ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

เธอ ฉัน และ เขา 26

เริ่มโดย ✰✰✰ 𝓢𝓽𝓪𝓡𝓓𝓊𝓼𝓣 ✰✰✰, มิถุนายน 26, 2021, 12:24:35 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

✰✰✰ 𝓢𝓽𝓪𝓡𝓓𝓊𝓼𝓣 ✰✰✰

ต่อจากตอนที่แล้ว เจ้าโทนเหน็บว่าวิ่ง 10 กิโลเมตรยังไม่เหนื่อยเท่าดูแลเรา 5 นาที




โอ้โห ! กล้ามาก กล้ามากไปแล้วจะบอกว่าการดูแลเราแค่ 5 นาที มันยังเหนื่อยกว่าการที่เขาต้องวิ่งเป็น สิบๆกิโลเมตรงั้นเหรอ กล้ามาก กล้ามากเลย แล้วพอพูดจบก็เดินไปดื้อๆเลย หูย ! เจ้าลิงหัวหงอกกล้ามากเลย เราเดินไปดึงแขนกะว่าจะถามให้รู้เรื่อง แต่ว่า ... โอยย นี่แรงคนหรือแรงช้างอ่ะ จับไม่อยู่ แปลกอ่ะ ทำไมน้องโทนแรงเยอะแบบนี้ล่ะ ง่า แรงเยอะจัง แล้วน้องโทนเข้าก็หยุดเดินแล้วหันมาถามเราว่ามีอะไรครับพี่หมิว


เราต้องหยุดแล้วมองหน้าเขาเลย เป็นอย่างที่รุกะนางบอกจริงๆ แววตาโทนดูเศร้ามากๆเลย เราถามนะว่ามีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า น้องโทนบอกเปล่านี่ครับ ไม่มีอะไร เราก็จับแขนเขาแล้วถามว่ามีอะไรบอกมาตรงๆ ตอนนั้นน้องโทนก็มองไปทาง ซ้ายแล้วรีบสะบัดมือ.ออกแล้วถอยห่างออกไปราวๆ 1 เมตร



แล้วตอนนั้นก็มีเสียงของคุณอาท่านหนึ่งดังขึ้นมา เอ้าหมิวยังไม่นอนเหรอลูก เสียงคุณอาทักทายมา ตอนนั้นน้องโทนยืนเหมือนกำลังทำความเคารพเลย เราสวัสดีคุณอีกครั้ง บอกสวัสดีค่ะคุณอา คุณอาเขายืนมือไขว้หลังแล้วถามว่าวันนี้เป็นไงบ้างได้เรียนรู้อะไรบ้างไหม



เราบอกว่าพอได้บ้างค่ะ แต่ก็ยังงงๆมากเลยค่ะ คุณอาก็บอกว่าค่อยๆเรียนรู้ไปไหนยังไงอาก็คิดว่า แมนควรมีคนช่วย ควรมีคนที่ไว้ใจสักคน ถ้าหมิวจะมาช่วยงานแมนก็จะดีมากๆเลย เราก็ด้วยความที่รู้จักคุณอามาตั้งแต่เด็กๆอ่ะเนอะ เราก็ทำเสียง งอแงงอแงไปว่า



คุณอาค่ะ หนูยังเรียนไม่จบเลยย เรียนจบก็อยากพักผ่อนบ้างนี่นา คุณอาไม่สงสารหนูเหรออ เราพูดแล้วก็ทำหน้างอนๆใส่ ซึ่งการที่ท่านเห็นเรามาตั้งแต่เด็กๆ มันเลยทำให้เรากลายเป็นเหมือนลูกสาวของท่านอีกคน คุณอาบอกอ่ะ ๆ ๆ อาไม่พูดแล้ว แต่หมิวต้องเรียนรู้ไว้นะ



เราตอบค่ะอย่างเต็มปาก แล้วคุณอาก็หันไปหาน้องโทน เขาเงียบก่อนจะพูดว่า วันนี้ไม่ทำเกินไปหน่อยเหรอ เอ้าทำไมกลายเป็นแบบนั้นล่ะ โทนตอนนั้นก้มหน้าเหมือนกำลังฟังอยู่ คุณอาของเราก็พูดนะถ้าชาวต่างชาติคนนั้นฟ้องร้องขึ้นมา คิดบ้างไหมว่าบริษัทของเราจะเสียอะไรบ้าง



