ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_nato87

เกมรักภารโรงเฒ่า ปี 2 ตอนที่ 9 : ความรักไม่เข้าใครออกใคร

เริ่มโดย nato87, พฤศจิกายน 14, 2020, 04:41:45 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

nato87

พูดคุยก่อนอ่าน : กลับมาแล้วนะครับ สำหรับตัวเต็มของตอนที่ 9 ตอนนี้ค่อนข้างจะยาวเป็นพิเศษ

ตอนนี้ก็ดราม่าครับ ปวดตับดีแท้ 5555 ตอนหน้าจะเป็นบทสรุปความสัมพันธ์ระหว่างกรวิทย์และหมอพลอย มาดูกันว่าสุดท้ายแล้วกรวิทย์จะตัดใจจากหมอพลอยได้หรือไม่ และที่สำคัญที่สุด ครูเบสท์จะมีบทบาทสำคัญนับจากตอนหน้าเป็นต้นไปแล้วนะครับ เธอจะเข้ามาข้องเกี่ยวกับชีวิตและเหล่าบรรดาสาว ๆ ในฮาเล็มของลุงพลยังไง ต้องติดตาม

ตอนแรกผมคิดว่าจะเก็บครูเบสท์ไว้เป็นคนสุดท้าย แต่เห็นเรียกร้องกันมาเยอะ และผมก็เริ่มหมดความอดทนละ บอกแล้วไงว่าเรื่องนี้โครงเรื่องมันพลิ้วได้ตลอด เหมือนนิสัยลุงพลนั่นแหละ ใช่ครับ ถึงเวลาแล้วละ ที่่หมอพลอยและครูเบสท์จะต้องเผชิญหน้ากันเพื่อแย่งหำเหลี่ยมทองของลุงพลสักที

...และถึงเวลาแล้วครับ ที่หมอพลอยจะต้องเป็นตัวร้ายเพื่อให้ครูเบสท์ได้เป็นนางเอกเต็มตัวในภาคสองสักที มาดูกันว่าพวกคุณจะยังรักหมอพลอยคนนี้อีกหรือเปล่า 555555+


ปล.มีตัวอย่างตอนต่อไปเป็นน้ำจิ้มนิดหน่อยนะครับ เป็นบางส่วนของพี่กรและน้องเค้ก (อย่าพึ่งเชื่อในสิ่งที่อ่านนะครับ อิอิ) และฉากสานสัมพันธ์ระหว่างลุงพลและครูเบสท์ (ส่วนนี้ผมขอซ่อนนะครับ)



################

ความเดิมจากตอนที่แล้ว


https://xonly8.com/index.php?topic=236088.0

อ้างถึงตัดมาที่สองสาว อรัญญากับเดือนดารา ที่คู่กันมาสองคน ระหว่างที่เดิน ๆ กลับหอพักหญิง เสียงแตรก็ดังขึ้นจากด้านหลัง

"อีฟ? หมวย?" ที่แท้ก็เป็นครูเบสท์ หญิงสาวกดสวิตช์เปิดกระจกรถยนต์ Honda Civic สีบลอนด์ เพื่อทักทายกับสองลูกศิษย์สาวที่เดินตามลำพังบนทางเท้าภายในวิทยาลัยยามค่ำคืน "มาเดินทำอะไรดึก ๆ ดื่น ๆ ตอนนี้? แล้วหมวยเป็นอะไรน่ะ?"


ภัคจิราสังเกตเห็นยัยหมวยในสภาพอ่อนเพลีย เหมือนคนไม่สบาย ก็เลยเอ่ยปากถามด้วยความเป็นห่วงในฐานะอาจารย์

"หมวยไม่สบายค่ะครู" น้องอีฟตอบ

"เป็นอะไร?" ครูเบสท์ถามด้วยความเป็นห่วง "ให้ครูพายัยหมวยไปหาหมอไหม?"

"ไม่เป็นไรค่ะครู..." เดือนดาราตอบในสภาพอิดโรย "เดี๋ยวหนูกลับไปนอนพักที่ห้อง สักพักอาการคงดีขึ้นเองค่ะ"

"แน่ใจนะ?" ภัคจิราถามย้ำอีกครั้ง

"ค่ะครู..." เดือนดาราตอบ ใบหน้าของเธอดูอิดโรย จนอาจารย์สาวอดเป็นห่วงไม่ได้

"โอเค นี่ก็ดึกมากแล้ว" พอได้ยินแบบนี้ ภัคจิราก็เลยไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อ "งั้นก็รีบกลับห้องอาบน้ำพักผ่อนได้แล้วสองสาว พรุ่งนี้มีเรียนกับครูตั้งแต่เช้านะ อย่าขาดเรียนละ เพราะครูจะบอกแนวทางข้อสอบไฟนอลให้"

"ค่ะครู" สองสาวเพื่อนรักตอบตกลงพร้อมกัน ส่วนครูเบสท์ก็กดสวิตซ์ปิดกระจก

"สองคนนี้ดูแปลก ๆ แหะ" ภัคจิราจับพวงมาลัยแน่น สายตาของเธอเหลือบมองสองสาวผ่านกระจกหน้า เหมือนคิดอะไรใจลอยไปหน่อย ก็เลยทำให้อาจารย์สาวไม่ทันมองทางข้างหน้า "ว้าย!!!"

ลุงพลขับรถมอเตอร์ไซค์ปาดหน้ารถครูเบสท์ อาจารย์สาวเหยียบเบรกด้วยความตกใจ

"ลุงพล!!!" ครูเบสท์เอ่ยชื่อคนขายน้ำเต้าหู้ ที่อยู่ดี ๆ ก็ขับรถปาดหน้าเธอ "อะไรของเค้าเนี่ย!!! เดี๋ยวเถอะ!!! เดี๋ยวต้องคุยกันหน่อยละ!!"

........................

ตัดมาที่ลุงพล หลังจากขับรถมอเตอร์ไซค์ออกมาจากวิทยาลัยพยาบาล แกก็แวะพักที่ร้านสะดวกซื้อหน้าปากซอย ก็ดันมาเจอกับสองหนุ่มอย่างไอ้ลอยและไอ้เจ๋งนั่งกินเบียร์อยู่

"อ่าว? ลุงพล!!!" ไอ้เจ๋งในชุดแกรบลุกขึ้นทักทายลุงพล "มาไงเนี่ย? สนใจนั่งกินเบียร์ตากลมกับพวกผมไหม?"

"ไม่อ่ะ กูจะแวะซื้อของเซเว่น" ลุงพลตอบ ก่อนเหลือบไปเห็นไอ้ลอยนั่งกินถั่วอยู่บนม้านั่งหน้าร้านสะดวกซื้อ "เฮ้ย!!! ไอ้หนุ่ม วันก่อนลุงเห็นเราไปวิทยาลัยพยาบาลไม่ใช่เหรอ?"

"ไปทำธุระน่ะลุง" ไอ้ลอยตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน ก่อนหยิบถั่วขึ้นมาเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย ลุงพลพอเห็นแบบนี้ ก็เลยรู้ว่าไอ้หนุ่มคนนี้ไม่ได้อยากจะคุยด้วย ก็เลยหันมาคุยกับไอ้เจ๋ง

"เป็นไงบ้างมึง?" ลุงพลถามไอ้เจ๋ง "ขับแกรบรายได้ดีไหม?"

