ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

ครั้งหนึ่ง ณ.ร้านคาราโอเกะ Part 5 ตอนที่ 58 ( ประสบการณ์ตรงของนายโทน )

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, มิถุนายน 28, 2021, 12:52:24 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

สวัสดีครับ ฝนตกเผลอหลับคร๊าบบบบบบ

ยินดีต้อนรับสมาชิกร้านเกะท่านใหม่ๆด้วย

แล้วก็ขอบคุณสำหรับลูกค้าผู้ที่มาเยี่ยมร้านเกะตั้งแต่ตอนที่ 1 จนถึงปัจจุบัน

รู้สึกขอบคุณมากๆเลยคร๊าบบบบบบ ขอบคุณทุกคอมเมนต์จริงๆครับ  ผมอ่านทุกตอมเมนต์นะครับ สั้นยาวผมก็อ่านหมด

และขอบคุณทุก EDIT และแสดงความคิดเห็นเพิ่มหลังอ่านจบ  มันเป็นกำลังใจอย่างดี

อย่างที่บอกครับกระทู้นี้ Free STYLE คอมเมนต์อะไรก็ได้ครับ เพื่อจะอ่านเนื้อหาที่ซ่อนไว้

ไม่จำเป็นต้อง EDIT ไม่ต้องกลัวผิดกฎใดๆ แต่ระวังกระทู้อื่นๆ หมวดอื่นๆด้วยนะครับ

เราต้องทำตามกฎของบอร์ดและกระทู้นั้นๆนะครับ เพราะเวลา MOD ลงดาบก็เด็ดขาดมา




★★★★★★★★★★★




ความเดิมตอนที่แล้ว



พี่หมิวเขามานอนค้างบ้านผมครับ เราได้คุยอะไรกันหลายอย่าง

รวมถึงเรื่องพี่เตยด้วย แต่วันนั้นก็จบลงแต่โดยดีโดยที่ไม่ได้มีอะไร

เกินเลยเป็นครั้งที่สอง เช้าวันรุ่งขึ้น ผมก็มาช่วยที่บ้านเตรียมงานครับ

จนกระทั่งคณะคุณเคย์มาถึง ผมก็เตรียมการต้อนรับ แบบที่เคยทำ

แต่โชคดีที่มีทีมงานมืออาชีพจากบ้านพี่หมิวมาช่วย ผมเลยถือโอกาส

เดินมาที่ศาลาท่าน้ำเพื่อพักสักครู่ แต่ที่นั่นผมก็เจอรุกะครับ เธอมายืนอยู่คนเดียว

ผมก็ถามนะว่ามาทำอะไรครับเนี่ย แทนที่เธอจะตอบกลับกลายเป็นว่าเธอ

เป็นคนตั้งคำถามกลับมาครับว่า


" จำชั้นไม่ได้จริงๆเหรอ คาคาชิซัง "



★★★★★★★★★★★



คาคาชิซัง !!! ฮึ๊ !!! ??  ทำไมรุกะเขาเรียกผมด้วยชื่อนั้นล่ะ แล้วคาคาชินี่ใครวะ ใช่จารย์คาคาชิของไอ้หัวเหลืองลูก GM หรือเปล่า เธอยังคงวางมือนุ่มๆของเธอไว้ที่หัวไหล่ผมและมองหน้าไม่กระพริบตา แล้วพูดว่าจำได้มั้ยว่าชั้นเป็นใคร



ผมก็หืมอะไรหว่า ผมก็บอกว่าก็รุกะไงครับ ก็ลูกสาวคุณเคย์ไง เธอก็พูดต่อกลับมาเป็นคนที่คุณทำอะไรมิดีมิร้ายที่เชียงใหม่ด้วยไงค่ะ ผมนี่สะดุ้งเลยครับ ผมถามผมไปทำตอนไหนครับเนี่ย รุกะเธอหัวเราะเบาๆ แต่อ่าส์น่ารักชิบหายเลยขอหยาบหน่อยนึง



แล้วก็พูดว่า บากะ ซารุซังบากะ เอ้าไม่คาคาชิแล้วเหรอ แล้วตกลงคาคาชินี่คืออะไร เธอบอกว่าอืมม ที่เมืองไทยมีคำเปรียบเปรยใช่ไหมว่าความจำสั้นเหมือนปลาทอง สงสัยซารุซังจะเป็นปลาทองจริงๆ ผมถามเอ้า !!! ไหงว่าผมแบบนั้นล่ะ ก็ผมจำได้ไงครับ



