ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_nato87

เกมรักภารโรงเฒ่า ปี 2 ตอนที่ 14 : ตัวจริงของใจ...คือใครดี?

เริ่มโดย nato87, มกราคม 05, 2021, 08:03:28 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

nato87

พูดคุยก่อนอ่าน : สวัสดี มาอย่างเร็ว เอาละ ตอนนี้จะเป็นตอนต่อจากตอนที่แล้วนะครับ เหมือนที่ผมเคยบอกไว้ว่า บทจะเทมาทางฝั่งครูเบสท์ละ และคุณจะได้เห็นหมอพลอยเป็นตัวร้ายบ้าง ก็ตามนั้น ไม่มีฉากเลิฟซีนครับช่วงนี้ บอกไว้ก่อนนะ เพราะเป็นการปูเนื้อเรื่องสำหรับนางเอกคนต่อไปอย่างครูเบสท์ ที่ตอนนี้กล่าวได้ว่าเธอกำลังจะมาเป็นนางเอกตัวจริงของเรื่องแล้ว

ก็ต้องขออภัย ถ้าเกิดผมเขียนอะไรยาว ๆ ไป เนื่องจากผมค่อนข้างจริงจังกับการใส่รายละเอียดเรื่องราว และอยากให้มันออกมาดูสมเหตุสมผลสักหน่อย ความจริงผมสามารถเขียนให้ลุงพลกับครูเบสท์ได้กันทันที แต่มันทำไม่ได้ครับ เธอเป็นนางเอกระดับ S-Class ทัดเทียมกับหมอพลอย จะให้มันง่ายแบบนั้นไม่ได้

ผมเห็นนะ หลายคนอ่านในพาร์ทของน้องทราย คงคิดว่าผมลดเกรดตัวเอง ผิดแล้ว ผมใส่ใจและให้ความสำคัญกับนางเอกของเรื่องนี้ทุกคนครับ  'สก๊อยก็คือสก๊อย นางฟ้าก็คือนางฟ้าครับ' ผมพยายามเขียนตัวละครเหล่านี้ให้มีความเป็นปัจเจกสูง ก็หวังว่าจะเข้าใจตรงกันนะ

ก็อีกไม่นานหรอกครับ ครูเบสท์ใกล้ละ อดใจรออีกนิดนึงนะทุกคน รอกันมา 2-3 ปีละ รออีกนิดหน่อยจะเป็นไรไป 55555



อ้อ!!! ตอนนี้มีตัวละครใหม่มาแนะนำ เธอคือ ครูเอ๋ อังศุมาลิน สาวใหญ่รองหัวหน้าคณะพยาบาลศาสตร์ ออกตัวไว้ก่อนว่าเธอเป็นแค่ตัวประกอบเฉย ๆ เท่านั้นครับ ไม่ได้มีบทบาทเด่นอะไร แค่สร้างมาให้เรื่องราวมันดูสมเหตุสมผลเท่านั้นเองครับ

และตอนหน้า ความสัมพันธ์ระหว่างครูเบสท์และหมอพลอยจะถึงจุดแตกหักเพราะลุงพล ส่วน ไอ้ลอย สาวนันทอมบอยร้านสะดวกซื้อ จะมีบทนะครับ สปอยด์นิด ๆ ละกันว่า นายหัวภูชิตส่งคนมาจับไอ้ลอยไปสอบสวน จะประสบความสำเร็จหรือไม่ ต้องติดตาม


#############################

ความเดิมจากตอนที่แล้ว



https://xonly8.com/index.php?topic=238625.0


ภัคจิราขับรถมาทำงานตามปกติ วันนี้เธอเห็นนักเรียนมัธยมปลาย ที่เดินทางมารายงานตัวและเข้ารับการสัมภาษณ์กับทางคณะกรรมการที่เป็นอาจารย์ของวิทยาลัยแพทย์และพยาบาล ภัคจิราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในหน้าที่ตรงจุดนี้ ดังนั้น ในช่วงเช้าของวันเธอจึงทำหน้าที่สอนหนังสือเด็กตามปกติ

ในช่วงคาบเช้า เธอได้เจอกับเดือนดารา นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่หนึ่ง ที่กลับเข้ามาเรียนอีกครั้ง พร้อมด้วยใบรับรองแพทย์ ภัคจิราได้เรียกลูกศิษย์สาวไปคุยเป็นการส่วนตัวหลังเลิกเรียน

"รู้ไหมว่าเราขาดเรียนไปหลายคาบ?" ภัคจิราทำหน้าดุใส่ลูกศิษย์สาว "ตัดเรื่องคลาสที่ขาดไปเมื่อวันก่อน อีก 3 คลาส เราหายไปไหน? ยังอยากมีสิทธิสอบอยู่หรือเปล่า? เดือนดารา?"

