ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_llOUllnJllUUllSJllSJ

จ้าวโลก EP.8 (NTR/Harlem/Super Power)

เริ่มโดย llOUllnJllUUllSJllSJ, มีนาคม 02, 2021, 05:11:14 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

llOUllnJllUUllSJllSJ

สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นสมาชิก xonly8 อ่านเต็มได้ที่ https://fictionlog.co/b/6053b2ece9cbb4001caf362f

เหมือนที่เคยบอกไปวันก่อนๆ เราไม่สามารถคาดเดาได้หรอกว่าชีวิตเราจะเจอกับเรื่องราวอะไร เมื่อเช้าผมตื่นมาท่ามกลางบรรยากาศของความรักที่แทนมอบให้ แต่ผมก็รู้สึกได้ว่า พายุฝนเริ่มตั้งเค้าดำทะมึนในนาทีที่อีฟปรากฏตัว และดูเหมือนว่าจะยังไม่รู้ตัวว่า ตอนนี้ฝนเม็ดแรกได้เริ่มกระหน่ำลงมาแล้ว

"เอ้อ.. พี่ไม่ได้ตั้งใจจับมือนะ" ผมบอกอีฟไปอย่างเขินๆ

"รู้หรอกน่า อีฟสัมผัสได้ ลืมไปแล้วเหรอ" อีฟตอบมาด้วยเสียงเรียบ

"เออ นั่นสิเนอะ ลืมไป.. งี้พี่ก็คิดอะไรอีฟก็รู้ทันหมดสิ แหะๆ" ผมหัวเราะแหยๆเปลี่ยนเรื่อง แต่มือยังเนียนจับมืออีฟอยู่นะ

"ก่อนที่จะคิดอะไร เลิกทำเนียนมาจับมืออีฟแล้วหันไปดูที่กระจกข้างนอกนั่นได้แล้ว" อีฟว่าพลางชักมือกลับแล้วหัวเราะในลำคอราวกับเธอกำลังจะเยาะเย้ยในโชคชะตาของผม

นั่นแหละครับ ก็อย่างที่ผมบอกว่าเราคาดเดาอะไรในชีวิตไม่ได้ เพราะความสุขของผมในตอนเช้าต้องกลับกลายเป็นเรื่องปวดหัวในทันทีราวกับฟ้าผ่าเปรี้ยงท่ามกลางพายุกระหน่ำ เพราะแทนกำลังยืนมองเราสองคนจับมือกันจากนอกกระจกร้าน

เออ ผมยอมรับแหละ ว่าก็มีแอบคิดลามกกับอีฟบ้าง ใครจะไม่คิดละ ผู้หญิงสวย ขาว น่ารัก ลูกครึ่ง ออร่ากระจายมานั่งประคบน้ำแข็งให้ นี่มันซีนพระเอกนางเอกชัดๆ แต่ความซวยของผมคือ ผมไม่ได้ตั้งใจจะจับมืออีฟ อย่างน้อยก็ในตอนนั้น มันแค่บังเอิญมือไปชนกันและกลายเป็นไปจับมืออีฟพอดี

"แทน! มาแล้วเหรอ เข้ามาๆๆ" เสียงผู้หญิงโต๊ะข้างๆโบกไม้โบกมือเรียกแทนที่กำลังมองหน้าผมอยู่ สีหน้าของแทนราบเรียบไม่สื่อถึงอารมณ์ใดๆ ก่อนที่เธอจะหันไปยิ้มให้เพื่อนเธอแล้วผลักประตูเข้ามาและทำเมินราวกับผมไม่ได้นั่งอยู่ตรงนั้น

"มาแล้ววว โทษทีมาสาย ไม่รู้จะแต่งตัวยังไงดี" แทนเดินไปนั่งกับเพื่อนสองคนที่นั่งที่โต๊ะนั้นอยู่ก่อนแล้ว เธอคงนัดเพื่อนมาเจอกันที่นี่ก่อนจะไปถ่ายรูปกัน ซวยจริงๆเลยผม

"ไม่เป็นไร พี่ต้นบอกว่าเลทนิดนึงเหมือนกัน" หนึ่งในสองสาวบอก

"ไม่เป็นไรหรอก ถ้าเป็นพี่ต้นอะให้อภัยได้ คนอะไรหล่อซะขนาดนั้น" ผมสาบานได้ว่า ผมได้ยินเสียงแทนพูดดังขึ้นราวกับจงใจให้ผมได้ยิน

"แหมๆ คนนี้อ่ะผัวกู" เพื่อนแทนอีกคนพูดซึ่งดูก็รู้ว่าคงมโนขำๆ แหม.. สาวๆสมัยนี้

"จ้ะ ผัวมึง แต่ผัวมึงเพิ่งมาทักมาชวนกูไปถ่ายรูปที่บางแสนอยู่เลย" แทนพูดเสียงดังอีกแล้ว สาบานได้ว่าแทนไม่ใช่คนเสียงดังแบบนี้

"เห้ย ตอนไหน เมื่อไหร่" เพื่อนของเธอถาม

"ไม่บอกย่ะ ตอนแรกก็คิดว่าจะไม่ไปหรอก แต่ตอนนี้ชักลังเลแล้วสิ.." แทนพูดพลางชำเลืองหางตามองมาที่ผม

"ไม่ได้~!! ไม่ให้ไป" ผมทนไม่ไหวลุกขึ้นมาพูดเสียงดังท่ามกลางความงงงวยของเพื่อนสองคนของเธอ แน่นอนสิ พวกเธอยังไม่รู้จักผมนี่นา

"คะ?" แทนทำหน้างงๆ มองหน้าผมหรา ซึ่งใครๆก็ดูออกว่าเธอแกล้งทำ

"แทน.. เอ้อ ขอคุยด้วยหน่อยสิ" ผมทำหน้าตาน่าสงสารพลางออดอ้อนแทน

"เรารู้จักกันด้วยเหรอคะ..?" แทนตอบกลับมา เห้อ.. ผมไม่รู้จะอธิบายให้เธอฟังยังไงดี คือถ้าเธอฟังผมอธิบายก็คงจะเข้าใจได้แหละนะ แต่นี่เธอไม่ฟังเลยนะสิ

"อย่าทำอย่างนี้สิแทน.." ผมพยายามทำหน้าตาน่าสงสารที่สุดเท่าที่จะทำได้ละ หวังว่าเธอจะเห็นใจนะ

"ไปกันเถอะพวกแก เดี๋ยวพี่ต้นรอนาน" แทนลุกขึ้นแล้วชวนเพื่อนเธอทั้งสองคนไป โดยเธอเน้นคำว่าพี่ต้นแล้วก็มองมาที่ผม ราวกับว่าจะประชดผมยังไงยังงั้น.. เอ่อ.. ก็ประชดแหละ ใครๆก็ดูออก

"เอ่อ.. ปะๆๆ ไป"

"ขอตัวนะคะ" 

สองเพื่อนสาวของเธอหันมาบอกลาผมแบบงงๆแม้ว่าจะไม่รู้จักกัน และรีบกุลีกุจอเดินตามแทนจนออกนอกร้านไป

ผมทรุดลงกุมหัวกับโต๊ะทันที เมื่อกี๊โดนต่อยเจ็บแก้ม ตอนนี้แทนยังมางอนอีก จะง้อยังไงละเนี่ย

