเด็กดื้อแล้วไปไม่เป็นเลยครับรีดเดอร์ปกติผมจะเรียกแก้มว่าเด็กดื้อ คราวนี้มาโดนเรียกมั่งแล้วรู้เลยว่ามันประหม่าแค่ไหน ซึ่งอาจจะเพราะคนที่พูดเป็นพี่หมิวด้วยมั้งครับ ผมถึงได้รับดาเมจมากขนาดนี้


แล้วแบบโอยยย ภาพตรงหน้าทำผมแทบบ้าตาย คือถ้าหลายท่านจำได้ผมเคยเขียนไปในตอนไหนซักตอนนะ ผมชอบทรงผมของเจนนี่ ตอนอัลบั้ม 2002 ราตรีมากๆ คือเห็นแล้วแบบปิ๊งเลย แล้วตอนนี้เว้ยพี่หมิวกำลังทำแบบนั้น


พี่หมิวเขาเอายางรัดผมที่จากข้อมือมัดรวบขึ้นไปแล้วแบบหน้าอกของเธอก็ถูกยกขึ้นตามการยกแขน โอยผมแย่แน่ๆ ทรงผมของพี่เขาอาจจะไม่เป๊ะ 100 % แต่บอกเลยว่ามาแนวสาวอาหรับเลย โคตร Sexy


[ พี่หมิว ]  :  ถ้าจำไม่ผิดโทน ชอบทรงนี้ใช่มั้ย งั้นเจ๊ทำดีกว่าเนอะ จะได้ถูกใจ

[ ผม ]  :  พะ พะ พะพี่หมิวครับ ไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้ ขะขะขะข ครับ

[ พี่หมิว ]  :  ไม่ใช่พี่หมิวสิ่ ต้องเรียกว่าเจ๊ เอ๊ะไม่ใช่ๆๆๆ ตอนนี้เราไม่ได้เป็นพี่น้องเรากิ๊กกันอยู่นะ


ผมกำลังจะอ้าปากพูดนะ แต่พี่หมิวก็ใช้นิ้วของเธอมาแตะปากผมไว้ โอยนี่ผมกำลังเล่นหนังเรื่องอะไรวะเนี่ย แล้วคิดตามผมนะ จริตของพี่หมิวในตอนนั้นเหมือน คุณ ดิว อริสรา ในตอนนี้อ่ะ


รอยยิ้ม การเคลื่อนไหว และ ภาษากาย พี่หมิวแตะปากผมไว้แล้วพูดว่าทำแบบนี้ คนอื่นๆเขาทำกันเถอะ แล้วพี่หมิวก็เอื้อมมือไปแป๊ก ถอดชุดชั้นในออก ชิบ ชิบหายละทำไงดีวะผม


พี่หมิวปล่อยให้เสื้อในห้อยๆไวแบบนั้น ซึ่งผมบอกเลยว่าแม่งโคตรยั่วอารมณ์เลย พี่หมิวบอกผมนะว่าพี่อยากลองทำแบบในหนังน่ะ ผมสตั๊นเลยนะตอนนั้นในหนัง แบบไหนวะในหนัง


แล้วพี่หมิวก็รุกทันทีเลย ลิ้นเรียวของเธอปาดไปทั่วริมฝีปากผม งับๆๆ ดูดๆๆ ดังจ๊วบ เชี่ยละหรือพี่หมิวอยากลองเล่นบท มูมมามแบบในหนังวะ เฮ้ยแบบนั้นเล่นกับพี่เตยก็ได้ไม่ใช่เหรอ


แต่พี่หมิวไม่ฟังเลยนะ เธอจูบไม่หยุดผมเองก็เริ่มจะไม่ไหวละ สามัญสำนึกของผมมันค่อยๆหายไปหายไป ความคิดที่ตีกันในหัวคือเฮ้ยเราพี่น้องกัน กับอีกความคิดนึงคือเฮ้ยพี่เขาเสนอมาเองนะ


เนี่ยมันเป็นซะแบบนี้จริงๆ และผมก็พ่ายแพ้ให้กับความอยากที่โดนปลุกเร้ามาเกือบ 5 นาที ผมจับหน้าของพี่เขาและจูบลงสวนไปทันที ลิ้นของเราสอดประสานนัวแบบรัวๆๆเลยก็ว่าได้ครับ


ผมพยายามอ้าปากกว้างๆเท่าที่จะทำได้และกดเข้าไปลึกๆลิ้นผมพยายามคว้านกระดกรัวๆคือตอนนั้นไม่มีแพทเทิร์นห่าเหวอะไรเลย คือรัวลิ้นเอาสะใจว่าง่ายๆเหอะ น้ำลายของผมกับพี่หมิวเริ่มไหลเปลอะหน้าเรื่อยๆ เรื่อยๆ


จนพี่หมิวทนไม่ไหวมั้ง เธอละปากหยุดจูบและยืดตัวขึ้นมากอดคอผมเลย หน้าอกคู่งามบอกเลยว่าหัวนมอมชมพู กำลังลอยเด่นอยู่ตรงหน้าผม อื้อหืมบอกเลยว่าพี่สาวของผมสองคนดูแลตัวเองโคตรดี


บอกเลยครับผมเงี่ย_ละตอนนั้น ลิ้นของผมกระดก รัวใส่จุกเสียวสีชมพูของพี่หมิวช้าๆ ช้าๆ พี่หมิวก็ซู๊ดดด ซื๊ดดด ไม่หยุด มือของผมเองก็เริ่มล้วงผ่านขอบกางเกงขาสั้นลงไปลูบไล้ก้นข้าวๆเนียนๆของพี่หมิวจนได้


ผมบีบเบาๆ คลึงๆเบาๆ แต่พี่หมิวเธอเด้งตัวเลย ปากผมก็เปลี่ยนจากแค่รัวลิ้นมาเป็นดูดพี่หมิว ก็ซื๊ดออกมา บอกเลยเสียงโคตร SEXY เชื่อป่ะว่าตอนนี้ผมคิดท่าเอาไว้แล้ว ว่าจะจับเธอกระแทกท่าไหน ต่อด้วยท่าอะไร และพาไปซั่มตรงไหนดี


แต่ว่าดูเหมือนว่าผมจะไม่ได้มีบุญอะไรขนาดนั้นครับ เพราะพี่หมิวหลุดปากพูดออกมาว่า


[ พี่หมิว ]  :  ซื๊ดด เตย....


