ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_llOUllnJllUUllSJllSJ

จ้าวโลก EP.7 (NTR/Harlem/Super Power)

เริ่มโดย llOUllnJllUUllSJllSJ, กุมภาพันธ์ 28, 2021, 08:50:44 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

llOUllnJllUUllSJllSJ

สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นสมาชิก xonly8 อ่านเต็มได้ที่ https://fictionlog.co/b/6053b2ece9cbb4001caf362f

"คอนโดก็ไม่แย่นะต่อ อยู่ใกล้มหาลัยด้วย ต่อเช่าหรือซื้อเหรอ" แทนถามพลางมองไปทั่วห้องในตอนที่เรากลับมาที่คอนโดผมหลังจากดูหนังเสร็จ

"เช่าสิ ลำพังเราซื้อคอนโดไม่ไหวหรอก ยังไม่ได้ทำงานเลย" ผมพูดพลางปิดประตูห้อง คืนนี้แทนจะค้างกับผมที่นี่ พรุ่งนี้ผมมีเรียนแต่เธอไม่มี เธอเลยอาสาจะขับรถไปส่งผมที่มหาลัยตอนเช้า ก่อนจะกลับไปอาบน้ำที่คอนโดเธอก่อนจะไปถ่ายรูปกับเพื่อนตามที่นัดไว้

"ห้องขนาดนี้ก็โอเคดีนะ ทำความสะอาดง่ายดี" แทนบอกพลางเดินไปนั่งโซฟาหน้าทีวีที่โซนนั่งเล่น

"ขนาดทำความสะอาดง่าย ห้องยังรกขนาดนี้ นี่คือไม่ออกเลยถ้าอยู่ห้องใหญ่แบบแทน ห้องเราคงรกตายอะ" ผมพูดพลางเดินไปนั่งข้างๆแทน

"นี่ไม่ได้รกอะไรเท่าไหร่นะ"

"ใช่มั้ย เราก็ว่าแล้วว่าห้องเราไม่ได้รกอะไรขนาดนั้น.." แย่ละสิ ผมเผลอคิดไปถึงตอนที่อีฟมาหาผมที่ห้องเมื่อตอนเช้าพร้อมกับบ่นว่าห้องรก แล้วดันเผลอพูดออกไปงั้น

"หืม ก็ใช่นะสิ ต่องงอะไรหรือเปล่าเนี่ย" แทนหันมามองหน้าผมงงๆ เธอคงงงแหละครับ เพราะประโยคที่ผมหลุดปากออกไปมันดูไม่เหมือนพูดกับเธอ

"อ๋อ เปล่าๆ เราหมายถึงห้องเราไม่ใหญ่เหมือนคอนโดแทน ไม่ได้ทำความสะอาดบ่อยมันก็ไม่รกเท่าไหร่หรอก" ผมรีบแก้ตัวออกไป

แต่แทนกลับมองหน้าผมอย่างไม่ละสายตา จนผมต้องหลบสายตาเพราะรู้สึกเหมือนวัวสันหลังหวะซะงั้น ทั้งๆที่มันก็ไม่มีอะไรต้องปิดบังด้วยซ้ำ แต่ผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงว่าอีฟคือใคร และทำไมเธอต้องมาที่คอนโดผม แถมยังออกไปข้างนอกด้วยกันด้วย

"มีคนบอกว่าห้องนายรกเหรอ.." นั่นไง กูว่าแล้ววว ว่ากันว่า เซ้นส์ผู้หญิงนี่เป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ เพราะแทนสามารถตีความจากคำพูดที่หลุดปากของผมออกมา แล้ววิเคราะห์จนเป็นจินตนาการที่น่ากลัว(สำหรับผม)ขึ้นมาได้

"ป่าวววว ว่าแต่แทนหิวน้ำมั้ย เดี๋ยวเราเอาให้" ผมปฏิเสธเสียงสูงพลางเฉไฉเดินมาเปิดตู้เย็นหยิบน้ำที่แช่ไว้หันมาถามแทนเพื่อเปลี่ยนเรื่อง

"ไม่อะ เดี๋ยวแทนกลับแล้ว แทนแค่แวะมาส่งเฉยๆ" แทนบอกพลางลุกขึ้นหยิบกระเป๋าของเธอเหมือนเตรียมตัวจะกลับ ทั้งๆที่ตอนแรกคุยกันไว้ว่า เธอจะค้างที่นี่

เห้อ ขนาดว่าความสามารถพิเศษอะไรนั่นอยู่กับผมมันก็ฟังดูน่ากลัวแล้วนะ ผมนี่จินตนาการไม่ออกจริงๆว่าถ้าความสามารถนี้อยู่กับผู้หญิงนี่จะเป็นยังไง เพราะรู้ๆอยู่ว่าใจผู้หญิงนี่ยากจะเข้าใจจริงๆ

ผมเห็นท่าไม่ดี และจากประสบการณ์ที่เคยเจอในตอนที่อิงงอนแบบนี้ เลยเข้าใจดีว่า ต่อให้ผมสรรหาเหตุผลและถ้อยคำอะไรมาอธิบายตอนนี้ ก็คงไม่ได้ช่วยอะไร ต้องรอให้แทนหายงอนไปเองนี่แหละ

แต่เอ๊ะ.. ผมจะรอทำไม ทำไมผมไม่โน้มน้าวจิตใจแทนให้หายงอนตอนนี้เลยหละ

ผมไม่ตอบอะไรแทนที่กำลังเดินไปที่ประตูห้อง แต่ตั้งสติและคิดซ้ำไปซ้ำมาในหัวว่า 'หายงอนแล้วดีกว่า คืนนี้อยากอยู่กับต่อทั้งคืน' และไม่กี่ชั่วอึดใจ ความพยายามของผมก็เหมือนจะเป็นผล

เพราะแทนกลับหลังหันแล้วเดินมาประชัญหน้าผมที่กำลังยืนอยู่หน้าตู้เย็น

ตอนนี้สายตาเราสองคนประสานกัน ถึงแม้ว่าผมเพิ่งจะโน้มน้าวจิตใจเธอให้หายงอนผมแล้ว แต่สถานการณ์ตอนนี้ผมก็ยังเดาไม่ออกจริงๆว่าเธอกำลังจะมาไม้ไหน

"เอ่อ.. กินน้ำก่อนมั้ย" ผมไม่รู้จะพูดอะไร ไม่กล้าเล่นเพราะเดาใจแทนไม่ออก เลยยื่นขวดน้ำที่ถืออยู่ในมือยื่นให้เธออย่างกล้าๆกลัว

