ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

หมอผีสีเหียบ ตอนที่ 18 - ข้อตกลง by Assasin008

เริ่มโดย icejet, มกราคม 10, 2015, 06:08:09 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

icejet

หมอผีสีเหียบ ตอนที่ 18 - ข้อตกลง
.................................
Assasin008  2014-01-03 07:15

   "ขับรถพาน้องไปเที่ยวทะเลดี ๆ นะต้นกล้า เดี๋ยวแม่จะตามไปพรุ่งนี้เช้า"

   แม่พลอยส่งเสียงเจื้อยแจ้วขณะยืนก้มหน้าลงมาหาผมซึ่งกำลังนั่งอยู่ในรถ ท่าก้มของเธอทำให้เสื้อคอเว้าที่เปิดกว้างอยู่แล้ว กลายเป็นเปิดกว้างกว่าเดิมจนแลเห็นลึกเข้าไปถึงยกทรงสีดำที่ห่อหุ้มก้อนเนื้ออวบเต่งและหน้าท้องขาวผ่องด้านใน ซึ่งแน่ล่ะว่าเธอเจตนายั่วผม

   ถึงรู้ว่าเธอเจตนา แต่ผมก็ตื่นตัวขึ้นมาอยู่ดี เพราะวันนี้แม่พลอยกลับมาอยู่ในภาพลักษณ์ของคุณนายในสังคมชั้นสูง ซึ่งถูกห้อมล้อมด้วยคนรับใช้ดุจนางพญาหงส์อีกครั้ง หลังจากที่เมื่อสามวันก่อนเธอโดนฤทธิ์น้ำหอมผีพรายจนหมดสภาพกลายเป็นกะหรี่ราคาถูกไปหยก ๆ

   วันนี้แม่พลอยสวมใส่ชุดทำงานแลดูทะมัดทะแมงแฝงไปด้วยความเซ็กส์ซี่ กระโปรงสีดำแลดูเป็นทางการไม่สั้นไม่ยาวเกินไป แต่ก็ชวนให้มองขาอ่อน เธอใส่เสื้อสีขาวเนื้อบางคอกว้างเว้าลึกจนเห็นสองเต้าเป็นก้อนกลมดิก แต่ยังดีที่เธอมีเสื้อสูทสีดำอีกตัวที่เธอแอบกระซิบรับปากว่าจะใส่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น

   วันนี้เป็นอีกวันที่ผมตื่นเต้นที่สุดในชีวิต เพราะผมเข้ามาในคฤหาสน์ของน้องแพรและแม่พลอยอย่างเปิดเผย ในฐานะแฟนของน้องแพร ซึ่งฐานะนี้มาจากการอุปโลกน์เสนอของแม่พลอยเอง วันนั้นเมื่อพวกเธอตื่นขึ้นมาในโรงแรมม่านรูดก็เกิดความสับสนโกลาหลเล็ก ๆ เนื่องจากพวกเธอจดจำอะไรไม่ได้เลย

   น้องแพรแสดงอาการตื่นตกใจมากที่สุด เมื่อได้ทราบว่าทั้งแม่และไอรีนที่เป็นน้องสาวกลายเป็นเมียของผมหมดแล้ว แต่ยังดีที่แม่พลอยได้สติก่อนใคร ทั้งคิดไวทำไวพยายามพูดในแง่ดีเข้าข้างผมเต็มที่ แม่พลอยพยายามบอกแพรให้ใจเย็น และคิดในแง่ดี เพราะอย่างน้อยพวกเธอแม่ลูกและไอรีนก็ไม่ต้องเสียตัวให้พวกไอ้ชัย

   หนูไอรีนนั้นไม่พูดอะไรมากนัก เธอเพียงหันมามองผมบ่อยครั้งด้วยความงุนงง ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะว่าที่เธอจำได้ล่าสุดก็คือเธอสลบไปในห้องคาราโอเกะ แต่พอตื่นขึ้นมาก็อยู่ในห้องนอนเตียงกันกับแม่พลอยและแพรแล้ว

   แม้ว่าแพรจะแสดงอาการเคร่งเครียดในตอนแรก แต่เมื่อโดนแม่พลอยหว่านล้อมเยอะเข้า เธอก็เริ่มผ่อนคลายและได้คิด ดูเธอจะสบายใจขึ้นเมื่อผมบอกว่าพวกเธอปลอดภัยไม่โดนพวกไอ้ชัยทำอะไร เพียงแค่โดนผมทำคนเดียวเท่านั้น ซึ่งแน่ล่ะ ผมไม่ได้บอกแม่พลอยว่าเธอโดนผมสิงร่างนายบอยแล้วมีอะไรด้วยเพื่อให้เธอสบายใจกว่าเดิม

   ขณะที่แพรยังมึน ๆ ผมก็เปิดคลิปที่อัดไว้ให้เธอดู ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นภาพเคลื่อนไหวที่น้องแพร แม่พลอย และไอรีน เสนอตัวเข้าหาผมทั้งนั้น เธอจึงหน้าแดงก่ำ และค่อยเชื่อในสิ่งที่ผมบอกมากขึ้น

   แม่พลอยก็สมกับที่เป็นผู้ใหญ่ แม้จะยังไม่ได้รับรู้ความจริงทั้งหมด แต่เธอก็จัดการหันเหเรื่องราวให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง เธอบอกแพร และไอรีนว่าไหน ๆ ก็โดนผมรวบหัวรวบหางไปแล้ว ก็ถือซะว่าชะตาอยากให้มีสามีคนเดียวกันไป แม่พลอยฉวยโอกาสประกาศยกแพรให้ผมทันทีโดยบอกว่าหากบังเอิญมีไอ้ตัวเล็กจะได้มีพ่อ

   แพรแสดงสีหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อยเมื่อพูดในแง่ว่าเธออาจจะท้อง แต่พอหันมามองผมเธอก็ก้มหน้างุดเหมือนไม่ได้เคร่งเครียดกับเรื่องนี้นัก แต่ว่าหนูไอรีนแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยเพราะเธอก็อยากเป็นแฟนผมเหมือนกัน เดือดร้อนจนแม่พลอยต้องบอกว่าเธอจะช่วยตะล่อมพ่อแม่ของไอรีนให้ ไอรีนจึงค่อยหายงอน

   เมื่อทุกอย่างลงตัว เรื่องราวก็ง่ายขึ้น น้องแพรขอตัวไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างเนื้อล้างตัวและสงบสติอารมณ์ แต่เมื่อเธอออกมาเห็นผมกำลังระเริงรักกับแม่พลอยและหนูไอรีน อารมณ์ที่ยังค้างคาอยู่ก็ทำให้ผมมีอะไรกับเธออีกรอบ กว่าจะเสร็จเรื่องราวก็มืดค่ำพอดี

   โชคดีที่มีแม่พลอยอยู่ด้วย น้องแพรจึงไม่ต้องเคลียร์กับที่บ้านเรื่องไม่กลับบ้านเพราะถือว่าอยู่กับแม่อยู่แล้ว ส่วนหนูไอรีนนั้นพ่อแม่ของเธอไม่ค่อยอยู่ประเทศไทย จึงไม่ต้องลำบากเรื่องแก้ตัวอะไรมาก

   สรุปว่าพวกเราสี่คนค้างในม่านรูดสองคืน เช้าอีกวันผมถึงค่อยพาพวกเธอกลับบ้านในสภาพหมดเรี่ยวหมดแรง ส่วนผมที่มียาดีของพ่อ ตอนกลับบ้านก็ยังต้องนอนพักไปหนึ่งวันเต็ม ๆ เหมือนกัน

   แม้ว่าจะไม่ได้คบหากันแบบเปิดเผยในมหาลัย แต่เมื่อผมเป็นแฟนกับน้องแพรอย่างเป็นทางการแล้ว ภารกิจที่เปลี่ยนไปของผมก็คือขับรถรับส่งน้องแพรและหนูไอรีนทุกเช้าเย็น แต่ว่าวันนี้ภารกิจอาจจะเปลี่ยนแปลงไปสักหน่อย เพราะนี่เป็นวันศุกร์ที่พวกเราชมรมถ่ายรูปมีนัดกันไปถ่ายรูปริมทะเลในตอนเย็นหลังเลิกเรียน และจะอยู่ค้างกันสองคืน

   ปกติแล้วการไปเที่ยวแบบนี้ น้องแพรคงไม่ได้ไปอย่างแน่นอน ต่อให้ดาวสนิทกับทางบ้านนี้ก็ตามที แต่เนื่องจากแม่พลอยกลายมาเป็นพวกเดียวกันแล้ว เรื่องนี้จึงกลายเป็นเรื่องง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ

   "คุณแม่ขา ก้มมากไปแล้วนะคะ"

   ขณะที่ผมกำลังมองนมของแม่พลอยเพลิน ๆ น้องแพรที่นั่งอยู่ด้านข้างผมก็โน้มตัวมาส่งเสียงกระซิบเตือนแม่ของเธอพร้อมกับหยิกแขนผมเบา ๆ ผมจึงค่อยได้สติหันมายิ้มแหย ๆ ให้น้องแพร แต่แม่พลอยก็ยังคงอยู่ในท่าเดิม แถมยังส่งเสียงหัวเราะขำ ๆ ทำท่าเหมือนถูกอกถูกใจต่อท่าทีหึงหวงของน้องแพรเสียด้วย

   "ค่า คุณเมียหลวง คิก คิก"

   แม่พลอยแอบกระซิบเบา ๆ ให้คนในรถพอได้ยิน เพราะที่ด้านนอกมีสาวใช้ยืนออกันอยู่อีกสองคน และพวกเธอเหมือนจะกำลังให้ความสนใจกับคนที่เป็นว่าที่ลูกเขยของบ้านนี้กันมากทีเดียว

   "แม่อ่ะ"

   น้องแพรส่งเสียงประท้วงที่ถูกเรียกว่าเมียหลวง ในขณะที่บรรดาเมียน้อยอย่างหนูไอรีนและดาวซึ่งนั่งอยู่ด้านหลังพากันส่งเสียงหัวเราะคิกคักออกมาพร้อมกัน โดยที่สาวใช้ทั้งสองได้แต่ยืนงงอยู่ด้านนอกรถ เพราะไม่ได้ยินบทสนทนาของพวกเรา

   อ๊ะ ใช่แล้ว ผมลืมบอกไป ตอนนี้น้องแพรรู้แล้วว่าดาวก็เป็นเมียผมอีกคน ซึ่งความจริงเธอก็รู้อยู่ก่อนหน้าแล้ว เพียงแต่ไม่แน่ใจนักเท่านั้น

   "ไปได้แล้วจ้ะต้นกล้า พาลูก ๆ ของแม่ไปดี ๆ เดี๋ยวก็ไปสายหรอก ตอนเช้าต้องไปเรียนก่อน แล้วเดินทางเที่ยงใช่มั้ย? เอากระเป๋าเสื้อผ้าไปครบแล้วใช่มั้ย? ถึงเกาะกี่โมง?"

   "น่าจะถึงค่ำ ๆ หน่อยครับ ถึงแล้วจะให้แพรโทรมาบอก"

   แม่พลอยตบท้ายด้วยการถามย้ำด้วยวิสัยของคนเป็นแม่ ผมจึงบอกเวลาคร่าว ๆ โดยประมาณ แต่เรื่องกระเป๋าเสื้อผ้านี่คงจะไม่ต้องห่วง เพราะว่าของผมมีแค่กระเป๋าเสื้อผ้ากับกระเป๋ากล้องเล็ก ๆ สองใบ แต่ของสามสาวนี่ยัดเข้าไปจนแทบจะเต็มท้ายรถแล้ว

   ผมยกมือไหว้ลาแม่พลอยตามธรรมเนียม แล้วบึ่งรถออกมาจากคฤหาสน์หลังใหญ่ โดยผมจะแวะไปส่งหนูไอรีนที่โรงเรียนนานาชาติของเธอก่อน แล้วจึงค่อยแวะไปจอดในมหาลัย เพราะดาวกับแพรเรียนมหาลัยเดียวกันกับผม

   ผมขับรถพลางชำเลืองมองชื่นชมความงามของสามสาวแสนสวยต่างวัยเป็นระยะ พวกเธอยังคงพูดคุยกันถูกคอตามปกติ หัวข้อสนทนาเหมือนจะมีไม่รู้จักหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องละคร เพลง ชีวิตดารา ความสวยความงาม พวกเรื่องที่สาว ๆ ชอบแต่ผู้ชายไม่ค่อยสนใจ

   ผมรับฟังเสียเป็นส่วนมาก เพราะไม่มีความรู้พอจะคุยด้วย แต่อีกอย่างก็คือผมชอบนั่งมองดูความสวยน่ารักของพวกเธอมากกว่า ยกตัวอย่างเช่นตอนนี้ผมกำลังมองดาวผ่านกระจกมองหลัง แอบมองขากับร่องนมขาว ๆ ในชุดนักศึกษารัดติ้วของเธอ ซึ่งดาวเองก็เหมือนจะรู้ว่าผมเองมอง เพราะเธอเองก็ชำเลืองสายตายั่วเย้าผมบ่อย ๆ แถมยังมีการถ่างขาออกน้อย ๆ เปิดช่องให้ผมส่องลึกจนเห็นกางเกงในเป็นระยะ

    ดาวนั้นเรียกได้ว่าสวยแบบเปรี้ยวจี๊ดจนเข็ดฟัน เธอไม่เขินอายที่จะเปิดเผยความสวยงามออกมา ตอนนี้เธออายุยี่สิบสองกำลังสวยเต่งเต็มที่ เธอยังคงสมกับฉายาดาวยั่วประจำมหาลัย ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัวและกิริยาอาการ เรียกได้ว่าถ้าเดินผ่านแล้วไม่เกิดอารมณ์ก็คงจะไม่ใช่ชายแท้แล้ว

