ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_nato87

เกมรักภารโรงเฒ่า ปี 2 ตอนที่ 23 : มนุษย์ลุงสามพี Pt1

เริ่มโดย nato87, มิถุนายน 25, 2021, 08:17:40 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

nato87

พูดคุยก่อนอ่าน : มาแล้ว ๆ ครับ สำหรับฉาก 3P ในตำนาน แต่ต้องบอกว่านี่คือปฐมบทเท่านั้น และยังไม่มีฉากเลิฟซีนอะไรหรอกนะครับ

โอเค ๆ อย่างพึ่งโวยวายไป เพราะเช่นเคย ผมอยากให้ทุกคนได้เตรียมความพร้อมกันก่อน เพราะหลังจากตอนนี้เป็นต้นไป ผมจะจัดหนักจัดเต็ม และคุณจะได้เห็นลีลารักที่แสนเร้าร้อน ดุดัน เด็ดขาด ของพิมมี่ ที่หลาย ๆ คนยังถวิลหา โดยมีแนนนี่ ลูกศิษย์ที่พิมมี่ได้ฝึกปรือวิชาเตรียมพร้อมไว้ก่อนหน้าร่วมแจมด้วย

ผมเคยบอกแล้วใช่ไหมว่า ในฉาก 3P นี้ จะมีการใช้เซ็กส์ทอยด้วย ก็รับรองได้ว่า คุณจะได้เห็นฉากสวิงกิ้งที่ดุเดือดที่สุดอีกครั้งในซีรียเกมรักฯ นี้ โดยหลังจากที่จบฉาก 3P คุณจะได้พบกับฉากย้ำรักน้องอีฟ ที่ผมอยากบอกว่า มันจะเป็นหนึ่งในฉากที่ทำฟินน์จิกหมอนอีกฉาก สำหรับผมแล้ว น้องอีฟเป็นสาวหวานที่ลุงพลเอ็นดูเป็นพิเศษคนนึงเลยครับ

ก็เหลือน้องลูกขวัญนะครับ ที่จะเป็นเหยื่อ เอ้ย!!! นางฟ้าองค์สุดท้ายของลุงพล ซึ่งคนนี้ผมบอกได้เลยว่า เป็นหนึ่งในทีเด็ดของเรื่องนี้ครับ สายโลลิต้องชอบแน่นอน ฮ่า...

ปล.ตอนนี้มีการใช้ภาษาถิ่น (อีสาน) นะครับ เพื่อเพิ่มอรรถรส บอกไว้ก่อนว่าผมไม่ใช่คนอีสาน ถ้ามีข้อผิดพลาดตรงไหน กราบขออภัยไว้ ณ ที่นี่ด้วยครับ


####################

ความเดิมจากตอนที่แล้ว


https://xonly8.com/index.php?topic=245267.0

"แนน เดี๋ยวพิมไปเรียนไฟแนนซ์ก่อนนะ แล้วเดี๋ยวกินข้าวเจอกันที่เดิม"

"จ๊ะ แล้วเจอกันนะจ๊ะพิม" นริศราโบกมือให้พิมพาภรณ์ที่กำลังเดินขึ้นลิฟต์ในห้องโถงชั้นล่างอาคารเรียนไป

หลังจากที่พิมพาภรณ์และนริศราได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเกินกว่าคำว่าเพื่อนกัน สองสาวก็กลายเป็นเพื่อนซี้ตัวติดกัน จนทำให้เพื่อน ๆ ร่วมคณะเริ่มสังเกตพฤติกรรมของสองสาวคู่ปรับที่ดูเปลี่ยนไป

กลุ่มเพื่อนนักศึกษาของแนนนี่เฝ้าดูพฤติกรรมของเพื่อนและพิมมี่ที่พูดคุยกระหนุงกระหนิงกันหน้าลิฟต์ด้วยความสงสัย ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับพริตตี้สาว ที่อยู่ดี ๆ ไปสนิทสนมกับคู่ปรับเก่าของตัวเองขนาดนั้น

"ดูดิ ๆ ยัยพิมกับยัยแนนเดี๋ยวนี้ทำไมสนิทกันวะ?

"เกิดอะไรขึ้น? ก็เห็นเมื่อก่อนเกลียดกันไม่ใช่เหรอ?"

"สงสัยเคลียร์ใจกันแล้วมั้ง?

"แต่ชั้นว่ามันแปลกนะ ดูทั้งคู่สนิทกันเกินไป เหมือนกับ..."

"คู่เลสใช่ป่ะ?"

"ใช่!!! ยังไงไม่รู้อ่ะ ชั้นว่าสองคนนี้ดีไม่ดีอาจจะกินกันเองก็ได้"

"นี่!!! นินทาอะไรชั้นอยู่ยะ!!!" นริศราในชุดนักศึกษาเดินเข้ามาพร้อมกับเอากระเป๋าสะพายวางบนโต๊ะ ทำเอาเหล่าบรรดาเพื่อน ๆ ในคณะต่างเงียบกริบ

"เปล่า พวกชั้นก็แค่คุยกันว่า พักหลังมานี่แกสนิทกับยัยพิมมากไปป่ะ?"

"ก็เห็นว่าไม่ถูกกัน แล้วทำไมถึงมาสนิทกันได้ สนิทกันมาก มากจนเกินกว่าคำว่า..."

"ถามจริง ๆ แกกับพิม เป็นคู่เลสกันป่ะวะ?"

"อะไรของพวกแก?" นริศราพอเจอคำถามของเพื่อน ๆ นักศึกษาก็ทำเอาหน้าซีดด้วยความตกใจ "บ้า!!! ชั้นกับยัยพิมไม่ได้เป็นอะไรกันอย่างที่พวกแกคิดหรอกเว้ย ก็แค่ทำรายงานด้วยกัน แล้วก็มีโอกาสได้คุยกันเคลียร์กัน ก็ไม่มีอะไรอย่างที่พวกแกคิดหรอก..."

