ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

เสน่ห์หาหมอผี(สาว) 11

เริ่มโดย twintower, กันยายน 18, 2020, 11:46:01 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

twintower

จนถึงวันก่อนวันสุดท้ายที่ลินดาจะปลดปล่อยพวกวิญญาณ ก่อนหน้านั้นเธอเรียกวิญญาณมาอำลากับเธอด้วยบทรักอันเร่าร้อนคืนละ 1ดวงวิญญาณ คืนนี้ลินดาที่อยู่ในร่างเปลือยนั่งอยู่บนเตียงได้เรียกวิญญาณทั้ง 7 ดวงออกมาพร้อมๆกัน

"คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่พวกเราจะได้อยู่ด้วยกัน ฉันเลยอยากให้พวกเราส่งท้ายหาความสุขร่วมด้วยกันก่อนจะจากกัน"

เธอพูดพร้อมทิ้งกายอันเปลือยเปล่าลงนอนบนเตียง พร้อมอ้าขาเล็กน้อย

"มาเถอะเข้ามาพร้อมๆกันก็ได้ไม่ต้องเรียงคิว หรือใครจะจับคู่กับใครก็เชิญ"

เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เชิญชวน ซึ่งตอนนี้วิญญาณทั้ง 7 ต่างอยู่ในร่างเปลือยกันหมดแล้วเช่นกันต่างมองมาที่เจ้านายสาวอย่างหื่นกระหาย ทำให้อุษาไม่รอช้ารีบเคลื่อนกายไปบนเตียงเอาปากประกบนายสาวทันที ส่วนอินทิรากับสายทองนั้นมุ่งไปที่เต้านมคนละข้างของลินดา ปล่อยให้เกศราซุกหน้าไปที่โคกหี ส่วนข้างๆนั้นร่างของดุจเดือนนอนหงายโดยปากประกับแม้นที่คร่อมทับด้านบนส่วนด้านล่างนั้นวีณากำลังใช้ลิ้นกวาดไปในรูหีอยู่

ลินดานั้นครางไม่ออกเพราะถูกรุมจากผีสาว มือของเธอจิกที่นอนแน่นเพราะความเสียวที่เต้านมถูกดูดพร้อมกันและด้านล่างจากฤทธิ์ของลิ้นเกศราที่กว้านไปทั่วพร้อมถูกเม็ดแตดเป็นระยะ จนอุษาถอนปากออกมา ทำให้เธอครางออกมาเป็นระยะเหมือนกับดุจเดือน  ที่ตอนนี้แม้นหันไปจับคู่กับอุษาแทน ร่างของวิญญาณทั้งสองต่างกอดรัดกันอยู่บนพื้นหน้าเตียง ดุจเดือนกับลินดาต่างจับมือกันแน่น พอจังหวะที่ทั้งคู่ต่างหันหน้ามาเจอกัน ดุจเดือนชะโงกหน้ามาหาลินดาปากของทั้งคู่ประกบกันลิ้นของทั้งคู่เกี่ยวกันไปมา จนวีณาเลื่อนตัวขึ้นมา ดุจเดือนจึงหันไปรับการจูบจากวีณาพร้อมส่ายตัวรับการสีไปมาของโคกหีที่วีณาเอามาประกบ  และลินดาเอามือทั้งสองไปล้วงหีให้อินทิรากับสายทองพร้อมๆกัน จนต่างพากันไปถึงจุดหมาย

ก่อนจะสลับคู่ ลินดามาจับคู่กับอุษา ทั้งคู่อยู่ในท่ายืน ลินดายืนพิงผนังห้อง ปากของทั้งคู่ประกบกันแน่น หน้าอกของทั้งสองต่างเบียดกันจนล้นทะลัก อุษาใช้จมูกไซร้ไปตามซอกคอทั้งสองข้างของนายสาว ลินดาหลับตาพริ้มใบหน้าแหงนขึ้นก่อนจะกดบ่าอุษาให้ใบหน้าเลื่อนมาที่นม อุษาสนองตอบลินดาทันที หัวนมทั้งสองของเธอถูกอุษาดูดสลับไปมาก่อนที่ลินดาจะกดหัวอุษาไปที่กลางลำตัว ขาเธอกางออกแล้วกดหน้าของอุษาให้ไปซบที่โคกหี อุษาจูบไปเบาๆบนปากทางที่ตอนนี้ชุ่มฉ่ำไปหมดรวมทั้งขนหมอยของลินดา ริมฝีปากของอุษาเม้นไปตามหมอยของเจ้านายสาวก่อนจะเอาลิ้นกวาดเข้าไปในรูหี ลินดาแอ่นตัวรับลิ้นของผีสาวพร้อมส่ายตัวไปมาพร้อมกับเสียงครางที่ดังออกจากปากไม่หยุด

