ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

สางแค้น (2)

เริ่มโดย twintower, มกราคม 27, 2021, 03:52:37 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

twintower

จากผู้เขียน

เห็นมีสมาชิกท่านหนึ่งมาแสดงความเห็นว่าเค้าเรืองต่อจากเรื่องอะไร ถ้าใครจำได้ว่าเมื่อ 4-5ปีที่แล้ว ผมได้แต่งเรื่องตัณหา ราคะ ความใคร่  ก่อนจะมีภาคต่อเรื่องความรักของนพ ใช้แล้วครับมันเป็นเนื้อเรื่องที่ต่อจากเรื่องความรักของนพ ที่มีตัวละครเกี่ยวข้องกันคือ พลตำรวจเอกพิชญ์กับลูกชายคนโต มันมาจากตอนนั้นผมมีโครงการที่จะแต่งนิยาย 3 ตอนให้เนื้อหาเกี่ยวข้องกันเหมือนเรื่อง 4 หัวใจแห่งขุนเขา หรือ สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ที่เป็นนิยายดังก่อนจะมาเป็นละครฮิตที่ช่อง 3

ซึ่งผมหวังว่าจะนำไปลงตามเว็บนิยายออนไลน์ โดยใช้วิธีดำเนินเรื่องจากซีรียส์ที่ผมชื่นชอบคือซีรียส์ชุด Chicago franchise ที่จะประกอบไปด้วย Chicago Fire,Chicago P.D.,Chicago Medและ Chicago Justice(อันนี้จบไปแล้ว) ซีรียส์ชุดนี้จะมีตัวละครหลักของตัวเองซึ่งบางทีจะมีตัวละครของเรื่องในชุดfranchiseเดียวกันโผล่มาแจมด้วย และบางตอนจะมีเนื้อหาที่เชื่อมกัน คือถ้าใครดูเพียงเรื่องใดเรื่องหนึ่งจะ งง เพราะจู่ๆตอนนี้โผล่มาได้ยังไง และทำไมตอนต่อไปไม่เอ่ยถึงเหมือนฉายข้าม คือเนื้อหามันจะเริ่มที่ซีรียส์เรื่องใดเรื่องหนึ่ง และมาจบที่ซีรียส์อีกเรื่อง อย่างเช่นมีตอนเกี่ยวกับโรคระบาด เนือหาเริ่มที่ Chicago Fire และเนื้อหาตอนต่อมา มาโผล่ที่ Chicago Med ก่อนจะไปจบที่ Chicago P.D

ตอนนั้นผมมีความตั้งใจจะทำแบบนี้คือ เนื้อหาตอนแรกเกี่ยวกับนพ ให้จบในตอนแรก แก้เนื้อหาที่มีบทเสียวออก แต่เพิ่มความพ่อแง่แม่งอนเข้าไป เพราะนพเป็นคนไม่ค่อยพูด ส่วนฐาก็เป็นสาวมั่น ส่วนตอนที่ 2 เป็นเรื่องเกี่ยวกับตูน และตอนที่ 3 เป็นเรื่องเกี่ยวกับพี่สาวของฐา เนื้อหาของตอนที่ 2กับ 3 ที่ผมแต่งเนื้อหาจะเชื่อมกันตลอด ไทม์ไลน๋จะไล่ๆกันไปตลอดทั้งเรื่อง ตอนที่ 2 มันจะประมาณหนุ่มๆตามจีบตูนเยอะมากแต่มีเรื่องบู๊เข้ามาเกี่ยวนิดหน่อยโดยที่ตูนไม่รู้เรื่อง และตอนที่ 3 จะมีบทบู๊ค่อนข้างเยอะเพราะเนื้อหาเกี่ยวกับแก็งส์ค้ายา ค้ามนุษย์ ตัวเดินเรื่องที่สำคัญที่ผมจะเพิ่มเข้ามาใน 2 ตอนนี้คือต้นพี่ชายคนโตกับโจ้นายตำรวจติดตามท่านรองพิชญ์ และแคนที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญอีกคนในตอนที่ 3 แต่แคนไม่ใช่พระเอกนะครับ

บอกตรงๆว่าผมแต่งทั้ง 2 ตอนไปได้ครึ่งหนึ่งแล้วเลิกแต่ง ไม่ใช่หมดไฟหรืออะไรนะครับ แต่ดูแล้วนิยายแบบนี้ท่าทางจะมีคนสนใจน้อย ไม่เหมือนนิยายสายวายที่ได้รับความสนใจอย่างมาก ผมเลยเลิกแต่งว่างๆก็เปิดไฟท์มาอ่านแก้กลุ้ม จนเห็นตัวละครที่ผมสร้างขึ้นมาคือ พีรพลหรือแคน ผมเลยเกิดไอเดียว่าจะนำจักรวาลของพีรพลมาแต่งเพิ่มในที่นี้โดยให้มีเรื่องเสียวอยู่บ้าง ดังนั้นตัวละครอื่นๆที่ผมเคยเขียนไว้ อาจจะมีบางคนที่เอ่ยถึง บางคนอาจจะได้โผล่เข้ามาบ้าง

ที่เกริ่นซะยาวเหยียดไม่ใช่อะไร เพราะอาจจะคนบางคน "งง" ว่าตัวละครนี้โผล่มาได้ยังไงมีที่มาไปยังไง เพราะบางคนผมปูที่มาไว้แล้วในเรื่องเก่าหรือเรื่องที่แต่งค้างไว้และอาจจะไม่เอ่ยถึงที่มาที่ไปในเรื่องนี้เท่าไหร่ครับ

