ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

ตำนานเทพวายุ [ season3 ] ตอนที่ 40 : " กุเร็น "

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, ตุลาคม 25, 2020, 11:11:38 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

สวัสดีครับ ตำนานเทพวายุ ตอนใหม่ที่ลงเร็วที่สุดในรอบครึ่งปีมาแล้ว

อ่าส์ ตอนนี้ผมกำลังลองครับ ว่าอาทิตย์นึงจะเขียนได้สัก 3 เรื่องไหม

แล้วเอ้อ ก็ไหวนะ ยังไงซะเร็วๆนี้จะมีการวางขาย E Book แล้วนะครับ

แล้วจะแจ้งอีกที ฝากสนับสนุนกันด้วยนะครับ

..............



ปล. น้องพลอย สวย สดใส หุ่นดี และ นมใหญ่






....


...................


ความเดิมตอนที่แล้ว


ริวได้เคลียร์ใจกับพลอยเรียบร้อย ซึ่งพอถึงเวลาต้องกลับบ้าน

พิกุลก็มาตรงเวลา และ พิกุลก็ได้ดุริวว่า ทำไมยังไม่ไปธุระอีก


ริวจึงนึกขึ้นได้ว่าวันนี้ ต้องไปเอาดาบนี่หว่า


ตัวเขานั้นกำลังจะรีบไปทันที แต่พลอยก็ได้ตามไปด้วยเพราะพิกุลอนุญาต

แล้วพลอยก็ได้รู้จักกับโทน คนที่ริวเรียกว่าพี่ มันเป็นเรื่องแปลก ที่ริวสู้พี่คนนั้นไม่ได้เลย


และไม่ว่าริวจะทำอะไร โทนก็ทำได้หมด ราวกับว่า

" เขามีพลังเหมือนริว "


....................


ผั๊วะ ๆ ๆ ๆ  ตุ้บตั้บ ๆ ๆ ๆ



[ ริวกะ ]  :  ดะ ดะ เดี๋ยว โอ๊ย พี่โทนยอมแล้ว ยอมแล๊วววว



หลังจากที่สองพี่น้องเล่นขนมตุ้บตั้บกันไปหลายที จนริวกะร้องยอมแพ้ ทั้งคู่ก็แยกออกจากกัน หน้าตาของริวบวมตุ่ยๆเลย


แล้วทำไมคราวนี้แผลของริวถึงไม่หายล่ะ ทั้งๆที่เมื่อกี้ที่สู้กัน แผลฉกรรจ์ยังหายไปไหนพริบตา


[ โทน ]  :  ให้รู้ซะมั่ง ไผเป็นไผ แล้วดาบน่ะเสร็จแล้ว อยู่ข้างหลังบ้านนู่น


[ ริว ]  :  รู้แล้วน่าาา โอยเจ็บ ( คิดในใจ ทำไมตูสู้ไม่ได้สักทีฟะ )


[ โทน ]  :  แล้วนี่ฮิคาริ สบายดีมั้ยล่ะ


[ ริวกะ ]  :  ( หน้าเจื่อน )  อือ....  สบายดีครับตอนนี้อยู่ภูเขาวาตะ...


[ โทน ]  :  เฮ้อหน้าแบบนี้ แสดงว่าความทรงจำยังไม่กลับมาสิ่นะ  เอาน่าสักวันแหละ


[ ริวกะ ]  :  ครับ


[ โทน ]  :  เฮ้ย ทำหน้าเป็นหมาป่วยไปได้ สดชื่นหน่อยๆ



โทนตบไหล่ริวปั้ปๆ ปลอบใจน้องชาย ก็นะใครจะไม่เศร้าล่ะ ผู้หญิงคนแรกของเขาดันจำเรื่องราววันนั้น จำความรู้สึกที่มากกว่า นายกับบ่าวไม่ได้


เป็นใคร ใครก็เศร้า แต่ระหว่างนั้นเองขณะที่ทั้งคู่กำลังยืนคุยกันนั้น ริวก็หันไปเจอพลอยที่ยืนหัวฟูอยู่



[ โทน ]  :  หือ !!!


[ พลอย ]  :  สวนสวยมากๆเลยค่ะพี่ ของอร่อยๆก็เยอะเลย


[ ริวกะ ]  :  พล๊อยยยยย



ริวกะร้องเสียงหลงเลย เพราะพลอยไม่ได้กลับมามือเปล่า เธอยังเด็ดทั้งลองกอง เงาะ มาเป็นพวง และอีกหลายๆอย่างมาด้วย


แถมตามเส้นผมก็ยังมีใบไม้ติดเต็มไปหมด โทนถึงกับหัวเราะลั่นเลยทีนี้ บาคุนี่ยิ่งแล้วใหญ่มาถึงก็นอนตีพุงเลย สงสัยจะกินไปเยอะ


[ ริวกะ ]  :  พลอย ทำไมของเต็มสองมือแบบนั้นล่ะ


[ พลอย ]  :  พลอยหิวนี่นา ก็บาคุบอกว่า ผลไม้ที่นี่กินได้หมดเลยนี่นา แถมยังสดมากๆเลยด้วยค่ะ พลอยกินได้ไหมคะพี่โทน



[ โทน ]  :  55555 ตามสบายๆ เพราะยังไงซะ ผักผลไม้พวกนี้ ก็ต้องส่งให้อิซานางิ กรุ๊ป อยู่แล้ว ว่าที่ลูกสะใภ้มากินนิดๆหน่อยๆไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวพี่ค่อยไปคิดตังส์อารินเพิ่มทีหลัง



ริวนั้นรีบเดินไปจับเสื้อผ้า จัดทรงผมให้พลอยอย่างไวเลย เฮ้อ ริวเองก็คงคิดไม่ถึงว่าพลอยจะซนได้ขนาดนี้ พลอยบอกว่าตอนที่อยู่ลพบุรี


มีหลายครั้งที่เธอปีนต้นไม้เก็บมะม่วงบ้าง เก็บนู่นนี่นั่นบ้าง  ริวกะเองก็ทั้งยิ้มด้วยความเอ็นดูเมียตัวเอง อีกทั้งยังเสียใจที่ปล่อยให้พลอยต้องลำบากแบบนี้ 


แต่เมียคนทรงก็รับรู้ความในใจของริวกะ และพูดขึ้นมาว่า ที่มันลำบากก็ถือว่าพลอยฝึกวิชาปีนต้นไม้เนาะ อย่าคิดมากนะคะ ต่อจากนี้ก็ดูแลพลอยดีๆสิ่


พลอยพูดไปก็หลับตาไป เพราะริวกำลังจัดทรงผมให้เธออยู่ จนสักพักริวก็บอกว่าอ่ะ สวยแล้ว และจุ๊ปไปที ตอนแรกพลอยก็ไม่คิดอะไร แต่พอนึกได้ว่าพี่โทนยืนมองอยู่ด้วย เธอก็เสียอาการทันที


[ พลอย ]  :  เง้ออออ ริว ฮือออ พลอยเขินนะ


ริวก็หัวเราะเบาๆแล้วบอกให้พลอยไปนั่งเล่นตรงนั้นก่อนนะ ขอคุยธุระกับพี่โทนแปป พลอยวิ่งแจ้นไปทันทีพร้อมกับบาคุ ส่วนริวก็หันมาคุยกับพี่ของเขาต่อ



[ โทน ]  :  เฮ้ยๆ นี่มันยิ่งกว่าที่น้ากุลบอกพี่อีกนะ พลังของพลอยชักจะขลังขึ้นแล้วนะเฮ้ย แค่สัมผัสตัวก็รู้ความคิดได้น่ะ


[ ริวกะ ]  :  ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงดีแล้วพี่ ตอนนี้ก็ได้น้ากุลคอยดูแลอยู่



[ โทน ]  :  เฮ้อ เอาเถอะ เดี๋ยวน้ากุลคงหาวิธีจัดการได้เองแหละ



[ ริว ]  :  เฮ้ย  !!!! เดี๋ยวนะพี่โทน ผมยังไม่เคยบอกพี่เรื่องที่พลอยมีพลังหยั่งรู้เลยนะ ทำไมพี่รู้อีกแล้วเนี่ย



ตอนนั้นริวก็พูดขึ้นมาด้วยความตกใจ จนพลอยตะโกนถามว่าริวเป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ ริวจึงรีบหันไปบอกว่าไม่มีอะไรครับและหันกลับมาพูดกับพี่โทนต่อ