   ดาวดูจะเป็นศูนย์กลางของการสนทนา เพราะมีประสบการณ์ชีวิตมากที่สุด ทั้งยังช่างพูดช่างจา โดยเฉพาะพวกเรื่องขำขันใต้สะดือที่หนูไอรีนชื่นชอบ

   ผมละสายตาจากดาวหันไปมองเด็กสาวฝรั่งผมทองตาสีฟ้าเมื่อได้ยินเสียงเธอหัวเราะร่วน วันนี้เธอสวมใส่ชุดนักเรียนโรงเรียนนานาชาติเสื้อสีขาว กระโปรงลายสก๊อตสั้นเสมอเข่า เด็กสาวมัธยมปลายหน้าใสอายุสิบห้าสิบหกนั้นมีนิสัยเปิดเผยไม่แพ้ดาว หากแต่เป็นอีกแบบหนึ่ง

   ไอรีนนั้นมีแนวคิดแบบฝรั่งที่แสดงออกเปิดเผยเรื่องรักใคร่อย่างเต็มที่ เสื้อผ้าที่สวมใส่จึงขับเน้นสัดส่วนทรวดทรงอวบเกินวัยไม่แพ้ดาว แต่ที่ต่างก็คือเธอเปิดเผยโดยธรรมชาติ ไม่ได้มีจริตขนบธรรมเนียมขวางกั้น ยกตัวอย่างเช่น ไอรีนยินดีอย่างยิ่งที่จะจูบปากกับผมในที่สาธารณะ แต่ว่าดาวที่ได้ฉายาว่าดาวยั่วนั้นจะยังมีจริตเอียงอายในเรื่องนี้อยู่บ้าง

   สุดท้ายผมก็ละสายตาจากสัดส่วนของหนูไอรีน แล้วหันมามองใบหน้าด้านข้างของน้องแพร และผมก็ยังคงพบว่าน้องแพรของผมสวยซึ้งโดดเด่นกว่าใครเท่าที่ผมรู้จัก แค่ได้มองหน้าของเธอ ผมก็รู้สึกอิ่มเพ้อละเมอโดยไม่ต้องทำอะไรแล้ว ยิ่งได้มานั่งใกล้เธอ ได้กลิ่นหอมอ่อนจางจากร่างของเธอ และได้เห็นสัดส่วนทรวดทรงองค์เอวในชุดนักศึกษาอีกก็ยิ่งทำให้ผมตื่นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

   หากจะให้หาคำจำกัดความของน้องแพร ผมคงต้องบอกว่าเธอเป็นสาวหวาน เป็นลูกคุณหนูที่จิตใจบริสุทธิ์ไร้เดียงสามากด้วยมารยาทคนหนึ่ง แต่นี่เป็นแค่คำจำกัดความเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ เพราะเมื่ออยู่บนเตียงนอนแล้ว น้องแพรนักศึกษาสาวสวยดาวมหาลัยวัยสิบแปดจะกลายเป็นผู้หญิงอีกคนที่ร้อนร่านไม่แพ้ดาวเลย

   "พี่ต้นกล้าขับรถดี ๆ ซิคะ เอาแต่แอบมองอยู่ได้"

   น้องแพรเหมือนจะรู้ว่าโดนผมมอง เธอจึงส่งเสียงประท้วงแต่ก็ไม่ยอมหันมามองสบตากัน ผมจึงได้แต่หัวเราะเบา ๆ ด้วยความรู้สึกสุขล้นที่ได้สาวสวยที่ผู้ชายทุกคนอยากได้แบบนี้มาเป็นคนรัก

   "ก็ทุกคนสวยน่ามองกันขนาดนี้ จะไม่ให้มองได้ไงล่ะ"

   ผมหันไปมองข้างหน้าตั้งใจขับรถ แต่ก็ยังแอบหยอดคำชมให้พวกเธอสักเล็กน้อย และนั่นก็ดูจะทำให้สามสาวยิ้มพออกพอใจไม่น้อย

   "คิก คิก เดี๋ยวนี้ต้นกล้าปากหวานขึ้นนะ เพราะว่าแพรหรือเปล่า แต่ก่อนไม่เห็นพูดหวานแบบนี้เลย เจอหน้าดาวมีแต่จะลากขึ้นเตียงไปขย่มอย่างเดียว ต้นกล้าใจร้าย ไม่มีปราณีกันบ้างเลย"

   ดาวส่งเสียงหัวเราะคิกคัก เธอทำตาน่าสงสารแล้วพูดใส่ไฟหยอกผมตามนิสัยขี้เล่นของเธอ ซึ่งความจริงแล้วก่อนหน้าที่ดาวจะทิ้งผมไปหาชัย ผมคิดว่าผมหวานกับดาวมากกว่านี้อีก

   เพียงแต่เมื่อเธอเจ็บมาจากไอ้ชัย แล้วกินยาเสน่ห์เข้าไปโดยบังเอิญ ความรู้สึกทั้งรักทั้งแค้น ทำให้ผมไม่หวานกับดาวอีก ผมจ้องแต่จะระบายอารมณ์ใครใส่สาวร่านอย่างเธออยู่ตลอดเวลา

   ผมยิ้มรับในตอนแรกโดยไม่คิดอะไร แต่เมื่อคิดได้ว่าน้องแพรจะคิดยังไงเมื่อได้ยินแบบนี้ผมจึงใจหายวาบกลัวเธอจะคิดไม่ดี และรีบหันไปมองดูอาการของเธอ

   สิ่งที่ผมเห็นทำให้ผมแปลกใจไม่น้อย เพราะว่าน้องแพรไม่มีกิริยาในทางที่ไม่ดีออกมาแม้แต่นิดเดียว หนำซ้ำเธอยังหน้าแดงทำท่าเอียงอายเสียด้วย ส่วนหนูไอรีนนั้นส่งเสียงร้องดังว้าว แล้วพูดเป็นภาษาอังกฤษว่า 'Enviable (น่าอิจฉา)' ซะงั้น!!!

   "นี่พวกเรา ตอนนี้ยังเช้าอยู่เลย แวะโรงแรมแถวนี้กันก่อนดีมั้ย?"

   หลังจากหย่อนระเบิดไปหนึ่งลูก ดาวก็หย่อนระเบิดอีกลูกด้วยการเสนอให้แวะโรงแรมพร้อมกับส่งสายตาวิบวับคาดหวัง ผมจึงสะดุ้งโหยงอยากย้อนถามกลับไปว่ายังไม่พออีกเหรอทั้งที่เมื่อคืนเพิ่งจัดกับผมไปสามรอบ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดออกไป เพราะเกรงว่าน้องแพรจะไม่พอใจ

   "Let's go!! I vote for hotel (รีบไปกันเถอะ ไอรีนสนับสนุนให้ไปโรงแรม)"

   ตามที่คาดไว้ หนูไอรีนเด็กสาวฝรั่งใจกล้าไม่ต้องเสียเวลาคิดแม้แต่วินาทีเดียว เธอรีบตอบตกลงด้วยเสียงอันดัง แล้วหันมาส่งสายตาวิบวับให้ผมอีกคน ตอนนี้ผมจึงโดนขอร้องด้วยสายตาจากสองสาว เหลือก็แต่น้องแพรที่ทำหน้าเหวอเหมือนไม่คิดว่าจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้

   คราวนี้ดาวกับหนูไอรีนก็หันไปส่งสายตาอ้อนวอนแพรแทน แต่แพรดูจะใจแข็งพอสมควร เธอจึงขมวดคิ้วหันมาทำหน้าดุใส่สองสาวที่คิดโดดเรียนแล้วหันมาขอความเห็นจากผม

   "ไม่ได้ค่ะ ไอรีนสัญญากับพี่แล้วนะ ว่าจะตั้งใจเรียน พี่ดาวก็ต้องตั้งใจเรียนเหมือนกันค่ะ พี่ต้นกล้าบอกว่าพี่ดาวโดดเรียนบ่อยเกินไปแล้ว เดี๋ยวพี่ดาวก็ไม่จบหรอก ใช่มั้ยคะพี่ต้นกล้า"

   ผมยิ้มแห้ง ๆ ตอบน้องแพร เพราะถ้าจะพูดกันตรง ๆ แล้ว ผู้ชายอย่างผมยังไงก็คิดสนับสนุนเรื่องเข้าโรงแรมอยู่แล้ว แต่พอนึกไปอีกทีว่าน้องแพรก็มีเหตุผลของเธอ การขาดเรียนบ่อย ๆ คงไม่เหมาะ โดยเฉพาะดาวที่โดดเรียนเป็นกิจวัตร ผมจึงพยักหน้าเห็นด้วยกับคุณเมียหลวงจนบรรดาน้อยทั้งสองส่งเสียงโห่ไม่พอใจออกมา

   "น้องแพรจ๊ะ ถ้าทำแบบนี้ ต้นกล้าก็น่าสงสารแย่ซิจ๊ะ เมื่อคืนก็ไม่ได้ปลดปล่อย ถ้าเช้านี้ยังไม่ได้ปลดปล่อย มีหวังแข็งโด่ทั้งวันเจ็บแย่เลย"

   ดาวส่งเสียงโห่พอเป็นพิธี แล้วหันมาส่งยิ้มเล่นหูเล่นตาให้ผม ก่อนจะพูดโกหกหน้าตาเฉย เพราะว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาผมเพิ่งนอนกับดาวไปหยก ๆ แต่ผมก็พอจะอ่านออกแล้ว ว่าดาวกำลังใช้แผนทำให้ดูน่าสงสาร เพื่อโน้มน้าวจิตใจของสาวไร้เดียงสาอย่างน้องแพร

   แผนของดาวเหมือนจะได้ผลไม่น้อย เพราะสีหน้าขึงขังของเธอแปรเปลี่ยนไป เธอหันมามองผมแล้วก้มลงมองที่เป้ากางเกงผมเหมือนจะสงสัยว่าของผมจะแข็งโด่ทั้งวันอย่างที่ดาวบอกหรือเปล่า แต่เมื่อเห็นว่าผมกำลังหันไปมองเธออยู่ น้องแพรก็หน้าแดงรีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่น

   "แพรนึกว่าเมื่อคืนพี่ต้นกล้าจะอยู่กับพี่ดาวซะอีก ... ก็พี่ดาว กับพี่ต้นกล้าอยู่ด้วยกันไม่ใช่เหรอคะ?"

   "จ้ะ พี่ไปอยู่ที่บ้านต้นกล้า เมื่อคืนพี่ก็ย่องไปหาต้นกล้าตามปกตินั่นแหละ แต่ว่าต้นกล้าบอกว่าขอพักผ่อน เพราะใช้พลังงานตอนช่วยระบายอารมณ์ให้สามสาวร้อนหมดแล้ว เมื่อคืนพอไม่ได้ระบาย ตอนเช้าก็เลยตั้งธงโด่เด่เลย น่าสงสารออก"

    ดาวเล่นบทตอแหลได้แนบเนียนจนขนาดผมเองยังเริ่มไม่แน่ใจว่าเมื่อคืนผมมีอะไรกับดาวจริงหรือเปล่า แต่แน่ล่ะว่าดาวกำลังสร้างเรื่อง โดยอ้างว่าผมไม่ได้ระบายอารมณ์ใคร่ เพราะต้องช่วยพวกน้องแพร แม่พลอย และหนูไอรีน แบบนี้จึงทำให้น้องแพรเริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีส่วนต้องรับผิดชอบขึ้นมา

   ผมพยายามแบ่งสมาธิมองทางขณะขับรถสลับกับหันมามองกิริยาของน้องแพร ซึ่งตอนนี้เธอกำลังหันมามองดูที่เป้ากางเกงของผมอีกครั้ง ซึ่งแน่นอนล่ะว่ามันกำลังแข็งโด่อยู่เนื่องจากโดนเสน่ห์ของสามสาวปลุกขึ้นมา แต่ดูเหมือนว่าน้องแพรกำลังหลงเชื่อคำพูดของดาวที่ว่าของผมแข็งโด่มาตั้งแต่เช้าแล้ว

   "Oh no!!! poor boy, please let me help you (ไม่นะ น่าสงสารจัง ให้ไอช่วยเถอะนะ)"

   หนูไอรีนยกมือขึ้นทาบหน้าอกอวบแล้วอุทานด้วยสีหน้าเหมือนจะเชื่อเรื่องนี้อย่างสนิทใจ แต่น้องแพรยังคงแสดงสีหน้านิ่งเหมือนคิดอะไรอยู่ จากนั้นไม่นานนักเธอก็ส่ายหน้า และยืนกรานว่าไอรีนจะต้องไปเรียนหนังสือตามปกติจนไอรีนส่งเสียงโห่อีกครั้ง

   กระนั้นสุดท้ายไอรีนก็เชื่อฟังแพรที่เป็นเหมือนพี่สาวของเธอแต่โดยดี เมื่อใกล้ถึง ไอรีนก็บอกให้ผมจอดรถในซอยที่ห่างจากโรงเรียนเล็กน้อยโดยอ้างว่าไม่อยากให้ใครเห็นว่ามีผู้ชายมาส่ง แต่ผมรู้สึกว่าไอรีนกำลังอยากทำอะไรบางอย่าง เพราะเธอไม่น่าจะสนใจเรื่องที่เธออ้างจริงจังนัก

   ลางสังหรณ์ของผมถูกต้อง เพราะเมื่อผมจอดรถในซอยที่มีคนไม่พลุกพล่านแล้ว แทนที่ไอรีนจะรีบลงจากรถ เธอกลับมองซ้ายมองขวาเหมือนรอจังหวะอะไรบางอย่าง เธอรอจนเด็กนักเรียนชายสองคนเดินผ่านรถของผมไป แล้วขยับตัวจากเบาะหลังก้าวขาข้ามเบียดมานั่งคร่อมบนตักผมหน้าตาเฉย

   ในขณะที่ทุกคนกำลังตะลึงนึกไม่ถึง เด็กสาวฝรั่งผมทองตาสีฟ้าก็ยิ้มให้ผมจนเห็นไรฟัน แล้วเธอก็โอบแขนกอดและบดปากจูบกับผมอย่างแนบแน่น