"แปลกแฮะ ทำไมไม่ใช้พลังของพี่ทำให้พี่แทนเค้าหายโกรธหละ" อีฟพูดขึ้นมา

"ไม่รู้สิ.. พี่เริ่มคิดมากแล้ว" ผมพูดเสียงเบาพลางเหม่อมองไปที่ประตูร้าน

"คิดเรื่อง..?" อีฟเลิกคิ้วถาม

"ความสามารถพี่มันดีมากๆเลยนะ แต่.. อีกใจนึงมันก็ทำให้พี่คิดว่า แทนเค้าชอบพี่จริงๆหรือเปล่า ไม่รู้สิ พี่จำได้ว่าตอนนั้นแค่คิดอยากให้แทนชวนพี่ไปคอนโด หลังจากนั้นอะไรๆมันก็เลยเถิด มันมีความสุขมากๆนะ แต่พี่ก็อดถามตัวเองไม่ได้แหละ ว่าถ้าไม่มีไอ้พลังนี้ พี่จะจีบแทนติดเหรอ.. พี่ก็คงเป็นไอ้ขี้แพ้โดนอิงทิ้งนั่งเศร้าคนเดียวอยู่ละมั้งป่านนี้" ผมร่ายยาว

"โถ คุณพี่ขา โดนแฟนทิ้งมันไม่ได้แปลว่าขี้แพ้นี่คะ เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ฮัลโหลววววว" อีฟลากเสียงยาวอย่างหมั่นไส้

"อย่างอีฟจะไปรู้อะไร ชีวิตนี้เคยมีความรักมั้ยเนี่ย ใครจะเข้ามาหามาจีบก็รู้หมด" ผมพูดไปอย่างเซ็งๆ

"เยอะแยะไป แต่อีฟเลือกได้ยะ" อีฟลอยหน้าลอยตาพูดด้วยความมั่นใจ ก็น่าจะมั่นใจอยู่หรอก ใครเห็นอีฟตอนนี้แล้วไม่มองจนเหลียวหลังผมให้ถีบไอ้อ้นเลย จริงๆอีฟน่ารักมากนะ ยิ่งเป็นลูกครึ่งด้วย ตากลมโตดูใสซื่อ จมูกโด่งรับกับใบหน้าเรียวที่ดูก็รู้ว่าไม่ได้ผ่านการศัลยกรรมใดๆ ผิวขาวอมชมพูตามแบบฉบับของสาวยุโรป

"ตกลงพี่จะบอกได้ยัง ทำไมไม่ใช้พลังง้อพี่แทน" อีฟถามขึ้นหลังผมเงียบไปพักใหญ่

"พี่แค่รู้สึกว่า ตอนแทนเข้ามาในชีวิต อาจจะเป็นเพราะพี่ใช้พลัง แต่ตอนนี้แทนงอนพี่ เข้าใจผิด พี่ขอใช้ความจริงใจของพี่ง้อแทนมากกว่า" ผมตอบไปตรงๆ และในตอนนั้นเอง อีฟก็ยิ้มกว้างออกมาในแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ให้ตายสิ ยิ่งฉีกยิ้มแบบนี้ น่ารักชะมัดเลย

ปิ๊งงงงงงง~ เสียงข้อความจากโทรศัพท์ผมดังขึ้นมาอีกครั้ง

Don't trust anyone. 15122020/2000/1366952-10075884

ข้อความแบบเดิมที่ผมเคยได้รับเมื่อสองสามวันก่อนถูกส่งเข้ามาอีกครั้ง ผมขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แล้วเป็นอีฟที่พูดขึ้นมาว่า

"อะไรอ่ะ" อีฟพูดพลางชะเง้อมองโทรศัพท์ผม

"อ๋อ เปล่า ไม่มีอะไรหรอก สงสัยคนส่งข้อความมาผิดอะ" ผมตอบ

"ดูดีๆละกัน" อีฟพูดขึ้นมา ทำเอาผมงง

"หือ ยังไงนะ?" ผมถามอีฟไป

แต่ก่อนที่จะได้คุยอะไรกันต่อจากนั้น สตีฟก็เดินเข้ามานั่งที่โต๊ะเรา

"สวัสดีต่อ อีฟ เป็นไงมั่ง" สตีฟเริ่มบทสนทนาด้วยภาษาไทยสำเนียงฝรั่งเหมือนเคย

"ก็โอเคครับ" ผมไม่รู้จะตอบอะไรดี

"แล้วการฝึกล่ะ ถึงไหนแล้ว" สตีฟหันไปถามอีฟ

"เก่งขึ้นเยอะค่ะ ความสามารถเท่าที่อีฟประเมิน อย่างน้อยน่าจะระดับ 30% ตอนนี้กำลังพยายามฝึกควบคุมค่ะ ช่วงนี้จะใช้พลังในทางลามกซะเยอะ" ประโยคสุดท้ายอีฟชายมามองผมพลางพูดแบบกวนๆ

"ฮ่าๆ ไม่แปลกหรอก เราพิเศษกว่าคนทั่วไป แล้วเราจะใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปทำไมละ จริงมั้ย" สตีฟหัวเราะหันมาบอกผม

"แล้ววันนี้เห็นอีฟบอกมีงานให้ทำ เอ่อ คืออะไรครับ" ผมถามสตีฟ

แล้วสตีฟก็หยิบเอกสารมาส่งให้ผมกับอีฟอ่าน และนั่นทำให้ผมเพิ่งรู้ว่า อีฟก็รู้จักงานนี้พร้อมๆกับผมนั่นเอง

###############

เอกสารที่สตีฟให้ผมกับอีฟนั้น ระบุงานที่เราจะต้องทำกันในวันนี้ แม้ว่าผมจะยังไม่ค่อยมั่นใจในความสามารถตัวเองเท่าไหร่นัก แต่สิ่งสำคัญที่สุด ผมอยากเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับอิง ซึ่งสตีฟรับปากผมตั้งแต่วันแรกที่เจอกันแล้วว่า จะหาทางช่วยอิงให้เร็วที่สุด และถ้าจะมีใครสักคนบอกว่าผมเชื่อคนง่ายละก็ คุณลองมาเป็นผมสิ มาเป็นผมที่ตื่นมาในเช้าวันหนึ่งแล้วมีคนมาบอกคุณว่า คุณเป็นคนมีพลังพิเศษ แล้วพอคุณทดลอง มันดันเป็นเรื่องจริง ทีนี้แหละ ต่อให้คนๆนั้นบอกคุณว่า พรุ่งนี้โลกจะแตก ผมก็ว่าคุณจะเชื่อเต็มร้อยอย่างแน่นอน

และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ผมมุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ตัวเองในงานแรกนี้ให้ได้ อย่างน้อยก็เพื่อจะรีบช่วยอิงให้เร็วที่สุด

ในส่วนของภารกิจนั้น เป้าหมายชื่อเสี่ยอั๋น เป็นไฮโซและผู้กว้างขวางในแวดวงการเมืองโซนสมุทรปราการ เป็นเจ้าของที่หลายพันไร่ทั่วประเทศ แต่อิทธิพลหลักของเสี่ยอั๋นอยู่แถวภาคใต้ฝั่งระนอง พัวผันกับธุรกิจน้ำมันเถื่อน ขนของผิดกฏหมาย รวมไปถึงค้ามนุษย์ในเคสของชาวโรฮิงยา

เสี่ยอั๋นมักจะจัดไพรเวทปาร์ตี้กับเพื่อนสนิท และจ้างออร์แกไนซ์มาจัดงานปาร์ตี้นี้ให้โดยเฉพาะ แน่นอน ในงานจะเต็มไปด้วยเด็กเอ็นเตอร์เทนที่ถูกจ้างมาดูแลแขกในงานด้วย และเพื่อความราบรื่นของภารกิจ สตีฟได้ใช้เส้นสายเพื่อเปลี่ยนออร์แกไนซ์ที่จัดงาน ให้ผับที่ผมทำงานพิเศษอยู่มาจัดงาน และนั่นคือจุดที่ผมสามารถแฝงตัวเข้าไปในงานในฐานะเด็กเสิร์ฟได้