"แทนอยากกินน้ำ.. แต่แทนไม่อยากกินน้ำในขวดนี้.." แทนพูดพลางเอื้อมมือมาลูบไล้ที่เป้ากางเกงผมแล้วยื่นหน้ามากระซิบที่ข้างหูเบาๆด้วยน้ำเสียงเซ็กซี่ว่า

"แทนอยากกินน้ำขวดนี้มากกว่า.." พอผมได้ยินดังนั้น ผมก็ไม่ปล่อยให้ความลังเลหรือไม่แน่ใจควบคุมจิตใจผมต่อไป ผมโยนขวดน้ำทิ้งอย่างไม่ใยดี  และกอดเอวแทนรั้งเข้ามาหาตัวพร้อมกับโผเข้าไปสัมผัสรสจูบจากริมฝีปากสวยที่เผยอรอรับของแทน

รสชาติจูบของเธอยังคงอ่อนหวาน ปลายลิ้นยังคงนุ่มเหมือนเดิม แต่ผมเริ่มสัมผัสได้ถึงราคะและความร้อนแรงที่เพิ่มขึ้นในตัวแทน เธอไม่ได้ปล่อยให้ผมคุมเกม เพราะในขณะที่เรากำลังแลกลิ้นกันอยู่นั้น แทนก็ดันตัวผมให้ถอยหลังไปเรื่อยๆ จนผมสัมผัสได้ว่า หลังผมคือโต๊ะอาหาร

แม้ว่าโต๊ะอาหารนี้จะเป็นโต๊ะไม่ใหญ่มาก ขนาด 4 คนนั่งเท่านั้น แต่การที่คนสูง 182 ซม.อย่างผมจะนั่งบนโต๊ะนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร โดยตอนนี้ ปากผมกำลังจูบกับแทนอย่างหนักหน่วง มือสองข้างผมกอดเอวเธอรั้งมากับตัว ส่วนมือเธอข้างหนึ่งก็กำลังลูบไล้แก่นกายผมนอกกางเกง ในขณะที่สองขาผมก็ถอยหลังเพราะแรงดันจากตัวเธอมาเรื่อยๆจนที่สุดแล้ว ผมก็กระเถิบขึ้นมานั่งบนโต๊ะ ในขณะที่แทนยืนจูบผมอยู่

แล้วริมฝีปากของเราสองคนก็ค่อยๆถอนออกจากกัน ผมมองตามด้วยความเสียดาย แต่ดูเหมือนว่าแทนไม่ได้ตั้งใจจะหยุดเกมรักของเราเพียงแค่นี้ เพราะมือของเธอที่กำลังขยำเป้ากางเกงผมอยู่ตลอดเวลานั้น ก็เปลี่ยนเป็นค่อยๆปลดเข็มขัดกางเกงผมอย่างยั่วยวนและเซ็กซี่

"ไหนบอกสิคะ ต่ออยากทำอะไร.." แทนหลังจากปลดเข็มขัดผมเสร็จ แล้วเธอก็เริ่มรูดซิปกางเกงผมลงอย่างช้าๆ

"อืม.. อยากเอาแทนแล้ว" ผมตอบไปตรงๆ ก็มันอยากจริงๆนี่หว่า ตั้งแต่ที่โรงหนังแล้ว

"ไม่เอาสิคะ งั้นเอางี้ ไหนบอกแทนซิ ตอนดูรูปแทนในไอจี อยากทำอะไรแทนแบบไหน ยังไงบ้าง.." เธอรูดซิบผมเสร็จก็ยื่นหน้ามากระซิบข้างหูผมเบาๆพลางคลอเคลียที่หู

"อยากจับแทนกดที่เตียง.." ผมหลับตาตอบอย่างเคลิบเคลิ้มจากริมฝีปากที่กำลังถูกไถซอกคอผม

"อ่าฮะ.. อะไรอีก.." แทนถามผมพลางค่อยๆเลื่อนปากลงมาที่หน้าอกผม สองมือเธอค่อยๆดึงชายเสื้อยืดผมขึ้น

"อยากเอาแอนบนโต๊ะ.." ผมตอบไป ตอนนี้แทนกำลังใช้ปลายลิ้นค่อยๆเลียที่บริเวณหน้าอกตรงกลางผมเวียนไปวนมา

"อ่าฮะ.. อะไรอีก.." ตอนนี้เธอเริ่มงับที่หัวนมผมเบาๆเหมือนที่เคยทำให้ผมก่อนหน้านั้น ซึ่งมันเป็นอะไรที่ทำให้ผมเสียวแทบจะทนไม่ไหว

"อยากเอาแทนท่าด็อกกี้กลางห้อง" ผมพยายามควบคุมอารมณ์ไม่ให้เผลอครางออกมา

"อ่าฮะ.. อะไรอีก.." เธอเริ่มเปลี่ยนจากงับเบาๆอย่างเดียวเป็นสลับมาใช้ลิ้นบ้างงับเบาๆบ้าง

"อยากเอาแทนที่ระเบียง.." ผมพูดไปตามอารมณ์ จริงๆแล้วผมไม่เคยคิดอะไรขนาดนั้นหรอก แต่ด้วยความที่อารมณ์มันกำลังได้ที่ เลยพูดออกไป

แล้วแทนก็ดึงเก้าอี้มานั่งตรงหว่างขาผมที่กำลังนั่งอยู่บนโต๊ะ เธอเงยหน้ามองผมก่อนจะพูดว่า

"วันนี้เราจะทำทั้งหมดนั่น แต่จะเปลี่ยนเป็น.. แทนจะทำให้ต่อเอง.."

