ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_llOUllnJllUUllSJllSJ

จ้าวโลก EP.13 (NTR/Harlem/Super Power)

เริ่มโดย llOUllnJllUUllSJllSJ, มีนาคม 12, 2021, 07:13:20 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

llOUllnJllUUllSJllSJ

สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นสมาชิก xonly8 อ่านเต็มได้ที่ https://fictionlog.co/b/6053b2ece9cbb4001caf362f


แทนยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าผม แม้ว่าผมพยายามจะอ่านแววตาและจับความรู้สึกของเธอ แต่คงเป็นเพราะผมไม่ได้มีความสามารถแบบอีฟ มันเลยทำให้ผมพบแต่ความว่างเปล่าในนัยตาคู่นั้น

ผมพูดออกไปแล้ว ประโยคที่อาจจะฆ่าผมทั้งเป็น ประโยคที่อาจจะทำลายความสุขที่มีมาวันนี้ทั้งวัน และอาจจะแค่อีกไม่กี่อึดใจ ผมคงได้รู้แล้วว่ามันเป็นเรื่องโง่ที่สุดในชีวิตหรือเปล่า ที่ทำให้ผู้หญิงที่คนจำนวนมากอยากได้ ต้องหลุดมือไปด้วยความโลภของผมเอง

ผมรู้สึกเหมือนทุกอย่างหยุดนิ่ง ผมไม่รู้แม้กระทั่งว่าเวลาผ่านไปเนิ่นนานแค่ไหน เข็มนาฬิกากระดิกไปมากน้อยเพียงไร หากนี่เป็นฉากหนึ่งในการ์ตูนหรือในหนัง บรรยากาศรอบข้างผมคงมืดสนิท และเหลือเพียงแค่สปอร์ตไลท์ดวงเดียวที่ฉายส่องมาที่เราสองคน

"ต่อ.." แทนเอ่ยชื่อผมออกมาเป็นคำแรก ผมไม่รู้ว่าประโยคหลังจากนี้จะเป็นตั๋วไปสู่สวรรค์หรือดิ่งลงสู่นรกของผมกันแน่ แต่ในเมื่อผมพูดออกไปแล้ว ผมคงไม่สามารถย้อนเวลาเพื่อกลับไปแก้ไขอะไรได้อีก

แต่ยังไม่ทันทีที่ผมจะได้ยินคำพูดต่อมาของแทน เสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้น

เพลี๊ยะ~!!!

โดยไม่ทันได้ตั้งตัว ฝ่ามือนุ่มของแทนแหวกอากาศมากระทบแก้มผมตอนไหนไม่รู้ แม้ว่าทุกอย่างมันจะดูช้าและเนิ่นนาน แต่ดูเหมือนว่าความเร็วของฝ่ามือเธอมันไม่สัมพันธ์กับสเปซไทม์ ณ ขณะนั้นเลย

ผมหน้าหันไปตามแรงตบของแทน อา.. มันก็สมควรแล้วแหละ ผมทำร้ายความรู้สึกของผู้หญิงที่กำลังเริ่มต้นมีความสุขแท้ๆ

"นายเห็นเราเป็นอะไร.." ผมสาบานได้ว่า ผมเห็นหยาดน้ำตาที่กำลังคลออยู่ในเบ้าตาของเธอ ในตอนที่เธอถามผม

พลังความสามารถผมคงใช้ไม่ได้จริงสินะ หรือจะพูดให้ถูก คงใช้ไม่ได้กับกรณีนี้ ผมคงไม่เก่งพอ หรือไม่ก็เป็นอย่างที่อีฟเคยบอก เพราะจิตใจแทนคงไม่ได้มีเรื่องนี้อยู่ลึกๆในใจ ทำให้การที่ผมพยายามโน้มน้าวจิตใจเธอมันไม่ได้ผล และผลตอบรับเลยกลายเป็นหัวใจที่แตกสลาย

ผมรู้ว่าพลาดแล้ว โลกนี้คงไม่มีพลังวิเศษอะไรที่สามารถเปลี่ยนสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ได้ขนาดนั้น และนี่ก็เช่นกัน มันคงเป็นสิ่งที่เกินความสามารถทางสมองของผม ถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้ ผมก็อยากย้อนเวลากลับไป ผมอยากให้แทนลืมช่วงเวลานี้ ช่วงเวลาที่ผมได้พูดสิ่งที่ทำร้ายจิตใจเธอออกไป แต่ก็อย่างที่รู้ๆ การย้อนเวลามันเป็นไปไม่ได้ แม้จะมีความสามารถพิเศษอะไรนั่นก็เถอะ

แทนหันหลังเดินขึ้นรถไปโดยไม่พูดอะไรกับผมอีกเลย เธอสตาร์ทรถและขับออกไปโดยไม่แม้แต่มองหน้าผมผ่านกระจกรถ ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ขาผมกลับอ่อนแรงและทรุดลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้น ตาผมเริ่มพร่ามัวและมองไม่เห็นอะไร คงเป็นเพราะน้ำตาที่เริ่มไหลรินมาเติมเต็มดวงหน้าของผม ผมคงเสียแทนไปแล้ว แม้ว่าอิงจะยังอยู่ แต่ผมก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ผมก็รักแทนไม่น้อยไปกว่าอิงจริงๆ

ผมไม่กล้าแม้แต่จะกดโทรศัพท์โทรหาแทนเพื่อขอโทษ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถ้าต้องเจอหน้าแทนอีกครั้ง จะเป็นยังไง ผมไม่รู้ว่าคนอื่นจะมองยังไง ที่ทำให้แทนต้องเสียใจ ตอนนี้ผมกลัวไปหมดทุกอย่าง กลัวว่าถ้าผมตัดสินใจผิดไป อาจจะทำให้แทนต้องเสียใจแบบที่ผมเพิ่งทำมา