ภารกิจคือ ผมต้องโน้มน้าวและควบคุมจิตใจเสี่ยอั๋น เพื่อให้เซ็นขายโฉนดที่ดินจำนวนหลายพันไร่ที่ระนองให้แก่บริษัทนอมินีของสตีฟ

ในงาน อีฟจะใช้ความสามารถในการรับรู้ความรู้สึก ความคิด และประเมินผลทางจิตวิทยาของเสี่ยอั๋น และคอยส่งสัญญาณให้ผมในทันทีที่สภาพจิตใจของเสี่ยอั๋นพร้อมจะโดนควบคุม

และในทันทีที่ผมควบคุมจิตใจของเสี่ยอั๋นได้แล้ว สตีฟ ที่แฝงตัวเป็นแขกของงาน จะนำเอกสารสัญญาขายที่ดินพร้อมเอกสารโอนโฉนดมาให้ และแน่นอน ในส่วนงานของกรมที่ดินนั้น สตีฟใช้เส้นสายจัดการมาหมดแล้ว สิ่งเดียวที่ต้องการคือลายเซ็นของเสี่ยอั๋นเท่านั้น

และเมื่อเราได้ทุกอย่างที่ต้องการ ก็เป็นอันจบภารกิจ

ผมอ่านเอกสารภารกิจแล้ว แม้ว่านี่จะเป็นงานแรกของผม แต่ผมค่อนข้างแน่ใจว่าไม่ยากเกินไป สิ่งที่ผมต้องทำ ก็แค่ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟเหมือนที่ร้านเท่านั้นเอง แค่เปลี่ยนจากที่ร้านมาเป็นที่บ้านของเสี่ยอั๋น

ว่าแต่.. แล้วอีฟล่ะ?

"เอ่อ สตีฟ แล้วอีฟล่ะ จะเป็นเด็กเสิร์ฟด้วยเหรอ" ผมหันไปถามอีฟพร้อมๆกับที่อีฟเงยหน้ามารอฟังคำตอบ ท่าทางเธอบอกให้รู้ว่า เธอก็สงสัยเช่นกัน

"อีฟจะต้องปลอมตัวเป็นเด็กเอ็นเตอร์เทนตัวท็อปในงาน และก็อย่างที่บอก พยายามทำให้เสี่ยอั๋นเปิดใจให้ได้.." สตีฟบอกหน้าตาย แต่ยังไม่ทันจะจบประโยค อีฟก็โวยวายขึ้นมาก่อน

"เห้ย ไม่ได้ดิ สตีฟ! I can't do this! You have to หาคนอื่น else to ทำงานนี้" ท่าทางอีฟจะไม่อยากทำจริงๆ เพราะเธอโวยวายออกมาเป็นภาษาไทยปนอังกฤษ ก็แหงล่ะ ถ้าต้องทำจริงๆ มันก็ต้องเปลืองตัวแน่ๆ

"ไม่เอาน่าอีฟ ไม่มีใครทำอะไรคุณหรอก ผมจ้างเด็กเอ็นเตอร์เทนมาไว้ในงานหลายคน ที่คุณต้องทำ ก็แค่เป็นหนึ่งในเด็กเอ็นเตอร์เทนพวกนั้นเนียนๆไป ถ้ามีใครพยายามจะทำอะไร คุณก็ให้คนพวกนั้นรับหน้าก็พอ หน้าที่คุณคือพยายามทำให้เป้าหมายเปิดใจ เท่านั้นเอง" สตีฟหันไปอธิบายอีฟที่กำลังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ตอนนี้ แหม.. ผมละขำจริงๆ ก่อนหน้านี้ทำเป็นเก่ง พอเจอภารกิจแรกเท่านั้นแหละ ถึงกับไปไม่เป็นเลย

และทันทีที่ผมคิคเสร็จ สายตาขวางของอีฟก็หันมามองผมทันที ผมลืมตัวอีกแล้วสินะ ว่าเธอเข้าใจความคิดผมได้..

##############

ด้วยการจัดการของสตีฟ ที่เป็นลูกค้าประจำของร้านที่ผมทำงาน ทำให้ข้ออ้างในการย้ายมาจ้างร้านเราเพื่อจัดงานปาร์ตี้ไพรเวทนี้มีน้ำหนัก งานนี้บอสผมไม่ได้มาดูแลด้วยตัวเอง แต่ส่งพนักงานหลายคนมา เหลือบางส่วนไว้ที่ร้าน ผม, อีฟ และ สตีฟต้องแยกกันเข้างาน โดยผมจะเข้างานไปกับพวกเด็กเสิร์ฟ ส่วนอีฟจะเข้างานกับพวกเด็กเอ็นฯ ส่วนสตีฟ ไม่ได้บอกว่าจะเข้างานตอนไหน บอกเพียงแค่ว่า เขาจะมาพร้อมเอกสาร เมื่อเสี่ยอั๋นพร้อมจะเซ็น

บ้านเสี่ยอั๋นค่อนข้างใหญ่ ภายในรั้วบ้านนั้นยังมีพื้นที่สวนรอบด้านอีกเป็นไร่ มีสระว่ายน้ำขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ และบ้านทรงคฤหาสน์ มีวงเวียนกลับรถหน้าบ้าน นี่เป็นบ้านที่ใหญ่ที่สุดที่ผมเคยเข้ามาเลย

แขกในงานมีราว 7-8 คนเท่านั้น เป็นผู้ชายทั้งหมด บางคนดูมีอายุ บางคนหนุ่มหน่อย ผมคิดว่าทั้งหมดน่าจะเป็นเพื่อนในวงการธุรกิจและการเมือง เพราะมีคนหนึ่งที่ผมคุ้นหน้าเหมือนเคยเห็นในทีวี แต่ส่วนที่เยอะและละลานตาไปหมด คือเหล่าสาวๆที่ถูกจ้างมาเอ็นเตอร์เทน ผมนับคร่าวๆน่าจะ 10 กว่าคน บางคนก็ลุกขึ้นเต้น บางคนก็เล่นน้ำอยู่ที่สระว่ายน้ำ ในขณะที่บางคนก็นั่งคลอเคลียบรรดาแขก ที่สำคัญคือ ทุกคนจะใส่บิกินี่ทูพีซจีสตริงกันทุกคน ให้ตายสิ ผมเชื่อว่าผู้ชายในงานต้องมีเป้าตุงกันบ้างแหละ แต่ละคนขาวๆเซ็กซี่ๆกันทั้งนั้น

งานของเด็กเสิร์ฟก็ไม่มีอะไรมาก ก็แค่เสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มในงานนั่นแหละ เราจัดโซนอาหารไว้ติดกับครัว ผมกับไอ้นัท และพนักงานคนอื่นจะต้องเดินเสิร์ฟระหว่างครัวกับโซนจัดปาร์ตี้ ซึ่งอยู่บริเวณสวนริมสระ

ผมได้รับหน้าที่ให้ยืนประจำตำแหน่งตรงโซฟากลม เพื่อคอยรับออร์เดอร์จากแขก นั่นทำให้ผมจะสามารถอยู่ใกล้แขกได้มากที่สุด ผมตั้งใจว่าจะหาจังหวะในการใช้พลังของผมเพื่อทำให้เสี่ยอั๋นเซ็นเอกสาร ทุกอย่างจะได้จบ

