ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

ฉัน เธอ และ เขา เวอร์ชั่นโทน [ ปั่นให้ทันเวอร์ชั่นเจ๊ ]

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, มีนาคม 13, 2021, 02:17:20 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

สวัสดีครับ ช่วงนี้ลงถี่หน่อยอย่าเพิ่งเบื่อกันครับ



......


ปล. พี่พลอยครับ อายุมากกว่าผม 2 ปี

ช่วงนั้นทรงรากไทยมาแรงพี่แกก็ตามแฟชั่นแหละครับ



......





ความเดิมตอนที่แล้ว


ผมกลับมาบ้านเพื่อจะหาแผ่นซีดี ศึกษาคาคาชิ

แล้วตอนนั้นพี่ติ๊ก พี่สาวข้างบ้านก็มาครับ เธอบอกว่า

แม่ผมวานให้เธอมาช่วยเปิดไฟบ้านให้หน่อย แต่มันเริ่มเลยเถิด

กลับกลายเป็นว่าผมต้องอยู่กับพี่เขาสองคน ซึ่งมันเกิด " ไฟดับ "



.....................





ชิบหายแล้วไง นี่มันมิชชันนารีชัดๆเวนแล้วไง ละแบบพี่ติ๊กก็กอดแน่นเลยนะ แล้วแทนที่ผมจะเนียนๆกอดไปแบบนั้น ผมแม่งดันลนลานบอกพี่ติ๊กปล่อยก่อน พี่ติ๊กปล่อยก่อน แต่พี่ติ๊กไม่ปล่อยครับ ยิ่งฟ้าผ่ามาทีก็ยิ่งกอดแน่น คราวนี้พอนานๆไปความจังไรในหัวก็เริ่มมาทีละนิด


บอกเลยว่าหนุ่นน้อยวัย 20 ไม่มีหรอกการหักห้ามใจหรือเป็นคนดีนะ อะไรได้กำไรนิดหน่อยๆผมก็เอาผมเริ่มแยกขาออกนิดๆกดตัวลงหน่อยให้แท่งหรรษาของผมกดลงตรงสามเหลี่ยมทองคำของพี่ติ๊ก ถึงมันจะไม่ได้เสียบเข้าไปก็เถอะ แค่ได้อยู่ในตำแหน่งนั้นผมก็อื้มม กำไรแล้ว


[ พี่ติ๊ก ]   :   โอ๊ย ฟ้าผ่าอะไรนักหนาเนี่ย


[ ผม ]  :  ปล่อยก่อนท่านี้ มันไม่ดีแล้วนะ


[ พี่ติ๊ก ]  :  ช่างมันสิ่ ก็แค่ตัวทาบกันไม่ใช่ว่าเอากันสักหน่อย


พี่ติ๊กก็ยังพูดแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรจนผมต้องยกตัวพี่เขาขึ้นมานั่งตักเหมือนเดิม พี่เขาก็ร้องว๊ายนะ เธอถามว่าทำบ้าไร ผมก็บอกไปว่าให้อยู่ท่านั้นนานๆตบะแตกเว้ย เดี๋ยวมองหน้ากันไม่ติดอีก แล้วจำได้ไหมครับที่ผมบอกว่าพี่ติ๊กมันเรียนสายอาชีพ


เพราะงั้นพี่ติ๊กมันก็คิดออกแนวอิสระเลยล่ะครับ เอ่อต้องบอกก่อนว่านี่มันก็ 10 กว่าปีก่อนนะความคิดของพี่ติ๊กในตอนนั้นคือล้ำมากสำหรับยุคเดียวกันอ่ะกลับมาต่อ พี่ติ๊กมันบอกผมว่า แค่นอนทาบไม่เป็นอะไรหรอกเฮ้ยไม่ใช่ว่าได้เสียกันจริงๆ


นั่น !!! ดูมันพูดแล้วพูดอ่ะไม่สนใจเลยว่าตูอ่ะโด่แล้วนะเฮ้ย !!!  เปรี้ยง !!! ฟ้านี่ก็ผ่าจังเลยเว๊ย ผมไม่ได้กลัวฟ้าผ่านะก็อยู่แบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ มันก็ได้ยินฟ้าผ่ามากกว่าคนในเมืองอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ตามมาหลังเสียงฟ้าผ่าคือพี่ติ๊กแม่งกอดแน่น แน่น แน่น จนผมแทบจะซุกลงไปที่เนินนมแล้วเว๊ย !!!


จนผมพูดคำนึงขึ้นมาครับว่าพี่ติ๊กหนักเปล่าเนี่ยมาอยู่ข้างบนป่ะ เอาจริงจริงนะเว้ยทุกคน ตอนนั้นผมแม่งโลกสวยจัดอ่ะ ไอ้เราก็คิดว่าเฮ้ยพี่เขาจะหนักไหมวะ เพราะตัวผมเองก็ 60 กิโลกรัม มันก็ไม่ใช่ว่าจะเบานะสำหรับผู้หญิง ผมก็พูดไปอย่างที่บอก พี่ติ๊กก็...


