ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

สางแค้นภาค2 (2/แค้น)

เริ่มโดย twintower, กรกฎาคม 27, 2021, 09:54:47 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

twintower

บริเวณนั้นเป็นลานกว้าง คนร้าย 2 คน ไปจนมุมอยู่ริมผนัง คนบริเวณนั้นแตกกระจายออกไปหมดแล้ว มีบางส่วนที่หลบอยู่ตามเสาหรือกำแพงเตี้ยๆ เพราะทำตามที่เจ้าหน้าที่สั่ง แคนกับพวกเดินเข้าไปทางด้านข้างในระยะที่ไม่ห่างจากคนร้ายไม่ถึง 10 เมตรแล้วดึงปืนออกจากซอง แต่พอเห็นการทำงานของตำรวจที่ยืนถือปืนจ้องไปที่คนร้ายและต่างคนต่างพูดแคนกดไมค์วิทยุที่อยู่ตรงปกเสื้อทันที

"จากสายฟ้า 1ให้หัวหน้าทีมคุยกับคนร้ายคนเดียวอย่างแย่งกันพูด"

คำพูดของแคนทำให้พวกตำรวจนั้นได้สติ เพราะการเจรจากับคนร้ายที่จับตัวประกันไว้ ต้องใช้คนเพียงคนเดียว ไม่อย่างนั้นตัวประกันอาจเป็นอันตรายได้เพราะคนร้ายอาจสับสน ส่วนแคนนั้นสายตามองไปรอบๆรวมถึงข้างบนและเริ่มสะดุดใจในบางเรื่อง แคนขยับตัวมาที่ใกล้บริเวณกำแพงเตี้ยที่อยู่ไม่ห่าง มุมนี้จะเป็นมุมที่แคนยิงได้อย่างถนัดและระยะขนาดนี้ฝีมือของคนที่มีพรสวรรค์ในเรื่องยิงปืนแม่นอย่างแคนไม่พลาดแน่ แคนมองเป้าหมายอย่างใจเย็น แล้วหยิบหมากฝรั่งที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อมาใส่ปากเคี้ยว แล้วสายตามองไปที่คนร้ายทั้งสองที่กำลังถูกตำรวจกล่อมให้มอบตัวอยู่ ก่อนจะมองไปรอบๆอีกครั้ง พร้อมใช้มือซ้ายที่ประคองตรงด้ามปืนยกขึ้นมาทำมือห้ามแล้วบอกไปยังพวกที่หลบอยู่หลังกำลังแพงเตี้ยๆนั้น เพราะเห็นมีอยู่2-3 คนทำท่าจะคลานออกไป

"หมอบอยู่ตรงนั้นก่อนครับ อย่าไปไหน"

พอบอกจบแคนหันไปมองรอบๆอีกครั้ง ส่วนคนที่หมอบตรงนั้น 1ในนั้นคือหมออ้อม เธอมีคลินิกเสริมความงามที่เปิดอยู่ในห้างนี้ มันเป็นจังหวะที่เพื่อนชายเธอมารับเธอทานข้าว ทั้งคู่พึ่งเดินออกจากร้านอาหารมาไม่เท่าไหร่และมาเจอกับเหตุการณ์ระทึกขวัญ ตอนนี้หมออ้อมนั้นจ้องไปที่แคนอย่างไม่วางตาเป็นอีกครั้งที่เธอเจอแคน ในสายตาของเธอดูแล้วแคนนั้นเยือกเย็นเหลือเกิน ขนาดกล้าเอาหมากฝรั่งมาเคี้ยว การแต่งกายของแคนนั้นแทบไม่สะดุดตาเหมือนคนอื่นๆที่สวมเสื้อกั๊กไม่ก็แจ๊กเก็ตที่ดูออกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ แคนอยู่ในกางเกงผ้าสีดำ สวมเสื้อโปโลมีเสื้อคลุมทับที่ดูเหมือนเสื้อช๊อปของพวกช่างกลแต่คนที่เล่นปืนอย่างเธอรู้ว่าเสื้อแบบนี้เรียกว่า  "Shabak Jacket" ที่พวกบอดี้การ์ดของอิสราเอลชอบใส่ มือทั้งสองประคองด้ามปืน CZ  P10-F อยู่ตรงอก ปากกระบอกชี้ลงพื้น นิ้วขวาทาบโกร่งไก แสดงว่าพร้อมยิงทุกขณะ จุดที่สะดุดตาที่ทำให้รู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่คือหูฟังวิทยุที่เสียบอยู่ที่หูด้านขวา แต่สายตากับไม่มองไปที่คนร้าย แต่มองกวาดไปทั่ว แสดงให้เห็นว่าเป็นมืออาชีพจริงๆ

"อ้อมใช่ผู้ชายคนที่เราเจอที่สนามยิงปืนไหม"

เพื่อนชายเธอกระซิบถามเธอด้วยเสียงสั่นๆ หมออ้อมพยักหน้าแต่สายตายังจ้องที่แคนไม่วางตาส่วนแคนนั้นประเมินสถานการณ์อยู่ตลอดด้วยความแปลกใจในบางเรื่อง และไม่นานนักคนร้ายทั้งสองยอมมอบตัว ซึ่งมันดูง่ายกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังจากที่ตำรวจเข้าไปสวมกุญแจมือและพาไปยังลานจอดรถทันทีเพื่อจะพาผู้ต้องหาพร้อมของกลางที่เป็นเฮโรอีนที่มียี่ห้อพระจันทร์ครึ่งดวงไปโรงพัก  ส่วนคนที่มาซื้อนั้นถูกตำรวจอีกชุดหนึ่งนำไปส่งที่โรงพักแล้ว แคนได้หันไปบอกกลุ่มคนที่หมอบอยู่หลังกำแพง

