ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_llOUllnJllUUllSJllSJ

จ้าวโลก EP.3 (NTR/Harlem/Super Power)

เริ่มโดย llOUllnJllUUllSJllSJ, กุมภาพันธ์ 24, 2021, 06:59:57 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

llOUllnJllUUllSJllSJ

สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นสมาชิก xonly8 อ่านเต็มได้ที่ https://fictionlog.co/b/6053b2ece9cbb4001caf362f

ในวินาทีที่แววตาสุดเซ็กซี่ของเดียร์สบมามองผม พร้อมๆกับรอยยิ้มมุมปากสุดเซ็กซี่ ผมตีความหมายของแววตาไม่ออก แต่เท่าที่ผมสัมผัสได้ เดียร์ไม่ได้อายอะไรเลยกับการที่ผมมาเห็นเธอขึ้นขย่มลูกค้าที่ลานจอดรถ กลับกัน ดูเหมือนเธอจะภูมิใจซะด้วยสิ

ผมผละจากตรงแล้วเดินหลบมุมมานั่งที่ป้ายรถเมล์ข้างทางด้วยความเคว้งคว้าง ยังไม่ทันจะได้ข้ามไปอีกฝั่งของถนนเพื่อกลับบ้าน ผมจำเป็นต้องตั้งสติก่อน จริงอยู่ว่า ผมเพิ่งจะเป็นพยานฉากเซ็กส์อันเร่าร้อนของเพื่อนร่วมงานผม และมันก็ทำให้ช่วงล่างผมอยู่ไม่สุขจนแก่นกายพองโตในกางเกงอย่างช่วยไม่ได้ แต่ทันทีที่ผมเห็นแววตาของเดียร์ มันกลับทำให้ผมนึกอะไรบางอย่างได้

ผมรู้จักเดียร์มาได้ปีกว่า เธอเข้ามาทำงานที่ร้านนี้ทีหลังผม แม้ว่าเธอจะสูง 165 ซึ่งดูไม่ได้สูงมากเมื่อเทียบกับผมที่สูง 182 แต่สำหรับมาตรฐานชายไทยแล้ว หุ่นเธอดีเลยแหละ

ความน่ารักของเธอปรากฏขึ้นตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงาน จนไม่แปลกใจที่หนุ่มน้อยใหญ่ที่ทำงานที่ร้านแม้กระทั่งบอสผม ก็ดูเหมือนจะพยายามเคลมๆเดียร์อยู่

เดียร์เป็นคนที่มีทัศนคติที่ตั้งใจสนุกกับชีวิต แต่ชีวิตที่สนุกนั้นต้องไม่ใช่ชีวิตที่เธอเสียเปรียบ เธอทำงานเป็น PR หลายครั้งที่เธอดื่มกับลูกค้า และแม้ว่าเธอจะโดนนัวหนักแค่ไหนในร้าน ผมก็แทบไม่เคยเห็นเธอไปไหนกับลูกค้าเลย จนกระทั่งวันนี้นี่แหละ

ผมเริ่มเอะใจว่า ทุกอย่างมันดูแปลกไปหมด เหมือนเหตุการณ์ทุกอย่างมันเกิดขึ้นตามที่ผมคิดเหรอ? เมื่อช่วงบ่าย ผมแค่คิดไปเรื่อยว่าของๆอิงที่อยู่ในห้องจะทำยังไงดี เธอจะกลับมาเอาของมั้ย ถ้ามา เธอจะพาแฟนใหม่มาด้วยมั้ย ไม่ทันไร เธอก็พาแฟนใหม่มาเก็บของที่ห้องจริงๆ

เท่านั้นยังไม่พอ ผมจำได้ว่าตอนที่ได้ยินเสียงทั้งคู่มีอะไรกัน แม้ว่าผมจะหื่นและมีอารมณ์ร่วมไปด้วย แต่ผมก็แค้นจนอยากจะให้อิงร่านไปให้สุดๆเลย ไหนๆก็ทำกับผมแบบนี้แล้วนี่ ในเมื่อไม่อยากเป็นผู้หญิงที่ผมจะรักและทะนุถนอม งั้นก็เป็นผู้หญิงร่านที่คอยระบายความใคร่ให้ผู้ชายก็พอ ซึ่งพอผมคิดเท่านั้นแหละ อิงซึ่งเดินมาเข้าห้องน้ำหลังเสร็จกิจเจอผมที่เลี่ยงไม่ได้ ตามปกติก็น่าจะมีความอายอะไรบ้าง ถ้าเป็นคนอื่น ก็ควรจะรีบออกไปแล้วพาแฟนใหม่กลับ ถูกมั้ย? แต่อิงกลับทำสิ่งที่ผมคาดไม่ถึงและดูเป็นคนละคน เธอมามีอะไรกับผมต่อทั้งๆที่เพิ่งเสร็จจากแฟนใหม่ แถมไอ้ต่อน้อยก็ดันตอบสนองซะด้วยนะ ผมนี่มันบ้าจริงๆ

พอมานั่งคิดย้อนหลังต่อมาอีก ก็นึกได้ว่า บอสผมที่ปกติแล้วเฮี้ยบขนาดไล่พนักงานออกจากร้านเพียงเพราะมาสายครั้งเดียว แต่วันนี้กลับใจดี แถมจะให้ผมลาหยุดพักแบบไม่หักวันลาเพราะอกหักอีก และนั่นก็เกิดหลังจากที่ผมคิดว่า อยากให้บอสรู้และเข้าใจผมว่าผมเพิ่งอกหักมา และมันทำใจยาก

และล่าสุด ตอนที่ผมไปเสิร์พที่โต๊ะที่เดียร์นั่งกับลูกค้า ผมก็ดันคิดไปเรื่อยว่าอยากให้เธอออกไปกับลูกค้า และเธอก็ออกมากับลูกค้าจริงๆ

มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่.. ดูเหมือนว่าหลายเหตุการณ์มันเกิดขึ้นอย่างที่ผมคิด แค่บังเอิญเหรอ? หรือผมมีพลังพิเศษเหรอ? ไม่มั้ง เรื่องแบบนั้นมันมีในโลกด้วยเหรอ มันไม่เป็นวิทยาศาสตร์อะไรเลย ผมพยายามใช้ตรรกะและประมวลเหตุการณ์ต่างๆนาๆในสมอง แต่ก็ยังคงหาคำตอบไม่ได้อยู่ดี คนบ้าอะไรจะมีพลังมาทำให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆได้

แต่.. ผมจะลองอีกที ดูซิว่าจะเป็นยังไง

ผมมองซ้ายมองขวา แล้วสายตาก็เห็นผู้หญิง 3 คนที่ดูท่าจะเพิ่งออกจากร้านที่ผมทำงาน 2 ใน 3 คนเมาจนต้องช่วยประคองกัน พวกเธอเดินมาหยุดตรงข้างๆป้ายรถเมล์ที่ผมนั่งอยู่ ไม่ไกลจากหน้าร้าน จากที่แอบฟัง ดูเหมือนรอเรียกแท็กซี่

แต่งตัวเซ็กซี่ชะมัด ผมเพิ่งสังเกตุว่าทั้งสามคนใส่กระโปรงสั้นมาก รองเท้าส้นเข็มที่รับกับขาขาวเรียวยาว มันทำให้พวกเธอดูมีแรงดึงดูดเป็นพิเศษ เห้ย! หยุดนะความคิด ถ้าสิ่งที่ผมคิดเป็นจริงแบบนั้นละก็ มันอันตรายนะที่จะคิดอะไรไปเรื่อย แต่.. มันขาวจริงๆนะ.. หยุดๆๆๆๆ

ผมพยายามสลัดความคิดลามกออกจากหัว และผมก็ปิ๊งไอเดียในการพิสูจน์ออก ผมพยายามเหลือบมองไปที่ 3 สาวแบบไม่ให้พวกเธอรู้ตัว แล้วพยายามคิดว่า เดี๋ยวต้อง 1 ใน 3 คนอ้วกแน่ๆ

อ้ววกกกกกก~ หญิงสาวที่ดูท่าทางจะเมาที่สุดอ้วกออกมาอย่างห้ามไม่ไหวที่ฟุตบาทข้างทางนั่นแหละ

เห้ย~!! สิ่งที่ผมคิดมันเป็นจริงหวะ เมื่อกี๊เพิ่งคิดอยู่เลยว่าเดี๋ยวต้องมีคนอ้วก แล้วพวกเธอก็อ้วกจริงๆ แต่เดี๋ยวก่อน การเห็นคนเมาอ้วกแตกหน้าผับมันไม่ใช่เรื่องแปลกไม่ใช่เหรอ? งั้นเอาใหม่ ลองอะไรที่มันไม่น่าจะเกิดขึ้นแน่ๆถ้าเป็นเหตุการณ์ปกติ

ผมลองเพ่งความคิดอีกครั้ง แล้วคิดว่า เดี๋ยวคนที่อ้วกนั้น จะหันมาจูบกับเพื่อนของเธอคนใดคนหนึ่ง เป็นไงครับ ไอเดียผมบรรเจิดมั้ยละ เพราะไม่น่าจะมีใครไปจูบกับคนที่เพิ่งจะอ้วกมั้ง และแม้สิ่งที่ผมคิดมันจะดูน่าเกลียดหน่อยก็เถอะ แต่เพราะมันน่าเกลียดและไม่น่าจะมีใครทำนี่แหละ มันเลยจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ผมสามารถคิดอะไรให้เกิดขึ้นจริงๆได้จริงๆเหรอ

