ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

ครั้งหนึ่ง ณ.ร้านคาราโอเกะ Part5 ตอนที่ 49 ( ประสบการณ์ตรงของนายโมโนโทน )

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, มีนาคม 24, 2021, 02:31:34 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

สวัสดีครับ สวัสดี วันนี้มาดึกเลย ขออภัยด้วยครับ พึ่งกลับถึงบ้าน

ยินดีต้อนรับสมาชิกร้านเกะท่านใหม่ๆด้วย

แล้วก็ขอบคุณสำหรับลูกค้าผู้ที่มาเยี่ยมร้านเกะตั้งแต่ตอนที่ 1 จนถึงปัจจุบัน

รู้สึกขอบคุณมากๆเลยคร๊าบบบบบบ ขอบคุณทุกคอมเมนต์จริงๆครับ  ผมอ่านทุกตอมเมนต์นะครับ สั้นยาวผมก็อ่านหมด

และขอบคุณที่คอมเมนต์กันมาเยอะมาก

และขอบคุณทุก EDIT และแสดงความคิดเห็นเพิ่มหลังอ่านจบ  มันเป็นกำลังใจอย่างดี

อย่างที่บอกครับกระทู้นี้ Free STYLE คอมเมนต์อะไรก็ได้ครับ เพื่อจะอ่านเนื้อหาที่ซ่อนไว้

ไม่จำเป็นต้อง EDIT ไม่ต้องกลัวผิดกฎใดๆ แต่ระวังกระทู้อื่นๆ หมวดอื่นๆด้วยนะครับ

เราต้องทำตามกฎของบอร์ดและกระทู้นั้นๆนะครับ เพราะเวลา MOD ลงดาบก็เด็ดขาดมาก


..................


ปล. พี่หมิว !!! อิมเมจก็แบบนี้เลยครับ





จริงๆแล้วพี่หมิวเป็นคนใจดีนะ แต่อย่าให้ได้มองจิกเชียวล่ะ

หัวใจไปหมดแน่ๆ



...............



ท่านสามารถอ่าน ร้านเกะ ย้อนหลัง หรือ ตอนเก่าๆได้ที่กระทู้ห้องสมุด
หรือ Click ที่ภาพเลยครับ






ความเดิมตอนที่แล้ว



หลังจากที่โดนสามสาวรีดน้ำจนแห้ง ผมตื่นมา

เพื่อหวังว่าจะทำข้าวเช้าเอาใจพวกเธอ แต่ก็ต้องพบกับความจริง

ที่ความสุขของวันหยุดได้หมดลงแล้ว พวกเธอต้องไปทำงาน

ตอนเย็นที่พวกเธอจะไปทำงานผมก็กะว่าจะไปร้านเกมส์ครับ

ซึ่งมิ้นต์ก็อนุญาตแล้ว แต่พอไปร้านเกมส์ผมกลับต้องเจอกับคนบางคน

ที่ผมยังไม่พร้อมที่จะเจอจริงๆครับ " พี่หมิว "





. . . . . . . . . .



นายโทนไดอารี่ 49



พี่หมิวเธอเดินมาหาผม เอาจริงๆผมก็ไม่มีอะไรต้องกลัวพี่หมิวนะเพราะพี่เขาไม่ได้ทำอะไรผมเลย แต่พอเดินมาอย่างที่บอกครับว่าผมรู้สึกถึงออร่าอะไรบางอย่าง คือเฮ้ยพูดแล้วไม่ใช่เวอร์นะ ผมว่าหลายๆท่านก็เคยเป็นแบบผมคือ


รับรู้ถึงความน่ากลัวอะไรบางอย่างที่ไม่ต้องพูดออกมา พี่หมิวกอด อก แล้วพูดออกมาว่า กอล์ฟ !!!


[ กอล์ฟ ]  :  ครับโผม พี่หมิวว่าไงครับ

[ พี่หมิว ]  :  โทนกลับมานานยัง


ผมนี่หันควั่บกลับไปหาไอ้กอล์ฟเลย ผมพยายามส่งโทรจิต เทเลพาธีบอกมันว่าอย่านะไอ้กอล์ฟอย่านะ แล้วมันก็ตอบไปว่า กลับมาวันก่อนครับ นั่นไง !!! ไอ้เพื่อนเลวเล่นกูแล้วไหมล่ะ ผมนี่หน้าซีดเลยคือต้องบอกก่อนนะครับว่าพี่หมิวตอนนี้


กับพี่หมิวในตอน เธอ ฉัน และ เขา นั้นมันคนละเรื่องเลย ตอนนี้พี่หมิวเธออีโวลูชั่นไปหลายขั้น อัพสกิลจนเวลเต็ม สเตตัสตันแล้วครับ เพราะงั้นเชื่อผมเถอะว่าตอนนี้เธอน่ากลัวจริงๆ แล้วพอไอ้กอล์ฟพูดแบบนั้นพี่หมิวก็มองผมด้วยสายตาที่เหมือนว่าจะไร้ก้นบึ้ง ซึ่งไม่รู้ว่าจะโดนอะไรบ้าง


[ พี่หมิว ]  :  อื้มดีเนอะ หนีกลับมาก่อน แล้วก็หายไปเป็นอาทิตย์ติดต่อไม่ได้กลับมา ก็ไม่คิดจะติดต่อกลับ ดีเนอะ


