ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_nato87

เกมรักภารโรงเฒ่า ปี 2 ตอนที่ 20.5 : รักนี่มันผิดคิว (หรือเปล่า?)

เริ่มโดย nato87, พฤษภาคม 03, 2021, 07:50:13 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

nato87

พูดคุยก่อนอ่าน : มาแล้ว ๆ มาอย่างเร็วครับ กับตอนใหม่ของเกมรักฯ ตอนนี้เป็นบทสรุปและเก็บตกเรื่องราวของพิมมี่และแนนนี่นะครับ และยังเป็นการเกริ่นนำไปยังตอนใหม่ในตอนที่ 21 : น้องหมวยลำเค็ญ สวนจะลำเค็ญเรื่องอะไร ก็ขอให้ลองติดตามกันนะครับ 5555555+ หลังจากนี้ก็จะเป็นฉากอีโรติกยิงยาวครับช่วงนี้ หลังจากเสร็จศึกน้องหมวย ก็จะตามมาด้วยฉาก 3P ระหว่างลุงพล แนนนี่ และพิมมี่ เป็นอันว่าเหลือแค่น้องลูกขวัญเพียงคนเดียวเท่านั้น ก็จะครบองค์ประชุมนางฟ้าทั้ง 12 องค์แล้ว

แต่ยังไม่ถึงเวลาของน้องลูกขวัญนะครับ เพราะหลังจากศึก 3P จะเป็นฉากย้ำรักระหว่างลุงพลและน้องอีฟ โดยหลังจากฉากย้ำรักกับน้องอีฟ คุณจะได้สมหวังกับฉากเปิดซิงน้องลูกขวัญนะครับ เอาละ สรุปแล้วกัน ว่าคุณจะได้เจอฉากอีโรติกอะไรบ้างหลังจากนี้

เกมรักตอนที่ 21 : น้องหมวยลำเค็ญ
เกมรักตอนที่ 22 : มนุษย์ลุงสามพี
เกมรักตอนที่ 23 : อดัม (ไม่ได้) คู่กับน้องอีฟ

ปล.แต่ละตอนอาจมีตอนย่อย แบ่งเป็นหลาย Part นะครับ บอกไว้ก่อน


#############################

ความเดิมจากตอนที่แล้ว


https://xonly8.com/index.php?topic=243452.0

"กริ๊งงงง!!!!" เสียงนาฬิกาจากโหมดตั้งปลุกไอโฟนรุ่นใหม่ของพิมพาภรณ์ดังขึ้น เป็นเวลาประมาณ 7 โมงเช้า ของวันศุกร์สุดสัปดาห์ คนร่างอวบตื่นขึ้นมาในสภาพเปลือยเปล่างัวเงียสุดขีดเพราะเมื่อคืนเธอและพริตตี้สาวอย่างนริศราได้ทำการเมคเลิฟกันอย่างถึงพริกถึงขิง

"อือออ...เช้าแล้วเหรอ?" นริศราที่นอนตะแคงเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง โดยมีเพียงแค่ผ้าห่มลูกฟูกสีขาวปกปิดเรือนร่างลืมตาตื่นขึ้นมาในสภาพงัวเงีย "กี่โมงแล้วพิม?"

"เจ็ดโมงเช้า..." พิมพาภรณ์ตอบ "วันนี้แนนมีเรียนไหม?"

"มี...อือออ" พริตตี้สาวพยายามจะลุกขึ้น แต่ว่า "โอ้ย!!!"

"แนน!!! แนนเป็นอะไรอ่ะ!!!" คนร่างอวบเอ่ยปากด้วยความเป็นห่วง พลางเอื้อมมือแตะที่ไหล่ของอีกคนที่กำลังเอามือกุมท้องน้อย คล้ายคนปวดประจำเดือน

"ปวดท้องน้อยอ่ะ..." นริศราเริ่มจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้ และรับรู้ว่าอาการปวดท้องน้อยที่เกิดขึ้นมันเกิดจากอะไร ด้วยเหตุนี้ เลยทำให้ใบหน้าของพริตตี้สาวแดงก่ำไปด้วยความเขิน "ก็เมื่อคืน..."



"แนน..." พิมพาภรณ์ก็เช่นกัน ภาพเกมรักเมื่อคืนมันฉายซ้ำกลับมา เพื่อย้ำเตือนว่าประสบการณ์ที่ทั้งคู่ได้พบเจอนั้น มันร้อนแรงมากเพียงใด "เมื่อคืนเราทำแนนเจ็บมากไหม?"