ผมพยายามเพ่งมองและวนความคิดให้หญิงสาวคนที่อ้วกหันมาจูบเพื่อนเธอที่กำลังยืนลูบหลังอยู่ แต่ไม่ว่าพยายามเพ่งเท่าไหร่ ก็ดูไม่มีเค้าความโรแมนติคริมถนนเลย

"แหมๆๆๆ สายตานี่เว้นว่างจากสาวๆไม่ได้เลยนะ เห็นซื่อๆแบบนี้ ก็ร้ายเหมือนกันนะเนี่ยต่อ" เสียงเดียร์ดังพร้อมๆกับที่เธอเดินมานั่งข้างๆผม ตอนนี้เธอใส่เสื้อคลุมตัวทับชุดเดรสแล้ว ไม่ได้ใส่ส้นสูง แต่เป็นรองเท้าแตะที่เธอใส่มาจากบ้าน หลังสะพายกระเป๋าเป้ที่เอาไว้ใส่รองเท้าส้นสูงและของต่างๆที่เธอเอามาด้วย ดูก็รู้ว่าเธอกำลังจะกลับบ้านแล้ว

"อะ เอ้ออ เดียร์ เลิกงานแล้วเหรอ" ผมถามเดียร์แบบติดๆขัดๆ สายตาก้มมองพื้นไม่กล้าสบตาเธอ ก็แหม เพิ่งเห็นเธอขย่มผู้ชายมาหมาดๆ แถมผมไปแอบดูด้วย จะไม่ละลายใจก็แปลกละ แต่สายตาที่ก้มลงต่ำผม ดันไปโฟกัสอยู่ที่ขาอ่อนขาวๆที่กระโปรงสั้นร่นขึ้นนี่สิ

"เลิกแล้วจ้ะ เดี๋ยวจะกลับบ้านแล้ว ดูซิ ขนาดคุยกับเราอยู่ยังมามองขาอ่อนเราอีก อิอิ" เดียร์พูดยิ้มๆพลางยกขวามานั่งไขว่ห้าง ลองนึกภาพสิครับ ชุดเดรสกระโปรงฟิตๆที่สั้นอยู่แล้ว พอมานั่งมันก็ยิ่งสั้นไปอีก แล้วยิ่งนั่งไขว่ห้างอีก โอ้ยยย โคตรเซ็กซี่เลยหวะ

"บะ บ้าเหรอ เรา คะ แค่ เอ่อ.. เราไม่ได้ตั้งใจ" ผมรีบหันไปอีกฝั่ง กลัวจะโดนเดียร์จับได้ว่าแอบมองขาอ่อนเธอ

"ตั้งใจไม่ตั้งใจ เราก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกยะ ว่าแต่ทำไมต่อยังไม่กลับบ้านเหรอ" เดียร์ถามผมพลางหยิบโทรศัพท์มาแชทไลน์ไปด้วย

"เอ่อ เรากำลังจะกลับแล้วแหละ แต่มานั่งพักก่อนอะ" ผมไม่รู้จะหาเหตุผลอะไร จะบอกไปตรงๆว่ากำลังทดลองพลังจิตอยู่ก็เดี๋ยวโดนหาว่าบ้า

"แหม.. แอบดูเราแค่แปปเดียว ถึงกับต้องมานั่งพักหายใจหายคอเลยเหรอ เอ๊~ หรือไม่แป๊ปน๊าา~" เดียร์หรี่ตากระเซ้าผมอย่างทะเล้น เล่นเอาซะผมไปไม่เป็น

"อะ เอ้ออ.. เราขอโทษ เราไม่ได้ตั้งใจ" ผมตอบพลางก้มหน้าหงุด

"ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย"

"ว่าแต่ ทำไมเดียร์ยังไม่กลับ รอแท็กซี่เหรอ" ผมหันไปมองหน้าเดียร์ที่ตอนนี้กำลังก้มแชทไลน์อยู่ พอมองข้างๆแบบนี้ ใบหน้าที่อยู่ภายใต้เครื่องสำอางค์ก็น่ารักดีเหมือนกันแฮะ ผมรู้ว่าเดียร์ผ่านอะไรมาเยอะ ถ้าเป็นเดียร์ ก็อาจจะเข้าใจและมาดามหัวใจผมก็ได้นะ เพราะเธอก็ดูเข้าใจโลก รับมือกับความร้ายกาจของช่วงชีวิตอย่างดี เธอไม่ได้ยอมแพ้หรือพร่ำบ่นน้อยใจถึงโชคชะตา ที่ทำให้เธอต้องดิ้นรนทำงานในตอนที่คนรุ่นเดียวกับเธอออกมาเที่ยวเล่น แม้ว่าเธอจะทำงานกลางคืน แต่ถ้าถึงจุดที่เราเข้าใจกัน ผ่านช่วงนี้ของชีวิตไปด้วยกัน เราอาจจะคู่ที่เหมาะสม เป็นแฟนที่ดีก็ได้มั้ง

"อ๋อ รอแฟนมารับอะ เนี่ยมันกำลังออกมา" คำพูดจากปากเดียร์ที่บอกผมโดยไม่เงยหน้า ทำเอาผมแทบสำลัก โถ่ อุตส่าห์คิดไปซะไกลเลย ถ้าไม่เบรกผมไว้ก่อนนี่คงคิดไปถึงวันแต่งงานแล้วเนี่ย แต่ก็ไม่แปลกแหละนะ ที่ผู้หญิงน่ารักๆอย่างเธอจะมีแฟน ว่าแต่ แฟนเธอรับได้เหรอเนี่ยที่เธอทำงาน PR

"อ่อ ไม่เคยได้ยินเดียร์พูดถึงแฟนเลย" ผมถามเธอ

"ไม่รู้สิ บางทีอาจจะไม่ค่อยมีอะไรน่าพูดถึงเท่าไหร่มั้ง" เดียร์เก็บโทรศัพท์แล้วหันมาบอกผม

"แล้วแฟนเดียร์มารับกี่โมง" ผมถาม ตั้งใจว่าไหนๆก็ไหนๆแล้ว แสดงความเป็นสุภาพบุรุษอยู่เป็นเพื่อนเธอหน่อยก็ได้

"เนี่ย ใกล้ถึงแล้ว มันมาจอดรอใกล้ๆนี่สักพักละ เราบอกว่าเราเพิ่งเลิกงานอะ.. " เดียร์บอกผมพร้อมยิ้มแบบมีเลศนัย ทั้งๆที่จริงๆเดียร์ออกจากร้านมาสักพักแล้ว แต่ใช้เวลาอยู่ที่ลานจอดรถ แต่บอกแฟนเธอว่าเพิ่งเลิกงานเหรอ? แสบใช้ได้เลยนะเนี่ย

"ว่าแต่ต่ออะ ดีขึ้นหรือยัง ทำใจได้ยังเรื่องแฟน" เธอเปลี่ยนเรื่อง คงเป็นห่วงเรื่องที่ผมอกหัก

"อื้อ ยังทำใจไม่ค่อยได้หรอก แผลสดก็เงี้ย" ผมก้มหน้าบอกเธอไป ไม่อยากให้เธอเห็นน้ำตาอาจจะคลอออกมาถ้าเผลอคิดเรื่องนี้ อีกอย่าง ผมไม่กล้าสบตาเพราะความละอายด้วย จะบอกยังไงดีละ เมื่อวานโดนแฟนบอกเลิก วันนี้แฟนเก่ามีแฟนใหม่ แล้วแฟนใหม่มามีอะไรกันที่คอนโดผม แล้วผมก็แอบเอาแฟนเก่าต่อ อะไรงี้เหรอ บอกไปก็โดนหาว่าเป็นโรคจิตตาย

"เอาน่า เดี๋ยวก็ดีขึ้น เวลาจะช่วยได้ ถ้ายังเศร้าอยู่ก็ดูนู่นสิ สงสัยจะเมาหนัก จูบกันแล้วนั่น" เดียร์โบยปากให้ผมมองไปทางขวา และทันทีที่ผมหันไป เชี่ยยยยยย หญิงสาวคนที่อ้วกกำลังจูบกับเพื่อนอีกคนตรงนั้น นี่มันฉากเลสเบี้ยนในฝันชัดๆ แล้วที่ทำให้ผมขนลุกซู่คือ มันคือสิ่งที่ผมคิดไว้นี่นา มันจะเป็นไปได้ไง นี่อุตส่าห์คิดให้มันเป็นไปได้ยากแล้วด้วยนะ เพราะคนเพิ่งอ้วก จะมาจูบกันเลยก็คงน่าสะอิดสะเอียน แต่กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่ผมคิด มันเกิดขึ้นจริงซะงั้น

นี่เท่ากับว่า ข้อสันนิษฐานที่ผมคิดไว้มันมีแนวโน้มจริงนี่ ผมเป็นคนมีพลังเหรอ ทำไมคิดอะไรก็ได้อย่างนั้น มันดูเหลือเชื่อจนน่ากลัว

