ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_nato87

เกมรักภารโรงเฒ่า ปี 2 ตอนที่ 23 : มนุษย์ลุงสามพี Pt3

เริ่มโดย nato87, กรกฎาคม 17, 2021, 06:46:35 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

nato87

พูดคุยก่อนอ่าน : มาแล้วกับตอนใหม่นะครับ ตอนนี้ต้องบอกว่า ตัวละครเยอะอีกแล้ว มันเป็นฉากย้อนหลังอดีตชาติน่ะครับ นี่น่าจะเป็นตอนแรก ที่นางเอกทั้ง 12 คนถูกพูดถึงพร้อมกันเลยก็ว่าได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะมีบทพูดนะครับ ใส่หมดไม่ไหว เดี๋ยวมันจะยาว 5555+

ก็หลังจาก Pt3 นี่ ก็จะเข้าสู่ไฮไลต์ของตอนละครับ หลังจากที่อารัมภบทมานาน แต่ก่อนอื่น เพื่อให้ทุกคนเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด รบกวนกลับไปอ่านความเป็นมาของนางฟ้าทั้ง 12 องค์ ได้จากลิงค์ด้านล่างนะครับ


https://xonly8.com/index.php?topic=227448.msg1537873#msg1537873

โดย Pt4 นี่ จะเป็นตอนที่ทุกคนรอคอย และบอกได้ว่าเหนื่อยตั้งแต่บรรทัดแรกจนถึงบรรทัดสุดท้ายครับ เตรียมทิชชู่กันพร้อมแล้วใช่ไหมครับ ถ้ายัง ผมให้เวลาอีก ไม่เกินสองวัน รีบไปเตรียมซะ เพราะผมจะใส่ฉากเลิฟซีนลุงพล พิมมี่และแนนนี่ยาว ๆ ไปเลย โดยที่คิดไว้ อาจจะมีถึง 6-7 pt ละครับ

#######################

ความเดิมจากตอนที่แล้ว


https://xonly8.com/index.php?topic=247156.0

"จะนอนอีกนานไหมท่านท้าว?" องค์ตุลาการในชุดทหารเวียดนามยืนมองลุงพลในภาพร่างที่แกยังเป็นทหารหนุ่ม "เร็วเข้า ข้ามีอะไรจะคุยกับท่าน?"

"ท่านปั่นหัวผม" ชุมพลจับมือขององค์ตุลาการสวรรค์แล้วลุกขึ้นมา "ท่านสนุกนักหรือไง?"

"ก็ข้าบอกแล้วไงท่านท้าว ข้าแค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ" องค์ตุลาการสวรรค์เดินเอามือไขว้หลัง โดยมีลุงพลเดินตามไปด้วย "ข้าเห็นเหตุการณ์ที่โรงอาหารนั่นแหละ วุ่นวายดีใช่ไหมละท่านท้าว?"

"ครับ..." ลุงพลในชุดลายพรางทหารตอบ "นี่มากันแค่ 5 คนนะ ถ้าเกิดมาครบละก็ผมตายแน่"

"ท่านมิตายง่าย ๆ ดอก ท่านท้าว" องค์ตุลาการสวรรค์ยิ้ม "เพียงแต่ท่านต้องถนอมกายเนื้อของท่านเสียบ้าง ถึงแม้ท่านจะได้มนต์วิเศษและเคล็ดลับวิชาเพิ่มพลัง แต่กายเนื้อของท่านยังมีข้อจำกัดอยู่ดี ขอให้จำสิ่งที่ข้าเตือนไว้ให้แม่นมั่น"



"ครับท่านท้าว" อดีตท่านท้าวมีชื่อตอบ "ว่าแต่ท่านมีธุระอะไร ท่านถึงได้อยากเจอผมครับ?"

