ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_llOUllnJllUUllSJllSJ

จ้าวโลก EP.24 (NTR/Harlem/Super Power)

เริ่มโดย llOUllnJllUUllSJllSJ, เมษายน 28, 2021, 07:29:21 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

llOUllnJllUUllSJllSJ

สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นสมาชิก xonly8 อ่านเต็มได้ที่ https://fictionlog.co/b/6053b2ece9cbb4001caf362f



ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในตอนเช้า แสงข้างนอกยังคงสลัวๆ แต่นาฬิกาบอกเวลา 8 โมงเช้าแล้ว คงเป็นธรรมดาของอากาศหน้าหนาวในยุโรป อีฟยังคงนอนหลับสนิทข้างๆผม ซึ่งไม่น่าแปลกใจนัก เพราะเมื่อคืนกว่าเราสองคนจะได้นอน ก็ผ่านเกมรักกันหลายยกกันเลยทีเดียว

ผมลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำอย่างแผ่วเบา พลางห่มผ้าให้อีฟที่กำลังหลับอยู่ ในตอนแรก ผมตั้งใจจะนอนตื่นสายยาวๆซักหน่อย เพราะเมื่อวานก็เหนื่อยมาทั้งวัน แถมเมื่อคืนก็นอนดึกอีก แต่คิดอีกที ไหนๆมาอยู่ต่างประเทศ แล้วอีกไม่กี่วันก็ต้องกลับแล้ว สู้มาใช้เวลาเที่ยวให้คุ้มดีกว่า เลยตัดสินใจล้างหน้าแปรงฟันเลย

ผมแปรงฟันอยู่หน้ากระจก พลางมองเงาสะท้อนที่มาจากกระจกนั้น ไม่น่าเชื่อว่าคนธรรมดาๆอย่างผม จะกลายเป็นคนที่มีพลังอะไรเหนือโลกแบบนี้ ถึงแม้ว่ามันจะอธิบายได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ แต่มันก็น่าตกใจอยู่ดี

แล้วผมก็นึกคำพูดของอีฟเมื่อวานได้ ในตอนที่เธออ่านผลการตรวจที่ถูกส่งมาทางอีเมล์จาก UNX

'... ควบคุมร่างกายตัวเองหมายถึง พี่ควบคุมให้แผลหายเร็วได้ ควบคุมกล้ามเนื้อส่วนที่เสียหายให้กลับมาฟื้นฟูได้ หรือแม้แต่ ให้ตัวเองมีกล้ามบึ้กๆหุ่นเท่ๆอะไรงี้ได้...'

เอ.. ถ้าเป็นอย่างที่อีฟพูด และผมเข้าใจไม่ผิด งั้นแสดงว่าผมสามารถควบคุมกล้ามเนื้อตัวเองได้เหรอ งี้ผมก็มีหุ่นเท่ๆได้โดยไม่ต้องไปฟิตเนสให้เหนื่อยเหรอ? ฟังดูเจ๋งชะมัด ว่าแล้วก็ลองดูหน่อยซิ

ผมเริ่มเพ่งสมาธิมองหุ่นตัวเองในกระจก คิดซ้ำไปซ้ำมาว่า 'จงหุ่นดีขึ้น จงมีซิกแพ็ค จงมีกล้าม'

คิดวนไปเวียนมาหลายรอบ แต่ก็ไม่พบการเปลี่ยนแปลงใดๆ แล้วผมก็นึกได้ว่า การคิดซ้ำไปซ้ำมานั้น มันเป็นวิธีการโน้มน้าวจิตใจคนอื่น แต่ที่ผมกำลังจะทำ มันคือการควบคุมกล้ามเนื้อตัวเอง ดังนั้น วิธีใช้มันน่าจะไม่เหมือนกันนะ

ผมเลยหยุดคิด แล้วลองใหม่อีกครั้ง โดยครั้งนี้ ผมนึกได้ว่า ปกติแล้วถ้าเราจะอยากให้กล้ามเนื้อเราเด่นชัดขึ้น ก็ต้องเบ่งและเกร็งในส่วนนั้น เช่น ถ้าอยากดูกล้ามแขนใหญ่ ก็ให้เกร็งแขนเบ่งกล้าม หรือถ้าอยากดูมีซิกแพ็ค ก็ให้เกร็งหน้าท้อง ส่วนจะมีกล้ามใหญ่แค่ไหน หรือมีซิกแพ็คหรือเปล่า อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าจะมีกล้ามเนื้อหรือไขมัน

พอคิดได้อย่างนี้ ผมเลยลองใหม่ ผมเบ่งหน้าท้องเกร็ง ตัวผมเองนั้นไม่ได้อ้วนอยู่แล้ว ออกจะผอมๆแห้งๆซะด้วยซ้ำ แต่เพราะไม่เคยออกกำลังกายเลย เลยไม่เคยมีกล้ามเนื้ออะไรเป็นรูปเป็นร่างให้เห็น และแน่นอน ไม่ว่าพยายามจะเบ่งหน้าท้องเท่าไหร่ ซิกแพ็คมันก็ไม่ออกมาซะที

ไม่ได้ผลแฮะ หรือกล้ามเนื้อซิกแพ็คมันจะอยู่ลึกไปหน่อย มันเลยอาจจะยากไปนิด ถ้าเป็นกล้ามแขน อาจจะง่ายกว่ามั้ง เพราะแขนผมก็พอจะมีกล้ามเล็กๆน้อยๆบ้าง

คราวนี้ผมเลยกำหมัดตั้งแขนท่าเบ่งกล้าม แล้วเบ่งสุดฤทธิ์เท่าที่ผมจะทำได้ ภาพที่อยู่ในกระจกตอนนี้ เป็นชายหนุ่มหุ่นไม่อ้วนไม่ผอม กำลังพยายามทำท่าเบ่งราวกับเป็นนักกล้าม ทั้งๆที่ตัวเองนั้นไม่มีกล้ามอะไรออกมาให้เห็นเลย

"ฮิๆๆๆ คนบ้าอะไร ตื่นมาเบ่งกล้ามตัวดูหุ่นตัวเองแต่เช้า ถ้าหุ่นดีจะไม่ว่าเลย" เสียงอีฟดังมาจากข้างหลังผม ผมหันกลับไปเห็นอีฟที่เหมือนจะตื่นนอนแล้วนอนบนเตียงมองมาที่ผมอยู่ เพราะประตูห้องน้ำนั้นตรงกับเตียงพอดี

"อ่าว ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่" ผมหยุดพยายามเบ่งกล้ามแขนแล้วบ้วนปากก่อนจะหันไปถามเธอ

"ตื่นมาเห็นคนบ้าเบ่งกล้ามสักพักล่ะ ผีเข้าเหรอ" อีฟที่ยังคงซุกตัวอยู่ในผ้านวมผืนใหญ่ โผล่มาแค่หัวแซวผม

