ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

เทศกาลใหญ่ ใจสั่นระรัว 4 : ห้องพิม

เริ่มโดย 𝘝𝘦𝘭𝘢𝘫𝘶𝘦𝘭, ธันวาคม 09, 2020, 12:09:08 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

𝘝𝘦𝘭𝘢𝘫𝘶𝘦𝘭

"เฮียคะ ไปห้องพิมกันค่ะ"

     สาวสวยที่ทำให้ผมตกตะลึงยิ้มหวานแฝงความเย้ายวน ก้าวเท้ามาหา และจับมือผม ให้เดินตามเธอกลับไปขึ้นรถแท๊กซี่คันเดิม


แด่ xonly8

เทศกาลใหญ่ ใจสั่นระรัว 4

   ระหว่างการเดินทางไปห้องพักของเธอนั้น เราก็คุยกันเรื่อยเปื่อยเพื่อทำลายความเงียบ และลดอาการประหม่า มันจริงอยู่ที่เราเคยคุยกันบ้าง ผ่านโซเชียลแพลทฟอร์ม แต่การได้คุยกันต่อหน้า และยินน้ำเสียง และได้สังเกตอากัปกิริยาของเธอต่อหน้ามันเป็นคนละเรื่องกัน คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่ชายหนุ่มธรรมดาคนหนึ่งจะได้รับโอกาสพิเศษคุยกับหญิงสาวในวัยเจริญพันธุ์ ผู้มีหน้าตาน่ารักเป็นที่ประทับใจของใครหลายคนแบบนั้น พิมไม่ได้สวยและเด่นดังเมื่อเราเอามาตรฐานดารา ไอดอล หรือใครก็ตามที่เป็นหน้าเป็นตาของสังคมมาเปรียบเทียบ ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังมีความสวยความงามตามแบบฉบับของเธอ เหมือนกับสาวน่ารักๆออฟฟิศทั่วไป ที่ใครเห็นก็อยากมีโอกาสได้ชิดใกล้กันทั้งนั้น

   ระยะทางระหว่างห้องพักผม กับห้องของเธอในเขตบางนานั้นจัดได้ว่าไกล เมื่อนำเอาปัจจัยสภาพการจราจรในเวลาปกติมาเกี่ยวข้อง แต่วันนี้เราใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงในการเดินทาง เพราะในหน้าเทศกาล คนส่วนใหญ่เดินทางออกต่างจังหวัดกันทั้งนั้น พิมเล่าให้ฟังถึงชีวิตการทำงานประจำวัน การกินการอยู่ เธอเป็นคนสุโขทัย ที่ได้มาฝึกงานในบริษัทใหญ่ และได้รับการชักชวนให้มาเป็นพนักงานประจำหลังฝึกเสร็จ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่เธอได้มาทำงานถึงทุกวันนี้พร้อม ๆ กับแตงโม หรือเรียกสั้นๆว่าโม ผมถามพิมว่าโมคือคนไหนในรูปของเธอบ้าง พิมก็ส่งรูปของเธอ ที่ถ่ายคู่กับเพื่อนสนิทขณะไปดื่มกินที่ผับแห่งหนึ่ง

     ผมต้องขออนุมานเอาเองว่า หญิงสาวที่มีหน้าตาสะสวยเป็นมาตรฐานนั้น มักจะมี stereo type คล้ายๆกันคือ มักจะมีเพื่อนที่ไม่สวย ผมได้ยินเหตุผลในเชิงขำๆมาว่า ที่เธอมีเพื่อนไม่สวย เพราะเวลาเดินด้วยกัน เธอจะได้เป็นดาวเด่นอยู่เสมอ จริงแท้เป็นอย่างไร ไม่มีใครทราบได้ แตงโมเป็นสาวสุโขทัยเหมือนพิม แต่เธอนั้นเป็นคนเจ้าเนื้อ แต่ตัวเล็ก ซึ่งรวมๆแล้วไม่ได้อยู่ในประเภทที่ผู้ชายจะหลงใหลเมื่อมองจากภายนอก  สรุปว่าไม่สวยละกัน ผู้อ่านจะได้ไม่สับสนในที่สุด