"เกี่ยวกับลูกสาวของข้า นริศราวดี..." องค์ตุลาการสวรรค์ตอบ

"หมายถึง น้องแนนใช่ไหมครับ?" ตาเฒ่าหื่นถาม

"ใช่ ในบรรดาลูกสาวของข้า นางเป็นลูกสาวที่ข้ารักมากที่สุด" องค์ตุลาการสวรรค์ตอบ

"ไม่ใช่หมอพลอยหรือครูเบสท์หรอกเหรอครับ?" ลุงพลยังถามต่อไป

"ข้ารักลูกสาวข้าทุกคน แต่นริศราวดีกับอรัญญาวดีนั้นแตกต่างออกไป" องค์ตุลาการสวรรค์ถอนหายใจยาว "พวกนางไม่ได้มีส่วนรับรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้นบนสรวลสรรค์ แต่ข้า ข้าซึ่งเป็นบิดาได้ส่งให้นางลงมาจุติลงบนโลกมนุษย์"

"ท่านท้าว แล้วทำไมท่านถึงทำแบบนั้นละครับ?" ลุงพลร่นคิ้วไม่เข้าใจความคิดขององค์ตุลาการสวรรค์ผู้เป็นพ่อ ในเมื่อลูกสาวเป็นนางฟ้านางสวรรค์อยู่ก็ดี แถมไม่ได้ทำอะไรผิด จะส่งพวกนางลงมาเกิดบนโลกมนุษย์ทำไมก็ไม่รู้

"ยังไงลูกสาวข้าก็ล้วนเป็นพี่น้องกัน ไม่ว่าจะทะเลาะตั้งแง่รังเกียจเดียดฉันท์ยังไง สายสัมพันธ์เมื่อครั้งอดีตชาติจักไม่มีวันถูกตัดขาด ด้วยกงล้อแห่งชะตากรรม อีกไม่นาน พวกนางจะต้องมาพบเจอกัน" องค์ตุลาการสวรรค์ตอบ "อีกทั้งข้าอยากให้ลูกสาวข้าทั้งหมดได้ลงมาเกิดเป็นมนุษย์เพื่อสะสมบุญบารมี เพื่อรอคอเวลาที่เหมาะสม แล้วพวกนางทั้งหมดจะได้กลับสู่สรวลสวรรค์อีกครา..."

"เอ่อ..." ตาเฒ่าเจ้าของร้านน้ำเต้าหู้ยังสงสัยอยู่ดี "ผมมีคำถามครับท่านท้าว?"

"คำถามอะไร?" องค์ตุลาการสวรรค์ยิ้ม

"ท่านบอกว่าอยากให้ลูกสาวท่านลงมาเกิดเพื่อสะสมบุญบารมี ถูกต้องใช่ไหมครับ?" ลุงพลถามในสิ่งที่คาใจมานาน "แต่ท่านก็ยังยินยอมให้ลูกสาวของท่านทั้งสิบสองคน เอ่อ มีอะไรกับผม ผมว่ามันดูย้อนแย้งนะท่าน มันจะได้บุญตรงไหนเนี่ย?"

"มันเป็นกรรมที่ผูกติดร่วมกันมาท่านท้าว มีใครบ้างเล่าที่จะหลีกหนีเรื่องรักใคร่และกามารมณ์ ไม่มีดอก" องค์ตุลาการสวรรค์ตอบ "เอาเถิด ข้าจะให้ท่านได้ดูนิมิตบางอย่าง ตามข้ามา..."

"นิมิตอะไรท่านท้าว?" ลุงพลร่นคิ้วด้วยความสงสัย ก่อนเดินตามองค์ตุลาการสวรรค์ไป จนพบว่าตัวเองได้หลุดเข้าไปในมิติใหม่ที่ไม่คุ้นเคย

.........................................

"พลอยพรรณราย เหตุไฉนเจ้าจึงกระทำการเยี่ยงนี้!!" ภาพองค์ตุลาการสวรรค์ที่กำลังนั่งบนแท่นบัลลังก์ตัดสินคดีความผิดของเหล่าบรรดาลูกสาวทั้ง 12 องค์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด "เจ้าเป่าหูล่อลวงท่านท้าวชุมพลศักดาใช่หรือไม่? ตอบพ่อมาบัดเดี๋ยวนี้นะเจ้า!!"

"ข้าผิดเองพ่อท่าน..." พลอยพรรณรายสารภาพความผิดสิ้น "ข้าเพียงแค่อยากหยอกล้อท่านท้าวชุมพลศักดาเล่น มิได้คิดว่าท่านท้าวมีชื่อจะคิดจริงจังถึงเพียงนั้น แลข้าไม่คิดว่าเรื่องราวจะบานปลายกลายเป็นสงครามใหญ่โตถึงเพียงนี้..."

