ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

Darkness Circle / วงจรแห่งความมืด ตอนที่ 41

เริ่มโดย เจตภูติ, กรกฎาคม 02, 2021, 09:49:23 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

เจตภูติ

สำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกเว็บอยากอ่านส่วนที่ซ่อนไว้ ในนั้นจะลงช้ากว่าที่เว็บนี้หนึ่งตอนนะครับ
https://www.tunwalai.com/v2/story/499798

Darkness Circle / วงจรแห่งความมืด ตอนที่ 41

เจษฎาก็เก็บข้าวของหายไปจากคฤหาสน์ของเสี่ยพิพัทธ์ตั้งแต่ตอนเช้ามืด เขาพาร่างกายที่บอบช้ำกับความเจ็บหลอนที่เล่นงานสมองของเขา แต่นั้นก็ยังน้อยกว่าความเจ็บปวดที่เกิดนขึ้นในจิตใจกลับมาที่บ้านเช่า หัวใจที่เศร้าโศกปนด้วยความแค้นที่อยากรู้ว่าใครเป็นคนบงการสุ่มโจมตีเขาในคืนนั้น ชายหหน้าเข้มที่กำลังหน้าเครียดคิดทบทวนว่าจะติดต่อหาอ๊อดดีไหม ถึงน้องชายคนสนิทที่ความสามารถในการค้นหาข้อมูลข่าวสารในระบบดิจิตอลของเขาคนนี่  จะต้องช่วยนำทางไขความข้องใจให้เขาได้แน่ เพียงแต่จะเล่าเรื่องที่กิดขึ้นให้ฟังอย่างไรก็ยังเป็นสิ่งที่เขาหนักใจอยู่ไม่น้อย

หนุ่มใหญ่นั่งคิดนอนคิดจนเวลาผ่านไปกว่าครึ่งค่อนวัน สิ่งที่เขาได้มาก็มีเพียงควันบุหรี่ที่ลอยครุ้งอยู่ทั่วห้อง กับดวงตาแดงกร่ำยามเมื่อคิดถึงช่วงเวลาที่เขามีร่วมกับผู้มีพระคุณ

..................................................

ชายหนุ่มท่าทางอิดโรยใช้มือป้องที่ดวงตาที่หยี่จนเกือบจะปิดสนิททันที่ก้าวออกมาจากห้องปูนสี่เหลียมทึบขนาดเล็ก พื้นที่ประมาณสองคูณสองเมตร ภายในมีส้วมนั่งยองไม่กั้นบล็อกพร้อมบ่อน้ำเล็กๆ มาต้องแสงแดดเป็นครั้งแรกในรอบสิบวัน

เจษฎาที่ถูกขังซอยหรือการขังเดี่ยวแยกออกจากห้องขังรวมทั่วไป ห้ามติดต่อนักโทษคนอื่นตัดขาดจากสังคมคุก ทั้งวันทั้งคืนไม่เจอใคร ระยะเวลาขังซอยขึ้นอยู่กับความผิด บางคนอยู่ในนั้นสูงสุดถึงสามดือน เขาที่ถูกขังซอยต้องใช้ความอดทนอย่างมากในการอยู่ในห้องเล็กๆ ที่ไม่มีเพื่อนให้พูดคุย ตัดขาดการติดต่อทุกชนิด โดยปกติมนุษย์เป็นสัตว์สังคม แม้จะถูกขังในคุกก็มีสังคมคุก ได้พูด ได้คุย ดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือ แต่การขังซอยจะต้องอยู่กับตัวเองในห้องแคบๆ เมื่อไม่ได้พูดกับใครหลายวัน หลายสัปดาห์ หรือเป็นเดือน นักโทษหลายคนจะเริ่มซึม ตาเหม่อลอย มองเพดาน บางคนถึงขนาดบ่นพึมพำคนเดียว ถือเป็นความทรมานขั้นสูงสุด หากให้นักโทษเลือกระหว่าง ถูกขังซอยกับถูกผู้คุมทุบตี ร้อยทั้งร้อยยอมถูกตียังดีเสียกว่า เมื่อออกจากห้องขังซอยจะมีผิวขาวซีดเพราะไม่โดนแดดโดนลม ผมเผ้าหนวดเครายาวรุงรัง น้ำหนักลด แรกๆ เซื่องซึม แต่ต่อมาพูดไม่หยุด โชคยังดีที่เขาโดนไปแค่สอบวัน จึงไม่ได้มีอาการเหล่านั้น แต่ก็ทำเอาเขาขยาดที่แคบๆ ไปเลยทีเดียว