"ไปได้แล้วครับตอนนี้ปลอดภัยแล้วครับ"

พูดจบแคนเก็บปืนในซองข้างเอวแล้วพยักหน้าไปยังพรรคพวกก่อนจะเดินไปที่ลานจอดรถโดยไม่ลืมโทรศัพท์หาตูน

"ตูนเรียบร้อยแล้วนะ เปิดร้านได้"

"โหพี่แคนอะไรกันนี่เล่นเอา งงแต่แม่บอกว่าขอบคุณมาก"

"เออเท่านี้ก่อนพี่จะไปทำงานต่อ"

แคนวางสายทันทีเพราะจิตใจนั้นพะวงอยู่กับสิ่งที่ตนเองมองเห็นพอไปถึงรถ แคนสั่งทีมงานทันที

"สวมเสื้อเกราะด้วยและเตรียมปืนให้พร้อม"

ทุกคนดูจะ งงๆแต่ทำตามที่แคนบอกยกเว้นเพื่อนของแคนที่ทำหน้าที่คนขับรถ ที่มากระซิบถามแคนระหว่างที่เปิดประตูท้ายรถเพื่อเตรียมอุปกรณ์

"มีอะไรวะ"

"กูว่ามันแปลกๆ ถึงโรงพักก่อนจะเล่าให้ฟัง"

แคนบอกระหว่างที่สวมเสื้อเกราะพร้อมเปลี่ยนอุปกรณ์หูฟังและไมค์เป็นแบบคล้องคอก่อนจะวิทยุแจ้งไปยังพวกตำรวจ

"จากสายฟ้า 1 ถึงทุกหน่วยให้เตรียมพร้อมระหว่างขนย้ายผู้ต้องหาไปที่โรงพัก ดูแล้วไม่ชอบมาพากลเท่าไหร่"

เพื่อนของแคนนั้นมองหน้าแต่ไม่พูดอะไรเพราะรู้มือกันอยู่แล้วและและเพื่อนคนนี้อยู่ ในทีมที่เข้าร่วมปฏิบัติการสังหารเปายุ่นด้วย ส่วนในรถกระบะที่ใช้ขนผู้ต้องหาทางตำรวจได้แยกให้ไปอยู่คนละคันและในรถคันแรกคนขับได้หันไปมองเพื่อนที่นั่งข้างๆและคนที่นั่งประกบคนร้ายที่เบาะหลังอยู่ก่อนจะพูด

"เชื่อหน่อยละกันคนโปรดของท่านสั่งงานมา"

แต่น้ำเสียงนั้นบอกถึงความไม่เชื่อถือ เหมือนกับเพื่อนอีก 2คนที่หัวเราะออกมา มีตำรวจหลายคนคิดว่าแคนนั้นเป็นแค่อดีตตำรวจที่เส้นใหญ่มี ผบ.ตร.กับรองนายกคอยให้ท้ายจึงได้ยศพันตำรวจเอก ก่อนที่ขบวนรถจะเคลื่อนตัวออกจากห้างโดยมีรถของ ป.ป.ส.ปิดท้ายเป็นคันที่ 4 ภายในรถวัฒนาที่นั่งด้านหลังคนขับมองไปที่แคน พร้อมกับความสงสัยในคำสั่งและคิดว่าแคนต้องเห็นอะไรที่ไม่ชอบมาพากลอย่างแน่นอน วัฒนาเชื่อมั่นในตัวของแคนมาก เรื่องของแคนนั้นตกเป็นประเด็นและมีข้อสงสัยรวมทั้งเรื่องซุบซิบที่เป็นข่าวลืออย่างมากมาย แต่ไม่มีใครรู้ความจริงแน่ชัด แต่ฝีมือของแคนนั้นวัฒนาให้การนับถืออย่างมากไม่ว่าจะเรื่องการยิงปืนที่แม่นยำ ความชำนาญในเรื่องยุทธวิธี แคนนั้นฝึกทุกคนอย่างเคี่ยว ซึ่งใครๆต่างยอมรับว่าการฝึกกับแคนนั้นเข้มข้นมาก จนทุกคนแข็งแกร่งอย่างมาก  ทุกคนในรถนอกจากคนขับต่างจับปืน M-4 นิ้วทาบที่โกร่งพร้อมจะยิงทันที

ขบวนรถมุ่งหน้าไปที่สถานีตำรวจ ระหว่างทางขณะที่รถกระบะที่ขับนำหน้าที่มีผู้ต้องหาอยู่ด้วย กำลังจะวิ่งผ่านซอย เลยปากซอยไปเล็กน้อย มีรถกระบะตอนเดียวจอดเปลี่ยนยางอยู่ โดยมีผู้ขาย 2 คนกำลังช่วยกันเปลี่ยนยางที่ล้อหลังด้านซ้าย ทันที่รถกระบะของตำรวจวิ่งถึงหน้าปากซอย ผู้ชายทั้งสองคนต่างลุกขึ้นยืนแล้วหยิบปืน M-16 ที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าใบบนกระบะท้ายออกมาแล้วกราดยิงไปที่รถตำรวจคันแรกทันที พร้อมๆกับรถบรรทุก 6ล้อที่รอจังหวะนี้อยู่แล้วได้วิ่งพุ่งเข้าชนกลางรถกระบะตำรวจคันแรกทันที รถถูกขนไปเบียดกับแบร์ริเออร์ที่มาปิดกั้นตรงที่เคยเป็นจุดกลับรถ พร้อมกับคนอีก 4คน ที่หลบซ่อนอยู่ด้านหลังของรถได้ลุกขึ้นมา พร้อมประเคนอาวุธปืนกลในมือใส่รถตำรวจคันที่2 ที่วิ่งตามมา ตามด้วยมอเตอร์บิ๊กไบท์อีก 2คัน ที่ขับตามรถบรรทุก คนขับได้ยกปืนขึ้นสาดใส่รถคันที่ 2เช่นกัน มันเกิดความปั่นป่วนขึ้นที  ภายในรถของแคนที่ปิดท้ายต่างได้ยินเสียงปืนที่ดังไม่ขาดสาย ทำให้แคนที่ระวังตัวอยู่แล้วหันไปบอกเพื่อน