นี่ไง นี่ไงครับที่ผมไม่อยากได้ยิน คือมันเป็นคำพูดที่ไม่ต้องมีคำหยาบคาย แต่หัวใจจะวายทุกทีเลยถ้าต้องมาฟังพี่หมิวพูดแบบนี้ พี่หมิวพูดแค่นั้นแล้วไม่พูดอะไร เธอเดินออกไปนอกร้านเลยครับ ผมยืนกุมขมับเลยเครียดบอกเลยเครียด


แตกต่างกับไอ้พวกเด็กๆในร้าน พวกห่านี่รีบเข้ามาหาผมถามว่า หูยพี่โทนใครวะนางฟ้าชัดๆ โคตรสวยเลยพี่ หุ่นดีโคตรๆ พี่แม่งเทพจุติชัดๆ โอ่ยยย กูได้จุติแน่แหละตอนนี้ คือพี่หมิวไม่ต้องพูดอะไรนะ


แต่ผมก็รู้ได้ในทันทีว่าผมต้องเดินตามพี่เขาไป แล้วไอ้กอล์ฟมันก็เดินมาตบไหล่ปั้ปๆถามว่ามีอะไรจะสั่งเสียไหม ผมนี่หันไปมองหน้ามันเลยครับแล้วพูดว่าไอ้ห่ามึงแทนที่จะเนียนๆบอกว่าพึ่งกลับมาให้กูหน่อย รู้มั้ยไอ้กอล์ฟตอบกลับมาว่าไง



[ กอล์ฟ ]  :  บอกความจริงเขาไปแหละดีแล้ว ถ้าเกิดกูโกหกไปแล้วเขาจับได้ มึงอ่ะแหละจะซวย นี่กูช่วยมึงนะเนี่ย



ผมนี่คิดในใจเลยว่ามึงช่วยกูตรงไหนเนี่ย แต่ก่อนที่จะออกไปไหนผมก็เดินไปที่หน้าจอเกมส์ครับ ผมให้เลขบัญชีกับคนที่จะซื้อเงิน M แล้วอย่างที่บอกครับว่าเมื่อก่อนผมไม่ใช้บริการ sms ที่มันแจ้งเตือนเงินเข้า


หรือเมื่อก่อนไม่มีอันนี้ผมก็ไม่แน่ใจ เพราะงั้นเวลาจะเช็คว่าเงินเข้ามั้ย ต้องหน้าตู้ ATM เท่านั้นครับ ผมก็บอกไอ้กอล์ฟว่า เดี๋ยวกูจะไปเช็คที่หน้าตู้ ถ้าเงินเข้ามึงก็เดล [ Deal ] เงินให้เขาได้เลย มันก็อื้มๆโทรมาบอกกูแล้วกัน  พอหันไปพี่หมิวเธอก็มองมาในร้านเลยครับ เสียวสันหลังว่าปๆๆๆๆ



ผมเดินออกมาจากร้านเกมส์คำถามแรกคือ กระเป๋าอยู่ไหน เฮือก !!!  ผมบอกพวกคุณแล้วว่าพี่หมิวตอนนี้ก็เหมือนพี่แมนเวอร์ชั่นผู้หญิง สั่นงั่กเลยครับ ผมก็บอกว่า.... เอ่อ.... เอ่อ....   ลิ้นพันสิ่ครับแบบนี้ แล้วระหว่างนั้นเอง พี่หมิวก็พูดขึ้นมาว่า


[ พี่หมิว ]  :  ถ้ามิ้นต์ไม่โทรบอกพี่ พี่ก็คงไม่รู้ใช่มั้ยว่ากลับมาแล้ว

[ ผม ]  :  ฮ๊ะ !!!


เดี๋ยวๆก่อนนะ ผมถามครับ ผมถามเพราะไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ผมถามว่าอะไรนะครับพี่หมิวใครนะครับ พี่หมิวก็บอกว่า มิ้นต์โทรมาหาพี่บอกว่าพี่โทนอยู่กับมิ้นต์ แล้วตอนนี้คงกำลังไปร้านเกมส์ เยียดเปียดโดนสกัดขาเต็มๆเลย ผู้หญิงอันตรายกว่าที่คิด



ก็ว่าแล๊วววววววว ทำไมใจดีบอกให้ไปร้านเกมส์ได้ This is Trap มันคือกัปดักนี่เอง โน๊วววว ทำไมเจ้าหญิงทำกับพี่แบบนี้ ผมนี้เหวอเลยครับ รบกวน IPF รับผิดชอบด้วย ผมมองพี่หมิวอีกที ส่วนเธอก็ยังทำหน้านิ่งๆจนจะออกแนวเย็นชาเหมือนมิ้นต์ไปแล้วครับ



[ พี่หมิว ]  :  คิดว่าแบบนั้นดีแล้วใช่มั้ย ที่ปล่อยให้ผู้หญิง สองคนอยู่บ้านพักแบบนั้นแค่ลำพัง


โอย สาดคอมโบมาไม่หยุด คำพูดพี่หมิวทำผมเถียงไม่ออกเลยครับ พอผมพูดไปว่า ก็พี่เตยไล่ผมกลับมา จะให้ผมทำไง พี่หมิวมองผมแล้วพูดขึ้นว่าเตยไล่ แล้วก็เลยทิ้งพี่ไว้ที่นครนายกอ่ะเหรอ เท่านั้นแหละครับผมนี่จ๋อยเลย ผมพูดเสียงอ่อยๆว่า มันก็ดีกว่าที่ผมจะอยู่ให้พี่เตยเห็นหน้านี่ครับ



