ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

ครั้งหนึ่ง ณ ร้านคาราโอเกะ [ Part 5 ] ตอนที่ 57 ( ประสบการณ์ของนายโทน )

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, มิถุนายน 14, 2021, 11:47:03 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

สวัสดีครับ แล้วก็ถือโอกาส ราตรีสวัสดิ์เลยแล้วกันครับ

ยินดีต้อนรับสมาชิกร้านเกะท่านใหม่ๆด้วย

แล้วก็ขอบคุณสำหรับลูกค้าผู้ที่มาเยี่ยมร้านเกะตั้งแต่ตอนที่ 1 จนถึงปัจจุบัน

รู้สึกขอบคุณมากๆเลยคร๊าบบบบบบ ขอบคุณทุกคอมเมนต์จริงๆครับ  ผมอ่านทุกตอมเมนต์นะครับ สั้นยาวผมก็อ่านหมด

และขอบคุณทุก EDIT และแสดงความคิดเห็นเพิ่มหลังอ่านจบ  มันเป็นกำลังใจอย่างดี

อย่างที่บอกครับกระทู้นี้ Free STYLE คอมเมนต์อะไรก็ได้ครับ เพื่อจะอ่านเนื้อหาที่ซ่อนไว้

ไม่จำเป็นต้อง EDIT ไม่ต้องกลัวผิดกฎใดๆ แต่ระวังกระทู้อื่นๆ หมวดอื่นๆด้วยนะครับ

เราต้องทำตามกฎของบอร์ดและกระทู้นั้นๆนะครับ เพราะเวลา MOD ลงดาบก็เด็ดขาดมา




★★★★★★★★★★★



พี่หมิว... ในวันนั้น






รุกะวันนั้น







★★★★★★★★★★★



ความเดิมตอนที่แล้ว


ผมพามินต์ไปเที่ยวท้องฟ้าจำลองครับ

ซึ่งสิ่งที่รอผมอยู่หลังจากการเที่ยวคือต้องกลับบ้าน

เพื่อไปเตรียมต้อนรับคุณเคย์ มิ้นต์ก็บอกนะว่า

ไม่อยากให้ผมงอแง อยากให้ผมกลับไปทำงาน แต่ที่ผมไม่สบายใจคือ

การต้องทิ้งให้มิ้นต์อยู่คนเดียวนี่แหละ แล้วตอนเย็นยัยตัวแสบก็มาครับ

ผมก็สงสัยนะว่าทำไมทุกอย่างเหมือนลงล็อคไปหมด แต่ก็ไม่มีวเลาคิดแล้วครับ

ผมจะกลับบ้านทันที แต่พี่แมนก็ตามตัวไปที่บ้าน ซึ่งพอไปถึงแล้ว ผมก็รู้ว่า

มีใครบางคนอยู่ที่นั้น ซึ่งเธอก็คือ !!!!



★★★★★★★★★★★




หือ !!!  เดี๋ยวๆ เอาจริงดิ่ เอาจริงดิ๊ !!! รุกะมาทำอยู่ในสวนบ้านพี่หมิว อยู่ในซุ้มสวนบ้านพี่หมิว เอ่อ... ผมได้แต่ด่าตัวเองที่ทำไมไม่คิดอะไรให้มันเข้าใจง่ายๆกว่านี้ล่ะ สิ่งที่ผมเข้าใจนั้นก็คือ !!! ทั้งสองบ้านนี้เขารู้จักกันมากกว่าที่จะเป็นแค่ผู้ร่วมธุรกิจ



แล้วคือสภาพผมตอนนั้นคือกางเกงสามส่วนรองเท้าแตะแบบรัดข้อ . . เสื้อยืดปกติธรรมดาเลย อารมณ์เหมือนพวกคุณอ่ะตอนไม่เจอแฟนเก่าก็แต่งตัวดูดีตลอดเวลา วันไหนอยากแต่งชิลด์ๆ เสื้อยืด กางเกงขาสั้น ลากรองเท้าอีแตะ แต่เสือกมาเจอแฟนเก่า หรือเจอคนที่คุณชอบ




อะไรมันจะซวยปานนั้นนี่แหละอารมณ์ของผม ก็โอ้โห ขนาดตอนที่ผมทำงานที่เชียงใหม่ผมแต่งตัวดีเกือบทุกวัน ผมยังประหม่าเลยเวลาเจอรุกะ แต่นี่ ตอนนี้ เวลานี้ บัดเดี๋ยวนี้ กรู กรูลากรองเท้าอีแตะ ไอ้สั้ส !!! ( เสียงน้าค่อม )



รุกะคือใส่ชุดสีขาวดูสง่ามาเลยครับ  ผมก็เอ่อขอตัวนะครับแล้วจะชิ่งครับ แต่เธอบอกว่าตอนนี้คุณพ่อกับคุณอากำลังคุยกันอยู่ค่ะ แน่ใจเหรอคะว่าจะไปรบกวน อื้อหือ . . . . ผมนี่เสียศูนย์เลยครับ ผมก็เอ่อครับไม่ได้เจอกันนานนะครับ


รุกะเธอบอกหืมอะไรเหรอคะ ไม่ได้เจอกันนาน.. เราพึ่งเจอกันเมื่อวันก่อนไม่ใช่เหรอคะ ผมก็เอ่อ..ครับ ว่าแต่คุณรุกะมาทำอะไรที่นี่เหรอคะ รุกะเธอยิ้มแล้วถามว่าจะให้เธอยืนคุยแบบนี้เหรอคะ ผมก็เอ่อ เอ่อ ผมผายมือแล้วเชิญเธอบอกว่างั้นเชิญนั่งพักก่อนไหมครับ



รุกะเธอยิ้มและก้มหัวให้เหมือนจะขอบคุณที่เชิญ ผมก็รีบก้มหัวให้เธอเลยครับ ผมถามอีกครั้งว่า คุณรุกะมาทำอะไรเหรอครับ เธอมองๆแล้วบอกว่าก็พรุ่งนี้คุณอาบอกว่าจะมีงานเลี้ยงต้อนรับนี่คะ เอาล่ะตอนนี้ผมได้จังหวะแล้วถ้าผม แนะนำที่ดีๆ หรือที่งามๆให้เธอ