ขอบคุณครับ

twintower
--------------------------------------------------------------------------------------------------------

พอแคนบรรยายสรุปให้ฟังจนจบ รองพิชญ์ที่เป็นผู้บัญชาการปฏิบัติการครั้งนี้ได้ถามไปที่ผู้แทนจากสถานทูตสหรัฐ ที่หน้าฉากคือเจ้าที่กิจการพิเศษทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แต่จริงๆแล้วคือเจ้าหน้าที่ CIA

"ตามกำหนดเดิมของซีลทีมนี้จะอยู่ฝึกกับทางไทยอีก 2สัปดาห์ใช่ไหมครับ"

"ครับท่านรอง แต่ทางเราสามารถยืดออกไปได้อีกครับ"

"งั้นไม่มีปัญหา เพราะงานนี้เราทำสำเร็จไปด้วยดีต้องขอบคุณทางสหรัฐอีกครั้งโดยเฉพาะเรื่องอุปกรณ์ส่วนเรื่องที่จะดำเนินการต่อเมื่อไหร่ อย่างที่ผมได้คุยกับท่านทูตสหรัฐแล้วว่าทางเราต้องมีข้อมูลเพิ่มกว่านี้อีก"

ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะพูดคุยกันอีกครู่หนึ่งและปิดการประชุม ทางสหรัฐขอตัวกลับทันที ส่วนรองสุพจน์กับรองพิชญ์เดินมาหาแคนกับท่านเลขาธิการ

"ท่านเลขา ผมนะคิดว่าผมพลาดจริงๆที่ปล่อยตัวมือดีของผมมาให้คุณนะ"

เป็นคำพูดของท่านรองสุพจน์ที่เอ่ยขึ้น

"ยังไงก็ไม่คืนครับท่าน พีรพลคือเพชรที่ผ่านการเจียระไนมาอย่างดีครับท่าน เราต้องหวงเป็นธรรมดา"

เป็นคำตอบของท่านเลขาก่อนจะเรียกหัวเราะจากรองทั้งสองท่าน ก่อนที่รองสุพจน์จะเดินมาตบไหล่แคนเบาๆ

"ผมไม่รู้จะชมคุณยังไงนะหมวด จากตอนแรกที่ผมยัง งงๆว่าทำไมทางซีลถึงเจาะจงมาเลยว่างานนี้ต้องให้คุณเข้าร่วม แต่พอเห็นการทำงานแล้วเข้าใจ เยี่ยมจริงๆหมวด"

รองสุพจน์ยังเรียกแคนด้วยยศเดิมเพราะความเคยชินแล้วหันมาทางรองพิชญ์ที่ยืนยิ้มอยู่ใกล้ๆ

"พิชญ์เข้ากรมก่อนใช่ไหม พี่จะไปทำเนียบจะไปรายงานท่านนายก ตอนนี้ท่าน ผบ.ไปรอแล้ว "

"ครับพี่"

ท่านรองสุพจน์ได้กล่าวลากับทุกคนก่อนจะเดินไปกับนายตำรวจติดตาม ส่วนรองพิชญ์นั้นพูดกับแคนต่อ

"เจอนพหรือยังลูก"

"ยังครับพ่อแต่โทรคุยกันแล้วครับ แต่ได้คุยไม่กี่คำ มันจะไปเรียนพอดี"

"เอาแบบนี้ถ้าหาเวลาได้ก็ไปกินข้าวที่บ้านแล้วกันนะ"

"ครับพ่อ ฝีมือพ่อผมไม่ลืม"

"งั้นพ่อไปก่อนไว้ว่างๆค่อยคุยกัน ไม่ต้องไปส่งนะ ไปละครับท่านเลขา"

แคนยกมือไหว้ท่านรองพิชญ์ ก่อนจะหันไปไหว้นายตำรวจอีก 2คน แล้ว 1 ในนั้นพูดขึ้นมา

"ถ้าไปกินข้าวที่บ้านก็เอาเกาเหลาไปด้วยนะ"

"ได้ครับพี่ต้น รับรองแม่ทำสุดฝีมือแน่ แต่ต้องอุ่นก่อนนะครับ"

"ไม่เป็นไรพี่รู้ว่ามาไกลจากหัวหิน"

สารวัตรต้นตอบกับมาพร้อมเสียงหัวเราะก่อนจะเดินตามบิดาไปพร้อมกับนายตำรวจติดตามที่หันมายิ้มให้แคนอีกครั้ง แล้วเดินตามเจ้านายไป โดยแคนมองตามไปด้วยรอยยิ้ม ภายในรถของท่านรองพิชญ์หลังจากออกจาก ป.ป.ส.แล้ว โจ้ที่เป็นนายตำรวจติดตามได้หันมาตอบเจ้านาย"

"ผมว่าฝีมือน้องมันดีขึ้นจริงๆครับท่าน อย่างที่ผมเรียนไปแล้ว ว่ามันไม่ธรรมดาจริงๆทำงานประสานกับทีมยอดฝีมือได้ขนาดนั้น แสดงว่า 3ปีที่อยู่อเมริกา น้องมันคงได้ประสบการณ์เพิ่มขึ้นอย่างมาก"

