ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

ศูนย์องศา แอบดูสาวนักเรียนไทยทั้งบ้าน นัยน์ตาพายุ

เริ่มโดย onelove, พฤษภาคม 16, 2021, 03:09:22 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

onelove

ตอนที่ผ่านมา https://xonly8.com/index.php?topic=243876.0




เที่ยงวันอาทิตย์ท้องฟ้ามีแดดอากาศกำลังดี จากสถานีตำรวจผมชวนสองสาวเดินกลับบ้าน ระหว่างทางเจ้าหนุ่มผิวดำเดินสวนทางมาทำมือทำไม้ยิ้มหวานแซวน้องทิพย์ "yo h nice boob!" ไม่รู้ว่าเธอแอบรูดซิบเสื้อแจ็คเก็ตลงตอนไหน แม่บักแตงโมนี่คลาดสายตาไม่ได้เลยจริงๆ

        "แล้วเมื่อคืนสรุปมันยังไง.. ตอนเช้าไอ่อั๋นรายงานพี่ว่าโดนวางยากันหมดเลย ได้ข่าวว่าเจ้าแบงค์รับเละ" ผมสบตาน้องเพลิน

        "ฮึ.. หนูไม่ได้กินยานะ" น้องทิพย์ส่ายหน้าหันไปถามเพื่อนร่วมห้องรุ่นน้อง "เพลินก็ไม่ได้กิน เนอะ.. เอิงกินคนเดียวเซ้าซี๊ขอจนอาหมอต้องเดินไปเอาที่รถมาให้"

        "ก็เตือนแล้วนะแต่ไม่รู้ทำไมเอิงยังอยากกิน" น้องเพลินเสริม
        "ไหนอั๋นมันรายงานพี่อิฐยังไงบ้าง ว่ามาซิ" น้องทิพย์ขมวดคิ้วถาม

        "มันเล่าว่าอาหมอรีบเผ่นป่าราบ ส่วนพวกเธอโดนมอมยาปลุกเซ็กส์เดินตามเจ้าแบงค์เข้าห้องกันหมด น้องทิพย์ใช้ปากให้"

        "อั๋นมั่วแระ..เดี๋ยวจะตีเลยใส่ไข่ซะทิพย์เสียคนเลยเนี่ย ทิพย์กับเพลินแค่นั่งดูเฉยๆไม่ได้ทำอะไรกับเค้าเลยแบงค์เมาจะแย่ตอนนั้นก็ป้อแป้เต็มทน แค่เอิงกับน้องแก้มก็แทบจะไม่ไหวแล้วมั้ง นั่งดู เบื่อๆก็เลยชวนเพลินเดินไปแถวบ้านพี่อิฐ แล้วตำรวจก็มานั่นแหละ"

เดินทอดน่องผ่านโบสถ์คนผิวดำยืนออกันหนาตา ทุกคนใส่หน้ากากอนามัยแต่งตัวสุภาพสวยงามถึงแม้จะดูมอซออมฝุ่น เล่าให้สาวๆฟังว่าคนพวกนั้นมาสารภาพบาปร่วมกิจกรรมของโบสถ์เพื่อแลกเงินและอาหารนิดๆหน่อยๆพอประทังในยามยาก ยิ่งช่วงนี้คนตกงานกันเยอะทุกวันอาทิตย์คนจึงมากันมากเป็นพิเศษ

        "สารภาพบาปแล้วบาปจะหายไปได้จริงๆเหรอ" น้องทิพย์เปรยถามกับสายลมเย็น




แปดปีที่แล้ว

ประสบการณ์ลดน้ำหนักจากเกือบเก้าสิบลงมาเหลือไม่ถึงหกสิบกิโลเล่นเอาเกือบตาย พรทิพย์ถึงกับอ่อนแรงเดินไม่ได้จากภาวะขาดสารอาหารจนต้องไปนอนให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาลเกือบเดือน หลังจากอาการค่อยดีขึ้นมีกำลังวังชาเธอพาตัวเองมายืนหน้ากระจกเงา หน้าอกหน้าใจไซส์ยักษ์เจ้าปัญหาลดขนาดลงไปมาก ถึงจะไม่มากอย่างที่หวังก็เถอะ

