ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_nato87

คุณหนูร้อนรัก (แหวกกลีบสาวน้องแพรวคนสวย ภาค 2) ตอนที่ 2 : ทายาทคนต่อไป

เริ่มโดย nato87, กรกฎาคม 09, 2021, 03:07:49 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

nato87

พูดคุยก่อนอ่าน : เห้อ ช่วงนี้บรรยากาศประเทศเราเครียด ๆ นะครับ ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนผ่านพ้นวิกฤติโควิดได้ ก็มาแล้วครับกับตอนที่สองของคุณหนูแพรวพรรณภาคสอง ต้องบอกก่อนว่าเนื้อเรื่องช่วงต้นจะเป็นการปูเนื้อเรื่องเล่าเรื่องย้อนหลังกันก่อนนะครับ อย่างที่ผมเคยบอกเอาไว้ว่า ผมจะเริ่มขยับขยายตัวละครมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มญาติพี่น้องของหมอพลอย ซึ่งเราจะได้เห็นหน้าค่าตากันในตอนนี้ แน่นอนว่า ผมมีโครงการจะเขียนนิยายแนวอีโรติกในเครือญาติพี่น้องของหมอพลอยในอนาคต ซึ่งเหมือนเคยครับ จะเป็นธีมรักต่างวัยเช่นเดิม

ปล.ช่วงนี้ยังไม่มีฉากหวาดเสียวอะไรนะครับ


ความเดิมจากตอนที่แล้ว


https://xonly8.com/index.php?topic=245824.0

เสียงชักโครกและเสียงน้ำดังขึ้น ก่อนประตูห้องน้ำในสวนหลังบ้านจารุศิริการกุลถูกเปิดขึ้น พร้อมกับร่างของหนุ่มใหญ่วัยห้าสิบปีเศษ ผิวคล้ำ ผมยาวถูกเกล้ามัดหางเต่าเอาไว้กำลังเดินออกมา

มันนานมาแล้ว ที่คนอย่างไอ้เทิดไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนี้มาก่อนกับผู้หญิงคนไหน มันก็แปลกดีเหมือนกัน กับชายวัยกลางคนที่อายุอานามก็ห้าสิบกว่าปีอย่างไอ้เทิด ต้องมารู้สึกหวั่นไหวกับสาวสวยรุ่นราวคราวลูกคราวหลานอย่างคุณหนูแพรวพรรณ

"คุณหนูแพรวโตเป็นสาวแล้วเหรอเนี่ย? เวลาผ่านไปเร็วเหมือนกันนะ..." ตาเทิดขยับผ้าขาวม้าที่พันรอบเอวตัวเอง ก่อนนึกถึงภาพเหตุการณ์ในอดีตเมื่อสิบกว่าปีก่อน

.................................

เมื่อสิบกว่าปีก่อน ณ สวนจารุศิริการกุล ในอำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี

"เป็นไงบ้างลูกแพรว ชอบไหม?" ท่านวิทยาในวัยสามสิบกว่ากำลังเดินตรวจดูความเรียบร้อยภายในสวนจารุศิริการกุลที่ตนเองได้ลงทุนซื้อที่ดินและพัฒนาพื้นที่รกร้างแห่งนี้จนเพื่อให้กลายเป็นสวนดอกไม้และสวนสาธารณะแห่งใหม่ของจังหวัดชลบุรี

"สวยค่ะคุณพ่อ..." แพรวพรรณที่ตอนนั้นอายุพึ่งจะห้าขวบเอ่ยปากอย่างอารมณ์ดี โดยมีพนิดาผู้เป็นแม่ยืนซื้อไอศกรีมให้ลูกสาวทั้งสองคนอยู่ตรงซุ้มขายของ

"พลอย เอาไอศกรีมไปให้น้องนะ..." พนิดายื่นไอศกรีมให้น้องพลอยลูกสาวคนโตวัย 15 ปี ไปให้น้องสาวที่ยืนอยู่กับคุณพ่อ "เดี๋ยวไอศกรีมของคุณพ่อ แม่เอาไปให้เอง"

"ค่ะแม่..." น้องพลอย พี่สาวคนโตของบ้านจารุศิริการกุลหยิบไอศกรีมวานิลลาแบบใส่กรวยเดินไปให้น้องสาวที่กำลังคุยอยู่กับคุณพ่อ

"แพรว ไอศกรีม..." พลอยพรรณยื่นแท่งไอศกรีมให้น้องสาวตัวเล็ก

"ต้องทำยังไงก่อนลูกแพรว?" ท่านวิทยาเอ่ยปากทบทวนความจำให้ลูกสาวคนเล็กของบ้าน "รับของจากคนที่อาวุโสกว่าต้องทำยังไง?"

