ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_nato87

เกมรักภารโรงเฒ่า ปี 2 ตอนที่ 12 : เปิดหวอรอรัก Pt1

เริ่มโดย nato87, ธันวาคม 14, 2020, 11:18:57 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ในบรรดาก๊วนนักศึกษาพยาบาล คุณว่าใคร 'น่ากลัว' ที่สุดครับ?

ใบเฟิร์น เนตรชนก - เพราะความโลเลไม่หนักแน่นเด็ดขาดของเธอ
18 (8.1%)
โดนัท ณิชา - เพราะความโผงผางก้าวร้าวเอาแต่ใจของเธอ
14 (6.3%)
นาถ นาถลดา - เพราะความร้ายลึก เจ้าวางแผนที่ลอกเลียนแบบจากลุงพล
155 (69.8%)
ยัยอุ๊ หทัยรัตน์ - เพราะความจุ้นจ้านและวุ่นวายเรื่องราวของคนอื่นมากไปของเธอ
16 (7.2%)
อีฟ อรัญญา - เพราะความซื่อใส ไร้เดียงสาและอ่อนต่อโลกที่มากไปของเธอ
3 (1.4%)
หมวย เดือนดารา - เพราะความเป็นลูกคุณหนูเอาแต่ใจ อาจทำให้เรื่องราวทุกอย่างมันวุ่นวายได้
16 (7.2%)

จำนวนสมาชิกโหวดทั้งหมด: 222

nato87

พูดคุยก่อนอ่าน : กลับมาแล้วครับ ตอนนี้ค่อนข้างจะยาวอีกแล้ว แบ่งเป็น 3 Part นะครับ อย่าพึ่งเบื่อกัน ออกตัวก่อนว่าชื่อธีมตอนนี้เป็นธีมของน้องทราย แต่พอถึงเวลาเขียนจริง กลับกลายเป็นว่าหมอพลอยและครูเบสท์กลับได้บทเด่นซะงั้น เรียกได้ว่าออร่าของหมอพลอยและครูเบสท์บดบังออร่าน้องทรายจนมิดเลย

โดยในพาร์ทต่อไป จะเริ่มเป็นการจัดหนักจัดเต็มเมียคนที่ 9 ของลุงพล ซึ่งก็คือน้องทรายนั่นเอง หลังจากเสร็จศึกน้องทรายแล้ว ทุกคนจะได้พบกับตอนที่รอคอย ซึ่งก็คือ ครูเบสท์นั่นเอง โดยตอนแรกผมตั้งใจจะเก็บเธอไว้เป็นคนสุดท้าย แต่ผมเปลี่ยนใจแล้ว ผมเขียนเรื่องนี้มานาน ก็เข้าใจความรู้สึกของคนอ่าน และผมเองก็ขี้เกียจรอละ เลยพลิกแพลงเรื่องราวใหม่ เอาเป็นว่าที่ผมบอกว่า 'ครูเบสท์จะเป็นคนสุดท้ายของลุง' มันมีหลายนัยยะครับ (แถมาก 55555+ ศรีธนชัยมาเอง)

เพราะถ้าเกิดรอให้ครูเบสท์เป็นคนสุดท้าย เธอจะไม่มีบทอะไรให้เล่นจริง ๆ อย่างที่ทราบกันนั่นแหละ เพราะฉะนั้น เราเลยเตรียมจัดครูเบสท์เป็นเบอร์สิบก็แล้วกันครับ เพราะนิยามคำว่าบอสใหญ่ของเกมรักฯ ไม่จำเป็นต้องเสร็จลุงพลคนสุดท้าย ดูอย่างหมอพลอยซิ เสร็จลุงพลตั้งแต่กลางเรื่อง ดังนั้นคำว่านิยามบอสของเรื่อง ก็คือเสน่ห์ของคาแร็คเตอร์ของตัวละคร และฉากเลิฟซีนของตัวละครนั้น ๆ ต่างหาก

เอาเป็นว่า สำหรับครูเบสท์ ผมบอกได้แค่ว่า 'เธอหวานแน่นอน หวานไม่ต่างจากหมอพลอย' ก็รอติดตามกันต่อไปเรื่อย ๆ ครับ อีกไม่นานนักหรอก ผมก็เริ่มรอไม่ไหวแล้ว ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด คุณจะได้เห็นฉากลุงพล x ครูเบสท์ในช่วงรอยต่อส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ครับ

กลับมาที่ฉากลุงพล x น้องทราย ตอนนี้แค่น้ำจิ้ม ตอนหน้าจัดหนักครับ เกร็งรอและเตรียมทิชชู่ไว้ คุณคงไม่รู้หรอกซินะ ว่าสาวคนไหนที่มาหยามลุงพลจะต้องเจอกับบทลงโทษอะไร ผมบอกได้แค่ว่า น้องทรายโดนจัดหนักแน่นอนครับ


ปล.ใบเฟิร์นและโดนัทถูกพูดถึงบ้างแล้วนะครับ เห็นหลายคนบ่นคิดถึง ผมก็เลยเขียนให้เธอมีบทเล็ก ๆ น้อย ๆ สักหน่อย ให้หายคิดถึง และในตอนต่อไป นอกเหนือจากฉากเลิฟซีนเผ็ดร้อนระหว่างลุงพลและน้องทรายแบบเต็มสตรีม ก็จะมีบทของน้องพิมมี่ (ที่หลายคนคิดถึง) น้องแนนนี่ และน้องลูกขวัญด้วยครับ


#####################

ความเดิมตอนที่แล้ว

https://xonly8.com/index.php?topic=236878.0



ถึงแม้ว่าใครต่อใครจะยกย่องพลอยพรรณว่าเป็นหญิงสาวที่มีทุกอย่างเพียบพร้อม ทั้งหน้าตา การศึกษา อาชีพการงาน และสถานะทางสังคม แต่เธอกลับมีจุดอ่อนที่ใครหลายคนคาดไม่ถึง ก็คือเสน่ห์ปลายจวัก พลอยพรรณไม่ใช่ผู้หญิงที่ทำกับข้าวเก่งอะไร

ไม่ใช่ว่าเธอไม่พยายาม แต่เธอไม่มีพรสวรรค์ด้านนี้จริง ๆ สมัยที่เธอยังวัยรุ่น เธอเคยพยายามฝึกทอดไข่เจียวกิน แต่เธอเกือบทำกระทะไหม้เพราะตั้งไฟแรงจนเกินไป พอท่านวิทยาและคุณหญิงพนิดาทราบเรื่องก็พากันหัวเราะขำในความพยายามของลูกสาว

"ลูกไม่ต้องฝึกทำกับข้าวหรอก ลูกยังเด็ก เอาเวลาไปตั้งใจเรียนเถอะ ถ้าลูกอยากกินอะไรอร่อย ๆ บอกแม่ครัวไปซิ จะไปยากอะไร?"