"ก็เรื่อย ๆ อ่ะลุง มีช่วงที่เงินดีและช่วงที่เงียบ" ไอ้เจ๋งตอบ "ว่าแต่ลุงไม่สนใจกินเบียร์กับพวกผมหน่อยเหรอ?"

"เอาเลย เต็มที่" ลุงพลยิ้ม "ขอตัวไปซื้อของก่อนนะ"

"ได้ลุง..." ไอ้เจ๋งยิ้ม ก่อนกลับไปนั่งกินเบียร์กับไอ้ลอยญาติผู้พี่ต่อ

"เฮีย? เฮียไปทำอะไรที่วิทยาลัยพยาบาลวะ?" ไอ้เจ๋งหันมาถามไอ้ลอย ที่กำลังหยิบซองบุหรี่ขึ้นมาแล้วใส้ส้นมือกระแทก

"ธุระส่วนตัวของกู" ไอ้ลอยตอบ ก่อนคาบบุหรี่แล้วจุดไฟแช็ก  ควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจากปากของชายฉกรรจ์ราวกับว่ามันไม่สะทกสะท้านกับอะไรทั้งนั้น "ธุระส่วนตัว..."

"ความลับเยอะจังวะเฮีย..." ไอ้เจ๋งพูดติดตลก "เดี๋ยวนี้มีลับลมคมในกับน้องกับนุ่งนะเฮียนะ"

ความจริงก็คือ ไอ้ลอยไปวิทยาลัยพยาบาลเพื่อหาหมอพลอย ลูกสาวของท่านวิทยานักการเมืองใหญ่แห่งภาคนะวันออก เพื่อเอาข้อมูลไปขายเพื่อและกับเงินก้อนโตนั่นเอง

........................

ตัดมาที่ลุงพล หลังจากซื้อผงซักฟอกและน้ำยาล้างจานเสร็จ แกก็ขับรถมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน จนถึงช่วงโค้งเลี้ยวเข้าซอย ลุงพลก็ต้องหยุดรถเมื่อเห็นเด็กสาวนั่งร้องไห้อยู่ริมทาง

"อ่าว? นังทราย?" ลุงพลจอดรถข้างทาง แล้วหันไปเรียกนังทรายในชุดนักศึกษาครึ่งท่อนที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่ริมทางด้วยความสงสัย "มานั่งทำอะไรตรงนี้วะ อ่าว? แล้วมึงจะร้องไห้ทำไมเนี่ย?"

"ฮือ...ลุงพล" น้องทราย สก๊อยสาวสุดแซ่บเงยหน้าทั้งน้ำตา "แม่ไม่ให้หนูเข้าบ้านอ่ะ!!! ฮือ!!!!"

"อ่าว? มันเรื่องอะไรกันอีกวะเนี่ย?" ลุงพลถาม "ไปทำอะไรให้นังแต๋วมันโกรธละทราย?"

ไม่รู้เหมือนกันว่าป้าแต๋วและนังทรายมันทะเลาะเรื่องอะไรกัน แต่ด้วยความที่ลุงพลเอ็นดูน้องทรายเหมือนลูกเหมือนหลาน ก็เลยอยากช่วยในฐานะผู้ใหญ่ที่มีเมตตาต่อเด็ก

....ส่วนจะเป็นเรื่องอะไร ต้องให้น้องทราย ฉัตรพร เป็นคนเล่าออกจากปากเองจะดีกว่า

################

น้องทรายกับป้าแต๋วทะเลาะกันหนักมาก เพราะป้าแต๋วดันไปติดผู้ชาย ที่เป็นคนงานก่อสร้าง เลยทำให้แกทะเลาะกับนังทรายหนักมาก สุดท้ายด้วยความเมาและโทสะ ป้าแต๋วเลยไล่นังทรายออกจากบ้าน

"ทราย? มึงมานั่งทำอะไรตรงนี้เนี่ย?" ลุงพลเดินเข้าไปถามนังทรายที่นั่งร้องไห้อยู่ริมทางด้วยความเป็นห่วง

"หนูกับแม่ทะเลาะกันอ่ะ!!!" นังทรายมองหน้าลุงพลทั้งน้ำตา "แม่ไม่ให้หนูเข้าบ้าน ฮือ!!!!"

"แล้วเอ็งไปทำอะไรผิดละ?" ลุงพลถาม พอเห็นแมลงสาบวิ่งออกมาจากท่อระบายน้ำ เลยหันไปบอกให้นังทรายลุกขึ้น "ลุกขึ้นนังทราย มึงจะมานั่งริมถนนแบบนี้ไม่ได้นะ มันสกปรก เห็นไหมว่าแมลงสาบมันออกมาจากท่อระบายน้ำแล้ว"

สก๊อยสาวหันไป พอเห็นแมลงสาบตัวเบิ้ม ๆ สีน้ำตาลกำลังวิ่งเพ่นพ่านก็รีบลุกขึ้นด้วยความกลัว

"อ่ะ เอ็งยังไม่ตอบลุงเลย นังทราย เอ็งไปทำอะไรให้แม่เอ็งโกรธวะ?"

"คือ หนูทะเลาะกับแม่" สาวอาชีวะตอบ ก่อนหันไปมองประตูบ้านที่ถูกปิดอยู่ "ลุงอย่าบอกใครนะ แม่หนูไปติดผู้ชายที่ไซต์ก่อสร้างฝั่งนั้นที่ชอบมากินกับข้าวร้านแม่อ่ะ"

"อ้อ!!! อย่างงี้นี่เอง" อดีตภารโรงเฒ่าพยักหน้า "แล้วยังไงต่อ?"

"หนูก็เตือนแม่ แต่แม่หนูไม่ฟังหนูเลย" ฉัตรพรตอบด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย "พอกินเหล้าทีไร แม่หนูก็นิสัยเปลี่ยนทุกที เห้อ!!!"

"ก็คือ เอ็งทะเลาะกับแม่ แม่เลยไล่ให้เอ็งออกมานอกบ้าน" ลุงพลสรุปเรื่องราวทั้งหมด "ลุงเข้าใจถูกไหม?"

"ใช่แล้วค่ะลุง" นังทรายตอบ "สงสัยแม่หนูคงเมาแล้วหลับไปละ หนูไม่รู้จะไปไหน กุญแจรถก็ไม่ได้เอาออกมาด้วย ลุงต้องช่วยหนูด้วยนะ"

"เดี๋ยวลุงคุยกับนังแต๋วให้เอาไหม?" ด้วยความเป็นผู้ใหญ่ ลุงพลอดเป็นห่วงนังทรายไม่ได้ ก็เลยตั้งใจจะโทรเรียกนังแต๋วให้เปิดประตูรับลูกสาวเข้าบ้าน แต่ว่า...

