ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

เสน่ห์หาหมอผี(สาว) 10

เริ่มโดย twintower, กันยายน 12, 2020, 12:14:06 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

twintower

*** จากผู้เขียน***

คือผมอยากจะบอกว่า เรื่องที่ผมเขียนๆขึ้นมาเพื่อจะเป็นคลายเครียดจากงานประจำที่ทำขึ้นมานะครับแต่มีบางครั้งที่หายไปนานๆ บางทีเกิดจากงานประจำ แต่บางทีเกิดจากเวลาเจอความเห็นที่มักง่ายเข้ามา บางคนจะเรียกได้ว่าสักแต่แสดงความเห็น อย่างเรื่องผีหลอกสายฟ้าจะมีอยู่คนหนึ่งที่แสดงความเห็นแบบมักง่าย เช่น" ฮ่าๆๆ ตลกอะ" หรือ "อะไรกันจบแล้วยังไม่ทันรู้เรื่องเลย" เจอแบบนี้เข้าไปมันก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกันครับจนแอบท้อๆไปเหมือนกัน และอย่างในเรื่องนี้เสน่ห์หาหมอผีสาว ผมเจอการแสดงความเห็นที่มักง่าย ด้วยข้อความที่ซ้ำกันเกือบทุกตอนจากคนๆเดียวกัน เช่น อสนีเป็นใคร และ คุณหนูห้ามมีอะไรกับเพศตรงข้าม แล้วใครจะโดน?

ถ้ามันมีแค่ตอนเดียวคงไม่เป็นไรครับ แต่นี่ใช้ข้อความเดียวกันทุกตอน อย่างนี้ผมเรียกมักง่าย ส่วนท่านอื่นๆจะคิดยังไงก็แล้วแต่นะครับ ส่วนอีกหลายๆท่านที่แสดงความเห็นแบบดีนั้นขอขอบคุณหลายๆท่านอ่านแล้วยิ้มโดยเฉพาะท่านผู้เฒ่าเซาะกราวที่ผ่านมาจะเดาทางผมออกตลอดครับนับถือจริงๆ หลังจากเรื่องนี้จบ ผมขอทบทวนอีกสักพักว่าจะนำเรื่องที่เขียนจากจิตนาการ+ประสบการณ์มาเขียนต่อในนี้หรือไม่ครับ

ขอบคุณครับ

ส่วนอีกเรื่อง เพื่อจะได้ให้หลายๆท่านไม่คาใจจะได้ไม่ต้องไปอ่านใน"ผีหลอกสายฟ้า"อีก ครับ

-อสนีเป็นใคร?

อสนีเป็นเทพชั้นสูงที่จุติมาลงโลกเพื่อชดใช้กรรมในชาติปางก่อนโดนตนเองเลือกที่จะใช้กรรมด้วยวิธีนี้เอง โดยเป็นความลับรู้กันเฉพาะเทพชั้นสูงเท่านั้น


-ทำไมอสนีถึงมีพลัง

เพราะความซุกซนของพี่ชายที่เป็นพี่ชายแท้ๆและลูกพี่ลูกน้องได้ฝ่าฝืนคำสั่งของท่านมหาเทพผู้เป็นบิดาและลุง ลงมาหาน้องชายยังโลกมนุษย์เพราะความคิดถึง และได้เผลอหยอกเย้าน้องชายเพราะลืมคิดไปว่าน้องชายนั้นเป็นมนุษย์ธรรมดาไม่มีพลังเหมือนเมื่อก่อน จนทำให้อสนีเกือบตายแต่พี่ชายได้ชุบชีวิตและให้พลังเพื่อช่วยให้น้องชายมีพลังป้องกันตัวแต่หารู้ไม่ว่าพลังนั้นมันทำให้พรหมลิขิตของน้องชายผิดเพี้ยนไปจากเดิมและไปกระตุ้นบารมีของน้องชาย ทำให้จากคนธรรมดากลับเป็นคนที่มีพลังวิเศษพร้อมบารมีที่ทำให้วิญญาณและบรรดาเทพต่างนั้นรับรู้ได้

-อสนีรู้หรือไม่ว่าตนเองเป็นเทพชั้นสูง

อสนี่ไม่รู้จนเข้าสู่วัยชราเพราะบารมีและพลังที่เพิ่มพูนตามวัยสามารถทำให้รู้ว่าตนเองเป็นใครมาและจุติบนโลกเพื่ออะไร

ตามนี้นะครับจะได้ไม่ต้องถามอีกว่า อสนีคือใคร





----------------------------------------------------------------------------------------------------------
ในเช้าวันต่อมา ลินดาตื่นขึ้นมาด้วยความปลอดโปร่งไร้ความกังวลที่เกาะกุมเธอมาตลอดในช่วงหลัง เธอชวนพ่อกับแม่ไปใส่บาตรด้วย ก่อนจะเข้ามาดื่มกาแฟเพื่อรอเวลาอาหารเช้า เธอได้เรียกแม่ครัวเข้ามาเพื่อให้ทำอาหารเพิ่มและเตรียมผลไม้เพราะเธอจะไหว้ศาลพระภูมิในตอนสายของวันนี้