นับตั้งแต่นั้น พลอยพรรณก็เลยไม่เข้าครัวทำอาหารอีก เธอไม่รู้แม้กระทั่งวิธีการหุงข้าวเสียด้วยซ้ำ พอเข้าสู่วัยเรียนในระดับอุดมศึกษา พลอยพรรณแก้ปัญหาด้วยการซื้ออาหารสำเร็จรูปแบบแพ็คกล่อง หรือไม่ก็สลัดง่าย ๆ มากินที่คอนโด

พอเรียนจบทำงาน พลอยพรรณก็มีโอกาสได้ลองหัดทำอาหารอีกครั้ง และคราวนี้เธอก็สามารถทำกับข้าวง่าย  ๆ อย่างไข่เจียว ไข่ดาว ไส้กรอกทอด เบคอน ได้ และเธอก็เคยทำมื้อเช้าให้ลุงพลกินไปแล้วเมื่อครั้งก่อน แต่หลังจากนั้น ด้วยความที่อยากเอาใจลุงพลหรืออย่างไรไม่ทราบ พลอยพรรณก็เลยแวะไปซื้อหนังสือฝึกทำอาหารที่ร้านหนังสือในห้างสรรพสินค้า เพื่อทดลองทำกับข้าวที่ดูซับซ้อนมากกว่าเมนูของทอด เพื่อนำไปเซอร์ไพส์ลุงพลให้แปลกใจเล่น

เมนูที่เธอจะทำก็คือ ข้าวพัดอเมริกันไข่ดาว แน่นอนว่าพลอยพรรณต้องใช้เวลาศึกษาวิธีการหุงข้าวยังไงไม่ให้ข้าวมันแฉะเกินไปหรือแข็งเกินไปผ่านแชแนลยูทูป และศึกษาวิธีทำข้าวผัดอเมริกันให้อร่อยและน่ากิน ยังไม่รวมถึงการทอดไก่ให้กรอบเหลืองน่ากินไม่ให้ไหม้จนเกินไป

พลอยพรรณลงทุนซื้อพิมพ์เขียวรูปหัวใจมาเพื่อทำไข่ดาวโปะหน้าข้าวผัดอเมริกัน เจ้าหญิงน้ำแข็งแอบยิ้มกับตัวเองระหว่างทอดไข่ดาว เธอศึกษาวิธีการทอดไข่ดาวอย่างละเอียดผ่านแชแนลยูทูป เพื่อหาวิธีทำใหไข่แดงตรงกลางไม่แตกและไม่สุกจนเกินไป

แต่กว่าที่เธอจะทำเมนูสุดพิเศษนี้ไปให้ลุงพล หมอพลอยก็ต้องเจอกับน้ำมันร้อน ๆ กระเด็นใส่มือของเธออยู่บ่อยครั้ง ทำเอาเจ้าหญิงน้ำแข็งคนสวยเกือบถอดใจ แต่เพราะอยากให้ลุงพลแปลกใจเล่น เธอก็เลยอดทน จนในที่สุด ข้าวผัดอเมริกันไข่ดาวรูปหัวใจฝีมือการทำของพลอยพรรณก็สำเร็จลุล่วงด้วยดี



ขนาดกรวิทย์ ที่แสนดีขนาดไหน อย่างมากพลอยพรรณก็แค่ซื้อขนมอร่อย ๆ ไปฝากตามวันสำคัญเท่านั้น แต่กับลุงพลคนนี้กลับพิเศษกว่าใคร เรียกได้ว่าเป็นผู้ชายคนแรกเลยก็ได้ ที่ทำให้หมอพลอยลงทุนโชว์เสน่ห์ปลายจวักถึงขนาดนี้

เธอตั้งใจจะเอามื้อเช้าที่เธอตั้งใจทำไปให้ลุงพล แต่ว่าสิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อภาพที่เธอเห็นตรงหน้าก็คือ ภาพของลุงพละกำลังจับมือถือแขนกับครูเบสท์

"นี่มันอะไรกัน!!!" พลอยพรรณเดินเข้าไปหาลุงพลและครูเบสท์ด้วยสีหน้าท่าทางไม่พอใจ "ลุงพล ลุงทำอะไรครูเบสท์คะ? ทำไมต้องจับไม้จับมือกันด้วย?"

"เดี๋ยวก่อนคะพี่พลอย!! มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด!!" ภัคจิราแปลกใจมาก ที่วันนี้พลอยพรรณเปลี่ยนไป เธอกลัวว่าอีกฝ่ายคงเข้าใจอะไรผิด ก็เลยตั้งใจจะอธิบายความจริงทั้งหมด แต่ว่า

"เบสท์!!! อยู่เฉย ๆ ไม่ต้องพูด!!" เพราะความหึงและความโกรธหรืออย่างไรไม่ทราบ เลยทำให้พลอยพรรณเผลอพูดอะไรแบบนั้นใส่ภัคจิรา ที่ทำหน้าเลอหลาด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดมาก่อนว่าจะได้เห็นหมอพลอยที่ดูใจเย็น โกรธได้ถึงขนาดนี้ "ลุงพล!! ทำไมต้องจับไม้จับมือครูเบสท์ด้วย!! ที่นี่มันสถานที่ราชการนะคะ!!"

"เดี๋ยวครับ!!! ไปกันใหญ่แล้ว!!!" ลุงพลคนขายน้ำเต้าหู้ไม่คิดมาก่อนเลยว่าหมอพลอยจะหึงได้ถึงขนาดนี้ "คือมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด ผมแค่จะทอนเงินคืนให้ครูเบสท์เท่านั้นเองนะครับ!!"

"แล้วทำไมต้องจับไม้จับมือ?" หมอพลอยถาม เจ้าหญิงน้ำแข็งร่นคิ้วใส่ลุงพลที่ยืนเอ๋ออยู่ตรงหน้า "ไม่คิดว่าทำแบบนี้มันเกินไปหรือคะลุง?"

"พี่พลอยคะ ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ คือเบสท์อธิบายได้" ภัคจิราเหลือบไปเห็นพวกพ่อค้าแม่ค้าตามซุ้มร้านอาหารเหลือบมองมาที่พวกเธอ ก็นึกอาย เลยพยายามจะแก้ต่างให้ว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดเท่านั้น "คือเบสท์แค่จะจ่ายเงินค่าน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ให้ลุงพลก็เท่านั้นเองค่ะ"

"คำตอบยังไม่เคลียร์ค่ะเบสท์!!!" พลอยพรรณหันไปมองภัคจิราตาขวาง "เบสท์!! เบสท์เป็นอาจารย์ เป็นที่นับหน้าถือตาของเด็กนักศึกษาทุกคนที่นี่นะคะ จะทำอะไรก็ระมัดระวังตัวหน่อยซิ!!"
พลอยพรรณออกโรงเตือนภัคจิราด้วยความหวังดี แต่แท้จริงแล้วเธอแอบหึงครูเบสท์กับลุงพล เพราะเห็นภาพบาดตาบาดใจขนาดนั้น ลุงพลรู้สึกได้ว่าสงครามโลกครั้งใหม่กำลังจะเกิดขึ้นตรงหน้าร้านขายน้ำเต้าหู้ของแกเนี่ยแหละ



"อธิบายได้ไหม? ทั้งสองคน? ทำไมต้องจับไม้จับมือกันถึงขนาดนี้?" พลอยพรรณเหมือนโกรธจนลืมตัวหันมามองตาขวางใส่ลุงพลและครูเบสท์ เรียกได้ว่าหมดกันสำหรับมาดเจ้าหญิงน้ำแข็งผู้เยือกเย็นที่เธอวางมาดมาตลอดหลายปี

"พี่พลอย? พี่พลอยไม่คิดว่าทำแบบนี้มันเกินไปหรือคะ?" อาจารย์สาวเริ่มท้วงติงคุณหมอรุ่นพี่ "เบสท์จะอธิบายให้ฟังก็ได้ คือเมื่อวานรถเบสท์เสีย พอดีลุงพลขับรถมอเตอร์ไซค์ผ่านมา ก็เลยมาช่วยซ่อมให้ เบสท์ก็เลยให้เงินเป็นค่าเหนื่อยลุงพล แล้วทีนี้เบสท์ก็มาอุดหนุนร้านน้ำเต้าหู้ของลุงพล เบสท์จะจ่ายเงิน แต่ลุงพลไม่ยอม ลุงพลจะคืนเงินให้เบสท์ ก็เท่านั้นแหละค่ะ?"

"เหรอ?" หมอพลอยเหลือบไปมองหน้าลุงพล "จริงเหรอลุง?"