ตอนนั้นเราได้แต่นิ่งทำอะไรไม่ได้เลย เราไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อไป จะพูดว่าไม่กล้าช่วยก็ไม่เกินไปเลยตอนนั้น น้องโทนก้มหน้ารับฟังคำของคุณอาอย่างเดียว คุณอาบอกอีกว่า การใช้กำลังมันไม่ใช่คำตอบของเรื่องทั้งหมด ถ้าแค่นี้ยังไม่รู้ วันข้างหน้าจะทำอะไรได้ จะไว้ใจให้ทำงานใหญ่ๆอะไรได้


คุณอาเขาบอกอีกว่าปัญหามันมีหลายทางให้แก้ เราก็กำลังจะพูดนะแต่คุณอาก็ยกมือห้ามไว้ แล้วก็เงียบเลยคราวนี้ คุณอาเดินเข้าไปหาโทนแล้วพูดอีกว่า ถ้าอยากโตมากกว่านี้ก็หัดเรียนรู้แล้วอ่านสถานการณ์ให้ไกลกว่านี้ ไม่ใช่คิดว่าจะทำยังไงกับเหตุการณ์ตรงหน้าแต่ต้องคิดเผื่อไว้ในหลายกรณีและคิดถึงผลกระทบที่จะตามมา



ไม่ใช่ว่ามีแมนคอยให้ท้ายแล้วจะทำอะไรไม่คิด  น้องโทนตอบครับแล้วก้มหน้าอีกที คุณอาเรียกชื่อหัวหน้าทีมงานของพี่แมน แล้วพูดว่าฝีมือระดับเขาคิดว่าจะจัดการกับชาวต่างชาติคนนั้นไม่ได้เหรอ แต่ทำไมเขาไม่ทำล่ะ เพราะเขาคิดถึงผลกระทบที่จะตามมา เขาเลยเลี่ยงไว้ ถ้าอยากโตมากกว่านี้ก็ต้องคิดให้มากกว่านี้ คุณอาเขาพูดใส่แบบนั้นเลย เราก็ไม่รู้ว่าตัวเราควรพูดอะไรอีกไหม




คุณอาพูดอีกว่า แล้วก็ระวังเรื่องภาพลักษณ์ของบริษัทด้วย การที่พนักงานพาร์ทไทม์ มาสนิทสนมกับลูกสาวท่านประธานคนจะมองไม่ดี เจ้าโทนก้มหัวพูดทราบแล้วครับ ผมจะระวังให้มากกว่านี้ครับ น้องโทนพูดแบบนั้นอีกครั้ง คุณอามองไม่พูดอะไรแล้วก็เดินไป เราทำอะไรไม่ถูกเลยตอนนั้น จะทำยังไงดี จะไปต่อยังไงดี หวังว่าน้องโทนจะไม่เอาคำพูดของคุณอามาคิดมากนะ แต่มันเหมือนว่าจะไม่ใช่แบบนั้น พอคุณอาเดินไป เราก็เดินไปหาน้องโทนเลยนะ แต่น้องโทนก็ถอยออกอีกแล้ว จนเราต้องถามว่าเป็นอะไรเนี่ย น้องโทนก็บอกว่าคุณหมิวกลับที่พักเถอะครับ



โอ๊ย คุณหมิวเหรอ ! นี่เรียกว่าคุณหมิวเหรอ บอกเลยว่าเราไม่ชอบ ไม่พอใจเลย เราถามว่าทำไมเรียกคุณหมิวล่ะ เราบอกให้หยุดเลยนะ ถ้ายังหลบอีกโดนแน่ๆ แล้วน้องโทนก็ไม่หยุดนะ โอ๊ยยย เราก็ถามว่าเป็นอะไรเนี่ย น้องโทนเงียบแล้วพูดว่า... ก็คุณชื่ออา บอกว่าให้ระมัดระวังการใกล้ชิดคุณหมิวครับ



เราบอกไปนะว่าบ้าบอ คิดอะไรไร้สาระ แล้วมาเรียกคุณหมิวแบบนี้หมายความว่าไง น้องโทนเงียบนะ แล้วยั๊วะ อ่ะ ยั๊วะมากตอนนั้นยิ่งโดนพูดเรื่องดูแลเรา 5 นาทียังไม่เหนื่อยเท่าวิ่ง 10 กิโลฯเรายิ่งโมโหใหญ่ เลยเผลอหลุดปากพูดไปว่า เออจะไปไหนก็ไปเลย กลับบ้านไปเลยก็ได้ไป น้องโทนไม่พูดแต่พยักหน้าตอบกลับ