"เหรอ? จริงอ่ะ?" กลุ่มเพื่อนของนริศราถามต่อ

"เออดิ!!" พริตตี้สาวตอบ ก่อนเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าจะดังขึ้น "เดี๋ยวขอตัวคุยโทรศัพท์ก่อนนะ แป๊ปนึง..."

นริศราเดินปรี่ออกมาหามุมสงบ ๆ เพื่อคุยโทรศัพท์ โดยพี่เอก โมเดลลิ่งและผู้จัดการส่วนตัวของนริศราเป็นคนโทรมา ในตอนแรกพริตตี้สาวคิดว่าพี่เอกคงมีงานมาให้ แต่ว่า...

"ฮัลโหล แนน งานถ่ายแบบที่พี่ติดต่อไว้น่ะ คือผู้จัดเขาขอแคนเซิลก่อนนะ..."

"อะไรนะคะพี่!!!" พริตตี้สาวสู้ชีวิตถึงกับร้องอุทานด้วยความตกใจ

"คือช่วงนี้พวกผู้ใหญ่เต่าล้านปีในกระทรวงกำลังเพ่งเล็งงานของผู้จัดน่ะ เพราะมองว่างานถ่ายแบบที่ว่ามันโป๊เปลือยเกินไป แล้วเคยมีประเด็นข่าวเรื่องที่มีนักศึกษาไปถ่ายแบบ ทางผู้จัดเลยขอให้กระแสมันซา ๆ หน่อย แล้วเดี๋ยวค่อยมาว่ากันอีกที..."



"ค่ะ..." นริศราแทบจะล้มทั้งยืน กับงานถ่ายแบบโนบรา ที่เปิดโอกาสให้แขกวีไอพีที่เสียเงินเข้าไปชมงานเบื้องหลังได้ถูกยกเลิกไป งานที่ว่านี้ถ้าหากสำเร็จลุล่วง เธอจะทำเงินได้เกือบหนึ่งหมื่นบาทเลยทีเดียว

หลังจากที่วางสาย นริศราก็แทบล้มทั้งยืน ตอนนี้เธอเหลือเงินติดตัวไม่ถึงหนึ่งพันบาท แล้วต่อจากนี้ไปเธอจะทำยังไงดี? จะขายตัวหรือยอมเป็นเมียน้อยเสี่ยรวย ๆ สักคนดีไหม? แต่มันก็ไม่มีหลักประกันว่าเธอจะไม่ไปเจอเสี่ยขี้งกแบบนายหัวภูชิตอีก

"โอ้ยยย!!! ตาย ๆ ๆ ๆ จะทำยังไงเนี่ยชั้น!!" พริตตี้สาวบ่นกับตัวเอง "ตัดช่องน้อยแต่พอตัวด้วยการโดดตึกตายเลยดีไหม!!! ถ้าชีวิตมันจะแย่แบบนี้!!!"

สุดท้าย พริตตี้สาวเลยเดินไปหามุมสงบ แล้วหยิบบุหรี่จากกระเป๋าขึ้นมาสูบระบายความเครียด ควันสีขาวลอยอ้อยอิ่งไปบนอากาศ เปรียบเสมือนกับการปลดปล่อยความทุกข์ ความกังวลออกมา

หลังจากรวบรวมสติกลับมาได้แล้ว นริศราก็กลับมาหากลุ่มเพื่อน ๆ โดยคราวนี้ ยัยกระเทยติ๊งโหน่งเพื่อนสนิทก็ตามมาสมทบพอดี

"อ่าว ไปไหนมายะยัยแนน?" ติ๊งโหน่งเอ่ยปากถามเพื่อนสาว "ไปดูดบุหรี่มาเหรอ?"

"เออดิ..." นางแบบสาวจากขอนแก่นตอบ "ป่ะ ขึ้นไปเรียนกันเถอะ"

แล้วก๊วนเพื่อนของนริศราก็ลุกขึ้น พากันเดินขึ้นลิฟต์ไปเรียนต่อในคาบต่อไป ขณะเดียวกัน นริศราเองก็ไม่มีอารมณ์จะเรียนหรือจดเล็คเชอร์ในสิ่งที่อาจารย์สอน พริตตี้สาวนั่งคิดว่าเธอจะเอาเงินที่ไหนมาใช้ในเรื่องธุระส่วนตัว แล้วจะเอาเงินก้อนไหนส่งไปช่วยพ่อกับแม่ปลดหนี้นอกระบบที่ขอนแก่น

"แนน แนน แนนเว้ย!!!" ติ๊งโหน่ง กระเทยเพื่อนซี้ของแนนนี่เรียกเพื่อน

"อะไรวะ!!" แนนนี่เผลอทำเสียงดัง จนเพื่อนนักศึกษาภายในคลาสหันมามองเธอเป็นทางเดียวกัน "อุ้ย!!! ขอโทษค่ะ!!!"

"เป็นอะไรคะนักศึกษา?" อาจารย์ที่กำลังสอนอยู่ยืนทำตาเขียวใส่นริศรา โดยมีสายตาเกือบห้าสิบคู่กำลังจ้องมองพริตตี้สาวจอมโวยวายเป็นทางเดียวกัน "นริศรา? เป็นอะไรคะ? องค์ลงเหรอ?"