[ พี่ติ๊ก ]  :  แน่ะ ไอ้นี่จะให้ขึ้นอ่ะดิ่

[ ผม ]  :  เอ้า !!!  กลัวว่าจะหนักเฮ้ย


พี่ติ๊กมันก็ลูบๆๆแล้วบอกว่าแหม ไม่เจอกันไม่กี่เดือนกลายเป็นพวกหื่นไปแล้วเหรอ ผมก็ยังบอกเออแล้วจะยังไงเนี่ย พี่ติ๊กก็บอกพลิกตัวดิ่ อ่ะโอเคผมก็พลิกตัวคือบอกท่านผู้อ่านตอนนี้เลยคือท่าทางของพวกผมสองคนตอนนี้ คือจะปี้กันอยู่แล้วครับ


ทั้งกอดท่ามิชชันนารี พลิกตัวมาให้นารีอยู่ข้างบนเป็น woman on top เฮ้อทนไว้ไอ้โทนทนไว้ ใจแม่งอยากจะใส่ใจจะขาดแต่ผลที่ตามมาแม่งบัดซบแน่ๆ อาจจะฟังดูไม่ให้เกียรตินะ แต่ผมเองก็ไม่รู้ว่าตอนนี้พี่ติ๊กมีโรคอะไรหรือเปล่าไง เมื่อความเงี่ยuกับความกลัวแม่งมาเจอกัน โคตรหนักใจบอกเลย


เฮ้อ เอาวะ รอไฟมา รอพี่ติ๊กหลับค่อยไป SHARK WOW ก็ได้ ผมพลิกตัวขึ้นมาแล้วให้พี่ติ๊กอยู่ข้างบน ก็ดูเหมือนเธอจะดูหายเกร็งครับ เธอบอกเฮ้อเกือบหายใจไม่ออกบอกผมตัวหนัก ผมก็แกล้งพูดแหม่ะ ที่ตอนนั้นหายไปทั้งคืนไม่หนักหรือไง ผมแซวแกแล้วพูดถึงวันนั้นเมื่อหลายปีก่อนครับ


ก็เห็นแหละว่าพี่ติ๊กแกขึ้นรถไปกับแฟน นู่นนน สมัยผมอยู่ ม.6 ก็คงราวๆอายุ 20 มั้งครับพี่ติ๊ก พอพูดแบบนั้นเธอก็ถามว่า เอ้าเห็นด้วยเหรอ ผมก็บอกอื้ม ซึ่งไอ้ระหว่างที่เราพูดกันเนี่ยอย่าลืมนะครับว่าพี่ติ๊กเธอนอนกอดผมอยู่ ผมก็พยายามหาเรื่องบ่ายเบี่ยงคุย เพราะไม่อยากให้ตัวผมโฟกัสที่เป้า



ผมบอกเลยว่าวัย 20 วัยหมกหมุ่นแบบผมเนี่ย ถ้าจิตฟุ้งซ่านขึ้นมาจับพี่ติ๊กกดนี่ชิบหายเลยนะ ผมบอกเลยว่าถ้าทำแบบนั้นยังไงพี่ติ๊กก็สู้แรงผมไม่ได้ แต่มันจะดีหรือเปล่าล่ะถ้าทำแบบนั้น คำตอบมันก็รู้แหละว่าไม่ดี แต่ผมในตอนนั้นก็ไม่ได้เก่งพอที่จะอดทนต่อความเซี่ยนได้นานๆหรอกครับ ผมรู้ตัวผมดี บางทีดูคลิปโป๊ไม่ถึงครึ่งเรื่อง ต้องหาทางเอาออกสักดอก สองดอกตลอด



แล้วแม่งเป็นอะไรที่โคตรฮาเลยนะ ผมไม่เคยดูหนัง X จบแผ่นเลยเชื่อป่ะ เดี๋ยวกรอ เดี๋ยวกรอ 5555 อ่ะๆกลับมาต่อเผาตัวเองจนเละเทะละ พอรู้สึกว่าพี่ติ๊กเริ่มที่จะหายเกร็งแล้วผมก็ขยับตัวนั่งขึ้นอูยย บอกเลยตอนนี้ผมแข็งจนไม่รู้จะแข็งยังไงและ แล้วผมก็รู้ด้วยว่าพี่ติ๊กก็รู้สึกได้



ว่าสามเหลี่ยมของเธอกำลังโดนอะไรแข็งๆของผมดันอยู่ ผมนั่งขยับๆ ขยับๆ ไปทางมุมห้องพี่ติ๊กก็ถามว่าจะไปไหนเนี่ย มันกระแทกนะ ผมก็บอกว่าจะหาไฟฉายวุ๊ย มันช่วยไม่ได้นี่หว่าที่จะกระแทกอ่ะ พี่ก็ลงจากตักผมดิ่จะได้ไม่สั่น ผมขยับตัว ขยับตัวแล้วจังหวะนั้นก็แอบหากำไรเล็กๆน้อยๆ ด้วยการร้องโอ๊ะ ระวังหล่นพี่ติ๊ก



แล้วก็ฉวยโอกาสจับรั้งก้นของเธอ อูยไม่รู้ว่าเป็นเพราะองศาการนั่งที่ทำให้ก้นของเธอแน่น หรือ กางเกงยีนกันนะ ผมรู้สึกว่าบีบไม่เข้าเลยล่ะครับ นี่ไงความจังไรของนายโทนวัย 20  พี่ติ๊กก็บอกว่าจงใจป่ะเนี่ย เริ่มจะไม่คุ้มค่าจ้างแล้วมาเปิดไฟเนี่ย ผมก็บอกไปว่า อืม บอกให้กลับไม่กลับ