โทนรีบพูดขึ้นมาเลยว่า เฮ้ยถ้าคราวนี้เอ็งยังหัวร้อนอีก พี่ต่อยไม่ยั้งจริงๆนะ ริวก็แบบกัดฟัน กัดฟัน แล้วพูดครับ ไม่นานเขาก็สงบลงได้อย่างน่าประหลาด



โทนบอกเขาว่าเรื่องบางเรื่อง ผู้ใหญ่ ( ริน + พิกุล ) เขาก็มีเหตุผลของเขายังไงซะเขาก็หวังดีกับเอ็งแหละ แล้วริวกะก็ถามว่าพี่โทน




แล้วพี่รู้นานยังว่าพลอยมีพลังคนทรงน่ะ  โทนเงียบและพลันนึกถึงวันนั้นเมื่อ 5 ปีก่อน วันที่เขาเริ่มออกตามหาตุ๊กตา จนพบตัวสุดท้าย


---------------------


••• 5 ปีก่อน •••


หลังจากที่โทนเจอตุ๊กตาตัวสุดท้ายแล้ว ตัวเขาก็คิดนะว่า งานของเขาจบลงแล้ว ริวกะหลับไปแล้ว นอนกอดตุ๊กตาหลับไปเลยด้วย



โทนยืนอยู่นอกบ้านพร้อมกับคิดอะไรบางอย่าง มันเป็นความรู้สึกที่เขาเหมือนจะสัมผัสอะไรบางอย่างได้ ตลอดการตามหาตุ๊กตา



ตอนนั้นรินก็เดินมาพอดี โทนจึงตัดสินใจว่า ไหนๆก็ไหนๆแล้วถามเลยละกัน ยังไงซะรินคงต้องมีคำตอบให้เขาแน่นแน่



เขาพูดขึ้นมาว่า อารินครับ พอจะมีเวลามั้ย ผมขอคุยด้วยหน่อย รินก็บอกอื้มๆพูดมาสิ่ โทนจึงบอกว่าไปคุยหน้าบ้านก่อนได้ไหมครับ ผมกลัวไอ้ริวมันจะตื่นมาได้ยิน



รินก็อื้มๆตามนั้น โทนเดินออกมาหน้าบ้าน ทุกอย่างเงียบสงบ ตามฉบับบ้านสวน จะมีก็แต่เสียงลม เสียงจิ้งหรีด เขาทิ้งตัวลงบนเก้าอี้หินอ่อนและเริ่มถามในสิ่งที่สงสัยขึ้นมา


[ โทน ]  :  อารินครับ ผมสงสัยอย่างนึง


[ ริน ]  :  หืม เรื่องอะไร


[ โทน ]  : เรื่องน้องพลอยครับ



รินก็หืมอะไรนะแล้วนั่งลงและฟังโทนอธิบายทันที โทนพูดขึ้นมาว่า ตัวริวกะที่มีพลังแบบนั้น เขาเข้าใจดี แต่สิ่งที่แปลกใจคือ ตอนที่ไปตามหาตุ๊กตาของพลอย



รินก็ถามหืม ทำไมล่ะ โทนเล่าต่ออีกว่า ทุกครั้งที่ริวกะเผลอใช้พลังในการวิ่ง ตัวโทนมักจะรับรู้ถึงบางสิ่งอยู่ตลอดเวลา



เหมือนกับว่าการใช้พลังของริวกะนั้นทำให้อาณาเขตในการรับรู้ของเขามีมากขึ้น แต่แปลกใจที่ทำไมริวมันไม่รู้ตัว


[ ริน ]  :  โห นี่ขนาดไม่รู้เรื่อง ยังเดาได้ขนาดนี้ ไม่เสียแรงจริงๆที่เป็นลูกชายไอ้บัติ อาว่าอาคงต้องพึ่งโทนแล้วล่ะ



โทนนั้นสงสัยว่าหืม พึ่งพาอะไร แล้วตอนนั้นเอง อยู่ดีๆเสียงนก เสียงลม ก็ดังขึ้นอย่างกะทันหัน ลมก็พัดมาราวกับว่าบางอย่างกำลังมา



แล้วก็พรึ่บ !!!  อยู่ดีๆ ก็ปรากฏร่างของหญิงสาวในชุดไทยคนนึงขึ้นมา โทนถึงกับเหวอ สะดุ้งจนตกเก้าอี้ เขาคิดในใจเฮ้ย อะไรวะน่ะ



แต่แค่แปปเดียวเขาก็ตั้งสติแล้วก็นึกขึ้นได้ว่า เอ่อ ปกติกูก็เจอภูติผีของไอ้ริวประจำนี่หว่า เขาถอนหายใจเฮ้อ และลุกขึ้นมาทันที เ


ขาพูดขึ้นมาว่าเอ่อ แล้วก็ยกมือไหว้ ก่อนที่จะเดินเข้าไปใกล้ๆ มองซ้าย ขวา ร่างหญิงงามคนนั้นก็มองโทนด้วยสายตาที่เอ็นดูราวกับเจอลูกเจอหลาน


[ โทน ]  :  เอ่อ ....  คนนี้ใช่ น้าการะเกด หรือเปล่าครับ อาริน


[ ริน + การะเกด ]  :  หืม !!!??


รินกับการะเกดถึงกับแปลกใจเลยว่า ทำไมอยู่ดีๆ เจ้าโทนถึงได้พูดชื่อนี้ขึ้นมาแถมยังเดาถูกด้วย รินถามว่านี่รู้ได้ไงว่านี่คือ น้าการะเกด



โทนจึงบอก โอ้โห หน้าตาเหมือนกับไอ้ริวยังกับแกะ นี่ผมคิดว่าไอ้ริวใส่วิกผมด้วยซ้ำ การะเกดก็ถามว่าชัดขนาดนั้นเลยเหรอเจ้าโทน


โทนก็แบบยกมือไหว้แล้วบอกครับ ชัดมาก บางส่วนอาจจะเหมือนอาริน แต่ทั้งตา ทั้งจมูก แถมโครงหน้าก็เหมือนน้าการะเกดเลยครับ


การะเกดก็หัวเราะ 555 แล้วพูดว่าไงล่ะ ริน เจ้าโทนบอกว่า ลูกหน้าเหมือนข้ามากกว่า ข้าชนะ



รินก็บอกจ้าๆ ยอมจ้า โทนก็นั่งลงทันที เพราะมั่นใจแน่ๆ ว่าน้าการะเกดคงไม่ทำร้ายเขา


[ โทน ]  :  ก็ว่าอยู่ว่าทำไม ริวมันเก่งเกินมนุษย์แบบนั้น


โทนถึงกับคิดในใจว่า อารินแม่งก็โหดเกิ๊น ล่อคนไม่พอ ล่อภูติซะงั้น แล้วยังล่อจนท้องซะงั้น โหดไป๊คนเรา


การะเกดอธิบายสั้นๆว่า ตัวเธอเองก็มีเหตุผลที่ออกมาพบริวกะตรงๆไม่ได้


[ ริน ]  :  ส่วนเรื่อง รุ้งพลอยนั้น ....


รินได้เล่าเรื่องของรุ้งพลอยทั้งหมดให้โทนฟัง โทนฟังก็แบบหือ นี่ตกลงว่าตู อยู่ท่ามกลางพวกมิวแทนท์หรือไงกันนะ


คนนั้นก็มีพลัง คนนี้ก็ปล่อยพลังได้ โทนพยายามสะกดจิตตัวเอง  ตูฝันไป ตูไม่รู้เรื่อง ตูจะไปนอน


แล้วตอนนั้นโทนก็ได้ยินเสียงหวีดหวิวที่ผิดปกติ เขาเลยคิดว่าหนักละ สงสัยนอนน้อยจนหูฝาดละ


[ โทน ]  :  เอ่อ ผมขอตัวไปนอนก่อนนะครับ สงสัยผมจะนอนไม่พอเลยได้ยินอะไรแปลกๆ


โทนเหมือนจะรีบไปนอนเพราะเขารู้สึกว่าตัวเองได้ยินอะไรแปลกๆ แต่ว่าไม่ทันแล้ว เพราะกรี๊ซซซซซซ เสียงหวีดร้องแหลมๆดังเข้ามาใกล้มาก และพรึ่บ !!!