แล้วเคยไหม พอพูดออกไปแล้วไม่ถึง 2 วินาที ก็รู้สึกว่าตัวเองทำผิดครั้งใหญ่ลงไปแล้ว น้องโทนก็เดินออกไปเลยตอนนั้น เรารู้สึกว่าเราทำผิดอีกแล้วล่ะ แล้วเราต้องทำไงต่อไป เราต้องพูดอะไร บริบทแบบไหน บอกตามตรงเกิดมายังไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองทำผิดขนาดนี้เลย เลิกกับแฟนคนที่เป็นผู้ชายยังไม่แย่อะไรขนาดนี้ หรืออาจจะเพราะมันเป็นคนละความหมายและช่วงเวลาหรือเปล่านะ ตอนนี้เราพึ่งนึกถึงคำของพี่แมน ว่าการที่เราเกิดมาแล้วมีพร้อมทั้งทรัพย์และรูปทรัพย์ มันอาจจะทำให้เราไม่ได้เรียนรู้หรือรู้สึกอะไรก็ได้




ตอนนั้นคนที่เรานึกถึงคนแรกก็คือเตย แต่ว่าเราจะพูดยังไงกับเตยดีล่ะ เราจะพูดว่าง้อน้องโทนยังไงดี แบบนั้นมันก็ไม่ได้ เราไม่อยากให้เตยรู้สึกว่าเราแคร์น้องโทนมาเกินไป มากเกินกว่าฐานะนายจ้างกับลูกจ้าง พอตอนนี้เราเองก็พึ่งนึกได้ว่า เรายังไม่รู้เลยว่าเรากับน้องโทนเป็นอะไรที่มากกว่าลูกจ้างและนายจ้างไหม



เพราะตลอดเวลาน้องโทนจะเข้ามาหาเรา เพราะหน้าที่และสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ ไม่ได้เข้ามาหาเราเพราะเขาคิดว่าเราเป็นพี่สาว เหมือนที่ทำกับจ๋า หรือกับ เตย แล้วยิ่งเมื่อครู่เราพูดแบบนั้นไปด้วยเขาจะคิดยังไงนะ เรากลับมาที่ห้องแล้วก็โทรหาจ๋าก่อนนะ อย่างที่บอกเราไม่กล้าบอกเตย



และที่สำคัญตอนนี้เตยก็น่าจะติดธุระอยู่ ตอนแรกจ๋าไม่รับสายนะ แต่ครู่หนึ่งก็โทรกลับมาถามว่าแก มีอะไร เราก็ชะงักไปครู่หนึ่งแล้วก็ถามว่าแก แกเคยทำให้โทนโกรธป่ะ จ๋าฟังแล้วก็เงียบไปแปปนึงแล้วถามว่ามีอะไรเหรอแก บอกชั้นมาได้นะ เราก็เล่าไปว่าเหตุการณ์เป็นไงและเกิดอะไรขึ้น ซึ่งคำตอบที่จ๋าบอกมาคือ




จริงๆแล้วแกไม่ต้องไปใส่ใจอะไรมากก็ได้นะหมิว เราก็แปลกใจนะว่าทำไมจ๋าบอกแบบนั้น เราถามว่าเอ้าไหงงั้นอ่ะจ๋า จ๋าบอกเราว่าจริงๆแล้วมันก็ถูกอย่างที่อาของแกบอกนะ ทางออกอื่นๆก็มีการที่เจ้าโทนเข้าประชิดตัวฝรั่งคนนั้นได้ไวขนาดนั้น ตัวเจ้าโทนเอง ก็ควรจะมีเวลาคิดว่าต้องทำยังไงต่อ จับล็อคก็ได้หรือสกัดการเคลื่อนไหวก็ได้



แต่เจ้าโทนกลับเลือกที่จะทุ่มฝรั่งคนนั้นลงพื้น ตอนนั้นเราก็บอกนะว่า แต่ทุกอย่างมันเร็วมากเลยนะแก ชั้นยังมองตามแทบไม่ทันเลย น้องโทนอ่ะไวมาก จ๋าบอกว่าก็นั่นแหละคือสิ่งที่เจ้าโทนต้องรับผิดชอบ จ๋าพูดนะว่าทักษะการปลดอาวุธก็มี ทักษะการล็อคแขนก็มีแต่เจ้าโทนเลือกจะทุ่มลงพื้นก็ต้องยืดอกรับคำตำหนิไป เราก็พูดสวนว่าแต่แก แล้วน้องชายแกมาเรียกชั้นว่าคุณหมิวอีกนะไม่ชอบเลย