"หนูขอโทษค่ะครู..." เดือนดาราทำหน้าจ๋อย "ช่วยหนูด้วยนะคะ หนูยังไม่อยากหมดสิทธิสอบ ถ้าพ่อกับแม่หนูรู้ หนูโดนด่าเละแน่"

"ก็อยากขาดเรียนทำไม?" ภัคจิราตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด "เราเรียนพยาบาลนะเดือนดารา ความรับผิดชอบต่อหน้าที่คือสิ่งสำคัญของสายงานนี้ ถึงเรียนจบไป อาจไม่ได้เป็นพยาบาล ก็อาจไปทำงานในสายงานอื่น ซึ่งก็ต้องอาศัยความรับผิดชอบทั้งนั้น เดือนดารา ครูฝากให้คิดนะ เราเป็นนักศึกษาแล้ว เราไม่ใช่เด็กมัธยมปลาย จริงจังกับหน้าที่ของตัวเองหน่อยซิ!!"

"ค่ะ หนูขอโทษค่ะครู" สาวหมวยพนมมือไหว้ครูเบสท์หน้าจ๋อย "หนูจะไม่ขาดเรียนอีกแล้วค่ะ"

"ดี นี่ก็ใกล้จะสอบแล้ว ตั้งใจทบทวนตำราเรียน อรัญญา ฝากดูแลเพื่อนหน่อยนะ"

"ค่ะ...ครู" อรัญญาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ พยักหน้า

"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ครูขอตัวก่อนนะ" แล้วภัคจิราก็ขอตัว หญิงสาวเดินสะพายกระเป๋าออกมาจากคลาสเรียนกลับไปที่ห้องพักครูทันที

หลังจากนั้นภัคจิราก็ใช้เวลาไปกับการทำแบบประเมินการเรียนการสอนของตัวเอง แล้วก็งานอื่น ๆ ทั่วไป จนถึงเวลาพักเที่ยง กลุ่มอาจารย์คณะพยาบาลศาสตร์ก็ชักชวนกันไปกินข้าวด้านนอก ภัคจิราก็ตอบตกลง ติดตามอาจารย์กลุ่มนี้ไปด้วยกัน

หลังจากกินมื้อเที่ยงเสร็จ ภัคจิราก็ขอแยกตัวไปถอนเงินที่ตู้ ATM ก่อนเดินสะพายกระเป๋าข้ามสะพานลอยกลับมาที่วิทยาลัยพยาบาล ด้วยความร้อนของแสดงแดด ภัคจิราต้องเอามือปัดป้องแสงแดดและไอร้อนในช่วงเที่ยงวัน

"ร้อนจัง!!!! รีบเดินเถอะ!!!" คิดถึงห้องพักครูและแอร์เย็น ๆ เหลือเกิน ภัคจิราคิดเช่นนั้น หลังจากเดินกลับมาที่วิทยาลัยพยาบาล ขณะกำลังเตรียมตัวขึ้นลิฟต์ขึ้นไปห้องพักครู ทันใดนั้น ภัคจิราก็พบกับนักเรียนมัธยมปลายนั่งฟุบร้องไห้อยู่ตรงห้องโถงอาคาร "เด็กนักเรียน ม.ปลาย ที่ไหนมานั่งร้องไห้เนี่ย?"

ภัคจิราร่นคิ้วด้วยความสงสัย ตอนแรกก็คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องของเธอ ปล่อยผ่านดีกว่า แต่ด้วยความที่เป็นคนที่มีจิตใจดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น ภัคจิราเลยเดินเข้าไปแตะที่ไหล่ของนักเรียนมัธยมปลายคนนั้นเพื่อสอบถามเรื่องราวสักหน่อย "น้องคะ? น้อง? เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?"