   ก่อนหน้าที่พิมจะมาเจอผม พิมเล่าให้ฟังว่าพิมเป็นเลสเบียน พิมเคยคบผู้ชายแล้วเลิก(ไม่ได้บอกเหตุผล) และก็เปลี่ยนรสนิยมตนเองมาคบเพศเดียวกันเอง ปกตินั้นเธอไม่ได้ปล่อยตัวปล่อยใจให้ผู้ชายขนาดนี้ ซึ่งผมเป็นคนแรกที่ทำให้เธอเผลอตัวหลังจากที่ปิดกั้นตัวเองมานาน ผมแอบถามเธอว่าเธอพึงพอใจกับเมื่อวานไหม เธอก็ไม่ได้ให้คำตอบตรงไปตรงมานัก

"เฮียไม่รู้จักร่างกายผู้หญิงดีเท่าพิมหรอก"

     เธอว่ามาแค่นั้นพร้อมกับรอยยิ้มเรียบ ๆที่ปรากฏ บนใบหน้าสวยของเธอ ผมได้แต่นึกเกาหัวในใจ 'กูทำอะไรผิดไปวะ เมื่อคืนก็มีอารมณ์ตามนี่หว่า'

   แท็กซี่มาส่งที่อพาร์ทเมนท์สวัสดิการบริษัทอันกว้างใหญ่ เราทั้งคู่ลงจากแท็กซี่แล้วเดินขึ้นชั้นสองไป ใจผมเต้นตุ้มๆต่อมๆ อยากจะให้โมไม่อยู่ในห้องพัก ณ เวลานั้น พิมเดินไปจนถึงช่วงกลางระหว่างชั้น และไขกุญแจเข้าห้องพักไป เมื่อเข้ามาในห้อง ยามนั้นเป็นเวลาค่ำแล้ว พิมจึงเปิดไฟจากสวิทซ์ข้างประตู ไม่มีใครอยู่ในห้อง ห้องของพวกเธอนั้นเรียบง่าย มีตู้เสื้อผ้ากั้นตรงกลางห้อง ที่นอนของพวกเธอเป็นฟูกปูพื้น อยู่ส่วนใครส่วนมัน เป็นวิถีชีวิตของสาวที่เพิ่งเริ่มต้นชีวิตวัยทำงาน ไม่ได้คิดจะลงหลักปักฐานแน่นอน ยังคงมีทางเดินให้เลือกอีกมากในชีวิตภายภาคหน้า

"พิมขออาบน้ำแปปนึงนะคะ เฮียนั่งรอพิมตรงนี้นะ"

     พิมพูดขณะดึงผ้าเช็ดตัวที่แขวนตรงระเบียงลงมา และไปคว้าชุดที่เธอเตรียมจะเปลี่ยนจากตู้เสื้อผ้าของเธอ ผมมองไปที่ฟูกนอนของเธอ พิมปูที่นอนด้วยผ้าปูลายแมวมารี สงสัยเธอคงชอบกระมัง ผมนั่งลงตามเธอว่าอย่างเรียบง่าย ในใจกำลังนึกหาโอกาสได้ใกล้ชิดเธออีกสักหน่อย

     พิมใช้เวลาอาบน้ำไม่นาน ก็ออกมาพร้อมสาวเดี่ยวสีดำ และกางเกงยีนส์ขาสั้น อันเป็นชุดที่ส่งสัญญาณได้ว่าคืนนี้เธออยากไปไหน

"ขอพิมแต่งหน้าแปปนึงนะคะเฮีย"

"วันนี้จะไปไหนจ้ะ"

     ผมถามขณะที่ค่อยๆลุกจากที่นอนอย่างเงียบๆ ย่องเดินตามพิมที่กำลังเดินไปโต๊ะเครื่องแป้ง


"วันนี้พิมนัดกับเพื่อน แล้วก็พี่แมน ว่าจะไปผับแถวศรีนครินทร์"

     ผมสะดุ้งกับชื่อของผู้ชาย แต่ยังเก็บอาการและกลั้นใจถามต่อ "พี่แมนไหน?"