ทว่าในเรื่องโหดร้ายทั้งหลายก็ยังมีเรื่องดีอยู่บ้างเมื่อกลับเข้าไปในบ้านจะได้รับการเชิดชูเป็นฮีโร่ เหมือนนักรบที่เพิ่งกลับมาจากสงคราม เพิ่มดีกรีความน่านับถือให้กับตัวเอง

"เป็นยังไงบ้างไอ้เจษ ขึ้นซอยหนแรก หลับสบายไหม" ใหญ่ที่มายืนรอรับร้องทักด้วยความยินดีพร้อมกับหยอกเอินอย่างอารมณ์ดี

"ไม่ไหวพี่...ประสาทจะเสีย..." เจษฎาส่ายหน้าอ่อนแรง เสียงพูดก็แหบพร่าการพูดก็ติดขัดน้ำลายเหนียวเหมือนกาว ดวงตาค่อยๆ ปรับสภาพให้เข้ากับแสงรอบตัว

"ขอบใจมากนะ ที่รับแทนไอ้เล็กมัน" ใหญ่คว้าคอเจษฎามากอดอย่างรักใคร่ สายตาของใหญ่อบอุ่นเหมือนมองคนญาติสนิทหรือคนครอบครัวอย่างไงอย่างงั้น

"แค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอกพี่ ถ้าไม่ได้ไอ้เล็กช่วยไว้ผมคงโดนกระทืบอ่วมไปแล้ว ดีไม่ดีจะตายเอา แล้วที่โดนแค่สิบวันนี่คงเพราะพี่ไปขอให้ใช่ไหม" เจษฎาโบกมือเบาๆ ก่อนจะหันไปมองหน้าใหญ่ด้วยดวงตาที่ยังชินกับแสงสว่าง แรงแขนแรงขาเริ่มยังอ่อนแรงยังมีอาการเดินเซให้เห็น

ที่เจษฎารับโทษก็เพราะตอนที่เขาเข้าไปช่วยอ๊อดขณะที่กำลังถูกรังแกในโรงอาบน้ำแต่สู้อีกฝ่ายไม่ได้ เล็กที่เป็นน้องชายของใหญ่และเป็นเพื่อนของเขาได้เข้ามาช่วยแล้วแทงนักโทษที่รังแกอ๊อดจนเจ็บสาหัส ก่อนที่ผู้คุมจะเข้ามาแยกเขาได้แย่งอาวุธมาจากมือของเล็กแล้วไปยอมรับผิดแทนทั้งหมด

"ก็อ้อนนายไปหลายอยู่ แต่ไม่เป็นหรอกเพราะถ้าให้ไอ้เล็กขึ้นซอยมันคงโดนเป็นเดือนๆ คนบ้าๆ อย่างมันเดี๋ยวจะบ้าหนักขึ้นไปอีก ฮ่าๆ" ใหญ่หัวร่วนพร้อมกับตบบ่าเบาๆ แต่เจษฎาที่อ่อนแรงเกือบจะล้มดีที่ใหญ่จับแขนพยุงไว้ได้ทัน

"พี่รักไอ้เล็กมากเลยนะ ถึงนาดยอมติดคุกเข้ามาดูแลมัน" เจษฎายิ้มอ่อน ในใจยังนึกอิจฉาคู่พี่น้องที่รักกันมากแม้จะต้องมาใช้ชีวิตตกละกร่ำลำบากอยู่ในคุกด้วยก็ยังทำได้ ในขณะที่เขาตอนที่มีทุกอย่างเพรียบพร้อมคนรอบตัวเขากลับไม่มีใครที่จริงใจกับเขาเลยสักคน