"ฮือ...คุณเป็นใคร?" เด็กสาวตัวน้อยคนนั้นร้องไห้หน้าแดงก่ำ ราวกับว่ากำลังเสียใจกับเรื่องราวสะเทือนใจบางอย่าง "คุณเป็นใคร อย่ามายุ่งกับหนู...ฮืออออ"

จบเลย เจอคำตอบแบบนี้ไปไม่เป็นเลย แต่ด้วยความจริงใจและขี้สงสารของภัคจิรา หญิงสาวก็เลยถือวิสาสะนั่งเพื่อพูดคุยกับเด็กสาวคนนี้สักหน่อย

"ครูชื่อภัคจิราจ๊ะ" อาจารย์ยิ้มอย่างจริงใจ "จะเรียกว่าครูเบสท์ก็ได้ ครูสอนที่นี่ เราเป็นนักเรียนที่มาสอบสัมภาษณ์วันนี้ใช่ไหม? มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมมานั่งร้องไห้แบบนี้ละจ๊ะ?"

ลูกขวัญเหลือบมองภัคจิราด้วยท่าทางสงสัย ลูกสาวนายหัวภูชิตไม่รู้ว่าจะตอบว่าอะไรดี เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องส่วนตัวของเธอและหมอพลอย



"ไง? ครูรอฟังอยู่นะจ๊ะ" ภัคจิรายิ้มแย้ม

"คือ...ไม่มีอะไรหรอกค่ะ" ลูกขวัญหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดน้ำตาของตัวเอง "บ้าจริง!!! หนูต้องขอโทษครูด้วยนะคะที่เผลอเสียมารยาทไปเมื่อครู่"

"อาฮ่ะ..." อาจารย์สาวพยักหน้า "แล้วนี่เป็นยังไงบ้าง? ผลการสัมภาษณ์? แล้วผู้ปกครองไม่มารับเหรอจ๊ะ?"

"ก็ดีค่ะ เดี๋ยวที่ทางบ้านส่งคนมารับค่ะครู..." ลูกขวัญตอบ ก่อนสายเรียกเข้าดังขึ้น สาวน้อยคอนแวนต์เลยขอตัวอาจารย์สาวคุยโทรศัพท์ "สงสัยที่บ้านส่งคนมารับแล้ว เดี๋ยวหนูขอตัวก่อนนะคะ"

"จ๊ะ..." ภัคจิราเหลือบมองนักเรียนคอนแวนต์ตัวน้อยด้วยท่าทางสงสัย ความจริงเธอก็รู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องของเธอหรอก ที่จะมาสอบถามเด็กสาวแปลกหน้าที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน แต่มันเป็นนิสัยของเธอ

ตัดมาทางลูกขวัญ ที่รีบเดินออกมาแล้วกดรับโทรศัพท์

"คุณหนูครับ เอ่อ ผมคงไม่ได้ไปรับคุณหนูแล้วนะครับ?"

"มันเกิดอะไรขึ้นนายศักดิ์?" ลูกขวัญดูตกใจไม่น้อยกับคำตอบของนายศักดิ์คนขับรถ

"คือเดี๋ยวคุณบอยจะเข้าไปทำธุระที่วิทยาลัยพยาบาลน่ะครับ แล้วเดี๋ยวจะแวะไปรับคุณหนูเลย คุณหนูรอที่นั่นก่อนนะครับ"

"ธุระเหรอ?" ภาสินีสงสัยว่าพี่บอยจะมาทำธุระอะไรที่วิทยาลัยพยาบาล แต่พอนึกออก สายน้อยก็ทำตาโตด้วยความตกใจ พี่บอยจะมาหาหมอพลอยแน่นอน "นี่นายศักดิ์!!!! ตอนนี้พี่บอยอยู่ไหน!!!"