"จริงครับ..." ลุงพลพยักหน้า "คือครูเบสท์ให้เงินลุง แล้วลุงเห็นว่ามันเยอะไป ลุงก็เลยไม่รับ แต่ครูเบสท์ยืนยันจะให้ ครูเบสท์เลยเสนอว่าเงินที่ให้ลุงเมื่อวานถือเป็นค่าน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ แล้วครูเบสท์จะให้เงินลุงอีก ลุงเกรงใจ ก็เลยปฏิเสธไปครับ?"

ภัคจิราดูอึดอัดอย่างเห็นได้ชัด เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าหมอพลอยจะบังเอิญโผลมาในตอนนี้ และที่สำคัญ หมอพลอยดูวีนเหวี่ยงอย่างเห็นได้ชัด จนทำให้เธออดสงสัยไม่ได้ว่าเพราะอะไร ที่ทำให้หมอพลอยถึงอารมณ์เสียได้ขนาดนี้

"ที่หลังก็อย่าทำให้เข้าใจผิดซิ..." พอได้สติ หมอพลอยก็เอ่ยปากออกมา "เบสท์ ที่หลังจะทำอะไรก็ระมัดระวังตัวหน่อยซิ ที่พลอยเตือนไม่ใช่เพราะอะไรหรอกนะ พลอยเป็นห่วง ยังไงพลอยก็ขอโทษด้วยที่ทำกริยาไม่สุภาพกับเบสท์..."

"ค่ะ...ไม่เป็นไรค่ะพี่พลอย" ภัคจิราตอบ แต่ในใจลึก ๆ ของเธอกลับรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลระหว่างลุงพลและหมอพลอย ที่แอบชำเลืองมองเป็นระยะ และสิ่งที่เธอสนใจก็คือ กล่องข้าวพลาสติกที่หมอพลอยหิ้วใส่ถุงมาด้วย ตอนแรกเธอคิดว่าหมอพลอยคงทำกับข้าวมากินที่ทำงาน แต่ความจริงแล้ว หมอพลอยทำกับข้าวมาให้ลุงพลต่างหาก

"แล้วอีกเรื่อง อย่าหาว่าพลอยละลาบละลวงเรื่องของเบสท์เลยนะคะ ที่พูดนี่คืออยากแนะนำเฉย ๆ ก็คือ เบสท์บอกไปแบบนั้นแล้ว ก็ไม่น่าจะต้องทำอะไรให้มันวุ่นวายอีก เบสท์ให้เงินลุงพลไปแล้ว จะไปให้อีกทำไม ไม่คิดว่าทำแบบนี้มันเกินไปหรือคะ? ฝากให้คิดด้วยนะคะเบสท์"

พอได้ยินคำพูดแบบนี้ ทำเอาภัคจิราเริ่มมีอาการไม่พอใจขึ้นมาบ้าง จนคิดที่จะพูดอะไรออกมา ด้วยสัญชาตญาณ ลุงพลรู้ดีว่าถ้าขืนไม่ทำอะไร มีหวังหมอน้ำแข็งกับอาจารย์สาวได้ทะเลาะกันหน้าร้านขายน้ำเต้าหู้ของแกแน่นอน

"เอ่อ...ความผิดลุงเองแหละครับ" ลุงพลแทรกขึ้นมา ก่อนที่ครูเบสท์จะพูดอะไรบางอย่าง ที่อาจเป็นตัวจุดชนวนสงครามโลกครั้งใหม่ "คือลุงเกรงใจครูเบสท์ ลุงเองก็ผิดแหละครับ นะครับ อย่าเข้าใจผิดเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องเลยนะ"

แล้วหมอพลอยและครูเบสท์ก็หันมามองหน้าลุงพล ที่ยืนหน้าซีดเหมือนไก่ต้ม นัยน์ตาของสองสาวดูไม่พอใจลุงพลอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะหมอพลอย ที่สังเกตได้ว่าเจ้าหญิงน้ำแข็งเสียอาการอย่างชัดเจน

"นี่มันเรื่องอะไรกัน? ไม่รับรู้ด้วยแล้ว!!" สุดท้ายภัคจิราเลยปลีกตัวออกมา เพราะรู้สึกอับอายและเสียหน้า เพราะคำพูดคำจาของหมอพลอยมันทำร้ายจิตใจเธอมากไป ขณะเดียวกัน หมอพลอยก็แอบเหล่มองอาจารย์สาวด้วยท่าทีเหมือนเป็นผู้ชนะ

ภาพเหตุการณ์ทุกอย่างปรากฏขึ้นต่อหน้าของลุงพล ที่ตอนนี้เหลือเพียงแค่ตัวแกและหมอพลอยเท่านั้น

"ลุงพล..." หมอพลอยเรียกชื่อคนขายน้ำเต้าหู้ด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก แต่แอบซ่อนด้วยรังสีอำมหิตอยู่ในที "นี่กับข้าว...กินซะแล้วอย่างลืมเอากล่องมาคืนหมอด้วย"

เพราะยังอารมณ์เสียไม่หาย และรู้ตัวว่าได้แสดงท่าทางเกรียดกราดเกินเบอร์จนทำให้ครูเบสท์รู้สึกไม่พอใจ เลยทำให้หมอพลอยไม่รู้จะพูดยังไง ก็เลยตัดสินใจวางกล่องกับข้าวฝีมือของตัวเองไว้หน้าร้านแล้วเดินจากไป ปล่อยให้ลุงพลยืนนิ่งอยู่แบบนั้น

ลุงพลหยิบข้าวกล่องที่มีกระดาษแนบเอาไว้ขึ้นมาเปิดอ่าน ทำให้รู้ว่าหมอพลอยได้แสดงฝีมือทำกับข้าวมาให้ลุงพลกิน แต่เธอไม่คาคคิดมาก่อนว่าจะต้องมาเจอภาพบาดตาบาดใจขนาดนี้

เป็นกับข้าวฝีมือพลอยเองค่ะ ไม่รู้ว่าจะอร่อยถูกปากพี่พลหรือเปล่า? กินเยอะ ๆ นะคะ -พลอยพรรณ-

สุดท้าย ลุงพลก็พยายามตั้งสติและทำตัวตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ว่า...

นาถลดา ที่วันนี้ตื่นแต่เช้า และบังเอิญเหลือเกินที่เธอเห็นหมอพลอยเดินถือกล่องข้าวมาที่โรงอาหาร ด้วยสัญชาตญาณอะไรบางอย่าง นาถลดาเลยแอบสะกดรอยตามหมอพลอยจนมาพบกับความจริงบางอย่าง

กับการเผชิญหน้ากันระหว่างลุงพล หมอพลอย และครูเบสท์ นาถลดาเห็นภาพทุกอย่าง เธอเห็นจุดอ่อนของหมอพลอย ความหึงหวง ถึงแม้ว่าหมอพลอยจะเป็นหญิงสาวผู้เพียบพร้อมและสูงศักดิ์ แต่สุดท้าย หมอพลอยก็ยังเป็นผู้หญิงอยู่วันยังค่ำ

นาถลดารู้ดีว่าในเหล่าบรรดานักศึกษาพยาบาลที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับลุงพล เธอไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวใครอีกต่อไปแล้ว พี่เฟิร์นและโดนัทตัวติดกันขนาดนั้น นาน ๆ ครั้งจะมาหาลุงพลสักทีเพื่อแก้ความอยาก พี่อุ๊จอมจุ้นเหรอ? ตอนนี้เจี๋ยมเจี้ยมสิ้นฤทธิ์เดชไปมากแล้ว ยัยอีฟผู้อ่อนแอไม่มีอะไรน่ากังวล เช่นเดียวกับยัยหมวย