นริศราแม้จะเอามือกุมท้องน้อยด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ยังมีเส้นโค้งปรากฏบนริมฝีปาก และภาพประสบการณ์เกมรักครั้งแรกในชีวิตของพริตตี้สาว ที่ยังตราตรึงอยู่ในความทรงจำของเธอ

"อ๊า!!! พิมมมม!!!! เบา ๆ หน่อยซิ!!" ภาพนริศราที่นอนคว่ำทับหมอนยกบั้นท้ายเปลือยเปล่าสูงฉายซ้ำในความทรงจำ แต่ที่มันจะวาบหวิวในอารมณ์คือภาพของพิมพาภรณ์ที่นั่งประกบอยู่ด้านหลัง และสอดใส่นิ้วกลางเข้าไปในถ้ำสวาทและนิวชี้เข้าไปทางประตูหลังของพริตตี้สาว พร้อมกับดึงเข้าและดึงออกเพื่อสร้างความหรรษาให้กับอีกฝ่าย "มันฝืด ๆ ยังไงไม่รู้อ่ะ!!!"

"ฝืดตรงรูก้นใช่ไหม?" คนร่างอวบพ่นน้ำลายใส่รูก้นของนริศราโดยที่นิ้วชี้ยังปักอยู่เพื่อช่วยในการล่อลื่น ก่อนทำการสอดใส่นิ้วทั้งสองข้างเข้าไปเพื่อสร้างความหรรษาให้กับพริตตี้สาวที่กำลังร้องครางเสียงหวาน "อย่าเกร็งนะแนน...อย่าเกร็ง...."

"อ่ะ...อ่ะ...อ่าห์" คนสวยจากเมืองขอนแก่นเชิดหน้าหลับตาพริ้มด้วยความสุขสม ขณะกำลังถูกนิ้วเย็น ๆ ของพิมพาภรณ์สำรวจภายในโพรงสวาทและประตูหลัง

"ชอบไหมแนน..." พิมมี่ใช้มืออีกข้างที่ยังว่างเสยปอยผมไว้ด้านหลัง ก่อนโน้มศีรษะลงไปจูบแผ่นหลังของพริตตี้สาว แล้วอ้าปากลากลิ้นเลียแผ่นหลังเปลือยเปล่า แล้วลากขึ้นบนจนถึงท้ายทอย ก่อนฉวยโอกาสที่อีกฝ่ายเผลอแล้วงับติ่งหูเหยื่อสาว

รูหอยกับรูตูดโดยนิ้วพิมมี่เสียบ ใบหูก็โดนงับ แถมพิมมี่คนร้อนรักยังล้วงแขนไปบีบนมเธออีก เสียว เสียวจนไม่รู้จะเสียวยังไง สุดท้าย แนนนี่ก็เลยน้ำแตกใส่มือของพิมมี่อีกรอบ



"อ๊ะ!!! อ๊ะ!!! อ๊ะ!!!" ร่างของนริศรากระตุกเกร็งด้วยความเสียว จนพิมพาภรณ์รับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน

"ว๊ายยย!!!! แนนน้ำแตกอีกแล้วเหรอเนี่ย!!!" พิมมี่หัวเราะคิกคักชอบใจ "ทำไมจุดเดือดต่ำแบบนี้เนี่ย!!!"

นริศรากระตุกตัวเกร็งจากการถึงจุดสุดยอดรอบที่สาม ส่วนพิมพาภรณ์ก็รอให้อีกฝ่ายหายเหนื่อยดีเสียก่อน แล้วถึงค่อยจับพริตตี้สาวนอนหงายแล้วแทรกเข้าไปตรงกลาง เพื่อทำการบดหอยต่อเป็นรอบที่สอง

"อือออออ....เสียวววว" สองสาวบดหอยกันอย่างเมามันส์ สุดท้ายพิมมี่ก็น้ำแตกเป็นรอบที่สอง ส่วนแนนนี่นะเหรอ น้ำแตกไปรอบที่สี่ สองสาวนอนกอดก่ายหมดแรงก่อนเผลอหลับไปในท้ายที่สุด

..........................................

