ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

หนังจบ แต่ความคิดไม่จบ

เริ่มโดย (จิ๋ว), มีนาคม 25, 2021, 11:55:43 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

(จิ๋ว)




หนังจบ แต่ความคิดไม่จบ By (จิ๋ว)

มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับจักรวาลของมาร์เวล

หลังจากได้ดูหนังจนเกือบครบชุด (ก็ยังขาดบางเรื่อง
ที่ยังไม่ได้ตามอยู่นะ ยังขาดอยู่สองสามเรื่อง)
ก็ทำให้เกิดการเรียนรู้ และความเข้าใจบางอย่างเกี่ยวกับ
จักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลที่เหล่านักวิทยาศาสตร์ได้
กล่าวกันไว้ จิ๋วสงสัยเสมอ ... ว่าพวกเขารู้ได้ยังไง 
คำตอบส่วนใหญ๋ มักจะบอกว่า มันมีในหนังสือ มันมีในตำรา
แล้ว ตำรามาจากไหน ... มาจากคนเขียน แล้วคนนั้นรู้ได้ยังไง?
บ้างก็ว่ามาจากงานวิจัย งานทดลอง แต่เรื่องนอกโลก ในอวกาศนี่
มันก็เป็นคำถาม วน ๆ ไป พอ ๆ กับ การตามหาว่า ไก่ กับ ไข่
อะไรเกิดก่อนกัน ไม่ใช่ในแง่มุมชีววิทยานะ แต่เป็นในแง่มุมที่ว่า
"แล้วรู้ได้ยังไงว่าคำตอบนั้นถูกต้อง"

แต่สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นในใจหลังจากดูหนังจบ ผู้ประพันธ์ ผู้กำกับ
เขาทำให้คนคล้อยตามได้อย่างไร ความสมจริง ความมีเหตุผล
และเมื่อจินตนาการตามแล้ว มันสัมผัสได้ว่าใช่ มันทำให้คน
เข้าใจ เห็นด้วย คิดตาม และคล้อยตาม

จิ๋วอยากพูดถึงทฤษฎีบางอย่างที่นำมาใช้ในชุดจักรวาลของมาร์เวล
มันค่อนข้างแปลกใหม่ และมีเรื่องราวที่น่าสนใจ ไม่เคยรู้มาก่อน
คิดตามแล้ว มันก็ได้อรรถรสในการคิดที่ดี ก็เลยเอามาเล่าให้ฟัง
โดยจิ๋วแยกประเด็นเป็นข้อๆ เพื่อให้เข้าใจง่ายเฉยๆ ไม่ได้มีลำดับ
อะไรที่แน่นอน ซึ่งประเด็นที่ต้องการพูดถึง มีดังนี้

1. โครงสร้างพื้นฐานของทุกสรรพสิ่งในจักรวาล ประกอบด้วย
ระบบพื้นฐาน 6 ประการคือ ระบบสถานที่ ระบบจิตใจ ระบบภาวะ
เป็นจริง ระบบพลัง ระบบเวลา ระบบวิญญาณ โดยเขามองมัน
เป็นรูปแบบของพลัง และสามารถหลอมรวมพลังให้กลายเป็นวัตถุที่
จับต้องได้ กลายเป็นอัญมณีทั้ง 6 ใน Infinity Stone ซึ่งได้แก่
Space Stone, Mind Stone, Reality Stone, Power Stone,
Time Stone และ Soul Stone

2. มีคนตั้งคำถามกับผู้กำกับทั้งสองว่า ในช่วงเวลา 5 ปี หลังจาก
อัญมณีทั้ง 6 ถูกทำลาย โดยทานอสไปแล้ว แล้วจักรวาลคงอยู่ต่อมา
ได้อย่างไร (ตอนนั้นวัตถุประสงค์ที่ต้องทำลาย หินทั้งหกทิ้ง
ตามความคิดของทานอสคือ เขาทำไปเพื่อไม่ให้มีใครมาลบล้าง"คำขอ"
ที่ตนสร้างขึ้นมาตอน ดีดนิ้ว) ซึ่งคำตอบของผู้กำกับคือ สิ่งที่ทานอสทำลาย
คือกายภาพของอัญมณี คือมันย่อยสลาย ไปในระดับอะตอม แต่ไม่ได้
ทำลายพลังของอัญมณี แปลได้ประมาณนี้ ประมาณว่าพลังมันยังคงอยู่
เพียงแต่ไม่มี รูปลักษณ์ภายนอกให้จับต้องได้ ไม่สามารถนำมารวบรวม
แล้วควบคุมทั้งหกระบบแบบเบ็ดเสร็จในผู้เดียวได้ อีกต่อไป
(Ref:  https://youtu.be/2jZmcaHL2cc )