เป็นคำตอบของนายตำรวจติดตามหลังจากที่เจ้านายถามถึงฝีมือของลูกน้องเก่า สารวัตรโจ้นั้นเคยเป็นหัวหน้าของแคนสมัยที่ประจำอยู่ในหน่วยคอมมานโดของกองปราบ ในคืนนั้นที่ศูนย์บัญชาการ สารวัตรโจ้นั้นอยู่ในเหตุการณ์ ด้วยภาพที่เห็นนอกเหนือจากภาพของโดรนในมุมสูงแล้วยังมีภาพที่ติดอยู่กับหมวกของทีมปฏิบัติการอีก3-4 คน ทำให้เห็นภาพจากหลายมุม ซึ่งทั้งรองพิชญ์ที่เคยเป็นผู้บังคับการกองปราบและสารวัตรโจ้ที่ในอดีตเป็นหัวหน้าหน่วยคอมมานโดมาแล้วดูออกทันทีว่าเป็นการประสานงานที่ดีโดยไม่ติดขัดดูจะเข้าขากับทีมซีลอย่างมาก จึงไม่แปลกใจว่าทำไมทางหน่วยซีลของสหรัฐถึงเจาะจงเลือกแคน ให้มาร่วมงานนี้

"แล้วตอนที่อยู่กับพี่โจ้ละครับ"

แต่ต้นที่พอจะรู้เรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ทั้งๆที่พ่อขอตัวให้มาช่วยงานหลังจากที่ไปทำงานที่กองทะเบียนประวัติอยู่หลายปีแต่มีข้อมูลที่ผ่านตามาพอสมควรก่อนจะเข้ามาช่วยงานนี้ ได้ถามนายตำรวจรุ่นพี่

"ก็เป็นไปตามมาตรฐานของหน่วยนะ แต่ที่เด่นที่สุดคือยิงปืนแม่นเลยได้อยู่ชุดสไนเปอร์ ถามว่าแม่นขนาดไหนก็ฉายาที่ใครๆเรียกก็ "คริส ไคล์"( American Sniper /ผู้เขียน)เมืองไทยนะ แต่ถ้าเป็นปืนสั้นระยะ 25 เมตรนี่สูสีกับต้นนะ

"อย่างละที่เรียกว่าเป็นพรสวรรค์อย่างแท้จริงไม่เคยจับปืนมาก่อนแต่มาเป็นพลแม่นปืนมือฝีมือดี ต้นเองก็ฝึกยิงปืนกับพ่อมาตั้งแต่เริ่มเรียนมัธยมเหมือนกับโจ้ที่ฝึกมาแต่เด็กๆ ส่วนแคนยิงปืนเป็นครั้งแรกตอนเรียนเตรียมทหาร พ่อยอมรับนะนึกไม่ถึงเหมือนกันว่าแคนจะมาเป็นสไนเปอร์ได้"

สารวัตรต้นพยักหน้าเห็นด้วยก่อนที่จะไปพูดกับบิดาต่อ

"มันต้องมีอะไรที่เรายังไม่รู้เรื่องอีกเยอะครับพ่อ ตามรายงานที่เราเห็นคือแคนไปอบรมกับ DEA แค่ 6 เดือน แต่หลังจากที่ DEA ขอตัวไปช่วยงานข้อมูลทุกอย่างมันลับไปหมดไม่มีการเปิดเผย"

ท่านรองพยักหน้า เพราะตนเองก็ได้เห็นรายงานอยู่เหมือนกัน จากที่ส่งแคนไปอบรมที่สหรัฐแต่ก่อนที่จะจบหลักสูตรที่อบรมมีการขอตัวจาก DEA สหรัฐมายังต้นสังกัดที่ไทย ให้ไปช่วยงานลับ ทำให้ประวัติในช่วงนั้นไม่มีรายงานออกมา จนแคนพึ่งกลับมาเมืองไทยได้ 2 เดือนเศษ รองพิชญ์ครุ่นคิดก่อนจะตอบลูกชายคนโต

"มันก็อาจจะเป็นความลับที่ติดตัวแคนไปตลอดนะต้น เพราะดูแล้วทางไทยคงไม่มีใครรู้แน่นอน ความลับก็ย่อมเป็นความลับ จริงไหมพงษ์"

ประโยคหลังท่านรองถามไปยัง คนขับรถยศนายดาบที่ทำงานร่วมกันตั้งแต่จบโรงเรียนนายสิบใหม่ๆ

"จริงครับท่าน"

เป็นคำตอบสั้นๆจากคนขับรถ แต่ต้นนั้นคิดไปถึงอีกเรื่องที่พ่อบอกและแต่เรื่องที่ถามไปยังพ่อนั้นไม่ใช่เรื่องที่ตนเองคิด เพราะเรื่องนั้นเป็นความลับขั้นสูงสุดที่รู้เพียงไม่กี่คนแม้กระทั่งโจ้ก็ยังไม่รู้เรื่องนี้แต่เรื่องที่ต้นถามนั้นคือ

"แล้วขั้นตอนต่อไปจะเริ่มเมื่อไหร่ครับพ่อ"