"ขอโทษค่ะอาจารย์..." นริศรารีบพนมมือขอโทษอาจารย์ประจำภาควิชาด้วยความอับอาย ท่ามกลางสายตาและเสียงหัวเราะของเพื่อนร่วมคลาส

อาจารย์ประจำภาควิชามองหน้าพริตตี้สาวด้วยท่าทางไม่พอใจ ก่อนกลับไปสอนหนังสือเด็กนักศึกษาต่อไปจนจบคลาส แนนนี่และกลุ่มเพื่อน ๆ ได้เดินออกมาจากห้องเรียน ก่อนที่ทั้งหมดจะพูดคุยกันว่าจะไปไหนต่อ เพราะไม่มีคาบวิชาเรียนอีกแล้ว

"นี่แนน ไปเดินเที่ยวห้างกับพวกชั้นป่ะ?" ติ๊งโหน่งเอ่ยปากถามเพื่อนสาว

"เอาเลย เดี๋ยวชั้นต้องรีบกลับ พอดีมีธุระ" นริศราตอบ ความจริงแล้วเธอเหลือเงินติดตัวไม่เท่าไร จะให้มาใช้ฟุ่มเฟือยก็ไม่ได้ ก็เลยปฏิเสธไป

"เออ ก็ได้ งั้นพวกชั้นไปก่อนนะ แล้วเจอกัน" พอเห็นเพื่อนสาวปฏิเสธ ติ๊งโหน่งก็เลยเดินจากไปกับเพื่อน ๆ เหลือเพียงแนนนี่ ที่ปลีกตัวลงชั้นล่างไปหามุมสูบบุหรี่ โดยมีพิมมี่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว

"เลิกเรียนแล้วเหรอแนน?" พิมพาภรณ์ในชุดนักศึกษา กำลังยืนสูบบุหรี่ ระหว่างรอนริศราตามมาสมทบ

"อือ..." นริศราหยิบเอาบุหรี่ขึ้นมาจากกระเป๋าสะพาย "เดี๋ยวสูบบุหรี่เสร็จก่อน แล้วกลับกันนะ พิมมีธุระไปไหนต่อป่ะ?"

"ไม่แล้วละ รีบกลับเถอะ..." พิมมี่ตอบ "ไม่ต้องหันไปนะแนน รู้สึกว่าสถานการณ์ไม่ปลอดภัย พิมแอบเห็นไอ้เหน่งกับไอ้สองแอบมองเราอยู่ รีบกลับกันเถอะ"

"อือ..." สาวสวยจากขอนแก่นพยักหน้าขณะกำลังสูบบุหรี่ โดยมี่ไม่ไกลจากตรงนั้น มีไอ้เหน่งกับไอ้สองเพื่อนรักของไอ้บิ๊กแอบมองอยู่ ดูเหมือนว่าทั้งคู่ได้รับการไหว้วานจากไอ้บิ๊กให้มาดูพฤติกรรมของสองสาวอย่างใกล้ชิด

หลังจากสูบบุหรี่เสร็จแล้ว สองสาวก็พากันเดินขึ้นไปที่โรงจอดรถ เพื่อขับรถกลับคอนโด แนนนี่แกล้งทำเนียนหันหลังกลับไปมอง ก็ไม่เห็นสองเกลอของไอ้บิ๊กอีกแล้ว

"สองคนนั้นไม่ตามมาแล้ว..." นริศราตอบ "ปะ เรากลับบ้าน"

แล้วพิมมี่ก็เปิดประตูรถ Toyota Yaris สีขาว ของแนนนี่ขึ้นไป ในระหว่างที่รถของพริตตี้สาวกำลังแล่นลงมาจากอาคารจอดรถอยู่นั้นเอง ไอ้สองก็โทรไปรายงานไอ้บิ๊ก ที่ขับรถมาดักรออยู่ด้านนอก

"ไอ้บิ๊ก แนนกับพิมขับรถออกไปแล้ว"

"เออ ขอบใจมาก กูจอดรออยู่ด้านนอก..."

ทีแท้ ไอ้บิ๊กก็แอบขับรถมาดักรออยู่ด้านนอกมหาวิทยาลัย พอเห็น Toyota Yaris สีขาว รถของแนนนี่แล่นออกมา ไอ้บิ๊กก็ขับรถ Honda City สีดำ ที่ยืมจากทางบ้านมาขับ

"ออกมาได้สักทีนะ..." บุรินทร์แอบขับรถสะกดรอยตามสองสาวไปตามทาง โดยระมัดระวังไม่ให้ทั้งคู่รู้ตัว แต่ว่า...

นริศราที่กำลังขับรถอยู่ ก็เหลือบมองกระจกหน้าเป็นระยะ เธอเห็นรถยนต์ Honda City สีดำ แล่นตามมาจากด้านหลังด้วยความเร็ว พริตตี้สาวก็ไม่ได้นึกเอะใจอะไร

"นี่แนน พิมมี่ของจะให้ดูด้วย..." พิมพาภรณ์ยิ้มอย่างมีเลศนัยน์



"ของอะไร?" นริศราร่นคิ้วใส่ พลางมองอีกคนกำลังหยิบเอาอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋า "ว๊าย!!!! อะไรเนี่ยพิม!!!! เอาอะไรให้แนนดูเนี่ย!!!"

"ทำไมเหรอ?" สิ่งที่พิมมี่เอาออกมาจากกระเป๋าสะพาย คือแท่งดิลโด้สองหัว ที่คนร้อนรักจากเมืองโคราชไปซื้อมาในตลาดมืด "ก็เอาไว้มาเล่นสนุกกันคืนนี้ไง?"

"พิมนี่ก็...." พริตตี้สาวอย่างนริศรา ถึงจะมีนิสัยห้าว ๆ แบบผู้ชาย แต่พอเจอแบบนี้ก็มีเสียอาการและเขินไม่น้อย "หื่นเกินไปแล้วนะเราน่ะ"

"ก็ตีฉิ่งอย่างเดียวมันไม่สนุกอ่ะแนน!!!" พิมพาภรณ์สารภาพ "เนี่ย มันต้องมีอุปกรณ์เสริมบ้างอะไรบ้าง พิมอยากรู้เหมือนกันว่าเราเราสองคนโดน..."

"พอ ๆ ๆ ๆ พอเลย!!!" นางแบบสาวจากเมืองพล จังหวัดขอนแก่นรีบตัดบท "เก็บไอ้แท่งนั่นใส่กระเป๋าซะ อย่าเอามาควงเล่น อายเค้า"

"ก็ได้..." พิมพาภรณ์ยิ้มที่มุมปาก ก่อนหยิบแท่งดิลโด้สองหัวใส่กระเป๋า แล้วหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเล่นฆ่าเวลาระหว่างที่นริศรากำลังขับรถกลับคอนโด

...............

