ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

Ice Princess Side Story " เทพีบ้านไพร "

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, กรกฎาคม 28, 2021, 10:00:44 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

เนื้อเรื่องพิเศษของมิ้นต์ครับ มันอยู่ในไทม์ไลน์หลักแต่หยิบมาให้อ่านกันก่อน ตอนแรกตั้งใจจะให้ทั้ง

134 ท่านได้อ่านเพื่อเป็นรางวัลพิเศษครับ แต่พี่หมิวกับพี่เตย มาบอกว่าทุกคนควรได้อ่านนะ

เราจะรักษากติการ้านเกะเหมือนเดิมนะครับ คือ คอมเมนต์อะไรก็ได้ แต่ผมเชื่อแหละ

ว่าเมมเบอร์ร้านเกะ และ IPF ต้องคอมเมนต์แบบน่ารักๆแน่นอน และอีกอย่างผมอยากให้

เมมเบอร์ร้านเกะ ช่วยเป็นกำลังใจให้เพื่อนสมาชิกร้านเกะครับ



" sukray ruktum  "



เพื่อนสมาชิกท่านนี้ ตอนนี้ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลสนามเป็นด่านหน้าของพวกเราครับ

ยังไงก็ส่งกำลังใจให้ทัพหน้ากันด้วยนะครับ แล้วอย่าลืมกลับมาคอมเมนต์หลังอ่านจบด้วยนะครับ

เพราะผมเชื่อว่าอ่านจบ ต้องมีคนร้อง อ่ะเฮื้ออออ แน่นอน





เอาล่ะครับ พร้อมแล้วก็ลุยกัน !!!



" เทพีบ้านไพร "


[Arigato Gozaimasuuuu



หลังจากที่การซ้อมคาราเต้จบลง ผมก็เตรียมตัวกลับบ้านเลยครับ เฮ้อเหนื่อยว่ะ จนผมกลับมาจากการซ้อมคาราเต้ก็ถึงกับแทบทรุด ไปซ้อมกับต้นตำรับนี่มันเหนื่อยมากเลยนะ ถ้าไม่เป๊ะ ถ้าไม่ได้ เขาจะไม่ให้ผ่านเลย ต่อให้นั่นจะเป็นแค่การฝึกพื้นฐาน อย่างเช่นท่านั่งม้า หรือ การชกเซเค็น หรือ หมัดตรงธรรมดาๆก็เถอะ โอยหมดแรง




อีก 2วันต้องไปชัยภูมิแล้วแท้ๆ แต่ไม่พักไม่ผ่อนเลย ตอนนี้ที่กรุงเทพฯ เริ่มหนาวครับ รับรองว่าถ้าไปชัยภูมิช่วงนี้ล่ะก็หนาวสะใจแน่นอน พอผมกลับมาที่ห้องก็เข้า web site เพื่อหาจองตั๋วรถเลย ผมบอกกับป้าแล้วว่าจะขอไปเที่ยวและไปค้างด้วย ป้าบอกมาเลยๆ ๆ  จะได้มีคนช่วยเก็บสับปะรด ด้วยความที่ช่วงนั้นไม่ใช่เทศกาลอะไร เลยทำให้การจองตั๋วรถทัวร์ไม่ใช่เรื่องยาก



แต่ว่าตอนที่กำลังจะจองนั้นเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น ผมก็เดินไปเปิดประตูนะ คนข้างหน้าถามว่าทำไรเนี่ยเปิดช้าจัง ผมก็บอกว่าแหม ไม่ถึง20 วินาทีด้วยมั้ง เถียงมิ้นต์เหรอ หญิงสาวตรงหน้าถามผม เอ้า !!! ป้ายไฟ IPF เปิดสวิตช์เลย ผมรับกระเป๋าเสื้อผ้าของมิ้นต์มาถือแล้วบอกว่าโอ๋ ๆ ๆ ๆ  มามาเข้ามาก่อน มิ้นต์มองทำหน้าบุ่ยๆ  ๆ แล้วก็เดินเข้ามาครับ มิ้นต์ถามว่าพี่ทำอะไรอยู่




หลังจากวางกระเป๋า ผมก็มาลงตรงเก้าอี้ตัวเดิมและบอกมิ้นต์ว่าจองตั๋วอยู่ มิ้นต์บ่นไอ้บ้าจะเดินทางมะรืนอยู่แล้วมาจองตอนนี้ได้เหรอ ผมก็บอกว่าได้อยู่แหละ แล้วมิ้นต์ก็เดินมาข้างๆบอกว่า เดินมาไกลเมื่อยแล้ว ผมก็หืออะไรวะ เธอบอกเหยิบ เหยิบอีก  อ่ะโอเค ผมก็ขยับเก้าอี้ แต่ด้วยความที่มันเป็นเก้าอี้ร้านเกมส์รุ่นเก่ามันไม่มีล้อเลยขยับยากนิดนึง พอขยับมาได้ที่ มิ้นต์ก็ทิ้งตัวนั่งตักเลยล่ะครับ




พื้นที่ของเก้าอี้ร้านเกมส์นั้นกว้างครับ นั่งได้สบายๆไม่เสียแรงที่ไปขอซื้อจากร้านไอ้กอล์ฟมา มิ้นต์นั่งตักและเอนมาซบอกผม ผมก็ไม่ว่านะ มันอาจจะพิมพ์ไม่สะดวกแต่ก็ไม่เป็นอะไร ผมเลื่อน เลื่อน มันก็เจออยู่นะรถทัวร์เจ้าดังๆ ที่ตอนนี้เริ่มมีรถทัวร์แบบ VIP เก้าอี้เบาะนวด เอนหลังได้สบายๆ แต่มันจะเป็นแบบนั้นจริงๆเหรอ ผมนั่งคลิก ๆ ๆ  มิ้นต์ถามว่าเจอยังง่ะ ผมบอกเจอน่ะเจอแล้ว แต่ว่าต้องไปขึ้นรถนู่นนี่นั่นน่ะสิ่ ถ้าไปรถส่วนตัวจะดีกว่ามั้ย




มิ้นต์ขยับตัวดุ๊กดิ๊ก ๆ ๆ ขึ้นมาอีกนิดแล้วถามผมว่า อย่าเลยขับรถมันเหนื่อยนะ ผมก็บอกไปนะว่า แต่ถ้าขับไปเรื่อยๆ ไม่ได้เบรกๆ เหยียบๆ เหมือนในกรุงเทพฯ ก็ไม่น่าจะเท่าไรมั้ง แล้วมิ้นต์ก็ถามนะว่า



[ มิ้นต์ ]  :  แล้วจะไปหารถที่ไหนล่ะ เช่ารถไม่เอานะแพง

[ ผม ]  :  ไม่หรอก

[ มิ้นต์ ]  :  จะไม่หรอกได้ไง ไม่เห็นต้องเช่ารถเลย แค่นั่งรถทัวร์ก็ได้นะ ไม่เป็นไรหรอก


มิ้นต์บ่น ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ  ไม่หยุดเลยวุ๊ย ผมก็ถามว่าเป็นอะไรเนี่ยหืม บ่นเก่งจังเดี๋ยวนี้ มิ้นต์ตีหน้าเข้มๆแล้วบอกทำไมหรือจะมีปัญหา ผมก็บอกเปล่าจ้าาา ผมลูบหัวมิ้นต์และจุบุไปที่หัวเหม่งน้อยๆของเธอเบาๆแล้วบอกว่า ยังไงซะหารถไปเองก็น่าจะดีกว่านะ เพราะถ้าจะไปมอหินขาวก็ต้องมีรถ แล้วรถที่บ้านป้าก็เอาไว้ใช้งาน ยืมไปไม่ได้หรอก มิ้นต์เงียบเลยครับ



ผมเลยพูดตัดบทว่า แล้วห้ามบอกว่าจะไม่ไปมอหินข้าวนะ ไม่งั้นจะโดนตีแน่ มิ้นต์มองหน้าตาเขม็งแล้วถามว่ากล้าเหรอ แน๊ะ !!! ถามแบบนี้ใครจะไปกล้าล่ะ ผมก็นั่งเซิร์ทนู่นนี่นั่นไปเรื่อย มิ้นต์ก็นั่งพิงเหมือนเดิมครับ จนผมตัดสินใจโทรหาผู้สนับสนุนรายใหญ่ซึ่งก็คือพี่แมน ผมหยิบมือถือมาโทรมิ้นต์ก็จะลุกนะ ผมเลยรั้งแขนไว้แล้วบอกว่าไม่เป็นไรไม่ใช่ธุระเรื่องงาน มิ้นต์ก็มองๆ ๆ ๆ  ผมก็บอกไม่ใช่เรื่องส่วนตัวเหมือนกัน



มิ้นต์เลยยอมลงมานั่งตักเหมือนเดิมครับ พี่แมนรับสายฮัลโหลว่าไงเฮ้ย มีไร  ผมก็ถามพี่แมนว่าพี่แมนๆ ๆ ๆ  พี่พอจะมีคนรู้จักให้เช่ารถกระบะมั้ย ผมจะไปชัยภูมิเลยอยากเช่ารถสักอาทิตย์นึง พี่แมนถามไปทำไรวะ ผมก็บอกว่าเอ้าพี่ลืมเหรอบ้านป้าผมไง พี่แมนก็บอกอ้อ เอ้อ โทษทีว่ะช่วงนี้งานเยอะพี่ก็เบลอๆ แล้วพี่แมนก็ยอกไม่ต้องเช่าหรอก รถที่บ้านว่างอยู่ ผมก็บอกว่าไม่เอาพี่ เกรงใจ  พี่แมนก็เลยบอก เกรงใจอะไรวะ