"ไม่ใช่วันพิเศษอะไรทำไมถึงสั่งของไหว้ศาลเยอะขนาดนี้ละลูก"

แม่ของเธอทักขึ้นมา

"ก็ไม่มีอะไรหรอกคะ พอดีเมื่อคืนดาฝันดีด้วยนะคะ"

"ฝันอะไรหรือลูก"

"ดาก็จำไม่ค่อยได้นะคะ ที่พอจะจำได้ในฝันดากำลังเดินอยู่ในที่แห่งหนึ่ง แต่จู่ๆเห็นคน6-7 นั่งพนมมือกันอยู่ ตอนแรกดานึกว่าคนพวกนั้นฟังเทศน์ แต่ไม่ใช่คนพวกนั้นกำลังรับพรจากใครคนหนึ่งอยู่ แต่ดาจำไม่ได้ว่าคนที่ให้พรนั้นคือใคร ดานั่งลงไหว้ตามคนพวกนั้นและดาได้รับพรด้วยคะ ในฝันดารู้สึกอบอุ่นอย่างมากถึงพรพวกนี้จะไม่ได้ให้ดาโดยตรงแต่ดาได้รับอานิสงค์ไปด้วย ตื่นมาเลยรู้ปลอดโปร่งนะคะแม่"

"นั่นนะสินะ แม่ก็ว่าหน้าตาหนูดูสดชื่นขึ้น ขนาดเมื่อคืนที่แม่ทักแต่ตอนนี้ดูดีกว่าเมื่อคืนมาก"

"สงสัยดาคงเลิกกังวลในเรื่องโครงการใหม่ของเราคะ และการสร้างตึกใหม่ก็ไม่มีปัญหาอะไรทุกอย่างดูราบรื่นไปทุกอย่าง"

ทั้งลินดาและอสนีหารู้ไม่ว่าเรื่องที่ลินดาฝันมาจากที่อสนีอุทิศส่วนกุศลให้บรรดาดวงวิญญาณที่ลินดาเลี้ยงไว้ แต่ด้วยกุศลอันแรงกล้าทำให้ลินดาที่เป็นนายของดวงวิญญาณเหล่านั้นได้รับส่วนกุศลนี้ด้วยเช่นกัน วันนั้นลินดาอยู่ที่บ้านทั้งวันจนช่วงค่ำหลังจากทานอาหารเย็นกับที่บ้านเรียบร้อยเธอได้กลับมาที่คอนโด  และเธอได้ได้เรียกวิญญาณทั้งหมดมาพบกับเธอ ลินดาเล่าให้ฟังในเรื่องของคัมภีร์ที่หลวงตารับไว้ดูแล และเรื่องบทสนทนาของเธอกับหลวงตาที่หลวงตานั้นเหมือนจะสอนและชี้ทางให้เธอในหลายๆเรื่อง จนทำให้เธอตัดสินใจที่จะปล่อยวิญญาณที่เลี้ยงไว้

"อย่างที่ฉันบอกเมื่อวาน เมื่อทั้งคุณตาพระภูมิและหลวงตาต่างชี้แนะเรื่องนี้ตรงกัน ทำให้ฉันคิดได้  หลวงตาท่านบอกฉันว่าถ้าเกิดฉันไปเจอนกที่บาดเจ็บแล้วเอามารักษาจนหายฉันจะปล่อยหรือเลี้ยงต่อ ถ้าปล่อยนกก็ได้อิสรภาพกลับไปหาฝูงแต่อาจเจออันตรายจากธรรมชาติซึ่งเป็นเรื่องของวงจรชีวิต แต่ถ้าฉันเลี้ยงนกก็สุขสบายแต่นกขาดขาดอิสระ มันอยู่ที่ฉันเลือกเอาเองว่าจะเก็บหรือปล่อยนกตัวนั้นไว้ ฉันก็ใคร่ครวญมาตลอดจนฉันตัดสินใจว่าควรจะปล่อยพวกเธอไป และอีกอย่างเราก็รู้กันอยู่ว่าฉันเก็บพวกเธอไว้เพื่ออะไร มันไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมานอกจากความสุขที่ฉันใช้อาคมสร้างขึ้นมา สิ่งเหล่านี้มันไม่ยั่งยืน และไม่สร้างความเจริญให้แก่ฉัน ฉันเห็นทางสว่างจริงๆกับแนวทางที่หลวงตาท่านชี้แนะให้ อีกอย่างเรื่องของคัมภีร์โบราณนั่น มันก็จริงอย่างที่คุณตาพระภูมิบอก ต่อให้ฉันปราบวิญญาณหมอผีสุขไปได้ ต่อไปมันก็คงมีพวกผีร้ายหรือไม่ก็พวกคนที่มีอาคมชั้นสูงแบบฉัน อยากได้คัมภีร์เล่มนี้อีก ในเมื่อผีร้ายอย่างมันยังรู้ว่าฉันมีคัมภีร์แล้วคนอื่นๆจะไม่รู้ได้ยังไงมันก็ต้องมีแย่งชิงจนเป็นบาปกรรมไม่สิ้นสุด มันเป็นการดีที่สุดแล้วที่หลวงตาท่านรับไว้ดูแล ถ้าอย่างนั้นพวกเธอจงโปรดเข้าใจฉันด้วยว่าทำไมฉันถึงปล่อยพวกเธอไป"

วิญญาณทั้งหมดต่างนิ่งเงียบและพอจะเข้าใจในเหตุผลของนายหญิง แต่แม้นนั้นได้ทักขึ้น

"คุณหนูเจ้าคะแล้วเรื่อง........."