ว่าคุณรุกะเป็นลูกสาวของคุณเคย์นี่ผมลืมตรงไหนเนี่ย เธอยิ้มแล้วกอดเอว เฮ้ย ๆ ๆ  ผมหันมองซ้ายขวาเลยนะ ผมบอกใจเย็นคร๊าบใจเย็นเดี๋ยวคนอื่นมาเห็นผมนี่จะซวยเอานะ เธอก็ปล่อยนะแล้วบอกว่าล้อเล่นค่ะ ผมก็รีบทำตัวให้เป็นปกตินะแล้วถามว่า


คุณรุกะมาทำอะไรตรงนี้เหรอครับ แล้วมาถูกได้ไงเนี่ย หรือหลงทาง ผมถามแบบวนไปวนมาแบบนั้นครับ โห เข้าใจผมมั้ยท่านผู้อ่าน ลูกสาวนะเฮ้ย ลูกสาวเจ้าของบริษัทคู่ค้ามายืนที่บ้านผม เออถ้าเป็นแบบรีสอร์ทหรูๆหราๆ แล้วเป็นเกี่ยวกับการประชุมอะไรก็ว่าไปอย่าง



แต่นี่เธอมายืนในบ้านของผมไง เฮ้อไปไม่เป็นเลยกู เธอก็บอกผมว่าเดินมาเรื่อยๆก็เจอค่ะไม่เห็นยากเย็นอะไรเลย ผมถามนะว่าไปที่จัดเลี้ยงกันดีไหมครับ ผมจะนำทางให้ โอยยย เวลาพักผ่อนตูไปซะแล้ว กะว่าจะมานั่งพักสักหน่อย รุกะเธอบอกโอเคไปค่ะ



แต่ก่อนไปเธอก็ดึงแขนผมไว้นะแล้วถามอีกครั้งว่าตกลง คาคาชิซังจำไม่ได้จริงๆเหรอ ผมก็งงๆว่าอิหยังวะนั่น จนเธอก็บอกว่าอ่ะๆ ๆ เราไปกันเถอะค่ะ ผมก็เดินนำหน้าเธอไปนะ เลยไม่รู้ว่าเธอทำอะไรอยู่ แต่ผมว่ารุกะคงจะชอบต้นไม้ที่บ้านผมนะ จนเราสองคนเดินมาจะถึงที่จัดเลี้ยง



ผมเร่งฝีเท้าเดินนำหน้าไปอีกพอควรเลย เพราะไม่อยากให้ดูเหมือนเราเดินมาพร้อมๆกัน แล้วผมก็หยุดตรงหน้าแล้วผายมือเพื่อเชิญรุกะไป แม่ผมพอเห็นหน้าคุณรุกะก็นิ่งเลย ผมเลยต้องเข้าไปถามแม่ๆ เป็นอะไร แม่ก็บอกว่าสวยมากๆเลยเด็กคนนี้ พึ่งเคยเห็นคนญี่ปุ่นใกล้ๆแบบนี้ครั้งแรกนี่แหละ



ผมก็เอ่อไม่เถียงนะ เพราะเธอสวยจริงๆ พอมาถึงเธอก็เข้าไปหาพี่หมิวที่ยืนขึ้นและยื่นแขนไปเหมือนจะโอบกอด เธอสองคนเข้าไปกอดกันอื้อหือ คิดดีไม่ได้เลย นมสองคู่กำลังเบียดกันเฮ้ยไอ้โทนคิดอะไรเนี่ยบัดซบจริงๆเลย แต่เฮ้ยๆเดี๋ยวๆ ทำไมสองคนนี้ดูสนิทกันจังเลยวะ



ทั้งๆที่ตอนอยู่บริษัทไม่ได้แสดงออกมากมายอะไรขนาดนี้เลย แต่ผมไม่มีเวลางงแล้วนะ เพราะว่าตอนนี้ก็ได้เวลาเสิร์ฟอาหารแล้ว แม่ผมก็เดินมาถามนะว่ามีใครไม่ทานเนื้อบ้าง ไม่มีใครตอบงั้นก็แสดงว่าทานได้หมด ตอนนี้พ่อ แม่ ของพี่แมนก็มาแล้ว พี่แมน พี่หมิว รุกะ ก็มาแล้ว



คงจะได้เวลาเริ่มมื้ออาหารแล้วล่ะ แล้วรู้มั้ยแม่ผมทำอะไรมาให้ กระเพราครับ เอ้อ กระเพรานี่แหละ ทั้งกระเพราเนื้อ กระเพราหมู หมูชิ้น หมูสับทำไมมาหมดเลย  แค่กลิ่นมาคุณเคย์ก็หันมองแล้วครับ เขาหันไปพูดกับพ่อพี่หมิว นั่นก็ทำให้ผมสงสัยนะว่าถ้าพูดภาษาอังกฤษได้