"รออีกหน่อย แต่ตอนนี้รองสุพจน์รับไปดูแลทั้ง 2 เรื่องแล้ว ทางไอ้สาธิตเราจะหาหลักฐานให้แน่นกว่าเรื่องยาบ้าล็อตนี้หลักฐานไม่ถึงตัวมัน แต่พ่อกะจะเล่นมันเรื่องค้ามนุษย์กับเรื่องฟอกเงินก่อน ส่วนไอ้น้อมอย่างที่ท่าน ผบ.บอก เราจะแหวกหญ้าให้งูตื่นก่อน และงูตัวนั้นมันก็ตื่นแล้วแถมหนีหัวซุกหัวซุน เราปล่อยให้มันหนีไปตามทางที่เรากำหนดไว้ รอแคนขึ้นไปเชียงรายอีกครั้งก่อน งานนี้เจ้าตัวอาสาเอง"

ท่านรองพิชญ์พูดพร้อมรอยยิ้มแต่ในใจลึกๆนั้นหวั่นอยู่เหมือนกันว่าแคนจะทำตามคำพูดที่รับปากไว้หรือไม่ ส่วนโจ้นั้นคิดเรื่องความสามารถของลูกน้องเก่าที่ดูแล้วเก่งขึ้นกว่าเดิมมาก ต่างจากตันที่พยักหน้ารับรู้เรื่องที่พ่อเล่า แต่ในใจนั้นคิดไปเรื่องลับอีกเรื่องหนึ่ง 

ส่วนฝนหลังจากที่กลับมาถึงที่งาน เธอนั้นครุ่นคิดเรื่องของแคนมาตลอด สายตาคู่นั้นมองมาที่เธอนั้นไม่เคยเปลี่ยนจากที่เจอกันครั้งสุดท้ายเกือบ 5 ปีมาแล้วที่งานศพของแฟนเก่าเธอ ฝนก็พึ่งรู้วันนี้ว่าแคนมาอยู่ ป.ป.ส. ไม่ได้เป็นตำรวจแล้ว แต่สิ่งที่เธอหวั่นใจอยู่คือเรื่องที่อาจจะต้อมาเจอกันอีก เพราะบริษัทที่เธอทำอยู่นั้นมีเครื่องมือที่ทันสมัยมูลค่าหลายร้อยล้าน ถ้ามีการจับยาเสพติดอีกทาง ตำรวจกับ ป.ป.ส.ต้องขอความร่วมมือในการตรวจสารประกอบยาเสพติดอีกและเธอที่เป็นผู้ชำนาญการด้านเคมีคงต้องรับหน้าที่นี้อีก สำหรับเธอมันคงอึดอัดใจน่าดูถ้าจะมาพบกับแคนถึงจะเป็นในเรื่องงานก็ตามที จนเลิกงานเธอขับรถกลับมาที่คอนโดกลางใจเมือง ภายในห้องนั้นเงียบแสดงว่าแฟนของเธอยังไม่กลับหญิงสาวจัดการอาบน้ำ ก่อนจะมาเตรียมอาหารมื้อเย็นไม่นานนักแฟนของเธอจึงกลับมา หลังจากที่ทานอาหารกันเรียบร้อย ทั้งคู่มาดูโทรทัศน์กันบนโซฟาร์ตัวยาว ฝนนั้นนั่งพิงที่ท้าวแขนแล้วหันตัวมาทางแฟนก่อนจะยกขาทั้งสองขึ้นมาวางบนขาของแฟนเธอ

"พัดนวดให้หน่อยสิเมื่อย"

"วันนี้เป็นอะไรดูเงียบๆไป"

แฟนเธอถามขณะเริ่มนวด

"ก็งานมันเยอะนะ ตาลายกับพวกตารางธาตุแถมงานก็เร่งอีก"

เธอบ่นออกมาอย่างไม่ตรงกับใจ แต่แฟนเธอนั้นก็พยักหน้าเพราะรู้ดีว่างานของเธอนั้นยุ่งยากขนาดไหน เธอหลับตาปล่อยให้พัดนวดไปที่ขาทั้งสองข้าง  ฝนที่สวมเพียงเสื้อยืดตัวยาวที่คลุมมาถึงขาอ่อน และโนบรามีเพียงกางเกงในตัวจิ๋ว พัดนั้นนวดไปพร้อมมองไปที่เรียวขาของเธอจนฝ่ายชายเริ่มมีอารมณ์ ใช้มือล้วงเข้าไปถึงโคนขาจนถึงชั้นใน แล้วขยำไปที่เป้ากางเกงในตัวจิ๋ว ฝนนั้นอ้าขาออกปล่อยให้แฟนหนุ่มขยำเนินของเธอได้ตามสบายโดยที่ไม่ลืมตา จนนิ้วของพัดล้วงผ่านขอบกางเกงในไปถึงรูหี ฝนขยับตัวพร้อมกางขาขึ้นอีกเล็กน้อย  นิ้วของแฟนเธอเริ่มเขี่ยในรูหี ลมหายใจเธอเริ่มถี่ขึ้น ก่อนรู้ถึงหน้าของฝ่ายชายมาซบที่ทรวงอก พร้อมสัมผัสการดูดดื่มหัวนมผ่านเสื้อ ฝนใช้มือโอบรอบตัวแฟน พร้อมเสียงครางที่แผ่วออกมา

"โอยยยยยยยยยย ซี๊ดดดดดดดดดดด"