"ฉันรู้ดีพี่แม้น แต่ถ้าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดนะ ฉันรู้ดีว่าพี่แม้นจงรักภักดีขนาดไหน ตอนที่ปู่จะปล่อยพี่แม้น พี่แม้นก็ไม่ยอมไปขออยู่ดูแลฉันต่อ ตลอดเวลาที่ผ่าน ครั้งไหนฉันอับจนปัญญาก็มีพี่แม้นช่วยคิดหาวิธี พี่แม้นจะคอยช่วยเตือนสติฉันในหลายเรื่อง ฉันรู้ดีว่าพี่แม้กลัวจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าวันใดที่ฉันอ่อนแอ ไม่ว่าจะจากการเจ็บป่วยหรือจิตไม่มั่นคง จะไม่มีวิญญาณที่เลี้ยงไว้ช่วยดูและป้องกันจากมนต์ดำต่างๆที่อาจหวนกลับเข้ามาทำร้ายฉันได้ ฉันทำใจในเรื่องนี้แล้ว หลวงตาท่านบอกไว้ทุกอย่างมันขึ้นกับเวรกรรมของแต่ละบุคคลเราไม่อาจเลี่ยงได้ ฉันถึงบอกอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดฉันยอมรับชะตากรรมตรงนี้"

แม้นเป็นห่วงเจ้านายตรงนี้เพราะรู้ดีว่า ถ้าในวันข้างหน้าถ้าเกิดลินดาเจ็บป่วย หรือเข้าสู่วัยชรา จิตใจจะไม่มั่นคง ถึงวันนั้นบรรดาอาคมมนต์ดำที่เคยเรียนอาจย้อนกลับเข้าตัว หรืออาจจะมีพวกวิญญาณร้ายจ้องจะมาทำร้าย ดังนั้นจึงต้องมีวิญญาณที่เลี้ยงไว้และจงรักภักดีต่อเจ้านายมากที่สุดคอยดูแลป้องกัน ซึ่งในที่นี้คือแม้น แม้นนั้นอดวิตกไม่ได้โดยเฉพาะเรื่องวิญญาณของหมอผีสุข

"แล้วเรื่องไอ้ผีร้ายนั่นนะเจ้าคะ"

"หลวงตาท่านก็บอกไว้ว่าเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น มันก็เป็นผลจากการกระทำของเราเองด้วย แต่บางครั้งอาจจะมาในลักษณะเจ้ากรรมนายเวรแต่มันก็มีวาระของมัน จะใช้เวลามากหรือน้อยก็แล้วแต่เวรกรรม มันก็ทำให้ฉันคิดออก ถ้าฉันไม่ไปก่อเรื่องกับมันก่อน ก็อาจจะไม่เป็นแบบนี้ ถึงฉันจะช่วยคนอื่นในหลายเรื่อง ตำรวจได้จับแก็งส์ขโมยรถแก็งส์ใหญ่ คดีต่างๆถูกคลี่คลาย วิญญาณหลายดวงได้รับการปลดปล่อยถึงจะเป็นความดีแต่ หมอสุขไม่คิดแบบนี้ มันก็เลยจองเวรฉันไม่เลิกราจนมันตาย มันก็ยังจองเวรฉันอีก แต่ก็นั่นแหละมันอาจจะเป็นอย่างที่หลวงตาบอกก็ได้ มันอาจต้องใช้เวลาสักพัก"

"แต่นายหญิงอย่าลืมนะคะ ว่าไอ้ผีร้ายมันสิงเข้าร่างคนได้"

เกศรานั้นทักขึ้นมา

"มันก็เป็นบางช่วงบางเวลาเท่านั้นนะเกศรา มันจะเข้าสิงร่างคนทุกคนไม่ได้ถ้าเป็นคนที่จิตแข็งแบบคนปกติทั่วไป  คนที่มีพระเครื่องติดตัว มันเข้าสิงไม่ได้ มันจะเข้าสิงได้คือพวกที่จิตไม่มั่นคง จิตอ่อนแออย่างคนเสียสติ และไม่ใช่ทุกครั้งไป มันขึ้นอยู่กับพลังของมันด้วย ฉันว่ามันต้องรวบรวมพลังพอสมควรมันถึงจะทำได้ มันแค่ขู่ฉันเพื่อให้ฉันทำตาม ตอนนี้ฉันก็ทำแค่ป้องกันไปก่อน ถ้ามันถึงเวลาแล้วมันอาจจะไปเอง แต่ถ้ามันยังไม่ไปฉันก็ยอมทำบาปกรรมถ้ามันลามไปถึงพ่อกับแม่ฉัน ที่เหลือแล้วแต่เวรแต่กรรม"

ทั้งหมดต่างนิ่งเงียบ และพอจะเข้าใจในเหตุผลของเจ้านาย ก่อนที่ลินดาจะพูดต่อ

"นี่คือสิ่งที่ฉันคิดได้ เราควรจะจากกันด้วยดี พวกเธอก็จะได้ไปสู่ภพภูมิที่ดีกว่าเดิม จะได้ไม่ต้องมาผูกติดกับฉัน"