"ออกซ้ายวิ่งไปเทียบรถคันหน้า"

คนขับทำตามทันที รถฟอร์จูนเนอร์ เลี้ยวออกมาวิ่งที่เลนซ้ายพุ่งไปจอดเทียบคู่กับรถตำรวจคันที่3

"ยิงพวกแม่งเลย"


แคนบอกกับทีมงานประตูรถทั้ง 4บานถูกเปิดออกแคนกับคนขับประทับปืนโดยเอาลำกล้องปืนวางที่ช่องขอบประตูส่วนอีก 2คนที่นั่งด้านหลัง ได้ออกมายืนนอกตัวรถใช้ประตูเป็นที่กำบัง ปืนกลมือแบบ M-4 ของเจ้าหน้าที่ป.ป.ส ทั้ง 4คน ต่างยิงประสานกันทันที เป้าหมายคือพวกที่อยู่บนรถบรรทุก 3คน ล้มคว่ำทันที ส่วนอีกคนหนึ่งพยายามตะกายกระโดดหนี แต่ถูกยิงฟุบก่อนจะล้มกลิ้งตกลงมาบนถนน สถานการณ์นั้นดีขึ้นทันทีเพราะตำรวจนั้นมีแต่ปืนพกพอมีการยิงประสานจากปืนกลมือ 4กระบอกพร้อมกัน ทำให้ตำรวจที่อยู่ในรถคันที่ 3ที่เป็นรถขนยาเสพติดของกลางซึ่งตอนนี้กระจกหน้ารถแตกละเอียดหมดแล้วเริ่มยิงตอบโต้ได้ ทำให้คนขับรถ 6ล้อที่เปิดกระจกพร้อมกระหน่ำปืนอาก้ามาเป็นระยะนั้น โดนตำรวจยิงสวนตายคาที่นั่ง ตามด้วยคนขี่มอเตอร์ไซด์อีก 1คนที่ล้มคว่ำหลังจากโดนกระสุนหลายนัดพุ่งเข้าใส่ แคนสั่งให้เพื่อนเคลื่อนที่ทันทีส่วนอีก 2คน นั้นยิงคุ้มกันอยู่ที่รถ แคนพุ่งไปด้านซ้ายเป้าหมายคือคนขับมอเตอร์ไซด์ที่ใช้ท้ายรถ 6 ล้อเป็นกำบัง และเป็นจังหวะที่ 2 คนแรกที่แกล้งทำเป็นเปลี่ยนยางได้วิ่งมาที่รถ 6 ล้อ คนหนึ่งวิ่งมาทางด้านหลังรถ อีกคนวิ่งมาด้านหน้าพุ่งตรงไปที่หน้ารถตำรวจคันแรกที่ถูกชน  จังหวะนั้นเพื่อนของแคนพุ่งไปถึงท้ายรถตำรวจคันที่ 2พอดี มันดันยืดตัวขึ้นเพื่อจะยิงตอบโต้มาที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. แต่เพื่อนของแคนนั้นไวกว่า ยก M-4 ขึ้นมาแล้วลั่นไกทันที กระสุนพุ่งเจาะเข้าที่หน้ามันทันที ส่วนอีกคนที่วิ่งมาด้านท้ายรถบรรทุกนั้นเห็นเพื่อนถูกยิงทำให้รีบวิ่งกระโดดไปซ้อนมอเตอร์ไซด์คันที่หลบอยู่ท้ายรถ 6 ล้อ แล้วคนได้ขับหนีเข้าไปในซอย แคนวิ่งตามไปทันที และเห็นเป้าหมายนั้นอยู่ห่างประมาณ 100 เมตรแคนประทับปืนที่บ่าแล้วลั่นไกไป 3นัด กระสุนพุ่งเข้าแผ่นหลังของคนซ้อนทำให้มันผงะหล่นจากมอเตอร์ไซด์ทันที และปากกระบอกปืนนั้นเลื่อนลงไปโดยเป้าหมายคือล้อหลังพร้อมกับการยิงไปอีก 1นัด อย่างใจเย็น เพราะแคนต้องการเก็บคนขับไว้สอบปากคำ

กระสุนเจาะเข้าที่ล้อหลังทำให้คนขับเสียการควบคุมทันที รถมอเตอร์บิ๊กไบท์นั้นล้มคว่ำ คนขับนั้นหลุดจากรถพุ่งเข้ากระแทกที่ขอบฟุตบาทส่วนมอเตอร์นั้นพุ่งขึ้นไปบนทางเท้าและชนกับต้นไม้ริมทาง เป็นจังหวะที่ตำรวจที่เป็นหัวหน้าชุดที่อยู่ในรถคันที่ 3 วิ่งมาถึงแคน ทั้งคู่รีบวิ่งไปที่ร่างของคนขับ แคนจ้องปืนไปที่ร่างที่นอนนิ่ง ตำรวจถอดหมวกกันน๊อคมันออกพร้อมจับชีพจรไปที่ต้นคอ

