ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

ครั้งหนึ่ง ณ.ร้านคาราโอเกะ Part4 ตอนที่ 39 ( ประสบการณ์ตรงของนายโมโนโทน )

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, พฤศจิกายน 14, 2020, 01:05:13 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

แวะมาลงให้อ่านก่อนครับ งานท่าจะไม่เสร็จง่ายๆ

รายละเอียด รูป ลิ๊งค์ เดี๋ยวลงเพิ่มให้ครับ

ยินดีต้อนรับสมาชิกร้านเกะท่านใหม่ๆด้วย

แล้วก็ขอบคุณสำหรับลูกค้าผู้ที่มาเยี่ยมร้านเกะตั้งแต่ตอนที่ 1 จนถึงปัจจุบัน

รู้สึกขอบคุณมากๆเลยคร๊าบบบบบบ ขอบคุณทุกคอมเมนต์จริงๆครับ  ผมอ่านทุกตอมเมนต์นะครับ สั้นยาวผมก็อ่านหมด

และขอบคุณที่คอมเมนต์กันมาเยอะมาก

และขอบคุณทุก EDIT และแสดงความคิดเห็นเพิ่มหลังอ่านจบ  มันเป็นกำลังใจอย่างดี

อย่างที่บอกครับกระทู้นี้ Free STYLE คอมเมนต์อะไรก็ได้ครับ เพื่อจะอ่านเนื้อหาที่ซ่อนไว้

ไม่จำเป็นต้อง EDIT ไม่ต้องกลัวผิดกฎใดๆ แต่ระวังกระทู้อื่นๆ หมวดอื่นๆด้วยนะครับ

เราต้องทำตามกฎของบอร์ดและกระทู้นั้นๆนะครับ เพราะเวลา MOD ลงดาบก็เด็ดขาดมา


................................


ปล. Link ของตอนเก่าทุกๆเรื่อง สามารถคลิกที่ชื่อเรื่องได้เลยครับ


ตำนานเทพวายุ


ครั้งหนึ่ง ณ ร้านคาราโอเกะ


ครั้งหนึ่ง ณ ทะเล


..........................


ปล.2 ขอฝากกระทู้รวบรวมงานเขียนไว้ด้วยครับกำลังจัดทำอยู่ คลิ๊กที่ภาพหรือลายเซ็นได้เลย




.....................


ความเดิมตอนที่แล้ว


ผมเจอช็อตเซอร์ไพรซ์ครับ ต้องเข้าไปพรีเซ็นต์ สรุป แจกแจง

เกี่ยวกับขั้นตอนการทำงานที่งามสัมมนาแบบไม่ทันตั้งตัว

แต่ที่เซอร์ไพรซ์กว่าคือ พ่อพี่แมนเป็นผู้ถือหุ้นส่วนหนึ่งของบริษัทที่ผมทำงาน

มิหนำซ้ำพี่แมนก็มาประชุมแทนอีก ผมคิดนะว่าผมทำได้ดีแล้ว

แต่พี่แมนกลับพูดตรงๆว่าผม ยังอ่อนมาก แต่ว่านั่นไม่เท่าไร

เพราะหลังจากไอ้ชาติหมาพยายามหาซีนกากๆแล้ว มันก็ได้รับวาจาประกาศิต

" อยากตกงานเหรอ " เข้าไป ผมก็เริ่มทำตัวไม่ถูกละครับ

วันนั้นผมกลับบ้านไปเก็บชุดเพราะว่าตอน 4 ทุ่มต้องเดินทางไปนครนกยก

ตามที่พี่เตยบอกไว้ ซึ่งพอไปถึงแล้วเนี่ยทุกอย่างก็ดูเหมือนปกติครับ

แต่ในตอนนั้นที่พี่หมิวเข้าห้องน้ำ พี่เตยก็เดินมากอดผมจนนมเบียด

และพูดว่า " เจ๊ ไม่ได้เอาที่ช็อตไฟฟ้ามานะ "


....................




ไดอารี่ของนายโทน Part4 ตอนที่ 39





[ ผม ]  :  หือ ไม่ได้เอาเครื่องช็อตไฟฟ้ามา


ผมพูดขึ้นอย่างลืมตัวด้วยความสงสัย มันหมายความว่ายังไงกันล่ะแบบนี้ แต่ที่แน่ๆคงไม่ได้เปิดทางให้ผมแน่ๆล่ะ


พอกอดกันแปปนึงพี่เตยก็ปล่อยครับ พี่หมิวก็ออกมาพอดี เวนละไงพี่เตยแก เล่นอะไรของแกวะเนี่ย พี่เตยก็บอกเปลี่ยนชุดแปปนะ


แล้วก็วิ่งดุ๊กๆๆๆ เข้าไปในห้องน้ำ โอย แม่เจ้า อยากให้ทุกท่านมาเป็นผมตอนนี้จะจังเลย พี่หมิวใจร้ายมากๆครับ เขาไม่คิดเลยเหรอว่าผมจะรู้สึกยังไง


พี่หมิวใส่เสื้อยืดและกางเกงขาสั้นออกมา ผมก็แบบเพ้อเลยครับ สวยมาก สวยจริงๆ ผมก็เผลอมองแบบนั้น แล้วก็อดนึกไปถึงวันนั้นไม่ได้จริงๆ



วันที่เราสองคนได้ก้าวข้ามกำแพงพี่น้องไป ร่างกายของเราสองคนที่กอดก่ายกันโดยที่ไม่มีเสื้อผ้าติดตัวกันสักชิ้น มือของผมที่บีบคลึงเต้านมใต้ร่มผ้านั้น


นิ้วของผมที่กรีดร่องเสียวจนพี่สาวคนสวยสั่นสะท้าน ปากของผมที่งับดูดจุกเสียวของพี่หมิวจนต้องแอ่นอกตาม มือของผมที่ลูบไล้ผิวเนียนๆทุกจุด ทุกสัดส่วน



ผมลืมวันนั้นไม่ได้จริงๆให้ตายเถอะครับ แต่ตอนนั้นเองพี่หมิวก็เดินมาหาผม เขาหยิกแก้มของผมเบาๆแล้วบอกว่า เก็บอาการหน่อย ตาจะหลุดอยู่แล้ว



ผมก็มองหน้าพี่เขาแล้วก็บอก ว่าเก็บไม่ทันแล้วครับ ใครใช้พี่ สวยเป๊ะ เชปบ๊ะ แบบนี้ล่ะ ผมพูดแล้วก็จ้องแบบพี่หมิวไม่ละสายตาเลย



เอวเป็นเอว ตูดเป็นตูด นมนี่ก็แทบทะลัก ขาก็เรียวงามแท้ๆ เฮ้อ อดทนไว้ อดทนไว้ อดทนไว้ พี่หมิวยิ้มๆแล้วบอกว่า ห้ามผิดสัญญาของเราสิ่