ณ ห้าแยกลาดพร้าว 30 นาทีผ่านไป

"เฮ้อ!!! รถติดจัง!!" นริศราบ่นอุบกับตัวเองภายในรถที่ติดอยู่กลางสีแยกใจกลางเมือง "พิม เดี๋ยวค่อยกลับไปกินข้าวที่คอนโดแล้วกันนะ..."

"อือ..." พิมมี่ที่กำลังนั่งเล่นสมาร์ทโฟนอยู่ตรงเบาะข้าง เงยหน้ามองแนนนี่ที่เบาะคนขับ นัยน์ตาของเธอเหลือบไปเห็นรถยนต์ Honda City สีดำ ที่จอดรอไฟเขียวอยู่ด้านหลังไม่ไกลนัก ก็ร่นคิ้วใหญ่ เพราะรู้สึกคุ้น ๆ กับรถคันนี้มาก "เอ๋? รถคันนี้มันคุ้น ๆ แหะ"

"ทำไมเหรอพิม?" พริตตี้สาวหันไปถาม

"เห็นรถ Honda City สีดำคันนั้นไหม?" พิมพาภรณ์เอ่ยปาก ส่วนนริศราก็หันไปมองตรงกระจกหลัง "รถคันนั้นมันคุ้น ๆ แหะ ๆ"

"นั่นซิ..." สาวสวยจากขอนแก่นตอบ "เดี๋ยวนะ รถคันนี้ตามพวกเรามาตั้งแต่ที่มหาลัยแล้วนิ!!! นี่เรากำลังโดนสะกดรอยตามใช่ไหม?"

แล้วพิมมี่กับแนนนี่ก็หันหน้ามามองกัน เหมือนต่างฝ่ายต่างจะรับรู้แล้วว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น

"เดี๋ยวนะ พิมนึกออกแล้ว!!!" คนร่างเอ็กซ์นึกอะไรบางอย่างออก "นั่นมันรถบ้านไอ้บิ๊กนี่หว่า!!!"

"อะไรนะ? ไอ้บิ๊กเหรอ? ชัวร์ป่ะเนี่ย?" นริศราเบิกตาโพล่ง "เชี่ย!!! จะตามจองล้างจองผลาญไปถึงไหนเนี่ย!!??"

"จะทำไงดีแนน?" พิมพาภรณ์เริ่มรู้สึกไม่ดี

"เงียบ ๆ ก่อน เดี๋ยวแนนจะล่อให้ไอ้บิ๊กมันหลงทางเล่น!!!" นริศรานึกแผนอะไรออก พอไฟเขียว พริตตี้สาวก็ขับรถเลี้ยวจากเส้นวิภาวดีเข้าสู่ถนนลาดพร้าว แล้วเลี้ยวเข้าไปในซอยแถวนั้นเพื่อหลอกล่อให้ไอ้บิ๊กเข้ามาติดกับ



ตัดมาที่ไอ้บิ๊ก พอเห็น Toyota Yaris สีขาวของแนนนี่เปิดไฟเลี้ยวเข้าซอย มันก็เร่งเครื่องเพื่อกวดตามหลังมาติด ๆ แต่ว่า...

"ควย!!! พ่องตาย!!! เย็ดแม่ม!!!" ไอ้หนุ่มเลือดร้อนตบพวงมาลัยดัง เมื่อ รถโดยสารประจำทางแล่นตัดเข้ามา จนไอ้บิ๊กต้องรีบเหยียบเบรกและบีบแตร่ใส่ด้วยความโกรธ

"เฮ้ยย!!! บีบแตรหาพ่อมึงเหรอ? มีปัญหาลงมาได้นะเว้ย สัส!!!" กระเป๋ารถเมลล์วัยสามสิบผิวคล้ำ ท่าทางเหมือนคนเมายาชะโงกหน้าออกมาด่าไอ้บิ๊กที่อยู่ในรถ "เย็ดแม่ง!! เดี๋ยวเหอะ!!! เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย สาดดดดด!!!"

ไอ้บิ๊ก พอไม่มีอาวุธและเจอคนจริงเข้าก็ไม่กล้า สุดท้ายมันเลยต้องเปิดไฟเลี้ยวแล้วค่อย ๆ หมุนพวงมาลัย ออกเลนขวา เพื่อตามรถของสองสาวเข้าไปในซอยลึกย่านลาดพร้าว

"บ้าเอ้ย!!!! ไปไหนแล้ววะ!!!" ไอ้บิ๊กที่เลี้ยวรถตามสองสาวเข้าไปในซอยยิบย่อยย่านลาดพร้าวถึงกับหัวเสีย เพราะไม่รู้ว่าตอนนี้รถของสองสาวแล่นหายไปไหนแล้ว ข้างทางก็เต็มไปด้วยบ้านเรือนของผู้คน และซอยยิบย่อยอีกหลายซอย ที่หากคนไม่รู้เส้นทางเผลอเข้ามาอาจมีหลงทางได้

"ปรี๊นนนน!!!! ปรี๊นนนน!!!!" เสียงแตรไล่มาจากด้านหลังรถ Honda City สีดำของไอ้บิ๊กดังขึ้น พร้อมกับเสียงโวยวายของผู้ใช้รถใช้ถนน "เฮ้ย!!! จะจอดแช่อีกนานไหม!!!"

"ควยเอ้ย!!" บุรินทร์ หนุ่มเลือดร้อนถึงกับสบถออกมา ก่อนเหยียบคันเร่งเพื่อเดินหน้าต่อไปก่อน โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าเส้นทางที่กำลังขับไปนั้นจะพาตัวเองไปที่ไหนยังไง

.........................