"ซี๊ดดดดดด อูยยยยยย ดีจัง โอ่วววววววววว นั่นแหละแบบนั้นซี๊ดดดดดดดดดด"

เธอแอ่นกายรองรับลิ้นของผีสาวจนไปถึงจุดหมายอีกครั้ง อุษาซบหน้าไปที่โคกหีของนายสาวชั่วครู่ก่อนจะยืนขึ้น ลินดาประคองหน้าผีสาวพร้อมกับการจูบอันดูดดื่มอีกครั้ง ก่อนที่นิ้วของเธอจะไล่จากซอกคอไปตามลำตัวจนถึงโคกหีของผีสาว ลินดาใช้2 นิ้วล้วงไปในรูหีที่เจ้าของนั้นกางขารอรับอยู่แล้ว พร้อมเด้งกายตามจังหวะการชักเข้าออกของนิ้วเจ้านายสาวส่วนปากนั้นแลกจูบกับลินดาอย่างดูดดื่ม จนนิ้วของลินดาพาผีสาวไปถึงจุดหมายมันช่างเป็นงานอำลาที่สุขสันต์ยิ่งนัก ในคืนนั้นทั้งลินดาทั้งวิญญาณที่เลี้ยงไว้ต่างผลัดกันจับคู่ไม่ก็ช่วยกันรุมจนไม่รู้ใครเป็นใครพร้อมกับไปถึงจุดหมายนับครั้งไม่ถ้วน จนเช้าวันต่อมาทำเอาลินดาแทบจะไปทำงานไม่ไหว

จนถึงช่วงกลางคืน ก่อน 2 ยาม เล็กน้อย ลินดาที่อยู่ในชุดนุ่งขาวห่มขาวผมนั้นรวบไว้ด้านหลัง กำลังนั่งบริกรรมอยู่บนพื้นหน้าเตียงนอน ข้างหน้าเธอมีขวดแก้ว 7 ขวดวางอยู่บนโต๊ะตัวเล็ก เธอบริกรรมคาถาพร้อมเปิดฝาขวดแก้วที่ละใบจนครบ 7ใบ ร่างของเหล่าวิญญาณที่เธอเลี้ยงไว้ต่างอยู่ในชุดเดียวกับเธอและนั่งอยู่ตรงหน้าเธอ ลินดาพนมมือขึ้นพร้อมมองไปที่เหล่าวิญญาณด้วยความรักความอาลัยก่อนจะพูดออกมา

"เอาถึงเวลาที่จะต้องลาจากกันแล้ว ฉันต้องขอบคุณทุกคนที่ผ่านมาช่วยสร้างความสุขให้กับฉันมาก แต่มีพบก็ต้องมีจาก ถึงเวลาที่ทุกคนต้องไปตามทางแล้ว ขอให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีที่สูงกว่านี้ ฉันจะทำบุญไปให้ตลอดลาก่อนทุกคน"

น้ำตาที่พยามกลั้นมาตลอดนั้นไหลออกมาไม่หยุดระหว่างที่เธอพูด บรรดาดวงวิญญาณทั้งหลายก็เช่นกัน ก่อนที่ทุกร่างจะพนมมือพร้อมกล่าวพร้อมกัน

"ลาก่อนคะนายหญิง"

แล้วค่อยๆจางหายไปทีละดวงจนเหลือแม้นที่เป็นดวงสุดท้ายที่ร้องไห้ออกไม่หยุดก่อนจะก้มลงกราบเธอ

"บ่าวไปละนะเจ้าคะคุณหนู ดูแลตัวเองด้วยนะเจ้าคะ"

"จ๊ะพี่แม้นก็เช่นเดียว"