แล้วสายตาผมก็สะดุดที่ร่างสวยหุ่นดีที่กำลังเดินเข้ามา

"สวัสดีค่ะเสี่ย" เดียร์ที่ตอนนี้อยู่ในบิกินี่ทูพีซสีชมพู รองเท้าส้นสูง เดินนวยนาดมานั่งข้างเสี่ยอั๋น บอสคงส่งเดียร์ PR อันดับหนึ่งของร้านมาด้วยแน่ๆ

"อ่ามาๆๆ หนูเดียร์ มาแล้วๆ ดื่มๆ" เสี่ยอั๋นขยับให้เดียร์ไปนั่งข้างๆ ตอนนั้นเดียร์ยังไม่ทันสังเกตุเห็นผมที่ยืนอยู่ใกล้ๆ แต่เป็นมุมเยื้องๆข้างหลังเธอ

"เดี๋ยวเดียร์ชงเหล้าให้ค่ะป๋า เอาเหมือนเดิมมั้ยคะ" เดียร์ทำหน้าที่ชงเหล้าทันที

"ไอ้อั๋น หนูเดียร์ลื้อโคตรเด็ดเลยว่ะ" ชายร่างท้วมอีกคนที่ผมไม่รู้จักตะโกนแข่งกับเสียงเพลงจากลำโพงบอกเสี่ยอั๋น ข้างกายของชายคนนั้นมีเด็กสาวในชุดบิกินี่เช่นเดียวกันค่อยชงเหล้าและนั่งคุย

"แน่นอน หนูเดียร์เค้าขี้อ้อน เอาใจเก่ง" เสี่ยอั๋นโอบไหล่เดียร์ที่กำลังชงเหล้าให้

"หนูไม่ได้เอาใจเก่งอย่างเดียวนะคะเสี่ย.." เดียร์พูดพลางยื่นแก้วเหล้าที่เพิ่งชงให้เสี่ยอั๋น

"เอาเก่งด้วยใช่มั้ยวะไอ้อั๋น" ชายร่างท้วมคนเดิมถามกึ่งกระเซ้า

"ของอย่างนี้มันต้องพิสูจน์ว่ะ ฮ่าๆๆๆ" แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะพร้อมกันอย่างอารมณ์ดี

เวลาไม่นานหลังจากนั้น ในขณะที่ทุกคนกำลังนั่งคุยกันพลาง กินเหล้าไปพลาง พร้อมๆกับที่มีหญิงสาวนั่งคลอเคลียกันอยู่นั้น หญิงสาวหุ่นดีในชุดบิกินี่สีดำที่ตัดกับผิวขาวอมชมพูก็เดินเข้ามาในงานอีกคน และนั่นเป็นครั้งที่สองของวัน ที่ผมต้องตาค้างเพราะอีฟอีกครั้ง

อีฟเดินเข้างานมาในงานด้วยกิริยายั่วยวน แค่เธอใส่ชุดธรรมดา ผมก็มั่นใจว่าเธอคงโดดเด่นกว่าใครในงานแล้ว แต่นี่เธออยู่ในชุดบิกินี่สุดเซ็กซี่ บอกตรงๆว่าโคตรน่าเอา

อีฟเหลือบมามองผมตาเขียว ผมลืมอีกแล้วว่าเธอรู้ความคิดคน แล้วเธอก็ไปหาเสี่ยอั๋นที่นั่งกับแขกอยู่ ก่อนจะไปทักทาย

"สวัสดีค่ะ เสี่ยอั๋นใช่มั้ยคะ" อีฟยกมือไหว้สวัสดีอย่างมีจริตพลางไป

"ใช่จ้ะ หนูชื่ออะไร" เสี่ยอั๋นตอบพลางขยับให้อีฟมานั่งอีกข้าง

"อีฟค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเสี่ยนะคะ" อีฟลงไปนั่งไขว่ห้างโชว์ขาอ่อนขาวสวยข้างๆเสี่ยอั๋น ตอนนี้ขวามือของเสี่ยอั๋นคือเดียร์ ซ้ายมือคืออีฟ ทั้งคู่กำลังนั่งคลอเลียเสี่ยอั๋นอยู่

"ยินดีที่รู้จักจ้ะ บ๊ะ! พอลไปหาออร์แกไนซ์เจ้านี้มาจากไหนเนี่ย เด็กมีแต่เด็ดๆ" เสี่ยอั๋นโอบไหล่อีฟพลางกระชับวงแขนเข้าไปแล้วหันไปหาชายคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามซึ่งในตอนแรกผมไม่ทันสังเกตุ แต่พอดูดีๆ ถึงรู้ว่านั่นคือสตีฟ ที่ดูแก่ลงเล็กน้อย หรืออาจจะเพราะแสงน้อยจนผมตาฝาดก็ไม่รู้นะ

"ร้านนี้เด็ดจริงครับพี่อั๋น น้องๆเด็ดกันทุกคน" เสียงพูดไทยสำเนียงฝรั่งจากชายคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามบอกเสี่ยอั๋น และนั่นก็ทำให้ผมมั่นใจว่า คนที่ชื่อพอล คือ สตีฟจริงๆ ว่าแต่.. เขาปลอมตัวเหรอ?

"หนูอีฟ นี่เดียร์ ทำความรู้จักกันไว้นะ" เสี่ยอั๋นแนะนำอีฟกับเดียร์ให้รู้จักกัน

"สวัสดีค่ะพี่เดียร์ อีฟฝากตัวด้วยนะคะ" อีฟหันไปสวัสดีเดียร์ที่กำลังชงเหล้าเพิ่ม แม้ว่าทั้งคู่จะเคยเจอกันมาแล้วที่งานแสดงสินค้า แต่ทั้งสองก็แกล้งทำเป็นไม่รู้จักกัน

"ดีจ้ะอีฟ มาๆ ช่วยป๋าเขากินหน่อย" เดียร์ว่าพลางยื่นแก้วเหล้าให้อีฟ



งานดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็น แขกหลายคนเมื่อเริ่มเมาขึ้น ก็เริ่มนัวเด็กเอ็นฯในงานมากขึ้น ดูเหมือนว่าเสี่ยอั๋นจะจัดให้ทุกคนอย่างเพียงพอ เพราะข้างกายของเพื่อนเสี่ยอั๋นทุกคนไม่เว้นแม้แต่สตีฟ จะมีหญิงสาวในชุดบิกินี่นั่งนัวเนียอยู่ข้างๆกันทุกคน

แม้ว่าอีฟจะพยายามหลีกเลี่ยงแค่ไหน แต่ก็ยังไม่พ้นโดนกอดโดนไซ้อยู่ดี ผมเห็นแล้วก็เริ่มอิจฉาเสี่ยนะ ตอนแรกผมไม่ได้คิดอะไรกับอีฟ ด้วยเพราะนิสัยของเธอที่ชอบกวนประสาทผม แต่พอได้เห็นเธอในชุดบิกินี่แบบนี้ ต้องยอมรับว่าเธอเด่นที่สุดในงานจริงๆ

หลายครั้งที่เสี่ยอั๋นพยายามจะหันมานัวเนียและพยายามล้วงอีฟ ผมก็จะพุ่งสมาธิและโน้มน้าวให้เดียร์เพิ่มเลเวลการนัวเสี่ยอั๋น เพื่อให้เสี่ยอั๋นหันมาสนใจเดียร์แทนอีฟ และนั่นเองที่ผมเห็นสายตาของอีฟที่ส่งมาบอกขอบคุณผม