แค่คำๆเดียว แค่คำเดียวจริงๆครับ พูดไปก็เหมือนโม้ แต่เชื่อมั้ยครับคำๆเดียวจากปากพี่หมิว แค่ชื่อพี่เตยออกมาคำเดียว ภาพที่ผมทำกับพี่เตย ภาพที่ผมพยายามข่มใจไม่ทำกับพี่เตยแม่งเด้งขึ้นมาพรึ่บๆๆๆๆ เหมือนตอนบากิแม่งกระโดดภูเขาตอนไปฝึกกลางป่าเลย

อยู่ดีๆสามัญสำนึกของผมที่ถูกความเงี่ย_ปกคลุมมันก็กลับมาอีกครั้ง ตอนนั้นคือคิดเลยว่าเหี้ย ไอ้โทน ไอ้ส้นตีนกับพี่เตยมึงยังทน มึงยังห้ามใจได้ กับพี่หมิวทำไมมึงไม่ได้วะ


ผมไม่ได้อยากจะหล่อ ผมไม่อยากจะดูเท่ส์ แต่ผมไม่อยากจะเสียพี่สาวของผมไปจริงๆครับ ผมหยุด หยุดจริงๆผมหยุดเลีย หยุดดูด ผมกอดเอวพี่สาวของผมไว้ พี่หมิวเธอก็คงรู้ว่าผมแปลกๆ


เธอนั่งลงมาแล้วถามว่าผมไม่ทำแล้วเหรอ ผมก็เงียบนะ แล้วพี่หมิวเธอก็ใช้ท่าไม้ตายเลยล่ะ เธอถลกเสื้อผมขึ้นแล้วบอกว่า งั้นเจ๊จะทำอะไรสยิวๆให้มั้ย เมื่อกี้โทนดูดของเจ๊ใช้มะ งั้นคราวนี้เจ๊จะดูดให้มั่ง

[ พี่หมิว ]  :  งั้น โทนถอดเสื้อบ้างสิ่ อย่าให้เจ๊ถอดคนเดียว


อื้อหืม คำๆนี้มันมาจากหนังเรื่องไหนเนี่ย ทำไมพี่หมิวพูดแบบเน้ !!! ผมก็บอกไม่เอาไม่ถอด ผมหนาว  แต่พี่หมิวก็บอกถอดเลยยย เดี๋ยวกอดเจ๊ก็ได้จะได้อุ่นๆ ผมก็บอกโอ๊ยเจ๊อย่าดึงเดี๋ยวเสื้อมันยืด พี่หมิวก็สวนกลับมาว่าเอ้าก็นี่ไงเสื้อยืด ยืดดด ( มุกโคตรเก่า ) โอยเสื้อยืดผมจะกลายเป็นเสื้อย้วยแล้ว


ด้วยความที่เสียดายเสื้อครับ ซื้อมาตั้งตัวละ 199 ยี่ห้อบิลลาบอง สีน้ำตาลจำได้เลย ผมก็ยกแขนเสื้อให้เจ๊เขาถอด ตอนนั้นที่ยอมเพราะผมว่าอารมณ์ของเราสองคนมันเริ่มดับลง ไม่รุนแรงเหมือนตอนแรกแล้วล่ะ


แต่พอถอดเท่านั้นแหละพี่หมิวก็นิ่งเลย ผมยกแขนเสื้อแต่โดยดีนะ ทันทีที่เสื้อผมถอดออกและพี่หมิวเห็นรอยช้ำที่ยังเหลืออยู่ รวมถึงรอยมีด พี่หมิวก็ชะงักเลยครับ พี่หมิวนิ่งไปเลยตอนนั้น พี่หมิวแตะที่แผลซึ่งผมก็ไม่ได้เจ็บแล้วนะมันแค่ยังเป็นรอยอยู่


พี่หมิวพูดขึ้นมาว่าเจ๊จะชดใช้ให้นะคราวนี้เจ๊ทำท่าจะผลักผมลงนอนครับ แต่ผมก็ยั้งตัวไว้จนหน้าอกเปลือยเปล่าขาวชมพูของพี่หมิวมาเบียดหน้าอกของผมเลยล่ะ


[ ผม ]  :  อย่าฝืนสิ่พี่หมิว ผมรู้ว่าพี่ก็ไม่ได้อยากทำหรอก ผมไม่ได้โกรธจนขนาดที่ต้องให้พี่หมิวมาทำแบบนี้ให้หายโกรธนะ


ผมพูดออกมาแบบนั้นจริงๆครับวันนั้นซึ่งพอมานึกถึงวันนั้นแล้ว มันก็เกิดคำถามขึ้นมาว่า " กูพูดอะไรลงไป "  ผมไม่ได้อยากใช้คำพูดที่สวยหรูนะ แต่ตอนนั้นมันพูดอะไรไม่ออกจริงๆ


พี่หมิวก็ยังทำยิ้มๆนะ แต่ผมก็พูดสวนไปว่าเมื่อกี้พี่เรียกชื่อพี่เตย พี่ไม่ได้เรียกชื่อผม ซักพักเท่านั้นแหละ

อึ๊ก !!! งือออ เตย โทน


เฮ้ยเดี๋ยวนะ หรือว่าเป็นอย่างที่ผมคิดวะ พอความเฮี่ยนที่ลงไข่มันทุเลาลงผมก็มานั่งคิดว่ารสจูบของพี่หมิวมันหวานแปลกๆ จะว่าไปแล้ว ขอย้อนไปตอนที่แล้วแปปนึงนะครับ


จะว่าไปแล้ว ตั้งแต่กินข้าวเสร็จ ผมล้างจาน เก็บโต๊ะ อาบน้ำ เดินดูรอบบ้าน แล้วพี่หมิวทำอะไรอยู่ ทำไมพึ่งอาบน้ำกันนะ ผมเลยพูดกับพี่หมิว พี่หมิวลองฮ่อวว หน่อยครับ


[ พี่หมิว ]  :  ไม่อาว ฮ่อวอะไร เจ๊จะอึ๊บบบ

[ ผม ]  :  น่านะลองพ่นไฟ หน่อยนะ

พ่นไฟคืออะไร หลายท่านอาจจะงงขออธิบายง่ายๆ คือตอนที่ไม่สบาย มีไข้ พวกผมจะคำศัพท์ที่ชอบพูดเล่นกัน คือร้อนจนจะเป็นมังกรพ่นไฟแล้ว นั่นแหละผมเลยบอกพี่หมิวว่างั้นลองพ่นไฟหน่อย


พี่หมิวก็จัดเลยครับ ฮ่อวววว อื้อหืมชัดเลย


[ ผม ]  :  นี่เจ๊ เมาใช่มั้ย

[ พี่หมิว ]  :  ไม่ ไม่ได้มาว ไม่เลย โทนไม่รักเจ๊แล้วเหรอ ดูดนมเจ๊แล้วไม่ทำต่ออ่ะ

โอยหัวผมควันท่วมเลยทีนี้ มันปรี๊ดดด เหมือนกาน้ำร้อนที่พ้นควันตอนน้ำเดือดโอยย เจ๊พูดมาตรงๆเลยว่าผมดูดจุกของเขา พี่เขาส่ายหัวงอแงดิ้นๆๆ เฮ้ออ เอาวะอย่างน้อยผมก็ยังไม่ได้ทำอะไรที่มันเนรคุณพี่แมน