ไม่งั้นป่านนี้พี่ก็นอนอยู่บ้านสบายๆแล้ว พี่ติ๊กก็บอกนะว่าอย่าอ้างอ่ะ เฮ้อผมล่ะเซ็ง ผมมาถึงมุมห้องซึ่งพอมีที่ให้พิง มีที่ให้จับดูเหมือนว่าพี่ติ๊กจะอุ่นใจมากขึ้นครับ เธอค่อยๆลุกไปจากตัวผม ซึ่งถามว่าเสียดายมั้ย เสียดายดิ่วุ๊ย ได้นั่งถูๆไถๆ เสียดสีนิดๆหน่อยๆ แบบนี้ก็กระชุ่มกระชวยแล้ว



แต่ก็ดีแล้วที่ลุกไปไม่งั้นอาจจะยาวก็ได้ ผมคลำๆไปที่มุมๆห้องที่กองพวกเสื้อผ้าไว้ แล้วก็เจอกระบอกไฟฉายครับ มันเป็นกระบอกไฟฉายแบบนี้



อาจจะไม่เหมือนนะแต่ก็คล้ายๆ สมัยก่อนใช้ถ่ายไฟฉายแบบสี่เหลี่ยมอ่ะ ชอบเอาถ่านมาแตะลิ้นเล่นกันช็อตทีบันเทิงเลย อ่ะๆๆกลับมาต่อ พอเจอไฟฉาย ผมก็เคาะๆก่อนนะ คือคิดไปเองว่าเคาะแล้วไฟมันจะจ่ายไปทั่ววงจร คือไม่ได้ใช้มาหลายเดือนแล้วไงครับ กลัวว่าจะไม่ติดแต่ว่าพอกด แป๊ก !!!  เสียงน้าค่อมแม่งมาเลย



มันช่างจ้าซะเหลือเกิน จ้าจนแสบตาเหมือนโดนละ Flash bank ในเกมส์เค๊าเตอร์ครับ อูยย จอดับไปแว๊ปนึงเลย สักพักพอดีขึ้น ผมก็เอาไอ้ไฟฉายเนี่ยมาตั้งข้างๆฟูกที่นอน เอ่อใครที่อ่านมาตั้งแต่แรกๆ



ก็จะรู้เนอะว่าที่นอนของผมจะเป็นฟูกปูพื้นหน้าประมาณ 2นิ้ว อ่าส์ ผมก็เอาตูดกระบอกไฟฉายตั้งพื้นเอาแนบฟูกแล้วก็หยิบหมอนสี่เหลี่ยมอิมพอร์ทจากชัยภูมิมาแนบข้างไว้ ผมส่องไฟฉายขึ้นบนเพดานห้อง มันก็ทำให้แสงกระจายไปทั่วห้องเหมือนเปิดไฟปกติ



ถึงจะไม่ได้สว่างทุกซอกทุกมุมเหมือนหลอดไฟปกติก็เถอะ แต่ก็ถือว่าดีใช้ได้เลยครับ ทันทีที่มีแสงไฟพี่ติ๊กก็หายกลัว เอาจริงๆพี่ติ๊กมันก็ไม่ใช่ว่าเป็นคนขี้กลัวอะไรหรอกนะครับ หรืออาจจะเพราะอยู่ผิดที่มั้ง คงจะใช่แหละเพราะถ้าอยู่บ้านตัวเองไฟดับก็คงเฉยๆแหละ



ฟู่ววว อากาศในห้องตอนนี้เย็นสบายครับ เพราะตอนเย็นผมได้เปิดห้องไล่ลมร้อนไปหมดแล้ว แล้วอีกอย่างวันนี้อากาศก็ไม่ร้อนมากด้วย ที่สำคัญตอนนี้ฝนก็ตกทำให้รู้สึกว่าเย็นสบายเลยล่ะ ผมอยากให้ทุกท่านเปิดเสียงนี้ฟังจัง มันเป็นเสียงบรรยากาศในตอนนั้นครับ





ผมถือวิสาสะกระเถิบตัวขึ้นนอนบนฟูกของผมครับ ก็มันเมื่อยอ่ะทำไงได้ครับ ผมหยิบๆๆหมอนแล้วมาหนุนเลย คงอีกสักพักแหละกว่าไฟจะมา คือมันเป็นฟิลลิ่ง มันเป็นความรู้สึกที่โคตรคิดถึงอ่ะ ตอนเด็กๆเราชอบห่มผ้าห่มคลุมโปง แล้วเอาไฟฉายกระบอกเล็กๆ



ฉายออกไป มันทำให้เราได้รู้สึกว่าได้เดินถ้ำ เหมือนหนังเก่าๆที่ชอบดู อย่างอังกอร์เวอร์ชั่น คุณพีท ทองเจอ หรือ ว่าจะเป็นนายฮ้อยทมิฬ เนี่ยแล้วคราวนี้พอได้มานอนเปิดไฟฉายส่องเพดานอีกครั้งความรู้สึกเก่าๆโคตรมาเลย ผมเงยหน้าไปมองพี่ติ๊กที่ตอนนี้นั่งติดกับกำแพงอยู่



