ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

สางแค้น (10)

เริ่มโดย twintower, มีนาคม 03, 2021, 03:11:13 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

twintower

แคนที่ยืนอยู่ไม่ห่างเฮลิคอปเตอร์ มองไปที่รถพยาบาล 2 คันที่นำร่างที่ไร้สติของฝนกับผู้หญิงอีกคนไปโรงพยาบาล แบล็กฮอว์คลำนี้พึ่งลงจอดบนลานจอดในค่ายทหารที่เชียงใหม่ได้ประมาณ 5นาทีที่ผ่านมา หน่วยซีลกำลังลำเลียงสัมภาระไปที่รถกระบะที่จอดรออยู่ไม่ห่างออกไป ตอนนี้บนลานจอดนั้นมีผู้คนเดินขวักไขว่ไปมาหลายคน

"ทำดีมากหลานชาย"

เสียงทักของรองสุพจน์ดังมาอีกทาง แคนหันไปและชิดเท้าตรง เพราะรองสุพจน์กับนายตำรวจติดตามเดินเข้ามาหา รองสุพจน์เดินมาตบไหล่แคนเบาๆก่อนจะพูดต่อ

"ไปหมวดไปพักผ่อนก่อน ที่เหลือค่อยว่ากัน ทางนี้เตรียมอาหารเตรียมที่พักไว้ให้แล้ว"

"ครับท่าน"

แคนรับคำส่วนนายตำรวจติดตามที่เป็นรุ่นพี่นักเรียนนายร้อยตำรวจได้พูดขึ้นมาอย่างสนิทสนม

"มึงทำตามที่ท่านบอกเถอะสภาพของมึงตอนนี้เดินออกไปนอกค่ายหมาไล่ฟัดแน่"

คำพูดนี้ทำเอาแคนยิ้มออกมาก่อนจะหัวเราะ เป็นการหัวเราะครั้งแรกในรอบหลายวัน มันจริงอย่างที่นายตำรวจรุ่นพี่พูด สภาพของแคนตอนนี้ดูแย่จริงๆ แคนก้มชิดเท้าก้มหัวทำความเคารพทั้งคู่ก่อนจะสะพายปืนทั้ง  2กระบอกและสัมภาระเดินไปยังรถที่จอดรออยู่ ส่วนรองสุพจน์เดินกลับไปพร้อมนายตำรวจติดตามพอขึ้นไปบนรถรองสุพจน์ได้บอกไปที่นายตำรวจติดตาม

"ส่วนพวกเราก็รีบไปพักผ่อนเหมือนกันพรุ่งนี้งานหนักแน่ๆ"

"ใช่ครับท่าน แต่ผมเห็นแคนแล้วยอมรับว่ามันสุดยอดจริงๆ ทำงานกับซีลทีม6 ได้สบายๆ นึกไม่ถึงว่ามันจะยอดเยี่ยมขนาดนี้"

"นั่นนะสิ เพชรเม็ดนี้เราต้องถนอมให้ดี และต่อไปในอนาคตผมได้บอกกับพิชญ์ไว้แล้วให้เตรียมดูเรื่องของแคนต่อ ฝีมือขนาดนี้จะช่วยงานของพวกเราได้มาก"

นายตำรวจติดตามยิ้มรับ ส่วนแคนหลังจากที่ได้อาบน้ำและทานอาหารเรียบร้อย แคนเข้านอนทันทีด้วยความอ่อนเพลียและเป็นการหลับสนิทที่สุดจากช่วงหลายวันที่ผ่าน จนช่วงเช้าระหว่างทานอาหารเช้าแคนได้รับข่าวดีอีกข่าวคือรีสอร์ทของกำนันน้อมนั้นถูกบุกจับโดยเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานซึ่งรายละเอียดเบื้องต้นที่แคนรู้คือ ทั้งตำรวจ ทั้งป.ป.ส หน่วยงานความมั่นคง โดยรองสุพจน์เป็นคนนำกำลังเข้าตรวจค้นเอง ทำให้ยึดยาบ้าได้จำนวนมากและเฮโรอีนอีกจำนวนหนึ่งพร้อมอาวุธสงครามที่ซุกซ่อนอยู่ มีการปะทะกันและคนของกำนันโดนจับตาย 3 คน แต่กำนันหนีรอดไปได้นี่คือข้อมูลที่แคนรู้เบื้องต้น มีการรายงานข่าวอย่างครึกโครม สำนักข่าวต่างๆต่างเกาะติดข่าวนี้และพากันรายงานกันทั้งวัน เพราะอดีตกำนันบุญส่งนั้นเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งในเชียงราย  ทำให้การบรรยายสรุปภารกิจในพม่าถูกเลื่อนออกไปก่อน เพราะรองสุพจน์ติดภารกิจนี้อยู่ แคนจึงใช้เวลาว่างกับการทำความสะอาดอาวุธและอุปกรณ์ และทำให้พอจะรู้เรื่องที่ฝนถูกจับตัวไปแต่ไม่รู้ถึงรายละเอียด แคนได้แต่เห็นใจที่เธอถูกจับตัวไปแต่ความรู้สึกไม่ชอบหน้าที่แคนมีต่อเธอจะไม่เปลี่ยนไปและเรื่องที่เธอถูกใครช่วยออกมานั้นมันจะเป็นความลับไปตลอด 

จนช่วงเย็นหลังการบรรยายภารกิจพม่าได้เริ่มขึ้น ภาพถ่ายโกดังจากดาวเทียมในช่วงเวลากลางคืนที่ยังเห็นกลุ่มควันอยู่และภาพในตอนกลางวันที่เห็นได้ชัดว่าเหลือแต่ซากพร้อมกับร่อยรองของไฟไหม้ที่กระจายไปรอบๆ โชว์อยู่บนจอใหญ่ รองสุพจน์ที่อยู่ในเครื่องแต่งกาย ต.ช.ด.นั้นยิ้มออกมาอย่างพอใจทั้งๆที่เหน็ดเหนื่อยจากภารกิจในวันนี้อย่างมาก  ผลงานในวันนี้รวมถึงผลงานในพม่าทำให้รู้สึกหายเหนื่อย ถึงจะยังจับตัวการสำคัญไม่ได้ ระหว่างนั้น พ.จ.อ.โจนาธานกำลังบรรยายถึงตอนที่เข้าไปช่วยตัวฝนหลังจากก่อนหน้าที่ได้พูดถึงภารกิจหลักคือการเข้าไปสำรวจและถ่ายรูปโรงงานที่ผลิตยาเสพติด และบราโว่1 ได้บอกก่อนจะการบรรยายสรุปจบ