"พอดีนึกได้ที่อีฟพูดเมื่อวานอ่ะ ว่าพี่มีความสามารถควบคุมกล้ามเนื้อได้ เลยอยากลองควบคุมกล้ามเนื้อตัวเองดู เผื่อจะมีหุ่นเท่กับเขาบ้าง" ผมบอกก่อนจะกระโดดขึ้นเตียงไปอยู่ใต้ผ้านวมกับเธอ

"บ้า ควบคุมกล้ามเนื้อเค้าไม่ได้มายืนเบ่งกล้ามหน้ากระจกแบบนั้นซักหน่อย" อีฟที่ตอนนี้นอนตะแคงหันหลังให้ผม หันหน้าไปทางห้องน้ำบอก ตัวเธอตอนนี้ ผมจำได้ว่ามีแค่เสื้อยืดตัวใหญ่กับกางเกงในตัวจิ๋วเท่านั้น

"แล้วมันต้องทำยังไงอะ สอนหน่อย" ผมขยับเข้าไปนอนกอดเธอจากข้างหลังพร้อมกระชับวงแขนเข้ามาแล้วถามเธอ

"ไม่รู้อ่ะ อีฟไม่ได้มีความสามารถนี้ แต่.." อีฟเว้นวรรค

"แต่อะไร?" ผมถามด้วยความสงสัย

"ก็.. เคยได้ยินเขาพูดกันว่า ผู้ชายจะฝึกความสามารถนี้ง่ายกว่าผู้หญิง.." อีฟบอกเสียงเบา

"ทำไมอ่ะ" ผมยังคงสงสัยอยู่

"ไม่รู้ๆ ไม่รู้แล้ว คิดเอง" อีฟพูดรัวๆแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมหน้า ผมถึงกับงง อะไรของเธอ ผู้ชายจะฝึกความสามารถนี้ได้ง่ายกว่าผู้หญิงได้ยังไง

"อีฟ เอาดีๆดิ พี่ไม่เข้าใจ บอกหน่อย" ผมดึงผ้าห่มที่คลุมหน้าเธอออก เผยให้เห็นแก้มเธอที่แดงเล็กๆ

"โอ้ยยย แค่นี้ก็คิดไม่ได้ อวัยวะส่วนไหนของผู้ชายล่ะที่ควบคุมกล้ามเนื้อได้ง่ายๆบ่อยๆ.." อีฟพูด ผมจับอาการเขินอายของเธอได้ ทำให้พอจะเข้าใจแล้วว่าเธอหมายถึงอะไร

"อ๋อ เข้าใจแล้วววววว หมายถึงตรงนี้เหรอ" ผมขยับเอวเข้าหาเธอพร้อมเกร็งแก่นกายถูไถไปที่ก้นเนียนนุ่มของเธอ ผมเข้าใจแล้ว กล้ามเนื้อที่เธอว่า ก็คือกล้ามเนื้อแท่งหรรษาของผมนี่แหละ แน่นอน ในยามปกติมันคงเป็นหนอนชาเขียวตัวน้อย แต่ในยามออกศึก ผมมักจะคิดเล่นๆเองเสมอว่า หนอนชาเขียวกลายเป็นมังกรยักษ์

"ไอ้บ้าา มังกรอะไรตัวแค่นี้" อีฟตอบกลับมา เธอคงเข้าใจความคิดของผม หึ! ดูถูกกันดีนัก ทั้งๆที่เธอโดนมังกรยักษ์ฉกมาทั้งคืน ยังจะมาล้อเลียนอีก

"อีฟเคยดูโปเกม่อนปะ" ผมกระซิบถามเธอที่ข้างหู พร้อมเอื้อมมือไปบีบคลึงหน้าอกเธอใต้เสื้อยืด ในขณะที่เอวผมก็บดแก่นกายที่เริ่มจะขยายตัวจากหนอนชาเขียวเป็นมังกรยักษ์เข้าที่ก้นของเธอ

"อืมมม เคย ทำไมเหรอ" อีฟบอกพร้อมเสียงครางในลำคอเบาๆ

"หนอนชาเขียวพี่มันกลายร่างเป็นมังกรยักษ์ได้นะ เห็นมั้ย" ผมบอกเธอพร้อมกับกดถูแก่นกายผมเน้นๆไปที่ก้นของเธอ

"ฮิฮิ นี่ขนาดมังกรยักษ์แล้วนะ.." อีฟหัวเราะแซวผมไม่เลิก

"ใช่ แต่มังกรยักษ์นี้มันแค่ร่างสอง พี่จะทำให้มันกลายเป็นร่างสุดยอดให้ดู" ผมบอกเธอพลางละมือจากหน้าอกแน่นคู่นั้นที่ผมบีบเค้นอยู่ มาจับมือเธอแล้วดึงให้มือเธอมาจับแก่นกายผมที่ยังคงวนเวียนอยู่ที่ก้นเธอ

ตอนนี้เราสองคนอยู่ในท่านอนตะแคง ผมนอนกอดอีฟข้างหลัง ส่วนอีฟเอื้อมมือมาจับแก่นกายผมที่อยู่บริเวณก้นของเธอพลางรูดเข้าออกช้าๆ

"ไหน ไม่เห็นจะเป็นร่างสุดยอดเลย.." อีฟหลับตาถามผม มือเธอก็ยังคงรูดแก่นกายผมอยู่

คุณผู้ชายคงจะเคยนะครับ เวลาเราเกร็งแท่งหรรษาของเราสุดๆ หรือตอนที่เราทำอาการกระตุกแก่นกายเรา มันจะดูเหมือนใหญ่ข้ึนมานิดนึง ปัญหาคือ มันไม่ได้ใหญ่ขึ้นตลอดเวลา มันเป็นแค่ตอนที่เราเกร็งกระตุกเท่านั้น

แต่คุณกับผมต่างกัน เพราะผมดันมีความสามารถในการควบคุมกล้ามเนื้อได้ และนี่เอง คือวิธีที่ผมเพิ่งจะคิดได้ว่า มันคือวิธีฝึกควบคุมกล้ามเนื้อนั่นเอง โดยการเกร็งแก่นกายสุด แล้วพยายามให้มันใหญ่ขึ้น และก็เหมือนจะได้ผล..