"มันยังไม่ตายผู้การ แต่ดูแล้วมันสาหัส"

แคนพยักหน้าพร้อมมองไปรอบๆและสะดุดตากับบางอย่างก่อนจะมีการแจ้งวิทยุเพื่อขอรถพยาบาล ตำรวจได้ค้นตัวคนขี่มอเตอร์ไซด์ที่นอนไม่ได้สติ พบปืนพกขนาด 9 มม.ที่เอว ส่วนปืนที่ใช้ยิงรถตำรวจนั้นเป็นปืนกลแบบ V-61 Scorpion เจ้าหน้าที่ส่วนที่เหลือได้เข้าตรวจสอบทันที พบว่าในรถคันแรกตำรวจที่นั่งหน้าเสียชีวิตทั้งคู่ ส่วนที่เบาะหลังตำรวจกับคนร้ายบาดเจ็บสาหัส ส่วนคันที่ 2คนในรถเป็นตำรวจ 3 นาย คนร้าย 1 คน ไม่มีใครรอด รถคันที่ 3 ที่เป็นรถเก๋งเจ้าหน้าที่ปลอดภัยทั้ง 4นาย มีบางคนที่เศษกระจกบาด ส่วนพวกที่โจมตีขบวนรถ 5 คนในรถบรรทุกตายหมด อีก 1คนตายหน้ารถตำรวจ พร้อมกับคนขี่มอเตอร์ไซด์ที่ตายที่หน้าปากซอย 1 คน ในซอยตายไปอีก 1 และบาดเจ็บสาหัสอีก 1 หลังจากนั้นไม่นานนักตำรวจแห่กันมาที่เกิดเหตุ คนเจ็บทุกคนถูกนำส่งโรงพยาบาลพร้อมการคุ้มกันอย่างหนาแน่น

แต่ในตึกที่อยู่ฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุ บนชั้น 10 ที่เป็นชั้นสูงสุด มีกลุ่มคนอยู่4-5 คน ยืนมองลงมาและด้านข้างที่ไม่ห่างออกไปมีกล้องถ่ายวีดีโอที่ตั้งอยู่บนขาตั้งกล้อง 1 ตัวและมีช่างภาพที่บันทึกเหตุการณ์โดยตลอด ผู้หญิงหน้าตาสวยคนหนึ่งที่ใช้กล้องส่องทางไกลเพื่อดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดและจับไปที่ตัวของแคนตลอดได้วางกล้องลงบนโต๊ะที่อยู่ข้างตัวแล้วถามไปที่ผู้ชายวัยประมาณ 50 เศษๆที่อยู่ในสูทที่ในมือถือมีกล้องส่องทางไกลเช่นเดียวและมืออีกข้างถือวิทยุสื่อสาร

"คุณประพาสว่ายังไงบ้างคะ"

"ตามที่เคยได้ยินสรรพคุณครับคุณนิ่ม คนๆนี้เก่งจริงๆมีสติจนคุมสถานการณ์ได้อย่างสบายๆ แสดงว่ามีประสบการณ์อย่างมากและยิงปืนแม่นตามคำบอก จริงไหมมุกดา"

"ใช่คะ"

เสียงตอบจากผู้หญิงผมซอยสั้นที่อยู่ในชุดสูทสีน้ำเงินที่ยืนอยู่ห่างจากผู้หญิงที่ถูกเรียกว่าคุณนิ่มเท่าไหร่

"มุกดาเคยเข้าฝึกกับนายคนนี้สินะ"

"คะคุณนิ่มแต่อย่างที่เคยบอกแล้วเป็นหลักสูตรสั้นๆ แต่วันนี้ได้เห็นฝีมือผู้การแคนจริงๆกับตา สมคำร่ำลือจริงๆคะอย่างที่หมวดประพาสบอก"

"ขนาดมองไกลๆยังเห็นความหล่อเลย ต้องหาโอกาสเข้าไปใกล้ๆกว่านี้ ตอนแรกนึกว่ารูปที่ได้มาหลอกตา"

สุภาพสตรีที่ชื่อนิ่มพูดพร้อมรอยยิ้มแต่ทำให้ผู้หญิงที่ยืนเยื้องไปด้านหลังมองมาที่เธอด้วยความไม่พอใจเท่าไหร่นัก ส่วนนิ่มยังมองไปข้างล่างด้วยความพอใจ จนผู้ชายที่ชื่อประพาสได้พูดขึ้น

"ผมจะสั่งให้พวกเราที่อยู่ข้างล่างถอนตัวนะครับคุณนิ่ม พวกนั้นคงจะเก็บภาพได้มากพอ"

เธอพยักหน้า ประพาสยกวิทยุขึ้นมาพร้อมพูด

"ถอนตัวออกมาได้ ค่อยๆทำนะไม่ต้องรีบ"

ผู้หญิงที่ชื่อนิ่มมองไปยังภาพข้างล่างพร้อมยิ้มอย่างพอใจแล้วหยิบกล้องส่องทางไกลไปให้ผู้หญิงที่ยืนอยู่ด้านหลังพร้อมพูดว่า

"เราไปกันเถอะ ลิซ่าโทรไปบอกคนขับรถเตรียมรถได้"

"คะคุณนิ่ม"