"ขอบคุณค่ะพี่พลอย..." แพรวพรรณพนมมือไหว้ขอบคุณพี่สาว ก่อนรับแท่งไอศกรีมมากินอย่างเอร็ดอร่อย ขณะเดียวกัน พนิดาผู้เป็นแม่ก็เดินมาพร้อมกับไอศกรีมอีกสองแท่ง

"นี่ของพ่อค่ะ..." พนิดายื่นไอศกรีมให้วิทยาผู้เป็นสามี อดีตแอร์โฮสเตสสายการบินชื่อดัง ที่ได้ลาออกจากงานมาเป็นเพื่อนคู่คิดและทำธุรกิจร่วมกับวิทยา

"ขอบใจจ๊ะแพร..." ท่านวิทยารับแท่งไอศกรีมจากภรรยามากินอย่างเอร็ดอร่อย ระหว่างเดินดูความเรียบร้อยภายในสวนจารุศิริการกุล และดูสองสาวกำลังเดินดูสระน้ำตรงหน้า "พลอย!! ดูน้องด้วย!!!"

"มีปลาด้วย!!! พี่พลอย!!! ดูนั่นซิ!!! มีคุณปลาด้วย!!" เด็กน้อยแพรวพรรณยืนถือแท่งไอศรีมมองปลาที่แหวกว่ายอยู่ในสระน้ำตาแป๋ว

"ค่ะพ่อ..." พลอยพรรณขานรับ "แพรว อย่าเดินไปใกล้ริมตลิ่งแบบนั้นซิ เดี๋ยวก็ตกลงไปหรอก"

"เฮ้อ!!! นาน ๆ ทีเราจะมีเวลาว่างให้ลูก ๆ ของเราบ้างเนอะแพร" วิทยาหันไปยิ้มให้พนิดาผู้เป็นภรรยา

"ค่ะคุณ..." พนิดามองสามีตาหวาน "ชั้นชอบเวลาที่คุณอยู่กับครอบครัวมากกว่าเวลาอยู่กับลุกน้องนะ ตอนคุณอยู่กับลูกน้อง คุณดูจริงจังจนชั้นเครียดตามไปด้วยเลย!!!"

"โถแพร!!!" ชายผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวยิ้มหวาน "ผมเป็นเจ้าคนนายคน ก็ต้องมีวางมาดวางฟอร์มกันบ้างซิ ลูกน้องจะได้เคารพ"

"ชั้นคิดไม่ผิดจริง ๆ ที่แต่งงานกับคุณ" พนิดายิ้มหวานให้สามี "นี่คุณ ไอศกรีมเลอะปากแล้ว เดี๋ยวชั้นเช็ดให้นะ..."

อดีตแอร์โฮสเตสสาวหยิบทิชชู่ในกระเป๋าเช็ดริมฝีปากของสามีผู้กำลังได้ดิบได้ดีในแวดวงการเมือง วิทยาและพนิดาเป็นคู่รักนักการเมืองและนักธุรกิจในจังหวัดชลบุรี ที่กำลังถูกกล่าวขวัญถึงในขณะนั้น และอีกไม่นาน วิทยาจะก้าวขึ้นมาเป็นนักการเมืองระดับประเทศ โดยมีศรีภรรยาอย่างพนิดาคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง

"เจ้านายครับ!! เจ้านาย!!" ระหว่างที่คู่สามีภรรยากำลังจะพลอดรัก ก็มีเสียงเรียกจากลูกน้องของท่านวิทยาสองคนที่เดินผ่านมาแถวนั้นพอดี ซึ่งก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่เป็นตาเกริกและไอ้เทิด สองคนงานที่ท่านวิทยาไว้วางใจมากที่สุด

"อ่าว!? ไอ้เกริก!! ไอ้เทิด!! มีอะไรวะ?" ท่านวิทยาถาม

"ต้นมะพร้าวที่นายสั่งได้แล้วนะครับ" เกริกฤทธิ์ คนสวนคนสนิทของวิทยาตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อเดินมาพร้อมกับไอ้เทิด "นายจะไปดูเลยไหมครับ?"