"แฟนเรามาแล้ว พรุ่งนี้เจอกันนะ ถ้าไม่ไหวก็ทักไลน์เรามาละกัน" เดียร์บอกผมพลางลุกขึ้นตอนที่รถเก๋งญี่ปุ่นแต่งซิ่งมาจอดเทียบฟุตบาท แล้วเธอก็เดินขึ้นรถไป

ตลอดเส้นทางกลับคอนโดผมในคืนนั้น ผมคิดนู่นนี่นั่นตลอด ไม่สามารถห้ามความคิดตัวเองได้จริงๆ หลายครั้งที่ลองคิดสร้างเหตุการณ์ประหลาดๆแต่ไม่มีพิษภัยอะไรขึ้นมาในสมอง เพื่อทดสอบดูว่าจะเกิดขึ้นจริงมั้ย เช่นตอนที่เดินเข้าคอนโด  ผมนึกภาพว่ารปภ.ที่ป้อมทางเข้าคอนโดจะเต้นเบบี้ชาร์ค ก็ไม่เห็นจะเกิดขึ้นจริง หรือตอนก่อนจะเข้าลิฟท์ ก็คิดว่าถ้าลิฟท์เปิดมา จะเจอผู้หญิง 1 คน ผู้ชาย 2 คนในลิฟท์ ซึ่งพอประตูลิฟท์เปิด ก็พบแต่ความว่างเปล่าในนั้น

ผมหลับตานอนบนเตียงที่เป็นสมรภูมิรักเมื่อตอนบ่ายของอิงแฟนเก่าผม กับ อาร์ทแฟนใหม่ของอิง ผมเหนื่อยเกินกว่าจะมัวคิดว่า เตียงนี้เคยผ่านอะไรมา แล้ววันนี้ของผมก็ผ่านพ้นไป...


#####


เช้านี้ผมมีคลาสเรียน โดยเป็นวิชาที่คณะวิทยาศาสตร์ และ คณะวิศวกรรมศาสตร์ต้องเรียนร่วมกัน และวิชานี้ ทำให้ผมได้มีโอกาสสนิทกับแทน เพื่อนสาวเอก Food Science จากคณะวิทยาศาสตร์ ที่จริงผมรู้จักเธอตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วหละ จะเรียกว่ารู้จักมั้ยก็ไม่รู้ เพราะตอนนั้นแค่รู้จักชื่อเธอ เคยทำกิจกรรมรับน้องร่วมคณะกัน ก็แค่นั้น จนกระทั่งเทอมนี้ ที่บังเอิญได้ลงวิชาเดียวกัน แถมยังโชคดีที่ได้ทำงานคู่ร่วมกันอีกด้วย จริงๆแล้วก็ไม่คู่ซะทีเดียว เพราะมันเป็นงานคู่ แต่ในคลาสเหลือเศษ 3 คน เราเลยได้ทำงานกลุ่มกัน 3 คน

อ้อ.. ส่วนเรื่องที่บอกว่าโชคดี นอกจากความน่ารักและยิ้มสดใสของแทนแล้ว ยังมีเรื่องความเก่งและขยันของเธออีกด้วย เล่นเอาซะผมกับไอ้อ้น เพื่อนสนิทคนเดียวของผมที่อยู่กลุ่มเดียวกันกับเธองานสบายไปเลย ไอ้อ้นนี่มักจะชอบบ่นให้ผมฟังตลอดว่าผมคือมารผจญของมัน เพราะถ้าผมไม่ลงคลาสนี้ แปลว่ามันจะได้ทำงานคู่กับแทนกันสองคนตลอดทั้งเทอม มันบอกว่าผู้ชายทั้งมหาลัยต้องอิจฉามัน

ที่มันพูดแบบนั้นคงไม่เกินจริงเท่าไหร่ เพราะแทน เธอน่ารักในระดับเริ่มต้นเป็นดาราตัวประกอบ นางเอก MV และเน็ตไอดอลที่มีผู้ติดตามในอินสตาแกรมเธอหลักแสน แต่เท่าที่ผมเห็น เธอยังไม่มีแฟนมั้ง คงเพราะส่วนสูง 175 ของเธอ ที่สูงชะลูดเป็นนางแบบ เทียบกับไอ้อ้นที่สูง 172 แล้วก็ดูตลกๆยังไงไม่รู้ และนั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ไม่มีใครกล้าจีบเธอ เพราะนอกจากจะเริ่มมีชื่อเสียงในวงการบ้างแล้ว ชายไทยส่วนมากก็สูงพอๆกับเธอทั้งนั้น ผมเดาว่าเธอคงอยากมีแฟนที่สูงกว่าหน่อย จะได้ดูเข้ากันได้

แต่นั่นแหละ.. ยังไงไอ้อ้นมันก็ชอบโยนความผิดมาให้ผมอยู่ดี ว่าเป็นเพราะผม มันเลยอดทำงานคู่กับแทน ช่างไม่ดูความสูงตัวเองเลยจริงๆ

"ว่าไงมึง ไอ้ต่อ แฟนทิ้งแบบนี้มึงอย่ามาหาเหตุไม่ช่วยทำโปรเจ็คนะโว้ยยย อาทิตย์หน้าต้องลงพื้นที่รีเสิร์ช ถ้ามึงเบี้ยว แทนเค้าต้องไปแทนมึงนะ" เสียงไอ้อ้นบอกผมในขณะที่กลุ่มเราสามคนกำลังนั่งรออาจารย์แจกเอกสารตามกลุ่ม

"อ้าว จริงปะเนี่ยต่อ นายโอเคมั้ย" แทนหันมาทำตาโตถามผม

"อื้อ โดนทิ้งมาวันก่อนอะ ทำไงได้" ผมพูดแล้วยิ้มแหยๆเหมือนไม่ค่อยแคร์เท่าไหร่ที่โดนทิ้ง แต่เอาเข้าจริงๆในใจนี่ก็เจ็บจี๊ดเลย

"โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะ ยิ้มเข้าไว้ แล้วหาอะไรอร่อยๆกิน เดี๋ยวก็ดีขึ้น" แทนบอกผมพลางยิ้มกว้าง เล่นเอาซะโลกผมสดใสขึ้นเลย

แทนเป็นคนยิ้มง่าย เธอไม่ใช่สาวหวาน ไม่ใช่สาวเปรี้ยว แต่เป็นความสดใสที่พร้อมจะฉีกยิ้มใส่ทุกคน ผมเชื่อว่าผู้ติดตามจำนวนมากในอินสตาแกรมของเธอ หรือแฟนๆที่เห็นเธอในทีวี คงหลงรักรอยยิ้มนี้แบบเดียวกับผมนี่แหละ

"อย่าไปโอ๋มันมากแทน เดี๋ยวมันเรียกร้องความสนใจ มาโอ๋เราดีกว่า อิอิ" อ้นพูดพลางหันไปหยอกใส่แทนซึ่งกำลังมองผมอยู่ ผมหละหมั่นไส้มันจริงๆ อยากจะให้มันท้องเสียต่อหน้าแทนให้มันอายไปเลย

ปู๊ดดดดดด~ เสียงตดดังลั่น สายตาของผมกับแทนหันไปที่ไอ้อ้นเป็นทางเดียวกันโดยไม่ได้นัดหมาย

"เห้ย ไม่ใช่กูนะเว้ยยย..." อ้นสีหน้าไม่ดี รีบปฏิเสธทันควัน

"ไม่ใช่เหี้ยอะไร เสียงดังชัดเจนยังกับเอาไมค์ไปจ่อตูดมึงขนาดนั้น ลำไส้มึงเน่าปะเนี่ยยย" ผมได้ทีเอาคืน ด่ามันกลับ

"ฮ่าๆๆๆๆๆ น่าเกลียดอะอ้น" แทนกลั้นขำไม่ไหวพูดพลางเอามือปิดจมูก

"เชี่ยย อยู่ดีๆกูก็ปวดท้องหวะ อยากเข้าห้องน้ำ อั้นไม่ไหวจริงๆ กูขอโทษ กูไปเข้าห้องน้ำละ" อ้นบอก แต่มันไม่รอให้ผมกับแทนตอบอะไร ไม่รู้ว่ามันอั้นไม่ไหวจริงๆหรือเพราะอายจนต้องรีบออกจากสถานการณ์นั้นกันแน่ มันรีบหยิบกระเป๋าแล้ววิ่งออกจากห้องไปทางห้องน้ำทันที

"ฮ่าๆๆ อ้นนี่ตลกดีเนอะ" แทนหันมายิ้มกว้างคุยกับผม

"อื้มม มันบ้าๆบอๆแบบนี้แหละ ฮ่าๆ" ผมยังอดขำไม่ได้ แต่เอ๊ะ.. เมื่อกี๊ผมคิดเล่นๆว่าอยากให้มันท้องเสียให้อายแทนเลยไม่ใช่เหรอ พอนึกถึงได้ ผมถึงกับขนลกซู่

"ดีเนอะ อย่างน้อยนายก็ยิ้มแล้ว อิอิ" แทนเอียงคอมองหน้าผมแล้วยิ้มบางๆ ให้ตายสิ จะหาว่าเจ้าชู้หรือจะเอาผมไปฆ่าแกงที่ไหนก็ได้ แต่ตอนนี้ผมอดยิ้มเพราะคนที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้จริงๆ

