ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_llOUllnJllUUllSJllSJ

จ้าวโลก EP.10 (NTR/Harlem/Super Power)

เริ่มโดย llOUllnJllUUllSJllSJ, มีนาคม 06, 2021, 04:35:44 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

llOUllnJllUUllSJllSJ

สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นสมาชิก xonly8 อ่านเต็มได้ที่ https://fictionlog.co/b/6053b2ece9cbb4001caf362f

แสงไฟสีส้มจากเสาไฟที่เรียงรายอยู่ตลอดเส้นทาง ทำให้ถนนเลียบรันเวย์สุวรรณภูมิแห่งนี้เรืองรองสว่างไสวท่ามกลางความมืดมิดรอบข้าง มีเพียงแสงไฟจากรันเวย์ อาคารของสนามบิน และเครื่องบินพาณิชย์จากสายการบินต่างๆค่อยๆร่อนลงที่รันเวย์แห่งนี้ทุกๆ 4-5 นาที

ตลอดเส้นทางจะมีรถของคนที่มาจอดรถดูเครื่องบินกันเป็นระยะ แม้ว่าการท่าฯนั้นจะสงวนพื้นที่และห้ามจอดรถแช่ก็ตาม รถของเราก็เช่นกัน อีฟจอดรถตามตำแหน่ง GPS และเปิดไฟกระพริบไว้ข้างทาง

"แน่ใจเหรอพี่ต่อ" อีฟที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับหันมาถามผมที่กำลังงุ่นอยู่กับการดู GPS

"ที่นี่แหละ คลาดเคลื่อนไม่เกิน 10 เมตร พี่เข้าใจว่ามันคือข้อความนัดพบนะ" ผมตอบอีฟไป หลังจากที่เมื่อตอนกลางวันเราดูหนังกันและผมฉุกใจคิดถึงข้อความประหลาดนี้จนทำให้ตีความนัยของมันออกมาได้ ผมก็ค่อนข้างมั่นใจว่า มันคือข้อความที่คนส่งต้องการให้ผมมา ณ ที่แห่งนี้ ในวันและเวลานี้

แต่สิ่งที่ผมยังไม่เข้าใจ คือใครส่งข้อความนี้มา และทำไมต้องทำตัวลับๆล่อๆส่งข้อความปริศนา และที่บอกว่าอย่าเชื่อใคร นั่นหมายถึงใคร หรือทั้งหมดนี้เกี่ยวอะไรกับสตีฟและองค์กรของเขา?  และถ้าเป็นแบบนั้นจริง ที่บอกว่าอย่าเชื่อใคร คืออย่าเชื่อสตีฟเหรอ? แล้วถ้าอย่าเชื่อสตีฟ แล้วอีฟล่ะ?

และผมก็นึกขึ้นได้ว่า ถ้าข้อความนี้เป็นของใครสักคนที่อยากบอกความจริงผมโดยไม่ให้สตีฟรู้เข้าจริงๆละก็ นี่คงเป็นเรื่องโง่มากที่ผมพาอีฟมาด้วย โดยเฉพาะอีฟที่สามารถอ่านความรู้สึกคนอื่นได้ เพราะแน่นอนว่า อีฟคงต้องรายงานเรื่องนี้ให้กับสตีฟรู้แน่นอน

ไม่ทันที่ผมจะได้สงสัยอะไรต่อ แสงไฟวาบจากหน้ารถที่ขับมาจอดต่อท้ายรถผม ผมรู้ทันทีว่า สิ่งที่ผมกำลังรอ มาถึงแล้ว

ผมเปิดประตูลงไปยืนข้างรถ พร้อมๆกับอีฟที่เดินอ้อมมายืนข้างๆผม แม้ว่าแสงจากไฟหน้ารถที่จอดข้างหลังจะสาดมาจนผมมองเห็นไม่ชัด แต่เสียงเลื่อนประตูรถ ทำให้ผมรู้ว่า รถคันนั้นเป็นรถตู้ และเงาจากสองร่างก็เดินลงมาจากประตูนั้น และเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนกระทั่งมาหยุดยืนต่อหน้าผมและอีฟ

หญิงวัยกลางคน น่าจะอายุซัก 40 ปี หน้าตาบ่งบอกถึงความใส่ใจในการดูแลตัวเองอยู่เสมอ ผมมองไม่เห็นรายละเอียดโครงหน้าได้ชัดเจนนักเพราะไฟจากรถของเธอ แต่ก็พอจะมองออกว่าเป็นคนที่สวยในแบบผู้ใหญ่ และแต่งตัวดูดีราวกับคุณนายในละครไทย ข้างกายเธอมีหญิงสาวอายุไม่มาก ผมประมาณไว้ว่าน่าจะเรียนม.ปลาย

"ต่อ.. คุณต่อมาถึงนานหรือยังคะ" หญิงวัยกลางคนคนนั้นเอ่ยทักผมเป็นคำแรก

"เพิ่งมาถึงได้สักพักครับ ว่าแต่.. คุณรู้ชื่อผมได้ยังไง แล้วคุณเป็นคนส่งข้อความมาหาผมเหรอ.." ผมถามรัวกลับไป