"ดี ๆ ไปซิ!!!" วิทยาตอบ "พลอย!!! เดี๋ยวพ่อกับแม่จะไปดูสวนมะพร้าวก่อนนะ"

"ดูแลน้องดี ๆ นะพลอย" พนิดาเสริมขึ้นมา ก่อนเดินตามสามีไปดูสวนมะพร้าวด้วยกัน

"คุณผู้ชาย คุณนายครับ เดี๋ยวให้ตาเกริกนำทางไปก่อนนะครับ" เทิดศักดิ์ หนึ่งในคนงานของท่านวิทยาเอ่ยปากขึ้นมา "เดี๋ยวผมไปเอาสายยางฉีดน้ำมาก่อนนะครับ"

"เออ ๆ ได้" ท่านวิทยาตอบ "ตาเกริก นำทางข้ากับเมียไปเร็ว!!"

ตาเทิดหันไปมองสองสาวทายาทตระกูลจารุศิริการกุล คุณหนูพลอยที่กำลังโตเป็นสาวแรกรุ่นวัย 15 ปี ในชุดแขนสั้นสีฟ้า กางเกงยีนส์สามส่วน รองเท้าผ้าใบ กำลังยืนดูน้องแพรว สาวน้อยวัย 5 ขวบที่กำลังยืนมองฝูงปลากำลังแหวกว่ายอยู่กลางสระน้ำด้วยความสนใจ

"พี่พลอย!! พี่พลอยคะ!!! นั่นตัวเหี้ยค่ะ!!" ด้วยความที่ยังเป็นเด็กและไร้เดียงสา แพรวพรรณเหลือบไปเห็นตัวเงินตัวทองกำลังคลานขึ้นมาจากฝั่ง "พี่พลอยคะ!! ตัวเหี้ย!!!"

"แพรว!!!! เงียบ!!!" พลอยพรรณทำเสียงดุใส่น้องสาว "เดี๋ยวเถอะ!!! พูดจากไม่สุภาพ!! เดี๋ยวพี่จะฟ้องคุณพ่อกับคุณแม่ให้ตีเราหรอก!!"

"ขอโทษค่ะ..." คุณหนูแพรวทำหน้าจ๋อย "ก็แพรว...ก็แพรวเห็นที่ป้าจวงเคยบอกว่ามันคือตัว..."

"ตัวเงินตัวทอง..." พี่สาวเจ้าระเบียบแทรกขึ้นมา "อย่าเรียกชื่อนั้นอีกเป็นอันขาด เข้าใจไหม?" พลอยพรรณทำหน้าดุใส่น้องสาว "ที่หลังถ้าพูดจาไม่สุภาพอีก พี่จะฟ้องคุณพ่อคุณแม่นะแพรว!!!"

"คุณหนูพลอยนี่โตขึ้นท่าทางเอาเรื่องนะ..." ไอ้เทิด ชายหนุ่มวัยสิบปีเศษ ที่มองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดยิ้มที่มุมปาก ก่อนที่เส้นโค้งริมฝีปากจะเหือดแห้งไปในบัดดล เมื่อไอ้เทิดได้เห็นคุณหนูพลอยพรรณหันมามอง

"มีอะไรนายเทิด?" คุณหนูพลอยพรรณเอ่ยปากถามคนงานของพ่อ "ทำไมไม่ไปทำงาน?"

"เปล่าครับคุณหนู..." ไอ้เทิดรีบเดินจากไป ในใจก็คิดว่าคุณหนูพลอยพรรณนี่หน้าตาออกจะน่ารัก แต่เวลาพูดจาดูมีอำนาจเหมือนท่านวิทยาผู้เป็นพ่อ นี่ถ้าโตเป็นผู้ใหญ่ละก็คงเป็นผู้หญิงที่ดุไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว

เทิดศักดิ์เดินไปหยิบสายยางเพื่อนำไปฉีดน้ำที่สวนมะพร้าว ระหว่างที่เดินกลับมา ชายหนุ่มก็พบว่าคุณหนูทั้งสองคนหายไปแล้ว ก่อนพบว่าคุณหนูทั้งสองได้ตามไปสมทบกับพ่อและแม่ที่กำลังเดินตรวจตราความเรียบร้อยในขณะที่คนงานกำลังปลูกต้นอ่อนมะพร้าวลงบนดิน

"อีกหน่อยถ้าต้นมะพร้าวโตมีลูก ข้าตั้งใจว่าส่งขาย หรือไม่ก็แปรรูปทำเป็นขนมหรือน้ำมะพร้าว..." ท่านวิทยาเอ่ยปากถึงแผนงานในอนาคตให้ตาเกริกที่กำลังยืนฟัง "ดูแลให้ดีนะโว้ยไอ้เกริก ไอ้เทิด!!!"