พี่สองคนอยู่ยังไงมันก็มีความสุขแน่ๆอยู่แล้ว ผมส่วนเกิน ผมไม่ควรไปตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ ... แล้วตกลงเราจะคุยกันได้หรือยัง พี่หมิวถามผมอีกครั้ง ผมก็บอกไปนะว่าจะคุยอะไรเหรอครับพี่ ยิ่งพี่เข้ามาหาผมแบบนี่พี่เตยเขาจะไม่พอใจนะ



[ พี่หมิว ]   :  ก็แล้วถ้าพี่ไม่บอกว่ามาหาโทน เตยจะรู้เหรอ


นั่นไงล่ะ นี่แหละครับพี่หมิวตัวจริงเสียงจริง ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไง มองซ้ายมองขวา ถามและแถ ไปเรื่อยๆว่ารถล่ะครับพี่หมิว ซึ่งนี่คือคำตอบ


[ พี่หมิว ]  :  ตลกเหรอ ก็เห็นว่าไม่ได้ขับมา จะถามทำไมเนี่ย


นั่นไง ทำไมเจ๊ใจร้ายจัง เจ๊แม่งพูดตรงไป๊บางทีอ่ะ ผมก็โอยสตั๊นยิ่งกว่าโดนวัลคีรี ปาหอกสตั๊น 5 วิ อีก ฟิ๊วว ฉึก !!!  พอโดนเบรกแบบนี้ไปไม่เป็นเลยครับพี่น้อง



ผมก็เดินๆๆไปนะ ไอ้กอล์ฟโทรมาบอกเฮ้ย !!! ไอ้คนซื้อเงิน  M บอกว่าโอนเงินแล้ว เช็คยอดหน่อย เฮ้อกอล์ฟเอ๊ยมึงโทรมาโคตรถูกเวลาเลยว่ะ



แล้วสมัยก่อนเนี่ย internet มันยังไม่เฟื่องฟู ผมเองก็ใช้ N72 มันต่อ internet ไม่ได้แน่นอน ขนาด SMS ที่แจ้งยอดเงินเข้า ผมก็ยังไม่รู้จัก ต่างกับสมัยนี้มากๆเลย เงินเข้าปุ๊ปข้อความเด้งปั๊ป !!! ผมเลยได้โอกาสหายใจหายคอเลยครับตอนนี้



ผมรีบบอกพี่หมิวเลยว่า ผมขอเช็คยอดเงินก่อนนะครับพี่หมิว ผมมองๆ ตรงนั้นมีตู้ธนาคารสีเขียวพอดี ผมเดินเข้าไปเสียบบัตร เช็คยอดเงิน อื้มม ยอดเข้ามาแล้ว


ผมเลยโทรไปบอกไอ้กอล์ฟว่า เอ้อ ยอดเงินเข้าแล้ว เดล ( Deal ) เงิน M ได้เลย มันบอกเอ้อ !!! แล้วผมก็วางสายไป นี่แหละครับ ความวุ่นวายในการขายเงิน M สมัยก่อน ต้องเช็คหลายขั้นตอนเลย จริงๆแล้วมันมีระบบทรูมันนี่นะ



แต่ในความคิดผมตอนนั้น มันดูวุ่นวายหลายขั้นตอนมากเลยครับ เลยตัดใจเลยดีกว่ารับแค่เงินสดพอ เอ้อ ขอนอกเรื่องนิดนึง จริงๆแล้วคำว่า " เทพทรู "  มันเริ่มจากยุคนี้แหละครับ สมัยก่อน เกมส์แรน จับมือกับทรูทำ แพทฟอร์มเติมเงิน อีกช่องทาง



โดยใช้ชื่อว่า " Gamelnw " หรืออะไรสักอย่างนี่แหละ ก็ถ้าเติมเงินผ่านแพลทฟอร์มนี้ก็จะได้ของแถมนู่นนี่นั่นเยอะกว่าปกติ คนก็เลยแห่กันไปเติมเกมส์จากแพลทฟอร์มนั้น


พอเติมมาก็เอาไปซื้อของใช้ จนเกิดคำพูดที่มึงเก่งได้เพราะเติมเงิน มึงเก่งเพราะเติมทรู ไปๆมาๆก็กลายเป็นคำว่า เทพทรูไปโดยปริยาย พอบางคนห้าวไปไล่กดคนเก่งๆ พอตัวเองแพ้มา ก็จะอ้างว่าแม่งเติมเยอะ แม่งเทพทรู



คือจะบอกสื่อว่า แพ้เพราะเติมเงินน้อยกว่าเลยแพ้ ซึ่งมันเป็นอะไรที่ตลกร้ายมากเลยนะเว้ย มีเงินเติม มีเงินเล่นแต่โดนเหน็บ ไอ้เทพทรู ไอ้เทพทรู ถามว่าผมเคยโดนด่ามั้ย เคยครับ


เพราะผมก็ต้องเติมเงินเพื่อซื้อพวกสร้อยเอาไว้เก็บเลเวลอยู่ แต่พอผมโดนด่าว่าเทพทรู เทพทรู ผมก็จะบอกว่า หึ กรูไม่ได้เติมทรู กูเติม เอ แคช