"อย่าดีกว่าลุง" นังทรายตอบ "แม่หนูชอบปิดโทรศัพท์เวลานอน โทรไปยังไงก็ไม่ติด"

"เอ้อ!!! อีนี่เป็นคนยังไงเนี่ย!!!" พอได้ยินแบบนี้ ทำเอาลุงพลยืนท้าวเอวมองประตูบ้านนังแต๋ว "มึงทำกับลูกเกินไปหรือเปล่าวะ? แล้วนี่เอ็งจะไปนอนไหนเนี่ย? พรุ่งนี้มีเรียนหรือเปล่า?"

พอเห็นลุงพลแสดงความเป็นห่วงเป็นไย ก็ทำเอานังทรายแอบยิ้มที่มุมปาก

"ถ้ามีกุญแจรถ ทรายก็ว่าจะขับไปนอนบ้านเพื่อน แล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยกลับมาอาบน้ำแต่งตัวที่บ้านแล้วไปโรงเรียน" ฉัตรพรตอบ "แต่พอมาเจอแบบนี้ หนูเลยไม่รู้จะทำยังไง"

"เฮ้อ..." ลุงพลส่ายหน้า "นังแต๋วเอ้ย...."

ลุงพลเองก็ลำบากใจ อยากจะเข้าไปช่วยพูดเคลียร์ใจปัญหาระหว่างแม่ลูก แต่เพราะรู้ว่านี่เป็นเรื่องภายในครอบครัว ตาเฒ่าหื่นก็ไม่รู้จะทำยังไง สุดท้าย ลุงพลเลยคิดอะไรบางอย่างออก

"เอางี้!!! เอ็งไปนอนที่บ้านลุงก่อน" ด้วยความเมตตาที่มีต่อนังทราย ที่ตัวเองเอ็นดูเหมือนลูกเหมือนหลาน เลยตัดสินใจให้นังทรายไปนอนข้างที่บ้านสักคืน

"ขอบคุณมากคะลุง!!!" นังทรายดูตื่นเต้นมาก เลยพนมมือไหว้ลุงพลเป็นการใหญ่

"เออ ๆ ไป" ลุงพลพยักหน้า ก่อนหันไปมองประตูหน้าบ้านนังแต๋วอีกรอบ "เห้อ!!! เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน"

ว่าแล้วนังทรายก็ซ้อนรถมอเตอร์ไซค์ลุงพลกลับเข้าไปในบ้าน ด้วยสัตย์จริง ลุงพลไม่ได้คิดอะไรกับนังทรายเกินกว่าลูกหลาน ถึงแม้ว่านังทรายจะโตเป็นสาวแล้วก็ตาม แต่ว่า...

นังทรายที่นั่งซ้อนหลัง แอบชำเลืองมองลุงพลด้วยท่าทางแปลก ๆ ดูเหมือนว่าสก๊อยสาวกำลังคิดอะไรไม่ซื่อกับลุงพลซะแล้ว
............................

นังทรายเดินตามลุงพลเข้าไปในบ้าน พอเดินมาถึงห้องโถง สก๊อยสาวก็เหลือบไปเห็นรูปภาพของป้ายุภาสมัยยังสาววางอยู่บนตู้โชว์ รวมไปถึงรูปของลุงพลสมัยยังเป็นทหารถือปืนเอ็ม 16 นั่งบนยานเกราะรบกับพวกคอมมิวนิสต์

นี่ยังไม่รวมไปถึงรูปถ่ายวันแต่งงานของลุงพลและป้ายุภา ภาพถ่ายของทั้งคู่เป็นภาพขาวดำที่ซีดเซียวไปตามยุคสมัยของกาลเวลา แต่นังทรายรับรู้ดีว่าลึก ๆ แล้วลุงพลยังคงรักป้ายุภาไม่เคยเปลี่ยน



ความทรงจำเกี่ยวกับป้ายุภาของนังทรายนะเหรอ? ป้ายุภาอาจไม่ใช่คนที่มีการศึกษาสูงมากนัก แต่ก็เป็นคนที่มีกิริยาท่าทางเรียบร้อย ป้ายุภาเป็นคนพูดเพราะและแทบไม่เคยสบถคำหยาบอะไร เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ การพนันไม่เล่น เรียกได้ว่าป้ายุภาเป็นศรีภรรยาที่แสนดีของลุงพลเลยทีเดียว

สมัยที่เธอยังเล็ก ป้ายุภามักซื้อขนมและของกินอร่อย ๆ มาฝากให้เธอเสมอ จนบางครั้งเธอเองก็นึกอยากเป็นลูกสาวของป้ายุภาและลุงพลแทนป้าแต๋ว ตวงพรแม่ของเธอ ส่วนพ่อของเธอนั้นเลิกรากับแม่ไปตั้งแต่ยังเล็ก

"ลุง? นี่ลุงอยู่บ้านคนเดียวตลอดเลยเหรอ?" นังทรายเอ่ยปากถาม

"ใช่" ลุงพลหันกลับไปมองนังทราย "ลุงอยู่ที่นี่คนเดียว"

"ไม่เหงาบ้างเหรอ?" สก๊อยสาวถามไปตามตรง ลุงพลก็ร่นคิ้วด้วยความแปลกใจที่นังทรายมาถามคำถามอะไรแบบนี้ "ป้ายุภาก็เสียไปหลายปีละ ลุงน่าจะหาใครสักคนมาช่วยดูแลบ้านช่องให้นะ"

"เห้อ!!!" ลุงพลส่ายหน้า "มันเรื่องของข้า เด็กไม่ควรยุ่ง"

"ก็ไม่อยากจะยุ่งหรอก!!!" นังทรายยิ้มที่มุมปาก ก่อนเดินไปขวางทางลุงพล "แต่ลุงอ่ะ ไปหักอกแม่หนูไงล่ะ แม่หนูเลยต้องไปหาผู้ชายคนอื่นมาดามใจ ลุงต้องรับผิดชอบ!!!"

"เฮ้ย!!! รับผิดชอบอะไรวะ?" อดีตภารโรงเก่าร่นคิ้ว "ข้าไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย!!"

"ไม่ผิดได้ยังไง!!!" นังทรายไม่ยอมหลีกทาง

"เฮ้ย!!!! เอ็งจะมาขวางทางข้าทำไมวะนังทราย??" ลุงพลถาม

"ก็แม่หนูรักลุง ลุงเองก็รู้!!!" ฉัตรพรตอบ "ถามจริง ๆ เถอะ!!! แม่หนูไม่ดีตรงไหน? ลุงถึงไม่ยอมรับรักแม่หนูอ่ะลุง!!!"

"เห้อ!!!" มนุษย์ลุงส่ายหน้า เมื่อเจอความเซ้าซี้ขั้นสุดของนังทราย "ข้าไม่ได้คิดอะไรกับแม่เอ็ง ขอโทษด้วย ข้าแก่แล้ว!!!"

"แล้วหนูละ?" นังทรายเริ่มถามอะไรแปลก ๆ "ลุงคิดยังไงกับหนู?"