ชายเสื้อของเธอถูกถลกขึ้นไปเหนือเอวชั้นในถูกรูดลงไปจนหลุดพ้นจากตัว ฝ่ายชายเลิกใช้นิ้วเขี่ยหีเธอ ปากที่สัมผัสหัวนมของเธอผ่านเสื้อยืดที่ตอนนี้เปียกชุ่มไปด้วยน้ำลายทั้งสองข้าง เลื่อนลงด้านล่างจากที่ถูกเธอกดหัวลงลงมาที่โคกหีขนหมอยที่มีประปรายแต่ชุ่มชื้น พร้อมปากทางที่เริ่มคล้ำถูกสัมผัสจากลิ้นของฝ่ายชาย

"อูยยยยยยยย เสียวววววววว พัดเลียเหอะ"

พัดจัดการตามคำขอของแฟนสาว แล้วนำมือล้วงผ่านเสื้อไปเกาะกุมหน้าอกที่ขนาดไม่ใหญ่พร้อมบี้หัวนมที่สลับไปมาทั้ง 2 ข้าง  ส่วนลิ้นนั้นทำหน้าที่สร้างความเสียวให้กับฝน สะโพกของฝนส่ายไปมารองรับลิ้น หัวนมนั้นบานขยายเต็มที่ พัดเลียให้แฟนสาวอย่างต่อเนื่องจนฝนมีอาการเกร็งตัว แต่พัดไม่หยุดเลียต่อไปอีกทำให้หญิงสาวไปถึงจุดสุดยอดติดต่อกันถึง 2 ครั้ง
ระหว่างที่เธอนอนหอบอยู่ พัดลุกขึ้นแล้วจัดการถอดกางเกงออก แล้วเอาควยไปจ่อที่ปากของฝน  เธอไม่รอช้าใช้มือรูด2-3ครั้งแล้วผงกหัวขึ้นมาอมควยของแฟนหนุ่ม พัดสูดปากเบาๆเมื่อเจอฤทธิ์จากปากและลิ้นของแฟนสาวจนตัวเองแทบจะทนไม่ไหวรีบดึงควยออกจากปากฝนแล้วจับตัวฝนยืนขึ้นพร้อมพลิกตัว ฝนรู้ดีว่าพัดต้องการอะไร เธอก้มตัวเอามือจับไปที่พนักพิงแล้วแอ่นก้นมาให้พัด ชายหนุ่มจับเอวเธอแล้วดันควยเข้าไปในรูหีทันที ฝนหลับตาพริ้มพร้อมแอ่นกายรองรับการถูกเย็ดจากแฟนหนุ่ม ไม่นานนักน้ำกามของพัดพุ่งเข้าสู่รูหีเธอ มันเป็นแบบนี้แทบทุกครั้งที่ฝ่ายชายจะถึงไวมีนานๆครั้งที่จะไปถึงจุดสุดยอดพร้อมๆกัน ทั้งคู่จึงต้องใช้วิธีแบบนี้มาตลอด  เธอคบกับพัดได้2-3ปีแล้ว ก่อนหน้านี้เธอมีแฟนมา2-3คนหลังจากที่แฟนเก่าที่เป็นตำรวจเสียชีวิต จนมาเจอพัด ที่ตอนนี้ลงไปนั่งบนโซฟาร์ฝนจึงถอยไปนั่งข้างๆซบหน้าไปทีไหล่ของพัดที่เอามือมาโอบกอดเธอเบาๆ

ฝ่ายแคนหลังจากเลิกงานชายหนุ่มกลับไปที่พักที่เป็นคอนโดขนาดกลาง ที่แคนพึ่งซื้อมาหลังจากกลับจากสหรัฐ แคนมองไปที่บนหลังตู้หนังสือ มีกรอบรูปอยู่3-4 กรอบ กรอบตรงกลางเป็นภาพของครอบครัว ที่ 3 คน พ่อแม่ลูกยืนยิ้มมาที่กล้อง แคนหยิบขึ้นมาดูด้วยความเศร้าหมอง ก่อนจะวางลงแล้วหันไปมองอีกที่รูป ที่เป็นรูปนักเรียนนายร้อยตำรวจ 3 คนที่อยู่ในชุดฝึกยืนกอดคอเรียงกัน  แคนมองแล้วถอนหายใจ 1 ใน3 นั้นได้เสียชีวิตไปแล้วเป็นคนที่ยืนอยู่ตรงกลาง ส่วนอีก 2 คือแคนกับเพื่อนนักเรียนตำรวจที่หน้าตาดีอีกคนที่ตอนนี้ชีวิตพลิกผันถูกไล่ออกจากตำรวจในช่วงที่แคนไปสหรัฐได้ไม่นานนักเพราะไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดทั้งๆที่เป็นลูกนายทหารชั้นนายพล

"ไอ้ธงกูไม่เข้าใจว่ามึงทำไปเพราะอะไร ส่วนไอ้นิววันนี้กูเจอผู้หญิงแพศยาด้วย โลกมันกลมจริงๆ"