จ๋าถามว่าแล้วแกทำไงต่อหมิว แกไปใส่อารมณ์ใส่เจ้าโทนเองนะ เราก็บอกเอ้าก็ตอนนั้นเราหงุดหงิดนี่ มาเรียกคุณหมิวบ้าๆบอๆ แล้วจ๋าก็พูดสวนขึ้นมาว่า หมิว ตอนนี้เจ้าโทนตกอยู่ในสภาพไหน แกจำไม่ได้เหรอ เราหยุด เราไม่พูด เราแทบจะลืมหายใจเลยนะพอจ๋าพูดมาถึงตอนนี้ ใช่ตอนนี้น้องโทนเขากำลังหดหู่ เขากำลังอยู่ในช่วงที่ทำใจลำบากนี่ ตอนนั้นจ๋าก็พูดมานะว่า หมิวชั้นว่าแกแปลกๆนะ



เราก็ถามว่าแปลกๆยังไงอ่ะ ชั้นก็เป็นแบบนี้มาตลอด จ๋าก็บอกว่าใช่ แกขี้วีนขี้โวยวาย แต่แกไม่เคยเจาะจงใครเกินไปขนาดนี้ไง เราก็ถามนะอะไร อะไร อะไร จ๋าบอกว่าแกรู้ป่ะ ตอนแกทะเลาะกับแฟนเก่าแก แกยังไม่ดูวิตกขนาดนี้เลยอ่ะ อาการนี้มันเหมือนว่าแก แคร์เจ้าโทนมากนะ แต่ก็นะ



เจ้าหญิงอย่างแก คงจะแสดงอะไรออกมาตรงๆไม่ได้ ก็นะเจ้าโทนเองก็เป็นแค่พลทหารในปราสาทของแก ส่วนแกก็รายล้อมไปด้วย คนระดับเดียวกันเต็มไปโม๊ดดดด เราก็งงว่า อะไรอ่ะจ๋าแกจะสื่ออะไรเนี่ย จ๋าก็เงียบไปแปปนึงแล้วก็บอกว่า


ชั้นว่าแก  ปลื้มเจ้าโทนอ่ะดิ่



ห๊ะ! อะไรเนี่ย เราตกใจจนแทบกรี๊ด เราพูดไม่เป็นศัพท์เลยตอนนั้น อะไร อะไรอ่ะแก อะไรแกจ๋า แกพูดอะไร จ๋าพูดกลับมานิ่งๆว่ายิ่งเป็นแบบนี้ แสดงว่าชั้นคิดไม่ผิดแน่ล่ะ แกปลื้มเจ้าโทนจริงๆด้วย เราบอกว่าไม่ใช่อ่ะ ไม่ ๆ ๆ ๆ คือตอนนั้นเราแบบหลุดมาก



เพราะไม่คิดว่าจ๋าจะพูดอะไรแบบนี้ แต่จ๋าก็บอกว่าถ้าแค่ปลื้มชั้นก็ไม่คิดว่ามันผิดอะไรมากนะ แต่ถ้ามันมากกว่านี้ไปชั้นก็ต้องห้ามแก ตอนนั้นเราค่อนข้างไม่เข้าใจในสิ่งที่จ๋าพูดนะ เราก็พูดๆแบบปลายเปิด กึ่งสงสัย กึ่งคำถาม ว่าไรเนี่ยแก จ๋าบอกว่า แกรู้ตัวไหมหมิวว่าตัวแกน่ะนิสัยเป็นยังไง  เราก็ถามไรเนี่ยแก ถามอะไรแปลกๆ ชั้นเป็นไม่ดีเหรอ