"เอ็งถามอะไรของเอ็งวะ?" ลุงพลรับรู้ถึงความผิดปกติบางอย่างจากนักทราย สายตาที่นังทรายมองมา มันหวานเยิ้มเกินไป นี่ไม่ใช่สายตาของผู้น้อยที่มองผู้หลักผู้ใหญ่ด้วยความเคารพ มันเป็นสายตาที่ยั่วยวนและเชื้อเชิญ มันคือสัญญาณของความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาว "เอ็งคือหลานข้า เลิกทำตัวบ้าบอได้แล้ว ไปอาบน้ำซะ!!!  เดี๋ยวข้าไปเอาผ้าขนหนูกับเสื้อผ้ามาให้ ไป!!!!"

"เห๊อะ!!!! ถามแค่นี้ทำโกรธ!!" นังทรายรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยถึงปานกลาง ที่ลุงพลแสดงท่าทางเฉยเมยแบบนั้น "ไปก็ได้!!!"

พอนังทรายแยกตัวไปอาบน้ำ ลุงพลก็เลยเดินไปหยิบผ้าห่มและหมอนมาวางไว้ในห้องของยุภา

"ให้เด็กมันนอนค้างสักคืนนะจ๊ะ" ลุงพลหันไปมองภาพยุภาที่วางอยู่บนชั้นเสื้อผ้า "ไม่ต้องกลัว พี่ไม่ทำอะไรมันแน่นอน"

พอเสร็จธุระลุงพลนั่งดูทีวีแก้เซ็งระหว่างรอนังทรายเข้าห้องน้ำ ตาเฒ่าหื่นให้เด็กสาวยืมเสื้อผ้าของตัวเองไปใส่ก่อน แล้วพรุ่งนี้เช้าเอาไว้ป้าแต๋วอารมณ์เย็น ๆ แล้วค่อยกลับไปเคลียร์ใจกัน



เสียงฝักบัวในห้องน้ำหยุดไหลแล้ว ลุงพลคิดว่านังทรายคงอาบน้ำเสร็จแล้ว ก็เลยตะโกนบอกไปว่าเสื้อผ้าถูกเตรียมไว้ในห้องแล้ว ไปแต่งตัวแล้วเข้านอนได้เลย แต่ว่า...

ว่าแล้วเสียเปิดประตูห้องน้ำก็ดังขึ้น ลุงพลที่นั่งดูข่าวอยู่เหลือบไปเป็นนังทรายที่มีเพียงผ้าขนหนูสีขาวผืนน้อย ๆ พันรอบกาย ก็รีบเมินหน้าหนีไปทางอื่น

"นังทราย!!! ทำไมมึงไม่แต่งตัวให้เสร็จก่อนวะ!!!" ลุงพลเสียอาการอย่างเห็นได้ชัด ทำเอาน้องทรายอมยิ้มด้วยความพึงพอใจ ที่แกล้งหยอกล้อตาเฒ่าได้สำเร็จ

"ลุงพล? อายเหรอ?" นังทรายหัวเราะคิกคัก "ทำไมละคะลุง? ลุงเห็นทรายอาบน้ำแก้ผ้าตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว จะมากลัวอะไร ถามจริง?"

"นี่ นังทราย!!!" ลุงพลเอ็ดใส่เด็กสาวอาชีวะ "ยังไงข้าก็เป็นผู้หลักผู้ใหญ่นะโว้ย จะทำอะไรก็คิดดี ๆ นะเห้ยยย!!!"

"แล้วไง?" สก๊อยยาวเดินเอามือดึงขอบผ้าขนหนูสีขาว เด็กสาวเดินเข้าไปใกล้ลุงพลที่เหมือนกำลังนั่งหายใจไม่ทั่วท้อง

"ลุงว่าหนูสวยไหม?" น้องทรายถาม

"อะไรของมึงเนี่ย?" ลุงพลหายใจฟืดฟาด ไม่ใช่เพราะว่าแกหื่นหรอก แต่แกอึดอัดใจกับสถานการณ์แบบนี้ ตาเฒ่าหื่นพลางเหลือบมองรูปภาพของยุภาเมียรักที่วางอยู่บนชั้นวางทีวี

"ก็หนูแค่สงสัย" สก๊อยสาวพูดออกมาตามตรง "ทั้ง ๆ ที่ป้ายุภาก็เสียไปหลายปีแล้ว หนูก็เลยสงสัย ว่าทำไมลุงถึงไม่ยอมเป็นผัวใหแม่หนู เพื่อที่เราจะได้เป็นพ่อเลี้ยงลูกเลี้ยงไง?"

"ลุงแก่แล้วนังทราย..." คนขายน้ำเต้าหู้ตอบ "ขอร้องนะทราย กลับไปแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนได้ไหม?"

"ทำไมละ?" น้องทรายเผยอปาก ก่อนทำการปลดผ้าขนหนูผืนน้อยออก ลุงพลถึงกับหลับตาปี๋ ร้องพ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกด้วย ยุภา เรื่องนี้พี่ไม่ผิดนะ เรื่องนี้พี่ไม่ผิด

"นังทราย!!!!" ลุงพลร้องเสียงหลงก่อนหลับตาปี๋ "อย่าทำแบบนี้!!!"

"อย่าคิดว่ามีแต่แม่หนูที่ชอบลุงนะ" น้องทรายสารภาพ "ความจริงหนูก็ชอบลุงเหมือนกัน หนูชอบคนแก่แบบลุง หนูอยากมีพ่อ แต่ในเมื่อลุงเป็นพ่อให้หนูไม่ได้ งั้นลุงก็เป็น...เป็นผัวหนูแทนได้ไหม?"

น้องทรายจัดว่าเป็นเด็กสาวที่หุ่นดีเอาเรื่องเลยทีเดียว นมใหญ่เป็นก้อน เอวเป็นเอว โดยตรงเฉพาะขนตรงที่ลับที่ดกดำเอาเรื่อง ปฏิเสธไม่ได้หรอกนะว่าลุงพลเองก็มีความรู้สึก นี่ท่าเป็นเด็กสาวคนอื่นละก็ ลุงพลคงจะโจนใส่เข้าไปแล้ว แต่ว่า นี่มันนังทราย ที่ลุงพลและยุภารักและเอ็นดูเหมือนลูกเหมือนหลาน

"ท่านท้าว!!!! ผมบอกให้ท่านช่วยผม ผมไม่ได้หมายถึงแบบนี้!!!!" ลุงพลหลับตาปี๋ คิดในใจถึงท่านองค์ตุลาการสวรรค์ ตกลงนี่มันเวรกรรมอะไรของกูเนี่ย จัดน้องหมวยมาหยก ๆ ก็มาเจอน้องทรายอีก กะเอาให้ตายเลยใช่ไหม?

แต่ว่า...เสียงโทรศัพท์ของนังทรายก็ดังขึ้น สก๊อยสาวถึงกับเซ็งในอารมณ์ ก่อนหยิบผ้าขนหนูพันรอบตัวแล้วเดินกลับไปรับสายโทรศัพท์ ที่แม่ของเธอโทรมา

"ฮัลโหล!!! นังทราย!!!! มึงอยู่ไหนเนี่ย!!!!" ป้าแต๋วถามลูกสาวด้วยความเป็นห่วง

"แม่ยังเป็นห่วงหนูอีกเหรอ!!!" นังทรายยังไม่หายงอนแม่เลยตัดพ้อไปแบบนั้น "แม่ยังเห็นหนูเป็นลูกอีกเหรอ??"