ทุกสายตามองเธอเหมือนตัวประหลาด "นมใหญ่ขนาดนี้ไปเป็นดาราดีกว่ามั้งจะมามัวคร่ำเคร่งเรียนหนังสือทำไม.." น้ำเสียงสำเนียงของครูลัดดาจงใจให้รู้ว่าดาราในที่นี้คือดาราดาวยั่ว

ในห้องเรียนวันที่เพื่อนๆผู้ชายไปเรียนรด. ครูต้องล้วงเข้าไปในกระโปรงจีบลูบไล้หว่างขาถูนิ้วเขี่ยรัวๆจนกางเกงในเนื้อเนียนตัวน้อยฉ่ำแฉะ พลางพรมจูบพวงแก้มซุกไซร้ซอกคอของลูกศิษย์สาวสาวคนโปรด นอกจากจะไม่ขัดขืนเธอยังยืนเขย่งเกร็งเกาะไหล่ไว้แน่นให้เขาทำงานได้สะดวก พรทิพย์ครางแผ่วเบาในลำคอครูต้องแทรกนิ้วผ่านขอบกางเกงในกดมุดลงลึกในร่องธารชุ่มชื้นบดเขี่ยติ่งเสียว ครูต้องรูดกางเกงในลงจับลูกศิษย์สาวนั่งบนโต้ะสองกลีบสาวรุ่นบวมแต่งอวบอูมไรขนสีดำปกคลุมจางๆลอยคว้างอยู่ตรงหน้า แหย่นิ้วเข้าไปในโพรงถ้ำธารน้ำฉ่ำเยิ้มย้อยเฉอะแฉะพรทิพย์แอ่นส่ายสะโพกสู้ เธอปลดกระดุมจัดการกับท่อนบนของตัวเองจนเปลือยเปล่า ครูต้องก้มซุกหน้าส่ายไซร์สองเต้าตวัดปลายลิ้นดูดขบเม้มหัวนมสลับซ้ายขวา "อ่าาหห์ .. ซื้ดดดสสสสส อื้มมม" สามนิ้วมัดรวมค่อยๆแทรกผ่านช่องแคบอวบอูมแน่น ลูกศิษย์สาวเสียวจนต้องผงกหัวขึ้นดู

        "ใส่ไปกี่นิ้ว.." พรทิพย์ถามเสียงกระเส่า
       "สาม เสียวมั้ย.." ครูต้องกระซิบถามข้างหู มือของเขาจกเข้าออกถี่ระรัวเสียงดังเจ๊าะแจ๊ะ
        "อื้ม.. อ่ะ อ่าาห์ ซี๊ดดดสสสส" พรทิพย์เกร็งหน้าท้องรับแรงกระแทก

ครูต้องถอดกางเกงควักท่อนเนื้อขนาดขนาดมาตรฐานชายไทยจ่อนำศูนย์ที่ร่องเสียวค่อยๆดันสะโพก นักเรียนสาวถึงกับร้องลั่น "โอ้ย ซซซสสสส ..อื้ม " เธอกัดริมฝีปากหลับตาปี๋สองมือดันหน้าท้องทานแรงไว้ก่อน จากเนิบๆค่อยๆเร่งจังหวะพรทิพย์ร่อนส่ายสะโพกลอยรับ ครูต้องกดควยลงทั้งลำจนสาวน้อยสะดุ้งร้องลั่น เขาโน้มลงดูดนมเกร็งหน้าท้องอัดรัวๆยิงสลุตต่อเนื่องชุดใหญ่จนพรทิพย์ร้องเสียงหลงก้นไม่ติดพื้นเกร็งกอดตัวเขาไว้แน่น

        "อย่าแตกข้างในนะ.." พรทิพย์เสียงสั่นระส่ำฟังแทบไม่ได้ศัพท์

ครูต้องได้ยินแบบนั้นกัดฟัดกรอดเร่งฝีเท้าควบเข้าเส้นชัย เขาชักท่อนเนื้อแข็งเกร็งออกมาใส่ปากลูกศิษย์สาวคนโปรดที่อ้ากว้างรอแล้ว น้ำเมือกข้นอุ่นฉีดเข้าในปากจนเกือบสำลัก เธอดูดแก้มตอบหมายจะรีดพิษจนหยดสุดท้ายจนครูต้องเสียวตัวงอเป็นกุ้ง





