ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

สางแค้น (5)

เริ่มโดย twintower, กุมภาพันธ์ 07, 2021, 10:28:58 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

twintower

"ปฏิบัติการครั้งนี้ จะไม่มีโดรนบินสนับสนุนเพราะมันจะเป็นการล้ำน่านฟ้าของทางพม่า และทางเรากลัวว่าถ้ามีการตรวจพบจะมีการแจ้งไปยังพวกว้าแดง พวกคุณต้องเดินเท้าเข้าไปจนถึงโรงงาน ข้อมูลที่ได้มาจากฝ่ายไทยนั้นพอจะกำหนดได้ว่าโรงงานผลิตยาเสพติดนั้นอยู่บริเวณพื้นที่ตรงนี้"

นาวาโทเลย์ตัน ที่เป็นคนคุมการปฏิบัติของหน่วยซีลทีมนี้ได้ชี้เป้าหมายที่ตอนนี้เป็นภาพถ่ายจากดาวเทียมขึ้นมาบนหน้าจอ

"ทั้งทางไทยกับทางเราพยายามจะค้นหาโรงงานนี้มานานแล้ว แต่ยอมรับว่ามันยากลำบากเพราะเป้าหมายอยู่ในหุบเขา และมีการใช้ต้นไม้ปิดบังทำให้ดูเป็นป่ารกเพื่อป้องกันการตรวจจับ แต่ดีที่2-3 วันที่ผ่านมาสภาพอากาศค่อนข้างเปิดทำให้ได้ภาพมาชัดขึ้นพอจะชี้ได้ว่ามันมีสิ่งก่อสร้างอยู่ รวมถึงบริเวณที่ตั้งด่านตรวจด้วย  ต้องขอบคุณข้อมูลจากฝ่ายไทยที่ชี้เป้าและพิกัดได้อย่างละเอียดตั้งแต่โกดังทำให้ไล่ตรวจหาเป้าหมายได้ง่ายขึ้น  สภาพของป่าที่พวกคุณเดินทางนั้นยังมีความชื้นอยู่ถึงจะเริ่มเข้าฤดูหนาวของที่นี่แล้ว ทำให้การเดินทางอาจจะลำบากอยู่ เวลาที่ใช้กำหนดว่า 4 วัน และเรื่องกำลังของฝ่ายว้าตามข้อมูลที่ได้มาจากการดักฟังรวมถึงภาพถ่ายล่าสุดมีการเคลื่อนไหวเสริมกำลังคุ้มกันเพิ่มขึ้นมาอีก เราประมาณการได้ว่าอาจจะมีกำลังคุ้มกันประมาณ 3กองร้อย  ต้องอย่าลืมว่าภารกิจนี้ต้องหลีกเลี่ยงการปะทะ เราต้องการรูปถ่ายโรงงานที่ชัดเจนเท่านั้น"

แคนที่ยืนกอดอกอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง พร้อมฟังการบรรยายถึงภารกิจนี้อย่างตั้งใจพร้อมนึกชมเพื่อนที่ให้ข้อมูลมาละเอียดทำให้การตรวจสอบหาโรงงานนั้นง่ายขึ้น มันผ่านไปเพียง 1 อาทิตย์เท่านั้นหลังจากที่แคนไปแหย่หนวดเสือของกำนันน้อม ทางสหรัฐมีการปรับวิถีโคจรของดาวเทียมจารกรรม เพื่อที่จะค้นหาโรงงานผลิตยา ด้วยข้อมูลของธงทำให้การค้นหานั้นง่ายขึ้น ภาพถนนลูกรังรวมถึงบรรดาด่านตรวจและพื้นที่ที่คาดคะเนว่าเป็นโรงงาน ทางรัฐบาลสหรัฐต้องการภาพถ่ายของโรงงานอย่างชัดเจน เพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติมเพราะภาพที่ได้จากทางดาวเทียมนั้นไม่ยังไม่สามารถระบุอะไรได้ ซีลทีม 6 จึงได้รับมอบหมายในภารกิจนี้ และแคนนั้นอาสาที่จะเข้าร่วมทันที ซึ่งตอนแรกทางรัฐบาลไทยนั้นปฏิเสธเพราะมันเป็นเรื่องที่เสี่ยงเกินไปที่จะให้เจ้าหน้าที่ของไทยเข้าร่วมเพิ่มอีก 1คน เพราะก่อนหน้านี้ได้มีการส่งคนเข้าไปร่วมแล้ว 1 คน เพราะมันอาจจะเป็นปัญหาที่ใหญ่มาก ถ้าทางพม่ารู้ว่ามีเจ้าหน้าที่ของไทยถึง 2 คนมาร่วมกับสหรัฐเข้ามาทำงานลับในพื้นที่ของพม่า แต่แคนให้เหตุผลว่า ควรจะมีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ของไทยที่ร่วมด้วยเพราะโรงงานนี้มันผลิตยานรกเข้ามาขายที่ฝั่งไทย และรองพิชญ์ให้การสนับสนุนเพราะรู้ว่าแคนต้องการอะไร ทำให้ทางรัฐบาลไทยยอมให้มีเจ้าหน้าที่ของไทยเข้าร่วมเพิ่มอีก 1 คน คือแคนและอีกคนที่ถูกเรียกให้มาเข้าร่วมปฏิบัติการครั้งนี้คือตำรวจ ตชด.ที่สามารถพูดและอ่านภาษากะเหรี่ยงและพม่าได้อย่างคล่องแคล่ว และมีประสบการณ์บวกกับความชำนาญในพื้นที่ชายแดนแถบนั้นซึ่งทางหน่วยซีลนั้นไม่มีปัญหาอยู่แล้วที่แคนจะมาเข้าร่วมด้วย พอนาวาโทเลย์ตันพูดจบ เจ้าหน้าที่ข่าวกรองของทีมซีลได้ขึ้นมาบอกรายละเอียดต่อ