ผมกอดพี่หมิวไว้ครับ กอดและเอื้อมไปติดตะขอเสื้อในให้เขา เจ๊ก็ยิ่งทำหน้า ทำตาดุเลย เขาถามผมว่าติดทำไม ผมก็บอกว่าติดแหละดีแล้ว พี่หมิวเธอกอดคอและงับหูผมครับ


อูยยย แย่แล้วผม ผมก็บอกพอแล้วพี่ พอผมหันหน้ามาพูดเจ๊ก็จูบเข้ามาอีก ชัดเลยรสนี้สปายในตู้เย็นของผมแน่ๆ พี่หมิวจูบผม งับๆริมฝีปาก แล้วก็ถามผมว่า ผมจะไม่คุยกับพี่เขาเหมือนเดิมจริงๆเหรอ


[ ผม ]  :  ก็คุยแล้วนี่ไงครับ

[ พี่หมิว ]  :  ไม่เหมือนเดิม โทนไม่รักเจ๊เหมือนเดิมแล้ว เจ๊ทำโทนเจ็บใช่มั้ย คุยกับเจ๊เหมือนเดิมนะ จะตี จะอึ๊บเจ๊ก็ได้


เอ้า !!! ไปกันใหญ่ละคราวนี้ พี่หมิวซบลงที่ซอกคอผมครับ ผมก็แบบเกร็งคอรอความเสียวเลย แต่ว่า.... ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผ่านไป 1 นาทีคอผมก็ยังนิ่งอยู่ หรือว่า.....


โอยเดจาวูอีกแล้ว พี่หมิวเมาหลับไปแล้ว โอยท่านผู้อ่านผมปวดหัวกับพี่สาวคนนี้จริงๆ ผมเขย่าๆๆตัวพี่หมิว พี่หมิว พี่หมิว เงียบ ไม่มีสัญญาณตอบกลับ สงสัยภาพตัดไปแล้ว


เฮ้อลำบากกรู๊ว อีกแล้ว ใครบอกอิจฉานายโทนคิดใหม่เถอะครับผม ผมประคองตัวพี่หมิวลงช้าๆ อื้อหืม แอร์แบ็ค 2 ลูกตู้มๆเลย เอ้ยๆๆนี่พี่สาว ช่วงเวลาทดสอบศีลธรรมก็มาบ่อยชิบหายเลยครับ


พี่หมิวหลับไม่รู้เรื่องเลย โดยที่ยังเปลือยท่อนบนอยู่ ผมก็ต้องรับบทน้องชายที่แสนดี ถุ้ยแสนดีตรงไหนเกือบแล้วเฮ้อออ นี่ถ้าพี่หมิวไม่เมาจนเรียกชื่อพี่เตยออกมา ผมว่าป่านนี้ไอ้จ้อนของผมคงอยู่ในตัวพี่เขาแล้วล่ะ


ผมใส่เสื้อให้พี่หมิวครับ แล้วก็จัดการให้พี่เขานอนบนที่นอนนั่นแหละ ส่วนตัวผมก็ต้องไปพิสูจน์หลักฐานอะไรบางอย่างก่อน พอลงมาชั้นล่าง ผมเปิดตู้เย็นดู โอ้โห สปายหายไป 3 ขวด ผมจำได้นะว่าตอนก่อนที่จะกินข้าว


ผมเปิดหยิบนู่น หยิบนี่ในตู้เย็นมันยังมีอยู่ 5 ขวดนี่หายไปซะได้ คงเป็นตอนที่ผมเดินอยู่ข้างนอกแหละที่พี่หมิวหยิบไปกิน เฮ้อปวดหัว ผมเดินกลับขึ้นไปข้างบนครับเพื่อดูว่าพี่หมิวนอนแล้วหรือยัง อ่ะเรียบร้อยหลับปุ๋ย


ผมตั้งใจว่าจะไปนอนห้องแม่นะตอนแรก ผมจำไม่ได้นะว่าผมทำอะไรเกือบ 10 นาที น่าจะเดินเก็บพวกของที่มันไม่เป็นระเบียบมั้ง พวกทาโซ่ พวกดิจิไวซ์ พวกตุ๊กตาตุ๊กตุ่นที่มีอายุพอๆกับอายุของผม


พอจะไปนอนห้องแม่ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาพอดี ผมรีบรับสายเลยนะกลัวว่าพี่หมิวจะตื่น แล้วก็เป็นมิ้นต์แหละครับโทรมา ผมก็ถามนะว่าโทรมามีอะไรหืม


[ มิ้นต์ ]  :  ทำไม ???  ไม่มีอะไรโทรหาไม่ได้เหรอ


นั่นไงล่ะ ใครเป็น FC น้องมิ้นต์มาช่วยผมรับแรงแรงบ่นนี้หน่อย ผมบอกเปล่าจ้าโทรได้ ก็สงสัยเฉยๆเลยถาม มิ้นต์โทรมาถามผมครับว่าเมื่อไรจะทำตามสัญญาที่บอกจะพาไปเที่ยว


ชิบหายละไงผมไปสัญญากับมิ้นต์ไว้จริงๆด้วย ตอนนั้นผมถามไปก่อนเลยนะว่าอยากจะไปไหน มิ้นต์ก็บ่นเลยครับว่า ถ้าชวนอ่ะก็ต้องคิดสิ่ว่าจะพาไปไหน


[ ผม ]  :  เอ๋า ก็พี่ไม่รู้นิว่ามิ้นต์อยากไปที่ไหนเป็นพิเศษ

[ มิ้นต์ ]  :  โฮ้ เคยจำอะไรได้มั่งเนี่ย ก็บอกแล้วว่าไปไหนก็ได้ แต่ไม่ชอบคนเยอะๆ


ผมเลยบอกว่างั้นขอเวลาเซิร์ทหาข้อมูลก่อนได้เปล่า จะได้มีเวลาเตรียมตัวได้ทัน คือในใจผมคิดด้วยว่าถ้าจะไปเที่ยวก็คงต้องเก็บตังส์ด้วยแหละ ไม่ใช่ว่าไปแล้วไม่พอจ่ายนู่นนี่นั่น


มิ้นต์ก็บอกนะว่า ก็ได้ครั้งนี้จะให้อภัย ถ้าคราวหน้ายังทำไม่รู้อีกจะไม่คุยด้วยละ ผมก็บอกโอ๋ๆๆ เป็นอะไรเนี่ย อารมณ์เสียอะไรหรือเปล่า มิ้นต์บอกว่ากลัวผมลืมว่าสัญญาอะไรกับเธอไว้

[ มิ้นต์ ]  :  แล้วตอนนี้เคลียร์ปัญหาส่วนตัวยัง


เชื่อมั้ยพอมิ้นต์พูดแบบนั้นผมหันไปมองพี่หมิวที่หลับอยู่เลย ผมก็บอกอื้มคงแก้ได้แล้วล่ะมั้ง มิ้นต์ถามผมอีกครั้งว่าแน่ใจนะ ถ้าคราวหน้าเจอกันแล้วไม่ยังทำหน้าบึ้งตึงล่ะมีเรื่อง


