ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_llOUllnJllUUllSJllSJ

จ้าวโลก EP.17 (NTR/Harlem/Super Power)

เริ่มโดย llOUllnJllUUllSJllSJ, มีนาคม 22, 2021, 05:31:02 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

llOUllnJllUUllSJllSJ

สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นสมาชิก xonly8 อ่านเต็มได้ที่ https://fictionlog.co/b/6053b2ece9cbb4001caf362f


ผมจำได้ดี ในวินาทีที่ความโกรธเกรี้ยวของผมดีดขึ้นถึงขีดสุด ในวินาทีที่จิตใจผมเต็มไปด้วยความเคียดแค้น ในวินาทีที่ผมอยากให้ใครบางคนต้องตายไปให้สมกับความเลวที่พวกมันทำ ในวินาทีแห่งความร้อนรุ่มนั้นเอง ริมฝีปากสวยของอีฟที่ประกบกับปากผม กลับกลายเป็นดั่งน้ำเย็นจากสวรรค์ที่ดับความร้อนแรงของไฟจากนรก รสจูบนั้นทำให้เพลิงแห่งความแค้นนั้นสงบลง รสจูบนั้น ทำให้ผมไม่ต้องเป็นฆาตกร ผมไม่รู้ว่าจูบนั้นคืออะไร แต่มันเป็นสิ่งที่เรียกสติผมกลับมาจนผมรู้สึกตัวอีกครั้ง

"ที่อีฟจูบพี่.. มันหมายความยังไง.." ผมถามอีฟออกไป แม้ว่าผมพอจะตีความได้ว่า เธอตั้งใจจะดึงสติผมกลับมาก็เถอะ

"ก็.. ก็อีฟห้ามพี่ พี่ก็ไม่หยุด เรียกก็ไม่หยุด อีฟต้องทำอะไรสักอย่างให้พี่หยุดไง" อีฟตอบ ผมไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่า แต่ผมสังเกตุเห็นได้ว่า เธอหน้าแดงเล็กๆ

"แล้วไง ถ้าพี่ไม่หยุดแล้วจะเกิดอะไรขึ้นเหรอ" ผมถามด้วยความสงสัย เพราะอันที่จริง ผมก็ไม่รู้หรอกว่าพลังผมไปถึงระดับไหน

"พี่รู้ตัวมั้ย ว่าพลังพี่รุนแรงมากนะ อีฟไม่อยากให้พี่ใช้พลังโดยไม่ฝึกก่อน" อีฟมองตาผม ในแววตานั้น ผมตีความว่าเธอคงกำลังเป็นห่วงผม

"มันแรงขนาดนั้นเลยเหรอ ที่จริงพี่ไม่รู้ตัวเองเลยนะว่ากำลังใช้พลังอยู่" ผมบอกเธอ และก็อย่างที่บอก เพราะตอนนั้นผมจำได้เพียงอย่างเดียวคือความโกรธที่ผมมีอยู่เต็มไปหมด และไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่ากำลังใช้พลังอะไร

"พี่รู้มั้ย อีกนิดเดียวพี่กำลังจะฆ่าคนแล้วนะ มนุษย์พิเศษอย่างเราอ่ะไม่ผิดหรอกที่เกิดมาพิเศษกว่าคนอืน แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่พี่ล้ำเส้น เมื่อไหร่ที่พี่ฆ่าคน เมื่อนั้นพี่ก็ไม่ใช่มนุษย์พิเศษอะไรแล้ว พี่ก็เป็นแค่ฆาตกรเท่านั้นแหละ.." อีฟตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"เหมือน..." ผมกำลังจะพูดว่าเหมือนสตีฟที่ฆ่าคนในงานเลี้ยงเสี่ยอั๋นใช่มั้ย แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร อีฟเอามือมาปิดปากผม ก่อนที่เธอเอากระดาษมาเขียนข้อความบางอย่างแล้วยื่นให้ผมดู

'ห้องนี้มีคนดักฟังอยู่ อย่าพูดอะไรเกี่ยวกับสตีฟ' นี่คือข้อความในกระดาษที่อีฟเขียนให้ผม ทำให้ผมเพิ่งนึกได้ว่า ห้องผมมันไม่ค่อยจะเป็นส่วนตัวเท่าไหร่ แต่เอ๊ะ.. แล้วที่เราโทรคุยกับน้าไพลินล่ะ

ผมหยิบปากกาจากมือของอีฟ แล้วเขียนตอบกลับไปที่กระดาษว่า

'แล้วที่คุยกับน้าไพลินล่ะ สตีฟจะไม่รู้เหรอ' แล้วผมก็ยื่นกระดาษให้อีฟ เธอหยิบปากกากลับไปแล้วเขียนกลับมาว่า

'อีฟตั้งใจให้รู้อยู่แล้ว เดี๋ยวค่อยอธิบายทีหลัง'

"แล้วตกลง.. จูบพี่แค่นั้นจริงๆเหรอ" ผมอ่านกระดาษที่อีฟเขียนตอบกลับมาแล้วก็ถามเธอไปเพื่อเปลี่ยนเรื่อง

"ก็แค่นั้นสิ จะให้แค่ไหนล่ะ" อีฟก้มหน้าตอบผมไม่สบสายตา

"อีฟรู้มั้ย เหตุการณ์วันนี้ ทำให้พี่รู้ตัวว่า พลังความสามารถทางสมองพี่เพิ่มมาอีกอย่างแล้วนะ" ผมบอกอีกยิ้มๆ

"จริงเหรอ พลังอะไรอ่ะ แล้วพี่รู้ได้ไง" อีฟเงยหน้าขึ้นมาถามผมตาโต

"จริงสิ แต่มันมาๆหายๆนะ พี่ควบคุมไม่ได้ คือพี่สังเกตุว่าบางครั้ง พี่จะจับความรู้สึกของคนได้ อย่างตอนที่งานเลี้ยงเสี่ยอั๋น ที่พี่จับความรู้สึกอิงได้ หรืออีกหลายๆตอน และโดยเฉพาะอย่างเช่น.. ตอนนี้" ผมบอกเธอยิ้มๆ

"ตอนนี้..? หมายความว่าไง" อีฟถาม

"ก็ตอนนี้มีคนบางคนกำลังปิดบังอะไรบางอย่างจากพี่อยู่ไง" ผมบอกเธอไป ก็อย่างที่บอกครับ ผมสัมผัสได้ว่า เธอกำลังปิดบังอะไรบางอย่างผมอยู่ ผมรู้ว่าเธอหน้าแดง ผมรู้ว่าเธอรู้สึกเขินอายลึกๆ แต่ก็นั่นแหละ ผมแค่อยากให้เธอยอมรับออกมาตรงๆ ว่าที่เธอจูบผม มันมีอะไรมากกว่านั้น

"อะไร อีฟไม่ได้ปิดบังอะไรพี่ซักหน่อย" อีฟรีบแก้ตัวทันควัน

"ใช่เร้ออออ ไม่ใช่ว่าแค่หาข้ออ้างจูบพี่เฉยๆเหรอ" ผมหรี่ตามองเธอพร้อมกับแซวเล็กๆ

"บะ บ้าา ก็บอกแล้วไงว่าดึงสติพี่เฉยๆ รู้งี้ปล่อยให้เป็นฆาตกรไปซะได้ก็ดี ไอ้คนลามก" อีฟลุกขึ้นเดินหนีผมออกจากห้องซะงั้น ผมก็ได้แต่นั่งหัวเราะคนเดียวเบาๆ ยัยฝรั่งนี่ จะให้ผมเป็นฆาตกรหรือคนลามกกันแน่


............