ร่างของแม้นสลายไปขณะที่ก้มกราบเธอ ลินดาเอามือเช็ดน้ำตาแล้วมองไปที่ขวดแก้วที่ว่างเปล่าด้วยความอาลัย เธอถอนใจออกมาก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปที่ระเบียงแล้วมองไปบนท้องฟ้าอันไร้เมฆเห็นพระจันทร์อันสุกสว่าง อยู่เบื้องบน

"ปู่ขา ปู่คงไม่ตำหนิหนูดานะคะที่หนูดาตัดสินใจทำแบบนี้"

ไม่มีเสียงตอบอันใดนอกจากสายลมที่พัดเอาความเย็นมาโดนตัวเธอ เสมือนคำตอบรับจากปู่ เธอยิ้มออกมาอย่างเศร้าๆก่อนจะเดินกลับไปในห้อง ดวงวิญญาณทุกดวงนั้นต่างไปตามทางของตนเอง พร้อมผลบุญที่ได้รับอุทิศจากอสนี เหมือนกับแม้นที่ดวงวิญญาณมาอยู่หน้าคอนโดของอสนี แม้นนั่งพับเพียบไปที่พื้นพร้อมก้มลงกราบแล้วพูดขึ้นมา

"เป็นพระมหากรุณาอันล้นพ้นแก่ตัวข้าพระพุทธที่ใต้ฝ่าพระบาทได้อุทิศบุญกุศลอันมหาศาลแก่ดวงวิญญาณของข้าพระพุทธเจ้า ทำให้ข้าพระพุทธเจ้าได้กลับคืนสู่ถิ่นฐานเดิมเพคะ"

แม้นพูดจบแล้วก้มลงกราบอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมเครื่องแต่งกายที่เปลี่ยนไปในชุดเทวนารีก่อนจะสลายร่างไป แต่เดิมแม้นนั้นเป็นเทวนารีที่เป็นนางข้าหลวงของพระอินทร์บทสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ แต่ได้กระทำความผิดร้ายแรงจนถูกลงทัณฑ์ให้เกิดมาบนโลกมนุษย์และจะกลับสู่สวรรค์ได้ก็เมื่อได้รับบุญกุศลจากเทพชั้นสูงเท่านั้น ทำให้ดวงวิญญาณของแม้นไม่สามารถที่จะไปไหนได้นอกจากวนเวียนอยู่ในโลกมนุษย์ เมื่อได้รับการปลดปล่อยพร้อมกับส่วนกุศลที่ได้รับการอุทิศจากอสนีทำให้แม้นระลึกได้ว่าตัวเองนั้นเคยเป็นใครมาก่อนและรู้ว่าอสนีนั้นคือใคร จึงมากราบขอบคุณอสนีก่อนจะกลับขึ้นไปสู่สรวงสวรรค์

ส่วนลินดานั้นเธอตื่นนอนตั้งแต่ตีสามครึ่งก่อนจะเตรียมอาหารเพื่อใส่บาตรและขับรถออกไป จนรุ่งเช้าเธอมาถึงจุดหมายในเวลา 6โมงเศษๆ ลินดาปิดแอร์แล้วลดกระจกลง มันจริงอย่างอสนีบอกอากาศยามเช้าแถวนี้ช่างสดชื่นจริง ระหว่างดื่มด่ำกับบรรยากาศยามเช้า สายตาเธอก็สอดส่ายมองหา จนไปเห็นคนกลุ่มหนึ่งที่ยืนรอเหมือนจะใส่บาตรเธอจึงขับรถเลยไปเล็กน้อยก่อนจะลงจากรถเพื่อมาถามหญิงสูงวัยที่ยืนอยู่ในกลุ่มคนเหล่านั้น

"คุณป้าคะ รบกวนหน่อยคะคือนี่รอใส่บาตรหลวงตากันอยู่หรือเปล่าคะ"

ชาวบ้านกลุ่มนั้นต่างมองมาที่เธออยู่เพราะเพราะไม่คุ้นหน้าและขับรถหรูมาด้วย

"ใช่จ๊ะ"

"ขอบคุณมากคะ"

เธอกล่าวก่อนจะเดินกลับไปที่รถและถือของที่จะใส่มาตรมายืนใกล้ๆกับชาวบ้านกลุ่มนั้น ก่อนที่หญิงสูงอายุจะถามไปที่เธออีกครั้ง

"หนูรู้จักกับหลวงตาด้วยหรือจ๊ะ ป้าไม่คุ้นหน้าเลย"