"ถ้าไม่เกิดปัญหาใดๆทั้งขาไปและกลับ พวกคุณจะเดินเท้ากลับมาถึงจุดเริ่มคือฐาน ตชด.ของฝั่งไทยส่วนเรื่องกำลังสนับสนุนหากเกิดเหตุจำเป็น เราสแตนบายเฮลิคอปเตอร์ที่จะบินเข้าไปรับพวกคุณไว้แล้ว พร้อมการสนับสนุนทางอากาศจากฝ่ายไทยที่จะเตรียม  F-16 4 ลำ ที่ตอนนี้ไปฝึกที่เชียงใหม่พอดี ใครมีคำถามอะไรไหมครับ"

เจ้าหน้าที่ข่าวกรองได้พูดขึ้นมาพร้อมมองไปรอบๆห้อง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของ DEA คนหนึ่งได้พูดติดตลกขึ้นมา

"ไหนๆเราเข้าไปถึงโรงงานแล้วก็ไม่ต้องรออะไรให้ซีลทีม ลุยถล่มโรงงานเลยสิครับ"

"พวกผมความสามารถไม่ถึง จอห์น แรมโบ้ที่จะแบก M-60 สองกระบอกเดินหน้าลุยยิงพวกแม่งไม่เลือกหน้าครับ"

เป็นคำตอบจากบราโว่ 1 ทำให้ทุกคนในห้องมีรอบยิ้มและเสียงหัวเราะออกมาก่อนจะปิดการประชุม บราโว่ 1 หรือพันจ่าเอกโจนาธาน เดินเข้ามาหาแคนพร้อมตบไปที่บ่าเบาๆ

"น้องชายเรามีเวลาพัก 48 ช.ม.ก่อนปฏิบัติการ ไปพักผ่อนให้เต็มที่ งานนี้เดินกันขาลากแน่"

แคนยิ้มรับก่อนจะเดินออกจากห้องประชุมที่อยู่ในสถานทูตสหรัฐ ก่อนหน้านี้หลังจากกลับจากที่กลับจากเชียงรายวันรุ่งขึ้นแคนพร้อมกับหัวหน้าได้เดินทางมาพบกับรองสุพจน์และรองพิชญ์ เพื่อรายงานความคืบหน้า ภายในห้องนอกจากมี 2 รอง ผบ.ตร.แล้วยังมีต้นที่เข้ามานั่งฟังด้วย

"เอาละสรุปว่ามันได้ผลเกินคาด จากที่จะให้เรื่องไปเข้าหูไอ้น้อมแต่มันมาเจอทีมจาก ป.ป.ส.เอง แล้วเรื่องของนายโพธิ์อะไรนั่นหละ"

รองสุพจน์ได้เอ่ยขึ้นหลังจากที่แคนกับหัวหน้าได้รายงานการไปปฏิบัติงานที่เชียงรายจนเสร็จสิ้น

"เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านครับ แต่อยู่ใต้อาณัติของกำนันน้อมมาตลอด ที่ผมรู้จักแกเป็นคนใจดี แต่มันอาจจะมาจากอิทธิพลของกำนันน้อมและอีกอย่างตอนนั้นที่แกลงสมัครผู้ใหญ่กำนันมันก็ให้การสนับสนุนด้วยครับ อย่างที่ได้เรียนไว้ว่าถ้าลุงโพธิ์ได้เจอผมแล้ว แกต้องบอกไปที่กำนันแน่นอน แต่จะถือว่าเราโชคดีก็ได้ครับที่ไปเจอไอ้เหน่งกับพวกที่ร้านแก มันเลยเข้าทางผมพอดี"

รองพิชญ์พยักหน้าแต่ไม่พูดอะไร มีแต่รองสุพจน์ที่พูดขึ้น

"เอาละเท่ากับว่าเราเตือนมันเรื่องยาแล้ว ตอนนี้เราปล่อยไปก่อนลองประเมินดูว่ามันจะหยุดเรื่องตรงนี้หรือไม่  แต่เรื่องบ่อนเรื่องกิจการอื่นๆของมันเราจะเริ่มเล่นมันแล้วเป้าหมายคือธุรกิจบนดินของมันทั้งหมดเราจะเริ่มปูพรมตรวจ ทางต้นเตรียมตัวไว้ด้วยแล้วกันนอกเหนือจากเรื่องของสาธิต ตอนนี้เราต้องเอาเรื่องเลี่ยงภาษีกับฟอกเงินมาเล่นงานไอ้น้อมมันด้วย"

"ครับลุง"

สารวัตรต้นรับคำเพราะเป็นหน้าที่ของตนกับทีมงานที่ถูกรองพิชญ์เรียกเข้ามาช่วยงานเพราะตนเองนั้นจบปริญญาโทด้านกฎหมายที่เกี่ยวกับภาษี

"ส่วนแคน อย่างที่พ่อบอกไว้อย่าพึ่งไปสนใจเรื่อของสาธิต ภารกิจที่เราต้องทำคือเรื่องของกำนันน้อมเท่านั้น พ่อกับรองสุพจน์รวมถึงท่าน ผบ.ตร.ต้องการกวาดล้างเครือข่ายของมันก่อนทางสาธิต"

"ครับพ่อ"

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ป.ป.ส.ทั้งสองนายได้ออกจากห้องไปแล้ว รองพิชญ์ได้ถามไปที่รองสุพจน์

"พี่กำชับไปทางคนของพี่แล้วใช่ไหมครับ"

"ใช่พี่บอกไปแล้วให้พยายามหลบแคนไว้ เพราะเราก็รู้อยู่ว่าตอนนี้ธงมีสภาพจิตไม่ดี ถ้าไปเจอแคนแล้วมันอาจทำให้ธงสติหลุดได้เพราะเจอเพื่อนรักที่ไว้ใจได้"

รองสุพจน์ตอบมาพร้อมความกังวลใจเหมือนกับต้น ที่กังวลใจเรื่องนี้มาตั้งแต่รู้ว่าแคนเข้ามาร่วมปฏิบัติการนี้แล้ว เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่ต้นถูกเรียกให้มาช่วยงาน รองพิชญ์ได้เปิดเผยข้อมูลเรื่องของธงรบให้ต้นรู้ ซึ่งเรื่องนี้โจ้ที่เป็นนายตำรวจติดตามรองพิชญ์นั้นยังไม่อาจรู้ได้ สิ่งที่ต้นกังวลมาเรื่องของธงกับแคน มันเป็นข้อกังวลเดียวกับรองสุพจน์และอีกเรื่องคือ ธงนั้นเป็นแฟนกับผิงที่เป็นพี่สาวของฐาแฟนของน้องชาย ซึ่งมันบังเอิญที่มาเกี่ยวพันกัน  ถึงข้อมูลที่ได้มาทั้งคู่ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยตั้งแต่ธงถูกไล่ออก แต่อนาคตใครจะไปรู้ว่าทั้งสองจะมาเกี่ยวข้องกันอีกและจะเป็นผลเสียต่องานของธงอย่างแน่นอน