"เอ้อ!!! แม่ขอโทษ!!!" ป้าแต๋วตอบ "โอ้ยยย ปวดหัวเว้ย!!!!"

"ก็อยากกินเหล้ามากเกินไปทำไม!!!" สก๊อยสาวตอบ

"ก็ข้าคอแห้งนี่หว่า!!! แค่อยากกินพอเป็นกระษัย ไม่คิดว่ามันจะเลยเถิดจนเรื่องมันกลายเป็นแบบนี้" ป้าแต๋วตอบ "เออ!!! แม่ขอโทษ แม่หลับไป นี่พึ่งตื่น เอ็งอยู่ไหน กลับบ้านได้แล้ว เดี๋ยวแม่เปิดบ้านให้!!!"

นังทรายดูสองจิตสองใจ ส่วนลุงพลก็เดินตามมาด้านหลัง เมื่อฟังจากการสนทนาแล้ว คิดว่านังทรายคงกำลังคุยเคลียร์ใจกับนังแต๋วผู้เป็นแม่อยู่

"หนูมาค้างบ้านลุงพล" นังทรายตอบ "หนูนังเอ๋อหน้าบ้านตอนแม่เมาเกือบทั้งคืน ลุงพลเห็นลุงพลเลยมารับหนูมาค้างที่บ้าน"

"เออ ๆ กลับมานอนบ้านเถอะลูก" ป้าแต๋วเริ่มสลด "แม่ขอโทษ แม่ผิดไปแล้ว ว่าแต่ลุงพลอยู่แถวนั้นไหน? ขอแม่คุยหน่อย"

"ทีอย่างนี้ละพูดเพราะเชียว แม่จ๋า ลูกจ๋า หึ๊ยยย!!!!" นังทรายเบ้ปากมองบน ก่อนหันไปมองลุงพลที่ยืนอยู่ด้านหลัง "ลุงพล!!! แม่หนูอยากคุยกับลุง"



"เออ ๆ" ลุงพลรับโทรศัพท์จากสก๊อยสาวเพื่อพูดคุยกับนังแต๋ว "นี่นังแต๋ว? มึงสร่างเมาแล้วเหรอ?"

"ดีขึ้นพี่..." ป้าแต๋วหัวเราะเจื่อน ๆ "เมื่อตอนเย็นนั่งเล่นไพ่กับเพื่อน แล้วมือขึ้น เลยจัดหนักไปหน่อย"

"มึงก็อย่ากินเหล้าให้มันเยอะไป อายเด็กมันบ้าง!!! เอ็งเป็นแม่คนแล้วนะนังแต๋ว!!! ทำตัวอย่างที่ดีให้ลูกดูซิวะ!!!" ลุงพลได้ทีสอนป้าแต๋วชุดใหญ่ ส่วนฉัตรพรบุตรสาวก็กอดอกยิ้มอย่างมีความสุข ที่ได้เห็นลุงพลสั่งสอนตวงพรผู้เป็นแม่ของตัวเอง

"เออ!!! เอ็งหายเมาก็ดีแล้ว เดี๋ยวข้าจะให้นังทรายกลับไปนอนบ้าน!!!" พอได้ยินลุงพลพูดแบบนี้ ทำเอาสก๊อยสาวถึงกับมองค้อน "ได้!!! โอเค!!!"

"ทำไมลุงพูดแบบนั้นอ่ะ!!!" นังทรายดูไม่สบอารมณ์อย่างมาก ที่ลุงพลเปลี่ยนใจไล่ให้เธอกลับไปนอนที่บ้าน

"เอ็งกลับไปนอนที่บ้านดีแล้ว" ลุงพลทำหน้าดุใส่สก๊อยสาว "แล้วทีหลังอย่าทำแบบนี้อีก!!! ข้าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่นะเว้ยเห้ยนังทราย!!! เอ็งเป็นสาวเป็นนาง อย่าทำแบบนี้ มันไม่ดี!!!"

"เห๊อะ!!! เล่นตัวจริง ๆ นิสัย!!!" นังทรายกระฟัดกระเฟียดใส่ลุงพล ก่อนเดินกลับไปแต่งตัวเพื่อเตรียมกลับบ้าน

"เฮ้อ...เกือบไป" ลุงพลได้แต่ยืนท้าวเอวส่ายหน้า เกือบไปแล้วไหมละ เกือบไปแล้ว ถึงแม้ว่าคนอย่างไอ้พลจะหื่นและบ้ากามยังไง แต่สำหรับนังทราย ที่เมียรักอย่างยุภาและตัวเองมองว่าเป็นลูกเป็นหลานแล้ว จะไม่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด

สุดท้าย พอนังทรายแต่งตัวเสร็จ ลุงพลเลยเดินไปส่งนังทรายที่หน้าบ้าน เด็กสาวพนมมือไหว้ขอบคุณลุงพลสำหรับทุกอย่าง ก่อนจากกัน ลุงพลได้ตักเตือนสก๊อยสาวในฐานะผู้หลักผู้ใหญ่

"เรื่องที่เกิดขึ้น ลุงจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น อย่าทำแบบนี้อีกเด็ดขาด"

น้องทรายที่ดูผิดหวัง ได้แต่พยักหน้า ก่อนเดินกลับบ้านที่หน้าปากซอย ลุงพลเหลือบไปเห็นนังแต๋วเปิดประตูมารับลูก ก็เลยโบกมือทักทาย ก่อนที่จะเดินกลับเข้าบ้านไปพักผ่อน เพื่อเตรียมตัวไปทำงานแต่เช้า

............................

ในวันรุ่งขึ้น ลุงพลกลับมาทำงานที่ร้านขายน้ำเต้าหู้ตามปกติ หลังจากผ่านค่ำคืนแห่งวิกฤติครั้งใหญ่มาได้  ในระหว่างที่ลุงพละกำลังใช้ตะเกียบคีบปาท่องโก๋อยู่นั่นเอง

"ลุงพล..." ภัคจิราในโหมดหน้าบึ้งปรากฏตัวขึ้นมาหน้าร้านของลุงพล

"ครูเบสท์?" ลุงพลหยิบผ้าขนหนูสีเหลืองที่พันรอบคอมาเช็ดหน้าของตัวเอง "จะรับอะไรดีครับ? ปาท่องโก๋น้ำเต้าหู้"

"ไม่ค่ะ..." อาจารย์สาวปฏิเสธ "เมื่อวาน ลุงพลขับรถปาดหน้าเบสท์ ทำไมคะ?"

"เอ่อ..." ลุงพลถึงกับหน้าถอดสี เมื่อวานแกรีบขับรถกลับบ้าน ก็เลยขับรถมอเตอร์ไซค์ปาดหน้ารถของใครก็ไม่รู้ ที่ไหนได้ นั่นมันรถของครูเบสท์ที่กำลังยืนกอดอกมองตัวเองอยู่หน้าร้าน



"ขับรถแบบนั้นอันตรายนะคะลุง" ภัคจิราต่อว่าลุงพลชุดใหญ่ "นี่ถ้าเบสท์เบรกไม่ทันจะทำยังไง?"