ผมเดินอย่างไร้จุดหมาย แม้ว่ารถผมจะยังคงจอดอยู่ที่ห้าง และแม้ว่าห้างจะไกลจากคอนโด แต่ผมแค่อยากใช้เวลากับตัวเอง ผมถามความรู้สึกตัวเองตอนนี้ แล้วก็รู้คำตอบว่า สิ่งที่ทำให้ผมเสียใจ ไม่ใช่การที่เสียแทนไป แต่เป็นการทำให้แทนเสียใจต่างหาก

ผมไม่รู้ตัวเลยว่ามันผ่านไปกี่ชั่วโมง รู้ตัวอีกที ผมก็มาถึงคอนโดผมแล้ว ความทรงจำของการอกหักพุ่งกลับเข้ามาหาผมอีกครั้ง เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผมต้องเจ็บปวดเพราะอกหัก และแม้ว่าจะมีความสุขในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ผมก็ทำมันพังจนกลับไปรู้สึกแบบเดียวกันกับอาทิตย์ที่แล้ว ชีวิตมันเป็นอะไรที่คาดเดาได้ยากจริงๆ

ในช่วงเวลาแบบนี้ ผมอยากจะเคาะประตูห้องอีฟ แล้วระบายทุกอย่างออกไป แม้จะรู้ว่าอีฟคงจะรับฟังผม แต่ผมกลับเลือกที่จะเก็บเงียบไว้ดีกว่า ผมรู้สึกตัวเองว่า บางที.. ผมอาจจะไม่ได้ดีพอสำหรับใครเลยซะด้วยซ้ำ

ในหัวผมยังคงวกไปเวียนมากับการโทษตัวเองและบอกตัวเองว่าไม่น่าเลย ไม่น่าทำให้แทนเสียใจ และอยากให้แทนลืมเรื่องที่ผมพูดไป หรือแม้กระทั่งอยากย้อนเวลากลับไป ถ้าเลือกได้ผมก็จะไม่พูด แต่นั่นแหละนะ ชีวิตจริงไม่ใช่นิยาย มันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะ

ก๊อกๆๆๆๆๆ~  เสียงเคาะประตูคอนโดผมดังขึ้น ผมต้องลากสังขารที่ดูโทรมและเหนื่อยล้าจากการเดินเป็นระยะหลายกิโลเมตรจากห้างมาที่คอนโด คงเป็นอีฟที่เคาะประตู เธอคงรับรู้ได้ถึงอารมณ์เสียใจและความผิดหวังของผม แต่ให้ตายสิ ผมไม่อยากจะเจอใครเลยจริงๆในตอนนี้

ผมเดินมาถึงประตู แล้วก็เปิดประตูแง้มๆ เพราะรู้ว่า อีฟมักจะดันประตูเข้ามาเองอย่างถือวิสาสะเสมอ และผมก็ชินกับนิสัยแบบนั้นของเธอแล้ว

"เอ่อ.. ขอเข้าไปได้มั้ย"

"ได้ เข้ามาสิ" ผมหันหลังเดินกลับมานั่งโซฟาโดยไม่ได้เปิดประตูให้ เพราะเดี๋ยวอีฟก็คงเปิดประตูเองอยู่แล้ว แต่ก็แอบแปลกใจเล็กๆ อีฟไม่เคยขอเข้าห้องผม ถ้าเธอจะเข้า เธอจะเดินเข้ามาเองเลย

"ต่อ.." อีฟเรียกผม เดี๋ยวนะ.. ปกติอีฟจะเรียกผมว่าพี่ไม่ใช่เหรอ?

ผมรีบหันกลับไปที่ประตูทันที เพราะผมจำเสียงนี้ได้ แม้ว่าจะเป็นเสียงที่ไม่น่าจะได้ยินที่สุดในช่วงเวลาแบบนี้.. เสียงของแทน

แล้วภาพที่ผมเห็นที่ประตูห้องที่ยังเปิดไม่สนิทนั้น ก็ทำให้ผมเซอร์ไพรซ์ เพราะแทนยืนทำหน้าเหรอหราอยู่ที่ประตูทั้งๆที่เธอโกรธผมอยู่ไม่ใช่เหรอ?

"เอ้อ.. แทน.." ผมไม่กล้าจะพูดอะไรต่อ เพราะรู้ดีว่า สิ่งที่ผมพูดไปนั้นมันเลวร้ายแค่ไหน

"เธอเป็นไรป่าว แทนขอเข้าไปได้มั้ย" เธอถามผมพร้อมกับมองอย่างลังเล จนผมเพิ่งนึกได้ว่า ผมยังไม่ได้เปิดประตูให้เธอ

"เอ้อ เข้ามาสิ" ผมเปิดประตูให้แทนที่เดินถือถุงของกินเข้ามา

"เธอเป็นไรป่าว ทำไมดูแปลกๆ" แทนยืนจ้องหน้าผมพลางถามอย่างงงๆ แต่ที่งงยิ่งกว่าคงเป็นผมเองนี่แหละ ที่แทนทำตัวราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"แทน.. มาได้ไงอ่ะ" ผมถามเธอ ผมไม่แน่ใจนักว่า​ ณ เวลาแบบนี้ควรจะพูดอะไร

"ก็ขับรถมาไง.. เธอไม่สบายป่ะเนี่ย" แทนขมวดคิ้วสงสัย แล้วก็เดินเอามือมาแตะหน้าผากผม

"ตัวก็ไม่ได้ร้อนนี่" เธอบ่นพึมพัมกับตัวเอง

ถ้ามีใครสักคนอยู่ข้างๆผมตอนนี้ ผมก็อยากจะถามคนนั้นเหมือนกันว่า แทนเป็นอะไร ทำไมอยู่ดีๆกลายเป็นเหมือนว่าเธอลืมทุกอย่างจนหมดสิ้น เดี๋ยวนะ.. ลืมเหรอ..?

ผมนึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ที่ลานจอดรถ หลังจากที่เธอตบหน้าผม หลังจากที่เธอตัดพ้อใส่ผม ตอนนั้นเอง ที่ผมคิดว่า อยากให้เธอลืมสิ่งที่ผมพูดไปซะ อยากจะย้อนเวลากลับไปแก้ไข แน่นอนว่า การย้อนเวลามันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว แต่การที่ทำให้เธอลืมนั้นมันทำได้!

ผมเข้าใจแล้ว จิตใต้สำนึกแทนไม่ได้มีความคิดอะไรแบบนี้อยู่ นั่นเลยทำให้ผมโน้มน้าวจิตใจเธอไม่สำเร็จ แต่การทำให้ใครสักคนลืมอะไรสักอย่างนี่มันเป็นอะไรที่ง่ายดายอยู่แล้ว เพราะคนเราทุกคนก็มักจะลืมได้ง่ายๆกันหมดนั่นแหละ ดังนั้น การที่ผมโน้มน้าวจิตใจให้แทนลืมสิ่งที่ผมพูดไป เลยกลายเป็นเรื่องง่ายกว่าทำให้แทนยอมรับให้ผมคบซ้อนนั่นเอง

แต่.. ผมก็ยังไม่แน่ใจซะทีเดียว ผมอาจจะต้องถามเธออีกซักนิด เพื่อพิสูจน์ว่าเธอจำไม่ได้จริงๆ

"แทน เอ่อ.. วันนี้ไปไหนมา" ผมถามเธอ อย่างน้อยก็เพื่อรู้ว่า ความทรงจำของเธอนั้น จำอะไรได้บ้าง

"ก็ไปเรียน แล้วก็ไปห้างกับเธอไง" แทนบอกพลางหยิบถุงของไปวางไว้บนโต๊ะ

"แล้วหลังจากนั้นล่ะ..?" ผมถามช่วงเวลาสำคัญ เพราะถ้าเธอจำได้ เธอจะจำเวลาช่วงนี้ได้นี่แหละ

"ก็เราแยกกลับคอนโดไง ตอนแรกพรุ่งนี้เราว่าจะมาค้างด้วย แต่เราเปลี่ยนใจ อยากค้างคืนนี้เลย เลยไม่ได้บอกเธอก่อน เราซื้อขนมมาเต็มเลยเห็นมั้ย" แทนสาละวนกับการหยิบขนมจากถุงออกมาวางพร้อมกับพูด

"แล้วเธอจำเรื่องที่ลานจอดรถได้มั้ย..?" ผมกลั้นใจถาม

มือเรียวสวยของแทนที่กำลังจัดของนั้นหยุดทันที แทนเงยหน้าขึ้นมองผมพร้อมกับยิ้มแบบเขินๆ

"ไอ้บ้า จำได้สิ จะถามทำไมเนี่ย เราอายเป็นนะ" เธอตอบพลางค้อนเล็กๆ

"อ่าาา ก็แค่ถามดู ว่าแต่.. วันนี้เธอมีความสุขมั้ย" ผมเข้าใจแล้ว เธอคงอายที่เรากอดกันที่ลานจอดรถนั่นเอง

"มีความสุขสิ ถามอะไรเนี้ย พอๆๆๆๆ" แทนหน้าแดงจนเห็นได้ชัด

เป็นอันแน่ใจได้แล้ว ว่าผมดันลบความทรงจำของแทนไปได้โดยบังเอิญ จะว่าเป็นโชคดีของผมก็ได้ เพราะกลายเป็นว่า ช่วงเวลาตอนนั้นมันเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นมาเลย

แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันแรกที่แทนมานอนค้างที่คอนโดผม แต่คงเป็นเพราะเราสองคนเดินห้างมาตลอดช่วงบ่าย และคงเป็นเพราะเรื่องราวที่หมกมุ่นอยู่ในใจผม ที่ยังคงนอนตาแข็งค้างอยู่ ทำให้เราเข้านอนโดยไม่มีอะไรกัน แม้ว่าร่างกายผมจะรู้สึกอยากก็เถอะ แต่จิตใจผมยังคิดวนเวียนอยู่ตลอดเวลา ว่าผมจะทำยังไงกับอิงดี

แทนนอนหนุนแขนกอดผม แม้ว่าภายนอกนั้นเธอจะเป็นสาวมั่น บุคลิกดี มีออร่า เป็นที่ชื่นชอบของหลายๆคน แต่ในตอนที่เธออยู่กับผมสองคน เธอจะเป็นแค่แมวน้อยน่ารัก ที่คอยออดอ้อนออเซาะ คอยทำให้โลกของผมสดใส ผมจินตนาการไม่ออกเลย ว่าผมจะผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายตอนที่โดนอิงทิ้งมาได้ยังไง ถ้าไม่มีแทน

ที่สำคัญที่สุด ในยามที่อยู่บนเตียง แมวน้อยที่แสนจะน่ารักและไร้เดียงสาตัวนี้ จะแปรเปลี่ยนเป็นนางแมวป่าที่พร้อมจะใช้กรงเล็บสวาทฉีกผมขาดกระจุย

ผมกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่า ไม่มีผู้ชายคนไหนในโลกหรอก ที่จะไม่ตกหลุมรักแทน


...........