"ในโกดัง เราพบหีบห่อเป็นจำนวนมาก แต่ไม่ได้ทำการตรวจสอบแต่คาดว่าจะเป็นยาเสพติดจำนวนมาก ซึ่งตรงนี้เราต้องขอชมว่าแผนผังของโกดังที่ทางไทยส่งมาให้เรานั้นละเอียดมาก ทำให้การปฏิบัติงานนั้นสะดวกอย่างมาก"

และรองสุพจน์ได้กล่าวเสริมขึ้น

"ของที่อยู่ในโกดังคือเฮโรอีนเกรด A ที่จุดหมายปลายทางอยู่ที่ประเทศของคุณแต่ปริมาณที่แน่นอนนั้นเราไม่ทราบแน่ชัด แต่น่าจะใกล้เคียงกับที่เปายุ่นขน เพราะคนสั่งนั้นเป็นรายเดียวกัน นี่เป็นข้อมูลที่ได้มาจากการที่เข้าจับกุมยาบ้าในวันนี้ มีคนของนายบุญส่งให้การสารภาพอย่างละเอียดพอสมควรครับ"

รองสุพจน์ได้บอกข้อมูลเพิ่มเติมแต่ไม่มีการพูดถึงเรื่องของฝนว่าเพราะอะไรฝนถึงถูกจับตัวมา แต่เรื่องนี้ทางซีลนั้นไม่ได้สอบถามเพิ่มเติมก่อนมีการซักถามเร่องของโรงงานเพิ่มเติมกันอีกเล็กน้อย หลังจากที่การบรรยายสรุปเสร็จ ระหว่างที่ทุกคนกำลังออกจากห้อง รองสุพจน์ได้เรียกแคนให้ตามมาด้วยพร้อมบอกว่า

"หมวดมากับผมจะได้รู้รายละเอียดงานในวันนี้ด้วย"

แคนตามรองสุพจน์ไปที่ค่าย ตชด.ที่ตอนนี้เป็นศูนย์บัญชาการของปฏิบัติการทะลายอิทธิพลของกำนันน้อม ซึ่งภายในห้องประชุมนั้นมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคนรวมถึง ผบ.ตร. และเลขาธิการ ป.ป.ส.อยู่ด้วย หลังจากที่แคนได้ตรงไปทำความเคารพทั้งคู่ทันที การรายงานผลงานของวันนี้ได้เริ่มขึ้น การบุกเข้าค้นรีสร์อทของกำนันน้อมครั้งนี้ได้เริ่มขึ้นในตอนรุ่งเช้า โดยใช้กำลังจาก หน่วยคอมมานโดของกองปราบ หน่วยนเรศวร 261 ของ ตชด. พร้อมกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษของ ป.ป.ส. โดยรองสุพจน์เป็นคนนำกำลังเข้าจับกุม ในอดีตของรองสุพจน์เคยสังกัดอยู่หน่วยนเรศวร261มาก่อน ซึ่งการจับกุมนั้นมีการปะทะกับคนของกำนันทำให้มีการวิสามัญไป 3ราย 1 ในนั้นคือเหน่ง ส่วนตัวกำนันน้อมนั้น จากตอนแรกตำรวจคิดว่าจะอยู่ในรีสอร์ทด้วย เพราะรถที่กำนันใช้ประจำเข้าไปในรีสอร์ทแต่เช้า แต่ข้อมูลที่ได้มาล่าสุดจากรองสุพจน์คือ ตัวกำนันนั้นยังไม่ได้ข้ามมาฝั่งไทยยังพักอยู่ฝั่งพม่าและบอกกับลูกน้องว่าจะเข้ามารีสอร์ทในเช้าวันนี้ ทำให้ทางตำรวจคาดว่ากำนันนั้นคงอยู่ระหว่างการเดินทางมารีสอร์ทแต่คงรู้ว่ารีสอร์ทโดนกำลังตำรวจบุกเข้าตรวจค้นเลยหลบหนีกลับไปฝั่งพม่า และทางตำรวจมีการออกหมายจับอดีตกำนันบุญส่งเป็นที่เรียบร้อย และในรีสอร์ทตำรวจสามารถจับกุมลูกน้องกำนันได้หลายคนและมีบางส่วนหลบหนีไปได้

และวันนี้ธุรกิจของกำนันทั้งหมดรวมถึงบ้านหลังใหญ่ถูกตำรวจเข้าตรวจค้นตามหมายศาล พร้อมการอายัดทรัพย์สินทั้งหมดของกำนัน ร้านอาหาร ร้านกาแฟ สปา คาราโอเกะ โรงแรมที่กำนันเป็นเจ้าของหรือถือหุ้นถูกสั่งปิดพร้อมการจับกุมแหล่งค้าประเวณีที่อยู่เบื้องหลังของร้านอาหารและคาราโอเกะ โรงแรมเหล่านี้ ทำให้ช่วยผู้หญิงที่ถูกกักขังอยู่จำนวนมาก บรรดาผู้จัดการหรือคนดูแลของกิจการทั้งหมดถูกตำรวจจับกุมได้ทุกคนและกำลังทำการสอบสวนอยู่ รวมถึงคำรณที่นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลก็ถูกตำรวจอายัดตัวไว้เช่นเดียวกัน ในรีสอร์ทนั้นตรวจเจอยาบ้าจำนวนมหาศาลพร้อมเฮโรอีน 20 กิโลกรัม รวมถึงอาวุธสงครามจำนวนหนึ่งพร้อมผู้ชายที่ถูกกักขังอยู่ในรีสอร์ท แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถให้การได้เพราะมีอาการเหมือนถูกวางยานอนหลับทำให้พูดจายังไม่รู้เรื่องเท่าที่ควร จึงอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ส่วนทางฝนกับจิ๋วนั้น ทางรองสุพจน์ได้เข้าไปพุดคุยกับฝนแล้ว  แต่จิ๋วนั้นยังไม่มีเข้าไปสอบสวนแต่ถูกคุมตัวอย่างแน่นหนาจิ๋วยังไมรู้ว่าโดนจับอยู่ในประเทศไทย เป็นการประชุมและรายงานสรุปเบื้องต้นที่ใช้เวลานานมาก ก่อนหน้านี้ตอนที่รองสุพจน์แถลงข่าวกับนักข่าวก่อนหน้านี้เป็นเพียงข้อมูลพื้นๆเท่านั้นพร้อมกับการปล่อยข่าวหลอกให้กับทางพวกนักข่าวหลายเรื่อง  หลังจากประชุมเสร็จแคนได้รับแฟ้มที่ค่อนข้างหนามา 1แฟ้ม ก่อนที่ทางรองสุพจน์จะมาบอกกับแคน