ผมก็พูดแหย่ๆไปว่าจะมีเรื่องป่ะล่ะ ตัวๆได้นะ แต่เสื้อผ้าไม่เกี่ยว มิ้นต์ก็ว่าผม ไอ้มักมาก ไอ้ลามก ไอ้หื่น ผมเลยบอกนะว่าคราวก่อนมิ้นต์ปล้ำพี่ไม่ใช่เหรอ มิ้นต์โวยวายเลยครับ ใครๆ ใครทำอะไร จำไม่ได้ลืม


เฮ้อ น่ารักจริงจริ๊งเจ้าหญิงน้ำแข็งนี่น๊า ผมถามว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่ มิ้นต์ก็บอกว่าวันนี้อยู่บ้านกับแก้ม ผมถามเอ้าแก้มล่ะ มิ้นต์ก็บอกว่าอาบน้ำ กำลังจะติวหนังสือกัน


ผมก็ถามว่าอื้มๆ งั้นดาวทำงานเหรอ มิ้นต์บ่นเลยนะว่า คุยกับมิ้นต์ถามหาพี่ดาวทำไม ผมก็บอกก็ถามๆดู ถ้าไม่พอใจก็ขอโทษ มิ้นต์บอกว่าดาวไปสระบุรีกับเจ๊กับพี่จิ๋ว ก็คงจะเป็นเรื่องธุระของเจ๊แหละครับ


มิ้นต์ก็บอกนะว่าจะอาบน้ำแล้ว ผมก็อื้มๆงั้นไม่กวนแล้ว


[ มิ้นต์ ]  :  จะอาบน้ำแล้ว จะนอนแล้ว


[ ผม ]  :  อ่อ อื้มๆๆ อย่านอนดึกล่ะ


[ มิ้นต์ ]  :  จะอาบน้ำแล้ว จะนอนแล้ว !!!


ผมก็งงว่าอะไรเนี่ย พูดซ้ำทำไมนะ แต่ว่าตอนนั้นก็เหมือนผมรู้ว่าผมพลาดละที่ให้มิ้นต์พูดซ้ำ ผมแม่งพลาดแล๊ว


[ ผม ]  :  อื้มมมม อาบน้ำแล้วอย่านอนดึกนะ ฝันดีครับ !!!


[ มิ้นต์ ]  :  อื้อ ฝันดี


แล้วตัวเธอก็วางสายไป โอยแค่ฝันดีก็ต้องทวงกันวุ๊ย หลังจากที่บอกฝันดีกับแม่เจ้าหญิงน้ำแข็งแล้ว ผมก็จะไปนอนแหละ แต่เบอร์เดิมก็โทรมา แต่คราวนี้เป็นคนละเสียงครับ


[ แก้ม ]  :  โง๊ยยย ทำไมไม่เรียกหาแก้มเลยอ่ะพี่โทน

[ ผม ]  :  ก็มิ้นต์บอกว่าหนู วุ่นๆอยู่พี่ไม่อยากกวน

[ แก้ม ]  :  โง้ยยย  กวนเลยยอมให้กวนทั้งตัวและหัวใจ

[ ผม ]  : จ้า เดี๋ยวจะสะกิด จะกวนยาวๆเลย

[ แก้ม ]  :  งื่อออ จะขอก็บอกดีๆ ยอมหมดแหละ แต่ต้องใส่ถุงนะ


พรวดดด ตอนนั้นคือจังหวะมันก็ซิทคอมแท้ๆ อยู่ดีๆแก้มก็พูดออกมาเฉยแล้วผมก็ว่าตรงนั้นมิ้นต์ต้องอยู่ด้วยแน่ๆ และผมก็ได้ยินนะ ว่ามิ้นต์ถามว่ายังเรียกคุณแฟอีกเหรอ


แก้มก็ยิ่งแกล้งมิ้นต์ใหญ่เลยครับ จนสักพักแก้มพูดกับผมว่า พี่โทนจ๋าแก้มนอนก่อนนะ ผมก็บอกจ้าๆฝันดีนะ แล้วแก้มก็เหมือนว่าหันไปพูดกับมิ้นต์ครับ ผมจำได้ดีเลยว่ายัยนังมารตัวน้อยพูดว่าอะไร


[ แก้ม ]  :  5555 พี่โทนบอกฝันดีเค้าด้วย เค้าไม่ต้องทวงแบบมิ้นต์เลย


โอยผมปวดหัวกับนางมารคนนี้จริงๆ มิ้นต์แย่งมือถือไปมั้งครับ เพราะเสียงมันตะกุกตะกัก มิ้นต์บอกผมว่าจะนอนแล้ว จะนอนจริงๆแล้ว ผมก็บอกจ้าๆฝันดีอีกทีนะ  แล้วสายก็ตัดไปครับ โอยปวดหัวกับสองคนนั้นแท้ๆ


ผมจะโทรหาดาว ดาวก็รับสายนะ แต่ก็บอกว่าจะนอนแล้วพรุ่งนี้มีธุระตอนเช้า ดาวบอกฝันหวานค่ะ ดาวบอกนะว่าคราวหน้าจะชดเชยให้นะ ไม่โกรธนะ ผมก็บอกเอ้ยไม่ได้โกรธนอนเถอะๆ


เอาล่ะได้เวลานอน ผมตรงไปนอนที่ห้องแม่เลยครับทีนี้ แต่.... นอนไม่หลับ ผมเป็นห่วงเจ๊หมิวอ่ะว่าจะอ้วกมั้ย ถ้าตื่นมาเมาๆจะเดินชนนั่นชนนี่หรือเปล่า ถ้าตกบันไดล่ะ ถ้าเกิดอุบัติเหตุล่ะ โอยยย กรรมของกู


ผมก็เลยต้องหอบผ้า มานอนในห้องเดิมครับ โดยที่หวังว่าตื่นมาแล้ว ผมจะไม่เจอกับเหตุการณ์ครั้งก่อนนะ สาธุแล้วผมก็นอนหลับไป ผมหลับไปนานเท่าไรไม่รู้นะ


แต่รู้สึกว่าตัวผมหนัก ผมกำลังโดนกดทับ เชี่ย เชี่ยแล้ว ผม ผม ผมโดนผีอำ เฮ้ย เดี๋ยวก่อนดีหรือว่าช่วงนี้พ่อไม่ได้ให้น้ำแดง หรือไม่ได้ซื้อของเล่นให้ อึ้ก !!! โอยยย


หรือว่าเพราะช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้สวดมนต์ พระคุณแผนถึงมาเตือน โอย แย่แล้ว แต่ทำไมกลิ่นหอมจัง ผมพยายามลืมตามอง



จ๊ากกกก  ผู้หญิงผมยาวกำลังนอนทับตัวผมอยู่ อ่ะจ๊าก ซะ ซะ ซวยแล้ว พี่บ้านพี่เรือนเหรอ กระพ้มขอโทษที่ไม่คาอยได้กลับบ้าน


ขอโทษที่ไม่ค่อยได้ไปทำบุญให้ที่ท่าน้ำก๊าบบบ


[ ???? ]  :  งือออออ


ชี๊บหายแล๊วววว พี่พูดได้ด้วย จ๊ากกกก


[ ???? ]  :  งืมมม เตยกอดเค้าหน่อย


[ ผม ]  :  ............