ตัดมาที่ปัจจุบัน นริศราพยายามจะลุกขึ้น ด้วยท่าทางที่ยากลำบาก จนพิมพาภรณ์ต้องช่วยประคองให้ ราวกับผัวกำลังช่วยประคองเมียที่กำลังตั้งท้องไม่มีผิด

"ให้พิมช่วยนะ..." พิมมี่เสนอตัวช่วยประคองแนนนี่ที่กำลังพยายามลุกขึ้น

"ไม่เป็นไร ๆ เดี๋ยวแนนลุกเอง..." พริตตี้สาวพยายามปฏิเสธ แต่ในจังหวะที่กำลังจะลุกขึ้น ก็เกิดเสียหลัก จนพิมมี่ต้องเข้าไปช่วยประคอง แล้วทีนี่ ทั้งสองสาวก็เลยเสียหลัก แนนนี่ล้มไปทับร่างของพิมมี่บนเตียง นมชนนม หน้าท้องนาบหน้าท้อง และตาจ้องตา

"เอ่อ..." สองสาวจ้องหน้าอยู่สักพัก ก่อนที่นริศราจะเอ่ยปากทักเป็นคนแรก "จะมองหน้าแนนอีกนานไหมพิม?"

"อุ้ย!!! ขอโทษ!!!" พิมมี่ได้สติ ก็เลยรีบลุกขึ้นจากเตียง แล้วเดินไปหยิบเสื้อผ้าและชุดชั้นในที่ถูกทิ้งเรี่ยราดบนพื้นห้อง ส่วนแนนนี่ ก็พยายามลุกขึ้นจากเตียง ถึงแม้ว่าจะยังปวดตรงบริเวณท้องน้อยอยู่ "ว่าแต่ เดี๋ยวเราอาบน้ำเสร็จ เราขอยืมชุดนักศึกษาของแนน ว้ายย!!! ตายแล้ว!!!"

ภาพที่พิมพาภรณ์เห็น คือภาพรอยเลือดที่เปื้อนอยู่บนเตียงเป็นดวงเล็ก ๆ สามสี่จุด คนร่างอวบเงยหน้ามองเจ้าของห้องราวกับรู้ว่าเมื่อคืน เธอได้ทำรุนแรงกับเจ้าของห้องมากไปหน่อย จนถึงขั้นเลือดตกยางออก

บางทีอาจเป็นตอนที่พิมมี่สอดใส่นิ้วเข้าไป นิ้วของเธออาจไปฉีกเยื่อพรมจารีย์ของพริตตี้สาวจนขาด หรือบางทีอาจเป็นการบดหอย หรืออาจทั้งสองอย่างก็เป็นไปได้

"สงสัยต้องเอาไปซักแหะ..." นริศราที่ยังยืนแก้ผ้าเอามือกุมท้องน้อย ดูเหมือนว่าพริตตี้สาวจะไม่ได้รู้สึกสะเทือนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากเท่าไร

"แนน..." พิมพาภรณ์เอ่ยชื่อเรียกอีกคน "ขอโทษนะ เรื่องเมื่อคืน..."

"อือออ!!!! ไม่เป็นไรหรอก!!!" นริศราโบกมือ "เรื่องธรรมดา ว่าแต่ไหน ๆ เราสองคนก็ยืนแก้ผ้ากันแบบนี้แล้ว อาบน้ำพร้อมกันเลยดีไหม จะได้รีบแต่งตัวไปหาข้าวกินในมหาลัย แนนหิวมากเลยอ่ะ เมื่อคืนจัดหนักไปหน่อย..."

"อือ!!!" พอได้ยินแบบนี้เข้า ก็เลยทำให้พิมมี่ใจชื้นขึ้นมาบ้าง ตอนแรกเธอคิดว่าแนนนี่จะเหมือนหญิงสาวอ่อนต่อโลกทั่วไป ที่แบบว่าเสียสาวแล้วมานั่งร้องห่มร้องไห้อาลัยอาวรณ์ แต่แนนนี่กลับต่างกัน ดูแล้วพริตตี้สาวไม่ได้อาลัยอาวรณ์กับสิ่งที่ลูกผู้หญิงควรจะหวงแหนเท่าไรนัก

...แล้วสองสาวก็เดินแก้ผ้าเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกาย โดยที่สองสาวไม่ได้หยอกล้ออะไรกันมากมาย นริศรายื่นขวดสบู่เหลวให้พิมพาภรณ์ที่กำลังบ้วนปากอยู่ตรงซิงค์ล้างหน้า

"สงสัยต้องไปซื้อแปรงสีฟันแล้วแหะ..." พิมพาภรณ์บ่นกับตัวเองขณะกำลังบ้วนปาก

"พิม นี่สบู่เหลวนะ" แนนนี่ยื่นขวดสบู่เหลวให้ ก่อนหันกลับไปเปิดฝักบัวเพื่อชำระร่างกาย