   เด็กสาวเสนอลิ้นสอดเข้ามาในปากผม ผมจึงตอบสนองกลับด้วยการแหย่ลิ้นไปพัวพันไว้สลับกับดูดลิ้นของเธอ เราสองคนจึงจูบกันเสียงดังจ๊วบจ๊าบอยู่ในรถ

   แต่หนูไอรีนยังไม่ยอมหยุดอยู่แค่นี้ ขณะกำลังจูบ เธอขยับสองมือไปกุมข้อมือของผมขึ้นมาวางแหมะบนหน้าอกไซส์มหาลัยของเธอ อีกทั้งยังพยายามกดบดส่วนเนินสวาทลงไปถูไถกับเป้ากางเกงที่กำลังแข็งปั๋งของผมไปพร้อมกัน

   ผมตอบสนองทุกอย่างตามสัญชาตญาณ เมื่อเธอเสนอจูบให้ ผมก็จูบตอบ เมื่อเธอเสนอสองเต้าให้ ผมก็บีบขยำ หนูไอรีนในชุดนักเรียนจึงตัวสั่นสะท้านด้วยความเสียวอยู่ข้างรั้วโรงเรียนนานาชาติที่เธอเรียนอยู่

   น่าเสียดายที่น้องแพรทำตัวเป็นกรรมการสั่งหยุดเกมเสียก่อน หนูไอรีนจึงต้องลงจากรถไปทั้งที่กำลังอารมณ์พลุ่งพล่านหน้าแดงก่ำ
 
   หลังจากนั้นไม่กี่นาทีผมก็ขับรถเข้าไปจอดในมหาลัย เพราะโรงเรียนของไอรีนอยู่ติดกับมหาลัยของพวกเรา ผมมองนาฬิกาแล้วพบว่าผมยังคงมาเร็วตามปกติ เช้าแบบนี้ยังไม่ค่อยมีคนมากนัก

   เรื่องน่าแปลกก็คือดาวกำลังยิ้มกริ่มมองดูน้องแพรเป็นระยะ ทำท่าทำทางเหมือนมีลับลมคมในอะไรบางอย่าง และดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ เพราะดาวไม่แสดงอาการงอแงอยากทำแบบเดียวกับไอรีนเลยแม้แต่นิดเดียว อีกทั้งยังอ้างว่ามีธุระต้องไปหาเพื่อน และขอแยกตัวไปก่อนอีกต่างหาก

   ผมถือกล้องตัวเก่งเดินเคียงข้างน้องแพรด้วยความรู้สึกอิ่มเอมหัวใจ แม้ว่าเราจะไม่ได้แสดงตัวว่าเป็นแฟนอย่างเป็นทางการ แต่อย่างน้อยหากมองจากสายตาคนภายนอกแล้ว พวกเราดูจะสนิทสนมกันมากทีเดียว

   ผมเดินถ่ายรูปด้วยความภาคภูมิใจ โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นสายตาลุ่มหลงผสมกับคลั่งไคล้ของคนอื่นที่จับจ้องมองดูน้องแพร บางรายนั้นถลึงตามองสัดส่วนทรวดทรงของน้องแพรราวกับจะจับเธอกินเสียตรงนั้น แต่ผมไม่รู้สึกโกรธแต่อย่างใด เพราะกำลังรู้สึกภูมิใจ และตื่นเต้นไปกับเหตุการณ์ด้วย

   "เอ๊ะ น้องแพรจะพาไปไหน?"

   ผมเดินตามน้องแพรเพลิน ๆ แบบไม่รู้ตัวจนเข้าไปในตัวอาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งเท่าที่ผมรู้นั้นอาคารนี้จะเป็นอาคารสำหรับอาจารย์โดยเฉพาะ แทบทุกห้องจะเป็นห้องพักอาจารย์

   น้องแพรหันมามองผมแล้วยิ้มแบบเขิน ๆ แต่ไม่ยอมตอบให้ชัดเจนว่าเดินนำผมมาที่นี่ทำไม อีกทั้งยังเร่งความเร็วในการเดินจนผมต้องเร่งฝีเท้าขึ้นอีกหน่อยด้วย

   น้องแพรไปหยุดยืนที่หน้าห้องของอาจารย์ท่านหนึ่ง ซึ่งดูจากป้ายชื่อหน้าห้องแล้วดูเหมือนจะเป็นผู้หญิง ผมจึงมองน้องแพรด้วยความแปลกใจว่าเธอพาผมมาทำไมที่นี่

   แล้วผมก็ต้องแปลกใจเป็นคำรบสอง เมื่อน้องแพรล้วงกุญแจออกมาไขห้องพักอาจารย์ได้หน้าตาเฉย แถมยังเดินนำเข้าประตูลิ่ว ๆ ไปเหมือนไม่เกรงกลัวสักนิดว่าอาจารย์ท่านนี้จะอยู่ในห้องหรือเปล่า

   เมื่อผมเดินตามเข้าไป น้องแพรก็รีบปิดประตูพร้อมกับกดล๊อคทันที จากนั้นเธอจึงค่อยเดินด้วยท่าทางขัดเขินไปหยุดยืนพิงสะโพกกับขอบโต๊ะทำงาน เธอหันมามองผมด้วยสายตาเหมือนอยากสื่ออะไรบางอย่าง

   "แพรสนิทกับอาจารย์ท่านนี้น่ะค่ะ อาจารย์ก็เลยฝากกุญแจไว้เผื่ออยากให้แพรมาหยิบเอกสาร ... ส่วนวันนี้ อาจารย์ลาพักร้อนไปต่างประเทศสามวันค่ะ ห้องนี้ก็เลยว่างไม่มีคนอื่นอีก"

   น้องแพรอธิบายผมด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักขัดเขิน ผมจึงค่อยได้เรียบเรียงความคิดในหัว น้องแพรพาผมมาในห้องพักอาจารย์ที่ไม่มีคนเพื่ออะไร?

    ผมใช้เวลาคิดแค่เสี้ยววินาทีก็ได้คำตอบแวบผ่านมาในหัว ผมจึงหันไปมองน้องแพรด้วยสายตาตื่นตะลึงไม่แน่ใจนักว่าผมคิดเข้าข้างตัวเองมากไปหรือเปล่า

   เมื่อโดนผมจ้องมองเหมือนอยากให้เธอสื่อความหมายมากกว่านี้ น้องแพรก็หน้าแดงซ่าน เธอก้มหน้างุดยกมือยกไม้ด้วยท่าทางกระมิดกระเมี้ยน แต่สุดท้ายเธอก็รวบรวมสติแล้วพูดเฉลยออกมาว่า

   "พี่ต้นกล้ายังเจ็บอยู่หรือเปล่าคะ อีกหนึ่งชั่วโมงแพรมีเรียน แต่แพรคิดว่าถ้าเร่งเวลาหน่อย น่าจะพอช่วยระบายให้พี่ต้นกล้าได้บ้าง"

ผมยืนตะลึงตาค้างไปกับเรื่องราวที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะเป็นไปได้ น้องแพรนักศึกษาสาวดาวมหาลัยกำลังยืนกระมิดเมี้ยนมองผมด้วยสายตาเชิญชวน ใบหน้าของเธอแดงซ่าน ดวงตาฉ่ำเยิ้ม ทรวงอกอวบเด้งสะท้านขึ้นลงหนักหน่วงตามจังหวะหายใจ สะโพกผึ่งผายนั่งพิงกับขอบโต๊ะจนกระโปรงนักศึกษาร่นขึ้นไปอวดท่อนขาขาวที่ถ่างอ้าออกเล็กน้อยจนเกือบแลเห็นกางเกงในอยู่รอมร่อ

   ทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไร แต่ผมก็ต้องหอบหายใจฟืดฟาดด้วยความกระสัน น้องแพรตอนนี้ช่างสวยเซ็กส์ซี่จนไม่รู้จะหาอะไรเปรียบเทียบ ด้วยความที่เธอเป็นคนสวยเด่นกว่าใครอยู่แล้ว เมื่อเธอเปิดใจยั่วเย้าเชื้อเชิญเสน่ห์ความสาวของเธอก็เล่นงานผมเสียจนหื่นจับปวดหนึบที่เป้ากางเกงกันเลยทีเดียว

   ตอนนี้ผมถึงค่อยได้คิดขึ้นมาว่านี่เป็นครั้งแรกที่น้องแพรเป็นฝ่ายเปิดเกมรุกใส่ผมก่อน แม้ว่าเธอจะโดนยาเสน่ห์ของพ่อผมเข้าไปอย่างจัง แต่ด้วยการที่เธอมีจิตใจเด็ดเดี่ยวทำให้เธอเพียงแค่มีอารมณ์ทางเพศ แต่ไม่ได้ถึงขั้นเปิดใจเสนอตัวเข้าหาอย่างคนอื่น

   ครั้งแรกตอนที่ผมถ่ายรูปให้เธอในโรงแรมนั้น ผมก็เป็นฝ่ายใช้กำลังปลุกปล้ำเธอ ส่วนตอนที่ชมรมถ่ายรูปผมก็อาศัยคาถาเรียกเมียปลุกเร้าจนเธอมีอารมณ์อย่างรุนแรง แล้วลงมือลวนลามกระตุ้นจนเธอทนไม่ไหว ส่วนครั้งล่าสุดที่โรงแรมม่านรูดก็เป็นเพราะโดนพวกไอ้ชัยใช้ยาเสน่ห์ปลุกจนอารมณ์เตลิดเปิดเปิง แต่ว่าครั้งนี้ไม่มีสิ่งกระตุ้นเร้าอะไรพิเศษทั้งสิ้น เธอเพียงเสนอตัวให้ด้วยการตัดสินใจของเธอเอง

   ผมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ รีบเหวี่ยงวางกระเป๋าสะพายลงไปบนพื้นห้อง แล้วเดินปรี่เข้าไปหาดาวมหาลัยแสนสวยขวัญใจมหาชน เธอคนนี้คือผู้หญิงที่หนุ่ม ๆ ทั้งมหาลัยอยากร่วมรัก แต่ว่าวันนี้เธอจะเป็นของผมแค่คนเดียวเท่านั้น

   "อืมมมม จุ๊บบบบ จุ๊บบบบ"

   ผมยืนมองใบหน้าสวยหวานละลานตาในระยะประชิดครู่หนึ่งก่อนจะขยับเข้าไปโอบกอดและบดจูบกับนางฟ้าแสนสวยคนนี้ เธอส่งเสียงครางแผ่วเบาตัวกระตุกสะท้านเป็นระยะเมื่อผมสอดลิ้นมุดเข้าไปสำรวจโพรงปากอันนุ่มนวลหอมหวานน่าลิ้มลอง ซึ่งเธอก็สนองตอบด้วยการใช้แขนและขากอดรัดผมไว้อย่างแนบแน่นวาบหวาม

   ผมจูบเธออยู่เนิ่นนาน ก่อนจะปลดปล่อยริมฝีปากของเธอให้เป็นอิสระ แล้วเริ่มซุกไซร้ไปที่พวงแก้มสีขาวอมชมพู ขบเม้มที่ใบหู ซุกไซร้ลงไปที่ลำคอขาวผ่อง หากทว่าเมื่อผมกำลังทำท่าจะซุกหน้าลงไปบนสองเต้าอวบ น้องแพรก็ใช้สองมือผลักไสผมออก แล้วส่งเสียงหอบกระเส่าเย้ายวนใจออกมาว่า

   "เดี๋ยวค่ะ ถอดเสื้อผ้าก่อน เดี๋ยวเสื้อยับ"

   เมื่อได้ยินดังนั้น ผมจึงถอยห่างออกมาหนึ่งก้าว แล้วเริ่มปลดกระดุมเสื้อนักศึกษา และปลดเข็มขัดกางเกง แล้วส่งสายตาสื่อสารให้น้องแพรจัดการถอดเสื้อผ้าของเธอออกด้วย

   น้องแพรเหมือนจะแปรความหมายออก เธอจึงมองค้อนผมแวบหนึ่ง ก่อนจะก้มหน้างุดกระมิดกระเมี้ยน แต่เมื่อผมถอดเสื้อผ้าของผมออกจนเปลือยเปล่าปลดปล่อยความเป็นชายอันยาวใหญ่เด้งผึงออกมา น้องแพรก็จับจ้องมองดูแทบไม่กระพริบตา ก่อนที่เธอจะเริ่มปลดเปลืองเสื้อผ้าของตนเอง

   "เดี๋ยวก่อนน้องแพร รอเดี๋ยวอย่าเพิ่งถอด"

   ผมรีบส่งเสียงจนน้องแพรชะงัก จากนั้นผมจึงยิ้มให้แล้วรีบขยับตัวไปเปิดกระเป๋าสะพายหยิบเอาขาตั้งกล้อง และกล้องคู่ใจขึ้นมาเซตค่าต่าง ๆ อย่างรวดเร็วที่สุด

   ตอนนี้ผมถึงค่อยนึกได้ว่าหากน้องแพรไม่พอใจขึ้นมาจะทำอย่างไร จึงหันไปมองดู แต่ก็ไม่เห็นท่าทีไม่พอใจแต่อย่างใด เธอยังคงหน้าแดงซ่านจับจ้องมองดูดุ้นเอ็นของผมอยู่เกือบจะตลอดเวลา

   "เอาล่ะ พร้อมแล้ว น้องแพรถอดได้เลยครับ อ๊ะ เดี๋ยวก่อน ขอถ่ายคลิปวีดีโอด้วยดีกว่า"

   ผมส่งสัญญาณให้น้องแพรเริ่ม แต่แล้วก็ต้องบอกให้หยุดอีกครั้ง เพราะนึกได้ว่าในกระเป๋ามีกล้องถ่ายภาพเคลื่อนไหวอยู่ด้วย ผมจึงรีบหยิบเอากล้องถ่ายภาพเคลื่อนไหววางบนขาตั้งกล้องจัดแจงถ่ายให้เห็นน้องแพรแบบเต็มตัว ส่วนในมือก็ถือกล้องถ่ายภาพนิ่งกดแชะแชะไปพลาง

   "ตั้งกล้องกันขนาดนี้ แพรต้องแนะนำตัวด้วยใช่มั้ยคะ?"