"ผมขอโทษครับครู ผมขอโทษ..." ลุงพลเอ่ยปากขอโทษชุดใหญ่ กับสิ่งที่ตัวเองได้ก่อขึ้นเมื่อวาน

"ที่เตือนที่เพราะหวังดีนะคะลุง ไม่ได้ต่อว่า" ครูเบสท์เอ่ยปาก "ว่าแต่เมื่อวาน ทำไมลุงถึงกลับบ้านดึกจังคะ ทำอะไรอยู่เหรอ? เบสท์เห็นลุงปิดร้านขายน้ำเต้าหู้ตั้งแต่สี่โมงเย็นแล้วไม่ใช่เหรอ?"

เอาแล้วไง ครูเบสท์เริ่มสงสัยในเรื่องที่ไม่ควรสงสัยซะแล้ว ลุงพลยืนนิ่งเงียบจนครูเบสท์ร่นคิ้วใส่

"เป็นอะไรหรือเปล่าคะลุง? ทำไมลุงดูแปลก ๆ จัง? ไม่สบายเหรอ?" อาจารย์สาวถาม

"เอ่อ...เปล่าครับ" ลุงพลตอบ

"ครั้งนี้เบสท์แค่เตือนนะคะ อย่ามีครั้งหน้าอีก" ภัคจิรากอดอกมองลุงพลด้วยท่าทางไม่พอใจนัก แต่ด้วยความที่ยังเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ อาจารย์สาวจึงยังให้เกียรติด้วยการพูดจาเตือนสติดี ๆ อยู่ "เบสท์ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ก็ฝากไว้เท่านี้นะคะลุง"

ภัคจิราเดินกลับออกไป ปล่อยให้ลุงพลยืนนิ่งเงียบอยู่คนเดียว เกือบไปแล้วไหมละ ความลับเกือบแตก

"ลุงพล!! น้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋สองคู่ครับ!!!!" เสียงเจ้าหน้าที่วิทยาลัยพยาบาลดังขึ้น ลุงพลจึงตื่นจากภวังค์แล้วรีบไปจัดแจงออเดอร์ให้ลูกค้าทันที

ลุงพลใช้เวลาตลอดทั้งวันไปกับขายน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ จนมาถึงช่วงบ่าย พี่เปิ้ล ผู้ช่วยหมอพลอยก็เดินเข้ามาทักทายที่หน้าร้าน

"สวัสดีค่า!!!" พี่เปิ้ลพนมมือไหว้ลุงพล "ขายดีไหมเนี่ยลุง? ยังพอมีเหลือไหมคะ?"

"ยังมีอยู่ครับ" ลุงพลยิ้ม ขณะกำลังหยิบผ้าขึ้นมาเช็ดมือ "จะสั่งอะหรือเปล่าครับ?"

"ไม่ใช่เปิ้ลหรอกค่ะ" สาวใหญ่ผู้ช่วยหมอพลอยยิ้ม "หมอพลอยต่างหาก คือหมอพลอยอยากกินน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋น่ะคะ พอดีเปิ้ลแวะมาทำธุระด้านนอก เลยมาสั่งออเดอร์ให้หมอพลอย"

"ได้ครับ เดี๋ยวลุงเอาไปส่งให้หมอพลอยที่ห้องพยาบาลนะครับ"

"ค่า!!!! ฝากด้วยนะคะลุง" พี่เปิ้ลสาวใหญ่พยาบาลผู้ช่วยหมอพลอยยิ้ม ก่อนเดินจากปล่อย ปล่อยให้ลุงพลยิ้มแป้นอยู่คนเดียว

"สงสัยคิดถึงละม้าง!!! น้องพลอยของพี่พล!!!" ลุงพลยิ้มแป้นอย่างมีความสุข

พอเตรียมของเสร็จ ลุงพลก็เอาป้ายขึ้นมาวางว่าไม่อยู่ และฝากร้านข้าง ๆ ช่วยดูร้านให้ ระหว่างที่เอาถุงน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ไปส่งให้หมอพลอยที่ห้องพยาบาล

"ฝากดูร้านให้ลุงหน่อยนะเว้ย เดี๋ยวลุงเอาน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ไปส่งให้หมอพลอยก่อน!!!"

"ได้ครับลุง ลุงไปเถอะ เดี๋ยวผมดูร้านให้!!!"

ว่าแล้วลุงพลก็เดินถือถุงน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ไปส่งให้หมอพลอยถึงห้องพยาบาล ระหว่างทางลุงพลก็เหลือบไปเป็นเหล่าบรรดานักเรียนมัธยมปลายจากโรงเรียนต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพ ปริมณฑลและต่างจังหวัด เดินมาสมัครเรียนที่วิทยาลัยพยาบาลแห่งนี้

เด็กสาวแต่ละคนหน้าตาน่ารัก แต่คงไม่มีใครเทียบชั้นได้กับหมอพลอย ขวัญใจของลุงพลได้อย่างแน่นอน

............................

"เอาน้ำเต้าหู้มาส่งครับ!!!" ลุงพลเปิดประตูห้องพยาบาลเข้าไป ภายในมีแต่ความว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่เลยแม้แต่คนเดียว จนกระทั่ง...

"ลุงพล" หมอพลอยเปิดประตูห้องทำงานออกมา "เอามาส่งแล้วเหรอคะ? เท่าไรคะเนี่ย?"

"30 บาทครับ" ลุงยื่นถุงน้ำเต้าหู้ให้หมอพลอยที่ยื่นแบงค์ร้อยกลับมาให้

"ไม่ต้องทอนนะคะ" พลอยพรรณยิ้มให้

"ไม่ได้หรอกครับ!!!" ลุงพลปฏิเสธ "ยังไงก็ต้องทอน"

"ไม่เป็นไรค่ะลุง!!!" พลอยพรรณตั้งใจอยากให้ทิปลุงพลแต่แรกอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ทำอีท่าไหน ลุงพลถึงได้งอแงแบบนี้

"ไม่ได้ครับ" ลุงพลพยายามยื่นเงินทอนให้หมอพลอย

"ลุงพล!!! หมอให้ทิปลุงไงคะ!!!" พลอยพรรณพยายามอธิบาย "ลุงรับไปเถอะ!!"

"ไม่ได้ครับ!!!" ลุงพลปฏิเสธ "ของซื้อของขาย คนเป็นพ่อค้าต้องซื่อสัตย์นะครับ!!!"

"หื้อ!!! เกิดมามีอุดมการณ์จ๋าอะไรตอนนี้ค่ะเนี่ยลุง!!!!" เจ้าหญิงน้ำแข็งค้อนใส่ "รับไปซิคะ"

"ไม่ได้หรอกครับ" ลุงพลส่ายหน้าและยิ้มให้หมอพลอย "ลุงรู้นะครับว่าหมอใจดี แต่บางอย่างลุงว่ามันก็ต้อง..."