เธออาจจะไปบอกคุณเคย์ก็ได้ว่ามีที่ไปที่ใหม่แล้ว ผมก็บอกไปแนะอ้อได้ยินมาแล้วครับ พอดีเลยครับผมมีที่ดีๆ แนะนำเลยครับ บรรยากาศเหมือนที่เชียงใหม่มากๆเลยครับ รับรองว่าคุณรุกะจะต้องชอบมากแน่ๆครับ รุกะเธอมองๆแล้วถามผมว่าที่ไหนเหรอครับ



โอยนี่แหละครับลำบาก คือถ้าเป็นสมัยนี้ผมคงจะจับมือถือของตัวเองมาเปิดปุ๊ป เข้าปั๊ป สไลด์ ๆ ๆ จิ้มๆ ๆ แถมยังแนะนำแอพพริเคชั่นจองแบบถูกๆให้ด้วย แต่ด้วยยุคนั้นมันทำไม่ได้ไงตอนนั้นผมนั่งคิดว่าจะเอาภาพให้ดูยังไง เพื่อที่จะได้จูงใจเธอสำเร็จ



ตอนนั้นเธอก็บอกนะก็คุณอาแนะนำให้แล้ว และพวกฉันก็ชอบมากๆเลยค่ะ เฮือก !!! ยะ แย่แล้วตัวข้า เพราะรุกะเธอนั่งเท้าคางแล้วบอกก็บ้านซารุซังไม่ใช่เหรอที่คุณอา ท่านแนะนำ ผมนี่สบถขึ้นในใจเลยครับ


" ชิมัตต้า "


ซึ่งแปลว่า ชิบหายแล้ว คุณรุกะถามว่าวันนี้ประชุมเป็นไงบ้างคะ ผมก็เอ่อ... แล้วก็บอกไปว่าได้อะไรเยอะมากเลยครับ โชคดีที่ได้เข้าประชุม รุกะก็บอกว่าถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีค่ะ เพราะมันจะเป็นประโยชน์กับตัวซารุซังมากๆในอนาคตแน่นอน



ชิบหายแล้วลืมตัวว่าผมกำลังนั่งคุยกับลูกค้ารายใหม่ แถมรายใหญ่อีกต่างหาก ผมรีบเขยิบ เขยิบ เขยิบออก รุกะก็มองแล้วถามว่าจะไปไหนหรือเปล่าคะ ผมก็บอกว่าเอ่อ.. พอดีว่าผมถูกเรียกตัวมาที่นี่เพราะอาจจะมีธุระสำคัญน่ะครับ


[ ผม ]  :  พอดีพี่.. เอ่อ ผมหมายถึงคุณ ( ชื่อจริงพี่แมน )  เขาเรียกตัวผมมาน่ะครับ


เวนละผมเกือบละ เกือบเรียกว่าพี่แมนแล้ว และมันคงดูไม่ดีแน่ๆเลยล่ะครับถ้าทำแบบนั้นต่อหน้าลูกค้ารายใหญ่แบบนี้ รุกะเธอมอง แล้วบอกอ๋อมันเป็นแบบนี้นี่เอง แล้วไหนล่ะคะคุณ ( ชื่อจริงพี่แมน ) ผมก็บอกว่าสงสัยจะอยู่ข้างในน่ะครับ


ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะครับคุณรุกะ ผมก้มหัวให้เธออีกครั้งแล้วก็เดินออกมาเลย อูยย หลังเย็นว่าบเลยว่ะ เฮ้ออ แล้วนี่พี่แมนตามตัวผมมาทำไมหว่า ผมเดินเข้าไปทางห้องครัวครับ พอเข้าไปถึงแจ๋วก็กำลังง่วนกับการเตรียมอาหารเลยครับ


อ้อผมขออธิบายนิดนึงนะครับว่า บ้านพี่แมนก็มีคนดูแลบ้าน มีแม่บ้าน 2 – 3 คน แต่ผมขอพูดถึงพี่แจ๋วคนเดียวพอนะครับ เพราะถ้าตั้งชื่อมากๆผมจะงง อันที่จริงทุกคนก็ดีกับผมนะ แต่ในบรรดาแม่บ้านผมจะคุยกับพี่แจ๋วบ่อยๆ และส่วนมากผมก็จะสนิทกับพวกพ่อบ้าน


คนขับรถ คนสวนอะไรพวกนี้มากกว่าครับ ผมเดินย่อง ย่อง ย่อง เหมือนจะมาขโมยของบ้านเขาอย่างไงอย่างงั้นเลยครับ จนกระทั่งแม่พี่แมนเดินมาเจอ เอ้าโทนมาเมื่อไรลูก ผมนี่เอี๊ยดดดด เลยครับ เอ่อทำไมผมต้องตกใจวะ ผมไม่ได้มาขโมยของนี่หว่า



ผมก็ยกมือไหว้สวัสดีอีกครั้งครับ เอ่อผมไม่ได้พูดไปนะ ผมยกมือไหว้แล้วบอกพี่แมนเรียกตัวมาครับ แม่ก็บอกอ๋อเจ้าแมนเหรอ สงสัยอยู่ที่สระน้ำน่ะ แม่พี่หมิวก็พูดว่า โทนลำบากใจไหมที่ให้ไปเลี้ยงต้อนรับที่บ้านน่ะ ผมก็ชะงักแล้วบอกแฮ่ๆ ถ้าบอกว่าไม่ก็คงโกหกแหละครับ


เพราะผมก็ไม่แน่ใจ ไม่มั่นใจว่าจะทำได้ดีไหม ผมกลัวว่าถ้ามันไม่ดีอย่างที่คิด หรือ ไม่ดีพอจนคุณเคย์พอใจ บริษัทจะแย่น่ะสิ่ครับ แล้วตอนนั้นพี่แมนก็เดินเข้ามาอะไรเฮ้ย !!!  มั่นใจหน่อยสิ่ครับคุณ ( ชื่อจริงผม ) ไปลุยเดี่ยวถึงเชียงใหม่มาเลยนะ