ตัดมาที่ฝั่งของสองสาว หลังจากสลัดการติดตามของไอ้บิ๊กได้เป็นผลสำเร็จ นริศราก็ได้ขับรถกลับมาที่คอนโด โดยไม่ลืมแวะซื้อข้าวเย็นตรงร้านสะดวกซื้อหน้าทางเข้า โชคดีที่พิมมี่เป็นคนอาสาจ่ายเงินให้ เลยทำให้แนนนี่รอดไปอีกมื้อ

แล้วสองสาวในชุดนักศึกษาก็เดินตามเข้าไปในคอนโด ก่อนกดปุ่มสวิตซ์เปิดประตูลิฟต์ เพื่อเดินทางขึ้นไปยังชั้นบน

"เฮ้อ...โล่งอก!!!" พิมมี่ถอนหายใจระหว่างยืนอยู่ในลิฟต์ "รอดไปอีกวัน..."

"ไอ้บิ๊กนี่ท่าจะรักพิมมากเลยนะ..." แนนนี่เอ่ยปาก "ตามติดยิ่งกว่าเจ้ากรรมนายเวรอีก"

"รักแบบนี้ไม่เอาด้วยหรอก!!" คนหุ่นเซ็กส์เบ้ปาก "ไม่รู้ว่าคนอย่างมันออกมาจากคุกได้ยังไง ออกมาแล้วก็ก่อเรื่องวุ่นวายไม่รู้จักจบจักสิ้น!!!"

"พิมต้องระวังตัวแล้วล่ะ..." พริตตี้สาวเอ่ยปาก "แนนว่าถ้าไอ้บิ๊กยังตามตื้อพิมอยู่ไม่เลิกแบบนี้ แจ้งความเถอะ ไม่งั้นพิมคงอยู่ไม่ได้แน่"

"อือ..." คนร่างเอ็กซ์ตอบ ก่อนชวนอีกคนเดินออกจากลิฟต์ นริศราเปิดประตูห้อง แล้วเดินไปหยิบแก้วน้ำ จาน ชาม ช้อนส้อมมาวางบนโต๊ะ ส่วนพิมพาภรณ์ก็แกะห่อกับข้าวใส่จาน ระหว่างที่แกะอยู่นั้นเอง เสียงโทรศัพท์ของนริศราก็ดังขึ้น

"ใครโทรมาอีกเนี่ย?" พริตตี้สาวเดินไปหยิบสมาร์ทโฟนในกระเป๋า พอเห็นเบอร์ที่โทรมาเป็นเบอร์ของแม่ เธอก็คว้าซองบุหรี่แล้วรีบเดินออกไปคุยธุระนอกระเบียง

"อะไรของเค้านะ..." พิมมี่ที่แกะกับข้าวใส่จานเรียบร้อยแล้วก็ยืนมองอีกฝ่ายที่กำลังจุดบุหรี่และคุยโทรศัพท์อยู่ด้านนอก

"พิม ถ้าพิมหิว พิมกินข้าวไปก่อนนะ แนนคุยธุระกับแม่อยู่" นางแบบสาวพอเห็นอีกฝ่ายยืนดูอยู่ก็นึกขึ้นได้ เลยเปิดหน้าต่างบอกให้อีกคนกินข้าวไปก่อน

"งั้นพิมไม่เกรงใจละนะ..." พิมมี่ที่กำลังหิว พอเห็นอีกฝ่ายอนุญาตให้กินข้าวไปก่อน ก็รีบคว้าช้อนตักข้าวใส่ปากอย่างเอร็ดอร่อย พอกินไปได้สักสองสามคำ คนหุ่นเอ็กซ์ก็เหลือบไปมองพริตตี้สาวที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ริมระเบียงหน้าเคร่งเครียด

...ท่าทางจะหนักแหะ ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องทางบ้านหรือเปล่า ในใจพิมพาภรณ์คิดว่า ถ้ามีอะไรที่เธอพอจะช่วยนริศราได้ เธอก็อยากจะช่วยเพื่อเป็นการตอบแทนอีกฝ่าย

.........................

"นี่ 140,000 เมื่อไรจะได้!!!" แม่ของนริศราที่ขอนแก่นโทรมาทวงเงินจากลูกสาว

"แม่!!! ตอนนี้หนูไม่มีเงินแล้วนะ!!!" นริศราตอบด้วยน้ำเสียงเหมือนคนกำลังจะร้องไห้ "หนูให้แม่ไปตั้งเยอะแล้ว หนูไม่รู้จะหามาจากไหนแล้วแม่!!!"
"อีห่า!!!! เลี้ยงเสียข้าวสุก!!! ทำไมมึงไม่ไปขายตัวให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยวะ!!! หน้าตามึงออกจะสวย เดี๋ยวก็มีเสี่ยเงินถุงเงินถังรับเลี้ยงมึงเองแหละ!!!!!" แม่ของพริตตี้สาวร่ายยาว "กูบอกมึงตั้งหลายครั้งแล้ว แต่มึงไม่เคยจำเลย!!!"

"แม่!!! นี่แม่อยากให้หนูขายตัวนักใช่ไหม!!!" พริตตี้สาวหน้าแดงก่ำด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ

"กูไม่ได้หมายถึงแบบนั้น!!!" พอได้ยินน้ำเสียงของลูกสาวที่เริ่มไม่พอใจ แม่ของนริศราก็เริ่มตีมึน "กูหมายถึงว่าทำไมมึงไม่ไปเป็นเด็กเสี่ย ให้เสี่ยเลี้ยงมึง ช่วยส่งเงินค่าเทอม ค่าขนม แล้วทีนี้จะได้ช่วยพ่อช่วยแม่มึงที่บ้านด้วย"

"แม่ หนูถามแม่จริง ๆ เถอะ..." แนนนี่สะอื้นด้วยความเสียใจ "แม่เคยรักหนูบ้างไหม? แม่รู้ไหมว่าที่ผ่านมา หนูพยายามหาเงินให้แม่ หนูให้แม่ไปเป็นแสน พ่อกับแม่เอาไปใช้อะไรยังไง หนูไม่ว่า แต่ทำไมพ่อกับแม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน จนเป็นหนี้นอกระบบด้วย?"