รถซื้อมาใช้ไม่ได้ซื้อมาจอด มาล้างรถแล้วก็เติมน้ำมันเองก็แล้วกัน แค่นี้แหละรู้เรื่องนะ แล้วพี่แมนก็วางสายไป มิ้นต์ถามว่าเป็นไงมั่งง่ะ ผมบอกอื้มได้รถแล้ว ไม่ได้เสียค่าเช่าอะไรเติมแค่น้ำมันเฉยๆ แต่ต้องไปเอาเอง



มิ้นต์บอกอื้อ ผมก็เลยบอกว่างั้นเช้าๆ พี่จะไปเอารถนะ มิ้นต์ก็บอกงื้มๆ แต่มิ้นต์ไม่ไปนะ มิ้นต์รอที่ห้องนี่แหละ ผมก็ตามใจมิ้นต์นะไม่ได้ว่าอะไร หลังจากที่เซิร์ทฟังเพลงได้สักพัก มิ้นต์ก็บอกพอแล้วนั่งเก้าอี้นานๆเดี๋ยวปวดหลัง



อารมณ์เหมือนโดนแม่สั่งหยุดเล่นเกมส์เลยวุ๊ย ผมก็จ้า จ้า ว่าแต่สั่งให้ลุก มิ้นต์ก็ลุกสิ่  มิ้นต์บอกไม่เอายังเมื่อยอยู่ ผมก็เอ๊าาาาา อะไรเนี่ย ผมก็เลยบีบๆนวดๆให้นะตอนนั้น ผมบีบ บีบ ไล่มาต้นคอ แล้วถามว่าตัดทรงอะไรดีครับพี่



มิ้นต์บ่นไอ้บ้าพี่โทนไม่ได้มาตัดผม ผมกอดเอวไว้แล้วพูดว่าถ้าไม่ลุกจะอุ้มแล้วน๊าาาา มิ้นต์บอกไอ้บ้ากาม คิดแต่เรื่องอะไรเนี่ย ผมก็บอกว่าเอ้าเดี๋ยวๆ ๆ ๆ ที่อุ้มคืออุ้มลุกไปเว้ย นี่คิดว่าพี่จะอุ้มอะไร อุ้มแตงเหรอ



มิ้นต์หลบหน้าแล้วบอกจะรู้เหรอ เห็นคิดแต่เรื่องทะลึ่งๆนี่ ผมก็บอกแหม พอๆกันแหละมั้ง มิ้นต์ตีแขนเผี๊ยะแล้วบอกพอเลยพี่โทน จะกินข้าวมั้ยเนี่ย อ่ะจ้ากินจ้า มิ้นต์ลุกไปเตรียมมื้อเย็นให้ครับ ผมก็โอยย เหนื่อยทั้งงาน  ทั้งคาราเต้ อื้มม วันนี้มิ้นต์ทำของทอดให้กินแฮะ ฝีมือเยี่ยมเลยหมูชุบเกร็ดขนมปังทอด สุดยอดเลบ ยังมีผักสดๆอีก หลังจากที่เราทานข้าวแล้วก็ได้เวลา... อาบน้ำครับ




ผมแยกกันอาบน้ำนะ เพราะมิ้นต์ก็ต้องจัดกระเป๋าของตัวเธอเอง ส่วนผมจัดเรียบร้อยแล้วพับเรียบร้อยแค่รอลงกระเป๋า แล้วด้วยความเคยชินไง ผมก็นุ่งผ้าขนหนูตัวเดียวเดินโทงๆออกมา พอเผิดประตูห้องไปเท่านั้นแหละ



[ มิ้นต์ ]  :  พี่โทนทำอะ ไรเนี่ย น่าเกลียด


ผมก็เอ้าอะไรเนี่ย พี่ทำอะไร มิ้นต์บอกไอ้บ้ากามทำไมไม่เปลี่ยนชุดดีๆ ผมก็บอกโหยก็ชุดอยู่ในนี้นี่นาาาา แล้วผมก็เดินไปเปลี่ยนเสื้อเลย บางทีก็แอบงง กับรีแอคชั่นของสาวๆนะ แต่ช่างเถอะ ผมเดินมาแล้วก็เปลี่ยนชุด แล้วก็อย่างที่รู้ๆ ผมไม่ใส่กางเกงในนอน ก็มันสบายกว่าอ่ะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าโล่งโจ้งอะไรนะ เสื้อก็ใส่ตัวใหญ่ๆหน่อย กางเกงก็หนาหน่อยนึง




ผมก็ไล่รายการที่จดไว้ว่าต้องเตรียมอะไรเพิ่มบ้าง เตนท์ ผ้ายาง กาต้มน้ำ แก๊ซ แล้วก็อุปกรณ์นอนเตนท์อื่นๆ จริงๆมอหินขาวก็มีร้านบริการแหละครับ แต่มันไม่ได้ฟิลอ่ะ จนพออีกสักพักมิ้นต์ก็ไปอาบน้ำครับ ผมเองก็เดินไปเปิดคอมพิวเตอร์อีกรอบ เข้าไปคุย MSN กับไอ้กอล์ฟหน่อยนึง ผมบอกว่ากูลา วอร์นะ เพราะต้องไปต่างจังหวัด มึงจัดการตามสมควรเลย มันก็บอกเอ้อได้ เงิน M มันบอกว่าเก็บไว้อีกตัวนะ มันไม่ว่างขาย ผมก็เอ้อตามสบาย



แล้วเคยมั้ยครับพอคุยแล้วติดลม มิ้นต์ออกมาก็บ่น ๆ ๆเธอบอกว่าถ้าเป็นวันอื่นจะไม่ห้ามเลยเนี่ย แต่จะเดินทางแล้วแถมต้องขับรถอีก พักผ่อนสิ่ ผมนี่ชัทดาวน์แทบไม่ทันเลยครับ อารมณ์เหมือนตอนเรียนวิชาคอมพิวเตอร์แล้วกำลังแอบเล่นเกมส์เป่ายิ้งฉุบแก้ผ้า แล้วอาจารย์เดินมาพอดี



ผมบอกจ้า ๆ ๆ ๆ  ปิดคอม ปิดหน้าจอ ดึงปลั๊ก แล้วผมก็เดินกลับเข้าห้องเลย พอเดินเข้ามาใจห้องมิ้นต์ก็เช็ดผมของเธออยู่ ผมก็เข้าไปนั่งข้างๆบอกโอ๋ ๆ ๆ ๆ  พี่คุยกับไอ้กอล์ฟเรื่องขายของเฉยๆ มิ้นต์มองตาแข็งเลย มิ้นต์ก็บอกเหมือนเดิมว่าปกติก็ไม่ห้ามเลยนะ ผมก็ตัดบทจ้า ๆ ๆ ๆ รู้แล้ว ผมจุ๊ปไปซอกคอมิ้นต์ทีนึง มิ้นต์ก็บอกพอเลยไอ้บ้ากาม




ผมก็หัวเราะเบาๆ มิ้นต์ลงมานั่งข้างล่างเตียง เอาพัดลมจ่อเป่าเส้นผม เส้นผมเองก็ช่วยหวีๆ ช่วยสางให้เส้นผมกระจายๆจะได้แห้งไว้ ผมบอกมิ้นต์ว่า ไปบ้านป้าครั้งนี้เส้นผม อาจจะเสียหน่อยนึงนะ เพราะว่าน้ำต่างจังหวัดก็น่าจะพอรู้ แล้วน้ำที่ใช้อาบก็เป็นน้ำจากบนภูเขาด้วย ( ปัจจุบันดีขึ้นเยอะ )



มิ้นต์บอกไม่เป็นไรหรอก มิ้นต์ไม่ได้แพ้ฝุ่นอะไรขนาดนั้น ผมตอบอื้มๆ ไม่นานนักเส้นผมของมิ้นต์ก็แห้ง เพราะเธอตัดผมสั้นมันเลยไม่ยุ่งยากเท่าไร แต่ก็อดไม่ได้ครับที่จะจุ๊ปไปกลางกระหม่อมเธอ 1 ที เธอเอี้ยวตัวมามอง ผมหมั่นใส้เลยจุ๊ปปากไปอีกที มิ้นต์จ้องจ้องจ้อง แล้วก็บอกไอ้บ้า อูยย หัวใจสะเทือนจริงมั้ยครับ IPF เราก็นั่งคุยกันอีกซักพักครับ แล้วก็เตรียมตัวจะนอนแล้ว ปัญหามันเกิดตอนนี้แหละ



เพราะมิ้นต์เธอเรียกให้ผมมานั่งแทนที่เธอ เธอบอกมานี่ดูหัวไหล่หน่อย ผมก็จะถามว่าอะไรเหรอ แต่มิ้นต์ก็เสียงเข้มเลยจะนั่งดีๆหรือนั่งด้วยน้ำตา โอยย กลัวแล้ว ผมมานั่งตรงที่นั้นแล้วถอดเสื้อออก มิ้นต์บีบหัวไหล่แล้วถามว่าจะบ้าพลังไปไหนเนี่ย ยูโด เทควันโด้ไม่พอเหรอ ยังตะไปคาราเต้อะไรอีก เดี๋ยวก็ทำงานไม่ไหว ผมก็บอกว่าแค่ออกกำลังกายเอง มิ้นต์บีบๆ นวดๆให้ เธอถามว่าจะให้นวดยามั้ย ผมบอกไม่เอา ๆ ๆ จะนอนแล้วเดี๋ยวมิ้นต์แสบมือเปล่า