พี่แมนพูดแล้วมาใช้แขนขวาเอี้ยวมาเกี่ยวคอผมไว้แล้วพูดกับ คุณท่านผู้หญิงว่า จริงมั้ยครับแม่ ผมก็บอกพี่แมนว่าผมลุยเดี่ยวที่ไหนล่ะครับ ถ้าผมไม่ได้พี่พลอย เอ่อหมายถึงคุณ ( ชื่อจริงพี่พลอย ) กับเลซองฝีมือดี ผมก็แย่นะครับ



พี่แมนก็บอกเห็นมั้ยครับแม่ ไอ้นี่มันยอมเอาความดีความชอบไปที่ไหนล่ะ เอ่อต้องบอกทุกท่านก่อนนะครับว่าผมไม่ใช่คนดีแบบพระเอกหนังที่แบบว่าทำดีไม่หวังผลตอบแทน ผมก็มีคิดๆแหละว่าการไปทำงานครั้งนี้แล้วมันสำเร็จ มันจะมีผลต่อการประเมินปลายปี



ผมก็หวังว่าจะเจริญก้าวหน้าครับ อยากเงินเดือนขึ้นบอกตรงๆ แต่ไอ้การที่จะมาให้บอกว่าผมโคตรเก่งเลยทำงานสำเร็จ มันก็กระดากปากครับบอกเลยนะ แม่บอกเอาน่าๆ โทนนิสัยเป็นไงทำอย่างกับว่าไม่รู้ ว่าแต่พ่อล่ะ พี่แมนมองไปข้างหลังแล้วบอกว่าสงสัยว่าคุยกับคุณเคย์อยู่ครับ



อื้อหือ ไม่ใช่แค่ลูกมา พ่อก็มาเหรอเนี่ย ผมก็ถามนะว่าพี่แมนมีอะไรให้ผมทำไหม ผมจะได้รีบทำแล้วกลับไปช่วยแม่ที่บ้าน พี่แมนบอกเฮ้ย ไม่ต้องรีบร้อน ผมก็บอกว่าไม่ได้หรอกพี่แม่ไม่มีคนช่วย พี่แมนก็บอกว่าวันนี้ให้คนไปช่วยซื้อของที่ซุปเปอร์มาเก็ต



แล้วนี่ก็ให้แม่บ้านส่วนนึงไปเป็นลูกมือแล้วไม่ต้องห่วง ป่านนี้ก็คงเตรียมงานไปเกินครึ่งแล้วล่ะ ผมก็บอกเฮ้ยพี่เกรงใจ ผมกลับไปช่วยแม่ดีกว่า พี่แมนก็บอกเฮ้ย ๆ ๆ ยังไม่ได้คุยงานกันเลยรีบไปไหนเนี่ย พี่แมนบอกเฮ้ย พี่ไม่ปล่อยให้แม่ทำงานคนเดียวหรอก



เอ่อ พี่แมนกับพี่หมิวก็เรียก แม่ผม ว่าแม่ห้วนๆเลยนะครับ  พี่แมนบอกจริงๆแล้วพ่อก็อยากจะพาคุณเคย์ไปเลี้ยงข้างนอก นั่นแหละแต่คุณเคย์เขาบอกว่า..... แล้วตอนนั้นระหว่างที่พี่แมนจะพูดแม่ก็บอกว่า ไปนั่งคุยกันดีๆน้องมาเหนื่อยๆเจ้าแมนนี่แกล้งน้องจังนะ




พี่แมนบอกคร๊าบๆแล้วก็ลากคอผมไป พี่แมนบอกต่อว่าจริงๆแล้วพี่ก็แนะนำโรงแรมดีๆแล้วว่ะแต่คุณเคย์เขาบอกตอนนี้อยากพักผ่อนแบบส่วนตัวที่สุด ตอนนั้นผมก็ฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้นะว่า เดี๋ยวดิ่พี่แมน ผมว่ามันแปลกๆนะ



ถ้าเป็นคู่ค้าธรรมดา ฝ่ายที่ต้องดูแลเรื่องที่พักเนี่ยต้องเป็นฝ่ายจัดการเรื่องอำนวยความสะดวกให้คู่ค้าต่างประเทศดิ่ แล้วไหงถึงมาเป็นพี่กับพ่อพี่ล่ะที่จัดการแล้วอีกอย่างมันไม่แปลกไปหน่อยเหรอที่เอ่อ เขามาบ้านพี่แบบนี้น่ะ ผมพูดนะว่าบอกมาตรงๆว่าพี่อ่ะเจ้าของบริษัทหรือเปล่า



พี่แมนบอกเฮ้ย ๆ บริษัทที่เอ็งทำงานน่ะ พ่อแค่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ผมนี่หันมองหน้าแล้วพูดว่า " แค่รายใหญ่ " เหรอพี่ พี่แมนก็หัวเราะบอกเฮ้ย ก็แค่เก็บทีละนิด เก็บทีละนิดใครขายก็ซื้อ ผมก็ถามนะว่านี่ที่ผมได้ทำงานเพราะพี่ป่ะเนี่ย พี่แมนบอกเฮ้ย ทำอย่างกับว่าไม่รู้จักพี่




ผมก็เอ่อ เออก็เพราะรู้นิสัยแหละถึงสงสัย แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะพี่แมนก็คงไม่ได้เป็นคนดึงผมเข้ามาทำงานแน่นอนแหละ ไม่งั้นตอนปี4 พี่เขาคงให้ผมฝึกงานที่บริษัทของเขาแล้วล่ะ แต่อยู่ดีๆก็บอกเฮ้ยไปหาที่ฝึกงานเอง บริษัทในเครือของพ่อทั้งหมดไม่จะรับเอ็งนะ



เอ๊า เอ๋อแดรกเลยตอนนั้น เอ้อช่างเถอะ คิดไปก็เท่านั้น ผมว่าถ้าพี่แมนแอบช่วยผมจริงผม คงได้ทำงานที่สบายๆกว่านี้ แต่เดี๋ยวก่อนนะฝึกคนแบบให้เอาตัวรอดเอง หรือ การพาไปปล่อยป่าแล้วให้ทางกลับบ้านเองแบบสปาร์ตั้นนี่มันก็วิธีของพี่แมนนี่หว่า