"อือ..." พลอยพรรณพยักหน้า "เข้าใจแล้ว...ศักดิ์ศรี จรรยาบรรณ ไม่คิดว่าคนอย่างพี่พลจะมีมุมแบบนี้นะคะ"

หมอพลอยเปลี่ยนคำสรรพนามที่เรียกมนุษย์ลุง ทั้งคู่ยิ้มให้กัน ต่างฝ่ายต่างรู้สึกคล้าย ๆ กัน จนกระทั่ง...



"พี่พลคะ..." พลอยพรรณเอ่ยปาก "พลอยมีอะไรอยากจะขอพี่พลหน่อย"

"อะไรเหรอครับน้องพลอย?" ลุงพลยิ้ม

"ถ้าเสร็จธุระเรื่องยกเลิกงานหมั้นกับพี่บอย บางทีพลอยอาจจะลาออกจากวิทยาลัยพยาบาลน่ะคะ"

"เอ๋? ทำไมเหรอครับ?" ลุงพลดูตกใจมาก "เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ? หมอพลอยอยู่ที่นี่แล้วไม่มีความสุขเหรอ?"

"พลอยแค่อยากเปลี่ยน..." พลอยพรรณตอบด้วยท่าทางเนียมอายเล็กน้อย "พลอยอยากไปสร้างคลินิกเล็ก ๆ ที่ต่างจังหวัด ไปใช้ชีวิตสงบ ๆ ที่ไหนสักแห่งในประเทศไทย ก็เลยคิดว่าอยากจะชวนพี่พลไปอยู่ด้วย ลาออกจากที่นี่ หนีความวุ่นวายไปอยู่ด้วยกันนะคะ..."

"น้องพลอย..." รอยยิ้มของเจ้าหญิงน้ำแข็ง ทำเอาหัวใจของลุงพลเต้นตุบ ๆ ยิ่งกว่ากระเดื่องวงเฮฟวี่เมนทัล "น้องพลอยของพี่!!!!"

เรียกได้ว่านี่คือชัยชนะสำหรับผู้ชายอย่างลุงพล ที่สามารถคว้าหัวใจของหมอพลอย ขวัญใจของหนุ่ม ๆ หลายคนมาได้เป็นผลสำเร็จ ด้วยความดีใจเกินเหตุ ลุงพลเลยโผลเข้าไปกอดหมอพลอยโดยลืมไปว่า ณ ที่ตรงนี้คือสถานที่ราชการ

"มากอดพลอยตรงนี้ไม่ได้นะคะพี่พล!!!!" พลอยพรรณดูตกใจมาก "ที่นี่สถานที่ราชการนะคะ!!!"

............................


หลังจากทราบข่าวว่าหมอพลอยกำลังมีปัญหากับนายบอย กรวิทย์ก็เลยลงทุนไปซื้อดอกกุหลาบมาให้หมอพลอยที่ห้องพยาบาล เพื่อหวังขอเคลียร์ใจกับฝ่ายหญิง และขอเริ่มต้นความสัมพันธ์....ครั้งที่เท่าไรไม่รู้

ช่วงสมัยเรียน กรวิทย์และพลอยพรรณเคยมีช่วงเวลาดี ๆ ให้กัน ใครต่อใครต่างนิยามความสัมพันธ์ของทั้งคู่ว่าเป็นคนรักกัน เพราะเห็นว่าทั้งสองคนมักไปไหนมาไหนด้วยกัน จนเพื่อนชายของกรวิทย์เอ่ยปากถามว่า ตกลงหนุ่มกรได้เจาะไข่แดงน้องพลอยหรือยัง

"ยังเลย..." กรวิทย์ในสมัยเรียนปริญญาโทคณะเภสัชตอบเพื่อน ๆ ในวงเหล้า ที่ต่างส่งเสียงโห่ด้วยความไม่พอใจ

"มีโอกาสก็เคลมซะไอ้กร!!!!" เพื่อนพ้องในวงเหล้าของกรวิทย์เตือน "เดี๋ยวหมาคาบไปแดกส์ไม่รู้ตัวนะเว้ย!!!"

กรวิทย์เองก็อยากทำแบบนั้น แต่ว่าน้องพลอยเป็นผู้หญิงที่ไว้ตัว ขนาดแค่จะจับมือ น้องพลอยยังทำตาขวางใส่ จนชายหนุ่มผู้แสนดีต้องเกรงใจ น้องพลอยเด็กแพทย์ศาสตร์ย้ำกับพี่กรว่าถ้ารักต้องรอให้ได้และให้เกียรติเธอ ซึ่งกรวิทย์ก็ตกลงและนำไปปฏิบัติเป็นอย่างดี

กรวิทย์ดูแลพลอยพรรณเป็นอย่างดีจนจบปริญญาตรี จนกระทั่งพลอยพรรณไปเรียนต่อปริญญาโทที่อเมริกา ทั้งคู่ได้พูดคุยกันเพื่อทบทวนสถานะความสัมพันธ์อีกครั้ง



(เมื่อเธอมีทางชีวิตไม่เหมือนฉัน ฉันห้ามไม่ได้ แต่ฉันจะมีชีวิตเพื่อรอเธอ แม้วันสุดท้าย... เพลงมันเข้ากับความสัมพันธ์ของสองคนนี้ดีครับ ไม่มีอะไร 5555)

"พี่กรคะ พี่กรเป็นคนดี แต่ว่า..." พลอยพรรณเอ่ยคำพูดบางอย่าง ที่อาจทำร้ายจิตใจกรวิทย์พี่ชายที่แสนดี แต่ว่ามันจำเป็นต้องพูด "พลอยยังอยากมีอนาคต พลอยยังมีความทะเยอทะยาน ที่อยากประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน พี่กรเข้าใจพลอยใช่ไหมคะ?"

"พี่เข้าใจครับ" กรวิทย์พยักหน้า

"พลอยไม่อยากให้พี่เสียเวลาไปกับการรอคอยผู้หญิงที่เห็นแก่ตัวแบบพลอย" พลอยพรรณกุมมือกรวิทย์ "ลองเปิดใจมองผู้หญิงคนอื่นดูบ้างนะคะพี่กร"

"พี่มองคนอื่นไม่ได้..." สุภาพบุรุษผู้ซื่อสัตย์ตอบ "สายตาและหัวใจของพี่ มีแค่ผู้หญิงคนเดียวที่ชื่อพลอยพรรณ"

พลอยพรรณทำได้แต่ยิ้ม หญิงสาวเองก็รู้สึกผิดต่อกรวิทย์ แต่ทำไงได้ เธอยังอยากมีอนาคต ยังอยากประสบความสำเร็จ และยังอยากใช้ชีวิตโสดต่อไป

...ตัดมาที่ปัจจุบัน

"ไอ้กร มึงจะบ้าหรือไงวะ!!!" เพื่อนของกรวิทย์เอ่ยปากเตือนเภสัชหนุ่ม "มึงจีบน้องพลอยมาสิบปีแล้วยังไม่มีอะไรคืบหน้า มึงจะกลับไปหาน้องพลอยอีกทำไม อย่าทำตัวให้เป็นของตายนักซิวะ"

"ก็ทำไงได้ กูรักน้องพลอยนี่หว่า" เภสัชหนุ่มตอบ ถึงรู้ว่าใครต่อใครบอกให้ตัดใจ แต่หัวใจทั้งสี่ห้องของกรวิทย์มีเพียงแค่น้องพลอยเท่านั้น



"แล้วน้องเค้กละ? ตกลงเอาไง?"