        "หนูเคยมีอะไรกับอาจารย์เพื่อแลกเกรด เชื่อมั้ย" น้องทิพย์เปรยยิ้มมุมปากสูดหายใจยาว

        "มีอะไรครั้งแรกกับครูสอนคณิตศาสตร์ ตอนนั้นหนูอ้วนมากน้ำหนักเกือบเก้าสิบ ขึ้นม.สี่ถ้าไม่ได้สี่ทุกวิชาก็จะไม่ได้ทุนเรียนของมหาลัย หนูเสนอให้เค้าเอง แถมพอเข้ามาเรียนในกรุงเทพครูก็ยังตามมามีอะไรกันต่ออีก ครูเค้ามีเมียมีลูกแล้ว"

        "พระเจ้ารับรู้บาปของเจ้าแล้ว อาเมน.." ผมแกล้งกระเซ้าน้องทิพย์เล่น "เพลินล่ะ มีบาปอะไรอยากจะสารภาพบ้างมั้ย" ผมหันไปถาม
       
        "มีแฟนอยู่แล้วทั้งคนแต่ไม่ยอมบอกนี่.. บาปมั้ยคะ" ผมได้ยินแล้วจุกจนไม่อยากถามอะไรต่ออีก




เพลงร็อคจะหวะจะโคนท่วงทำนองเร้าใจยุคเซเว่นตี้ดังลอดออกมานอกห้อง น้องแก้มอารมณ์ดีกำลังแต่งหน้าแต่งตัวให้พี่เอิงราวกับเพิ่งได้ของขวัญเป็นตุ๊กตาตัวใหม่

        "เป็นไง..น่ารักมั้ย" น้องเอิงใส่เสื้อสายเดี่ยวกับกางเกงสีสดขาสั้นจุ๊ดยืนเขินหน้าแดงนิ่งราวหุ่นโชว์เสื้อผ้า บนใบหน้าแต่งแต้มสีสันอ่อนๆดูสวยแปลกตา

        "พี่เอิงอ่ะต้องเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวแล้วจะน่ารักคิกขุเลย" น้องแก้มเปรยพลางจูงมือเข้าห้องน้ำเปลี่ยนชุดใหม่ เจ้าแบงค์นุ่งผ้าเช็ดตัวจิบเบียร์แต่หัววันสบายอารมณ์มองดูสาวๆเล่นกันกระหนุงกระหนิงกำลังเพลิน แก้มขนชุดเซ็กซี่ออกมาจากตู้ มังกรน้อยของมันแข็งโด่เป็นกรรมการคอยยกป้ายให้คะแนน   




บิ๋มอาบน้ำแต่งตัวสวยสุภาพใส่กระโปรงครึ่งเข่าราวกับจะไปทำงาน เดินออกจากห้องได้ยินหมาครางหงิงๆชวนแอมแปร์เพื่อนซี๊ตามเสียงไป เห็นอันเดียรสนั่งยองเกาพุงเล่นจู๋เจ้าแลซซี่ที่นอนหงายแหงะใต้ร่มไม้

        "ทำไรอ่ะ..!" บิ๋มย่องเข้าไปขมวดคิ้วถาม
        อันเดียรสรีบชักมือออก "อ๋อ .. ไม่ได้ทำอะไรครับ"
       
        "ก็เห็นอยู่ว่าทำอะไรยังจะโกหกอีก พี่อิฐเขียนโน้ตทิ้งไว้ว่าไปสถานีตำรวจ มีอะไรรึเปล่า"
        "เมื่อคืนสงสัยเสียงดังตำรวจเลยมา แล้วทีนี้ยังไงก็ไม่รู้ดันจับพี่ทิพย์กับพี่เพลินไปโรงพัก" อันเดียรสรายงานพลางเกาพุงเจ้าแลซซี่ต่อ เจ้าหมาชราขยับซบขาแอมแปร์สะดุ้งรังเกียจยกขาถอยหนีพลางบ่นว่าสกปรก