ประพาสหันไปพยักหน้ากับตากล้องให้รีบเก็บกล้องก่อนที่ทั้งหมดจะเดินออกไปจากห้องที่เคยเป็นออฟฟิตมาก่อน แต่ตอนนี้เป็นห้องที่แทบจะว่างเปล่า เพื่อไปขึ้นรถที่จอดอยู่ในซอยหลังตึก แต่จังหวะที่ประพาสวิทยุลงมาสั่งงานมันเกิดคลื่นกระโดดไปยังเครื่องวิทยุของแคนกับเพื่อนทำให้แคนกับเพื่อนที่ยืนอยู่หน้ารถตำรวจคันที่ถูกชนนั้นได้ยินอย่างชัดเจน

"แคนมึงได้ยินหรือเปล่า"

"ได้ยินวะน้ำ แม่งอย่างที่กูคิดเลย มันเป็นกับดัก"

ก่อนที่เพื่อนจะถามอะไรต่อวัฒนากับเจ้าหน้า ป.ปส.อีกคนได้เดินเข้ามาหาด้วยหน้าที่เคร่งเครียด

"เป็นไงบ้างวัฒ"

แคนถามไปยังลูกน้องที่เป็นมือใหม่ที่สุด

"มือเย็นตีนเย็นไปหมดพี่ ต้องขอบคุณพี่จริงๆที่เคียวฝึกผม ทำให้มีสติไม่งั้นคงหัวหดในรถอย่างเดียวแล้วนี่มันไม่ใช่แย่งชิงผู้ต้องหาใช่ไหมพี่"

แคนพยักหน้าแต่จังหวะ ผบ.ตร.และ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเดินมาหาพร้อมด้วยธงรบทั้งหมดยินทำความเคารพทันที

"ว่าไงแคน"

"ผมว่า มันวางแผนไว้แล้วครับท่าน ดูแล้วมันเตรียมการอย่างดี มันไม่ใช่การชิงตัวผู้ต้องหามันวางกับดักไว้ มันกะฆ่าพวกเราทั้งหมดโดยไม่สนคนที่โดนจับ"

"เห็นหัวหน้าชุดจับกุมรายงานท่านว่า มึงเตือนให้ระวังตัว  มีอะไรที่ทำมึงเอะใจ"

ธงรบเป็นคนถาม แคนมองไปรอบๆก่อนจะตอบ

"ตอนอยู่ในห้างนอกจากที่มันทั้ง 2คนจะยอมมอบตัวที่ดูแล้วง่ายเกินไป มันไม่ได้พูดอะไรเลยปล่อยให้ตำรวจพูดอย่างเดียวสักพักมันทั้งคู่ยอมมอบตัวและที่สำคัญพวกที่มุงดูเหตุการณ์นอกเหนือจากที่มีคนเอามือถ่าย แล้วผมเห็นมีอยู่ 2-3 คนเอากล้องแฮนดี้แคมมาถ่าย มันดูผิดปกติมาก ตรงนี้เราตรวจสอบได้จากวงจรปิดในห้างได้ และตอนปะทะ ผมเห็นหน้าคุ้นๆของพวกที่ถือแฮนดี้แคมจากในห้างตามมาถ่ายภาพด้วยครับ"

แคนรายงานไปที่ ผบ.ตร.กับผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมกับเรื่องที่ได้ยินผ่านหูฟังวิทยุเมื่อครู่นี้ ทำเอาบรรยากาศยิ่งตึงเครียดมากขึ้น หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่มีการประชุมเพื่อประเมินการเสียหาย ภาพวงจรปิดจากจุดต่างๆถูกนำมาตรวจสอบทันทีและเป็นไปตามที่แคนบอกกล้องวงจรปิดในห้างจับภาพคนที่ถ่ายกล้องแฮนดี้แคมได้ มีการนำภาพมาค้นหาว่าเป็นใครมีในทะเบียนประวัติอาชญากรหรือไม่ อีก2-3วันต่อมา ในห้องประชุมของสำนักงานแห่งหนึ่งที่เปิดเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัย รูปของแคนกับธง ถูกนำมาติดอยู่บนบอร์ดซึ่งมีอยู่หลายรูป พร้อมแผนผังที่โยงไปมากับภาพสถานที่ต่างๆ และภาพภาพเศษซากของสถานที่ ที่เคยเป็นที่ตั้งโกดังสำหรับพักและตรวจสอบยาเสพติดของกำนันน้อม และบริเวณที่กำนันน้อมถูกฆ่ารวมถึงบริเวณที่เคยเป็นโรงงานผลิตยาเสพติดของว้าแดง ทุกคนในห้องประชุมกำลังดูทีวีจอยักษ์ที่กำลังฉายคลิปที่ถูกถ่ายจากกล้องและมือถือจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่การจับกุมในห้างจนถึงการปะทะ ซึ่งเป้าหมายที่ถูกถ่ายเป็นพิเศษคือแคน หลังจากที่ได้ดูครบทุกคลิป ประพาสที่เป็นเจ้าของบริษัทแห่งนี้ได้บอกไปที่คนที่นั่งหัวโต๊ะ

"อย่างที่เห็นนะครับคุณนิ่ม ผู้การแคนนั้นเยือกเย็นจริงๆ ตั้งแต่หยิบหมากฝรั่งมาเคี้ยว ตานั้นไม่ได้ดูที่เป้าหมายเลยแต่เตรียมพร้อมตลอด จนมาถึงจุดที่เกิดเหตุผมเห็นเลยว่าแกคุมสติดีมากทั้งการยิงการเคลื่อนตัว ทีมนี้เป็นทีมที่ดีครับ ตามข่าวที่ได้มาคือผู้การฝึกคนของเขาอย่างเข้มข้น และดีไม่ดีผมว่าแกอาจจะสังเกตเห็นคนของเราที่ใช้กล้องถ่ายคลิปไว้ด้วยครับ"