แล้วผมก็แหงนหน้าหนุนตักมิ้นต์ครับ ผมถามว่าจะนอนบน มอหินขาวกี่วันดี มิ้นต์ก็บอกว่าแล้วแต่ผมก็ได้ ผมก็บอกว่ามิ้นต์นั่นแหละอยากนอนกี่วัน หรือว่าจะไปน้ำตกตาดโตนล่ะ เพราะก็ไม่ได้ไกลกันมาก มิ้นต์บอกว่า มิ้นต์ไม่อยากเที่ยวน้ำตก อยากไปดูดาวผมก็บอกโอเค๊ตามใจ มีรางวัลล่วงหน้ามั้ยเนี่ย ผมแหงนหน้า เอนตัวพิงขอบที่นอนและตักของมิ้นต์เลย มิ้นต์บอกว่ายังไม่ได้ไปเลย ผมก็บอกโด่วเอ๊ยยยย  แล้วตอนนั้นมิ้นต์ก็ก้มลงมาจุ๊ปทีนึงแล้วบอกแค่นี้ก่อน



ผมก็คล้องคอเบาๆและจะทำอีกมิ้นต์บอกอย่าได้คืบ จะเอาศอก ผมก็หยุดเลยครับกลัวโดนศอกเข้าซอกคอ วันนั้นครับมิ้นต์ไล่ผมลงมานอนข้างล่าง เพราะบอกว่า กลัวผมจะปล้ำ ซึ่งผมก็ถามโหยย นี่เห็นพี่เป็นคนยังไงเนี่ย มิ้นต์มองผมตาแข็ง แข็งโป๊กก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาสุดๆว่า


" พี่ไม่รู้ตัวจริงอ่ะ "






อื้อหืออ กำหมัดเลยครับผม แต่ก็นะกำหมัดไปก็เท่านั้นแหละ ผมเดินไปปิดไฟแป๊กแล้วก็นอนครับ ตื่นเช้ามามิ้นต์ก็ลงมานอนข้างๆ อ่าส์ผมมองเพดานแล้วก็คิดว่าวันนี้ต้องไปไหนก่อน ทำอะไรก่อนนะ



ผมก็ขยับตัวจะลุกแหละแต่มิ้นต์ก็งึมๆงำๆ ถามว่ากี่โมงแล้ว ผมบอกไม่รู้คร๊าบ มิ้นต์นอนต่อนะ ผมบอกไปแบบนั้นแต่มิ้นต์ไม่ยอมเธอดึงผมลง ซึ่งเอาจริงๆผมก็ไม่ได้เสียหลักหรอกแต่ก็เอนตัวลงไป พอผมนอนลงไปครับมิ้นต์พลิกตัวมาคร่อมแล้วนอนทับเลย มิ้นต์บอกว่านอนก่อนสิ่



ผมกอดเอวแล้วบอกว่ามานอนทับพี่ตอนเช้าแบบนี้มันอันตรายนะ มิ้นต์บอกไม่กลัว ผมก็เลยจับมั่บเข้าที่ก้นของเธอเลยครับ มิ้นต์ก็ยังคงนอนอยู่แบบนั้นจนผมเริ่มลูบ เริ่มไล้ และสอดมือเข้าไปบีบก้นของเธอตรงๆ ทั้งแน่นและนุ่มอย่างบอกไม่ถูกเลย มิ้นต์ลืมตาและยันตัวขึ้นมาครับ


เธอรุกก่อนเลย ริมฝีปากของเธอบดบี้ใส่ริมฝีปากของผมเช่นกันครับ เราดูดปากกันไม่กี่ที ลิ้นของเราก็สัมผัสกันจนได้และจากนั้นมันก็เริ่มคว้านใส่กันและกันมือของผม ก็เพิ่มแรงบีบขึ้นอีกนิด อีกนิด อีกนิด จนมิ้นต์พูดขึ้นมาว่าจะบิ๊วกันแต่เช้าเลยเหรอ ผมก็ถามว่าใครบิ๊วก่อนหืม มิ้นต์ก็บอกว่าพี่นั่นแหละ แล้วเธอก็ก้มลงมาจุ๊ปปาก ไล่ลงคอ ถลกเสื้อของผมและงั่มที่หัวนม ลากลิ้นไล่ลงมาที่กล้ามท้อง ไล่ลงมา ไล่ลงมา แล้วมิ้นต์ก็มุดไปใต้ผ้าห่มเธอดึงกางเกงผมลงไปกองที่ขา แล้วโผล่หัวมาบอกเชอะ เธอลงไปงั่มเต็มๆเลยครับ อูยย เสียวว่าบเลยล่ะ มิ้นต์ยังคงลีลาดีไม่เปลี่ยนเลย ที่สำคัญฟันก็ไม่โดนหัวกระสวยผมอีกด้วย มิ้นต์ใช้ริมฝีปากบีบรัดที่หัวหยักสีม่วง ใช้ลิ้นวนรอบๆมันเพื่อเพิ่มอารมณ์ อูยยยย ความฝันของใครหลายคนล่ะมั้ง



ที่มีสาวมาบ๊วบให้หลังจากตื่นนอนตอนเช้าเนี่ย มิ้นต์เร่งบ๊วบ บ๊วบ บ๊วบ บ๊วบ สลับดูดลูกป๋องแป๋ง โอยย จุกแบบหน่วงๆ เธอทำสลับแบบนี้ จนผมรู้สึกว่า เขื่อนใกล้จะแตก แต่อยู่ดีๆมิ้นต์ก็หยุดครับ มิ้นต์คลานขึ้นมายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วบอกว่าไม่ทำแล้วง่วงนอนจะนอนต่อ เอ๊า !!! ค้างเลยกูโถ่วเอ๊ยยยยยยย




มิ้นต์ลงมานอนข้างๆเธอเช็ดปากแล้วบอกว่า ง่วงนอนจังเลย โอยยย ผมค้างว่ะมาแบบนี้แล้วต้องจัดการ ผมขึ้นคร่อมเธอแทรกตัวไปหว่างขาของมิ้นต์เลยครับ เจ้าหญิงน้ำแข็งเธอนอนยกแขนไว้เหนือหัว วางติดที่นอนแล้วถามว่าไม่นอนแล้วหรอออ  ผมก็เอี้ยวตัวไปหาแล้วบอกว่าเดี๋ยวเถอะ แล้วผมก็ไซ๊ซอกคอมิ้นต์เลยล่ะ


มิ้นต์เอียงหลบ หรือ เอียงรับก็ไม่แน่ใจ แต่จมูกผมได้สัมผัสกับซอกคอขาวๆของเธอเต็มๆเลยล่ะ เสียงครางในลำคอของมิ้นต์ก็เริ่มดังมาเบาๆ เบาๆ เบาๆ จนผมแบบอูยย น้ำมันปริ่มๆที่หัวแล้ว ผมถลกเสื้อของมิ้นต์ขึ้นซึ่งเธอก็ยอมแต่โดนดีนะ หืม มิ้นต์ไม่ได้ใส่ชุดชั้นในเหรอ



ผมแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้ตกใจไง จากที่จูบปากผมก้มลงไปดูด จุกเสียวของเธอทันที มิ้นต์คราง อ๊า !!! ออกมาเลยล่ะ หน้าอกบึ้มบ้ำของเธอกำลังถูกผมโลมเลียดูดดุนอยู่ มือของมิ้นต์เองก็กอดคอผมไม่ปล่อยเลยบอกอ๋อยพี่โทนพอแล้ว มิ้นต์เสียวนะ    ผมไม่หยุดครับและเพิ่มดีกรีความเสียวด้วยการ



ล้วงไปที่ถ้ำสงวนของเธอ ซึ่งแค่ลูบเข้าไปแน่ก็สัมผัสได้ว่ามันเปียกมันจนถึงกลีบกุหลาบสองข้างของเธอ ผมดูดนมและเบ็ดให้เธอไปด้วย แล้วตอนนั้นเองมิ้นต์ก็สอดมือเข้ามาดึงสโตรคให้ผมครับ อูยยย มือทำไมนิ๊มนิ่ม จนสุดท้ายผมทั้งคู่ก็ทนไม่ไหวครับ กางเกงผมน่ะไปนานแล้ว ส่วนมิ้นต์เองก็เหมือนกัน เสื้อของเธอร่นไปกองบนเนินอกแล้ว



ผมถอดกางเกงของเธออกมา ซึ่งตรงเป้าเนี่ยคือเหนียว เยิ้มเลยล่ะ ผมถามว่าอยากเหรอ มิ้นต์ตีแขนผมแล้วบอกใครทำมิ้นต์ล่ะ ผมก็ยิ้มแล้วขยับตัวเข้าไปนั่งตรงกลางตัวของมิ้นต์มือนึงจับไอ้จ้อนปาดไปมาสองสามทีแล้วกซึ้บเข้าไป มิ้นต์แหงนหน้าร้องอื๊ยยย  ผมกดเข้าไปได้แค่ครึ่งลำมันก็ไปต่อไม่ได้