   น้องแพรหันไปมองกล้องแวบหนึ่งแล้วก็หันมามองค้อนใส่ผม ผมจึงพยักหน้าสนับสนุนความคิดของเธอ แต่ก็ยังไม่แน่ใจนักว่าน้องแพรที่ขี้อายนั้นจะกล้าทำเรื่องเสื่อมเสียต่อความเป็นกุลสตรีไทยแบบนี้หรือเปล่า โดยเฉพาะหากเธอกลัวว่าคลิปนี้จะหลุดออกไป

   "ชื่อแพรนะคะ อายุ 18 ค่ะ ตอนนี้เรียนอยู่มหาลัยชั้นปีที่หนึ่ง แพรสูง 168 ซม หนัก 49 กิโลค่ะ สัดส่วนก็ ...  38 - 24 - 36 ... คัพเอฟค่ะ ... ตอนนี้แพรกับแฟนกำลังอยู่ในห้องพักอาจารย์ ... และพวกเรากำลังจะ ..."

   น้องแพรคล้ายจะมอบความเชื่อใจให้ผมอย่างเต็มที่ อีกทั้งผมยังรู้สึกได้ว่าเมื่ออยู่หน้ากล้อง น้องแพรดูจะมีอารมณ์พลุ่งพล่านกว่าปกติอยู่บ้าง เธอจึงหันไปมองกล้องและเริ่มพูดแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงหวานฉ่ำ ก่อนจะปิดท้ายด้วยคำพูดคลุมเครือและรอยยิ้มยั่วเย้า ตอนนี้เธอเริ่มขยับมือไปปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาเม็ดบนแล้ว

   ความหื่นที่ล้นอกทำให้ผมแทบอยากจะจับเธอถลกกระโปรงขึ้น กระชากกางเกงในออกมาแล้วกระเด้าใส่เสียตั้งแต่ตอนนี้ แต่ว่าภาพตอนที่เธอกำลังใบหน้าแดงซ่าน ถอดเสื้อผ้าปลดกระดุมออกทีละชิ้นด้วยความเต็มใจกลับกำลังสะกดจนผมได้แต่ละเมอเผลอมองนิ่งเงียบ และกดถ่ายรูปดังแชะ แชะ ระรัว เธอสวยเหมือนนางฟ้าจริง ๆ

   ผมปรับเลนส์ซูมไปยังทรวงอกอวบอิ่มที่เด้งทะลักออกมาจากยกทรงสีสวยแล้วกดถ่ายระรัว แต่เพียงแค่แวบเดียวน้องแพรก็ยกมือขึ้นปิดบังทรวงอกเอาไว้แล้วหันมาส่งสายตายั่วเย้าให้ผม ก่อนจะใช้มือเพียงข้างเดียวสะกิดถอดกระโปรงนักศึกษาของตัวเองออกอย่างเชื่องช้า

   ขณะที่กล้องวีดีโอกำลังบันทึกภาพอันสวยงามทั้งหมดเอาไว้ ดุ้นเอ็นของผมกำลังกระตุกหงึกด้วยความร้อนรนอยากมุดเข้าไปเสพสมกับร่องรักสวรรค์สร้างให้สาสมใจ แต่ผมก็ยังคงรอคอย รอกระทั่งกางเกงในซึ่งเป็นเสื้อผ้าชิ้นสุดท้ายบนร่างกายถูกรูดลงมากองบนพื้นห้องพักอาจารย์

   เสียงแชะแชะดังระรัวต่อเนื่องถี่ยิบ น้องแพรยืนก้มหน้างุดอยู่บนนั้น ไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้น มือขวาโอบปิดประคองสองเต้าอวบอิ่มเอาไว้ ส่วนมือซ้ายก็เลื่อนลงมาปิดที่โคกสวาทอย่างหมิ่นเหม่ ผมมองดูความสวยที่ไม่มีที่ติของเธอจนวิญญาณเกือบหลุดลอย แพรสวยและมีเสน่ห์มากกว่าผู้หญิงคนไหนที่ผมรู้จักจริง ๆ

   "น้องแพร ... เอามือออกซิครับ"
   
   ผมส่งเสียงบอกน้องแพร เธอจึงละสายตาจากดุ้นเอ็นอันเขื่องของผมขึ้นมามองสบตา แล้วเธอก็กระทำสิ่งที่สมควรทำ เธอยกมือทั้งสองข้างขยับไปด้านหลังยันพิงไว้กับโต๊ะทำงานอาจารย์ ทรวงอกอวบใหญ่สวยได้รูปคู่นั้นจึงแอ่นเด้งเปิดเปลือยเผยความขาวสะอาดละลานตาจนผมแทบลืมกดถ่ายรูปเอาไว้

   "ถ่างขาออกด้วยครับ"

   ผมออกคำสั่งอย่างต่อเนื่อง ขณะที่น้องแพรปฏิบัติตามด้วยดี เธอเพียงอิดออดเล็กน้อย ก่อนจะถ่างสองขาออกกว้างเปิดทางให้เห็นโคกสวาทซึ่งโหนกนูนสวยงามน่ารุกล้ำ แม้จะผ่านเกมกามกับผมมาแล้วหลายครั้ง แต่กลีบเสียวของเธอก็ยังคงเป็นสีชมพูสวยสดน่ามอง

   "น้องแพรสวยสุดยอดเลยครับ ทั้งสวย ทั้งขาว ทั้งนมใหญ่ เห็นแล้วน่าเย..."

   ผมเผลอพรั่งพรูคำลามกออกไปเป็นชุด และเกือบหลุดคำว่า 'น่าเย็ด' ออกไป แต่นึกได้ว่าอาจจะหยาบคายเกินไป ผมจึงยั้งปากเอาไว้ก่อน แต่มือก็ยังคงกดถ่ายภาพแห่งความงามแบบระรัวถี่ยิบไม่หยุด

   "น่าอะไรคะ? พูดมาเลยนะ"

   น้องแพรกลับไม่ปล่อยให้คำพูดนั้นผ่านเลยไป เธอมองผมด้วยใบหน้าอันแดงซ่านแล้วถามย้ำจนผมต้องเปลี่ยนใจพูดออกมา เพราะรู้สึกว่าน้องแพรในตอนนี้น่าจะรับได้

   "พี่จะพูดว่า น่าเย็ด น่ะครับ"

   พอพูดออกมาตรง ๆ น้องแพรที่เป็นลูกคุณหนูถูกเลี้ยงดูมาในสังคมไฮโซก็มองผมด้วยสายตาหยาดเยิ้ม เธอเม้มปากและแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากตนเอง ก่อนจะพูดเชื้อเชิญประโยคหนึ่งออกมา

   "งั้นก็รีบทำซะทีซิคะ "
   คำพูดนั้นราวกับมนตร์สะกด ที่ทำให้ผมต้องวางกล้องถ่ายรูปในมือลงบนพื้น แล้วเดินนำพาร่างเปลือยเปล่าเข้าไปหาน้องแพร ปล่อยให้กล้องบันทึกภาพเคลื่อนไหวทำงานของมันต่อไป

   ตอนนี้ผมรับทราบแล้วว่าที่แท้จริงน้องแพรก็ตกอยู่ในมนตร์สะกดเหมือนคนอื่น เหมือนดาว เหมือนแม่พลอย เหมือนหนูไอรีน เพียงแต่ก่อนหน้านี้เธอยังไม่ยอมเปิดใจรับผมเข้าไป อีกทั้งยังจิตใจที่เข้มแข็งจนน่านับถือ เธอจึงเพียงมีอารมณ์แต่ไม่ยินยอม และนั่นต่างจากเหตุการณ์ในวันนี้ เพราะวันนี้น้องแพรทั้งมีอารมณ์ทั้งยินยอม เนื่องจากเธอได้เปิดใจให้ผมแล้ว ถึงแม้ว่านี่จะเป็นการเปิดใจภายใต้ 'ข้อตกลง' ที่ผมรู้สึกขัดใจอยู่บ้างก็ตามที

   ผมยิ้มเพื่อลืมเรื่องข้อตกลงนั้นไปก่อน แล้วเริ่มด้วยการโอบกอดและประกบปากจูบ เธอตอบรับด้วยการใช้แขนขากอดรัดผมอย่างแนบแน่น สักพักหนึ่งสองมือของผมก็เริ่มลูบไล้ตะปบไปตามความเรียบลื่นเนียนนิ่มของผิวกายนางฟ้าแสนสวยคนนี้ เริ่มจากลูบไล้ท่อนขาขาวแล้วไล่ไปขยำสะโพกผึ่งผาย ก่อนจะขยับล้วงสอดแทรกมาบีบขยำสองเต้าอวบจนน้องแพรตัวกระตุกครางเสียงสั่น

   "อืมมม อืออออ พี่ต้นกล้าคะ ... อืมมม ซี้ดดดสสส อือออ อูยยยสสส"

   น้องแพรส่งเสียงหอบครางหนักหน่วง ร่างของเธอกระตุกถี่ยิบตามจังหวะปลุกเร้าของผม ปลายถันสีชมพูที่ถูกหนีบอยู่ระหว่างง่ามนิ้วมือกำลังแข็งเต่งขึ้นมาเป็นเม็ดสีสวย

   น้องแพรเริ่มหอบหายใจกระเส่าส่งเสียงเคลิบเคลิ้มหนักหน่วงขึ้น เมื่อผมเริ่มบีบขยำสองเต้าของเธออย่างหนักหน่วง ปลายนิ้วทั้งสิบบีบขยับรีดเร้นไปตามความเนียนนิ่มของก้อนเนื้อเต่งตูมจนมันบิดเบี้ยว และทุกครั้งที่ผมใช้นิ้วบีบขยี้หัวนม น้องแพรก็เป็นต้องสะดุ้งโหยงส่งเสียงร้องอ๊ะอย่างเร่าร้อนออกมาทุกคราไป

   "อูยยสสส พี่ต้นกล้าคะ อ๊ะ อูยยย พี่ต้นกล้า อูยยยสสส ซี้ดดดด"

   ผมผลักน้องแพรจนหงายหลังลงไปนอนทับกองเอกสารบนโต๊ะทำงานอาจารย์ แล้วก้มหน้าลงไปซุกไซร้เสพความหอมหวานของทรวงอกอวบคัพใหญ่น่าหลงไหล ผมลากลิ้นโลมเลียรสชาติของเนื้อขาวเนียน พร้อมกับใช้สองมือบีบขยำ สลับกับอ้าปากงับดูดเลียหัวนมจนน้องแพรตัวกระตุกร้องครวญครางไม่เป็นภาษา
   
   สองเต้าของน้องแพรยังคงสุดยอดกว่าใครเช่นเคย แม้ว่าของดาว ของน้องแอน หรือของไอรีนจะถือได้ว่าใหญ่กว่าสาว ๆ ทั่วไปแล้ว แต่สองเต้าของน้องแพรนั้นยังใหญ่กว่าจนแทบล้นทะลัก และเธอไม่ได้มีดีแค่ความใหญ่โต  เพราะไม่ว่าจะบีบจับขย้ำไปตรงไหน ก็มีแต่ความนุ่มนิ่มเต่งตึงเด้งสะท้อนน่าขยำขยี้ไปเสียทุกตารางนิ้ว

   นี่เป็นสัมผัสที่เหมือนกับฝันไป แม้แต่ของแม่พลอยก็ยังสู้ไม่ได้ ถึงแม้ว่าแม่พลอยจะมีขนาดใกล้เคียงกัน และยังอยู่ในสภาพดีเยี่ยมเพราะใช้งานน้อยและดูแลรักษาอย่างดี แต่จะอย่างไรกาลเวลาก็ทำให้ความเต่งตึงลดลงไป ไม่เท่ากับเด็กสาวหน้าใสวัยสืบพันธุ์อย่างน้องแพร

   "ฮ้า ซี้ดดดสสส พี่ต้น อูยยยยย พี่ต้นนน อูวววว ซี้ดดดสสส"

   น้องแพรสะดุ้งกระตุกเด้งร่ำร้องดังกว่าเดิม เมื่อผมอ้าปากปลดปล่อยปลายถันแข็งเต่งของเธอ แล้วไล่ลิ้นวนผ่านสะดือลงไปซุกหน้าดูดกลืนความหอมหวานชุ่มฉ่ำที่ตรงกลางหว่างขา

   สองขาขาวผ่องของน้องแพรพาดอยู่บนบ่าทั้งสองข้างของผม ขณะที่ผมซุกหน้าเล้าโลมกับส่วนลี้ลับที่สวยงามน่าพิศวงที่สุดส่วนหนึ่ง และแน่ล่ะ สองมือของย่อมไม่ยอมอยู่ว่าง เพราะต้องจัดการบีบขย้ำสองเต้าของน้องแพรเพื่อกระตุ้นอารมณ์ของเธอไปด้วยอีกทาง

  หยาดน้ำใส ๆ ในร่องของน้องแพรหลั่งไหลออกมาราวกับเขื่อนแตก มากกว่าผู้หญิงคนไหนที่ผมเคยร่วมรักด้วย และนั่นแปลความตามทฤษฏีได้ว่า ที่แท้แล้วน้องแพรเป็นสาวเซ็กส์จัดยิ่งกว่าใคร เพียงแต่มีเปลือกของสาวหวานแสนเรียบร้อยห่มคลุมทับปิดบังความร้อนร่านเอาไว้เท่านั้น