"แล้วหลังจากนั้นนายหญิงจะทำอะไรต่อไปคะ"

อินทิรานั้นถามขึ้น

"ฉันจะใช้ชีวิตตามปกติ ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้อีก ยกเว้นแต่การป้องกันตัวเท่านั้น เชื่อฉันเถอะอะไรไม่ดีไปกว่าการใช้หลักของธรรมมาใช้ในชีวิตประจำวันแล้วปล่อยให้ทุกอย่างไปตามวัฏจักร ตามวงจรชีวิตจะดีที่สุด"

วิญญาณทั้งหมดต่างสงบนิ่งรับฟังและเห็นพ้องกับลินดา ก่อนที่แม้นจะพูดขึ้นมา

"สาธุคะคุณหนูถ้าคุณหนูคิดได้อย่างนั้นก็บุญที่สุดแล้ว"

"ฉันดีใจที่เข้าใจ แล้วเอ่อ เรื่องของคุณอัส มีใครพอจะช่วยฉันคิดได้บ้างเรื่องที่ทุกคนสัมผัสและเห็น เอ....จะเรียกอะไรดีละ งั้นเรียกพลังแล้วกัน"

คราวนี้ทุกคนต่างนิ่งเงียบ แต่สายทองเป็นคนตอบ

"พวกเราก็ไม่ทราบคะ มันเกินกว่าที่เราจะรู้ แต่คงเป็นอย่างที่พี่แม้นบอกคือคนมีบุญญาธิการ มาเกิดนะคะ"

"น่าคิดเหมือนกัน"

และแม้นนั้นเสริมขึ้นมา เพื่อจะได้ช่วยไม่ให้บรรดาวิญญาณที่เหลือแสดงพิรุธหรือหลุดปากออกมา

"อย่างที่บ่าวบอกนะเจ้าคะ ท่านอสนีเป็นคนมีบุญมาเกิดนะคะเลยมีรัศมีและพลังออกจากตัว ท่านพระภูมินั้นแนะนำให้ถูกคนจริงๆเจ้าคะเลยทำให้คุณหนูไปเจอหลวงตา บ่าวว่าคงเป็นคนธรรมดาแต่มีรัศมีจากบุญที่มีนะเจ้าคะ  แต่ถ้าอยากรู้มากกว่านั้นบ่าวว่ามันเกินกว่าที่บ่าวจะรู้แล้วเจ้าคะ"

"ถ้าเป็นแบบนั้นก็ปล่อยไปเพราะถ้ามันเกินความคิดเราก็อย่าไปสนใจ รู้แต่ว่าเขาเป็นมิตรกับเราก็พอ แต่เขาอาจจะมีอะไรที่เราไม่รู้เพราะอย่างน้อยเขาก็เป็นศิษย์หลวงตา แถมเรื่องประหลาดคือเรื่องที่โดนฟ้าผ่าแล้วรอดตาย ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันว่าน่าลองดีเหมือนกัน"

"อย่าเชียวนะคะนายหญิง อย่าปล่อยอะไรออกไป มันจะสะท้อนกลับหาตัวนายหญิงก็ได้"

แม้นร้องทักออกมาด้วยความตกใจ ทำเอาหญิงสาวหัวเราะออกมา

"ฉันพูดเล่นคุณอัสเขาเป็นผู้มีบุญคุณต่อฉันมาก ใครจะกล้าไปทำ"

"โอ๊ยอย่าล้อเล่นแบบนี้นะเจ้าคะ บ่าวกลัวเจ้าคะ"

หญิงสาวยิ้มๆ ก่อนจะบอกไปยังวิญญาณ

"เอาละคืนนี้แยกย้ายได้ ฉันขอพักก่อน คงเป็นคืนที่ฉันนอนหลับอย่างสบายใจที่สุด"

หลังจากคืนนั้นลินดาใช้ชีวิตตามปกติแต่ยังระวังตัวอยู่ เพราะไม่รู้ว่าวิญญาณไอ้ผีร้ายมันจะอีกเมื่อไหร่ แต่เธอยังเรียกบรรดาวิญญาณที่เลี้ยงไว้มาปรนเปรอสวาทเพื่อเป็นการสั่งลา และคืนนี้เธอเรียกแม้นมารับใช้ หลังจากจบศึกรักไปสดๆร้อนๆร่างทั้งคู่ต่างนอนตะแคงหันหน้าเข้าหากัน มือของแม้นลูบไล้ไปตามทรวงอกของนายสาว ส่วนมือของลินดาลูบไปที่สะโพกของผีสาว

"ถ้าพวกบ่าวไม่อยู่แล้วนายหญิงจะทำอย่างไรเจ้าคะ"

"ก็คงหาแฟนสักคน เพราะที่ผ่านมาฉันกลัวว่าพวกนั้นจะมารู้เรื่องของพวกพี่แม้น"

"แฟนผู้หญิงนะหรือเจ้าคะ"