"ครับนาย..." ไอ้เทิดที่มาถึงพอดีรับคำ "มะพร้าวน้ำหอมพันธุ์ดีด้วยนะครับเนี่ย ที่นายสั่งมา ไม่ต้องกลัวหรอกครับ พวกผมจะดูแลเป็นอย่างดีเลย"

"ดีมาก ไว้ข้าขายมะพร้าวได้ราคาดี เดี๋ยวข้ามีโบนัสให้" ท่านวิทยายิ้มให้ลูกน้องคนสนิททั้งสองคน

"คุณพ่อขา? โบนัสคืออะไร?" แพรวพรรณที่ยืนฟังอยู่มองหน้าพ่อตาแป๋ว ทำเอาทุกคนในบริเวณนั้นยิ้มขำในความไร้เดียงสาของคุณหนูคนเล็กของบ้านจารุศิริการกุล

"โบนัสก็คือเงินพิเศษที่พ่อจะจ่ายให้คนงานที่ทำงานดีไงละลูก" ท่านวิทยายิ้ม

"แล้วหนูจะได้โบนัสบ้างไหมคะพ่อ?" คุณหนูตัวน้อยเอ่ยปากเจื้อยแจ้ว "หนูอยากได้โบนัส หนูอยากได้โบนัส"

"แพรว แพรวเป็นลูกของพ่อกับแม่ ชีวิตของแพรวก็เหมือนได้โบนัสมากกว่าคนอื่น ๆ แล้วนะจ๊ะลูก" ท่านวิทยาคุกเข่าคุยกับลูกสาว "แล้วทั้งหมดที่พ่อกับแม่สร้างไว้ ก็เพื่อให้หนูและพี่สาวของหนูไงจ๊ะ"



ตาเกริกและไอ้เทิด ต่างมองครอบครัวจารุศิริการกุลด้วยรอยยิ้ม หลังจากที่คุณท่านเสียชีวิตลง ท่านวิทยาก็ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำครอบครัว ดูแลธุรกิจและดูแลลูกน้องด้วยความเมตตาและยุติธรรม

"พี่เกริก? พี่เกริก?" ไอ้เทิดเรียกตาเกริก ที่กำลังมองคุณหนูแพรวพรรณอยู่ตาไม่กระพริบ

"อะไรวะไอ้เทิด?" เกริกฤทธิ์เหมือนได้สติ เลยหันมามองไอ้เทิดที่เป็นรุ่นน้องด้วยความสงสัง

"ผมจะถามพี่ว่า พอเอาต้นมะพร้าวลงดินเร็จแล้ว จะให้ฉีดน้ำเลยไหม?" เทิดศักดิ์ถาม

"ได้" ตาเกริกตอบ แต่นัยน์ตาของหนุ่มใหญ่กลับมองไปที่ครอบครัวของท่านวิทยา ที่กำลังเดินไปทางอื่น "ไอ้เทิด มึงคิดอย่างที่กูคิดไหม?"

"คิดอะไรวะพี่เกริก?" เทิดศักดิ์ถาม

"มึงว่าอีกหน่อยถ้าคุณหนูพลอยกับคุณหนูแพรวโตเป็นสาว มึงว่าใครสวยกว่ากัน?" ตาเกริกถาม

"ตอบยากนะพี่" ไอ้เทิดแสดงความคิดเห็น "ผมว่าสวยทั้งคู่ แต่คุณหนูพลอยเนี่ย โตขึ้นมาท่าทางจะดุเอาเรื่องเลย ส่วนคุณหนูแพรว ผมว่าแกยังเด็กไป ยังตัดสินอะไรไม่ได้"

"แต่ข้าว่าคุณหนูแพรวสวยและน่ารักกว่าคุณหนูพลอยเยอะเลย โตขึ้นคงจะสวยเหมือนดาราเกาหลีละมึงเอ้ย!!" ตาเกริกตอบ "เอาละ ไปทำงานของเอ็งเถอะไอ้เทิด"