พิมพาภรณ์ยืนมองแผ่นหลังและบั้นท้ายเปลือยเปล่าของนริศรา ก็นึกถึงภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน จากคู่ปรับที่เกลียดขี้หน้ากัน จนสุดท้ายโชคชะตาก็เล่นตลกให้สองสาวได้ทำงานกลุ่มด้วยกัน และได้ปรับความเข้าใจกันจนมีความสัมพันธ์ลึกขึ้นกัน พิมพาภรณ์รู้สึกสับสนตัวเองอย่างบอกไม่ถูก เธอไม่คิดว่าเธอเป็นเลสเบี้ยนหรอก แต่ว่า...

"อะไรเนี่ยพิม?" แนนนี่ที่กำลังสระผมถึงกับตกใจ เมื่อถูกพิมมี่สวมกอดจากด้านหลัง

"เมื่อคืน เป็นประสบการณ์ที่ดีของพิมมากเลยนะแนน..." พิมพาภรณ์สารภาพความจริงออกมา "ขอโทษอีกครั้งนะ กับเรื่องที่เกิดขึ้น"

"ไม่เป็นไรหรอก แนนเองก็อยากเสียซิงมานานแล้ว!!!" นริศราหันไปยิ้มให้อีกฝ่ายที่ยังโอบกอดจากด้านหลัง "ว่าแต่ จะเอานมมาบดหลังแนนอีกนานไหมเนี่ย? มันสยิวนะ!!"

"แหม!!! อยากลองอีกเหรอ!!!" พอได้ยินแบบนี้ พิมมี่ก็ยิ้มหวาน แล้วสองสาวก็หยอกล้อกันอย่างสนุกสนานภายในห้องน้ำ แต่เพราะออกแอ็คชั่นมากไป พริตตี้สาวเลยร้องโอ้ยเพราะอาการเจ็บแปล๊บตรงท้องน้อย

"อุ้ยย!!! ขอโทษนะแนน!!! พิมไม่ได้ตั้งใจ!!!"

"ไม่เป็นไร แนนว่าเรารีบอาบน้ำแล้วแต่งตัวเถอะ หิวมากเลยเนี่ย..."

หลังจากอาบน้ำเสร็จ สองสาวก็เดินออกมาจากห้องน้ำ เพื่อแต่งชุดนักศึกษาไปเรียนที่มหาวิทยาลัย โดยแนนนี่ได้ใหพิมมี่ยืมชุดนักศึกษา

"ใส่ได้ไหมพิม?" นริศราที่กำลังยืนสวมกระดุมนักศึกษาหันไปมองพิมพาภรณ์ที่กำลังแต่งตัวอยู่

"คับนิดหน่อย แต่พอใส่ได้อยู่อ่ะแนน..." พิมพาภรณ์ในชุดนักศึกษาเข้ารูปกระโปรงสแล็คสั้นถึงเข่า แต่ดูเหมือนว่าชุดมันจะคับไปหน่อย เลยทำให้เห็นส่วนนูน ส่วนเว้าส่วนโค้งของผู้สวมใส่มากเป็นพิเศษ



"มันคับจริง ๆ นั่นแหละ นั่นไซส์ใหญ่สุดของแนนแล้วนะ..." นริศราตอบ "เอาไงดี? เอางี้ เอาเสื้อกันหนาวแนนไปใส่ทับอีกชั้นแล้วกัน จะได้ไม่โป๊มาก ส่วนท่อนล่าง เวลานั่งก็ระวัง ๆ หน่อยนะ เดี๋ยวหอยโผล่"

"รู้แล้วจ้าแนน..." พิมพาภรณ์ยิ้มหวานจนเห็นแผงฟันขาว "ยังไงช่วงนี้พิมก็ต้องรบกวนแนนสักระยะนะ ไว้สถานการณ์ดีขึ้น แล้วเดี๋ยวพิมจะกลับไปอยู่ที่หอ"

"ไม่เป็นไร ไม่ต้องเกรงใจหรอก" นริศราตอบ "เอาละ!!! แต่งตัวเสร็จแล้วซินะพวกเรา ไปมหาลัยกันเถอะ"

แล้วสองสาวก็เดินออกจากห้องไป พิมมี่สังเกตเห็นแนนนี่เอามือกุมท้องน้อยตลอดเวลาระหว่างเดิน พอถึงโรงจอดรถ พิมมี่ก็เลยอาสาเป็นคนขับรถให้เอง

"แนน เดี๋ยวพิมขับรถให้เองเอาไหม?" พิมพาภรณ์ยืนทักนริศราที่กำลังกดรีโมตปลดล็อคประตูรถ Toyota Yaris สีขาว ที่มาจากน้ำพักน้ำแรงของนริศรา "ดูแนนไม่ค่อยสบายอ่ะ แนนนั่งเถอะ เดี๋ยวพิมขับรถให้"

"อือ...ก็ได้" นริศรายืนนิ่งชั่งใจ ก่อนยื่นกุญแจรถให้พิมพาภรณ์เป็นคนขับรถให้

..........................................