"เห้ย.. พี่.." อีฟเรียกผมแค่นั้นพลางเหลียวกลับมามองหน้าผม แม้ว่าเธอจะไม่พูดออกมา แต่ผมรู้ดีว่าเธอหมายถึงอะไร เพราะมือสวยของอีฟที่เคยกำแท่งแก่นกายของผมได้รอบ ตอนนี้กลายเป็นแก่นกายผมเริ่มขยายช้าๆจนเธอกำไม่รอบแล้ว แถมความยาวก็เหมือนจะยาวขึ้นอีก นั่นแปลว่าผมเริ่มจะควบคุมกล้ามเนื้อผมได้จริงๆแล้ว

"หึหึหึ เป็นไง มังกรยักษ์ร่างสามพี่" ผมยักคิ้วถามอีฟ แต่ไม่รอให้เธอตอบ ผมประกบปากจูบเธอทันทีโดยไม่สนว่า เธอจะยังไม่ได้แปรงฟันตอนเช้า

"อืออออออ จร๊วบบบ.. อืออ พี่บ้า มันใหญ่จนน่ากลัวนะแบบนี้" อีฟพูดในตอนที่หาจังหวะผละออกมาจากการจูบแลกลิ้นกับผมได้ มือสวยของเธอที่เอื้อมมากำแก่นกายผมข้างหลังตอนนี้กำไม่รอบแล้วและยังคงชักเข้าออกให้ผมเบาๆ

"หึหึ ลองแล้วจะติดใจ.." ผมบอกเธอก่อนจะบีบเค้นหน้าอกเธอพร้อมกับประกบปากสวยของเธอที่เหลียวหลังมาต่อ

"จร๊วบบบบ ไม่เอา อีฟไม่ไหวหรอก แค่ปกติก็จะแย่แล้ว อืออ" อีฟพูดไปจูบไปกับผม แหม.. เมื่อกี๊ยังหัวเราะเยาะมังกรยักษ์ผมอยู่เลย เจอร่างสามเข้าไปน้ำเสียงเปลี่ยนเลยนะ

แต่ผมไม่ตอบอะไร เวลาปกติอีฟอาจจะดูฉลาด แข็งแกร่ง แต่พออยู่บนเตียงแล้ว เธอไร้ประสบการณ์และเดียงสาราวกับเป็นแค่ลูกแมวเชื่องๆ ที่ยอมให้ผมทำอะไรก็ได้ตามใจ

และผมก็จะสอนบทเรียนให้เธอรู้ว่า การมาล้อเลียนหนอนชาเขียวคนอื่นนั้น จะต้องโดนลงโทษยังไง

ผมดึงมืออีฟให้ลุกขึ้นมานั่งบนเตียง อีฟมองผมด้วยสายตางงๆ แต่ไม่นาน เธอก็เข้าใจว่าผมต้องการอะไร เพราะผมลุกขึ้นยืนถอดกางเกงต่อหน้าเธอ

เบื้องหน้าเธอตอนนี้คือมังกรยักษ์ร่างสาม หรือแก่นกายผมที่มันใหญ่กว่าปกติ แน่นอนว่ามันไม่ใช่ขนาดตามปกติของผม เพราะเป็นขนาดที่ผมใช้ความสามารถในการควบคุมกล้ามเนื้อให้มันใหญ่ขึ้น

"อีฟ.. ทำให้พี่หน่อย.." ผมที่ยืนอยู่ข้างหน้าเธอตอนนี้ ก้มลงไปมองใบหน้าสวยของเธอที่อยู่ระดับเอวผมพร้อมกับออกคำสั่งเล็กๆ

"ทะ.. ทำอะไร" อีฟทำหน้าเหวอนิดนึง ก็แหงล่ะ ผมเพิ่งจะเปิดซิงเธอมาได้สองวัน เธอคงไม่มีประสบการณ์ในการใช้ปากกับใครมั้ง ไม่แปลกที่เธอจะดูกลัวๆ

"โม้คให้พี่ไง ใช้ปากอ่ะ.." ผมเธอ และไม่บอกเปล่า แต่มือยังลูบหัวเธอเบาๆ พร้อมกับออกแรงดันเล็กๆให้ใบหน้าสวยของเธอเข้ามาใกล้แก่นกายผม

"ไม่เอา.. อีฟทำไม่เป็น" เธอทำหน้าอ้อนวอนน่าสงสารบอกผม เธอคงไม่กล้าแหละมั้ง แต่หารู้ไม่ว่า ยิ่งเธอทำหน้าแบบนั้น มันยิ่งทำให้ผมอยากแกล้งเธอเข้าไปอีก

"ไม่เป็นก็หัด ทีพี่ยังทำให้อีฟได้เลย อ้าปาก.." ผมบอกอีฟด้วยน้ำเสียงราวออกคำสั่ง

"แต่... อึ้กก!" อีฟพยายามจะอุธรณ์ แต่ผมเห็นจังหวะที่เธออ้าปากพูด ผมไม่รอช้า จัดการดันเอวยัดแก่นกายยักษ์ของผมเข้าปากเธอทันที พร้อมๆกับสองมือผมกดหัวเธอเข้าเอวผม

ภาพที่ผมเห็นตอนนี้ คือใบหน้าสวยของอีฟที่อยู่เกือบชิดเอวผม ในปากเธอมีแก่นกายขนาดยักษ์ของผมอยู่ในปาก ผมสังเกตุเห็นปากเธออ้ากว้างอย่างเห็นได้ชัด และที่สำคัญ แท่งแก่นกายผมมันยัดปากเธอไม่สุดซะด้วยซ้ำ

"อื้มมม นั่นแหละ อย่าอ้าปากเฉยๆสิ ดูดเบาๆด้วย ใช้ลิ้นเลียๆด้วย" ผมออกคำสั่งบอกเธอ อีฟขมวดคิ้วทำหน้าบึ้งใส่ผมอย่างเสียมิได้ ก่อนจะพยายามออกแรงดูดตามที่ผมบอกเธอ

"ซี๊ดดดดดดดดด นั่นแหละๆ" ผมถึงกับร้องครางในจังหวะที่อีฟดูดแท่งผม แม้ว่าจังหวะแรงนั้นเธอจะดูดแรงไป แต่ผ่านไปไม่นาน เธอก็เริ่มรู้ว่า ต้องออกแรงดูดขนาดไหนผมถึงจะรู้สึกดี

"จร๊วบบบบบ~" เสียงดูดของอีฟเริ่มจะดังขึ้น ผมออกแรงเด้งเข้าออกช้าๆ เพื่อให้แก่นกายผมรูดเข้าออกในโพรงปากสวยนั้น จนในจังหวะหนึ่ง มันก็หลุดออกมาจากปากเธอ

อีฟตาปรือมองแก่นกายนั้นที่เปื้อนน้ำลายเธอจนชุ่ม เธอเอื้อมมือมาจับที่โคนและรูดเข้าออกอย่างช้าๆพลางมองหน้าผมราวกับจะดูว่า ผมจะเป็นยังไงถ้าโดนสาวสวยมารูดแก่นกายให้

ภาพที่ผมเห็นชวนเสียวเป็นบ้า สวยสวยหน้าลูกครึ่งอย่างอีฟมานั่งชักว่าวให้ แต่นั่นยังสะใจผมไม่พอ ผมบอกแล้ว ผมจะลงโทษเธอ ยัยอีฟจอมแสบ ในเวลาปกติผมอาจจะไม่ฉลาดพอที่จะเถียงสู้เธอได้ แต่เวลานี้แหละ ที่ผมจะแสดงให้เธอเห็นว่า ใครกันแน่ที่อยู่เหนือกว่ากัน ฮ่าๆ