ผมไม่รู้ตัวเลยว่าหลับไปตอนไหน ความจำสุดท้ายคือแทนที่นอนหนุนแขนผมหลับ ส่วนผมก็ตาแข็งค้างคิดโน่นคิดนี่ไปเรื่อย และเผลอหลับไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รู้ตัวตื่นมาอีกที ก็พบดวงตากลมโตใสแป๋วที่จ้องมองผมอยู่

"ตื่นแล้วเหรอ" แทนถามผมพลางเอานิ้วเขี่ยแก้ม

"อื้อ แทนตื่นนานยัง" ผมถามเธอกลับไป

"ตื่นก่อนเธอไม่นานเนี่ย อยากกินอะไรมั้ยคะ เดี๋ยวแทนทำให้" แทนยังคงน่ารักเสมอ

"ไม่เอาอ่ะ อยากกินแทนมากกว่าตอนนี้" ผมกระชับวงแขนดึงตัวแทนเข้ามากอด แน่ล่ะ เมื่อคืนไม่ได้กิน ตื่นเช้ามาผมก็หิวเป็นธรรมดา

"อิอิ แทนไม่ใช่อาหารเช้านะคะ" แทนเอามือมาปัดป้องผมที่กำลังไซ้คอเธออย่างมีจริต

"ใช่ไม่ใช่ก็น่ากินอยู่ดีแหละ" ผมบอกแทนพร้อมกับประกอบปากจูบเธออย่างแผ่วเบา แทนส่งปลายลิ้นอ่อนนุ่มออกมารับการรุกล้ำจากลิ้นผม ถ้าหากจะเปรียบเทียบแล้ว รสจูบยามเช้าของแทนคงเป็นเหมือนกาแฟ ที่ทำให้ร่างกายผมคึกคักและประปรี้กระเปร่า

"ไม่เอาแล้ววว วันนี้แทนมีนัด เดี๋ยวคืนนี้แทนมาค้างด้วย ค้างถึงคืนวันอาทิตย์เลย ดีมั้ยคะ" แทนผละใบหน้าสวยออกจากผม แม้ว่าผมจะเสียดายนิดหน่อย เซ็กส์ยามเช้ากับสาวสวยอย่างแทนมันเป็นอะไรที่ใครๆก็อยากได้ แต่คงเป็นเพราะความผิดพลาดของผมเมื่อวาน ทำให้ผมไม่กล้าที่จะขัดใจอะไรเธอมาก

ผมมองตาเธออย่างครุ่นคิด อาจจะเป็นโชคร้ายของผม ที่แทนไม่ยอมรับอิง แทนคงไม่ได้มีเรื่องนี้อยู่ในเบื้องลึกของจิตใจ ผมเลยไม่สามารถโน้มน้าวเธอได้ แต่ก็คงเป็นโชคดีของผม ที่ผมดันทำให้เธอลืมได้ มันกลายเป็นว่า ความผิดพลาดที่ผมได้ก่อขึ้นนั้น กลับกลายเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"จะจ้องกันทำไมเนี่ย" แทนหลบสายตาผมที่จ้องเธออย่างเขินอาย แก้มใสของแทนเริ่มแดงระเรื่อขึ้น

"แทน.." ผมเรียกแทน เพราะมีสิ่งหนึ่งที่ผมสงสัย ผมจำได้ว่าในตอนที่ผมมีความสัมพันธ์กับเธอครั้งแรก ผมคิดเล่นๆว่าอยากให้แทนชวนผมมาคอนโด แล้วถ้าอิงตามที่อีฟเคยบอก ที่ว่าคนเราจะทำตามสิ่งที่คนอื่นโน้มน้าวได้ ก็เพราะจิตใต้สำนึกนั้นคิดแบบนั้นอยู่แล้ว แสดงว่า ก่อนหน้านั้น แทนก็ชอบผมเหรอ..?

"คะ?"

"แทนชอบเราตอนไหน ตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ" ผมเริ่มต้นถามเธอ

"แล้วเธอล่ะ ชอบแทนตอนไหน" แทนไม่ตอบคำถามผม แต่ถามผมกลับมา ตอนนี้แทนยังคงอยู่ในอ้อมกอดผม สองตาเราประสานกัน

"ตั้งแต่ตอนงานกีฬาปี 1 อ่ะ" ผมบอกเธอ

ผมยังจำวันนั้นได้ดี แทนที่สวย หุ่นดี สูง อยู่แล้ว จึงไม่แปลกที่เธอจะกลายเป็นฑูตกิจกรรมกีฬา ผมจำได้ว่า ผมนั่งมองเธอจากมุมมองบนอัฒจรรย์ เธอยืนโดดเด่นสะกดทุกสายตาให้มองไปที่เธอคนเดียวในตอนที่เธอปรากฏกายออกมา แม้ว่ารอบกายเธอจะรายล้อมไปด้วยเหล่าเชียร์ลีดเดอร์ที่แต่ละคนก็แจ่มๆทั้งนั้น แต่ในสายตาผมแล้ว แทนดูเหมือนนางเอก ที่สปอร์ตไลท์นั้นส่องไปที่เธอ ในขณะที่คนอื่นๆรอบข้างเป็นได้เพียงนางรองเท่านั้น

และนั่นคือโมเม้นท์แรกที่ผมเริ่มตกหลุมรักเธอ

แต่.. สำหรับผู้ชายหน้าจืดๆที่ไม่มีอะไรไปอวดได้เลยอย่างผม ไม่ว่าจะหน้าตา รูปร่าง ฐานะ ก็คงไม่อาจจะหวังไปไกลถึงขั้นจีนแทนตอนนั้นได้ แม้ว่าต่อมาเราจะมีโอกาสได้เรียนด้วยกันอีก 2-3 วิชา และเริ่มสนิทกันก็เถอะ

จริงๆถ้าจะพูดให้ถูก ผมตกหลุมรักแทนก่อนที่จะคบอิงซะด้วยซ้ำ เพราะผมหลงรักแทนตั้งแต่งานกีฬาตอนผมอยู่ปี 1 ส่วนอิงนั้น ผมคบกับเธอตอนผมอยู่ปี 2