"ก็คงต้องอย่างนั้นนะ พี่แม้นก็รู้อยู่ว่าฉันมีอะไรกับผู้ชายได้ซะที่ไหน แล้วยุคนี้เขาก็เปิดกว้างในเรื่องนี้แล้ว"

"สิ่งที่คุณหนูกลัวคือนอกจากเรืองมนต์เสื่อมแล้วรวมถึงเรื่องที่จะไม่อะไรมาคุ้มกันใช่ไหมเจ้าคะ"

"ใช่แล้ว ยังมีไอ้ผีร้ายนั่นอีก ถึงมันจะหายไปช่วงนี้แต่เราก็ยังไว้ใจไม่ได้มันอาจหลบไปเพิ่มพลังให้กล้าแกร่งขึ้นอีก ถ้าเกิดฉันไปนอนกับผู้ชายสักคนแล้วมันย้อนมาฉันก็ไม่มีอะไรคุ้มกันฉันกับครอบครัว"

วิญญาณร้ายของไอ้ผีร้ายร้ายนั่นหายไปจริงๆ มันไม่มารบกวนอีกเลยตั้งแต่คืนนั้น คืนที่มันสั่งให้เกศราเอาคัมภีร์ไปให้มัน แต่เธอยังระวังตัวอยู่ แต่ทั้ง อสนี ลินดา หรือแม้นต่างหารู้ไม่ว่าตอนนี้วิญญาณของไอ้ผีร้ายนั่นถูกลงโทษอยู่ในขุมนรกแล้ว วันนั้นวันที่ครบกำหนด7 วัน ที่มันสั่งให้ลินดาเอาคัมภีร์โบราณมาให้มัน วิญญาณมันไม่ไปไหน มันวนเวียนอยู่แถวหน้าคอนโดที่ลินดาพักตั้งแต่ช่วงเย็น เพื่อที่จะคอยดูว่าหญิงสาวทำตามคำสั่งของมันหรือไม่ แต่เป็นช่วงจังหวะที่อสนีนั้นกลับพอดี ไอ้ผีร้ายพอมันสัมผัสได้ถึงพลังของอสนี ทำให้มันรู้สึกหวาดกลัวอย่างที่สุด มันรู้ทันทีว่าพลังที่สัมผัสได้สามารถทำให้วิญญาณของมันแตกดับไปได้โดยง่าย ความหวาดกลัวเช่นนี้มันไม่เคยเป็นมาก่อนตั้งแต่สมัยที่มันเป็นคน  มันตั้งใจจะหนีไปให้ไกลที่สุดให้พ้นจากพลังที่มันสัมผัสได้ แต่มันยังไม่ทันเตลิดหนีวิญญาณมันถูกตรึงไว้กับที่ และเหมือนมีกำแพงแก้วมาครอบไว้อีกชั้น มันไปไหนไม่ได้นอกจากนั้นมันไม่สามารถรับรู้อะไรได้อีกเลย จนกระทั่งกายทิพย์ของอสนีกลับมามันจึงเห็นเหตุการณ์และได้ยินการสนทนาของอสนีกับแม้นอย่างชัดเจนทั้งหมด จนถึงประโยคที่อสนีพูดขึ้นว่า

"และอีกอย่างที่สำคัญมากคือ ผมกับนายสุขนั่นไม่มีเวรกรรมอะไรต่อกันเลย ถ้าผมทำอะไรนายสุขมันก็จะเป็นเวรกรรมต่อกันไม่สิ้นสุด"

พอมันได้ยินประโยคนี้มันเกิดความรู้สึกผิด ชอบ ชั่ว ดีทันที ความรู้สึกแบบนี้มันไม่เคยสนใจมาก่อน ตั้งแต่ครั้งมันยังเป็นคนมันตั้งหน้าทำความชั่วตลอดใช้วิชาที่เรียนรู้ในทางที่ผิด ผู้หญิงคนไหนมาให้มันทำเสน่ห์ ไม่มีใครที่จะไม่รอดเพื่อสนองตัณหามันสักคน จนมันย้ายไปต่างจังหวัดเพราะยักษ์ที่มันนับถือนั้นหายไปโดยไม่มีสาเหตุ แต่มันประกอบกรรมชั่วหนักขึ้นกว่าเดิม แต่ตอนนี้ร่างของมันกลับทรุดกายลงคุกเข่าไปกับพื้นแล้วพนมมือขึ้น ยิ่งตอนที่อสนีอุทิศส่วนกุศลให้บรรดาพวกแม้น มันได้รับอานิสงค์นี้ไปด้วย ยิ่งทำให้มันสำนึกผิดกับกรรมชั่วที่มันทำมาตลอดตั้งแต่เป็นคนจนถึงเป็นผีร้าย มันก้มลงกราบกายทิพย์ของอสนี พร้อมกับพูดออกมา

"ขอขอบพระคุณท่านมาก บารมีและส่วนกุศลของท่านชี้ทางสว่างให้ผม ผมสำนึกกับเรื่องชั่วร้ายและบาปกรรมที่ผมทำมาตลอดแล้วครับ"