หลังจากที่คุยกับอีฟจนเสร็จเรียบร้อย ผมก็เดินตามอีฟที่เดินโมโหกลับมาที่ห้องของเธอ ผมตั้งใจะคุยกับเดียร์ว่าจะเอายังไงต่อ ใจผมอยากให้เธอไปแจ้งความนะ แต่ทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับเธอด้วย

เดียร์อาบน้ำเสร็จแล้ว เธอนั่งเช็ดผมอยู่ที่โซฟา ตอนนี้เธอใส่กางเกงขาสั้นเสื้อกล้ามที่เธอจับยัดๆใส่กระเป๋ามา แม้ว่าจะเพิ่งผ่านเกมรักมาหลายยก แต่พอเธออาบน้ำอาบท่าแล้ว เธอก็ยังคงเซ็กซี่ไม่เปลี่ยน โดยเฉพาะหน้าอกที่ทะลักล้นออกมาจากเสื้อกล้ามนั้น เห็นแล้วเซ็กซี่ชะมัด

'ลามกยังไงก็ลามกไม่เปลี่ยนนะ ไอ้คนบ้าา...' อยู่ดีๆเสียงอีฟก็ดังขึ้น  แต่ทั้งๆที่เธอยืนข้างๆผม ผมกลับรู้สึกเหมือนได้ยินจากที่ไกลๆ

"เมื่อกี๊อีฟว่าไงนะ" ผมหันไปถามเธอ

"อีฟไม่ได้พูดอะไรซักหน่อย" เธอหันมาตอบผมพลางทำหน้างงๆ

ผมเข้าใจแล้ว ความสามารถที่รับรู้ความคิดคนอื่นได้ของผมมันมีจริงๆ ผมไม่ได้รู้สึกไปเอง เพียงแต่.. ผมไม่สามารถควบคุมได้ และมันจะมาๆหายๆเท่านั้นเอง

"อ่อ ไม่มีอะไร ว่าแต่เดียร์เป็นไงมั่ง สดชื่นขึ้นมามั้ย" ผมหันไปบอกอีฟ ป่วยการจะอธิบายเธอตอนนี้ และถึงอยากจะบอก แต่การที่เดียร์นั่งอยู่ตรงนี้ด้วย ก็คงเป็นอะไรที่อธิบายยากซักหน่อยอยู่ดี

"ดีขึ้นเยอะเลย ขอบคุณต่อกับน้องอีฟมากๆเลยนะ" เดียร์บอกผม สีหน้าเธอดูดีขึ้น แม้จะเพิ่งผ่านสถานการณ์แย่ๆมาก็เถอะ

"ไม่เป็นไรพี่เดียร์" อีฟบอก

"แล้วเดียร์จะเอายังไงต่อ จะแจ้งความมั้ย เราพาไปแจ้งได้นะ" ผมเดินไปนั่งตรงข้ามกับเดียร์พลางถาม

"เดียร์.. เดียร์ไม่อยากให้เรื่องไปถึงขั้นนั้นอ่ะ แต่เดียร์ตัดสินใจแล้ว เดียร์ตั้งใจว่าจะเลิก แต่ก็ยังไม่รู้จะทำไง แบงค์มันไม่ยอมแน่ๆ" เดียร์ทำหน้าเศร้าตอบกลับมา

"แล้วก่อนหน้านี้เดียร์อยู่กับมันเหรอ แล้วถ้าเลิกแล้วมีที่อื่นอยู่มั้ย" ผมถามเธอ

"อื้อ เดียร์อยู่กับมันแหละ แต่เดี๋ยววันนี้เดียร์จะไปพักโรงแรมก่อน แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้มะรืนเดียร์จะหาเช่าคอนโดอยู่ ห่วงก็แต่ของ ยังไม่เก็บของอะไรเลย รอบนี้มาแค่เสื้อผ้ากับของจำเป็น" เดียร์บอก

"ถ้าพี่เดียร์ไม่รังเกียจ พี่เดียร์อยู่กับอีฟก่อนมั้ยล่ะ อยู่นานๆเลยก็ได้ อีฟจะได้มีเพื่อนด้วย" อีฟเสนอขึ้นมา ทำเอาผมหันไปมองหน้าเธอทันที เพราะการที่จะอยู่ด้วยกัน เป็นรูมเมทกัน มันไม่ใช่อยู่ดีๆจะมาอยู่ด้วยกันได้นะ บางทีนิสัยอาจจะไม่เข้ากัน หรือความคิดไม่ตรงกัน ก็อาจจะกลายเป็นรูมเมททะเลาะกันเองก็ได้

"ทำไม ก็อีฟอยากมีเพื่อนมีพี่สาวอ่ะ จะทำไม?" อีฟท้าวเอวหันมาบ่นผม เธอรู้ว่าผมคิดอะไร

"เปล๊าาา ไม่ทำไมหรอกจ้ะ" ผมทำเสียงยียวนกลับไป

"เอ่อ จะดีเหรอ พี่เกรงใจอีฟ" เดียร์ตอบอีฟ ท่าทางเธอยังคงเกรงใจพวกเราอยู่

"ไม่เป็นไรพี่เดียร์ ถ้าพี่เกรงใจ พี่ช่วยหารค่าเช่าอีฟก็ได้ อีฟจะได้มีเพื่อนสาวมั่ง เบื่อคนลามกแถวนี้" อีฟตอบเดียร์ไป แต่ประโยคสุดท้ายนี่ด่าผมชัดๆ

"งั้นก็ได้ ขอบคุณอีฟกับต่อมากๆเลยนะ" เดียร์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงซาบซึ้ง

"ไม่เป็นไรเดียร์ ส่วนเรื่องของกับเรื่องแบงค์ เดี๋ยวเราจัดการให้" ผมบอกเธอไป ผมรู้แล้วว่าผมจะจัดการแบงค์ยังไง ไหนๆผมก็ใช้พลังผมกับแบงค์และเพื่อนได้ ผมเลยตั้งใจว่า จะลองลบความทรงจำของแบงค์กับเพื่อนดู ให้ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ให้ลืมเดียร์ อย่างน้อยพวกนั้นจะได้ไม่มาคุกคามเดียร์ได้

ส่วนเดียร์นั้น ผมคิดๆอยู่ว่าจะเอายังไงดี แน่นอนว่าเหตุการณ์เหล่านี้อาจจะเป็นฝันร้ายสำหรับผู้หญิงก็จริงอยู่ แต่การที่อยู่ดีๆจะลบความทรงจำโดยไม่ได้รับการยินยอมจากเจ้าตัว มันก็เป็นอะไรที่ต้องคิดเยอะๆเหมือนกัน โดยเฉพาะเป็นคนที่เราแคร์ด้วย ไม่ใช่คนนอกแบบแบงค์และเพื่อน

ผมยังนั่งในห้องอีฟต่อสักพัก ส่วนอีฟดูจะตื่นเต้นกับการมีเพื่อนร่วมห้องคนใหม่ เธอจูงมือเดียร์ไปดูส่วนต่างๆของคอนโด จัดแจงแบ่งที่นอน หาเสื้อผ้าให้ใส่ชั่วคราว ผมมองดูอีฟด้วยสายตาชื่นชม