"เฮียไม่รู้จักหรอก แต่เดี๋ยวเขาก็มารับค่ะ น่าจะใกล้มาถึงแล้ว"

     ใจผมฝ่อลงในทันที ผมนึกไม่ถึงกับบุคคลที่เธอรู้จักและจะมาหาในเร็วๆนี้ ต้องยอมรับด้วยใจจริงว่า โลกของเธอนั้นเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ซึ่งผมไม่ได้รู้จัก และเธอไม่เคยแสดงให้ผมเห็นด้านใดออกมาเลย การที่พิมนำเสนอแต่ส่วนแต่เป็นข้อดีของเธอในโซเชียลนั้น เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่คนทั่วไปทำกัน ในขณะเดียวกัน ยิ่งได้รู้จักเธอใกล้ชิดมากขึ้น สนิทกันมากขึ้น ผมจะสามารถยอมรับวิถีชีวิตของเธอ ผู้คนที่ใกล้ชิดของเธอได้มากแค่ไหน หรือเป็นผมเสียเองที่ต้องยอมถอดใจจากพิมในครั้งนี้

   ถึงกระนั้น ผมก็ยังเข้าไปกอดพิมจากด้านหลัง

"หอมจังเลยพิม..."

     ผมว่า แล้วจูบลงบนหัวไหล่ผ่องใสนั้น หยดน้ำที่เกาะบนหัวไหล่สัมผัสที่ริมฝีปาก เย็นสดชื่นเหลือเกิน พิมไม่ว่าอะไร เธอยังคงตั้งใจเขียนคิ้วต่อไป สองมือของผมที่กอดหน้าท้องพิมอย่างหลวมๆ ลูบหน้าท้องเรียบสวยของเธออย่างชื่นชมและรักใคร่เบาๆ จากนั้นผมก็ก้มลงไปจูบบริเวณหลังคอของพิม

"ซี๊ดดด........"

     พิมสูดปากครางอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ผมก็ลืมไปว่าเธอมีอาการแบบนี้มาก่อน ไหล่ทั้งสองหดเกร็งขึ้น และผิวหนังเธอมีอาการเกร็งจนขนลุก

"เฮียคะ พิมเสียวค่ะ"

     เธอบอก มือของพิมกำดินสอเขียนคิ้วแน่น จ้องมองผมผ่านกระจกแต่งหน้าด้วยสายตาที่บ่งบอกอารมณ์ได้สุดๆ ผมจึงถามเธอด้วยอาการแหย่เย้า

"เสียวเพราะอะไรหืม"

     พลางใช้ริมฝีปากขบเนินหลังด้านขวาของพิม เธอสูดปากอีกครั้ง มือซ้ายที่ว่างของพิมลงไปคว้ามือผมเพื่อหาที่ยึดจับไว้

"พิมไม่ได้แกล้งเสียวนะคะเฮีย ไม่รู้เป็นอะไร แต่พิมเสียวทุกครั้งที่โดนเล่นที่หลัง"

     ขณะนั้นผมยังไม่ค่อยเชื่อเธอดี อีกทั้งยังเกิดอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก จึงคิดอยากแกล้งเธออีกสักหน่อย ผมลงเขี้ยวกัดเข้าที่แผ่นหลังเธอจุดเดิม และออกแรงดูดหลังเธอราวกับจะดึงแผ่นเนื้อให้หลุดออกมา

"เฮี๊ยยย....." เธอร้องสุดเสียงอย่างไม่ทันตั้งตัว

"ซี๊ดดด......" พิมครางต่ออาการสูดปากจนลมหายใจสั่น

"พอก่อนค่ะๆ"

เธอเอี้ยวตัวสะบัดให้ปากผมหลุดจากแผ่นหลังที่เป็นจุดอ่อนของเธอ หันมาจ้องมองผมด้วยสายตาอ้อนวอน ขณะนั้นผมไม่แน่ใจว่าตนเองมีสีหน้าอย่างไร พิมมองหน้าผมและชะงักเล็กน้อย แต่ไม่นาน

"เดี๋ยวเราต้องไปด้วยกันอีกยาวนะคะ เฮียช่วยพิมอย่างนึงได้มั้ยคะ?"

     พิมพูดก่อนหันหลังกลับไปจัดการคิ้วของเธอให้เสร็จอย่างเร่งรีบ ผมไม่พูดอะไรต่อ เดินกลับไปนั่งบนฟูกที่นอนเธอเหมือนเดิม ขณะนั้น มีหลายสิ่งมันตีกันในตัวผมเป็นอย่างมาก ผมเกิดอารมณ์ขุ่นข้องกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน มันทำลายความสุขที่ผมเฝ้าเก็บเกี่ยวจากพิมไปจนหมด จนผมพลั้งทำร้ายพิมไปด้วยความคิดชั่ววูบ ไม่ได้คิดในขณะนั้นว่าเธอจะรู้สึกอย่างไร และด้วยความไม่สามารถควบคุมสภาวะทางอารมณ์ให้มั่นคงได้ ผมได้แต่พยายามสะกดใจตัวเองไม่ให้ออกอาการใด ๆ เพิ่มเติมเท่านั้น หากมีอะไรก็ตามมาสะกิดผมอีกครั้ง ผมคงทนเก็บมันไว้ต่อไปไม่ได้แน่ๆ