อยู่ดีๆก็ปรากฎร่างกายอสูรกายขึ้นมา ตัวของมันทั้งกลิ่นเหม็นทั้งเนื้อเน่าเปื่อย มันยืนทำท่าเหมือนจะทำร้ายอารินของเขา


ตึ้กๆ เสี้ยววินาทีนั้นโทนวิ่งเข้าใส่ทันที โดยไม่คิดหน้าคิดหลังเลย เพราะยังไงนั่นก็เพื่อนรักของพ่อตน โทนไม่ได้วิ่งเร็วเหมือนริวกะ แต่ยังไงเขาก็ต้องทำ



[ โทน ]  :  โอมตรีเพชร เทพยดา ให้กรรมสิทธิ์แก่ข้าฯ สวาหะ จะฉะสัพพัง มรณังภะเว ( คาถาธนูมือ )



โทนวิ่งเข้าใส่อสูรกายมีปีกตนนั้น พลันพนมมือบริกรรมคาถา อิจะฉะ เป่ามนต์ใส่มือและ ง้างใส่เต็มแรง แต่ว่า มั่บ !!!  หมัดธนูมือของเขา

ถูกจับไว้ได้อย่างง่ายดาย ความคิดต่อมาในหัวของเขาคือ


" กูตายแน่ "



แต่ว่าในตอนนั้นอารินก็พูดขึ้นมาว่า ใช้ได้มั้ยเวตาล และอสูรกายตนนั้นก็พูดกลับมาว่า


"  ถึงจะวิ่งมาแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง แต่ก็ห้าวหาญดีครับท่านริน "


ในหัวของโทนตอนนั้นคือ อิหยังวะ แล้วเขาก็ได้รับคำตอบก็คือ นี่คือเวตาล 1 ในภูติรับใช้ของตระกูลสถิตเทวา


และพอเวตาลเนรมิตรกลับไปร่างเดิมเท่านั้นแหละ โทนถึงกับร้องจ๊ากเลย เพราะนั่นคือคุณเวโรจน์ ท่านประธานบริษัท ที่เขาทำงานนั่นเอง



[ โทน ]  :  ทะ ทะ ทะ ทะ ท่านประธาน



โทนก็ตกใจไม่ใช่น้อยเลย เมื่อรู้ว่าท่านประธาน เวโรจน์ พิทักษ์เทวา นั้นไม่ใช่มนุษย์ เวตาล อธิบายทุกเรื่องให้โทนรู้ โทนจึงได้รู้ว่า


พิทักษ์เทวา เป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อรุ้งพลอย  กินรี สถิตเทวา นั่นเอง เวตาลอธิบายทุกๆอย่างให้โทนรับรู้


ซึ่งเขาก็บอกว่าพอแล้วครับ ท่านประธานพอแล้ว อย่าบอกอะไรผมอีกเล๊ยย แต่รินก็พูดขึ้นมาคำนึง ว่า


" โทน โทนช่วยรับพลังไปและดูแลริวกะในฐานะน้องชายได้มั้ย "


แน่นอนแหละว่า ท่านประธานแห่งอิซานางิ กรุ๊ป พูดมาแบบนี้ โทนจึงตอบกลับไปว่า


" ไม่เอาครับ "


โทนบอกว่า เขาไม่อยากวุ่นวายกับเรื่องอะไรพวกนี้ ยิ่งเป็นเรื่องเหนือธรรมชาตินี่ขอบาย เพราะเขาเป็นแค่คนธรรมดาคงช่วยอะไรไม่ได้

แล้วตอนนั้นการะเกดก็หัวเราะขึ้นมา เธอบอกว่า


[ การะเกด ]  :  คนธรรมดาที่กล้าวิ่งใส่ เวตาลในรูปลักษณ์อสูรกายน่ะนะ โอ้ น่าเชื่อเหลือเกิน เหมือรกับสมบัติตอสที่เรียนหนังสือด้วยกันจริงๆ



[ โทน ]  :  หือ เรียนด้วยกัน อย่าบอกนะครับ ว่าพ่อผมก็รู้เรื่องน้าการะเกด



[ ริน ]  :  อากับพ่อของโทนก็เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ยังไงซะริวกะก็เหมือนน้องชายโทนอยู่แล้ว ช่วยอาดูแลริวกะหน่อยนะโทน



โทนทำท่าเหมือนจะปฏิเสธอีกครั้ง แต่ตอนนั้นเองรินก็ทำท่ายกโทรศัพท์ขึ้นมาและพูด


ฮัลโหล เฮ้ยไอ้บัติ ทำไมลูกชายเอ็งมันดื้อแบบนี้วะ ให้ช่วยดูแลริวกะคนเดียวก็ทำไม่ได้


แล้วตอนนั้นเองโทนถึงกับเหวอไปเลย นี่อารินเล่นมุขนี้เลยเหรอวะ



[ โทน ]  :  ครับ ๆ ๆ ๆ ๆ ได้ครับอาริน ผมยินดี ปรีดาเลยครับ ที่จะดูแลน้องชายสุดดื้อคนนี้


[ ริน ]  :  โอ้ ดีใจจังเลยที่หลานชาย ยินดีช่วยแบบนี้


เรียกได้ว่ามัดมือชกแบบหาทางสู้ได้เลย เพราะพ่อของโทนบอกเสมอว่า ริน เพื่อนของเขาคนนี้ มีบุญคุณกับครอบครัวเรามากๆ



ถ้ามีอะไรที่พอจะช่วยได้ก็ช่วยให้เต็มที่เลย รินเองก็ไม่อยากจะใช้ไม่นี้เท่าไร แต่ว่าตอนนี้ก็คงมีลูกชายของเพื่อนเขาคนนี้แหละที่ไว้ใจได้


[ โทน ]  :  แล้วผมต้องทำยังไงบ้างครับ อาริน


[ ริน ]  :  ทำทุกอย่างเหมือนเดิม ทำงาน ใช้ชีวิตเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคืออาจะให้เวตาล ช่วยสอนอะไรหลายๆอย่างให้ รวมถึงการฝึกร่างกาย และการควบคุมริวกะ ไม่ใช่คุ้มคลั่งด้วย



[ โทน ]  :  เดี๋ยวก่อนนะครับน้าริน ต่อให้ผมฝึกให้ตายก็เหอะ ผมว่ายังไงผมก็ตามไอ้ริวไม่ทันแน่ๆ ถ้าเกิดต้องใช้กำลังกันขึ้นมา ยังไง๊ยังไง ผมก็โดนมันสอยร่วงแน่ๆ


แล้วตอนนั้นการะเกดก็เดินมา และใช้มือของนางลูบไปที่หัวของโทนและ



"  ริวกะจะไม่มีวันเอาชนะเจ้าได้ตราบใดที่เจ้าคิดดี เจ้าโทน "



นี่สิ่นะเป็นอีกเหตุผลนึงที่เขาเอาชนะริวกะได้ เพราะมีพรจากผู้เป็นแม่นั่นเอง ( ถ้าเรตติ้งดี เดี๋ยวเขียน side story ซัก 3 ตอน )


••• ปัจจุบัน •••


โทนนึกถึงเรื่องเก่าๆ หลังจากที่ริวถามได้สักพัก จึงได้ตอบริวกลับไปว่า



[ โทน ]  :  เออ รู้ตั้งแต่ตอนตามหาตุ๊กตานั่นแหละ ถ้าอยากรู้ไปถามอารินเอาละกัน ห้ามเคืองกันนะเว้ย เพราะพี่ก็ทำตามที่อาริน กับ น้ากุล สั่งมา


[ ริวกะ ]  : ครับพี่โทน


แล้วโทนก็พูดขึ้นมา ป่ะ ไปเอาดาบใกล้ได้เวลาละ แต่ก่อนที่จะไปเอาดาบนั้น ริวก็เดินไปหาพลอยก่อน


[ ริวกะ ]  :  พลอยครับ เดี๋ยวริวจะไปธุระข้างในนู้นนะ พลอยนั่งอยู่กับบาคุก่อนนะครับ


[ พลอย ]  :  อื้อ อย่าตีกับพี่โทนอีกนะคะริว หน้าตาริวดูไม่ได้เลยตอนนี้


ริวกะได้ฟังแล้วก็แบบ บุ่ยย เชอะ เลยทีเดียว โทนก็หัวเราะ 555 แล้วบอกว่าเห็นมะขนาดน้องพลอยยังรู้เลย แล้วตอนนั้นก็มีหมาบางแก้วตัวนึง