"โห เว่อร์ นานมากเลยนะ ตอนนั้นเรายังเป็นฑูตฯอยู่เลย" แทนเลิกคิ้วตาโตทำหน้าสงสัย

"ใช่ไง เราตกหลุมรักเธอตั้งแต่ตอนนั้นแหละ แต่เราไม่กล้าจีบอ่ะ" ผมตอบเธออย่างเขินๆ

"แหม.. มีเขินด้วย น่ารักนะเนี่ย" แทนเอานิ้วมาจิ้มจมูกผมอยากหยอกเย้า

"ว่าแต่แทนเถอะ ชอบเราตั้งแต่ตอนไหนเหรอ" ผมทวงคำตอบเธอ

"ที่จริง.. เราไม่ได้รู้สึกสปาร์คกับเธอตั้งแต่แรก เรามีแฟนตั้งแต่ปี 1 แล้ว เธอก็รู้ใช่มั้ย ไม่รู้เธอเคยเจอแฟนเก่าเรามั้ย เค้าหล่อ ดูดี มีฐานะ เราเคยคิดว่าเราน่าจะคบกับเค้าไปได้ยาวๆ แต่สุดท้ายก็ไม่ มันก็มีปัญหาต่างๆนาๆจนเรารู้สึกเบื่ออ่ะ สุดท้ายเราก็เหมือนได้เข้าใจว่า จริงๆเราไม่ได้ต้องการความหล่อ ดูดี หรือมีฐานะหรอก เราต้องการความสบายใจมากกว่า" แทนร่ายยาวออกมา

"แล้ว.. เราเป็นความสบายใจของแทนเหรอ?" ผมถามเธอ

"ตอนแรกก็ไม่หรอก แรกๆคิดว่าพวกเธออ่ะประหลาด หมายถึงเธอกับอ้นอ่ะ โดยเฉพาะอ้น ดูเพี้ยนๆ แต่พอได้มาเรียนด้วยกัน ก็รู้สึกว่าเออ สนุกดี และเรารู้สึก.. เอ่อ.. รู้สึกสบายใจมากๆเวลาได้อยู่กับพวกเธออ่ะ ผู้ชายคนอื่นเข้ามาหาเราก็เพราะหวังจะจีบเราทั้งนั้น แต่เธอกับอ้น เราไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น"

"ไอ้อ้นเนี่ยนะไม่จีบ" ผมแย้งเธอไป เพราะก็อย่างที่รู้ๆ ไอ้อ้นมันกะล่อนตอแหลซะขนาดนั้น มันต้องมีประมาณหมาหยอกไก่แซวแทนบ้างแหละ

"ฮ่ะๆ อ้นเค้าก็แซวไปเรื่อยแหละ เรารู้ บางทีมาแซวเรา แต่ตายังเหล่สาวไปเรื่อยอยู่เลย ตลกดีออก" แทนพูดยิ้มๆ

อา.. แสดงว่าที่ผมไม่กล้าจีบเธอ กลับกลายเป็นผลดี ทำให้เธอรู้สึกสบายใจเวลาอยู่กับพวกผมสินะ เลยกลายเป็นว่า พอตอนนั้นผมใช้พลังให้เธอชวนผมไปคอนโด ทุกอย่างก็เลยง่าย เพราะจิตใจเธอเปิดรับผมอยู่แล้วนี่เอง

"ดีจัง แทน.." บอกตรงๆว่า ตอนนี้ผมรักแทนชะมัดเลย

"ว่าไงคะ?" แทนมองตาผม

"เรา.. เราขอโทษ และขอบคุณนะ ที่เป็นความสุขให้เรา" จริงๆผมอยากจะบอกว่าขอโทษสำหรับเรื่องเมื่อวาน แต่พูดไปเธอก็คงงง

"ขอโทษเรื่องอะไร เธอก็เป็นความสุขของเราเหมือนกันแหละ แต่ตอนนี้สายแล้ว เดี๋ยวเราขออาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวไปไม่ทัน วันนี้มีแคสงาน" แทนว่าพลางลุกขึ้นไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าที่เธอขนมา ไม่ได้เยอะอะไรมาก คงพอเตรียมอยู่ได้สัก 2-3 วัน

ร่างสูงสวยของแทนเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว ผมรู้สึกขอบคุณโชตชะตาอีกครั้ง ที่ผมดันลบความทรงจำตอนนั้นของแทนได้ ไม่งั้น เช้าที่สดใสแบบนี้คงไม่มีแน่ๆ

แล้วผมก็คิดถึงอิง บอกตรงๆว่าตอนนี้ผมยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเรื่องอิงจะเอายังไง ใจก็อยากให้อิงกลับมา แต่ในเมื่อแทนไม่โอเค ผมก็อยากเคารพความรู้สึกของแทน แม้ว่าจะต้องเสียใจมากเหมือนกันที่ต้องปล่อยอิงไป แต่ชีวิตมันก็เป็นแบบนี้แหละ คงไม่มีใครในโลกที่ได้สิ่งที่ต้องการเสมอหรอก จริงมั้ย

ผมลุกไปนั่งโซฟาพลางเปิดทีวีดูข่าวอะไรฆ่าเวลาไปเรื่อยในระหว่างที่รอแทนอาบน้ำ ผมยอมรับว่า ผมเป็นคนรุ่นใหม่นะ แต่บางทีผมก็ชอบวิถีชีวิตแบบเก่าๆเหมือนกัน เช่นการเปิดทีวีดูข่าวในตอนเช้า เป็นอะไรที่ผมชอบมาก เพราะเหมือนผมได้รู้ข่าวสารอัพเดทได้โดยที่ผมยังคงทำธุระส่วนตัวยามเช้าได้

และหนึ่งในรายการข่าวที่ผมชอบดู คือรายการข่าวยามเช้านี้นี่เอง

'วันนี้มีความเคลื่อนไหวสำคัญของรัฐบาลครับ ไหนคุณใจดีลองเล่าสิ ว่าความเคลื่อนไหวนี้มันสำคัญยังไง คุณผู้ชมต้องตั้งใจดูให้ดีนะครับ เพราะเป็นที่คาดการณ์กันหลายฝ่ายว่า การตัดสินใจวันนี้ของรัฐบาล จะส่งผลกระทบต่ออุณหภูมิการเมืองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ทั้งหมดเลยทีเดียว ไหนคุณใจดีลองเล่าสิครับ ว่ามันเป็นความเคลื่อนไหวที่สำคัญยังไง..' พิธีกรชายจากช่องข่าวนี้ ยังคงแย่งพูดเหมือนเดิม จนผมแอบขำเล็กน้อย