ผมดันแก่นกายที่เปียกชุ่มน้ำลายเธอนั้นไปถูไถที่ริมฝีปากสวยของเธอที่อ้าปากรอ เธอคงเข้าใจว่าผมจะแทงแท่งเสียวนั้นเข้าไปในปาก แต่เปล่าเลย ผมขยับเอาแก่นกายนั้นเขี่ยไปทั่วไปหน้าสวยของเธอ ตั้งแต่ริมฝีปาก สันจมูกที่โด่ง แก้มที่เต็มอิ่ม หรือแม้กระทั่งหน้าผากงามนั้น ทั้งหมดนั้น ตอนนี้เต็มไปด้วยคราบน้ำลายของเธอเอง ที่ติดอยู่ที่แก่นกายผมและกระจายไปทั่วใบหน้าสวย

เป็นภาพที่ดูหื่นและสะใจชะมัด ใบหน้าสวยที่ใครหลายๆคนใฝ่ฝัน ตอนนี้กลับเปรอะเปื้อนร่องรอยเสียวเต็มไปหมด

ผมขยับอีกครั้ง คราวนี้แก่นกายผมไม่พลาดเป้าแล้ว มันพุ่งตรงเข้าไปโพรงปากสวยของอีฟที่ยังคงอ้าปากรอรับอยู่ และในทันทีที่มันผลุบเข้าไปในปาก อีฟก็ออกแรงดูดทันที

คราวนี้ไม่ใช่แค่แรงดูดจากอีฟอย่างเดียวแล้ว เพราะสองมือผมประคองที่หัวของอีฟ และเริ่มออกแรงขยับเอวเร็วขึ้น อีฟเหมือนรู้งาน เพราะแท่งของผมที่ขยับเข้าออกในปากเธอเริ่มจะเร็วขึ้น ในปากจังหวะมันก็ไปโดนฟันเธอบ้าง ทำให้เธอพยายามอ้าปากให้กว้างที่สุด แต่ยังคงออกแรงดูดและขยับปลายลิ้นให้ไล้เลียแก่นกายที่อยู่ในปากของเธอไปด้วย

"ซี๊ดดดดดดด" ผมถึงกับแหงนหน้าซู้ดปากด้วยความเสียว แม้ว่านี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่เธอโม้ค และจะดูเก้ๆกังๆในหลายๆจุด แต่อีฟก็เรียนรู้เร็วและฉลาดพอที่จะสังเกตุว่า ทำแบบไหนผมเสียว

ผมขยับเอวเร็วขึ้นเรื่อยๆ แรงดูดของอีฟก็มากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับความเร็วในการตวัดลิ้นเลียแก่นกายผมในปากของเธอก็เร็วขึ้นตามลำดับ

การมีลูกครึ่งสาวสวยมานั่งโม้คให้แบบนี้ ผู้ชายคนไหนไม่เสียวหรือไม่เสร็จ คงต้องมีปัญหาอะไรแล้วแหละ และผมก็เป็นเหมือนผู้ชายทั่วๆไป เพราะทั้งภาพที่ปรากฏต่อหน้า ทั้งความรู้สึกที่ได้รับ มันทำให้ผมเสียวจนผมจะทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว

"ซี๊ดดดดด อีฟ... เสียวว ซี๊ดดดด" ผมทนกลั้นเสียงไว้ไม่ได้จนเผลอร้องครางออกมาเสียงดัง ความเสียวผมเยอะขึ้นเรื่อยๆ จนใกล้ถึงที่สุดแล้ว ทันใดนั้นเอง..

สองมือผมที่จับท้ายทอยอีฟพลางดึงใบหน้าสวยเข้าหาเอวผม ตอนนี้เปลี่ยนเป็นผลักออกพร้อมกับที่ผมรีบถอนแก่นกายออกจากปากเธอ แม้ว่าผมอยากจะแตกคาปากสวยของเธอ แต่ยังก่อน ผมยังมีเวลาอีกเยอะ

ด้วยความที่ผมไม่อยากจะเสียเวลามาก ผมเลยผลักเธอให้นอนคว่ำลงไปที่เตียง พร้อมกับดึงรั้งสะโพกเธอขึ้นมาพร้อมกับที่ผมลงไปนั่งคุกเข้าที่บั้นท้ายสวยของเธอ

อีฟหันมามองผม ไม่ต้องสงสัยว่าเธอคงรู้ว่าผมจะทำอะไร ผมแหวกกางเกงในเธอไปด้านข้างพร้อมกับเสียบแก่นกายยักษ์ผมเข้าไปทันที

"โอ้ยยยยย พี่.. เจ็บบบ" อีฟถึงกับสะดุ้งร้องลั่น เพราะผมลืมตัวไปว่า ตอนนี้เจ้าหนอนชาเขียวผมมันกลายร่างเป็นมังกรยักษ์ร่างสามแล้ว ขนาดมันใหญ่กว่าปกติ การที่ผมเสียบพรวดเดียวไป จากความเสียวเลยกลายเป็นความเจ็บแทนซะงั้น

"เอ้อ พี่ลืม พี่ขอโทษ มันเหมือนจะเข้าไม่ได้เลย" ผมบอกอีฟที่อยู่ในท่าคลาน ในขณะที่ผมจับแก่นกายของผมใหม่

"เอาเล็กแบบเดิมได้มั้ย แบบนี้อีฟเจ็บ" อีฟเหลียวหลังมาถามผม

"เดี๋ยวลองดู.." ผมบอกเธอ ที่จริงผมไม่รู้หรอกว่า ทำยังไงมันจะเล็กลง มันคงทำได้แหละ เพราะทำให้ใหญ่ขึ้นยังได้เลย แต่เรื่องอะไรผมจะทำให้มันเล็กลงละ ผมแค่พูดไปงั้นแหละ ผมไม่รอให้อีฟสงสัยอะไรต่อ เพราะผมเริ่มต้นดันแก่นกายผมเข้าไปที่ร่องสวยของเธอทันที แต่คราวนี้ เริ่มจากค่อยๆถูที่ปากร่อง และค่อยๆออกแรงดันเข้าไปเรื่อยๆ ช้าๆ

ได้ผล.. เพราะอีฟไม่ได้ออกอาการต่อต้านหรือแสดงออกว่าเจ็บแต่อย่างใด ผมรู้สึกได้ถึงความคับแน่นกว่าครั้งไหนๆแม้กระทั่งครั้งแรกที่ผมเปิดซิงอีฟ ก็แหงล่ะ ครั้งนี้แก่นกายผมมันใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเยอะนี่นา

ผมดันเข้าไปจนผมรู้สึกได้ว่า ปลายแท่งของผมนั้นมันชนสุดมดลูกของเธอและไปต่อไม่ได้แล้ว อีฟยังคงเหลียวกลับมามองหน้าผมอยู่ แต่ใบหน้าของเธอนั้นเหยเก ผมเดาว่าภายใต้ใบหน้านั้นมีทั้งความเจ็บปวดและความเสียวที่ผสมปนเปกันอยู่