"เรื่องตรงนี้เราต้องระวังอะไรบ้าง"

"ไม่น่าจะเป็นห่วงเท่าไหร่ครับ เพราะส่วนใหญ่ไม่ใช่คนไทย ถึงเป็นคนไทยก็ไม่มีบัตรประชาชน มันตรวจสอบยาก พวกนี้ไม่ประวัติมาก่อนด้วย"

นิ่มหรือนุ่มนิ่มถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะพูดขึ้น

"เอาละเราเห็นฝีมือของเขาแล้วและมันเป็นไปตามแผนที่คุณประพาสวางไว้ ต่อไปเราต้องก่อกวนพวกตำรวจมันให้หนักขึ้นฆ่าได้ก็ฆ่าไม่ต้องสนใจ แต่เรื่องของเราให้ทำต่อ ลิซ่าบอกไปที่อุกฤษให้พวกว้าเร่งการผลิตขึ้น ของล็อตแรกของเราต้องไปถึงเม็กซิโกตามเวลาและถามไปทางโคลัมเบียด้วยเรื่องโคเคน ว่าจะทำยังไงต่อ  ส่วนเรื่องข้อมูลที่ได้มาทั้งหมดขอให้คุณประพาสรวบรวมให้ดี ถ้าติดหรือมีข้อสงสัยตรงไหนโดยเฉพาะเรื่องที่เกิดขึ้นที่เชียงใหม่ เชียงรายและในพม่า สอบถามไปที่คุณอิศรหรือไม่ก็คุณบัญชาได้ ส่วนนอกเหนือจากนี้พวกนักสืบที่ต่างประเทศที่ฉันจ้างกำลังสืบหาข้อมูลอยู่ ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าใครเป็นฆ่าพ่อของฉัน ธงรบอย่างที่ทุกคนรู้มันเป็นสายลับที่แทรกซึมเข้าไปทำงานกับคุณสาธิต แต่มันต้องเกี่ยวโยงกับการตายของพ่อฉันแน่ถึงจะไม่ใช่คนฆ่า ส่วนพ่อรูปหล่อคนนี้ต้องหาข้อมูลให้ลึกกว่านี้เพราะข่าวลือเกี่ยวกับตัวเขามันมีมากมาย แต่เชื่อได้ว่าเขาต้องมีข้อมูลที่รู้ว่าใครฆ่าพ่อของฉัน ยิ่งมีประวัติกันมาก่อน และคุณประพาสอย่าลืมด้วยว่าพี่ของคุณก็เกี่ยวข้องด้วย แถมชะตากรรมคงไม่ต่างจากพ่อของฉัน จัดได้แต่งานศพที่มีแต่โลงเปล่าๆ  พยายามหาข้อมูลของพ่อรูปหล่อคนนี้เพิ่มขึ้น เพราะที่ได้มามันยังไม่ใช่ที่ฉันต้องการ"

เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เหี้ยมเกรียมตานั้นลุกวาว มองไปที่รูปของแคน และประโยคสุดท้ายเธอพูดกับคนที่ชื่อประพาส ซึ่งประพาสก้มหัวรับคำสั่ง เธอจึงลุกขึ้นยืนโดยมีมุกดาที่เป็นบอดี้การ์ดประจำตัวและสิซ่าที่เลขานุการลุกตามทันที

"คุณนิ่มจะกลับเชียงรายเลยหรือเปล่าครับ"

"ยัง ฉันจะไปเยี่ยมพี่สาวก่อน อ้อบอกไปที่หมู่บ้านด้วยให้เตรียมกระจายของได้เลย อย่าลืมเคลียร์กับทางตำรวจด้วย พรุ่งนี้ฉันจะให้วิฑูรย์ขึ้นไปดู"

ประพาสรับคำสั่งอีกครั้ง ก่อนที่นุ่มนิ่มจะเดินออกจากห้องประชุมซึ่งทั้งมุกดาและสิซ่าตามไปติดๆ คืนนั้นในคฤหาสน์หลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านหรูระดับราคา 100 ล้านขึ้นไป  ภายในห้องนอนที่ตกแต่งอย่างหรูหรา ร่างของคน 3 คนกำลังนัวเนียกันบนเตียงที่กว้างใหญ่  ร่างของผู้หญิงขาวโพลนที่อยู่บนตัวผู้ชายที่มีรอยสักบนแขนทั้งสองข้างกำลังนอนหงาย และมีผู้หญิงอีกคนกำลังพรมจูบไปบนแผ่นหลังของหญิงสาวที่อยู่บนตัวผู้ชาย  ก่อนที่ฝ่ายหญิงที่อยู่บนตัวผู้ชายจะเลื่อนหน้าลงไปด้านล่างตรงควยที่กำลังแข็งตัวเธอไม่รอช้าใช้ลิ้นตวัดเลียไปทั่วส่วนหัวทันที

"โอ๊วววว ผมเสียวครับคุณลิซ่า"