ผมก็สะดุดอึ้กเลย ใช่... มันจบแล้วความสัมพันธ์ทางกายในวันนั้น ตอนนี้ผมต้องเป็นน้องชายที่ดีตามสัญญาให้ได้ ผมยิ้มแล้วบอกอื้อ



พี่หมิวบอกดีมากน่ารักมากเด็กเจ๊ ต้องเชื่อฟังแบบนี้ แล้วเขาเดินไปเก็บกระเป๋านะ พี่เตยก็ออกมาพอดี เฮือก !!!  จงใจ นี่ต้องจงใจแกล้งกันแน่ๆ


เพราะพี่เตยใส่เสื้อนอนสายเดียวออกมา กางเกงก็สั้นเสมอจิ๋มเลยครับ คือมองผ่านๆไม่ถึงกับจ้องก็รู้เลยว่า แนบเนื้อโหนกนูนเลยล่ะ



[ พี่หมิว ]  :  ใส่ชุดอะไรเนี่ยเตย เดี๋ยวอีโทนก็ใจแตกพอดี



[ พี่เตย ]  :  เค้าใส่มาให้หมิวดูหรอก อีโทนห้ามดูนะ



ผมนี่ปวดหัวเลยครับ บอกแล้วว่าถ้าแก้มคือนางมารตัวน้อย พี่เตยนี่นางพญามารเลยล่ะ แล้วสองคนนั้นก็เอาเสื้อผ้าบางส่วนออกมาเลือกกัน




ผมก็ต้องจัดที่นอน เฮ้อ จริงๆแล้วผมก็ไม่ได้ถือสาอะไรหรอกครับกับการนอนพื้น แต่ไอ้การที่ต้องมานอนกับพี่สาวสองคนแบบนี้ เป็นเรื่องที่ผมไม่ได้คิดเผื่อไว้จริงๆครับทุกท่าน



แล้วพี่สาวทั้งสองของผมก็นั่งคุยกันเรื่องว่าพรุ่งนี้จะทำอะไร เดินไปไหนกันดี ผมเองก็ฟังๆไปแหละ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร สิ่งที่รบกวนหัวใจของตอนนี้มากๆ คือท่าทีของพี่เตยเมื่อกี้



มันทำให้ผมอึดอัดใจมากๆเลยนะ ไม่ใช่ว่าผมรังเกียจหรือไม่ชอบอะไรนะ แต่ทุกท่านก็รู้นี่ครับ ว่าผมทำผิดกับพี่เตยเอาไว้ เรื่องที่ผมแอบมีอะไรกับพี่หมิว



ซึ่งมันเหมือนผมทำลายความเชื่อใจของพี่เตยมากๆเลยนะ เฮ้อ พูดไปก็ยิ่งรู้สึกแย่ ตอนนี้คือขยับตัวผิดอะไรไปสักนิดเดียวคือมันจะพังเหมือนโดมิโน่ เอฟเฟค แน่ๆ



และความสัมพันธ์ ความเป็นพี่น้องของเราคงพังทลายลงทันที ถ้าเกิดว่าพี่เตยรู้เรื่องนี้ พี่เตยเห็นร่าเริงแบบนี้ เวลาเขาโมโห เขาน่ากลัวกว่าพี่หมิวอีกนะ ผมเองก็ไม่อยากจะเจออะไรแบบนั้นจริงๆนะ



ตอนนั้นพี่หมิวกับพี่เตยนั่งจิ้มบีบี นั่งดูนู่นนั่นนี่ ผมก็เลยถือโอกาส ออกมาเดินตรงประตูทางขวาของห้องพักครับ มันเป็นระเบียงยื่นออกมา โอ้โห !!! ขอหยาบหน่อยเย็ดเข้ ป่าแบบนี้ เสียงน้ำไหลแบบนี้ ใช่เลย


ผมว่าตอนเช้าผมจะได้เห็นทั้งน้ำตกและป่าเขาที่ผมคิดถึงแน่นอน ชอบบรรยากาศแบบนี้จังครับ พอเงียบๆก็ได้ยินเสียงรอบๆไปหมดเลย ผมยืนที่ระเบียงแบบนั้นแล้วก็คิดนะ



ผมอยากให้สามสาวได้เจอกับบรรยากาศแบบนี้บ้างจัง เอาล่ะผมตัดสินใจละ ผมจะเก็บตังส์พาพวกเธอไปเที่ยว เอาวะเหนื่อยหน่อยก็ต้องลองดูสักตั้ง ถึงไม่รู้ว่าวันนั้นจะมาถึงเมื่อไร



แต่ถ้าวันนั้นมาถึง วันเวลาที่ต้องแยกจากกัน ผมจะได้มีความทรงจำดีๆกับพวกเธอบ้าง อย่างน้อยผมก็ได้ทำอะไรให้พวกเธอให้สมกับพวกเธอดีกับผมจริงไหมครับ



ดาวอยากไปทะเล มิ้นต์บอกว่าอยากไปมอหินขาว แก้มบอกอยากไปปางอุ๋ง พูดตรงๆว่าก็จุกเหมือนกันเรื่องค่าใช้จ่าย แต่สบายใจเรื่องมิ้นต์ได้ไปเปราะนึงเพราะว่าไปนอนที่บ้านป้าผม ยังไงก็คงประหยัดกว่านอนโรงแรมแน่ๆแหละ



ปางอุ๋งนี่แหละปัญหาคือถ้าจำไม่ผิดขั้นตอนก็เยอะพอควรนะ แถมยังต้องเตรียมเต้นต์เตรียมอะไรไปด้วยมั้ง เฮ้อ กลับไปกรุงเทพฯค่อยคิดดีกว่า



แต่ผมตั้งใจแล้วล่ะว่าจะพาพวกเธอไปเที่ยวด้วยกำลังของตัวเองให้ได้ ผมยืนนิ่งๆปล่อยให้ตัวเองสัมผัสกับธรรมชาติยามค่ำคืนไปเรื่อย



เงียบ สงบ จนรู้สึกว่าตัวเราถูกโอบกอดด้วยธรรมชาติและผืนป่าจริงๆครับ แต่พอผมยืนเงียบๆได้แปปนึง พี่หมิวก็เดินมาหาครับ



[ พี่หมิว ]   :  มายืนทำอะไรเนี่ย เดี๋ยวน้ำค้างก็ตกลงหัว ไม่สบายเอาหรอก


พี่หมิวพูดแล้วก็ลูบๆขยี้ๆหัวผมเล่นครับ ผมก็บอกไม่เป็นไรหรอกครับเจ๊ นานๆทีผมจะได้มาแบบนี้ ขอยืนอีกแปปนึงนะ

แต่พี่หมิวบอกว่าไม่ได้ กลับเข้าห้องเลย ผมก็บอกไม่เอาง่าาาา อยากยืนต่อ
พี่หมิวจึงใช้วาจาประกาศิตว่า