ส่วนรองพิชญ์นั้นรู้ดีว่าแคนนั้นทำเกินหน้าที่ไปเล็กน้อยแต่ไม่ได้ห้ามปรามอะไร เพราะไม่อย่างนั้นมันอาจจะกลายเป็นความเก็บกดได้ ต้องยอมปล่อยให้แคนระบายออกมาบ้าง ทั้งเรื่องท้าทายกำนั้นน้อมในโรงพักและการพูดจายั่วโทสะให้เหน่งขาดสติ แต่ยังดีที่แคนไม่ทำเกินเลยไปมากกว่านั้นก่อนที่จะพูดกับรองสุพจน์

"แล้วถ้าเกิดแคนรู้เรื่องของธงละครับพี่"

"อะไรทำให้พิชญ์คิดแบบนั้น"

"ผมกับลูกลองมานั่งประมวลเหตุการณ์กันแล้ว จากข้อมูลต่างๆที่เราได้มาจากธง ที่มันละเอียดเกินกว่าสายธรรมดาที่แทรกซึมเข้าไป มันแสดงให้เห็นได้ว่าสายคนนั้นมีความรู้ในเรื่องยุทธวิธีเป็นอย่างดี คนฉลาดอย่างแคนถ้าลองมานั่งไล่ข้อมูลแล้วมันอาจจะทำให้รู้ว่าสายคนนั้นคือใครครับพี่"

รองสุพจน์ยิ้มอย่างมีความหมายแล้วถามไปที่ต้น

"ถ้าต้นเป็นแคน ต้นจะทำตัวอย่างไรเกิดถ้ารู้เรื่องของธง"

"เฉยๆไว้ครับลุง เพราะถ้าเผยไต๋ออกมาหรือรีบติดต่อเพื่อน ความลับแตกได้ครับ"

"ลุงก็ว่าอย่างนั้น ตอนนี้เราทำเฉยไว้ก่อน เพราะคนอย่างแคนไม่มีทางที่จะเปิดเผยเรื่องแบบนี้ได้เพราะเจ้าตัวก็เคยผ่านงานแบบนี้มาแล้ว เอ้านี่ข้อมูลลับสุดยอดของแคน ตอนนี้คนไทยถ้าไม่รวมเจ้าตัว มีคนรู้เพียง3คน คือท่านนายก ท่าน ผบ.และพี่ เป็นข้อมูลที่ทางสหรัฐจำใจส่งมาให้และอนุญาตให้เราสองคนพ่อลูกรู้ได้ ทุกอย่างอยู่ในห้องนี้นะ"

แฟ้มที่ประทับตราสีแดง"ลับเฉพาะ" ที่วางอยู่บนโต๊ะรองสุพจน์ถูกส่งให้รองพิชญ์ ข้อมูลต่างๆของแคนสมัยอยู่สหรัฐผ่านสายตาของรองพิชญ์และต้นทุกตัวอักษร ทำให้รับทราบเรื่องของแคนได้อย่างดี ที่รองสุพจน์ตัดสินใจให้รองพิชญ์รับรู้ในเรื่องนี้เพราะยังไงหลังจากที่ตนและผบ.คนปัจจุบันจะเกษียณอายุในตุลาปีหน้า รองพิชญ์คือคนที่จะมารับตำแหน่ง ผบ.ตร.อย่างแน่นอนการที่ให้ ว่าที่ผบ.ตร.รับรู้ข้อมูลสำคัญพร้อมลูกชายที่ไว้ใจได้มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ทางรองสุพจน์จึงขออนุญาตไปทางสหรัฐในการเปิดเผยข้อมูลลับของแคนให้2 พ่อลูกนี้รับรู้ หลังจากอ่านจบต้นได้บอกไปที่รองสุพจน์

"ถ้าอย่างนี้เราเบาใจได้เรื่องหนึ่งแล้วครับลุง คนที่ผ่านงานแฝงตัวย่อมเข้าใจอย่างดี"