แล้วตาเกริกก็เดินจากไป ปล่อยให้ไอ้เทิดฉีดน้ำรดต้นมะพร้าวอ่อนที่พึ่งถูกฝังดินได้ไม่นาน ระหว่างที่กำลังยืนฉีดน้ำ ชายหนุ่มก็เหลือบเห็นตาเกริกกำลังพูดคุยเรื่องธุระกับท่านวิทยาและครอบครัวอยู่

ไอ้เทิดรู้ดีว่าตาเกริกเป็นลูกน้องที่ท่านวิทยาไว้วางใจมาก จนถึงขนาดดึงตัวไปรับใช้ที่บ้านจารุศิริการกุลในฐานะคนสวนประจำบ้าน ระหว่างที่คุยกันอยู่ คุณหนูพลอยก็จูงมือน้องสาวอย่างคุณหนูแพรวเดินแยกตัวออกมา

หลังจากนั้น เทิดศักดิ์ก็ไม่ได้เจอหน้าคุณหนูทั้งสองอีกเลย จนกระทั่งอีกหลายปีต่อมา ในงานวันตรุษจีน ที่ครอบครัวจารุศิริการกุลรวมตัวกันทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ โดยเฉพาะ หลวงบูรพาเสพภักดี เชิดเกียรติ จารุศิริการกุล หรือชื่อเดิมก็คือนายตี๋เล๊ง แซ่โง้ว ต้นตระกูล ข้าหลวงใหญ่เชื้อสายจีนผู้บุกเบิก ริเริ่มสร้างความยิ่งใหญ่ของตระกูลจารุศิริการกุล

ในตอนนั้น คุณหนูพลอยพรรณเริ่มทำงานเป็นคุณหมอประจำวิทยาลัยพยาบาลพร้อมกับควบตำแหน่งติวเตอร์สถาบันกวดวิชา ส่วนคุณหนูแพรวพรรณกำลังแตกเนื้อสาวในวัย 15 ปี

ความจริงแล้วครอบครัวจารุศิริการกุลเองก็มีเชื้อสายจีน เพียงแต่ลูกหลานในยุคหลังไม่ได้เคร่งครัดในธรรมเนียมของชาวจีนสักเท่าไร เนื่องจากลูกหลานในยุคหลังได้แต่งงานอยู่กินกับคนไทย จนทำให้ทุกวันนี้ลูกหลานของตระกูลจารุศิริการกุลกลายเป็นคนไทยไปหมดแล้ว

ในเหตุการณ์วันนั้น ตาเกริกและไอ้เทิดอยู่ในงานด้วย และได้เห็นว่าลูกหลานของตระกูลจารุศิริการกุลนั้นมีแต่คนหน้าตาดีอยู่เต็มไปหมด โดยเฉพาะทายาทฝ่ายหญิง ที่ยังมีลูกพี่ลูกน้องของหมอพลอยและคุณหนูแพรวที่หน้าตาดีไม่กันอีกอีกด้วย

หลังจากงานทำบุญดวงวิญญาณบรรพบุรุษเสร็จสิ้นลงแล้ว ท่านวิทยาและคุณหญิงพนิดาก็เดินมาส่งญาติพี่น้องกลับบ้าน โดยมีตาเกริกและไอ้เทิดเดินตามมาด้วย

"กลับบ้านดี ๆ นะผู้พันบดินทร์" ท่านวิทยาตบไหล่น้องชายที่กำลังจะเดินขึ้นรถตู้สีดำพร้อมกับสมาชิกในครอบครัว "เสียดายเจนติดธุระมาไม่ได้ เลยอดกินหูฉลามน้ำแดงสูตรเด็ดจากเยาวราชซะนี่!!!"

"เรียกผมไอ้บีเหมือนเดิมก็ได้พี่!!!" พันตรีบดินทร์ น้องชายของท่านวิทยายิ้ม "พี่เรียกผมซะเต็มยศเลย ผมเขินแย่!!!"