"ก็พึ่งรู้จักคะ วันก่อนหนูมาทำธุระแถวนี้และพอดีเพื่อนหนูที่ชื่ออสนีนะคะ พาไปไหว้หลวงตาด้วยวันนี้หนูก็เลยตั้งใจจะมาใส่บาตรนะคะ"

ถึงเธอจะบอกไม่ตรงนักเพื่อจะได้ไม่มีข้อสงสัยตามมาก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดต่อ

"อ๋อ รู้จักกับตาอัสหรือนี่ แปลว่าขับรถมาจากรุงเทพเลยหรือนี่"

"ใช่คะ"

ทำให้การสนทนาของเธอกับชาวบ้านกลุ่มนี้สะดวกขึ้น ไม่นานนักร่างชองพระภิกษุในวัยชราได้เดินมาอย่างช้าๆ พร้อมด้วยลูกศิษย์อีก 2 คน ที่สะพายย่ามเดินตามมาติดๆ ชาวบ้านกลุ่มนั้นต่างตักบาตรด้วยความเรียบร้อย จนมาถึงลินดา หญิงสาวนั่งคุกเข่ากับพื้นแล้วนำของที่เตรียมมาใส่บาตรพร้อมดอกไม้ธูปเทียน  ก่อนจะพนมมือไหว้ด้วยกิริยาที่ชาวบ้านกลุ่มนั้นมองด้วยความชื่นชม

"ไงโยมสบายใจขึ้นแล้วสิ"

ภิกษุชราเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่อ่อนโยน

"คะหนูรู้สึกดีขึ้นมากแล้วคะ คำสอนของหลวงตาแนะนำให้หนูเห็นทางสว่างอย่างมาก"

"ดีแล้วโยม"

ท่านกล่าวทิ้งท้ายก่อนจะเดินจากไป ลินดาหันมายิ้มให้กับชาวบ้านกลุ่มนั้นก่อนจะกล่าวลาแล้วขับรถกลับกรุงเทพด้วยจิตใจที่เบิกบาน มันเป็นความตั้งใจของเธอที่จะมาใส่บาตรกับหลวงตาหลังจากที่ได้ปลดปล่อยบรรดาวิญญาณเหล่านั้นแล้ว หลังจากวันนั้นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับเธอมันดูช่วงปลอดโปร่ง เธอยังใส่บาตรอยู่ทุกวันพร้อมอุทิศส่วนกุศลไปให้ดวงวิญญาณและบรรดาเจ้ากรรมนายเวร  ส่วนอสนีเธอได้เจอกับชายหนุ่มเพียงแค่ครั้งเดียวหลังจากวันนั้นซึ่งอสนีไม่ได้ถามถึงเรื่องในวันนั้นอีกเลย และการประชุมเกี่ยวกับการสร้างตึกอีก 2 ครั้งที่ผ่านมาอสนีไม่ได้เข้าร่วมประชุมมีทีมงานคนอื่นเข้าประชุมแทน ครั้งแรกอสนีไปดูงานก่อสร้างของตึกที่ตนเองออกแบบที่พัทยา ส่วนอีกครั้งอสนีลาพักร้อนพาพ่อกับแม่ไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์  จนวันนี้หลังจากเลิกงานเธอได้แวะที่ร้านกาแฟก่อนจะกลับคอนโด ระหว่างที่เธอนั่งจิบกาแฟเย็นพร้อมอ่านเอกสารที่ถือติดมือมาด้วยอาการที่ผ่อนคลาย จนลินดารู้สึกว่ามีใครคนหนึ่งมายืนข้างๆโต๊ะที่เธอนั่ง เธอจึงเงยหน้าขึ้นและพบกับผู้ชายวัยกลางคนยืนมองมาที่เธอด้วยสีหน้ายิ้มๆ

"อ้าวพี่ใหญ่ มาทำอะไรที่กรุงเทพคะ"