"อย่าตำหนิท่านพี่พลอยพรรณรายเลยท่านพ่อ" ภัคจิราวดีพี่สาวคนรองเอ่ยปากกับองค์ตุลาการสวรรค์ผู้เป็นพ่อ "หากแม้นท่านพ่อคิดลงโทษท่านพี่แล้วไซ้ ก็ขอให้ลงโทษข้าที่มิยอมทัดทานท่านพี่เสียแต่แรก"

"ท่านพ่อ ข้าต่างหากที่ผิด!!!" ภาสินีกุมารีเอ่ยปากขึ้นมา "หากไล่เรียงเรื่องราวทั้งหมดแล้วไซ้ ทุกอย่างล้วนเกิดจากความคิดของข้า ข้าเป็นคนแนะนำให้ท่านพี่พลอยพรรณรายคิดแผนลองใจท่านท้าวชุมพลศักดา หากพ่อท่านจะลงทัณฑ์ ก็ขอให้ลงทัณฑ์ที่ข้าเพียงผู้เดียวเถิด"

"พวกข้าเองก็มีความผิดด้วยเหมือนกัน ท่านพ่อ!!" เดือนดาราวดี เนตรชนกกุมารี ณิชาวดี เอ่ยปากขึ้นมาอย่างพร้อมเพียง "พวกข้าสามพี่น้องล้วนมีส่วนในเหตุการณ์ครั้งนี้ หากท่านพ่อคิดลงทัณฑ์ ก็ขอให้ลงทัณฑ์พวกข้าทั้งสามคนด้วยเถิด"

"ไม่ต้องกลัว ข้าลงโทษพวกเจ้าทั้งหมดแน่!!!" องค์ตุลาการสวรรค์ชี้หน้าลูกสาวทุกคนที่ทำผิด "แล้วพวกเจ้าล่ะ ว่ายังไง?"

ฉัตรพรกุมารี อรัญญาวดี พิมพาภรณ์กุมารี นริศราวดี และนาถลดาวดี คือกลุ่มนางฟ้าที่ต่อต้านแผนการของพลอยพรรณรายและกลุ่มพี่น้องของตนอย่างมั่นคง

"หากข้าพิมพาภรณ์วดี อรัญญาวดี ฉัตรพรกุมารี และท่านพี่นริศราวดี ทราบเรื่องเร็วกว่านี้ ก็คงจะทัดทารก่อนทุกอย่างจะสายเกินการ พวกเจ้ากระทำการเช่นนี้ไปได้เยี่ยงไร?"

พิมพาภรณ์วดีมองหน้ากลุ่มพี่ ๆ น้อง ๆ ตัวตั้งตัวตีในการล่อลวงท่านท้าวชุมพลศักดาด้วยความไม่พอใจ

"เจ้านี่มันเอาดีใส่ตัวตลอดเลยนะ พิมพาภรณ์วดี!!" หทัยรัตนกุมารีเอ่ยปากแทรกขึ้นมา จนเหล่าบรรดาพี่น้องหันไปมองทั้งคู่ "พอได้ทีก็ขี่แพะไล่เลยหนา พวกเจ้าทั้งหมด โดยเฉพาะเจ้า นาลดาวดี!! ที่ผ่านมาเจ้าเสแสร้งแกล้งทำว่าเป็นแม่หญิงผู้อ่อนหวานและอ่อนแอ แต่แท้จริงแล้วเจ้าก็มิต่างกับอสรพิษร้าย!!"

"ฮือ..." นาถลดาวดีไม่ได้ตอบอะไร เทพธิดาผู้น่าสงสารเอาแต่ร้องไห้ด้วยความเสียใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น

"ก็มันจริงหรือไม่ พวกเจ้าคิดกระทำการดั่งเด็กทารกบนโลกมนุษย์ ทั้ง ๆ ที่พวกเจ้าควรคัดค้าน แต่พวกเจ้ากลับสนับสนุนและร่วมมือกันกระทำการตามอำเภอใจ จนท่านพ่อต้องโกรธหนักหนา"

"ทำไม่เวลาอยู่ต่อหน้าข้าเจ้าไม่อหังการเหมือนเวลาอยู่กับท่านพ่อ!?" หทัยรัตนกุมารีชี้หน้าพิมพาภรณ์วดี พี่น้องร่วมอุธรณ์ของเธออย่างเอาเรื่อง "เห็นทีข้ากับเจ้าจักอยู่ร่วมชายคาบนสรวลสวรรค์แห่งนี้ไม่ได้เสียแล้ว..."