พอเห็นผมเหล่มอง พี่แกก็ถามแน่ะมองไรอ่ะ มองเสยแบบนี้หรือว่า....  ไม่ต้องรอให้สงสัย ผมตอบไปเลยครับว่ามองเกงในพอใจยังแล้วผมก็นอนหนุนแขนมองเพดานด้วยความสบายใจ อ่าส์คิดถึงบรรยากาศแบบนี้จัง แต่เอาตรงๆนะขอแทรกนิดนึง


เชื่อมั้ยว่ามีช่วงนึงตอนเด็กๆผมไม่กล้ามองเพดาน มองคาน มองขื่อเลยนะ เพราะอะไรรู้ป่ะ ยกมือสองข้างขออนุญาตเอ่ยถึงนะครับ เป็นเพราะหนังนางนากครับ เวอร์ชั่น คุณทราย เจริญปุระ แสดง โอ้โหแม่เจ้าทำเอาผมไม่กล้าเดินไปเข้าห้องน้ำคนเดียวเป็นอาทิตย์ ไม่กล้ามองขื่อไปอีกหลายวัน


โอ้โห่ ฉากห้อยหัวลงมานี่แบบ แม่จ้าวผมหลอนฉากนั้นเป็นอาทิตย์ไม่กล้ามองคือ มองคาน บ้านตัวเองเลยล่ะครับท่านผู้อ่าน อ่ะกลับมาต่อกลับมาต่อ ผมนอนหนุนมือมองเพดานอย่างสบายใจเหมือนกลับไปเดินถ้ำตอนเด็กอีกครั้ง พี่ติ๊กที่เหมือนว่าจะหยุดกลัวแล้วก็ลุกมานั่งข้างๆ


แค่ก้นของเธอเขยิบมาติดลำตัวผมก็อูยย เสียวว่าบแล้วล่ะ ผมก็ถามว่าพี่ติ๊กจะกลัวอะไรเนี่ยปกติมาก็ไม่เห็นกลัวนี่ พี่ติ๊กเธอก็บอกว่าเมื่อก่อนมันไม่เห็นไงมันเลยไม่กลัว ผมก็ถามว่าเห็นอะไรวะ พี่ติ๊กก็บอกว่าเดี๋ยวนี้ตอนทำงานกลับดึกๆ


พอมองมาที่บ้านผมเห็นเงา แว่ป แว่ป แว่ป อยู่ตรงลานหน้าบ้าน ผมก็พูดออกไปเจ้าที่คนก่อนมั้ง เขาก็อยู่ของเขามาตั้งนานแล้วนา พี่ติ๊กหันมานั่งขัดสมาดแล้วตีที่แขนผมดังเผี๊ยะแล้วพูดว่าไอ้นี่พูดเหมือนเป็นเรื่องปกติเลย ผมก็บอกเอ้าก็ผมมาอาศัยพื้นที่เขาอยู่ จะให้ไล่เขาไปได้ไงก็ต้องขอเขาอยู่นั่นแหละ



แล้วตอนนั้นเว้ยไม่รู้ขาผมหรืออะไร แต่ก็ให้เดาๆนะคงจะเพราะขยับๆตัวนั่นแหละ ฟูกมันเลบขยับ มันเลยไปโดนไฟฉายล้มพี่ติ๊กมันพุ่งลงมานอนซบเลย ผมก็บอกใจเย็น ใจเย็น แล้วผมก็เอี้ยวตัวไปจับไฟฉายตั้งเหมือนเดิม ตั้งให้ไกลจากฟูกนิดนึง แล้วเอาหมอนสองอันประกบไว้


อ่ะพอสว่างเหมือนเดิมคราวนี้พี่ติ๊กก็ไม่ลุกไปครับยังนอนหนุนแขนผมเหมือนเดิม ผมก็อูยใจสั่นดิ่แบบนี้กลิ่นแป้ง พอนด์ โชยมาเตะจมูกเลยวุ๊ย แล้วแบบนี้มีเหรอผมจะพูดอะไร ผมก็เนียนนอนต่อไปครับไม่ได้พูดอะไร ถ้าพี่เขาไม่เขาไม่ทัก ผมก็จะนอนอยู่ท่านี้แหละ


ผมแอบชำเลืองมองลงล่างอู้หูว ร่องมรสุมใหญ่มากเลยครับ ขอบเสื้อในสีดำก็น่ามองจริงๆแถม มุมนี้ผมบอกเลยว่าโคตรแจ่ม แถมพอมองดีๆเชี่ย !!!  พี่ติ๊กหุ่นดีว่ะมีลอนกล้ามด้วยที่ท้อง แต่ผมก็ชื่นชมได้ไม่นานพี่ติ๊กก็เงยหน้าขึ้นมาครับ กึ๋ย โดนจับได้ซวยแน่กู


พี่ติ๊กพูดขึ้นมาว่าให้มันน้อยๆหน่อยได้ป่ะนิดๆหน่อยๆ ก็ไม่ปล่อยผ่านเลยนะ ผมก็เถียงข้างๆคูๆว่า โด่วทีลูกค้ามองได้บ่นแบบนี้เปล่าอ่ะพี่ติ๊กสวนกลับมาว่า ปากดีละโทน มองนมพี่แล้วยังพูดอีก ผมก็บ่นเด่อเอ๊ยแล้วก็เงียบเลย คือในใจตอนนั้นอ่ะคือคิดว่าอดแล้วว่ะ พี่ติ๊กมันไม่เปิดโอกาสเลยวุ๊ย