   น้องแพรร้องครางซี้ดซ้าดเด้งสะโพกไม่หยุด เพราะโดนผมเร่งใช้ลิ้นแหย่แยงเข้าไปในรูฉกเข้าฉกออกถี่ยิบ กระทั่งเมื่อผมกระตุ้นเธอไปได้สักระยะ น้องแพรก็หลับตาปี๋ จิกหลังศีรษะของผมจนเจ็บ สองขาหนีบหัวของผมสุดแรง ทั้งกระตุกทั้งเกร็ง ทั้งหวีดร้อง และนั่นคือสัญญาณที่บ่งบอกว่าเธอไปถึงสรวงสวรรค์แล้วหนึ่งรอบ

   "ซี้ดดด ... อื๊อออออออ อื้มมมมม อื๊ออออออ พะ พี่ อ๊อยยย ตะ อึ๊ยยยย ต้น .... อื๊อออออ"

   มือและท่อนขาของเธอรัดแน่นเสียจนผมถอนตัวไม่ได้ แต่ยังดีที่พอมีช่องให้หายใจ ไม่งั้นอาจจะต้องตายเพราะหมดอากาศหายใจ

   ผมรอคอยจนเธอหายกระตุกจึงค่อยถ่างสองขาของเธอให้อ้าออก แล้วเดินถอยออกมาก้าวหนึ่ง ก่อนจะเดินไปหยิบเอากล้องถ่ายรูปมาถ่ายสภาพของดาวมหาลัยสุดสวยที่กำลังนอนถ่างขาอ้าซ่าตาหยาดเยิ้ม จากนั้นผมก็เดินไปขยับเปลี่ยนตำแหน่งของกล้องวิดีโอมาอยู่ในมุมเฉียง จะได้เห็นภาพของร่องดาวมหาลัยโดนกระเด้าอย่างชัดตา

   การร่วมรักไปพร้อมกับการถ่ายบันทึกภาพไว้กระตุ้นอารมณ์ตื่นเต้นของผมได้อย่างน่าประหลาด แต่ที่ประหลาดกว่าก็คือผมดันคิดพิเรนทร์ไปว่า หากผมได้กระเด้าน้องแพรต่อหน้าพวกไอ้ชัยน่าจะสะใจกว่านี้ ซึ่งความจริงก็อาจไม่ใช่พวกไอ้ชัยก็ได้ แต่ขอให้เป็นคนที่มองน้องแพรด้วยความเงี่ยนอยากจับเธอไปกระแทก แบบนั้นผมจะได้ 'อวดของดี' ที่ผมได้ครอบครองไปในตัว
   
   ผมส่ายหน้าเพื่อไล่ความคิดที่ไม่ดีนี้ออกไป แต่ผมก็ยอมรับว่าประสบการณ์ตอนใช้ร่างของบอยร่วมรักกับแม่พลอยโดยมีพวกไอ้ชัยรุมล้อมด้วยความกระหายด้วยนั้นมันช่างตื่นเต้นเร้าใจจนผมลืมไม่ลง และผมก็ยอมรับด้วยว่าหากเป็นไปได้ ผมก็อยากจะลองทำอะไรแบบนั้นอีกสักครั้ง แต่เงื่อนไขก็คือคนอื่นจะต้องได้แค่ดูเท่านั้น

   ตอนนี้พอเผลอนึกไปหากได้กระเด้านางฟ้าแสนสวยคนนี้ต่อหน้าผู้ชายคนอื่นจะน่าตื่นเต้นเพียงใด อารมณ์ของผมก็กลายเป็นพลุ่งพล่านดุเดือดขึ้นมา ผมโถมทับคร่อมลงไปยังบนเรือนร่างอวบอัดที่นอนแผ่หราบนโต๊ะอาจารย์ แล้วอ้าปากงับขบกัดที่หัวนมน้องแพรจนเธอร้องซี้ดซ้าดปากสั่นระริก   

   สองมือจับสองขาของน้องแพรถ่างอ้าออกแล้วขยับสะโพกเข้าประจำตำแหน่ง แล้วเริ่มขยับกระแทกอย่างเชื่องช้าแต่หนักหน่วง

   "อ๊อยยยยย พะ  ... พี่ .... ต้น ... โอยย ... ซี้ดดสสส อูยยย"

   การกระแทกครั้งแรกส่งปลายหัวบานแหวกผ่านร่องรักฟิตรัดไปได้หนึ่งในสาม น้องแพรตัวกระตุกอย่างรุนแรงเหมือนจะทั้งเจ็บทั้งเสียว จากนั้นผมก็ถอนเอวดึงออกมาแล้วกระแทกปั้กกลับเข้าไปใหม่เป็นครั้งที่สอง และคราวนี้มันก็มุดเข้าไปได้ประมาณครึ่งลำ ต้องรอจนถึงการกระแทกครั้งที่สามผมถึงจะสามารถยัดเยียดความเป็นชายเข้าไปในร่างของน้องแพรได้จนหมดลำ

   น้องแพรหอบหายใจฟืดฟาด ทั้งเด้งทั้งกอดผมเป็นพัลวัน สองมือของเธอบ้างลูบไปตามแผ่นหลังของผม บ้างก็จิกลงที่หลังคออย่างแรงจนผมเจ็บแปลบ แต่ความเจ็บแค่นี้ย่อมเป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะความมันส์เหมือนได้ขึ้นสวรรค์กำลังรอคอยอยู่เบื้องหน้านี้เอง

   ความสุขเสียวจากการตอดรัดของร่องหลืบที่สุดยอดกว่าใครทำให้หัวสมองของผมขาวโพลนไปหมด ผมกระแทกเอวใส่น้องแพรปั้ก ๆ เสียงดังสนั่นหวั่นไหวเหมือนกับสัตว์ป่า ร่างขาวโพลนของน้องแพรก็เด้งไปเด้งมาทำท่าเหมือนจะขาดใจตาย

   การกระแทกเอวหยุดลงชั่วคราวเมื่อน้องแพรส่งเสียงหวีดร้องเสร็จไปอีกหนึ่งรอบ ซึ่งความจริงผมก็ไม่ได้อยากหยุดหรอก เพียงแต่ว่าร่องของน้องแพรตอดหนึบแรงมากเสียจนขยับออกไม่ไหว แถมเธอยังโอบแขนโอบขารัดผมไว้จนแน่นเสียด้วยอีกทาง

   ขณะรอคอยให้น้องแพรหายเกร็งด้วยอารมณ์งุ่นง่าน ผมก็ได้ยินเสียงโห่เฮดังมาจากทางด้านนอกหน้าต่าง และเสียงนั้นก็ดังมากเสียจนน้องแพรสะดุ้งแหงนหน้ามองดูด้วยความตกใจเหมือนกัน

   ผมหยุดนิ่งยืนมองสถานการณ์อยู่ครู่ใหญ่ แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพวกเรา ข้างนอกนั่นเหมือนจะเป็นสนามรักบี้ และชมรมรักบี้น่าจะกำลังซ้อมตอนเช้ากันอยู่ ... แต่ เอ๊ะ ผมว่าเอามาเกี่ยวสักหน่อยก็อาจจะดีนะ

   นั่นเป็นความคิดชั่ววูบหนึ่ง ผมประคองน้องแพรขึ้นมาอุ้มทั้งที่ยังคงสอดใส่คาร่อง ใบหน้าของเธอเหมือนจะกำลังอยู่ในอารมณ์เคลิบเคลิ้มและสงสัยว่าผมจะทำอะไร

   ผมคลายความสงสัยให้เธอด้วยการยื่นมือไปเปิดหน้าต่างแล้วผลักออกจนแสงและลมจากภายนอกสาดส่องเข้ามา เสียงตะโกนของชมรมรักบี้ก็ดังก้องยิ่งกว่าเก่าจนน้องแพรกอดผมแน่นด้วยความตื่นตระหนกตกใจ

   "ไม่ต้องกลัวหรอกครับน้องแพร นี่มันชั้นสอง พวกเราแค่เปิดหน้าต่างแล้วหลบอยู่ด้านข้างแค่นั้นเอง"

   ผมพูดปลอบใจน้องแพรทั้งที่ตัวเองก็ยังไม่แน่ใจนักว่าจะปลอดภัยจริงหรือไม่ แต่อย่างน้อยห้องนี้ก็อยู่ชั้นสอง และเมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างก็ไม่เห็นอาคารหรือห้องอื่นอีก นอกจากสนามรักบี้ที่กว้างโข และเลยออกไปก็คือรั้วมหาลัยและถนนใหญ่

   ตอนนี้ผมถึงค่อยคลายใจอย่างจริงจัง ขอแค่เพียงผมไม่พาน้องแพรไปทำบนหน้าต่างก็น่าจะไม่มีใครเห็นว่าเกิดอะไรบนนี้โดยเด็ดขาด และตอนนี้ผมชักจะตื่นเต้นขึ้นมาแล้วซิ

   "น้องแพรรู้มั้ยว่าเวลาน้องแพรเดินผ่านพวกผู้ชาย ผู้ชายเขามองน้องแพรตรงไหน"

   ผมกระซิบถามที่ข้างหูน้องแพรแล้วจูบซุกไซร้สลับกับซอยเอวยิกเพื่อกระตุ้นอารมณ์ให้เธอผ่อนคลาย และดูเหมือนว่านั่นจะได้ผลไม่น้อย เพราะสีหน้าของเธอเริ่มดีขึ้น และเริ่มมีปฏิกิริยาตอบโต้กับการเล้าโลมของผม อีกทั้งยังพูดตอบโต้กลับมาด้วยน้ำเสียงยั่วเย้าเหมือนกำลังมีอารมณ์ร่วม

   "มองตรงไหนคะ? ... อืมมม ... อูยยยย"

   "มองหน้า มองนม มองขา มองสะโพก มองหน้าท้อง มองคอ เรียกได้ว่ามองทุกส่วนแหละ เพราะว่าผู้ชายทุกคนเขาก็อยากจะเย็ดนางฟ้าคนนี้กันทั้งนั้น ... ซี้ดดดสสส ของแพรตอดดีจัง"

   "ซี้ดดดสสส ... อืมมม ... พี่ต้นกล้าโกหกแล้ว คนอื่นเขาไม่ได้เจ้าชู้เหมือนพี่ต้นกล้าซะหน่อย ... ดีจังค่ะ พี่ต้นกล้า ... อูยยสสส"

   "ถ้าแพรไม่เชื่อก็ทดลองดูซิ เลือกใครก็ได้ แต่รับรองว่าร้อยทั้งร้อย ถ้าแพรแกล้งเปิดทางให้ เช่นไปเที่ยวกันสองต่อสอง หรือไปที่ลับหูลับตาคน ถ้าน้องแพรไม่โดนปล้ำ พี่ให้น้องแพรลงโทษได้เลย"
   
   "พี่ต้นกล้า ..."

   ตอนนี้แววตาของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอหันมามองผมด้วยสายตาเหมือนไม่พอใจ แต่ผมรู้สึกได้ว่าสองมือของเธอกำลังจิกลงบนหัวไหล่ของผมแรงขึ้นเรื่อย ๆ คล้ายกับว่ากำลังตื่นเต้นมีอารมณ์ขึ้นมาแล้ว

   ผมยิ้มให้และจูบปากแลกลิ้นกับเธอ ก่อนจะพูดปลอบให้เธอเข้าใจสิ่งที่ผมต้องการ

   "อย่าเข้าใจผิดนะ พี่ไม่ยอมให้น้องแพรโดนคนอื่นเด็ดขาด พี่ก็แค่อยากอวดน่ะ อยากอวดว่าแฟนพี่ทั้งสาว ทั้งสวย ทั้งเซ็กส์สะบัดจนใครก็คาดไม่ถึง ... ลองนึกภาพดูซิ ตอนนี้พวกเรากำลังแอบมีอะไรกันในห้องพักอาจารย์ แถมข้างนอกนั่นยังมีผู้ชายกำลังซ้อมรักบี้กันเป็นโขยง ... ถ้าพวกนั้นหันมาเห็นฉากดาวมหาลัยกำลังโดนเอา ลองคิดดูซิว่าพวกเขาจะมองน้องแพรด้วยสายตาหื่นกามขนาดไหน"

   ผมพูดพลางหันมองไปทางนอกหน้าต่าง ซึ่งตอนนี้ผมกำลังยืนกดน้องแพรอยู่ที่ข้างหน้าต่าง ตอนนี้พวกเราน่าจะปลอดภัยไม่มีใครเห็น แต่ว่าหากผมเกิดบ้าขยับอุ้มน้องแพรออกไปอีกนิดนึง ก็ไม่แน่ว่าจะโดนเห็นเข้า

   น้องแพรเบือนหน้าหันมองไปทางนอกหน้าต่างแวบหนึ่ง ตอนนี้พวกชมรมรักบี้กำลังส่งเสียงดังตั้งแถวชนปะทะกัน เธอมองดูด้านนอกนั้นด้วยสายตาลึกซึ้ง ก่อนจะหันมาทางผมแล้วหลับตาพริ้มไม่ยอมพูดไม่ยอมจาอะไรอีก

   ท่าทางนิ่งเงียบของน้องแพรจะบอกว่าเธอไม่พอใจก็คงไม่ใช่ เพราะตอนนี้เธอกำลังหอบหายใจแรงกว่าเดิม ทั้งยังเด้งสะโพกเข้ารับการกระเด้าของผมเร็วถี่ขึ้น เธอเสนอจูบให้ผมอย่างร้อนแรงจนผมแปลกใจ ก่อนที่เราสองคนจะเสร็จถึงจุดสุดยอดไปพร้อม ๆ กัน

   "พี่ต้น ... อูยยสสส ... พี่ต้น ... ซี้ดดดสสส ... พี่ต้นคะ ... อะ อ๊ายยยย"

   เธอหวีดร้องเสียงดังตัวกระตุกสั่นระริก สองมือจิกที่หัวไหล่ผมขณะที่ผมกำลังระเบิดน้ำเชื้อขาวข้นทะลักเข้าไปในโพรงสวาทของดาวมหาลัยแสนสวยคนนี้ ... อูยยย ของน้องแพรนี่ตอดสุดยอดกว่าใครจริง ๆ

   "รักน้องแพรที่สุดเลย ขอบใจนะ ... พวกเราแต่งตัวไปเรียนกันเหอะ เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมง"

   ผมจูบปากเธอและบอกรักเธออีกครั้ง ก่อนจะค่อย ๆ ขยับเอวถอนดุ้นเอ็นออกมา และปล่อยให้เธอไหลพรืดลงมายืนโซเซพิงกับผนังห้องด้วยสองขาที่สั่นระริก ผมมองดูสภาพของเธอ มองดูน้ำเชื้อของผมที่ไหลย้อยลงมาตามง่ามขาของเธอด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจอย่างที่สุด

   ผมหันไปหยิบเอาผ้าขนหนูผืนเล็กที่ผมติดกระเป๋าไว้ แล้วเทน้ำเปล่าใส่ให้พอชื้น ๆ แล้วยื่นส่งให้น้องแพร เพื่อให้เธอทำความสะอาดเช็ดเนื้อเช็ดตัว แต่เธอเพียงถือผ้าผืนนั้นแล้วยืนนิ่งมองไปนอกหน้าต่างทำท่าเหมือนจะคิดอะไรอยู่

   "ถ้าแพรใส่เสื้อท่อนบนให้เรียบร้อย แล้วชะโงกหน้าออกไปนอกหน้าต่าง ให้พี่ต้นกล้าทำเรื่องลามกจากข้างใน พี่ต้นกล้าคิดว่าพวกนั้นจะรู้มั้ยคะ?"