ทำไมต้องใช้ล่ามล่ะแต่ก็ช่างเถอะนั่นไม่ใช่เรื่องของผมนี่นะ แล้วกระเพราก็มาครับ จานไหนเป็นกระเพราเนื้อก็จะใส่จานกระเบื้องสีอื่นๆ ส่วนหมูทั้งหมูสับและหมูชิ้นก็จะใส่จานกระเบื้องสีขาว มันเลยดูง่ายต่อการแยกครับ แล้วเดี๋ยวก่อนนะใคร.... มันต่อสายไฟมาแบบนั้นล่ะ




คือพูดยังไงดี ตอนแรกมันก็ไม่เห็นนะ แต่ตอนนี้ผมเห็นคือข้างๆนั้นมีหม้อข้าวอยู่สองใบครับ อย่างแรกเลยคือใครต่อสายไฟ อย่างที่สองคือเอามาทำไมสองใบนะ ซึ่งไม่นานผมก็รู้ครับ เพราะใบนึงเป็นข้าวหอมมะลิ อีกใบเป็นหม้อสำหรับหุงข้าวญี่ปุ่น




คุณเคย์เขาชอบทานข้าวขาวของญี่ปุ่นมากๆ ผมก็ลืมเรื่องนี้ไปสนิทเลย ก็นะใครจะไปคิดล่ะว่าคนระดับนั้นเขาจะมากินข้าวที่บ้านผมแบบนี้ บนโต๊ะอาหารมี 5 คนสิ่นะ อืมม ผมคิดไม่ออกว่าจะเข้าไปทางไหนดี แต่ว่าตอนนั้นพ่อพี่แมนก็บอกโทนๆ ให้พวกแม่บ้านจัดการเถอะ



ผมก็ครับๆ แล้วก็หยุดที่จะช่วยเสิร์ฟทันที เอาจริงๆแล้วมันก็ไม่ได้น่ากลัวเหมือนที่กังวลไว้นะ เหมือนว่ายังไงดี เหมือนแค่ถูกยืมสถานที่เท่านั้นเอง เฮ้ยใช่ !!! เวลานี้ต้องขังไอ้หมูชูก่อน เดี๋ยวมันจะวิ่งมาป่วนไอ้หมาห่านี่ชอบกวนตีนอยู่ด้วย ตอนนั้นผมก็เลยบอกแม่ว่าขอไปเอาไอ้มูชูเข้ากรงก่อน



ผมก็ขอตัวไปก่อนเลยนะตอนนั้น อืมม จะว่าไปแล้วก็เหมือนว่าทางเดินระหว่างบ้านมาตรงจุดนี้ จะถูกปรับปรุงว่ะ เฮ้ยทำไมมันเรียบแบบนี้ล่ะ คือไม่ใช่ว่าเรียบแป้ เหมือนถนนนะ แต่ดูเหมือนถูกปรับให้เดินง่ายขึ้น เหมือนว่าทำมาให้คนเดินสะดวก ผมก็คิดในใจเลยนะว่า



นี่เขาเตรียมการกันมานานแค่ไหนวะเนี่ย คือคิดง่ายๆเลยครับว่าทางพวกนี้ทำให้คนเดินเสิร์ฟอาหาร ได้เดินอย่างสบายๆแน่ๆ ผมเดินกลับมาที่บ้าน เรียกไอ้มูชูอยู่ไหน มาเข้าบ้านก่อนเลย ผมก็ตะโกนเรียก ตะโกน ตะโกน แล้วก็มีเสียงคนๆนึงพูดมาว่า หนวกหูเสียงดังอยู่ได้



พอหันมาอื้อหือ.... พี่เตยครับ พี่เตยกำลังนั่งเล่นกับไอ้มูชูอยู่ อื้อหือไอ้หมาทรยศยิ้มลิ้นห้อยเชียวนะเมิง ผมก็เหวอสิ่ครับทำอะไรไม่ถูกเลยตอนนั้น มาไวแท้วะ ผมก็เอ่อทำอะไรไม่ถูกเลยตอนนั้น ผมก็เอ่อบอกไปว่าผมจะขอพามูชูไปเข้ากรงก่อนนะครับ