อ่าส์ ช่างมันๆ ผมก็นอนให้พี่ติ๊กมันหนุนแขนแบบนั้นไปอ่ะครับ ใจนึงก็บอกตัวเองว่าพอแล้ว อย่าหยอดไปมากกว่านี้เลย แต่อีกใจมันก็อยากอ่ะเนอะ แต่ด้วยความกาก ความอ่อนหัด และความป๊อดของผมในตอนนั้น ทำให้จิตใจมันเอนเอียงไปทางด้านให้ตัดใจ



พอผ่านไปอีกพักไฟยังไม่มา ผมก็บอกพี่ติ๊กว่าจะลงไปสับคัทเอ๊าต์ก่อน ถ้าไฟมันมา อาจจะกระตุกจนฟิวส์ขาด พี่ติ๊กก็บอกอื้มๆไปดิ่ อ่ะโอเค ด้วยความที่ผมอยู่บ้านมานี้มาตั้งแต่เกิด ผมก็เลยไม่ได้กลัวสิ่งลี้ลับในบริเวณบ้านที่พี่ติ๊กบอกมานะครับ เพราะลึกๆแล้วผมคิดว่า เขาก็คงจะเอ็นดูผม เพราะพวกเขาเห็นผมตั้งแต่เกิดล่ะเนอะ



แต่ในขณะที่ผมเดินมาถึงประตู ผมก็รู้สึกได้ถึงบางอย่างมากดที่หลังผมไว้นั่นไง เอ็นดูกูจริงๆด้วยชิบหายละ แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ผมคิดครับ เพราะพี่ติ๊กนั่นแหละที่เป็นคนทำเธอกระโดดมาขี่หลังผมเลย ผมก็ถามว่าเอ้ามาทำไรเนี่ย พี่ติ๊กบอกไปด้วย ไม่อยากอยู่คนเดียว


เอ้อ เอากับเธอสิ่น๊า ผมก็เดินลงมาแหละครับ บันไดบ้านผมไม่ค่อยชันเท่าไร ผมก็ค่อยๆก้าวลง ก้าวลง ก้าวลง พี่ติ๊กในตอนนั้น สูงราวๆ 165 สัดส่วนที่แอบถามมา คือ 34 / 24 / 34  ก็ถือว่าตัวไม่ได้หนักเลย ถ้าเทียบกับนักกีฬายูโดที่เจอมาๆ ผมก็แบกลงบ้านได้สบายๆครับ


[ พี่ติ๊ก ]  :  แหม !!! อุ้มสบายเลยเนอะ อุ้มหญิงบ่อยอ่ะดิ่


[ ผม ]  :  จะให้ผมลองอุ้มไหมล่ะ


[ พี่ติ๊ก ]  :  ไรอุ้มไร


[ ผม ]  :  อุ้มแตง



นี่ไงความจังไรของผม คือพอมีช่องให้หยอดนิดหน่อยผมก็หยอดเลยบอกตรงๆว่า หวัง YES แหละครับ แต่พี่ติ๊กมันก็พูดว่า แกเงี่ยuมาจากไหนเนี่ยบอก แค่นั่นแหละผมเริ่มคิดและชิบหายมั้ยเนี่ยแบบนี้ พี่ติ๊กเธอพูดนะว่า อย่าแสดงความอยากมากเกินไปดิ่ มันดูไม่น่าเข้าใกล้ มันดูเหมือนว่าแก พร้อมจะเอาผู้หญิงทุกคนที่อยู่ใกล้


นั่นไง Lesson 1  บทเรียนที่ 1 อย่าเงี่ยuจนออกนอกหน้า เชื่อป่ะว่าคำพูดของพี่ติ๊กแม่งทำผมฝ่อเลย จากปกติก็ไม่ค่อนยจะมั่นใจเรื่องหน้าตาตัวเองมากไปละ คราวนี้พี่ติ๊กยังมาบอกว่าผมขี้เงี่ย_อีก โฮ๊จบเลยกู คือดูเหมือนว่าผมกลายเป็นอะไรที่แย่ๆในสายตาคนทั่วไปแล้วอ่ะ



ผมเงียบแล้วก็อุ้มแกลงมา ล้มเลิกเลยครับ ล้มเลิกแผนที่จะหาทางล่อพี่สาวข้างบ้าน แต่ถ้าถามว่ายังมีความอยากมั้ย ถ้าให้พูดตรงๆ หำผมก็ยังแข็งอยู่ครับ พอลงมาข้างล่างสิ่งที่ผมนึกขึ้นได้


" ทำไมกู ไม่หยิบไฟฉายมาวะ "


นี่แหละครับความเงี่ย_เข้าตา พอพี่ติ๊กกระโดดขี่หลังผมก็พาเดินลงมาข้างล่างเลยกะว่ามืดๆแบบนี้แหละได้อารมณ์ดี ไอ้ควายโทนเอ๊ยโดนด่าไม่พอ ยังโง่ไม่เอาไฟฉายลงมาอีก แต่ก็เพราะเป็นบ้านของตัวเองแหละครับ ต่อจะให้มืดแค่ไหนขอแค่มีแสงไฟนิดๆ ก็พอจะเดินได้แล้ว