"มันก็มีหลายๆ เรื่องรวมกัน พี่กับไอ้เล็กเป็นกำพร้ามีกันอยู่สองคน กว่าจะโตมาได้ก็ผ่านความลำบากมาเยอะ แต่ก็ได้กู๋ซันเก็บมาเลี้ยง ให้งาน ให้เงิน ให้ชีวิต ที่เข้ามาในนี้ก็ไม่ใช่แค่มาดูไอ้เล็กอย่างเดียวหรอกนะ ส่วนหนึ่งก็มาทำงานให้กู๋ด้วย" ใหญ่พูดถึงผู้มีพระคุณด้วยดวงตาเป็นประกาย จนเจษฎาอดคิดไม่ได้ว่าในสังคมที่มืดมิดแบบนี้ยังมีคนรักษาแววตาแบบนี้ไว้ได้

"กู๋คงดีกับพี่มากจริงๆ ถึงยอมขนาดนี้ ผมต้องขอบคุณพี่กับกู๋มากจริงๆ ที่รับผมไว้ ไม่อย่างงั้นก็ไม่รู้จะเป็นยังไง" เจษฎาถามต่ออย่างสนใจ

"อยู่บ้านเดียวกันมันก็แบบนี้แหละ ต้องช่วยเหลือกัน ที่เอ็งทำลงไปไม่เสียเปล่าหรอกนะ ข้างนอกเอ็งเป็นยังไงข้าไม่รู้หรอกนะ แต่เข้ามาแล้วก็ต้องรู้จักปรับตัวเอาตัวให้รอดอยู่ให้ได้ เราแค่ติดคุกชีวิตมันยังไม่ได้จบสักหน่อย ถึงจะเป็นนักโทษแต่เราก็ยังมีอนาคต ความสามารถเรามีออกไปเราก็ยังทำอะไรได้อีกเยอะ เชื่อพี่" คำพูดที่มองโลกในแง่ดีของใหญ่ช่วยเยียวยาใจที่ห่อเหี้ยวของเจษฎาให้มีความหวังขึ้นมาได้มากเลยทีเดียว

เจษฎายังนึกขอบคุณที่ลุงนักโทษเอามาฝากไว้ให้อยู่กับใหญ่ การมีบ้านสำหรับนักโทษตัวเล็กๆ ถือเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อมีบ้านจะรู้สึกปลอดภัย มีอาหารกิน แน่นอนว่านักโทษที่ถูกดึงเข้ามาต้องมีญาติ มีฐานะ หรืออาจมีฝีมือใจถึง เพราะการกินอยู่ด้วยกันภายในบ้านหมายถึงการยอมรับและแบ่งปันเวลามีอาหารหรือมีเงินโอนมาจากญาติ ร่วมกันกิน ร่วมกันใช้ ช่วยกันดูแล เวลาไปทำงานในกองงานต่างๆ จะถูกจ่ายยอดงานน้อยลง นักโทษทั่วไปจึงจำเป็นที่จะต้องสังกัดบ้าน

ระหว่างที่เจษฎากับใหญ่เดินคุยกันไปตามทางที่จะไปกองงาน จู่ๆ ก็มีนักโทษกว่าสิบคนเดินเข้ามาหาจากทางด้านหลัง แต่ละคนท่าทางไม่ได้มาร่วมแสดงความยินดีให้กับคนเพิ่งพ้นโทษแต่อย่างใด ในมือแต่ละคนมีอาวุธหลากหลายรูปแบบที่เกิดจากการดัดแปลงของใช้ หรือเศษวัศดุที่หาได้มาทำเป็นอาวุธ สายตาของแต่ละดุดันพร้อมเอาเรื่อง ก่อนที่ไอ้คนตัวใหญ่ที่เหมือนจะเป็นหัวกลุ่มจะตะโกนเรียกเสียงดัง "เป็นยังไงบ้างไอ้ใหญ่"

ใหญ่และเจษฎาชะงักเท้าหยุดเดินหันหลังไปตามเสียงพร้อมกับกวาดสายตามองกลุ่มคนคุ้นหน้าคุ้นตาเพราะติดอยู่แดนเดียวกัน ที่ค่อยๆ เดินเข้ามาประจันหน้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

"สบายดีเหรอมึง น้องมึงอยู่ไหนไปเรียกมันสิ กูมีเรื่องจะคุยด้วย" คนที่เหมือนหัวหน้าถามด้วยเสียงกรรโชก ใบหน้าเหี้ยมส่งรอยยิ้มที่เหมือนกับการเยาะเย้ยอย่างไม่ให้เกียรติ