คิดไปแล้วก็เสียวสันหลังเฮ้อออ แล้วแม่พี่แมนก็ถามแล้วโทนกินอะไรมายังลูก ผมก็บอกเรียบร้อยครับกินพิซซ่ามาหลายชิ้นเลย พี่แมนก็เหยียบเท้า หรือ เหยียบตีนเลยครับ ผมก็ฮึ๊อะไรวะพี่ พี่แมนบอกเฮ้ย... ห้ามอิ่มมึงต้องกินอีก ผมก็ถามอะไรอีกพี่ พี่แมนก็บอกวันนี้แม่ทำกับข้าว


เฮือก !!!  เชื่อมั้ยจังหวะแม่งซิทคอมชิบหายเลยขอหยาบหน่อยเถอะ คือแม่พี่แมนทำอาหารถือว่าใช้ได้นะในระดับนึง แต่แบบตอนนี้คือสถานการณ์กำลังกดดันเลย เพราะถ้าแม่พี่แมนทำอาหารล่ะก็ทุกคนต้องกิน โอยย ไม่น่าแย่งนางมารตัวแสบกินพิซซ่าเลย



เวรกรรมติดจรวดแท้ๆ ผมก็กระซิบถามพี่แมนแล้วพี่ล่ะ พี่แมนบอกว่าพี่ยังไม่กินว่ะ เชี่ย อ่านเกมส์โคตรขาดสวดยอดเลยลวกเพี่ย แต่ผมก็บอกว่าไม่ได้หรอกพี่จะให้ผมมาร่วมโต๊ะกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ได้ไง กดดันตายห่า อันนี้ผมพูดจริงๆนะคำว่ากดดันตายห่าเนี่ย



พี่แมนก็ถามเฮ้ยปกติก็นั่งกินข้าวกันอยู่แล้วนี่หว่า ถึงจะเดือนก่อนๆก็เถอะ ผมก็เลยบอกว่าสถานการณ์มันไม่เหมือนกันนา ตอนนั้นก็นั่งกินกันเองนี่ครับ พ่อพี่ แม่พี่ พี่ พี่หมิว ก็นั่งกินปกติ แต่นี่คือพูดยังไงดีวะจูนสมองแบบนะพี่ แล้วพี่แมนก็ช่วยคลึงขมับ ๆ ๆ  แหม่ รับมุขผมทันจริงๆ แต่ก็มึนจริงนะ



จนผมเรียบเรียงคำพูดได้ ผมก็บอกพี่แมนว่าตอนนี้เพราะมีคุณเคย์มาอยู่ด้วย บนโต๊ะอาหารตอนนี้ก็เหมือนโต๊ะของผู้ถือหุ้นกับลูกค้ารายใหญ่โดยเฉพาะ พี่น่ะไม่แปลกเพราะว่ายังไงก็เป็นสายเลือดของผู้ถือหุ้นอยู่แล้ว แต่ผมนี่แหละพี่ตัวตนของผมต่อหน้าคุณเคย์ ผมเป็นแค่พนักงาน



และพนักงานไม่ควรร่วงรู้ข้อมูลระดับสูงนะพี่แมน ผมก็พยายามยกข้ออ้างสารพัดเพื่อที่จะชิ่งจากการทานข้าวร่วมโต๊ะนั่น เอาจริงๆใครเคยเป็นแบบผมจะเข้าใจ เวลาไปงานสังสรรค์ อ่ะง่ายๆเลยใกล้ตัวงานโต๊ะจีน เคยป่ะเคยต้องไปแล้วหลุดวงโคจรไปนั่งโต๊ะอื่น



แล้วทั้งโต๊ะเป็นคนที่เราไม่รู้จัก โอยย จะคีบขนมจีบก็ลำบาก  จะตักกระเพาะปลาก็ต้องมองแล้วมองอีก ยิ่งเป็ดพะโล้มานี่นั่งเกร็งจนเป็ดหายไปครึ่งตัวเลย ก็คงประมาณครับความรู้สึกแต่สำหรับผมตอนนี้มันกดดันไง เพราะเขาก็รู้ว่าผมเป็นใคร



ผมเป็นพนักงานคนนึง ที่ถ้าจะให้วัดเลเวลกับพวกเขามันก็คงจะประมาณ เวล 30 กับ เลเวล 99 แล้วจุติมาอีก 8 รอบ ผมกลัวคุณเคย์เขาไม่ค่อยพอใจแฮะ ผมเลยบอกพี่แมนว่าครั้งนี้ผมขอนะ ขอไม่นั่งที่โต๊ะ แต่จะตักข้าวไปนั่งกินในห้องครัว พี่แมนก็มองหน้าผมแล้วบอกเฮ้ยจริงจังไปเปล่า



ปกติเอ็งก็นั่งกินข้าวกับพี่ กับ พ่อ กับ แม่ ประจำนะเฮ้ย ผมก็บอกว่ามันไม่เหมือนกันนี่ครับ เมื่อก่อนผมไม่รู้ว่าพ่อพี่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ผมก็เลยไม่เกร็งไม่อะไร เพราะยังไงผมก็รู้ว่าพ่อพี่ท่านจะใจดี แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกันนา พี่แมนก็ถามว่าเฮ้ยหรือว่าพอรู้ว่า


พ่อพี่เป็นผู้ถือหุ้นแล้วเอ็งจะชิ่ง ฮ๊ะ !!! ผมก็รีบบอกว่าไม่ใช่พี่ ไม่ใช่ทั้งหมด คือมันเกร็งๆก็มีส่วนแหละ แต่นี่คุณเคย์เขานั่งอยู่ด้วย พี่แมนถามแล้วไงวะ คุณเคย์เขาเอาช้อนซ้อมไปเหรอ ผมบอกไม่ใช่แล้วพี่ แหม 5 บาท 10 บาทก็เอา ผมบอกว่ายังไง



ผมก็เป็นแค่พนักงานที่ตำแหน่งไม่ได้สูงมากพอที่จะสามารถร่วมวงทานอาหารซึ่งอาจจะมีการคุยเรื่องงาน หรือ ธุรกิจที่เป็นความลับระดับสูงได้ ผมไม่อยากให้การพูดคุยสะดุดเพียงเพราะต้องระวังเรื่องข้อมูลจะเข้าหูผมน่ะพี่แมน ตอนนั้นผมคิดอะไรได้ผมก็พูดไปหมดเลยครับ