อ่ะกลับมาต่อครับออกทะเลไปเยอะ พอผมเช็คยอดเงิน โทรบอกไอ้กอล์ฟเรียบร้อยความเงียบก็เข้าปกคลุมอีกครั้ง ราวหิมะแห่งแดนเหมันต์ เฮ้ยๆๆ พอๆนี่ร้านเกะไม่ใช่เทพวายุ ไม่ต้องสำนวนมาก


อ่ะแฮ่มอีกทีครับอีกที ตอนนี้พี่หมิวยืนมองผมด้วยสายตาเย็นเจี๊ยบจนหำผมแทบหด พี่เขาถามว่าจะให้พี่เดินอีกนานป่ะ ไม่ได้คุยกันสักที หนีไปเป็นอาทิตย์ ก็ไม่โทรหา ไม่โทรบอกสักคำ



โอยช่วยด้วยสมอง เออเร่อ ครับ ทำไงดีวะ ทำไงดี เอ้อ นี่มันเย็นแล้วนี่หว่า เอาล่ะ ผมก็ เอ่อะ เอ้ออ พี่หมิวครับ กินข้าวเย็นยะ~


[ พี่หมิว ]  :  ยัง และหิวมากด้วย


โอยย ผมแค่จะถามว่ากินข้าวยัง พี่แกก็พูดสวนมากเลย อ่ะฮืออ ยังพูดไม่จบแท้ๆ ผมถามว่างั้นไปกินข้าวไหนดีครับ ผมเลี้ยงเอง พี่หมิวก็บอกว่าจะเลี้ยงก็พาไปสิ่



ผมก็เหวอเลยแล้วพี่หมิวอยากกินอะไรล่ะผมคิดในใจ แต่พี่หมิวก็พูดมาครับ ถ้าไม่เลือกร้านพี่จะไปกินที่หอเตยนะ ผมรีบพูดเลยไม่ๆๆๆๆๆ ไม่ครับไม่ๆๆๆ ไปร้านปลาบุรีกันมั้ยครับพี่หมิว ร้านนี้ดีมากเลยนะอร่อยใช้ได้เลย ( แต่แอบแพงว่ะ )


พี่หมิวเธอกอด.อกแล้วมองผมด้วยสายตาที่ไม่กล้าแม้แต่จะเถียง พี่หมิวพูดว่าร้านที่จะพาไปนี่เคยพาใครไปยัง ฮู๊ยยย  เซ๊นส์แรงเกินไป ปัญหาตอนนี้ผมว่าทุกท่านเคยเจอมาแน่ๆ เราจะแหลว่าไม่เคยพาใครไปเพื่อความปลอดภัย


หรือตอบไปว่าเคยไปเพื่อความสบายใจแต่ก็อันตรายถึงชีวิต แต่เดี๋ยวก่อนซิ๊ เมื่อกี้พี่หมิวบอกว่ามิ้นต์โทรบอกว่าผมกลับมาแล้วใช่มั้ย งั้นแสดงว่าหลังจากนี้เธอสองคนอาจจะคุยกันอีกแล้วถ้าวันนี้ผมโกหกว่าไม่เคยไป แล้วถ้าวันหน้าพี่หมิวจับได้ว่าโกหก.... นี่มันหายนะระดับภัยพิบัติชัด



ก็เป็นอยากที่พวกท่านคิดนั่นแหละครับผมตอบพี่หมิวไปว่า อือ เคยพาสามสาวไปแล้ว งั้นเดี๋ยวผมพาพี่หมิวไปร้านอื่นเนอะ โอ้โหชิบหายแล้วพอพูดแบบนี้ออกไป สิ่งแรกที่คิดในใจคือกูจะพาไปร้านไหน ท่านผู้อ่านเอ๋ย 7-8-9 ปีที่แล้ว ยังไม่มีนักรีวิว ยังไม่มี Youtuber สายเที่ยว


ยังไม่มีเวปแนะนำร้านอาหาร ผมแม่งเหมือนคนที่ลอยคว้างกลางทะเล ปีแรกของการเริ่มทำงานนับได้เลยว่าผมไปที่ไหนบ้าง ในพระราม 3 ก็จะวนอยู่แค่ จตุจักรพระราม3 เอเชียทรี๊ค  เซ็นทรัลพระราม 3 ถนนจันทน์ มีดีหน่อยก็ร้านนั่งดื่มตรงถนนนราธิวาส


เชื่อมั้ยว่าเวลาแค่ 5 วินาทีที่ผมนิ่งไป ผมรีดเร้นมันสมอง ออกมาใช้มากกว่าระยะเวลาการทำงาน 1 ปี แล้วมนุษย์เราแม่งมีพลังพิเศษแบบนี้ทุกคนจริงๆ ไม่เชื่อก็นึกถึงแฟนของคุณถามสิ่ว่า


" ตัวเอง จำได้ไหมวันนี้วันอะไร "


ถ้าคุณเคยมีประสบการณ์แบบนั้น คุณจะเข้าใจผมในตอนนี้ เฮ้ย !!! ผมมีร้านที่ไปกับพวกเหมียวนี่หว่า ผมก็หันไปหาพี่หมิวเลยว่า งั้นไปร้านตรงราชเทวีมั้ยครับ มีร้านดีๆอยู่ แต่พี่หมิวก็พูดว่าไปร้านปลาบุรีนั่นแหละ อยู่แถวนี้ไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องไปไกลถึงราชเทวีหรอก