ผมจะเดินเข้าไปหา แล้วเป็นไงรู้มะ พี่เตยบอกมูชูเห่าเลยลูก โฮ่ง ๆ ๆ ๆ แน๊ะไอ้หมาทรยศนี่มันฟังพี่เตยมากกว่าผมอีกเนี่ย ผมก็บอกเดี๋ยวมึงไม่ต้องกินข้าวเย็น มันก็หงอยๆนะ คือผมต้องดุมันจริงๆครับไม่งั้นมันเอาไม่อยู่ หมาไม่เข้าใจภาษาเรานะ สิ่งที่มันรู้ได้คงจะเป็นน้ำเสียงที่เราส่งออกไปนั่นแหละ



ไอ้มูชูก็หงอยๆหูลู่หางตกเลย พี่เตยก็บอกว่าทำไมแค่นี้ต้องเสียงดังแล้วหันไปลูบๆๆไอ้มูชู บอกไม่เป็นไรนะเดี๋ยวแม่หาอะไรให้กินเอง มูชูไปเล่นตรงนั้นกับแม่มา แล้วพี่เตยก็จูงไอ้มูชูไป หืมสายจูงเอามาจากไหนนะ ผมไม่เคยล่ามไอ้มูชูนี่หว่ามีแค่ปลอกคอให้มัน



ไม่ได้ๆ ผมต้องเอามันเข้ากรง ผมกลัวพี่เตยใจดีเกินไป ผมเดินตามไปพี่เตยก็หันมาถามว่าตามมาทำไม ผมก็บอกไปว่าผมไม่ได้มาตามพี่ แต่ผมมาเอาหมาเข้ากรง พี่เตยหันมาโวยวายเลยว่าพูดอะไรนะพูดใหม่ ผมก็บอกเปล่าๆ คือผมไม่ได้มาทำให้พี่รำคาญ ผมแค่จะเอาไอ้มูชูเข้ากรงเฉยๆ



พี่เตยก็ถามว่าทำไมต้องขังมันล่ะ ผมก็บอกว่าถ้ามันวิ่งไปที่จัดงานทำไง ไอ้นี่มันชอบอยู่ที่คนเยอะๆอยู่ด้วย พี่เตยก็บอกว่าเอาไว้นี่แหละเดี๋ยวดูเอง ผมก็ยังยืนยันนะว่าพี่มาทั้งทีพี่ก็นั่งเล่นพักผ่อนไปดิ่จะมาดูหมาทำไม พี่เตยก็บอกว่าก็นี่แหละพักผ่อน อย่าเซ้าซี้ได้ป่ะรำคาญ...




ผมก็... เถียงอะไรไม่ได้แหละครับพูดมาขนาดนั้นแล้ว ผมก็หันหลังกลับเลยกลัวพี่เขาอารมณ์เสีย เอาเถอะถ้าไอ้มูชูวิ่งไปผมค่อยล็อคตัวมันแล้วกัน ผมเดินกลับเข้าในบ้านเพื่อดูว่ามีอะไรให้ช่วยอีกไหม ต้มยำกุ้งน้ำข้นถูกยกออกไปแล้ว ตอนนี้ก็เหลืออาหารอีก 2 – 3  อย่าง  ที่ต้องเสิร์ฟ


ของหวาน เครื่องดื่ม และอีกหลายๆอย่าง ถ้านี่พี่แมนไม่ส่งคนมาช่วยผมว่าแย่ๆแน่ๆ งานมันเยอะมาก ผมเดินออกมาอีกทีก็เห็นพี่เตยจูง ไอ้มูชูไปเข้ากรงนะ เฮ้อโล่งใจไป 1 อย่างผมก็จะเดินออกไปนะแล้วพี่เตยก็เดินมาบอกเดี๋ยว ผมก็หืออะไรวะ แล้วอยู่ดีๆพี่เตยเขาก็ดึงคอเสื้อผมเดินไปหลังบ้านเลย



ผมก็งง เฮ้ย ๆ ๆ ๆ ไรเนี่ย ผมก็บ้าจี้เดิมตามมานะ มันเป็นเพิงเล็กๆก็ที่นอนของผมเวลาหน้าฝน หรือ หน้าหนาวแหละครับ หน้าร้อนนอนไม่ได้ เพราะหลังคาทำมาจากสังกะสีหรือจะพูดอีกอย่างก็คือเตาอบดีๆนี่เองแหละครับ พอมาถึงตรงนั้นผมก็ถามลากผมมาทำไมเนี่ยพี่เตย