"เราคงต้องคุยกันยาว เข้าไปนั่งคุยในรถน้ามั้ย.." หญิงคนนั้นถามพลางผายมือเชิญ

ผมกับอีฟมองหน้ากัน อีฟส่งสายตามาในความหมายที่ผมเข้าใจไปเองว่า ให้ผมตัดสินใจเองได้เลย ผมยังไม่แน่ใจในสถานการณ์ตอนนี้นัก แต่ด้วยความที่คู่สนทนาเป็นผู้หญิง ที่ดูไม่มีพิษมีภัยทั้งคู่ และผมที่พอจะมีความสามารถพิเศษอยู่บ้าง ไหนจะอีฟ ที่ถ้ามีอะไรผิดปกติ เธอคงจะสัมผัสได้ก่อน ดังนั้น ผมคิดว่าเราน่าจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์คับขันได้ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น

"โอเคครับ.." ผมพยักหน้าตอบเบาๆพลางเดินตามทั้งคู่ขึ้นรถไป

บนรถตู้มีคนขับรถอยู่ประจำตำแหน่งแล้วคนหนึ่ง ในขณะที่เราสี่คนนั่งหันหน้าเข้าหากันที่เบาะหลังรถ และเมื่อแสงไฟภายในรถถูกเปิด ผมก็เห็นหญิงสาวสองคนชัดเจนขึ้น

ผู้หญิงที่เรียกตัวเองว่าน้ายังไม่ได้ดูแก่มาก ที่จริงเธอดูเหมือนอายุแค่ 3 ต้นๆเอง ไม่มีร่องรอยของการเหี่ยวย่น ไม่มีตีนกา การแต่งตัวยังคงดูดี ผิวขาวละเอียดของเธอเป็นตัวบอกว่า เธอไม่ได้ใช้ชีวิตกลางแจ้งเท่าไหร่นัก

ในขณะที่ข้างๆหญิงคนดังกล่าวนั้น เป็นเด็กสาว ที่แสงไฟในรถทำให้เห็นใบหน้าใสน่ารักสมวัยชัดเจนขึ้น

เราสี่คนนั่งเงียบมองหน้ากันในรถสักพัก ไม่มีใครพูดอะไร จนกระทั่งผมทนไม่ไหวจึงเอ่ยขึ้น

"ตกลงคุณเป็นใครกันแน่ครับ" ผมหันไปถามหญิงคนดังกล่าว

"น้าชื่อไพลิน นี่น้องพลอย ลูกสาวน้า" เธอเริ่มต้นแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการพร้อมกับหันไปแนะนำเด็กสาวที่ผมเพิ่งรู้ว่าชื่อพลอย

"ขอเริ่มเลยละกันนะ จริงๆแล้วน้านี่แหละ เป็นคนอุปถัมป์ทุนค่าเล่าเรียนของเธอตั้งแต่ที่พ่อแม่เธอเสีย" น้าไพลินเริ่มต้นด้วยประโยคที่ทำให้ผมอึ้ง เพราะผมเคยพยายามถามน้าของผมมาตลอด ว่าคนที่ส่งเสียค่าเล่าเรียนของผมมาโดยตลอดนี้คือใคร แต่ก็ไม่เคยได้รับคำตอบ และไม่ว่าจะหาข้อมูลแค่ไหน ก็ไม่พบอะไรราวกับว่า คนที่ส่งเสียผมนี้ไม่มีตัวตน แต่อยู่ดีๆ คนๆนี้ก็ปรากฏตัวมาบอกผมง่ายๆแบบนี้อ่ะเหรอ?

"ขอเล่าแบบท้าวความเลยก็แล้วกัน เรื่องความสามารถพิเศษ เธอคงรู้แล้ว จริงๆมันเริ่มจากเมื่อหลายปีก่อน มีโครงการวิจัยพิเศษแบบลับๆ ที่ชื่อว่า UNX และน้าที่เป็นหนึ่งในคนที่มีความพิเศษนี้ก็เข้าร่วมโครงการ  โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อศึกษาวิจัย และหาทางนำความสามารถของคนอย่างพวกเราไปพัฒนาให้กับคนทั่วไป

"ลองคิดถึงโลกที่มนุษย์สามารถสร้างเซลล์ดีมาทดแทนเซลล์ร้ายอย่างมะเร็งได้ หรือโลกที่มนุษย์สามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันเฉพาะด้านให้กับมนุษย์ที่อ่อนแอ มันจะกลายเป็นโลกที่ไร้ความเจ็บไข้ได้ป่วย เรารู้แน่ๆว่า ถ้ามันสำเร็จ นี่จะเป็นก้าวใหญ่ที่สุดของมนุษยชาตินับตั้งแต่มีอารยธรรมมนุษย์มาเลย

"ที่สำคัญที่สุด เมื่อขีดจำกัดทางร่างกายของมนุษย์เพิ่มขึ้น มันจะเป็นการขยายเขตแดนทางอารยธรรมมนุษย์ได้อย่างไม่มีขีดจำกัด นึกภาพมนุษย์ที่ใช้อ็อกซิเจนน้อยลงและยืดอายุการทำงานของอวัยวะในร่างกาย เราจะสำรวจอวกาศได้ไกลขึ้น เราจะสำรวจใต้ผิวโลกได้ลึกขึ้น เรียกว่ามันจะเป็นคุณประโยชน์ต่อโลกในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน"  น้าไพลินร่ายยาว แม้ว่าเรื่องความสามารถเหล่านี้ผมจะพอรู้มาแล้วจากสิ่งที่สตีฟบอก แต่พอได้ฟังจากน้าไพลินเพิ่ม ผมก็ยังทึ่งอยู่ดี