ฝ่ายแคนหลังจากที่กลับมาที่ทำงาน แคนได้รับเอกสารรายงานเพิ่มเติมที่ของเฮโรอีนและยาบ้าที่ถูกจับพร้อมทั้งแนบรายละเอียดสารประกอบเข้ามาด้วย พออ่านเรื่องสารที่ใช้ในการผลิตทำให้แคนนึกถึงฝนขึ้นมา พร้อมกับเรื่องในอดีต ซึ่งแคนนั้นรู้จักฝนเพราะเป็นแฟนกับเพื่อนเคยเจอกันไม่กี่ครั้งแต่วันหนึ่งซึ่งเป็นวันหยุดแคนได้กลับไปบ้านที่หัวหิน ซึ่งเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว เป็นตึกแถวห้องเดียวมีโต๊ะอยู่3-4 ตัว ร้านอยู่ไม่ห่างจากตลาดฉัตรไชยมากนัก ตากับยายของแคนนั้นขายก๋วยเตี๋ยวมานานแล้ว พอพ่อกับแม่เกษียณจึงย้ายมาอยู่ที่หัวหินและแม่สืบทอดกิจการต่อจากตากับยายที่ล่วงลับไปนานแล้ว มันเป็นเรื่องปกติที่คนแถวนั้นจะเห็นแคนกลับมาช่วยงานที่บ้านในช่วงวันหยุดเป็นประจำ แต่ในช่วงกลางวันระหว่างที่แคนกำลังเก็บชามและทำความสะอาดโต๊ะอยู่ สายตาของแคนมองไปเห็นที่หน้าร้าน มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินผ่านที่มีลักษณะเป็นแฟนกันและที่สำคัญผู้หญิงคนนั้นคือฝนที่กำลังเดินเกาะแขนผู้ชายหน้าตาดีอยู่ มันเป็นจังหวะที่ฝนหันหน้าเข้ามาในร้านพอดี สายตาของเธอเบิกกว้างที่มองเห็นแคน ฝนรีบพาผู้ชายที่เดินด้วยให้ผ่านร้านไปโดยเร็ว

แคนนึกถึงเพื่อนทันที และนิวนั้นย้ายไปประจำการอยู่ที่ชายแดนภาคใต้ได้ประมาณ 6เดือนเท่านั้น เหตุการณ์ในวันนั้นแคนครุ่นคิดมาตลอดว่าจะบอกเพื่อนดีหรือไม่ แต่แคนนั้นคิดไม่ตกและอีก 2 อาทิตย์ต่อมาเพื่อนได้เสียชีวิตจากการปะทะกับกลุ่มก่อการร้ายทางใต้ ในงานศพของเพื่อนแคนเห็นฝนร้องไห้ไม่หยุด แต่แคนนั้นปักใจเชื่อว่าเป็นการแสดงของฝนที่ทำให้พ่อกับแม่ของนิวและคนอื่นๆเห็นว่าตนเองนั้นเสียใจอย่างมากยิ่งมีสื่อมวลชนมาสัมภาษณ์แต่ตลอดช่วงงานศพ ฝนพยายามเลี่ยงเจอแคนตลอด จนถึงงานวันพระราชทานเพลิงศพ มันเป็นช่วงก่อนเวลาที่งานจะเริ่ม แคนที่อยู่ในชุดขาวมองขึ้นไปบนเมรุแล้วถอนหายใจเบาๆ  แต่ฝนที่เดินมาใกล้ๆเพราะเธอมัวแต่โทรศัพท์ไม่ทันมองรอบๆ  เป็นจังหวะที่เธอวางสายพอดีเธอเงยหน้าขึ้นมาเจอแคนที่มองมาที่เธอด้วยสายตาเหยียดๆ

"หมวดแคน"

เธอไม่รู้จะพูดอะไรจึงทักออกไปแบบนั้น ก่อนที่จะจะเดินเลี่ยง แคนพูดขึ้นมาทำให้เธอหยุดเดินทันที

"คุณไม่ต้องกังวลหรอกนะ เพราะไอ้นิวมันไม่รู้เรื่องอะไรถึงมันตายไปแล้วผมไม่ได้บอกอะไรมันเลยจากที่เห็นในวันนั้นคุณสบายใจได้ และมันคงนึกอย่างเดียวว่าผู้หญิงที่มันรักนั้นซื่อสัตย์ต่อมันจนถึงวันที่มันตาย"

"คุณแคนคะฟังฝนก่อน"

แคนไม่สนใจที่จะฟังเธอและพูดต่อ

"คุณรู้ไหม ในกระเป๋าตังส์ของมันและรูปที่หัวนอนของมันที่ค่ายนะเป็นภาพคู่ของคุณกับมัน ผมเป็นคนไปช่วยพ่อกับแม่เก็บของเอง พ่อกับแม่ของมันพูดถึงคุณในแง่ดีมาก แต่คุณก็สบายใจได้นะผมจะไม่มีวันเล่าเรื่องที่ผมเห็นให้ใครฟังแน่นอน สร้างภาพของคุณต่อไปเถอะ"

"วันนั้นฝนไปเที่ยวกับพวกเพื่อนๆที่ทำงานนะคะ คุณแคน"