บอกตรงๆว่าการนั่งร่วมโต๊ะแบบนั้นมันลำบากใจ มันอึดอัดนะบอกตรงๆ  พี่แมนบอกเออๆ ตามใจ แค่รบกวนเรื่องที่บ้านเอ็งก็พอละ อยากนั่งไหนก็นั่งแต่ต้องกินนะเฮ้ย ผมบอกครับๆได้ครับ พอพูดจบผมก็เข้าไปในครั้วซึ่งพี่แจ๋วก็กำลังยกของไปเลย ผมก็จะช่วยนะ



พี่แจ๋วบอกไม่ต้องๆ ผมก็บอกว่าไม่เป็นอะไรแค่นี้เองสบายมาก พี่แจ๋วมองๆแล้วบอกว่าน้องโทนแต่น้องโทนเลิกงานแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วไหนน้องแมนบอกว่าจะให้น้องโทนไปทานข้าวด้วยไง ผมก็เลยบอกพี่แจ๋วนะว่ามีการเปลี่ยนแผน นิโหน่ยย



ถ้าจะให้ไปนั่งจริงๆผมคงกดดัน จนทำตัวแปลกๆไปน่ะครับ พี่แจ๋วบอกโอเค โอเค ว่าแต่มานี่ก่อน แล้วพี่แจ๋วก็บอกให้ผมวางของที่จะยกแล้วตามพี่เข้าไปห้องข้างๆ ซึ่งมันคือห้องจัดแต่งทรงผมและดูแลเครื่องแต่งกาย อย่างที่บอกครับว่าบ้านพี่หมิวนั้น



บางครั้งก็จะมีพวกผู้บริหารระดับสูงมา เอ่อเป็นบริษัทของพ่อพี่หมิวเลยนะครับไม่ใช่ของบริษัทผม อ่ะกลับมาต่อครับ เพราะผู้บริหารของบริษัทอาจจะมาเมื่อไรก็ได้ เพราะงั้นก็เลยต้องมีพื้นที่แต่งตัวในเวลาฉุกเฉิน ก็เลยเป็นมุมนี้แหละครับ



ด้วยความที่วันนั้นผมก็ไม่ได้ทำงานเนอะ ก็เลยไม่ได้เซทผมอะไร พี่แจ๋วก็เลยบอกว่าแค่หวีๆจัดทรงก็พอ แต่จนแล้วจนรอดพี่แจ๋วก็บอกลงแว๊กซ์นิดหน่อยแล้วกัน ก็เลยจัดปาดแว๊กซ์แกสบี้ขยำๆ ๆ แล้วมาปาดเส้นผม ของผมไปๆมาๆ พี่แจ๋วบอกเป็นหนุ่มเกาหลีไปก่อนนะน้องโทน



ผมก็ถามเอ๋าทำไมแบบนั้นล่ะครับ พี่แจ๋วบอกว่าถ้าไม่ได้ไดร์ผม มันจะตั้งยากเสียเวลาจัดทรง ปาดๆ เป็นหนุ่มเกาหลีไปก่อน จัดทรงง่าย เอ่อมันก็ง่ายแบบที่พี่แจ๋วบอกแหละครับ คือด้วยความที่เขามีฝีมือด้านนี้อยู่แล้ว ก็เลยไม่ต้องใช้เวลามากนัก



พี่แจ๋วบอกว่า อืมเอาของเรนดีไหมนะ โอ้โห ผมนี่แทบลุกขึ้นเต้นเพลง I'm coming เลยครับ เอ่อ แต่ผมก็คงเป็นได้แค่ขี้เลน อ่ะครับ ผมบอกพี่แจ๋วว่าโห ผมเป็นได้แค่ขี้เลนแหละพี่ พี่แจ๋วก็บอกเอ้ยังไงน้องคนนี้ แล้วพี่เขาก็จัดๆ ๆ ๆ  ไม่ถึง 2 นาทีก็เสร็จครับ



พอเสร็จพี่แจ๋วเธอก็เดินไปล้างมือ ล้าง ๆ ๆ ๆ ส่วนตัว แล้วผมก็... เฮ้ย เอ้าชิบหายแล้วตอนนี้ผมแต่งตัวโคตรชิลด์เลยนี่หว่ากางเกงสามส่วน เสื้อยืด ลากรองเท้าแตะ เอ๊า !!! ไอ้ชิบหายโทนลืมตัว โอย งานเข้าแล้วเสือกไปแสดงความมีน้ำใจว่าจะช่วยเสิร์ฟ


โดยที่ไม่ได้ดูเลยว่าตอนนี้แต่งชุดไม่สุภาพ คือมันก็ไม่เชิงไม่สุภาพหรอกครับ ผมก็แต่งตัวปกตินั่นแหละ แต่เพราะโต๊ะที่ผมจะไปเสิร์ฟ เพราะคนที่นั่งที่โต๊ะนั่นไง มันเลยกลายเป็นว่าผมแต่งตัวไม่สุภาพ ทำไงดีล่ะรับปากว่าจะช่วยเสิร์ฟไปแล้ว แต่แต่งตัวไม่สุภาพเลย



พวกแม่บ้านก็แต่งตัวด้วยยูนิฟอร์มของบ้าน ส่วนพวกพ่อบ้านก็เหมือกกัน ถ้าผมเดินไปตอนนี้ก็คงจะอารมณ์เหมือนแต่งชุดลูกเสือมาคนเดียวในห้องเรียนอ่ะ เอ่อ ผมรีบเดินไปหาพี่แจ๋วเลยแล้วบอกว่า พี่แจ๋วผมขอไม่ไปช่วยเสิร์ฟได้มั้ย เดี๋ยวช่วยล้างจานแทน ผมแต่งชุดไม่เหมาะอ่ะ