ผมก็นิ่งเลยตอนนั้นเพราะไม่รู้ว่าพี่หมิวคิดอะไรอยู่ พี่หมิวก็บอกผมนะว่าจะพาใครไปก่อนไปหลังไม่สำคัญ มันอยู่ที่ความรู้สึก ความเต็มใจว่าอยากพาไปหรือเปล่า ผมรีบตอบเลยว่าน้องชายเต็มใจมากมายเลยคร๊าบพี่หมิว พี่หมิวเธอก็พูดนะว่า อย่าลนจนเสียอาการได้ไหมโทน


สัมมนาก็ผ่านมาแล้ว งานใหญ่ๆที่เจอกับระดับผู้บริหารมาผ่านมาแล้ว ทำไมต้องลนแบบนี้ล่ะ ผมก็พูดไปโดยไม่คิดอะไรนะว่า ก็เพราะเป็นพี่ไงผมเลยประหม่า พี่หมิวยักคิ้วเหมือนจะพูดว่า โอเวอร์จริงเชียว เอ่อมันเป็นวลีฮิตในตอนนั้นครับ


[ พี่หมิว ]  :  พี่หมิวข้าวแล้วไปได้ยัง


ผมตอบครับๆๆ แล้วก็รีบโบก Taxi เลย ผมบอกคนขับว่าไปร้านปลาบุรี เอ้าคนขับไม่รู้จักผมก็เลยบอกว่าเดี๋ยวไปทางท่าน้ำสาธุฯ แล้วจะบอกทางเองครับ จากนั้นเราสองคนก็ขึ้นรถไปครับ พี่หมิวมองๆตามทางแล้วบอกทำไมมันดูเปลี่ยวๆจัง พาสามคนนั้นมากินข้าวที่แบบนี้อ่ะเหรอ



ผมก็ต้องอธิบายว่า แต่ข้างในสวยมากเลยนะครับพี่หมิว พี่หมิวหันมาแล้วบอกผมว่า อย่าเอาความคิดตัวเองไปตัดสินความชอบของคนอื่น ข้างในมันอาจจะสวยแต่ระหว่างทางล่ะ พี่หมิวก็บอกผมนะว่าปลายทางมันสวยก็จริง แต่ระหว่างทางมันก็ต้องช่วยส่งเสริมกำลังใจที่จะเดินต่อไปด้วย



ผมก็งง ฮึ๊ !!! พูดอะไรของพี่หมิว พี่หมิวหันมามองผม ซึ่งตอนนั้นบนรถ Taxi มันก็ไม่ได้สว่างมากนะ แต่พี่หมิวเธอหยิกมั่บเข้าที่แก้มผมโคตรแม่น แล้วพูดมาว่าอย่าทำมาเป็นไม่เข้าใจ สอนกันมาตั้งกี่ครั้งแล้วเนี่ย ผมก็อ๊อยย ก็ไม่เข้าใจจริงๆนี่ครับ พี่หมิวเธอก็บอกว่า



มองดูรอบๆสิ่ เป็นแค่ทางถนนโล่งๆ ไม่มีอะไรเป็นจุดเด่นเลย  อ่ะผมลองเอาภาพจาก GooGle Map มาให้ดูนะ ถ้าวิ่งมาจากเส้นสาธุประดิษฐ์แล้วเลี้ยวซ้าย ต้องไปอ้อมนู่นนน อย่างไกลอ่ะ ถ้าเอายุคปัจจุบันก็จะเห็นคอนโด U สูงเด่นเป็นสง่าแหละครับ





แต่ ณ ตอนนั้น พ.ศ. นั้นมันไม่มีครับ มันเป็นพื้นที่โล่งๆ จตุจักรพระราม 3  ต่อมาก็เป็นวัดปาริวาส ต่อมาเป็นพื้นที่ว่าง มืดๆไม่มีไฟ แล้วจึงมาเป็นปากทางเข้าร้าน ปลาบุรี เป็นซอยเล็กๆเข้าไป ถ้าจะไม่ผิดเมื่อก่อนตรงนี้เป็นขนส่งครับ เพราะรู้สึกว่าจะมีรถ 6 ล้ออยู่ หรือ โกดังนี่แหละไม่ชัวร์



ตามภาพข้างบนครับ จาก Google map จะเห็นว่ามีคอนโดหรูมาสร้างแล้ว แต่เมื่อก่อนไม่มีครับ มืดๆแล้วคิดสภาพดิ่ โกดังอยู่ข้างๆ แล้วนู่นนน เห็นลูกศรแดงๆมั้ย นั่นแหละเลยไปอีกหน่อยจะเป็นร้านปลาบุรี อ่ะมีอีกภาพมุมสูงให้ดู





อันนี้จากช่องยูทูปของคุณบูมนะครับ เส้นสีแดงๆนั้นคือเส้นทางจากปากซอยเข้าไปในร้าน แล้วคิดสภาพสิ่ครับเมื่อก่อนพื้นที่ที่ถูกทุบเป็นโกดังเก็บของ คอนโดหรูที่ขีดสีฟ้าๆก็ยังไม่ถูกสร้างยังเป็นป่ามืดๆ ความมืดขนาบทั้ง 2 ข้าง ถ้าไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ผมบอกเลยน้อยคนมากที่จะกล้าเข้าไป