"เอ้!!! มึงนี่เอาใหญ่แล้วนะนังแนน!!!" แม่ของนริศราขึ้นเสียง "ก็จะให้กูกับพ่อมึงทำยังไง เจ้าหนี้เขาจะรีบเอาเงิน ถ้ามึงหาเงินมาให้พ่อกับแม่มึงไม่ได้ ก็ตัดขาดความเป็นพ่อแม่ลูกกันไปเลย!!!"

แล้วแม่ของนริศราก็กดวางสาย ทิ้งให้พริตตี้สาวยืนร้องไห้อยู่หน้าระเบียง จนพิมมี่ที่กินข้าวอยู่ต้องหันมามอง และรีบลุกขึ้นเดินมาสอบถามเรื่องราวว่าเกิดอะไรขึ้น

"แนน!! แนน!!! เกิดอะไรขึ้นเนี่ย!!" พิมมี่เอ่ยปากถามอีกฝ่ายที่ล้มตัวลงไปนั่งร้องไห้ "แนน..."

"ฮือ..." นริศราปล่อยโฮออกมา "แนนอยากตาย!!! แนนไม่อยากอยู่แล้ว!!!"

ว่าแล้วพริตตี้สาวผู้น่าสงสารก็ลุกขึ้น หวังจะกระโดดจากระเบียงห้อง แต่โชคดีที่คนหุ่นแซ่บจากโคราชรั้งตัวเอาไว้ได้

"แนน!! จะทำอะไรน่ะ!!!" พิมพาภรณ์โอบกอดนริศราแล้วรีบดึงเข้ามาภายในห้อง "จะคิดสั้นเหรอแนน!!! ไม่ได้นะ!!! ตั้งสติหน่อยซิ มีอะไรก็บอกพิมมา!!!"

"ฮือ..." นริศราร้องไห้ตาแดงก่ำ จนเลอะอายไลน์เนอร์ไหลเป็นทางอาบพวงแก้มซ้ายขวา "แม่เราที่ขอนแก่น โทรมาทวงเงิน 140,000 แต่ตอนนี้เราไม่เหลือเงินแล้ว งานก็โดนแคนเซิล เราไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ฮือ..."

"140,000 เลยเหรอ..." พิมพาภรณ์ถึงกับร่นคิ้ว เธอเองก็อยากจะช่วยนริศรา แต่ด้วยจำนวนเงินที่มากขนาดนั้น เธอเองก็จนปัญญา ไม่รู้จะช่วยยังไง จนกระทั่ง...

"แม่แนนบอกว่า ถ้าหาเงิน 140,000 มาให้ไม่ได้ไม่ต้องมาเป็นแม่ลูกกันอีก โอ้ย!!!! อยากตายเว้ยอยากตาย!!!" พริตตี้สาวระบายความทุกข์ในใจออกมา "จักอีหยังกะด้อกะเดี้ย ชีวิตข้อยทำไมมันฮ่างจั๊งซี้ ข้อยเฮ็ดเวียกหาเงินจักกี่บาทก็ให้อีพ่ออีแม่เบิ๊ด ข้อยเหนื่อยสายตัวแทบขาด ต้องไปยืนแอ่นนมแอ่นตูดให้คนเบิ่ง แต่อีพ่อกับอีแม่ก็เอาเงินจากน้ำพักน้ำแฮงข้อยไปลงกับการพนันเบิ๊ด เบิ๊ดคำซิเว้าแล้วข่อย อยากตายแหน่ ชีวิตฮ่าง ๆ จังซี้ ข้อยบ่อยากอยู่แล้ว ฮือ...." (อะไรกันนักกันหนา ชีวิตชั้นทำไมมันแย่แบบนี้ ชั้นทำงานได้เงินกี่บาทก็ให้พ่อกับแม่หมด เหนื่อยสายตัวแทบขาด ต้องไปยืนแอ่นนมแอ่ตูดให้คนดู แต่พ่อกับแม่ก็เอาเงินไปลงกับการพนันหมด ไม่รู้จะพูดอะไรอีกแล้ว อยากตาย ชีวิตห่วย ๆ แบบนี้ ไม่อยากอยู่แล้ว)

"เอ่อ..." พอเห็นอีกฝ่ายพูดภาษาถิ่น พิมพาภรณ์ที่เป็นเด็กโคราชเลยแอบเหวอ เพราะเธอไม่ได้คล่องภาษาอีสานขนาดนั้น "ใจเย็นก่อนนะ ทุกปัญหามีทางแก้นะแนน ใจเย็น ๆ"

"ข้อยบฮู้ว่ามันเป็นกรรมอีหยังของข้อย ที่ทำให้ชีวิตข้อยเป็นจังซี้ เฮ็ดอีหยังก็หงายป่างหง่าง!!!" นริศรานั่งคุกเข่าร้องไห้เหมือนเด็กน้อย หมดสภาพพริตตี้สาวแสนสวยในบัดดล (ไม่รู้มันเป็นกรรมอะไรของชั้น ที่ทำให้ชีวิตต้องเป็นแบบนี้ ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่องสักอย่าง)



พิมมี่ ก็นึกสงสารอยู่ไม่น้อย ในใจเธอคิดว่าถ้าเป็นเงินไม่กี่พันบาท เธออาจพอมีทางช่วยอีกฝ่ายได้บ้าง แต่ทีนี้พอเป็นหลักแสน เธอเองก็จนปัญญา ตัวเองก็ยังเรียนไม่จบ ไม่มีงานทำ ก็เลยไม่รู้จะทำยังไง จนกระทั่ง...

"ลุงพล..." คนร้อนรักแต่จิตใจดีจากเมืองโคราชนึกถึงอดีตภารโรงผู้มีบุญคุณล้นเหลือที่เคยช่วยเหลือเธอคนนั้น ฝ่ายนริศราพอได้ยินชื่อนี้ ก็เลยเงยหน้ามองพิมพาภรณ์ด้วยความสงสัย

"ไผ? เอ้ย!!! ใครเหรอ? ลุงพล?" พริตตี้สาวเผลอลืมตัวเว้าลาวใส่พิมมี่

"พิมพอรู้จักผู้ใหญ่ใจดีคนนึง ที่น่าจะช่วยแนนได้..." พิมมี่แตะบ่านางแบบสาวเพื่อปลอบใจ "เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้า เราไปหาผู้ใหญ่ใจดีคนนี้กัน"

"ใครอ่ะ?" นริศราเอ่ยปากถาม "ลุงพลน่ะเหรอ? ใครคือลุงพล?"