เดินมาฟุดฟิด ฟุดฟิด รอบๆตัวของพลอย  แล้วมันก็นั่งด้วยท่าทางเรียบร้อย นั่งลิ้นห้อย แฮ่ก ๆ ๆ ราวกับว่าขอของกิน


พลอยก็ถามหืม กินมั้ย หมาตัวนั้นก็ยกมือข้างนึงเหมือนกวักมือให้พลอยส่งผลไม้ในมือมาให้



[ โทน ]  :  เฮ้อ ไอ้มูชู มึงนี่น๊า !!! เห็นแก่กินแท้


[ พลอย ]  :  เง้อ มูชู ตัวนี้ชื่อมูชู ชื่อเดียวกับมังกรมู่หลานเหรอคะ



พี่โทนบอกอื้มๆ แล้วก็พูดว่าเอ็งอยู่กับบาคุกับพลอยนะไอ้มูชู เฝ้าบ้านด้วยล่ะ มูชูเห่าโฮ่ง แล้วก็หงิงๆๆกับพลอยต่อ



ส่วนโทนกับริวนั้นก็เดินไปหลังบ้านต่อทันที พอเดินมาได้ 500 เมตร เอ้า โรงเก็บดาบอันเก่าหายไปไหนหว่า



[ ริวกะ ]  :  ย้ายโรงเก็บดาบแล้วเหรอพี่



[ โทน ]  :  อืม จิ้งจอกเก้าหางบอกว่า ต้องวางผนึกใหม่ ถ้าตั้งอยู่ใกล้บ้าน ใกล้สวนมากเกินไป มันจะทำให้ ต้นไม้ใบหญ้า และผลไม้ได้รับผลกระทบ รวมถึงพวกสัตว์แถวๆบ้านด้วย



[ ริวกะ ]  :  นี่พี่ดู ไรเดอร์ไกมุ มากไปเปล่าวะพี่ ผลไม้กลายพันธุ์เหรอ



[ โทน ]  :  ไกมุอะไรไม่รู้จักเว้ย รู้จักแต่ พี่เทพเท็นโด



[ ริวกะ ]  :  คุณย่าเคยพูดเอาไว้ [ ยกมือชี้ฟ้า ]



[ โทน ]  :  ย่าคิเคียวเหรอ



พูดถึงย่าคิเคียวได้คำเดียว ริวกะก็ถึงกับหงอหน้าซีด เลยล่ะ ไอ้นี่มันกลัวย่าจริงๆเว้ย โทนถึงกับหัวเราะลั่นเลยทีเดียว



เขาถามนะว่าทำไมเอ็งกลัวย่าคิเคียวจังวะ ผี ปีศาจ เอ็งไม่ยักจะกลัว ริวตอบมาว่า ก็ย่าคิเคียวน่ากลัวกว่าไงพี่


ริวกะบอกว่า ย่าคิเคียวดุมาก เข้มงวดมาก ในบ้านไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งของย่าคิเคียวเลย ขนาดปู่ยังต้องเกรงใจ


โทนก็ถามต่อนะว่า แล้วตกลงที่อารินเคยบอกพี่ว่าเอ็งโดนย่าฟันหลังจริงเปล่าวะ โทนก็บอกจริงดิ่พี่ ตอนฝึกศาสตร์มีดสั้น ทันโตจัสสึ ( tanto jutsu ) เขารับกระบวนท่าของย่าไม่ทัน เลยโดนกลางหลังไปเลย



[ โทน ]  :  อื้ม บาดแผลที่กลางหลัง เป็นความอับอายของนักดาบ



[ ริวกะ ]  :  ยอดเยี่ยม  เฮ้ย !!!  อะไรเนี่ยพี่ ชงมาจังเลย



สองพี่น้องนี่แม่งก็โยนมุขกันโบ๊ะบ๊ะ โบ๊ะบ๊ะไปหมด เขาเดินคุยกันมาจนถึงจุดหมายแล้ว  รอบๆนั้นเป็นต้นไม้ใหญ่ แต่เมื่อกี้โทนบอกว่าใกล้ต้นไม่ไม่ได้นี่ โทนจึงได้บอกว่า



ต้นไม้พวกนี้ก็มาจากเขตอาคมบ้านเอ็งนั่นแหละ มันถึงทนกับผนึกของจิ้งจอกเก้าหางได้ เมื่อมองเข้าไป



ริวกะเห็นว่าตัวบ้านนั้นมันถูกสร้างขึ้นใหม่ให้เหมือนศาลเจ้ากึ่งบ้านแบบญี่ปุ่น ขนาด10 x 15 เมตร ทันทีที่เหยียบเข้าไปในพื้นที่นั้น



ริวกะ ก็รู้สึกได้ถึงความเย็นแบบเฉียบพลันทันที ตอนนี้เขารู้แล้วว่าทำไม พี่คิสสึเนะจึงจำเป็นต้องสร้างพื้นที่ผนึกใหม่เอาไว้ ให้ไกลจากที่เดิม



[ โทน ]  :  ที่นี่มันหนาวเพราะพลังเวทย์ของจิ้งจอกเก้าหางกับภูติหิมะ แล้วผลไม้ที่พี่ปลูกมันเป็นพืชเขตร้อนเกือบ 90 % ถ้าโดนอากาศเย็นขนาดนี้เข้าไปนานๆล่ะก็ ยืนต้นตายหมดแน่ หลักวิทยาศาสตร์น่ะ บักหำน่อย



[ ริวกะ ]  :  รู้แล้วน่า เด่อเอ๊ย



พอมาถึงหน้าประตูเอ๊ะ ริวกะดันประตูไม่เข้า หรือว่าต้องใช้พลังของเขาเป็นตัวปลดผนึก เปรี๊ยะ !!!


ริวกะทาบมือที่มีพลังอัสนีไปบนประตู แต่ก็ยังไม่เปิด ไม่ขยับสักนิด คราวนี้เขาจะลองใช้พลังวายุดู แต่ว่า


กริ๊ก !!! โทนก็หยิบกุญแจออกมาไขแกร๊ก ออกทันที เขาถามริวกะว่า ทำอะไรวะไอ้หำ กุญแจก็มีไอ้นี่เอ๊อ ริวกะถึงกับเขินเลยทีเดียว



ริวก็ถามว่าเอ๊า !!!  ทำไมไม่บอกผมล่ะพี่
โทนก็บอกกลับไปว่า ก็อยู่ดีๆเอ็งเดินดุ่ยๆเข้าไปเลยนี่หว่า 55555 เลยอยากให้เขินเล่นๆ




โทนบอกริวว่า ประตูเขตอาคมนี่มีแค่พี่ อาริน จิ้งจอกเก้าหาง ที่เข้ามาได้เท่านั้นแหละ เพราะของในนี้หลายอย่างมันอันตราย ถ้าให้เด็กหัวร้อนแบบเอ็งเอาไปใช้ได้บรรลัยกันแน่ๆ



แอ๊ดดดด  เมื่อเปิดเข้าไป สิ่งที่ริวเห็นก็คือคลังแสงดีๆนี่เอง คือทุกอย่างเหมือนบ้านในญี่ปุ่นเป๊ะๆ โทนเดินเข้าไปถอดรองเท้า และก้าวขึ้นชั้นบ้าน ซึ่งบ้านทั้งหลังเป็นไม้ทั้งหมด



เขาโค้งหัวเคารพและเดินเข้าไปในห้องโถงที่ปูด้วยเสื่อทาทามิ เป็นห้องขนาด 12 เสื่อ ( เสื่อทาทามิ ) ในห้องนั้นดูขลังเป็นอย่างมาก มีทั้งยันต์ญี่ปุ่น ชุดนักรบต่างๆ


โทนเดินเข้าไปโค้งเคารพให้ตัวดาบ ที่ตั้งตระหง่านบนแท่นและนั่งลงหลับตา ริวกะก็เช่นกันเขารู้ดีเรื่องพิธีแบบนี้ เขานั่งลงและหลับตาห่างจากโทนไปประมาณ 1 เสื่อ


พรึ่บบ อยู่ดีๆริวกะก็รู้สึกถึงความร้อนที่พวยพุ่งขึ้น อุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นทันที แล้วตอนนั้นเอง ทั้งโทนและริว ต่างก็มีปฏิกิริยาขึ้นพร้อมกัน กรึ่กกก



ตัวดาบที่วางบนแท่นสั่นราวกับว่ากำลังลืมตาตื่น เขาทั้งสองลืมตาขึ้นทันที โทนเดินไปที่แท่นดาบ ริวกะเดินตามไปด้วย แหละหยิบกระบอกไม้ไผ่ตรงนั้น เปิดฝาป๊อก !!! ( น้ำมนต์ )


และเทราดไปที่ตัวดาบทันที ฟู่ววววว สิ่งที่ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้น น้ำที่เทจากกระบอกไม้ไผ่ ระเหยไปทันทีราวกับว่ากำลังเทลงบนเหล็กร้อนๆ วุ่บ !!!