" ดื้อกับเจ๊เหรอ "


โอย ดื้อกับเจ๊เหรอ ไม่รักเจ๊เหรอ ทำไม๊ทำไมผมต้องรู้สึกว่าสองคำนี้มันมีพลังมากกว่า กระบี่อาญาสิทธิ์ที่จันเจ่าเอาไปปราบปีศาจกระบองม่วงทองซะอีก เอื้อออ ไม่ต้องใช้เลือดของท่านเปาด้วย


พี่หมิวพูดเพิ่มเสียงมานิดนึงผมก็ไปไม่เป็นแล้วจริงๆ ผมบอกอื้อๆเข้าไปก็ได้ครับ ก่อนไปพี่หมิวก็ขยี้หัวผมเล่นอีกรอบแล้วบอกว่า เจ๊ดุเพราะเป็นห่วงนะ เข้าใจ๊


ผมก็อื้อๆแล้วเดินตามเข้าไปครับ พี่หมิวหุ่นดีจัง คือไม่บ่อยครั้งนะ ที่ผมจะได้เห็นเขาในชุดสบายๆแบบนี้ ปกติถ้าไม่ชุดนักศึกษา ก็ชุดที่ดูดีๆ วันนี้ก็ยิ่งแล้วใหญ่ชุดทำงานเลย


ขอนอกเรื่องนิดนึงเถอะครับ พอเดินตามหลังแบบนี้แล้วจังหวะที่พี่หมิวเดินย้ายเอวซ้ายขวา ก้นของเธอเด้งดีจัง แฮ่กๆๆ เฮ้ยๆๆเก็บอาการสิ่โทน เก็บอาการ ผมเดินเข้ามาแล้วก็ตรงไปที่ ที่นอนเลยครับ


เพราะพี่เตยกำลังค้นกระเป๋าผมอยู่ แล้วพี่เตยก็โวยวายว่า


[ พี่เตย ]  :  อีโท๊น !!!  ทำไมแกพกถุงยางมาล่ะ


ผมนี่แบบเฮ้ย !!! จริงเหรอเนี่ย ผมรีบวิ่งเข้าไปดูเลยแล้วก็เจอถุงยางคอนทูร่ากล่องเขียว อยู่ในกระเป๋าจริงๆ


ผมก็แบบเฮ้ยมาได้ไงวะ พี่เตยก็ถามว่าพกมาทำไม ผมก็ลนเลยตอนนั้น ก็ผมไม่ได้เอามานี่ แล้วมันมาอยู่ในกระเป๋าได้ยังไงวะ


ผมคิดอะไรไม่ออกเลย แล้วผมก็บอกว่าไม่รู้จริงๆครับไม่มีเวลาไปซื้อด้วย เพราะคราวก่อนพี่เตยก็เอาของผมไปทิ้งแล้ว



[ พี่หมิว ]  :  หืม เอาไปทิ้ง หมายความว่าไงเตย



นั่นไงชิบหายละ พอ ลนมากๆ ผมก็เผลอพูดอะไรออกไปเนี่ย พี่เตยก็บอกว่าคราวก่อน อีโทนซื้อถุงยางมา 4-5 กล่องแน่ะ สาวๆมาหาแทบทุกวัน เค้าเลยเอาถุงยางไปซ่อน จะได้พักผ่อนมั่ง


พี่หมิวก็ถามว่า มันใช่เรื่องไหมเนี่ยเตย เดี๋ยวอีโทนก็ลงไปซื้อใหม่อยู่ดี พี่เตยบอกอย่างน้อยก็ให้เสียเวลาแหละหมั่นใส้   



พี่หมิวก็บอกว่าคิดอะไรแบบนั้นล่ะเตย ถ้าเกิดอีโทนมันห้ามใจตัวเองไม่ไหวแล้วทำสดขึ้นมา แล้วถ้าเกิดมีใครท้องขึ้นมาจะทำไง พี่เตยก็นิ่งเลยครับ



แต่แค่แปปเดียวก็โวยวายมาอีกว่าไม่รู้ล่ะ อีโทนตอบคำถามเจ๊มาว่าเอามาได้ยังไงถุงยาง


ผมก็จนปัญญาครับบอกตรงๆ เพราะว่าผมไม่ได้หยิบใส่มาจริงๆ หรือพี่เตยจะเอามาซ่อนในนี้


[ พี่หมิว ]  :  ไม่ใช่ว่าเตย เอามาซ่อนไว้ในนี้เองเหรอ กระเป๋าใบนี้อีโทนก็ไม่ได้เอามาใช้ตั้งนานไม่ใช่เหรอ


จริงอย่างที่พี่หมิวพูดครับ กระเป๋าใบนี้ผมเอาไว้ใส่เสื้อผ้าเวลาไปเที่ยวหรือไปพักผ่อนไกลๆ มันจะอยู่ในตู้เสื้อผ้ายาวๆเลย ผมก็แทบไม่ได้เอาออกมาใช้


ตอนที่หนีสามสาวกลับบ้านผมก็ใช้อีกใบนึง พี่เตยคงเอามาแอบในนี้แน่ๆ ซึ่งพอพี่หมิวพูดแบบนั้นพี่เตยก็ทำท่าเหมือนมึนๆ


[ พี่หมิว ]  :  นึกไม่ออกใช่มะ ว่าเก็บไว้ที่ไหน


พี่เตยก็งึมงำงึมงำครับ จนพี่หมิวต้องบอกว่าอย่างน้อยอีโทนก็รู้จักป้องกันนะ ถือว่าดีแล้วล่ะ พี่หมิวพูดเรียบๆ แต่พี่เตยก็ฟังนะครับ แล้วพี่เตยก็สั่งให้ผมเอาเสื้อผ้าออกมาพับไว้ข้างนอก


ส่วนถุงยางเก็บไว้เลยใส่กระเป๋าแล้วเอาไปไว้มุมห้องเลย ผมก็แบบงงอ่ะ อะไรวะ มาขึ้นเสียงกันทำไมเนี่ย ผมก็เฮ้อ เสื้อผ้าพับมาดีแล้วแท้ๆ จะให้เอาออกมากองทำไมเนี่ย


[ พี่เตย ]  :  ถอนหายใจใส่เจ๊ เหรอออออ


แล้วพี่เตยก็เข้ามาตีเผี๊ยะๆ โอ๊ยแสบไปหมด นี่เจ๊ฝึกงิชาฝ่ามือพิษจากเต็งชุนชิวมาป่ะเนี่ย คือพี่แกตีสะบัดเหมือนแซ่อ่ะ นี่แน่ะ นี่แน่ะ นี่แน่ะ