"เรื่องกำนันเราแน่ใจว่าหลบอยู่ฝั่งพม่าแน่นอน ข้อมูลที่ผมได้มาวันนี้มีรายละเอียดอยู่ในรายงานฉบับนี้ พรุ่งนี้หมวดไปร่วมฟังการสอบสวนวรรณาก็ได้ ทางต้นจะมาสอบเองเพราะมีข้อมูลเรื่องการฟอกเงินอยู่พอสมควร ส่วนเรื่องโรงงานทางผู้การเลย์ตันกับทางท่านทูตบอกตรงกันว่ารอทางทำเนียบขาวตัดสินใจ ต่อไปนี้ไอ้น้อมมันคงทำอะไรลำบาก มือขวาของมันตายแล้ว และคนทำบัญชีคนสำคัญมันโดนเราจับมา ป่านนี้มันคงรู้แล้วว่าโกดังของมันถูกทำลาย และผมว่ามันคงคิดว่าทั้งคู่คงตายไปพร้อมกับคนอื่นๆที่โกดังแล้ว เช่นเดียวกับคุณปนัดดา มันคงคิดแบบนั้น แล้วเราจะล่าตัวมันให้ได้ผู้หมวด ผมไม่ปล่อยให้มันลอยนวลแน่นอน"

รองสุพจน์พูดกับแคน หลังจากที่กลับมาถึงค่ายแคนนั่งอ่านรายงานในแฟ้มอีกครั้ง ทำให้รู้ว่าระหว่างที่ตนเองอยู่ในพม่ามีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นมากมาย ส่วนกำนันน้อมนั้นหลังจากที่ออกจากโกดังและมาถึงจุดที่นัดพบกับพวกที่ขนยาเข้าประเทศไทย การขนครั้งนี้ ส่วนใหญ่ประมาณ 70 % จะขนทางรถผ่านด่าน อีก 30 % จะใช้คนเดินเท้าลอบเข้าไทยโดยเทพจะเป็นคนดูแล การขนผ่านด่านนั้นจะใช้รถบรรทุกทั้ง 6ล้อและ 10 ล้อขน มีการดัดแปลงรถเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ ทั้งพื้นตรงกระบะท้ายถูกยกเสริมขึ้นเล็กน้อยสามารถถอดออกมาได้และใช้ช่องว่างเป็นที่บรรจุยาที่ซีลอย่างแน่นหนา โดยมีสินค้าที่นำส่งไปยังไทยวางทับอยู่ด้านบนส่วนใหญ่จะเป็นพืชผลทางการเกษตรที่จากพม่าหรือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากจีน โดยตรงพื้นนั้นมีการฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อลงไปบนพื้นเพื่อกลบกลิ่นยาบ้า บรรดาสุนัขตำรวจจะได้ดมกลิ่นไม่เจอและหรือไม่ก็ใช้พื้นที่ตรงถังน้ำมันที่มีการดัดแปลง มีทั้งการนำยาไปซีลอย่างแน่นหนาแล้วนำไปติดบนผนังด้านในของถังน้ำมันแล้วเติมน้ำมันเข้าไปให้เต็ม หรือจะเป็นถังที่ถูกทำแบ่ง 2 ช่อง ช่องบนเป็นที่บรรจุน้ำมันและด้านล่างเป็นที่บรรจุยา รวมถึงการยัดใส่ยางอะไหล่

กำนันน้อมควบคุมการบรรจุยาบ้าใส่รถด้วยตนเองหลังจากที่เทพนำกลุ่มที่ที่ขนด้วยการเดินเท้าแยกไปแล้ว จุดที่ทำนั้นอยู่ไม่ห่างจากด่านมากนักทางกำนันทำเป็นจุดพักรถที่กำนันซื้อมาเป็นของตนเอง ด้วยความชำนาญทำให้ใช้เวลาไม่มากก่อนที่ขบวนรถจะออกไปสู่ด่านซึ่งทางฝั่งพม่านั้นกำนันไม่ห่วง เพราะมีการจ่ายสินบนให้เจ้าหน้าที่ประจำด่านของฝั่งพม่าไว้เรียบร้อย ทำให้การขนยาบ้านั้นสะดวกง่ายดายจนถึงฝั่งไทยซึ่งไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งเอกสารของสินค้าและมีการเสียภาษีอย่างถูกต้อง ยาบ้าที่ขนมาไม่ถูกตรวจพบ ก่อนที่ขบวนรถจะมุ่งหน้าไปที่รีสอร์ทของกำนัน  และเนื่องจากกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยเป็นเวลาเย็นมากแล้วกำนันน้อมจึงตัดสินใจที่จะยังไม่ข้ามไปฝั่งไทยรอข้ามในตอนช้าวันพรุ่งนี้แทน กำนันน้อมเข้าพักในเซฟเฮ้าส์หลังหนึ่งจาก 3 หลังที่กำนันซื้อไว้บริเวณชายแดนในฝั่งพม่า เพื่อรอฟังข่าวการขนยา จนช่วงค่ำทางเทพโทรมารายงานว่าการขนยานั้นสำเร็จเรียบร้อยทั้ง 2 เส้นทางไม่มีอุปสรรคใดๆทั้งยาบ้าและเฮโรอีนถูกนำมาเก็บในรีสอร์ทเป็นที่เรียบร้อยมันเป็นข่าวดีของกำนัน เพราะถ้าของไปถึงมือสาธิต หมายถึงเงินจำนวนมหาศาลที่กำนันจะได้รับ ไม่รวมไปถึงเฮโรอีนที่อยู่ในโกดังฝั่งพม่าอีก

"ไอ้พวกตำรวจมันคงคิดไม่ถึงว่ากูจะกล้าขนยาช่วงนี้ แต่คนอย่างกำนันน้อมเสี่ยงได้ก็เสี่ยง ไม่อย่างนั้นกูไม่อยู่มาถึงทุกวันนี้"