น้าไพลินเห็นผมกับอีฟนั่งฟังอย่างตั้งใจ จึงเริ่มต้นพูดต่อ

"แต่แน่นอนแหละ มนุษย์ก็ยังคงเป็นมนุษย์ ต่อให้เราพัฒนาความสามารถทางร่างกายมากแค่ไหน จิตใจเราก็ยังคงเป็นมนุษย์อยู่ดี ความโลภของมนุษย์ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถขจัดได้แม้ว่าร่างกายเราจะพัฒนาไปนานแค่ไหนก็ตาม

"เพราะพอโครงการวิจัยที่น้าพูดถึงเมื่อกี๊มีคนเข้าร่วมเยอะขึ้น บางคนก็เริ่มรู้ตัวว่า มีคนเป็นเหมือนตัวเองเยอะเหมือนกัน และมันคงจะไม่ดี ถ้าความพิเศษเหล่านี้ ถูกส่งต่อให้คนทั่วไป เพราะเมื่อคนทั่วไปมีความพิเศษนั้นเหมือนกัน ตัวเขาเองก็จะไม่พิเศษแล้ว

"ถ้าจะยกตัวอย่างง่ายๆ คนที่เกิดมาพร้อมกับสถานะบางอย่างที่สูงส่งกว่าคนอื่นๆ พวกเขาก็มักจะไม่อยากกลับลงไปเท่ากับคนอื่น เพราะนั่นทำให้สิทธิพิเศษที่เขาสามารถใช้เอาเปรียบคนทั่วไปได้นั้นมันจะหมดไป

"คนอีกกลุ่มหนึ่งเลยรวมตัวกันตั้งองค์กรขึ้นชื่อ ZINA ซึ่งในตอนแรกนั้น อ้างว่าเป็นองค์กรที่มีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนทางเศรษฐกิจแก่คนที่มีความสามารถพิเศษ เพื่อประโยชน์ในงานวิจัย แต่หลังจากนั้นไม่นาน องค์กรนี้ก็เริ่มพัวพันกับเหตุการณ์หลายเหตุการณ์ที่ดูแล้วไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อคนทั่วไป เช่นการวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ปี 2007-2008 , การตายปริศนาของบุคคลที่มีความสำคัญระดับโลกหลายคน , วิกฤติอาหรับสปริงส์, นโยบายต่างประเทศที่ก้าวร้าวขึ้นของจีน และอีกเยอะที่ถ้าดูรายละเอียดอย่างจริงจัง ก็มักจะมีคนจากองค์กร ZINA นี้มีส่วนร่วมอยู่เสมอ

"สมาชิกองค์กรนี้ ส่วนมากจะเป็นคนรวย เศรษฐี นักการเมือง หรือแม้กระทั่งนักกีฬาดัง และแน่นอนว่า พวกเขาไปอยู่จุดนั้นได้เพราะใช้ความสามารถพิเศษของพวกเขาที่เหนือกว่ามนุษย์ทั่วไป"

ผมฟังแล้วก็อึ้ง จริงอยู่ว่าตอนที่คุยกับสตีฟในครั้งแรกที่เจอกันนั้น สตีฟอธิบายให้ผมฟังหมดแล้ว แต่คงเพราะด้วยความตื่นเต้นกับพลังของผม มันทำให้ผมลืมฉุกใจคิดว่า พอคนแบบนี้รวมตัวกันเยอะขึ้น มันเป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ แถมวันนี้ก็มีคนตายเพราะเรื่องนี้ด้วย ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้มีคนตายมาแล้วกี่คน

"แล้ว.. เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับผม.. " ผมถามออกไปเพราะยังจับจุดไม่ค่อยได้นักว่าน้าไพลินต้องการอะไรกันแน่

"ใจเย็นๆ ยังมีอีกเยอะที่ต้องอธิบาย ต่อเลยนะ ตัวน้าเอง เคยเป็นทีมวิจัยของ UNX ทีมเรามีโครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการถ่ายทอดพันธุกรรมของความสามารถพิเศษนี้ทางดีเอ็นเอ รู้ใช่มั้ยว่าโดยปกติแล้วความสามารถนี้ไม่สามารถถ่ายทอดสู่รุ่นลูกได้?"