3. ระบบพื้นฐานทั้ง 6 ทำให้จิ๋วนึกไปถึงคำสอนของพระพุทธองค์
ที่คุ้นเคย ทุกสิ่งล้วน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป วนเวียนอยู่เช่นนี้นิจนิรันดร์

  •    ทุกสิ่งเกิดขึ้นได้ ด้วยพลังของมณีภาวะเป็นจริง
  •    ทุกสิ่งตั้งอยู่ ด้วยพลังของสถานที่ เวลา พลังงาน และจิตใจ
  •    และทุกสิ่งดับไป ด้วยพลังของวิญญาณ
ระบบทั้ง6ระบบ พลังทั้ง6รูปแบบ ทำงานสอดประสานกันอย่างมีระบบ
โดยมีหน้าที่ มีขีดจำกัดของแต่ละพลัง ตามความสามารถของพลังนั้นๆ

4. การที่มนุษย์มีชีวิตอยู่บนดาวโลกของเราก็เป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล
ส่วนเล็กๆ ที่เป็นไปตามพลังของระบบพื้นฐานทั้ง6ระบบ

  • ไม่มีใครรู้ว่า คนเริ่มต้นคิดเรื่องเวลาคนแรกคือใคร
    ไม่มีใครควบคุมมันได้ หยุดไม่ได้ ยื้อไม่ได้ เร่งไม่ได้
    จับต้องก็ไม่ได้ เรารู้จักอดีต เพราะเราเพิ่งผ่านมันมา
    เราอยู่กับปัจจุบันแต่ไม่มีใครรู้อนาคต จะมีแค่บางคนที่
    คาดเดาได้ แต่มันก็ไม่ได้แม่นยำเสมอไป ทุกคนมี
    ช่วงเวลาของตัวเอง แต่สั้น-ยาว-ช้า-นานไม่เท่าก้น
    และเวลามันมีอยู่แล้วตามธรรมชาติ
  • ไม่มีใครรู้ว่า สถานที่บนโลก หรือนอกโลก
    มีมากมายแค่ไหน บนโลกอาจพอจะนับได้ แต่นับได้
    ทุก ๆ ที่ ถี่ถ้วนไหม ครบไหม ไม่แน่ใจ แล้วใครสร้าง
    สถานที่เหล่านี้ ก็บอกได้แค่ว่า มันมีอยู่แล้วตามธรรมชาติ
  • สิ่งที่ เรามองเห็นได้ด้วยตา สัมผัสได้ด้วยมือหรือร่างกาย
    ดมกลิ่นได้ รู้รสได้ รู้สึกถึงพลังงานที่จับต้องไม่ได้ อย่าง
    ความร้อน ความเย็น ลม เราสัมผัสสิ่งต่างๆเหล่านี้ ได้
    เป็นเพราะเรากำลังเผชิญเรื่องราวตรงหน้าหรือสิ่งที่เกิดขึ้น
    รอบตัวเรา มันเป็นภาวะความจริงที่เกิดขึ้นในปัจจุบันขณะ
    ไม่มีใครบังคับให้เกิด หรือสร้างขึ้นมา หรือคิดแผนให้มันเกิด
    ได้ไหม ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่ เกิดขึ้นอยู่แล้วตามธรรมชาติ
  • อันที่จริงแหล่งพลังงานที่ช่วยขับเคลื่อนสิ่งต่าง ๆ
    อาจไม่ได้มีแค่พลังที่มนุษย์สร้าง ทุกวันนี้เราก็รู้ ๆ กันอยู่
    ว่าจะหาแหล่งพลังงานได้ที่ไหนและนำไปใช้สำหรับทำอะไร
    แต่ลองมองง่าย ๆ ที่ร่างกายเรา พลังงานที่เราใช้ในร่างกาย
    ในการดำรงชีวิต มาจากอาหาร อาหารมาจากพืช สัตว์ น้ำ
    และสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอยู่แล้ว มีอยู่แล้วบนโลกใบนี้ ตามธรรมชาติ
  • ขณะเรามีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นสรรพสิ่งไหน ต้นไม้ สัตว์
    มนุษย์ จะมีจิตใจ ในร่างในกายหยาบ มีความคิด มีการเรียนรู้
    มีความรู้สึก มีอารมณ์ สามารถพัฒนา วิวัฒนาการ หรือมี
    ความสามารถเปลี่ยนแปลงกายหยาบได้แต่มีตัวแปรเป็นระบบอื่นๆ
    ที่สำคัญเข้ามาช่วย มันเป็นตัวแปรเงื่อนไขเรื่องเวลาเรื่องสถานที่
    แต่เมื่อเวลาที่เป็นจุดสิ้นสุดของแต่ละสรรพสิ่งมาถึง จิตเหล่านี้
    จะเปลี่ยนสภาพไป เพราะจะไม่ได้ถูกผูกอยู่กับกายหยาบอีกต่อไป
    แต่เปลี่ยนเป็นอะไร ก็ไม่รู้เหมือนกัน  เราบอกได้แค่ว่า
    มันเปลี่ยนไปตามธรรมชาติ
  • เมื่อเราตายไป หรือเวลาที่เป็นจุดสิ้นสุดของแต่ละสรรพสิ่งมาถึง
    เอาจริง ๆ ก็ไม่รู้ว่า ตายแล้วไปอยู่ไหน ตอบได้แค่กายหยาบเราจะ
    สูญสลาย กลายสถานะ ไปเป็น เถ้า ดิน อากาศ แต่จิตใจอาจ
    เปลี่ยนสภาพกลายเป็นวิญญาณ  ซึ่งมันจะล่องลอยไปไหน
    อยุ่ที่ไหน ไม่อาจตอบได้ และก็คงกล่าวได้แค่ว่า มันก็คงกลับไป
    เป็นไปตามธรรมชาติของมัน