โทนชักดาบออกมาและวาดเป็นวงกลมกลางอากาศ ริวกะสาบานได้เลยว่าเมื่อกี้เขาเห็นเหมือนว่าที่ปลายดาบคาตานะนั่น มีเปลวไฟลุกขึ้นจริงๆ



ฟุ่บ ๆ ๆ แกร๊ก โทนเก็บดาวเข้าฝักอีกครั้ง และ กริ๊กดันเข้าล็อคทันที ริวรับรู้ได้เลยว่านี่มันต้องไม่ใช่ดาบธรรมดาละ เพราะพิธีการเมื่อกี้ มันเป็นพิธีการปลุกดาบธรรมเนียนปฏิบัติ



ตอนแรกเขานึกว่าแค่มาเอาดาบธรรมดา แต่เหมือนว่าตอนนี้คงไม่ใช่ละ โทนใช้มือ 2 ข้างประคองดาบขึ้นมาและส่งมอบให้ริวกะทันที ตัวริวกะก็โค้งหัวและยื่นมือขึ้นไปรับทันที


ซึ่งพอรับดาบมาเข้าก็มองพิจารณาดาบเล่มใหม่ของเขาทันที


ซายะ ( ปลอกดาบ ) ทำมาจากไม้เนื้อแข็งอย่างดีลงรักสีดำ



ซึบะ ( กระบังมือ ) ทำมาจากทองแดง สามารถนำไฟฟ้าได้ดี


ไยบะ ( ตัวดาบ ) ตีขึ้นมาจากเหล็ก 3 ชนิดมีความคมและแข็งแกร่งอย่างคาดไม่ถึง ลักษณะโค้งมนตามแบบฉบับดาบญี่ปุ่นดั้งเดิม


ฮามอน ( ลายดาบ )  ฮามอนนั้นเป็นลายคลื่นน้ำ midare hamon


ซึกะ ( ด้ามดาบ )  พันด้วยเส้นเชือกพิเศษที่ทำมาจากเส้นใยของจูกะ ถูกย้อมด้วยสีน้ำเงินครามสลับทอง



ริวกะรับดาบจากพี่โทนด้วยสองมือ ชักมันออกมาและมองอย่างหลงไหล เขามองไปที่ตัวดาบอีกครั้งเพราะเห็นอะไรบางอย่าง


เพราะตรงฮาบากิ ( คอดาบ ) สลักรูปดอกบัวเอาไว้ และมีคันจิสลักเอาไว้



[ ริวกะ ]  : "  紅蓮 "   ( อ่านว่า   กุเร็น )


ริวกะอ่านชื่อมันออกมา ดาบเล่มนี้ชื่อกุเร็นงั้นเหรอ ริวกะหยิบดาบตวัดอีกครั้งก็ถึงกับต้องแปลกใจ เพราะลวดลายฮามอน มันสะท้อนเป็นสีแดงเมื่อกี้ ริวกะก็เหวอสิ่แบบนี้อยู่ดีๆ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ



[ ริวกะ ]  :  เฮ้ย พี่โทน นี่คงไม่ได้เล่นมุขดาบแดง เหมือนดาบพิฆาตอสูรหรือปราณตะวันนะเฮ้ย



[ โทน ]  :  จะบ้าเหรอเฮ้ย เอ็งอยากรู้เอ็งก็ไปถามคนตีใบดาบสิ่ พี่แค่รับหน้าที่คอยดูแล ต่อเท่านั้นเว้ย



[ ริวกะ ]  :  แล้วใครล่ะตีดาบ เพราะพ่อไม่ได้บอกผมอ่ะ บอกแค่ว่า วันนี้เดือนนี้ปีนี้เวลานี้ ให้ผมมารับดาบกับพี่น่ะครับ



[ โทน ]   :  ฮันโซน่ะ



[ ริวกะ ]  :  เฮ้ย !!!  ลุงฮันโซเนี่ยนะตีดาบให้ผมบ้าแล้ว ไม่จริงน่า



[ โทน ]  :  อย่าว่าแต่เอ็งเลยที่ไม่เชื่อ พี่ก็ไม่เชื่อเหมือนกัน ว่าตาลุงหัวหน้านินจานั่นจะตีดาบให้ ก็เอ็งเล่นไป หักอกลูกสาวเข~



[ ริว ]  :  ชู่วววว ชู่ววววว  อย่าพี่โทน อย่าาาาา


ริวรีบเข้าไปกอดคอแล้วเอามืออุดปากเลย ก่อนที่พี่ชายของเขาจะพูดจนพลอยได้ยิน โทนนี่ถึงกับต้องตีแขน



ผั่บๆๆๆๆ  เพราะริวมันรัดคอ แน่น อ่อย โอ๊ยย ( ปล่อยโว้ยย )  โทนพยายามพูดทั้งๆที่โดนปิดปาก จนสุดท้ายริวก็ปล่อยจนได้


[ โทน ]  :  โอย ไอ้นี่บอกดีๆก็ได้ พี่ไม่ดื้อหรอก พลอยก็อยู่ห่างเป็นกิโลเมตร กลัวอะไรวะ  แต่อายาเมะจังก็น่ารักดีนะ อารินเคยเอารูปให้ดูเดือนก่อน



[  ริวกะ  ]  :  โอยพี่ พอเลย เรื่องตั้งแต่นู่นสมัย 5 ขวบ พอเลย



นั่นแน่ร้ายไม่เบาเลยบักริวกะ ไปแอ่วลูกสาวหัวหน้านินจาอิกะ ซะด้วย โทนขอดาบกุเร็นกลับมา ด้านพ่อหนุ่มมังกรเพลิงก็ยื่นให้แต่โดยดี


ซึ่งพอโทนรับดาบกุเร็นกลับมาแล้วถือให้ริวกะดู ลายฮามอนมันกลายเป็นสีดำดั้งเดิม



[ โทน ]  :  สีกลับเป็นเหมือนเดิมละ ถ้าจะเล่นมุขดาบพิฆาตอสูร ดาบที่พี่ถือตอนนี้ต้องเป็นสีแดงไม่เปลี่ยนเป็นสีดั้งเดิม


( ในการ์ตูนคือดาบจะเปลี่ยนสีครั้งเดียว ตอนที่เจ้าของดาบสัมผัส จากนั้นต่อให้คนอื่นจับสีก็จะไม่เปลี่ยนครับ )


แกร่ก !!! ชิ้ง !!! นายโทนเก็บกุเร็นเข้าฝัก แล้วบอกว่าที่เห็นมาเป็นสีแดงแว๊ปนึง ก็ตามชื่อนั่นแหละ กุเร็น



[ โทน ]  :  พี่ว่าไอ้คนที่ลงไปวิ่งเล่น ฝึกวิชาในยมโลกอยู่ 2 ปีกว่าๆ แบบเอ็งน่าจะเข้าใจดีนะ ความหมายของ " กุเร็น "



ริวกะพยักหน้าทันที กุเร็น แปลตรงตัวก็คือ ดอกบัวสีแดงเข้ม แต่ที่ประเทศญี่ปุ่นดอกบัวสีแดงยังเป็นตัวแทนของเปลวเพลิงที่ลุกโชนอีกด้วย


แต่ว่า.... สิ่งที่โทนพูดว่าริวกะที่ลงไปวิ่งเล่นในนรก 2 ปี คงรู้ดีๆ มันคืออะไรกันล่ะ



[ ริวกะ ]  :  กุเร็น จิโคคุ นรกดอกบัวแดง 1 ในขุม 8 นรกโลกันต์ ( นรกเย็น ) ดินแดนชำระบาปเยือกแข็ง สุดขอบจักรวาล


เป็นไปตามที่ริวกะพูดมา กุเร็น มีอีกชื่อคือกุเร็นจิโกคุ หรือนรกดอกบัวแดงแห่งโลกันตนรก นอกจาก 8 มหาขุมนรกเพลิง ซึ่งได้แก่