ผมพยักหน้าเบาๆ แล้วน้าไพลินก็ร่ายต่อ

"แต่ทีมวิจัยของน้าประสบความสำเร็จ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญ เพราะนั่นจะทำให้ความพิเศษของมนุษย์แบบเราๆนั้นไม่สูญหาย และถ่ายทอดไปสู่รุ่นลูกหลาน และขยายวงกว้างสู่มนุษยชาติต่อได้"

แล้วน้าไพลินก็หันไปทางน้องพลอย

"น้าเป็นคนหนึ่งในมีความสามารถพิเศษนี้ ความพิเศษของน้าคือสามารถชะลอการเติบโตของเซลล์ในร่างกายและใช้สมองในด้านตรรกะการคำนวณได้ดีมาก ส่วนน้องพลอย คือลูกสาวน้า และได้รับความสามารถนี้ต่อจากน้าไปด้วย เป็นรุ่นแรกๆเลยที่ทำได้"

ผมหันไปมองน้องพลอย ซึ่งเธอก็กำลังมองผมตาใสแป๋วอยู่ ที่จริงความสามารถในการชะลอการเติบโตของเซลล์นี่เป็นอะไรอลังการมากเลยนะ เพราะจะทำให้ผู้หญิงนั้นดูอ่อนกว่าวัยมาก เดี๋ยวนะ ถ้างั้นน้องพลอยที่ดูเหมือนเด็กม.ปลาย จริงๆแล้วอายุเท่าไหร่กันเนี่ย...

"น้าไม่ได้มีความสามารถในการจับความคิดคน แต่เดาว่ากำลังสงสัยอายุที่แท้จริงของพลอยอยู่ใช่มั้ย พลอยเค้าแค่ 16 เอง" น้าไพลินบอกยิ้มๆก่อนจะร่ายต่อ

"ทีนี้เป็นส่วนสำคัญแล้ว หลังจากที่น้าไพลินกับเพื่อนรู้ว่า มีองค์กรลับ ZINA มีเป้าหมายที่จะใช้ประโยชน์จากงานวิจัยพวกนี้ให้กับตัวเอง ประกอบกับมีคนของ ZINA แทรกซึมอยู่ใน UNX จนไม่รู้ใครเป็นใคร ถ้ากับเพื่อนเลยตัดสินใจยุติงานวิจัยแล้วก็ถอนตัวออกจากโครงการซะ เพื่อจะมาใช้ชีวิตในแบบคนธรรมดานี่แหละ

"แต่พอ ZINA รู้เข้า ก็ไม่โอเค เพราะน้าเป็นหัวหน้าทีมวิจัย ข้อมูลการวิจัย 80% อยู่ที่น้าหมดเลย ทางนั้นเลยตามล่าตัวน้า และที่สุดแล้วก็พยายามบังคับน้าด้วยการขู่ฆ่าเพื่อนที่น้ารักที่สุด.. โชคร้ายที่มันทำสำเร็จ.. ด้วยการจัดฉากอุบัติเหตุ.." ถึงตรงนี้ น้าไพลินเริ่มมีน้ำตาคลอออกมาที่เบ้าตา ผมสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของความเศร้าที่ตลบอบอวลไปทั่วทั้งคันรถ

"เสียใจด้วยครับน้าไพลิน" ผมไม่รู้จะพูดอะไร ก็ได้แต่แสดงความเสียใจออกไป

"ใช่ เธอควรจะเสียใจอย่างที่สุดนั่นแหละ เพราะเพื่อนรักของน้าที่จากไปในอุบัติเหตุครั้งนั้น คือพ่อแม่แท้ๆของเธอ.." แล้วน้าไพลินก็เอ่ยสิ่งที่ผมตกใจที่สุด เพราะตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี ผมพยายามถามน้าสาวผมมาตลอด ทั้งเรื่องใครคือคนอุปถัมป์ผม แล้วพ่อแม่แท้ๆผมไปไหน แต่กลับกลายเป็นว่า คำตอบของคำถามเหล่านั้น ถูกเฉลยออกมาในคืนนี้คืนเดียว

"เกิดอะไรขึ้นกับพ่อแม่ผมเหรอ.." ผมถามไปอย่างเลื่อนลอย ภาพของพ่อแม่ผมที่จำความได้ ก็ย้อนไปตอนเด็กๆเลย แต่หลังจากนั้นก็มีแค่ความทรงจำที่อยู่กับน้าอีกคนแล้ว

"เอาเป็นว่ามีอุบัติเหตุ เธอก็อยู่ในรถคันนั้น แต่พ่อแม่เธอไม่รอด ส่วนเธอ นอกจากจะรอดราวกับปาฏิหาริย์ยังไม่พอ ยังฟื้นตัวเร็วอีก ตั้งแต่นั้นมา คนของ ZINA เลยรู้ว่า งานวิจัยของน้าสำเร็จแล้ว และเธอคือหลักฐานสำคัญ พวกนั้นเลยเฝ้าติดตามเธอตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา นี่คือสาเหตุที่น้าไม่เปิดเผยตัวเองมาตลอด"

ผมเริ่มจะขนลุกแล้ว แสดงว่าสตีฟที่มานั่งที่ร้านที่ผมทำงานอยู่ทุกอาทิตย์นั้น ไม่ใช่ติดใจในรสชาติอาหารหรืออะไร แต่เป็นเพราะมาเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของผมงั้นเหรอ ไหนจะอีฟที่มาอยู่ห้องข้างๆผมอีก แต่.. อีฟที่กำลังนั่งฟังทุกอย่างอยู่ข้างๆผมตอนนี้ ถ้าสิ่งที่น้าไพลินพูดเป็นจริง แล้วอีฟล่ะ..?