"จะรอช้าอยู่ใยเล่า เข้ามาซิเจ้า!!!" พิมพาภรณ์วดีลุกขึ้นจากแท่นบัลลังก์ชี้หน้าเหล่าบรรดาพี่น้องที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการกลั่นแกล้งท่านท้าวชุมพลศักดา

"หยุดบัดเดี๋ยวนี้ พวกเจ้าทั้งหมด!!!" องค์ตุลาการสวรรค์ พอเห็นลูก ๆ ทะเลาะกันก็คำรามเสียงดัง "พวกเจ้าล้วนเป็นบุตรีแห่งข้า องค์ตุลาการสวรรค์ เหตุไฉนจึงทะเลาะกันเช่นนี้!! พวกเจ้ามีแต่กระทำการให้ข้าต้องอับอายขายขี้หน้าข้ายิ่งนัก!!"

"พวกเจ้าทะเลาะกันเหมือนดั่งเด็กทารกบนโลกมนุษย์ เหตุไฉนจึงไม่คิดสงสารท่านพ่อ!!!" นริศราวดี ลูกสาวที่คอยช่วยงานองค์ตุลาการสวรรค์กล่าวตำหนิพี่น้องของเธออย่างไม่ไว้หน้า "ท่านพี่พลอยพรรณราย ท่านเป็นพี่ใหญ่ เหตุไฉนท่านจึงคิดกระทำการเยี่ยงนี้ ท่านรู้หรือไม่ว่าความคิดของท่าน ทำให้แดนสวรรค์ของเราต้องปั่นป่วนจากภัยสงครามกับเมืองปีศาจ..."

พลอยพรรณรายเมินหน้าหนี เพราะไม่รู้จะเอ่ยปากแก้ตัวอย่างไร

"แล้วเราจักทำอย่างไรต่อไปดี?" ฉัตรพรกุมารี ผู้ไม่ได้มีส่วนรู้ส่วนเห็นในการสมคบคิดครั้งนี้เอ่ยปากขึ้นมาบ้าง "ความวุ่นวายเกิดขึ้นบนสรวลสรรค์ถึงเพียงนี้แล้ว? จะทำอย่างไรต่อไปดี"

"ลูกพ่อ พวกเจ้าทั้งหมด จงฟังข้า..." องค์ตุลาการสวรรค์ถอนหายใจยาว "ความผิดในครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก เห็นทีข้าจักต้องลงโทษพวกเจ้าทั้งหมด ฉัตรพรกุมารี อรัญญาวดี พิมพาภรณ์กุมารี นริศราวดี และนาถลดาวดี แม้นพวกเจ้าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการสมรู้ร่วมคิดในครานี้ แต่พวกเจ้าก็ได้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทบนสรวลสวรรค์จนสร้างความอับอายต่อข้ายิ่งนัก..."

"พวกข้าทั้งหมดกราบขออภัยพ่อท่าน..." ฉัตรพรกุมารี อรัญญาวดี พิมพาภรณ์กุมารี นริศราวดี และนาถลดาวดี ที่นั่งพับเพียงบนบัลลังก์ก้มลงกราบองค์ตุลาการสวรรค์ด้วยความรู้สึกผิด

"พวกเจ้าทั้งหมด ต้องลงไปเกิดบนโลกมนุษย์เพื่อชดใช้กรรมตามสัดส่วนที่พวกเจ้าได้ก่อไว้ จวบจนกว่าจะสิ้นอายุขัย แล้วพวกเจ้าจักได้กลับมาบนสวรรค์อีกครา..."