Toukatsu Jigoku - โทคัสสึ จิโกคุ -สัญชีวนรก

Kokujou Jigoku - โคคุโจ จิโกคุ - กาฬสุตตนรก

Shugou Jigoku - ชูโก จิโกคุ - สังฆาฏนรก

Kyoukan Jigoku – เคียวอูกัน จิโกคุ - โรรุวนรก

Dai-kyoukan Jigoku - ได เคียวอูกัน จิโกคุ - มหาโรรุวนรก

Jounetsu Jigoku – โจเนทสึ จิโกคุ - ตาปนรก

Dai-Jounetsu Jigoku - ได โจเนทสึ จิโกคุ - มหาตาปนรก

Mugen Jigoku - มุเก็น จิโกคุ - อเวจีนรก


ยังมีอีก 8 มหาขุมนรกเยือกแข็ง นั่นคือนรกโลกันต์ นรกแห่งนี้ไม่มีทั้งไฟ ไม่มีทั้งแสง เหล่าอสูรนรกที่ตกลงจะพบเจอกับความหนาวยะเยือกจนร่างวิญญาณยังต้องทรมาน


ตามคติความเชื่อของชาวญี่ปุ่น นรกเย็นจะมี 8 ขุม ซึ่งเมื่อเหล่าอสูรนรกทุกข์ทรมานถูกทรมานด้วยความหนาวเหน็บ


จนมาถึงขุมที่ 7 ผิวหนังของพวกมันจะแตกออก เพราะความแห้งและเหน็บหนาว และเลือดที่ไหลออกมา จะมีสีแดงราวกับสีของดอกบัว นรกขุมนี้จึงถูกเรียกว่า " นรกดอกบัวแดง "


โทนตวัดดาบกุเร็นอีกครั้ง ริวสามารถรับรู้ได้เลยว่ามีคลื่นพลังอย่างออกมา ชิ๊ง !!! กรึ่กก กกก กกก


อยู่ดีๆดาบกุเร็น ก็เกิดอาการสั่นผิดปกติ ริวก็แปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น พี่โทนก็เหมือนกันอยู่ดีๆมือก็สั่นไปด้วย



[ โทน ]  :  เอ้ย ไปได้ของดีอะไรมาเปล่าวะริว


ริวฟังแล้วก็นึกๆๆๆ อะไรหว่าของดี แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าตอนไปลพบุรี เขาได้ตะกรุดมานี่นา วุ่บริวกะคว้ามือไปข้างๆและอยู่ดีๆมือเขาก็หายไปกลางอากาศ


ซึ่งพอดึงมือออกมา คราวนี้มีของสิ่งหนึ่งติดมาด้วย นั่นคือตะกรุดที่ริวได้จากพระธุดงค์นั่นเอง


[ โทน ]  :  โอ้โห สะดวกดีว่ะ มีกระเป๋าว่างมิติด้วย นี่มันความฝันของชายไทยเลยนี่หว่า


[ ริว ]  :  พี่ก็ทำดิ่


[ โทน ]  :  พี่ทำได้ที่ไหนล่ะไอ้นี่ ศาสตร์องเมียวโด มันต้องฝึกด้วยตัวเอง พี่ไม่ได้ฝึกแบบเอ็งพี่จะทำได้ยังไง อีกอย่าพลังวิญญาณแบบเอ็งพี่ไม่มีนะเว้ย ถ้าพี่ทำแบบเอ็งได้ พี่ไม่ต้องสะพายกระเป๋าไปทำงานหรอก



กึ้ก !!! เฮือก !!!  แล้วตอนนั้นอยู่ดีๆ ริวกับโทนก็สัมผัสได้ถึงจิตสังหารอย่างรุนแรง แรงขนาดนี้ไม่ใช่คนแน่ๆ โทนถึงกับพูดว่าเวนละ


ริวก็ถึงกับพูดว่า เห้ย !!! พวกอมรณา เหรอ พี่คิสสึเนะบอกว่ายังไม่ถึงเวลานี่



[ โทน ]  :  ไอ้ริวไปก่อน พลอยอยู่หน้าบ้าน


ขลุกๆๆ ริวรีบวิ่งไปใส่รองเท้าและทะยานออกไปทันทีด้วยฮิไรชิน ส่วนโทนก็ตามไปทันที เขาตะโกนกลับหลังว่า จัดการต่อด้วย


แล้วก็มีชายไทย ร่างกำยำในชุดนักรบถือดาบ ยืนพยักหน้ารับคำสั่งทันที แค่แปปเดียวริวกะก็วิ่งไปลับตาแล้ว โทนถึงกับบอกว่า


[ โทน ]  :  เชี่ยเอ๊ยเดินไม่ไหวเป็นชั่วโมงแน่กู


เปรี๊ยะ !!! แล้วทันใดนั้นรอบตัวของโทนก็คลุมไปด้วย สายฟ้าเหมือนริว ถ้าใช้ฮิไรชินคงไม่ทัน



[ โทน ]  :  เด็นโค เซกกะ



เปรี๊ยะ ฟู่วววว โทนพุ่งตัวออกไปราวกับสายฟ้า กล้ามเนื้อลั่นเปรี๊ยะทันที อึ้ก !!!  โทนเจ็บปวดไปหมด แต่ก็ต้องทน เพราะที่ที่เขาอยู่นั้น ห่างจากพลอย 1 กิโลเมตร



ถ้าไม่ใช้วิธีนี้ละก็ตามไม่ทันแน่ๆ ด้านริวที่ออกตัววิ่งมาก่อนนั้น ก็มาหาพลอยทันที พลอยถามว่าหืมมีอะไรหรือเปล่าคะ ริวบอกเปล่าจ้าไม่มีอะไร ริววิ่งแข่งกับพี่โทนอยู่


[ ริวกะ ]  :  บาคุ คุ้มกันพลอยด้วย อย่าให้พลอยรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น


[ บาคุ ]  :  ขอรับ



หลังจากสั่งการผ่านจิตแล้ว ริวก็เร่งพลังอัสนีอีกครั้งและบอกพลอยว่า ไปวิ่งก่อนน๊า แล้วก็ฟุ่บ ฟุ่บ พลอยรู้สึกว่า มีสายลมสองลูกพุ่งผ่านเธอไป นั่นก็คงเป็นพี่โทนนั่นแหละ



พลอยก็งงว่า งืม บาคุทำไมพี่โทนเขาทำแบบริวได้ล่ะ บาคุจึงบอกว่า พลังครึ่งนึงของนายน้อยถูกผนึกไว้ที่ตัวของท่านโทนขอรับนายหญิง



ยามใดที่นายน้อยก้าวออกจากดินแดนญี่ปุ่นมาที่ไทย พลังขอนายน้อยจะถูกผนึกลงในตัวท่านโทนทันที



แต่เมื่อกลับไปที่แดนอาทิตย์อุทัย พลังของนายน้อยก็จะถูกดึงกลับไปทันทีเช่นกัน


....................


หน้าบ้าน....


เปรี๊ยะ !!! ริวกะวิ่งมาถึงพร้อมกับโทนเลย ริวกะถึงกับงงว่า เฮ้ยเมื่อกี้ผมออกตัวมาก่อน ทำไมพี่ตามมาทันล่ะ หรือพี่ใช้ฮิไรชินได้แล้ว


[ โทน ]  :  เปล่า ถ้าพี่ใช้ฮิไรชิน พี่ตามไม่ทันหรอก


[ ริวกะ ]  :  เฮ้ยพี่ หรือ เด็นโค เซกกะ ลุงคุโระสอนให้เหรอ


ครืนนน ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้คุยอะไรกันเลย พลังที่ยิ่งใหญ่และเย็นจนน่ากลัวก็คืบคลานเข้ามาใกล้ๆ ตึ้กๆ ตึ้กๆ ตึ้กๆ


อยู่ดีๆทั้งสองก็รู้สึกถึงพลังอะไรบางอย่างที่ก้าวเข้ามา และอยู่ดีๆ แว๊บ !!! มีบางอย่างปรากฏตัวขึ้นตรงกลางระหว่างริวและโทน



ทั้งสองเหวอเลยก็ว่าได้ เฮ้ย !!!  บ้านนี้เขตอาคมแข็งปั้กเลยนะ ขนาดสัตว์มีพิษยังเข้าไม่ได้แล้วทำไมสิ่งๆนั้นถึง มาโผล่ตรงนี้ล่ะ สองพี่น้องเหวอได้แปปเดียวก็ง้างหมัดใส่ทันที แต่ว่า....


[ โทน ]  :  อึ้ก !!!