ใจของแคนนึกไปถึงเพื่อนสนิทอีก 2 คนในรูป แล้วถอนหายใจก่อนจะเดินมานั่งที่โซฟาร์แล้วหยิบแฟ้มในกระเป๋าเอกสารขึ้นมาอ่านอย่างตั้งใจ มันเป็นรายละเอียดเพิ่มเติมของการจับกุมเฮโรอีนและยาบ้าล็อตใหญ่ที่พึ่งยึดได้และข้อมูลเพิ่มเติมของคนที่ถูกจับ แคนมาจากครอบครัวฐานะปานกลางพ่อกับแม่ทำงานบริษัท ซึ่งเกษียณแล้วทั้งคู่และตอนนี้ไปเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวที่หัวหินที่เป็นถิ่นเกิดของแม่และเป็นอาชีพเดิมของตากับยาย ส่วนพ่อนั้นเป็นคนเชียงราย แคนเป็นเพื่อนกับนพลูกชายของรองพิชญ์ตั้งแต่เรียนมัธยมและด้วยความที่สนิทกันพอสมควรแถมเคยไปทำรายงานหรือติวหนังสือที่บ้านนพบ่อยครั้งทำให้คุ้นเคยกับคนในครอบครัวของนพพอสมควร และมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นตำรวจให้ได้ ซึ่งท่านรองพิชญ์นั้นสนับสนุนและช่วยส่งเสริมให้  จนแคนเข้าเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจได้สำเร็จตามความตั้งใจ จนจบออกมาแล้วสมัครเข้าหน่วยคอมมานโดก่อนจะได้รับคัดเลือก ทำให้ได้ร่วมงานกับสารวัตรโจ้ แถมด้วยความสามารถในการยิงปืนทำให้ได้รับเลือกเป็นพลแม่นปืน ต่อมาทาง ป.ป.ส.ได้เปิดรับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ มีผู้ใหญ่ที่รู้จักได้ชักชวน ซึ่งก่อนหน้านั้นแคนได้รับข้อมูลบางอย่างมาจึงตัดสินใจที่จะโอนย้ายไปอยู่ป.ป.ส โดยปรึกษากับท่านรองพิชญ์ที่ตนเองนับถืออย่างมากก่อน รองพิชญ์นั้นไม่ติดขัดอะไรเพราะเป็นความต้องการของเจ้าตัวเอง แคนจึงได้โอนย้ายไปอยู่ป.ป.ส. ประจำในหน่วยปฏิบัติการพิเศษ จนได้รับการคัดเลือกให้ไปฝึกอบรมกับทาง DEA ของสหรัฐ ซึ่งระหว่างอบรมรวมถึงผลงานตอนอยู่เมืองไทย ที่สามารถจับยาเสพติดรายใหญ่ได้หลายครั้งและตอนเป็นตำรวจก็อยู่ในหน่วยคอมมานโด ทำให้ผู้ใหญ่ของ DEA ให้ความสนใจก่อนจะทาบทามให้แคนมาช่วยงาน พอได้ฟังข้อเสนอแคนตกลงทันที ทางสหรัฐจึงทำหนังสือขอตัวแคนมายังทางการของไทย

งานที่แคนได้รับข้อเสนอคือการแฝงตัวเข้าเป็นสายลับในบริษัททหารรับจ้าง ที่ปฏิบัติการในพื้นที่ ที่มีความขัดแย้งอย่างอัฟกานิสถาน เพราะทาง DEA มีข้อมูลมาว่ามีการขนยาเสพติดจากอัฟกานิสถาน มายังสหรัฐโดยบริษัทที่รับจ้างขนของแห่งหนึ่ง ซึ่งบริษัทนี้รับจ้างขนทั้งอาวุธ อะไหล่ อุปกรณ์ต่างๆและบรรดาเสบียงอาหารจากรัฐบาลสหรัฐให้กับกองทัพที่ประจำการอยู่ในอัฟกานิสถาน และบริษัทนี้ได้ว่าจ้างบริษัททหารรับจ้างคุ้มกันขบวนขนส่ง แต่สายลับที่ DEA มีอยู่นั้นอาจจะมีปัญหาในการปฏิบัติงานเพราะหลายคนเคยร่วมงานกับทีมทหารรับจ้างมาก่อนมันอาจจะไม่ปลอดภัยและทำให้ภารกิจล้มเหลว แต่แคนนั้นไม่มีใครรู้จักจะทำให้การแฝงตัวนั้นทำได้โดยง่าย

โดยมีการปลอมแปลงข้อมูลของแคนเพียงเล็กน้อย ในข้อมูลที่ปลอมนั้นแสดงให้เห็นว่าแคนลาออกจากตำรวจของไทยโดยจะมาใช้ชีวิตที่สหรัฐและมีเป้าหมายจะเข้าสมัครงานกับ FBI แต่ทางบริษัททหารรับจ้างเปิดรับสมัครพอดีแคนจึงเปลี่ยนใจ ด้วยประวัติที่เคยเป็นถึงคอมมานโดและใบรับรองที่ทางไทยออกให้ บวกกับความสามารถที่แสดงในตอนคัดเลือกทำให้บริษัททหารรับจ้างรับแคนเข้าทำงาน แต่ในส่วนลึกของแคนที่เลือกรับงานนี้ เพราะจะได้ร่วมงานกับยอดฝีมือที่เคยอยู่ในหน่วยซีล,เดลต้าฟอร์ซหรือกรีนเบเรต์ ไม่รวมหน่วยรบพิเศษอื่นๆทั่วโลก ที่เข้ามาทำงานในบริษัทนี้ แคนจึงไม่ปฏิเสธ ก่อนจะเข้าไปปฏิบัติงานในอัฟกานิสถาน ซึ่งแคนยอมรับคนพวกนี้มีอีโก้สูงมีความเถื่อนดิบอยู่ในตัว ขนาดว่าสายลับของ DEA ที่เข้าไปแฝงตัวในแถบชายแดนเม็กซิโกหรือแก็งส์ค้ายาในเม็กซิโกที่แคนรู้จักว่าเถื่อนดิบแล้ว เทียบไม่ติดกับคนพวกนี้