มิ้นต์เธอกำผ้าห่ม เม้มปากแน่นเลย ผมก้มลงไปหาเธอแล้วบอกว่า อย่าเกร็งสิ่ครับ มิ้นต์มองหน้าผมแล้วบอกว่ามันทำง่ายๆที่ไหนล่ะไอ้พี่โทนบ้า แล้วเราก็ให้รสจูบในการผ่อนคลายการเกร็งครับ ลิ้นที่สัมผัส ริมฝีปากที่บดคลึง มันทำให้มิ้นต์ผ่อนคลายได้จริงๆ ผมกดเอวเพื่อหยั่งเชิง ทีละนิด ทีละนิด จนสุดท้ายก็เข้าไปได้สุดโคน



มิ้นต์เม้มปากแอ่นหน้าอก ซู๊ดด ออกมาเลยล่ะ ผมช้อนเอวของมันที่แทบจะลอยจากพื้นจับให้แน่นแล้วขยับเบาๆ ควงเอายัดแท่งหรรษาเข้าออกเบาๆ มิ้นต์ก็ดันมือที่หัวราวกับจะทำท่าสะพานโค้งและยกโคกสำราญขึ้นมาราวกับว่ากำลังเสียวซ่านสุดๆ



ผมควงเอวอีกครู่จนมั่นใจว่าตอนนี้วารีได้ดำเนิน น้ำของมิ้นต์ได้เดินจนฉ่ำแล้วผมถอนเอวกระแทก ตั้บ !!! อัดคาไว้แบบนั้นมิ้นต์คราง ซื๊ดดดดดด ออกมาทันทีพร้อมกับเงยหน้ามามองผม ผมบอกเอานะ มิ้นต์เม้มปากแล้วพยักหน้าก่อนที่จะแหงนหน้าราวกับว่ากำลังรอรับความเสียวอยู่


ผมจับเอวมิ้นต์ซอยปั้ป ปั้ป ปั้ป ปั้ป เน้นๆ เน้นๆ จนมิ้นต์เริ่มส่งเสียงของความซ่านออกมา อูยยย ยามเช้า ยามเช้าาาาา แล้วตอนเช้าเนี่ยเป็นอะไรที่โคตรคึกเลยล่ะครับ แล้วสักพักมิ้นต์เธอยันตัวขึ้นมานั่งเลย ผมก็ขยับตัวนะให้เธอนั่งทับแล้วเธอก็ขยับเอวช้าๆ ช้าๆ


หน้าของเธอคือแบบโอยยยย ว่าผมบ้ากามก็ยอมล่ะตอนนี้อยากแตกในใส่....เธอมากเลยล่ะ มิ้นต์ถามว่ามองไรไอ้พี่บ้ากาม ผมก็บอกว่ามองมิ้นต์นี่แหละ แล้วผมก็ก้มลงไปดูดจุกของเธอมิ้นต์ร้องอื๊ยยย แล้วเธอก็ประคองหน้าของผมขึ้นไปจูบ เธอผลักผมลงแล้วบอกว่าพี่นอนไปเลย



แล้วจากนั้นมิ้นต์ก็ทำการสำเร็จโทษผมครับ อูยยย เธอใช้มือยันหน้าอกผมไว้แล้วเริ่มขยับเอวร่อนช้า ช้าๆ แล้วก็เร่งขึ้น เร่งขึ้น จนผมจะไม่ไหวแล้ว ผมบอกอูยยย มิ้นต์พอก่อนพี่จะไม่ไหวแล้ว และแทนที่เธอจะฟังแต่กลับกลายเป็นว่าเปลี่ยนจากร่อน มาขย่มใส่เลย



มิ้นต์ขย่มดุมาก ตั้บ ๆ ๆ ๆ ๆ จนผมแบบโอยไม่ไหวแล้ว แตกก็แตกสิ่แบบนี้ ผมล็อคเอวมิ้นต์แล้วรั้งเอวเธอลงมาตั้บ ๆ ๆๆ  มิ้นต์จับมือผมไว้แล้วก็ขย่มเสริมแรงเข้าไปอีก หน้าอกของเธอที่เด้งตามจังหวะการขย่มมันทำให้ผมแทบหยุดหายใจเลย สวยมาก จนสุดท้ายมิ้นต์คงขย่มไม่ไหวเธอเลยทิ้งตัวลงมานิดนึง



แล้วจังหวะนั้นแหละผมบอกว่าตั้งเข่าหน่อยนะ แล้วมิ้นต์ก็คือตั้งเข่าไว้แล้วทิ้งหน้าอกลงมาทับผมครับ จังหวะนั้นแหละผมเด้งเอวกระแทกสวนตั้บๆๆเลย มิ้นต์ร้องอ๊อยพี่โทนจะถึง จะถึง ผมได้ยินแบบนั้นก็คึกเลยครับ มิ้นต์ไม่ได้พูดเอาใจ แต่ว่าผมรู้สึกได้ว่าร่องของเธอก็ตอดตุ้บ ๆ ๆ ๆ เหมือนกัน



ผมเด้งเอวสวนตั้บ ๆ ๆ ๆ ๆ  จนสุดท้ายเราสองคนก็ขึ้นมาถึงสวรรค์กันแล้วมิ้นต์ตัวกระตุกแรงมาก ซึ่งเธอเป็นแบบนี้ประจำเวลาที่แตกหรือถึงจุดสุดยอด คือดิ้นพล่านเลยก็ว่าได้ ผมก็พลิกตัวนะจับซอยด้วยท่ามิชชันนารีต่ออีกรอบ ผมยังไม่เสร็จ ผมซอยตั้บ ๆ ๆ ๆ ๆ


ฮื่มมม อีกนิดเท่านั้น ผมจับขามิ้นต์ข้างเบี่ยงออกและซอยสวนไปเลยครับ ท่านี้มันแน่นกว่าเดิมอีกนะ อูยยย แล้วตอนนี้คือผมใกล้แล้ว ใกล้แล้วววว และตอนนั้นมิ้นต์ก็จับแขนผมไว้แน่นเลยนะ หน้าตาของเธอผมก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน เสียว หรือ อยากให้พอกันนะ



แต่ว่าร่องของเธอมันตอดผมอีกครั้งแล้วล่ะครับ หรือว่ามิ้นต์จะเบิ้ลสอง  อูยยย ผมเองก็ไม่ไหวแล้วล่ะครับ ซอยตั้บ ๆ ๆ ๆ  หน้าอกงามๆของมิ้นต์เองก็กระเพื่อมตามแรงกระแทก ตายแล๊ววว แบบนี้ผมจะเหลือเหรอจนสุดท้ายผมก็อัดกระแทกดอกสุดท้าย กระฉูดน้ำแรกของวันใส่ร่องสงวนของมิ้นต์



ส่วนมิ้นต์เองก็ยิ่งดิ้นเลยครับ ดูเหมือนว่าเธอจะถึงสวรรค์ชั้น 14ไปแล้วล่ะ เธอหลับตาปี๋แอ่นอกขึ้นสูง จนไอ้จ้อนของผมหลุดออกมาดัง บ๊อก อูยย แน่นจริงๆครับแล้วน้ำขาวๆขึ้นๆ แถมยังเป็นฟองก็เลอะเคลอะรอบๆแท่งหรรษาของผมและถ้ำเสียวของมิ้นต์เลยล่ะ



ผมทิ้งตัวลงไปกอดเธอทั้งๆที่ไอ้จ้อนก็ยังพ่นน้ำอยู่ มิ้นต์กอดผมและตัวกระตุกใหญ่เลย เธองื๊อออ งือออ ไอ้พี่โทนบ้า แน่ะยังจะบ่นผมอีก ผมจุ๊ปๆกับเธออีกรอบ และนอนกอดกันจนอารมณ์ความใคร่ค่อยๆมอดลง มอดลง แล้วคำถามแรกที่มิ้นต์ถามผมเลยคือ เช้านี้กินอะไรดี



ผมบอกว่าอิ่มแล้ว มิ้นต์ตีเผี๊ยะแล้วบอกว่าอย่ามาพูดจาสองแง่สองง่ามแบบนี้นะพี่โทน ผมก็ขยับตัวไปนอนกอดอีกที แล้วบอกว่าเอ๋าอะไรเนี่ย เมื่อกี้ยังยอมอยู่เลย มิ้นต์บอกว่าเมื่อกี้ก็เมื่อกี้ตอนนี้ไม่เกี่ยว ผมก็บอกจ้าจ้าจ้า แล้วจากนั้นเราสองคนก็ไปอาบน้ำกันครับ อาหารเช้าคงต้องลงไปซื้อกินกันข้างล่าง ซึ่งพอขึ้นมาแล้ว เราก็นั่งวางแผนนู่นนี่นั่นกัน จนกระทั่ง 9 โมงพี่แมนก็บอก



ว่าให้มาเอารถได้เลยเตรียมไว้ให้แล้ว ผมแต่งตัวออกมาโดยที่มิ้นต์บอกว่าจะเก็บของครับ เลยไม่ได้ขอตามมาด้วย ผมนั่งรถมาที่บ้านพี่แมน ซึ่งพอไปถึงพี่แมนกับพ่อก็อยู่พอดี หลังจากที่ผมเข้าไปในบ้านก็แน่นนอนแหละครับ ไหว้เจ้าของบ้านสักหน่อย พี่แมนก็บอกเอ้อมาไวว่ะ พ่อพี่แมนก็บอกว่าจะยืมรถเหรอโทน