แย่แล้ว เพราะใช้เด็นโค เซกกะ ในการวิ่งมาทำให้โทนถึงกับหน้ามืดเพราะรับผลข้างเคียงไม่ไหว เปรี้ยง !!! เขาโดนพลังบางอย่างกระแทกจนกระเด็นไปทันที


ส่วนริวกะก็จะเข้าไปโจมตีใส่เหมือนกันแต่ว่า กึ่กกกก กึ่กกกก ร่างกายเขาหนักอึ้งมาก เหมือนโดนสะกดไว้ ริวกะพยายามขยับแล้ว แต่ไม่ได้และสุดท้าย


[ ริวกะ ]  :  เอ็นเต้ !!! ( จักรพรรดิเพลิง )



วู่บบ เปลวอัคคีสีส้มพวยพุ่งออกมาจากตัวของริวกะมากมาย เขาหลุดออกจากพันธการที่มองไม่เห็นได้แล้ว

เปรี้ยง !!! ริวกะก็โดนเหมือนกัน ฟิ้ววร่างของเขากระเด็นเลยทีเดียว แต่ว่าเขาก็พลิกตัวกลางอากาศ


และกระโดดไปหาโทนทันที โทนเองก็พยายามลุกขึ้นมา และกระเสือกกระสนลุกขึ้นมา



แค่กๆๆๆ   แต่แค่ริวกะละสายตาแค่นิดเดียว บุคคลลึกลับก็พุ่งเข้ามาใส่แล้ว เวรแล้วไง ริวกะประสานมือปั้ป และร่ายคาถาป้องกันทันที



[ ริวกะ ]  :  เคียวคะเอ็น ( คันฉ่องเพลิง )


ร่างของคนดังกล่าวถูกกระจกเพลิงของริวกะ ฉุดรั้งเอาไว้ ส่วนตัวเขาเองก็รีบเข้าไปช่วยพี่โทนทันที ไหวเปล่าพี่ ริวกะเอ่ยขึ้นอย่างตกใจ



โทนก็บอกว่าไม่เป็นอะไร แล้วตอนนั้นเอง ฉู่วววววว คันฉ่องเพลิงของริวกะ ก็ค่อยๆดับลงราวกับไฟที่ถูกน้ำดับลง


[ ริวกะ + โทน ]  :  เฮ้ย !!!



ริวกะกับโทนถึงกับอุทานขึ้นพร้อมกัน ฟุ่บ !!! ร่างเพรียวบางนั้น พุ่งเข้าใส่ทั้งคู่อีกครั้ง


ปั้ก !!! โทนไขว้แขนบล็อคการโจมตีเอาไว้ และเสียววินาทีนั้น โทนก็ใช้มือค้ำไปที่ไหล่ของพี่ชาย


และหมุนตัวเตะทันที แต่บุคคลลึกลับก็ถอยหลบได้ ราวกับรู้ว่าริวกะจะทำอะไร


โทนลุกขึ้นทันที วูบ เขาและริวกะสะบัดมือไขว้พร้อมกัน ก่อให้เกิดแรงลมพัดกรรโชกทันที


[ โทน ]  :  เอาเลย


เขาพูดขึ้นมาห้วนๆ แต่ดูเหมือนริวกะจะเข้าใจ โทนกระโดดเทคตัวขึ้นและ เปรี้ยง !!!


ริวกะเตะเสริมแรงให้พี่เขาพุ่งไปข้างหน้า พั่บ ๆ ๆ ปั้ป !!! โทนขยับมือทำให้สายลมตรงหน้าพัดสารพัดของเข้าใส่ บุคคลลึกลับทันที พรึ่บ !!!



โทนหมุนตัวลงพื้นและพุ่งไปหมุนตัวเตะทันที แต่ว่าร่างลึกลับนั้นกลับหลบได้อย่างง่ายได้ แต่ว่าในจังหวะนั้นเอง ก็ได้มีกองไฟพุ่งตามโทนมา


ร่างลึกลับนั้นก็หลบได้เช่นกัน แต่ว่ามันไม่ใช่ นี่คือแผนที่ริวกะคิดขึ้น มันคือวิชาที่เขาฝึกในปรภพมานั่นเอง ไหนๆก็ได้ดาบมาแล้วลองใช้มันหน่อยแล้ว ริวกะร้องเรียกดาบออกมาทัน



[ ริวกะ ]  :  " กุเร็น "   



ชิ๊ง !!!  ดาบเล่มใหม่ปรากฏตรงหน้าริวกะทันที พรึ่บ  !!! เปลวไฟในตัวเขาหลอมรวมเข้ากับดาบทันที ได้เวลาโต้คืนแล้ว


[ ริวกะ ]  :  炎舞  [ เอ็นบุ – เปลวเพลิงเริงระบำ ] 


พรึ่บ !!! ริวกะหมุนตัวฟันดาบจนเปลวเพลิงหมุนรอบตัวเขา ทันทีที่ไฟหายไปตัวริวกะก็หายไปทันที พรึ่บ !!!  อยู่ดีๆริวกะก็เทเลพอร์ตตัวเอง เข้าไปอยู่ข้างหลังของบุคคลลึกลับนั้นทันที


ริวกะหมายที่จะฟันคอให้ขาดดิ้น  แต่ว่า กึ้ก !!! ดาบที่กำลังจะถึงคอนั้น กลับหยุดนิ่งราวกับถูกจับไว้ วุ่บ !!! 


แต่รอบๆตัวของริวกะก็ห่อหุ้มด้วยเปลวไฟจนท่วมอีกครั้ง พอไฟหายไป ตัวริวกะก็หายไปด้วย



[ โทน ]  :  ไอ้ริว เข้าใกล้ไม่ได้เห้ย คาถาสะกดแรงกว่าของพี่อีก



แต่ไม่ทันแล้ว เพราะจังหวะที่ริวกะจะพุ่งไฟพัน เขาก็โดนมวลน้ำขนาดใหญ่ห่อหุ้มเอาไว้ อ่อก เพราะไม่ทันได้เตรียมตัวเลยทำให้ริวกะสำลักน้ำทันที



ก้อนน้ำที่ขังริวกะไว้นั้นลอยเข้าไปหาบุคคลลึกลับคนนั้น แต่ว่าตอนนั้นเองโทนที่อยู่ข้างๆ ก็วิ่งเข้าไปสกัดทันที ผั๊วะ !!!  ผั๊วะ !!!  ผั๊วะ !!! 



โทนโจมตีใส่บุคคลคนนั้น แต่เขากลับรู้สึกว่า ทำไมสัมผัสมันคุ้นเคยแบบนี้ เหมือนกับคุ้นเคยแปลกๆ มั่บ !!!


[ ???? ]  :  อ่อนแอทั้งคู่ เวตาล สอนได้แค่นี้เองเหรอ


เสียงที่พูดออกมานั้นเป็นเสียงของผู้หญิงแน่แท้ แต่โทนไม่เหมือนริว ผู้หญิงแล้วไง ถ้าผู้หญิงน่ากลัวแบบนี้ เขาก็ต่อย 



มั่บ !!! โทนล็อคมือที่จับเขาไว้ และเตะมือที่ควบคุมมวลน้ำนั้นจนมันหลุดควบคุม ทำให้กองน้ำนั้นร่วงหล่นจนริวเป็นอิสระ



เปรี้ยง !!! คราวนี้โทนโดนมั่ง เขาโดนอะไรไม่รู้กระแทกเขาจังๆจนกระเด็นไปกระแทกต้นไม้อย่างรุนแรง วุ่บ !!! 



พลั่ก !!!  ริวกะที่เป็นอิสระจากการพันธนาการ ก็รีบพุ่งไปรับทันที จนทั้งเขาและโทนกระเด็นไปโดนต้นไม่จนหัก อึ้ก !!!



สองพี่น้องต่างสายเลือดถึงกับกระอักเลือดออกมาทันที  แล้วตอนนั้นเอง โทนก็รับรู้ได้ถึงความร้อนจากตัวริวกะที่มันกำลังเพิ่มสูงขึ้น สูงขึ้น เขาฟาดมือไปที่ไหล่ของริวกะจนเกิดเสียงปั้ป


[ โทน ]  :  เฮ้ย !!! อย่าให้ไฟอีก อีกฝั่งใช้น้ำเป็นอาวุธ ไฟของเอ็งตอนนี้ทำอะไรไม่ได้หรอก



[ ริวกะ ]  :  โถ่เว้ย !!!