เป็นความคิดอย่างลำพองใจของกำนัน  ตอนแรกกำนันตั้งใจจะโทรหาจิ๋วเพื่อสอบถามความคืบหน้าเรื่องการตรวจสอบคุณภาพเฮโรอีนแต่พอเห็นเวลาแล้ว ช่วงนี้จิ๋วคงระเริงรักแบบดนตรีไทยกับฝนให้ดังสนั่นป่าอยู่แน่ กำนันเลยไม่โทรไปรวมทั้งจิตที่ไม่โทรมาทำให้กำนันคิดว่าทุกอย่างคงเรียบร้อย ดีไม่ดีป่านนี้จิตอาจร่วมกินแซนวิชกับ 2 สาวอยู่ก็ได้ เพราะผู้หญิงอย่างฝนนั้นกำนันดูออกว่าเป็นคนที่เจ้าชู้และร่านอย่างมาก ถ้าถูกใจใครก็พร้อมที่จะพลีกายให้อย่างง่ายดายและฝนนั้นกำนันวางแผนการณ์ไว้แล้ว ว่าหลังจากงานนี้ตนเองจะโอกาสไปหาฝนที่กรุงเทพ และทางฝนคงไม่มีปัญหา ซึ่งกำนันคาดหวังว่าครั้งหน้าประตูหลังของฝนไม่รอดมือกำนันแน่นอน พร้อมกับนึกไปว่าพรุ่งนี้ค่ำๆคงได้ดูคลิปเซ็กของฝนกับจิ๋วอย่างแน่นอน คืนนั้นกำนันเข้านอนด้วยความอ่อนเพลียเพราะคืนที่ผ่านมาและตอนเช้าวันนี้เรี่ยวแรงนั้นหมดไปกับฝนมากโข จนเช้ามืดกำนันได้รับข่าวร้ายว่าโกดังนั้นถูกทำลายโดยไมยังไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใครและไม่มีใครรอดชีวิต  สภาพศพที่ตรวจเจอนั้นไม่แหลกละเอียดจากระเบิดก็ไหม้เป็นตอตะโกจากไฟไหม้ ภาพโกดังที่ทางพวกว้าแดงส่งมาหาให้นั้นเหลือแต่เศษซาก  มันทำให้กำนันนั้นตกใจและโกรธอย่างมาก

กำนันรีบแอบข้ามมาฝั่งไทยทันทีโดยใช้เส้นทางเดียวกับที่พาฝนไปโกดัง ทันทีที่ขึ้นรถที่มารอรับกำนันนั้นสั่งให้ไปที่บริษัทบัญชีก่อนทันทีจากที่ตอนแรกว่าเข้าไปรีสอร์ทและสั่งให้คนขับอีกคนนำรถที่ใช้ประจำไปรอที่รีสอร์ทก่อน  เพราะกำนันมั่นใจว่าจิ๋วกับจิตนั้นคงไม่รอดอย่างแน่นอนรวมถึงฝนด้วย กำนันต้องการเข้าไปตรวจดูเรื่องบัญชีต่างๆก่อนเพราะบริษัทคือแหล่งเก็บขุมทรัพย์ของกำนัน กำนันนั้นทั้งเครียดและว้าวุ่นอย่างมาก ทั้งเรื่องโกดังที่คิดไม่ตกว่าเป็นฝีมือใครเพราะพื้นที่ตรงนั้นเป็นเขตอิทธิพลของพวกว้าแดง รวมถึงเรื่องพัดว่าจะทำอย่างไรต่อ เพราะฝนนั้นคงตายไปแล้ว แต่กำนันคิดได้ว่าหลังจากนี้จะพาพัดไปปล่อยตรงที่โดนจับมา กำนันมั่นใจว่าพัดต้องมาขอความช่วยเหลือมาที่ตนแน่นอน โดยกำนันจะทำทีเป็นช่วยเหลือ แล้วกำนันจะพาพัดไปแจ้งความก่อนจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ แต่กำนันมั่นใจว่าทั้งพัดและตำรวจจะหาอะไรไม่เจอเพราะไม่มีหลักฐาน แล้วในที่สุดเรื่องจะเงียบหาย และกำนันจะพยายามทำให้พัดให้เข้าใจไปว่าฝนนั้นหายตัวไปอย่างลึกลับ แต่ระหว่างนั่งคิดวางแผน ข่าวร้ายอีกข่าวถูกส่งมาทันที ตำรวจบุกเข้าค้นรีสอร์ท พอได้ข่าวกำนันสั่งให้คนขับรถหันหัวกลับไปที่ชายแดนทันที กำนันน้อมไม่ตกใจกับข่าวนี้เพราะรู้ดีว่าสักวันต้องเจอแบบนี้ กำนันเตรียมการเรื่องนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่ใช่การหลบหนีหัวซุกหัวซุน กำนันจะหนีเข้าพม่าแล้วหลบอยู่ตามเซฟเฮ้าท์ของตนเองเพื่อดูลาดเลาและติดต่อกับทีมทนายความมือดีที่กำนันจ้างไว้ ในการต่อสู้คดี

แต่ถ้าเห็นท่าไม่ดีแผนต่อไปคือหลบไปพักที่โกดังที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมเพรียง หรือหลบเข้าไปอยู่ในโรงงานของพวกว้าซึ่งจะปลอดภัยที่สุด  กรณีถ้าเห็นว่าตนเองนั้นไม่มีทางต่อสู้ในทางคดี กำนันจะใช้ชีวิตอยู่ฝั่งพม่าแต่ทำธุรกิจค้ายาต่อไปได้อย่างสบายๆ ถึงธุรกิจฝั่งไทยจะโดนตำรวจยึดหรือปิดไปทั้งหมด กำนันก็ไม่หวั่น ทุนของกำนันเหลือเฟือ อีกอย่างถ้าตนเองถูกกระชากหน้ากากมันก็ไม่ต้องมาทำอะไรเพื่อเป็นฉากบังหน้าต่อไป เปิดหน้าเล่นให้รู้กันว่ากฎหมายไทยทำอะไรกำนันไม่ได้ กำนันวางแผนเรื่องนี้มานานแล้ว เพราะถ้าไม่มีแผนรองรับและตั้งตัวอยู่ในความประมาทมันคือหนทางที่พาตนเองไปติดคุกหรือไม่ก็ตาย และตอนนี้กำนันเข้ามาเก็บตัวที่เซฟเฮ้าท์แห่งหนึ่งในฝั่งพม่าเพื่อรอฟังข่าวจากฝั่งไทย รายชื่อคนที่โดนจับที่กำนันฟังจากข่าวนั้นยังไม่แน่ชัด แต่บรรดาเมียเก็บที่เป็นผู้จัดการหรือคนดูและกิจการของกำนันนั้นถูกควบคุมตัวทุกคน ส่วนพวกมือปืนนั้นรายชื่อที่กำนันได้มาไม่แน่ชัดว่ามีใครถูกจับบ้าง ทางพวกว้าแดงได้ขอให้กำนันไปพักที่โรงงานแต่ทางกำนันขอดูลาดเลาและเจอพวกทนายก่อน