"เจ็บอยู่มั้ย ไหวมั้ย" ผมถามอีฟไป

"อื้อ ไหว.." อีฟพยักหน้าบอก

ผมไม่ถามอะไรอีก แต่ค่อยๆเริ่มขยับเอวช้าๆ

"ซี๊ดด... พี่.. ทะ ... ทำไมมันเสียว" อีฟหน้านิ่วถามผม

"ซี๊ดดด บอกแล้วไง ว่าอีฟจะติดใจ.." ผมตอบเธอไป โยกเอวขยับแก่นกายเข้าออกเธอไป พร้อมๆกับเลิกเสื้อยืดที่เธอใส่อยู่ให้ขึ้นไปกองบนๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบไล้แผ่นหลังขาวเนียนของเธอที่ปรากฏต่อหน้าผม

"ซี๊ดดดด" อีฟเริ่มครางดังขึ้นเรื่อยๆ พร้อมๆกับที่ผมเร่งจังหวะในการกระแทก

"อื้อมมมม เป็นไงแม่คนเก่ง เสียวมั้ย.." ผมยิ้มเยาะถามเธอไปด้วยความเสียว ตอนนี้ผมเร่งความเร็วในการซอยเอวผมกระแทกเอวเธอแบบไม่ค่อยยั้งแล้ว

"ซี๊ดดด สะ.. เสียวค่ะ" อีฟตอบผมก่อนจะฟุบลงไปที่หมอน สองมือเธอกำหมอนแน่น ในขณะที่สะโพกเธอยังคงโด่งสูงรับการกระแทกรัวๆจากผม

ปั่ปๆๆๆๆๆ เสียงเนื้อกระทบกันดังลั่นห้อง สองมือผมตอนนี้ขยี้ขยำก้นขาวของเธอจนแดงเถือก

ผมทนไม่ไหวแล้ว ผมไม่อยากจะชะลอความเร็วอะไรอีกแล้ว เพราะตั้งแต่เมื่อกี๊ ผมก็แทบจะแตกคาปากเธอไปแล้ว แล้วไหนจะความคับแน่นที่ได้จากแท่งเสียวผมที่ใหญ่ขึ้นอีก

"พี่.. ซี๊ดด.. พี่.. อีฟ.. อ๊าาาาาาาาาาาาาาาา" อีฟร้องครางไปด้วย และเหมือนว่าจะพยายามพูดอะไรบางอย่างกับผมไปด้วย แต่ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ร่างสวยของเธอก็กระตุกอย่างรุนแรง  ภายในร่องเสียวเธอบีบรัดแก่นกายใหญ่ของผมแน่น และนั่นทำให้ผมยิ่งเสียวเข้าไปใหญ่ ผมรู้ว่าเธอเสร็จไปแล้ว และนั่นยิ่งเป็นเหตุผลที่ผมไม่รอดช้าอีกต่อไป

ปั่ปปปๆๆๆ

สองมือผมจับเอวเธอราวกับจะล็อกไว้ไม่ให้เธอหนีไปไหน ผมเร่งความเร็วจนสุดชีวิตผมแล้ว ความเสียวผมพุ่งทะลุจนถึงขีดจำกัด ผมไม่ทันแล้ว แล้วในที่สุด..

ผมดึงแก่นกายออกมาจากร่องเสียวเธอในจังหวะเดียวกับที่ผมเสร็จ น้ำรักขาวข้นพุ่งทะยานออกจากปลายแก่นกายนั้นราดรดไปที่ก้นสวยของอีฟ อีกส่วนหนึ่งก็พุ่งไกลไปถึงกลางหลังเนียนของเธอ

อา... ท่าด็อกกี้นี่มันเสียวดีชะมัด

"พี่อ่ะ.. เช็ดให้อีฟเลย เลอะหมดแล้ว" อีฟที่นอนคว่ำอยู่หันมาบอกผมงอนๆ

ผมเอื้อมมือไปหยิบทิชชู่ที่หัวเตียง ก่อนจะค่อยๆเช็ดน้ำรักของผมที่อยู่บนตัวของเธออย่างแผ่วเบาและทะนุถนอม เสร็จแล้วเราสองคนก็นอนกอดกันบนเตียงใต้ผ้านวม

"แต่เช้าเลยนะ.." อีฟทำเสียงบ่นๆ ตอนนี้ผมนอนหงาย ส่วนเธอนอนหนุนแขนกอดผมอยู่

"ตอนแรกก็ว่าจะไม่แล้ว อีฟดันเซ็กซี่เอง" ผมบอกเธอยิ้มๆ

"อะไร ไม่ได้เกี่ยวกับอีฟเลยนะ พี่แหละ ลามกได้ตลอดเวลา" อีฟบ่นพลางลูบไล้หน้าอกผมไปทั่ว

"แน่นอน" ผมยอมรับเธอไปตรงๆ ก็แหงละ เธออ่านใจผมได้ขนาดนี้ จะโกหกไปก็เท่านั้น

"เดี๋ยวนะ.. พี่.. ทำไม.. ทำไมพี่ดูบึกขึ้น เมื่อกี๊ยังปกติอยู่เลย" อีฟที่เมื่อกี๊ลูบไล้หน้าอกผม เปลี่ยนเป็นเริ่มคลำตัวผมอย่างจริงจัง เพราะเธอสังเกตุได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในร่างกายผม

"หือ บึกยังไง" ผมถามเธอพลางเงยหน้าก้มไปมองดูหุ่นตัวเอง

"เนี่ย.. มีซิกแพ็คด้วยอ่ะ แสดงว่าพี่ควบคุมได้แล้วเหรอ" อีฟที่ลูบมือลงไปที่หน้าท้องผม เธอสัมผัสได้ถึงซิกแพ็คผม ถึงกับลุกขึ้นเปิดผ้าห่มมาดูพร้อมกับทำตาโต

"เห้ย เออ จริงด้วยว่ะ โห ดูดิ พี่มีกล้ามด้วย" ผมเห็นจริงดังเธอว่า จึงลองขยับแขนดู ปรากฏว่าผมมีกล้ามแขนเพิ่มมาด้วย ผมถึงกับขยับท่าทางโพสท่าราวกับเป็นนักกล้าม

"เก่งมาก ทีหลังเอาแค่ซิกแพ็คกับกล้ามแขนก็พอนะ กล้ามเนื้อตรงอื่นไม่ต้อง!" อีฟกระแทกเสียงใส่ผมแล้วลุกขึ้นจากเตียง

"อ่าว.. ไม่ชอบเหรอ มังกรยักษ์ร่างสามเลยนะ ถ้าชอบเดี๋ยวเอาร่างสี่ร่างห้าให้เลย.." ผมแซวเธอ แต่ยังไม่ทันจะพูดจบประโยค อีฟก็คว้าหมอนปาใส่หน้าผมทันที

"ไอ้บ้า ไอ้ลามก อีฟไปอาบน้ำแล้ว!" ว่าแล้วเธอก็เดินเข้าห้องน้ำไปเลย


.............