"แบบนี้เองเหรอ..." ลุงพลยืนดูเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยความสนใจ

"ใช่..." องค์ตุลาการสวรรค์ที่ยังอยู่ในชุดทหารเวียดนามตอบ "ข้าตัดสินใจให้พวกนางลงไปเกิดบนโลกมนุษย์ด้วยกันทั้งหมด ส่วนหนึ่งเพื่อชดใช้กรรมตามสัดส่วนที่ตนเองก่อ และเพื่อให้พวกนางสะสมบุญบารมีเพื่อกลับมาเสวยสุขบนสรวลสวรรค์อีกครา..."

"เพราะแบบนี้ ท่านเลยให้พลังวิเศษแก่ผม เพื่อให้ผมได้ต่อชีวิตพวกนาง..." ลุงพลนึกถึงสิ่งที่องค์ตุลาการสวรรค์เคยบอกกับตนเมื่อหลายวันก่อน "ผมอาจจะต้องพบกับชะตากรรมที่น่าเศร้าแทนพวกนางทั้งหมด แต่เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน ผมจะได้เสพสังวาสกับเธอเป็นรางวัลตอบแทน และเพื่อต่ออายุพวกเธอซินะครับ"

"ใช่ ท่านพูดถูกแล้ว..." องค์ตุลาการสวรรค์ตอบ

"แล้วท่านไม่คิดว่ามันเห็นแก่ตัวเหรอครับ?" ลุงพลถาม

"แต่ข้าก็เห็นว่าท่านมีความสุขทุกครั้งที่ได้เสพสังวาสกับลูกสาวข้ามิใช่หรือ?" ท่านท้าวผู้เป็นใหญ่บนสรวลสรรค์ตอบกลับมา "เหมือนที่คนบนโลกมนุษย์บอกว่า ทุกอย่างมีราคาต้องจ่าย..."

"ข้าเริ่มสงสัยแล้วว่าอดีตชาติผมกับท่านเป็นเพื่อนกันได้ยังไงเนี่ย?" อดีตจอมทัพสวรรค์พล่ามต่อ "ดูเหมือนท่านมีลับลมคมในกับผมเสียเหลือเกินนะครับ"

"เชื่อข้าเถิดท่านท้าว เมื่อถึงเวลา ท่านจะเข้าใจเรื่องราวทุกอย่างเอง..." องค์ตุลาการสวรรค์ยิ้ม "แต่ในตอนนี้ ข้าคงมิอาจเอ่ยเอื่อยอะไรมากไปกว่านี้ได้ ด้วยเพราะมิอาจฝืนต่อลิขิตสวรรค์ ท่านท้าวชุมพลศักดา ข้าขอให้สัจจะวาจา ข้าจะช่วยเหลือท่านให้พ้นภัย จนกว่าท่านจะทำภารกิจนี้สำเร็จลุงล่วง..."

"ภารกิจอะไร?" ลุงพลร่นคิ้วด้วยความสงสัย "เดี๋ยว!!!! เดี๋ยวก่อนซิ!!!"
แล้วทันใดนั้น ร่างของลุงพลก็เหมือนถูกดูดลงมาจากฟากฟ้าลงสู่โลกมนุษย์ อดีตจอมทัพตกสวรรค์ร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ

"ดูแลลูกสาวข้าทั้ง 12 นาง นั่นคือภารกิจของท่าน เมื่อภารกิจของท่านสำเร็จลุล่วงแล้วไซ้ เราจักมาคุยกันอีกครอบ ขอให้ท่านเชื่อใจข้า ท่านท้าวชุมพลศักดา ข้ามิได้คิดกลหลอกล่อท่าน เพียงแต่มันเป็นความลับสวรรค์ ที่แม้แต่ข้าก็มิอาจเปิดเผยได้..."

.........................................

ในวันรุ่งขึ้น ลุงพลตื่นแต่เช้า แล้วลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว ก่อนเอาทองคำไปขายเพื่อแลกเงินก้อนโต ก่อนขับรถกระบะมุ่งหน้าตรงไปที่วิทยาลัยพยาบาล ตามที่ได้นัดหมายกับสองสาวพิมมี่และแนนนี่เอาไว้

ระหว่างที่กำลังยืนรอ ก็มีสายโทรศัพท์เรียกเข้า ลุงพลเลยหยิบมือถือขึ้นมาดู ก็พบว่านั่นเป็นเบอร์ของพิมมี่นั่นเอง

"ฮัลโหล?" พิมมี่เอ่ยปากทักทายลุงพล "ลุงพลอยู่ไหนแล้วคะ?"