"เดี๋ยวแนนก็รู้เอง..." พิมมี่เอ่ยปากด้วยสีหน้ามั่นใจ ว่าลุงพลจะต้องช่วยแนนนี่ เหมือนที่เคยช่วยเธอเอาไว้อย่างแน่นอน

พอได้ยินแบบนี้ นริศราก็เริ่มมีกำลังใจ และลุกขึ้นไปกินข้าวได้ ก่อนที่พิมมี่จะโทรหาลุงพล แต่ว่าอีกฝ่ายดันปิดเครื่อง สร้างความร้อนอกร้อนใจให้คนร่างอวบอัดจากดินแดนที่ราบสูงเป็นอย่างมาก

...สุดท้ายพิมมี่เลยตัดสินใจว่าพรุ่งนี้เช้า จะให้แนนนี่ไปหาลุงพลถึงวิทยาลัยพยาบาลให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ส่วนหนึ่งเพราะเธอเองก็อยากเจอลุงพลเป็นการส่วนตัวเหมือนกัน หลังจากที่ไม่ได้เจอกันหลายวันเพราะต่างฝ่ายต่างยุ่งกับธุระส่วนตัว

.........................

ตัดมาที่ช่วงเช้า ณ โรงอาหารภายในวิทยาลัยพยาบาล

ลุงพลกำลังยืนคีบปาท่องโก๋ขึ้นมาจากกระทะเพื่อนำมาพักไว้บนถาด ตาเฒ่าหื่นผิวปากอย่างอารมณ์ดี หลังจากที่เมื่อคืนได้มีประสบการณ์รักที่แสนซาบซ่านกับสาวหมวย เดือนดารา

"ค่อย ๆ เดินนะจ๊ะน้องหมวย..." ลุงพลค่อย ๆ ประคองเดือนดาราเดินเข้าห้องน้ำ ทั้งคู่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่าล่อนจ้อน โดยเฉพาะเดือนดารา ที่ผมเผ้ายุ่งเหยิง เดินขาถ่าง ตรงหว่างขาเปียกเยิ้มไปด้วยสารคัดหลั่งที่เกิดจากกิจกรรมรักของคนต่างวัย "เป็นยังไงบ้างจ๊ะน้องหมวย?"

"เจ็บหอย เจ็บก้น..." เดือนดาราร้องโอดโอย "ลุงนะลุง!!! รังแกเด็ก!!! คอยดูเหอะ!!! หนูจะฟ้องพ่อแน่ว่าลุงปล้ำหนู!!"

"โถ!!! ลุงกลัวแล้วจ๊ะน้องหมวยจ๋า" ลุงพลโอบกอดเดือนดาราพลางหอมแก้มซุกไซ้ซอกคอเด็กสาวชุดใหญ่ "ก็น้องหมวยทั้งน่ารักน่าฟัดแบบนี้ ใครจะไปอดใจไหวล่ะ?"

"เหอะ!!!" เดือนดาราแอบยิ้มที่มุมปาก "ตาเฒ่าชีกอเอ้ย!!! เอาอะไรมาทิ่มตูดหนูเนี่ย!!! พอได้แล้ว หนูจะกลับหอ!!!"

แล้วคู่รักต่างวัยต่างช่วยกันชำระร่างกายให้กันและกันราวกับคู่ผัวเมียพึ่งแต่งงาน ก่อนที่ลุงพลจะขับรถกระบะพาเดือนดารามาส่งที่หอพักสตรี พร้อมกับสั่งกำชับเด็กสาวไม่ให้เอาเรื่องนี้ไปบอกใคร พอนึกถึงภาพประสบการณ์รักที่แสนวาบหวามที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ก็ทำเอาเป้ากางเกงของมนุษย์ลุงคนขายน้ำเต้าหู้รู้สึกตึง ๆ อีกครั้ง

"ลุงพล..." แล้วทันใดนั้น เสียงเรียกชื่อที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น "ลุงพลคะ?"

"พิมมี่?" ลุงพลที่กำลังเคลิบเคลิ้มกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวานตื่นจากภวังค์ เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคย ซึ่งก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่เป็นพิมมี่ ที่คราวนี้พาเพื่อนมาด้วย "พิมมาที่นี่ได้ยังไงเนี่ย? มีธุระอะไรกับลุงเหรอจ๊ะ? แล้วนี่พาใครมาด้วยเนี่ย?"

"ขอโทษนะคะลุง..." นริศราจำหน้าลุงพลได้ "เราเคยเจอกันมาก่อนใช่ไหมคะ?"

"เอ่อ..." ลุงพลนึกขึ้นได้ ว่าเพื่อนที่พิมมี่มาพา คือคนที่ตัวเองเคยช่วยไว้เมื่อหลายวันก่อน ตอนที่แกพาน้องอุ๊ไปพรอดรักแล้วแวะซื้อกับข้าวให้เด็กสาว แล้วทีนี้ บังเอิญมีกลุ่มวัยรุ่นหัวขโมยวิ่งฉกกระเป๋า ด้วยความเป็นคนดีในจิตใต้สำนึกลึก ๆ ของแก แกเลยช่วยสกัดกลุ่มวัยรุ่นหัวโมยพวกนั้น แล้วนำกระเป๋าเงินไปคืนให้เหยื่อ ซึ่งเหยื่อคนนั้นก็คือนริศรานั่นเอง

"เดี๋ยวนะ?" พิมพาภรณ์เริ่มรู้สึกไม่ชอบมาพากล "สองคนนี่รู้จักกันด้วยเหรอ?"