เหลือเวลาอีก 3 วัน กว่าแทนจะมาสมทบพวกเรา โปรแกรมงานเราไม่มีอะไรแล้ว รอติดต่อน้าไพลินที่ไทยทีเดียว ระหว่างนี้ อีฟก็พาผมเที่ยวไปทั่วอัมสเตอร์ดัม ใจผมอยากจะไปเมืองอื่นหรือแม้กระทั่งประเทศอื่นด้วย เพราะมาทั้งที แถมวีซ่าเชงเก้นมันเข้าประเทศดังๆแถบยุโรปได้หมด ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี สเปน แต่อีฟก็บอกว่า เรามารอบนี้จุดประสงค์เพื่อติดต่อกับ UNX ดังนั้น ควรจะอยู่ที่นี่เพื่อสแตนบายด์ไว้ เผื่อมีอะไรเพิ่มเติม ก็เป็นเหตุผลที่เข้าใจได้

เราใช้เวลาวันแรกเต็มๆกับการเดินเที่ยวในอัมสเตอร์ดัม ที่ต้องบอกว่าวันแรก เพราะก่อนหน้านั้นวันอื่นๆ เรามีต้องไปนู่นทำนี่อยู่เรื่อย แต่ตั้งแต่นี้ เราเที่ยวได้เต็มที่แล้ว อีฟพาผมไปดูพระราชวังที่อยู่ที่ดัมสแควร์ และไปพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีจัดแสดงรูปภาพ The Starry Night อันโด่งดังของแวน โก๊ะ

ส่วนตอนกลางคืน อีฟพาผมไปเดินเที่ยวย่าน Red Light หรือซอยโคมแดงอันโด่งดัง นอกจากกัญชาที่ถูกกฏหมาย(แบบจำกัดพื้นที่การสูบ)แล้ว อาชีพค้าบริการทางเพศแบบถูกกฏหมายยังขึ้นชื่อที่นี่ด้วย ย่าน Red Light นั้นจะเต็มไปด้วยร้านที่มีหญิงสาวที่ขายบริการ คอยยืนโชว์ตัวอยู่ในตู้กระจกหน้าร้าน พร้อมไฟสีแดงอันเป็นสัญลักษณ์ที่รู้กันว่า ร้านนี้เป็นร้านประเภทไหน

นักท่องเที่ยวหรือลูกค้าที่สนใจก็เดินเข้าไปได้เลย แต่บอกตรงๆว่า สาวๆที่อยู่ในตู้นั้น สู้อีฟไม่ได้สักคน บางคนก็เป็นคนยุโรปอพยพ เช่นสาวๆโมร็อกโกอะไรทำนองที่ บางคนก็หุ่นป้าๆหน่อย แต่ผมไม่แน่ใจว่า อาจจะมีแบบเกรดดีๆอยู่ข้างในหรือเปล่า เคยถามอีฟครั้งนึง ก็โดนเธอประชดกลับมา หาว่าผมอยากจะไปใช้บริการ แล้วเธอก็เดินงอนหนีไปเลย กว่าจะง้อได้ก็แทบตาย


วันที่สองนั้น อีฟบอกผมว่าอยากให้ผมสัมผัสชีวิตคนเนเธอร์แลนด์แบบชัดๆกว่านี้ เธอจึงพาผมไปเช่าจักรยานคนละคัน แล้วพาปั่นไปทั่วกรุงอัมสเตอร์ดัม

ที่เนเธอร์แลนด์นั้นเป็นประเทศเล็กๆ ที่แม้แต่ผมเองก็ไม่เคยสนใจมาก่อน จนกระทั่งได้มาสัมผัส กลับพบว่ามันมีมนต์เสน่ห์อย่างเหลือเชื่อ ที่นี่คนใช้จักรยานกันมากกว่ารถยนต์ซะอีก พอได้ลองมาปั่นจักรยานแล้ว ผมพบว่า มันปั่นง่ายมาก เพราะถนนทุกเส้นในเมืองจะมีทางจักรยานโดยเฉพาะ คู่กับไปถนนที่รถยนต์ใช้

กฏจราจรของที่ประเทศนี้ ให้ความสำคัญกับคนเป็นอันดับแรก คนเดินถนนสำคัญที่สุด รถทุกชนิดต้องหยุดให้

อันดับต่อมาเป็นจักรยาน จักรยานต้องหยุดให้คน แต่รถทุกชนิดต้องหยุดให้จักรยาน

อันดับต่อมาถึงจะเป็นรถ ที่รวมไปถึงรถยนต์และมอเตอร์ไซต์

ที่ผมทึ่งที่สุด เรียกว่าเป็นประสบการณ์ที่ผมไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิตที่กรุงเทพฯ มีครั้งหนึ่ง ผมจะข้ามถนนกับอีฟตรงทางม้าลาย ตามนิสัยคนกรุงเทพฯอย่างเรา ก็คงต้องรอรถให้ขับผ่านไปก่อน และถนนว่างจริงๆถึงจะข้ามได้  แต่แค่ผมกับอีฟยืนข้างถนนตรงทางม้าลาย ยังไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะข้ามถนน ถนนทุกคันทั้งสองเลนก็จอดสนิท ให้ผมกับอีฟเดินข้ามแล้ว

ความสะดวกสบายของที่นี่ มันถึงขั้นที่ว่า คนแก่อายุ 7-80 หรือแม้แต่คนพิการ สามารถขี่สกู๊ตเตอร์สามล้อไฟฟ้าไปซื้อของเองได้ ไปไหนมาไหนเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาลูกหลาน  เพราะถนนทุกเส้นนั้นปลอดภัยมาก

นั่นเป็นประสบการณ์ที่แสดงถึงความมีวินัยในกฏจราจรที่ผมอดจะหวังไม่ได้ว่า มันจะเกิดขึ้นที่ประเทศไทยบ้าง



#########



และในที่สุดวันนี้ก็มาถึง ค่ำๆวันนี้ ไฟล์ทที่แทนนั่งมาจะมาถึงกรุงอัมสเตอร์ดัม และผมกับอีฟก็จะไปรับเธอที่สนามบิน บ่ายวันนั้น เราเลยตัดสินใจไปเดินเล่นย่านหนึ่งในอัมสเตอร์ดัม พร้อมกับนั่งทานอาหารเที่ยงริมคลอง

ร้านอาหารนี้เป็นร้านไม่ใหญ่มาก ตั้งอยู่ริมคลอง มีเรือทัวร์ท่องเที่ยวขับผ่านไปมาอยู่เรื่อยๆ ผมกับอีฟนั่งละเลียดอาหารเที่ยงพร้อมกับเสพย์บรรยากาศอยู่ที่โต๊ะบริเวณนอกตัวร้าน

รอบๆนั้นมีนักท่องเที่ยวเดินผ่านไปมาเป็นระยะ แต่ก็น้อยกว่าย่านโรงแรมแรกที่เราพักกัน คงเพราะบริเวณนี้ห่างจากสถานีรถไฟนั่นเอง

และในระหว่างที่เราทานอาหารกันนั้นเอง หูผมก็ได้ยินเสียงในภาษาอันคุ้นเคย..