"ผมคุยกับคุณบอยเมื่อสักสิบนาทีก่อน เห็นคุณบอยบอกว่าใกล้จะถึงที่วิทยาลัยพยาบาลแล้ว รบกวนคุณหนูลองโทรถามคุณบอยดูนะครับ"

หลังจากที่กดวางสายจากนายศักดิ์คนขับรถ ลูกขวัญก็รีบโทรหาพี่บอยทันที

"ฮัลโหล!!! พี่บอย!!! พี่อยู่ไหน!!!" ภาสินีโวยวายใส่พี่ชายของตัวเองยกใหญ่

"พี่กำลังจะโทรหาเราอยู่พอดี ตอนนี้พี่อยู่ที่วิทยาลัยพยาบาล"

"พี่มาหาพี่พลอยใช่ไหมคะ??" ภาสินีถาม "พี่จะบ้าหรือไง!!! พี่พลอยเกลียดพี่ขนาดนี้ พี่ยังจะไปตื้อพี่พลอยอีกทำไม!!!"

"มันเรื่องของผู้ใหญ่ เราอยู่ที่ไหน? เดี๋ยวพี่คุยธุระกับน้องพลอยเสร็จแล้วเดี๋ยวพี่ไปรับกลับบ้าน!!!" ภูวนาทบ่ายเบี่ยง

"พี่บอย!!! ขอร้องละคะพี่!!! พอได้แล้ว!!!" ลูกขวัญพยายามเตือนสติพี่ชาย แต่ดูเหมือนหนุ่มบอยไม่ฟังอะไรอีกแล้ว ชายหนุ่มกดตัดสายน้องสาวทิ้งทันที

ลูกขวัญรู้ดีว่าจุดหมายปลายทางที่ภูวนาท พี่ชายของเธอกำลังเดินทางไปคือที่ไหน ห้องพยาบาลของหมอพลอยนั่นแหละ ว่าแล้วลูกสาวคนเล็กของนายหัวภูชิตก็รีบเดินไปห้ามศึกระหว่างพี่บอยและหมอพลอยทันที

..........................

ตัดมาที่พลอยพลอยพรรณ หลังจากกินมื้อเที่ยงเสร็จ ท่านวิทยา พ่อของเธอก็โทรสายเข้ามาคุยกับเธอเป็นการส่วนตัว เพื่อขอเคลียร์ใจระหว่างพ่อลูกในเรื่องราวที่เกิดขึ้น



"พ่อขอโทษนะพลอย..." ท่านวิทยาเอ่ยปากขอโทษกับลูกสาวคนโต "พ่อผิดเอง เพราะพ่อนี่แหละ ที่ทำให้เรื่องราวมันบานปลายถึงขนาดนี้ได้ พ่อไม่น่าเอาแกมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยเลย"

"ไม่เป็นไรหรอกค่ะพ่อ พลอยเข้าใจ" พลอยพรรณยิ้ม "ความจริงพลอยเข้าใจพ่อนะคะ ว่าพ่อแค่อยากให้พลอยได้แต่งงานกับผู้ชายที่ดี แต่ว่าพลอยไม่คิดว่าผู้ชายที่ดีคนนั้นจะเป็นคนอย่างพี่บอยน่ะค่ะ"

"อืม..." ท่านวิทยาถอนหายใจยาว "พูดอีกก็ถูกอีก ในฐานะคนเป็นพ่อ พ่อรู้สึกผิดจริง ๆ ที่บีบคั้นแกมากเกินไป"

"พ่อไม่ได้ผิดสักหน่อย ถ้าจะถามหาคนผิด คน ๆ นั้นควรเป็นนายลอย..." พลอยพรรณเผลอหลุดปากออกมาจนได้ "อุ้ย!!!"

"พลอย!!! นี่มันเกิดอะไรขึ้น นายลอยทำไม!!!" น้ำเสียงของท่านวิทยาดังขึ้น

"นายลอยมันเลี้ยงไม่เชื่อง นายคนนี้มันงูเห่า สักวันเวรกรรมจะต้องตามสนอง!!" พอพูดถึงนายลอย พลอยพรรณก็รู้สึกโกรธ ความจริงเธอควรจะโกรธนายหัวภูชิตและท่านวิทยา แน่นอน เธอโกรธสองคนนี้แน่ แต่เรื่องราววุ่นวายที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากไอ้ลอย ที่ต้องการแก้แค้นท่านวิทยาและนายหัวภูชิต ที่มาหักหลังมันก่อน