'ค่ะ สำหรับความเคลื่อนไหวของรัฐบาลวันนี้ สภาจะโหวตรับร่างพรบ.พัฒนาเขตเศรษฐกิจคอดกระ..' พิธีกรสาวที่ชื่อใจดีเริ่มต้นพูด แต่ยังไม่ทันจะได้ใจความ พิธีกรชายก็พูดแทรกขึ้นมาว่า

'ใช่ครับคุณใจดี คือยังงี้ครับท่านผู้ชม ถ้าพรบ.นี้ผ่านเนี่ย โปรเจ็คพัฒนาเขตเศรษฐกิจคอดกระ ที่จังหวัดระนองเนี่ย จะสามารถทำได้ทันที ดังนั้นโปรเจ็คที่เราเคยเห็นทางคณะกรรมาธิการที่ศึกษาและฟันธงความเป็นไปได้ของการขุดคลองคอดกระเนี่ย จะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ทันที' พิธีกรชายว่า

เดี๋ยวนะ คลองคอดกระ ผมคุ้นๆว่ามันคือโปรเจ็คที่จะขุดคลองเชื่อมระหว่างทะเลอันดามันกับอ่าวไทย ซึ่งคลองนี้จะรับเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ได้ โดยปกติ เรือสินค้าจากฝั่งมหาสมุทรอินเดียมาทะเลจีนใต้ หรือทะเลจีนใต้มามหาสมุทรอินเดียนั้น จะต้องไปอ้อมที่สิงคโปร์ นั่นทำให้สิงคโปร์นั้นกลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญของโลก

และแน่นอนว่า การสร้างคลองนี้ จะทำให้ความสำคัญของสิงคโปร์หมดลงไปทันที เพราะบริษัทเดินเรือสินค้าขยาดใหญ่จะเลือกมาใช้คลองคอดกระของไทยแทน ซึ่งจะประหยัดเวลาในการเดินเรือได้อย่างน้อย 7 วันเลยทีเดียว ถ้าคิดเป็นมูลค่าแล้ว ถือว่ามหาศาล

และที่ทำให้ผมเอะใจมากขึ้นไปอีก โฉนดที่สตีฟได้มาจากเสี่ยอั๋น มันอยู่ที่ระนอง ผมเริ่มสังหรณ์ใจว่า มันจะมีความเชื่อมโยงอะไรบางอย่าง

'นอกจากนี้ครับคุณใจดี วันนี้ ท่านฑูตจีนจะเข้าพบท่านนายกฯ โดยก่อนหน้านี้ ทางสหรัฐฯและสหภาพยุโรปได้ออกมาเรียกร้องให้จีนนั้นลดบทบาทที่แข็งกร้าวในเวทีโลกลง โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้..' เสียงพิธีกรชายยังคงเล่าข่าวอย่างเมามันส์

ที่จริงแล้ว ผมก็สงสัยตั้งแต่แรกแล้วว่า สตีฟจะเอาโฉนดไปทำไม ซึ่งพอเริ่มจะเดาสาเหตุได้ ผมก็เริ่มรู้สึกว่า สตีฟนั้นมีแผนร้ายอะไรอยู่เบื้องหลังจริงๆ ผมตั้งใจว่าจะหาทางบอกอีฟ อย่างน้อยก็จะได้รู้ว่าควรทำตัวยังไงกันต่อไป


ก๊อกๆๆๆๆๆ เสียงประตูห้องผมดังขึ้น

ผมเดาว่าน่าจะเป็นอีฟ เพราะเธอมักจะมาหาผมตอนเช้ามาหลายวันแล้ว แต่ในทันทีที่เปิดประตูออกมา ก็ปรากฏร่างสูงของสตีฟที่ยืนอยู่

"อ่าว สตีฟ มาได้ไงครับ" ผมทักสตีฟไป

"คุณพอจะมีเวลาคุยกับผมสัก 5 นาทีมั้ย เรามีงานต้องทำ" สตีฟถามผม

"ได้สิ เข้ามาก่อน แต่ว่า เอ่อ.. แทนอยู่ด้วยนะ" ผมเปิดประตูกว้างแล้วผายมือเชื้อเชิญสตีฟเข้าห้อง

"ไม่เป็นไร เราไปคุยกันที่ล็อบบี้ดีกว่า เดี๋ยวอีฟตามลงไป คุยที่นี่มีคนนอก อาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่" สตีฟบอก คนนอกของเขาคงหมายถึงแทนสินะ

"โอเคครับ เดี๋ยวผมขอล้างหน้าแปรงฟันแล้วตามลงไป" ผมบอกสตีฟก่อนจะปิดประตูเดินไปที่ห้องน้ำ

"แทน เดี๋ยวเราขอแปรงฟันหน่อยได้มั้ย พอดีเพื่อนมาหา เราต้องลงไปคุยที่ล็อบบี้ข้างล่าง" ผมเคาะประตูห้องน้ำพลางบอกแทนเสียงดัง เพื่อแข่งกับเสียงน้ำจากฝักบัวที่ไหลอยู่

"เข้ามาสิ แทนไม่ได้ล็อค" แทนตอบ อ่า.. จริงๆผมหมายถึงว่า ให้แทนออกมาก่อนนะ ไม่ได้หมายถึงจะเข้าไปตอนนี้ แต่ในเมื่อเธอให้ผมเข้าไปเองก็ดี

เสียงน้ำจากฝักบัวไหลเสียงดังซู่ ไอน้ำที่เกิดจากเครื่องทำน้ำอุ่นนั้นคลุ้งไปทั่วพร้อมกับจับที่กระจกผนังกั้นโซนอาบน้ำกับอ่างล้างหน้าจนฝ้าขึ้นมัวไปหมด แต่ในท่ามกลางความมัวนั้น ร่างสูงขาวของแทนปรากฏเลือนรางชวนให้จินตนาการต่อ