"ไม่ได้อยากถามแต่แค่อยากรู้ว่าเธอยังรักฉันไหม อยู่ใกล้แค่นี้ แต่เหมือนเธอนั้นอยู่ไกลแสนไกล ใจเธอวันนี้ไปเป็นของใคร...หาไม่เจอ" เสียงเพลงจากสถานีวิทยุชื่อดังถูกเปิดขึ้นภายในรถยนต์ของนริศรา

"รถติดแต่เช้าแหะ..." พิมมี่ที่วันนี้เป็นคนอาสาขับรถยนต์ Toyota Yaris สีขาวของแนนนี่ ที่นั่งอยู่เบาะหน้า โดยสองสาวติดแหงกอยู่บนถนนเส้นวิภาวดีในช่วงแปดโมงเช้า "จะถึงมหาลัยทันไหมเนี่ย?"

"ใครโทรมาตอนนี้เนี่ย?" นริศราหยิบสมาร์ทโฟนจากกระเป๋าสะพาย "พิม เงียบก่อนนะ แม่แนนโทรมา ฮัลโหลแม่?"

พริตตี้สาวเอื้อมมือไปลดเสียงเพลง เพื่อคุยโทรศัพท์กับแม่ที่โทรมาทวงเงินจากขอนแก่น

"แนน โอนเงินให้แม่หรือยัง 10,000 นึง?"

"ยังเลยแม่ เดี๋ยวถึงมหาลัยหนูโอนให้นะ ตอนนี้รถติดอยู่"

"เออ คือพอดีเมื่อคืน รถกระบะพ่อเองเสียว่ะแนน พ่อเอ็งเลยฝากมาขอยืมเงินเองสัก 5,000 บวกกับของเดิมก็เป็น 15,000 นะ"

"แม่!! หนูให้ได้แค่หมื่นเดียวนะ" นริศราตอบทันควัน "ทั้งตัวหนูเหลือติดตัวแค่ไม่พันกว่าบาทเองนะ หมื่นนึงที่หนูจะโอนไปให้ แม่ก็ให้พ่อไปซ่อมรถก่อนซิ"

"นี่!!! พ่อกับแม่มึงก็ต้องกินต้องใช้นะโว้ยยย!!! ทำไม ขอเพิ่มแค่นี้หามาให้พ่อกับแม่มึงไม่ได้เหรอ?"

"แม่ หนูเองก็ต้องกินต้องใช้เหมือนกันนะ ไหนจะค่าโน่นค่านี่ ไหนจะต้องส่งค่ารถอีก"

"อะไรวะ? ก็ไหนว่างานถ่ายแบบเงินดี? เอาเงินไปใช้อะไรหมดของมึง?" แม่ของแนนนี่บ่นตามภาษาคนแก่ไม่ได้ดั่งใจ "ไม่มีจริง ๆ เหรอ?"



"ไม่มีแล้วแม่ โอนให้แม่ไปหมื่นนึง หนูเหลือติดตัวแค่พันกว่าบาทแล้วต้องใช้ตลอดทั้งเดือน งานก็ยังไม่มีเข้า จะเอาเงินที่ไหนให้อีกเนี่ย!!!"

"เออ ๆ ๆ ก็ได้ เลิกบ่นได้แล้ว!!! นี่แม่มึงพ่อมึงนะเว้ยยย พวกกูเลี้ยงมึงมาเหนื่อยแทบตาย ขอเงินเพิ่มนิดหน่อยทำมาเป็นบ่น ตอนกูกับพ่อมึงเลี้ยงมึง กูไม่เคยบ่นให้มึงฟังสักคำ!!"