"อะ เอ้อ ก็ งั้นมั้ง" ผมเขินกับรอยยิ้มสดใสของแทนจนไปต่อไม่เป็น

ถ้าผมสามารถถ่ายรูปรอยยิ้มของแทนตอนนี้ให้ทุกคนดูได้ ผมค่อนข้างมั่นใจว่า ทุกคนจะตกหลุมรักเธออย่างแน่นอน และรอยยิ้มนี้แหละ ที่ทำให้ผมลืมความเสียใจ ความแค้นที่มีต่ออิงและแฟนใหม่ของเธอไปชั่วขณะ

"เอางี้มั้ย ไหนๆวันนี้เราก็ไม่มีเรียนบ่ายกันแล้ว นายไปไหนหรือเปล่า เดี๋ยวเราชวนอ้นไปหาไรกินกัน จะได้คุยเรื่องโปรเจ็คด้วย ดีมั้ย" แทนถามผมขึ้นมา

"เอาสิ ก็ดีเหมือนกัน" ผมตอบไปทันทีโดยไม่ทันได้เว้นช่วงให้แทนเปลี่ยนใจ

จริงๆแล้ววันนี้ผมต้องทำงานตอนเย็น แต่การไปทำงานหลังจากอกหักสองวัน แถมเมื่อวานยังเจ็บใจขึ้นจากเหตุการณ์ที่คอนโดอีก ถ้าเลือกได้ การได้ไปกินข้าวกับแทนดูน่าสนใจกว่าเป็นไหนๆ แต่ปัญหาคือ ผมจะลางานได้หรือเปล่านี่สิ เมื่อวานก็เข้างานสายแล้ว ถ้าต้องลาอีก คงโดนบอสไล่ออกแน่ๆ

แต่.. จากการทดลองหลายๆครั้งของผม ข้อสันนิษฐานเรื่องพลังมันดูจะเริ่มมีน้ำหนัก หรือผมจะลองเสี่ยงดวงใช้มันอีกครั้งเพื่อขอลางาน ว่าแล้วผมก็เริ่มคิดว่า บอสจะโทรหาผมเพื่อบอกให้ผมไม่ต้องเข้างานวันนี้ ผมคิดวนๆซ้ำๆไปมา แต่โทรศัพท์ผมที่วางอยู่บนโต๊ะก็ยังเงียบ จนกระทั่ง

"ต่อ!" เสียงแทนเรียกผมค่อนข้างดัง

"หะ แทนเรียกเราเหรอ" ผมถามอย่างงงๆ เมื่อกี๊ผมมัวแต่คิดเรื่องให้บอสโทรมาให้ไม่ต้องเข้างาน และมัวแต่มองโทรศัพท์

"อื้อ เราจะบอกว่า เดี๋ยวเรานัดเจอกันซัก 6 โมงเย็นมั้ย" แทนถามผม

"โอเค ได้เลย"

"งั้นฝากบอกอ้นด้วยนะ เราไปละ เดี๋ยวเจอกัน" แทนพูดเสร็จก็ลุกขึ้นเก็บของไป

โอกาสดีๆแบบนี้ คิดว่าผมจะบอกไอ้อ้นให้มันไปเป็นมารความสุขเหรอ ไม่มีทาง ก่อนที่ผมจะเก็บของกลับบ้าง เสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น

"ฮัลโหล ต่อเหรอ" เสียงบอสในโทรศัพท์ก็ยังคงดูน่าเกรงขามอยู่ดี

"ครับบอส มีอะไรหรือเปล่าครับ" ไหนๆก็ไหนๆละ บอสโทรมาพอดี ผมตั้งใจว่าจะพูดเรื่องขอลาหยุดวันนี้ด้วยเลย

"ลื้อสลับวันมาทำงานวันอาทิตย์แทนได้มั้ย วันนี้หยุดไปก่อน พอดีจะมีเด็กใหม่มาเทสงาน 2 คน อั๊วจัดไม่ลงตัว" บอสบอกสาเหตุที่โทรมาหาผม ทำให้ผมตาลุกวาว สิ่งที่ผมคิด มันเป็นจริงๆด้วย แม้เหตุผลมันดูแปลกๆก็เถอะ แต่อย่างน้อยผมก็ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้แหละนะ

"ได้เลยครับบอส" ผมตอบบอสด้วยความลิงโลด ไม่ใช่แค่จะได้ไปกึ่งๆเดทกับแทน แต่เพราะผมเริ่มจะเชื่อจริงๆแล้ว ว่าผมมีพลังพิเศษที่จะคิดอะไรก็จะได้สิ่งนั้น ถึงมันจะไม่ได้เป็นแบบนั้น 100% ก็เถอะ

ปิ๊งงงงงง เสียงแจ้งเตือนในโทรศัพท์ผมดังขึ้นมา เป็นข้อความไลน์ พอกดเข้าไปอ่าน ปรากฏว่าเป็นอิงที่ส่งไลน์มา

อิง : ต่อ
อิง : ว่างหรือเปล่า
ผม : อื้อ ว่าไง
อิง : วันนี้ตอนบ่ายแก่ๆก่อนไปทำงานว่างมั้ย
ผม : มีอะไรเหรอ
อิง : เราอยากคุยอะไรด้วยหน่อย
ผม : วันนี้เราต้องเข้างานเร็วอะ ถ้าพรุ่งนี้อะได้
ผมโกหกอิงไป เพราะวันนี้ผมมีไปกินข้าวกับแทนต่างหาก

อิง : เหรอ งั้นพรุ่งนี้เธอว่างกี่โมง
ผม : ซักบ่ายๆก็ได้ เราไม่มีเรียน
อิง : โอเค เดี๋ยวคืนนี้เราบอกอีกทีนะว่าเจอกันที่ไหน
ผม : อื้อ

แล้วก็ไม่มีข้อความใดตอบกลับมาอีก ผมไม่แน่ใจว่าอิงต้องการคุยอะไรกับผม แต่สำหรับผมเอง น่าจะมีหลายอย่างที่อยากจะถาม ผมโกรธอิงมากที่ทำกับผมเมื่อวาน แต่ไม่ใช่เรื่องในห้องน้ำหรอกนะ เรื่องพาแฟนใหม่มาต่างหาก ผมแค้นที่เธอเหมือนดูถูกความรักของเราสองคน ที่ผมเข้าใจมาตลอดว่ามันคือเรื่องจริง แต่ในความโกรธและความแค้นนั้น ลึกๆแล้วผมก็ยังคงรู้สึกรักเธอ ห่วงเธอ และอยากให้เธอกลับมาอยู่ดี ผมอยากได้อิงที่อ่อนหวานน่ารักกลับมา แม้ว่าอิงคนที่เผ็ดร้อนเซ็กซี่เมื่อวานจะทำให้ผมประทับใจเหมือนกันก็เถอะ ผมไม่รู้จะอธิบายความเจ็บปวดนี้ยังไง มันทรมานชะมัด

###################

"อ้นไม่มาแล้วเหรอ" แทนถามผมตอนที่เจอหน้าที่ร้านชาบูที่นัดกัน

"ใช่ เห็นว่าท้องเสียหนักเลยอะ" ผมบอกแทนไป ไม่รู้ว่าอาการท้องเสียมันเกิดจากผมจริงๆมั้ย แต่ถ้าใช่ ก็ขอโทษด้วยนะไอ้อ้น

"งั้นกินกันสองคนก็ได้ มาๆๆ" คำว่า 'กินกันสองคน' ที่แทนพูดนี่มันทำให้ผมคิดไปไกลมาก หึหึ จะหาว่าผมเลวก็ได้นะ แฟนเพิ่งจะทิ้งมาไม่กี่วัน ดันมานั่งกินข้าวกับสาวอีกคน แถมก็ห้ามความคิดตัวเองไม่ได้จริงๆ ผมดันคิดในใจไปซะได้ว่า 'จริงๆแล้วเราไม่อยากกินข้าวกับแทน แต่เราอยากกินแทนมากกว่า..'