พี่เตยดึงคอเสื้อผมแน่นกว่าเดิมนะ แล้วถามว่าเมื่อกี้เรียกใคร ผมก็บอกว่าพี่เตยไง ก็เรียกพี่เตยไม่ได้เรียกใคร พี่เตยเขาจับคอเสื้อผมแล้วจะดึงไปหาตัว แล้วพูดมาหมิวไม่ใช่คนแรกนะ จำไม่ได้เหรอว่าใครที่มาก่อน พูดจบพี่เตยก็ปล่อยคอผม แล้วตอนนั้นผมคว้าเอวมากอดมั่บเลย



พี่เตยก็ตีผมบอกปล่อย ผมกอดเอวพี่เตยไว้นะแล้วบอกว่า ผมจะทำให้พี่หายโกรธให้ได้ พี่เตยก็บอกปล่อยไม่ต้อง ไม่ใช่พี่ไม่ต้องมาเรียกผมก็กอดพี่เตยไว้นะแล้วพูดว่างั้นผมขอมัดจำก่อนได้เปล่า พี่เตยถามอะไรมัดจำอะไร ผมก็หันไปหอมแก้มและแช่ฟอดดดด ไว้แบบนั้น แล้วบอกว่านี่แหละมัดจำของผม




ผมไม่กลัวนะพี่เตยจะด่าจะว่าอะไร ก็นะเธอลากผมมาที่นี่เองนี่นา พี่เตยก็บอกไอ้บ้าโทนทำอะไรเนี่ย ทำบ้าอะไร ผมก็บอกว่าขอมัดจำก่อน เพราะไม่รู้ว่าจะมีแรงตามง้อพี่อีกแค่ไหน แล้วพี่เตยก็สะบัดตัวออกแล้วก็เช็ดๆ บอกสิวขึ้นหมด ผมก็ยิ้มๆไม่พูดอะไรแล้วเดินออกไปเลย



ก็นะบ้านผมมันปลอดภัยอยู่แลวไม่มีใครกล้าเข้ามาในเขตบ้านหรอกครับ ผมเดินมาแล้วก็แวะกรงไอ้หมาทรยศแล้วบอกว่า มึงนะบอก เห็นคนสวยไม่ได้เลยนะเข้าหาตลอด พี่เตยเดินมาแล้วบอกครับว่า หมามันยังรู้จักเลือกไม่เหมือนคนบางคน ผมก็บอกอือออออ



แล้วก็วิ่งหนีเลย ผมวิ่งมาได้ไม่ถึง 10 เมตรก็หยุดและค่อยๆเดินไป ตอนนี้กับข้าวหลายๆอย่างมันเริ่มเยอะแล้ว บนโต๊ะเท่าที่มองแล้วไม่ใช่อาหารหรูหราอะไรเลยครับ มันเป็นแค่อาหารพื้นบ้านธรรมดาแค่ใส่จานดีๆเท่านั้นเอง ผมก็ถามเหล่านักเสิร์ฟมืออาชีพว่ามีอะไรให้ช่วยมั้ยครับ



พวกเธอก็บอกว่าถ้ามีแล้วจะบอกอีกทีนะ แต่ตอนนี้พวกคุณเขากำลังทานอาหารกันคงไม่มีอะไรมาก ผมก็พยักหัวครับ ๆ ๆ ๆ  ตอนนั้นพ่อพี่หมิวก็พูดขึ้นมาว่า นั่งแบบนี้มันก็ดีนะ โต๊ะแคบๆแบบนี้มันทำให้ได้คุยกันง่าย ไม่ต้องเสียงดังไม่ต้องตั้งใจฟังว่าพูดอะไร



ว่างั้นป่ะเคย์ แล้วคุณเคย์ก็ตอบอื้มใช่..... เอ้าเหี้ยแล้วไงคุณเคย์ฟังไทยออก พูดไทยได้เหรอ แล้วไหงถึงทำเป็นพูดไม่รู้เรื่องและฟังไทยไม่ได้ล่ะ เวนแล้วไงตู เวนแล้ว ... เอ่อแล้วผมจะกระวนกระวายใจทำไมวะก็ผมไม่ได้พูดอะไรไม่ดีต่อหน้าเขาเลยนี่หว่า


สิ่งที่สังเกตได้คือคุณเคย์นั้นจะใช้ตะเกียบครับ เอ่อทำไมโต๊ะก็ธรรมดาๆ แต่ดูวางของ วางอุปกรณ์เป็นผู้ดีมากเลยวุ๊ย อันนี้ผมสังเกตุนะว่าคุณเคย์เขาจะมีถ้วยเอาไว้ตักต้มยำไว้ 1 ถ้วยมีช้อน แล้วก็มีชามข้าวที่เอาไว้ใส่ข้าวแล้วก็ตะเกียบ แล้วอีกแปปนึง เมนูล่าสุดก็มาครับ