"พี่นี่อ่อนต่อโลกจริงๆ เคยดูมั้ย หนังสายลับอะ แผนซ้อนแผนอ่ะ" อยู่ดีๆอีฟก็โพล่งขึ้นมา ผมขมวดคิ้วแล้วหันไปมองหน้าเธอแบบงงๆพลางไม่ไว้ใจ ส่วนน้าไพลินกับน้องพลอยนั่งอมยิ้มกันทั้งคู่

"คืออะไร.." ผมไม่เข้าใจที่อีฟจะสื่อ

"เห้อออออ คุณพี่ขาาาาาาา นอกจากจะใช้พลังในทางกามๆอย่างเดียวเนี่ย ช่วยใช้วิเคราะห์สถานการณ์หน่อยสิ ไม่สงสัยหน่อยเหรอ อีฟเคยบอกให้ดูข้อความดีๆ ไม่เอะใจหน่อยเหรอ ที่อีฟชวนพี่ดูหนัง Knowing ที่มีฉากเรื่อง GPS คืออีฟไม่ได้มีอารมณ์พิศวาสอะไรหรอก แต่เห็นพี่ไม่เข้าใจข้อความสักที เลยพยายามจะบอกใบ้ในหนัง กว่าจะเข้าใจได้ก็เหนื่อยเลย อารมณ์เสียย~" อีฟกอดอกบ่นผมพลางกรอกตามองบนอย่างเสียมิได้

"หมายความว่า.. อีฟ.." ผมเริ่มจะจับประเด็นได้แล้ว แสดงว่าอีฟเป็นคนของน้าไพลินเหรอ แล้วไปอยู่กับสตีฟได้ยังไง งง

"เริ่มฉลาดขึ้นนิดนึงละ ใช่ค่ะ คนสวยๆอย่างอีฟจะไปอยู่ฝ่ายผู้ร้ายก็กระไรอยู่" อีฟพูดยิ้มๆพลางมองผม

"อีฟเป็นคนของ UNX นี่แหละ แต่อย่างที่น้าบอก ตอนนี้ UNX กับ ZINA มันมีคนปะปนกันมั่วไปหมด มันเลยเป็นช่องทางให้อีฟแฝงตัวไปอยู่กับ ZINA ได้ และก็เพราะอีฟนี่แหละ ที่ทำให้น้ารู้ว่า ZINA กำลังมีแผนจะดึงเธอเข้าสู่องค์กร ด้วยการใส่ร้ายพวกเรา และจะใช้เธอเป็นเครื่องมือ" น้าไพลินบอก อย่างนี้นี่เอง เรียกง่ายๆว่า อีฟเป็นสายลับสองหน้าสินะ นี่มันหนังสายลับชัดๆ

"แล้ว.. ทำไมถึงบอกไม่ให้ผมเชื่อใคร" ผมหันไปถามน้าไพลิน

"ข้อความนั้น น้าจะบอกว่าอย่าเชื่อใจสตีฟนั่นแหละ แล้วก็อย่างที่เห็น ผลของการเชื่อใจ วันนี้มีคนตายเพิ่มอีกแล้ว.." น้าไพลินคงหมายถึงคนที่ตายวันนี้ที่บ้านเสี่ยอั๋น

"แล้วเรื่องของอิงล่ะ มันเกิดอะไรขึ้น" ผมหันไปถามอีฟ

"จำที่สตีฟบอกได้มั้ยคะ สตีฟบอกว่ามีคนทำให้อิงเปลี่ยนไป จริงๆแล้วก็คือคนของ ZINA แหละ จุดประสงค์เพื่อจะใส่ร้ายว่า UNX เพื่อให้พี่ต่อต้านพวกเรา และไปเข้าร่วมกับ ZINA " ผมฟังถึงตรงนี้แล้วน้ำตาเริ่มคลอ ทุกอย่างกลับตัลปัตรไปหมด กลายเป็นว่า คนพวกนั้นใช้อิงเป็นเครื่องมืองั้นเหรอ มิน่า อยู่ดีๆมันถึงกระทันหันมาก กลายเป็นว่า เป็นเพราะผมแท้ๆ ทำให้อิงต้องเจออะไรแบบนั้น

"แต่อย่าลืมนะคะ อีฟเคยบอกพี่แล้ว เราไม่สามารถบอกให้ใครทำอะไรได้หรอก ถ้าจิตใต้สำนึกเขาไม่ได้มีความต้องการแบบนั้น" อีฟว่า แต่ผมไม่เข้าใจว่าอีฟหมายถึงว่า ลึกๆแล้วอิงต้องการเลิกกับผม หรือลึกๆแล้วอิงเป็นคนที่ซ่อนอีกบุคลิกเอาไว้กันแน่

"แล้ว.. ทำไมอีฟไม่เตือนพี่" ผมหันไปถามอีฟ

"อีฟต้องพยายามทำตัวให้สตีฟเชื่อใจ ตอนนั้นสิ่งสำคัญคือต้องรู้ให้ได้ว่า สตีฟกำลังทำอะไรอยู่ อีฟเลยต้องเลยตามเลยไปก่อน" อีฟร่ายยาว