พี่แจ๋วบอกอ๋อๆ ไม่เป็นไรเข้าใจๆ น้องโทนไม่ต้องช่วยก็ได้ มาหาน้องแมนไม่ใช่เหรอ รอคุยกับน้องแมนก็พอ สำรับอาหารก็ไม่ได้หนักมาก พวกพี่ถือกันได้ ผมก็บอกไปว่าขอโทษนะครับพี่แจ๋ว พี่แจ๋วบอกไม่เป็น ๆ ๆ 



เฮ้อ รู้สึกผิดที่บอกจะช่วยแล้ว ไม่ได้ช่วยยังไงไม่รู้แฮะ ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังเลยบุญโทน แต่ผมก็ช่วยจัดแจงของต่างๆ ไว้เพื่อให้พี่แจ๋วนะ ประมาณว่าถามก่อนว่าต่อไปจะใช้อะไรบ้าง ผมก็จะจัดแจงไว้ให้พอเดินกลับมาจะได้ไม่ต้องวุ่นวายหากัน



อาหารชุดแรกเริ่มแล้ว พี่แจ๋วก็จัดไปเดินไป พวกพี่ๆแม่บ้านที่เหลือก็เริ่มดำเนินการในส่วนที่ตัวเองรับผิดชอบ น้ำ ข้าว กับข้าว ต่างๆถูกจัดไปเรื่อยๆ ว่าแต่พวกคนรวยนี่เขากินข้าวดึกจังหว่า นี่ก็จะสองทุ่มแล้วหนอ เป็นผมคงรอไม่ได้หรอกแบบนี้ กรดไหลย้อนจะโบกมือเรียกเอา




แล้วที่สำคัญตอนนี้สิ่งที่ต้องไม่ลืมคือ !!! ต้องกินข้าวที่แม่พี่แมนทำ ผมก็ตักข้าวจากหม้อนั่นแหละมากินครับ เดินตักแกงจากหม้อ แหม่ !!! ทำเหมือนบ้านตัวเองเลยวุ๊ย แล้วผมก็ไปนั่งกินในมุมของห้องครัว ถามว่าผมน้อยใจหรืออะไรไหมที่ว่าทำงานใหญ่มาให้ขนาดนั้น




แต่กลับต้องมานั่งกินข้าวในมุมเล็กๆนี้ มันก็แล้วแต่มุมมองอ่ะแหละครับ บางคนคิดว่าสิ่งที่ตนควรได้รับกลับมามันต้องดูชุดใหญ่ไฟกระพริบ แต่ไม่รู้สิ่ครับตอนนั้นสำหรับผมนั้น ไม่ได้คิดน้อยใจหรือไม่พอใจอะไรเลยนะ อาจจะเพราะตอนนั้นผมยังไม่มีความกระหายที่จะเติบโตอย่างแรงกล้ามั้ง




เอาตรงๆตอนนั้นผมคิดแค่ว่าอยากทำงานให้ดีๆ ประเมิณปลายปีจะได้เลื่อนขั้น เงินเดือนจะได้เพิ่มแค่นั้นเองครับ มันเป็นแค่เป้าหมายของเด็กอายุ 23 แค่นั้นจริงๆ หรือพูดง่ายๆคือมองแค่ผลระยะสั้นแค่การประเมินปลายปีเองครับ หรืออาจจะเพราะผมรู้สึกเจียมกะลาหัวล่ะมั้ง



ก็แหม จะให้ไปนั่งแบบนั้นได้ไง ผมกลัวพ่อพี่แมนจะเสียหน้าเอาสิ่ แต่แกงเผ็ดหมูใส่ฟักทองของแม่พี่แมนนี่ก็อร่อยไม่เบาเลยแฮะ เหมือนเอาพะแนงมาฟิวชั่นกับฟักทอง แบบนี้กินได้อีกจานเลยเนี่ย พี่แจ๋วเดินกลับมาครับ ผมก็ถามว่ามีอะไรต้องยกอีกไหมครับ



พี่แจ๋วบอกไม่ต้องแล้ว ๆ  พี่แจ๋วก็ถามว่าจะไม่ไปนั่งทานข้าวกับคุณท่านจริงเหรอ ไหนน้องแมนบอกว่าโทนเป็นคนคุยงานจนสำเร็จไม่ใช่เหรอ ผมก็บอกไม่ใช่ผมหรอกคร๊าบ แล้วนั่งกินในนี้ผมสะดวกใจกว่าเยอะอ่ะพี่แจ๋ว



พี่แจ๋วบอกอ่ะ ๆ โอเค โอเค ผมก็กินข้าวต่อไปครับ แปปเดียวเท่านั้นแหละ ผมก็นึกอะไรออก !!! เฮ้ย !!! แล้วพี่แมนเรียกมาคุยอะไรเนี่ย แล้วเมื่อไรจะได้คุย เฮ้ย ผมต้องรีบกลับบ้านนะ เอาล่ะครับ ตอนนั้นผมกระสับกระส่ายเลย กินเริ่มไม่อร่อยละ



จะอยู่ต่อก็กลัวจะดึก จะกลับเลยก็ไม่ได้ทำไงดีหว่า สุดท้ายผมก็ต้องรอครับ จนสักพักพี่แมนเดินมาถามเฮ้ยมานั่งกินข้าวไรตรงนี้เนี่ย เอาล่ะได้เวลาแล้วผมถามพี่แมนว่าพี่แมนครับมีเรื่องอะไรให้ผมทำเปล่าครับถึงตามผมมานี่ พี่แมนก็บอกอ๋อ... เอ้อลืมว่ะ พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน



ผมก็ว่าเอ้าพี่อิหยังวะน่ะ พี่แมนบอกล้อเล่นๆ พี่แมนบอกว่าก็จะชวนมากินข้าวนี่แหละ แต่เอ็งดันมาทำเสียงานหมด ฮุ๊วววว  ผมก็บอกไปว่าพี่อย่ากดดันผมสิ่ครับ ผมก็บอกว่างั้นถ้าไม่มีอะไรผมกลับเลยนะครับพี่แมน พี่แมนบอกเอ้อๆ แล้วนี่ไอ้หมิวจับได้แล้วเหรอเรื่องเตยอ่ะ




เฮือก !!!!!!!!!  ลูกกระเดือกแทบหลุด ผมนี่หันควั่บเลยแล้วพี่แมนคือทำหน้าเหมือนไม่ทุกข์ไม่ร้อนเลย ผมเลยฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าที่พี่หมิวรู้เรื่องของผมกับพี่เตย หรือพี่แมนจะเป็นคนบอกกันนะ แต่ว่าตอนนั้นเองครับพี่แมนก็บอกกว่า เฮ้ย พี่ไม่ได้บอกนะ ไอ้หมิวมันรู้ของมันเอง


[ ผม ]  :  เดี๋ยวดิ่พี่แมน แล้วเจ๊หมิวจะรู้ได้ไงอ่ะ ผมก็ว่าผมทำตัวห่างๆกับเจ๊เตยตลอดเลยนะ


[ พี่แมน ]  :  เอ้า ไอ้นี่หรือว่าไม่เชื่อพี่ล่ะ


[ ผม ]  :  . . . . . .  ก็เจ๊หมิวเขา...