เป็นคอหมูย่างสูตรอีสานแท้ๆ โรยข้าวคั่วบนหมูนิดหน่อยให้พอได้กลิ่นข้าวขั้วไหม้ๆนิดนึง แล้วก็มีเนื้อย่างด้วยนะ คุณเคย์ก็มองอีกแล้ว เขาก็หันไปพูดอะไรกับพ่อพี่หมิวไม่รู้เอียงคอคุยกันเบาๆ แล้วพี่แมนก็ถามโทนกินข้าวยัง มากินเปล่า โอ้โห !!! ดูโยนระเบิดมา




ผมก็บอกกินแล้วคร๊าบกินแล้วครับ พี่หมิวก็หันมาถามว่ากินตอนไหน อย่านะ อย่า เดี๊ยะ  ๆ ๆ ๆ ๆ   ผมก็เฮือกกก พี่แมนก็บอกเอ้อไอ้นี่ กลัวไอ้หมิวขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย เมื่อก่อนไม่เห็นเป็นงี้เลยว๊า ตอนไปปายก็กล้าดื้อกล้าซนกับไอ้หมิวอยู่เลย



หืม ปายเหรอ... อืมม จะว่าไปผมก็เคยไปปายกับพี่แมนนี่หว่า ตอนนั้นไปทำงานครับ เอ่ออันนี้นอกเรื่องนะ ขอให้ท่านทำหัวให้โล่งๆ ๆ ๆ ๆ แล้วทำเป็นลืมว่ายังไม่ได้อ่าน เธอ ฉัน และ เขา ไม่ว่าจะภาคใดๆทั้งสิ้น โอเคไปต่อได้


จะว่าไปผมก็เคยไปทำงานกับพี่แมนที่ปายนี่หว่า ซึ่งตอนนั้นผมก็ไม่ค่อยมีกะจิตกะใจอยากไปนักหรอกครับ เพิ่งโดนปลดจากละครที่ทุ่มเทแทบตายสุดท้ายโดนปลดซวยแท้ ๆ  แต่พี่แมนก็บอกว่าเฮ้ยไปหน่อย คนไม่พอ อ่ะโอเคพี่แมนขอทั้งทีผมก็ไม่อยากจะปฏิเสธครับ



แล้วใครจะไปรู้ว่าพี่หมิวจะไปด้วย ตอนแรกบอกว่าไปคุยงาน + พักผ่อน เฮ้ออ ช่างเถอะ ๆ ๆ หลังจากที่พี่หมิวเดี๊ยะ ๆ ๆ แล้วผมก็แว๊ปหลบไปข้างๆเลย ให้ไปนั่งร่วมโต๊ะแบบนั้นไม่ไหวหรอกครับ มันทำตัวไม่ถูก แล้วน้ำคอหมูย่าง เนื้อย่าง และ น้ำจิ้มแจ่วสูตรเด็ดก็ถูกเสิร์ฟบนโต๊ะครับ



แล้วที่สำคัญออฟชั่นเสริม ข้าวเหนียว แล้วเป็นข้าวเหนียวใส่กระติ๊บด้วยนะเออไม่ใช่ข้าวเหนียวธรรมดา คือมันหอมไม่ไผ่นะเฮ้ยทำเป็นเล่นไป แล้วกระติ๊บมันก็ทำให้สามารถเก็บข้าวเหนียวไว้ได้นานกว่าปกติ ถึงมันจะเย็นก็เถอะ อ่ะกลับมาต่อครับ กระติ๊บที่ใช้ก็เป็นกระติ๊บไม่ไผ้ขนาดกลางๆ



ก็กะไว้ว่าอิ่มโดยที่ไม่ต้องขอกระติ๊บใหม่เพิ่มแหละครับ แต่ผมก็กลัวนะกลัวว่าจะอิ่มกันไปก่อนหรือเปล่า พอเปิดกระติ๊บแม่พี่แมนก็ถามว่าโหโทน นึ่งข้าวเหนียวยังไงเนี่ยลูก ไม่ค่อยติดกระติ๊บเลย เอ่อ.... ผมก็บอกไปว่าแม่คงใช้ข้าวเหนียวใหม่แหละครับ นึ่งก็นึ่งแบบปกติทั่วไป