     เมื่อเธอเห็นผมเงียบแบบนั้น จึงรีบเขียนคิ้วให้เสร็จแล้วเดินมาหาผม จากนั้น จู่ๆ เธอก็จับมือผมกางออก ผมเงยหน้ามองเธอด้วยความสงสัย พิมยิ้มเรียบๆ วงคิ้วของเธอเขม่นลงเล็กน้อย แล้วเธอก็หย่อนตัวลงมานั่งคร่อมตักผม ผมไม่ทันตั้งตัวกับการเข้าหาของพิม ได้แต่นั่งตัวแข็งทื่อ พิมดูชอบใจกับผลตอบรับ เธอช้อนหน้าผมขึ้นมาจ้องดวงตาที่มีประกายสดใสนั้น

"เฮียช่วยอะไรพิมอย่างนึงได้มั้ยคะ"

เธอย้ำคำเดิม สองมือที่ช้อนหน้าผมนั้นขยับไปมาราวกับจะนวดหน้าให้ผม

"ช่วยอะไร?" ผมมองเธอด้วยความสงสัย

"บอกก่อน ช่วยพิมได้มั้ย"

"....." มันคงไม่เหลือบ่ากว่าแรงผมมั้ง? "ได้สิพิม ให้ช่วยอะไรครับ?"

   จู่ๆ พิมก็เพ่งมองผมด้วยสายตาจริงจัง แต่ในดวงตานั้น มันมีความรู้สึกบางอย่างที่สั่นคลอนอยู่สะท้อนกลับมา

"พิมรู้......"

     เธอพูดและกลืนน้ำลาย จากนั้นสวมกอดผม ผมที่อยากรู้คำขอเธอก็ตอบรับอ้อมกอดด้วยความยินดี ในขณะที่หัวใจตัวเองมันเหมือนจะหดเล็กลง เพราะคำเกริ่นนี้ ไม่เหลือทางอื่นที่จะพูดต่อมากนัก และมันเป็นจริงดังที่ผมคิดไว้

"พิมรู้ว่าเฮียมีแฟนแล้ว"
น้ำเสียงพิมมันมีอาการสั่นๆ แต่เธอคงพยายามเก็บอาการอย่างหนัก "แต่พิมแอบชอบเฮียมานานแล้ว...พิมไม่ได้คิดจะแย่งเฮียไปจากเขานะคะ"

มือของพิมที่กอดผมไว้มีการขยับไปมา ร่างกายของเธอมีอาการเหมือนสะอึก ครึ่งหนึ่ง จากนั้นก็หยุดลง เธอจึงพูดต่อ

"พิมอยากจะมีความสุขตอนอยู่กับเฮียให้มากที่สุด เฮียรับปากได้ไหมว่าจะอยู่กับพิมตลอดช่วงวันหยุดนี้"

   ผู้อ่านครับ ตอนผมพิมพ์ขณะนี้ ผมรู้สึกย้อนกลับไปวันนั้น มันบีบคั้นหัวใจเหลือเกิน ผมจำได้ว่าผมกอดพิมด้วยอ้อมแขนของผมอย่างแน่นหนา ราวกับอยากหลอมร่างเธอเข้ากับตัวผม ให้เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ให้เธอกลายเป็นอวัยวะใด ๆ ก็ตามที่ผมจะได้เห็น รู้สึก สัมผัส และได้ใช้ในชีวิตประจำวันผมเหมือนแขน ขา ฯลฯตลอดไป 

   ผมคลายอ้อมกอดของผมออกมา แล้วถอนหน้าออกมามองพิม ใบหน้าของพิมมีรอยประทับแห่งความเศร้าอยู่บนนั้น ผมใช้นิ้วไล้เส้นผมของเธอที่ปรกหน้ามาเก็บทัดหูอย่างแผ่วเบา พิมคงมีอาการประหม่า เธอซ้อนเส้นผมส่วนนั้นเก็บด้วยตัวเองอีกครั้ง แล้วหายใจเข้าด้วยอาการคัดจมูก ผมใช้ปลายนิ้วชี้ไล้แก้มของเธอที่เจือสีแดงเรื่อๆ แล้วค่อยๆ เคลื่อนหน้าเข้าไปจูบกับพิมครู่หนึ่ง จากนั้นหอมแก้มทั้งสองข้าง แล้วบอกกับเธอ