ผมก็อ้ำๆอึ้งๆครับ เพราะตอนแรกเลยตั้งใจว่าจะให้พี่แมนช่วยหาคนที่มีเต็นท์ให้เช่ารถ จนสุดท้ายกลับกลายเป็นว่าพี่แมนบอกว่าจะให้ยืมรถคือมันก็ไม่สบายใจระดับนึงอยู่แล้วครับเอารถของเขามาขับอ่ะใครจะไปสบายใจได้ แล้วยิ่งกับพ่อพี่แมนมาออกปากพูดเองแบบนี้ผมก็ยิ่งไม่สบายใจ



เพราะต่อให้ท่านเป็นคนที่ใจดีมีเมตตายังไง แต่ว่าทุกคนในโลกนี้มันต้องมีบางสิ่งที่ไม่อยากให้ใครมาวุ่นวาย ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ารถคือสิ่งนั้นสำหรับพ่อพี่แมนหรือเปล่า ผมก็อ้ำๆอึ้งๆเลย พ่อก็บอกว่าอืม เอาไปขับหน่อยซื้อมาจอดไว้มันก็ไม่มีประโยชน์ โอยยย เหมือนยกภูเขาเอเวอร์เรสออกจากอก



แล้วพี่แมนก็เดินมาเกี่ยวคอบอกเฮ้ยจะไปเที่ยวไหน แล้วไหงจะขับรถไปปกติเห็นชอบไปรถทัวร์ไม่ก็เครื่องบิน ผมก็บอกว่าชัยภูมิมันเดินทางยากนิดหน่อยอ่ะครับพี่ พี่ก็รู้ว่าบ้านป้าของผมอยู่บนภูเขาแล้วอีกอย่างการจะเดินทางไปไหนมาไหน ถ้าไม่มีรถลำบากแย่เลย ผมก็ตั้งใจจะไปมอหิวขาวแหละครับ



พี่แมนบอกอ่อ เอ้อ มันก็จริงว่ะแล้วพี่แมนก็พาไปที่กระบะสีดำพันธุ์แกร่งโอ๊ว คันใหญ่นะแต่พอขึ้นไปขับมันก็ไม่ได้แปลกอะไร อาจจะเพราะปกติผมก็ขับรถขนผักนู่นนี่นั่นอยู่แล้วล่ะมั้ง พี่แมนบอกเฮ้ยลองไปขับรอบๆหมู่บ้านก่อน โอเคผมก็ไปครับ อื้มมม คงต้องเป็นเกียร์กะปุกนี่แหละเวลาขึ้นเขาจะได้ง่ายๆหน่อย



ขับแปปเดียวก็เริ่มชินครับ พี่แมนก็บอกเอ้อดีว่ะมีแต่คนไปเที่ยว ผมก็อื้มครับ พี่หมิว พี่เตย ก็ไปซิดนีย์กับพี่จ๋าสิ่นะครับ พี่แมนบอกเออนั่นแหละ ผมขับรถไปเรื่อยๆ วนนู่นนี่นั่นและกลับมาที่บ้าน พอมาถึงพี่แมนก็เอาพวกเอกสารรถนู่นนี่นั่นใส่ไว้ในรถ แล้วก็เหมือนเป็นเอกสารเพื่อขอยืมด้วย



ผมก็ระแวงนะ แต่ก็เตรียมควักตังส์แหละ พี่แมนบอกเฮ้ยๆๆไม่ต้องที่เซ็นไว้เพราะเผื่อฉุกเฉินเฉยๆ ผมก็ครับๆๆพี่แมน พ่อพี่แมนเดินมาหาครับแล้วถามว่างานเป็นไงบ้างล่ะโทน ผมก็อึกๆอักๆอีกแล้ว ก็ใครจะไม่เหวอล่ะเฮ้ย นี่หุ้นส่วนใหญ่เลยนะ ผมก็บอกเอ่อตอนนี้ก็กำลังเตรียมโปรเจ็คต่อไปอยู่ครับ



พ่อพี่แมนบอกอื้มๆ ผ่านงานใหญ่ๆมาแล้วก็ต้องรักษามาตรฐานและต้องพัฒนาตัวเองนะ  ผมตอบครับได้ครับแล้ว หลังจากนั้นผมก็ขับรถออกไปเลยครับ ตอนนั้นแม่ผมก็โทรมาถามว่าว่างมั้ย แม่จะฝากของไปให้ป้า ผมก็โอเคได้ๆๆ ซึ่งตอนนั้นขับรถมาถึงเขาดินแล้วครับ กลับรถกันเลยทีเดียว



ซึ่งพอไปถึงบ้านแม่ก็งงว่าเอารถใครมาขับ ผมบอกว่าก็รถพี่แมนนั่นแหละแม่ ไปบ้านป้าถ้าไม่มีรถมันก็ไปไหนมาไหนยุ่งยากหน่อยนึงอ่ะ แม่ก็บอกว่างั้นก็ขับรถดีๆนะ หลังจากนั้นผมก็ไปแบกของนู่นนี่นั่นมาให้ ซึ่งแน่นอนว่ามีขนมข้าวตูด้วย ป้าชอบกินครับ แม่ก็เลยทำแล้วฝากไปให้ป้า แล้วมันก็มีของหลายๆอย่างแหละครับที่เก็บไว้กินได้นานๆ



แล้วก็พวกขิง ข่า ตะไคร้ พริกแห้ง กระเทียม คือต้องบอกก่อนว่าด้วยความที่เป็นภูเขาการจะซื้ออะไรที่มากๆ แต่ละครั้งก็ต้องขับรถลงมาข้างล่างแล้วก็ซื้อไปทีละเยอะๆ คราวนี้แม่ก็เลยฝากไปบ้าง ซึ่งเท่าที่ผมมองๆ พวกผักพวกนี้ น่าจะใช้ได้นานอยู่นะ




หลังจากที่เอาของขึ้นกระบะ เอ้อคิดถูกจริงๆที่เลือกเอากระบะไม่เอารถทรงปาเจโร่ไป ไม่งั้นกลิ่นคงฟุ้งหอมชื่นใจเลยล่ะ ผมขับรถกลับมาที่หอพักครับ ซึ่งพอเปิดเข้าไปมิ้นต์ก็กำลังเก็บเสื้อผ้าในส่วนของเธออีกครั้ง ผมเดินไปเดินมาดูว่ามีอะไรต้องเตรียมอีกมั้ย ผมโทรบอกป้า ว่าพรุ่งนี้จะเดินทางนะ



ป้าบอกมาเลย ๆ ๆ  โอเคตามนั้น อืมม ผมมานั่งลิสต์รายการต่างๆอีกครับว่าจะแวะตรงไหน เติมน้ำมันตรงไหน และพักขับรถตรงไหน การเดินทางก็น่าจะเป็นช่วงสายๆครับ เพราะว่าผมไม่ชอบขับรถตอนกลางคืนนะ มันอันตราย สมัยนั้นไฟสัญญาณอะไรก็ยังไม่ค่อยเยอะเหมือนตอนนี้



ขนาดยุคนี้ที่นั่งเขียนมีป้ายไฟสารพัด อุบัติเหตุก็ยังเกิดได้ง่ายๆเลย ผมนั่งอยู่มิ้นต์ก็มานั่งข้างๆ นั่งกด BB ของเธอไป มิ้นต์บอกว่าลางานแล้ว ผมก็อื้มๆโอเค แล้วมิ้นต์ก็บอกผมว่าคืนนี้ห้ามทำอะไรมิ้นต์นะ ผมก็หืมอะไรล่ะเนี่ย คิดว่าพี่เป็นคนยังไงกันเนี่ย มิ้นต์บอกว่าจากเมื่อเช้าอ่ะยังต้องให้บอกเหรอว่าพี่เป็นคนยังไง ผมก็กึ๋ยยย เลยครับ



ผมบอกก็ห้ามใจไม่อยู่ นินาาาาาา   มิ้นต์บอกว่างั้นคืนนี้ถ้าห้ามใจไม่ได้เดี๋ยวได้เห็นดีกัน ผมก็เงียบกริ๊บเลยจริงๆคืนนี้ผมก็ตั้งใจจะรีบนอนแหละครับ เพราะต้องขับรถ แล้ววันนั้นผมก็นอนหลับเลย ไม่เถียง ไม่เล่นปูไต่ ไม่สะกิด พอเช้ามาหลังจากที่ กินข้าวเช้าและเช็คของครั้งสุดท้าย ผมก็ขนของลงมาใส่กระบะครับ ขึงเชือกให้แน่นปิดผ้าใบอีกทีกันฝน เพราะในนั้นมันมีของที่ไม่สมควรเปียกอยู่หลายอย่างเลยล่ะ มิ้นต์ถามว่าจะดีเหรอพี่โทนยืมรถเขามาแบบนี้อ่ะ ผมก็บอกว่าเอาจริงๆพี่ก็ไม่อยากยืมหรอก แต่ว่านะ ถ้าไปเช่ารถที่เต็นท์มันสบายใจก็จริง แต่ก็ไม่สบายกายจริงไหมล่ะ แล้วอีกอย่างรถนี่พี่ก็เคยเช็ดเคยถูมาหลายๆรอบแล้วล่ะไม่เป็นอะไรหรอก แล้วตอนนั้นผมก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ก่อนเดินทางผมไปต่างจังหวัดสิ่งที่ต้องทำคือการขอให้ท้าวเวสสุวรรณท่านคุ้มครอง บนรถพี่แมนคันนี้มีหุ่นหล่อท้าวเวสสุวรรณอยู่แล้ว สิ่งที่ผมต้องทำคือ