จ๋าบอกมันก็ไม่ใช่หรอกแก แกน่ะดีกับเพื่อนๆทุกคน แต่ในขณะเดียวกันบางครั้งแกก็มักเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล เอาตรงๆตอนนั้นเราเริ่มฉุนนิดนึงนะ แต่จ๋าก็พูดต่อว่า แต่ก็เพราะพวกเรารู้จักแกมานาน พวกชั้นก็รับมือได้ไม่ยากเย็นอะไรนัก แต่กับคนอื่นมันไม่ใช่ ถ้ากรณีแกไปชอบเจ้าโทน ถ้าเป็นคนทั่วไปเขาก็มักจะทำตัวน่ารักๆ แอบเอาใจใส่ค่อยๆเพิ่มความรู้สึกดีๆให้ จนอีกฝ่ายรู้สึกดีด้วย แต่กรณีแกน่ะหมิว แกคงจะเอาแต่ใจและต้องการให้เจ้าโทนเข้าหาแกมากกว่า



เมื่อกี้ที่แกเล่าก็เหมือนกัน แค่เจ้าโทนพูดอะไรผิดหูนิดเดียว แกถึงกับไล่เจ้าโทนเลยนะหมิว หมิวเจ้าโทนไม่เหมือนกับคนอื่นๆนะไม่ใช่ว่าแกโมโหแล้วเจ้าโทนจะหาทางง้อนะ เจ้าโทนก็จะตีความไปนัยยะเดียวกับที่แกพูดนั่นแหละ แกไล่เจ้าโทนก็คือคิดว่าแกไล่ ไม่ใช่คิดว่าแกกำลังงอน แล้วต้องหาทางง้อ ต้องหาทางเอาใจ



เราจะพูดบ้าง แต่จ๋าก็พูดอีกว่า เพราะแกเป็นคนสวยนะหมิว แต่เพราะแกสวยน่ะแหละ แกถึงแอบนิสัยเสีย เราก็ถามว่าโหยไรเนี่ยยย  จ๋าบอกว่าก็เพราะแกกลัวเสียฟอร์มไง ตอนนั้นเราเถียงไม่ออกเลยนะ จ๋าพูดอีกว่า ต่อให้แกชอบเจ้าโทนจริงๆ แกก็คิดว่าเจ้าโทนต้องเข้ามาหาแกก่อน แกจะไม่ยอมเสียฟอร์มพูดก่อนเด็ดขาด แกอาจจะไม่รู้ตัว แต่ชั้นว่าแกมีอาการเรียกร้องความสนใจ


แกจะกระวนกระวายเวลาเจ้าโทนไม่ตามใจแก เพราะที่ผ่านมามีแต่คนเข้าหาแก เอาใจแกทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจะจีบติดไหม ดอกไม้ช่อละหลายๆร้อย หรือเป็นพันก็เคยมาวางบนโต๊ะเรียน มันเลยทำให้แกคิดว่าต่อให้แกจะชอบเจ้าโทนจริงๆ เจ้าโทนก็ต้องเข้าหาแกก่อน เราฟังแล้วก็พูดสวนทันทีว่าจะบ้าเหรอแก ชั้นมีแฟนแล้วนะจะให้ไปชอบคนอื่นได้ไง แถมยังเป็นผู้ชายด้วย จ๋ายังพูดอีกนะว่า แต่ชั้นคิดว่าแกปลื้มเจ้าโทนนะ ก็พฤติกรรมของแก มันบอกหลายอย่างนี่



บอกตามตรงนะชั้นก็ตงิดๆมาตั้งนานแล้วว่าแกเนี่ยนะจะขับรถมาหาชั้นถึงมหาวิทยาลัยบ่อยๆ แล้วเตยมันก็ไม่ได้เรียนที่นี่ด้วย แล้วอะไรล่ะทำให้แกขับรถมาที่นี่บ่อยกว่าเดิม โอ๊ยยย โดนไล่ต้อนอีกแล้ว  เรากำลังจะเถียงเลยแต่จ๋าก็พูดสวนมาว่าแล้วที่สำคัญ ถ้าที่ชั้นพูดกับแกมันเป็นเรื่องไม่จริง ป่านนี้แกตัดสายทิ้งไปแล้ว แกไม่มานั่งฟังเรื่องไร้สาระหรอก



จบกันโดนดักทางอีกแล้ว เราได้แต่จะพูด จะพูด แต่ก็พูดไม่ออก มันจุกที่คอ จ๋าพูดอีกว่าแก เตยมันไว้ใจแกกับเจ้สโทนนะถึงยอมให้ไปไหนมาไหนกันสองคน แกอย่าทำให้เตยมันรู้สึกแย่ที่ไว้ใจสิ่