        "ไม่สกปรกหรอก หมาข้างบ้านนี่เอง ปกติมันจะเดินมารอทุกเช้าให้พี่เพลินทำให้"
        "ทำอะไรให้ เกาพุงมันเงี้ยเหรอ" บิ๋มลืมตัวนั่งยองเกาพุงเจ้าแลซซี่จนอันเดียรสเห็นกางเกงในสีอ่อน เจ้าแลซซี่ครางหงิงๆ 
       
        "เปล่าครับ ต้องทำแบบนี้" อันเดียรสจับจู๋เจ้าหมาชราชักขึ้นลงจนส่วนหัวสีแดงของมันโผล่ออกมา "แลซซี่มันแก่แล้วเจ้าของก็ไม่ยอมพาไปหาแฟน ปล่อยนานๆไปจะเครียดไม่สบาย"

        "แหวะ อุบาถว์" แอมแปร์ยืนเบะปากบ่น

        น้องเพลินทำได้เธอก็ทำได้ "แบบนี้ใช่มั้ย" บิ๋มวางปลายนิ้วแทนที่รูดขึ้นลงอย่างที่อันเดียรสทำ เจ้าแลซซี่ครางหงิงๆหนักกว่าเดิมน้ำลายเป็นฟองฟอดกระแซะเบียดขา เจ้าอันเดียรสกำลังเพ่งขาอ่อนแฟนสาวเจ้านายอย่างตั้งใจส่วนบิ๋มก็กำลังมันส์มือไม่ทันระวังตัว ทันใดนั้นเจ้าแลซซี่พลิกตัวกระโจนขึ้นคร่อมหลังจนบิ๋มเสียหลักหน้าคะมำโก้งโค้งปล่อยให้เจ้าหมาชราตะกุยกระแทกฮ็อตด็อกสีแดงลำเขื่องกระเด้าอัดบั้นท้ายบิ๋มรัวๆ อันเดียรสกับแอมแปร์ยืนตกใจอยู่สักครู่จนได้สติจึงช่วยกันแยก   

เดินกลับถึงบ้านสองสาวขอตัวแยกเข้าห้อง ผมเจอบิ๋มกำลังปัดเศษดินเศษขนออกจากเสื้อผ้าเนื้อตัว ออกปากไล่เจ้าแลซซี่กลับบ้านเตือนทุกคนว่าอย่าไปเล่นหัวให้ความสนิทสนมกับมันมากไอ้หมาแก่นี่มันลามก หันมาอีกทีเจ้าอันเดียรสชิ่งหายหัวไปไหนเสียแล้วว่าจะสั่งงานซักหน่อยแม่งไวอย่างกะลิง

        "แล้วนี่แต่งตัวแบบนี้ทำไมอ่ะ อย่างกับชุดทำงาน" ผมถาม
        "พอดีติดกระเป๋ามาด้วยชุดนึงก็เลยเอามาใส่ เมื่อกี๊พี่ขิมโทรเข้าเครื่องแอมถามว่าหนูอยากลองทำงานมั้ย ก็เลยว่าจะลองดู"

        "ทำงานที่ร้านพี่ขิมเนี่ยนะ ไม่ต้องเลย แล้วยิ่งตอนนี้มีโควิดอีกด้วยอย่าหาเรื่องดีกว่า" ผมยืนกรานปฏิเสธ

        "แค่ช่วยทำบัญชีเอง นั่งอยู่แต่ในห้องกับพี่ขิมไม่เป็นไรหรอก"

        "แล้วทำไมเค้าถึงไม่โทรหาพี่จะโทรเข้าเครื่องแอมทำไม"
        "ก็เดี๋ยวจะไปซื้อโทรศัพท์อยู่เนี่ยพี่ขิมเค้าจะได้โทรตรงหาหนูเอง"

        "เออ งั้นเดี๋ยวพี่พาไปซื้อ"
        "จะพาไปยังไง.. รถราก็ไม่มี" แอมแปร์ยิ้มส่ายหัวแดกดัน "หรือจะให้เดินไป อากาศดีๆเดินจีบเด็กสาวๆนี่ท่าจะสระเอพอลออินอ เพ..ลิน ดีเหมือนกันนะ" แอมแปร์ลอยหน้าลอยตา บิ๋มมองสบตาผมแปลกๆ