"แบบนี้นี่เอง..." ยัยตัวแสบจากปักษ์ใต้ที่แอบซุ่มมองอยู่ ตรงมุมอับในโรงอาหาร รับรู้เรื่องราวทั้งหมด และเธอคิดว่าเธอควรที่จะทำอะไรสักอย่าง เพื่อให้หมอพลอยและครูเบสท์ผิดใจกันมากกว่านี้

ทำไมนะเหรอ? เพราะลึก ๆ นาถลดาเองก็อยากเป็นตัวจริงเพียงหนึ่งเดียวของลุงพล เด็กสาวยอมทุ่มเททุกอย่างให้ลุงพล แต่ดูเหมือนว่าเธอยังไม่ได้รับการเติมเต็มมากพอ แน่นอนว่า ถ้าหากนาถลดาสามารถจัดการให้หมอพลอยและครูเบสท์ออกไปจากวงโคจรชีวิตของลุงพลได้



เมื่อนั้น จะมีเพียงนาถลดาเพียงหนึ่งเดียว ที่จะได้ครอบครองร่างกายและหัวใจของลุงพล นาถลดาไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นผู้แพ้ นาถลดาเกิดมาเป็นผู้ชนะ

และขั้นตอนแรก คือการทำให้หมอพลอยและครูเบสท์แตกหักกันเสียก่อน ซึ่งมันไม่ยากเกินความสามารถของนาถลดา ที่รำเรียนวิชาจากลุงพลมาอย่างละเอียดทุกเม็ดอย่างแน่นอน

"นี่!! ยัยนาถ!!! มาแอบมุมเสาเป็นอะไรมากป่ะ??" ทันใดนั้น เสียงของโดนัทก็ดังขึ้น ทำเอานาลดาถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ

"พี่โดนัท? พี่เฟิร์น?" สองสาวนักศึกษาพยาบาลรุ่นพี่คู่ซี้ปรากฏตัวตรงหน้านาถลดา แววตาของทั้งคู่ดูสงสัยในพฤติกรรมของรุ่นน้องตัวแสบคนนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว

"ใช่นะซิ!!!" ใบเฟิร์นถามรุ่นน้องด้วยความสัยสัย "เรามาแอบใครอยู่ตรงมุมเสาเนี่ย? ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ ขึ้นทุกวันนะเราน่ะ!!"

"นั่นซิ!!! คิดแผนการร้ายอะไรอยู่หรือเปล่า?" เหมือนโดนัทจะมีลางสังหรณ์ ก็เลยแกล้งแยบถามไปแบบนั้น จนทำให้นาถลดาถึงกับเสียอาการ

"ไม่มี!! ไม่มีอะไรสักหน่อย!!! หนูต้องไปเรียนละ ขอตัวก่อนนะคะ!!" ว่าแล้วนาถลดาก็รีบเดินจากไป ทิ้งให้สองสาวใบเฟิร์นและโดนัทแปลกใจเล่นว่านี่มันเรื่องอะไรกัน

"อะไรของมัน?" ใบเฟิร์นหันไปมองโดนัท "เจ๊? แกว่ายัยนาถมันมีพิรุธป่ะ?"
"เออดิ..." โดนัทตอบ "ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ แบบนี้ สงสัยต้องคิดอะไรไม่ดีอยู่แน่ ๆ ว่าแต่นี่ใกล้จะถึงเวลาเรียนคาบเช้าแล้ว ไปหาอะไรกินกันเถอะ"

"กินน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ร้านลุงพลไหม?" เนตรชนกยื่นข้อเสนอ

"อยากกินเหรอ? หรือว่าอยากเจอหน้าเจ้าของร้าน?" ณิชาแกล้งพูดทีเล่นทีจริง ทำเอาใบเฟิร์นอมยิ้มเพราะรู้ทัน

"แหม...หึงเหรอ?" ใบเฟิร์นแกล้งแหย่เพื่อนรัก ด้วยการเข้าไปโอบเอวแล้วบีบก้น "กับลุงพลก็แค่ชั่วคราว แต่กับเจ๊น่ะของจริง"

"ไอ้บ้า!!! ทำอะไรของแกน่ะ!!" โดนัทรีบดีดตัวออกมาด้วยความอายที่โดนใบเฟิร์นบีบก้น "เดี๋ยวเหอะ!! เอาใหญ่แล้วนะแก!!"



ใบเฟิร์นอมยิ้มที่มุมปาก ก่อนรีบเดินตรงไปที่ร้านขายน้ำเต้าหู้ของลุงพล เช่นเดียวกับโดนัท ที่รีบเดินตามเพื่อนรักไปด้วย

"อ่าว? สองสาว? มีอะไรเหรอจ๊ะ?" พอเห็นใบเฟิร์นและโดนัท ลุงพลก็เลยเอ่ยปากทักทายด้วยรอยยิ้ม

"น้ำเต้าหู้ปาท่องโกที่นึงค่ะลุง..." ใบเฟิร์นสั่งออเดอร์

"สองค่ะ..." โดนัทที่เดินตามมาสมทบแทรกขึ้นมา "ไม่รอกันเลยนะแก..."

"จ้า...ได้จ๊ะสองสาว" ลุงพลยิ้มอย่างอารมณ์ดี ก่อนรีบเดินไปตักน้ำเต้าหู้ให้สองสาวที่ดูรักใคร่สนิทสนมกันดี

"นี่ลุงพล?" ใบเฟิร์นเอ่ยปากเรียกลุงพล "หนูเห็นยัยนาถมันมาแอบซุ่มอยู่ตรงมุมเสาหน้าทางเข้าน่ะ ถามจริง? ลุงไปทำอะไรให้ยัยนาถมันไม่พอใจหรือเปล่า?"

"เอ๋? ไม่นิจ๊ะเฟิร์น?" ลุงพลร่นคิ้วด้วยความสงสัย

"ยังไงก็ระวังตัวด้วยแล้วกัน..." โดนัทตอบ "หนูว่าพักหลังมานี่ ยัยนาถมันเปลี่ยนไปเยอะ ไม่รู้ว่าไปติดนิสัยเสียของคนบางคนแถวนี้หรือเปล่า?"



"เจ๊!!! เบาได้เบา!!!" ใบเฟิร์นตำหนิเพื่อนรักที่พูดจาโผงผางแบบนั้น ทำเอาลุงพลถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย พลางนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้า ที่หมอพลอยและครูเบสท์มาเผชิญหน้ากันที่หน้าร้านขายน้ำเต้าหู้ของแก

...หรือว่าน้องนาถจะเห็นภาพเหตุการณ์ทั้งหมด? น้องนาถซื่อสัตย์กับลุงพลขนาดนี้ คงไม่ได้คิดอะไรไม่ดีอยู่หรอกจริงไหม? แต่ว่า คำเตือนของใบเฟิร์นและโดนัท ก็เป็นสิ่งที่จะปล่อยผ่านไม่ได้เช่นกัน ยังไงเสีย เห็นทีลุงพลต้องหาเวลาไปพูดคุยกับนาถลดาเป็นการส่วนตัวบางแล้วละ

.....................
ตัดมาที่ฝั่งครูเบสท์ หลังจากเกิดเหตุวิวาทกับหมอพลอยที่หน้าร้านขายน้ำเต้าหู้ของลุงพล ก็ทำให้อาจารย์สาวรู้สึกนอยด์ไม่น้อย เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมหมอพลอยถึงได้แสดงท่าทางเกรี้ยวกราดถึงขนาดนั้น ทั้งที่เรื่องราวมันไม่ได้มีอะไรเกินเลยอย่างที่หมอพลอยคิดเลยแม้แต่น้อย

มันก็แค่ เธออยากแสดงความมีน้ำใจให้ลุงพล ไม่ได้คิดเป็นอื่น ไม่ได้มีเรื่องชู้สาว แล้วทำไมหมอพลอยถึงได้ดูหงุดหงิดขนาดนั้น?