ผมก็โอ๊ยเจ็บก๊าบ เจ็บก๊าบ จนพี่หมิวต้องบอกว่าพอแล้วเตย ชายเสื้อถลกหมดแล้ว พอได้ยินแบบนั้น หูกูผึ่งเลยครับ อะไรที่มันวับๆแวมๆ นี่แหละ ดีต่อใจจริงนักแล



พอพี่หมิวออกปากพูด พี่เตยก็หยุดครับ แต่สายตาพี่เตยตอนนี้เหมือนแบบจะเอาคืนผมแน่ๆล่ะ



ตอนนี้พี่เขาสองคนนั่งคุยกันแหละครับ ซึ่งพอผมเก็บถุงยางไปแล้วเนี่ย ผมก็นั่งคิดอยู่คนเดียว เฮ้ย !!! นี่ผมเซ่อซ่าจนไม่ทันได้สังเกตเลยเหรอวะ ว่ามีถุงยางอยู่ในกระเป๋าของผม


แต่ดูจากอาการเอ๋อๆของพี่เตยก็คงเชื่อได้แล้วแหละว่าพี่แกลืมจริงๆ โอยย ปวดหัววุ๊ย นี่หรือเปล่าวะที่เขาบอกว่าที่อันตรายที่สุด ก็คือที่ที่ปลอดภัยที่สุดเช่นกัน




ไม่น่าเชื่อนะครับว่า โก๊ะๆเอ๋อๆ แบบพี่เตยจะคิดได้แบบนี้ โอ๊ย !!! โดนพี่เตยตีก๊าบ ท่านผู้อ่าน ผมโดนทำร้าย



อ่ะๆ กลับมาต่อ พี่เตยกับพี่หมิวขึ้นไปนั่งเล่นบนเตียงกันละ ผมก็นั่งคิดไปจัดที่นอนต่อไปนะ เพราะเมื่อกี้พี่เตยมานั่งจนมันยับหมดแล้ว


แต่เอ๊ะ ทำไมผมมองข้ามเรื่องง่ายๆไปวะ ห้องพักนี้พี่แมนเป็นคนจ่ายเงินให้นะเว้ย แล้วคนอย่างพี่แมนจะยอมให้พี่หมิว นอนห้องเล็กๆแบบนี้เหรอ


เพราะจะว่าไปแล้วพอผมเข้ามา ก็ตรงมาที่ห้องนอนเลยนี่หว่า พี่หมิวตอนนี้เขานั่งเล่น BB   ส่วนพี่เตยก็วุ่นวายกับการเลือกเสื้อผ้าอยู่


ผมเลยหยิบทั้งมือถือ และ BB ชะแว๊ปแฮ๊ปออกมาข้างนอก เยดเข้ อย่างกว้าง นี่มันเหมือนห้องสูทโรงแรมเลยนี่หว่า คงเป็นเพราะตอนเข้ามา


ผมมัวแต่คิดเรื่องกุญแจห้องอยู่ไหน ๆ ๆ ๆ  ก็เป็นไปได้ เลยไม่ได้ดูห้องเลย เข้ !!! เห็นแล้วปาดเหงื่อ ฟู่ววว ถ้าพี่แมนไม่จ่ายตังส์ให้ล่ะก็



กระเป๋าผมแบนตั้งแต่ต้นเดือนแน่ๆ เอ้ออออ ก่อนหน้านั้นผมต้องบอกดาวก่อนนี่นาว่าถึงแล้ว อืมม เที่ยงคืนแล้ว ดาวคงนอนแล้วล่ะ ส่งข้อความไปก็พอ


•••••••

[ ~`• MoNoTon3  ]  -

> ถึงแล้วเน้อ
> ฝันดีครับ


•••••


ผมกำลังจะเดินสำรวจต่อแต่ก็มีเสียงข้อความเด้งกลับมาครับ เป็นของดาวนั่นเอง

••••

[ Dow ]  -> ค่ะ ยังไม่นอนซักหน่อย
[ Dow ] - > ไล่เหรอ

••••

[ ~`• MoNoTon3  ]  - > เปล่าจ้า ก็ดึกแล้ว กลัวว่าจะกวน

••••


[ Dow ] - > กวนก็ดี สะกิดก็ได้ อึ๊บๆ

[ Dow ] - > แก้มไข้ขึ้นนิดนึง เลยเช็ดตัวให้อยู่


••••


พอบอกว่าไข้ขึ้นผมก็ห่วงเลย จริงๆรู้สึกผิดด้วยครับ เพราะถ้าไม่ต้องมาที่นี่กับพี่หมิวพี่เตย ผมก็คงเฝ้าแก้มนั่นแหละ


ผมก็พิมพ์ถามกลับไปว่าคุยได้มั้ยตอนนี้ ดาวบอกได้ค่ะๆ ผมจึงต่อสายและคุยกับดาวทันที



[ ดาว ]  :  อื้อ แก้มตัวร้อนค่ะ เลยช่วยกันเช็ดตัวอยู่


[ ผม ]  :  หืม หนักขนาดนั้นเลยเหรอ


[ ดาว ]  :  อื้มค่ะ ไข้ทับระดู อันตรายมากนะพี่


ตอนนั้นฟังแล้วก็เป็นห่วงยัยตัวแสบครับ ผมถามว่าสะดวกมั้ยขอคุยกับแก้มหน่อย ดาวเงียบๆไปครับ แต่มีเสียงแทรกเข้ามาว่า แก้มคุยไหวมั้ย แล้วก็กรึ้กๆๆๆ เสียงเหมือนกำลังขยับมือถือ


[ แก้ม ]  :  ฮืออ คุณแฟนเค้า ตัวร้อนอีกแล้ว ฮือออ เพราะคุณแฟนไม่นอนเฝ้าเห็นมะ ฮือออ


มาถึงก็งอแงเลยครับ ยัยตัวแสบของ FC Little DEVIL ทั้งหลาย ผมก็ถามว่าไหวนะครับคนเก่ง แก้มบอกอื้อๆๆ พี่ดาวกับมิ้นต์ช่วยเช็ดตัวอยู่ คุณแฟนทำอะไรอยู่


ผมก็บอกว่ามาถึงที่พักแล้ว กำลังจะนอนแล้วล่ะ แต่สงสัยนอนไม่หลับแล้วเนี่ยเป็นห่วงแก้มจัง แก้มบอกฮือ


เค้าไม่สบายยย แล้วแก้มก็อ้อนๆๆ จนดาวบอกพอแล้ว พักแล้ว ผมได้ยินเสียงแก้มงอแงอยู่นะ แต่ดาวก็เอาโทรศัพท์มาคุยกับผมแทน


[ ดาว ]  :  ให้แก้มพักก่อนนะคะพี่ พอคุยกับพี่แล้วออกอาการงอแงทันทีเลย พี่อย่าตามใจแก้มมากสิ่