        "แค่เคลียร์บัญชีง่ายๆคงไม่มีอะไรหรอกไหนบอกว่ามาทั้งทีต้องกอบโกยประสบการณ์ไม่ใช่เหรอ ที่ผ่านมาตั้งแต่เรียนจบหนูก็ทำงานกับป๊ามาตลอดลองทำกับคนอื่นดูบ้างคงไม่เสียหลาย .. เดี๋ยวพี่ขิมมารับไม่ต้องไปส่งหรอก"

สายตาของบิ๋มส่อแววเอาจริง ผมสังเกตุเห็นคราบสีขาวย้อยเลอะกระโปรง ทักว่าเธอไปนั่งทับกาวหรือแป้งเปียกที่ไหนมา




        แฟ้มเอกสารรายรับรายจ่ายวางกองเป็นตั้งบนโต้ะทำงานในห้องพี่ขิม "ไม่ต้องทำวันเดียวหมดนี่นะที่นี่กฏหมายแรงงานมันแรงเดี๋ยวจะหาว่าพี่ใช้งานหนัก" พี่ขิมแซว "ระดับมหาบัณฑิตเอ็มบีเอเอกสารภาษาอังกฤษพวกนี้คงไม่เหลือบ่ากว่าแรง อ้อยมันหนีกลับเมืองไทยไปแล้ว พี่เองก็โง่เรื่องบัญชีซะด้วย" 

        "นี่ถ้าป๊าแกรู้ว่ามาทำงานในสถานที่แบบนี้มีหวังบ่นชั้นหูชาแน่" แอมแปร์ยักไหล่

        "สถานที่แบบนี้มันยังไงเหรอคะน้อง เห็นชอบพูดจาแปลกๆตั้งแต่เจอกันเมื่อวานแล้ว" พี่ขิมสูดหายใจลึก
        "ก็ไม่ยังไงหรอกค่ะ คือปกติพวกหนูเที่ยวกันสถานที่ดีกว่านี้ ที่นี่บรรยากาศมันดูเชยๆอับๆยังไงก็ไม่รู้" แอมแปร์มองเหยียดไปรอบๆสถานที่

ก่อนสถานการณ์จะแย่ไปกว่านี้ ผมหลบฉากเอาเส้นขนจากที่ลับของแอมแปร์ในกระเป๋าเสื้อบรรจงใส่ลงรูเล็กๆ หลับตาภาวนาขอเทพีโอโจดลใจให้ยัยแอมหุบปากเสียทีพลางเลื่อนปลายนิ้วลูบไล้ร่องรอยบากหยัก จู่ๆยัยแอมก็คล้ายหมดเรียวแรงทรุดลงนั่งยองอย่างอัศจรรย์ สองแข็นหนีบลำตัวสั่นเกร็งหน้าตาเหยเกดูไม่ค่อยดี

        "เป็นไรแอม! ปวดท้องเหรอ" บิ๋มตกใจถาม

        "เปล่า.. เปล่า" แอมแปร์ตอบเสียงสากแห้งหน้าซีดลงนั่งพับเพียบกับพื้นร้านที่เธอเพิ่งรังเกียจหาว่าสกปรก พี่ขิมจะพาไปหาหมอแต่เธอโบกมือปฏิเสธ ไม่รู้จะใช้คำศัพท์ยังไงเพื่ออธิบายกับหมอว่าอยู่ดีๆก็รู้สึกเสียววูบจากร่องก้นกระจายวาบไปทั่วหน้าท้องอวัยวะภายในตับไตใส้พุง

        "งั้นอิฐพาน้องกลับไปพักที่บ้านก่อนมั้ย เรื่องบิ๋มไม่ต้องเป็นห่วงอยู่กับพี่รับรองปลอดภัยแน่นนอนเดี๋ยวตอนเลิกพี่ไปส่งถึงบ้านเอง" พี่ขิมออกปาก