ผมไม่รู้ว่าชีวิตเธอเป็นยังไง คนในกรอบรูปที่ตั้งอยู่บนโต๊ะนั้นใช่พ่อแม่เธอหรือเปล่าก็ไม่รู้ แถมเธอก็ไม่เคยพูดถึงชีวิตของเธอให้ผมฟังเท่าไหร่ ผมไม่รู้ว่าเธอแบกรับอะไรไว้บ้าง แต่ทุกครั้งที่ผมมีปัญหา เธอจะคอยซัพพอร์ทผมเสมอ ตอนที่ผมอยากระบายเรื่องอิง ตอนที่ผมอยากง้อแทน เธอก็ให้คำปรึกษาผม ตอนที่ผมขอให้เธอไปเป็นเพื่อนตอนไปช่วยเดียร์ เธอก็ตามผมไปโดยไม่ถามสักคำ และตอนนี้ ยังกุลีกุจอดูแลเดียร์ราวกับรู้จักกันมานาน บอกตรงๆว่า อีฟนั้นเป็นคนดีในสายตาผมมากๆ

ผมปล่อยให้สาวๆใช้เวลาด้วยกัน เดียร์คงต้องการการพักผ่อน ส่วนอีฟก็คงอยากจะมีเวลาส่วนตัว ผมก็เช่นกัน บ่ายวันเสาร์แบบนี้ แถมโดนกระทืบมาหยกๆแบบนี้ นอนพักสักหน่อยก็คงจะดี


ดวงอาทิคย์เริ่มจะคล้อยลงดิน ผมตื่นขึ้นมาหลังจากหลับไปตอนไหนไม่รู้ และเป็นเสียงเปิดประตูและวางข้าวของที่ปลุกผมให้ตื่น ผมลืมตาตื่นมามองและพบว่า เป็นแทนนั้นเอง เธอกลับมาเร็วกว่าที่บอกไว้

"อ่าวแทน กลับมาแล้วเหรอ ไหนบอกว่าจะกลับมา 2-3 ทุ่มไง" ผมขยี้ตานั่งตั้งสติอยู่บนเตียง

"ก็ตอนแรกตั้งใจจะอยู่บ้านสักแปป แต่คิดถึงคนบางคน เลยรีบ.. ว๊ายยย ตายแล้ว ไปโดนอะไรมา" แทนตอบผมเสียงหวานก่อนจะร้องลั่นในตอนที่หันมาเห็นรอยช้ำที่อยู่บนใบหน้าผม

"เอ้อ.. หกล้มอ่ะ" ผมไม่รู้จะตอบอะไร ก็เลยตอบส่งๆไปงั้น

"โกหก! บอกมาเดี๋ยวนี้ ไปทำอะไรมา" แทนรีบหยิบน้ำแข็งในช่องฟรีซแล้วเอาผ้าเช็ดหน้าเธอห่อไว้ ก่อนจะรีบเอามาประคบที่ใบหน้าผม อา.. มือของแทนช่างแผ่วเบาจริงๆ ไม่เหมือนยัยอีฟเลยซักนิด

"แหะๆ อยากรู้จริงๆเหรอ" ผมหัวเราะกลบเกลื่อนพลางถามแทนที่กำลังเพ่งสมาธิกับการประคบน้ำแข็งที่ใบหน้าผม

"อยากสิ บอกมา ไปมีเรื่องกับใครมาเนี่ย" แทนถามผมด้วยความเป็นห่วง แทนแสนดีจริงๆ ทุกวินาทีที่ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ผมมีแต่จะยิ่งรักเธอมากขึ้นเรื่อยๆ

แล้วผมก็เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้แทนฟังในขณะที่เธอตั้งหน้าตั้งตาประคบรอยช้ำให้ผม ผมเล่าเรื่องพลังให้ฟังนิดหน่อย แต่ไม่ได้เล่าเรื่องที่ผมโกรธจนพลังพิเศษเกือบจะฆ่าสองคนนั้นและเรื่องอีฟมาจูบผม ก็แหม.. เล่าไปผมอาจจะคอขาดได้ แถมดีไม่ดีเดี๋ยวแทนไม่โอเคกับอีฟอีก

หลังจากเล่าให้แทนฟังเสร็จ ผมบอกเธอว่าเดียร์อยู่กับอีฟที่ห้องข้างๆชั่วคราวก่อน ทำให้แทนอยากเข้าไปเยี่ยมเดียร์ พร้อมทั้งเป็นห่วงว่าอีฟจะเป็นยังไงบ้าง


ก๊อกๆๆๆ ผมกับแทนยืนหน้าประตูห้องอีฟพร้อมกับเคาะประตูเรียก

"อ่าวพี่แทน พี่ต่อ เข้ามาสิ" อีฟเปิดประตูเชิญผมกับแทนเข้าห้อง

"อีฟเป็นยังไงบ้าง ต่อเล่าให้พี่ฟังหมดแล้ว เจ็บมั้ย" แทนพยายามมองแก้มของอีฟเพื่อดูว่ามีบาดแผลอะไรจากการโดนตบมั้ย

"อีฟไม่เป็นไรค่ะ หายเจ็บแล้ว" อีฟตอบแทน

"ยังไงก็ทาครีมด้วยนะ ผู้หญิงอย่างเราเป็นแผลที่หน้าก็ไม่สวยกันพอดี" แทนบอกอีฟด้วยความเป็นห่วง

"แทน นี่เดียร์ เพื่อนที่ทำงานเก่าเรา เดียร์นี่แทน แฟนเรา น่าจะรุ่นเดียวกันนะ" ผมเดินไปนั่งโซฟาตรงข้ามเดียร์ที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว พลางแนะนำให้สองสาวรู้จักกัน

"สวัสดีค่ะเดียร์ เป็นยังไงบ้าง ต่อเล่าให้แทนฟังแล้ว แทนเป็นห่วงเลยมาดูว่าโอเคมั้ย" แทนเดินมานั่งข้างๆเดียร์

"ดีค่ะแทน เดียร์โอเคแล้ว ดีที่ต่อกับน้องอีฟไปช่วยทัน ไม่งั้นเดียร์แย่แน่ๆ" เดียร์บอกแทนกลับ

"ไม่เป็นไรก็ดีแล้วแหละ มันผ่านไปแล้ว" ผมบอกเดียร์ ในขณะที่อีฟเดินมานั่งข้างเดียร์อีกฝั่ง ตอนนี้กลายเป็นว่า สามสาวนั่งโซฟายาวตรงข้ามผมหมดเลย

"แล้วเดียร์พักอยู่กับอีฟ เดียร์มีเสื้อผ้าของใช้อะไรมั้ย ถ้าไม่รังเกียจใส่เสื้อผ้าแทนไปก่อนก็ได้นะ เห็นว่าของส่วนใหญ่ยังอยู่ที่โน่นใช่มั้ย" แทนถามเดียร์ด้วยความเป็นห่วง

"ไม่เป็นไรพี่แทน เสื้อผ้าเดี๋ยวพี่เดียร์ใส่กับอีฟได้" อีฟบอกแทน

"ตกลงพลังอะไรของเธอนี่มันเรื่องจริงเหรอเนี่ย คุยกี่ครั้งก็แทบไม่น่าเชื่อเลย" แทนเอียงคอถามผม

"จริงสิ ถามเดียร์ดูสิ" ผมตอบพลางโบ้ยไปที่เดียร์

"เดียร์ไม่รู้คืออะไรอ่ะ แต่อยู่ดีๆสองคนนั้นก็หยุดทำร้ายต่อไปเลย ทั้งๆที่ต่อไม่ได้ทำอะไร จน.. เอ่อ.." เดียร์หันไปเล่าให้แทนฟัง แต่สุดท้ายกลับอ้ำๆอึ้งๆ ผมรู้ทันทีว่าเธอคงนึกได้ว่าตอนนั้นอีฟมาจูบกับผม แล้วถ้าพูดออกไปคงไม่ดี