[ ผม ]  :  ยังไม่ได้ตามใจอะไรมากมายเลยครับ ดาวง่วงมั้ยเนี่ย


ดาวก็บอกผมครับว่าเมื่อกี้ได้นอนนิดหน่อยแล้ว เดี๋ยวเช็ดตัวให้แก้มเสร็จก็จะนอนข้างๆกับมิ้นต์ แล้วผมก็ถามว่ามิ้นต์ล่ะ แก้มก็บอกว่าประคองแก้มอยู่ ผมก็อื้มๆ งั้นพี่ไม่กวนละ


ดาวก็บอกว่าถ้าเป็นเวลาปกติ ก็กวนได้ตามใจเลย แต่ตอนนี้ขอดูแก้มก่อนนะคะ ผมก็อื้มๆแล้วก็วางสายไป เอาล่ะได้เวลาสำรวจในบ้านพักแล้วครับ เอ้ย !!! มีชั้นลอยด้วยชิบหายละ


ราวกับเจอสรวงสวรรค์ ผมเจอที่นอนแล้วนี่ไง นี่มันอาณาจักรชัดๆ นี่ผมมองผ่านไปได้ไงวะเนี่ย ผมเดินๆมาตรงชั้นลอย ที่ยื่นออกมาเล็กน้อยยังกลางห้องพัก


คือมันเป็นเหมือนฝันตอนเด็กๆเลยนะ เวลาดูการ์ตูนญี่ปุ่น หรือหนังฝรั่ง แล้วมันมีพวกห้องใต้หลังคา แบบนี่มันคือฐานทัพในฝันชัดๆ



แล้วตอนนี้ผมยืนอยู่ตรงชั้นลอย มันใกล้หลังคามากๆเลย โอยใกล้ความฝันแท้ๆ ผมคิดเลยจะนอนตรงไหน มุมไหน ปูผ้ายังไง เอาอะไรมาบ้าง


แล้วตอนนั้นมือถือก็ดังขึ้นมาครับ หืม ?? เจ้าหญิงน้ำแข็งโทรมา ผมก็รีบรับนะ เพราะสงสัยเหมือนกันว่าแก้มเป็นไงบ้าง แต่คำแรกที่มิ้นต์พูดคือ


" ทำไมไม่ขอสายมิ้นต์บ้าง "


เอ๊า !!! อิหยังว่ะ มาถึงก็เปิดก่อนเลย ผมก็บอกนะ ว่าดาวบอกนี่ว่ามิ้นต์ประคองแก้มอยู่ แล้วแก้มเป็นไงมั่ง


มิ้นต์บอกครับ ว่าเช็ดตัวเรียบร้อยแล้ว พี่ดาวดูอยู่ ส่วนตัวเธอนั้นออกมานั่งพักข้างนอก ผมถามว่าเหนื่อยมั้ย



[ มิ้นต์ ]  :  อื้อ


มิ้นต์อื้อมาคำเดียวเลยครับผม ผมก็เกร็งเลยทีนี้จะถามอะไรต่อดีล่ะ แล้วมิ้นต์ก็ถามว่ากลับตอนไหน


ผมก็หืม พี่บอกไปแล้วนี่ครับ กลับวันอาทิตย์เย็นๆไง  ทำไมเหรอคิดถึงพี่อ่ะดิ่


[ มิ้นต์ ]  :  เปล่า ไม่ได้คิดถึง



นั่นไงล่ะ ไม่ได้ต่างกับที่คิดไว้เลยจริงๆครับ ผมบอกจ้าๆ งั้นพี่คิดถึงมิ้นต์คนเดียวก็ได้ งั้นฝันดีล่ะ


มิ้นต์ตอบกลับมาว่า ไม่ฝันดี ต้องคอยดูแก้มต่อ ผมก็บอกว่านอนตอนไหนก็ฝันดีตอนนั้นแหละ


[ มิ้นต์ ]  :  ไม่รู้


เอ้า เอะอะก็ไม่รู้ ไม่รู้ เหมือนลุงแถวบ้านเลยวุ๊ย ผมก็บอกจ้าๆๆ ไม่รู้ก็ไม่รู้ อืมม ผมคิดอะไรได้อย่างนึง  ด้วยความที่บ้านป้าที่ชัยภูมิอยู่บนภูเขา


ผมก็ถามมิ้นต์นะว่า มอหินขาวน่ะไปช่วงเดือนพฤศจิกาฯ ได้มั้ย  หนาวๆแล้วจะได้กอดมิ้นต์ไง


รู้มั้ยครับมิ้นต์ตอบมาว่าไง


" ถ้าคนเราอยากจะกอดจริงๆ ไม่ต้องอากาศหนาวหรอก "


อุ๊ย !!! ราวกับโด วาลคีรี่ ( ถ้าเป็นยุคนี้ก็คง Slimz ) ปาหอกระยะไกลโดสตั๊นไป 5 วินาที ที่มิ้นต์พูดหมายความว่ายังไงกันนะ !!!


หรึ หรึ หรือว่า นี่เธอกำลังบอกเป็นนัยๆว่าอยากกอด กอดเล๊ย ผมก็แบบนี่ไม่สบายรึเปล่าเนี่ย น่ารักแปลกๆ


มิ้นน์ก็บอกว่าตัวเธอน่ารักปกติอยู่แล้ว โอ๊ยยย แม่คุณปากคอเราะร้าย แบบนี้มันต้องขยี้ !!! มิ้นต์ถามกลับมาอีกว่า ไปพฤศจิกายนใช่มั้ย



ผมก็ฮึ๊ แปปๆ ยังโดนหอกสตั๊นอยู่ ผมบอกอื้อใช่ ตอนนั้นผมคิดคำนวณอย่างไวเลยว่าถ้าไปเดือนพฤศจิกายน ผมมีเวลาเก็บเงินทันแน่ๆ ผมก็ถามว่านานไปมั้ย เดือนนั้น


มิ้นต์ก็ตอบมาว่าอยากไปเดือนพฤศจิกายน แค่นี้แหละนอนแล้ว ฝันร้าย ตรู๊ด เอ๊า !!!  อะไรวะน่ะปรับตัวไม่ทันเลยตู เฮ้อ


แต่ที่บ้านป้าผมนั้น เวลาหนาวก็หนาวจริงๆนะครับ ด้วยความที่หมู่บ้านอยู่บนเขา และก็ห่างจาก มอหินขาว 4-5 กิโลเมตรเองครับ



โอย พอหลังจากอาทิตย์ตกดิน แค่ทุ่มเดียว พูดแล้วควันออกปากเลยครับ ถ้าหนาวนี่หนาวจริงๆ หนาวจนแทบไม่น่าให้อภัย แล้วในบ้านปูด้วยกระเบื้องอีก