พี่หมิวบอกให้ Taxi จอดอยู่แค่หน้าปากซอยแล้วพูดว่าเจ๊ไม่กินร้านนี้นะ ผมก็อึกๆอักๆเลยครับ พี่หมิวบอกว่าต่อให้อาหารอร่อยก็จริงๆ แต่ทางเข้าและทำเล มันไม่เวิร์คในสายตาเจ๊นะ ผมก็เถียงไม่ออกแหละครับ ก็มันดูเปลี่ยนจริงๆ ตอนที่ผมพาแก้ม มิ้นต์ มานั้น มันยังอยู่ในช่วงหัวค่ำ



ผมก็เลยไม่รู้สึกอะไร แต่นี่อ่ะสิ่พอมันมืดแบบนี้แล้วมันก็น่าคิดจริงๆแหละครับว่าทางมันเปลี่ยวจังเลย แล้วก็แน่นอนแหละครับ ผมเปลี่ยนที่กินเลยล่ะครับ แล้วสมัยนั้นแน่นอนว่ามันก็มีไม่กี่ทีหรอกที่จะนั่งกินอาหารพร้อมกับได้บรรยากาศดีๆ ด้วย แน่นอนว่าผมจะไปสยาม


แต่พี่หมิวก็บอกว่า ไปแค่เอเชียที๊คก็ได้ไปทำไมไกลๆเจ๊หิวนะ ผมก็เอ่ออื้มครับไปก็ไป แล้วเราก็เปลี่ยนเส้นทางไปเอเชียทรี๊คกันครับ ยิ่งตรงไปทางเส้นถนนตกแล้วก็เลี้ยวขวาเข้าเจริญกรุงเลย ตอนนั้นรู้สึกว่าเอเชียที๊คจะเพิ่งสร้างนะครับ ทุกอย่างดูใหม่ ดูไฮโซมาก



ผมกับพี่หมิวลงและพากันเดินดูร้านอาหาร อืมม... นิกุยะดีมั้ย แต่พี่หมิวคงไม่กินปิ้งย่างตอนนี้หรอกมั้ง เราเดินด้วยกันมองซ้ายมองขวา จนสุดท้ายก็ไปจบที่ร้านริมแม่น้ำครับ บรรยากาศดีมากลมพัดโกรกตลอดเลย และแน่นอนว่าพี่หมิวก็สวยมากมาย



ร้านนี้เป็นร้านอาหารฝรั่ง พี่หมิวเขาก็ชอบกินนะ สปาร์เกตตี้คาโบนาร่า สเต๊ก T Bone อย่าแปลกใจครับว่าพี่หมิวกินเยอะจัง เขากินไม่หมดหรอก แล้วพอกินไม่หมดก็จะโทนกินให้เจ๊หน่อยน๊า เจ๊เสียดาย ตอนนั้นผมยังระบบเผาผลาญดีอยู่ครับ ต้องบังคับตัวเองให้นอนเร็ว


ระบบเผาผลาญจึงไม่เพี้ยน สั่งมา 4-5 อย่างจะหมดไหมเนี่ย พี่หมิวเธอดูเอ็นจอยกับมื้ออาหารมากเลยนะครับ ตอนนี่พี่เขาไม่คุยเรื่องพี่เตยเลย แต่ชวนคุยเรื่องนู่นนี่นั่น ผมก็ฟังแล้วก็ตอบไปเรื่อย และไม่ยืมที่จะยิงมุขเพื่อสร้างบรรยากาศ ระหว่างมืออาหารผมกับพี่หมิว


มือจับแค่มีด ช้อน และ ส้อม เราไม่ได้จับมือถือกันเลย เรียกว่าใช้เวลากันเต็มที่  ผมเห็นมีผู้ชายหลายคนมองพี่หมิวตาเป็นมันเลยล่ะครับ งี้แหละคนเขาสวย อ่ะเน๊อะ


หลังจากที่กินข้าวเสร็จเรียบร้อยผมก็มานั่งที่ริมน้ำ บรรยากาศสมัยก่อนสงบมากครับ จริงอยู่ว่าคนแถวนี้ก็แห่กันมาเที่ยว เพราะว่าเอเชียที๊คพึ่งเปิดได้ไม่นาน แต่ก็ไม่ได้เยอะเหมือนสมัยนี้ ที่มองไปทางไหนก็เจอแต่คนจีน



ผมนั่งรับลมจากแม่น้ำเจ้าพระยามันเย็นดีจริงๆนะครับ มองเรือแล่นไป แล่นมา มันก็ทำให้คิดอะไรหลายๆอย่างเลย แต่สิ่งที่หนักใจคือจะคุยอะไรกับพี่หมิวดีล่ะ


[ พี่หมิว ]  :  ผมยาวแล้วนะ เมื่อไรจะตัด


พี่หมิวเปิดมาก่อนเลยครับ เรื่องประเด็นเกี่ยวกับทรงผม แล้วด้วยความเคยชินครับพอพี่หมิวทักผมก็เอื้อมมือมาแตะๆ ขยำๆเส้นผมตัวเอง แต่จะว่าไปแล้วมันก็เริ่มยาวจริงๆแล้วครับ ผมเป็นคนที่ผมยาวเร็ว  หนวดยาวเร็ว จนบางครั้งก็ขี้เกียจจะโกนจริงๆครับ ฮอร์โมนมันแรงงง