"ไอ้ลอยมันมาหาแกหรือเปล่าพลอย?" พ่อของพลอยพรรณถาม

"เปล่าค่ะพ่อ..." พลอยพรรณจำเป็นต้องโกหกเพราะไม่อยากให้พ่อไม่สบายใจ ทั้งที่ความจริงก็คือ เธอต้องยอมจ่ายเงินครึ่งล้านเพื่อให้ได้หลักฐานเอาผิดกับนายหัวภูชิต เพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องแต่งงานกับพี่บอย

"พลอย ชั้นเป็นพ่อแกนะ ชั้นคิดว่าชั้นรู้นิสัยใจคอและความคิดของแกดี" ท่านวิทยาถามอีกรอบ "ข่าวที่เกิดขึ้น มันเป็นฝีมือของแกใช่ไหม?"

"มันสำคัญด้วยเหรอคะว่าใครทำ?" เจ้าหญิงน้ำแข็งถามผู้เป็นพ่อ

"พลอย..." ท่านวิทยาถอนหายใจยาว ด้วยความเป็นพ่อที่รู้นิสัยใจคอของลูกดี ก็เลยรู้ว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของลูกสาวคนโตของบ้านนี่เอง "เฮ้อ...พ่อไม่โทษแกหรอก พ่อผิดเอง แต่แกรู้ไหมว่าสิ่งที่เกิดขึ้น มันจะทำให้ครอบครัวจารุศิริการกุลและครอบครัวถิ่นทวีพัฒนา ต้องกลายเป็นศัตรูกัน"

"รู้ค่ะ..." พลอยพรรณตอบ "แต่พลอยคิดว่า อาจารย์ทนายบ้านเราออกจะเก่ง ครอบครัวของเราไม่มีทางแพ้แน่ค่ะพ่อ"

"เฮ้อ..." ท่านวิทยาถอนหายใจอีกรอบ "พ่อไม่น่าบังคับแกเลย ไม่โทษแกหรอก ความผิดพ่อทั้งนั้น ยังไงก็ ดูแลรักษาเนื้อรักษาตัวด้วยนะพลอย พ่อกับแม่เป็นห่วง"

"ค่ะพ่อ..." พลอยพรรณตอบ "หนูรักพ่อกับแม่นะคะ ไว้เสาร์อาทิตย์หนูจะขับรถแวะไปเยี่ยมที่ชลบุรีนะคะ"

หลังจากกดวางสายได้ไม่นาน เสียงเอะอะโวยวายก็ดังขึ้นภายนอก เป็นเสียงของพี่เปิ้ลผู้ช่วย

"คุณคะ!!! อย่าเข้ามาค่ะ หมอพลอยไม่อยู่ คุณ!!! พยาบาล!!! พยาบาล!!! ไปตามยามมาเร็ว!!!!"

"ผมมีเรื่องต้องคุยกับหมอพลอย!!! หลีกไป!!!!" เสียงพี่บอยโวยวายหน้าห้องทำงานของพลอยพรรณ "ใครมาแตะเนื้อต้องตัวผม รับรองว่าเราได้เจอกันในศาลแน่!!! น้องพลอย!!! น้องพลอย!!! พี่รู้นะว่าน้องพลอยอยู่ที่นี่!!!"

"เฮ้อ!!! เอาเข้าไป...." พลอยพรรณถอนหายใจยาว ดูเหมือนว่าเธอเองกำลังได้รับผลจากการกระทำในครั้งนี้ เสียงเอะอะโวยวายดังมากขึ้น คนอย่างพี่บอยนี่ไม่ยอมจบจริง ๆ ในที่สุด เจ้าหญิงน้ำแข็งก็ตัดสินใจลุกขึ้นเดินออกมาจากถ้ำน้ำแข็งของตัวเองเพื่อเผชิญหน้ากับหนุ่มไฮโซที่โคตรจะตื้อและดื้อด้านที่สุดในสามโลก



"คุณคะ!! ให้เกียรติสถานที่ด้วยคะ!!! ที่นี่คือสถานที่ราชการนะคะ!!!" พี่เปิ้ลผู้ช่วยพยายามห้ามปรามหนุ่มบอยที่กำลังหัวร้อนได้ที่