แต่เอ่อ... ผมคิดง่ายไปหวะ เพราะไอ้แสงที่ผมบอกท่านนั้นคือแสงจากเสาไฟหน้าบ้านนู่น !!!  แต่ตอนนี้คือไฟมันดับไง ไม่มีแสงห่าอะไรเลย แสงเดียวที่พอจะลุ้นให้มี แค่แสงจากฟ้าแล่บเท่านั้นเองครับ เอ่อลำบากชิบหายเลยทีนี้ ผมก็ควานมือจับๆข้างๆ หน้าๆไปเรื่อย ข้างหลังนมก็ทิ่มจังเลยโว๊ยยย



จนผมเดินไปถึงหิ้งพระ ก็แน่นอนแหละครับต้องมีไม้ขีดและเทียนแน่นอน ซึ่งพอถึงผมก็บอกพี่ติ๊กว่าจะปล่อยลงนะหยิบของไม่ถนัด ไอ้พี่ติ๊กก็ลงไม่ได้พูดมากอะไร ผมจุด จุด จุด อืมม  5 เล่มก็คงพอ ผมไล่จุดเทียนทีละเล่ม ทีละเล่ม แล้วก็ปักๆ ในจุดต่างๆ นี่แหละสิ่งที่น้องๆสมัยนี้อาจจะไม่ค่อยได้เจอ



บรรยากาศจุดเทียนตอนไฟดับนี่แหละ เพราะสมัยนี้มีระบบไฟสำรองมั่ง ไฟฉาย LED  แบบสว่างว่าปเป็นสปอตไลต์มั่ง บลาๆ เพราะงั้นบรรยากาศแบบนี้แหละที่มันหายาก คือมันไม่ใช่การจุดเทียนเพื่อสร้างบรรยากาศอะไรนะ จุดเพราะไฟดับนี่แหละ กลิ่นควันเทียน + กับเสียงฝนตก


มันเป็นการผสมผสานที่น่าคิดถึงจริงๆ นั่งเขียนแล้วก็คิดถึง พอผมเดินเอาเทียนมาหยดน้ำตาเทียนแล้วปักจึ้ก จึ้ก จึ้ก ลงแต่ละจุด โอเคใช้ได้ละ พี่ติ๊กก็เดินมานั่งตรงโซฟากลางบ้านเลยครับ ส่วนผมก็เดินไปที่แป้นสะพานไฟ ต้องบอกก่อนว่าความรู้เรื่องไฟฟ้าหรือวงจรไฟฟ้าผมน้อยมากๆ



เพราะไม่ได้สนใจตอนพ่อสอนเท่าไร ที่ได้ติดตัวมาก็มีแค่ช่างไม้ ช่างปูน ความรู้พื้นฐานของไฟฟ้าคือดูที่ตัวจ่ายไฟเรียกว่าอะไรก็ไม่รู้ดูภาพเอา





ผมสับคัทเอ๊าต์ลงแล้วลองจิ้มๆปุ่มกลมๆสีดำ มันเด้งกลับมาแล้ว เอ่อจำได้ว่าปลอดภัยสิ่นะ ผมก็เดินมาหาพี่ติ๊กที่นั่งลงบนโซฟาไม้แล้ว ผมก็บอกว่ารออีกแปปแหละมั้งเดี๋ยวไฟก็คงมา ผมเดินไปจุดเทียนอีกเล่มแล้วไปปักตรงหัวบันไดบ้านแล้วบอกให้พี่ติ๊กขึ้นไปก่อนก็ได้



ผมจะนั่งรอข้างล่าง ถ้าไฟมาจะได้ดับเทียนได้เลย ถ้าปล่อยไว้ไฟจะไหม้บ้านเอา พี่ติ๊กก็บอกอือ งั้นจะอาบน้ำก่อน แล้วพี่แกก็เดินย่องๆขึ้นไปดูเหมือนว่าพอมีแสงจากเทียนแล้วพี่ติ๊กจะไม่กลัวแล้วครับ ไม่นานพี่แกก็ถือเดินลงมาพร้อมกับผ้าขนหนูพาดบ่า ผมก็มองแหละหูยยย เหงื่อออกนิดๆแม่เจ้า


แต่ก็ต้องรีบหลบตาครับไม่อยากโดนด่าแบบเมื่อกี้ พอพี่ติ๊กเข้าไปแปปนึงแล้วก็เหมือนแกจะนึกขึ้นได้ครับว่า ในห้องน้ำมันไม่มีแสงเทียน จะมีก็แค่ลอดจากช่องอิฐที่ทำไว้เท่านั้น





[ พี่ติ๊ก ]   :  จุดเทียนเพิ่มให้หน่อย


พอผมได้ยินแบบนั้นก็ลุกไปจุดเทียนแล้วก็ค่อยๆเดินไปหาที่ห้องน้ำแหละครับ พอเปิดประตูมา อื้อหือ นุ่งขาวห่มขาว ผ้าขนหนูกระโจมอกแม่จ้าว อื้อหือผมรีบหลบตาแล้วเดินแทรกเข้าไปหาที่วางเทียนเลยครับ ฮึ้ยย อยากจับพี่ติ๊กมานั่งเทียนจริงๆ