แทนไม่รอให้ผมตอบอะไร เธอก้มลงไปใช้ลิ้นเลียไปหัวแก่นกาย จนผมเสียวแว๊บ ในขณะที่มือของเธอก็เริ่มลูบไล้โคนแท่งนั้น

ผมไม่รู้ว่าแทนเคยมีอะไรกับใครมาเยอะแค่ไหน อย่างน้อยๆก็คงแฟนเก่าแหละ แต่ลีลาการใช้ลิ้นของเธอนั้นต้องยอมรับว่าอิงเทียบไม่ติด เธอค่อยๆใช้ปลายลิ้นเลียจากโคนขึ้นมาจนสุดปลาย ก่อนจะยังคงใช้ปลายลิ้นแหย่ที่รอยแยกบนปลายแท่งของผม แล้วก็อ้าปากกว้างเพื่ออมแท่งนั้นแค่ส่วนหัว โดยทั้งหมดที่เธอทำนั้น มือขวาเธอที่เริ่มกำแก่นกายผมก็เริ่มรูดขึ้นลงอย่างช้าๆ

ถ้ามีใครสักคนเอากล้องส่องทางไกลส่องมาที่ห้องของผมตอนนี้ จะเห็นภาพผู้ชายกำลังนั่งอยู่บนโต๊ะ แหงนคอซู้ดปากพร้อมๆกับใช้มือขวาจับปอยผมที่ท้ายทอยของหญิงสาวที่กำลังดูดแท่งนั้นอยู่

และนั่นคือผม ในสภาพที่ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว นอกจากจับหัวเธอเบาๆพร้อมกับร้องครางออกมา

"ซี๊ดดดดดด" ความเสียวผมที่มันอัดอั้นจากการโดนแทนชักในโรงหนังมันเหมือนจะถึงขีดสุด เพราะผมเริ่มรู้สึกได้ถึงความเสียวที่มันเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าแทนจะยังไม่ได้ดูดแท่งนั้นเต็มๆหรือใช้มือชักของผมด้วยความเร็วเต็มที่

"ซี้ดดดด แทนน..." คำพูดของผมคงมีแค่ไม่กี่อย่างที่จะพูดออกมาในสถานการณ์เช่นนี้ ความเสียวของผมมากขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับความอ่อนนุ่มของลิ้นอุ่นจากปากเธอที่ละเลงไปทั่วแท่งของผม แต่อยู่ดีๆแทนก็หยุด

'อีกแล้วเหรอ..' ผมคิดในใจ เพราะที่โรงหนัง เธอก็หยุดในจังหวะที่ผมจะเสร็จแบบนี้

แต่แทนไม่รอให้ผมสงสัยอะไรนาน เธอพลักผมให้นอนลงไปที่โต๊ะอาหาร ในสภาพที่กางเกงยีนส์กับกางเกงในผมยังกองอยู่ที่เข่า ส่วนแทนนั้นถอดกางเกงขาสั้นไปพร้อมๆกับกางเกงไหน แล้วก้าวขึ้นมาคุกเข่าคล่อมผมไว้ ก่อนจะเอื้อมมือมาจับแท่งของผมตั้งตรงขึ้นแล้วค่อยๆทิ้งตัวลงมาอย่างช้าๆ

"ซี๊ดดดด" คราวนี้เป็นเสียงแทนที่ร้องครางขึ้นมาบ้างในจังหวะปลายแท่งของผมเริ่มชำแรกเข้าไปในร่องสวรรค์ของเธอ

ผมรู้สึกได้ถึงความชุ่มแฉะจากปากโพรงสวรรค์ของเธอที่ทำให้แก่นกายของผมนั้นเข้าไปได้อย่างรวดเร็วในจังหวะที่แทนทิ้งน้ำหนักลงมาเต็มๆ

ตอนนี้เธอนั่งทับผมด้วยน้ำหนักเต็มที่แล้ว นอกจากความชุ่มชื้นแล้ว ผมยังรู้สึกได้ถึงความคับแน่นของแก่นกายที่ได้รับจากการบีบรัดภายในของเธอ

แทนเริ่มโยกเอวช้าๆ เพราะแม้ว่าโต๊ะนี้จะมีขนาดพอที่เราสองคนจะขึ้นไปอยู่บนโต๊ะได้ แต่ดูเหมือนว่าทั้งผมและเธอจะไม่ไว้ใจว่าขาโต๊ะจะรองรับน้ำหนักเราสองคนในสภาพที่ขย่มเต็มที่ได้มั้ย อย่างไรก็ตาม การโยกเอวและบดคลึงไปช้าๆของแทนพร้อมกับเสียงเอี๊ยดอ๊าดจากขาโต๊ะนั้นก็ให้อารมณ์และความรู้สึกที่เสียวไปอีกแบบ

"ซี๊ดดดด แบบนี้เสียวมั้ยคะต่อ" แทนครางไปถามผมไปโดยที่เธอไม่ได้หยุดบดเอวแต่อย่างใด

"สะ เสียววว ซี๊ดดดด" ผมตอบไปพลางเอาสองมือจับขาอ่อนเธอทั้งสองข้าง แม้ว่าตอนนี้แทนจะไม่ได้เปลือยทั้งหมด เพราะเธอยังคงเหลือใส่เสื้อยืดอยู่ แต่บอกตรงๆว่าแบบนี้ก็เซ็กซี่ไม่น้อยไปกว่าการถอดหมด

เอี๊ยดๆๆ ซี๊ดดดๆๆ เสียงขาโต๊ะดังถี่ขึ้นพร้อมๆกับจังหวะการโยกที่เริ่มเร่งความเร็วจากเอวแทน

"อืมมมม ซี๊ดดดด" แทนยังคงครางไปและบดเอวไป ในบางครั้งเธอก็เร่งความเร็ว แต่บางครั้งก็ช้าลง ผมไม่แน่ใจว่าเธอต้องการเลี้ยงความเสียวซ่านของผมให้ถึงขีดสุด หรือเป็นเพราะเธอกลัวโต๊ะจะหักกันแน่

ดูเหมือนว่าแทนจะกังวลเรื่องโต๊ะเช่นเดียวกับผม เพราะหลังจากโยกเอวเข้าใส่ผมเบาๆได้ไม่นาน เธอก็ลุกขึ้นแล้วดึงมือผมให้ลุกตามมา ก่อนจะหันมาถอดกางเกงผมที่ยังคาอยู่ที่ขาแล้วบอกผมว่า

"ต่อปิดไฟให้หน่อยสิคะ ปิดทุกดวงเลยนะ" แทนบอกพร้อมกับเดินไปที่ผ้าม่านตรงระเบียง และเมื่อผมปิดไฟหมดทุกดวง เธอก็เปิดม่านและเปิดประตูไปยืนตรงระเบียงและเหลียวกลับมามองผมอย่างเชื้อเชิญ

ภาพที่ผมเห็นเบื้องหน้าตอนนี้ คือร่างสูงโปร่งของแทนที่ท่อนล่างไม่ใส่อะไรเลย ท่อนขาสวยที่รับกับก้นกลมกลึงขาว เธอยืนหันหลังให้ผมและเท้ารั้วระเบียงที่แม้ว่าจะมีที่กั้นไม่ให้คนปีนลงไปหรือกันของตก แต่ก็เปิดโล่งพอที่ถ้าใครสักคนจากข้างล่างมองขึ้นมาในตอนที่มีแสงเพียงพอ ก็คงจะเห็นทุกอย่างชัดเจน