หัวหน้าทีมของแคนนั้นเป็นอดีตหน่วยเดลต้าฟอร์ซ หลายคนที่แคนรู้จักนั้นลาออกจากการเป็นทหารหรือไม่ก็ถูกปลดประจำการ คนพวกนี้หลายคนไม่สามารถใช้ชีวิตแบบธรรมดาได้อีก ส่วนใหญ่หลังจากที่ถูกส่งกลับจากการปฏิบัติงานจะมีปัญหากับครอบครัวและการหย่าร้างที่ตามมา บางคนกลายเป็นคนติดเหล้า เพราะการใช้ชีวิตที่กดดันในสงครามไม่ว่าจะเป็นอัฟกานิสถานหรืออิรัค เมื่อกลับเข้าไปสู่สังคมที่ปกติทำให้ทำตัวไม่ถูกมีความกดดันมากกว่าอยู่ในพื้นที่การรบ จึงลาออกจากการเป็นทหารแล้วเลือกที่จะมาทำงานเป็นทหารรับจ้างนอกเหนือจากรายได้ที่งดงามแล้วคนนี้ยังจะได้ทำสิ่งที่ตนเองคุ้นเคยและขาดไม่ได้มันเป็นสิ่งที่ชดเชยในจิตใจที่ไร้การยึดเหนี่ยว     

งานของแคนที่ได้รับมอบหมายคือการคุ้มกันขบวนขนของ แต่บางครั้งมีภารกิจอื่นๆ เช่นคุ้มครองบุคคลของทางรัฐบาลสหรัฐหรือบรรดาเจ้าหน้าที่ CIA  อยู่บ่อยครั้งและบางครั้งต้องปฏิบัติภารกิจร่วมกับทางกองกำลังของสหรัฐทั้งโดยบังเอิญและตามคำสั่ง จนมาครั้งหนึ่งด้วยภารกิจคุ้มครองเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศที่มาเจรจากับพวกแกนนำคนสำคัญของเผ่าต่างๆ แคนรับหน้าที่คอยซุ่มดูอยู่บนเนินโดยมีไรเฟิลซุ่มยิงคอยสอดส่องกับเพื่อนอีกคนหนึ่งที่คอยชี้เป้า เพื่อดูสถานการณ์รอบๆหมู่บ้านพื้นที่นัดพบจนการเจรจาเสร็จ ทีมเจรจาได้เดินทางกลับ แคนที่กำลังจะถอนตัวได้ใช้กล้องเล็งเพื่อตรวจสอบอีกครั้งและไปเจอความเคลื่อนไหวทางด้านเหนือของหมู่บ้าน พื้นที่บริเวณนั้นเป็นเนินที่ระดับต่ำกว่าเนินที่แคนซุ่มอยู่  คนชุดนั้นกำลังเคลื่อนตัวลงจากเนิน แคนจึงรายงานผ่านวิทยุไปทางศูนย์บัญชาการและได้คำตอบว่าเป็นหน่วยซีลที่มาปฏิบัติงานอื่นและกำลังเดินทางมาที่จุดนัดพบที่อยู่ไม่ห่างออกไป แต่บนยอดเนินที่ห่างออกไปแคนเห็นการเคลื่อนไหวของคนอีกกลุ่มหนึ่ง ที่สะกดรอยตามหน่วยซีลนั้นมาห่างๆ จึงรายงานไปอีกครั้ง

"ฐานอีเกิ้ลจากเอคโค่ 3 หลังเพื่อนเราประมาณ 300 หลา มีกลุ่มน่าสงสัยตามมามีคนอยู่ 7-8คน อาวุธครบมือ"

เสียงเงียบไปก่อนที่ทางศูนย์บัญชาการจะตอบกลับ

"เอคโค่ 3สแตนบายไว้ก่อน"

ไม่นานนักทางศูนย์บัญชาการได้แจ้งมาที่แคน

"เอคโค่3 จากฐานอีเกิ้ล ซีลทีมนั้นไม่มีโครนคอยคุ้มกัน"

ก่อนที่ทางศูนย์จะให้ทางแคนติดต่อไปทางทีมซีลโดยตรงพร้อมการอนุมัติให้ปะทะ แคนจึงเปลี่ยนคลื่นวิทยุที่ได้รับแจ้งก่อนจะแจ้งไปยังหัวหน้าทีมของซีล

"บราโว่ 1จากเอ๊คโค่3 มีเพื่อนเกาะติดคุณอยู่ด้านหลังห่างไปประมาณ 300 หลา"

"เอ๊คโค่ 3จากบราโว่ 1 คุณอยู่ตรงไหน"

" บราวโว่1จากเอ๊คโค่ 3ผมอยู่เนินด้านใต้ห่างจากคุณประมาณ 800 หลา"

"เอ๊คโค่ 3 จากบราโว่ 1พวกเรามองไม่เห็นพวกมัน พวกมันอยู่สูงกว่าเรา คุณมีพื้นที่แนะนำไหมตรงนี้มันโล่งมาก"

"บราโว่ 1 จากเอ๊คโค่ 3ให้ลงมาข้างล่างตรงพื้นราบอีก100 หลา จะมีป่าหิน"

"เอ๊คโค่ 3 จากบราโว่ 1 ผมเห็นป่าหินแล้ว เราจะเคลื่อนที่ไปตรงนั้น"