[ พี่แมน ]   :   ไอ้หมิวมันรู้ของมันเอง ทำใจซะนะ


พี่แมนตบไหล่ปั้ปๆๆๆ แล้วบอกว่าสู้ๆก่อนจะหัวเราะออกมา ผมถามว่านี่พี่เป็นห่วงผมจริงป่ะเนี่ย พี่แมนบอกเอาน่า ไอ้หมิวคงไม่เอาถึงตายหรอก แล้วพี่แมนก็จับที่ไหล่ ที่แขนของผมครับ แล้วก็บอกอื้ม ก็ยังมีกล้ามอยู่นี่ เอาน่าๆไอ้หมิวหมัดไม่ได้หนักมาก


" อะไรพี่แมน นินทาน้องเหรอ "



เฮือก !!! แม่มา ไม่ต้องบอกก็คงรู้ใช่ไหมครับว่าใครมา พี่หมิวมาถึงก็ยืนจ้องผมเลยครับพี่แมนก็บอกเฮ้ย พี่ไปหาพ่อก่อนแล้วก็ชิ่งเลย ผมก็จะตามพี่แมนไปครับพี่หมิวถามว่าจะไปไหน ผมก็เอ้องั้นผมกลับบ้านก่อนนะครับเจ๊หมิว



มั่บ !!! โอยยยย มือคนหรือมือแม่นาคคือยาวแท้ พี่หมิวคว้าคอเสื้อผมไว้แล้วถามว่าจะไปไหน นินทาอะไรเจ๊ ผมบอกเปล่าคร๊าบ แล้วเจ๊หมิวก็ถามว่าจะกลับบ้านแล้วเหรอ ผมก็บอกอื้องั้นผมขอตัวนะเจ๊หมิว เจ๊หมิวบอกว่าเดี๋ยวเจ๊ไปส่ง ผมก็บอกไม่เป็นไรครับ


เจ๊หมิวมาเหนื่อยๆ เจ๊หมิวพักเถอะ เจ๊หมิวก็บอกว่าเหนื่อยหรือไม่เหนื่อยเจ๊รู้ตัวดี เฮ้อเถียงไม่ออกเลยครับ ผมก็มองๆ ๆ แล้วเอ่อจะไปบอกแม่พี่หมิวดีไหมนะว่าจะกลับแล้ว พี่หมิวก็บอกว่ากลับเลยเปล่า ผมก็บอกอื้อครับ แล้วผมกับพี่หมิวก็เดินออกข้างหลังเลยล่ะ



ซึ่งหืม... รถพี่หมิวจอดนอกบ้านแฮะ ผมก็เอ่อ....  อ่ะๆ ไม่อยากสงสัยแล้วตอนนี้ แต่พี่หมิวก็ยื่นกุญแจให้แล้วบอก โอ๊ย อยู่ดีๆเจ๊ก็เมื่อย ขับให้หน่อย แน่ะ !!! อิหยังของเจ๊วะ อ่ะโอเคไม่ว่ากัน ผมขับรถออกไปครับ พอมาถึงแยกซังฮี้ ผมก็ถามว่า.... แล้วเจ๊เตยล่ะครับเจ๊หมิว



พี่หมิวบอกว่า ป่านนี้น่าจะเคลียร์บัญชีมั้งนะ แล้วก็คงจะนอน ผมก็บอกว่าไม่ใช่อย่างนั้น เรื่อง...ผมน่ะ  พี่หมิวบอกว่าเรื่องอื่นยังไม่ต้องคิดหรอก คิดเรื่องพรุ่งนี้ก่อนเถอะ ผมมีเรื่องหลายเรื่องอยากถามพี่หมิวนะ ทั้งเรื่องมิ้นต์ ทั้งสารพัดเรื่อง แต่ก็คงเป็นอย่างที่พี่หมิวบอกว่า ผมควรใส่ใจเรื่องอื่นก่อน




พอมาถึงบ้าน ผมก็จอดรถที่ลานดินหน้าบ้านนะ ตั้งใจจะเดินมาเปิดประตูให้พี่หมิว แต่กลับกลายเป็นว่าพี่หมิวเองนั่นแหละที่เปิดประตูออกมา แถมยังเดินไปเปิดที่ท้ายรถหยิบกระเป๋าใบนึงออกมา .... พี่หมิวเดินนำหน้าไปก่อนเลยครับแล้วบอกว่าล็อครถด้วย



ผมก็เอ่อ...อิหยังวะ แต่ผมก็ล็อคประตูแล้วก็เดินตามไปนะ พอมาถึงพี่หมิวก็เอ่อ... วางกระเป๋าบอกเฮ้อเหนื่อยๆ แล้วก็เดินเข้าห้องน้ำไปเลย ไอ้ผมก็นึกว่าจะแค่ทำธุระส่วนตัว แต่ไม่เลยว่ะเพราะอยู่ๆเสียงน้ำก็ ซ่า !!! ซ่า !!!  เอ่อ เจ๊ทำไรวะนั่น ผมก็ถามเจ๊อาบน้ำเหรอ