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าการที่ผมทำให้เดียร์ดึงความสนใจเสี่ยอั๋นเพื่อช่วยอีฟหลายครั้งนั้น ทำให้เดียร์เริ่มสะสมอารมณ์ราคะมากขึ้นเรื่อยๆ ความร้อนแรงของเธอก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน เดียร์ทำทุกอย่าง ไม่ว่าจะเต้นยั่วยวน เคล้าเคลียเสี่ยอั๋น ชงเหล้า หรือแม้กระทั่งลูบไล้เป้ากางเกงของเสี่ย ในขณะที่อีฟนั้นยอมมากสุดแค่กอดและหอมแก้มเท่านั้น และดูเหมือนเธอก็จะพยายามเลี่ยงๆด้วย

ผมต้องเดินเข้าออกโซนครัวหลายรอบ เพื่อเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่ม จากรอบแรกๆที่แขกทั้งหลายนั่งกินกันธรรมดานั้น ก็เริ่มเต้น เริ่มนัวกัน ผมเชื่อว่าหลายคนเห็นแล้วคงเป้าตุงไปตามๆกัน เพราะสาวๆบางคนโดนล้วงโดนควักต่อหน้าเด็กเสิร์ฟนี่แหละ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ปลายทางคืนนี้ของพวกเธอนั้นจะจบลงที่ไหน เอ.. ผมชักจะเป็นห่วงเดียร์กับอีฟแล้วสิ

เวลาล่วงเลยผ่านไป ทุกคนเริ่มสนุกกัน แม้ว่าผมจะช่วยอีฟจากการถูกคะยั้นคะยอให้ดื่มหลายแก้ว แต่ก็มีจังหวะที่ผมต้องเดินไปเสิร์พอาหาร เดินไปเข้าโซนครัว ทำให้อีฟก็ไม่อยู่ในฐานะที่จะปฏิเสธอะไร อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผมจะมองหน้าอีฟและพยายามส่งสายตาเพื่อถามเป็นนัยๆทีไร อีฟก็จะมองกลับมาพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆเป็นสัญญาณว่ายังไม่พร้อมทุกที

ผมยังไม่เข้าใจกลไกการทำงานของสมองมากนัก แรกเริ่มเดิมทีผมเข้าใจว่างานนี้จะง่าย อีฟคงจะไม่เปลืองตัวมากนัก แต่เวลาผ่านไป กลับพบว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จนกระทั่งในรอบหนึ่งที่ผมต้องเดินเอาจานที่ใช้แล้วมาเก็บที่ครัวเพื่อให้พนักงานคอยล้างจานนั้น สตีฟ หรือ พอล ก็ทำทีเดินมาเข้าห้องน้ำ และเมื่อปลอดสายตาคนก็รีบเดินเข้ามาหาผม

"เสี่ยอั๋นยังไม่พร้อมเลย" สตีฟพูดกับผมเป็นคำแรกในงานนี้

"อีฟจะไหวมั้ยสตีฟ ไม่รู้คอแข็งแค่ไหน กินไปหลายแก้วแล้ว ผมก็พยายามช่วยเต็มที่แล้ว" ผมบอกไปด้วยความเป็นห่วงอีฟ

"ผมคิดว่าที่นี่มันเสียงดังเกินและเพื่อนของเสี่ยอั๋นเยอะเกินไป สภาพจิตใจเขากำลังสนุกอยู่ แล้วอีฟได้บอกอะไรคุณบ้างมั้ย" สตีฟประเมินสถานการณ์พลางถามผม คงเผื่อว่าจะมีจังหวะที่อีฟบอกอะไรผมโดยที่เขาไม่ทันได้สังเกตุ

"ผมพยายามส่งสายตาถามอีฟแล้ว แต่เธอก็ส่ายหัวเหมือนยังไม่พร้อมทุกครั้งเลย" ผมบอกสตีฟด้วยความกังวลใจ

"เอาอย่างนี้ เดี๋ยวผมจะพยายามให้เสี่ยอั๋นแยกตัวไปกับอีฟ จะได้อยู่ที่เงียบๆสองต่อสอง เสี่ยอั๋นจะได้โฟกัสที่อีฟอย่างเดียว และเดี๋ยวคุณหาจังหวะแอบตามไปนะ แล้วถ้าได้โอกาสเมื่อไหร่ก็ลงมือเลย เดี๋ยวผมจะตามไปจัดการเรื่องเอกสาร" สตีฟบอกแผนใหม่ที่น่าจะคิดขึ้นมาสดๆ

"เดี๋ยวนะ แยกตัวไปกับอีฟ หมายความว่าไง..? คุณจะให้อีฟ เอ่อ.. ไปกับเสี่ยอั๋นงั้นเหรอ" ผมนึกภาพตาม ท่าทางงานนี้อีฟจะต้องเปลืองตัวกว่าที่คิด

"ใช่ มันเป็นวิธีเดียว เราพลาดงานนี้ไม่ได้ อีกอย่าง คุณก็อยู่ด้วยตรงนั้น ถ้าทุกอย่างพร้อมก็จัดการเลย อีฟไม่พลาดโดนเสี่ยอั๋นปล้ำหรอก" สตีฟพยายามอธิบายผมอย่างเร็ว

"ผมต้องไปแล้ว คอยดูให้ดีว่าเสี่ยอั๋นแยกตัวไปกับอีฟเมื่อไหร่ ให้คุณแอบตามไปเลยนะ"  พูดแล้ว สตีฟก็เดินจากไปทันทีโดยไม่ปล่อยให้ผมได้ถามอะไร

ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า อีฟจะรอดพ้นเสี่ยอั๋นมั้ยคืนนี้ เพราะแม้ว่าแผนการของสตีฟจะฟังดูโอเค แต่นีคืองานแรกของผม ถึงแม้ว่าตอนแรกจะดูง่าย แต่ไปๆมาๆ มันกลายเป็นยากกว่าที่คิดนี่สิ แล้วถ้าผมไม่สามารถโน้นมน้าวจิตใจของเสี่ยอั๋นได้ทัน อีกต้องเสร็จแน่ๆ

ยังไม่ทันจะได้คิดอะไรต่อ อยู่ดีๆก็มีคนดึงมือผม พอหันไปดู กลายเป็นเดียร์ที่กำลังจูงมือผมเดินไปห้องน้ำอย่างเร่งรีบ

"เอ้อเดียร์.." ผมเรียกเธอ พยายามดึงมือไว้ แต่ขาก็ยังคงเดินตามอยู่

เดียร์ไม่ตอบอะไร แต่พาผมมาที่ห้องน้ำอีกฝั่งหลังครัว ห้องน้ำนี้ไม่ค่อยมีคนมาใช้บ่อยนักในคืนนี้ เข้าใจว่าเป็นห้องน้ำสำหรับแม่บ้านหรือคนงานที่มาทำงาน เพราะมันตั้งอยู่นอกตัวบ้านหลักนิดหน่อย ตกแต่งราวกับเป็นห้องน้ำในรีสอร์ตสวยๆ และแม้ว่าจะเป็นห้องน้ำสำหรับแม่บ้าน แต่มันก็ใหญ่กว่าห้องน้ำที่คอนโดผมอีก

"มองหาตั้งนานนนน นึกว่าต่อไม่ได้มาด้วยซะอีก" เดียร์เอื้อมมือไปล็อกประตูห้องน้ำแล้วหันมาเอามือคล้องคอผมพลางมองตาด้วยความหยาดเยิ้ม

"เราเดินไปเดินมาเสิร์พอยู่อ่ะ เดียร์มีอะไรหรือเปล่า" ผมพยายามไม่สนใจหน้าอกอวบที่อยู่ในชุดว่ายน้ำสีชมพูที่กำลังยั่วยวนสายตาผมอยู่

"เดียร์มาวววววว อิอิ" เดียร์ตอบมาเสียงยาวๆ ไม่บอกก็รู้ครับว่าเมา หน้าแดงซะขนาดนี้ ขนาดว่าเธอเป็นคนคอแข็งนะ ตั้งแต่ที่เธอทำงานที่ร้านมา ผมไม่เคยเห็นเธอเมาหนักขนาดนี้มาก่อนเลย