"อยู่ที่วิทยาลัยพยาบาลจ๊ะ" ลุงพลตอบ

"ลุงพล ลุงพลมายังไง ขับรถมาเองใช่ไหมคะ?" พิมมี่ถามต่อ

"ใช่จ๊ะ" อดีตภารโรงประจำวิทยาลัยพยาบาลตอบ "ลุงขับรถกระบะมาจ๊ะหนูพิม"

"เดี๋ยวลุงจอดรถทิ้งไว้ที่นั่นแหละ แล้วลุงติดรถมากับพวกหนู" พิมมี่ตอบ "แล้วลุงก็มารอที่หน้าป้ายรถเมลล์เลยนะคะ พวกหนูใกล้ถึงแล้ว"

"จ๊ะ ๆ ก็ได้จ๊ะ" ลุงพลตอบ ก่อนวางมือถือแล้วรีบเดินตรงไปที่หน้าป้ายรถเมลล์

ตัดมาทางฝั่งของพิมมี่และแนนนี่ หลังจากกดวางสาย พริตตี้สาวที่ขับรถอยู่ก็หันไปถามเรื่องราวเกี่ยวกับลุงพลจากปากของพิมมี่

"ลุงพลถึงวิทยาลัยแล้วเหรอ?" แนนนี่ถาม

"ใช่แล้ว" พิมมี่ตอบ

"ถามตรง ๆ นะพิม" แนนนี่ยิงคำถามเพิ่ม "พิมรู้จักกับลุงพลขนาดไหนเนี่ย?"

"ลุงพลเป็นผู้ใหญ่ใจดี ที่เคยช่วยพิมเอาไว้น่ะ" พิมมี่ตอบ

"ไม่!! พิมตอบไม่ตรงคำถามอ่ะ" พริตตี้สาวหมุนพวงมาลัยเลี้ยวตรงสี่แยก "แนนอยากรู้ว่าพิมกับลุงพลเป็นอะไรกัน?"

"เอ่อ..." พอเจอคำถามแบบนี้ ทำเอาพิมพาภรณ์ถึงกับอึ้ง จนนริศราจับพิรุธได้

"ให้เดานะ ที่พิมเลิกกับไอ้บิ๊ก ก็เพราะลุงพลใช่ไหม?" คนสวยจากเมืองขอนแก่นตอบ "ไปเฮ็ดอีท่าไหน เจ้าถึงไปมักผู้เฒ่าจังซั้น?"

"อย่าพูดมากไป เรื่องมันยาว..." คนสวยจากเมืองโคราชตอบ "ก็ประมาณนั้น ถ้าไม่มีลุงพล พิมคงไม่ได้ใช้ชีวิตสุขสงบหรอก"

"แต่ดูทรงแล้วลุงพลเจ้าชู้มากเลยนะพิม?" นริศราถามต่อ "พิมรับได้เหรอ?"

"ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากให้คนรักของตัวเองเป็นคนเจ้าชู้หรอก..." พิมมี่เผลอหลุดปากออกมา จนนริศราร่นคิ้วแล้วเหลือบไปมองเพื่อนที่นั่งอยู่เบาะข้าง

"ว้ายยย!!! คนรัก!!! พูดมาจนได้!!" พริตตี้สาวยิ้มขำ "นี่พิม? พิมคงไม่หึงแนนใช่ไหมเนี่ย?"

"ถ้าเป็นแนน พิมโอเค..." พิมมี่ตอบ "นั่นไง ๆ ลุงพลยืนอยู่ตรงนั้น"

"โอเคจ้า..." แล้วแนนนี่ก็ขับรถยนต์ Toyota Yaris สีขาว จอดเทียบท่าป้ายรถเมล ก่อนที่พิมมี่จะเปิดหน้าต่างประตูรถ บอกให้ลุงพลเปิดประตูหลังขึ้นมา

"ลุงพล ขึ้นมาซิคะ" พิมพาภรณ์เรียกให้ลุงพลรีบขึ้นมาบนรถ

"จ๊ะ ๆ" ลุงพลพยักหน้า ก่อนหันมองซ้ายขวาแล้วรีบเปิดประตูขึ้นรถของสองสาว โดยไม่ลืมถือซองกระดาษสีน้ำตาลที่ภายในมีเงิน 140,000 บาท

โดยจุดหมายปลายทางของทั้งสามคน ก็คือบังกะโลแห่งหนึ่งที่บางแสน ซึ่งทั้งสามคนได้ตกลงกันไว้แล้วว่าจะไป 'คุยธุระส่วนตัว' ที่นั่น

.........................................