5. ถ้าระบบพื้นฐานทั้ง 6 นั้นเป็นเรื่องจริง เราแทบจะไม่รู้เลยว่า
อะไรคือเหตุผลของการที่เรายังคงต้องดำรงอยู่ในระบบ เราออก
นอกระบบไม่ได้เหรอ หรือว่า เมื่อไหร่ หรือทำยังไง เราถึงจะ
ออกจากระบบไปได้  ฟังดูเหมือนเราจะถูกขัง ถูกบังคับกลาย ๆ
ด้วยซ้ำ ที่จะต้องอยู่ในระบบเหล่านี้ แต่จะว่าไป เราอยู่ในระบบ
ทำไมก็ไม่รู้  จะออกนอกระบบไปทำไมก็ไม่รู้อีกเหมือนกัน 
แต่จิ๋วคิดว่านี่คือช่องว่างที่ทำให้มนุษย์ สร้างจินตนาการขึ้นมา
เพื่อตอบคำถาม และพยายามเข้าใจสิ่งที่ไม่อาจเข้าใจได้เหล่านี้
ซึ่งในกรณีนี้ท่านผู้อ่านบางท่านอาจนึกไปถึงการตรัสรู้ การนิพพาน
การหลุดพ้น ... ซึ่งจิ๋วก็ขอละไว้ไม่กล่าวต่อ จิ๋วไม่ขอกล่าวถึงความเชื่อ
หรือเรื่องศาสนา เพราะจุดประสงค์ในบทความนี้ของจิ๋ว มันยังเป็นแค่
การวนเวียนอยู่ในระบบ บนโลกธรรมดา ๆ ใบนี้ ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้
คุณอาจคิดว่าจิ๋วเอาเรื่องจริงมาผสมกับเรื่องแต่ง จิ๋วก็ไม่เถียงนะคะ
เพียงแต่แปลกใจที่มันดันผสมเข้ากันได้ แบบสนุกคิดดี