คือนอนแทบไม่ได้มันเย็นว่าบไปทั้งหลังเลยครับ ถ้าไม่มีผ้ามาปูนอน แต่มันก็สนุกมากๆเลยนะ ทั้งๆที่ถนนในหมู่บ้าน ก็เทปูนยังไม่ทั่ว เดินเท้าเปล่าก็ไม่ได้


เพราะหินก้อนเล็กๆตามพื้นนั้นคมมากๆ เดินทีนี่มีอุ๊ย ๆ ๆ ๆ  อย่างเดียวเลย แต่ว่าสิ่งที่ผมอยากให้มิ้นต์ไปเจอนั้นคือความสงบสุขครับ


ตื่นมาตอนเช้าก็เจอภูเขา เดินเข้าไร่สัปปะรดตรงเนินเขา ก็จะได้เห็นวิวทิวทัศน์ที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้เลย บางครั้งนะ คุณจะเห็นฝนตกอยู่ที่ภูเขาอีกลูกนึง ทั้งๆที่ตรงที่คุณนั่งนี่แดดเปรี้ยงเลย


แต่พอตรงเพิงที่นั่งพักฝนตก โอ้วโหว นึกว่าพายุเลยล่ะครับ สนุกมากจริงๆครับ ตอนที่ไปบ้านป้า พอก่อนๆๆๆ เอาไว้เล่าตอนที่ผมพามิ้นต์มาบ้านป้าดีกว่า มันจะทำให้ IPF ทั้งหลาย


หลงรักมิ้นต์หนักกว่าเดิมอีก ผมรับรอง เพราะทริปนั้นมิ้นต์กลายเป็นนางฟ้ากลางหุบเขา เป็นเทพีบ้านไพรไปเลย เอ้าไหนๆก็ไหนๆละเพลงมาสักหน่อย







อ่ะๆกลับเข้ามาต่อครับ หลังจากออกทะเลไปหลายตัวอักษร ผมมองรอบๆ บริเวณชั้นลอยและก็คิดว่า เอาล่ะย้ายเลยดีกว่า หลังจากที่วางสายจากมิ้นต์แล้ว ผมก็ตั้งใจที่จะไปย้ายพวกผ้าห่ม นู่นนี่นั่นมาบนนี้ แต่ว่า......



[ พี่หมิว ]  :  มาทำอะไรบนนี้อีกแล้ว


อยู่ดีๆพี่หมิวก็เดินมาเฉยเลย แล้วทำไมผมไม่ทันได้สังเกตหว่า หรือเพราะมัวแต่คุยกับมิ้นต์จนลืมดูเลย ผมบอกว่ามาดูบ้านเฉยๆ  ถ้าผมบอกว่ามาหาที่นอนล่ะก็จบเห่ แน่ๆ เพราะพี่หมิวค- ( คง )


[ พี่หมิว ]  :  จะหาเรื่องมานอนใกล้ๆหลังคาว่างั้นเถอะ


เฮือก !!!  เฮ้ยไหงพี่หมิวรู้ได้เนี่ย ไม่จรี๊งงงงงง พี่หมิวกอด อกแล้วบอกว่าอย่ามาเนียน คิดว่าเจ๊ไม่รู้เหรอ อุ้ย !!!  สะดุ้งเลยครับ ผมก็คิดนะว่าอดแน่ๆกูคืนนี้ สงสัยจะได้นอนในห้องแล้วล่ะ


เฮ้อ น่าเสียดายทั้งๆที่ห้องพักหลังใหญ่ม๊ากกก แต่ว่ามั่บ !!! พี่หมิวคว้ามือเอาไว้ครับ ผมก็หืมทำไรเหรอเจ๊ แล้วพี่หมิวเธอก็กอดผมเฉยเลย ผมแบบเฮ้ยทำไรอ่ะเจ๊


[ พี่หมิว ]  :  เจ๊ ขอโทษนะที่ตอนนั้นไม่เชื่อแก


หือ อิหยังวะน่ะ อะไรของเจ๊หว่า ผมถามหืมอะไรเหรอครับเจ๊หมิว พี่หมิวบอกนะว่าถ้าวันนั้นเชื่อผมตั้งแต่แรก ว่าผมไม่ได้ทำอะไร ผมก็คงไม่ต้องมาเจ็บตัวแบบนั้น


ผมก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอกครับ ผมจะไม่ยอมให้พี่หมิวเป็นอะไรไปแน่ๆ พี่หมิวถามกลับนะว่าน้อยใจเจ๊บ้างมั้ย เอาล่ะคำถามวัดใจมาละ ตอบว่าไงดี


ไม่หรอกครับ ผมไม่น้อยใจหรอก 55555  อันนี้ไม่น่าเวิร์คเพราะอาการน้อยใจของผม มันแสดงออกชัดเจนมากๆ หรือจะตอบว่า ผมโคตรน้อยใจเจ๊เลยว่ะ เจ๊ไม่ฟังผมเลย


อันนี้ก็ไม่น่าเวิร์ค ถ้าตอบไปคงโดนฝ่ามือแช่เยี่ยวเจ็ดป่าช้าแน่ๆ แล้วจะตอบยังไงดีล่ะ ตอบยังไงดีโว๊ย แล้วพี่หมิวก็หยิกมั่บแล้วพูดว่า ตอบมา


ผมก็ตัดบทไปว่า ก็ผมบอกเจ๊ไปแล้วนี่นาตอนที่อยู่บ้านน่ะ พี่หมิวบอกไม่เกี่ยวกัน บอกมาว่าน้อยใจเจ๊บ้างมั้ย ผมก็ตอบไปว่าอื้อ ปากผมตอบอื้อ แต่ในใจคือ เอ่อ ทำไมเหมือนหนังม้วนเดิมมันฉายซ้ำวะ


พี่หมิวยิ้มๆ ซึ่งไม่บ่อยนักที่ผมจะได้เห็นพี่หมิวยิ้มแบบนี้ มันใจสั่น มันตุ๊บๆต่อมๆไปหมด พี่หมิวบอกว่า อื้อรู้แล้ว พี่หมิวกอดผมแน่นๆอีกแล้วบอกว่าขอบคุณที่รักเจ๊นะ แล้วก็ห้ามหยุดรักเจ๊ด้วย


เอาจริงๆตอนนี้ผมไม่ได้กังวลเรื่อคำพูดหรืออะไรนะ ผมกังวลตัวเองนี่แหละ พี่หมิวเล่นกอดแน่นๆแบบนี้ ไอ้น้องชายของผมมันจะตื่นน่ะสิ่ เพราะว่าอย่าลืมนะครับ เพราะตอนนี้พี่หมิวอยู่ในชุดที่พร้อมจะนอน


มันทั้งสั้น ทั้งบาง โอยแย่ครับผม ใครเคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้น่าจะเข้าใจผมมากๆเลยล่ะ