พอมันเงยหน้าขึ้นมา ร่างของยมทูต 2 ร่างยืนอยู่ตรงหน้ามันแล้ว

"ไอ้สุขวันนี้ถึงเวลาที่วิญญาณของมึงต้องลงไปรับโทษที่นรกแล้ว เหมือนกับนายเก่าของมึงที่กำลังถูกท่านท้าวกุเวรลงทัณฑ์อยู่ ตอนนี้ท่านพญามัจจุราชรอตัดสินความชั่วของมึงอยู่ที่เมืองนรก"

"ขอรับ"

ร่างของมันถูกบ่วงรัดทันทีก่อนจะถูกพาไปสู่นรกโดยที่มันตามยมทูตไปอย่างสงบ ซึ่งอสนีและพวกของแม้นไม่รู้ไม่เห็น ทุกอย่างเกิดจาก หลวงตา พระภิกษุที่มีความเมตตาอย่างสูง ท่านเล็งเห็นแล้วว่าวันนี้จะถึงคราวที่วิญญาณของไอ้ผีร้ายต้องถูกจับไปลงทัณฑ์ในนรก หลวงตาจึงอยากให้ไอ้ผีร้ายตนนี้รู้สึกสำนึกผิดก่อนที่ถูกนำไปลงโทษในนรก จึงตรึงวิญญาณของมันไม่ให้หนีไปไหน เพื่อที่จะได้รับบุญกุศลจากอสนีแม้เป็นเพียงเศษเสี้ยวแต่ก็ทำให้มันสำนึกผิดได้ และก่อนหน้านั้นยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่มันและอสนีก็ไม่มีวันที่จะรู้ ตอนที่มันยังอยู่กรุงเทพ หมอผีสุขพักอยู่ในชุมชนที่ไม่ห่างจากคอนโดของอสนีเท่าไหร่ และยักษ์ที่มันนับถือนั้นคือยักษ์ที่เคยอยากจะลองฤทธิ์กับอสนี แต่ยักษ์ตนนั้นเห็นชาติกำเนิดที่แท้จริงของอสนี เพราะพระอกนิฏเสด็จลงมาแล้วใช้เวทให้ยักษ์ตัวนั้นเห็นชาติกำเนิดของอสนีว่าเป็นใคร ก่อนจะพาตัวยักษ์ตนนั้นและลูกสมุนไปให้ท้าวกุเวรลงทัณฑ์ มันเป็นการทำบุญครั้งใหญ่อีกครั้งของอสนีตามที่หลวงตาส่งกระแสจิตมาบอกอสนี ว่าอสนีจะได้ทำบุญครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งในชีวิต บุญกุศลที่อุทิศจากพระโอรสของท่านมหาเทพนั้นแรงกล้ายิ่งนัก เพราะทำให้ทั้งคนและวิญญาณที่เกี่ยวข้องกันได้รับส่วนกุศลนี้กันถ้วนหน้า

ตอนนี้บนเตียงอันกว้างใหญ่แม้นที่มือกำลังลูบคลำหน้าอกของลินดานั้นนิ่งคิดไปถึงเรื่องนี้ สิ่งที่แม้นเป็นห่วงมาตลอดตั้งแต่ที่     ลินดาบอกว่าจะปลดปล่อยวิญญาณที่เลี้ยงไว้ แล้วในอนาคตไหนจะเรื่องไอ้ผีร้ายไหนจะเรื่องมนต์ดำที่อาจย้อนกลับมาทำร้ายลินดา ตลอดเวลาแม้นนั้นทบทวนถึงเรื่องวิชาคำสอนที่ได้จากปู่ของลินดา และในคัมภีร์ที่แม้นนั้นศึกษามาพอสมควรตั้งแต่ช่วงที่ตนเองยังเป็นนางตะเคียน และการมาของอสนีทำให้แม้นคิดหาวิธีที่จะป้องกันลินดาได้ ถึงลินดาจะศึกษาคัมภีร์เล่มจนชำนาญและสามารถที่จะหาช่องว่างเพื่อที่มาเสพสุขกับบรรดาผีผู้หญิงได้ แต่อาจมีบางช่วงบางบทที่ลินดา มองข้ามในบริบทนั้นๆซึ่งไม่เชื่อมต่อกันรวมถึงบางเรื่องที่เธอยังไม่รู้เพราะไม่มีในคัมภีร์ แต่แม้นนั้นสามารถที่จะนำมาเชื่อมต่อจนเข้าใจถึงวิธีที่จะช่วยลินดา ทำให้แม้นเอ่ยไปยังนายหญิงของตนเอง

"คุณหนูเจ้าคะ บ่าวว่าบ่าวค้นพบวิธีที่จะช่วยคุณหนูได้แล้วเจ้าคะ"

"วิธีไหนหรือแม้นฉันว่าฉันก็ท่องคัมภีร์นั่นจนจำได้ทุกหน้าทุกตัวอักษรแล้วนะ มันไม่มีวิธีไหนที่จะช่วยได้เลย"

"ในคัมภีร์ไม่ได้ระบุไว้ตรงๆเจ้าคะ"

"ก็ใช่มันไม่บอกหรอกฉันต้องลองพลิกแพลงแล้วเหมือนที่ฉันหาวิธีมานอนกับผู้หญิงด้วยกันได้ แต่ก็หาไม่เจอ"