เป็นจังหวะเดียวกับที่ปากของเธอครอบลงไปบนควยที่แข็งตัวขนาดพอๆกับแขนของเธอ ก้นของเธอยกสูงขึ้นทำให้ผู้หญิงที่กำลังพรมจูบบนแผ่นเลื่อนหน้ามาทางก้นที่ผายกว้าง พร้อมกัดไปเบาๆทำเอาลิซ่าผวากับความเสียวแต่เธอยังใช้ปากสร้างความเสียวกับฝ่ายชายต่อเนื่อง ก่อนจะผวาสุดตัว เพราะโคกหีที่ลอยขึ้นมานั้นถูกอีกฝ่ายใช้ลิ้นละลวงเข้าไปในรูหีที่ชุ่มชื้น ทั้งสองสาวต่างใช้ลิ้นกับปากสร้างความเสียวให้อีกฝ่ายอย่างไม่หยุด จนลิซ่าเงยหน้าขึ้นมา เพราะเธอทนกับรสของลิ้นของอีกฝ่ายไม่ไหวทั้งๆที่ถูกเลียมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว

"ทำเถอะคะคุณนิ่มลิซ่าทนไม่ไหวแล้ว"

นุ่มนิ่มเงยหน้าขึ้นก่อนจะก้มไปจูบที่โคกหีนั้นอีกแล้วเธอลุกขึ้นแล้วหยิบควยปลอมสีดำทะมึนขึ้นมาสวมที่เอว แล้วลงไปนอนข้างๆชายหนุ่มและเธอจับหน้าชายหนุ่มพลิกมาหาเธอก่อนจะแลกจูบกันอย่างดูดดื่มส่วนลิซ่านั้นเลื่อนตัวไปคร่อมบนตัวนุ่มนิ่มหน้าของเธอซุกไปมาบนเต้าที่อวบอิ่มทั้ง 2เต้า พร้อมใช้ลิ้นแตะไปบนหัวนมสีตาลน้ำเข้มสลับไปมาพร้อมกัดไปเบาๆ ก่อนจะใช้น้ำเงี่ยนจากรูหีของเธอมาทาที่ควยปลอมแล้วนำรูหีไปจ่อก่อนจะค่อยๆหย่อนตัวลงไปทับและขย่มไปอย่างช้าๆ เช่นเดียวกับชายหนุ่มที่ตอนนี้ลุกขึ้นแล้วเลื่อนตัวมาประกบด้านหลังของลิซ่า มือทั้งสองลูบไล้ไปบนก้นที่ผายกว้างไปมาก่อนจะเลื่อนไปจับเอวของหญิงสาวซึ่งตอนนี้หยุดขย่มแล้วยกก้นขึ้นมาเล็กน้อย ชายหนุ่มนั้นค่อยๆดันควยเข้าไปในรูก้น ลิซ่าหายใจถี่ขึ้นเธอรอจนฝ่ายชายดันควยเข้าไปสุดแล้วเริ่มกระเด้าช้าๆ เธอจึงเริ่มขย่มตัวช้าๆบนควยปลอม มือของเธอนั้นข้างหนึ่งยันไว้บนเตียงส่วนอีกข้างลูบคลำไปบนนมของเจ้านายสาวเหมือนกับฝายชายที่ตอนนี้เลื่อนมือจากเอวขึ้นวางอยู่บนหน้าอกเธอทั้งสองข้างพร้อมขยำไปเบาๆ

"ซี๊ดดด วิฑูรย์แรงๆเลยก็ได้ฉันรับได้"

"ครับคุณลิซ่า"

ชายหนุ่มชื่อวิฑูรย์รับคำพร้อมกระเด้าแรงขึ้นมือขยำนมที่อวบอิ่มแรงขึ้นเช่นกัน ลิซ่าครางออกมาสุดเสียง บทรักแบบนี้มันสร้างความเสียวให้เธออย่างมาก ถึงจะเจอมานับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่มาทำงานกับนุ่มนิ่มที่เคยเป็นรุ่นพี่สมัยเรียนมัธยม เธอขย่มตัวขึ้นลงให้ควยปลอมที่เจ้านายสาวสวมเอวอยู่พร้อมเด้งขึ้นมาเป็นจังหวะสร้างความเสียวให้รูหี ส่วนรูตูดถูกควยจริงกำลังสร้างความเสียวให้กับเธอ ลิซ่าครวญครางไม่หยุด พร้อมขย่มตัวไม่หยุด จนเธอร้องออกมา

"คุณนิ่มอูยยยย จวนและคะซี๊ดดดดด โอ่ววววว"

เธอร้องพร้อมเร่งจังหวะขึ้นโดยไม่สนใจว่าด้านหลังกำลังถูกกระเด้าไม่หยุดเช่นกัน จนร่างกายเธอมีอาการเกร็งไปทั้งมือนั้นขยำนมของเจ้านายสาวอย่างแรง แต่อีกฝ่ายแอ่นกายรับ พร้อมส่งเสียง

"อูวววววว"

ลิซ่าหันไปบอกเด็กหนุ่มที่กระเด้าตูดเธออยู่

"วิฑูรย์พอก่อน"

อีกต้องฝ่ายหยุดกระเด้าด้วยความเสียดายพร้อมถอนควยออกมาเพราะเป็นคำสั่ง ส่วนนุ่มนิ่มขยับตัวเพื่อถอดควยปลอมออกแล้วโยนไปข้างเตียงก่อนจะบอกชายหนุ่ม

"วิฑูรย์มาต่อกับฉันเถอะ"

"ครับคุณนิ่ม"