พอมานึกถึงเหตุการณ์ของตัวเอง สมัยที่ยังเป็นนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ภาคอินเตอร์ ภัคจิราเองก็เคยเสียอาการเวลาที่นพวินท์แฟนหนุ่มสมัยเรียนไปพูดคุยกับสาวคณะอื่น เธอรู้ดีว่าอาการแบบนี้เข้าเรียกว่า 'หึง'

"นี่หมอพลอยหึงเหรอ?" ภัคจิราร่นคิ้วระหว่างนั่งพักอยู่ในห้องพักอาจารย์ "หมอพลอยหึงลุงพล? ตลกละ? มันใช่เหรอ?"

ถึงแม้ภัคจิราจะปฏิเสธเรื่องนี้ แต่อาการที่หมอพลอยแสดงออกมา มันกำลังฟ้องว่าหมอพลอยกำลังหึงใส่ลุงพล นี่มันเป็นเรื่องตลกอะไรกัน? ที่ผู้หญิงระดับหมอพลอยจะต้องมาหึงลุงพลใส่เธออย่างออกนอกหน้าขนาดนั้น

แต่สุดท้าย ภัคจิราก็ตัดสินใจว่ายังไงเธอก็ต้องวางเรื่องนี้ไว้ก่อน เพราะเธอมีสอนนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่หนึ่งคาบเช้า เป็นคาบวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษา โดยในคาบนี้ มีนาถลดาเข้าเรียนด้วย

"Good Morning Class!!!" ภัคจิราเดินเข้ามาภายในห้องเรียนพร้อมกับทักทายนักเรียนในคลาสเป็นภาษาอังกฤษ

"Good Morning Teacher!!!" เหล่านักศึกษาพยาบาลตอบรับเป็นภาษาอังกฤษ

"Derndara?  absent again?" ครูเบสท์เหลือบไปเห็นโต๊ะของยัยหมวยเดือนดาราวาง ก็เลยเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย เพราะเธอขาดเรียนคาบวิชาภาษาอังกฤษของครูเบสท์มาสองคาบติดแล้ว "Where's Derndara?"

"She's Sick Ka!!" อรัญญาเพื่อนสนิทของเดือนดาราตอบเป็นภาษาอังกฤษ ทำเอาภัคจิราถึงกับทำหน้าไม่สบายใจ เพราะนี่มันก็ใกล้จะสอบปลายภาค แถมเดือนดาราก็ขาดเกิดโควตาที่กำหนดเอาไว้

"Really?" ภัคจิราร่นคิ้วใส่อรัญญาด้วยท่าทางไม่พอใจ นี่เรียนถึงระดับอุดมศึกษาแล้ว แต่ยังมาขาดเรียนบ่อย ทำตัวเหมือนเรียนมัธยมมันใช่ไม่ได้

"ค่ะครู..." น้องอีฟตอบ "หมวยไม่สบายจริง ๆ ค่ะครู"

อรัญญาเลือกที่จะตอบเป็นภาษาไทยแทน เพราะมันน่าจะสื่อความหมายได้ดีกว่าภาษาอังกฤษ



"อรัญญา ฝากไปบอกเพื่อนด้วยนะว่าถ้าป่วย อย่าลืมไปหาหมอแล้วเอาใบรับรองแพทย์มาด้วย เดือนดาราเพื่อนเราขาดเรียนคาบครูไป 1..2...3...4 รวบคาบนี้ก็เป็นครั้งที่ 5 แล้วนะ ยังอยากจะสอบปลายภาคอยู่ไหม?" ภัคจิราเปลี่ยนมาพูดภาษาไทยให้อรัญญาฝากไปบอกเพื่อน "นี่ใกล้จะสอบแล้ว ครูไม่อยากตัดสิทธิสอบใคร เข้าใจตรงกันนะคะ"

"ค่ะ..." อรัญญาตอบ ก่อนเหลือบไปมองนาถลดาที่นั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ แอบยิ้มให้

อรัญญารู้ดีว่าเดือนดาราไม่สบายเพราะใคร แต่เธอพูดมากไม่ได้ เพราะยัยนาถตัวแสบเล่นประกบติดตัวเธอแบบนี้

สุดท้ายคาบเรียนภาษาอังกฤษของครูเบสท์ก็เริ่มต้นขึ้น นักศึกษาพยาบาลทุกคนต่างตั้งอกตั้งใจในบทเรียนที่ครูเบสท์สอนอยู่หน้ากระดานดำ จนกระทั่งเลิกคาบเรียน เหล่าบรรดานักศึกษาพยาบาลต่างแยกย้ายกันไปเรียนในคาบต่อไป ยกเว้นนาถลดา ที่นั่งรอจนกว่าเพื่อนร่วมชั้นของเธอจะเดินออกไปจนหมด

"นาถลดา? ยังนั่งอยู่ตรงนี่ทำไมจ๊ะ? ไม่มีเรียนคาบต่อไปเหรอ?" ครูเบสท์ที่กำลังหยิบกระเป๋าสะพายลุกขึ้นเหลือบไปเห็นนาถลดาที่นั่งเงียบอยู่ตรงกลางห้องเพียงคนเดียวก็นึกสงสัย เลยเอ่ยปากถามไปด้วยความแปลกใจ

"มีค่ะ..." นาถลดาลุกขึ้นเหลือบมองซ้ายขวา จนมั่นใจว่าไม่มีใครอยู่ในห้องแล้ว ก็เลยเดินเข้าไปใกล้ครูเบสท์ที่ยืนสะพายกระเป๋าอยู่หน้าชั้น "หนูมีเรื่องอะไรจะคุยกับครูค่ะ ครูเบสท์"

"เรื่องอะไรจ๊ะนาถลดา?" ภัคจิราตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

"เรื่องนี่เป็นเรื่องใหญ่มาก หนูไว้ใจครูนะคะครูเบสท์"

"เรื่องอะไรเหรอ?" พอเห็นสีหน้าท่าทางของนาถลดาที่ดูซีเรียส ก็ทำเอารอยยิ้มตรงมุมปากของภัคจิราเหือดหายไปไหนบัดดล นักศึกษาพยาบาลร่างเล็กคนนี้มีอะไรจะบอกเธองั้นเหรอ?

"เรื่องความสัมพันธ์ของลุงพลและหมอพลอยน่ะค่ะ..." เมื่อนาถลดาตอบ ภัคจิราถึงกับเบิกตาโพล่งด้วยความตกใจ นี่มันอะไรกันเนี่ย? นาถลดาไปรู้อะไรมา?

.....................