[ พี่หมิว ]  :  แก เป็นไรเนี่ย อีโทน อึกๆอักๆ


[ ผม ]  :  มะ มะ ไม่มีอะไรครับ เจ๊ปล่อยผมก่อนดีกว่าเนอะ


[ พี่หมิว ]  :  อะไรเนี่ย หึ๊ เป็นอะไร


โอยยยยย ไม่ปล่อยก็ว่าแย่แล้วดันกอดแน่นกว่าเดิมอีก ผมบอกเจ๊ปล่อยก่อน เจ๊ปล่อยก๊อน อึ้กก ไม่ ไม่ทันแล้ว มันผงาดแล้ว พี่หมิวถึงกับสะดุ้งและก้มมองเลยครับ


ผมแบบแย่ละชิบหายละ แต่เอ๊ะ พี่หมิวไม่หือ ไม่อือ ไม่พูดอะไรเลย หรือว่า หรือว่าาา จะมีลุ้นรีแมทช์ แต่ว่าครับท่านผู้อ่าน บางครั้งผมก็คงเข้าข้างตัวเองมากไปแหละ


[ พี่หมิว ]  :  อย่าทำแบบนี้อีกนะ อย่าลืมสัญญาของเราสิ่ ว่าเรื่องนั้นจบแค่ที่บ้าน


เคยมั้ยครับ เคยแบบกำลังนอนเคลิ้มๆอยู่แล้ว ฝันว่าตกจากที่สูง ตัวกระตุกสะดุ้งจนส้นทีนกระแทกพื้น  อื้อ ผมเป็นแบบนั้นแหละ กำลังเคลิ้มๆเลยว่าน่าจะมีหวัง


แต่ก็โดนพี่หมิวแจกผ้าเบรกดังเอี๊ยด ผมก็ตั้งสติแล้วบอกอื้อผมรู้แล้วครับ พี่หมิวก็บอกอื้มๆรีบกลับเข้าห้องได้แล้ว ผมก็ครับรู้แล้ว และพี่หมิวก็เดินกลับเข้าไปในห้อง


ผมต้องเดินหาห้องน้ำครับ ลำบากกูอีก ลำบากผมต้องเหนี่ยวออก 1 น้ำอีก ไม่งั้นใจไม่สงบแน่ๆ ฟู่วววว พอเข้ามาในห้องดูเหมือนว่าพี่เตยจะนอนหลับไปแล้วครับ พี่หมิวเองก็เหมือนกัน



ผมทิ้งตัวลงนอนก่ายหน้าผากเลยครับ แต่ก็นอนไม่หลับครับด้วยความที่เคยชินกับการต้องเดินตรวจบ้านตอนดึกๆเอ่อ บ้านสวนน่ะครับ ผมจึงลุกไปเดินปิดประตูนู่นนี่นั่นก่อน


แต่พอนึกแล้วเฮ้ย ผมมาถึงต่างจังหวัดทั้งที ทำไมผมต้องรีบนอนวะ ผมย่อง ย่อง ย่อง ลงมาข้างล่าง โอ้ว กลิ่นนี้ ความรู้สึกนี้ใช่เลยครับ จริงอยู่ว่าที่นี่มืดแล้ว แต่มันก็ยังมีแสงสว่างจากพระจันทร์


จากหลอดไฟอยู่มันก็ไม่น่ากลัวเท่าไร ไม่เหมือนตอนไปเขาชนไก่ เยดเป็ดมืด คือมืดเลย มืดสนิท ผมเดินลงมาอ่าส์ มีพื้นที่ มีลานกวางกลางดึกด้วย



อื้อหืม กลิ่นนี้ที่คิดถึง เคยมั้ยครับ เวลาไปออกค่าย ไปแคมป์ สิ่งนึงที่จะขาดไม่ได้คือ ก่อกองไฟ เชื่อมั้ยครับท่านผู้อ่าน ถ้าผมกลับบ้านสวนเมื่อไร


แล้วอากาศมันหนาวนะ ผมจะรีบตื่นตี 5 ไปหากองไม้ กองฟืน มาสุมๆๆ และจุดไฟผิงเลย ผมชอบบรรยากาศแบบนี้มากครับ กลิ่นไม้ที่ไหม้ไฟลอยเข้ามาจมูก จริงๆแล้วมันก็ไม่ได้หอมนะ


แต่มันเป็นกลิ่นที่คิดถึงจริงๆ สมัยผมเด็กๆประเทศไทยเคยหนาวมากกว่านี้ หนาวนานกว่านี้ หน้าหนาวผมจะสนุกมากๆ เพราะได้ทำอะไรหลายๆอย่างฤดูอื่นๆไม่ได้ทำ


เฮ้อ แต่สมัยนี้เย็นแปปเดียวก็ร้อนละ นี่ก็เหมือนกัน แม่งเย็นได้สองวันเริ่มกลับมาร้อนละ เมื่อวานเมฆครึ้มทั้งวัน วันนี้แม่งแดดร้อนเปรี้ยง ฟวย !!!


อ่ะๆ โทษทีผมหงุดหงิดไปนิด อ่ะกลับมาต่อ ผมเดินมาเรื่อยๆแล้วก็เสนอหน้าไปนั่งตรงกองไฟ ที่ดูเหมือนว่าจะมีคนก่อเอาไว้ แต่นั่งไม่ถึงนาที ก็มีเสียงตามหลังมาว่ากล้าทิ้งเจ๊ไว้บนบ้าน 2 คนเหรอ


ผมหันควั่บเลยครับ เฮ้ย !!!  เจ๊เตยมาไงวะเนี่ย แล้วใส่ชุดเดิมเลย เสื้อสายเดี่ยว นมทะลัก กางเกงสั้นเสมอจิ๋ม คือตอนนั้นวินาทีนั้น ไม่ต้องบอกเลยว่าผมจะกลับหรือไม่กลับ


ผมกลับแน่ๆล่ะ เพราะกลัวว่าผู้พักอาศัยคนอื่นๆจะมาเห็นความอลังการของพี่เตยเหมือนผมตอนนี้ ผมรีบลุกขึ้นแล้วบอกป่ะเจ๊กลับกัน


พี่เตยก็บอก เอ้า !!!  ยังไม่ทันได้พูดอะไรเลย รู้งานดีจริงๆ ผมก็บอกอื้อๆกลับเถอะ แล้วพี่เตยก็ดึงไว้แล้วบอก เดินไม่ไหวเมื่อยขา ผมแบบฮึ๊ได้เหรอวะ


เฮ้อ เอ้า !!!  ก็ได้ ผมย่อขานั่งลงทันทีแล้วก็ฮึ๊บ พี่เตยมาเกาะหลัง กอดคอ อึ๊บบ ผมแกล้งทำเป็นขาสั่น พั่บๆๆๆ แล้วบอกโหพี่เตย ตัวเล็กแค่นี้แต่หนักแท้ๆ พี่เตยโมโหเลย พูดอะไรก็พูดได้