เราก็พูดนะบอกจ้า จ้าห่วงกันจังเลยชั้นไม่ทำอะไร ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นหรอก จ๋าบอกอื้มดีแล้ว มันไม่ใช่เพื่อตัวแกอย่างเดียว แต่เพื่อตัวชั้นด้วย เราหื๊อ ! เพื่อตัวแก เพื่อตัวแกยังไงอ่ะจ๋า จ๋าพูดขึ้นมาว่า ถ้าวันแกไปชอบเจ้าโทนจริงๆแล้วเตยจับได้ แกรู้ใช่มั้ยว่าคนแบบเตย ถ้าได้ระเบิดอารมณ์ออกมา มันจะไม่มีใครเอาอยู่


ถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆ แล้วเตยมาถามว่าใครผิด วันนั้นคนที่จะลำบากใจมันคือชั้นนะแก คนนึงก็เพื่อนอีกคนนึงก็น้องชาย แต่ถ้าถึงต้องเลือกเราก็ต้องเลือกพวกแก แต่เจ้าโทนมันก็เป็นน้องที่เรารักเหมือนน้องชายตัวเอง แกเข้าใจชั้นไหมหมิว เราเงียบ.... แล้วก็บอกกับจ๋านะว่าแหมมมม แกก็รู้ว่าชั้นมีแฟนแล้ว แถมยังเป็นเพื่อนกันกับแกด้วย ที่สำคัญน้องชายแก ก็ไม่ใช่สเป็คของชั้นเลยสักกะนี๊ดดดด   แกเชื่อชั้นเถอะน่าาาา ที่ชั้นใส่ใจก็เพราะรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณเฉยๆหรอกกกกก  แค่นั้นเองเข้าใจไหมแก จ๋าฟังแล้วก็พูดมาว่าอื้ม ดีแล้วล่ะเป็นพี่น้องกันน่ะดีแล้ว




 






เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

gritkin

ปากไม่ตรงกับใจจริงๆอย่างที่คิด โดนต้อนจนมุมขนาดนั้นยังพูดแบบนั้นนะครับ เเต่ก็เข้าใจว่าเพราะมีเเฟนแล้ว จะให้ไปพูดอีกอย่างมันก็ไม่ใช่


singkanong

อืมฟังจ๋าผู้แล้วสะอึกแย้ววอิอิหรือว่าเจ้ชอบน้องโทนไปโดยไม่รู้ตัวน่ะ

watsapon420


Nu metal

จ๋า ผู้รอบรู้ ทุกสิ่งอย่าง

xonly-1454

เจ๊หมิวเริ่มจะชอบเจ้าโทนแล้วละ  ถ้าจะให้เรื่องเดินไปสะดวกๆ ก็ต้องจัดให้ หมิว เตย และเจ้าโทน อยู่กัน 3 คนแบบเข้าใจกัน

only1A


puretank


beerony


cannavaro

ชอบเจ้าลิงไปครึ่งค่อนใจแล้ว แต่ไม่รู้ตัวอีก

au2000

ในที่สุดก็มีคนสังเกตุได้ว่าหมิวชอบโทน

guang_k

#12
เอ เพราะอย่างนี้หรือเปล่า เจ้หมิวถึงสืบเรื่องน้องโทนทำให้รู้เรื่องตัวเล็ก และตัวโตไปด้วย เจ้จ๋านี่เซียนจริงๆ ต้อนซะเจ้หมิวไปไม่เป็นเลย มิน่าสร้างคาถาทำให้เทพโทนถึงแพ้ตลอด

คุณรุกะประทับใจโทนจากเหตุการณ์นี้นี่เองถึงจำได้นาน แต่ความเครียดของโทนอยู่ระดับไหนกันถึงทำให้ไม่สนใจคุณรุกะเลยถึงขั้นจำไม่ได้เมื่อเจอกันภายหลัง ทั้งๆ ที่ก็ไม่กี่ปีเอง รูปลักษณ์คุณรุกะไม่น่าจะเปลี่ยนไปมากนะ
เจ้หมิวช่วงต้นๆ ของการรู้จักกับคุณโทนนี่มีแต่เรื่องให้โทนน้อยใจเรื่อยๆ เลยนะครับ เรื่องเดิมยังไม่เคลียร์ดี ก็มีเรื่องใหม่ๆ เข้ามาเรื่อยเลย

ryg123456

น่าสงสารนะครับ เกิดเป็นนายโทนที่มีแต่คนหมิ่นแบบนี้

เอเค

หมิวไม่รู้เสียแล้วเตยเอาไปก่อนแล้วโทนนะ