ส่วนฝนตอนที่ฟื้นขึ้นมาพบว่าอยู่บนเตียง ในห้องสีขาวเธอมองไปรอบๆเห็นขวดน้ำเกลือที่ข้างเตียง   สิ่งที่เธอคิดมันเกิดอะไรขึ้นกับเธออีก หลังจากเสียงปืนเสียงระเบิด แสงสีขาวที่ทำให้เธอแสบตาหลังจากนั้นมีอะไรบางอย่างจิ้มมาที่ต้นคอเธอและเธอหมดสติไม่รู้สึกตัวทันที ฝนถอนหายใจแรงๆก่อนจะพยายามผงกหัวขึ้นแล้วได้ยินเสียงจากด้านข้างเตียง

"อย่าพึ่งคะ รอก่อนนะคะ""

เธอหันไปมองเห็นนางพยาบาลกำลังลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินมาที่ปลายเตียง แล้วจัดการให้หัวเตียงค่อยๆยกขึ้นมา ทำให้ตัวเธอถูกดันขึ้นจนอยู่ในสภาพครึ่งนั่งครึ่งนอน พยาบาลเดินยิ้มให้เธอก่อนจะหยิบเครื่องวัดความดันมาวางใกล้ๆตัวเธอ

"ขอวัดความดันก่อนนะคะ"

ฝนพยักหน้าอย่าง งงๆ ก่อนจะสูดลมหายใจเรียกสติกลับคืนมา พร้อมกับแรงรัดของเครื่องวัดความดันที่ต้นแขนดูจะทำให้เธอมีสติมากขึ้น เธอรอให้พยาบาลจัดการเก็บเครื่องวัดความดัน เธอจึงพูดขึ้น

"ขอน้ำดื่มหน่อยคะ หิวน้ำเหลือเกิน"

พยาบาลจัดการทำตามที่เธอขอ ฝนดื่มน้ำด้วยความกระหายหลังจากยื่นแก้วคืนเธอได้ถามขึ้น

"ดิฉันอยู่ทีไหนคะ"

"โรงพยาบาลที่เชียงใหม่คะ คุณปลอดภัยแล้ว คุณถูกส่งตัวมาที่นี่เมื่อคืนคะ"

เธอพยักหน้าก่อนจะชี้ไปที่ขวดน้ำเกลือ

"แล้วนี่"

"อ๋อ คุณหมอเป็นคนสั่งคะเพราะเมื่อคืนตอนคุณมาถึงคุณอ่อนเพลียมาก และไม่รู้สึกตัวคุณหมอเลยให้พร้อมกับวัคซีนกันมาเลเรียด้วยคะ หมดขวดนี้ก็คงไม่ต้องให้ แต่คุณรอสักครู่ดิฉันจะตามคุณหมอให้"

พยาบาลพูดจบแล้วเดินออกไปนอกห้อง โดยที่เธอยังไม่ทันได้ถามอะไร ต่อ แต่ความดีใจเข้ามาแทนที่ความวิตกความกลัว ตอนนี้เธอปลอดภัยแล้ว ทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าเพราะอะไร ไม่นานนักมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินนำหน้าพยาบาลคนเดิมเข้ามาก่อนจะทำการตรวจเธอ ซึ่งใช้เวลาพอสมควร จนเรียบร้อยแล้วได้บอกเธอ

"คุณปนัดดา สภาพร่างกายของคุณไม่มีปัญหานะคะ ทุกอย่างปกติไม่มีอาการแทรกซ้อนใดๆ ความดันปกติ หมดน้ำเกลือขวดนี้คุณทานอาหารได้คะ"

"ขอบคุณคะคุณหมอ แล้วพอจะบอกอะไรดิฉันได้บ้างหรือเปล่าคะ ดิฉันงงไปหมดแล้วจู่ๆมาฟื้นที่โรงพยาบาล"

"คุณถูกส่งตัวมาที่นี่ตอนหัวค่ำของเมื่อวานคะแล้วทางเราทำการดูแลต่อพร้อมให้วัคซีนป้องกันมาเลเรียให้กับคุณด้วย อีกสักครู่จะมีนักจิตวิทยามาคุยกับคุณด้วยนะคะ ทางเราขอประเมินสภาพจิตคุณด้วยคะ แล้วหลังจากนั้นทางตำรวจจะมาคุยกับคุณคะ ส่วนข้อสงสัยหมอว่าคุณรอถามทางตำรวจแล้วกันทางเราก็ไม่ทราบรายละเอียดเรื่องอื่นๆคะ"

ฝนพยักหน้ารับรู้ก่อนที่หมอกับพยาบาลจะขอตัวและไม่นานมีนักจิตวิทยามาคุยกับเธอโดยใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นน้ำเกลือหมดขวด พยาบาลจัดการถอดสายน้ำเกลือพร้อมนำชุดมาให้เธอเปลี่ยน ฝนจัดการอาบน้ำชำระร่างกายพร้อมนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น จนทำเธอสับสนไปหมด ตั้งแต่ถูกบังคับให้ขึ้นรถแล้วสลบตื่นมาอีกทีไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ก่อนจะพบว่าใครอยู่เบื้องหลังในเรื่องนี้ ตามด้วยการตกกระไดพลอยโจนเพื่อเอาชีวิตให้รอดด้วยการตรวจสอบยาบ้า เฮโรอีน เงินก้อนใหญ่ที่ได้รับ สัมพันธ์สวาทอันเร่าร้อนกับกำนันน้อมและจิ๋ว ก่อนจะเจอกับเสียงปืนเสียงระเบิด แล้วสลบอีกครั้ง จนมารู้สึกตัวที่โรงพยาบาล แล้วพัดละเป็นยังไงบ้าง มันทำเอาเธอสับสนไปหมด พอเธอออกจากห้องน้ำ มีอาหารมารอเธออยู่แล้ว ฝนจัดการกินทันทีเพราะเธอนั้นหิวอย่างมาก จนเรียบร้อยระหว่างที่เธอนั่งอยู่บนเตียง เสียงประตูถูกเคาะขึ้น หญิงสาวเงยหน้า เธอนั้นรู้สึกตกใจเหมือนกัน เพราะคนที่เดินนำเข้ามาคือรองสุพจน์นั่นเอง พร้อมด้วยนายตำรวจอีก2-3 นายซึ่งมีนายตำรวจที่เป็นผู้หญิงด้วย 1 คน ก่อนที่เธอจะทำอะไรเสียงจากรองสุพจน์ได้ถามมาที่เธอ