เห้ย! ข้อสรุปเรื่องพลังของผมก็ยังไม่มีเวลาทดสอบแบบจริงจัง แต่ดันเผลอคิดไม่ดีไปซะได้ ที่จริงแล้ว ถ้าข้อสันนิษฐานผมเป็นจริง มันอันตรายมากเลยนะ เพราะผมคิดอะไรก็ได้แบบนั้น แล้วความคิดคนเรามันห้ามกันได้ซะที่ไหน

ในขณะที่ผมกำลังฟุ้งซ่านกับความคิด ผมก็เพิ่งสังเกตุเห็นว่าแทนใส่กางเกงยีนส์ขาสั้นมา ด้วยเป็นคนสูงอยู่แล้ว พอเธอใส่ขาสั้นแบบนี้ ออร่าความขาว ความนางแบบ ความเน็ตไอดอล มันเจิดจรัสจนคนที่เดินผ่านร้านชาบูไปมาต้องเหลียวมองมาที่โต๊ะเราที่นั่งอยู่ริมกระจก

น่ากินชะมัด.. ครับ ผมไม่ได้หมายถึงชาบู ผมหมายถึงแทน

"นี่ นายกินเยอะๆ จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน" เสียงแทนทำลายความเงียบระหว่างเราในขณะที่เธอกุลีกุจอตักอาหาร ดูเธอเอ็นจอยกับการกินชาบู    จนไม่น่าเชื่อว่าเธอจะรักษาหุ่นนางแบบได้แบบนี้

"เราไม่ได้ฟุ้งซ่านอะไรซักหน่อย" ผมตอบไปแบบเขินๆ พลางเคี้ยวตุ้ยๆ

"แทนเข้าใจแหละ ตอนแทนอกหักตอนปี 2 ก็กินไม่ได้นอนไม่หลับไปเป็นอาทิตย์เหมือนกัน" แทนบอกผม

"อย่างแทนเคยอกหักด้วยเหรอ มีผู้ชายคนไหนโง่ขนาดไม่ชอบเธอด้วยเหรอ" ผมถามด้วยความสงสัย แต่ก็นึกขึ้นได้ว่า มันเหมือนชมเธอทางอ้อมเลยนี่หว่า และผมสาบานได้ว่า ผมเห็นรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปากตอนกำลังเคี้ยวข้าวตุ้ยๆอยู่

"มีสิ คนเรากำหนดรูปแบบความรักไม่ได้หรอก ไม่มีอะไรมาการันตีทั้งนั้นแหละ ว่าความรักจะเกิดขึ้นกับใครเมื่อไหร่ และตอนไหน" แทนพูดราวกับเข้าใจความเป็นไปของโลกแห่งความรัก ผมคิดๆตาม มันก็จริงแหละ เราไปกำหนดอะไรไม่ได้หรอก แต่ถ้ากำหนดได้ ผมก็อยากให้ความรักมันเกิดขึ้นที่นี่ ตอนนี้ กับเราสองคนนะ อย่างน้อย แทนก็ดีพอจะทำให้ผมลืมอิงได้แหละ

"อื้อ นั่นสินะ แล้วแทนอะ ไม่มีแฟนจริงๆเหรอ เราเห็นไอจีเธอโพสแนวโสดๆ นึกว่าโพสเล่นเรียกกระแส" ผมถามเธอไป

"แน่ะ ตามแทนด้วยเหรอ อิอิ โสดจริงๆ ก็เคยมีคนคุยแหละ แต่คุยไปคุยมามันก็ไม่ใช่ มันก็ไม่ได้ไปต่อ ก็แค่นั้น"

"แล้วแทนชอบผู้ชายแบบไหนเหรอ เราว่าเธอมีโอกาสโตในวงการ ต้องชอบคนในวงการหรือพวกไฮโซแน่ๆ" ผมคีบหมูชิ้นใหญ่ที่มันคาหม้อชาบูอยู่นานใส่จานให้เธอ พร้อมกับถามไป ตอนนั้นผมคิดขำๆว่า ชอบกูเถอะๆ แต่ก็นะ สาวสวยหุ่นดีเพอร์เฟค ดาวรุ่งแห่งวงการบันเทิง จะมาชอบผู้ชายบ้านๆอย่างผมมันก็ยาก

"แทนชอบผู้ชายคีบหมูให้อะ" แทนพูดยิ้มๆแล้วก็รีบก้มหน้าคีบหมูชิ้นนั้นมากินราวกับพยายามหลบสายตาผม

เชี่ยยยย ผมชะงักกับคำพูดนั้น มือที่กำลังคีบหมูอีกชิ้นมาใส่จานตัวเองค้างกลางอากาศ และเปลี่ยนเป็นเอาไปวางไว้ที่จานของแทน

"เอ่อ.. งั้นเอาไปอีกชิ้นเลย" เข้! ถ้าผมเป็นสาวที่กำลังนั่งกินข้าวกับผมแล้วเจอช็อตนี้เข้าไป ผมคงหลงรักตัวเองจนโงหัวไม่ขึ้นแน่ๆ และผมก็หวังว่าจะแทนจะเป็นแบบนั้น

"ขอบคุณนะ งั้นก็คงชอบมากขึ้นแหละ อร่อยยย" แทนกินไปพูดไปยิ้มๆ ตอนนี้ผมสัมผัสได้แล้วว่าระหว่างเราสองคนมันมีความสัมพันธ์บางอย่างที่มองไม่เห็นคอยเชื่อมกันอยู่ แต่แค่ไม่มีใครพูดออกมาตรงๆเท่านั้นเอง

แต่.. ผมไม่แน่ใจว่าแทนรู้สึกแบบนั้นจากใจหรือเพราะสิ่งที่ผมคิดกันแน่ เพราะมันไม่ค่อยเม้คเซ้นส์เลย ถ้าเธอรู้สึกดีกับผมมาก่อน ทำไมถึงชวนมาทานข้าวพร้อมกับไอ้อ้นหละ หรือเธอไม่กล้าจะชวนผมมาสองคน เพราะมันคงดูไม่ดี ก็เป็นไปได้นะ

ตอนนี้ผมเริ่มจะเชื่อแล้ว ว่าผมมีพลังจริงๆ แต่ผมขอลองอะไรครั้งสุดท้ายก่อนเชื่อร้อยเปอร์เซ็น ผมพยายามคิดในใจว่า อยากให้แทนชวนผมไปค้างที่คอนโดเธอ ผมคิดวนไปวนมา ซ้ำไปซ้ำมา จนในที่สุดเธอก็เอ่ยปากขึ้นมาว่า

"กินเสร็จต่อรีบไปไหนรึเปล่า พอดีปริ๊นเตอร์เราที่คอนโดมันปริ๊นไม่ออก ตอนแรกว่าจะยกไปที่ร้าน แต่กลัวว่าจะซ่อมไม่ทันแล้วปริ๊นโปรเจ็คงานออกมาไม่ได้ ถ้าว่างนายไปดูให้หน่อยได้มั้ย"

เชี่ยยยยย กราบพระเจ้า ผี ซาตาน หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ผมมีพลังนี้ ตอนนี้ผมเชื่อจริงๆแล้วว่าผมมีพลังจริงๆ หลักฐานก็คือดวงตากลมโตที่กำลังจ้องผมเป็นประกายข้างหน้านั่นไง เมื่อเช้าเรายังเป็นเพื่อนกันอยู่เลย แต่กลายเป็นว่าตอนนี้เธอชวนผมไปคอนโดซะงั้น

"เอ่ออ.. ดะ ได้สิ" ผมตอบเสียงสั่นๆ พลังจิตจงเจริญ! ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร ด้วยนิสัยอยากรู้อยากเห็นของผม ผมคงต้องมาทดลองและวิเคราะห์พลังของผมอย่างจริงจังแน่นอน แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ตอนนี้ผมขอมีความสุขก่อนละกัน

###########

"ไหนเครื่องปริ๊นเหรอ" นั่นคือประโยคแรกที่ผมถามตอนเดินตามแทนเข้ามาในห้อง คอนโดเธอน่าอยู่ชะมัด กว้างกว่าคอนโดผมเป็นไหนๆ

"ตรงโต๊ะทำงานนั่นอะ" แทนชี้ไปทางโต๊ะทำงานที่มีโน๊ตบุ๊คกับเครื่องปริ๊นท์วางอยู่

ผมคบกับอิงมา 3 ปี แต่ผมไม่เคยเข้าห้องอิงเลยสักครั้ง เพราะที่บ้านเธอเป็นคนจีน ค่อนข้างจะหัวโบราณ การจะพาผู้ชายเข้าบ้านมันก็ดูจะไม่งามเท่าไหร่ นั่นเท่ากับว่า ห้องของแทน คือห้องผู้หญิงห้องแรกในชีวิตที่ผมเคยเข้ามา ข้าวของเป็นระเบียบเรียบร้อย ผ้าปูเตียงลายเดียวกับที่ผมเห็นเธอเซลฟี่ในไอจี หรือโซฟาที่เธอนอนไลฟ์สดที่ผมเข้าไปดู ตอนนี้ผมอยู่ในสถานที่นี้หมดแล้ว สถานที่คนเป็นแสนคนได้แค่ดูผ่านช่องทางโซเชียลของเธอ

นอกจากนี้ กลิ่นหอมอ่อนๆจากน้ำหอมที่โต๊ะเครื่องแป้ง หรือกลิ่นอะไรก็ไม่รู้ แต่มันหอมชะมัด ลอยตลบอบอวลไปทั่วห้อง นี่เหมือนผมได้เข้ามาในกลางของความรู้สึกคนเป็นแสนๆเลย หมั่นไส้ตัวเองชะมัด

"โอเค เดี๋ยวเราดูให้" ผมตอบแทนไปพร้อมกับเดินไปที่โต๊ะทำงาน

"แทนเหม็นหัวกลิ่นชาบูไม่ไหวแล้ว มันติดผม แทนขออาบน้ำหน่อยนะ นายไม่ได้รีบกลับใช่มั้ย" เธอถามผมพลางหยิบเสื้อผ้าจากตู้เสื้อผ้า

"อ้อ ไม่หรอก เดี๋ยวเรานั่งเล่นรอ" ลืมบอกไป ผมติดรถมากับแทนครับ แล้วคอนโดของแทนมันอยู่ใกล้มหาลัย ซึ่งค่อนข้างลึกจากถนนใหญ่ แม้แต่รถแท็กซี่ก็หายากในช่วงเวลาแบบนี้ เลยจำเป็นต้องแทนขับรถไปส่งผมที่ถนนใหญ่