ผมก็บอกอื้อเดี๋ยวไปตัดแล้ว ผมตอบไปแบบนั้นแล้วก็เงียบ เสียงผมพัดโกรกคือเสื้อ โกรกหู พรุ่บ ๆ  ๆ ไม่หยุด จนพี่หมิวถามขึ้นมาว่า จะไปคุยกับเตยยังไงล่ะ ผมก็สะดุ้งเลยนะ ผมไม่รู้จะคุยอะไรจริงๆครับตอนนั้น


[ ผม ]  :  โดนไล่มาแบบนั้น ผมก็รู้สึกแย่นิดๆนะพี่หมิว ถึงผมจะผิดก็เถอะ


[ พี่หมิว ]  :  แล้วจะปล่อยให้เป็นแบบนี้เหรอไง หืม


[ ผม ]  :  ตอนนี้ก็อาจจะต้องปล่อยไปแบบนี้ก่อนอ่ะครับ แต่พี่หมิวเถอะไม่ได้มีปัญหาอะไรกับพี่เตยใช่มั้ยครับ


[ พี่หมิว ]  :  อื้ม ก็วันนั้นพี่บอกกับเตยต่อหน้านี่ ว่าพี่เลือกเตยไม่ได้เลือกแกน่ะ อีโทน


ผมยิ้มๆแล้วพูดอื้อ แบบนั้นแหละดีแล้ว แค่พี่ไม่โดนลูกหลงไปด้วยผมก็พอใจแล้ว บอกตรงๆนะเว้ยท่านผู้อ่าน ผมไม่ได้อยากจะหล่อ อยากจะดูเท่ส์เลยที่พูดไปแบบนั้น คือเอาจริงๆมันก็โล่งใจแหละที่พี่หมิวไม่โดนพี่เตยโกรธ


แต่อีกประเด็นที่บอกโล่งใจ เพราะผมไม่ต้องเหนื่อย 2 เท่าไงครับ ถ้าพี่หมิวโดนพี่เคยโกรธ ผมต้องเหนื่อยพูดเคลียร์ให้พี่เตยยกโทษให้พี่หมิว ซึ่งบอกตรงๆอันนี้มันยากกว่าที่จะพูดให้เขาเข้าใจผมอีกนะ ผมถึงบอกไงว่า



การที่พี่เตยไม่โกรธพี่หมิวนั้นโคตรจะดีเลยบอกตรงๆ แล้วพี่หมิวถามว่าตกลงไปไหนมายังไม่ได้บอกเลย แล้วทำไมไม่เปิดเครื่องเลยล่ะ นั่นไงคำถามมาแล้ว แต่เดี๋ยวก่อนสิ่ นี่พี่หมิวเธอไม่รู้จริงๆเหรอว่าผมไปเชียงใหม่มา พี่แมนไม่ได้บอกเหรอ  โอ๊ยยยยย !!!



พอผมเงียบได้แปปเดียว พี่หมิวก็หยิกหูแล้วพูดว่าไม่ได้ยินพี่เจ๊บอกเหรอ ไปไหนมาบอกมาเลยอีโทน ( สมัยนั้นเจ๊หมิวยังเรียกผม อีโทนนะ )  ผมก็ร้องโอ๊ยๆๆๆ ไปทำงานที่เชียงใหม่มาครับ


[ พี่หมิว ]  :  แล้วทำไมปิดเครื่อง ทำไม ไหนตอบ


[ ผม ]  :  โอ๊ย !!! เจ็บพี่หมิวเจ็บ โทรศัพท์มันแบตหมดนี่ครับ โอ๊ยย

[ พี่หมิว ]  :   เชียงใหม่ไม่มีปลั๊กไฟเหรอไง


โอ้ยย พี่แก ไล่ ไล่ ไล่ จนผมทำอะไรไม่ถูกแล้ว ผมต้องรีบแถว่า พี่หมิวคนมองแล้ว พอแล้วครับพี่หมิวอายคนเขา พี่หมิวถามว่าจะอายใคร อายทำไมคนเยอะแยะ เดี๋ยวๆๆ พี่หมิว ไอ้คนเยอะแยะนี่แหละที่ต้องอาย


พี่หมิวเขานั่งแล้วดึงหูผมเหมือนหยอกล้อกันตามปกติ สมัยก่อนนี่คนก็ถ่ายรูปกันแล้วนะ แต่สิ่งที่ไม่เหมือนสมัยนี้คือ เขาใช้กล้องถ่ายรูปครับ คือมือถือก็เริ่มมีรุ่นดีๆกล้องสวยๆมาแล้วนะ แต่ว่าพวกกล้องสวยๆราคาก็แรงเอาเรื่องครับ


กล้องถ่ายรูปจึงเป็นอะไรที่คนในยุคสมัยนั้นเข้าถึงได้ง่ายกว่า แถมยังมีกล้องฟรุ๊งฟริ๊งอีกด้วย ช่วงนั้นไอโฟน 3 กับ 4 กำลังมาแรงเลยครับ แต่อย่างว่าราคามันสูงพอดู อีกอย่างอาจจะเพราะคนในยุคนั้นผูกพันกับโทรศัพท์แบบมีปุ่มกดมั้งนะ ก็เลยยังไม่ค่อยนิยม I Phone กันมากนัก