เอาละ ไม่ใช่ผีละ แต่ !!! แต่เพราะเป็นพี่หมิวยังไงล่ะ เฮ้อ สบายใจ.... สบายใจก็เชี่ยละครับ !!!



จำได้มั้ยว่าตอนที่ 20 ผมโดนอะไรไป โดนตบเลือดกบปาก โอยเอาไงดีวะ คราวนี้แย่แน่ ต้องแย่แน่ๆ


เคยไหมครับท่านผู้อ่าน คือตื่นมานังไม่ทันหายง่วงกลับต้องเหตุการณ์เลวร้ายยิ่งกว่าภัยพิบัติธรรมชาติ โอยซวยแล้วกู


แล้วเมื่อคืนเจ๊แกเมาสปายด้วยสิ่ งานเข้าแล้วไงกู แล้วไม่รู้มันเป็นเพราะพี่หมิวนอนทับ หรืออาการลนลานของผม นั่นจึงทำให้ระบบหายใจผมแม่งรวน



คือหายใจฮื่ดฮ่าด ฮื่ดฮ่าด พะ พะ พะ พี่หมิวตื่นแล้วชิบหายแล้วไง โอยยย อย่านะพี่หมิวอย่าพึ่งตื่น


อ่าส์ไม่ทันแล้ว พี่หมิวตื่นแล้ว เพลงนี้ลอยมาเลย ยอมจำนนฟ้าดิน พี่หมิวตื่นขึ้นมาเธองัวเงีย งืมๆสองที และยืนตัวขึ้นมานั่งคร่อมผม


เอาแล้ว !!! พี่หมิวง้างมือแล้ว จ๊ากกกกก


[ พี่หมิว ]  :  ฮึ๊ อื้อออออ นอนสบายจัง


ยังๆๆ ผมยังรอดครับ รีดเดอร์ จ๊ากก พี่หมิวมองมาแล้ว โอย วิวตอนนี้มันก็ดีอยู่หรอก มีผู้หญิงสวยน่ารัก มานั่งคร่อมแบบนี้ การได้มองเสยเนินนมเนี่ย บอกเลยว่าวิวดีสุดๆ


แต่สถานการณ์ตอนนี้โคตรเสี่ยงกับชีวิตเลย ผมเกร็งหน้า กัดฟันเลยครับ โดนตบปากแตกอีกรอบ เจ๊เขาคงไม่รู้ว่าการที่ต้องปากแตก แล้วเป็นร้อนในมันทรมานโคตรๆ


ผมหลับตาเกร็งหน้ากัดฟัน พร้อมคิดในใจมาเซ๊ มาเลยตบมาเลย ผมพร้อมรับแรงกระแทกแล้ว แปะๆ แปะๆ


เสียงที่เกิดขึ้น มันไม่ดังผั๊วะ ไม่ได้ดังเผี๊ยะครับ แค่แปะๆๆ พี่หมิวแค่เอามามาแตะๆๆที่แก้มผม เชี่ยเอาไงดีวะ ผมจะเอายังไงต่อดี


[ พี่หมิว ]  :  แกล้งหลับเหรอโทน ดูมั่งสิ่ อะไรมันทิ่มเจ๊แล้วเนี่ย


ชิบหายแล้วไง ยังไม่แปดโมงแท้ๆแต่ผมเคารพ ผมสะดุ้งเลยครับ ผมลืมตื่นมาอีกทีพี่หมิวก็ก้มหน้ามาใกล้ๆแล้ว


เธอเอานิ้วจิ้มๆๆๆจมูกผมแล้วบอกว่า แกล้งเจ๊เหรอ เอาอะไรมาทิ่มเจ๊ พูดอย่างเดียวก็ไม่ได้อูยขยับเอวทำไม พี่หมิวมองหน้าผมและขยับเอว ร่อนช่วงล่างไปด้วย


ผมเลยบอกว่าตื่นแล้วๆๆ พี่หมิวลุกได้แล้ว เฮ้อจะว่าโล่งใจก็โล่งใจที่ไม่โดนตบหน้าเหมือนคราวก่อน แต่ไอ้แบบนี้มันจะแย่เอานะครับ พี่หมิวเล่นมาทำแบบนี้ผมนี่จะแย่

แต่พี่หมิวก็ไม่ลุกนะพี่เขายังนั่งทับผมอยู่แบบนั้น ผมก็ยิ่งรีบบอกให้ลุกๆๆ เพราะหำของผมมันแข็งจนผมปวดตุ้บๆๆแล้ว พี่หมิวลุกนะ แต่ลุกแล้วก็มานั่งข้างๆ ผมนี่รีบเอาผ้าห่มมาคลุมช่วงล่างให้ไวเลยตอนนั้น


[ พี่หมิว ]  :  ฮื๊บบบ นอนสบายจัง


[ ผม ]  :  พี่หมิวลงมานอนข้างล่างได้ไงเนี่ย


[ พี่หมิว ]  :  ก็ข้างบนมันหนาวนี่นา นอนข้างล่างดีกว่า มีผ้านวมปูด้วย อุ่นจะตาย


[ ผม ]  :  ไม่ตลกเลยนะพี่หมิว ถ้าคราวนี้พี่เข้าใจผิดแล้วตบผมอีก ผมก็เจ็บฟรีสิ่


ผมก็พูดไปตามความรู้สึกนะ พี่หมิวก็นิ่งแปปนึงก่อนที่จะยิ้มให้แล้วบอกว่า ก็คราวนี้เจ๊รู้แล้วไง ว่าโทนไม่ได้ปล้ำเจ๊ ผมก็ถอนหายใจครับ เอาวะอย่างน้อยพี่เขาก็รู้ว่าผมไม่ได้ทำ


ตอนนั้น 7 โมงมั้ง ผมก็ถามว่าพี่หมิวหิวยังผมจะทำอะไรให้กิน ตอนแรกก็ตกลงกันนะว่าจะกินข้ามต้มกัน เพราะข้าวที่สั่งมาเมื่อคืนยังเหลืออยู่ ผมจะเอามาทำเข้าต้ม แต่ไปๆมาๆ พี่หมิวเหมือนจะนึกอะไรออก


เธอบอกว่าเปลี่ยนใจแล้วๆๆๆ วันนี้ไปเซ็นทรัลปิ่นเกล้ากัน ผมก็งงว่าฮึ๊ ไปทำไม แต่ผมก็ตอบไปว่าอื้มๆไปสิ่ มากินข้าวก่อน 10 โมงกว่าห้างจะเปิด พี่หมิวเขาก็บอกมานะว่าไม่เอาๆ เดี๋ยวเจ๊กลับบ้านก่อนนะ