"คือมันต้องเชื่อมกับเรื่องที่บ่าวเคยได้เรียนรู้มาเจ้าคะ ในบทที่ 12 วรรคสุดท้ายที่บอกไว้ว่าผู้ที่ถือครองและเรียนวิชาจากคัมภีร์เล่มนี้ถ้าเป็นเพศหญิงต้องถือเพศพรหมจรรย์ไปตลอดชีวิต ไม่อย่างนั้นเวทมนต์คาถาที่เรียนมาจะเสื่อมสลายไปหมด แต่ถ้าย้อนไปบทที่ 2วรรคที่ 3ผู้มีบุญบารมีช่วยเกื้อหนุนเมื่อติดขัด"

ลินดานิ่งคิดก่อนจะบอกไปยังแม้น

"ฉันอาจจะเขลาก็ได้นะพี่แม้น ฉันนึกไม่ออกว่าจะเชื่อมต่อยังไง"

"คือในคัมภีร์บอกไว้เท่านี้เจ้าคะ แต่ถ้าบ่าวลองเอาเรื่องที่เคยได้ยินและศึกษามาแล้วมันจะเชื่อมต่อกันได้ มันอาจจะช่วยคุณหนูได้เจ้าคะ ถ้าคุณหนูได้รับการเกื้อหนุนจากผู้มีบุญบารมี ภัยร้ายต่างๆรวมถึงการย้อนกลับของมนต์ดำจะไม่มากล้ำกลายอีกต่อไป ถ้าเป็นแบบนั้นในตอนนี้บ่าวเห็นจะมีแต่ท่านอสนีเท่านั้นที่จะช่วยคุณหนูได้ บ่าวจะได้เบาใจหลังจากที่บ่าวไม่อยู่แล้ว"

"แล้วคุณอัสจะช่วยฉันได้ยังไงละแม้น"

"บ่าวพูดตรงๆนะเจ้าคะ คือคุณหนูต้องนอนกับคุณอัส แล้วพลังบารมีของคุณอัสจะช่วยป้องกันคุณได้สิ่งร้ายๆจะไม่มากล้ำกรายกับคุณหนูอีกต่อไป  ยิ่งถ้าได้แต่งงานกันคุณอัสแล้วบารมีของคุณอัสจะช่วยคุ้มครองคุณหนูได้จนหมดอายุไขเจ้าคะ"

ลินดาหน้าแดงผิดกับอีกฝ่ายที่พูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยน้ำเสียงจริงจัง

"บ้าน่าพี่แม้นถ้าแบบนั้น อาคมฉันก็เสื่อมหมดนะสิ"

"ใช่เจ้าคะ แต่บ่าวอยากให้คุณหนูคิดให้ดี บ่าวไม่ได้พูดเล่น บ่าวคิดหาวิธีต่างๆที่จะช่วยคุณหนูตั้งแต่ที่คุณหนูบอกจะปล่อยพวกบ่าว เพราะในอนาคต ในวันที่คุณหนูแก่ชราร่างกายจิตใจอ่อนแอลง ถึงวันนั้นบ่าวกลัวพวกมนต์ดำมันจะย้อนกลับเข้าตัวคุณหนู ทุกวิธีที่บ่าวได้ยินได้เรียนรู้มา บ่าวลองนำมาเรียบเรียงกันจนคิดได้ว่าถ้าเป็นวิธีนี้จะป้องกันคุณหนูได้เจ้าคะ แต่คุณหนูก็ต้องแลกกับวิชาที่เสื่อมลง แต่ไม่มีอะไรมาเล่นงานคุณหนูกับครอบครัวได้อีก นอกจากโรคภัยไข้เจ็บและความชราเจ้าคะ และคงเป็นอย่างที่คุณหนูต้องการคืออยากใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาทั่วๆไป"

ลินดาถอนหายใจ เธอรู้ดีว่าแม้นไม่ได้พูดเล่น ทุกอย่างมันมาจากความหวังดี เธออาจจะเขลาไปจริงๆ ที่หาวิธีไม่ได้จนแม้นนั้นต้องช่วยหรืออาจมีกิเลสมาบังตาเธอ จากที่หาวิธีอื่นได้แต่เรื่องนี้กลับคิดไม่ออก แต่มันก็ต้องแลกกับอาคมที่เธอเรียนมาและแม้นก็เข้าใจดีที่รู้ว่าต่อไปเธออยากใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วๆไป และอสนีนะหรือ ทำไมเธอจะไม่สนใจต่อให้ไม่มีบารมีแบบที่พวกแม้นเห็น แต่หน้าตาและความสามารถมันก็ดึงดูดเธอได้ตั้งแต่วันที่เจอกันครั้งแรก  และพอเห็นนายสาวใช้ความคิด แม้นนั้นพูดต่อ

"ลองตรองดูนะเจ้าคะคุณหนู สูญเสียไปบางอย่างแต่เราได้ความสุขคืนมา และที่สำคัญถ้าจะทำก็รีบทำก่อนที่จะปล่อยบ่าวนะเจ้าคะ บ่าวจะได้ดูบทรักของท่านอัสนีว่าเด็ดขนาดไหน ส่วนของคุณหนูบ่าวก็รู้แล้วเจ้าคะว่าเด็ดขนาดไหน"