"ไปบอกให้หมอพลอยมาพบผมเดี๋ยวนี้!!!" หนุ่มบอยวางอำนาจใส่พี่เปิ้ลผู้ช่วย "ผมไม่ได้อยากมีปัญหากับคนอื่น ผมแค่มีเรื่องอยากจะคุยกับหมอพลอย ว่าที่คู่หมั้นของผม"

"ว่าที่คู่หมั้นอะไรกันคะพี่บอย?" พลอยพรรณปรากฏตัวออกมาจากหน้าห้อง เจ้าหญิงน้ำแข็งยืนกอดอกมองพี่บอย หนุ่มไฮโซด้วยท่าทางเย็นชา แต่แววตาของเธอมันฟ้องว่าตอนนี้เธอโกรธมากถึงมากที่สุด "ที่นี่คือสถานที่ราชการนะคะพี่บอย มาเอะอะโวยวาย ไม่สมกับเป็นลูกชายนักการเมืองระดับประเทศ ให้เกียรติสถานที่ด้วยนะคะ"

"น้องพลอย..." ภูวนาทมองหน้าอดีตคู่หมั้นของตัวเองด้วยความรู้สึกที่ระคนไปด้วยความโกรธ น้อยใจ และผิดหวัง "เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น เป็นฝีมือของน้องพลอยใช่ไหมครับ?"

..........................

ตัดมาที่ฝั่งครูเบสท์ หลังจากกลับมาที่ห้องพักครู อาจารย์สาวก็หย่อนตัวหน้าโต๊ะคอมทำงานไปตามปกติ ระหว่างที่ทำงานอยู่ อาจารย์สาวก็เหลือบไปเห็นลุงพลเดินเข้ามาภายในห้องพักครู พร้อมกับถุงน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋



"โห!!! ลุงไม่น่าขึ้นมาด้วยตัวเองเลย!!!" พี่เอ๋ อังศุมาลิน สาวใหญ่รองหัวหน้าคณะเดินไปรับถุงน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋จากมือของลุงพล "เพราะเดี๋ยวหนูจะลงไปอยู่พอดี"

"ไม่เป็นไรหรอกครับครูเอ๋!!" ลุงพลยิ้มหวาน ก่อนทอนเงินให้รองหัวหน้าคณะ

"ไม่ต้องหรอกลุง!!! คิดเป็นค่าเหนื่อยก็แล้วกันคะ!!!" รองหัวหน้าคณะเอ่ยปากห้าม ขณะที่ลุงพละกำลังล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าผ้ากันเปื้อนเพื่อหยิบเงินทอน

"ไม่เป็นไรหรอกครับ" ลุงพลยิ้ม "ของซื้อของขาย"

ภัคจิราเผลอยิ้มอ่อนที่มุมปาก พลางเปลี่ยนจุดโฟกัสกับมาที่หน้าจอคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน ลุงพลคนนี้ดูเป็นคนเอาการเอางานและซื่อสัตย์สุจริตมาก ครั้งที่แล้วตอนที่รถของเธอเสีย ก็เป็นลุงพลคนนี้แหละที่บังเอิญขับรถมอเตอร์ไซค์มาพบ และช่วยเป็นธุระซ่อมรถให้จนเสร็จ แต่ว่า

ภาพที่ลุงพลและหมอพลอยคุยกัน ด้วยหัวข้อสนทนาที่ฟ้องว่าสถานะภาพของลุงพลและหมอพลอยเป็นไปในทางฉันทชู้สาวก็ลอยแว้บเข้ามาในหัวของอาจารย์สาว ภัคจิราเผลอร่นคิ้วด้วยความสับสนว่าทำไมภาพเหตุการณ์เมื่อวันก่อน ถึงได้เข้ามารบกวนจิตใจของเธอได้ถึงขนาดนี้

"เบสท์!!! เบสท์!!!! กินน้ำเต้าหู้ร้านลุงพลด้วยกันไหม?" ครูเอ๋ รองหัวหน้าคณะพยาบาลเอ่ยปากถามภัคจิราอย่างอารมณ์ดี

"เอ่อ...ไม่ค่ะอาจารย์" ภัคจิรายิ้มหวาน "เบสท์อิ่มแล้วค่ะ"

"ไม่ใช่ว่ากลัวอ้วนหรอกเหรอ?" พี่เอ๋เอ่ยปากแซวอาจารย์รุ่นน้อง "เห็นทุกเช้าเราน่ะชอบสั่งกาแฟมากิน น้ำตาลทั้งนั้น กินน้ำเต้าหู้ลุงพลดีกว่า กินแล้วสุขภาพดี จริงไหมคะลุง?"