แล้ว 10 โมงค่อยเจอกันที่ห้าง เอาจริงๆผมก็งงนะ ทำไมพี่หมิวไม่รอไปพร้อมกันล่ะ ทำไมต้องกลับไปบ้านก่อน ตอนนั้น 8 โมงครับหลังจากพี่หมิวอาบน้ำเสร็จ ผมก็ขี่ Wave ที่อ่านว่าเวฟ ไม่ได้อ่านว่าว้าเหว่ โอยพอเถอะมุขโคตรเก่า


ผมขี่เวฟตัวเก่งไปส่งพี่หมิวที่หน้าปากซอยครับ หลังจากที่พี่หมิวขึ้น Taxi ผมก็กลับบ้านและแวะร้านขายนมเจ้าประจำ ผมแวะซื้อไข่ลวกครับ ถ้าได้กลับบ้านล่ะก็ต้องแวะตลอด


ไข่ลวก 3 ใบเตาะดังเป๊าะ กะเทาะลงแก้ว เหยาะแม็กกี้ โรยพริกไทยตราไร่ทิพย์ อ่าส์ โคตรฟินบอกเลย ซึ่งตอนที่ผมกำลังนั่งกระดกกินอยู่นั้น ป้าเจ้าของร้านก็ถามว่าแฟนกลับไปแล้วเหรอ


ผมบอกไม่ใช่แฟนครับป้า ไม่ใช่ ไม่ใช่ ป้าก็บอกก็เห็นมาหาแทบทุกวันเลย ผมก็ฮึ๊ มาหาทุกวันพี่หมิวเนี่ยนะ แล้วผมก็ไม่ได้ถามป้าต่อนะ พอผมกินเสร็จ จ่ายตังส์ แล้วก็แว๊นกลับมาบ้าน


โฮ่งๆ ๆ เสียงไอ้มูชูหมาทรยศเห่าต้อนรับเจ้านาย ที่มันยังพอจำได้ว่าผมเป็นเจ้านายมัน ผมเดินเข้ามาในบ้านและไม่ลืมลูกชิ้นจ้าวโปรดของมัน ทันทีที่เห็นไอ้หมาตะกละก็นั่งลงยกมือหยอยๆเพื่อขอกิน


[ ผม ]  :  มึงไม่ต้องเลยนะไอ้มูชู เมื่อวานวิ่งหาพี่หมิวอย่างไวเลยนะมึงเนี่ย

มันก็คงภาษาผมไม่ออกแหละครับ ผมไม่ได้ใส่อารมณ์ หรือใส่น้ำเสียงอะไร มันก็คิดว่าผมพูดเล่นกับมัน มันก็เดินวนๆๆ ดมฟุตฟิต ผมเลยถามจะกินมั้ย จะกินทำไม


มันก็ยืนสองขา ไหว้แหยงๆๆๆ อ่ะผมก็เดินไปดึงไม้ออกและใส่ลูกชิ้นลงในชามข้าวประจำตำแหน่งของมัน ตอนมันกินผมก็นึกอะไรไม่รู้นะ ผมถามไอ้มูชูว่าพี่หมิวมาบ่อยๆจริงๆเหรอวะมูชู


ซึ่งผมก็ไม่ได้คาดหวังคำตอบจากไอ้หมาทรยศนี่หรอกครับ ผมถามไปงั้นแหละ ผมเดินมาที่หลังบ้านพร้อมกับดูตารางอาบน้ำของไอ้มูชูที่พอเขียนไว้ เอ้าต้องอาบน้ำตั้งแต่เมื่อวานแล้วนี่หว่า


เฮ้ออออ เหนื่อยอีกแล้วผม คือใครที่เลี้ยงหมา ผมว่าหลายท่านคงจะมีปัญหาหมาอาบน้ำยากแน่ๆ เจออุปกรณ์อาบน้ำเหมือนเจอผีวิ่งหนีกระจาย แต่ผมก็ถือโชคดีนะที่มูชูมันไม่กวนตีนเรื่องอาบน้ำ คือพูดง่ายว่าง่าย พอเห็นอุปกรณ์อาบน้ำแล้วไม่วิ่งหนี


แต่ที่ปวดใจคือพออาบน้ำให้เรียบร้อย ไอ้หมาทรยศมันไปโดดน้ำคลองซะงั้นโอยเพื่อ แล้วผมจะอาบน้ำให้เพื่อ ดีนะมันเป็นตัวผู้ไม่งั้นพ่อกับแม่ผมปวดหัวแน่นอน


พอผมจัดการไอ้มูชูจนเรียบร้อยแล้ว ล้างมือ ฟอกสบู่ กำจัดกลิ่นหมาเรียบร้อยผมก็คราวนี้ก็ได้เวลานอน โอยยย อากาศสบายๆแบบนี้ อยู่บ้านแบบนี้จะรีบไปไหนครับโผมมม


ผมเดินไปที่อาณาจักรของผมซึ่งเป็นบ้านหลังไม้เล็กๆห่างจากบ้านหลักไปประมาณ10 เมตร แต่ก่อนก็เป็นที่เก็บของ พวกเครื่องไม้เครื่องมือของพ่อนั่นแหละ


แต่พอทำบ้านใหม่ ซื้อที่เพิ่ม พอก็เลยได้ทำที่เก็บของใหม่ ตอนแรกพ่อจะรื้อบ้านหลังนี้ทิ้ง แต่ผมบอกว่าขอละกัน ซ฿งพอก็ยกให้ จะเรียกบ้านก็ไม่รู้ว่าจะเรียกได้มั้ย เพราะมันกว้าง แค่5 เมตร ยาว 6-7 เมตร


ตอนแรกมันก็โล่งๆนะ พอขนของออกหมดก็จะมีแต่พวกชั้นลอย พวกชั้นที่เอาไว้วางของ ผมก็เอาเงินส่วนนึงจากขาย M นั่นแหละมาต่อนู่นเติมนี่ จนได้เป็นที่ซุกหัวนอนเล็กๆ


เฮ้ออ สบายโคตรๆบอกเลย แต่ว่ายังไม่ทันจะได้หลับตานอนเสียงโทรศัพท์ผมก็ดังมาแล้วครับ เป็นพี่หมิวที่โทรมา


[ พี่หมิว ]  :  เจ๊ถึงบ้านแล้ว กำลังจะอาบน้ำ ทำอะไรอยู่เนี่ยหืม


[ ผม ]  :  เอ่ออ เอ่อออ


[ พี่หมิว ]  :  ทำไมสัญญาณไม่ค่อยดี หรือว่าอยู่ที่บ้านหลังเล็ก


โอ้ยย !!!  นี่แม่หมอมาเองหรือไงวะเนี่ย แค่สัญญาณโทรศัพท์ไม่ดีก็เดาถูกอีกว่าผมอยู่บ้านหลังเล็ก นี่พี่หมิวมี Six Sense เหรอเนี่ย แล้วเถียงไม่ออกเลยครับทีนี้