"เฮ้ย!!! มันก็ต้องเรียกให้สมฐานะหน่อย!! อีกหน่อยถ้าเจริญก้าวหน้าได้เป็น ผบ.เหล่าทัพ ก็อย่าลืมพี่นะเว้ย!!!" ท่านวิทยาที่ตอนนี้กลายเป็นหนุ่มใหญ่ยิ้มจนเกิดริ้วรอยบนใบหน้า "ไว้โอกาสหน้าเจอกัน ไอ้น้องรัก"

"ครับพี่ ผมก็คิดเหมือนกัน ถ้าอนาคตพี่เกิดได้เป็นนายก ถ้าผมเกษียณแล้ว ขอผมคุมกระทรวงกลาโหมนะครับ" ผู้พันบดินทร์ยิ้มให้พี่ชายที่หัวเราะร่วนอย่างมีความสุข ก่อนหันไปมองลูก ๆ ทั้งสามคนอย่าง แบม จารุพิชญา พี่สาวคนโตที่กำลังเรียนปริญญาโทในสาขามนุษยศาสตร์ บิ๊ก บุรินทร์ ลูกชายคนที่สอง ที่กำลังเรียนอยู่ในโรงเรียนมัธยมชื่อดังในเครือชาวคริสเตียนประจำจังหวัดชลบุรี และลูกสาวคนเล็กของบ้านอย่างโบว์ ปราณปรีณา ที่กำลังเรียนอยู่ในระดับมัธยมต้นในโรงเรียนชื่อดังประจำจังหวัด



"สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะคุณลุง" ทั้งสามใบเถาพนมมือไหว้ท่านวิทยาที่มีศักดิ์เป็นลุงโดยพร้อมเพรียง

"สวัสดี ๆ เดินทางโดยสวัสดิภาพนะเด็ก ๆ" ท่านวิทยายิ้มแย้มให้กับหลาน ๆ ทั้งสามคน

"ถ้างั้นผมก็ขอลา ณ ตรงนี้เลยนะครับพี่วิทย์ คุณแพร" ผู้พันบีพนมมือไหว้พี่ชายและพี่สะใภ้ "น้ากลับบ้านก่อนนะพลอย แพรว"

"สวัสดีค่ะน้าบี" ลูกสาวทั้งสองของบ้านจารุศิริการกุลพนมมือไห้วผู้พันบดินทร์ ที่มีศักดิ์เป็นน้าของตัวเองที่กำลังเดินขึ้นรถตู้กลับบ้าน

หลังจากที่ผู้พันบีและครอบครัวกลับบ้าน ท่านวิทยาและครอบครัวก็เดินกลับมาภายในบ้าน ส่วนตาเกริกก็แยกตัวไปทำงานที่สวนดอกไม้ตามที่เจ้านายได้มอบหมายงานเอาไว้

ขณะเดียวกัน ไอ้เทิดก็เดินไปช่วยกลุ่มคนใช้บ้านจารุศิริการกุลยกของ หลังจากที่ช่วยงานเสร็จ ไอ้เทิดก็เลยเดินไปหามุมสงบนั่งพักตรงสวนหลังบ้านจารุศิริการกุล และ ณ ที่แห่งนั้นเอง ที่ทำให้ไอ้เทิดได้เห็นตาเกริกกับคุณหนูแพรวพรรณกำลังพูดคุยกันด้วยเรื่องอะไรบางอย่าง



"พี่เกริกคุยอะไรกับคุณหนูแพรวเนี่ย?" ไอ้เทิดที่แอบดูตรงมุมตึกนึก "ดูท่าทางคุณหนูแพรวยิ้มแย้มด้วย? มันยังไงกันวะ?"

ไอ้เทิดที่แอบมองอยู่ก็นึกสงสัย ว่าคุณหนูแพรวพรรณกำลังคุยอะไรกับตาเกริกคนสวนของบ้าน ความจริงมันก็ไม่มีอะไรผิดหรอก เพียงแต่ด้วยสถานะและชนชั้น มันเลยเป็นข้อสังเกตที่ทำให้คนอย่างไอ้เทิดสงสัยว่าตาเกริกกำลังคุยอะไรกับคุณหนูแพรว

พอคุณหนูแพรวเดินจากไป ไอ้เทิดก็เลยเดินออกมาจากมุมตึก จนตาเกริกที่จะกวาดใบไม้ที่ตกเรี่ยราดอยู่บนพื้นหันไปเห็นเข้าพอดี

"อ่าว? ไอ้เทิด? มีอะไรวะ?" ตาเกริกถามรุ่นน้องด้วยความสงสัย

"พี่คุยอะไรกับคุณหนูแพรว?" ไอ้เทิดถามตามตรง

"ก็คุยกันเรื่องดอกไม้ในสวนเนี่ยแหละ" คนสวนของบ้านตอบ "คุณหนูแพรวแกชอบมาเดินเล่นแถวนี้ พอดีข้าเห็นพื้นหินปูนกับม้านั่งหินมันมีแต่เศษใบไม้กิ่งไม้ ข้าจะทำความสะอาดให้ ก็เลยขอให้คุณหนูกลับไปก่อน..."