เบื้องหน้าแทนคือแสงสีของกรุงเทพฯยามราตรี ผมมองเห็นรถยนต์ที่วิ่งไปมาบนทางด่วนลิบๆ หรือลานจอดรถเบื้องล่างที่มีรถขับเข้าออก หรือเซเว่นปากซอยที่ผมมักจะเดินไปซื้อของประจำ แม้กระทั่งมหาลัยที่เราทั้งคู่เรียน ก็อยู่ในระยะที่มองเห็นได้จากระเบียงแห่งนี้ และนั่นคือวิวทั้งหมดที่ปรากฏต่อหน้าเราสองคนในขณะที่ผมเดินเข้าไปประกอบข้างหลังเธอ

ผมไม่รอให้แทนพูดอะไรต่อ ผมจับสะโพกเธอให้โก่งมาข้างหลังเล็กน้อย พร้อมค่อยๆจับแท่งของผมตั้งตรงก่อนจะออกแรงดันแท่งเข้าไปในร่องเสียวเธอจนสุด

"ซี๊ดดดดด" แทนเริ่มครางออกมาเบาๆ ตอนนี้เธอไม่สนใจภาพวิวทิวทัศน์ยามราตรีเบื้องหน้าแล้ว เพราะเธอก้มหน้าฟุบไปกับราวระเบียงในจังหวะที่ผมเริ่มเร่งความเร็วในการซอยเอวขึ้น

ปั๊ปๆๆๆๆๆๆๆ ผมเหนี่ยวรั้งเอวของแทนเข้าหาตัวและซอยอย่างถี่รัว

"อาาาา ซี๊ดดดด ต่อ.. แทน สะ เสียว" แทนเหลียวมามองผมตาปรือพลางบอกผมเสียงสั่น

ผมไม่ตอบอะไรแต่ความเร็วขึ้นเรื่อยๆ ผมไม่แน่ใจว่าเสียงเนื้อหนังของเราสองคนที่กระทบกันนั้น มันจะดังไปถึงระเบียงห้องอื่นรอบๆมั้ย แต่นาทีนี้ผมไม่สนใจอะไรแล้ว

ปั๊ปๆๆๆๆๆ แทนถ่างขาออกกว้างโก่งบั้นท้ายงามรับการกระแทกจากผมที่เร่งความเร็วสุดชีวิตของผมแล้ว จนกระทั่งในที่สุด

"อาาาาาาาา~" ผมรู้ว่าแทนยังไม่เสร็จ แต่ความอัดอั้นตั้งแต่ที่โรงหนัง มันทำให้ผมทนไม่ไหวอีกต่อไป ในจังหวะเสร็จนั้น ผมดึงแก่นกายออกมาทัน ทำให้น้ำรักขาวข้นนั้นพุ่งกระฉูดไปทั่วบั้นท้ายของแทน

ผมยืนกอดแทนและซบไปที่ซอกคอของเธอจากข้างหลัง เสียงหอบหายใจของเราดังแข่งกับเสียงรถยนต์ที่วิ่งผ่านไปมาเบื้องล่าง เราไม่มีคำพูดอะไรออกจากปาก แต่ผมรู้ว่าคืนนี้ของเราไม่ได้สิ้นสุดแค่นี้

ผมจูงมือเธอมานั่งที่โซฟาด้านในโดยเปิดประตูระเบียงไว้อย่างนั้น แทนนั่งซบไหล่ผมท่ามกลางความมืดในห้อง มีเพียงแสงสีส้มเบื้องล่างจากกรุงเทพฯยามราตรีสาดเข้ามาจากระเบียง

แน่นอนว่า ผมต้องมีเบิ้ลแน่ๆ แม้แทนจะขาดช่วงหน่อยก็เถอะ แต่ตอนนี้ผมขอพักซักหน่อย และดูเหมือนแทนที่กอดแขนซบไหล่ผมนั้นก็เพลียจนอยากจะพักก่อนเช่นกัน

ตอนนี้ผมมีความสุขกับแทน แต่ก็ยอมรับว่าในใจนั้นก็ยังคงเป็นห่วงอิงเหมือนเดิม โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าเธอถูกใครบางคนทำให้เป็นแบบนั้น ผมตั้งใจว่าวันพรุ่งนี้ หลังกลับจากมหาลัยผมจะคุยกับอีฟและเริ่มต้นสืบเรื่องอิงอย่างจริงจังอีกครั้ง ถึงตรงนี้ผมกลับรู้สึกว่า มันคงจะดีกว่า ถ้าอิงจะทิ้งผมเพราะหมดรักและเปลี่ยนใจแล้วจริงๆ เพราะถ้าอิงสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะใครบางคนมาทำให้อิงเป็นแบบนั้น อิงจะกลายเป็นคนที่น่าสงสารที่สุด และนั่นคือความรับผิดชอบของผมที่จะต้องทำให้อิงกลับมาเป็นคนเดิมให้ได้

พอคิดถึงอิงที่อาจจะเปลี่ยนไปเพราะมีคนทำให้อิงเปลี่ยน ผมที่กำลังโอบกอดแทนที่ซบไหล่ผมอยู่ก็เริ่มกลัวขึ้นมาในใจเล็กๆ ผมรู้ว่าครั้งแรกที่แทนชวนผมไปคอนโด นั่นเพราะผมใช้พลัง แต่ความรู้สึกของเราสองคนในตอนนี้หละ? มันจริงมั้ย ถ้ามันไม่จริง แล้วแทนเป็นแบบนี้เพราะผม ผมจะยินดีที่มีความสุขแบบนี้ต่อไปมั้ย หรือเลือกที่จะทำให้แทนกลับมาเป็นคนเดิม แล้วความสุข ณ ตอนนี้อาจจะหายไป ทั้งหมดคือคำถามที่ผมยังไม่กล้าหาคำตอบด้วยตนเอง..

"แทน.." ผมเขย่าไหล่แทนพลางเรียกเบาๆ

"หืม คะ...? แทนตอบผมโดยยังคงหลับตาซบไหล่ผมอยู่ ท่าทางเธอจะเพลียจริงๆ

"เราถามอะไรหน่อยสิ.." ผมเริ่มต้นถามเธอ

"ว่าไงคะ..?"