พี่หมิวบ่นใหญ่เลยครับ เธอบอกว่าต้องออกไปเที่ยวเซ็นทรัลปิ่นฯกันนะ ทำไมไม่รีบเตรียมตัว ผมเลยบอกว่าพี่หมิวครับ เซ็นทรับกับบ้านผมห่างกันไม่ถึง 5 กิโลเมตร ไม่ต้องรีบหรอก

รู้มั้ยพี่หมิวพูดกลับว่าอะไร " แล้วโทนจะให้เจ๊ไปรอเหรอ โทนไม่รักเจ๊แล้วใช่มะ "


โอยกูล่ะงึ่ดแท้น้อ อิหยังของเพิ่น พี่หมิวยังถามผมนะว่าไม่รักเจ๊แล้วเหรอ ผมก็บอกรักค๊าบ รักค๊าบ เดี๋ยวจะรีบอาบน้ำเลยค๊าบบ โอยยยย ปวดหัว พอได้ยินคำตอบที่พอใจพี่หมิวก็บอกดีมากและวางสายไปเลย


โอยกำลังจะได้นอนแท้ๆ ผมจึงต้องเดินไปที่บ้านหลักเพื่ออาบน้ำ เตรียมตัว เฮ้อ ห้างมันก็เปิด 10 โมง จะรีบทำไมน้ออ จนผ่านไปอีก 30 นาทีผมก็จัดการตัวเองจนเรียบร้อย


ผมหมายถึงอาบน้ำเว้ย คิดอะไรกันเนี่ย ผมยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าพร้อมกับคิดในใจว่า กู !!! จะใส่อะไรดี ที่ถูกใจพี่หมิว ผมบอกเลยว่าการไปเที่ยวกับผู้หญิงนี่ลำบากนะบอกตรงๆ


จะแต่งตัวยังไงให้ดูดี ให้ถูกใจเขา ตอนผมอายุ 18 เวลาจะไปเที่ยวผมคิดอยู่อย่างเดียวนะ สาวๆที่ผมจะไปเที่ยวด้วย จะสวยมั้ยนะ พวกเธอจะแต่งตัวตามนักร้องวงไทรอั้ม คิงดอมพ์หรือเปล่านะ


หรือว่าพวกเธอจะดูดีกันหรือเปล่านะ ผมคิดแค่นั้นแหละครับสารภาพเลย แต่พอโตขึ้นๆ โดนสั่ง โดนสอนหลายๆอย่าง มันก็ทำให้ผมเรียนรู้ใจเขาใจเรา ผมอยากเห็นพวกเธอดูดี พวกเธอก็เช่นกันพวกเธอก็คงอยากเดินกับคนที่ดูดี


ถึงจะไม่หล่อแต่ขอให้แต่งตัวดีๆพอ และพอยิ่งมารู้จักพี่เตย ได้มากิ๊กกัน นั่นแหละทำให้ผมเริ่มหัดแต่งตัวมากขึ้น จากกางเกงยีน เสื้อยืด ก็ต้องปรับเปลี่ยนไปตามกาละเทศะ และโอกาส


แต่ปัญหาคือตอนนี้ผมจะใส่ชุดอะไร เพราะชุดที่เอาไว้ทำงานและเอาไว้เดินตามห้างในวันหยุด ผมขนไปที่พระรามสามจนเกือบหมดแล้ว แต่มันก็ยังเหลืออยู่นะชุดที่ดีๆอ่ะ มันดีจนผมไม่กล้าใส่


ใช่ครับ มันเป็นชุดที่พี่หมิวซื้อให้จากพาราก้อน เห็นราคาแล้วใส่ไม่ลงเลยครับ แต่วันนั้นมันจนแต้มจริงๆ ไม่มีทางเลือกเลยต้องใส่ โอ้โห พอเดินออกจากบ้าน หมาเห่าตั้งแต่หน้าบ้าน ยันหน้าปากซอย เอาซะผมไม่กล้าออกจากบ้านเลย



แต่ก็เอาเถอะครับแต่งมาขนาดนี้แล้ว วันนั้นต้องนั่ง Taxi ครับ เพราะไม่อยากเหงื่อออกก่อนที่จะเจอพี่หมิว ผมลงรถฝั่งเมเจอร์แล้วเข้าไปนั่งที่ Mc รอเซ็นทรัลเปิด ซึ่งอย่างที่บอกครับว่า


สมัยก่อนโลกโซเชียลมันพึ่งตั้งไข่ ยังไม่บูมเหมือนสมัยนี้ อีกอย่างผมก็ใช้ N72 มันทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ ผมสั่งเปปเปอร์เบอร์เกอร์ 29 บาทหรือ 39 บาทจำไม่ได้ สั่งมานั่งกินแก้เขินรอเวลา

และแน่นอนว่าผมมีตัวช่วยในการฆ่าเวลา เทคโนโลยีที่ดีที่สุดในมือผมสมัยนั้น นอกจาก nokia n72 แล้วก็ยังมีนี่ครับเครื่องเล่น mp3 แบบในภาพครับ





ฟิลลิ่งที่ดันแกนลูกกลิ้งเพื่อเปลี่ยนเพลง ผมว่ามันคือฟิลลิ่งที่สมัยนี้ไม่มีแล้วล่ะครับ คือมันก็นานแหละครับที่ซื้อมา แต่มันก็ยังใช้ได้ดี


ทำไมของสมัยก่อนนี่มันทน มันถึกจังน้อ คิดดูดิ่ N72 ของผมที่เขวี้ยงแตกกระจายไปตอนที่ 15 หรือ 16 ยังเอามาซ่อมได้เลย  อ่ะกลับมากันต่อ


" มีเรื่องราวมากมาย ที่ไม่มีใครได้ฟัง คำพูดนับร้อยพันที่ต้องการเอื้อนเอ่ย "



เพลง ของขวัญ ของ มัสคีเธียร์บอกเลยว่าช่วงนั้นดังมาก คลื่นหลายๆคลื่นเปิดกันโครมคราม ด้วยความที่ผมชอบ ก็เลยไปหาโหลดเถื่อนมาใส่ลงเครื่อง MP3 ( อย่าทำตามผม )จริงๆแล้วลิสต์ในเครื่อง Mp 3 ผมมีหลายเพลงนะ ทั้ง

ฉันอยู่ตรงนี้ - แบล็คเฮด
คนที่ถูกรัก - Body Slam
มุม - PlayGround
นางฟ้าในใจ - Clash
ที่เดิม - Potato
ตะวันยังมีให้เห็น - ออฟ ฟองศักดิ์
เครื่องช่วยหายใจ Harem Bell
จูบ - Jetset'er