ตัดมาที่ช่วงเย็น วันพรุ่งนี้เป็นวันหยุด หลังจากที่ลุงพลเก็บกวาดทำความสะอาดร้าน ก็เตรียมเดินทางกลับบ้าน แต่ก่อนกลับ แกได้ทำความสะอาดกล่องกับข้าวพลาสติกของหมอพลอยเพื่อเตรียมเอาไปคืนที่ห้องพยาบาล

ข้าวผัดอเมริกันไข่ดาวของหมอพลอยอร่อยไม่เลวเลย เรียกได้ว่าฝีมือการทำกับข้าวของหมอพลอยนั้นไม่เลวเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะเคยออกปากว่าเธอทำกับข้าวไม่เก่ง แน่นอนละ หมอพลอยเป็นคนที่ใส่ใจรายละเอียด เธอลงทุนเปิดแชแนลยูทูปเพื่อศึกษาวิธีทำกับข้าวอย่างละเอียดเพื่อมาเอาใจลุงพลโดยเฉพาะ

ตอนแรกลุงพลจะเอากล่องพลาสติกไปคืนหมอพลอยที่ห้องพยาบาล แต่บังเอิญเหลือเกินที่ตาลุงมาเจอหมอพลอยที่ลานจอดรถ หมอพลอยกำลังเตรียมตัวขับรถกลับบ้านอยู่พอดี

"จัดการให้แล้วเหรอ ขอบใจมากนะจ๊ะผึ้ง ชั้นเป็นหนี้บุญคุณแกจริง ๆ" พลอยพรรณเริ่มยิ้มออก หลังจากที่ได้ฟังข่าวดีจากทนายผึ้งเพื่อนรัก เรื่องการให้สื่อมวลชนตีแผข่าวการทุจริตของนายหัวภูชิต เพื่อใช้เป็นเหตุไม่ให้เธอต้องแต่งงานกับภูวนาท ลูกชายตัวแสบของเขา

"หมอพลอยครับ? น้องพลอย" ลุงพลในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงขาสามส่วน สวมรองเท้าแตะ ปรากฏตัวตรงหน้าหมอพลอยในชุดเดรสสีดำแขนกุด "พี่เอากล่องกับข้าวมาคืนครับ"

"มาคืนอะไรตอนนี้!!" พลอยพรรณทำหน้าตำหนิใส่ลุงพล เพราะยังอดเคืองไม่หายสำหรับเรื่องเมื่อเช้า "พลอยจะกลับแล้ว!!!"

"ก็พี่กลัวว่าถ้าเอากล่องกับข้าวไปคืนน้องพลอยที่ห้องพยาบาลตอนเวลาทำการ เดี๋ยวคนจะสงสัยเรื่องของเรานิครับ..." ลุงพลแก้ตัว เหตุผลของแกฟังขึ้นอยู่บ้าง ทำเอาหมอพลอยแอบเชิดใส่ด้วยความหมั่นไส้

"เอามา..." หมอพลอยหยิบกล่องพาสติกที่ลุงพลทำความสะอาดให้เป็นที่เรียยร้อย "อร่อยไหม?"

"อร่อยมากครับ" ลุงพลยิ้ม "อร่อยจนอยากไปกินข้าวเย็นที่คอนโดน้องพลอยอีก"

"หึ..." พลอยพรรณเหล่มองลุงพลด้วยความหมั่นไส้ "พอใจอ่อน ยอมให้เรียกพี่เรียกน้อง รู้สึกว่าลุงนี่เอาใหญ่เลยนะคะ? ไม่คิดว่ามันตลกไปหน่อยเหรอ?"

"อะไรกันครับเนี่ย?" ลุงพลร่นคิ้วด้วยความแปลกใจ "ยังโกรธพี่อยู่เหรอ?"

"ก็น่าโกรธอยู่ไหมละ?" เจ้าหญิงน้ำแข็งตอบ "แก่ขนาดนี้ยังทำตัวเจ้าชู้ประตูดินได้อีกนะ คิดว่าหมอไม่รู้นิสัยคนอย่างลุงเหรอคะ?"

"ก็ผมอธิบายไปแล้วว่า..."

"ไม่ต้องอธิบายค่ะ แค่คนอย่างลุงอ้าปาก หมอก็เห็นธาตุแท้คนอย่างลุงแล้วล่ะคะ!!" พลอยพรรณร่ายยาว "คนอย่างลุงมันเจ้าชู้ประตูดิน เห็นสาว ๆ หน่อยเป็นไม่ได้ ต้องกระสันต์เดินเข้าไปหา ไปพูดจาดี ๆ และวางแผนเพื่อหวัง..."

พลอยพรรณโกรธจนหน้าแดงก่ำ เธอไม่อยากพูดคำไม่สุภาพออกมา ส่วนตาลุงก็ยืนจ๋อยเมื่อเจอการเทศน์ใหญ่ของหมอพลอย

"รับปากอะไรไม่เคยทำได้สักอย่าง? ปรับปรุงตัวใหม่นะคะลุงพล หมอพูดได้แค่นี้แหละ อย่าทำให้หมอโกรธไปมากกว่านี้อีก ฝากให้คิดด้วยค่ะ!!"

"แต่ว่าลุง..." ลุงพลยังคงพยายามปรับความเข้าใจกับหมอพลอย แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหญิงน้ำแข็งยังอารมณ์บ่จอยอยู่

"ไม่ต้องอธิบายแล้ว ขี้เกียจฟังคำแก้ตัวผู้ชายเจ้าชู้!!! คิดเหรอคะว่าพลอยสนุกกับเรื่องแบบนี้ ห๊ะ!!?? พลอยกับครูเบสท์อาจต้องผิดใจกันเพราะลุง รู้ไว้ซะด้วย!!" พลอยพรรณดุใส่ลุงพล "ถ้ายังคิดจะจริงจังกับหมอ ลุงต้องเลิกนิสัยแบบนี้อย่างเด็ดขาด ถ้าจะให้หมอเชื่อลุง ลาออกซิคะ!! ทำได้ไหม!? ไปให้พ้น ๆ จากวิทยาลัยพยาบาลแห่งนี้ แล้วหมอจะเชื่อค่ะ!!"

ว่าแล้วหมอพลอยก็เดินกลับไปเปิดประตูรถแล้วสตาร์ทเครื่อง Toyota Pius สีขาว พาหนะคู่ใจของหมอพลอยก็แล่นออกไป โดยมีลุงพลยืนมองตาละห้อยอยู่ด้านหลัง

"สงสัยหมอพลอยคงโกรธมากแหะ..." ลุงพลเกาหัว "โอ้ย!!! อะไรมันจะวุ่นวายขนาดนี้วะ!!!"
สุดท้าย ลุงพลก็เลยเดินกลับไปเอารถมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่อีกฝั่งของลานจอดรถกลับบ้าน โดยที่ตัวแกเองไม่ได้รู้เลยว่า ครูเบสท์ที่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดจากนาถลดากำลังแอบดูอยู่หลังต้นไม้ ไม้ ไม่ห่างจากจุดที่ลุงพลและหมอพลอยพูดคุยอยู่มากนัก

"มันเรื่องจริงเหรอเนี่ย?" ภัคจิรานึกถึงคำพูดของนาถลดา "ลุงพลกับพี่พลอยเป็น..."

ภัคจิราดูตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด ก่อนหน้านั้นเธอเคยได้ยินเรื่องราวแบบนี้มาจากนักศึกษาอย่างหทัยรัตน์ อรัญญา และเดือนดารามาบ้าง แต่เธอไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริงอะไร จนกระทั่งเธอได้ยินจากนาถลดา พร้อมกับภาพเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นตรงหน้า

...แต่มันแปลกนะ? ทำไมภัคจิราถึงได้รู้สึกหน่วง ๆ อย่างบอกไม่ถูก เมื่อรับรู้เรื่องราวความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างลุงพลและหมอพลอย

.....................