"โอเค เปิดทีวีอะไรดูได้เลยนะ" แทนบอก พลางเดินเข้าห้องน้ำไป สายตาผมมองตามเรียวขายาวสวยของเธอ กางเกงขาสั้นที่รับกับก้นทำให้เธอดูเซ็กซี่มาก

เสียงฝักบัวในห้องน้ำดังลั่น ผมอดคิดไม่ได้ว่าเบื้องหลังประตูห้องน้ำนั้นจะมีร่างขาวๆยืนอาบน้ำอยู่ มันจะน่าดูแค่ไหน แม้ว่าเราจะไม่ได้พูดออกมาตรงๆ แต่ผมก็ไม่ได้หน่อมแน้มพอที่จะไม่เข้าใจ จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ โดยเฉพาะเมื่อผมลองเปิดเครื่องปริ๊นท์แล้ว ทุกอย่างก็ทำงานปกติ

ผมมองไปรอบๆห้องของแทน แล้วก็หยิบโทรศัพท์ผมมาเปิดดูอินสตาแกรมของเธอ เพื่อเทียบดูว่ารูปไหนถ่ายตรงไหนบ้าง มันเป็นความรู้สึกดีชะมัด โดยเฉพาะบรรดาคอมเม้นท์ของผู้ติดตามที่เธอที่เป็นผู้ชาย มันรู้สึกเหมือนผมได้ชนะคนเหล่านั้น เหมือนผมกำลังจะได้เคลมหญิงสาวที่เป็นที่หมายปองของหลายๆคน เป็นความรู้สึกของผู้ชนะที่ดีชะมัด

อย่างหนึ่งที่ผมชอบในตัวแทนมากคือ เธอไม่เคยโพสอะไรแนวเซ็กซี่เลย คงจะเพราะเธอก็ปูทางเพื่อเตรียมเข้าสู่วงการด้วย นั่นทำให้เมื่อแทนเดินออกมาพร้อมชุดนอนกางเกงขาสั้นเสื้อยืดตัวใหญ่ ผมกลับรู้สึกว่านั่นมันเซ็กซี่มากกกกกกกก

"เสร็จแล้วเหรอ เป็นไงมั่ง" แทนเดินมาหาผมพลางเอียงคอเอาผ้าเช็ดหัวถูผมที่เพิ่งสระมาแกรกๆ

"ยังไม่เสร็จ เอ้อ! เอ้ยไม่ใช่ เสร็จแล้ว เอ้ย! ไม่ๆ หมายถึงทำเครื่องปริ๊นท์เสร็จแล้ว มันไม่ได้มีปัญหาอะไร เราปริ๊นท์ได้ปกติ" ผมตอบตะกุกตะกัก จริงๆคำมันไม่มีความนัยอะไรลึกซึ้งเลย ผมดันคิดไปเองซะได้จนลนซะเอง

"ฮิฮิ นายนี่ก็ตลกดีนะ จะตะกุกตะกักทำไม ว่าแต่ เครื่องปริ๊นท์มันไม่ได้เป็นอะไรจริงๆเหรอ" เธอเดินมานั่งโซฟาข้างๆผม ผมสาบานได้ว่า โซฟามันน่าจะกว้างขนาด 3 คนนั่ง แต่เธอกลับมานั่งชิดผม แล้วไขว่ห้างโชว์ท่อนขาขาวยาว แต่สายตาเธอมองไปที่ทีวีที่เปิดอะไรก็ไม่รู้ ไม่ได้มองไปที่เครื่องปริ๊นท์ด้วยซ้ำ

"มะ ไม่เป็นไรเลย ใช้ได้ปกติ" ผมตอบพร้อมกับแอบสูดดมกลิ่นยาสระผมอ่อนๆที่โชยมาจากผมของเธอ

"ปกตินายชอบดูซีรีย์มั้ย" แทนถาม มือหนึ่งยังคงเอาผ้าเช็ดตัวสางผมที่เริ่มจะแห้ง อีกข้างหยิบรีโมทมาเปิด Netflix ที่ทีวี

"ก็ดูไปเรื่อยอะ แต่จะดูเฉพาะเรื่องอยากดูจริงๆ" ผมตอบพลางมองไปที่ทีวี พยายามไม่ให้สายตาถูกแรงดึงดูดของขาขาวๆลากลงไป

"ดูเรื่องนี้เป็นเพื่อนแทนหน่อยสิ อยากดูมานานแล้วอะ แต่มันน่ากลัว ไม่มีเพื่อนดู" แทนบอกพลางเปิดหนังใน Netflix

โอเค.. ชวนมาห้อง : เช็ค
อาบน้ำ : เช็ค
ชวนดูหนังผี : เช็ค

นี่มันสูตรสำเร็จการอ่อยของผู้หญิงเลยนี่หว่า ถ้าวันนี้ผมออกจากห้องไปโดยไม่ทำอะไร ผมคงเป็นผู้ชายที่โง่ที่สุดในโลกแล้ว

"อื้อ เอาสิ.." รู้ใช่มั้ยว่า คำว่าเอาสิ ของผมมันไม่ได้หมายถึงเปิดหนังสิ..

เรานั่งดูหนังจนเริ่มจะน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ มีหลายครั้งที่แทนปิดตา ผมก็เนียนขยับเข้าไปหาเธอ จากที่นั่งชิดกันอยู่แล้ว จนมีฉากที่ทำให้เธอตกใจ เธอสะดุ้งแล้วผวามากอดผม อาาา มารยาหญิงร้อยเล่มเกวียน ตอแหลไม่ตอแหลไม่รู้แหละ แต่ผมรู้สึกดีชะมัด น้องชายผมก็คงจะรู้สึกแบบเดียวกัน เพราะมันเริ่มแข็งขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

"ไม่อยากดูแล้ว ปิดมั้ย" แทนพูดเสียงอ่อยพลางมองหน้าผมอย่างอ้อนๆ

"โถ่ นึกว่าจะแน่ ฮ่าๆๆ" ผมเอ็นดูในความน่ารักของเธอ ตอนนี้แทนนั่งกอดแขนซ้ายผมพลางเงยหน้ามองหน้าผม ราวกับรู้สึกผิดที่อยากจะเลิกดูหนังกลางคัน

แต่ผมกลับรู้สึกหื่น.. ผิวใสของผู้หญิงที่เพิ่งอาบน้ำมานี่มันชวนดึงดูดชะมัด สายตาเราสองคนประสานกันจนไม่สนใจทีวีอีกต่อไป ไม่จำเป็นต้องมีคำพูดใดๆออกมาแล้วตอนนี้ ในที่สุด ผมก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ผมก้มหน้าลงไปประกบริมฝีปากบางของแทน ดูเธอไม่ได้ตกใจกับการกระทำของผมเท่าไหร่นัก กลับกัน แทนตอบรับการกระทำของผมด้วยการส่งปลายลิ้นนุ่มลื่นมารับรสจูบที่ผมมอบให้

ในขณะที่ปากเรากำลังจูบแลกลิ้นกันอย่างหวานชื่น มือซ้ายผมก็รั้งเอวแทนเข้ามาใกล้ มือขวาผมลูบไล้ขาอ่อนขวาที่แอบมองมาตลอด

"อือออ" เสียงแทนครางเบาๆในขณะที่มือขวาผมเริ่มลูบถึงขอบกางเกงในเธอ ตอนนี้ผมไม่รอให้เสียจังหวะอีกต่อไป แทนกับอิงนั้นไม่เหมือนกัน อิงน่ารักหมวยๆ แต่แทนสวยแบบดารา แม้จะยังไม่มีชื่อเสียงระดับท็อปของวงการ แต่เธอก็เป็นที่หมายปองของชายหลายๆคนแล้วแน่ๆ ซึ่งผมยิ่งรู้สึกแข็งจนระเบิด เมื่อคิดว่า ผู้หญิงที่ผู้ชายหลายคนหมายปอง ตอนนี้กำลังจะโดนผมเอา

ผมค่อยๆผลักแทนนอนลงไปบนโซฟา ปากเราสองคนยังคงแลกลิ้นกันอย่างดุเดือด ไม่มีความเขินอายใดๆเหลืออยู่แล้ว มือซ้ายผมล้วงเข้าไปในเสื้อของแทน ผ่านบราของเธอจนสัมผัสกับหน้าอกนุ่ม ผมไม่เชี่ยวชาญพอจะบอกได้ว่าคัพไหน แต่มันเต็มมือผมมาก

"อาาาา" แทนผละริมฝีปากสวยจากรสจูบของผมพลางแอ่นอก ผมไม่รู้ว่าเธอเสียวที่มือซ้ายผมกำลังเขี่ยเล่นกับหน้าอกของเธอทั้งๆที่ยังไม่ถอดบราและเสื้อ หรือเสียวที่มือขวาผมกำลังล้วงกางเกงในของเธอผ่านพงหญ้าที่มีพอประมาณ