"ถ้าแทนมีพลังวิเศษ ที่ทำให้ใครเปลี่ยนความคิดได้ แทนจะใช้พลังทำอะไร"

แทนเงียบไปพักหนึ่งแล้วก็ตอบกลับมาโดยที่ยังคงหลับตาซบไหล่ผมว่า

"แทนจะใช้พลังให้เปลี่ยนความคิดนักโทษ ให้กลายเป็นคนดี เปลี่ยนใจคนใจร้ายให้กลับตัวกลับใจ และอาจจะเปลี่ยนความคิดลุงบางคนไม่ให้ยึดติดกับอำนาจมั้ง.." ประโยคสุดท้ายของเธอทำเอาผมยิ้มเบาๆ แน่นอนว่าเธอไม่รู้ถึงพลังนี้ แต่คำตอบที่เธอตอบมาก็เป็นคำตอบที่บ่งบอกถึงสภาพจิตใจที่ใสซื่อของเธอ เพราะคำตอบที่เธอว่ามา ไม่มีข้อไหนที่เธอได้ประโยชน์โดยตรงเลย ทำให้ผมเริ่มย้อนมองตัวเอง ตั้งแต่วันแรกๆที่ผมรู้สึกถึงพลัง ผมก็ใช้พลังในการเปลี่ยนแปลงความคิดของคนอื่นเพื่อประโยชน์ตัวเองทั้งนั้น

"แล้ว.. แทนไม่อยากจะใช้พลังนี้ไปเปลี่ยนความคิดดารานักร้องหรือคนที่แทนชอบ ให้มาชอบแทนบ้างเหรอ.." ผมกลั้นใจถามกลับไป ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะกลั้นใจลุ้นคำตอบทำไม เพราะเธอก็คงไม่รู้อยู่ดีว่าผมหมายถึงอะไร

ฟี๊~ เสียงกรนเบาๆดังมาจากแทนที่กำลังพิงซบไหล่ผมอยู่ และนั่นก็ทำให้ผมรู้ว่า เธอคงหลับและปิดสวิตช์นอนไปแล้วแหละ

##############

ผมที่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า กลับพบว่าแทนได้ตื่นขึ้นมาก่อนแล้ว เธอรู้ว่าวันนี้ผมมีเรียนเช้า เลยตื่นมาโจ๊กให้ผม ซึ่งก็ไม่ยากเย็นอะไร เพราะโจ๊กสำเร็จรูปนั้นผมมีอยู่เต็มตู้อยู่แล้ว

"อ่าว ตื่นพอดีเลย แทนมีคลาส 8 โมงครึ่งใช่มั้ย รีบไปอาบน้ำแล้วมากินข้าว แทนทำไว้ให้แล้ว เดี๋ยวแทนไปส่งที่มหาลัย" เธอหันมาเห็นผมตื่นพอดีในระหว่างที่กุลีกุจอจัดโต๊ะอาหาร ความรู้สึกผมตอนนี้มันเหมือนเป็นคู่รักที่แต่งงานแล้วด้วยซ้ำ  ทั้งๆที่เราเพิ่งจะพัฒนาความสัมพันธ์กันได้แค่ไม่กี่วัน มันคงเป็นผลจากพลังของผมจริงๆ

"ทำไมแทนรีบตื่นจัง แถมมาทำโจ๊กให้ด้วย" ผมเดินเข้าไปกอดเธอที่อยู่ในชุดเมื่อวาน เธอกลิ่นยาสีฟันจากห้องน้ำทำให้ผมรู้ว่าเธอคงล้างหน้าแปรงฟันแล้ว เธอคงจะแวะไปส่งผมที่มหาลัยก่อนค่อยกลับไปอาบน้ำแต่งตัวที่คอนโดของเธอ

"ก็ต่อมีเรียนเช้านี่นา แถมแทนต้องไปถ่ายรูปด้วย จำไม่ได้เหรอ" เธอยิ้มตอบผมในวงแขน

ผมใช้เวลาไม่นานนักกับการทำธุระส่วนตัว และมื้อเช้ามื้อนั้น ก็ทำให้ผมเริ่มคิดถึงสิ่งที่อิงเคยทำให้ผม แม้ว่าแทนและอิงจะเป็นผู้หญิงคนละสไตล์ แต่เมื่อไหร่ที่ผมได้ใช้เวลาอยู่กับพวกเธอแล้ว มันก็ทำให้ผมมีความสุขมากไม่ต่างกัน มันคงจะดีที่ผมสามารถช่วยให้อิงกลับมาเป็นคนเดิมได้ และแม้ว่าอิงจะผ่านอะไรมา ผมก็พร้อมจะยอมรับ และมันคงจะดียิ่งกว่านั้น ถ้าการกลับมาของอิงนั้น สามารถอยู่ร่วมกับแทนได้ แม้ว่าผมยังไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าควรจะทำแบบนั้นมั้ย

รถของแทนขับออกไปจากจุดที่ส่งผมไปหน้ามหาลัย เพราะเราไม่อยากให้ใครเห็นเธอในสภาพที่ยังไม่ได้อาบน้ำแต่งตัวแบบนี้ มันคงดูไม่ดีนัก แต่แม้ว่าผมจะพยายามหลบเลี่ยงแค่ไหน ก็ยังไม่พ้นสายตาสัปปะรดของเพื่อนตัวดีของผมอยู่ดี

"มึง ไอ้เชี่ยต่อ มึงมายังไง" ไอ้อ้นมาจากไหนไม่รู้ อยู่ดีๆมันก็วิ่งมาแล้วชะลอมาเดินข้างผมที่กำลังเดินเข้ามหาลัย

"อ่าว อ้น โผล่มาจากไหนวะ" ผมตอบด้วยความสงสัย เพราะเมื่อกี๊ผมก็ดูดีแล้วว่าไม่มีเพื่อนหรือคนรู้จักแถวนี้ ถึงได้บอกให้แทนส่งผมลงตรงนี้

"เดินมาสิ คอนโดกูอยู่ใกล้แค่นี้" ผมโกหกมันไป เพราะยังไม่อยากให้มันรู้ความสัมพันธ์ของผมกับแทน

"ตอแหล กูเห็นมึงลงจากรถแทน" ไอ้อ้นพูดมาซะผมสะอึก มันเห็นแล้วมันจะถามทำไม

"แล้วมึงจะถามกูทำไมวะ ไปๆรีบไป เดี๋ยวเช็คชื่อไม่ทัน" ผมบ่นมันพลางเร่งฝีเท้าและเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง

"มึงไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง มีอะไรไม่อัพเดทกูเลย แทนมาส่งมึงได้ไง" มันพยายามจะรู้ให้ได้

"เออน่า เดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง เรื่องมันยาว.." ผมพยายามถ่วงให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

"มึงมันมารหัวใจของกู มึงมาแทรกตรงกลางระหว่างกูกับแทน อุตส่าห์จะได้ทำงานคู่ด้วยกันสองคนแล้วสิ มึงนี่นะ ร้ายกาจจริงๆ" มันบ่นอุบอิบไปเรื่อย

ผมยังไม่เคยเห็นไอ้อ้นมีแฟน แม้ว่ามันจะไม่ได้หน้าตาแย่อะไร ถึงจะไม่ได้หล่อก็เถอะ มันเคยบอกผมว่า ถ้ามันมีแฟนตอนนี้ ก็เหมือนเอาม้ามัสแตงไปขังไว้ในคอกเล็กๆ เพราะธรรมชาติของม้ามัสแตงจะต้องการพื้นที่กว้างหลายเอเคอร์เพื่อวิ่งในทุกๆวัน ถ้ามันมีแฟนตอนนี้ ก็เหมือนถูกคอกเล็กๆขังดีๆนี่แหละ

แต่ไอ้อ้นก็ยังคงเป็นไอ้อ้นแหละครับ มันบ่นว่าผมแย่งแทนไปจากมัน แต่ไม่ทันไร มันก็แซวสาวคณะบริหารระหว่างทางที่เราเดิน  เห้ออ.. เหนื่อยใจกับมันจริงๆ

"อ้น.. กูถามอะไรอย่างดิ" ผมหันไปถามไอ้อ้นที่เดินผิวปากอย่างอารมณ์หลังจากโดนสาวคณะบริหารคนเมื่อกี๊ด่า โทษฐานที่มันไปแซว

"ว่าไงมึง"

"ถ้ามึงมีพลังวิเศษที่เปลี่ยนความคิดคนได้ แบบอารมณ์โน้มน้าวใจคนให้เปลี่ยนมาคิดแบบที่มึงต้องการได้อะ มึงจะใช้พลังไปทำอะไร"

อ้นเงยหน้ามองฟ้านิดนึงพลางทำท่าครุ่นคิด แต่ใช้เวลาไม่นานนัก มันก็ตอบผมด้วยท่าทีมั่นใจในคำตอบว่า

"กูจะเปลี่ยนความคิดสาวๆ แล้วเย็ดแม่งให้หมดเลย ฮ่าๆๆๆ"

ครับ นั่นแหละ ไอ้อ้น เพื่อนสนิทคนเดียวของผมที่ผมต้องขอบอกว่า มันเป็นคนสัปปะดนที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอแล้ว

###########

วันนี้ผมมีเรียนถึงแค่ 11 โมง เป็นเรื่องปกติที่ผมจะไปกินข้าวกับไอ้อ้น ที่จริงแล้วไอ้อ้นมันมีเพื่อนกลุ่มอื่นเยอะ จริงๆต้องบอกว่ามันเป็นคนกว้างขวางในมหาลัยเลยแหะ แต่มันดูจะสนิทกับผมที่สุด มันบอกผมว่า เพื่อนกลุ่มอื่นมีแต่พามันแย่ลง ชวนเที่ยว ชวนเสีย แต่ผมกลับชวนมันเรียน ทั้งๆที่ผมก็เรียนไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้น

ที่จริง เรารู้จักกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งละ แต่เริ่มจะมาสนิทกันจริงๆก็ตอนปีสอง ผมมารู้ทีหลังว่าจริงๆแล้วมันอายุมากกว่าผมปีนึง แต่มันรีไทร์มาจากมหาลัยอื่นเพราะมันเที่ยวซะเยอะ พอมาเข้าที่มหาลัยนี้ ปีแรกก็เหมือนจะดี แต่ก็เจอเพื่อนเที่ยวอีก มันรำคาญแม่มันบ่น มันเลยตัดใจไม่ค่อยไปไหนกับเพื่อนกลุ่มอื่น มาแต่กับผม ก็อย่างที่บอก ผมไม่ค่อยได้เที่ยวอะไรเท่าไหร่

วันนี้ก็เหมือนวันอื่นๆ ที่มีเรียน เรานั่งกินข้าวกันอยู่ที่โรงอาหารของมหาลัย และเป็นธรรมดาที่ในระหว่างกินข้าว ไอ้อ้นมันจะชวนผมมองสาวคนนู้นคนนี้ และให้คะแนนเพื่อเปรียบเทียบกัน วิธีก็ง่ายๆ เกณฑ์อยู่ที่ 10 คะแนน ถ้าสาวคนที่ว่าสวยในระดับตำนาน จะมี 10 คะแนน ถ้าสวยในระดับแม่ของลูก ควงออกงานได้ จะมี 9 คะแนน ถ้าสวยหรือน่ารักในระดับ โอเค จะมี 8 คะแนน คะแนนต่ำสุดของมันคือ 7 คะแนน ซึ่งหมายถึง 'ถ้าได้ก็ดี' โดยมันให้คะแนนแทนอยู่ที่ 9/10 ซึ่งมันบอกผมว่า แทนยังไม่ได้สวยระดับตำนาน แต่ก็ดีพอเป็นแม่ของลูกมันได้ ซึ่งผมก็แอบคิดในใจตอนนั้นว่า เขาอยากเป็นแม่ของลูกมึงด้วยเหรอ

ผมยังไม่ทันจะกินข้าวหมดจาน อยู่ดีๆไอ้อ้นที่นั่งตรงข้ามผมก็ตาลุกวาวแล้วพะยักพะเยิดเรียกผมให้หันไปดู

"มึงๆๆๆๆๆๆๆ กูเจอตำนานวะ กูให้ 11 เต็ม 10 เลย เชี่ยยยยยยย ทำไมไม่เคยเห็นมาก่อนวะ" อ้นมันพูดจนผมแปลกใจ คะแนนสูงสุดที่มันเคยให้คืน 9 เต็ม 10 ซึ่งก็คือแทนนั่นเอง แต่ครั้งนี้มันให้ 11 เต็ม 10 เลย ซึ่งมันจะมีใครที่สวยหรือน่ารักในระดับที่ทำให้ไอ้อ้นตาค้างได้ขนาดนี้เหรอ

ผมหันกลับไปดูในทิศทางที่มันชี้ แล้วผมก็ต้องตาค้าง ไม่ใช่เพราะความสวยหรือความน่ารักระดับ 11 เต็ม 10 อย่างที่ไอ้อ้นมันบอก แต่เพราะนักศึกษาสาวกระโปรงทรงเอสั้น สะพายกระเป๋าชาแนลสีดำที่กำลังเดินมาทางโต๊ะเราคนนั้น คือคนที่ผมรู้จักต่างหาก..