"แม่!!! แนนขับรถอยู่ นี่ก็ใกล้ถึงมหาวิทยาลัยแล้ว หนูขอวางสายก่อนนะ เดี๋ยวถ้าถึงมหาลัยหนูจะกดโอนเงินไปให้หมื่นนึง" พริตตี้สาวสู้ชีวิตเริ่มเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่น เพราะไม่อยากจะคุยเรื่องนี้อีกต่อไป

"เออ หมื่นนึงก็หมื่นนึง รีบโอนมาแล้วกัน แค่นี้แหละ!!!" ว่าแล้วแม่ของแนนนี่ก็กดวางสาย

"เห้อ...ปวดหัว!!!" พริตตี้สาวถึงกับเอามือกุมขมับ ส่วนพิมพาภรณ์ที่ขับรถอยู่ก็ทำหน้านิ่ง เพราะรู้ดีว่าแนนนี่กำลังเจอกับปัญหาอะไร "หาเงินมาเท่าไรก็ไม่รู้จักพอ!!! พ่อกับแม่นะ!!!"

"ถ้าไม่มี พิมให้ยืมก่อนก็ได้เอาไหม?" พิมพาภรณ์แสดงความมีน้ำใจ

"ไม่เป็นไร ปัญหาของแนน แนนจัดการเอง..." ว่าแล้วนริศราก็หยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเปิดแอปแบงค์กิ้งออนไลน์ เพื่อโอนเงินให้แม่ที่ขอนแก่นเป็นจำนวนเงินหนึ่งหมื่นบาท ไอ้เรื่องที่เธอบอกว่าจะไปโอนเงินอะไรนั่น คือเธอโกหกไปแบบนั้น เพราะเธออยากประวิงเวลาสักหน่อย ก็เท่านั้นเอง แล้วสมัยนี้ การทำธุรกรรมการเงินเรื่องการโอนการถอน สามารถทำได้จากสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียวแล้ว "เฮ้อ!!!!"

นริศราถอนหายใจยาว กับยอดเงินคงเหลือในบัญชีเพียงไม่กี่พันบาท พี่เอก ผู้จัดการส่วนตัวเองก็ยังไม่ได้ป้อนงานใหม่ให้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสิ้นเดือนนี้ เธอจะมีเงินจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าส่วนกลาง และค่าผ่อนรถหรือเปล่าก็ไม่รู้

"แนน ถ้าแนนเดือดร้อนเรื่องเงินจริง ๆ ก็บอกพิมมาเถอะนะ" พิมพาภรณ์ยังยืนยันคำเดิม "ถ้าพิมพอช่วยได้ก็จะช่วย"

"พิมช่วยแนนไม่ได้หรอก..." พริตตี้สาวส่ายหน้า "เงินมันเยอะเกินไป ไม่รู้จะหายังไงไหว..."

"ก็บอกมาก่อนซิ ว่าเป็นเงินเท่าไร..." พิมพาภรณ์ถาม



"แนนต้องหาเงินมาโปะหนี้ให้พ่อกับแม่ที่ขอนแก่นอีก..." พริตตี้สาวถอนหายใจยาว 'อีก 140,000 บาท"

"140,000 บาท!!!!" พิมพาภรณ์ถึงกับตกใจจนเผลอเหยียบเบรค จนรถคันหลังบีบแตร่ไล่หลังเพราะเกือบเสยท้าย "อุ้ย!!! ขอโทษค่ะ ๆ ขอโทษทีแนน!!!! เกือบไปแล้ว!!!" พิมพาภรณ์หันไปพนมมือไหว้ขอโทษคนขับรถคันหลังที่เปิดประตูชี้หน้าเธอ

"จะหาเงินจากไหนดี..." นริศราบ่นอุบ "ตอนแรกก็ว่าจะไปขายตัวให้เสี่ยรวย ๆ แต่ดันไปเจอเสี่ยขี้งก รู้มาก แบ่งจ่ายทีละงวด ก็เลยต้องอดทน ยอมถ่ายแบบเซ็กซี่ โป๊ ๆ เพื่อได้เงินก้อนโตไปโปะหนี้ให้พ่อกับแม่บางส่วน แต่ตอนนี้แนนหมดแล้ว หมดแล้วจริง ๆ ไม่รู้จะสู้ยังไงต่อ..."

"มันต้องมีวิธีซิน่า..." พิมพาภรณ์ขับรถไป ก็นึกหาวิธีช่วยนริศรา "แนน...พิมว่าพิมรู้แล้วจะช่วยแนนยังไง พิมรู้จักผู้ใหญ่ใจดีคนนึง น่าจะช่วยแนนได้?"