จากภาพที่เห็น หน่วยซีลทั้ง 6 คน ต่างรีบเคลื่อนกายมายังป่าหินที่มี หินก้อนใหญ่ที่สามารถกำบังกายได้อย่างดี

"เอ๊คโค่ 3 จากบราโว่ 1  เราเข้าประจำที่แล้ว"

"บราโว่ 1จากเอ๊คโค่3 รับทราบ ตอนนี้พวกมันเคลื่อนเข้ามาใกล้ตรงที่โล่ง จุดเดิมที่คุณเคยอยู่"

"เอ๊คโค่ 3 จากบราโว่ 1 มุมตรงผมยังมองเห็นไม่ชัด ถ้าคุณเห็นมันชัดคุณประเดิมได้เลย เราจะรอซ้ำ"

"โรเจอร์"

แคนตอบสั้นๆ ก่อนที่เป้าหมายจะเข้ามาในพื้นที่โล่งตรงจุดเดิมที่หน่วยซีลเคยอยู่  เพื่อนที่ชี้เป้าที่ส่องกล้องตามดูตลอดได้ส่งสัญญาณ แคนที่รออยู่แล้วได้ลั่นไกทันที กระสุนขนาด7.62 มม. จาก ปืน M 24 เจาะเข้าที่ทรวงอกคนนำหน้า แคนกระชากลูกเลื่อนพร้อมส่งลูกปืนเข้าสู่รังเพลิง และลั่นนัดที่ 2 ไปยังคนที่เดินมาตามที่ยังไม่จะได้หมอบ ร่างนั้นล้มคว่ำตามคนนำหน้าทันที ก่อนที่หน่วยซีลที่รออยู่แล้วจะจัดการซัลโวทันที ทำให้พวกตาลีบันที่ลอบติดตามนั้นรีบล่าถอยทันทีเมื่อเจอการตอบโต้อย่างรุนแรง โดยเหลือรอดไปได้ 2 คน จาก 3 คน  เพราะคนที่ 3โดนแคนยิงทะลุหลังขณะวิ่ง จากผลงานในวันนั้น บราโว่ 1หรือหัวหน้าหน่วยซีลทีม 6 ชื่อพันจ่าเอกโจนาธาน  นั้นอยากพบแคนมาก และแคนได้มาพบหน่วยซีลในค่ายทหารและแคนมารู้ภายหลังว่าหน่วยซีลที่ตนเองช่วยนั้นคือหน่วยซีลทีม 6 บราโว่วันได้ขอบคุณแคนพร้อมคำชมอย่างมากรวมถึงคนในทีมโดยเพราะพันจ่าโทจิมมี่ที่เป็นรองหัวหน้าชุดและเป็นสไนเปอร์เหมือนกันได้ชื่นชมแคนมากก่อนจะเลี้ยงเหล้าแคนชุดใหญ่ คืนนั้นแคนจำได้ว่าตนเองไม่เคยเมาขนาดนี้ มาก่อนในชีวิต

 

เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

Khuna

เป็นเรืาองที่เขียนได้รายละเอียดดีมาก ใส่ใจทุกรายละเอียด

phu_nun

ฝนนี่ไม่เบาแน่ จะมีแก้แค้นให้เพื่อนมั้ยนี่ อิอิ

birdramon2

เนื้อเรื่องแนว บู้ แอคชั่น น่าติดตาม

dew1

แคนนี่ี่ี่เทพมากๆ เรื่องก็ดำเนินไปอย่่างเข้มข้น คิดว่าฝนกับแคนต้องมีเหตุที่ทำให้ต้องประทะกันแน่ๆ

jaojom

มีเงื่อนปม หลายคนนะครับ ทั้ง เพื่อนทั้งสองคน และ ฝนที่น่าจะเข้าใจผิดอะไรกันรึเปล่า

outsider

เคยคอมเมนท์ไปแล้วว่าท่านเขียนบทบู้บทแอคชั่นได้ดี แถมยังมีการผูกเรื่องได้อย่างน่าสนใจ

phaii

ติดตามต่อเลยครับ ฝีมือเขียนยังยอดเยี่ยมเช่นเคยนะครับ

thongdaeng_skk

ผมชอบนิยายแนวนี้มากกว่าแนว y บทพิสวาส บทเสียวก็ดีมาก

Thunyawit sriradon

เนื้อเรื่องสนุกน่าติดตาม ให้ความรู้สึกเหมือนหนังสงครามอเมริกา

นัทโตะ

ฝนนี่ดูชีวิตเฉยเมยต่างจากแคนดีแท้ แคนต้องมานั่งทนทุกข์ต่อ

ThTh43

ฝนโดนแก้แค้นแน่นอน  แต่จะโดนวิธีไหนนี่สิน่าลุ้น

gusjung111

เรื่องราวละเอียดมากคงมีหลายตอนแน่นอน

633sqd

#13
เรื่องเสียวจริงๆ เสียวสันหลังกลัวงานจะพลาด ทำซีรีย์แบบที่ท่านว่ามาก็น่าสนใจดีนะครับ ::Thankyou::

อ่านขื่อเรื่อง ตอนแรกนึกว่าไม่ใช่เรื่องบู๊ แต่เป็นเรื่องผี สยองขวัญ ยังว่าไม่ใช่แนวท่านนักเขียน ::HoHo::

hart

แก้แค้นฝนแทนเพื่อนแน่