แม้ว่าผมตั้งใจจะแค่เข้ามาแปรงฟัน เพราะสตีฟนั้นรออยู่ข้างล่าง แต่ถ้าใครลองได้เห็นภาพแบบนี้ ก็คงตัดสินใจเหมือนผมแหละ

"อุ้ยย ทำอะไรอ่ะ" แทนสะดุ้งในทันทีที่ผมกอดเธอจากข้างหลังในขณะที่เธอกำลังถูสบู่อยู่ ร่างขาวของเธอปกคลุมไปด้วยฟองสบู่เป็นหย่อมๆ ผมที่ถอดเสื้อผ้าออกหมดแล้วประกบเข้ากับเธอทางด้านหลัง สองมือเอื้อมไปสัมผัสเต้าขนาดพอดีมือที่ตอนนี้ลื่นจากฟองสบู่ แก่นกายผมพาดผ่านร่องก้นของเธอ

"ตอนแรกว่าจะแปรงฟันล้างหน้า แต่ตอนนี้อยากทำอย่างอื่นแล้ว" ผมกระซิบข้างหูแทนเบาๆ

"แทนอาบน้ำอยู่น้าา รีบด้วยไม่ใช่เหรอคะ" แทนแอ่นอกรับการบีบเค้นจากมือผมพลางเอนหลังหันหน้ามาหาผม

ผมไม่ตอบอะไร แต่เลือกจะโผเจ้าจูบริมฝีปากสวยนั้นทันที แม้ว่าหยาดน้ำจากฝักบัวจะยังคงไหลรดร่างของเราสองคน และยังคงมีฟองสบู่ที่ยังชะล้างออกไปไม่หมด แต่ความลื่นจากฟองสบู่ ความนุ่มของผิวของแทน มันทำให้แก่นกายผมแข็งจนแทบระเบิด

"อื้มมม" แทนครางในลำคอหลับตาพริ้มในตอนที่ผมเลื่อนมือขวาลงไปลูบไล้เนินเสียวของเธอ ในขณะที่มือซ้ายยังคงบีบเค้นหน้าอกสวยนั้นอยู่ เท่านั้นยังไม่พอ ดูเหมือนแทนจะเลือกระบายความเสียวด้วยการเอื้อมมือมาข้างหลังแล้วกำแก่นกายของผมที่ถูไถอยู่ที่ก้นของเธอ พร้อมกับค่อยๆชักเบาๆ

"ซี๊ดดดด ตอนแรกว่าจะไม่แล้วนะ คึกแต่เช้าเลย" แทนเอนหลังพิงส่งสายตาปรือมองหน้าผม มือซ้ายเธอเอื้อมมาข้างหลังและยังคงรูดแก่นกายผมเบาๆ มือขวาเธอจับข้อมือผมที่เริ่มเขี่ยติ่งเสียวของเธอ

"ก็แทนอยากเซ็กซี่เองทำไมล่ะ ช่วยไม่ได้" ผมบอกเธอพร้อมกับงับติ่งหูเธอเบาๆ

"ซี๊ดดดด" ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากปากเธอแล้ว มีเพียงเสียงครางอันน่ารัญจวนของแทนกับเสียงน้ำจากฝักบัวที่ยังคงไหลรดเราสองคน

ตอนนี้ผมไม่ไหวแล้ว ด้วยเพราะเวลาที่มีน้อย และความอัดอั้นที่อดมาตั้งแต่เมื่อคืน เมื่อเช้า ผมตัดสินใจจับไหล่แทนให้หันมาเผชิญหน้ากับผม และไม่รอให้แทนได้สงสัยอะไรอีก ผมจับขาข้างหนึ่งของเธอยกขึ้น พร้อมกับขยับแก่นกายผมจ่อปากถ้ำสวยของเธอทันที

เราสองคนจูบกันอีกครั้ง สองมือแทนคล้องคอผมไว้ เพราะตอนนี้เธอยืนแค่ขาเดียว อีกขาถูกผมยกค้างไว้ ผมขยับและดันแก่นกายเข้าทันที

"ซี๊ดดดดด" แทนเงยหน้าร้องครางทันทีในจังหวะที่ผมได้เข้าไปในตัวเธอ อาา ความนุ่มลื่นคับแน่นที่ทำให้ผมเสียวจนถึงขีดสุดนั้นยังคงเหมือนเดิม ผมสัมผัสได้ถึงแรงบีบรัดภายในของเธอ

"อื้ออๆๆๆๆ" ผมเริ่มโยกแรงขึ้นเรื่อยๆ โชคดีที่แทนยืนติดผนัง ทำให้ยังพอทรงตัวได้ บอกตรงๆว่าการมีอะไรกันในห้องน้ำท่ายืนเป็นอะไรที่ลำบากมาก ไหนจะกลัวลื่น ไหนจะกลัวล้ม แต่มันก็เป็นอีกรสชาติที่ผมอยากสัมผัสกับแทน

จังหวะร่างกายของเราสองคนเริ่มประสานกันมากขึ้น ในบางครั้งก็หันมาประกอบปากแลกลิ้น ในบางครั้งก็ถอนปากออกมาร้องครางเพื่อระบายความเสียว ในห้องน้ำตอนนี้ เสียงครางของเราสองคนดังระงมคู่ไปกับเสียงของน้ำจากฝักบัว และแม้ว่าผมอยากจะทำอะไรมากกว่านั้น อยากจะอุ้มแทนไปที่เตียง แต่ด้วยเวลาที่จำกัด ทำให้ผมเลือกที่จะเสร็จให้เร็วที่สุด

"ซี๊ดดด... แทน เราไม่ไหวแล้ว" ผมขยับซอยเธอเร็วขึ้นพร้อมส่งสัญญาณบอกว่าผมใกล้จะถึงจุดสุดยอด ที่จริงความเร็วนั้นมันไม่ได้เร็วมากเท่าไหร่ เพราะอย่างที่บอก ท่ายืนนี้มันลำบากชะมัด จะซอยก็ลำบาก แต่คงเป็นเพราะผมอัดอั้นและตื่นเต้น มันเลยทำให้ผมเสียวจนใกล้จะเสร็จ