"ใครอ่ะ?" แนนนี่ร่นคิ้ว หันไปมองพิมมี่ด้วยความแปลกใจ

"เดี๋ยวแนนก็รู้เอง..." ผู้ใหญ่ใจดีที่พิมพาภรณ์พูดถึง ไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่เป็นลุงพล ที่เคยช่วยเธอเอาไว้เมื่อสมัยที่ไอ้บิ๊กมันขโมยเงินค่าเทอมของเธอไปจ่ายหนี้พนันบอลนั่นเอง

..........................................

เวลาเดียวกัน ณ วิทยาลัยพยาบาล ในช่วงวันศุกร์สุดสัปดาห์

"ฮัดชิ้ว!!!!" ลุงพลที่กำลังทอดปาท่องโก๋เกิดจามขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ "ใครพูดถึงวะเนี่ย!!!"

วันนี้ลุงพลมาทำงานตามปกติ หลังจากเมื่อไม่กี่วันก่อน ลุงพลได้จัดกิจกรรมสานสัมพันธ์รักกับครูเบสท์ ที่ภายหลังลุงพลได้ทราบข่าวมาว่าอาจารย์สาวได้ลาป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกมาก เพราะร้อยวันพันปี ครูเบสท์แทบไม่เคยลาป่วยเลยแม้แต่ครั้งเดียว จะมีแค่ลุงพลเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ดีว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับคุณครูคนสวย

ย้อนกลับไปช่วงเช้ามืดเมื่อวันก่อน...

"ครูเบสท์ครับ...ถึงแล้วครับ" ลุงพลขับรถ Honda Civic สีบลอนด์ ของครูเบสท์มาจอดหน้าปากทางเข้าบ้านของอาจารย์สาว

"อือ..." ภัคจิราในสภาพอิดโรยพยักหน้า ทุกกริยาท่าทางของอาจารย์สาวอยู่ในสายตาของคนขายน้ำเต้าหู้จอมเจ้าเล่ห์ ที่ได้ฉวยโอกาสขืนใจหญิงสาวเมื่อคืน

"ครูเบสท์ครับ?" ด้วยความเป็นห่วง ลุงพลเลยเอื้อมมือจับแขนของภัคจิรา "เมื่อคืน ผมขอโทษนะครับ ผมทำไปเพราะผมรักครูเบสท์นะครับ ถ้าเกิดอะไรขึ้น ผมจะขอเป็นผู้รับผิดชอบเอง..."



"ปล่อย!!!" อาจารย์สาวสะบัดมือตาเฒ่าหื่นแบบไม่ต้องคิด ภัคจิราที่ปกติเป็นหญิงสาวร่าเริงแจ่มใส่ แต่ตอนนี้เธอได้กลายเป็นหญิงสาวอารมณ์ร้าย เพราะถูกตาเฒ่าหื่นมารสังคมอย่างลุงพลฉวยโอกาสข่มเหงขืนใจ จนเกียรติและศักดิ์ศรีของภัคจิราป่นปี้ไม่มีชิ้นดีอีกต่อไป "ลงไปจากรถเบสท์เดี๋ยวนี้ ก่อนที่เบสท์จะโทรแจ้งตำรวจ!!!"

"ครับ..." ลุงพลรู้ดีว่าครูเบสท์ยังโกรธมาก ก็เลยจำใจต้องเดินลงจากรถ ส่วนครูเบสท์ก็เขยิบตัวไปที่เบาะคนขับ แล้วขับรถกลับเข้าบ้านไป

นี่ก็สามวันแล้ว ที่ครูเบสท์ยังไม่ได้มาทำงานที่วิทยาลัยพยาบาล คณะอาจารย์และนักศึกษาพยาบาลทุกคนล้วนเป็นห่วงเป็นใยอาจารย์สาว ที่ไม่ยอมส่งข่าวกลับมา เช่นเดียวกับลุงพลที่อดเป็นห่วงครูเบสท์ไม่ได้ ตาเฒ่าหื่นรู้ดีว่า ส่วนหนึ่งที่ครูเบสท์เป็นแบบนี้เพราะตัวของแกเอง

แต่ถ้าแกไม่ทำแบบนี้ ครูเบสท์จะต้องพบกับโชคชะตาที่โหดร้าย สักวันหนึ่ง ถ้ามีโอกาส ลุงพลตั้งใจว่าจะอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้อาจารย์สาวได้เข้าใจ ถึงเหตุผลที่คนอย่างแกต้องทำแบบนี้

"เฮ้อ!!! ไว้มีโอกาสจะต้องหาทางปรับความเข้าใจกับครูเบสท์สักหน่อยแหะ!!!" ลุงพลบ่นกับตัวเอง แล้วทันใดนั้น ภาพของหมอพลอยก็ลอยเข้ามาในหัว "หมอพลอยก็ด้วย มันน่าจะมีวิธีที่ทำให้สองคนนี้อยู่ด้วยกันได้ซิน่า ก็ชาติที่แล้วเป็นพี่น้องกันไม่ใช่เหรอ!!!!"