เมื่อปากว่าง ผมก็เริ่มไซส์คอขาวของแทน และเลียไล่ตั้งแต่คางของเธอลงมาตามลำคอ ลากลิ้นผ่านเนินอกที่มีเสื้อขวางกั้นอยู่ ตอนนี้ผมไม่สนอะไรแล้ว ผมถอดเสื้อของแทนออกพร้อมๆกับยกทรง ซึ่งเธอก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี  และในทันทีที่หน้าอกขาวจุกชมพูปรากฏต่อหน้าผม ผมก็ก้มลงไปดูดทันที

"อ๊าาาา ต่อคะ แทนสะ เสียวววว" แทนร้องครางลั่น แถมเรียกชื่อผมด้วย จากปกติที่เรียกผมว่านาย มาโดยตลอด

บอกตรงๆว่ารสสัมผัสของหน้าอกอ่อนนุมของแทนมันรู้สึกดีมากๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอเพิ่งอาบน้ำเสร็จหรือเปล่านะ ผมไม่เสียเวลาคิดมาก มือซ้ายบีบคั้นหน้าอกข้างหนึ่งของเธออย่างเบาๆและยั่วยวน ในขณะที่ปากก็ทำหน้าดูดเลียหน้าอกอีกข้างของเธอ มือขวาผมก็ไม่น้อยหน้า ล้วงกางเกงในจนเจอปากถ้ำแห่งความหฤหรรษ์ ผมเอานิ้วลูบจุดเสียวเบาๆ จนเธอเริ่มจะทนไม่ไหวชันเข่าขึ้นเพื่อเปิดทางให้มือผมสะดวกๆ

"อ๊าาา ต่อ ยะ อย่าาา เราเสียวมากกก" แทนเริ่มร้องครางดังขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับกดหัวผมแนบหน้าอกของเธอ นิ้วมือขวาที่กำลังเล่นปุ่มเสียวของเธอข้างล่างขยับสั่นรัวๆจนเธอเอาขามาเกี่ยวรั้งตัวผมไว้ ทั้งหมดนั่นคือยังไม่ถอดกางเกงขาสั้นเธอนะ

"อ๊าาา อ๊าาา อ๊าาาาาาาาา" ในที่สุด แทนก็ร้องลั่นพลางแอ่นอกกอดผมแน่น ผมสัมผัสได้ว่า แทนเสร็จแล้ว ทั้งๆที่ผมยังไม่ทันได้สอดใส่ทั้งนิ้วหรือแท่งของผมด้วยซ้ำ

ผมผละออกมาจากแทน มองดูเธอนอนหอบรัวๆ สายตาเธอมองผมหยาดเยิ้ม ท่อนบนเธอไม่มีเสื้อหลงเหลือแล้ว ทำให้หน้าอกขาวที่ผมเริ่มจะแดงนิดๆจากการที่ผมดูดไปเมื่อกี๊ปรากฏท้าสายตา

ถ้าแฟนๆอินสตาแกรมเธอรู้ว่า เธอกำลังจะโดนเอาบนโซฟาตัวที่เธอชอบเซลฟี่ลง จะเป็นยังไงนะ

ผมไม่หาคำตอบ แต่เอื้อมมือมาจับกางเกงขาสั้นของแทน ซึ่งเธอก็คงรู้ว่าหมายถึงอะไร เพราะแทนยกก้นขึ้นเพื่อให้ผมดึงทั้งกางเกงขาสั้นและกางเกงในของเธอออก ตอนนี้ แทนไม่เหลือเสื้อผ้าใดๆแล้ว น้องสาวเธอปรากฏต่อหน้าผมอย่างท้าทาย เนินสวาทที่มีขนบางๆ ดึงดูดให้ผมซุกหน้าไปชิมทันที

"อ๊าาาาา ต่อ ทะ แทนขอพักก่อน ซี๊ดดด" ผมไม่สนคำที่แทนพูด เพราะตอนนี้ผมลากลิ้นเปียกๆผ่านร่องเสียวที่เปียกชุ่มของเธอ พลางตวัดปลายลิ้นที่ปุ่มเสียวรัวๆ จนแทนเริ่มมีอาการ

ตอนนี้ผมสองมือผมบีบก้นของแทนและดันก้นเธอเข้าหาตัว ในขณะที่หน้าผมก็ฟุบตวัดสะบัดปลายลิ้นรัวๆ มือของแทนกดหัวผมแนบเข้าไปที่น้องสาว ในขณะที่สองขายาวของเธอเตะป่ายไปทั่ว

"ซี๊ดดดด อ๊าาา" แทนร้องไม่เป็นภาษา โดยเฉพาะในจังหวะที่ผมเร่งปลายลิ้น จนในที่สุด แทนก็ทะลึ่งตัวขึ้นมา

"พอแล้ววต่อ แทนไม่ไหวแล้ว" เธอลุกขึ้นมาไม่รอให้ผมพูดอะไร แล้วดึงปลดเข็มขัดกางเกงและดึงมันออกไปทั้งกางเกงขายาวและกางเกงใน

น้องชายผมผงาดออกมาท้าสายตาเซ็กซี่ของแทน แม้ผมจะหวังให้เธอคุกเข่าลงไปดูดเลียและโม้คให้ผม แต่สิ่งที่แทนทำอีกอย่างนั้นกลับทำให้ผมคิดว่าไม่โม้คก็ไม่เป้นไร

เพราะแทนนั้นทนหักห้ามราคะในใจตัวเองไม่ได้อีกต่อไป เธอมานั่งตักหันหน้าเข้าหาผม และเอื้อมมือมาจับแท่งของผมตั้งตรงในจังหวะที่เธอนั่งลงมาด้วยตัวเอง

"อ๊าาาาาาา"
"ซี๊ดดดด"

เสียงร้องของเราสองคนครางพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ตอนนี้ผมนั่งอยู่บนโซฟา ในขณะที่แทนนั่งอยู่บนตัวผม เราหันหน้าเข้าหากัน และเพราะแทนเป็นคนสูงอยู่แล้ว ทำให้เมื่อแทนนั่งบนตักผม เธอก็เลยอยู่เหนือกว่านิดๆ สองมือเธอกอดคอผมและปากเราสองคนก็เหมือนมีแรงดึงดูดเข้าหากัน

อาาา นุ่มชะมัด ผมไม่รู้ว่ารสนุ่มของปลายลิ้นเธอหรือในโพรงอุ่นของน้องสาวเธอ แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ผมก็ชอบทั้งนั้น

"ซี๊ดดดดด อาาาา" แทนเริ่มขยับสะโพกอย่างช้าๆ ผมรู้สึกคับแน่น ไม่รู้ว่าแท่งผมใหญ่หรือโพรงเธอฟิ๊ตกันแน่

"เร็วๆเลยนะ แทนไม่ไหวแล้ว ซี๊ดดดด" แทนเริ่มโยกเร็วขึ้น ในจังหวะเด้งรับผมก็แทงสวนขึ้นไป จนรู้สึกว่ามันชนผนังมดลูกด้านในด้วยซ้ำ สองมือแทนประคองหัวผมจูบอย่างเร่าร้อน

ถ้ามีใครมาเห็นภาพตอนนี้ คงไม่เชื่อว่า เน็ตไอดอลคนดังที่กำลังจะได้เป็นดารา กำลังนั่งโยกใส่ผู้ชายหน้าจืดอย่างผมอยู่

"ซี๊ดดดดด อาา ตะ ต่อออ" แทนเริ่มร้องดังขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่โยกเร็วขึ้นๆ

"ซี๊ดดด เร็วๆเลย อย่าหยุดนะ" ผมบอกแทนพลางเด้งสวน

แทนเริ่มโยกเร็วขึ้น เร็วขึ้น และเร็วขึ้น โพรงของเธอมันฟิตมาก แม้จะดูน่าอายที่ผู้ชายเสร็จก่อน แต่ผมไม่สามารถทนได้อีกต่อไป

"อ๊าาาาาา " ผมร้องลั่นในจังหวะที่น้ำแตกกระฉูดเข้าถ้ำของแทน

"อ๊าาาาาาาา" เช่นเดียวกับแทน เป็นโชคดีของผมที่เธอเสร็จพอดี ผมรู้สึกได้ถึงการตอดรัดจากภายในที่ยิ่งทำให้แท่งของผมรู้สึกฟิต ราวกับน้องสาวแทนต้องการจะรีดน้ำทุกหยดออกจากน้องชายผม

"อาาาาาา " แทนกระตุกตัวอย่างรุนแรงพร้อมๆกับที่ผมเกร็งตัว พยายามปล่อยน้ำเสียวออกไปจนหยดสุดท้าย ผมรู้สึกได้ว่าภายในโพรงของเธอต้องเต็มไปด้วยน้ำรักของผมแน่นอน

นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่แทนยังคงนั่งผมตัวผมพลางซบลงมากอดผมแน่น ในขณะที่ผมเอนพิงโซฟาอย่างสบายตัวพลางลูบหัวแทนอย่างแผ่วเบาและทะนุถนอม ผมคงไม่สามารถเปรียบเทียบได้ว่า รสชาติเซ็กส์ของอิงกับแทนแบบไหนอร่อยกว่ากัน เพราะมันคือคนละรสชาติ และปฏิเสธไม่ได้ว่า รสชาติของแทนก็อร่อยถูกปากผมไม่น้อยไปกว่ารสชาติของอิงเลย