ตัดมาที่ฝั่งลุงพล หลังจากผ่านพ้นเหตุการณ์วุ่นวายเมื่อวาน แกก็นอนคิดหาวิธีจัดการกับปัญหาวุ่นวายนี้ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ด้วยอารมณ์รักพี่เสียดายน้อง ก็เลยเผลอหลับไป พอตื่นขึ้นมาอีกวัน ที่เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ วันนี้ลุงพลขับรถมอเตอร์แวะมาจอดหน้าร้านป๋าแต๋ว ตวงพร เพื่อซื้อข้าวแกงกินในช่วงเที่ยงวัน

"แต๋ว!!! พะโล้ ผัดผักบุ้ง ขอด่วน ๆ พี่หิว!!!!" ลุงพลเดินแวะดูตู้โชว์กับข้าว ก่อนสั่งอาหารกับป้าแต๋วเจ้าของร้าน ที่ดูมึนตึงกับแกผิดปกติ

"ค่ะ พี่ไปนั่งก่อน เดี๋ยวแต๋วเอาไปเสิร์ฟให้" แม่หม่ายทรงเครื่องก้มหน้าก้มตาตักข้าวใส่จาน

ลุงพลร่นคิ้วด้วยความแปลกใจ ปกตินังแต๋วจะดูตื่นเต้นเป็นพิเศษเวลาได้เจอกับแก ทีนี้พอนึกถึงคำพูดของนังทราย ที่บอกว่าแม่ไปติดพันผู้ชายคนอื่น เพราะเสียใจที่ถูกลุงพลหักอกมา

จะให้ทำยังไง? ก็ลุงพลไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับนังแต๋วเลย สักพัก ลุงพลหันกลับไป เพื่อตักน้ำแข็งใส่แก้วกลับมานั่งโต๊ะ

"ลุงพลไม่ต้อง!!!"นังทราย ในชุดนักศึกษาอาชีวะที่วันนี้มีสอบพึ่งกลับมาบ้านเดินออกมา "เดี๋ยวหนูตักน้ำให้เอง ลุงอยากกินอะไร?"

"น้ำแข็งเปล่าก็พอ..." ลุงพลตอบ

"ค๊า!!! ได้ค๊า!!!" นังทรายตักน้ำแข็งใส่แก้วให้ลุงพล ระหว่างที่วางแก้วบนโต๊ะ สก๊อยสาวแอบเล่นหูเล่นตาใส่ โดยที่ป้าแต๋วไม่รู้เรื่อง

"อ่ะพี่!!!" ป้าแต๋ววางจานข้าวราดแกงที่ลุงพลสั่ง เหมือนคนอารมณ์ไม่ค่อยดี ลุงพลก็ได้แต่ส่ายหน้า "นังทราย!!! มึงกินข้าวเที่ยงยัง? อยากกินอะไรมึงมาตักเลยนะ กูขอเข้าห้องน้ำก่อน!!"

"ค๊าแม่!!!" นังทรายเดินไปตักข้าวตักแกงหน้าร้าน ก่อนหันไปยิ้มให้ลุงพลอย่างมีเลศนัยน์

"อะไรของมัน?" ลุงพลร่นคิ้วด้วยความแปลกใจ วันนี้นังทรายจะมาไม้ไหน

สักพัก นังทรายก็เดินมานั่งโต๊ะฝั่งตรงข้ามกับลุงพล ก่อนเริ่มทำการกินข้าว

"ร้อนจังวะวันนี้!!!" นังทรายแกล้งเอามือพัดหน้า ก่อนเหล่มองลุงพล เพื่อเรียกความสนใจ

ตอนแรกลุงพลก็ไม่ได้คิดอะไร แกก้มหน้าก้มตาตักข้าวใส่ปาก จนกระทั่ง

"พร๊วด!!!!" ลุงพลถึงกับสำลักข้าว เพราะสิ่งที่แกเห็นก็คือ นังทรายตั้งใจเปิดหวอให้แกดู และที่สำคัญ นังทรายไม่ได้ใส่กางเกงในด้วย เรียกได้ว่าเห็นเต็มตา กลีบสาวของนังทราย "แค่ก!! แค่ก!!! แค่ก!!!!"

"วันก่อนเล่นตัวนักนะลุงพล..." นังทรายคิดในใจ "คอยดูเหอะ จะจับทำผัวให้ได้ คอยดูละกัน!!!" ฉัตรพรเหลือบมองลุงพลที่กำลังเสียอาการอยู่ตรงหน้าด้วยความสะใจ เป็นไงละ เห็นของดีของสก๊อยสาวแล้วใช่ไหม? ตอบ!!!

"นี่ทราย!!! เดี๋ยวแม่จะเอาของไปส่งลูกค้าข้างนอกนะ เฝ้าร้านให้แม่ด้วย!!!" ตวงพรหยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์พร้อมกับถุงกับข้าวมาหาลูกสาวที่นั่งกินข้าวอยู่

"ค๊าแม่!!!" น้องทรายหันไปยิ้มให้แม่ "ขับรถดี ๆ ละ!!"

หลังจากที่ตวงพรใส่หมวกกันน็อคแล้วขับรถมอเตอร์ไซค์ออกไป ก็เหลือเพียงแค่น้องทรายและลุงพล ลุงพลดูเสียอาการอย่างมาก สังเกตได้จากการที่แกก้มหน้าก้มตา เพราะไม่อยากเห็นของดีน้องทรายที่ภูมิใจนำเสนอให้แก

"อะไรวะ? ทำไมขี้อายขนาดนี้เนี่ยลุง?" น้องทรายดูหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเห็นลุงพลก้มหน้าก้มตา ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสักที ด้วยเหตุนี้ สาวอาชีวะเลยลุกขึ้นเดินไปนั่งตรงหน้าลุงพลที่กำลังกินข้าวอยู่

"มีอะไรวะนังทราย?" มนุษย์ลุงเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก

"ลุงเห็นอะไรไหม?" น้องทรายยิ้มที่มุมปาก

"เห็นอะไร?" ลุงพลรู้ แต่แกแกล้งถามไปแบบนั้น แกรู้ว่าเด็กสาวสมัยนี้ไวไฟแค่ไหน แต่ไม่คิดมาก่อนเลยว่ามันจะไวไฟแก่แดดแก่ลมได้ถึงขนาดนี้ โดยเฉพาะกับนังทราย ที่แกมองว่าเป็นหลานคนหนึ่ง ไม่ได้มองเป็นอื่นเลยแม้แต่น้อย

"ก็เห็น...หี...ของหนูไงละ?" น้องทรายตอบอย่างไม่อ้อมค้อม "ลุงพลขา...ลุงรู้ไหม? เวลาหนูติ้วหีน่ะ หนูชอบคิดถึงหน้าลุงตลอด ไม่รู้ทำไม?"

"แค่ก!!! แค่ก!!! แค่ก!!!" ลุงพลหน้าแดงก่ำแถมยังสำลักข้าว จนต้องรีบคว้าแก้วน้ำมาดื่มแก้อาการติดคอ "นังทราย!! พูดจาอะไรให้ระวังหน่อย!!! ข้าเป็นลุงเอ็งนะเว้ย!!!"

"ไม่ใช่ลุงแท้ ๆ สักหน่อย..." สาวอาชีวะตอบอย่างไม่ยี่หระ "หนูให้ท่าลุงขนาดนี้เนี่ย? ถามจริง ลุงไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ? หำลุงไม่ทำงานแล้วว่างั้น? หรือว่าลุงเป็น...เกย์"

"นังทราย!!! พูดจาอะไรให้เกียรติข้าด้วย!!!" ลุงพลถึงกับโกรธ เมื่อถูกเด็กสาวรุ่นราวคราวหลานมาหยามเกียรติถึงขนาดนี้ "ข้าไม่ได้เป็นเกย์!!! แต่ข้ามองเอ็งเป็นหลาน!!! เอ็งอย่ามาทำอะไรแบบนี้ มันไม่ดี!!!"

"ลุงไม่ชอบหนูเหรอ?" ฉัตรพรเริ่มหน้าเสีย "หนูชอบลุงมาตั้งนานแล้วนะ หนูอยากได้ลุงเป็นพ่อเลี้ยงของหนู แต่ลุงก็ไม่เอา แต่เรื่องนั้นหนูเข้าใจได้นะ แม่หนูคงแก่แล้ว ลุงคงไม่ชอบ ถ้างั้น..."