"กูนะสบายดี แต่กูว่าอย่าให้น้องกูมาเจอมึงจะดีกว่านะ เพราะไม่รู้มึงจะโดนอะไรบ้าง" ใหญ่สวนกลับด้วยคำพูดทันควันไม่ยอมให้ถูกดูถูกอยู่ฝ่ายเดียว

"ไอ้ใหญ่มึงอย่ามาปากดี เด็กกูโดนน้องมึงแทงยังไงก็ต้องมีคนรับผิดชอบ และคนที่รับผิดชอบก็ต้องเป็นน้องมึง" เสียงไอ้หน้าเหี้ยมยิ่งดังขึ้นไปอีกเมื่อฝ่ายตรงข้ามไม่มีท่าทีจะเกรงใจให้ หรือหวาดกลัวจำนวนคนที่อยู่ด้านหลังนับสิบ

"เด็กกูก็ขึ้นซอยไปแล้วไง พวกมึงจะเอาอะไรอีก" ใหญ่ว่าพร้อมกับมองมาที่เจษฎาที่เริ่มจะขยับตัวเหมือนกำลังจะเรียกเรี่ยวแรงเพราะประเมินแล้วว่ายังไงคงจะไม่ได้ผ่านเรื่องนี้ไปแบบไม่ต้องออกแรง

"แค่นั้นมันไม่พอหรอก กูจะไม่หยุดจนกว่าจะได้เลือดน้องมึงมาล้างตีน" ไอ้หน้าเหี้ยมประกาศกร้าว พร้อมกับเหล่าชายฉกรรจ์ด้านหลังที่กำลังกระเหี้ยนกระหือ เหมือนอยากจะปล่อยปล่อยสันดานดิบกันเต็มที่

"ถ้าอย่างนั้นเด็กกูก็ขึ้นซอยเปล่าๆ นะสิ เอาอย่างนี้ไหมถ้ามึงอยากได้เลือดน้องกูก็มาเอากับกู แล้วมึงก็ให้เด็กกูแทงมึงซักแผลมันจะได้ไม่ต้องโดนขึ้นซอยฟรี มึงว่ายุติธรรมดีไหม" ใหญ่กำหมัดแน่นพร้อมจะพุ่งเข้าใส่ได้ทุกเวลา

"ไอ้สัตว์ งั้นวันนี้กูเอาเลือดมึงก่อนเลยละกัน อย่างอื่นค่อยว่ากันวันหลัง" ไอ้หน้าเหี้ยมกัดกรามกรอดๆ เหมือนอยากจะฉีกคนสองคนตรงหน้าเป็นชิ้นแล้วหยิบเนื้อเข้าปากเขี้ยวแล้วคายทิ้ง

เล็กชายฉกรรจ์หน้าตาคมสัน คิ้วเข้ม รูปร่างสูงโปร่งร่างกายเต็มไปด้วยมัดกล้ามและรอยสักแบบอักขระเลขยันต์ที่ไม่ได้มีน้อยไปกว่าเจษฎาเขาเดินเข้ามาหาใหญ่จากด้านหลังใหญ่ พร้อมนักโทษชายเชื้อสายจีนที่เป็นตัวเริ่มต้นของปัญหาอย่างอ๊อดที่เดินตามหลังมาติดๆ

"ไหนๆ มีใครถถามหากูเหรอ กูมาแล้วๆ" เล็กเดินขึ้นหน้าไปหาไอ้คนหน้าเหี้ยมทิ้งระยะไว้พอสมควรพร้อมกับทำหน้าทะเล้นใส่ ส่วนอ๊อดไม่เดินตามด้วยแต่หยุดยืนอยู่ข้างๆ เจษฎา

"ไอ้เล็กมึง..." ไอ้หน้าเหี้ยมชี้หน้าผู้มาใหม่พร้อมกับแผดเสียใส่

"ไม่เอาๆ กูไม่อยากได้กลิ่นจากปากเน่าๆ ของมึง วันนี้กูอารมณ์ดีที่เพื่อนกูเพิ่งลงซอย มึงอย่ามทำให้เสียบรรยากาศดีกว่า" เล็กส่ายหน้ายียวนขึ้นเสียงแทรกแกว่งนิ้วชี้เป็นสัญญาณไม่ให้มันพูดต่อ