"ได้สิพิม"

     ผมตอบเบาๆ มองดวงตาเธออีกครั้ง ไม่รู้เพราะอะไรเธอถึงได้ชอบคนอย่างผม ผมที่ไม่ได้มีความรู้สึกให้เธอ เท่ากับที่เธอมอบให้ผม และเป็นผมที่ยังเป็นคนรักสนุก คิดจะเล่นกับเธอเพื่อคลายอารมณ์เหงาตนเองเท่านั้น แต่ขณะนั้นผมไม่ได้รู้สึกผิดอะไรมากนัก ในใจของผมได้เพียงคิดตักตวงหาความสุขจากเธอ แต่อย่างไรก็ตาม สัญญาที่ให้ไปนั้นเป็นความจริงใจของผมเท่าที่จะมีให้ได้ในเวลานั้น

"ขอบคุณค่ะ"

เธอว่า แล้วจูบเข้าที่หน้าผากผม จากนั้นพิมลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ ที่ผมเพิ่งสังเกตว่า มันสั่นได้สักพักหนึ่งแล้ว

"ค่า... กำลังจะลงไปค่ะ.... ค่ะ.. ค่ะ ๆ.. พิมพูด ขณะเอื้อมมือไปหยิบของจุกจิกใส่กระเป๋าใบเล็ก   "เดี๋ยวพิมมีแฟนติดรถไปด้วยนะคะ พี่แมน"

ผมหันขวับไปมองหน้าพิม ใบหน้าของพิมเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความทะเล้น ความเศร้าเมื่อครู่หายไปเป็นปลิดทิ้ง พิมสร้างความตะลึงให้กับผมไม่รู้จบ 

........................
ผมซ่อนข้อความเพื่อตอบกลับคอมเม้นท์ตอน3 นิดหน่อยครับ ไม่มีเนื้อหาเพิ่มเติม คุณผู้อ่านเลือกจะตอบ หรือไม่ตอบก็ได้ครับ

 



ตอนที่ 5 : กลุ่มเที่ยว
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
𝘓𝘪𝘬𝘦 𝘪𝘯 𝘵𝘩𝘦 𝘣𝘰𝘰𝘬𝘴, 𝘸𝘩𝘦𝘳𝘦 𝘺𝘰𝘶 𝘬𝘯𝘰𝘸 𝘵𝘩𝘦 𝘰𝘶𝘵𝘤𝘰𝘮𝘦, 𝘣𝘶𝘵 𝘺𝘰𝘶 𝘱𝘭𝘢𝘺 𝘪𝘵 𝘰𝘶𝘵 𝘫𝘶𝘴𝘵 𝘵𝘰 𝘴𝘦𝘦 𝘩𝘰𝘸 𝘪𝘵 𝘸𝘰𝘶𝘭𝘥 𝘩𝘢𝘱𝘱𝘦𝘯.

delealpi

เดาทางไม่ถูกจริงๆ เป็นกำลังใจให้ครับ

darkside

พิมจะชวนไปเล่น outdoor ละ

สงสัยลืมแฟนไปเลย   5555

silencer001

น่าจะเป็นไม้กันหมาแต่ก็เดาทางยากนิดนึงเมื่อไรจะได้สาวพิมหนอ

Asujimaster

#4
คนชื่อพิม  สวยทุกคน ว่ามั้ย

มันเหมือนเป็น stereo typeจริงๆครับ

Nong5670

แอบชอบมานานแต่ไม่ยอมให้อึ้บสักทีนะน้องพิม

piya kanakit


tip251226



pomse


phaii

พี่แมนต้องเป็นเก้งกวางแน่ๆ ผมสัมผัสได้

zero009


outsider

พี่แมนนี่มันจะแมนจริงๆรึเปล่า หรือว่าก็แค่คนท่มาจีบพิมคนนึง งั้นเฮียช่วยกันให้พิมหน่อยนะ

olemantu

เหมือนกับว่า พิมเธอคบไว้ทังสองคน แต่อีกคนนั้นสถานะไหนยังไม่แน่ชัดละกันเนอะ

wut tong

ไปกันหลายคนด้วยแล้วน้องพิมเป็นเลสอีกจะยังไงต่อไป