ชายที่เธอทักนั้นเป็น 1 ในสมาชิกกลุ่มเดียวกับเธอ โดยที่ใครๆรู้จักกันว่าเป็นพ่อเลี้ยงชื่อดังที่เป็นเจ้าของกิจการรีสอร์ทชื่อดังหลายที่ในเชียงใหม่กับเชียงรายใครๆมักเรียกกันว่าพ่อเลี้ยงใหญ่หรือพ่อเลี้ยงปริญญา  ลินดารู้ดีว่าพ่อเลี้ยงใหญ่คนนี้เป็นคนที่มีอาคมกล้าแข็งอยู่คนหนึ่ง แต่ร่ำเรียนมาคนละสายกับเธอ แต่ลินดารู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่จู่ๆชายคนนี้มาทักเธอเพราะปกติเวลาเจอกันในที่สาธารณะถ้าไม่จำเป็นจริงๆ คนในกลุ่มจะไม่ทักกันยกเว้นมีเรื่องจำเป็นเท่านั้น

"พี่ขอนั่งได้ไหม"

เสียงของฝ่ายชายพูดขึ้นอย่างขรึมๆตามลักษณะของนิสัยที่ลินดารู้จัก

"อุ๋ยขอโทษคะพี่ เชิญคะพี่"

หญิงสาวกล่าวพร้อมรอยยิ้มทั้งๆที่ยังประหลาดใจไม่หาย ฝ่ายชายนั่งตรงข้ามเธอก่อนจะมองไปรอบๆ แล้วเอ่ยกับหญิงสาวด้วยเสียงที่แผ่วเบาแต่ลินดาได้ยินชัดเจน

"ดาพี่ไม่อ้อมค้อมนะ ที่พี่มาเจอดา โดยนอกเหนือจากข้อตกลงของกลุ่มเรานะ พี่บอกตรงๆว่าพี่พอจะรู้เรื่องว่าดานั้นมีคัมภีร์โบราณอยู่เล่มหนึ่ง พี่เลยอยากจะขอยืมดาไปศึกษาดูนะ"

ประโยคที่ได้ยินทำเอาลินดานั้นคาดไม่ถึง ปกติเรื่องพวกนี้ในกลุ่มของเธอไม่เคยก้าวก่ายกันมาก่อน ใครจะศึกษาจากที่ไหนก็เป็นเรื่องของแต่ละคน การพบปะในแต่ละครั้งจะเป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันเท่านั้นแต่ละคนจะไม่ก้าวล่วงยกเว้นแต่มีเรื่องขอความช่วยเหลือ แต่ครั้งนี้มันแปลกที่จู่ๆ คนที่เธอและในกลุ่มต่างให้ความนับถืออย่างมาก กลับมาบอกเธอแบบนี้ มันทำให้เธอนึกถึงคำเตือนของพระภูมิเจ้าที่ทันที ว่าคัมภีร์เล่มนั้นจะนำความยุ่งยากมาสู่ตัวเธอ ลินดาสูดลมหายใจลึกๆก่อนจะตอบไปยังคนที่นั่งตรงข้าม

"ดาตอบตรงๆนะคะพี่ ตอนนี้คัมภีร์ไม่ได้อยู่กับดาแล้วคะ ดารู้ตัวว่าบารมีของดานั้นไม่สามารถที่จะดูแลคัมภีร์เล่มนั้นได้ ตอนนี้คัมภีร์เล่มนั้นมีผู้ที่มีบารมีสูงคอยดูแลให้อยู่คะ"

สีหน้าที่ผิดหวังของอีกอีกฝ่ายแสดงออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจน

"แล้วดาบอกพี่ได้ไหมว่าคัมภีร์นั้นอยู่กับใคร พี่อยากได้ไปศึกษาจริงๆ"

น้ำเสียงที่พูดมานั้นดูจะไม่เชื่อที่ลินดาพูดแต่หญิงสาวนั้นไม่สนใจก่อนจะตอบไป

"ดาบอกได้ว่าอยู่ในที่ ที่ปลอดภัยที่สุดคะ ดาขอร้องพี่ใหญ่อย่าไปตามหาเลยคะ ถ้าบารมีพี่ไม่ถึงต่อให้พี่เพ่งหาก็ไม่มีวันเจอ ถึงพี่จะได้มาครอบครองพี่ใหญ่จะมีปัญหามารบกวนไม่หยุดรวมถึงคนรอบข้างจะได้ผลกระทบไปด้วย ได้โปรดเชื่อดาเถอะคะพี่ใหญ่"