ครับ.. ยัยอีฟนั่นแหละ ผมยอมรับว่าอีฟในชุดนักศึกษานั้นมีออร่ายิ่งกว่าปกติเยอะ แต่ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าเธอเรียนที่นี่

อีฟเดินตรงเข้ามาที่โต๊ะเราท่ามกลางสายตาของผู้ชายทั้งโรงอาหาร ที่คงเห็นออร่าความสวยในแบบเดียวกับที่พวกเราเห็น แล้วเธอก็มานั่งข้างๆผม

"สวัสดีค่ะพี่ต่อ" เธอหันมาพูดกับผมที่กำลังอึ้งอยู่

"สวัสดีครับ รู้จักกับไอ้ต่อเหรอ ผมชื่ออ้นนะครับ ไม่ทราบชื่ออะไรครับ" ไอ้อ้นรีบกุลีกุจอแนะนำตัว

"อีฟค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะพี่อ้น อีฟรู้จักกับพี่ต่อค่ะ พอดีมีงานที่ต้องทำด้วยกัน" เธอหันไปพูดกับอ้น โดยประโยคสุดท้ายหันมามองหน้าผม

"ยินดีที่รู้จักคนสวยๆอย่างน้องอีฟเช่นกันครับ อีฟเรียนที่เหรอ" อ้นถาม

"ใช่ค่ะ อีฟเรียนปี 2  บริหารค่ะ" อีฟตอบกลับยิ้มๆ

"พูดไทยชัดมากๆเลย เป็นลูกครึ่งไทยเหรอครับ"

"ใช่ค่ะพี่อ้น"

"ไอ้ต่อนะไอ้ต่อ มีน้องน่ารักๆแบบนี้ ทำไมมึงไม่พูดถึง ไม่แนะนำให้กูรู้จัก ต่อมันนิสัยแบบนี้แหละครับน้องอีฟ มีอะไรไม่ค่อยแนะนำเพื่อนเท่าไหร่" ต่อหันมาด่าผมที่กำลังอึ้งข้าวเต็มปากอยู่และไม่รู้จะตอบอะไร ประโยคสุดท้ายของมันหันมาคุยกับอีฟ

ผมไม่ทันได้สังเกตุว่า ตอนนี้โต๊ะเราเป็นจุดสนใจของคนทั้งโรงอาหาร เพราะนักศึกษาสาวลูกครึ่งที่ใส่กระโปรงสั้นทรงเอแล้วทำให้ดูเอ๊กแตกนั้นนั่งกับผู้ชายหน้าจืดสองคน โดยแทบไม่มีอะไรที่เหมาะสมกันเลย

"พี่ต่อคะ วันนี้เรามีนัดนะคะ พอดีอีฟลืมเอาโทรศัพท์มา โชคดีเจอพี่ต่อพอดี" อีฟหันมาพูดกับผม

"เอ้อ.. ระ เรานัดกันเหรอ" ผมไม่รู้จะตอบว่าไง จะปฏิเสธก็กระไรอยู่ เพราะยังหาเหตุผลมาอธิบายไอ้อ้นไม่ได้ และผมรู้ว่า ผมต้องออกจากสถานการณ์นี้ให้เร็วที่สุด เพราะหากผมอยู่นานไปกว่านี้ มีหวังไอ้อ้นได้บีบคอเค้นถามผมเกี่ยวกับน้องอีฟแน่

"นัดเหรอ นัดไปไหนกัน ไอ้ต่อ แล้วมึงจะไปไหนมึงบอกแทนยัง" ไอ้อ้นพูดแทรกขึ้นมาอย่างไม่มีมารยาท แน่นอน ฟังดูก็รู้ว่ามันพยายามกั๊ก ผมชักจะหมั่นไส้มันจริงๆซะแล้วสิ

"เรานัดกันไปทำธุระสองคนค่ะพี่อ้น เนี่ยดูซิ พี่ต่อเขายังจำไม่ได้เลย" อีฟหันไปทำเสียงน่าสงสารกับอ้นซึ่งผมฟังดูก็รู้ว่าเธอพยายามจะแกล้งผม

"ไอ้เหี้ยต่อ มึงมันเลว มึงนัดไม่เป็นนัด แถมยังไม่บอกแทนด้วย" ไอ้อ้นหันมาด่าผม มันย้ำเรื่องแทนอีกแล้ว มันคงคิดว่า ถ้าพูดเรื่องแทนแล้วอีฟจะได้เลิกนัดกับผมอะไรงี้มั้ง

"เอ้อ.. จะ.. จำได้สิ เรานัด เอ่อ นัดกันกี่โมงนะ" ผมเนียนทำเป็นรู้เรื่องนัด แล้วหันไปถามอีฟที่นั่งลอยหน้าลอยตาอยู่

"ตอนนี้ค่ะ" อีฟหันมาตอบยิ้มๆ

"เชี่ยยย ไอ้ต่อ มึงนัดกับน้องเค้าแล้วลืมจนให้น้องเค้ามาตามเนี่ยนะ มึงมันเลวมากๆ น้องอีฟครับ ไอ้ต่อมันคงติดธุระกับแทนแหละมั้ง เพื่อนเราอีกคนอะ ไม่รู้เพื่อนหรือแฟนมันนะ แต่พี่อะว่างบ่ายนี้ น้องอีฟมีธุระอะไร ให้พี่ช่วยมั้ยครับ" อ้นด่าผมแล้วก็หันไปบอกอีฟพลางพยายามพูดเพื่อดิสเครดิตผม

"อิอิ พี่อ้นตลกอะ พี่ต่อเค้าว่างค่ะ เค้านัดกับอีฟไว้แล้ว ยังไงก็ต้องไป ใช่มั้ยคะพี่ต่อ" อีฟพูดกับอ้นแล้วหันมาถามผม