"จนอะไรเหรอ" แทนถามเดียร์ที่ยังอ้ำๆอึ้งๆอยู่

"จนเราพาเดียร์กับอีฟหนีออกมาได้ไง" ผมรีบตัดหน้าแก้สถานการณ์ไปก่อน เฮ้ออ เกือบซวยแล้วมั้ยล่ะ

"ใครบอกว่าพี่พาพี่เดียร์กับอีฟหนี อีฟต่างหากที่พาพี่กับพี่เดียร์หนี พี่ยังยืนเอ๋ออยู่เลยตอนนั้น" อีฟโวยวายขึ้นมา

"มันก็เหมือนกันแหละน่าา" ผมตอบ แหม ยัยอีฟนี่ รายละเอียดเล็กๆน้อยๆจะผิดนิดผิดหน่อยก็ไม่ได้

"ไม่เหมือน เวอร์ชั่นของพี่มันทำให้พี่ดูเป็นฮีโร่ ทำเท่ต่อหน้าแฟน แต่เวอร์ชั่นจริงอีฟอ่ะต้องช่วยพี่" อีฟยังคงลอยหน้าลอยตาบอก

"ฮ่ะๆๆ เอาน่า ทั้งอีฟทั้งต่อก็ฮีโร่หมดแหละ ทุกคนกลับมาได้ปลอดภัยก็ดีแล้ว" แทนขำในความเถียงกันของผมกับอีฟ ออกมาตัดบทก่อนจะมีการปะทะคารมณ์กันไปมากกว่านี้

"เออใช่พี่แทน เหตุการณ์วันนี้ เลยทำให้รู้ว่า พี่ต่อเขามีความสามารถอีกหลายอย่าง อีฟเลยนัดกับทางทีมว่าเดี๋ยวจะให้พี่ต่อไปตรวจ แล้วมันช่วงวันหยุดคริสมาสต์ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว อีฟว่า เราไปเที่ยวกันด้วยเลยมั้ย" อีฟหันมาถามแทน

"หือ ตรวจที่ไหน ที่โรงพยาบาลเหรอ แล้วเที่ยวไหนอ่ะ" แทนถามอย่างงงๆ

"พี่ต่อต้องเข้าเครื่องตรวจสมองขององค์กรค่ะ อยู่ที่อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ วันนี้กลับมาอีฟคุยกับทีมมา เขานัดคิวให้อาทิตย์นี้เลย น่าจะช่วงคริสมาสต์ เลยจะชวนพี่แทน พี่เดียร์ด้วย ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เราไปเที่ยวปีใหม่กันด้วยเลยมั้ย" อีฟอธิบายแทนพลางหันไปชวนเดียร์

"นั่นสิ ก็ดีเหมือนกัน ได้ไปเที่ยวต่างประเทศด้วย เรายังไม่เคยนั่งเครื่องบินด้วยซ้ำ" ผมบอกอย่างตื่นเต้น เพราะถ้าได้ไป นี่จะเป็นครั้งแรกในชีวิตผมเลยนะ ที่ได้ขึ้นเครื่องบิน

"แทนมีงานถึงวันที่ 27 อ่ะ แต่หลังจากนั้นว่าง จะอยู่กันถึงเมื่อไหร่อ่ะ" แทนถามอีฟ

"ไม่แน่ใจ แต่น่าจะเป็นช่วงวันหยุดปีใหม่แหละถ้าทุกคนไป แต่ถ้าพี่แทนไม่ไป คงไปตรวจแล้วก็กลับ" อีฟตอบ

"น่าสนใจอยู่นะ ถ้างั้นแทนตามไปทีหลังได้มั้ย ต่อกับอีฟก็ไปตรวจก่อน แล้วเดี๋ยวแทนบินตามไปวันที่ 28" แทนทำท่านึกคิวตารางงานของเธอ พลางเสนอไอเดีย

"ก็ได้นะแบบนั้น" ผมบอกแทน

"แทนมีวีซ่าเชงเก้นเข้าฝรั่งเศสเหลืออยู่ มันใช้เข้าเนเธอร์แลนด์ได้มั้ย" แทนถามอีฟเรื่องวีซ่า

"ได้ค่ะพี่แทน ถ้ายังไม่หมดอายุอ่ะนะ แล้วพี่เดียร์อ่ะ สนใจมั้ย เรื่องตั๋วเรื่องที่พักเรื่องเที่ยวไม่ต้องห่วง พี่ต่อจัดการให้ ส่วนเรื่องวีซ่ากับพาสปอร์ตถ้าไม่มี เดี๋ยวอีฟจัดการด่วนให้ได้" อีฟหันไปถามเดียร์

"ฟังดูน่าสนุกจัง แต่เดียร์ว่าจะกลับบ้านต่างจังหวัดอ่ะปีใหม่ ไว้โอกาสหน้าแล้วกันนะ" เดียร์ตอบอีฟ


เรานั่งคุยเล่นเรื่อยเปื่อยกันพักใหญ่ จนสุดท้ายผมกับแทนก็ขอตัวกลับห้องพร้อมกับอีฟที่เดินมาส่งพวกเราที่ประตู

"ว่าแต่ นี่พลังทั้งหมดคือเรื่องจริง แล้วการที่มีคนรู้เยอะแบบนี้ เช่นเรา หรือเดียร์ แทนไม่รู้ว่าเดียร์รู้แค่ไหน แต่ก็เหมือนจะสังเกตุบ้างแล้ว แบบนี้จะไม่เป็นอันตรายเหรอ" แทนถามผมกับอีฟที่กำลังยืนอยู่หน้าประตูห้อง

"ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกเรื่องนั้น เราจะปกป้องพวกเธอเอง" ผมบอกแทนแล้วหันไปมองอีฟ บอกตรงๆว่า การได้พูดประโยคนี้ต่อหน้าสาวสวยสองคน มันเป็นอะไรที่โคตรฟินเลย

"จ้าา เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะพ่อฮีโร่" อีฟเบ้ปากพูดด้วยน้ำเสียงหมั่นไส้ แล้วผมกับแทนก็ลากับอีฟตรงนั้นและกลับห้องของเรา


...............


บอกตรงๆว่า ตอนที่โดนกระทืบมาเมื่อตอนกลางวันนั้น ผมไม่ได้รู้สึกเจ็บซักเท่าไหร่ อาจจะเพราะตอนนั้นโกรธอยู่ หรืออาจจะเพราะผลจากสมองของผม แต่ตอนนี้ ในทันทีที่ผมหัวหนุนหมอนและแทนมานอนข้างๆ ผมกลับรู้สึกปวดระบมไปทั้งตัว ไม่รู้ว่าผมเจ็บจริงๆหรือร่างกายระบมเพื่อเรียกร้องความสนใจกันแน่

"โอยยย ปวดตัวจังเลย" ผมร้องโอดโอยขึ้นพลางทำเสียงน่าสงสาร

"ปวดตรงไหน แทนประคบน้ำแข็งให้อีกเอามั้ย" แทนลุกขึ้นมาดูผมพลางพูดด้วยความเป็นห่วง

"ไม่เอาอ่ะ อยากให้แทนนวดให้มากกว่า" ผมทำเสียงออดอ้อน

"มาเดี๋ยวแทนนวดให้ ปวดตรงไหน" แทนขยับมือมานวดแขนผม

จริงๆแล้วตำแหน่งที่ผมโดนเตะโดนต่อยส่วนมากจะเป็นที่ใบหน้ากับท้องซะมากกว่า แต่.. พอเราพูดถึงนวดปุ๊ป บอกตรงๆว่าผมคิดดีไม่ได้เลย