เรียกได้ว่าเป็นความคิดที่เข้าข้างตัวเองของลุงพลก็ว่าได้ ก็โชคชะตามันนำพามาถึงจุดนี้แล้ว จะฝืนก็ฝืนไม่ได้ ก็เป็นไปอย่างที่องค์ตุลาการสวรรค์ได้กล่าวไว้ ว่าตราบใดที่ลุงพลยังไม่ได้ครอบครองนางฟ้าครบทั้ง 12 องค์ ก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งอะไรได้ ก็คงต้องปล่อยเลยตามเลยไปก่อน แล้วค่อยมาว่ากันทีหลังอีกที

"ลุงพล!! ขอน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ถุงนึงครับ!!!" เจ้าหน้าที่หนุ่มของวิทยาลัยพยาบาลเดินมาสั่งของที่หน้าร้านลุงพล

"ครับอาจารย์ รอแป๊ปนะ!!!" ลุงพลรีบจัดแจงของให้ลูกค้าทันที

ก็เรียกได้ว่าลุงพลก็ทำงานขายน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋แบบนี้ไปตามปกติจนถึงช่วงบ่าย พอของที่ร้านหมด ตาเฒ่าก็ล้างหม้อทำความสะอาดร้านเพื่อเตรียมกลับบ้านในช่วงเย็น แต่ว่า...

"ฝนจะตกเหรอวะ?" ลุงพลที่กำลังเดินถือหม้อไหไปเก็บที่กระบะรถแหงนมองท้องฟ้าที่มืดครึ้ม แล้วทันใดนั้นเม็ดฝนก็โปรยปรายลงมา จนทำให้ตาเฒ่าหื่นต้องรีบเร่งความเร็วในการเดิน "นั่นไง!!! พูดไม่ทันขาดคำ!!!"

พายุฝนชุดใหญ่เทลงมา ลุงพลรีบเดินกลับไปเอาของที่ยังตกค้างที่โรงอาหาร โดยเดินผ่านทางเชื่อมระหว่างอาคารในช่วงหกโมงเย็น ที่เด็กนักศึกษาพยาบาล เจ้าหน้าที่พยาบาลและคณะอาจารย์ต่างเดินทางกลับกันไปหมดแล้ว แต่ว่า...

"โอ้ยยยย...ช่วยด้วยค่า....เจ็บบบบบบ!!!" เดือนดารา ปีหนึ่ง ในชุดนักศึกษานอนกองกับพื้น หมวยสาวเอามือปิดบาดแผลที่เหมือนงูกัดที่ข้อเท้า "ใครก็ได้ช่วยด้วย!!! หนูโดนงูกัด!!!"



"หมวย!!! นี่มันอะไรกันเนี่ย!!!" ลุงพลที่กำลังจะเดินกลับไปเอาของที่โรงอาหารถึงกับตกใจ เมื่อเห็นน้องหมวย เดือนดารานอนกองบนพื้น "นี่หมวยโดนงูกัดเหรอเนี่ย!!!"

 

โปรดติดตามตอนต่อไป...

เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ฝากติดตามเพจเฟสบุ๊คของผมด้วยนะครับ

https://web.facebook.com/Nato87.The.Storyteller

deamondear





mod_dum

ตัดบทไวไป้ๆๆ คาเลยทีนี้ ททำอิท่าไหนถึงปวดท้องขนาดนั้น

Jane Cactusxp


Nong5670


Darkreader


samajidto


bangsan


peddo

โถน้องหมวย งูตัวนิดเดียวกัดยังร้องขนาดนี้ เดี๋ยวเจออนาคอนดามีหวังทั้งร้องทั้งดิ้นอิอิ
น้องพิมมีนี่ถ้าจะได้เป็นผู้จัดการใหญ่ของทีมนางสิยสองแน่ แต่คงต้องงัดกับหมอพลอยสักพัก หรือจะเข้ากับครูเบสท์ดี อิอิ อาจมีฉากเลสอีก
ขอบคุณครับ