"...ไอ้เล็กมึงจะพาไอ้เด็กนี่มาด้วยทำไม" เจษฎาขยับไปข้างเล็กน้อยพร้อมกับกรัซิบถามเล็กเสียงเครียด

"มันอยากมาขอบคุณที่มึงช่วยมันรักษาพรหมจรรย์มันไว้นะ" เล็กเอียงหน้าเล็ฏน้อยตอบกลับมาเบาๆ พร้อมรอยยิ้มกวนใจ

"...จังหวะนรกจริงๆ" เจษฎาถอยออกมาพึมพำเบาๆ

"ขอโทษครับ" อ๊อดหน้าเสียก้มหน้าสลดขอโทษเสียงอ่อย

"อยู่ห่างๆ ระวังตัวไว้ละกัน" เจษฎาเตือนเสียงจริงจังพร้อมกับกางแขนให้อ๊อดไปหลบอยู่หลังเขากับใหญ่

"มึงเพิ่งจะออกมาคงเมื่อยแย่ ออกกำลังยืดเส้นยืดสายหน่อยสิวะ" เล็กหันไปยิ้มกับเจษฎาไม่ได้สนใจใยดีไอ้พวกหน้าเหี้ยมที่กำลังโกรธจัดเพราะถูกเมิน

"คราวนี้ขอแค่โดนไม้ก๊องพอนะ" เจษฎาท้วงเพราะเพิ่งจะออกมาไม่อยากกลับเข้าไปถูกขังเดี่ยวอีกรอบ

"เออ วันนี้กูมามือเปล่า" เล็กพยักหน้ารับแต่ล้วงมือเข้าไปในเสื้อ

"มึงจะคุยกันอีกนานไหม โอ้ย..." ไอร่างใหญ่พูดไม่ทันจบก็ถูกก้อนหินที่เล็กซ่อนไว้ในมือดีดใส่เข้าไปเต็มๆ เบ้าตาจนหน้าสะบัด เล็กได้โอกาสจึงกระโดดโถมเข้าใส่จนมันเสียหลักล้มและถูกคร่อมร่างเอาไว้ แล้วเล็กก็จ้วงหมัดเข้าใส่หน้าเหี้ยมๆ ของมันรัวๆ ก่อนที่ใหญ่วิ่งเข้าใส่กลุ่มนักโทษฝ่ายตรงข้ามที่เฮโลกันเข้ามาช่วยลูกพี่แบบไม่เกรงใจจำนวนคนที่มีมากกว่า ต่อด้วยเจษฎาตามไปติดๆ จากนั่นจึงเป็นอ๊อดที่ออกตัวหลังสุดทั้งที่กลัวจนตัวสั่น

การปะทะกันเป็นไปอย่างดุเดือด แต่สำหรับใหญ่กับเล็กดูเหมือนจะไม่ใช่การต่อสู้สักเท่าไหร่ จะเป็นการเล่นงานฝ่ายตรงข้ามอยู่ข้างเดียวมากกว่า คนที่ลำบากหน่อยก็คงจะเป็นเจษฎาที่ยังอ่อนแรงจากการถูกลงโทษแต่ก็ยังพอเอาตัวรอดได้ ในขณะที่อ๊อดซึ่งไร้ทักษะการต่อสู้ใดๆ ทำได้แค่ปัดป้องแต่ก็ไม่ยอมถอย จนใหญ่กับเล็กต้องผละจากคู่ต่อสู้มาช่วยอ๊อดเป็นบางครั้ง

ระหว่างกำลังชุลมุนเจษฎาเกิดเสียท่าถูกถีบล้มลงและกำลังจะถูกฝาดด้วยถุงผ้าที่ยัดก้อนหินไว้ด้านใน แต่ก็ได้ใหญ่เข้ามาใช้ร่างรับไว้แทนจนถูกลูกตุ้มแบบนักโทษประดิษฐ์หวดเข้าใส่กลางหลังอย่างแรง แต่นั้นก็ไม่ได้หยุดความร้ายกาจของใหญ่ได้แม้แต่น้อย เมื่อใหญ่หันกลับไปเอาคืนแบบทบต้นทบดอกจนหน้าของไอ้นักโทษคนนั้นใบหน้าอาบไปด้วยเลือด