น้ำเสียงของเธอนั้นวิงวอนไปยังอีกฝ่าย ที่ดูสีหน้าจะไม่เชื่อที่เธอพูดเท่าไหร่นัก  ทั้งคู่ต่างนิ่งเงียบไปชั่วครู่และเป็นฝ่ายชายเอ่ยขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นยืน

"งั้นพี่ไม่กวนละ ขอบคุณมาก"


พ่อเลี้ยงเดินออกไปโดยไม่หันมามองด้วยท่าทีไม่พอใจอย่างมาก ส่วนลินดามองตามไปด้วยความหนักใจ แต่ในใจนั้นขอบคุณพระภูมิและหลวงตาที่ช่วยเหลือในเรื่องนี้ ถ้าคัมภีร์ยังอยู่กับเธอปัญหาใหญ่คงตามมาแน่นอน ลินดาพยามยามที่จะตัดความกังวลออกไป แต่เธอเหลือบตามองไปเห็นอสนีที่พึ่งเดินมาจากเคาน์เตอร์พร้อมแก้วเครื่องดื่มในมือ  เธอดีใจเป็นอย่างมากก่อนที่เธอจะโบกมือเรียกทำให้อสนีเดินเข้ามาหาเธอ

"มาทำธุระอะไรแถวนี้หรือคะคุณอัส"

หญิงสาวเอ่ยทักขณะที่อสนีนั่งลง

"มีนัดคุยงานกับลูกค้านะครับ แต่เห็นว่ามีเวลาเหลือเลยแวะมาหาอะไรเย็นๆดื่มก่อน แล้วคุณดาละครับ"

"หลบรถติดนะคะ"

เธอตอบก่อนจะชวนคุยเรื่องโครงการก่อสร้างตึกที่คืบหน้าไปอย่างมาก และวกถึงเรื่องที่อสนีไปเที่ยว

"เป็นยังไงบ้างคะ ที่พาคุณอาไปเที่ยวสนุกไหมคะ"

"ก็เปิดโลกอีกมุมนะครับ แม่เขาเฉยๆ แต่พ่อชอบบอกว่าเหมือนที่เคยเห็นในรูปภาพคือสวยมาก แม่ผมชอบที่ญี่ปุ่นมากกว่าครับ ยิ่งนั่งรถไฟดูภูเขาฟูจิ แม่ชอบมาก"

"เหมือนแม่ของดาเลยคะ"

"อ้อคุณดาครับ ได้ข่าวคุณดาไปใส่บาตรกับหลวงตาหรือครับ"

"คะ แต่คุณอัสทราบได้อย่างไรคะ ดาตั้งใจจะไปใส่บาตรหลวงตานะคะ บอกตรงๆตั้งแต่วันที่ได้กราบท่านในวันนั้นทำให้ดานับถือท่านมาก"

"ผู้หญิงที่คุณดาคุยด้วยนะครับลูกชายกับลูกสะใภ้ของป้าเขาทำอาชีพขายของรถเร่นะครับ วันนั้นป้าแกไปที่ร้านเลยเล่าให้พ่อกับแม่ฟังว่ามีผู้หญิงที่บอกว่ารู้จักกับผม พอบอกลักษณะท่าทางพ่อกับแม่เลยเดาออกว่าเป็นคุณดาแน่นอน แม่บ่นว่าถ้าคุณดามาน่าจะแวะไปหา"

"ดาไม่อยากไปรบกวนท่านนะคะใส่บาตรเสร็จก็กลับเลย"

"แวะไปก็ได้ครับ ไม่เป็นไรหรอกพ่อกับแม่ยังบอกเลยคุณดาคุยสนุก"

"ไว้โอกาสหน้าก็ได้คะ ดายังติดใจไข่เจียวอยู่คะ"

การสนทนาเป็นไปด้วยดีจนอสนีขอตัวไปพบลูกค้าก่อน  โดยที่หญิงสาวมองตามจนอสนีเดินออกไปจากร้านแต่ทั้งคู่หารู้ไม่ว่ามีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองอยู่ตลอด พ่อเลี้ยงใหญ่นั่นเองที่แอบมองจากอีกที่หนึ่ง ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก จากสายตาที่จับจ้องอยู่ตลอดทำให้พ่อเลี้ยงดูออกว่า ลินดาพอใจผู้ชายหน้าตาดีคนนี้มากจากกิริยาที่เธอแสดงออก


"หวงดีนักนะมึง คราวนี้เสร็จกูแน่นอน"