"คือคุณลุงคนนี้เคยช่วยแนนเอาไว้น่ะพิม..." นริศราอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้พิมพาภรณ์ฟัง คนร่างอวบก็ยืนฟังเรื่องราว พลางร่นคิ้วใส่ลุงพลด้วยความไม่ไว้ใจ เพราะคิดว่าลุงพลกับแนนนี่อาจมีอะไรลึกซึ้งกว่านั้น

######################

***หมายเหตุ : ลุงพลและแนนนี่เคยเจอหน้ากันแล้วในภาคแรก ตอนที่ 65 โดยลุงพลเป็นคนช่วยแนนนี่จากกลุ่มวัยรุ่นที่วิ่งราวกระเป๋าระหว่างซื้อกับข้าวให้น้องอุ๊ ที่ตัวเองพาไปเมคเลิฟกันนั่นเองครับ**

https://xonly8.com/index.php?topic=205695.0

######################

"อ้อ!!! อย่างนี้นี่เอง..." พอได้ยินเรื่องราวทั้งหมดจากพริตตี้สาว คนร้อนรักจากดินแดนที่ราบสูงก็ยิ้มออก ด้วยเพราะเธอเป็นคนเปิดซิงแนนนี่ด้วยตัวเอง เลยคิดว่าลุงพลไม่น่าจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอะไรกับแนนนี่แน่นอน

"เดี๋ยวมีอะไรจะคุยกับลุง รอแป๊ปนะ ให้ลุงเคลียร์งานตรงนี้ให้เสร็จก่อน สองสาวรีบไหม? สั่งข้าวมากินระหว่างรอลุงก่อนก็ได้นะ" ลุงพลเอ่ยปากถาม

"พอดีเรามีเรื่องจะขอความช่วยเหลือลุงพลสักหน่อยนะค่ะ..." พิมพาภรณ์เอ่ยปากขึ้นมาก่อน "แต่ลุงเคลียร์ธุระอะไรของลุงให้เสร็จก่อน พวกหนูสองคนรอได้"
"จ๊ะ...งั้นรอแป๊ปนะ" ลุงพลยิ้ม ก่อนหันไปทักทายกับเจ้าหน้าที่วิทยาลัยพยาบาลที่เดินมาสั่งน้ำเต้าหู้และปาท่องโกไปกินที่ห้อง "สวัสดีครับอาจารย์ จะรับอะไรดีครับ"

.........................

หลังจากที่เคลียร์ธุระเสร็จได้ไม่นาน ลุงพลในชุดเสื้อยืดสีขาว สวมผ้ากันเปื้อนสีแดง กางเกงขาสามส่วนสีดำ ก็เดินเข้ามานั่งคุยกับสองสาวที่สั่งกาแฟเย็นจากร้านข้าง ๆ โดยไม่ลืมสั่งเผื่อให้ลุงพลด้วย

"นี่ค่ะโอเลี้ยง..." พิมมี่เลื่อนแก้วโอเลี้ยงบนโต๊ะให้ลุงพล

"ขอบใจจ๊ะพิม มีอะไรจะคุยกับลุงเหรอจ๊ะพิม?" ลุงพลเอ่ยปากถามเด็กสาวด้วยรอยยิ้ม พลางหยิบแก้วโอเลี้ยงขึ้นมาดื่มแก้กระหาย

"คือหนู..." พิมพาภรณ์หันไปมองหน้านริศรา "คือหนูมีเรื่องอยากขอความช่วยเหลือจากลุงน่ะค่ะ ลุงพอมีเงินให้หนูยืมสัก 140,000 บาท ไหมคะลุง?"

"พรวด!!!" พอได้ยินจำนวนตัวเลข น้ำโอเลี้ยงในปากลุงพลถึงกับพุ่ง โชคยังดีที่ตาเฒ่าหื่นรีบหันไปทางอื่นได้ทัน ไม่เช่นนั้นสองสาวพิมมี่และแนนนี่ต้องรับเคราะห์แน่

 

โปรดติดตามตอนต่อไป...


เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ฝากติดตามเพจเฟสบุ๊คของผมด้วยนะครับ

https://web.facebook.com/Nato87.The.Storyteller

Chut

ลุงพลช่วยเด็กมันหน่อย เดี๋ยวเด็กมีรางวัลตอบแทน

♤judas♤

ลุงพลได้ยินยอดเงินที่หนูนริศราที่ขอยืมถึงกับสำลักเลยเหรอ แล้วยังงี้ลุงพลจะมีให้ยืมไหมนะ ถ้าให้ยืมจะมีอะไรมัดจำไหมเนี้ย

playnut

อิจฉาลุงโว้ย   ขอควยปลอมด้วยนะครับ  อยากเห็นแนนี่โดนสองรูพร้อมกัน


เดช12341

แนนนี่ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องเงินเดี๋ยวป๋าพลจัดให้ ::DookDig::

xxxboyz


ANO555


marco35

ป๋าบอกแค่นี้จิ๊บๆ  แต่ต้องได้เปิดซิงน้องแนนนี่นะ

Sudyod.pra

140,000 นี่ถ้าได้เปิดซิงก็ถือว่าคุ้มอยู่นะครับ ติดใจมีได้ซ้ำเรื่อยไปอีกไม่มีก็ต้องหากู้ละครับลุง


ผู้เฒ่าเซราะกราว

#11
แม่ของแนนนี่ก็โหดน่าดูผลาญเงินลูกสาวเป็นว่าเล่น แทนที่จะสงสารลูกสาวที่ทำงานหาเงินมาให้ใช้ ว่าแต่พิมมี่นี่ก็ทำเหมือนลุงพลพิมพ์เงินได้เอง มาขอให้ช่วยเงินตั้งแสนสี่....5555
โอ้โห...แนนนี่ เสนอข้อแลกเปลี่ยนว่าถ้าลุงพลยอมช่วยเหลือเรื่องเงิน จะยอมให้ลุงพลปู้ยี่ปู้ยำได้ตามใจชอบเลย แบบนี้ก็เข้าทางลุงพลล่ะสิ ว่าแต่ไม่ปรึกษากับผัวอย่างพิมมี่เลยนะ....5555

Khuna


bangsan