ตั้งสมาธิท่อง

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ


และตามด้วยบทคาถาท้าวเวสสุวรรณ

อิติปิโส ภะคะวา ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ
มะระณัง สุขัง อะหัง สุคะโต นะโม พุทธายะ
ท้าวเวสสุวรรณโณ จาตุมะหาราชิกา ยักขะพันตาภัทภูริโต
เวสสะ พุสะ พุทธัง อะระหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโม พุทธายะ



ผมค่อนข้างมีความเชื่อเรื่องพวกนี้นะ สิ่งเร้นลับหรือสิ่งที่มองไม่เห็นผมคิดว่าไม่ควรลบหลู่เลยล่ะ อย่างที่บอกว่าพ่อผมเมื่อก่อนเคยชกมวย เขาก็จะมีคาถาส่วนตัวที่เขาบูชาทุกครั้งก่อนจะต่อยมวยแหละครับ ถึงจะชกแค่ 3 แมตช์ก็ตามที ซึ่งหลังจากที่ขอพรจากท่านท้าวเวสสุวรรณ ผมกับมิ้นต์ก็ขึ้นรถไปอีกที


"มะติ ยาเต มะเต ยาติ มาเต ถินา นะนา ถิเต มะนา เนสา มะสา เนนา มะสา จะติ มะติ จะสา มะติยาใน มะโนยาติ มะโนติตัง มะตังติโน มะตังปาลัง มะลังปาตัง มะลังจะติมะติจะลัง"


เสร็จแล้วผมก็ไหว้ที่พวงมาลัยสามครั้งนั่นแหละถูกสอนมาแบบนี้ตลอด แล้วเราก็เริ่มเดินทางกันครับ มิ้นต์ก็ถามว่าสวดมนต์อะไรเหรอพี่โทน ผมก็บอกว่าคาถากันสารพัดภัย มิ้นต์ก็บอกทำเป็นนายฮ้อยทมิฬไปได้ ผมก็บอกว่าของพวกนี้มองไม่เห็นหรอกนะมิ้นต์ แต่ทำแล้วก็สบายใจไง มิ้นต์บอกรู้แล้วน่าาาาา



ผมลูบหัวเธอเบาๆ แล้วก็ขับรถต่อครับไป กว่าจะถึงชัยภูมิก็คงใช้เวลาราวๆ 6 ชั่วโมงมั้งนะ ผมขับเรื่อยๆไม่ได้รีบอะไร ข้อดีของการเดินทางในช่วงที่ไม่ใช่เทศกาลมันก็แบบนี้แหละ ลองผมเดินทางช่วงปลายๆธันวาคมสิ่ ฮู๊ยยย ยาวอ่ะ อ่ะกลับมาต่อครับ พอออกจากแยกรังสิตแล้วก็เริ่มสงบหน่อยครับ ซึ่งสมัยก่อนหน้าฟิวเจอร์ปาร์คยังวุ่นวายอยู่เลย



แต่พอออกมาจากตรงนั้น ทุกอย่างก็ค่อยๆเงียบ เหมือนแบบพอออกจากเมืองแล้ว สิ่งปลูกสร้างก็ค่อยๆน้อยลง แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีนะ มีแต่ก็ทิ้งระยะห่างมากพอดู ต้นไม้เริ่มเยอะขึ้น ตึกเริ่มน้อยลง มิ้นต์เกาะหน้าต่างมองต้นไม้ตลอดเลย แล้วอยู่ดีๆมิ้นต์ก็ถามผมครับว่าทำไมน๊า เวลาจะไปไหนมาไหนขาไปเราช้าตลอดเลย



แต่พอขากลับ กลับไวมากเลยอ่ะ ผมก็เลยบอกว่าตอนเด็กๆแม่พี่บอกแบบนี้ ระหว่างที่เดินทางขาไป พี่ๆต้นไม้จะแอบถามเราตลาดทางว่าจะไปไหน จะไปไหน แม่ผมอาจจะหมายถึงจิตของเราน่ะครับอ่ะกลับมาต่อ ผมบอกว่าแม่บอกว่าตอนขาไป พี่ต้นไม้ข้างทางจะถามเราตลอดว่าเราไปไหน โดยไม่รู้ตัว



เพราะงั้นมันเลยทำให้เราน่ะเดินทางช้า แต่พอขากลับเขาไม่ได้ถามแล้วเราก็เลยกลับได้เร็วกว่าเดิม มิ้นต์หันมามองแล้วบอกไอ้พี่โทนบ้าพูดไรเนี่ย ผมก็บอกว่าจริงๆแม่พี่บอกแบบนี้จริงๆ แล้วมิ้นต์ก็เกาะแขนนะ แล้วเอี้ยวตัวมาซบนิดนึง ตลอดทางมิ้นต์ก็ชวนคุยตลอดนะ







จนแปลกใจว่าเฮ้ยนี่มิ้นต์จริงๆอ่ะ ด้วยความที่ผมกับมิ้นต์เดินทางกันมาตอนสายๆ  พอเจอที่ไหนสวยๆมิ้นต์ก็มองๆ ๆ ๆ ผมก็แวะจอดเลย มิ้นต์ถามจอดทำไมอ่ะพี่โทน ผมก็บอกว่าก็มีคนทำหน้าเหมือนอยากลงไปดูใกล้ๆ แล้วตอนนั้นมิ้นต์ยิ้มเลย โอยย แม่จ้าวรอยยิ้มนี้มันคืออะไรกันนะ พอลงไปแล้วมิ้นต์ก็มองๆๆๆ แล้วจุดๆนั้นคือเขื่อนลำตะคองครับ



มันจะมีจุดให้แวะจอดรถ ผมก็จอดแล้วก็แวะให้มิ้นต์ลงไปเดินเล่น มิ้นต์ดูตื่นเต้น ดูมองซ้ายมองขวาไม่หยุดเลยล่ะ อื้มม คุ้มแล้วล่ะที่ยืมรถพี่แมนมา เพราะว่าถ้านั่งรถทัวร์ผมก็คงไม่ได้พาเธอมาแบบนี้แหละครับ มิ้นต์เดินมาเกาะแขนบอกสวย คือภาพตรงหน้าพอได้มามองด้วยตาแล้ว



มันให้ความรู้สึกแตกต่างกับในรูปถ่ายมากเลยนะ ใช่ครับรูปภาพต่อให้ถ่ายมาสวยแค่ไหน มันก็ไม่เท่ากับที่เรามามองด้วยตัวเอง เพราะว่าเราจะได้เห็นสิ่งรอบตัวเคลื่อนไหว ลม ต้นไม้ สายน้ำ หรือแม้แต่นก ที่บินอยู่แถวๆนั้น ผมนั่งลงม้าหินแล้วเกิดอะไรขึ้นรู้มั้ย อยู่ดีๆมิ้นต์ก็หอมแก้มเลยครับ ผมก็ฮื๊มทำไมมิ้นต์หอมแก้มล่ะ



ผมมองหน้ามิ้นต์ มิ้นต์ก็ถามว่ามองไร ผมก็บอกว่าไม่คิดว่ามิ้นต์จะหอมน่ะ คราวนี้มิ้นต์จุ๊ปอีกทีแล้วบอกว่า ตื่นๆๆๆๆ ผมนี่ตื่นเลยครับแบบนี้ โอ้วแม่จ้าว มิ้นต์บอกว่าแค่หอมคงไม่น่าเกลียดหรอกมั้ง อูยยยย แย่แล้วครับโพ๊มม ตายล๊าวโดนดาเมจน้ำแข็งติดคริแล้วมั้งเนี่ย



( ขอนอกเรื่องนิดครับที่บอกว่าน้ำแข็งติดคริติคอล เพราะเกมส์แรนที่ผมเล่นอยู่มันจะมีอาวุธธาตุน้ำแข็งครับ ถ้าเราโจมตีจนฝ่ายตรงข้ามติดสถานะเยือกแข็ง มันจะทำให้เราโจมตีหนักกว่าเดิมครับ )


โอเคครับกลับมาต่อผมก็หืมนี่มิ้นต์เหรอเนี่ย ถึงจะสงสัยแต่ผมก็โอบเอวเธอไว้นะ เฮ้อแล้วมิ้นต์ก็เอนมาซบบอกว่าไปชัยภูมิรอบนี้จะลองอ้อนพี่ดูบ้าง ผมก็หืมถ้ามันฝืนก็ไม่ต้องทำหรอกนะ เป็นตัวเองอ่ะดีที่สุดแล้วมิ้นต์ไม่พูดแต่เอียงมากอดเอวแทน แล้วบอกไม่รู้ล่ะจะลองน่ารักดูบ้าง



โอย ยะ แย่แล้วครับ IPF ลองมาอยู่ตรงนี้แทนผมสิ่ ให้เต็มที่ 5 นาทีอ่ะบอกเลยเป็นลม จากตอนแรกที่ไม่ค่อยสบายใจเรื่องยืมรถพี่แมนมา แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าผมรู้สึกว่าผมคิดถูกจริงๆที่คิดจะเดินทางมาด้วยตัวเอง มิ้นต์บอกขอนั่งดูอีกแปปอ่ะผมก็ตามใจนะ อากาศตอนนี้ผมว่าเย็นนะ ขนาดมีแดดยังรู้สึกว่าเย็นมากๆ ไปมอหินขาวรอบนี้สั่นงั่กๆๆๆแน่ๆ