อ่ะกลับมาต่อครับ พี่หมิวก็ถามย้ำว่า ยังไงตอบมา เชียงใหม่ไม่มีปลั๊กไฟหรือไง ทำไมชาร์จแล้วโทรมาไม่ได้ ผมก็บอกไปแหละครับว่าไม่ได้เอาที่ชาร์จไปครับ ลืมเอากลับมาจากรีสอร์ต


[ พี่หมิว ]  :  ทำไมไม่ซื้อล่ะ หรือเชียงใหม่ไม่มีร้านขายโทรศัพท์อีก


[ ผม ]  :  มันแพงนี่ครับ เกือบ 200 เลยล่ะ


เอ่อถ้าใครตกอยู่ในช่วงเวลาแบบผมคือต้องเก็บเงิน ท่านจะเข้าใจเลยว่า จ่ายเงิน 100 , 200 ก็คิดแล้วคิดอีก แต่ที่สำคัญเลยคือตอนนั้นผมกลัวไงว่าถ้าเปิดมือถือมาแล้ว ถ้าพี่หมิว หรือ พี่เตย โทรมา ผมจะทำอะไรไม่ถูกจนพาลทำให้งานสะดุด


พอพูดเรื่องเงินแล้ว พี่หมิวก็หยุดถามผมเลยนะ เหมือนพี่เขาจะรู้ว่าผมก็มีเรื่องหนักใจเรื่องเงินอยู่ แต่ที่ไหนได้ ผมแม่งคิดโคตรผิดเลย จริงอยู่ที่พี่หมิวเธอไม่ถามเรื่องโทรศัพท์อีก แต่สิ่งที่เธอพูดมานี่แหละทำให้ผมหายใจไม่ทั่วท้องเลย พี่หมิวเธอถามผมว่า




" ไม่รักเจ๊แล้วเหรอ "







 








เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน



tossapoln


subanrl2



1819

 อะๆ เลิกงาน มา ลองเสี่ยงเปิดดู เกะพระราท3เปิดแล้ว ดีใจจัง  หมิวเวอร์ชั่น เกะนี่ี่ี่จะดุดันไปไหน เนาะ   เทพโทนลนไปหมดเลย แต่ สะใจมาก เจ้าหญิงน้ำแข็งก็ยังเป็นเจ้าหญิงอยู่ เข้าใจเทพโทน แม้ไม่แสดงออกก็ตาม  อยากให้2 เจ๊กับเทพโทนรีบๆเครียส์จัง โทนจะได้เอาเวลาไปใส่ใจกับ3 สาว มากขึ้น เพราะเวลาอยุ่กับ3สาว เทพโทนดูมีความสุขจริงๆนะ แต่พ อ 3สาวไปทำงานก็นั้นแหละต้องรับให้ได้  ส่วนเจ้เตยกับเจ้หมิวเทพโทน มันก็ผิดกันทั้ง3คน ยอมรับความผิดกันปรับใจกัน ลืมเรื่องที่บาดหมาง แล้วมาห่วงใยกันแบบพี่น้องท้องไม่ชนน่าดีประเสริญสุดแล้ว  มันถึงได้ ผูกพันคบกันได้ยาวๆ

edit  อะไรนี่ เจ้เตย เข้าใจนะว่า โกรธ แต่ มาเหยียบย่ำ เสื้อ ผ้า และ ดูถูกเยียด ยาม 3สาวคนที่เขางานทำอาชีพสุจริต หาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว ถึงจะเป็นอาชีพสังคมตราหน้าไม่ดีก็เหอะ 3สาวผิดอะไร ที่ไม่ได้เกิดมามีเงินทองแบบนี้   เจ้ๆถ้าเขาเลือกเกิดเป็นลูกรวยได้ ก็คงไปเกิดแล้ว   ตัวเองก็ใช่ย่อย เจ้าชู้หลายใจ แถมยั่วโทนสาระพัด  ขณะที่มีหมิวอยู่แล้วด้วยเพียงแต่ตัวเองยังไม่ ได้     ไม่ชอบเจ้เตยอย่างแรง  จากที่หลายๆต้อนก็ชอบอยู่บ้าง  แต่ ในต้อนนี้ แย่มากเลย คำด่าคำดูถูกควรลงที่โทน แต่กับ3สาวเกี่ยวอะไร  ไปหาว่าจะติดเชื้อ.... เลว   เอาตีนไปเยียบเสื้ออีก ตัวเองเป็นเจ้าของหอ ก็ไม่สิทธ์มาเข้าห้องผู้เช่าโดยพลการแบบนี้ แล้วไปทำรื้อข้าวของเขาแบบนี้ 
  ไม่ชอบเจ้เตยในepนี้
กรุงเทพเป็นเมืองที่มีคนเหงา มากกว่าเสาไฟฟ้า

warpzone

และแล้วก็ถึงวันที่ต้องสู้กับความจริง และต้องผ่านไปให้ได้ นี้แหละชีวิต ความลับไม่มีในโลก


Thunyawit sriradon


skynaza

เจอแต่ท่าไม้ตายของสาวหมิว ไม่รักเจ้แล้วเหรอ ไอ้โทนไปไม่เป็นเลย

pliwds

 ::Crying:: ซึ้ง .... มิ๊นต์เป็นห่วงมาก เลยต้องเรียกหมิวมาดูแล
IPF เข้าใจเจ้าหญิงน้ำแข็งมากๆ น้ำตาท่วมจอกันไป






John Snoww