แต่ว่าพอเอาข้าวขึ้นมาจากหวดแล้ว อ้อสำหรับบางท่านที่ไม่รู้ " หวด " คืออุปกรณ์สำหรับนึ่งข้าวเหนียวครับ



ผมบอกว่าพอเอาข้าวขึ้นมาจากหวดก็เอาไปตากไว้บนผ้าขาวบางก่อนครับ และเขี่ยๆ  ให้ข้าวเหนียวกระจายตัว ให้ไอ้ความร้อน ไอน้ำ ออกมาให้หมดก่อน เพราะถ้าเอาไปลงกระติกเลย ไอ้น้ำมันจะเกาะที่กระติกแล้วหยดใส่ข้าว ทำให้แฉะและกินไม่อร่อยครับ



ก็นะมันเป็นความรู้ขั้นพื้นฐานของการนึ่งข้าวเหนียวเลยล่ะครับ แม่พี่หมิวบอกนุ่มดี แล้วทุกคนก็เริ่มจิ้มกันเลยครับ เปิปมือกันเลยทีเดียว เรื่องใช้มือนี่รุกะเธอเก่งผมยืนยัน เอ่อผมหมายถึงการใช้มือหยิบจับอาหารน่ะครับ เพราะการกินซูชิของญี่ปุ่นมันก็ต้องใช้มือจริงป่ะล่ะ



เพราะงั้นไม่ต้องห่วงเลยเรื่องที่เธอจะหยิบจับข้าวเหนียวกิน แล้วเธอก็ดูไม่ได้เงอะเงิ่นๆ กลัวมือจะเลอะเลยนะ พวกหยิบจับแบบโคตรคล่อง ส่วนหมูนั่นก็ยังร้อนครับเพราะพึ่งย่างมาไม่นาน ก็ต้องใช้ซ่อมนั่นแหละ คุณเคย์เขาหันมาหาผมนะและพูดว่า โออิชี่ พร้อมกับยกนิ้วโป้งให้



ผมก็ดึงแม่มารับคำชมไปครับ เพราะคนที่ย่างคือแม่ของผมเอง แล้วพี่แมนก็บอก เนื้อนิ่มมากครับแม่ ไม่เหนียวเลยอร่อยๆ ๆ รุกะก็หันมายิ้มให้นะ ส่วนเจ๊หมิวก็กินไปมองหน้าผมไปอีก อิหยังวะ แล้วตอนนั้นแม่ก็บอกว่ามาช่วยหน่อยในครัว ผมก็อ้อๆไปๆๆๆ


คนของพี่หมิวที่ส่งมาช่วยก็ยัง ง่วนอยู่ในครัวนะแล้วเรียกผมมาทำไมหว่า แม่บอกว่าเดี๋ยวจะทำข้าวตู เพราะงั้นผมต้องมาช่วยกวน ผมก็ถามว่าทำไมต้องผมล่ะก็ทำไม่เยอะไม่ใช่เหรอ แล้วแม่ก็หยิบกระทะอันบะเริ่มมาเลยครับ แม่บอกว่าไหนๆทำทั้งที่ ก็จะเอาไปแบ่งคนรอบๆบ้านด้วย




โอ๊ยย ตายห่าแล้วววววว คือท่านผู้อ่านสงสัยใช่ไหมครับว่าทำไมผมต้องร้องแบบนี้ ท่านลองคิดสภาพการกวนน้ำตาลปี๊ปที่กำลังเหนียวๆสิ่ครับ แล้วไม่ใช่แค่ปริมาณนิดเดียวแต่นี่กระทะงานวัดเลยนะครับแม่จ้าว แต่ทำไงได้อ่ะมันก็ต้องทำ ไอ้นู่นก็มา


ไอ้นี่ก็มา มะพร้าว น้ำตาล ข้าวตากบด แม่ผมจับเท เท เท เท แล้วบอกโอเคแล้ว อื้อหือแม่ครับ แม่ถามผมมั้ยว่าผมโอเคหรือเปล่า โอยย ผมจะบอกให้ว่าการกวนข้าวตูอ่ะ มันคือการยกดัมเบลดีๆนี่เอง บางทีกวนๆไปเมื่อยก็เมื่อย ล้าๆก็ล้า ยังจะโดนข้าวตูร้อนๆกระเด็นใส่อีก โอ๊ยยยย