   แล้วน้องแพรก็ทำให้ผมต้องตื่นตะลึง เพราะเธอหันมามองผมด้วยดวงตาหยาดเยิ้ม แล้วพูดเสนอฉากรักที่ผมคิดว่าน่าจะโคตรตื่นเต้นสุด ๆ หากปล่อยให้เธอโผล่เฉพาะท่อนบนที่สวมใส่เสื้อผ้านักศึกษาให้เรียบร้อยออกไป ปล่อยให้ผมกระแทกจากด้านหลัง ก็คงไม่มีใครรู้ว่าน้องแพรทำอะไรอยู่ ให้ตายซิผมแทบไม่นึกเลยว่าน้องแพรที่ไร้เดียงสาจะสามารถเสนออะไรที่มันตื่นเต้นแบบนี้ได้

   น้องแพรก้มหน้าลงมองดูดุ้นเอ็นที่กำลังกระตุกหงึก ๆ ของผมแล้วยิ้มเย้ายวน เธอคงรู้แล้วว่าผมกำลังอยากทำอย่างที่เธอบอกจะแย่ จึงหยิบเอาผ้าขนหนูไปเช็ดซับเนื้อตัว สวมใส่ยกทรง ตามด้วยเสื้อนักศึกษา ในขณะที่ท่อนล่างยังคงเปลือยเปล่า

   น้องแพรยิ้มยั่วผมเล็กน้อย ก่อนจะขยับเดินไปยืนโก้งโค้งชะโงกก้มร่างเอี้ยวลำตัวส่วนบนออกไปด้านนอกในมุมเฉียง ๆ วางทรวงอกใหญ่ล้นทะลักลงบนขอบหน้าต่าง สะโพกเปลือยเปล่าของเธอจึงส่ายสะบัดไปมาอยู่ในมุมที่ไม่มีใครเห็น นอกจากผมที่อยู่ในห้องเพียงคนเดียว

   ผมรีบขยับไปแอบยืนหลบที่ผนังอีกด้านของหน้าต่าง แล้วแอบชะโงกหน้ามองไปข้างนอก ทีแรกนั้นทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ยังไม่มีใครหันมาเห็นน้องแพรที่อยู่บนชั้นสอง จนกระทั่งผ่านไปสองสามนาที ก็เริ่มมีคนหันมาเห็นน้องแพร

   เมื่อมีคนแรกเห็น ชายคนนั้นก็สะกิดบอกเพื่อนอีกคนให้หันมาดู สักพักทุกคนในชมรมรักบี้ก็เหมือนจะรู้ว่าดาวมหาลัยแสนสวยกำลังมองดูพวกเขามาจากชั้นสอง

   ด้วยนิสัยของผู้ชายตามปกติ เมื่อได้เห็นสาวสวยอยู่ใกล้ ๆ ต่อให้ไม่ใช่แฟนตัวเอง ก็จะเริ่มแสดงพลังรีดฝีมือออกมากันเต็มที่เพื่อจะอวดตัวเอง ทุกคนจึงปะทะกันแรงขึ้น และส่งเสียงกันดังขึ้น ทั้งยังหันมามองน้องแพรกันเป็นระยะทั้งเพื่อชมความสวยใสน่ารัก ทั้งยังวาดหวังว่าฝีมือของตัวเองจะต้องตาต้องใจดาวมหาลัยแสนสวยคนนี้

   ภาพที่เห็นจากด้านนอกก็เรื่องหนึ่ง ส่วนด้านในก็เรื่องหนึ่ง ผมขยับตัวมุดลอดใต้ขอบหน้าต่าง แล้วโผล่มายืนที่ก้นขาว ๆ ของน้องแพร

   น้องแพรตัวกระตุกน้อย ๆ พร้อมกับส่งเสียงครวญครางออกมาเมื่อโดนผมใช้ฝ่ามือสองข้างลูบตะโปมรีดเร้นไปตามสะโพกขาวโพลนและท่อนขา ก่อนจะส่งเสียงแปลกประหลาดพิกลเมื่อผมจับดุ้นเอ็นไปจ่อแล้วกดเสียบเข้าไปอย่างเชื่องช้า

   จากมุมนี้ทำให้ผมเห็นใบหน้าด้านข้างของน้องแพร เธอกำลังเม้มปากแน่น เหมือนจะพยายามไม่ให้แสดงความเสียวออกทางสีหน้ามากเกินไปจนคนข้างนอกรู้ ผมจึงยิ่งต้องซอยเอวยิกด้วยความรู้สึกตื่นเต้นระทึก นี่ผมกำลังมีอะไรกับน้องแพรต่อหน้าคนเป็นสิบ แต่ไม่มีใครรู้สักคนว่าน้องแพรกำลังโดนเอาอยู่

   
   พูดกันตามตรงแล้วความตื่นเต้นระทึกในครั้งนี้น่าจะมากกว่าครั้งไหนที่ผมเคยทำมา ไม่ว่าจะเป็นตอนโดนดาวบุกเข้าไปในห้องน้ำชายแล้วมีอะไรกันในนั้น หรือแม้แต่ตอนจับแม่พลอยยืนโก้งโค้งกระเด้าที่ริมถนน ไม่มีครั้งไหนเลยที่ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นระทึกได้ขนาดนี้

    ผมจับจ้องมองดูใบหน้าสวยซึ้งของน้องแพรจากด้านข้าง เธอยังคงพยายามปั้นหน้านิ่งได้ดีมากทั้งที่กำลังโดนผมซอยเอวยิก ๆ อย่างต่อเนื่อง อาจจะมีบ้างที่เธอต้องก้มหน้าเพื่อปิดบังความเสียวสยิวที่มากเกินทน และเท่าที่ผมเห็นสองมือของเธอนั้นจิกกดใส่ขอบหน้าต่างอยู่ตลอดเวลา

   ความยากลำบากของผมก็คือห้ามกระแทกเอวแรงเกินไป ไม่เช่นนั้นหากคนข้างนอกเห็นว่าน้องเด้งไปเด้งมาก็คงต้องเกิดความสงสัยกันบ้าง ตอนนี้ผมจึงรู้สึกเหมือนเข้าออกได้ไม่สุดต้องยั้งแรงเอาไว้ แต่ก็นั่นแหละ แลกกับความตื่นเต้นระดับนี้ยังไงก็คุ้ม

   เห็นหน้านิ่ง ๆ แบบนี้ แต่น้องแพรของผมสูดปากส่งเสียงซี้ดซ้าดตลอดเวลา เพียงแต่เสียงนั้นไม่ดังมาก พวกคนข้างล่างจึงน่าจะไม่ได้ยิน ผมจึงซอยเอวยิกไปอย่างสุดมันส์ น่าเสียดายที่ผมเอื้อมมือไปขยำสองเต้าที่กำลังวางแหมะอยู่บนขอบหน้าต่างไม่ได้

   "ซี้ดดดสสส ไม่ ...  ไม่ไหวแล้วค่ะ พี่ต้นกล้า ... ทนไม่ไหวแล้ว"

   ผ่านไปอีกระยะหนึ่ง น้องแพรก็ยกมือขึ้นป้องปากเอาไว้เพื่อปิดบังใบหน้าที่กำลังขมวดมุ่น เธอส่งเสียงร้องขอความเห็นใจจากผม ซึ่งแน่ล่ะว่าผมย่อมไม่ขัด ผมจึงดึงเธอถอยออกมาจากหน้าต่าง แล้วจัดให้ลงไปคลานสี่ขาบนพื้นห้อง จากนั้นก็เดินเกมกระแทกเอวใส่เสียงดังปั้ก ๆ จนน้องแพรร่ำร้องครวญครางแข่งกับเสียงของชมรมรักบี้ที่ด้านนอก

   เพียงไม่นานนักน้องแพรก็ตัวกระตุกเฮือก เธอส่งเสียงหวีดร้องแล้วฟุบหน้าลงไปนอนหอบกระเส่าบนพื้นห้อง ผมจึงถอนดุ้นเอ็นออกมาดังพล่อก แล้วอุ้มน้องแพรขึ้นไปนอนแผ่หราบนโต๊ะทำงานของอาจารย์

   ผมหยิบโทรศัพท์มือถือมาดูเวลาแล้วก็ต้องแยกเขี้ยวด้วยความเสียดาย ช่วงเวลาแห่งความสุขช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วเหลือเชื่อ

   "เหลืออีกห้านาที พวกเรารีบแต่งตัวเถอะ เดี๋ยวน้องแพรไปเรียนสายนะ"
   
   ผมบอกน้องแพรและขยับไปช่วยใช้ผ้าขนหนูเช็ดซับเหงื่อที่เปียกชุ่มไปทั่วใบหน้าและซอกคอ จากนั้นจึงไล่ต่ำลงไปที่ทรวงอก หน้าท้อง และเช็ดคราบน้ำกามที่ไหลย้อยลงมาตามง่ามขา เหลืออีกหน่อยเดียวก็สะอาดพอจะสวมใส่ชุดนักศึกษาอีกครั้งแล้ว

   ที่คาดไม่ถึงก็คือตอนที่ผมกำลังใช้ผ้าเช็ดที่เนินสวาทให้น้องแพร เธอกลับคว้าจับข้อมือของผมไว้ แล้วมองผมด้วยสายตาฉ่ำเยิ้มแปลก ๆ คล้ายกับแววตาของผู้หญิงที่กำลังต้องการรสรัก ทั้งที่ผมจัดการจนเธอเสร็จไปแล้วหลายรอบ

   "ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ วันนี้แพรอยากโดดเรียนสักวัน"

   ทั้งน้ำเสียงและแววตาของน้องแพรเต็มไปด้วยความยั่วยวนจนดุ้นเอ็นของผมเด้งผึงดีดตัวขึ้นมาอีกรอบ เพราะการที่เธอพูดเช่นนี้นั้นมีแค่ความหมายเดียว และนั่นหมายความว่าน้องแพรกำลังอยากทำกับผมต่อ

   ในฐานะผู้ชายแล้วผมย่อมไม่ขัดข้องอย่างเด็ดขาด เมื่อเธอเปิดทางกันขนาดนี้ผมก็โถมร่างลงนอนคร่อมทับแล้วเริ่มบรรเลงเพลงรักบทใหม่ เพราะจะยังไงช่วงนี้ผมก็ฟิตปั๋งเพราะได้ยาดีของพ่ออยู่แล้ว จะต่อทั้งวันก็ยังไหว

   เพียงแต่พวกเราเริ่มเกมกามกันได้ไม่นานเท่าไหร่ ก็มีเสียงเคาะประตูห้องพักอาจารย์จนผมกับน้องแพรพากันสะดุ้งโหยง ผมรีบลุกพรวดขึ้นสวมใส่เสื้อผ้า ซึ่งน้องแพรก็รีบทำแบบเดียวกัน เพราะกลัวว่าอาจารย์ของน้องแพรจะกลับมาก่อนกำหนด

   แต่พอนึกอีกทีก็ไม่สมเหตสมผล เพราะผมแค่ล๊อคกลอนประตูธรรมดา ไม่ได้ล๊อคจากด้านใน หากเป็นอาจารย์เจ้าของห้องก็น่าจะใช้กุญแจเปิดได้เลย ดังนั้นคนที่เคาะประตูน่าจะไม่ใช่อาจารย์ แต่อาจจะเป็นนักศึกษาสักคนเสียมากกว่า

   ผมกับน้องแพรยืนเร่งสวมใส่เสื้อผ้าด้วยความลุ้นระทึก เพราะคนข้างนอกยังคงยืนเคาะประตูอยู่ไม่ยอมไปไหนเกือบหนึ่งนาทีได้แล้ว กระทั่งเมื่อเสียงโทรศัพท์มือถือของผมดังขึ้นพร้อมกับชื่อของคนโทรเข้า ผมจึงเริ่มเดาได้ว่าคนที่เคาะประตูน่าจะเป็นคนนี้เอง

   "เปิดให้หน่อยค่า แหม แอบมาหาความสุขกันสองคน ขี้โกงจัง"
   
   เมื่อผมกดรับโทรศัพท์ เสียงเคาะประตูก็หยุดลง แต่มีเสียงของดาวแว่วดังเข้ามาในโทรศัพท์แทน ผมจึงหันไปยิ้มให้น้องแพร แล้วเดินไปเปิดประตูรับดาวเข้ามาในห้องอีกคน ... ตอนนี้ผมคิดว่าคลาสเรียนเช้านี้ คงต้องโดดเรียนแล้วล่ะ

.................................