"เห้ยยย!! แก!! มันเอากระเป๋าไปแล้ว Help me!!" เสียงผู้หญิงดังขึ้นมา ทำเอาผมหันขวับไปทิศที่มาของเสียงตามสัญชาติญาณ แต่ผมไม่เห็นอะไร ผู้คนยังเดินกันตามปกติ ไม่มีอาการตื่นตกใจอะไรทั้งสิ้น แต่.. ผมมั่นใจว่าผมได้ยินจริงๆนะ

"อีฟได้ยินเสียงมั้ย" ผมหันไปถามอีฟที่นั่งอยู่ตรงข้าม

"เสียงอะไร?" เธอทำหน้างงๆถามผม

"เสียงคนไทย ขอความช่วยเหลือ" ผมบอกเธอแล้วก็หันกลับไปหาที่มาของเสียง

"ไม่ได้ยินนะ ถ้าพี่ไม่คิดไปเองก็สงสัยพี่จะมีประสาทสัมผัสหูดีมั้งเนี่ย" อีฟบอกผม

"อีฟรอพี่แปปนะ เดี๋ยวพี่มา" ผมบอกอีฟแล้วรีบวิ่งไปทิศที่มาของเสียงทันที ทั้งๆที่ไม่รู้เลยว่ามันคืออะไรและอยู่ที่ไหน

"เอ้ยย พี่.. โอ้ยยย อะไรจะคิดเร็วทำเร็วขนาดนั้น" เสียงอีฟดังไล่หลังผมมา ผมเข้าใจว่าเธออยากมาด้วย คงด้วยความเป็นห่วงแหละ แต่จะมาทันทีก็ไม่ได้ เพราะยังไม่ได้จ่ายค่าอาหาร และผมก็ต้องรีบ เพราะผมค่อนข้างแน่ใจว่า เสียงที่ผมได้ยิน คือเสียงคนไทยที่ต้องการความช่วยเหลือ

แล้วผมก็วิ่งข้ามถนนเข้าซอยเล็กๆซอยหนึ่ง ผมไม่รู้ว่าทำไม แต่ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเสียงดังมาจากที่นี่ แล้วภาพก็ปรากฏตรงหน้าผม..

หญิงสาวคนไทยสองคนยืนทำหน้าตกใจอยู่ในซอย รอบๆคนดู ส่วนไกลออกไป ผมเห็นคนวิ่งหนีไปพร้อมกระเป๋าที่ดูเป็นกระเป๋าผู้หญิงในมือ เธอคงโดนวิ่งราวกระเป๋าสินะ

"เกิดอะไรขึ้นครับ มีอะไรให้ช่วยมั้ย" ผมวิ่งมาหยุดที่สองสาวนั้นพลางถามออกไปเป็นภาษาไทย

"คนไทยเหรอคะ คุณ ไอ้คนนั้นมันกระชากเป๋าไป ทำยังไงดี" หญิงสาวคนหนึ่งบอกผม

"รอนี่นะครับ" ผมไม่รอให้เธอตอบอะไร ตัดสินใจออกวิ่งตามโจรคนนั้นทันที

ระยะห่างระหว่างผมกับโจรคนนั้น คงราวๆ 5-60 เมตรได้ ให้ตายสิ วิ่งยังไงจะทันเนี่ย แถมผมเพิ่งจะวิ่งข้ามถนนมาด้วย แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ผมพยายามเร่งฝีเท้าสุด

แล้วโจรคนนั้นก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกซอย ผมไม่รอช้า รีบตามเข้าไป พอเข้าซอยไปแล้ว โจรนั้นเริ่มวิ่งช้าแล้ว คงเพราะออกแรงวิ่งเต็มที่มาตอนแรก ตอนนี้คงเริ่มเหนื่อย เป็นโอกาสของผมละ แต่ปัญหาคือ ผมก็เหนื่อยเหมือนกันนี่สิ

ผมเริ่มจะหอบ ระยะห่างระหว่างผมกับโจรคนนั้นไม่ได้ใกล้ขึ้นเลย เพราะแม้ว่าโจรคนนั้นจะวิ่งช้าลงเพราะความเหนื่อย แต่ผมก็เหนื่อยเหมือนกัน ให้ตายสิ ผมอยากควบคุมกล้ามเนื้อให้ออกแรงวิ่งได้เร็วขึ้นชะมัดเลย

คิดเท่านั้นแหละ ความเหนื่อยผมหายไปทันที สองขาผมกลับมาก้าวยาว เร็ว และถี่ขึ้น ผมนึกขึ้นได้ว่า ผมสามารถควบคุมกล้ามเนื้อได้นี่นา และเมื่อกี๊คงเป็นวิธีการควบคุมกล้ามเนื้อนั่นเอง แต่ผมไม่มีเวลาคิดอะไรต่อแล้ว เพราะตอนนี้ โจรคนนั้นอยู่ในระยะที่ผมจะคว้าตัวมันได้

"เห้ยยยย Stop!!!" ผมตะโกนภาษาอังกฤษแบบง่ายๆไปในตอนที่ผมวิ่งถึงตัวมันพร้อมกับเอื้อมมือไปกระชากเสื้อมันจนมันเสียหลักล้มไปพร้อมๆกับผม

ตุ้บบ!!! ผมกับมันกลิ้งไปกองกับพื้นจากการเสียหลักในจังหวะที่ผมรวบมัน คนแถวนั้นถึงกับตกใจ เพราะคนที่อยู่ซอยนี้ไม่รู้มาก่อนว่า ไอ้คนนี้คือโจรที่กระชากกระเป๋าหนีมา

ผมลุกขึ้นตั้งหลักได้ก่อนรีบกระชากคอเสื้อโจรฝรั่งคนนั้นพร้อมกับเงื้อมืออีกข้างเพื่อจะต่อยใส่ แต่ไม่ทันจะได้ออกหมัด มันก็รีบยกมือพูดขอโทษทันที

"Stop Sorry Sorry!! Please forgive me. Take it back!!" มันระล่ำระลักพูดภาษาอังกฤษรัวๆ ผมก็ฟังไม่ค่อยทัน ได้ยินแค่ Sorry และสังเกตุท่าทางที่มันยื่นกระเป๋าคืนให้ ก็เข้าใจว่ามันขอโทษ ผมเลยปล่อยมือจากคอเสื้อมันพร้อมหยิบกระเป๋าถือนั้น ก่อนจะปล่อยมันวิ่งหนีไป

ผมไม่แน่ใจว่าทำไมมันไม่สู้ผม อาจจะเพราะมันไม่ใช่คนที่สู้คนอยู่แล้ว มันถึงต้องเลือกเหยื่อเป็นผู้หญิง พอเจอคนที่สู้มันกลับได้ มันก็เลยไม่กล้า หรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะมันวิ่งหนีมานานจนเหนื่อยเกินกว่าจะออกแรงสู้ แต่ไม่ว่าจะสาเหตุไหน ผมก็ได้กระเป๋ากลับคืนมาแล้ว ท่ามกลางสายตางงๆของนักท่องเที่ยว


ผมเดินกลับมาที่ซอยเดิมอีกครั้ง พร้อมกับยื่นกระเป๋าถือนั้นส่งคืนกลับให้หญิงสาวคนนั้น