"เดียร์ไปพักก่อนมั้ย ถ้าไม่ไหวขอกลับดีกว่า" ผมบอกเดียร์ไป ที่จริง ผมไม่แน่ใจนักว่าถ้าเดียร์จะพัก จะมีที่พักให้หรือเปล่า ถ้าเป็นที่ร้านก็คงต้องเป็นห้องพักพนักงานแหละ แต่ที่นี่.. ไม่น่าจะมีแฮะ

"เรื่องเมาเดียร์หวายยย แต่ที่ไม่หวายยมันเรื่องอื่นนน อิอิ" เดียร์ตาปรือมองผมแล้วบอก ผมพอจะเข้าใจความหมายของเธอแล้ว แต่ไม่ทันที่ผมจะได้ตอบอะไรกลับไป เดียร์ดันผมให้นั่งลงไปที่โถส้วม แล้วเธอก็ขึ้นมานั่งคล่อมพร้อมกับบดปากกับผมทันที

จ๊วบบบบบบ~

รสขมของเหล้าผสมน้ำลายหวานชะโลมอาบทั่วปลายลิ้นนุ่มที่แฝงไปด้วยความร้อนแรงของเดียร์ แม้จะรู้ว่าผมมีงานต้องทำ และรู้ว่าต้องรีบออกไปดูอีฟ แต่.. ปากผมที่โดนจูบร้อนแรง หน้าอกผมที่มีหน้าอกใหญ่นุ่มมาเบียด และช่วงล่างผมที่โดนสะโพกนุ่มบดคลึงอยู่ เจอเข้าแบบนี้ผมก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน ขอเวลาซัก 5 นาทีคงไม่เป็นไรมั้ง

ผมตอบรับรสจูบนั้น ลิ้นเราสองคนพัวพันกันด้วยความร้อนแรง ระหว่างที่ปากกำลังแลกจูบกัน มือผมก็ค่อยๆลูบไล้จากเอวคอดกิ่วของเธอขึ้นมาจนถึงหน้าอกคู่งาม และเพราะความที่เป็นชุดว่ายน้ำทูพีช ไม่ใช่เรื่องยากที่ผมจะสอดมือเข้าไปบดคลึงเต้าอวบอิ่มนั้นโดยไม่ต้องถอด

"อืมมมม์ อาาาาา " เดียร์ครางในลำคอในขณะที่ผมกำลังบีบเคล้นหน้าอกเธออยู่ ความเซ็กซี่ร้อนแรงของเธอที่ผมแอบมองมาตลอด ทำให้เมื่อมีโอกาส ผมใส่อารมณ์เข้าไปไม่ยั้งจนกลัวว่า หน้าอกของเธอนั้นจะแหลกเหลวคามือผมมั้ย แต่ก็ดูเหมือนว่าเดียร์จะทนรับรสสัมผัสนั้นได้

"เดียร์ไม่ไหวแล้ว เดียร์อยาก ต่อเอาเดียร์เถอะ" เดียร์ถอนปากออกมาแล้วบอกผมเบาๆ เอวเธอเริ่มบดคลึงหนักขึ้นเรื่อยๆ แก่นกายของผมแข็งจนแทบระเบิดภายในกางเกงตัวที่ใส่นี้ ผมไม่รอให้เดียร์พูดซ้ำ ด้วยสถานที่และสถานการณ์ มันเป็นตัวบีบเร่งให้เราสองคนต้องรีบทำตามใจปรารถนา

เดียร์เอื้อมมือลงมาปลดเข็มขัดกางเกงให้ผม และผมก็ให้ความร่วมมือกับเธออย่างดีด้วยการยกก้นขึ้นในตอนที่เธอพยายามดึงกางเกงผมไปกองไว้ที่ข้อเท้า

"อื้อหืออ ใช้ได้นะเนี่ย" เดียร์เอื้อมมือลงไปจับรูดแท่งของผมอย่างช้าๆ พลางมองหน้าผมอย่างเซ็กซี่ ผมรู้ว่าเวลานี้ คงไม่จำเป็นต้องเล้าโลมอะไรต่อแล้ว และเดียร์ก็คงเข้าใจแบบเดียวกัน เพราะเธอไม่พูดอะไรต่อ แต่จับแท่งของผมตั้งขึ้น พร้อมกับขยับดึงขอบบิกินี่ตรงกลางออกนิดหน่อยแล้วทิ้งตัวลงไปนั่งทับแท่งของผมโดยที่ไม่ถอดมันออก

"อาาาาาา ซี๊ดดด" ผมเผลอร้องครางออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ผิดคาดมาก ผมเข้าใจว่าเดียร์ที่ผ่านประสบการณ์ในชีวิตมาเยอะ เอาจริงๆคือผมไม่แน่ใจว่าเธอผ่านผู้ชายมามากน้อยแค่ไหน แต่กลับกลายเป็นว่า ร่องเสียวเธอกลับคับแน่น ทำให้ความเสียวมาถึงผมอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

"อูยยยย ทำไมของต่อมันแน่นจัง ซี๊ดดด" เดียร์กอดคอบอกผมในจังหวะที่เธอทิ้งน้ำหนักนั่งลงมาเต็มที่แล้ว ตอนนี้แท่งแก่นกายผมเสียบแน่นคาโพรงสวรรค์เธอ และยังไม่ทันที่ผมจะได้ตอบอะไร เดียร์ก็จูบกับผมอีกครั้ง แล้วเริ่มโยกเอวใส่ทันที

"อืมมมมม" เดียร์ครางในลำคอในระหว่างที่เรากำลังแลกลิ้นกัน สองมือผมก็ยังคงสาละวนกับสองเต้าคู่งามนั้น บอกตรงๆว่า เดียร์ดูเซ็กซี่มากๆ เธอยังคงอยู่ในชุดว่ายน้ำ แต่ภายใต้ชุดว่ายน้ำนั้น มือของผมกลับขยำขยี้หน้าอกบวมคู่นั้น และภายใต้ชุดว่ายน้ำนั้น แก่นกายของผมกำลังชำแรกผ่านขอบบิกินี่เข้าสู่โพรงสวรรค์อันคับแน่นและชุ่มชื้น

"ซี๊ดดดดดดด~" เดียร์เริ่มเร่งความเร็วในการขย่มมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับที่สองลิ้นเรายังคงพัวพันแลกน้ำลายกัน

"ดะ เดียร์.. เราเสียววว" ต้องยอมรับว่า แม้สถานที่และโอกาสจะไม่เอื้ออำนวย แต่เซ็กส์แรกของผมกับเดียร์ในสถานการณ์แบบนี้ ก็กระตุ้นอารมณ์ผมได้ค่อนข้างมาก คงเป็นเพราะผมแอบมองเดียร์อยู่ตลอดที่ร้าน หรือแม้กระทั่งตอนที่นั่งกับเสี่ยอั๋น ที่เธอโดนนัวโดนล้วง ภาพเหล่านั้นคงบ่มเพาะให้ผมมีความอยากกระแทกแท่งของผมเข้าใส่เดียร์ และเมื่อโอกาสนั้นมาถึง มันกลายเป็นตัวกระตุ้นชั้นดีที่ทำให้ผมรู้สึกเสียวซ่านโดยไม่ต้องใช้เวลาเล้าโลมใดๆ