"ตรงขาอ่ะ ปวดมากๆเลย" ผมแกล้งทำเสียงเจ็บปวดและน่าสงสาร

"ตรงนี้เหรอ" แทนเริ่มต้นนวดขาผมตรงน่อง ผมไม่รู้ว่าแทนไปเรียนนวดมาหรือไง แต่มือเธอนุ่มและนวดดีเป็นบ้า

"ไม่อ่ะ ขึ้นมาอีก" ผมแกล้งบอกเธอ

"หัวเข่าเหรอ" แทนถามพลางขยับมือมาบีบนวดตรงหัวเข่า

"ไม่ใช่ สูงกว่านั้นอีก" ผมยังคงแกล้งทำเสียงน่าสงสาร

"ขาอ่อนเนี่ยเหรอ" แทนขยับมือมานวดที่ขาอ่อนของผมพลางขมวดคิ้ว

"ไม่ใช่ สูงกว่านั้นอีก โอยย ปวดจังเลย" ผมหลับตาร้องครวญครางแกล้งปวด

"อ๋อ รู้แล้วว่าปวดตรงไหน.." แทนเปลี่ยนโทนเสียง ตอนนี้ผมยังคงหลับตาแกล้งปวดอยู่ ผมเดาว่าเธอจะรู้ว่าผมหมายถึงปวดตรงไหน และเธอคงจะเริ่มนวดแก่นกายผมในไม่ช้า

ตุ้บ!! โอ้ยย!!

แทนที่จะเป็นสัมผัสจากมือนุ่มของแทนที่นวดแก่นกายผม กลับกลายเป็นหมัดที่ทุบมาที่หน้าท้องผมเบาๆด้วยความหมั่นไส้

"นี่แน่ะ ปวดนักใช่มั้ย เดี๋ยวจะทุบให้ปวดกว่าเดิมเลย คนอุตส่าห์เป็นห่วง" แทนทุบเสร็จก็บ่นผมเบาๆ

ผมไม่รอช้า เอี้ยวตัวขึ้นมากอดรวบแทนจนล้มลงมานอนในอ้อมแขนผมบนเตียง

"ว๊ายย~" แทนร้องลั่นด้วยความตกใจในจังหวะที่ผมรวบกอดเธอ

"เราแค่อยากอ้อนแทนเท่านั้นเอง ขอบคุณนะที่เป็นห่วง" ผมมองใบหน้าสวยของแทนที่อยู่ในอ้อมแขนผมพลางบอกเธอเบาๆ

"ทีหลังระวังตัวด้วยสิ ถ้าเป็นไรขึ้นมาจะทำยังไง" แทนมองหน้าผมพลางเอามือลูบรอยช้ำที่ใบหน้า

"เราโชคดีจังที่มีแทน" ผมบอกเธอ มันเป็นความรู้สึกที่ผมอยากให้เธอรับรู้จริงๆ แม้ว่าในใจผมจะรู้สึกคิดถึงอิง รู้สึกดีกับอีฟ รู้สึกสเน่หากับเดียร์ แต่กับแทนแล้ว ผมบอกเลยว่า เธอเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดสำหรับผมเลย

"แล้วทีหลังอย่าพาน้องอีฟไปเจออันตรายอะไรแบบนั้นนะ" แทนบอกผม เธอไม่ได้เป็นห่วงแค่ผม แต่ยังคงห่วงอีฟด้วย แทนช่างแสนดีอะไรอย่างนี้

"ว่าแต่.. เราโดนกระทืบมา ไม่มีอะไรปลอบใจหน่อยเหรอ" ผมถามแทนเสียงเบา

"อยากได้อะไรปลอบใจเหรอคะ" แทนเลิกคิ้วมองผม

"ให้อยากแทนนวด.. ตรงนี้" ผมจับมือของเธอพลางดึงมาที่เป้ากางเกงผม เหมือนแทนจะเข้าใจความหมายว่าผมหมายถึงอะไร มือเธอเริ่มขยำแก่นกายผมจากภายนอกกางเกงเบาๆ

"ตรงนี้ก็โดนกระแทบมาเหรอคะ" แทนถามผมด้วยน้ำเสียงเซ็กซี่

"ไม่โดน แต่ตอนนี้อยากโดน" ผมตาปรือตอบเธอด้วยความเสียวจากแรงขยำเบาๆจากมือแทน

"อยากโดนอะไรคะ" แทนถามกลับมา เธอยังคงมองหน้าผมยิ้มๆไปด้วยพร้อมกับขยำแก่นกายผมไปด้วย

"อยากโดนแทนขย่ม.." ผมเริ่มจะไม่ไหวแล้ว ผมบอกเธอไปตรงๆ

"แล้วถ้าแทนไม่ขย่มล่ะ.." แทนลากเสียงพร้อมกับลุกขึ้นมานั่งพลางค่อยๆล้วงมือเข้าไปในกางเกงขาสั้นของผม

"ไม่ขย่มมันก็ไม่เสร็จสิ คนโดนกระทืบถ้าไม่เสร็จมันอันตรายนะ อาจจะคั่งค้างตายได้เลย" ผมชักแม่น้ำทั้งห้ามาโน้มน้าวแทน แม้จะรู้ว่า แทนก็คงจะยอมทำให้ผมอยู่ดี

"แต่แทนมีอย่างอื่นที่ดีพอๆกับขย่มนะคะ.." แทนพูดจบไม่รอให้ผมตอบ เธอมุดเข้าไปในผ้าห่มแล้วดึงแก่นกายที่แข็งชูชันของผมออกมานอกกางเกงขาสั้นแล้วอ้าปากครอบทันที

"ซี๊ดดดดด" ผมได้แต่หลับตาซู้ดปากด้วยความเสียวในทันทีที่โพรงปากอุ่นชื้นของเธอครอบแก่นกาย ปลายลิ้นนุ่มของเธอตวัดรอบแก่นกายผมอย่างเสียวซ่าน

จ๊วบบบบบ~ แทนไม่เพียงแค่อ้าปากครอบเท่านั้น เธอทั้งดูด ทั้งเลีย พร้อมกับเอามือชักไปด้วยช้าๆ จนเสียงจ๊วบจ๊าบดังลั่นไปทั่วห้อง

"ซี๊ดดด โอยย แทน เราเสียว" ผมขยุ้มผมที่หัวของแทนพลางกดใบหน้าสวยของเธอเข้าที่แก่นกายผม

แทนไม่ตอบอะไร เธอยังคงดูดเลียแก่นกายนั้นราวกับว่าเป็นไอติมแสนอร่อย เรียวนิ้วสวยที่โอบรอบรัดแก่นกายผมก็ชักเข้าออกช้าๆ

แม้ว่าเมื่อคืนผมกับแทนเพิ่งจะมีอะไรกันมา แต่บอกเลยว่า ถ้าผู้ชายคนไหนมีผู้หญิงสวย น่ารัก และหุ่นดีอย่างแทนมานอนข้างๆแล้วไม่ทำอะไรละก็ คงเป็นแค่หุ่นยนต์หรือไม่ก็ตายด้านไปแล้วแน่ๆ และผมไม่ใช่คนประเภทนั้นซะด้วยสิ