"จริงครับ จริงอย่างยิ่งยวด" ลุงพล อดีตนักการภารโรงที่ผันตัวมาเป็นคนขายน้ำเต้าหู้ตอบอย่างมีวาทศิลป์

"แหมมม เข้าใจคิดคำนะคะลุง!!! จริงอย่างยิ่งยวด!!"

ด้วยความที่วุ่นวายกับการทำงาน จนไม่ได้ไปกินข้าวเที่ยง รองหัวหน้าคณะพยาบาลศาสตร์เลยโทรไปจองน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋จากร้านลุงพล ด้วยความที่ยังวุ่นวายกับการทำงานบนโต๊ะ เลยทำให้ลุงพลตัดสินใจเอาของมาเสริฟ์ถึงห้องพักครูด้วยตัวเอง

ลุงพลแอบชำเลืองมองครูเบสท์ ด้วยแววตาที่เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ส่วนภัคจิราก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานเอกสารไป จนกระทั่งเธอสัมผัสได้ถึงออร่าบางอย่าง

ภัคจิราเหลือบไปเห็นสายตาของลุงพลที่มองมาทางเธอ ด้วยความตกใจ ภัคจิราเลยรีบเปลี่ยนจุดโฟกัสไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทันทีด้วยอาการประหม่า

"ครูเบสท์นี่น่ารักดีแหะ..." ลุงพลยิ้ม เมื่อเห็นอาการประหม่าของภัคจิรา อยากรู้เหลือเกินว่าอาจารย์สาวคนนี้จะหวานสักแค่ไหนกันเชียว

"เอ่อ...ลุงพลคะ" รองหัวหน้าคณะที่เดินเอาถุงปาท่องโก๋ไปวางบนโต๊ะทำงาน รีบเดินกลับมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากตาเฒ่าบางอย่าง "คือพอดีหลอดไฟในห้องมันเริ่มไม่ค่อยดี ติด ๆ ดับ ๆ บ่อยน่ะคะ ลุงพลช่วยไปตามเจ้าอเนกมาเปลี่ยนหลอดไฟให้หน่อยได้ไหมคะ?"

"ไม่ต้องถึงมือเจ้าอเนกหรอกครับ เดี๋ยวผมจัดการให้เอง" ด้วยความที่อยากโชว์สกิลพระเอก ต่อหน้าครูเบสท์ที่นั่งทำงานอยู่ ลุงพลก็เลยอาสาเปลี่ยนหลอดไฟให้

"จะดีเหรอคะลุง?" รองหัวหน้าคณะเอ่ยปากถามด้วยความเกรงใจ

ลุงพลยิ้มให้ครูพี่เอ๋ ที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่รองของเหล่าบรรดาอาจารย์คณะพยาบาลศาสตร์ในห้องนี้ ก่อนเอ่ยคำพูดอะไรออกมา

 

โปรดติดตามตอนต่อไป...
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ฝากติดตามเพจเฟสบุ๊คของผมด้วยนะครับ

https://web.facebook.com/Nato87.The.Storyteller


Thekopozza

จะรอฉากรักของครูเบสท์อย่างใจเย็นครับ ขอบคุณครับ



Danai Tee

นั่งจินตนาการอยู่ว่าฉากเปิดถ้ำครูกับ ลูกขวัญจะเป็นยังไง คงจะฟิน


ananchai2002



playnut

ครูเบสจะโดนเล่นตูดไหมครับ   อยากให้ได้ลูกขวัญก่อน

Nato87: คิดว่าจะรอดเหรอครับ ไม่เหลือ ส่วนลูกขวัญ ยังก่อนครับ ยังไม่ถึงเวลา

tcm12599




pooloop

รอคอยตอนครูเบสโดนเอาอย่างใจจดใจจ่อ ขอยาวๆเลยนะครับ 55

yakyedheemak

ลุงพลกับครูเบสจะหวานรึร้อนแรงแค่ไหนกันนะอยากรู้แล้วครับ