การตะลุมบอนเกิดขึ้นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ นักโทษนับสิบคนก็โดนเล่นงานลงไปนอนดิ้นร้องโอดโอยอยู่บนพื้น ฝ่ายตรงข้ามส่วนใหญ่ที่ถูกจัดการไปเป็นฝีมือของสองพี่น้อง ส่วนเจษฏากว่าจะจัดการได้สักคนก็เล่นเอาหอบ สำหรับอ๊อดแค่ยืนอยู่ได้ก็นับว่าเก่งแล้ว

หลังจากเหตุการณ์วันนั้นผ่านไปทั้งสี่คนก็กินอยู่ชนิดตัวติดกันคอยดูแลทุกข์สุขให้กันจนสนิทกันราวกับป็นพี่น้องที่คลานตามกันมาจริงๆ

..................................................
เจษฎาที่ได้แต่วนเวียนแหวกว่ายอยู่ในกระแสแห่งความคิดและความทรงจำไม่สินสุด จนในที่สุดเขาก็ว่ายกลับเข้าฝั่งแล้วตัดสินใจต่อสายหาอ๊อดให้มาหาเขาที่บ้าน เพื่อที่จะได้บอกเรื่องสำคัญกันต่อหน้า

เมื่ออ๊อดมาถึงเจษฎาก็ทักทายตามปกติแต่ที่ผิดปกติคืท่าทีที่ดูอึดอัดและน้ำเสียที่มีความเศร้าปนอยู่ก่อนจะบอกสิ่งที่จุกอยู่เต็มหน้าอกออกไปด้วยเสียงแผ่วเบา "...อ๊อด...พี่ใหญ่เสียแล้วนะ"

"หา!...ได้ยังไง เมื่อไม่กี่วันก่อนยังเจอกันอยู่เลย" อ๊อดหน้าตาตื่นไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน ใจหล่นวูบรู้สึกหวิวๆ ที่หน้าอกคล้ายจะเป็นลม

เจษฎาตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้อ๊อดฟังอย่างละเอียดแบบไม่มีการปิดบังหมกเม็ดหรือบอกแค่บางส่วนอย่างที่เขาเคยทำบ่อยๆ เพราะอยากให้อ๊อดตัดสินใจเอาเองว่าจะเชื่อหรือไม่ ส่วนน้องของใหญ่เขายังไม่ช่องทางติดต่อ แต่ก็คงจะรู้เรื่องจากกู๋ซันแล้ว

"พี่เจษคงลำบากใจแย่เลยสินะ" อ๊อดที่ดวงตาแดงกร่ำ มีน้ำใสซึมออกมาน้อยๆ แต่ก็ยังไม่วายเอื้อมมือไปจับที่หัวไหล่ของเจษฎาและจ้องมองเหมือนพยายามจะปลอบใจ เขาแค่รู้ข่าวยังเสียใจขนาดนี้ เจษฎาที่ต้องนั่งดูพี่ใหญ่เสียไปต่อหน้าต่อตาจะรู้สึกหนักหนากว่าเขามากแค่ไหนก็ไม่อาจประเมินได้

"...ถึงพี่จะไม่ได้ลงมือเอง แต่พี่ใหญ่ตาย พี่ก็มีส่วนต้องรับผิดชอบ" สายตาของเจษฎาที่มองกลับแฝงด้วยความรู้สึกเศร้าและกดดันที่เขาพยายามจะซ่อนไว้ทว่าซ่อนได้ไม่มิด

"พี่เจษอย่าโทษตัวเองไปเลยนะ ผมเข้าใจ แต่ว่าพี่เล็ก..." อ๊อดยังคงปลอบประโลมจิตใจเจษฎาที่เหมือนจะรับเอาความตายของใหญ่ไว้เป็นความผิดแต่เพียงคนเดียว และอีกเรื่องที่เขากังวลคือน้องชายของใหญ่ที่เป็นคนเลือดร้อน ไม่รู้ว่าหลังจากได้ข่าวนี้ จะมีปฏิกิริยาอย่างไร แต่เขาก็พอจะเดาได้คร่าวๆ จึงอดเป็นห่วงเจษฎาไปไม่ได้

"เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง พี่จะหาทางจัดการเอง แต่พี่มีเรื่องให้อ๊อดช่วยหน่อย" เจษฎาตอบกลับอย่างมั่นใจนาวกับมีแผนรับมือไว้ก่อนแล้ว

"พี่เล็กเขาจะเชื่อผมเหรอ" อ๊อดตีหน้าสงสัยถึงทุกคนจะสนิทกันแต่ก็ไม่ได้เจอกันมาพักใหญ่ รวมถึงนิสัยของเล็กที่ไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน ทำอะไรไม่เกรงใจใครทั้งนั้นยกเว้นใหญ่

"ไม่ใช่ด้วยคำพูด แต่เป็นหลักฐาน มีอ๊อดคนเดียวที่จะช่วยหาให้พี่ได้" เจษฎามองหน้าน้องชายคนสนิทด้วยแววตาจริงจัง แสดงให้เห็นถึงความไว้เนื้อเชื้อใจที่เขามีต่ออ๊อด

"พี่เจษพอจะมีเบาะแสไหม" สีหน้าของเจษฎากระตุ้นให้อ๊อดรู้สึกว่าไม่ว่าเรื่องที่เจษฎาจะให้ทำไม่ว่าจะยากเย็นแค่ไหนเขาก็จะทำให้สำเร็จให้ได้ ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีไหนก็ตาม

"พี่มีบางคนที่อยากให้อ๊อดตรวจสอบ" เจษฎาตบไหล่อ๊อดเบาๆ ก่อนจะเริ่มบอกข้อมูลที่เขามีให้อ๊อดได้ฟัง

..................................................
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

hunterkung

งานนี้เอาคืนให้หนักไปเลย โดนแบบนี้ไม่เอาคืน คนอื่นได้ใจ

myzzr

มือที่สามที่จะเป็นตาอยู่ลักกินปลา อาจทำให้จารย์กัยเมียเก่าสาวใหญ่แท็กทีม

Csc It

ความเป็นมาใหญ่กับอาจารย์เจษเป็นแบบนี้นี่เองถึงว่าทำไมอาจารย์เจษถึงนับถือพี่ใหญ่จัง

Satira Potikanon

มีประวัติรวมกันมานี้เองอ.เจญถึงแคร์พี่ใหญ่มากขนาดนีั

tatong2222

อาจารย์​เจษ​มีใจให้กับเพื่อน​ร่วมทุกข์ร่วมสุข​ทุกคน​ มีน้ำใจ​น่านับถือ​ ::Orz::

Ttum1188

พึ่งจะรู้ว่าสี่คนนี้มีความหลังกันมาก่อนถึงได้รักกันขนาดนี้

Rrrrop


Nobita Nobituta

เรื่องราวดูเข้มข้น น่าติดตามจริงเลย
ผูกเรื่องได้ดี มีเนื้อหาให้น่าติดตาม

loveice5566

วงการแบบนี้ รับปากแล้ว ต้องทำงานให้สำเร็จ พี่ใหญ่เองก็คงลำบากใจ แต่ถอยก็ไม่ได้ แต่ใครน่ะที่ตามไปเก็บทั้ง2คนเลย

Iscore

#10
ขอบคุณครับ พี่ใหญ่ตายแล้วเล็กจะมาเอาคืนที่อาจารย์เจษหรือเปล่านะถ้ามากลัวว่าจะเล็กจะตายอีกคนแต่ถ้าอ๊อดหาหลักฐานได้ก่อนก็ดีจะได้ไม่ต้องสู้กันกับไปทำไอ้พวกมือที่สาม
#แผนช่วยตัวประกันสำเร็จอ๊อดมีของเล่นใหม่ๆมาเลื่อๆเลย

Zabest


gigantic

เหมือนดูหนังที่น่าติดตามแต่ไม่เคยอ่านหนังสือ อยากรู้ตอนต่อไป ยังมีปมที่เก็บไว้เยอะมาก แต่ตัวละครลับเริ่มออกมากันแล้ว

winnythepooh

ใครที่เป็นคนสั่งการให้คนมาจัดการเจษกับใหญ่กัน

ns52800189NS

มีที่มาที่ไปแบบนี้นี่เอง
สำหรับ 4 คนนี้