ตอนนี้แทนยังคงดูดแก่นกายของผมอย่างแผ่วเบาพร้อมกับโลมเลียด้วยลิ้นอันอ่อนนุ่ม แต่มือของเธอเริ่มเพิ่มความเร็วในการชักเร็วขึ้นเรื่อยๆ

"ซี๊ดดดด แทน ดะ เดี๋ยวเราเสร็จ" ผมบอกเธอด้วยเสียงกระเส่า ความเสียวมันเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ใจจริงผมอยากให้เธอขึ้นคล่อมผมมากกว่า แต่ความเสียวที่พุ่งขึ้นสุดตอนนี้ ก็อาจทำให้ผมเปลี่ยนใจเสร็จคาปากได้เหมือนกัน

แทนไม่ฟังเสียงใดๆจากผม เธอเร่งความเร็วในการชักมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งในที่สุด ผมก็ไม่สามารถทานทนความเสียวได้อีกต่อไป

"อาาาาาาาาาาาา " ผมร้องครางยาวลากเสียงพร้อมกับเกร็งตัวและกดหัวแทนเข้าเอวผมในจังหวะที่ผมฉีดน้ำรักเข้าโพรงปากของเธอ แทนยังคงช่วยดูดราวกับจะเอาให้น้ำรักที่คั่งค้างอยู่ในแก่นกายนั้นออกมาจนหมดหยดสุดท้าย

และเมื่อแน่ใจแล้วว่าผมคงไม่มีน้ำรักค้างอีก แทนก็ถอนปากออกไปพร้อมกับลุกวิ่งเอามือปิดปากเข้าห้องน้ำไปในขณะที่ผมยังคงนอนหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน

ผมนอนมองเพดาน คิดถึงความสัมพันธ์ของผมกับแทนที่ผ่านมา ผมว่าผมเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดแล้ว แทนเป็นเหมือนแสงสว่างนำทางผมในตอนที่ผมดาวน์สุดขีดตอนที่โดนอิงทิ้งใหม่ รอยยิ้มของเธอสดใสจนจุดประกายโลกทั้งใบของผม

และผมหวังว่า รอยยิ้มนี้จะอยู่กับผมต่อไปอีกนานแสนนาน...


###########



เช้าวันอาทิตย์ - แทนตื่นก่อนผมที่ยังคงนอนปวดระบมจากการโดนกระทืบมาเมื่อวาน ผมตื่นมาเพื่อพบว่า แทนกำลังขะมักเขม่นกวาดพื้นถูกพื้น มองเฝ้ามองดูร่างสูงของเธอในชุดกางเกงขาสั้นเสื้อยืดอยู่บ้านแบบสบายๆ ผมที่มัดรวบดูทะมัดทะแมง ให้ตายสิ ไม่ว่าเธอจะแต่งตัวยังไง เธอก็ยังคงดูสวยตลอดจริงๆ

"แทน ไม่ต้องทำก็ได้ เดี๋ยวเราทำเอง" ผมลุกขึ้นมานั่งบนเตียงพร้อมกับบอกแทนที่กำลังถูพื้นอยู่

"อ่าว ตื่นแล้วเหรอ ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราทำให้ก็ได้" แทนหันมายิ้มให้ผมพลางปาดเหงื่อ

"งั้นทำแค่นั้นแหละ เดี๋ยวที่เหลือเราทำเอง" ผมบอกเธอ ผมไม่อยากให้เธอต้องมาลำบากทำความสะอาดห้องให้ผม

"ไม่เป็นไรน่าา เออ วันนี้แทนกลับคอนโดนะ" แทนบอก ผมนึกได้ว่าเธอบอกว่าจะค้างถึงวันนี้

"อ้อ โอเค งั้นเธอจะกลับตอนไหน เดี๋ยวเราไปส่ง" ผมถาม

"บ่ายๆแหละ แล้วเรื่องเนเธอร์แลนด์นี่จริงจังมั้ย" แทนถามผมเรื่องแพลนเที่ยวเนเธอร์แลนด์ช่วงปีใหม่

"น่าจะจริงจังนะ ต้องถามอีฟ เห็นว่าจะจัดการเรื่องตั๋วกับพาสปอร์ตให้" ผมบอกเธอไป


ก๊อกๆๆๆ~ ยังไม่ทันที่จะได้คุยอะไรกันต่อ เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น

แทนเดินไปเปิดประตูแล้วก็พบว่าเป็นอีฟที่ยืนยิ้มอยู่หน้าประตู

"พี่แทน สวัสดีค่าา" อีฟทักทายแทน

"อ่าว อีฟ ดีจ้ะ เข้ามาๆๆ" แทนยิ้มตอบพลางเปิดประตูให้อีฟเดินเข้ามา

"ไง ฮีโร่คนเก่ง หายปวดยังคะลูกพี่" อีฟเห็นผมนั่งบีบนวดแขนขาตัวเองอยู่เลยหันมาถามผมด้วยน้ำเสียงแซวๆ

"ยัง ยังระบมอยู่เลย" ผมตอบไปตรงๆ

"เออ พี่ต่อ สตีฟโทรมาคอนเฟิร์มงานเลี้ยงแล้วนะ คืนวันอังคารนะ" อีฟบอกผม

"โอเค แล้วเสื้อจะส่งมาทันมั้ย" ผมถามกลับไปเพราะตอนนี้ผมยังไม่ได้ชุดที่ไปสั่งตัดไว้เลย

"พรุ่งนี้มาส่ง น่าจะทันแหละ" อีฟตอบ

"แล้วเรื่องมารยาททานอาหารอะไรนั่นล่ะ จำเป็นมั้ย" ผมถาม เพราะจำได้ว่าสตีฟเคยบอกว่า ผมต้องเทคคอร์สเรียนมารยาทการทานอาหารในปาร์ตี้ไฮโซด้วย เพราะต้องแฝงตัวเป็นคนของสถานฑูต

"เออแฮะ จะทันมั้ยเนี่ย" อีฟเดินไปนั่งโซฟาพลางทำท่านึก

"อะไรคือมารยาททานอาหารเหรอ" แทนเดินหยิบน้ำมาให้อีฟพลางนั่งข้างๆ

"พี่ต่อเขาต้องเรียนคอร์สทานอาหารอ่ะพี่แทน งานเลี้ยงของสถานฑูตอ่ะ แล้วเราต้องปลอมตัวเป็นคนของสถานฑูต แต่ดูเวลา ท่าจะไม่ทันแน่ๆเลย" อีฟมองหน้าผมพลางครุ่นคิด

"อ๋อ แล้วอีฟต้องเรียนมั้ย" แทนหันไปถามอีฟ

"ไม่ต้องค่ะ อีฟถูกสอนมาตั้งแต่เด็กแล้ว" อีฟบอก

"อีฟก็สอนต่อได้มั้ยล่ะ ไปดินเนอร์ร้านหรูๆอะไรงี้ แล้วก็สอนไปด้วยเลย มีเวลาสองวัน วันนี้กับพรุ่งนี้ น่าจะทันนะ" แทนเสนอไอเดีย ซึ่งพอผมได้ยินแล้ว โอ้โห ทำไมใจกว้างขนาดนี้ ยอมให้แฟนไปดินเนอร์กับสาวอีกคนเนี่ยนะ ถึงแม้จะเป็นเรื่องงานก็เถอะ

"เออ จริงๆก็ได้นะ แต่สองวัน คนหัวช้าอย่างพี่ต่อจะทันมั้ย" อีฟหันมามองหน้าผมด้วยสายตาสิ้นหวัง