"เหรอ?" เทิดศักดิ์เหมือนไม่ค่อยอยากเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยินมากนัก "เห็นยืนคุยตั้งนาน คุยกันด้วยเรื่องแค่นี้เหรอ?"

"เออซิวะ!!!" ตาเกริกเริ่มฉุนเฉียว "เอ็งน่ะ มีธุระอะไรก็ว่ามา ถ้าไม่มีก็ไปให้พ้น ๆ หน้าข้า ข้าจะกวาดพื้นโว้ย!! ไป!!"

"ไรวะ? ถามแค่นี้ไม่พอใจ ไปก็ได้" เทิดศักดิ์ส่ายหน้า ก่อนเดินหันหลังจากไป ปล่อยให้ตาเกริกยืนกวาดเศษใบไม้กิ่งไม้อยู่เพียงคนเดียว

หลังจากนั้น ไอ้เทิดก็แทบไม่ได้เจอหน้ากับตาเกริก เพราะวุ่นวายอยู่กับงานภายในสวนจารุศิริการกุล จะได้เจอกันนาน ๆ ครั้ง ทุกครั้งที่เจอ ไอ้เทิดสังเกตว่าตาเกริกดูอารมณ์ดีผิดปกติ ด้วยความสงสัย ไอ้เทิดเลยถามตาเกริก ที่ตอบแค่ว่าแกมียาดี ที่ทำให้ตัวเองกลับมาเป็นหนุ่มอีกครั้ง

"ยาอะไรของพี่วะ?" ไอ้เทิดถาม "ขอมั่งซิ"

"ความลับโว้ยไอ้เทิด!!!" ตาเกริกตอบด้วยรอยยิ้ม "ยานี่เป็นยาสูตรพิเศษเฉพาะตัว ข้าบอกใครไม่ได้"

"โว๊ะ!!! มีความล่งความลับนะพี่!!" คนสวนรุ่นน้องแซว "ชักสงสัยแล้วละซิว่ายาที่ว่าคือยาอะไร"

เกริกฤทธิ์ยิ้มไม่พูดอะไร นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ไอ้เทิดได้เจอกับตาเกริก ก่อนมาทราบข่าวภายหลังว่าตาเกริกเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน

.................................

 

โปรดติดตามตอนต่อไป...
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ฝากติดตามเพจเฟสบุ๊คของผมด้วยนะครับ

https://web.facebook.com/Nato87.The.Storyteller


ผู้เฒ่าเซราะกราว

สงสัยว่าตาเทิดจะแอบรู้ความสัมพันธ์ลับระหว่างตาเกริกกับคุณหนูแพรวพรรณแน่ๆเลย ถึงได้ทำให้มีโอกาสเสพสวาทกับคุณหนูแพรวพรรณ....????



ผู้เฒ่าเซราะกราว

อ้างจาก: ผู้เฒ่าเซราะกราว เมื่อ กรกฎาคม 09, 2021, 03:23:20 หลังเที่ยง
สงสัยว่าตาเทิดจะแอบรู้ความสัมพันธ์ลับระหว่างตาเกริกกับคุณหนูแพรวพรรณแน่ๆเลย ถึงได้ทำให้มีโอกาสเสพสวาทกับคุณหนูแพรวพรรณ....????
อ้าว...ไม่ใช่แฮะ กลายเป็นว่าคุณหนูแพรวพรรณรู้สึกว่าตาเทิดอ่านกินตัวเอง งานนี้สงสัยว่าคุณหนูแพรวพรรณจะตาเทิดเสียเองล่ะมั้ง....????





amagusto

ขอคารวะท่านผู้ประพันธ์ เนื้อหาตัวละครหลากหลาย ถ้าเทียบกับหนังนี่แตกแขนงยังกะ marvel เยี่ยมจริงๆ
นิยายที่ลงใน meb กับธัญวลัยย์ มีโอกาสที่เนื้อหาและภาษาจะหนักหน่วงเหมือนในนี้มั้ยครับ

jaja



oddsk


มโน สกลนคร