6. แล้วจะคิดไปทำไมเนี่ยะ อันที่จริงแล้ว จิ๋วแค่สงสัยว่านักเขียน
หรือผู้กำกับหนัง จะทำให้คนคิดตาม หรือรู้สึกตามได้อย่างไร 
จิ๋วไม่ได้พูดถึงหรือหมายความถึงการบรรยาย การใช้ตัวอักษร
สำนวน โวหาร จิตวิทยา เทคนิคการแสดง เรื่องราว หรือแม้แต่
การใช้จินตนาการร่วมกัน  แค่สงสัยจริง ๆ ว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย
จะคิดเหมือนกัน เชื่อเหมือนกัน รู้สึกเหมือนกัน ได้ด้วยอะไร
ระบบพื้นฐานทั้ง 6 มีส่วนร่วมด้วยช่วยกันไหม หรือจะให้ตีความ
ใกล้ที่สุดเข้าใจง่ายที่สุดคือ สิ่งมีชีวิต "รัก" กันด้วยอะไร...
รวมไปถึงการที่สิ่งมีชีวิต รักสิ่งไม่มีชีวิต เขา...รักสิ่งเหล่านั้นด้วยอะไร
(โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มณีวิญญาณรู้ได้ยังไงว่า ทานอสฆ่าคนที่ตนรัก
เพื่อให้ได้มณีวิญญาณเป็นก้อนปรากฎออกมา มณีมันรู้ได้ไง)
มันเป็นพลังของระบบจิตใจอย่างเดียวหรือเปล่า มันมีความเกี่ยวข้อง
กับระบบวิญญาณไหม ทำไมระบบพื้นฐาน ไม่มีระบบความรัก
ที่ชัดเจน แน่นอน ทั้งๆ ที่มันก็ดูเหมือนจะมีพลังในตัวเอง
มันสามารถขับเคลื่อนจิตใจคน ความรักมันจับต้องไม่ได้
และความรักมักเกิดและมีอยู่แล้วตามธรรมชาติ มันเป็นเรื่องประหลาด
ที่ไม่สามารถบังคับให้ใครรักใคร หรือไม่รักใครได้ บางคนก็ถามด้วยซ้ำ
ไปว่า ความรักมันมีอยู่จริงไหม ที่เจ็บที่สุดคือการถามว่าคนที่ฉันจะรัก
เขาอยู่ไหน.. ไม่มีใครตอบได้ ไม่มีใครกำหนดได้  เรื่องนี้น่าสงสัยยิ่ง
กว่าเรื่องเวลาเสียอีก หรือว่ามาร์เวลคิดไปไม่ถึงเรื่องนี้ อ้อที่แน่ๆ
ผุ้อ่านหลายท่านคงคิดว่าจิ๋วคิดมาก คิดเลอะเทอะไปเอง แต่จิ๋วขอ
ยืนยันนะคะว่า แค่สงสัย เท่านั้นเองค่ะ  จะว่าไปใช่ว่าจิ๋วจะไม่มีคำตอบ
ในใจนะคะ จิ๋วว่ามันคือระบบย่อย (หมายถึงระบบเล็กที่ทำงานภายใต้ระบบใหญ่)
ที่อยู่ภายในระบบจิตใจ และมันก็ไม่ได้มีแค่ความรัก แต่มีความเกลียดชัง
ความจงรักภักดี ความสับสน ความกลัว ความเศร้า ความเหงา ความสุข
ความอิ่มเอม ความสบาย เป็นความรู้สึกและอารมณ์อันหลากหลาย
ที่มีปัจจัยจากระบบพื้นฐานอื่น ๆ เข้ามาเสริม หรือแทรกแซงได้
ถูกแทรกแซงด้วย เวลา สถานที่ และมีการเก็บความทรงจำบางส่วนไว้
ในวิญญาณ ถ้าการเกลียดใครสักคนมันไม่มีเหตุผล แค่เจอหน้าก็เกลียด
แค่อยู่ใกล้ก็รู้สึก และมีพลังอำนาจที่จะผลักดันให้เกิดการกระทำที่รุนแรง
เลวร้ายต่อสิ่งที่เกลียด ผลักดันให้ออกไปไกล ๆ มันก็เป็นระบบเดียวกัน
กับความรักแค่อยู่คนละขั้วและอยู่ตรงข้ามกัน มันมีรูปแบบที่คล้ายกัน
ถึงขนาดที่ว่า บางครั้งคนเราก็แยกไม่ออกว่า รักหรือเกลียด พวกเรา
อยู่กับมันทั้งชีวิตแต่รู้จักมันจริงๆไหม "...ถ้าทุกอย่างเป็นธรรมชาติ
มนุษย์ ไม่เคยเอาชนะธรรมชาติได้เลย ถึงแม้บางครั้งจะดูเหมือน
ควบคุมได้ แต่ในท้ายที่สุด ทุกอย่างก็ถูกธรรมชาติทำลายหมด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งธรรมชาติในจิตใจมนุษย์ด้วยกันเอง..."