เกือบห้าโมงเย็นพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปนานแล้ว ได้กลับมาเยือนร้านพี่ขิมก็เหมือนกลับมาถิ่นเก่าย้อนไปไม่ถึงสามเดือนผมยังล้างจานเทขยะล้างห้องน้ำที่ร้านอาหารกึ่งบาร์แห่งนี้อยู่เลย พี่ขิมยืนยันหนักแน่นด้วยตัวเองว่าจะช่วยดูแลบิ๋มผมก็วางใจไปเปลาะนึง หวังว่าเธอจะได้ประสบการณ์ที่ดีอย่างที่หวัง

        "เดินไหวมั้ย" บิ๋มถามอย่างเป็นห่วง
        "อืม ไหว.." แอมแปร์กุมหน้าท้องค่อยๆทรงตัวลุกขึ้นยืน

แอมแปร์ดูสีหน้าดีขึ้นถึงแม้จะยังขาสั่นๆระหว่างที่กำลังยืนรอสัญญาณไฟข้ามถนน ล้วงมือลูบโอโจบุชโช่ในกระเป๋ากางเกง เสียงสัญญาณข้ามถนนดังถี่แต่แอมแปร์ยังยืนนิ่งหลับตาปี๋ยืนเกร็งตัวแข็งหอบหายใจถี่ซบไหล่กอดแขนผม

        "ไหวมั้ยเนี่ย.." ผมถามพลางประคองเธอข้ามถนน
        "เรากลับบ้านกันเลยนะ" แอมแปร์หรี่ตาเสียงกระเส่า

        "นั่งสายแปดไปต่อเรดไลน์.."
        "ไปแท็กซี่เลยมั้ย! เดี๋ยวแอมออกตังค์เอง" แอมแปร์สวนยังไม่ทันขาดคำ ดูเธอรีบร้อนผิดสังเกตุเหงื่อกาฬเม็ดเล็กผุดเต็มหน้าผาก ระหว่างนั้นผมลูบไล้โอโจบุชโช่ในกระเป๋ากางเกงไปเรื่อยๆ ชักเริ่มจะเชื่อว่าเรื่องราวประหลาดมหัศจรรย์ในโลกนี้ยังมีที่ไม่รู้ไม่เห็นอีกมาก ชักสงสัยว่าหมออัลโตนี่หมอคนหรือหมอผีกันแน่

        "ถ้าปวดขี้เข้าห้องน้ำแถวนี้ก่อนก็ได้นะ" ผมถาม
        "ไม่ได้ปวดอึ นั่นไงแท็กซี่มาแล้ว!!" แอมแปร์ยกมือโบกแทบกระโดดขวาง   

แท็กซี่ทะยานขึ้นฟรีเวย์หนึ่งศูนย์หนึ่งคาร์พูลใส่เต็มสปีด แอมแปร์หอบหายใจถี่ซุกอยู่ที่ไหล่ไปตลอดทาง ตอนสงบเสงี่ยมไม่ปากหมาก็ดูน่ารักดี

        "พี่อิฐอย่าบอกบิ๋มนะ" แอมแปร์กระซิบ

        "บอกเรื่องอะไร"
        "ก็เรื่องเนี้ย.." แอมแปร์พรมจูบที่หัวไหล่ดึงมือผมไปวางที่หน้าอก อีกมือตะปปหมับที่เป้ากางเกงผมลูบบีบเคล้นเจ้าหนอนน้อยเคล้นคลึงจนมันขอมอบตัวยอมจำนนด้วยหลักฐานแข็งเป็นลำคามือ

        "อย่าให้บิ๋มรู้นะ.." เราจูบแลกลิ้นดูดดื่มพัลวัล เสื้อยืดถูกเลิกขึ้นหน้าอกของแอมแปร์ลอยคว้างท้าทายสายตาประชาชีในรถคันอื่นๆ ผมรู้สึกแปลกที่แปลกทางตื่นเต้นเร้าใจสุดๆกับบิ๋มคงไม่ร้อนแรงแบบนี้

คนขับแท็กซี่เค้าหน้าอเมริกากลางลอบปรับกระจกส่องหลังยิ้มอย่างพอใจ พวกนักท่องเที่ยวไชนีสนี่มันขี้เงี่ยนหาเรื่องเอากันได้ทุกที่จริงๆ





 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

Leo the rott




KonMol2




tango2003


elelle




R-cup




battozai