"อื้อ.. แล้วผมควรต้องทำยังไงต่อ" ผมหันไปถามน้าไพลิน

"ตอนนี้ทำทุกอย่างให้เป็นปกติไว้ก่อน เราไม่รู้ว่างานเมื่อคืน สตีฟจะเอาโฉนดไปทำอะไร แต่สตีฟเป็นคนมีอุดมการณ์ ไม่ทำอะไรเพื่อตัวเอง น้าเลยมั่นใจว่า เขาจะต้องทำเพื่ออะไรบางอย่างที่ใหญ่กว่านี้แน่ๆ ซึ่งไม่รู้ว่ามันจะสร้างความเสียหายได้มากน้อยแค่ไหน ตอนนี้เราต้องนิ่งและแอบสืบไปก่อน" น้าไพลินอธิบาย

"แต่.. อีฟอ่านใจคนได้นี่ ทำไมอีฟไม่อ่านใจสตีฟ" ผมหันไปถามอีก

"ความสามารถอีฟไม่ได้เยอะขนาดนั้น แล้วอีฟก็ต้องแสดงละคร ส่วนสตีฟก็ความสามารถเยอะกว่าอีฟเยอะ ที่แน่ๆที่รู้ตอนนี้ สตีฟควบคุมระดับการทำงานของกล้ามเนื้อคนอื่นได้ คนที่หัวใจวายตายที่บ้านเสี่ยอั๋น น่าจะเพราะสตีฟทำให้หัวใจทำงานหนักกระทันหัน"

"เอาล่ะ น่าจะพอเข้าใจอะไรๆทั้งหมดแล้ว สาเหตุที่น้านัดพบวันนี้ ก็เพื่อจะบอกตรงๆนี่แหละ สาเหตุเป็นที่นี่ เพราะเป็นที่โล่ง มีกล้องวงจรปิดแค่ของปอท.ที่เราควบคุมไว้อยู่ ฉะนั้นตรงนี้จะไม่โดนสอดแนมแน่ๆ"

"แล้วผมควรต้องทำยังไงต่อ.." ตอนนี้ผมเริ่มจะสับสนในตัวเองจริงๆแล้วแหละ อาทิตย์ที่แล้วเป็นคนออกหัก อาทิตย์นี้กลายเป็นจารชนที่ทำงานให้กับองค์กรระดับโลก เห้อออ

"ทำตัวตามปกติไป ธรรมชาติของคนมีความสามารถพิเศษ มักจะสนุกกับพลังของตัวเอง พี่ก็สนุกกับมันซะ จะทำอะไรก็ทำไป แต่อย่าให้เดือดร้อนคนอื่นเกินไปก็พอ..' อีฟหันมาบอกผม

"ใช่ น้าไม่ต้องการให้เธอเข้าไปยุ่ง ทั้ง UNX ทั้ง ZINA หรือใครก็แล้วแต่ ที่จริงน้าอยากให้อีฟออกจาก UNX ซะเดี๋ยวนี้ด้วยซ้ำ แต่เพราะติดภารกิจแฝงตัวอยู่ น้าอยากให้เราใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาก็พอ ความพยายามไปเปลี่ยนแปลงธรรมชาติของโลก มันไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่ดีหรอก" น้าไพลินบอก


#################


สายตาผมเหม่อลอยอย่างไร้จุดหมายในขณะที่นั่งอยู่ในรถที่อีฟขับระหว่างทางที่เรากลับ ตอนนี้ผมสับสนมาก ใครไม่เป็นผมก็คงจะไม่เข้าใจ อยู่ดีๆอกหัก อยู่ดีๆมีพลังพิเศษ อยู่ดีๆเกี่ยวข้องกับองค์กรระดับโลก ไหนจะมีคนตายอีก เรื่องนี้มันใหญ่เกินตัวผมเกินไปแล้ว

ผมหันไปมองอีฟที่กำลังตั้งใจขับรถ ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเธอทนแบกรับเรื่องนี้ได้ยังไง ทั้งๆที่เธออายุน้อยกว่าผมซะด้วย

"ก็อีฟไม่ได้อ่อนแอเหมือนนี่" อีฟหันมายิ้มเยาะ การผมเริ่มจะชินกับการที่เธออ่านความรู้สึกผมได้แล้วแหละ

"ว่าแต่ ทำไมพี่ไม่เคยเห็นอีฟที่มหาลัยเลย" แน่นอนว่า คนที่สวย น่ารัก ออร่าระดับ 11 เต็ม 10 จากเกณฑ์การให้คะแนนของไอ้อ้นอย่างอีฟนั้น ยังไงก็ต้องโดดเด่นในมหาลัยแน่ๆ แต่ผมก็สงสัยว่าทำไมเราไม่เคยเจออีฟมาก่อนเลย

"จริงๆอีฟเพิ่งเข้าไปอาทิตย์ที่แล้วแหละ อ้างว่าย้ายกลางเทอม ปกติก็ไม่ได้หรอก แต่ด้วยความเส้นใหญ่ของสตีฟ เรื่องยากๆก็ง่ายไปเลย" อีฟอธิบายผมเลยถึงบางอ้อ

"แล้วทำไมต้องย้ายมาที่นี่อ่ะ แต่ก่อนเรียนที่ไหน" ผมก็ยังสงสัยอยู่ดี มีเหตุผลอะไรที่ต้องขวนขวายเพื่อเข้ามาเรียนกลางเทอมขนาดนั้น

"พี่คะ ลืมไปเหรอเนี่ย อีฟไม่ได้สมองเหมือนคนปกตินะ อีฟสอบเทียบจบป.ตรีตั้งแต่ 14 แล้ว ที่มาเข้ามหาลัยนี่ก็เพื่อจะอยู่ใกล้พี่เฉยๆ" อีฟบอก อีกเรื่องที่ผมเริ่มจะชินก็คงจะเป็นตอนเธอโม้นี่แหละ

"อ๋อแหมมมม อยากอยู่ใกล้พี่ละสิ.." ผมแซวเธอขำๆ

"หึ ใครจะอยากอยู่ใกล้คนลามกแบบพี่ หมายถึงอยู่สอดแนมพี่ต่างหากล่ะ" อีฟเบ้ปากบ่นแล้วก็หันไปตั้งใจขับรถต่อไป

...........