แต่ต้องห้ามใจไว้ไม่อยากโดนด่าอีก แล้วพี่แกก็กวนตีนนะ พอรู้ว่าผมไม่กล้าแล้วก็ยืนขวางประตูจังหวะเดินออกประตูนี่แหละเสียววุ๊ยย พี่ติ๊กปิดประตูไปแล้วก็บอกว่าห้ามหนีนะเว้ย


ซึ่งตลอดเวลาอาบน้ำ พี่แกก็จะตะโกนเรียกผมเป็นระยะ ระยะ ผมก็จะอยู่ เออ อยู่ ตอบไปแบบนี้แหละครับ พี่แกอาบน้ำนานพอดูนะ พอออกมาฮุ้ยยย กางเกง JJ เสื้อยืด ฮึ่มม อยากฟัดบอกตรงๆ บอกใครไปแม่งโคตรอาย มีสาวมีอยู่ด้วยกันสองต่อสองแบบนี้แต่ปล่อยไปเฉย




เอ่อ ก็ไม่ต้องบอกสิ่จะได้ไม่ต้องอาย เอ่อจบๆๆ พอพี่ติ๊กออกมาจากห้องน้ำไม่นาน ผมก็ได้ยินเสียง เฮ มาจากรอบๆ บริเวณบ้านครับไฟมาแล้ว ซึ่งสิ่งพวกนี้มันเป็นปกติครับ นอกจากเวลาเชียร์เขาทรายต่อยมวย  นอกจากเวลาเชียร์ซิโก้เตะบอล ก็จะมีตอนที่ไฟฟ้าติดนี่แหละครับ ที่คนข้างบ้านจะเฮกัน



พอมีเสียงเฮ ผมก็ลุกไปมองตรงหน้าต่างบ้าน อื้มไฟมาแล้ว ผมก็เดินไปสับสะพานไฟขึ้นและกดปุ่มกลมๆสีดำ แล้วก็ไล่เปิดสวิชต์ไฟทีละอัน ทีละอัน ตามปกติ ไฟหน้าบ้าน ไฟหลังบ้าน ไฟตรงประตูหน้าบ้าน และไฟในบ้าน ผมก็บอกให้พี่ติ๊กขึ้นไปได้แล้วนะ


ส่วนตัวผมจะเดินไล่เก็บเทียนเอง เวนละกูต้องมานั่งแซะน้ำตาเทียนอีกแล้วสิ่นะพรุ่งนี้ หลังจากที่เก็บเทียนเสร็จไอ้กลิ่นควันเทียนตอนดับนี่แหละครับไม่ชอบเลย สมัยก่อนมันไม่มีเทียนหอมลาเวนเดอร์แบบสมัยนี้นี่หว่า


ผมมองเห็นไฟชั้นสองของบ้านติดแล้ว พี่ติ๊กก็คงจะไล่เปิดไฟนั่นแหละ ฟู่วว สงสัยผมต้องอาบน้ำบ้างแล้วว่ะ เพราะว่าเหงื่อก็ออกมานิดหน่อยตอนไฟดับ หลังจากอาบน้ำแล้วพอขึ้นไป เอ้า !!!  พี่ติ๊กมันนอนหลับบนที่นอนเฉยเลยว่ะ ฮึ่มมม ลักหลับดีมั้ย ไม่เอาครับไม่เอา แต่มันก็เฮี่ยนวุ๊ย  สุดท้ายก็ตัดสินใจลงไปห้องน้ำแล้วเหนี่ยวทิ้งครับ ถ้าไม่เหนี่ยวแม่งไม่ไหวจริงๆ



พอเดินขึ้นมาพี่ติ๊กก็สลึมสลือขึ้นมาถามว่าแน่ะไปไหนมา ผมก็แถไปว่าหาน้ำกิน ผมก็บอกพี่ติ๊กไปนอนห้องแม่ผมดิ่ พี่ติ๊กบอกโอ๊ย คนหลับแล้วยังจะมาไล่อีกใจดำว่ะ ผมก็พูดไปตามตรงว่านอนห้องแม่ผมอ่ะดีแล้ว ไปเหอะ พี่ติ๊กก็ไม่ไปครับ สุดท้ายคืนนั้นผมก็ต้องนอนด้วยกันบนฟูกของผม


มันก็น่าจะเป็นอะไรที่กดดันแน่ แต่ผมหลับว่ะ ก็ไม่แปลกอะไรนี่หว่า เพราะผมซ้อมละครมาตั้งหลายชั่วโมงเหนื่อยชิบหาย แต่ความบรรลัยแม่งก็เกิดขึ้นตอนที่ผมตื่นนอนนี่แหละ เพราะตอนที่ผมตื่น และลืมตาขึ้นมา... ผมก็กำลังกอดพี่ติ๊กอยู่ เอ่อถามว่าดีไหม มันก็ดี แต่หลังจากนี้ล่ะจะเป็นยังไง


แล้วตอนนั้นพี่ติ๊กก็พูดขึ้นมาตื่นยัง ถ้าตื่นก็ปล่อย เวรละกู ผมก็บอกเอ่อ.. เอ่อ ขออีกหน่อยกำลัง ผมซุกตัวลงที่เนินนมของแก แกก็ตีๆแล้วบอกตื่นเว้ยตื่น ผมก็บอกว่าขอนอนอีกแปปแต่กลายเป็นว่าผมควบคุมตัวเองไม่อยู่ เริ่มอ้าปากดุนนมพี่ติ๊กผ่านเสื้อ ดุนไปเรื่อย