อย่าพูดเรื่องน้ำหนักกับเขา เขากัดง่ำเข้าที่ไหล่ผมเลย ผมก็โอ๊ยย ล้อเล่นๆๆ ตัวเบาหวิวเลยครับ พี่เตยก็อื้มๆๆๆ ดีมาก ผมก็เดินๆ และกระโดดเบาๆอีกที เพื่อดันให้พี่เตยขึ้นมาให้ตรงจุดรับน้ำหนัก


แต่ด้วยความที่เนื้อผ้ามันลื่น ตัวพี่เตยเลยไหลนิดๆ ผมก็รีบก้มตัวไปข้างหน้าและคว้ามั่บ .... อ่าส์ เต็มมือเลย ผมคว้าก้นพี่เตยเต็มๆเลยครับ


พี่เตยก็บอกอีโทนจับก้นเจ๊เหรอ ผมก็บอกไม่มีทางเลือกนี่หว่า ไม่จับไว้ก็ตก เอาจริงๆนะครับ การให้ขี่หลังเนี่ย สำหรับผมมันต้องรับตรงตูดไว้ ไม่งั้นมันลื่น อาจจะไม่ต้องจับหรอก


อาจจะไหว้แขนและให้นั่งตรงแขนก็ได้ แต่ยังไงแขนก็ต้องโดนตูดอยู่ดีแหละ ผมก็ถามพี่เตยว่าจะให้ปล่อยลงมั้ย พี่เตยก็ตอบไม่ !!!  โอเค๊งั้นไปต่อ


ผมเดินไปเรื่อยเอาจริงๆระยะทางจากตรงนี้ไปถึงบ้านพักของเราก็แค่ 100-200 เมตรเองมั้ง แต่ผมแม่งเดินไม่เป็นจังหวะเลย มือก็โดนตูด หลังก็โดนนมทิ่ม โอยแย่

พี่เตยทิ้งตัวกดนมแนบหลัง กอดคอและจุ๊ปๆผมทีนึง ผมก็บอก เจ๊เดี๋ยวพี่หมิวเห็น พี่เตยก็บอกว่าหมิวหลับแล้ว หลับสนิทเลยด้วย ผมก็ถามว่าคงไม่ได้เอาอะไรแปลกๆให้พี่หมิวกินใช่มั้ย


พี่เตยบอกเปล่า แต่วันนี้หมิวบอกว่าประชุมเหนื่อยมากๆ เดินทางอีก ผมก็ถามเดินทางมาไหนเหนื่อย พี่เตยก็บอกมานี่ไง ผมก็ถาม โห้ย !!!  ผมนี่คนขับเหนื่อยตรงไหนเนี่ย


ผมเดิน เดิน เดิน จนจะถึงที่พักละ พี่เตยบอกนั่งแปปนึง อากาศกำลังดี ผมก็บอกไม่เอาเดี๋ยวยุงกัด เข้าบ้านเลย พี่เตยก็แบบไม่เอา ไม่เข้า จะนั่งๆ ผมก็ต้องสวมบทโหดแหละครับ


ผมบอกว่าถ้าดื้อผมจะไม่รักเจ๊แล้วนะ พี่เตยก็โวยวายว่าไม่เกี่ยวเลย ตัวโตใจร้ายไม่รักเค้าแล้วอ่ะ นั่นไงล่ะเอาเรื่องเก่ามาพูดอีกแล้ว เอ่อ ถ้าใครที่เคยมีช่วงงุ๊งงิ๊ง ช่วง 20 ต้นๆแบบผม


น่าจะรู้ดีครับ ว่าเราพูดคำว่ารักกันเป็นว่าเล่นเลย รักน๊า รักครับ บลาๆๆๆ ก็แน่นอนแหละครับ ตอนกิ๊กกับพี่เตย ก็... เอ่ออ รักตัวเล็กนะค๊าบบ ฝันดีนะค๊าบตัวเล็ก รักนะจุ๊ปๆ



โอยพิมพ์ไปแล้วก็ได้แต่คิดตอนนั้นกูทำอะไลลงไป แต่ถ้าถามว่าทำแล้วมีความสุขมั้ย โคตรมีความสุข น้องๆยุคนี้อาจจะไม่เข้าใจฟิลลิ่งนะ ว่าการจ้องหน้าจอมือถือแล้วยิ้มเหมือนคนบ้ามันเป็นยังไง


พิมพ์ SMS ส่งไปว่าฝันดี แล้วเขินเองเป็นยังไง อ่าส์ 3 บาทกู ข้อความละ 3 บาท อ่ะกลับมาต่อ พี่เตยพูดออกมาว่าตัวโตไม่รักเค้าแล้วเหรอ ผมก็เอ้า !!! นี่พานั่งไทม์แมชชีนอีกละ




 












เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

neimuchan

แหม่ ผมกำลังจะไปนอนเลยนะเนี่ย :P



จะออกมารูปไหนหว่า จะโดนตบ หรือจะ 3P -*-
จริงๆแล้วมี ID เก่า แต่ดันจำ password mail เก่าไม่ได้เลยต้องสมัครใหม่ -*-


akine

 ::WowWow:: พูดถึงห้องใต้หลังคา นี่มันความฝันส่วนใหญ่ของผู้ขายรึไงฟร้า555



RattanaKi


John Snoww

หวานล่ะพี่เทพโทน ไม่มีเครื่องช็อตไฟฟ้า หมายความว่าทำอะไรก็ได้สินะ ฮ่าๆ

Paragraph<BB>


Slave

รุสึกฟินทุกครั้งที่ได้อ่านเลยอ่ะ.. สงสัยจังพระเอกเราจะหลับลงรึ??? 
มีสองเจ๊หุ่นแซ่บมานอนอยู่ใกล้เนี่ย..... เป็นผมๆตาสว่างแน่นวล
55555..ขอบคุณ​มาก​ครับ​


DEVIL WORLD

 ::Elder:: ทำไมเจ้เตยไม่พาโทนเข้าบ้านละ รอไร บรรยากาศดีก็จริงนะ แต่ถ้าน้ำค้างลงเดียวได้ไม่สบายกันทั้งคู่ แล้วไหนจะทิ้งเจ้หมิวนอนคนเดียวอีก ตายๆ ผีหลอกละมั่ง


::Horror::สะ สะ สุดดดด โอ๊ยยเจ้หมิว ทำถึงทำเองละไหนบอกไม่ล้ำเส้น  ตายๆเจ้เตยอาบเร็วๆออกมาดู สองคนนี้หน่อย
เจ็บกว่าตัวสำรอง ก็คือตัวสำรองของตัวสำรอง


Ke2l3e2oS

ในที่สุดเจ๊เตยก็มีบทกะเค้าซะที  ::HeyHey::

เอ้า ไหงเป็นเจ๊หมิวซะงั้นนน