พี่หมิวบอกอื้ม ทำไมเหรอหรือจะอาบด้วยล่ะ ผมก็บอกไม่ใช่อย่างน้าน ทำไมเจ๊ไม่กลับไปอาบบ้านล่ะครับ เจ๊ถามนะว่าทำไมเหรอ หรือเจ๊อาบไม่ได้ ผมก็บอกเปล่านี่ ก็ที่บ้านเจ๊สะดวกกว่ามีอ่างให้แช่ แถมยังมีพวกครีมบำรุงผิวอีก แต่เจ๊หมิวก็บอกว่า ไม่ได้บำรุงวันเดียวไม่เป็นไรหรอก




อ่ะแล้วผมก็เถียงไม่ได้ล่ะครับแบบนี้ ตอนนั้นพ่อผมเดินเข้ามานะ นี่แหละที่ผมกังวลเพราะบ้านผมน่ะห้องอาบน้ำไม่ค่อยจะส่วนตัวไง ต้องลงมาอาบข้างล่างแล้วพ่อผมก็เดินไปเดินมาด้วย พ่อก็ถามเอ้ากลับมาแล้วเรอะ ผมก็พูดอื้อแล้วแม่ไปไหนล่ะพ่อ



พ่อบอกนู่นอยู่ตรงสวนนู่น พ่อก็ถามใครอาบน้ำล่ะ พี่หมิวก็ตะโกนนะหมิวเองค่ะพ่อ พ่อบอกอ้อหมิวเหรอลูก แล้วพ่อก็หยิบมีดหยิบนู่นนี่นั่นออกไป ... เอ่อไม่แปลกใจบ้างเลยเหรอพระบิดา แล้วคือผมต้องนั่งเฝ้าไงครับ กลัวว่าจะมีใครเข้ามาแล้วพอพพี่หมิวออกมาก็เอ้อ ค่อยยังชั่วใส่เสื้อผ้าออกมาเรียบร้อย



เฮ้ย ไม่ใช่ละ แล้วทำไมพี่หมิวใส่กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดธรรมดาๆ ล่ะ พอออกมาก็เช็ดหัว เช็ด ๆ ๆ  แล้วถามผมว่ามองอะไรไม่เคยเห็นคนอาบน้ำเหรอ แล้วก็เดินขึ้นไปข้างบนเลย ผมก็เหวอดิ่แบบนั้น ผมรีบเดินตามขึ้นห้องไปครับ ผมถามนะว่าเจ๊ทำไมแต่งชุดนี้ล่ะ



พี่หมิวเปิดห้องผมเข้าไปดื้อๆเลย เดี๋ยวๆ ๆ ห้องผมมันล็อคไว้นี่แล้วทำไมพี่หมิวเปิดเข้าไปได้ง่ายๆเลยล่ะพี่หมิวเปิดพัดลม และนั่งตุ้บบนที่นอน ผมก็เดินไปพูดว่ายังไงเนี่ยเจ๊หมิว พี่หมิวเช็ด ๆ ๆ หัวแล้วเงยหน้ามา อื้อหือมุมนี่มันใช่เลย พี่หมิวถามผมว่า ยืนองศานี้คิดอะไรอยู่เปล่า


ผมนี่รีบนั่งเลยครับ เจ๊หมิวก็บอกว่ามันดึกแล้วขี้เกียจกลับบ้านบ้านเดี๋ยวจะนอนค้างที่นี่แหละ ผมก็เฮ้ยไม่ได้เจ๊ เจ๊กลับบ้านเลย พี่หมิวก็ถามว่าทำไมไม่ได้ล่ะ ผมก็เขยิบเข้าไปแล้วบอกเอ่อบ้านผมไม่มีแอร์นะ



ตอนนั้นพี่หมิวก็มองแล้วถามเบื่อเจ๊แล้วเหรอ ผมก็หืออะไรอ่ะเจ๊เบื่อไร พี่หมิวบอกครับว่าก็ได้เจ๊แล้วก็เบื่อเจ๊ไง โอยชิบหายแล้ว ผมก็บอกว่าเจ๊ไม่ใช่อย่างนั้น ผมก็ทำไปแค่ครั้งเดียวเองนะ พอพูดมาตรงนี้ผมสะอึกเลยไปต่อไม่ถูกแล้วครับเหมือนโดนพี่หมิวต้อนเลย


แต่ว่าตอนนั้นเจ๊หมิวอยู่ดีๆใช้มือเรียวๆของเธอ จับคางผมและช้อนขึ้นมานิดนึงและพูดว่า


" แต่วันนั้นที่เจ๊นับ มันไม่ใช่แค่... ครั้งเดียวนี่ "








 




เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

Tritratex

แบบนี้จะได้ทบทวนความหลังกับพี่หมิวมั้ยครับ อิอิ

เอ๊ะหรือว่าท่านโทนมีความหลังที่ปายกับรุกะด้วยเหรอ

คม


deamondear

เอ๊ ะเอ๊ะ ติดใจกับคำนี้ตั้งแต่ตอนนี้ที่แล้ว เอ๊ะ ๆ ซารุซังงงงง

nsrichantamit

เจ๊หมิว ประชด ซะไปไม่เป็น ต้องทวน แต่ก็รอตอนเชียงใหม่อยู่ครับ


Angel_p

กิจกรรมทบทวนความหลังกันรึป่าววว ว่าแต่เกริ่นมาแบบนี้อยากรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นที่เชียงใหม่


Jaker1234


kard

วันนี้มาทันหน้าแรกด้วย ขอบคุณครับปลอดภัยจากโรคร้ายครับ

h-man


ovident

เหมือนพี่หมิวเตรียมจะมานอนค้างบ้านโทนเลย นี่มันแกล้งนายโทนเราชัดๆ 55555555

number6

ปัญหาพี่น้องท้องชนกันนี่จะเคลียร์กันยังไงเนี่ย พี่หมิวดูไม่ติดอะไรแล้วเหลือแต่ปมพี่เตย ซึ่งก็ดูๆเหมือนแค่ทำฟอร์มดึงเชิงไว้ แต่จะคลายปมตอนไหนด้วยเหตุอะไรนะ พี่หมิวมาแปลกแบบเหนือความคาดหมายจริงๆเดาทางไม่ถูก ขอบคุณสำหรับตอนใหม่ครับ


wolfsburg7

โดนเจ๊หมิวปั่นประสาทอีกแล้ว แต่เดาว่าไม่มีอะไรหรอก พรุ่งนี้มีงาน