"ดีขึ้นหรือยังครับคุณปนัดดา"

"คะท่านแล้วนี่หนู งง ไปหมดแล้วถามอะไรก็ไม่ได้คำตอบ"

"เอาละทำใจให้สบายๆ ครับ คุณปลอดภัยแล้ว ตอนนี้คุณอยู่ในความคุ้มกันของทางตำรวจครับ เหตุที่เกิดเมื่อวานมีความจำเป็นที่ต้องให้คุณสลบเพื่อความสะดวกในการทำงานแล้วเรารีบพาตัวคุณมาที่โรงพยาบาลทันที"
ระหว่างนั้นบรรดาตำรวจที่เข้ามาด้วยได้วางเครื่องบันทึกเสียง พร้อมตั้งกล้องวีดีโอขนาดเล็กบนขาตั้ง เธอมองด้วยความหวั่นใจ ส่วนรองสุพจน์นั้นรอให้ทุกอย่างเรียบร้อยจึงบอกกับเธอ

"คุณไม่ต้องตกใจครับ ทางเราต้องการรายละเอียดจากคุณอย่างมาก เพราะเรารู้ว่าคุณมีข้อมูลสำคัญๆที่เราต้องการอยู่มากครับ ทางผมจึงขอบันทึกเสียงไว้มันจะได้ไม่ตกหล่น"

"แล้วเอ่อ แฟนหนูละคะ เขาก็ถูกจี้ตัวพร้อมๆกับหนู"

"ตอนนี้คุณวายุ ปลอดภัยอยู่ในความดูแลของแพทย์และการคุ้มกันของเราครับ รอให้อาการดีขึ้นกว่านี้คุณทั้งสองได้พบกันแน่ครับ เพราะตอนที่เราไปเจอตัวคุณวายุนั้นดูจะถูกวางยานอนหลับ มีอาการแบบครึ่งหลับครึ่งตื่นนะครับ ตอนนี้หมอยังให้นอนพักก่อนครับ ก่อนอื่นเพื่อจะให้คุณไม่สงสัยอะไรไปมากกว่านี้ ผมบอกคุณได้ว่าเมื่อวานมีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายได้บุกเข้าไปช่วยคุณออกมาจากโกดังเก็บสินค้าของนายบุญส่งแล้วพาคุณมารักษาตัวที่นี่ เอาละครับนี่เรื่องเบื้องต้นที่คุณจะได้รับรู้ว่าคุณมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง ต่อไปผมอยากทราบว่าคุณถูกจับตัวเมื่อไหร่ แล้วหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้างครับ"

รองสุพจน์เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เป็นกันเอง ฝนนั้นก็หวั่นๆเหมือนกันว่าเธอจะตกเป็นผู้ต้องหาหรือไม่ แล้วจิ๋วละเป็นยังไง เธอนิ่งไปสักครู่ก่อนจะตัดสินใจเล่าเรื่องให้ฟัง  ตั้งแต่เธอโดนจับแล้วมีผ้าปิดตาปิดปาก พาไปขึ้นรถแล้วเหมือนจะมีการเปลี่ยนไปอยู่บนรถอีกคัน ก่อนที่จะขอดื่มน้ำและเธอสลบไป ตื่นมาอีกครั้งเธอไม่รู้อยู่ที่ไหนจนมาเจอจิ๋วจากตอนแรกที่เธอไม่รู้ผู้หญิงคนนี้ชื่ออะไร แล้วมาเจอกำนันน้อมจนเธอรู้ถึงสาเหตุ พร้อมกับการหว่านล้อมให้เธอตรวจสอบคุณภาพยาเสพติดแทนคนของกำนันน้อมที่โดนยิง พอเธอเล่าถึงตรงนี้ รองสุพจน์ได้ถามขึ้น

"แล้วตัวกำนันรู้ได้ยังไงครับว่าคุณมีความสามารถในเรื่องนี้"

"คือตอนสายๆก่อนที่จะถูกจับ พัดแฟนหนูพาไปเยี่ยมป้าของเขานะคะ ป้าของพัดเป็นภรรยากำนัน กำนันคงรู้ตอนที่เราคุยกันว่าหนูมีอาชีพอะไร"

รองสุพจน์พยักหน้า เพราะข้อมูลมันตรงกับที่สันนิษฐานไว้ก่อนแล้ว ก่อนจะถามต่อ

"แล้วตอนพูดคุยกันที่บ้านกำนัน กำนันมีอะไรที่ดูผิดปกติหรือเปล่าครับ"

"ไม่มีคะ ดูปกติดี"

เสียงของฝนเริ่มสั่นๆ ก่อนที่รองสุพจน์จะให้เธอเล่าต่อ ฝนเล่าต่อว่าเธอจำใจต้องรับทำงานให้กำนัน เพราะเธอไม่มีทางเลือก แต่ตัวกำนันกับผู้หญิงอีกคนที่เธอมารู้ว่าชื่อจิ๋วนั้นไม่ได้พูดจาข่มขู่เธอ และเพื่อให้รอดพ้นจากการเป็นผู้ต้องสงสัย ฝนตัดสินใจเล่าเรื่องเงินที่กำนันให้เธอ ตั้งแต่เงินสด 1 แสนบาทพร้อมกับอีก 3แสนบาทในบัตรเดบิต พอถึงตอนนี้รองสุพจน์ขอให้เธอขยายความเรื่องเงินในบัตรซึ่งเธอบอกตามที่กำนันบอกเธอ ฝนสังเกตว่าบรรดานายตำรวจที่อยู่ในห้องต่างรีบจดเรื่องที่เธอพึ่งบอกกันทุกคน ก่อนที่รองสุพจน์จะขอให้เธอเล่าต่อ เธอเล่าถึงการตรวจสอบยาเสพติดโดยผู้หญิงที่ชื่อจิ๋วคอยดูแลช่วยเหลือ ยาเสพติดที่เธอตรวจสอบคุณภาพล็อตแรกนั้นส่วนใหญ่เป็นยาบ้ามีเฮโรอีนด้วยแต่ปริมาณไม่มากเท่ายาบ้า แต่เธอไม่รู้จำนวนที่แน่นอน และเธอบอกเพิ่มเติมว่าคุณภาพที่ตรวจนั้นเหมือนกับของที่เธอเคยตรวจก่อนหน้านี้ และวันต่อมาก่อนกำนันน้อมจะกลับกำนันให้เงินเธออีก 2แสนโดยให้เหตุผลว่าเธอทำงานได้เร็ว และพอกำนันไปเธอได้ตรวจสอบคุณภาพเฮโรอีนล็อตใหม่ ก่อนจะได้ยินเสียงปืนและเสียงระเบิด เธอเล่าถึงตอนนี้แล้วเงียบลง ส่วนเรื่องสัมพันธ์สวาทของเธอกับกำนันและจิ๋วนั้นมันจะเป็นความลับกับตัวเธอตลอดไป