แล้วผมก็บอกหนาวจังแล้วก็โอบมิ้นต์มาใกล้ๆอีก มิ้นต์ก็บอกอย่าอ้างได้ป่ะ แล้วเธอก็กอดผมแน่นกว่าเดิมอีก เรานั่งกันอีกครู่นึง จนสักพักมิ้นต์บอกป่ะไปต่อ โอเคครับ เราขับรถมาเรื่อยๆครับ  ตอนนี้ต้องสมาธิสูงๆเลยล่ะ เพราะต่างจังหวัดคนเฒ่าคนแก่ขับรถไม่ค่อยระวังไหนจะวัว จะควายที่อาจจะเดินหลุดมาถนนอีก ที่สำคัญแยกต่างๆก็ต้องระวังครับ แล้วมิ้นต์ก็หลับครับปั๊ดโธ่  แต่ช่างเถอะให้เธอได้นอนแบบนั้นแหละดีแล้ว จนเริ่มเข้าเขตชัยภูมิครับ



เรียกได้ว่าต้องขับรถขึ้นภูเขาแหละครับท่านผู้อ่าน แต่ถึงบอกว่าเป็นภูเขาแต่ก็เป็นทางลาดยางตามทางหลักนะ ตอนนี้ผมต้องปลุกมิ้นต์แหละผมอยากให้เธอได้เห็นภาพสวยๆ ผมเรียกมิ้นต์ ๆ ๆ มิ้นต์ก็งัวเงียขึ้นมาถามมีไรเหรอ ผมบอกให้มองนอกหน้าต่างสิ่กำลังสวยเลย



พอมิ้นต์หันไปมอง แปปเดียวจากที่ง่วงๆก็กระโดดเป็นลูกแมวเลยครับ ต้นไม้ตรงหน้าสูงชะรูดเลย





มิ้นต์มองแบบไม่วางตาเลยครับพอผ่านไปอีกครู่นึงตอนนี้เหมือนว่าเราจะขึ้นมาบนเขาจริงๆแล้วล่ะ คราวนี้วิวทิวทัศน์เปลี่ยนไปครับท่านผู้อ่าน จากที่ต้นไม้สูงๆมากมายระหว่างทางขึ้นภูเขา



ตอนนี้ทั้งหมดเริ่มเปลี่ยนเป็นเนินเขาที่มีแต่แปลงสับปะรด มิ้นต์ถามว่าทำไมมองเห็นหมดเลย ผมก็เลยบอกว่าแถวๆนี้จะปลูกสับปะรดกันเป็นหลักนะไม่แปลกหรอกที่จะเห็นไร่สับปะรดสุดลูกหูลูกตาแบบนี้ ให้อ่านแล้วลองนึกตามผมนะ ตอนนี้ผมจอดรถริมทางซึ่งมันคือภูเขาทั้งลูก



พื้นที่ทั้งหมดเป็นเนินเขาตามธรรมชาติก็แต่ถูกปรับให้เป็นไร่สับปะรดตามภูมิศาสตร์เดิม โค้งบ้าง สูงบ้าง เป็นเนินบ้าง คุณจะมองเห็นสุดลูกหูลูกตาเลย เห็นจนถึงตีนเขาอีกลูกนึงก็ว่าได้ หรือถ้าจะให้เห็นภาพให้นึกถึงสนามหญ้าตามหน้าหมู่บ้านครับ ที่จะไม่เรียบเท่าไร



จะมีสูง มีต่ำ แต่หญ้าที่ขึ้นปกคลุมมันก็ช่วยทำให้ดูสโลพสวยงาม นั่นแหละครับที่ที่ผมกำลังยืนตรงนี้ มิ้นต์เดินลงมาข้างล่างบอกสวยจังลมยามเย็นก็พัดมาครับ แสงแดดก่อนตะวันตกดิน มันทำให้พื้นที่ทั้งหมดดูสวยจริงๆ แต่เอาตรงๆผมว่ามันหนาวว่ะ ขนาดผมหนังหนา หนังด้านแล้วนะยังรู้สึกเลยว่าหนาวแน่ๆล่ะคืนนี้




ซึ่งพอผมมองลงไปอีกก็จะเห็นถนนลงเขาที่ชันพอดู รถไม่แรง หรือ บรรทุกของหนักๆมานี่ลำบากแน่นอนครับ ผมบอกป่ะมิ้นต์จะถึงบ้านป้าแล้ว ผมกับมิ้นต์กลับขึ้นรถครับพอเข้ามาอีก 4-5 กิโลเมตร ต้นไม้ก็จะเยอะขึ้นหน่อย ประมาณว่าไร่สับปะรดสลับกับป่า และก็ชุมชนครับ



คราวนี้แหละของจริงบ้านป้าต้องขึ้นเขาไปอีกหน่อยครับ ข้างทางก็จะมีหน่วยบริการประชาชน



ซึ่งเป็นอะไรที่มิ้นต์มองไม่หยุดเลย เพราะต้นไม้ที่นี่สูงมากจริงๆก็นะ เพราะทั้งลูกนี้คือภูเขานี่นา ซึ่งผมก็ไม่รู้นะว่าทำไมถึงมาตั้งรกรากถิ่นฐานกันบนนี้ได้ แต่มันก็วิเศษสุดๆไปเลยว่ะ




เราแวะกินอะไรกันนิดหน่อย เพราะนี่มันก็เลยเที่ยงมาพอสมควรแล้ว แล้วจะได้มั้ยที่ผมบอกว่าอาจจะเดินทาง 5-6 ชั่วโมง ผมว่าเริ่มไม่ใช่แล้วว่ะ ผมแวะนั่น แวะนี่ จนนี่ก็ 7 ชั่วโมงแล้ว ยังไม่ถึงเลยเฮ้ยยยยยย แต่ก็เอาเถอะมันแลกมาด้วยรอยยิ้มของมิ้นต์มันก็คุ้มแหละ และย้ำอีกทีผมคิดถูกจริงๆครับที่ผมยืมรถพี่แมนมา



จนตอนนี้มันก็เริ่มพระอาทิตย์เริ่มคล้อยแล้ว ไงล่ะอัศจรรย์แท้ๆ ระยะแค่กรุงเทพไปชัยภูมิ แต่ผมทำให้มันเท่ากับไปเชียงใหม่ได้ แต่ก็เอาเถอะเพราะผมก็ตั้งใจพามิ้นต์มาเที่ยวอยู่แล้ว เคยมีคนบอกว่าจริงๆแล้วความสวยงามอาจจะไม่ได้อยู่ที่จุดหมาย แต่ว่าอยู่ตามริมทางที่เราเดินทางต่างหาก ซึ่งคนที่บอกแบบนั้นก็คือพี่แมนครับ



จนตอนนี้เริ่มเย็นๆแล้วครับ แสงแดดเริ่มเบาบางลง ผมก็จะมาถึงจุดหมายละ พอเริ่มเข้าเขตหมู่บ้าน จากรูปท่านก็คงเห็นนะครับว่าทางขวาเป็นวัดใหญ่เลยล่ะ



ซึ่งมองแค่ตามภาพอาจจะดูว่าไม่ได้มีจุดเด่นอะไร แต่รูปนี้คือ 2014 ครับ ปีก่อนที่ผมไป ที่หลายสิ่งอย่างถูกสร้างเพิ่มขึ้นแล้วถ้าเข้าไปในวัด คือวัดมีลักษณะเป็นเนินเขาขึ้นไปครับ อาคารที่สร้างมาใหม่ถ้าท่านขึ้นไปตรงนั้นและหันออกมาทางฝั่งถนนตามรูปที่ผมลงให้ดู




ในภาพนี้คือภาพจากรถของ Google มันเป็นภาพแค่ระดับสายตา แต่ถ้าขึ้นไปในวัดล่ะก็วิวคือสวยมากๆบอกเลยครับ ท่านจะเห็นภูเขาจรดกับเส้นขอบฟ้าคือสวยมากๆ แล้วถ้าใช้กล้องส่องทางไกล หรือ ถ้าตาดีๆ ท่านจะเห็นมอหินขาวเลยล่ะ เอาล่ะครับ เข้าบ้านป้ากันเถอะ ถ้าเลี้ยวซ้ายจะเป็นทางเข้าหมู่บ้านของป้าครับ






ยินดีต้อนรับสู่ขุนเขา เราขับรถกันมาอีกสักพักเลยล่ะ พอเจอวัดก็เลี้ยวขวา และนี่คือทางเข้าหมู่บ้านของแท้




ตรงหน้าจะมีศาลเพียงตาที่ทำจากปูนก่อเป็นรูปบ้าน แน่นอนแหละครับว่าเป็นศาลของท่านเจ้าป่าเจ้าเขาที่ดูแลหมู่บ้านแห่งนี้ และตอนนี้ภาพที่มิ้นต์จะได้เห็นก็คือเขตกำแพงหมู่บ้านที่เป็นต้นไม้ยางพาราสูงมากครับน่าจะตึก 2 -3 ชั้นได้แหละมั้งทางเข้าเป็นป่าไม้ยางพาราสลับกับต้นไม้ชนิดอื่นๆครับ


ภาพก่อนเข้าหมู่บ้าน




พอเข้ามาจะเห็นทิวต้นยางพาราชัดเจน





แล้วพอเข้ามาก็จะเป็นทางเทปูนที่แทบไม่เห็นปูนแล้ว คือมันเป็นปูนนะแต่ว่าก็โดนเศษหินจากธรรมชาติของภูเขา กลบไปบางส่วนจนแดงไปหมด