แต่ช่วงนั้น ผมวนฟังแต่เพลง ของขวัญนี่แหละบ่อยๆ พอผ่านไปได้สักพักผมก็โทรถามพี่หมิวนะว่าอยู่ไหนแล้ว คำตอบคืออะไรรู้มั้ย เจ๊อาบน้ำเสร็จแล้ว แม่จ๊าว ผ่านมา 1 ชั่วโมง บอกอาบน้ำเสร็จให้ตายเถอะ ผมดูนาฬิกา อ่าส์ 10 โมงแล้ว ผมเดินขึ้นสะพานลอยข้ามฝั่งไปเซ็นปิ่นทันที


รู้มั้ยผมแวะที่ไหนก่อน ผมแวะที่ร้านกระดาษ 555 Paper Plus ครับ ขอนอกเรื่องนิดนึง ทุกท่านรู้เปล่าว่าร้านนี้เหมือนเปิดโลกเกี่ยวกับกระดาษของผมเลยนะ ตั้งแต่ ม.1 - ม.6  กระดาษที่ผมรู้จักมีแค่

1.กระดาษสมุด
2.กระดาษสีปริ๊นท์งาน
3.กระดาษปกรายงานสีๆ แผ่นละ 5 บาท กลิ่นหอมๆ
4.กระดาษแข็งม้วนใหญ่ๆที่เอาไว้จัดบอร์ด
5.กระดาษย่น
6. แผ่นใสกันรอยหน้าปกรายงาน





สารภาพเลยว่ารู้จักแค่นั้นจริงๆ แต่พอมาได้เจอร้าน 555 PaperPlus ที่เซ็นปิ่นฯ ผมนี่แบบเหมือนหลุดเข้าไปอีกโลกเลย มันมีทั้งกระดาษมัน กระดาษสีพาสเทล กระดาษที่เป็นรูปตัวการ์ตูนแล้วพิมพ์สีไม้ โอยพูดไม่หมด


ไม่ได้ไทอินนะบอกเลย แต่ผมมีความทรงจำดีๆเกี่ยวกับร้านกระดาษนี้จริงๆ ผมกลับมาเซ็นปิ่นฯ ผมก็เดินเข้าไปข้างในทันที หลายๆอย่างเริ่มเปลี่ยนไปละครับ แต่ที่ไม่เปลี่ยนคือความคลาสสิกและความประทับใจของผม

ผมก็ฟังเพลงไปเรื่อยนะตอนนั้น จนกระทั่งใครบางคนสะกิดๆผม เอ้า !!!  เพื่อนเก่าสมัย ม.ปลาย สาวแว่นนักเรียนห้อง 6 สายศิลป์ญี่ปุ่นนี่เอง ผมก็ทักไปแหละครับ เอ้าว่าไงเจน


เจนก็ทักกลับมาครับ บอกโชคดีจังที่ทักถูกคน ผมเลยบอกเห่ย ถ้าไม่ใช่ขึ้นมาทำไงเนี่ย เธอตอบกลับมาครับว่าก็เรียกแล้วผมไม่ได้ยินนี่นา เออว่ะตอนนั้นกำลังฟังเพลงอยู่เลยไม่ได้ยินนี่หว่า


[ เจน ]  :  แล้วแกมาไงเนี่ยโทน

[ ผม ]  :  อ่าาา นั่งรถมา

[ เจน ]  :  โอ๊ยยย กวนตีนเหมือนเดิมเลยเนี่ย ไม่ได้เจอตั้งแต่เรียนวันไหว้ครูปีก่อนๆแน่ะ


ผมก็ทักมายกันคุยไปเรื่อยแหละครับไม่ได้ เพื่อนผมเธอมาเดินเที่ยวตามปกติ เขาก็บอกว่าผมเหมือนผู้เหมือนคนมากขึ้นนะ


รู้จักดูแลตัวเองไม่เหมือนสมัย ม.ปลาย ที่วันๆเอาแต่เตะบอล ซ้อมยูโด เราออกมานั่งข้างนอกใกล้ๆร้านกระดาษครับ


พวกเราก็ทักทายคุยกันแปปเดียวครับ แปปเดียวจริงๆ และแม่ก็เดินมาจนได้ โอยออร่ามาแต่ไกลเลยครับ ผมไม่แปลกใจละว่าทำไมพี่หมิวต้องกลับบ้านก่อนจะมาที่นี่ทั้งๆที่มาพร้อมกันก็ได้



เพราะพี่หมิวเธอจัดเต็มเลยครับ เสื้อผ้าหน้าผม บอกเลยว่าโคตรสวย สาวสวยหุ่นราวกับนางแบบใส่เสื้อสายเดียว กางเกงยีน ใส่รองเท้าส้นสูง เดินมาแต่ไกล





พี่หมิวแต่งแบบนี้ ในวันนั้น



เธอเดินมาใกล้ๆ ใกล้ๆ และพอยืนอยู่ตรงหน้าผม เธอก็ถอดแว่นกันแดดออก โดยไม่ได้มีท่าทีที่สนใจเจนเลย พี่หมิวพูดกับผมว่า



มาแล้วค่ะที่รัก





 



















เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน


typhoon41

เป็นท่านเทพโทนนี่ดีน่ะ สาวๆกั๊กไว้ทุกคนเลย ขนาดพี่หมิวยังแสดงความเป็นเจ้าของ



Paragraph<BB>



1819

 แฮ่่ เกือบจะตะโกนฟ้อง พี่แมน  แล้วเทพโทนจะโดนปล้ำำ ดีนะเจ้หมิวเมา   แต่อดสงสัยไม่ได้ว่า 2เจ้เเต้ยกับหมิว เขาเลสกันจริงป่าวนี้ ทำไมดุหื่นๆรุกกับเทพโทนจัง 

 ง่า ช่วงครึ่งแรก สาวมินต์กับแก้มและ ดาวโผล่มาแว๊บเดี่ยวเองคิถุง   ไม่รู้ว่าผลโหวต3สาวเกะ ใครนำสุด ::Thinking::
  
กรุงเทพเป็นเมืองที่มีคนเหงา มากกว่าเสาไฟฟ้า

prem aree

เอาจนได้ลุ้นตั้งนาน  ต้องไปชดเชยให้พี่เตยด้วยนะเนี่ย
ชอบเพลงของขวัญหมือนกันครับวัััั

ryg123456

นายโทนช่างใจร้ายกับพี่หมิวนะ อุตสาห์ง้อขนาดนี้แล้ว อย่าเล่นตัวมากซิ

Channarong Saekow



[email protected]

 ::HeyHey::เตย หมิว น่ากลัวกว่าแม่เสือดาวอีกนะ สังสัยนายโทนเป็น ลูกไก่ในกำมือ แล้ว


pliwds

ดีแล้วล่ะที่ไม่แทงหมิว
อย่าเสี่ยงมันไม่คุ้มดอกหรรม
ยังมีอีกสี่สาวให้แทงอยู่

หลังอ่านจบ - เลยเถิดไปไกลเลย รอชมเจ๊หมิวปะทะเสือดาว แมตช์ระดับตำนาน