ริวกะหยุดกึ้กเลยพอได้ยินแบบนั้น แต่ริวจถยอมแพ้ไม่ได้ ถ้าแพ้ตอนนี้พลอยต้องแย่แน่ๆ เปรี๊ยะ ๆ ๆ   แซร่บบบ  ริวกะเหมือนจะไม่ยอมแพ้



เขาพูดกับโทนว่า ยังไงผมก็ต้องปกป้องพลอย ริวเพิ่มพลังสายฟ้าเข้าไปที่มืออีก อีก อีก จนสุดท้ายมันควบแน่นราวกับวิชาที่เคยใช้ตอนไปถล่ม อาคะโทระ







[ ริวกะ ]  :  ชิโดริ !!! ( ขอยืมชื่อหน่อย ฟิลมันได้ )






ริวกะมองโทนพร้อมกับบอกป่ะพี่ โทนก็บอกโอยขาพี่เปรี้ย หมดแล้วไอ้น้องชาย แต่ก็เอาวะ เพื่อน้อง เพื่อเมียน้อง วุ่บ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ



นายโทนรวบรวมพลังอีกครั้ง แต่เป็นสายลม จนเกิดเป็นกลุ่มก้อนพลังแบบก่อนหน้านั้น









สองพี่น้องเตรียมลุยอีกครั้ง ยังไงซะพวกเขาก็ต้องสั่งสอนคนที่เข้ามาหยามถึงถิ่นแบบนี้ซะบ้าง


ริวกะแตะที่ตัวพี่ชายอีกครั้ง จนคลื่นสายฟ้าของเขาหลอมเข้ากับตัวของโทน


โทนคิดในใจได้ลาพักร้อนเป็นอาทิตย์แน่กู เปรี๊ยะ !!! เขารวบรวมพลังของริวกะอีกครั้ง


จนเกิดเป็นอาภรณ์สายฟ้าสีขาว ริวกะตกใจไม่ใช่น้อย เพราะนั่นคือ อีกขั้นของฮิไรชินที่ ลุงคุโระ ไม่ได้สอนเขา


แต่ว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลาคิดแล้ว มีแต่ต้องลุมเท่านั้น เปรี๊ยะ !!!


[ ริวกะ ]  :  ฮิไรชิน !!!


[ โทน ]  :  เด็นโค เซกก่ะ







 

เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

#1
ขอฝาก ผลงานไว้นะครับ เผื่อหลายๆท่านอาจจะอยากตามอ่านย้อนหลัง





ฝากตอนเก่าๆด้วยครับ



• • • • •   รวม Link ในแต่ละตอน • • • • •



→→→เนื้อเรื่องหลัก←←←



SeaSon1


ตอนที่ 1  ตอนที่ 2 ตอนที่ 3

ตอนที่ 4 ตอนที่ 5 ตอนที่ 6

ตอนที่ 7 ตอนที่ 8 ตอนที่ 9

ตอนที่ 10 ตอนที่ 11 ตอนที่ 12

ตอนที่ 13 ตอนที่ 14 ตอนที่ 15

ตอนที่ 16



➸ ➸ ➸ ➸ จบ Season 1 ➸ ➸ ➸ ➸




Season2


ตอนที่ 17 ตอนที่ 18 ตอนที่ 19

ตอนที่ 20 ตอนที่ 21 ตอนที่ 22

ตอนที่ 23 ตอนที่ 24 ตอนที่ 25

ตอนที่ 26 ตอนที่ 27 ตอนที่ 28

ตอนที่ 29 ตอนที่ 30 ตอนที่ 31

ตอนที่ 32 ตอนที่ 33 ตอนที่ 34




➸ ➸ ➸ ➸ จบ Season 2 ➸ ➸ ➸ ➸



Season3



ตอนที่ 35 ตอนที่ 36 ตอนที่ 37

ตอนที่ 38 ตอนที่ 39



_ _ _ _ _ _ _ _ _ _


เนื้อเรื่องของ น้องเมดคิราระ [ ยังไม่จบ ]

แววตาที่เปลี่ยนไปของสาวแกล


ตอนที่ 1 :  โนโซมิ คิราระ

ตอนที่ 2 :  การพบกันอีกครั้ง

ตอนที่ 3 : ความรู้สึกที่กำลังก่อตัว

ตอนที่ 4 : ในนามของอิซานางิ

ตอนที่ 5 : อย่าห้ามชั้นเลยนะ ริวกะ

ตอนที่ 6 : ให้ชั้นดูแลนายนะ

ตอนที่ 7 :  ค่ำคืนของหนุ่มสาว

ตอนที่ 8 : เมดข้า ใครอย่าแตะ

ตอนที่ 9 : ถล่มถ้ำเสือ

ตอนที่10 : องเมียวจิวัยเยาว์

ตอนที่ 11 : จักรพรรดิเพลิง

ตอนที่ 12 : ของขวัญที่ดีที่สุด




•••••••••••


เนื้อเรื่องของรุ้งพลอย [ จบแล้ว ]



การเดินทางของสายรุ้ง


ตอนที่ 1 : มรสุม

ตอนที่ 2 : โหมกระหน่ำ

ตอนที่ 3 : เมฆสลาย

ตอนที่ 4 : วันฝนซา [ แนะนำ อ่าน 4-7 ]

ตอนที่ 5 : ฟ้าหลังฝน

ตอนพิเศษที่ 6 :  แม่ อาจารย์ เจ้านาย

ตอนพิเศษที่ 7 :  ฉันรักเธอ




• • • • • •


กระทู้พิเศษ

ข้อมูลตัวละครและประวัติโดยย่อ


••••••

OVA ไม่เกี่ยวกับ Time Line ใดๆ




เมียเพื่อนก็เหมือนเมียเรา

คริสมาสของฮิคาริ

เยือนถ้ำแมงมุม

ริวกะ ประทะ จิ้งจอกเก้าหาง

ตอนพิเศษ : พาทัวร์เขตอาคม


. . . . . . . . . . .



Homunculus Serie




สุมไฟรัก

พิศวาสซ่อนเร้น

มนต์คล้องใจ

ได้ค่ะที่รัก


test1234


neimuchan

#3
ช้างน้ำ สินะ.......



เห เดี๋ยวนะ...........

นี่จักรวาลเดียวกัน หรือ โลกคู่ขนานครับเนี่ย

แปลกๆ


••••

คนละจักรวาล คนละโลกครับ

#โทน
จริงๆแล้วมี ID เก่า แต่ดันจำ password mail เก่าไม่ได้เลยต้องสมัครใหม่ -*-

Ke2l3e2oS

#4
ใครกันหว่าา


เจ้าหญิงน้ำแข็งมาแล้ว  เสือดาวกับนางมารน้อยล่ะ ต้องมาแล้วแหละะ


akine


anigkanjana

โทนมีพลังขนาดนี้ สามสาว สองพี่ กะหนึ่งพี่ีที่ทำงานน่าจะไม่พอแล้วมั้ง

solid17

สองพี่น้องออกศึกแล้วจะเป็นอย่างไรนะ

usman1963


guang_k

#10
คราวนี้เรียกเทพโทนละ พลังกับเวทมนต์อื้อเลย

เจ้าหญิงน้ำแข็งเป็นมัจฉา แล้วแม่เสือดาวกับน้องแก้มจะเป็นอะไรละทีนี้
มิ้นต์ก็ยังโหดกับพี่โทนเหมือนเดิม มีเรื่องให้โทนได้เจ็บตัวบ่อยๆ พอให้ได้อ้อน

1819

 ง่ะ เจ้ามูซู่ ก็มา แล้ว  ต่อไปถ้ามีตัวร้าย ปลอมตัวเป็นไอ้ชาติหมา ก็คงจะไม่แปลกล่ะมั้ง 5555
กรุงเทพเป็นเมืองที่มีคนเหงา มากกว่าเสาไฟฟ้า

1819

 ง่ะ เจ้ามูซู่ ก็มา แล้ว  ต่อไปถ้ามีตัวร้าย ปลอมตัวเป็นไอ้ชาติหมา ก็คงจะไม่แปลกล่ะมั้ง 5555
กรุงเทพเป็นเมืองที่มีคนเหงา มากกว่าเสาไฟฟ้า

lamom

#13
มาอย่างนี้ มันต้องมีแยกเงาพันร่างมาด้วยเซ่

โทนเปิดสาวมา1นางแล้ว Side story ต้องมาให้ครบ

wink