ไม่นาน เราก็มาถึงคอนโด เราต่างคนต่างแยกย้ายห้องใครห้องมัน ก่อนหน้านั้นเราตกลงกันว่า จะทำทุกอย่างให้เป็นปกติก่อน เพื่อดูว่าสตีฟนั้นต้องการจะทำอะไรกันแน่

แล้ววันนี้ก็ผ่านพ้นไป ถือเป็นวันที่ผมจะต้องจดจำ เพราะมีเรื่องราวต่างๆมากมายเยอะเหลือเกิน พรุ่งนี้ผมตั้งใจจะง้อแทน ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวต้องเรียนด้วยกันอาทิตย์นี้และที่ต้องลงพื้นที่รีเสิร์ชจะทำให้มองหน้ากันไม่ติด

แต่ก่อนที่ผมจะล็อกหน้าจอโทรศัพท์และเข้านอนนั้น อยู่ดีๆผมก็คิดถึงอิงขึ้นมา โดยเฉพาะตอนนี้ที่ผมเข้าใจทุกอย่างแล้ว ว่าอิงถูกเปลี่ยนความคิด ยิ่งทำให้ผมรู้สึกสงสารและอยากให้เธอกลับมา แต่ก็ติดเรื่องแทนอีก แม้ในใจผมจะแอบคิดแบบผู้ชายทั่วๆไปว่า อยากได้ทั้งหมดก็เถอะ

ผมเปิดไลน์แล้วเลื่อนหาแชทเธอ กดเข้าไปแต่ไม่กล้าจะส่งซักที ผมไม่รู้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ หรืออยู่กับอาร์ทแฟนใหม่เธอหรือเปล่า รวมถึงว่า ผมจะคุยยังไงกับเธอ อยากให้เธอกลับมา แต่เธอจะกลับมายังไง

แล้วผมก็ตัดสินใจกดโทรศัพท์โทรหา แต่เป็นโทรหาอีฟ

"อีฟ.. หลับยัง" ผมกรอกเสียงไปในโทรศัพท์

"อือออ ยัง ว่าไงคะ" เสียงอีฟตอบกลับมาจากโทรศัพท์ ฟังดูก็รู้ว่าเธอนอนไปแล้ว แต่ปากบอกผมว่ายัง

"ตอแหล นอนไปแล้วชัดๆ" ผมพูดไปยิ้มๆ ตั้งใจจะวางสายเพราะไม่อยากรบกวนเธอ

"เก่งนี่นาา ส่งไปเถอะ ไม่ต้องคิดมาก พี่จะทำอะไร อีฟจะหนุนพี่เองงงง" อีฟตอบกลับมาราวกับว่าเธอรู้ว่าผมจะถามอะไร เออ ก็รู้อ่ะแหละ

"ขอบคุณนะอีฟ.." ผมยิ้มเล็กๆพลางตอบเธอกลับไป เอาจริงๆผมเริ่มมีความรู้สึกดีๆให้เธอแล้วแหละ โอเค เธอชอบกวนประสาท ชอบแสดงออกว่าเก่งกว่าผม ชอบรู้ทันสิ่งที่ผมคิด แต่คุณเคยมั้ย เมื่อไหร่ที่เจอคนที่เข้าใจในสิ่งที่คุณคิดทุกอย่าง โดยที่คุณไม่จำเป็นจะต้องอ้าปากพูดเลย มันคงเป็นสิ่งที่เรียกว่า 'รู้ใจ' ละมั้ง  ให้ตายสิ ไหนจะอิง ไหนจะแทน นี่ก็อีฟ เมื่อคืนก็เดียร์ อยากได้ทั้งหมดเลย ผมนี่มันเลวจริงๆ

"...ฟี๊.." ไม่มีเสียงตอบอะไรกลับมาจากโทรศัพท์นอกจากเสียงกรนเบาๆ เป็นสัญญาณให้ผมรู้ว่าเธอคงหลับแล้วจริงๆ

"ฝันดีนะครับอีฟ" ผมพูดแล้วก็กดวางสายโทรศัพท์ ก่อนจะตัดสินใจเริ่มต้นทักไลน์ไปหาอิง

ต่อ : อิง

อิง : ว่าไงคะ

อิงตอบกลับมาแทบจะในทันที ครั้งล่าสุดที่เราคุยกัน คือตอนที่เธอนัดเจอผมที่สตาร์บั๊ค โดยที่เธอไม่รู้ว่า เมื่อคืนนั้นผมอยู่หน้าห้องที่เธออยู่กับอาร์ทนั่นเอง