"เสร็จเลยนะคะ ปล่อยเข้ามาเลย ซี๊ดดด" แทนกอดคอตอบผมในขณะที่ผมพยายามเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ

"ซี๊ดด... แต่แทน ยัง.. ไม่เสร็จ ซี๊ดด" ผมบอกเธอ ใจผมยังห่วงว่าเธอยังไม่เสร็จ กลัวเธอจะไม่มีความสุข

"ไม่เป็นค่ะ ซี๊ดดด เวลามีน้อย เดี๋ยวคืนนี้ค่อยชดใช้นะคะ" แทนตอบไปครางไปพลางเร่งให้ผมเสร็จ

ตอนนี้ผมไม่ไหวแล้ว บอกตรงๆว่าผมไม่ได้ซอยเร็วเท่ากับปกติซะด้วยซ้ำ เพราะผมต้องระวังไม่ให้เราสองคนล้ม แต่มันเป็นความเสียวที่ผมไม่สามารถห้ามตัวเองได้อีกต่อไป และในจังหวะนั้นเอง

"อ๊าาาาาาา" ผมรู้สึกได้ถึงน้ำรักอุ่นที่ไหลผ่านแก่นกายผมพุ่งออกไปอยู่ในโพรงสวรรค์ พร้อมๆกับอาการร่างกระตุกของผมอย่างห้ามไม่ได้ แทนเหมือนจะรู้ เธอกอดผมแน่นพลางขมิบราวกับจะให้โพรงสวรรค๋นั้นรีดน้ำทุกหยดออกจากแก่นกายผม

เรายืนกอดกันซักพัก ผมก็ขยับออก ที่จริงผมถึงกับขาอ่อนหมดแรงเลยแหละ แต่ก็ต้องฝืนไปล้างหน้าแปรงฟัน ส่วนแทนก็หันไปอาบน้ำต่อ ตอนนี้เวลาก็เริ่มจะนานแล้ว สตีฟคงรอผมอยู่

........

สวัสดีครับคุณผู้อ่าน ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยครับที่ EP13 นี่มาช้าเหลือเกิน หลังจากนี้จะพยายามกลับมาอัพทุกวันนะครับ

สำหรับ EP นี้ แสดงความเห็นกันหน่อย ว่าปฏิกิริยาตอบกลับของแทนที่มีต่อภารกิจเสี่ยงตายขอมีแฟน 2 คนของนายต่อเป็นยังไงกันบ้าง 555

ใจผมก็อยากจะให้แทนยอมรับได้นะ แต่คาแร็คเตอร์ที่ผมวางมา แทนไม่ใช่คนแบบนั้น (ถ้าสังเกตุ EP ก่อนๆที่ปูเรื่องมาจะพอเข้าใจนิสัยแทน) ส่วนอนาคตจะเป็นยังไง ต้องมาลุ้นกันอีกทีนะครับ

ปล.ตอนนี้บอกตรงๆว่า ผมกำลังอินกับเจ้าของคาแร็คเตอร์ของแทนและอีฟมากๆ บอกก่อนว่า กระบวนการคิดคาแร็คเตอร์ของผมนั้น จะใช้วิธีหาคนที่คาแร็คเตอร์ตรงกับตัวละคร แล้วก็นั่งดูรูปดูไรไปเรื่อยของคนๆนั้น คือจะพยายามซึมซับบุคลิกและคาแร็คเตอร์ เพื่อจะเขียนออกมาให้เป็นธรรมชาติและเป็นตัวตนคนๆนั้นที่สุด โดยเฉพาะตอนที่เขียนตอนแทนตอบต่อว่า "นายเห็นเราเป็นตัวอะไร" อื้อหืออออ แทบร้อง สงสารแทน บอกตรงๆว่าตอนนี้ผมอินกับเจ้าของคาแร็คเตอร์แทนกับอีฟมากกกกก กลายเป็นติ่งไปเลย 555

เหมือนเดิมครับ คอมเม้นท์เพื่ออ่านตอนจบของ EP นี้ครับ




 




เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

banksc79

แทนดันรับไม่ได้อีก จะทำไงต่อล่ะทีนี้

Popeye5555

สตีพน่าจะมาพร้อมภาระกิจใหม่แน่นอน

chon101


banana191

มันต้องมีสักวิธีสิที่จะทำให้แทนยอมรับ

chaiann1001

ลบความทรงจำได้ น่าจะเปลี่ยนความทรงจำได้น่ะ แบบให้แทนคิดไปเองว่าได้อนุมัติให้ต่อเปิดฮาเร็มได้ ถึงไม่ชอบใจแต่หลุดปากแล้วก็เลยตามเลยทำนองนี้

wangdora29

อยากดูฉาก อิงโดนรุมต่อครับ

JabaWoCK

ผิดคาดนึกว่าแทนจะยอมรับ ^^

แต่ถ้าใช้พลังไปเรื่อยๆน่าจะใจอ่อนได้นะ

Makoto2549

งานใหม่ของสตีฟจะเป็นแบบไหนนะ

jackkie

แทนน่ารัก  ดี   แต่ว่าสตีฟมาคุยเรื่องอะไรงานนี้แย่แล้วๆๆ ขอบคุณครับผู้แต่ง

pui10000


Alligator

เอาละซิพ่อคาสโนว่าแผนกินแซนวิชไม่สำเร็จจะทำยังไงต่อไปละที่นี้คงต้องปล่อยอิงไปแล้วไปคิดแผนจัดการน้องอีฟดีกว่า

awaygama


notbaby007

สมมุติ​ว่าพระเอกไม่มีความสามารถ​แทนคงเจ็บน่าดู​ สงสารแทน​เลยอะ​   ::Crying::

plot0440