แทนผละจากการซบไหล่ผมพลางจ้องหน้า ผมไม่รู้ว่าเป็นอะไร แต่มองดูริมฝีปากแทนทีไรแล้วเผลอจนเข้าไปจูบไม่ได้ทุกที แต่ครั้งนี้เป็นจูบรสชาติที่ต่างไปจากเมื่อกี๊ ผมสัมผัสได้ว่า นี่คือรสชาติของความรัก

เราแลกลิ้นกันต่อไปสักพัก จนในที่สุด แทนก็ลุกขึ้นจากตัวผมแล้วพูดว่า

"แทนไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ ต่อปล่อยในซะเต็มที่เลย ดีนะที่เรากินยาคุม" แทนยืนขึ้นพูด มือข้างนึงหยิบเอาผ้าเช็ดหัวที่เธอใช้เมื่อกี๊มาปิดน้องสาว คงเพื่อไม่ให้น้ำรักของผมไหลหยดออกมาเลอะเทอะ

"เราขอโทษ เราอดไม่ไหวจริงๆ" ผมบอกยิ้มๆ ที่จริงผมอยากต่อรอบสองนะ แต่ให้แทนพักสักหน่อยดีกว่า แล้วย้ายไปบนเตียงคงสะดวกกว่านี้

"ย่ะ! เดี๋ยวแทนมา" แทนมองค้อนพลางเดินไปเข้าห้องน้ำ

ครืดดดดด!~ เสียงโทรศัพท์ผมที่เปิดโหมดสั่นไว้สั่นลั่น ผมเอื้อมมือไปหยิบแล้วพบว่าเป็นเบอร์ที่ไม่ไม่ได้บันทึกไว้

"ฮัลโหล สวัสดีครับ" ผมกรอกเสียงเข้าไปในโทรศัพท์

"คุณต่อใช่มั้ยครับ ผมสตีฟ ไม่ทราบสะดวกคุยมั้ยครับ" เสียงพูดไทยสำเนียงฝรั่งพูดมาในโทรศัพท์ ผมแปลกใจเพราะผมไม่เคยมีคนรู้จักเป็นชาวต่างชาติเลย

"เอ้อ ได้ครับ เอ่อ สตีฟไหนเหรอครับ รู้จักผมได้ยังไง" ผมถามไปแบบงงๆ

"ผมรู้ว่าคุณพิเศษกว่าคนอื่น คุยทางโทรศัพท์คงไม่เหมาะ ไม่ทราบว่าพรุ่งนี้เราเจอกันตอนค่ำๆได้มั้ย" หะ? ทำไมพูดว่าผมพิเศษกว่าคนอื่น? หรือเขาจะรู้อะไรเกี่ยวกับความสามารถของผม

"พิเศษอะไรเหรอครับ ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดอะไร" ผมเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง

"ผู้หญิงที่คุณอยู่ด้วย ผู้หญิงที่ทำงานคุณเมื่อคืน หรือแม้แต่เพื่อนของคุณที่ท้องเสียกระทันหันที่มหาลัย ผมพูดแค่นี้คุณคงเข้าใจความหมายของผมนะ ถ้าเข้าใจ พรุ่งนี้ 4 ทุ่มผมจะไปเจอคุณ ไม่ทราบว่าโอเคมั้ย" เสียงชายคนที่ชื่อสตีฟพูดสิ่งที่ทำให้ผมตกใจขึ้นมา

เขารู้ได้ไง เขารู้เหรอว่าผมใช้พลังทำให้สิ่งต่างๆที่ว่ามานั้นเกิดขึ้น และถ้าเป็นยังงั้น แสดงว่าพลังของผมก็จริง 100% แล้วนะสิ

"แต่พรุ่งนี้ผมต้องทำงานนะ" ผมตอบกลับไปอย่างลังเล ผมไม่แน่ใจว่าเขามาดีหรือร้าย

"ไม่ต้องห่วง คุณไปทำงานตามปกตินั่นแหละ เดี๋ยวคุณก็เจอผมเอง" เสียงสตีฟพูดก่อนจะตัดสายไป

ตอนนี้ความคิดผมมันเริ่มสับสน ผมมีพลังจริงๆเหรอ ก่อนหน้านี้ผมแค่คิดว่าอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญซ้ำๆ แต่พอมันเริ่มมีหลักฐานเยอะๆขึ้น แถมมีคนมาพูดแบบนี้ ทำให้ผมค่อนข้างมั่นใจว่า นี่คือเรื่องจริง

นอกจากนี้ ถ้านี่คือเรื่องจริง ผมจะทำยังไงต่อดี ผมสามารถใช้พลังทำอะไรได้บ้าง แล้วมันจะมีผลดีผลเสียยังไง

ความคิดร้อยแปดพันเก้าผมพุ่งเข้ามามั่วไปหมดจนผมปวดหัว แต่ทันทีที่ร่างสูงโปร่งขาวเปลือยของแทนเดินออกมาจากห้องน้ำ ผมก็ตัดสินใจพับเรื่องอื่นไว้ก่อนทันที

.......


สวัสดีครับ ก่อนอื่นขอบอกว่า ดีใจมากๆที่นิยายเรื่องแรกผมคนอ่านเยอะและคอมเม้นท์ท่วมท้นขนาดนี้ ผมอ่านคอมเม้นท์หมดเลยนะ ขอบคุณจริงๆครับ อย่างที่บอก เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก อาจจะมีตรงไหนผิดพลาดบ้าง แนะนำติชมได้เลยนะครับ

ในส่วนของเรื่องนี้ น่าจะค่อนข้างยาว ผมวางพล็อตเรื่องไว้หมดแล้ว และหมวดหมู่ของมันก็ตรงตามที่อยู่ในวงเล็บชื่อเรื่องแหละ แต่ด้วยความที่ตัวละครเยอะ (ก็แหมม ฮาเร็มอะเนอะ) ก็เลยต้องทะยอยเปิดตัวละครทีละตัวขึ้นมา

สำหรับ EP3 นี้ ผมอยากอ่านคอมเม้นท์หลังอ่านตอนนี้จบ อยากให้เพื่อนๆแสดงความคิดเห็นกันหน่อยครับว่า ตอนที่ 3 เป็นยังไงบ้าง อยากให้ใครเป็นนางเอก (จริงๆผมวางตัวนางเอกไว้แล้ว) ถ้าใครอ่านแล้วไม่รู้จะคอมเม้นท์อะไรก็ไม่ว่ากันนะครับ

ส่วนคนที่คอมเม้นท์ จะมีเหตุการณ์หลังห้องน้ำในพาร์ทของอิงให้อ่านอีกนิดครับ ไม่มีส่วนสำคัญของเนื้อเรื่อง อ่านหรือไม่อ่านก็ได้ ถ้าไม่มีอะไรจะคอมเม้นท์ และไม่อยากอ่านก็ไม่เป็นไรครับ

ตอนนี้ผมเขียนยาวมาก(ยาวสำหรับผม) ไม่รู้ยาวไปมั้ย แนะนำติชมด้วยนะครับ

ปล.ในส่วนของพลังพิเศษ มีคนเริ่มเดาถูก แต่ยังไม่ถูกซะทีเดียว ทั้งหมดมีเหตุและผลรองรับครับ

ขอบคุณครับ

คอมเม้นท์เพื่ออ่านเหตุการณ์พิเศษด้านล่างนะครับ

.....
 




เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

noraseth


Wiwek

ผมชอบแนวนี้นะ ดูตัวเอกโกง ๆ ดี

thelegendary29


hunterkung

สนุกมากครับ​  จัดได้อีกหลายๆคนเลย

counellol2

เนื้อหายาวๆก็ดีนะครับผมชอบ 
แต่จากทีอ่านเดาว่า แทนน่าจะยังไม่ใช่นางเอก และมาแนวนี้คนมีสาวๆหลายคนแน่เลยครับ 
เอาใจช่วยครับ

Taizen

ถ้าเป็นเกมส์นี่ แปลว่าได้ความสามารถพลังจิตมา 1 หน่วยนะ

noojane

#7
อยากให้นางเอกเป็นคนทีสามารถทนพลังของพระเอกได้สักนิดหน่อยอ่ะ​ แล้วให้พระเอกจีบแบบจริงจัง​ ไม่งั้นจะดูง่ายไปนีสส

สตีฟนี่คือไอฟรั่งในร้านที่มาสั่งข้าวกับน้ำชิมิ

XYZ

ฟอร์มเรื่องมาดีมากครับ

ถ้ามีพลังแบบพระเอกนี่ฮาเรมเลยครับ นึกว่าจะจัดตั้งแต่ 3 สาวแล้วซะอีก

kapomman

ถ้าเกิดมีใครมารู้ความคิดในหัวที่เราไม่เคยบอกใครแบบสตีฟนี่ เป็นผมผมคงกลัวมันนะ มันคงไม่ธรรมดาแล้วล่ะ

longman_44

พลังงานพิเศษต้องมีอะไรแลกรึเปล่าน่ะ

วสันต์ ชาญวิทย์


Topp458


Alligator

อ่านแล้วสนุกไหลลื่นดีครับส่วนพลังจิตของต่อก็ค่อยเป็นค่อยไปไม่หวือหวาทำให้อ่านแล้วมีอารมณ์ร่วม

D4rthvader

ผมชอบแนวนี้นะ แปลกไปอีกแบบดี .