ต่อ : นอนยัง

อิง : ยังเลย

ผมรู้สึกได้ถึงการถามคำตอบคำ เธออาจจะยังโกรธผมเรื่องที่สตาร์บั๊คอยู่

ต่อ : เอ่อ ขอคุยหน่อยได้มั้ย

อิง : อื้ม



สวัสดีครับคุณผู้อ่านทุกคน หายไปสองวัน จริงๆคือเขียนเกือบเสร็จแล้ว แต่พยายามยัดฉากสยิวๆมาให้ แต่ก็ยัดไม่ไหว เพราะ EP นี้จะเฉลยอะไรหลายอย่างเลย มันเลยค่อนข้างยาว แล้วมันเป็นอารมณ์ซีเรียสอยู่ อาจจะขัดใจสาย NC นิดนึงนะครับ แหะๆ

แต่หลังจาก EP นี้ บอกเลยว่าแซ่บ นายต่อเราจะหื่นอย่างเดียวแล้ว เพราะมีเพื่อนหื่นๆอย่างไอ้อ้นนั่นเอง 555

จากที่คิดไว้ เรื่องนี้มาถึงประมาณเกือบครึ่งแล้ว (จริงๆจักรวาลยังขยายต่อไปได้อีกหลายเรื่องเลย) ถ้าใครมีคำแนะนำเรื่องแนวเรื่องหรืออะไร ผมยินดีรับคำถามแนะนำติชมอย่างยิ่งเลยนะครับ

คำถามร่วมสนุกประจำ EP นี้ มีใครสังเกตุอะไรในองค์กรของสตีฟและวัตถุประสงค์ได้มั้ยครับ ถือว่าเป็น Easter Egg เล็กๆละกัน

ขอให้มีความสุขทุกคนครับ


คอมเม้นท์เพื่ออ่านตอนจบของ EP นี้นะครับ

ปล.เพิ่งเห็นท่าน Assasin008 มาอ่านเรื่องนี้ของผมด้วย ตื่นเต้นนนน ขออนุญาตทวงนิยายตรงนี้เลยนะครับ ผมรอน้องมายด์ของท่านทุกวันนนนน กลับมาต่อให้ผมที รอเหตุการณ์ที่เสม็ดใจจะขาดแล้วววว

::DookDig:: ::DookDig:: ::DookDig::






 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

lukpuman

ลึกลับ ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน มีเงี่ยนด้วย  แหะแหะ
น่าติดตามเป็นที่สุด

tantawanjames

เริ่มมีความลึกลับมากขึ้นเรื่อยๆน่าติดตามมากครับ แล้วต่อจะจัดการกับเรื่องอิงยังไงดีนะ

yaguza

เป็นเรื่องที่ดูลึกลับ ต่อไปนายต่อต้องหัดใช้สมองเยอะๆๆ

longman_44

อิงอยู่กับแฟนใหม่รึเปล่า เดี๋ยวได้มีเสียงแปลกๆแน่

evilbenz

นี่มันหนังสายลับชัดๆ  มันซับซ้อนซ่อนเงื่อน มีปมให้คลี่คลายอีกเยอะเลยครับ

Nong5670

สงสัยจะเสร็จนายต่อจริงๆนะน้องอีฟ

peddo

#7
นึกอยู่เหมือนกันว่า สตีฟไม่น่าไว้ใจ แต่ยังสงสัยเรื่องอีฟ คงต้องระวังเหมือนกันว่า ใครจะกลับข้างได้อีก ต่อต้องระวังทุกฝีก้าว แต่ดูเหมือน ต่อจะสนใจแต่เรื่องกามๆ อย่างที่อีฟว่า แต่น่าสนใจ เรื่องของอิง เพราะน่าสนใจมากว่า เธอต้องเจออะไรมาบ้างนะครับ
ขอบคุณครับ
ต่ออาจจะลืมว่า อ้นก็อาจจะเป็นสายลับเหมือนกัน โผล่มาได้ที่ตลอด ยังกะแอบตามอยู่เลย 555

yoyoman

  หักมุมกลับไปกลับมา เนื่องนี้ไว้ใจใครไม่ได้เลยจริงๆ

xonly-1454

หวังว่าสตีฟคงไม่มุ่งหวังทางธุรกิจ น่าจะเป็นหวังอำนาจทางการเมืองมากกว่า  หวังต่อไปว่านายต่อคงจะไม่หื่นมากจนรุนแรงกับสี่สาว

icanfly

ไม่ยัดก็ไม่เป็นไรครับสายหื่นเข้าใจ
พอหอมปากหอมคอ

หลังจากนี้ก็ให้ความหื่นนำพาพระเอกเราแล้วค่อยกลับเข้าฝั่งอีกที

Nal

เดาถูกเฉยว่าสตีฟเป็นตัวโกง

Phatsakorn Kamkom


rahoo99

แบบเดียวกับของโกวเล้ง หักมุมไปมาให้คนอ่านเหวอได้ตลอด เพศสัมพันธ์ที่ต้องพลังพิเศษกับธรรมดาความสะใจจะต่างกันมั้ยหว่า

Ttum1188

น่าจะยังมีเงื่อนงำอีกนะครับเนี่ย