ฉัตรพรเผยอปากแตะมือลุงพลที่ยังนั่งตัวสั่นตรงหน้า

"หนูอยากเป็นเมียลุงพล..." ฉัตรพรสารภาพ "เป็นเมียลับ ๆ ก็ได้ ลุงไม่ต้องกลัวนะ ว่าหนูจะเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร? นะคะลุงพล"



"นังทราย...เอ็งยังไม่รู้อะไร" ลุงพลที่ดูประหม่าเมื่อครู่เริ่มสงบนิ่ง อาจเป็นเพราะถูกเด็กสาวรุ่นราวคราวหลานมาหยามเกียรติว่าเป็นแต๋วเป็นเกย์ มันยอมไม่ได้ ในเมื่อขอร้องกันดี ๆ ไม่ยอมฟัง นักรักรุ่นลายครามอย่างลุงพล ก็คงต้องสังสอนเด็กสาวรุ่นราวคราวลูกอย่างนังทรายให้รู้สักหน่อยแล้วว่าใครเป็นใคร "เอ็งยังไม่รู้หรอก ว่าเอ็งกำลังเล่นอยู่กับอะไร?"

"ก็เล่นอยู่กับอะไรละคะลุงพลขา..." น้องทรายยังคงท้าทายลุงพลด้วยแววตาและน้ำเสียง สาวอาชีวะสุดแซ่บยังไม่รู้หรอกว่ากำลังเล่นอยู่กับอะไร

"เอ็งพูดเองแล้วนะนังทราย..." ลุงพลสลัดความประหม่าเมื่อครูออกไปจนหมด เหลือเพียงแค่นัยน์ตาเจ้าชู้กรุ่มกริ่ม ที่อยู่ดี ๆ จะได้ลิ้มรสชาติสาวอาชีวะสุดแซ่บอย่างน้อยทราย ก็อยากรู้เหมือนกันว่าน้องทรายคนนี้ กับว่าที่เมียหมายเลข 9 จะรสเด็ดสักแค่ไหนกันเชียว

...มันเป็นบ่วงกรรมที่คนอย่างลุงพลหนีไม่พ้นจริง ๆ อย่างที่องค์ตุลาการสวรรค์ได้เคยกล่าวไว้ ว่าถึงคนอย่างแกจะพยายามหักห้ามใจสักเท่าไร ก็ไม่อาจฝืนชะตาฟ้าลิขิตได้ ก็อยากรู้เหมือนกันว่าสก๊อยสาวอย่างน้องทรายคนนี้ ที่ลุงพลเห็นมาตั้งแต่อ้อนแต่ออดจะรสจัดจ้านมากสักเท่าไรกันเชียว


โปรดติดตามตอนต่อไป...

ตัวอย่างบางส่วนของตอนต่อไป
(ขอซ่อนนะครับ 5555)


 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ฝากติดตามเพจเฟสบุ๊คของผมด้วยนะครับ

https://web.facebook.com/Nato87.The.Storyteller


ปู่หมาป่า

กลับมาแล้ว โดนัทของปู่ก็มาแต่บทน้อยจัง ทรายจะเป็นไงนะสู้พี่ได้ไหม อยากรู้จัง ตอนต่อไปมาเร็วๆนะหลาน

Nato87 : บทเธอเยอะแล้วในช่วงครึ่งแรกของภาคแรกครับ ภาคสองต้องทำใจหน่อย เพราะไม่งั้นนางเอกภาคสองจะไม่ได้แจ้งเกิดบ้าง นางเอกตั้ง 12 คนเชียวนะครับ 555+

Daniel Dear

ครูเบสรู้เรื่องหมอพลอยแล้วจะทำอย่างไรต่อ จะระวังตัวขึ้นรึอยากจะเอาชนะหมอพลอยนะ

Pm Nuttakan


therasak

กับหมอพลอยยังเคลียร์ไม่ได้ เปิดตัวอีกคนเดี๋ยวได้ระเบิดลงหรอกลุงพล

mikehell


ppth

ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับผู้อ่านอย่างเรา ที่ไรท์แจ้งข่าวช่วงต้นนับว่าเป็นการเคารพการตัดสินใจของไรท์ครับ จริงๆ อย่างที่ว่าถ้าเอาไว้ตอนท้ายสุด บทของครูเยสท์ก็อาจจะมีน้อยและดราม่าระหว่างหมอพลอยก็จะไม่ค่อยมีอะไร ดังนั้นถ้าหมอหลอยรู้ว่าครูเบสท์เป็นของลุงพลแล้วทีนี้งานเข้าลุงแกเต็ม ๆ แน่ อีกทั้งมือขวาแก เช่น น้องนาถจะทำยังไงกับครูเบสท์ หรือจะเป็นตัวแปรคนสำคัญที่ทำให้ครูเบสท์เสร็จลุงแกอีกราย ยังไงก็อย่าง่ายไปนะครับมันดูเหมือนอะไรที่ได้มาง่าย ๆ คุณค่ามักน้อยลง รวมทั้งแสดงความยินดีกัลเฟริน์ และโดนัทที่มีบทบาทเล็ก ๆ ก็จะเหลือน้องขวัญที่น่าจะยากซักหน่อย ส่วนแนนนี่เข้าทางพิมมีน่าจะสะดวก เพราะน่าจะมีปัญหาเรื่องการเงิน ทีนี้ละลุงผลต้องวางสนุกดีดีละ ไม่งั้นคนใกล้ตัวอาจทำใหเแกเดือดร้อน ยังไงคุลการอะไรนั่นก็มีลับลมคมในเหมือนกัน นี่ละน้า วิบากกรรมของลุงแก ...
ปล.อย่าลืมเซอร์วิชเจ้าลอยกับทอมสาวนะ

Nato87 : ไม่ต้องกลัวว่าครูเบสท์จะเสร็จลุงพลง่ายไปหรอกครับ ไม่มีการขืนใจ ไม่มีการวางแผนล่อลวง แต่มันเกิดขึ้นเพราะผลของการกระทำของตัวละครต่าง ๆ ในเรื่อง ผมบอกได้แค่นี้แหละ 5555

freedom-more

#8
รอตอนหน้าไม่ไหวแย้ววว ทิชชู่ในมือมันสั่น ฮาๆ

ว่าแต่บทครูเบสนี่จะเสร็จลุงพลอีท่าไหนน้อ คิดไม่ออกเลยจริงๆ เอิ๊กๆ

แค่เรียกน้ำย่อยก็ร้อนแรงน่าดูชมซะแล้วว ต้องจัดให้หนักเลยแบบนี้ เด็กมันอยากลองของ 555+

xtazy

ท้าทายแบบน้ีน้องทรายคงสลบคาเตียง ลุงคงจัดให้เธอไม่เหลือแรงครางทีเดียว

lololololo

โผพลิก​ กลายเป็นน้องทรายแซงคิวขึ้นมาเป็น​เมียคนถัดไปของลุงพล​ดีไม่ดี​ น้องทรายอาจเป็นอาวุธ​ลับในการช่วยให้ครูเบสเสร็จลุงพลก็ได้

pooloop

น้องทรายเอ๋ย มีแววโดนลุงพลจัดหนักจนร้องขอชีวิตแน่ๆ มาพูดกับลุงที่มีเมียมาเกือบสิบคนแบบนี้ 55

Tanaka Tanaka

ตัวร้ายหลักน่าจะเป็นน้องนาถแล้วครับแบบนี้
อารมณ์ประมาณโลกิในมาร์เวล เสี้ยมให้ตีกันเอง จนเหลือตัวเองคนเดียว  ::HoHo::

Nato87 : 555555 ผมนี่ลั่นเลย ใช่ครับ นาถเนี่ยแหละตัวร้ายของจริง

♤judas♤

น้องทรายมายั่วขนาดนี้แถมมาดูถูกกันอีก..เจอลุงพลจัดหนักๆอย่าติดใจล่ะ

ANO555