"นี่ครับ ของคุณใช่มั้ย" ผมบอกเธอ พร้อมพินิจใบหน้าเธออีกครั้ง อ่า.. น่ารักแฮะ

หญิงสาวคนนั้นสูงพอประมาณ ผิวขาว หน้าออกหมวยๆไทย ที่จริงก็สวยเลยแหละ ดูจมูกโด่งรับกับริมฝีปากได้รูป

ส่วนเพื่อนเธอ ไม่ได้สวยเท่า ออกแนวน่ารักๆหน่อย แต่ก็ดูดีไม่ต่างกันมาก คนละสไตล์

"ใช่ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ไม่คิดว่าจะเจอคนไทย" เธอคนนั้นพูดตอบกลับ

"ไม่เป็นไรครับ พอดีผมได้ยินเสียงร้องภาษาไทย เลยรีบวิ่งมาดู คิดว่าเป็นคนไทย แล้วก็ใช่จริงๆ" ผมบอกเธอยิ้มๆ

"ใจดีมากเลย ขอบคุณจริงๆนะคะ มาเที่ยวเหรอคะ" เธอถามผม

"อ่าใช่ครับ" ผมบอก

"ไม่ทราบชื่ออะไรคะ เราชื่อเบลล์ ส่วนนี่พัด" เธอแนะนำตัวเองพร้อมกับหันไปแนะนำเพื่อนที่ยืนด้วยกัน

"ผมต่อครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ มาเที่ยวกันสองคนเหรอครับ" ผมถามเธอกลับไป

"มาทำงานค่ะ เราสองคนเป็นแอร์ฯ ตอนนี้พักร้อน เดี๋ยวทำไฟล์ทกลับอีกทีหลังปีใหม่เลย" เธอบอกผม มิน่าละถึงดูดี เพราะเป็นแอร์นี่เอง

"อ่อ.. ทำงานแล้ว เป็นพี่ผมแน่ๆ ผมเรียนปีสี่อยู่ครับ" ผมบอกเธอยิ้มๆ

"อ่าวเหรอคะ ยังไงก็ขอบคุณมากๆนะคะที่ช่วยพี่ไว้" เบลล์บอก

"ไม่เป็นไรครับ ยังไงดูแลตัวเองด้วย เที่ยวให้สนุกนะครับ" ผมบอกทั้งคู่ก่อนจะก้มหัวให้นิดนึงก่อนจะเดินจากมา ผมได้ยินเสียงพัด เพื่อนของเบลล์กระซิบว่า

'โหยแก น่ารักชะมัด ทำไมไม่ขอไลน์ไว้'

'จะบ้าเหรอ เป็นผู้หญิงจะขอก่อนได้ไง แค่เค้ามาช่วยก็ดีแค่ไหนแล้ว'

'พระเอกมากๆอ่ะ เสียดาย เกือบได้กินเด็กแล้วแก'

'ไอ้บ้า'

แล้วเสียงทุกอย่างก็หายไป กลายเป็นเสียงปกติ เห้อ.. จะว่าดีมันก็ดีนะ ไอ้ความสามารถในการได้ยินเสียงจากที่ไกลๆเนี่ย แต่มันควบคุมไม่ได้ และมันคงไม่ดีเท่าไหร่ ถ้าอยู่ดีๆจะได้ยินเสียงแว่วมา สักวันผมคงหลอนจนเป็นบ้าแน่ๆ

แต่เอ๊ะ.. เมื่อกี๊พวกเธอบอกว่าผมน่ารักเหรอ ผมเนี่ยนะ? เกิดมาผมยังไม่เคยมีใครชมว่าหล่อหรือน่ารักเลย สงสัยพวกหล่อนตาถั่วแน่ๆ



สวัสดีครับคุณผู้อ่าน

EP-24 เสิร์ฟร้อนๆมาแล้วครับ

ก่อนอื่นเลย ขอบคุณทุกคนสำหรับเรื่องอัพ ที่เสียไปจากโควิดครับ ดูแลตัวเองกันด้วยนะครับ

สำหรับเรื่องสายตาผม ขอบคุณสำหรับคำแนะนำทุกคนครับ เดี๋ยวสถานการณ์โควิดดีขึ้น ว่าจะไปตรวจละ

ส่วนเรื่องเสริม เท่าที่ลองฟังเสียงดู คนที่อยากให้แต่งเลยมีพอๆกับคนที่อยากให้จบเรื่องนี้ก่อน ผมเลยตัดสินใจว่า จะแต่งเลย แต่ยังไม่เอาลง แต่จะค่อยๆแต่งไป ด้วยวิธีนี้ ผมก็จะได้รักษาไอเดียเรื่องที่สองผมไปด้วย และไม่กดดันด้วย เพราะไม่ต้องกลัวว่าลงช้า พอเรื่องนี้จบ ค่อยเอาเรื่องนั้นลงต่อ คิดว่าวิธีนี้น่าจะดี

ส่วนคำถามสนุกๆ EP นี้ ลองทายกันเล่นๆครับ ว่าตัวละครใหม่ที่ชื่อ เบลล์ คือใคร มีความสัมพันธ์อะไรในเรื่อง

ไม่รู้จะมีใครพอจะนึกออกมั้ย ลองทายกันเล่นๆสนุกได้ครับ

เหมือนเดิม คอมเม้นท์เพื่ออ่านตอนจบของ EP นี้นะครับ

ขอบคุณครับ





 


เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

adof13

หวังว่าไม่ใช่คนในองร์กรน่ะ

eltas007

ทำไมโจรไม่สู้กลับหนอหรือว่าเป็นการทดสอบ ::Doubt::

865162

หลุมพรางหลอกล่อให้ติดกับดักแน่นอน ลงมือนิดหน่อย ก็หนีแล้ว

wolfsburg7

เพิ่มขนาดฮาเร็มอีกหรอ จะบอกแทนยังไงว่าซั่มกับน้องอีฟไปแล้วอ่ะ

onzoul

โอกาสทดลองโน้มน้าวทีเดียวสองคนมาแล้วครัช

pornpol

คิดว่าเบลล์น่าจะเป็นคนขององค์กร แต่จะเป็นฝั่งไหน น่าจะเป็นการจัดฉาก

Kasidis Laoruang

ชอบตรงควบคุมกล้ามเนื้อได้นี่แหละ

weeraj

จะได้สาวๆเพิ่มอีกแล้วแน่ๆแบบนี้

phurin84

ยังไม่สวิงแทนอีฟเลยได้คู่ใหม่ละเหรอ

เอเค

ลองกับแทนมังน่าจะตกใจแน่เลย

thongdaeng_skk

ควบคุมกล้ามเนื้อส่วนสำคัญให้ใหญ่ขึ้นได้ อีฟกับแทนก็ติดใจเลยซิ

terapoong48

น่าจะจัดฉากให้เจอเบลแต่จะฝ่ายไหนนี่สิ

kopXIIII

เหมือนความสามารถจับฉ่ายมากๆ
แต่ถ้าฝึกดีๆจะโหดมากๆ

ones26421

ขอให้ได้แอร์ฯจริงๆนะ อย่าให้เป็นคนขององค์กรปลอมตัวมา