แนนนี่ขับรถยนต์มุ่งหน้าไปบางแสนโดยใช้ถนนสายบางนาตราด ระหว่างที่กำลังขับรถอยู่ ลุงพลก็ได้ยื่นซองกระดาษสีน้ำตาลให้พิมมี่เช็คยอดเงิน

"เงินที่หนูแนนต้องการ อยู่ในนี้หมดแล้วจ๊ะ" ลุงพลยิ้ม

"ขอบคุณนะคะลุง" แนนนี่มองหน้าลุงพลผ่านกระจกหน้าพร้อมกับรอยยิ้ม "น่ารักจังเลย แบบนี้ต้องมีรางวัลให้ละ"

"แน่นอน รางวัลก้อนโตด้วย..." พิมมี่ยิ้มอย่างมีเลศนัยน์ ทำเอาลุงพลนึกใจหวั่น ๆ เพราะรู้ซึ้งถึงระดับประสบการณ์ทางเพศของพิมมี่ว่าเด็ดขาดมากขนาดไหน



"ว่าแต่ลุงพลกินข้าวมาหรือยังคะ? อดทนก่อนนะคะ เดี๋ยวไปกินที่บางแสนทีเดียวเลย" แนนนี่ที่กำลังขับรถอยู่ถามขึ้นมา

"ได้จ๊ะ" ลุงพลที่นั่งอยู่เบาะหลังยิ้ม ก่อนเอนตัวนั่งกอดอกมองวิวทิวทัศน์ทางซ้ายและขวา มันก็รู้สึกดีไปอีกแบบเหมือนกัน กับการที่ได้เป็นคนนั่งแทนที่จะเป็นคนขับรถให้สาว ๆ

"พิม เปิดเก๊ะหน้ารถซิ มันจะมีคกล่องคุกกี้อยู่ เอาไปกินรองท้องก่อนนะ" นริศราเอ่ยปากขึ้นมา

"ลุงพล? กินรองท้องก่อนไหมคะ?" พิมมี่เปิดเก๊ะหน้ารถเพื่อหยิบกล่องคุ๊กกี้เปิดฝาขึ้นมากินรองท้อง

"ขอบใจจ๊ะ" ลุงพลอ้าปากรับชิ้นคุกกี้ที่พิมมี่ป้อนให้

"อ่ะแนน..." เช่นเดียวกับแนนนี่ที่กำลังขับรถ พิมมี่ก็หยิบคุกกี้ป้อนให้เช่นกัน



"อือ!!! ขอบใจ" พริตตี้สาวเคี้ยวคุกกี้เป็นอาหารว่าง ระหว่างกำลังขับรถมุ่งหน้าสู่บางแสน

ระหว่างนี้ พิมมี่ก็เปิดวิทยุฟังเพลงแก้เซ็งไปตามเรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเพลงวัยรุ่น ซึ่งคนสูงวัยอย่างลุงพลเข้าไม่ถึง

"ไม่ได้อยากถาม แต่แค่อยากรู้ว่าเธอยังรักฉันไหม อยู่ใกล้แค่นี้ แต่เหมือนเธอนั้นห่างไกลแสนไกล ใจเธอวันนี้ ไปเป็นของใคร หาไม่เจอ..."