เป็นความคิดที่อาฆาตมาดร้ายต่อลินดาก่อนที่พ่อเลี้ยงจะเดินออกไป หลังจากนั้นผ่านไป 3วันในช่วงกลางดึกที่บ้านพักกลางหุบเขาแห่งหนึ่งที่เชียงใหม่ พ่อเลี้ยงใหญ่ที่นั่งบริกรรมคาถาอยู่พักใหญ่ได้เรียกบรรดาวิญญาณที่ตนเองเลี้ยงไว้พร้อมกุมารทองให้ออกมาพบ

"เป็นไงบ้างวะเรื่องที่ให้ไปดูมา"

"พ่อพวกฉันว่าอย่าไปยุ่งเลย ผู้ชายคนนั้นมีรัศมีผิดจากคนอื่นทั่วไป"

กุมารทองนั้นตอบไปยังเจ้านาย

"โอ๊ยพวกมึงนี่ไม่ได้เรื่อง กลัวอะไรวะอย่างมากมันก็มีพวกพระเครื่องติดตัว"

"มันไม่ใช่นะพ่อ พวกฉันแค่ได้รัศมีก็อยากจะเผ่นแล้ว ถ้าพ่อไม่ผูกพวกฉันไว้ป่านนี้ฉันก็เผ่นไปไกลแล้ว"

"ไอ้พวกขี้ขลาด ก็รอตอนมันเผลอสิวะ ยิ่งตอนที่มันถอดพระออกจากตัว พวกมึงก็เล่นงานได้เลย"

"พ่อมันไม่ใช่อย่างนั้น ฉันว่าพ่อเลิกสนใจผู้ชายคนนี้เถอะ เขามีดีอะไรกว่าที่พวกเราคิด ฉันเองก็บอกไม่ถูกว่าคืออะไรแต่รู้ว่าพลังพวกนั้นมันทำลายพวกฉันได้สบายๆ ฉันเตือนพ่อแล้วนะ""

"เออพวกมึงไปได้แล้ว"

เสียงตวาดจากพ่อเลี้ยงไปยังเหล่าบริวารที่เลี้ยงไว้ ร่างเหล่านั้นหายไปทันที  พ่อเลี้ยงใหญ่นั้นลืมตาด้วยความที่ไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง เพราะตั้งแต่หลังงานศพของคนในกลุ่มที่ตายด้วยสาเหตุประหลาด พ่อเลี้ยงใหญ่นั้นแอบสืบว่ามีที่มาที่ไปเพราะอะไร จนพอจะปะติดปะต่อจากข้อมูลที่ได้มาว่าสาเหตุเกิดจากอะไรจนทำให้รู้ว่าลินดานั้นมีอะไรอยู่ในครอบครอง เรื่องนี้ตัวพ่อเลี้ยงนั้นสงสัยมานานแล้วว่าลินดามีพื้นฐานวิชามาจากกอะไร และเคยฟังเรื่องบางอย่างที่หญิงสาวเคยแลกเปลี่ยนความรู้กัน เลยทำให้มั่นใจว่าลินดานั้นมีคัมภีร์โบราณที่หายากอยู่ในครอบครองและตนเองอยากได้วิชาจากคัมภีร์เล่มนี้ ซึ่งพ่อเลี้ยงใหญ่นั้นเชื่อว่าถ้าตนเองได้ศึกษาจะทำให้มีวิชาอาคมที่เหนือกว่าหมอผีคนอื่นๆอย่างแน่นอน เลยตัดสินใจที่จะมาหาลินดาเพื่อจะขอคัมภีร์เล่มนี้ จนได้โอกาสในวันก่อนที่แอบติดตามหญิงสาวตั้งแต่ออกจากที่ทำงานจนถึงร้านกาแฟ พ่อเลี้ยงตัดสินใจที่จะเข้าไปขอตรงๆโดยไม่สนใจเรื่องอื่นใดจากที่เคยตกลงกันไว้