ฝ่ายชายรับคำสั่งสั้นๆก่อนจะล้มตัวมาบนเตียงคร่อมไปบนร่างเจ้านายสาว นิ่มดึงหน้าของฝ่ายชายลงมาหาปากของทั้งคู่ทาบกันสนิทอีกครั้ง ทั้งคู่แลกจูบกันอย่างดูดดื่มก่อนที่นิ่มจะดันหัวให้ลงไปที่เต้านม และลิซ่าที่นั่งดูอยู่ใกล้ๆที่รอจังหวะนี้ได้ก้มหน้าลงไปอีกเต้าหนึ่ง ทั้งคู่ต่างช่วยกันดูดดื่มนมของเจ้านายสาวสวยจนนิ่มครางเป็นระยะแล้วดันหัววิฑูรย์ลงไปที่โคกหี หมอยที่ดกดำและชื้นแฉะถูกลูกน้องหนุ่มใช้ลิ้นตวัดเลียไปทั่วก่อนจะกว้านเข้าไปในรูหี ส่วนเต้านมนั้นถูกลิซ่าดูดสลับไปมา หัวนมสีน้ำตาลเข้มที่บานขยายทั้งสองข้างนั้นชุ่มไปด้วยน้ำลาย เธอปล่อยให้ลูกน้องทั้งสองบรรเลงชิวหาให้เธอจนเธอพอใจแล้วสั่งไปที่วิฑูรย์

"ฑูรย์ทำเถอะ ฉันทนไม่ไหวแล้ว"

วิฑูรย์เงยหน้าขึ้นแล้วเปลี่ยนเป็นนั่งพร้อมเอาขาอันเรียวงามของเจ้านายสาวมาพาดที่บ่าทั้ง 2ข้าง ส่วนลิซ่ายังดูดนมสลับกับการขึ้นไปจูบกับนุ่มนิ่มอยู่ตลอด วิฑูรย์ดันควยอันใหญ่ยาวเข้าไปในรูหีเจ้านายทันที ก่อนจะกระเด้าอย่างช้าๆเพราะรู้ว่าเจ้านายสาวชอบแบบไหน เพราะถ้าทำไม่ถูกใจตัวเองคงโดนเฉดหัวไปให้ทำงานขนยาเสพติดอย่างเดียวอดมาร่วมบทสวาทแบบนี้เหมือนผู้ชาย 2-3 คนที่ผ่านมา เสียงครางของนุ่มนิ่มดังออกจากปากมาเป็นระยะ เพราะความเสียวที่ได้รับ

"โอ๊วๆๆๆ ลิซ่ากัดแรงๆหน่อยก็ได้ ฮูวแบบนั้นดีนิ่มชอบซี๊ดดดด ฑูรย์ขากระเด้าแรงๆหน่อย อูววววววว"

เธอเด้งตัวรับเป็นระยะกับจังหวะการเย็ดของลูกน้องหนุ่ม พร้อมกับท่อนบนที่ได้รับการสร้างความเสียวจากลูกน้องสาว เสียงเนื้อกระทบกันดังเป็นจังหวะช้าสลับเร็วและเริ่มถี่ขึ้นเมื่อมีสัญญาณจากร่างกายว่าจวนจะถึงจุดหมายแล้ว

"โอ้วๆๆๆดีๆๆ ฉันจวนแล้วซี๊ดดดดดด"

วิฑูรย์กระเด้าอีก2-3 ครั้ง ก่อนจะปล่อยน้ำกามเข้าไปสู่รูหีเจ้านายสาวที่แอ่นกายมารองรับจนน้ำกามเปรอะออกมาด้านนอก พร้อมลมหายใจที่หอบเหนื่อยของนุ่มนิ่ม ลิซ่าเลื่อนหน้าไปหอมแก้มเจ้านายเบาๆ ส่วนวิฑูรย์นั้นลุกขึ้นยืนทั้งที่หายใจถี่ๆเช่นกันเพื่อจะรอรับคำสั่ง นุ่มนิ่มมองไปที่ลูกน้องพร้อมบอกด้วยน้ำเสียงที่ปกติ

"ไปได้แล้ว พรุ่งนี้อย่าลืมละต้องไปที่หมู่บ้าน"

"ครับคุณนิ่ม"

 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

pomm99

นุ่มนิ่ม ต้องเป็นลูกกำนันน้อม มาแก้แค้นให้พ่อแน่เลย

simple simpler


ชาญวุฒิ เนระภูสี

ชื่อนุ่มนิ่มสงสัยจะไม่ได้นิ่มอย่างชื่อซะละมั้ง งานนี้ผู้การแคนเจองานยากแล้ว

Nobita Nobituta

นิ่มนี่น่ากลัวจริง โหด และเด็ดขาด แถมเซ็กซ์จัดจ้านด้วย

bossbellbest

เจอคู่ปรับที่น่ากลัวแล้วแคนชอบมากครับ

Manoptana

นุ่มเป็นลูกสาวกำนันน้อมหรือ จะมาแก้แค้นให้พ่อ คู่ปรับก็เป็นนายแคนนะ่ซี นุ่มไปอยู่ที่ไหนมา เพิ่งกลับมาจากเมืองนอกรึ

เอเค

คุณนิ่มเป็นนายสั่งได้ทุกอย่างกูอยากเป็นลูกน้อง

wjoe44

หัวหน้าขบวนการเปิดตัวแล้ว 

a821405

 ::Glad::ลูกกำนันมาแก้แค้นให้พ่อแน่เลย

kodzilla

เดินเรื่องฉับไว เข้มข้น ตื่นเต้นดี

jesada1921


ภูเขา

เป็นภาคต่อที่น่าติดตามจริงๆ​ ลูกสาวกำนันดูท่าจะโหดไม่เบา

petergg

อะไรกันครับเนี่ย

ผู้เฒ่าเซราะกราว

ที่แท้ก็เป็นลูกสาวกำนันน้อมนี่เอง ที่กลับมาดำเนินธุรกิจของพ่อต่อ แถมยังฉลาดกว่าพ่ออีก งานนี้แคนเจอศึกหนักเข้าแล้ว