สองสาวพิมพาภรณ์และนริศราร้องเพลงอย่างพร้อมเพรียงกันในทริปพิเศษที่บางแสน โดยที่ลุงพลที่นั่งเบาะหลังได้แต่นั่งฟังไป

"เคยฟังเพลงนี้ไหมคะลุงพล?" พิมมี่ที่นั่งเบาะหน้าหันมาถาม

"ไม่เคยจ๊ะ" ลุงพลตอบไปตามตรง

"รุ่นใหญ่อย่างลุงพลคงไม่ฟังเพลงแบบนี้หรอกพิม" แนนนี่แสดงความเห็นบ้าง "เกรงใจลุงพลแย่เลยเนี่ย ต้องมานั่งฟังเด็กร้องเพลงงุ้งงิ้ง ๆ แบบนี้"

"ไม่เลยจ๊ะ ทั้งคู่ร้องเพลงเพราะออก" อดีตภารโรงยิ้มหวาน "เสียงเพราะแบบนี้น่าไปประกวดร้องเพลงนะเนี่ย?"

"ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะลุง" พริตตี้สาวยิ้ม "อ่ะ ใกล้ถึงบางแสนละ เดี๋ยวตกลงเราจะไปหาอะไรกินกันก่อน หรือว่าจะไปจองบังกะโลก่อนดี?"

"จองบังกะโลก่อนก็แล้วกัน" พิมมี่แสดงความเห็น "ลุงพลว่าไงคะ?"

"ตามนั้นจ๊ะพิม" ลุงพลตอบ



"โอเค งั้นจัดไป!!" พริตตี้สาวตอบ ก่อนเหยียบคันเร่งเพื่อมุ่งหน้าไปยังบังกะโลที่ได้เล็งเอาไว้แล้ว พอไปถึง ทั้งสามคนก็ได้จอดรถและเดินเข้าไปคุยกับเจ้าของเพื่อขอจองบังกะโลติดทะเลบางแสน 1 วัน 2 คืน คือจำนวนระยะเวลาที่ทั้งสามคนได้กำหนดเอาไว้

ตอนแรกสองสาวอยากพักสัก 2 วัน 3 คืน แต่เพราะเกรงใจลุงพล ที่ต้องกลับไปขายน้ำเต้าหู้ที่วิทยาลัยพยาบาลต่อ ก็เลยตกลงระยะเวลาไว้เพียงเท่านี้ พอตกลงเช่าบังกะโลและจ่ายเงินเสร็จ ทั้งสามคนก็ขับรถออกมาหาอาหารกินริมทะเลบางแสนกัน

"กินเยอะ ๆ นะคะลุงพล!!!" พิมมี่ตักชิ้นปลาเก๋าราดพริกใส่จานลุงพล "จะได้มีแรง"

ลุงพลยิ้มมองหน้าพิมมี่เหมือนรับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะสื่อถึงอะไร ส่วนแนนที่นั่งกินข้าวอยู่ข้าง ๆ ก็นึกระแวงทั้งคู่ว่ากำลังคิดวางแผนอะไรกันอยู่หรือเปล่า

"พิม? ลุงพล? ทำไมมองหน้าแนนแบบนั้นอ่ะ?" นริศรารู้สึกอึดอัดกับการโดนมองด้วยสายตาแบบนั้น

"แนนก็กินเยอะ ๆ นะ" คนสวยจากเมืองโคราชเอ่ยปาก "คืนนี้บอกเลยว่าเหนื่อยแน่"

"ชูว!!! เบา ๆ ซิ!!!" นริศราเอามือจุ๊ปาก เมื่อเห็นสายตาของพ่อค้าแม่ค้าที่กำลังมองดูทั้งสามคนด้วยความสงสัย "โต๊ะอื่นเค้ามองดูเราอยู่นะ!!"

 

โปรดติดตามตอนต่อไป...
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ฝากติดตามเพจเฟสบุ๊คของผมด้วยนะครับ

https://web.facebook.com/Nato87.The.Storyteller

pizzahutcha


Pm Nuttakan


playnut

อิจฉาลุงพล    อยากให้พิมมี่ใส่ควยปลอมเล่นตูดแนนนี่กับลุงพล

thadtanone2002


akennya

เดี๋ยวกลับถึงห้อง แนนก็รู้เองว่าทั้ง 2 คนคิดอะไรอยู่

lololololo


D11T



naikai


Pooh



Wichana

ถ้าจุดหมายคือเรื่องนี้ ไม่ต้องมาถึงบางแสนก็ได้ไหมแหม ลุงพลจัดหนักให้ตามคำเรียกร้อง

upperbound


fufu22