7. จิ๋วไม่ได้ต้องการคำตอบจากข้อ 6 หรอกค่ะ อย่าเถียงกัน
แทบเป็นแทบตาย เพื่อหาจุดจบหรือบทสรุป  หรือหันมาด่าว่าจิ๋วเลยนะคะ
จิ๋วแค่สงสัยเฉยๆ แล้วก็เล่าให้ฟังคั่นเวลาก่อนนิยายมาเท่านั้นแหละค่ะ
แต่ใครจะคิดต่อจะวิจารณ์ จะสงสัยบ้าง ก็แล้วแต่ท่านค่ะ

จบบทความไปอย่างงงๆ  ^ ^
By จิ๋ว

ปล1. ถ้าใครแอบคิดว่าจิ๋วเชย ที่มาพูดเรื่องอเวนเจอร์เอนเกมส์
ในคศ.นี้แล้วละก็ จิ๋วยังมีเรื่องเชยๆ ให้อ่านอีกเยอะเลยค่ะ แหะๆ
คือจิ๋วก็ดูจบไปนานแล้ว แต่เพิ่งมีโอกาสได้แตะงานเขียนจริงๆ สักที
มันเลยล่าช้ามาป่านนี้ ขออภัยจริงๆค่ะ
ปล2. Editor ยังไม่ค่อยว่างตรวจงาน ถ้าผิดพลาดประการใดจิ๋วยินดีรับฟังค่ะ


========== ( ^-^ ) ติดตามผลงานย้อนหลังได้ที่นี่ค่ะ ( ^-^ ) ==========
>>>>> รวมเรื่องเล่าของ จิ๋ว // พัดลมจิ๋ว <<<<<<<<    
====== ( ^-^ ) ขอบคุณท่านผู้อ่านทุกท่านที่มาให้กำลังใจค่ะ ( ^-^ ) ======

(อาจอย่า-ออดอ้อน.อาจอยู่-อย่างอยาก.อาจอย่าง-เอื้อนเอ่ย.อาจอยาก-แอบอิง.อาจแอบ-อำอดีต.อาจอ่าน-อ้างอวด.อาจอิอิ-อำอีก)
...ปริศนาอักษรจิ๋ว...


xonly289482

ส่วนตัว มองว่า "ความเชื่อส่วนบุคคล" จะทำให้เกิด แรงผลักดัน ไปในด้านต่าง ๆ และ"ความรู้ ประสบการณ์ชีวิต" จะคอยทำหน้าที่เป็น เครื่องบ่งชี้ทางเอง
ส่วนตัวมองแตกต่างไปอีกเล็กน้อยว่ามนุษย์ เป็นส่วนนึงของธรรมชาติ ซึ่งไม่เคยทำร้ายใคร มองว่าคนที่โดนธรรมชาติทำลายนั่นคือ ผล จากการกระทำ แบบสะสมอย่างยาวนานมากกว่าครับ  ::Thankyou::

Phoowadol

#2
ขอสารภาพ ตามตรงเลย ว่า ไม่เคยดู หนัง เรื่องนี้ จนจบตอนเลยสักครั้ง.....และยิ่งไปกว่านั้น  ตอนล่าสุด ยิ่งแล้วใหญ่ ไม่เคยดูเลย......จึงไม่มีความเข้าใจ ใน พลัง ของทั้ง 6 ?
    แต่ก็พอจะ สรุป ตามแนวคิดของคุณจิ๋วได้ ว่า...น่าจะเป็นไปตามคำสอน ของพระพุทธเจ้า...คือการเกิด ตั้งอยู่ และดับไป......มันเป็นเรื่องสัจธรรมโดยแท้.....แม้ทุกศาสนาก็เป็นตามนั้นด้วยเช่นกัน

    อ่อ อ่ออีกอย่าง เรื่องแนวคิดของผู้สร้างหนัง  ตามความคิดเห็นส่วนตัว ปมคิดว่า เขาเหล่านั้น ก็คง แค่ เสนอ เพื่อ สนอง แนวคิดของตนเอง ให้ คนอื่นได้ยอมรับ...ก็เท่านั้นเอง.......(มั๊ง)....
  แต่ที่แน่ๆ....ผมเห็นอยู่อย่างนึง  เรื่องของบทความ หรือ อะไรก็แล้วแต่ ที่ลงใน บอร์ดนี้....หาก ไร้ ความเสียว  มักจะถูกเพิกเฉย......เป็นนิจ....เห็นด้วยกับผมมั้ยครับ.... ::Dizzy::   ::Dizzy:: 

ดีใจที่ได้เห็น คุณจิ๋น เข้ามาถ่ายทอด บทความ นำเสนอ ในบอร์ดนี้ อีกครั้ง เพราะนี่คือ นิมิตหมายที่ดี  ที่อาจได้เห็น  นิยายเรื่องใหม่ ของคุณจิ๋ว ในอนาคต ใกล้ๆ ในไม่ช้านี้....ขอบคุณมากครับ