"แปลว่าทางกำนันให้เงินคุณ 6 แสน ใช่ไหมครับ เป็นเงินสด 3แสนอีก 3แสนอยู่ในบัตรที่กำนันบอกว่าให้คุณมาใช้ตอนกลับมาถึงกรุงเทพ"

"คะท่าน"

"เรื่องตรงนี้ผมขอแยกเป็น 2ประเด็นนะครับคุณปนัดดา เรื่องแรกแล้วเงินสดกับบัตรคุณเอาไว้ที่ไหน"

"หนูไว้ในห้องนอนคะท่าน"

รองสุพจน์พยักหน้า เพราะตำรวจที่ตรวจสอบชุดที่เธอใส่ในเสื้อผ้าที่ติดตัวเธอนั้นไม่มีอะไรเลย ก่อนจะถามต่อ

"แล้วคุณคิดว่ายังไงกับเงินอีก 3แสนในบัตรที่กำนันบอกจะให้คุณ"

"บอกตรงๆคะท่าน หนูก็ไม่รู้ตอนนั้นหนูคิดอย่างเดียวว่าจะทำอย่างไรก็ได้ให้เอาชีวิตรอดเขาให้ทำอะไรหนูก็ทำ เขาให้เงินหนูก็รับ เงินในบัตรจะมีจริงหรือไม่หนูก็ไม่รู้ ที่สำคัญหนูไม่รู้ว่าถูกจับอยู่ที่ไหน แล้วหลังจากนั้นหลังจากที่หนูทำงานให้พวกเขาเสร็จจะเกิดอะไรขึ้น หนูจะถูกฆ่าปิดปากหรือเปล่าก็ไม่รู้คะท่าน"

ฝนเริ่มร้องไห้ออกมาจนตำรวจผู้หญิงที่มากับรองสุพจน์ได้ส่งทิชชู่ให้เธอ รองสุพจน์รอให้เธอปรับอารมณ์ให้ดีขึ้นก่อนจะถามต่อ

"ผู้หญิงที่ชื่อจิ๋ว คุณพอจะบอกได้ไหมครับว่ามีลักษณะรูปร่างหน้าตาเป็นแบบไหน"

เธอบอกตามที่เธอเห็นพอเธอพูดจบ ตำรวจอีกนายหนึ่งได้ส่งซองเอกสารให้รองสุพจน์ก่อนที่รองจะดึงภาพออกมาอีก3-4 ภาพ แล้วส่งภาพให้เธอภาพหนึ่ง

"คนนี้ใช่ไหมครับ"

เธอดูภาพที่รองสุพจน์ส่งให้เป็นภาพของจิ๋ว และเธอพยักหน้า

"แล้วนอกเหนือจากกำนันน้อมน้อมกับผู้หญิงคนนี้คุณเจอใครที่โกดังบ้างไหมครับ"

"หนูอยู่แต่ในโกดังคะ หนูเดินไปมาได้แค่ห้องนอนกับห้องแลปเท่านั้น ส่วนหน้าโกดังหรือส่วนที่เก็บของหนูเดินไปไม่ได้คะ ส่วนคนอื่นๆหนูเห็นแค่2-3 คนตอนยกอาหารมาให้กับตอนที่ยกพวกยาเสพติดเข้ามาในแลปคะท่าน"

"เป็น 2คนนี้หรือเปล่าครับ"

ภาพอีก 2ภาพที่รองสุพจน์ยื่นให้เธอ เป็นภาพของจิตกับเทพ ฝนนั้นส่ายหน้าทันที

"ไม่ใช่คะท่าน"

รองสุพจน์ยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนก่อนจะบอกกับเธอ

"เอาละวันนี้ผมขอถามเท่านี้ก่อนขอบคุณมากครับ ข้อมูลที่คุณให้มันมีค่ากับเรามากครับ อีกอย่างคุณปนัดดาคุณไม่ต้องกังวลว่าจะตกเป็นผู้ต้องหาครับคุณเป็นพยานคนสำคัญของเราครับ ส่วนเรื่องอื่นๆที่คุณจะแจ้งความเรื่องถูกลักพาตัวเราค่อยมาว่ากันครับ ตอนนี้ผมขอให้คุณพักผ่อนก่อนครับ"

"ท่านคะแล้วผู้หญิงที่ชื่อจิ๋วละคะ"

"ตอนนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ครับ คุณไม่ต้องกังวล"

ได้ยินแบบนี้เธอนั้นรู้สึกตกใจเหมือนกันเพราะกลัวจิ๋วจะบอกเรื่องที่เกิดขึ้นในโกดังของเธอกับกำนันและเธอกับจิ๋ว เธอนั้นเดาไม่ออกว่าจิ๋วจะให้การอะไรกับตำรวจบ้างแล้วมันจะกลายเป็นผลร้ายต่อเธอหรือไม่ แต่เธอนั้นพยามยามขจัดความกังวลแล้วถามต่อ

"พอจะบอกได้ไหมคะว่าหนูถูกจับไปอยู่ที่ไหน"

"คุณพอจะรู้เรื่องแหล่งผลิตยาเสพติดที่คุณเคยตรวจสอบก่อนหน้านี้ใช่ไหมครับ"

"คะ พอจะรู้ว่ามาจากโรงงานของพวกว้าแดง"