"เอ้อ ครับ" ผมจะตอบอะไรได้ละ

"งั้นเราไปกันเลยนะคะ ไว้เจอกันนะคะพี่อ้น" อีฟลุกขึ้นพลางก้าวขาข้ามเก้าอี้ยาวของโรงอาหาร และผมรู้ว่าในจังหวะที่เธอก้าวข้ามเก้าอี้นั้น คงไม่รอดพ้นสายตาของหนุ่มๆที่จ้องขาขาวสวยของเธอเป็นแน่

"เอ้ออ กูไปละอ้น ไว้เจอกัน" ผมลุกขึ้นตามอีฟแล้วหันไปบอกไอ้อ้น

"เชี่ยเอ้ยยยย กูเกลียดมึงไอ้ต่อ สัสๆๆๆๆ" อ้นบ่นงุบงิบอะไรของมันไปเรื่อยในขณะที่ผมกับอีฟกำลังเดินออกมาพร้อมกับสายตาของคนทั้งโรงอาหาร


############

ผมกับอีฟเดินห่างออกมาจากโรงอาหารได้ไม่ไกล ระหว่างทางไม่มีใครพูดอะไร และผมก็ยังไม่อยากจะถามอะไรเธอมาก แต่แล้วก็เป็นอีฟที่เอ่ยปากขึ้นมา

"พี่ต่อ วันนี้จะมีบรีฟงาน เรียกว่าเป็นงานแรกของพี่ดีกว่า เดี๋ยวสตีฟจะบรีฟให้" อีฟหันมาบอกผมในขณะที่เราเดินด้วยกัน

"งานอะไรอะ แล้วพี่เพิ่งฝึกได้แค่นี้ จะทำได้เหรอ" ผมยังไม่แน่ใจในความสามารถของตัวเองนัก


"ได้สิ ความสามารถพี่อะไม่ใช่เด็กๆแล้ว แต่จิตใจอะไม่แน่" อีฟปรายหางตาเบ้ปากมามองผมอย่างหมั่นไส้

"ว่าแต่เอกสารที่ให้ไปเมื่อวานอะดูยัง" อีฟถามขึ้นมา

"หือ..?" ผมงง เอกสารอะไร

"เอกสารที่อยู่ในถุงที่ให้ไปเมื่อวานไง" อีฟขมวดคิ้วบอก

"เอ้อ.. ยังเลย แหะๆ"

"นั่นไงว่าแล้ว เมื่อคืนเพลินจนลืมเลยละสิ จะไหวมั้ยเนี่ย" อีฟพูดพลางส่ายหัวเบาๆอย่างเอือมระอา

"เดี๋ยว.. เมื่อคืนอะไร" เชี่ยละ ผมลืมนึกไปว่าอีฟอยู่ห้องข้างๆ แล้วงี้เหตุการณ์ที่ระเบียง..

"ใช่ ได้ยินชัดเจนเป็นเสียงเซอราวด์เลยแหละ" อีฟเบ้ปากพูด

"......" ผมก้มหน้าเดินไม่รู้จะตอบอะไร ผมหมั่นไส้ยัยนี่จริงๆ คนอื่นอาจจะเห็นว่าเธอดูน่ารัก เซ็กซี่ โดยเฉพาะตอนอยู่ในช่วงนักศึกษาแบบนี้ แต่สำหรับผมแล้ว อีฟกวนประสาทที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอแล้ว ซักวันผมจะจับยัยนี่กดให้ได้

"ไม่มีวัน" อยู่ดีๆอีฟก็พูดขึ้นมา ผมลืมนึกไปว่า เธอรับรู้ได้ว่าผมคิดอะไรนี่นา แต่ก่อนที่จะได้ว่าอะไรกันต่อนั้น ทันทีที่เราเดินพ้นมุมกำแพงประตูรั้วใหญ่ของมหาลัย เราก็พบกับสองคนที่เราที่เลี้ยวเข้ามาพอดี และหนึ่งในนั้นคือคนที่ผมอยากเจอที่สุด ณ ตอนนี้



สวัสดีครับ วันนี้มาช้านิดนึง พอดีเพิ่งถึงบ้าน ตอนนี้เริ่มจะเข้มข้นขึ้นหน่อยๆแล้ว ผมอ่านดูมีหลายคนสงสัยหลายจุด แต่อยากให้อดใจรอ เดี๋ยวจะค่อยๆเฉลยปมที่สงสัยนะครับ แต่ละตอนมันค่อนข้างยาว การดำเนินเรื่องอาจจะช้าไปบ้าง แต่อยากให้รายละเอียดครับ ต้องขออภัยด้วยครับ

ปล.มาเล่นเกมสนุกๆกัน อาจจะยากหน่อย แต่อยากให้ลองทายกันเล่นๆว่า งานแรกที่สตีฟจะให้ต่อทำนั้น คืออะไร มันค่อนข้างกว้างมากๆ อาจจะไม่มีคนตอบถูกก็ได้ ถือว่าทายสนุกๆละกันนะครับ

ปล.2 คอมเม้นท์เพื่ออ่านตอนจบของ EP นี้ครับ





 


เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

automilo

ขอเดาว่าให้โน้มน้าวคนที่กำลังทำความผิดให้เลิกทำ 555 โลกสวย

วสันต์ ชาญวิทย์

เรื่องนี้สาวๆเพียบเลยครับแต่ละคนนี่น่าสนใจมากๆ

adof13


dawdom


kookkaitong

อีฟสวยปานนั่นต้องมีเสียบแล้ว

Korn Phawat

เรื่องนี้เคยคิดอยู่เหมือนกันแนวสะกดจิต

Krit Tongkon

คนนึงก็สวย อีกคนก็ดี คนนี้ก็เอ็กซ์ เลยจัดหมดเลย

chiratzz

พี่ต่อ สาวๆเพียบเลยนะะะะะะ ขอบคุณเรื่องสนุกๆครับ

banana191


jackkie

ขอบคุณ​ครับ​ผู้​เเต่ง​สนุกดี​ครับ​เล่าเรื่อง​ชวน​ตื่นเต้น​และ​น่า​ติดตาม​  นายต่อคงต้องปรับตัวเยอะพอสมควร​ ส่วนอีฟเหมือนตัวเชื่อม​ แทนค่อนข้างสวยใสซื่อ​แต่อดห่วง​ อิงจริงๆครับ

ananchai2002

ขอให้มาต่อเนื่องอย่านี้ตลอดนะครับ

akuzho

ขอบคุณครับสนุกดีน่าติดตามมาก

NNGGOO

สตีฟอาจให้ต่อฝึกควบคุมอีฟก่อนเลย ต้องผ่านด่านยากให้ได้

Asura4237