ผมก็กวนไปจนมันได้ที่ โอเคแม่บอกได้ละ ต่อไปก็เอาไปตาก ผมก็ถามว่าแม่จะแห้งทันเหรอแบบนี้อ่ะ แม่ก็บอกว่าทันอยู่แล้วล่ะก็พวกคุณๆเขากลับกันตอนดึกๆ ฮ๊ะ !!! อีหยังวะ กลับกันตอนดึกๆเลยเหรอ ผมถามแม่ว่านี่เราต้องต้อนรับแขก V I P ถึงกี่โมง



แม่ก็มองๆที่กระดานประจำบ้านแล้วก็บอกว่าก็มื้อเย็นด้วยนั่นแหละ โอ้โหลมแทบจับ ฮือออ คิดถึงน้องมิ้นต์ น้องแก้ม น้องดาว อยากกลับพระรามสามโว๊ยยยย แล้วผมก็หิ้วกระทะที่มีข้าวตูร้อนๆอยู่เต็มกระทะไปหลังบ้าน แล้วก็วางให้แม่จัดการตาก


ผมก็ว่าแล้ววว ทำข้าวตูไม่ใช่ว่าจะเสร็จภายในชั่วโมงเดียวแล้วแม่จะทำทำไม ที่นี่แหละรู้เลยยยย รู้เลยยยยย ว่าอยู่กันยาวๆ หลังจากที่ขั้นตอนการใช้แรงงานเสร็จสิ้นผมก็ต้องไปเปลี่ยนชุดแหละ ก็นะเหงื่อมันออกซะท่วมเลย พ่อก็เดินมาบอกว่าเย็นนี้ให้เตรียมอะไรเปล่า



ผมก็หืม ไม่นี่เตรียมอะไรอ่ะพ่อ พ่อก็บอกเอ้าไหนว่า VIP จะอยู่ดึกไง ผมก็บอกว่าโอยไม่หรอกพ่อ แม่บอกอย่างมากก็หลังมื้อเย็นก็กลับแล้วล่ะ แล้วพ่อก็ถือถังของเขาไปหลังบ้าน ก็นะตามสไตล์เขาแหละครับทำงานทุกอย่าง แต่ไม่ชอบพิธีการ ผมก็อื้มขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าแหละครับ



ว่าแต่พี่เตยไปอยู่ไหนหว่า แต่ว่าพอขึ้นไปในห้องนอนแล้วเปิดไปกลับกลายเป็นว่าพี่เตยอยู่ในห้องผมครับ แล้วความงามใส้คืออะไรรู้มั้ย เพราะพี่เตยเขาไม่ได้อยู่คนเดียวไง คนอีกคนก็นั่งๆ ๆ มองนู่น นี่นั่น แล้วพอผมเปิดประตูไปสาวสวยคนนั้นก็หันมาแล้ว ลุกมาเลยครับ



เธอเดินมาหาผมแล้วถามว่าทำอะไรมาเนี่ยเหงื่อออกเยอะแยะเหมือนลูกหมาตกน้ำเลย พูดไม่พอยังมาขยี้หัวผมอีก !!! ผมก็ถามว่ามาได้ไงเนี่ย เธอคนนั้นก็บอกนะว่าก็มาหลายวันแล้วล่ะ แต่หาโอกาสมาเจอไม่ได้สักทีไง เซอร์ไพรส์ป่ะ


เธอถามแล้วก็มอง ๆ ๆ ๆ ๆ ซ้ายทีขวาที แล้วก็ทำหน้าบึ้งๆแล้วก็ถามว่า อะไรเนี่ยไม่ได้เจอกันตั้งนาน นี่มาเจอกันไม่เห็นยิ้มเลยทำหน้าบึ้งๆแบบนี้หมายความว่าไงหรือว่าไม่รักเจ๊แล้ว



โอยมาถึงก็ใส่ตู้มต้าม ตู้มต้ามเลย ผมก็บอกว่าเปล่าคร๊าบบบ รักคร๊าบบ เจ๊จ๋า




 




เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน


catoon

ดูเหมือนว่า จะต้องมี ครั้งหนึ่งที่ ปาย อีกเปล่าเนี่ย นายโทน




puretank


locklock leck




au2000

น้องโทนไม่หล่อแต่เสน่ห์แรงเหลือเกิน
ตกลงจำรุกะไม่ได้ มีอะไรกันนะ

acropobia899

ต้องปรับ ความเข้าใจจาก  ของพี่หมิวก่อนละ  เดี๋ยวจะจำสับสนไทม์ไลน์


อ่าห์ สามสาวแสนสวย รวมพลังกันแบบนี่
แกล้งตายเหอะท่านโทน

แต่ รุกะ น่าร๊ากกกกจริงๆ


gritkin