"น่าจะได้มั้ย เอางี้สิ วันนี้พี่ต้องกลับคอนโด อีฟพาต่อไปวันนี้ แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ เราไปอีกวัน แต่ไปกันสามคน จะได้ช่วยกันสอน" แทนเสนอไอเดียอีก

"พี่แทนก็เป็นเหรอ" อีฟตาโตหันมาถาม

"พี่เรียนสายนี้นะอย่าลืมสิ" แทนบอกยิ้มๆ

"เออจริงด้วย แต่พรุ่งนี้เย็นอีฟไม่ว่าง พี่แทนไปกับพี่ต่อได้ป่ะ เดี๋ยววันนี้อีฟไปเอง" อีฟเสนอกลับมา

"ก็ได้นะ ว่าไงต่อ โอเคมั้ย" แทนพยักหน้าให้อีฟแล้วหันมาถามผม

"เอ้อ ก็ได้สิ แล้ววันนี้จะไปกี่โมง" ผมจะตอบอะไรได้ละเนอะ

"ซักทุ่มนึงละกัน แต่งตัวดีๆหน่อยนะ" อีฟบอกผม

"แล้วตกลงเรื่องทริปเนเธอร์แลนด์ยังไงอีฟ" แทนถามอีฟ

"เออใช่ อีฟคุยมาแล้ว พี่ต่อยังไม่มีพาสปอร์ต แต่ไม่ต้องห่วง อีฟส่งรูปพี่ไปให้ทีมละ เดี๋ยวทีมส่งพาสปอร์ตกับวีซ่ามาให้พรุ่งนี้ ส่วนของพี่แทน เดี๋ยวอีฟขอชื่อนามสกุลกับเลขพาสปอร์ตด้วยนะคะ เดี๋ยววันนี้อีฟจะจองตั๋วให้" อีฟหันมาบอกผมก่อนจะหันไปบอกแทนในประโยคท้ายๆ

"มันเท่าไหร่อะ ซื้อตั๋วตอนนี้มันน่าจะแพงนะ" แทนบอก แน่นอนว่า ตั๋วบินตรงไปยุโรปช่วงปลายปีแบบนี้ แถมซื้อแบบกระชั้นชิดแบบนี้ นอกจากจะแพงแล้ว น่าจะยังหาไม่ได้ด้วยซ้ำ

"ไม่ต้องห่วงค่ะพี่แทน เดี๋ยวทีมจัดการให้ พี่จะตามไปวันไหน เดี๋ยวอีฟบุ๊คให้" อีฟบอก

"อืม.. พี่เสร็จงานวันที่ 27 งั้นถ้าวันที่ 28 มีไฟล์ทมั้ย" แทนทำท่านึกพลางถาม

"เดี๋ยวอีฟดูให้ค่ะ น่าจะไม่มีปัญหา เดี๋ยวอีฟกับพี่ต่อจะล่วงหน้าไปวันพุธนี้เลยนะ" อีฟบอก

"โอเค ตื่นเต้นอ่ะ เคยไปต่างประเทศแต่กับครอบครัว ไม่เคยไปกับเพื่อนเลย" แทนทำหน้าดีใจ

"กับแฟนด้วยสิ" ผมท้วง

"ค่าาา กับแฟนด้วยค่าาาา" เสียงอีฟพูดขึ้นอย่างหมั่นไส้

หลังจากนั้น อีฟใช้เวลานั่งคุยกับแทนเรื่อยเปื่อย ผมรู้สึกว่าสองคนนี้เข้ากันได้ดีจริงๆ ทั้งๆที่ตอนแรกที่แทนเจอผมกับอีฟที่ร้านกาแฟ ตอนนั้นเธอหึงแทบตาย คงเป็นเพราะแทนเข้ากับคนได้ง่ายอยู่แล้ว พอมาเจออีฟที่พูดเก่งแล้วก็ยิ่งไปกันใหญ่เลย กลายเป็นยิ่งสนิทกันซะงั้น

ปัญหาอยู่ที่ผมนี่แหละ พออีฟสนิทกับแทน ยิ่งกลายเป็นว่าผมรู้สึกผิดที่รู้สึกดีกับอีฟ เอาจริงๆผมก็มีรู้สึกหื่นบ้างตามประสาผู้ชายนะ เวลาเห็นอีฟแต่งตัวเซ็กซี่ ผมบอกได้เลยว่า หุ่นอีฟเนี่ยไม่แพ้แทนเลยนะ ออกจากบึ้บบั้บกว่าซะด้วยซ้ำ แต่เพราะเมื่อไหร่ที่ผมคิด อีฟก็จะรู้ตัวและขัดผมไปซะทุกทีสิน่า

ผมยังคงจำคำพูดของไอ้อ้นได้ดี ที่มันบอกว่า ถ้ามีพลังพิเศษแบบที่ผมถามไป มันจะเปลี่ยนความคิดสาวๆแล้วจะเอาให้หมดทุกคนที่มันชอบ เห้อ ผมก็อยากทำแบบนั้นนะ แต่เอาจริงมันไม่ได้มีแค่เรื่องราคะตัณหานี่สิ มันมีเรื่องของความรักความผูกพันธ์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย มันถึงยากแบบนี้แหละ

อีฟนั่งคุยได้สักพัก ก็ขอตัวกลับไป เธอยังคงเป็นห่วงเดียร์ที่แม้ว่าจะดีขึ้นแล้วหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายๆมา แต่ก็ไม่อยากให้อยู่คนเดียวนานมาก ผมเห็นแล้วก็รู้สึกโชคดีที่มีผู้หญิงดีๆแบบนี้อยู่รอบกายจริงๆ

ช่วงบ่าย หลังทานอาหารเที่ยงด้วยกันกับแทนเสร็จ เธอก็เก็บเสื้อผ้าของเธอ ทิ้งของใช้ส่วนตัวบางส่วนไว้ เผื่อวันไหนมาค้างอีก แล้วผมก็ขับรถไปส่งเธอที่คอนโด โดยนัดหมายว่าจะเจอกันพรุ่งนี้เพื่อไปทานอาหารค่ำด้วยกันอีกครั้ง


###############


"โอ้โหหหห ไม่เคยคิดเลยว่าอีฟจะแต่งตัวแบบนี้แล้วดูดีขนาดนี้" ผมบอกอีฟระหว่างที่นั่งในร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง อีฟนั้นแต่งตัวในชุดเดรสสีขาวสายเดี่ยวเปิดโชว์เนินอกเล็กน้อย รองเท้าส้นสูงเข็ม สวยเซ็กซี่จนเรียกสายตาของผู้ชายจากโต๊ะอื่นๆได้แทบจะทั้งร้าน

"แน่นอน อีฟแต่งยังไงก็สวย" เธอตอบมาด้วยน้ำเสียงภูมิใจ

"พี่หมายถึงว่า ตอนปกติแต่งตัวแล้วดูเฉยๆไง ต้องแต่งแบบนี้ถึงจะสวย" ผมตอบกลับเธอด้วยน้ำเสียงยียวน อันที่จริงแล้ว เธอก็เหมือนกับแทนแหละครับ แต่งตัวอะไรยังไงก็สวย ซึ่งผมไม่อยากจะชมเธอออกไปตรงๆ เพราะยังไงเธอก็คงสัมผัสความคิดผมได้อยู่ดี ผมเลยแกล้งพูดไปด้วยความหมั่นไส้