"ตะ ต่อ.. เดียร์จะเสร็จแล้ว อ๊าาาาาาา อาาาาาาา" เดียร์เร่งความเร็วขย่มอย่างเร็วจนผมไม่แน่ใจว่า จะมีเสียงดังเล็ดลอดออกไปข้างน้ำข้างๆมั้ย จนในที่สุด ผมก็รู้สึกได้ถึงการตอดรัดที่ช่องคลอดของเดียร์อย่างรุนแรง เดียร์ที่ทนความเสียวไม่ไหว ขบริมฝีปากผมพลางกอดผมแน่น ร่างกายเธอกระตุกจนผมรู้สึกได้

แต่เดี๋ยวก่อน ผมยังไม่เสร็จเลย และผมคงไม่ปล่อยให้เธอเสร็จไปคนเดียวแน่ๆ

"เดียร์ เรายังไม่เสร็จ ขออีกหน่อยนะ ใกล้แล้ว" ผมกระซิบบอกเดียร์เบาๆ เธอหัวโงนเงนตาปรือมองผมแล้วพยักหน้า

"อื้อ" คำตอบสั้นๆออกมาจากปากเธอ แล้วผมก็จับเธอลุก จะให้เธอขย่มผมต่อคงไม่ได้แล้ว ผมจัดท่าทางให้เธอคุกเข่าคลานที่พื้น และผมก็ยังไม่ถอดบิกินี่ของเธอออกเหมือนเดิม  การเอาทั้งๆที่ไม่ถอดชุดนี่มันก็ได้อารมณ์ดีออก แล้วผมก็จับแก่นกายผมจ่อร่องเสียวเธอพร้อมกับแหวกบิกินี่ในจังหวะเดียวกับที่ผมออกแรวดันเอวเสียบเข้าไปสุด

"อ๊าาาา" แม้ว่าเดียร์จะเสร็จมาแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเธอจะยังคงรับรู้ถึงความเสียวได้ เพราะเธอร้องครางทันทีที่ผมเริ่มเสียบแท่งเข้าไป

ปั๊ปๆๆๆๆๆๆๆ เวลาไม่คอยท่า ผมไม่รอให้ค่อยๆโยกเอวแล้ว แต่เริ่มซอยอย่างเร็วทันที ผมต้องการเสร็จให้เร็วที่สุด

"ซี้ดดดดด" เสียงครางของเดียร์ดังลั่นจนผมกลัวว่าอาจจะมีใครได้ยิน แต่ ณ นาทีนี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมขอเสร็จก่อน

"ซี๊ดดด ตะ.. แตกนอกนะคะต่อ ซี๊ดดด.. เดียร์ต้องทะ.. ทำงาน" เดียร์เหลียวหลังหันมาพยายามบอกผมโดยพูดไปครางไป

ผมเร่งความเร็วในการซอยสะโพกแบบเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ในชีวิต สองมือผมจับสะโพกของเดียร์ไว้ไม่ให้หลุดไปไหน จนกระทั่งในวินาทีนั้น ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะเสร็จ แม้ว่าจะพยายามกลั้นแค่ไหน แต่จังหวะนั้นผมคิดว่าไม่ทันแล้ว แล้วทุกอย่างก็หยุดนิ่ง...

ความเสียวของผมยังอยู่ เป็นความเสียวที่ค้างคาเนิ่นนานในความรู้สึก จนผมแทบควบคุมตัวเองไม่ได้ แล้วทุกอย่างรอบข้างกลับนิ่งเงียบสงัด แล้วผมก็ชักแท่งของผมออกมาได้ทันในจังหวะเดียวกับที่น้ำรักขาวข้นของผมพุ่งเปรอะก้นของเธอ โชคดีที่เป็นบิกินี่แบบจีสตริง ทำให้น้ำรักของผมไม่เลอะกางเกงเธอมากนัก

"อืออออ เสร็จแล้วเหรอต่อ" เดียร์ที่ฟุบหน้าลงหันมาถามผม

"อื้อ ดีนะเอาออกทัน" ผมบอกพลางลุกขึ้นดึงมือเดียร์ลุกขึ้นตาม

เดียร์ก้มหน้าก้มตาทำความสะอาด ในขณะที่ผมใส่กางเกงเสร็จก็ช่วยเธอเช็ด

"เมามากมั้ย" ผมถามเดียร์ด้วยความเป็นห่วง

"นิดหน่อย แค่นี้สบ๊ายยย" เดียร์หันมายิ้มให้ผมแบบเมาๆ

"เดี๋ยวเดียร์ไปทำงานต่อก่อน เดี๋ยวเดียร์ไลน์หานะ" เธอพูดก่อนจะค่อยๆปลดล็อกประตูห้องน้ำแล้วเดินออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

.........


หลังจากสำรวจการแต่งตัวของผมว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ผมก็รีบออกจากห้องน้ำแล้วกลับไปประจำที่บริเวณโซฟาเหมือนเดิม เดียร์มาถึงก่อนแล้ว เธอยังคงนั่งกินคลอเคลียกับแขกเหมือนเดิม แต่ที่ทำให้ผมตกใจคือ เสี่ยอั๋นกับอีฟไม่อยู่ตรงนั้น!

"ชิบหายละ" ผมบอกตัวเองเบาๆ พลางสอดส่ายสายตาไปทั่ว ตอนนี้หลายคนเริ่มเมากันแล้ว แขกบางคนเริ่มเพิ่มดีกรีความนัวเนียเด็กเอ็นฯ บางคนเริ่มจูบเริ่มล้วงกันแล้ว ผมหันไปเห็นสตีฟที่นั่งอยู่กับเด็กเอ็นฯอีกคน แล้วสตีฟก็พยักหน้าส่งซิกส์ให้ผมไปทางตัวบ้าน ผมเดาว่าเสี่ยอั๋นพาอีฟเข้าไปในบ้าน เลยรีบสาวเท้าก้าวตามไปทันที

บ้าน หรือควรเรียกให้ถูกว่า คฤหาสถ์ของเสี่ยอั๋นนั้น เป็นลักษณะบ้านคนรวยเหมือนที่เราเคยเห็นในละครไทยทั่วๆไป ตรงประตูหน้าบ้านจะเป็นวงเวียนที่ให้รถวนมาจอดส่งคนได้ การตกแต่งบ้านเป็นไปในลักษณะผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมจีนกับสไตล์หลุยส์ ซึ่งผมมองว่ามันไม่ค่อยจะเข้ากันยังไงก็ไม่รู้

ด้วยความที่ผมอยู่ในชุดพนักงานเสิร์พ จึงไม่ใช่เรื่องยากที่ผมจะเดินเข้าตัวบ้านหลักจากทางห้องครัว ซึ่งมีทางเชื่อมเข้าหากัน ผมค่อยๆเบาฝีเท้าลงเมื่อเข้ามาในตัวบ้าน เสียงเพลงจากลำโพงในสวนบริเวณพื้นที่จัดปาร์ตี้พร้อมกับเสียงวี๊ดว๊ายของสาวๆที่เล่นน้ำยังคงดังเข้ามาในตัวบ้าน ที่แรกที่ผมจะไปสำรวจ คือบริเวณห้องโถงที่เป็นห้องนั่งเล่น

ผมพยายามเงี่ยหูฟังเผื่อจะได้ยินเสียงอะไรผิดปกติ ในขณะเดียวกันก็ต้องระแวดระวังภัยจากการถูกคนอื่นพบเห็น เพราะแม้ว่าผมจะอยู่ในชุดเด็กเสิร์พของงานปาร์ตี้ แต่การปรากฏตัวในตัวบ้านนั้นก็คงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่นัก