"ผมไม่ใช่คนโง่ครับ คุณมีสิทธิที่จะพูดอยู่แล้ว แต่การกระทำของคุณที่ผมเห็นนะมันไม่ใช่"

แคนพูดพร้อมมองหน้าเธออีกครั้งด้วยสายที่แสดงความเหยียดหยามอย่างมาก นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ฝนได้เจอกับแคน แต่เธอหารู้ไม่ว่าอีก 2 อาทิตย์ต่อมา แคนเห็นเธอเดินกับผู้ชายคนเดิมที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แคนได้แต่นึกถึงเพื่อนที่ตายไปแล้วถอนหายใจ มันยิ่งทำให้แคนนั้นเกลียดขี้หน้าฝนมากถึงกับเรียกเธอว่าผู้หญิงแพศยา ส่วนฝนตั้งแต่วันที่เจอกับแคนอีกครั้งเธอนั้นยังอดวิตกไม่ได้เรื่องในอดีตที่เธอแทบจะไม่ใส่ใจมานานแล้วมันกลับโผล่มาในความคิดตลอด ชีวิตของเธอตั้งแต่เริ่มเข้าวัยสาวชีวิตเธอนั้นมีผู้ชายมาพัวพันตลอดยิ่งเธอมีนิสัยที่เจ้าชู้อยู่แล้ว จนมาเจอกับหมวดนิวเธอหยุดนิสัยเจ้าชู้ไปได้ แต่พอนิวย้ายไปอยู่ที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ด้วยความที่ห่างไกลไม่ค่อยได้เจอกัน ทำให้นิสัยเดิมของเธอกลับมาจนมาแอบคบกับสจ๊วตหนุ่มคนหนึ่งและฝ่ายชายรับรู้ว่าเธอมีแฟนอยู่แล้ว และพาไปเที่ยวกันที่หัวหินเพราะเธอไม่รู้มาก่อนว่าบ้านของแคนอยู่ที่นั่น ตอนที่เจอแคนเธอตกใจมาก วันนั้นฝนรีบกลับกรุงเทพทันทีและรอโทรศัพท์จากนิวด้วยความระทึกแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอนิวโทรมาหาเธอก็คุยกันตามปกติจนนิวเสียวชีวิต ฝนนั้นทั้งตกใจและเสียใจอยู่เหมือนกัน ยิ่งเป็นการเสียชีวิตของนายตำรวจจากเหตุปะทะที่ภาคใต้สื่อยิ่งมาทำข่าว มันเป็นเหตุการณ์ที่บีบบังคับเธอกลายๆที่ต้องแสดงความเสียใจอย่างมากต่อหน้าสื่อ

แต่เธอยอมรับว่าหน้าชาไปเหมือนกันที่โดนแคนต่อว่าในวันนั้นพร้อมสายตาที่ดูถูกเหยียดหยามเธออย่างมาก หลังจากนั้นเธอตัดสินใจที่จะคบกับสจ๊วตคนนั้นอย่างเปิดเผย  แต่หลังจากอีกประมาณครึ่งปีชีวิตของเธอมาเจอกับประสบการณ์อีกรูปแบบหนึ่ง ด้วยสังคมของแฟนคนใหม่เธอที่ชอบสังสรรค์เหมือนกับเธอ ทำให้เธอได้รู้จักผู้คนในวงการบินอยู่หลายคนและเธอไปสะดุดตากับแอร์โฮสเตสสาวสวยคนหนึ่ง ที่รู้จักกับแฟนเธอแต่อยู่กันคนละสายการบิน เช่นเดียวกับแอร์โสเตสคนนั้นที่ให้ความสนใจเธอเป็นพิเศษ  จนกลายมาเป็นความสัมพันธ์ที่เร่าร้อนเพราะแอร์โฮสเตสคนนั้นเป็นพวกหญิงรักหญิง มันสร้างความเร่าร้อนให้กับฝนมากเมื่อเจอบทรักจากผู้หญิงด้วย และที่สำคัญมันมาจากความที่อยากจะทดลองเล่นรักกับเพศเดียวกันด้วย พอริมฝีปากที่บางเฉียบได้ประกบกัน รสจูบจากเพศเดียวกันมันสร้างความแปลกใหม่พร้อมกับความเสียวให้กับเธออย่างมาก ยิ่งหน้าอกของทั้งคู่ทาบกันสนิทภายใต้ยกทรงที่ห่อหุ้มสีกันไปมา ก่อนที่แก้ม ติ่งหู และซอกคอจะถูกซุกไซร้จากคู่ขาคนใหม่ของเธอ จนถึงทรวงอกร่องจมูกของแอร์สาวสวยฝังไปที่ร่องอกของเธอ พร้อมกับการแกะตะขอยกทรงอย่างชำนาญ