"เออ ออกปากชมกันบ้างก็ได้นะ ไม่ตายหรอก" อีฟกอดอกบ่นผมเบาๆพลางทำท่างอน

"จ้าๆๆ สวยจ้าาา"


ร้านอาหารนี้เป็นประเภท Fine Dining มีอาหารเสิร์พเป็นคอร์ส ซึ่งอันที่จริงผมก็ไม่รู้เรื่องหรอก ก็เป็นอีฟนี่แหละ ที่สอนผม โดยแนะนำตั้งแต่กิริยาท่าทาง การนั่ง การพูดคุย แม้กระทั่งการใช้ช้อนส้อม ที่ผมก็เพิ่งรู้ว่า จะใช้ช้อนส้อมข้ามขั้นไม่ได้ แต่ต้องใช้ช้อนส้อมจากนอกสุดที่วางเรียงรายกัน และนั่นทำให้ผมได้รู้ว่า ช้อนส้อมที่วางเรียงกันนั้น ถูกวางเรียงให้เหมาะสมกับอาหารที่จะมาเสิร์พในแต่ละรอบอยู่แล้ว

เท่านั้นยังไม่พอ แม้กระทั่งการจิบน้ำ การตักซุป หรือแม้กระทั่งท่าทางการหั่นสเต็ก ก็ยังคงมีรูปแบบชัดเจน เรียกว่าเป็นความรู้ใหม่ที่ผมไม่เคยคิดมาก่อนในชีวิตว่า การทานอาหารมื้อหนึ่งของคนเรา มันจะต้องยุ่งยากขนาดนี้

"ถามจริงๆเถอะ อีฟจำทั้งหมดนี่ได้ไงเนี่ย" ผมถามอีฟในระหว่างที่นั่งรอจานต่อไปมาเสิร์พ

"ไม่เห็นจะยาก ก็ทำบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชิน" อีฟบอก

"สงสารพวกผู้ดีเนอะ จะกินข้าวแต่ละทีลำบ๊ากลำบาก" ผมพูดขำๆ

"มันก็เป็นเรื่องของความต่างทางวัฒนธรรมแหละพี่ ถ้าคนตะวันตกเขามองมาที่ไทยเรา เขาก็อาจจะขำก็ได้ที่เรากินข้าวอะไรแบบง่ายๆ" อีฟบอก เออก็ถูกของเธอ

"ก็จริง.. ว่าแต่อีฟสวยมากเลยนะคืนนี้" อยู่ดีๆผมก็เปลี่ยนเรื่อง ทำไมไม่รู้ แต่เธอดูสวยจนโดดเด่นในชุดนี้จริงๆ

"อยู่ดีๆมาเปลี่ยนเรื่องเฉยเลย" อีฟตอบด้วยนำ้เสียงเฉไฉ แต่ผมรู้สึกว่าเธอกำลังอายหน้าแดง

"อีฟ.." ผมเรียกเธอ

"คะ?"

"ขอบคุณนะ เรื่องแทน เรื่องเดียร์ ที่สำคัญที่สุด ขอบคุณนะที่อยู่ข้างๆพี่เสมอ" อยู่ดีๆผมก็พูดประโยคซึ้งออกไปซะงั้น เรียกว่าเปลี่ยนซีนกันสุดๆ

"ไม่เป็นไร อีฟก็ขอบคุณเหมือนกัน.." อีฟตอบผมกลับมาแล้วเว้นช่วงไว้ท้ายประโยค

"ขอบคุณพี่เรื่องอะไร" ผมถามเธอด้วยความสงสัย

"ขอบคุณที่ทำให้อีฟไม่เหงาค่ะ" อีฟยิ้มกว้างตอบผมกลับมา

ถ้าให้เทียบแล้ว ผมยังคงคิดว่ารอยยิ้มของแทนนั้นสวยและสดใสที่สุด แต่รอยยิ้มของอีฟนั้น ก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กันเลยจริงๆ

หลังจากนั้นเราก็จัดการอาหารที่เหลือต่อตามคอร์สจนหมด แม้ว่าจะมีหลายขั้นตอน หลายสิ่งทีต้องจดจำ แต่ถ้าจำหลักใหญ่ๆได้แต่แรกแล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเท่าไหร่นัก และที่สำคัญ ในวันงานจริงนั้น อีฟก็จะนั่งข้างๆผม ยิ่งทำให้ผมอุ่นใจว่า ผมคงจะไม่ไปเผลอปล่อยไก่ต่อหน้าท่านฑูตแน่ๆ


สวัสดีครับ EP นี้ไม่มีอะไรมาก ค่อนข้างเอื่อยนิดนึงด้วย แต่มีประเด็นที่ต้องให้ชัดเจนเรื่องแพลนเที่ยวของแต่ละคนกับเตรียมพร้อมสำหรับงานเลี้ยง อาจจะน่าเบื่อหน่อยนะครับ สำหรับ EP นี้ไม่มีซ่อนเนื้อหาแต่อย่างใด ถ้าขี้เกียจคอมเม้นท์ สามารถข้ามไปได้เลยครับ



evilbenz

ดูทรงแล้วอีฟไม่น่าจะรอดน้ำมือต่อชัวร์ แลดูมีใจซะขนาดนี้ แต่แอบงงนิดหน่อยที่อีฟให้สตีฟรู้เรื่องว่าตัวเองเป็นสายลับสองหน้า แบบนี้จะไม่เป็นอันตรายเหรอครับ

ว่าแต่อิงหายไปเลยเป้นตายร้ายดียังไงบางเอ่ยย

Fazz

ในที่สุดอีฟก็เริ่มเปิดใจแล้ว สู้ๆนะครับ

pui10000

น้องอีฟเสร็จแน่นตอนไปเที่ยว

Taizen


chiratzz

สนุกครับ เนื้อเรื่องดี ติดตามอยู่นะครับ ขอบคุณเรื่องสนุกๆ

แมวหง่าว

อีฟก็คงจะถึงเวลาในไม่นานนะครับ
แต่เดาว่าเดียร์ก่อน

จักรภพ อุดมสิน

หายไปหลายวัน กลับมาเป็นตอนยาวอ่านจุใจเลย ขอบคุณมากครับ ตอนหน้าไปต่างประเทศแล้วมั้งเนี่ย

633sqd

อีฟเริ่มเคลิ้มแล้วสินะ แถมจะได้ไปฮาเร็มที่เมืองนแกอีก รีบลงมือกล่อมอีฟให้สำเร็จก่อนไปตรวจนะต่อ ::Grimace:: ::Bloody::

boyza55

เริ่มมีสาวๆๆเข้ามาเยอะเลยถ้าขึ้นเตียงพร้อมกันนะสนุกเลย

dwarf

ขอบคุณ​ครับ... FC​น้องอีฟครับ.. เชียร์ให้น้องอีฟเปิดใจให้มากกว่านี้

rahoo99

ขอบคุณครับ ที่แต่งได้ละเอียด สอดแทรกเกร็ดความรู้หลายๆด้าน อย่างมารยาทเนี่ย ช่างไกลจากชีวิตเรา แต่ในหนังเนตฟริกเรามักพบเห็น ดูๆชีวิตเข้าใจธรรมเนียมต่างๆมากขึ้น

Prasard Komkum


thongdaeng_skk

ไปอัมสเตอร์ดัมกันสามสาวกับหนึ่งหนุ่มจะมีเรื่องมันๆไหม

Alligator

น้องอีฟจะโดนสอยที่อันสดัมหรือเปล่าน๊า...