ห้องโถงนั่งเล่นไม่มี ห้องอ่านหนังสือไม่มี และก่อนที่ผมจะทันได้เดินค้นห้องอื่นๆที่อยู่ชั้นล่างนั้น อยู่ดีๆผมรับรู้ได้ถึงความรู้สึกขอความช่วยเหลือจากอีฟ มันพุ่งตรงมาจากห้องข้างบน ผมไม่แน่ใจนักว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไร รู้แต่ว่า ผมควรต้องรีบขึ้นไปให้เร็วที่สุด

บันไดขนาดใหญ่ทรงครึ่งวงกลมพาผมขึ้นมาชั้นสอง ผมกึ่งวิ่งกึ่งเดินตรงดิ่งไปยังห้องที่สุดทาง ผมมีความรู้สึกว่าอีฟอยู่ในนั้น ผมไม่สามารถอธิบายความรู้สึกออกมาได้ แต่ผมเริ่มมั่นใจขึ้นเรื่อยๆในขณะที่กำลังเข้าใกล้ห้องนั้น ว่าอีฟอยู่ในนั้นกับเสี่ยอั๋น

แล้วความรู้สึกก็พุ่งเข้ามา ผมรู้สึกว่าอีฟกำลังพยายามอย่างหนัก พยายามถ่วงเวลาและหลอกล่อเสี่ยอั๋นที่อยู่ในห้องกับเธอสองต่อสอง ผมรับรู้ความรู้สึกบางส่วนของอีฟ เธอเริ่มจะคิดว่า เธอไม่มีทางรอดเงื้อมมือของเสี่ยอั๋น ในกระแสแห่งความรู้สึกนั้น ผมรับรู้อีกว่า ในแว๊บหนึ่งของความคิด เธออยากให้ผมปรากฏตัวขึ้นมาเพื่อช่วยเธอจากสถานการณ์ตรงหน้านั่น

ผมไม่ปล่อยเวลาให้เนิ่นนานจนเกินไป สองขาพาผมมาหยุดที่หน้าประตูห้องหนึ่ง ผมมั่นใจว่าเป็นห้องนี้ ผมตั้งใจว่าจะเคาะประตูแล้วบอกว่ามีอาหารมาเสิร์พ ผมไม่รู้ว่ามุกนี้จะใช้ได้ผลมั้ย เพราะนี่คือบ้าน ไม่ใช่โรงแรม จะมาใช้มุกรูมเซอร์วิสมันก็ยังไงๆอยู่ แต่นี่ก็ดีที่สุดเท่าที่ผมจะคิดได้ ณ เวลานี้แล้ว อย่างน้อยก็คงจะถ่วงเวลาเสี่ยอั๋นได้อีกนิด และถ้าโชคดี จังหวะนี้อาจจะเป็นโอกาสที่เราจะได้จบงานกัน

และในขณะที่ผมกำลังยกมือขึ้นเพื่อจะเคาะประตู อยู่ดีๆหูผมก็ได้ยินเสียงมาจากอีกห้อง ฝั่งตรงข้ามทางเดินที่อยู่ยืนอยู่

"ซี๊ดดดด~ ไม่เอานะ...." เสียงผู้หญิงลอยมาและดังขึ้นเรื่อยๆ

"น่า.. นิดเดียวเอง ซี๊ดดด" เสียงผู้ชายอีกคนพูด

"อืมมม ซี๊ดดดด ไม่เอานะ เค้าไม่ไหวจริงๆ" เสียงผู้หญิงชัดขึ้นเรื่อยๆ

"น่าา... ช่วยไอ้หยองมันหน่อย ซี๊ดดด เสียวดีออก" เสียงชายคนเดิมพูด

"ไม่ อาาาาาาาาา อื้อๆๆๆๆๆ" เสียงผู้หญิงคนเดิมดังขึ้นมา แต่คราวนี้เป็นเสียงครางพร้อมกับเหมือนอมอะไรไว้อยู่ในปาก  แล้วตอนนั้นเอง ผมก็พลันนึกได้ นั่นคือเสียงผู้หญิงที่ผมคุ้นเคยที่สุด

...เสียงของอิงนั่นเอง...


#########################


สวัสดีครับทุกคน วันนี้ EP8 มาช้า จริงๆว่าจะลงตั้งแต่เมื่อวาน แต่เพราะเป็นภารกิจแรก อยากเขียนให้ชัดเจนเห็นภาพหน่อย เลยใช้เวลาเขียนเพิ่ม ต่อไปนี้ ถ้าเป็นตอนที่รายละเอียดไม่เยอะ จะลงได้วันต่อวัน แต่ถ้ารายละเอียดเยอะ อาจจะ 2 วันทีแบบนี้นะครับ แต่จะไม่ให้ช้าไปกว่านี้ เดี๋ยวคนอ่านลงแดง ผมก็เหมือนกัน จะลงแดงตาย ตอนนี้รู้สึกผูกพันธ์กับตัวละครนึงไปแล้ว  ให้ทายเล่นๆว่าผมผูกพันธ์กับตัวละครไหน 55

อ่านทุกคอมเม้นท์ มีบางคนแนะนำเรื่องการสะกดและเช็คคำ ขอบคุณมากๆเลยนะครับ น้อมรับไปปรับปรุงแก้ไขครับ จริงๆจะบอกว่า ผมเขียนรอบเดียวแล้วไม่อ่านทวนเลย มันเลยมีสะกดคำผิดบ้าง ต่อไปจะปรับปรุงครับ

ปล.มีคนเดาภารกิจถูกคนนึงด้วย
ปล2.ภารกิจนี้ภารกิจแรก ถือว่าไม่ยากไม่ง่าย แต่เหตุผลของงานนี้มันมีอยู่ ซึ่งจะเฉลยในตอนต่อๆไปครับ
ปล.3 มีใครสังเกตุเห็นความสามารถใหม่ของนายต่อเรามั้ยครับ

EP8 นี้เนื้อเรื่องจบหมดแล้ว แต่ถ้าใครอยากอ่านซีนที่อีฟอยู่กับเสี่ยอั๋นคนเดียว คอมเม้นท์แล้วอ่านต่อได้เลยครับ




 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

zero009

อีฟจะโดนเสี่ยอั๋นทำอะไรบ้างนะ

sykes

น่าจะผูกพันธ์กับแทนนะครับ แล้วต่อจะช่วยใครดีระหว่างอีฟกับอิง ขอบคุณครับ

13igboss

ยิ่งอ่านยิ่งเสียว ต่อมีสาวๆ เข้ามาหลายคน น่าอิจฉามากกก แต่อิงมาอยู่ที่บ้านเสี่ยอั๋นได้ยังไง...รอติดตามคับ  ::HeyHey:: ::HeyHey:: ::HeyHey::

pakykit


Popeye5555


rollingstar

หมั่นไส้อีฟว่ะ เมื่อไหร่จะเชื่อง 5555

พงค์ พันธ์


Ganakorn Gongmag

ช่วยใครก่อนดีเนี้ย แต่ดูทรงแล้วเจ้าสตีฟนี่ไม่ชอบมาพากลยังไงไม่รู้ 

Au Nanma

สงสัยสตีฟไม่ใช่คนดีซะแล้ว
น่าจะมีการหลอกใช้พลังของต่อ

ต้องขอขอบคุณ writer ที่เขียนงานดีๆให้อ่าน โครงเรื่องสนุกงานดี งานเร็ว ถูกใจมากครับ

goft


thongdaeng_skk

นายต่อมัวแต่นัวเนียกับเดียร์ทำให้อีฟเสียท่าแล้วงานจะสำเร็จไหม

Montakan

 ::HeyHey::สงสัยไม่รอดแน่เลยเพื่อนเรา

weeraj


Theman368

ทั้งอีฟทั้งอิงเลยนะต่อจะช่วยใครก่อน