"ใช่ครับ โกดังนั้นเป็นของกำนันน้อมที่สร้างในฝั่งพม่า มีไว้เพื่อตรวจสอบคุณภาพยาเสพติดที่กำนันจะนำมาขายต่อครับ คุณถูกนำตัวไปฝั่งพม่าก่อนที่จะถูกพาตัวกลับมาที่นี่ครับ ส่วนเรื่องที่คุณถูกพากลับมาผมขอให้คุณเก็บไว้เป็นความลับครับและผมก็ไม่สามารถที่บอกรายละเอียดได้ว่าเราพาคุณกลับมาด้วยวิธีใดครับ ส่วนตอนนี้ผมบอกคุณตรงๆว่าคุณต้องอยู่ในความคุ้มครองสักพักหนึ่งจนกว่าเราจะมั่นใจว่าคุณปลอดภัย เพราะตอนนี้เรายังจับกำนันน้อมไม่ได้ครับ เราไม่รู้ว่ากำนันหลบหนีไปที่ไหน และที่สำคัญผมเชื่อว่ากำนันคงคิดว่าคุณกับคุณวรรณาได้เสียชีวิตไปแล้ว นี่ครับภาพโกดังล่าสุด"

รองสุพจน์ยื่นภาพในมือภาพสุดท้ายให้เธอ เป็นภาพถ่ายจากดาวเทียมที่แสดงให้เห็นภาพโกดังที่เหลือแต่ซาก เธอรับมาดูด้วยมืออันสั่นเทา จากภาพแสดงว่านอกเหนือจากเธอและจิ๋วนั้นคนอื่นคงตายไปทั้งหมด ทำให้เธอนึกย้อนไปถึงเรื่องไม่นานมานี้ ยาเสพติดที่เธอตรวจสอบจากที่ถูกจับกุมและพวกที่ขนยานั้นถูกวิสามัญทั้งหมด ตอนที่เธอไปบรรยายบอกถึงชนิดของสารประกอบและคุณภาพของยาที่ ป.ป.ส. มีรอง ผบ.ตร.ไปนั่งฟังถึง 2คน ไม่รวมเจ้าหน้าที่ของทางสหรัฐ มันเป็นเรื่องใหญ่จริงๆและคงเกี่ยวข้องกันแน่นอน และดีไม่ดีคนที่ไปช่วยเธอออกมาเป็นพวกหน่วยพิเศษแบบในหนังที่เธอเคยดู เธอจึงรับปากรองสุพจน์ ก่อนที่รองสุพจน์จะบอกเธอต่อ

"ส่วนตอนนี้ขอร้องอย่าคุณพึ่งติดต่อใครไม่ว่าจะเป็นเพื่อนๆหรือญาติพี่น้องของคุณเพื่อความปลอดภัยของคุณด้วยครับ แล้ว เท่าที่เราทราบตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าคุณถูกจับตัวครับ ไม่มีการแจ้งความใดๆทั้งสิ้นเราต้องปล่อยให้ทางกำนันเข้าใจว่าคุณได้ตายไปแล้ว"

"ใช่คะท่านตอนนี้ใครๆคงนึกว่าหนูกับพัดกำลังเที่ยวเชียงใหม่เชียงราย เพราะเราลาพักร้อนมาเที่ยวกันเกือบ 2อาทิตย์"

"งั้นดีแล้วครับ แต่ถ้าติดขัดอะไรตรงไหนแจ้งทางเจ้าหน้าที่ได้เลยนะครับ เราจะอำนวยความสะดวกให้คุณเท่าที่เราจะทำได้ครับ"

เธอพนมมือไหว้รองสุพจน์พร้อมคำขอบคุณที่ช่วยเธอจากโกดัง และเธอรู้ดีว่านี่คงเป็นการสอบสวนเบื้องต้นทางตำรวจคงมีเรื่องสอบถามเธอมากกว่านี้แน่นอน ความรู้สึกตอนนี้เธอบอกไม่ถูกทั้งดีใจที่ถูกช่วยมา ทั้งความกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ กำนันน้อมจะส่งคนมาปิดปากเธอหรือเปล่า และเธอจะตกเป็นผู้ต้องหาหรือไม่ถ้าจิ๋วที่รอดมาด้วยกันนั้นจะพูดอีกอย่าง แต่เธอก็คิดเข้าข้างตัวเองว่าเธอเล่าเรื่องจริงทั้งหมดให้ตำรวจฟัง มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร รองสุพจน์พูดกับเธออีก2-3คำก่อนจะลากลับ พอออกจากห้อง รองสุพจน์ได้ถามกับนายตำรวจอีกคน

"คุณคิดว่ายังไง"

 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

jaojom

ฝนจะรอดจากคดีรึเปล่าครับเนี่ย จะว่าไปก็ตกกระไดพลอยโจรนะครับ แต่มีเรื่องเงินกับมีความสัมพันธ์กับกำนันด้วย น่าลุ้นความเป็นของฝนครับ

egowin

แคน จัดฝนแทนเพื่อนเลยแก้แค้นให้เพื่อน

rahoo99

เอสโคบาร์รายใหญ่ยังร่วงได้ เป็นไปได้ที่การทำลายยาเสพคิดจะเต็มไปด้วยความรุนแรง มันช่างไม่เกี่ยวข้องกับเกษตรอินทรีย์ เศรษฐกิจพอเพียง

hamyaiyao


typhoon41

เนื้อเรื่องเข้มข้น น่าติดตาม

birdramon2

ตามล่ากำนัน ใหได้ อย่าปล่อยลอยนวล

gusjung111

แล้วฝนจะเป็นยังไงต่อระหว่างฝนกับกำนัน

munkza

แอบเย็ดกับกำนัน ตำรวจน่าจะจับพิรุธไก้แหละนา

peddo

น้องฝนรอดมาได้ แต่ไม่วายติดถึงรสรักกำนัน ทำท่ามีลับลมคมใน เดี๋ยวได้ติดร้างแหไปกะเข้าด้วยนะครับ
ตำรวจเรื่องนี้ดูใจดีจัง อยากให้มีแบบนี้อีกเยอะๆครับ

หวานเย็น

เย็ดเมียกำนันแก้แค้นเลย

tumzazz_55


ตรี1131

 ::HeyHey::ฝนไม่น่ารอดนะจิ๋วน่าจะซีดทอดแน่ๆ

ชาเลิศ สถิตบุญเลิศ

น่าสงสารอีตาพัด โดนลุงเขยแอบไปฟันเมียตัวเองสะแล้ว ::DookDig::

จรัญ บุญชู

กำนันเจองานนี้เข้าไปคงเดือดแน่...หลักฐานที่บริษัทต้องรีบเคลียร์ก่อนอื่น