คือความอยากมันค่อยๆเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น จนเริ่มขยับตัวขึ้นไปไซ๊คอของพี่ติ๊ก แว๊ปนึงผมได้ยินเสียงซื๊ดออกจากปาก ผมก็เริ่มได้ใจครับ งับเบาๆ เบาๆ เบาๆ แล้วต่อไปคือริมฝีปากของเธอ แต่พอใกล้จะได้จูบอีกนิด พี่ติ๊กก็สะบัดหน้าหนี เชี่ยเอ๊ยแว๊ปนึงผมเสียเซลฟ์เลยนะ ผมพลิกตัวขึ้นไปนั่งชันเข่าเหมือนท่า มิชชันนารี


แล้วก้มลงไปหวังที่จะไซ๊ ซอกคอของพี่เขาอีกครั้ง พี่ติ๊กออกแรงดันหน้าอกผมเลย ผมก็ไม่หยุดนะล้วงมือขึ้นไปจะสัมผัสนมเธอ ตอนนั้นผมคิดว่าถ้าได้ลองลูบๆบิ๊วๆ พี่เขาอาจจะยอมผมก็ได้ ผมคว้ามั่บเข้าที่เต้านมของผมเต็มๆมือ อูยย เนินนมแรกในรอบ ครึ่งปี แต่ว่าก่อนที่ผมจะได้รุกไปมากกว่านั้น


พี่ติ๊กก็จับมือผมไว้แล้วรั้งไว้แบบนั้น เธอพูดขึ้นมาว่าถ้าไม่หยุดไม่ต้องมองหน้ากันอีกนะ ตอนนั้นความรู้สึกเหมือนโดนชกหน้าอ่ะครับ มือยังรู้สึกถึงความนุ่ม + ความอุ่นอยู่เลยแต่หัวแม่งชาไปหมด หัวสมองนะเว้ยหัวสมองไม่ใช่หัวล่าง ผมดึงมือออกแล้วพูดขอโทษครับ


พี่ติ๊กก็ยันตัวขึ้นแล้วถลกเสื้อตัวเองลงแล้วพูดว่า จะจับพี่กดเหรอโทน โอยเท่านั้นแหละ ขอโทษแทบไม่ทัน ผมก็พูดไปเพราะไม่รู้จะตอบยังไงดี ขอโทษครับผมห้ามใจไม่อยู่ พี่ติ๊กขยับๆเสื้อแล้วพูดว่า อย่าไปทำแบบนี้กับใคร เดี๋ยวมันจะจบไม่สวย ผมก็ได้แต่โทษตัวเองเลยตอนนั้นเงี่ย_ ไม่ดูเวลา



แถมยังไม่ดูหน้าตัวเองด้วย พี่ติ๊กหยิบเสื้อผ้าเดินออกไปข้างนอก ผมก็นั่งอึนอยู่แปปนึง พี่ติ๊กใส่เสื้อผ้ากลับเข้ามาแล้วบอกว่าพี่กลับบ้านละ เลิกคิดมาก ครั้งนี้พี่ไม่โกรธนะ ผมก็อื้อขอโทษครับ แล้วพี่ติ๊กก็เดินกลับไปเลย ผมกลัวคือกลัวเขาจะไปฟ้องพ่อเขา กลัวว่าจะโทรไปบอกแม่ผม


 





เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน



okai

เกือบเสียคนแล้วสิครัย.. ช่วงวัยรุ่นนี่อารมณ์มันมักนำพานำหน้าไปก่อนสติด้วย..

1819

 มาลงถี่เถอะครับไม่่่มีเบื่อ แต่ถ้าลงห่างๆนานๆที่ นี่ สมาชิก เฉาตายยกรังแน่     
ชอบไทมํไลน์ต้อยนี่ของเทพโทน ในภาคเเธอฉันและเขา ครับ  ลุ้นพี่ติ๊ก มาก ๆ ว่าจะเคลิ้มตามไหม ที่ไหนได้ ชอบ ประโยคนี้ มาก  อย่าเงีย_ จน ออกนอกหน้า  ( เทพโทน ขี้เงี่ยน วนไป3รอบ)​ 555 นี่ถ้าเป็นสาวอ่อนโลกคงไม่กล้าเอ่ยประโยคนี้แน่ๆ
edit เทพโทนวืดรอบ​2 ขีวิตชั่งรัดทดแท้
กรุงเทพเป็นเมืองที่มีคนเหงา มากกว่าเสาไฟฟ้า


zeebraa


jame32015

ช่วงวัยรุ่นนี่โดนกระตุ้นบ่อย ต้องควบคุมตัวเองดีๆ

Leo the rott


Manoptana

นายโทนมีโค๊ชดีอีกคนแล้ว ต่อไปพี่ติ๊กจะได้สอนวิชาให้เก่งๆขึ้นไปอีก จะโดนควบคุมโดยครอบครัว ต เต่าหรือเปล่านี่ พี่ติ๊ก เจ๊เตย

jaja


bigmut


readder


John Snoww

หู่ย เเต่พี่ติ้กขนาดนี้ ผมว่าน่าจะมีโอกาสกลับมาให้จารย์โทนโชว์เทพแหละครับ