"พูดอะไรก็ไม่รู้พี่แม้น ปล้ำพี่แม้นดีกว่า"

เธอพูดด้วยความเขินอาย ก่อนจะพลิกตัวไปนอนทับผีสาวแล้วเอาปากประกบทันที แม้นรับการจูบจากเจ้านายสาวด้วยความเต็มใจลิ้นทั้งคู่เกี่ยวพันมือของแม้นลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของลินดา ทั้งคู่แลกจูบกันจนพอใจลินดาเลื่อนหน้ามาที่ซอกคอจมูกซุกไซร้ไปตามลำคอของแม้น และเม้มไปที่ติ่งหูทั้งสองข้าง จนแม้นเริ่มครางออกมา ลินดาเลื่อนหน้าไปที่ทรวงอกของแม้น ปากนั้นเม้มไปที่หัวนมก่อนจะกัดเบาๆ แล้วดูดสลับไปมา


"อูยยย คุณหนูบ่าวเสียว"

ที่แม้นครางเพราะมือของลินดานั้นขยำไปที่โคกหีของแม้นพร้อมกับการดูดที่หน้าอก ก่อนที่นิ้วทั้งสองนิ้วจะล้วงเข้าไปข้างในแล้วชักเข้าออกแม้นแอ่นตัวรับ ลินดาใช้นิ้วแทงไปที่หีของผีสาวอีก 2 -3 ครั้ง แล้วเลื่อนหน้าไปที่โคกหี ซึ่งแม้นนั้นกดหัวหญิงสาวลงไปที่โคกหีทันที เธอแอ่นตัวเพื่อรับลิ้นของนายหญิงที่เลียเข้าไปในรูหี


ซี๊ดดดดดด คุณหนู โอ้วๆๆๆๆ"

ลินดาเลียอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่เธอจะพลิกตัวให้แม้นนอนคว่ำ ก่อนจะจูบไปทั่งแผ่นหลังและยกก้นแม้นให้สูงขึ้นพร้อมเลื่อนตัวไปด้านหลัง เอาหน้าฝังไปที่โคกหีพร้อมนิ้วล้วงแม้นนั้นส่ายก้นไปมาเพราะความเสียวที่ได้รับ เสียงครางของแม้นดังไม่หยุดและเด้งรับกับนิ้วของนายสาวที่ล้วงเข้าไป

"อูยยยย คุณหนูอีกนิดเจ้าคะ บ่าวจวนแล้วซี๊ดดดดดดดดดดดดดดด"

 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

cfp


kodzilla

ได้กับอสนีก็ดี สบายไปตลอดชีวิต ไม่ต้องกังวลอีก เรื่องน่าอ่านและติดตามตลอดเลย

peddo

พี่แม้นแนะนำดีจัง ท่านเทพก็จะได้ทำบุญแถมได้ความมันด้วย สาธุๆ ครับ

zzzbamboozzz

ต้องโดนแล้วลินดา เจอเทพมาขนาดนี้แล้วครับ

zethkhun

พี่เเม้นครับ พี่เเม้นชงซะเข้มเลยนะ ชงมางี้ น้องลินผมคงต้องเเต่งค่ะสินะ แต่เสียใจ หมอผีสุขไปซะแล้ว อุตส่าห์เอาใจช่วย

Thunyawit sriradon

ต้องลองดูแล้ว ว่าจะดีขึ้นมั๊ย

Khunhan Chansuk

หมอผี ต้องโดนเทพสยบแล้ว อิอิ 

ovident

แสดงว่าแบบนี้อัสนีซั่มลินดาแน่ๆ 55555555

Manoptana

บุญพาวาสนาส่งให้มาพบอัสนี ลินดาจะได้คนดูแลและพ้นเคราะห์กรรมในคราวเดียว แต่อัสนียังไม่มีทีท่าต่อลินดาเลย ใครจะเริ่มก่อน

1819

แม้นนี่ก็ช่างคิดแบะ หาทางออก  เป็นห่วงเป็นใยต่อลินดา จนวาระสุดท้ายทร่จะต้องแยกกัน  คราวนี้ หมอผีสาวกับลูกมหาเทพ  จะได่เบิกพรมจรรย์ แน่แล้ว แต่อัสนีจะยอมแต่งงานกับลินดา หรือ กะแค่ ชั่วคราว พอให้บารมีคุ้มครองลินดาพอ
กรุงเทพเป็นเมืองที่มีคนเหงา มากกว่าเสาไฟฟ้า

txxt30

ลุ้นให้ลินดากับอสนีได้ตกร่องปล่องชิ้นกันเร็วๆ จะได้ดูบทอัศจรรย์ของทั้งสองคนว่าจะเด็ดดวงขนาดไหน

testman

ในที่สุดก็มีทางออกให้ได้กับอสนีจนได้

ในเรื่องของอสนีก็ไม่ได้พูดถึงลินดา เลยไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร
แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้ กรรณิการ์ไม่อยู่แล้ว หรือว่าลินดาจะไปเกิดเป็นนางฟ้าอีกคน เป็นชายาของอสนีต่อจากกรรณิการ์ไป

au2000

มีบ่าวดีเหลือเกินช่วยได้ทุกอย่าง
แม้แต่เรื่องบนเตียง

รามา65