แอร์สาวไม่รอช้าใช้ลิ้นแตะไปที่ปลายหัวนมสีน้ำตาลทั้งสองข้างไปมา ก่อนใช้ริมฝีปากเม้มสลับไปมา ฝนโอบกอดอีกฝ่ายแน่นพร้อมเสียงครวญครางอย่างแผ่วเบา นมทั้งสองข้างของเธอถูกคู่ขาสาวสวยดูดดื่มสลับมา จนอีกฝ่ายผละหน้าขึ้นมาพร้อมแกะตะขอยกทรงของตนเอง หน้าอกสีขาวขนาดพอดีกับตัว หัวนมสีทับทิมตัดกับร่างที่ขาวแอร์สาวเหมือนจะรู้ว่าฝนต้องการอะไร เต้าคู่งามจ่อที่ปากของฝนทันที ฝนดูดสลับไปมาทั้งสองข้างเหมือนคนที่หิวกระหายจริงๆแล้วมันก็ใช่เพราะอารมณ์เธอนั้นเร่าร้อนอย่างมากกับการที่ได้เนื้อแนบกับเพศเดียวกันเป็นครั้งแรก คู่ขาสาวปล่อยให้เล้าโลมกับเต้านมอยู่ครู่ใหญ่ แล้วเลื่อนหน้าตนเองลงไปด้านล่างอีกครั้ง หน้าท้องของฝนถูกริมฝีปากที่อ่อนนุ่มบางเฉียบพรมจูบไปทั่ว พร้อมกับกางเกงในตัวจิ๋วถูกรูดออกจากตัว และไม่รอช้าแอร์สาวสวยฝังหน้าลงไปที่ร่องหีของฝนทันที พร้อมนำลิ้นกวาดเข้าไปในโพรง ทำเอาฝนนั้นดิ้นพล่านมือจิกที่นอนแน่น ถึงเธอจะถูกเลียหีมาไม่รู้กี่ครั้งแล้วแต่นี่เป็นหญิงสาวสวยที่เลียหีให้ และมีความชำนาญอย่างมาก

"อูยยยยโอ้ววววววววว ซีดดดดดดดดดดดดดดดด เสียววววววววววว"

เสียงครวญครางของเธอดังออกจากปากไม่หยุด จนอีกฝ่ายหยุดเลีย พอเคลื่อนตัวมาด้านบนฝนพลิกตัวให้คู่ขาคนใหม่ของเธอลงไปอยู่ด้านล่าง ปากของทั้งสองทาบกันกันสนิทอีกครั้ง เช่นเดียวกับนมของคู่นั้นสีกันไปมาก่อนที่ฝนจะเลื่อนหน้าลงไปที่ทรวงของแอร์สาว หัวนมที่บานขยายอย่างเต็มที่นั้นรอการลิ้มรสจากฝนอีกครั้ง และฝนนั้นสนองตอบทันที เต้าคู่งามขนาดพอเหมาะกับตัวถูกฝนดูดสลับไปมา เธอฟอนเฟ้นอยู่ที่ทรวงของแอร์สาวอยู่นานจนอีกฝ่ายดันไหล่เธอลงไปที่กลางลำตัว ฝนทำเช่นเดียวกับที่อีกฝ่ายทำกับเธอ กางเกงในถูกเธอถอดออก โคกหีที่โหนกนูนพร้อมขนหมอยสีดำที่มีดกปรากฏให้เธอเห็น  ฝนก้มหน้าลงไปแต่เธอยังไม่ใช้ลิ้นกับโคกหีของแอร์สาวสวย เธอเม้มไปที่ขนหมอยของอีกฝ่ายที่ตอนนี้ชุ่มโชกไปด้วยน้ำเงี่ยน จนอีกฝ่ายทนไม่ไหว เลื่อนหน้าเธอไปโคกหี และฝนสนองตอบทันที ลิ้นเธอกวาดเข้าไปรูหีของแอร์สาว ที่แอ่นตัวขึ้นมารองรับลิ้นของเธอ