   "เออ ไอ้กล้า ตอนเช้ามึงไปไหนวะ ไม่เห็นเข้าเรียน ดาวก็โดดด้วยอีกคน"

   ทันทีที่ประตูรถตู้สุดหรูปิดลง ไอ้โก้เจ้าของรถก็หันมาพูดกับผม แต่เดาจากที่สายตาของมันไม่ได้มองผม เอาแต่มองสาว ๆ ที่นั่งอยู่ในรถ ก็พอเดาได้ว่ามันแค่พยายามหาเรื่องคุยเพื่อจะได้หันหน้ามองเท่านั้น

   "เรื่องส่วนตัวว่ะ"

   ผมตอบห้วน ๆ ไม่ได้โกหก และไม่ได้บอกความจริง เพราะคิดว่าไอ้โก้ก็คงไม่ได้อยากรู้จริงจังนัก ดาวนั้นโดดเรียนเป็นปกติอยู่แล้ว ไอ้โก้จึงไม่น่าจะคิดเชื่อมโยงว่าผมกับดาวหายไปทำอะไรกัน แต่ถ้ามันได้รู้ความจริงว่าผมกับดาวและน้องแพรแอบโดดเรียนไปมีเซ็กส์กันในห้องพักอาจารย์ล่ะ ไอ้โก้จะทำหน้ายังไงนะ

   ใช่ครับ ผมอาจจะลืมบอกไป สรุปว่าผม น้องแพร และดาว สามคน โดดเรียนคลาสเช้าอย่างพร้อมเพรียง เพราะแอบมีเซ็กส์แบบน่าตื่นเต้นระทึกในห้องพักอาจารย์ กว่าที่สองสาวจะรู้สึกพอและยอมเลิกก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงแล้ว พวกเราจึงเช็ดเนื้อเช็ดตัวแล้วพากันนั่งรถไปรับหนูไอรีนไปที่บ้านของผมเลย จะได้ทันทริปเที่ยวทะเล

   สาเหตุที่ต้องไปบ้านผมก่อน ก็เพราะว่าบ้านของผมอยู่ในตำแหน่งทางผ่านไปทะเลพอดี ผมจึงจะมาจอดรถที่บ้าน และให้ไอ้โก้พารถตู้ของมันแวะมารับ นี่จึงเป็นครั้งแรกที่น้องแพรและหนูไอรีนได้มาบ้านของผม

   ขณะที่น้องแพรกับน้องดาวพากันไปล้างเนื้อล้างตัว หนูไอรีนเด็กสาวฝรั่งผมทองก็ให้ผมพาเดินทัวร์รอบบ้านอย่างสนอกสนใจ เธอดูจะตื่นตาตื่นใจกับอุปกรณ์ทำพิธีอะไรต่อมิอะไรของพ่อผมเป็นอย่างมาก ทั้งหยิบโน่นจับนี่แล้วก็พูดอะเมซิ่งแทบจะตลอดเวลา เรียกได้ว่าเดินดูเพลินจนรถของไอ้โก้แวะมารับพอดี

   "อ้อ ไม่ค่อยเห็นมึงโดดเรียนว่ะ ก็เลยสงสัยว่าไม่สบายหรือเปล่า ... สาว ๆ จ๋า รถตู้ของพี่โก้นั่งสบายดีมั้ยจ๊ะ"

   มันพูดกับผมอีกคำสองคำ แล้วก็หันไปกวาดตามองสาว ๆ อย่างโจ่งแจ้ง และพยายามสร้างบรรยากาศเริ่มบทสนทนา

   ตอนนี้พวกเรากำลังอยู่บนรถตู้หรูหราของไอ้โก้ที่หน้าบ้านของผม เพื่อเตรียมออกเดินทางไปเที่ยวทริปถ่ายรูปสาวสวยริมทะเล โดยมีสมาชิกในรถทั้งหมดสิบเอ็ดคน เป็นผู้ชายสี่คน ผู้หญิงเจ็ดคน

   ผู้ชายสี่คนที่ว่าก็ประกอบด้วยเพื่อนซี้ชมรมถ่ายรูปของผม มีผม ไอ้โก้ ไอ้ตี๋ และยังมีคนขับรถประจำบ้านวัยห้าสิบปีของไอ้โก้ที่ชื่อลุงมานพอีกคน
   
    ส่วนสาว ๆ เจ็ดคน ก็จะเป็นคนที่ผมรู้จักมักคุ้นในระดับเคยมีอะไรด้วยกันมาแล้วอยู่ห้าคน ซึ่งประกอบด้วย ดาวยั่วประจำมหาลัยอย่างดาว น้องแพรดาวมหาลัยสุดสวย หนูไอรีนเด็กสาวฝรั่งดาวโรงเรียนอินเตอร์ น้องแอนดาวคณะเภสัช น้องมุกแฟนของไอ้ตี๋ สว่นอีกสองคนนั้นเป็นพริตตี้จากมหาลัยอื่นที่ไอ้โก้จ้างมาถ่ายแบบ เพราะทีแรกยังไม่แน่ใจนักว่าสาว ๆ ห้าคนแรกนี้จะมีใครบ้างที่จะไปทริปด้วย

   พริตตี้วัยยี่สิบทั้งสองคนที่ว่าก็คือน้องแก้มสาวหน้าหมวยหุ่นอวบเล็กน้อยแต่นมใหญ่น่าดู และน้องอ้อมสาวผิวสีน้ำผึ้งหุ่นเพรียว เธอสองคนนี้จัดได้ว่าค่อนข้างสวยและสมกับเป็นนางแบบ เพียงแต่อาจจะสวยเซ็กส์ซี่สู้ น้องแพร ดาว น้องแอน และหนูไอรีนไม่ได้ แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับเดียวกันกับน้องมุก

   ยังดีที่น้องแก้ม น้องอ้อม น้องมุก และดาวนั้นช่างคุยอัธยาศัยดี ในรถจึงไม่เงียบมากนัก ไอ้โก้ กับไอ้ตี๋ก็หยอดมุกใต้สะดือเรียกเสียงฮาได้ตลอด แต่น้องแอนที่นั่งอยู่ด้านขวาของผมนั้นไม่ค่อยพูดนัก เธอเพียงนั่งฟังและส่งเสียงหัวเราะเป็นระยะ

   ส่วนหนูไอรีนที่นั่งด้านซ้ายมือของผมนั้นมีปัญหาในการสื่อสารสักหน่อย เพราะเธอรับฟังรู้เรื่อง แต่เมื่อพูดออกไปด้วยสำเนียงไทยผสมอังกฤษ หรือไม่ก็อังกฤษเลย คนส่วนใหญ่ในรถจะฟังไม่รู้เรื่อง เธอจึงไม่ค่อยพูดกับคนอื่นมากนัก นอกจากหันมากระซิบคุยกับผม

   ส่วนน้องแพรที่สวยที่สุดในรถนั้น เมื่อขึ้นมาบนรถตู้ก็ตาปรือชิงหลับไปก่อนใคร ซึ่งคงเป็นเพราะเหน็ดเหนื่อยมาจากช่วงเช้า

   อ้อ ลืมบอกไปอีกแล้ว ตอนนี้ผมนั่งอยู่ตำแหน่งแถวหลังกลาง ด้านซ้ายคือหนูไอรีน ด้านขวาคือน้องแอน ส่วนแถวถัดไปที่นั่งด้านหน้าผมคือดาว เยื้องไปด้านขวาคือน้องแพร เยื้องไปด้านซ้ายคือไอ้โก้

   ที่นั่งแถวที่สองจะมีไอ้ตี๋นั่งกลาง ประกบด้วยสองสาวน้องมุก และน้องอ้อม ส่วนแถวแรกสุดมีน้องแก้มนั่งประกบลุงมานพที่เป็นคนขับรถ และที่น่าสนใจก็คือสาว ๆ ทุกคนในทริป ใส่ชุดนักเรียนนักศึกษากันทุกคน หนุ่ม ๆ ในรถจึงตาวิบวับส่องสาวกันสนุกสนาน ไม่เว้นแม้แต่ลุงมานพที่แอบมองน้องแก้มบ่อยครั้ง

   สาเหตุที่พวกเราแบ่งที่นั่งกันแบบนี้ก็เป็นฝีมือของดาวนั่นเอง ไม่ทราบว่าเธอใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไร แต่การจับสลากที่นั่งในครั้งนี้เธอสามารถกำหนดตำแหน่งได้ ดาวกระซิบบอกผมก่อนหน้าด้วยซ้ำ ว่าจะให้ผมนั่งกับหนูไอรีนและน้องแอน เพราะเธอกับน้องแพรกินน้ำเชื้อจนอิ่มแล้ว และเธอก็ทำให้ที่นั่งออกมาแบบที่เธอบอกได้จริง ๆ

   เสียงสนทนาในรถเริ่มเงียบหายลงไปเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป เพราะแต่ละคนเร่ิมจะอ้าปากหาวและงีบหลับ ดาวสลบตามแพรเป็นลำดับที่สอง ตามด้วยน้องแก้มที่นั่งแถวหน้า น้องมุก ไอ้ตี๋ และน้องอ้อมสลบตามไปติด ๆ  ไม่เว้นแม้แต่ไอ้โก้จอมพูดมากที่นอนหลับกรนเสียงดังอ้าปากค้างจนน้ำลายไหลย้อย

   ตอนนี้มีฝนพรำเล็กน้อย ด้านนอกและในรถจึงมืดครึ้มพอสมควร ผมเองก็ใกล้จะหลับเพราะเหนื่อยเหมือนกัน แต่ที่หลับไม่ลงก็เพราะหนูไอรีนและน้องแอนที่นั่งประกบอยู่สองด้านยังไม่อยากให้ผมหลับ

   หนูไอรีนกับน้องแพรนั้นรู้เรื่องน้องแอนจากผมไปแล้ว แต่น้องแอนยังไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างผมและไอรีน ผมจึงถือโอกาสนี้แนะนำตัวกันแบบตรง ๆ แล้วปล่อยให้สองสาวได้กระซิบคุยกันโดยมีผมเป็นล่ามช่วยเหลือในบางครั้ง เพราะน้องแอนมีทักษะด้านภาษาอังกฤษไม่ค่อยดีนัก

   สองสาวต่างเชื้อชาติสนทนากันถูกคออย่างน่าประหลาด น้องแอนบอกว่าเธออยากมีน้องสาวหน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตาบลายธ์แบบนี้สักคน หนูไอรีนก็รับมุกเรียกน้องแอนเป็นพี่สาวเสียด้วย

   เนื้อหาการสนทนาส่วนใหญ่เป็นเรื่องปกติ จนกระทั่งเมื่อหนูไอรีนขยับมือมาวางแหมะลงบนเป้ากางเกงของผมแล้วกดคลึงจนควยของผมแข็งโด่ขึ้นมา น้องแอนมองเห็นเหตุการณ์ดีเธอจึงหน้าแดงก่ำ แต่ไม่ได้พูดว่าอะไร เป็นผมเสียอีกที่นึกสนุกขับมือซ้ายของน้องแอนมาวางแหมะบนเป้ากางเกงของผมด้วยอีกข้าง

   ทีแรกน้องแอนยังนั่งตัวเกร็งไม่กล้าขยับมือ แต่พอเห็นว่าหนูไอรีนขยำจนควยผมกระตุกหงึก ๆ เธอก็เริ่มบีบขยำไปด้วยพร้อมกับหนูไอรีน ตอนนี้ผมจึงอยู่ในอารมณ์ทั้งเสียวทั้งตื่นเต้นระทึกจนอยากจะร้องซี้ดออกมา แต่ก็ทำไม่ได้เพราะอยู่ในรถตู้ที่แทบไม่มีเสียง หากผมเผลอร้องออกมาคำเดียว รับรองได้ว่าทุกคนต้องได้ยินแน่ ๆ
   
   ตอนนี้สองสาวเริ่มจะบีบขยำควยของผมอย่างเมามันส์กว่าเดิม หนูไอรีนถึงกับถอดเสื้อคลุมมาวางปิดเป้ากางเกงของผมไว้ แล้วจับเอาควยผมออกมารูดถอกยิก ๆ ข้างนอกจนผมตัวกระตุกแล้วกระตุกอีกเป็นระยะ ทำแบบนี้มันเสียวแบบโคตรจะลุ้นระทึกจริง ๆ จะมีใครรู้มั้ยนะว่า ตอนนี้สองสาวกำลังทำให้ผมอยุ่

   ผมพยายามปรือตามองแต่ทุกคนเหมือนจะหลับกันหมด ส่วนลุงมานพคนขับรถก็กำลังตั้งสมาธิกับการขับเพราะฝนตกหนักพอสมควร ผมจึงค่อยวางใจสักหน่อย

   พอเริ่มวางใจผมก็คิดอยากคืนความสุขให้สองสาวบ้าง ผมจึงกางแขนอ้อมหลังพวกเธอ แล้วตะปบบีบขยำเต้านมจนพวกเธอตัวกระตุกแทบร้องครางออกมา แต่พอผมกระตุ้นพวกเธอแบบนี้ มือนุ่มนิ่มสองข้างก็ยิ่งรูดถอกของผมแรงขึ้นจนผมเองนี่แหละจะทนไม่ไหวเอา

   เราสามคนแลกเปลี่ยนความเสียวกันนานพอดู จนกระทั่งผมทนไม่ไหวนึกพิเรนทร์เอาผ้าคลุมออกเปิดให้เห็นควยแข็งปั๋งแบบไม่ต้องมีอะไรปิดบัง แล้วจับกดหัวของสองสาวให้ก้มลงมาที่เป้ากางเกง และดูเหมือนว่าพวกเธอจะรู้ว่าผมอยากให้ทำอะไร

   หนูไอรีนเริ่มก่อนด้วยการคว้าจับของผมเข้าไปดูดเลียแบบไม่มีท่าทีลังเลสักนิด ส่วนน้องแอนนั้นเธอใช้เวลาทำใจครู่หนึ่งถึงค่อยยอมอ้าปากเลียควยให้ผม ตอนนี้สองสาวกำลังแอบใช้ปากให้ผมในรถตู้ที่มีคนนั่งอยู่เต็ม!!