แต่พอได้รับคำปฏิเสธจากลินดาทำให้พ่อเลี้ยงใหญ่นั้นเคืองมาก โดยไม่สนใจเรื่องที่ลินดาบอกนอกจากคิดไปเองว่าหญิงสาวนั้นหวงคัมภีร์เลยแต่งเรื่องโกหก หลังจากวันนั้นพ่อเลี้ยงพยามนั่งเพ่งหาคัมภีร์ว่าอยู่ที่ไหนแต่มองไม่เห็นอะไรนอกจากสีขาวสว่างจ้า ทำให้คิดไปเองว่าหญิงสาวใช้เวทมนต์บังตา พอคิดไปอย่างนั้นเลยหาวิธีที่จะบีบให้ลินดาทำตามความต้องการของตัวเองแต่ไม่อยากเปิดศึกกับหญิงสาวโดยตรง เพราะรู้ว่าวิธีนั้นมีเสียกับเสียกับตนเอง ยิ่งถ้ามีผลกระทบต่อครอบครัวของหญิงสาวมันจะยิ่งเลวร้ายเข้าไปใหญ่ ดีไม่ดีมันจะมีผลร้ายต่อครอบครัวของพ่อเลี้ยงด้วย ดังนั้นพอกลับมาถึงบ้านพ่อเลี้ยงจึงเริ่มวางแผนการร้ายเมื่อเห็นอสนีและมั่นใจว่าหญิงสาวนั้นพอใจผู้ชายคนนั้น จึงคิดจะหาวิธีเล่นงานอสนีเพื่อให้ลินดารู้ตัวเพื่อจะได้ทำตามความต้องการของตนเอง อย่างน้อยอสนีก็ไม่ใช่คนในครอบครัวของลินดา  จากที่เคยคิดว่าจะให้บรรดาภูตผีที่ตนเองเลี้ยงไว้ไปคุกคามอสนี แต่บรรดาวิญญาณเหล่านั้นกลับกลัวอสนี พ่อเลี้ยงใหญ่กลับนึกไปว่าอสนีพกพระเครื่องไม่ก็เครื่องรางของขลังชั้นดีติดตัว เลยคิดจะใช้อีกวิธีเล่นงานอสนีเพื่อให้ลินดารับรู้ความต้องการของตนหรืออีกนัยหนึ่งคือคำขู่ไปยังลินดา พอคิดได้แบบนั้น พ่อเลี้ยงใหญ่เอื้อมมือไปหยิบตะปู 3เล่ม ที่เคยเป็นตะปูตอกฝาโลงศพมาก่อน  พ่อเลี้ยงยิ้มอย่างย่ามใจก่อนจะกำมือและบริกรรมคาถาอยู่ครู่ใหญ่และแบมือออก ตะปูทั้ง 3เล่มนั้นหายไปพร้อมกับเสียงร้องห้ามของกุมารทองดังขึ้นในดวงจิต

"พ่ออย่า!!!"

 

เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

Lactasoy Milk

พ่อเลี้ยงอยากลองของเหรอ เดี๋ยวเจอดี

resistance

พ่อเลี้ยง โดนสะท้อนกลับแน่นอน เล่นกับใครไม่เล่น

pornpat tammalangka

เจอของแข็งละพี่ใหญ่ เตรียมตัวรับผลกรรมได้เลย

nagatobimaru

#4
มาแบบนี้ ก็คงบอกได้แค่เพียง ไม่รู้จักรักษาเงาหัวตัวเองซะแล้ว

———————————

นางเอกจะได้ลงเอยกับพระเอกไหมน้า

chapter11

เล่นกับใครไม่เล่นไปลองของกับคุณอัส เสร็จแน่พ่อเลี้ยง แอบเป็นห่วงลินดาครับไม่มีผีสาวคอยดูแล

thanarat3459

พ่อเลี้ยง....เอ็งเจอดีแน่.....กุมารทองว่าไว้...อิอิ ::HoHo::

ppherbalife

พ่อเลี้ยงเล่นของสูงซะแล้วสงสัยไม่รอดแน่

blakaros


Auddy2519

เล่นของกับท่านเทพไม่อยากนึกภาพเลยว่าผลจะออกมายังไง

narissa

พ่อเลี้ยงลองของไปซะแล้ว 55  ไม่รู้จะโดนอะไรกลับมาบ้าง

วีระวุธ อาทิ

หัวจะขาดไม่รู้ตัว เล่นกับของสูง

au2000


densanova

เล่นกับใครไม่เล่น rip ล่วงหน้าครับ

unicrons

ห้ามไม่ฟัง ใหญ่มาจากไหนก็....ได้นะ