"ดีคะฝนขา ซี๊ดดดด แบบนั้นแหละ โอ่ววววว"

เสียงครวญครางของแอร์สาวดังไม่หยุด พร้อมร่างที่ส่ายไปมา จนฝนหยุดเลียแล้วเลื่อนกายขึ้นไปร่างของทั้งสองนั้นประกบแนบสนิทไปทุกส่วนก่อนที่ฝนจะเริ่มโยกตัวไปมาเหมือนกับแอร์สาวที่ขยับตัวรับ โคกหีของทั้งคู่สีกันไปมาพร้อมเสียงครวญครางด้วยความเสียวของทั้งคู่ที่สอดประสานกันไปมา จนไปถึงจุดหมายพร้อมๆกัน ฝนซบหน้าไปบนไหล่ของแอร์สาวแก้มของทั้งสองแนบกันสนิท แอร์สาวหันมาหอมแก้มฝนเบาๆ ฝนทำตอบแบบเดียวกันก่อนจะพลิกตัวลงมานอนข้างๆ ทั้งคู่นอนตะแคงหันหน้าเข้าหากัน มือของแอร์สาวลูบบนไปมาหน้าของฝนไปมาก่อนจะถามด้วยความสงสัย

"ไม่น่าเชื่อนะว่านี่เป็นครั้งแรกของฝนกับผู้หญิงด้วยกัน ดูชำนาญมากเลย"

มือของฝนนั้นลูบคลำไปบนร่างกายของอีกฝ่ายเหมือนกัน

"ก็ไม่อยากอะไรของแบบนี้มันเรียนรู้ไม่ยาก"

"แล้วมีความสุขไหม"

"เกินกว่าที่คิด"

เธอตอบก่อนจะจูบไปที่อีกฝ่ายซึ่งแอร์สาวตอบรับด้วยความเต็มใจหลังจากนั้นทั้งคู่ต่างแอบมานอนด้วยกันบ่อยครั้งเพราะบทรักจากเพศเดียวกันมันสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเธอมากฝนจะคิดอยู่อย่างเดียวว่า นอนกับผู้หญิงด้วยกันไม่มีอะไรเสียหาย ฝนจะใช้ช่วงเวลาที่แฟนของเธอบินไปต่างประเทศมาหาความสุขกับแอร์สาวที่จะใช้วันหยุดที่ตรงกับช่วงที่แฟนของฝนไม่อยู่ แต่แล้วความลับนั้นแตกจนได้ มันเป็นวันที่สจ๊วตแฟนของฝน นั้นไม่ได้ไปต่างประเทศเพราะเครื่องบินเสียเที่ยวบินจึงถูกยกเลิก แฟนของเธอจึงกลับมาที่คอนโด แต่พอเข้าในห้องพัก  

เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

kodzilla

มีเล่นดนตรีไทยด้วย....ฝนนี่น่าจะโดนหมวดแคนแดกดันอีกหลายยก

Chaithain

หญิงก้อได้ ชายก้อเอา...น้องฝนครบสูตรจริงๆ

pp1659

มีบทเลสเบี้ยนด้วย เรื่องนี้ซับซ้อนครับ

nutto_king77


Dowprakay Cha

ฝนชอบทั้งฉิ่งทั้งใส้กอก

petergg

ยัยฝนตัวดีอีกแล้ว มีแต่เรื่องดีๆทั้งนั้น
อะไรกันครับเนี่ย

Rrrrop


hunterkung

ฝนนี่กินหมดเลยใช่ไหม​ หญิงก็ได้ชายยิ่งดี

pomm99

ฝนนี่ร้ายไม่เบา ได้ทั้งชายทั้งหญิง

tetete

ทำตัวแบบนี้สมควรแล้วครับที่โดนแคนเกลียด

Gig11

เล่นดนตรีไทยด้วยนะ  น้องฝน ครบสูตร

Tik K.


Manoptana

แคนเป็นคนรักเพื่อนมากแต่ก็ยังสุขุมรอบคอบไม่ทำอะไรให้เพื่อนเสียใจ แต่ฝนที่เป็นแบบนี้เพราะห่างผัวคงต้องถูกแคนเหียดหยามและอยากแก้แค้นแทนเพื่อน ถ้าโคจรมาเจอกัน ฝนคงโดนแกล้งแสบๆแน่เลย

จรัญ บุญชู

สุดยอดมากน้องฝน...เล่ยดนตรีไทยก็เก่งไม่เบาเลย