   สองสาวอาจไม่ได้ลีลาดีแบบดาวหรือแม่พลอย แต่ท่าทีเก้ ๆ กัง ๆ ขัดเขินแบบนี้ก็กระตุ้นอารมณ์ไปอีกแบบ ผมจึงช่วยระบายความเสียวให้สองสาวด้วยการสอดมือเข้าไปที่กลางหว่างขาของสองสาว แล้วบดบี้สะกิดเขี่ยจนพวกเธอตัวกระตุกแล้วกระตุกอีก

   เรื่องเซ็กส์มันก็เหมือนกฎของทางฟิสิกส์ใส่แรงเข้าไปเท่าไหร่ มันก็จะสะท้อนกลับออกมาเท่านั้น เมื่อพวกเธอโดนปลุกจนเสียวน้ำเยิ้ม สองสาวก็ยิ่งระบายความเสียวใส่ดุ้นเอ็นของผมหนักขึ้น พวกเธอสลับกันอ้าปากกลืนดุ้นเอ็นแล้วผงกหัวหงึก ๆ พอคนหนึ่งเมื่อยคอ อีกคนก็เข้ามาแทน สุดท้ายผมก็ทนไม่ไหวระเบิดเงี่ยนออกมาอย่างแรง และตอนนั้นก็เป็นรอบของน้องแอนพอดี

   ผมกดน้องแอนเข้าหาอย่างแรงจนเธอแทบสำลัก แต่ก็ยอมกลืนน้ำของผมเข้าปากไปแต่โดยดี และตอนนั้นสองสาวก็โดนผมใช้นิ้วช่วยจนเสร็จไปคนละรอบพอดิบพอดี

   น้องแอนพอได้ระบายอารมณ์ก็เหมือนจะรู้สึกอายขึ้นมา เธอจึงรีบขยับไปนั่งทำทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งผมหันไปยิ้มแล้วชี้ให้เห็นว่ามีคราบน้ำเงี่ยนอยู่เต็มหน้านั่นแหละ เธอถึงค่อยรีบหยิบเอาผ้าเย็นขึ้นมาเช็ดทำความสะอาดเสียยกใหญ่

   ตอนนี้ผมคิดว่าจะได้พักสักที แต่ว่าหนูไอรีนยังไม่ยินยอม เธอบอกว่าเธอยังไม่ได้กินน้ำของผม เธอจึงยังคงก้มหน้าก้มตาผงกหัวหงึก ๆ ดูดของผมอีกพักใหญ่ รอจนเธอทำสำเร็จนั่นแหละ เธอถึงค่อยหันมายิ้มหวานให้ผมเพื่อรอรับคำชม และเมื่อผมพูดชม เด็กสาวก็ยิ้มแก้มปริแล้วขยับไปเอนหลังนอนหลับไป

   ผมเองก็กำลังเคลิ้ม ๆ ปรือตาทำท่าจะหลับ แต่พอหันไปเห็นว่าลุงมานพคนขับรถกำลังยิ้มแปลก ๆ ให้ผมผ่านกระจกมองหลัง ผมถึงค่อยรู้สึกตื่นตัวขึ้นมา ตอนนี้พวกเราหลุดออกจากเขตฝนตกสักพักแล้ว ในรถจึงสว่างขึ้น และลุงมานพก็ไม่ต้องตั้งใจขับรถมาก ต่อให้มีเก้าอี้บังจนมองไม่เห็นเหตุการณ์ข้างล่าง แต่หากลุงมานพจะเห็นสองสาวสลับกันก้มหน้าและเดาเรื่องราวออกก็คงไม่แปลกอะไร

   ลุงมานพคลายข้อสงสัยของผมด้วยการยกนิ้วโป้งให้เหมือนจะสื่อว่า 'เจ๋งว่ะไอ้น้อง' ผมจึงค่อยมั่นใจว่าลุงมานพเดาเหตุการณ์ออกแน่นอน ผมจึงยิ้มให้และยกนิ้วชี้ขึ้นแตะที่ริมฝีปากเพื่อจะบอกว่าขอให้เงียบไว้ ซึ่งลุงมานพก็พยักหน้าเหมือนจะรับปาก ผมจึงค่อย ๆ ผลอยหลับตามไปด้วยอีกคน

......................................

   กว่าที่พวกเราจะไปถึงทะเลก็ค่ำมืดแล้ว กิจกรรมในตอนนี้จึงมีแค่การทานอาหารทะเลสุดหรูที่มีเสี่ยโก้อภินันทนาการให้ จากนั้นทุกคนก็จะแยกย้ายกันไปพักในบังกะโลสุดหรูคืนละหมื่นเศษ โดยมีเสี่ยโก้จัดให้เหมือนกัน เพราะว่ามันเป็นลูกเจ้าของโรงแรม และที่มันจัดให้พิเศษขนาดนี้ก็เพราะว่าทริปนี้มีสาวสวยมาด้วยเยอะมากเกินเป้านั่นเอง

   บังกะโลแต่ละหลังจะมีห้องย่อยสามห้อง ไอ้โก้จัดไว้ให้สี่หลัง พวกเราจึงจะแบ่งกันนอนหลังจะสามคน ซึ่งทีแรกไอ้โก้ทำท่าจะจัดแบ่งให้เอง แต่ว่าโดนดาวเบรคไว้ และบอกให้ใช้วิธีจับสลากแทน

   ซึ่งผลที่ออกมานั้นพอจะเดาได้ เพราะดาวนั้นเชี่ยวชาญในเรื่องกลโกงแนวนี้อยู่แล้ว ผมจึงกลายเป็นหนุ่มที่โชคดีที่สุดได้พักในบ้านหลังเดียวกันกับดาวและน้องแพร ไอ้โก้ได้พักกับน้องอ้อมและน้องแก้มมันจึงไม่ได้บ่นอะไรมากนัก ไอ้ตี๋ได้พักกับน้องมุกแฟนของมันแต่มีพ่วงลุงมานพไปด้วยอีกคนมันจึงไม่ว่าอะไรเช่นกัน ส่วนหลังสุดท้ายนั้นเป็นน้องแอนคู่กับหนูไอรีนซึ่งพวกเธอก็ดูจะโอเคเช่นกัน

   เมื่อไม่มีใครขัดข้องอะไร พวกเราจึงใช้การพักผ่อนแบบนี้ หลังจากอิ่มหนำไปกับอาหารทะเล พวกเราก็พานางแบบไปเดินเล่นย่อยอาหาร และถ่ายรูปกลางคืนซ้อมมือกันเล่น ๆ แล้วจึงค่อยแยกย้ายกันไปพักผ่อน

   ผม ดาว และน้องแพร พากันเดินเข้าบ้านพัก แต่ดาววิ่งนำเข้าไปก่อน เพราะอยากเข้าห้องน้ำ ผมกับน้องแพรเหมือนจะคิดตรงกันจึงนั่งฟังเสียงทะเลกันที่หน้าบ้านพักก่อน

   ผมแอบชำเลืองมองดูความสวยของน้องแพรเป็นระยะ ตอนนี้เธอใส่ชุดลำลอง เสื้อยืด ขาสั้นกุด แลดูน่ารักสดใสไปอีกแบบ เธอก็หันมามองผมเป็นระยะแล้วยิ้มหวานให้ ตอนนี้ผมจึงเริ่มเกิดอารมณ์อยากพาเธอเข้าบ้านแล้วมีอะไรกันอีกสักรอบ

   "พี่ต้นกล้าคะ พี่ต้นกล้ายังจำข้อตกลงกับแพรได้ใช่มั้ยคะ?"

   จู่ ๆ น้องแพรก็พูดทำลายบรรยากาศขึ้นมาจนผมได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ เพราะผมเองก็ไม่อยากจำนักหรอก ไอ้ข้อตกลงนั่นน่ะ แต่เมื่อเธอถามผมก็ต้องพยักหน้าเพราะยังไงเสียผมก็เป็นคนรักษาสัญญา

   "จำได้ซิ"

   "งั้นก็ดีค่ะ ... แพรจะเปิดใจเป็นคนรักกับพี่ต้นกล้า ทำหน้าที่คนรักที่ดีให้กับพี่ต้นกล้า ตอนนี้แพรจะทำทุกอย่างเหมือนพี่ต้นกล้าเป็นคนรักเพียงแต่ไม่เปิดเผย ... แต่ถ้า ..."

   น้องแพรพูดเสียงราบเรียบเหมือนรำพึงรำพันแล้วหยุดไป ผมจึงได้แต่ถอนหายใจแล้วช่วยต่อประโยคนั้นให้จบ เพราะจะอย่างไร นั่นก็คือข้อตกลงของเราสองคน

   "ถ้าน้องแพรเจอผู้ชายคนนั้น คนที่เคยหมั้นกับน้องแพรตอนเด็ก พี่จะยอมรับการตัดสินใจของน้องแพร ไม่ว่าน้องแพรจะยังคบพี่เป็นคนรักอยู่หรือเปล่า พี่จำได้ครับ จำได้แม่นมาก"

   ผมพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจนัก แต่ก็ทำได้แค่นั้น เพราะการที่น้องแพรยอมเปิดใจให้ผมขนาดนี้ผมก็ถือว่าดีมากแล้ว อย่างน้อยตอนนี้เธอกับผมก็เหมือนคู่รักคู่หนึ่งเพียงแต่ไม่ได้เปิดเผยออกไปเท่านั้น แต่ว่าวันหนึ่งหากเธอเจอไอ้ผู้ชายคนนั้น คนที่เคยหมั้นหมายกับน้องแพร เธอก็จะตัดสินใจอีกครั้ง ว่าเธอจะทำอย่างไร

   นี่นับเป็นความใจเด็ดจนเกือบจะเรียกว่าดื้อดึงของน้องแพร ซึ่งผมก็เคารพในส่วนนั้น และการที่ผมรับปากข้อตกลงนี้ก็เพราะ ผมคิดว่าน้องแพรไม่น่าจะหาเด็กผู้ชายคนนั้นเจอ หรือต่อให้หาเจอ หากน้องแพรอยู่ร่วมกับผมนานวันในฐานะคู่รัก เธอจะสามารถตัดใจไปจากผมได้ลงคอหรือ?

   นั่นอาจเป็นการมองในแง่ดีด้านเดียว เพราะไม่มีใครเข้าใจความเด็ดเดี่ยวของน้องแพรได้มากเท่าผมอีกแล้ว หากวันนั้นมาถึงก็ไม่แน่ว่าเธอจะรักษาสัญญาและเดินจากผมไป ... นึกถึงตอนนี้แล้วห่อเหี่ยวชะมัด

   "แบบนี้ไม่เอาค่ะ พี่ต้นกล้า พวกเราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอคะ เรื่องของอนาคตก็ให้เป็นเรื่องของอนาคตไป ตอนนี้พวกเราเป็นคู่รักกัน แพรจะตามใจพี่ต้นกล้าทุกอย่าง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าตอนนี้พี่ต้นกล้าจะพาแพรไปจู๋จี๋ตรงหาดทรายมืด ๆ แพรก็จะทำตามค่ะ"

   แพรเหมือนจะจับความรู้สึกของผมได้ เธอจึงเอื้อมมือมาจับมือผมไว้แล้วพูดปลอบจนผมหายเศร้า และรู้สึกตื่นตัวขึ้นมา ตอนนี้ผมถึงค่อยได้รู้ซึ้งว่าคุณหนูไร้เดียงสาอย่างน้องแพรนั้นช่างมีความคิดสร้างสรรค์ในด้านการร่วมรักเสียจริง

   "แต่ว่าตอนนี้ไปพักผ่อนก่อนเถอะค่ะ รอให้ดึกกว่านี้อีกสักหน่อย คิก คิก"

   น้องแพรพูดจบก็ส่งเสียงหัวเราะคิกคักแล้วเดินเข้าไปในบ้าน ผมจึงได้แต่เหม่อมองตามทั้งที่ควยกำลังแข็งปั่ง เพราะสนใจในข้อเสนอของน้องแพรอย่างยิ่ง แต่พอคิดอีกที ขอจัดน้องแพรอีกสักรอบในบ้านพักก่อนเลยน่าจะดีกว่า

   พอคิดได้แบบนี้ผมก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ตั้งใจจะเข้าบ้านไปจัดการน้องแพรให้หายอยากสักรอบ แต่ว่าไอ้เพื่อนจอมกวนอย่างไอ้โก้ก็โผล่หัวออกมาด้วยรอยยิ้มวิบวับแปลก ๆ มันเดินมาโอบคอผมไว้ แล้วพาเดินออกมาจากบ้านพักก่อนจะกระซิบบอกผมด้วยน้ำเสียงหื่นกามจนผมตกใจ ดีนะที่ผมยังไม่ได้เข้าไปจัดหนักน้องแพรอย่างที่คิด ไม่งั้นล่ะก็ไอ้โก้คงได้เห็นเหตุการณ์หมดแล้ว

   "หึ หึ ไอ้กล้าเอ๊ย รีบไปที่ห้องกูด่วนเลย กูลืมบอกมึงไปเลยว่าในห้องพักแต่ละห้อง แล้วก็ห้องรับแขกของแต่ละบ้าน กูแอบติดกล้องวงจรปิดแบบความละเอียดสูงไว้ห้องละสี่ตัว รับรองว่าเห็นได้ทุกซอกทุกมุม ทุกรูขุมขน อ้อ แถมยังมีไมโครโฟนด้วย รับรองเสียงชัดกริ๊บ"
   
......................................


shuya


jukjikjung



suriyamahajit

ย้อนมาอ่านอีกก็ยังสนุกเหมือนเดิมขอบคุณครับ

series120

อยากสมัครเป็นแฟนคลับน้องแพรขึ้นมาเลยถ้าเกิดต้นกล้าจัดกิจกรรม fan thank giving ขึ้นมาจริงๆ.. ::GiveMe::