"กูคิดว่ากับน้องเค้ก เราคงเป็นได้แค่พี่น้องกันว่ะ" กรวิทย์ตอบ

ในวันนั้น กรวิทย์แต่งตัวหล่อ เพื่อเตรียมเอาดอกกุหลาบช่อใหญ่ไปให้หมอพลอย แต่เพราะติดธุระเรื่องคดีความที่บ้าน ก็เลยทำให้กำหนดการของเภสัชหนุ่มช้าไปหน่อย กว่าทุกอย่างจะจบลงก็ใกล้จะหมดเวลาราชการ กรวิทย์หยิบช่อดอกกุหลาบสีแดงไปหาหมอพลอยที่ห้องพยาบาล แต่ว่า

"น้องพลอย..." ภาพที่กรวิทย์เห็น คือภาพที่ลุงพลกำลังกอดกับหมอพลอยอยู่ภายในห้องทำงานของเธอ "นี่มันอะไรกันครับเนี่ย!!! ไอ้แก่นี่ทำอะไรน้องพลอยครับ!!!"

"พี่กร!!! พี่กรมาที่นี่ได้ยังไงคะ!!!" พลอยพรรณรีบผละออกมาจากอ้อมกอดของลุงพลด้วยความตกใจ อยู่ดี ๆ ทำไมกรวิทย์ถึงมาปรากฏตัวตอนนี้เนี่ย!!!

"มึงออกไปให้พ้นตัวน้องพลอยนะ!!!" กรวิทย์ที่ขาดสติเดินเข้าไปฮุคขวาใส่ลุงพล จนถุงน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ที่แกถือมาตกแตกใส่พื้น

"พี่กร!!!! นี่มันอะไรคะเนี่ย!!!" พลอยพรรณดูไม่พอใจอย่างมาก ที่อยู่ดี ๆ กรวิทย์โผล่มาจากไหนไม่รู้ แล้วมาฮุคขวาใส่ลุงพลลงไปนอนกองบนพื้นที่ชุ่มไปด้วยน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ที่ตกกระจาย "หยุดเดี๋ยวนี้นะคะ!!!! ถ้าไม่งั้นพลอยจะโทรแจ้งให้ยามมาจับตัวพี่!!!!"

กรวิทย์หน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ ก่อนหันไปมองพลอยพรรณด้วยความเสียใจ นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น? ทำไมอยู่ดี ๆ น้องพลอยถึงมากอดกับลุงพลอดีตนักการภารโรงได้

...รักเธอมาสิบปี ใจเธอไม่เคยได้ครอบครอง แต่เขาที่มาใหม่ไม่ถึงสิบนาที กลับได้สานสัมพันธ์กับสาวที่ตนรักไปไกลถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ ดูแล้วมันน่าเจ็บใจจริง ๆ


โปรดติดตามตอนต่อไป...


ตัวอย่างตอนต่อไป (อยากรู้โปรดคอมเมนต์ครับ)


หลังจากตัดสินใจบางอย่างได้ กรวิทย์เลยตัดสินใจขับรถไปหาน้องเค้กที่ฟิตเนสแห่งหนึ่งในกลางเมือง เพื่อกลับไปสานสัมพันธ์อีกครั้ง หลังจากคิดได้ว่า ถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องตัดสินใจบางอย่าง ก่อนที่มันจะสายเกินไป



"กูควรทำยังไงดีวะ?" กรวิทย์ตัดพ้อกับกลุ่มเพื่อนสนิท

"ตัดใจจากน้องพลอยซะ" เพื่อนของกรวิทย์ตอบ "แล้วกลับไปหาน้องเค้ก"

"แต่ว่า..."

"มึงยังจะแต่อีกเหรอว้า!!!" เพื่อนสนิทของเภสัชหนุ่มเริ่มหัวเสีย "ถ้ามึงยังลีลาเยอะ ระวังเถอะ สุดท้ายแล้วมึงจะไม่เหลือใคร คิดซิคิด!!!!"

"บางครั้งคนเราก็ต้องเลือกคนที่เขารักเรานะเพื่อน" เพื่อนสนิทอีกคนของกรวิทย์ตบท้าย

สุดท้ายกรวิทย์เลยคิดได้ และขับรถไปหาน้องเค้กที่กำลังออกกำลังกายที่ฟิตเนส ด้วยความหวังว่าทุกอย่างยังไม่สายเกินไป

"เค้ก..." กรวิทย์เหลือบไปมองช่อดอกไม้ช่อใหม่ที่ตัวเองซื้อมา "หวังว่ามันคงยังไม่สายเกินไปใช่ไหม? ให้โอกาสพี่นะเค้ก"

แต่แล้ว เมื่อกรวิทย์เปิดประตูสถานฟิตเนสเข้าไป ภาพที่กรวิทย์ไม่คิดว่าจะเห็นก็ปรากฏขึ้น

"อ่าว? คุณกรวิทย์ มาออกกำลังกายเหรอครับ?" ลุงพลที่กำลังถือดัมเบลข้างละ 15 กิโลยืนอยู่ตรงหน้า ลุงพลมาทำอะไรที่นี่เนี่ย กรวิทย์คิด

"เค้ก..." เภสัชหนุ่มผู้แสนดีแทบล้มทั้งยืน มือไม้อ่อนจนช่อดอกไม้ที่ถือมาตกลงไปกองบนพื้น

"แกอีกแล้วเหรอ..." กรวิทย์ถึงกับส่ายหน้า เพราะภาพที่เห็นก็คือภาพของลุงพลกำลังยืนกอดกับหมอเค้กอยู่ภายในห้องฟิตเนส

"มาก็ดีแล้วค่ะพี่กร..." เค้กยิ้มยั่วใส่กรวิทย์ผู้โง่เขลา ก่อนหันไปซบอกลุงพลที่เปลือยช่วงบน "บอกพี่กรไปซิคะลุงพล ว่าเค้กกับลุงพล เราสองคนรักกัน"


......................


 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ฝากติดตามเพจเฟสบุ๊คของผมด้วยนะครับ

https://web.facebook.com/Nato87.The.Storyteller

Khunhan Chansuk


ananchai2002




livpool


cdx

ได้โปรด อดีตชาติ ครูเบส ก็รักลุงพล ชาตินี้ตอนครูเบสเสร็จลุงพล ขอให้ยอมด้วยใจเถิดนะ อย่างให้ลุงพลต้องขืนใจเอา เหมือนหลายๆ สาวที่ผ่านมา




pssbr

เกือบถูกน้องทรายเล่นซะแล้ว ว่าแต่หมอพลอยนี้หลงรักลุงพลจนถึงขนาดจะลาออกหนีไปอยู่ด้วยกันเลย


thesee



wut tong