ผมขับรถมาบ้านป้าซึ่งบอกตามตรงว่าการที่ป้าผมอยู่ที่ชัยภูมินี่ป้าเป็นเศรษฐีนีย่อมๆเลยนะ พื้นที่บ้านก็จะกว้างหน่อย แต่บ้านผมกว้างกว่าเยอะขอขิงหน่อยเถอะ แต่เศรษฐีนีที่ต่างจังหวัดแบบนี้คือลุยงาน ลุยสวน ลุยทุกอย่าง ภาพลักษณ์ไม่ได้สวยงามแบบในกรุงเทพหรอกครับ



พอผมลงมาที่บ้านลุงกับป้าก็ขับรถอีแต๋นมาพอดี ผมก็สวัสดีครับป้า ป้าก็เข้ามากอดเลย บอกโอ้วบักหล่าเอ้ยมาแล่วบ่อ ผมก็บอกครับ แล้วผมก็เอ่อหันไปหามิ้นต์ภายมือแล้วให้เธอเดินมาใกล้ๆเธอก็ไหว้สวัสดีค่ะ สวัสดีค่ะ ป้าผมก็มองแล้วถามเอาเมียแล้วบ๊อออออ



มิ้นต์ก็หน้าแดงเลย ผมก็รีบบอกมิ้นต์ว่าเออ เอาเมียหมายถึง มีเมียหรือว่าหาคนมาเป็นเมียแล้วน่ะ ไม่ได้หมายความตามที่บอกนะ พอพูดแบบนั้นมิ้นต์ก็หน้าดีขึ้นหน่อย แต่ป้าก็ถามว่าได้กันยัง เท่านั้นแหละครับมิ้นต์เสียอาการเลย ผมบอกป้าๆใจเย็น ป้าใจเย็น แล้วป้ากับลูกๆป้าก็พากันหัวเราะครับ



พวกลูกพี่ลูกน้อง ญาติๆกันก็แห่กันมาทักทายเลยครับ จะบอกว่าทั้งหมู่บ้านเป็นเครือญาติกันก็ว่าได้แหละครับ บ้านของป้าจะเป็นบ้านปูนครับคืออย่างที่บอกว่าเศรษฐีย่อมๆเลยล่ะ ป้าจะเปิดร้านขายของชำพวกขนม ถ่าน ของใช้ทั่วไป ยาสระผม บัตรเติมเงิน พวกขนมก็จะเป็นแบบที่หากินในกรุงเทพไม่ค่อยได้แล้ว อย่างเช่นขนมยี่ห้อตอปิโด



แล้วมันจะมีขนมเวเฟอร์ห่อละ 2 บาท ผมจำยี่ห้อไม่ได้เลยหาภาพมาให้ดูไม่ได้ คือในความทรงจำคือมันอร่อยมาก เป็นรสส้มกับสตรอเบอร์รี่ แล้วคือจะมีขายก็แต่ต่างจังหวัด ตามร้านขายของชำเท่านั้นจริงๆนะ กับอีกอันนึงก็หมากฝรั่งตรานกแก้ว แล้วก็พวกขนมห่อละ 2 บาท



จริงๆ ณ ตอนที่เขียนอยู่นี้มันก็หากินได้ตามตลาดนะ เพราะดูเหมือนว่าเขาจะมีการเอาขนมยุคเก่าๆมาขาย อ่ะกลับมาต่อครับ พูดถึงบ้านของป้าลักษณะบ้านคือจะอยู่บนเนินสูงจากถนนเหมือนฟุตบาทโดยอัตโนมัติครับ เอ่อจะเรียกว่าถนนก็ยังไงอยู่เอาเป็นว่ามันใช้ในการเดินทางจะดีกว่าครับ เพราะถนนที่ทำคือเหมือนระเบิดภูเขาแล้วทำทาง บ้านของป้าผมเลยอยู่สูงกว่าถนนนิดนึง




ถ้าหันหน้าเข้าบ้าน ทางขวาจะเป็นบ้านหลังเก่า ซึ่งถูกทำใหม่จากบ้านไม้ทั้งหลังเป็นครึ่งปูนครึ่งไม้ตามสมัยนิยมในสมัยนั้น จากที่เมื่อก่อนจะเป็นบ้านใต้ถุนสูง ถัดมาทางซ้ายเป็นตรงกลางจะเป็นพื้นที่โล่งจอดรถ ข้างในก็จะมีหลังคาสังกะสีแหละ แต่เอาไว้สำหรับจอดรถที่เอาไว้บรรทุกสับปะรด ความกว้างน่าจะราวๆ 7-8 เมตรนะ จากกำแพงบ้านหลังเก่า จนถักมาอีกถึงบ้านหลังใหม่นี้



หลังใหม่นี้ป้าผมทำใหม่ครับ เป็นบ้านปูนชั้นเดียว ทำเป็น 1 ห้องนอนและที่เหลือคือเป็นที่โล่งๆเอาไว้นั่งเล่นให้เย็นๆเฉยๆ ผมกับมิ้นต์จะนอนห้องนี้ครับ เดิมทีแล้วบ้านหลังนี้ป้าผมทำไว้ ให้ลูกชายกับลูกสะใภ้มาอยู่  แต่ตอนนี้พี่สองคนเขาไปทำงานที่สิงคโปร์ครับกลับมาอีกทีก็นู่นเดือนหน้า หลังจากที่ทักทายกันเรียบร้อย ผมก็ขนของหลังรถลงมา อันไหนแม่ฝากก็ขนลง ลงลงลง มากองไว้ข้างๆบ้าน พอจบจากตรงนั้นผมก็ขนพวกกระเป๋าไปที่บ้านอีกหลังเลย




บ้านไม่ได้กว้างอะไรมากครับ น่าจะ 5-6 เมตร แต่ว่าความยาวนี่คือสุดเขตบ้านเลยครับ เรื่องนั้นช่างมันเถอะ พอเข้ามาสิ่งที่เราเห็นก็จะเป็นผ้าห่มที่อยากจะบอกว่าลายขวาง ลายตาราง ลายผ้าขาวม้าแบบนี้ เห็นได้แค่ในต่างจังหวัดครับ



ในกรุงเทพถ้าไม่ใช่แหล่งจริงๆคงหาดูไม่ได้ แล้วก็แน่นอนหมอนเหลี่ยมยัดนุ่น ที่แข็งเหมือนไม้หน้าสาม ผมกับมิ้นต์เอากระเป๋าเข้าไปเก็บครับ ตอนนี้อากาศเย็นมากก คือเปลี่ยนไวมากๆเลยอากาศ ผมเลยบอกให้มิ้นต์กินยาพารากันไว้นะ



แล้วอยู่ดีๆมิ้นต์ก็บอก พี่โทนดูนี่ ดูนี่ ผมก็หืมอะไร พอกันกลับไปมิ้นต์กำลังทำปาก ฮ่อววว ฮ่อววว แล้วก็มีไอออกมาครับ แล้วอยู่ดีๆผมก็ยิ้มเฉ๊ยย  คือสงสัยนะว่าอะไร แต่ทำไมน่ารักจังน๊อออ



 






เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

monster gmail

#1
เวอร์ชั่นนี้มีรูปประกอบให้เห็นภาพง่ายขึ้นขอบคุณครับ
e พอมีรูปประกอบ ก็เลยเห็นความน่ารักของน้องมินต์  มากขึ้น

ovident

บรรยากาศ วิว ทิวทัศน์ สวยมากเลยครับ น่าไปเที่ยวบ้างจริงๆ แบบนี้คงมีฉากสวีทบนนุ้นแน่ๆเลยยย

C-Runners

น่ารัก ขี้อ้อนเหมือนลูกแมวเลยล่ะน้องมิ้น

vghvgk

มาเเล้ว DLC ร้านเกะ บรรยากาศดีมาก เห็นเเล้วคิดถึงบ้านเลยครับ

GU Koy

Fc เจ้าหญิงน้ำแข็งของรายงานตัวคับผม 5555 ::DookDig:: ::DookDig:: ::DookDig::

Wichana

#6
ดาเมจเหลือล้นจริงๆด้วย

ขอบคุณ เจ๊เตย เจ๊หมิว และ 134 ท่าน ที่ให้โอกาสคนพลาดกระทู้แบบผมได้มาอ่านด้วยครับ

Edit เข้าใจแล้วว่า ยืนอยู่นี่ไง อื้อหือ ยิ้มแป้นเลยผม

acropobia899

#7
ถึงแม้จะมีหวั่นไหวไปกับสาวคนอื่นตามความน่ารักของแต่ละคนก็ตาม

แต่มิ้นท์คือที่หนึ่งในใจครับ สาวสไตล์นี้ชอบเป็นพิเศษเลย


อ่านแล้ว ยิ้มตามตลอด มิ้นท์น่ารักตลอดทั้งตอนอะ ใช้คำว่า น่ารักได้เปลืองมากกก


633sqd

มีรูปแล้วยิ่งอยากไปเที่ยวบ้างจัง  แล้วตอนต่อรออีกนานมั๊ย

pamaaeng

วิวสวยๆ บรรยากาศดีๆ แถมมีสาวน่ารักๆ อยู่ข้างๆ การเดินทางครั้งนี้ ไม่หงอยแล้ว


warpzone

#11
มีรูปประกอบทำให้เห็นภาพดีครับ
แถมเพลงประกอบเข้ากับเนื้อเรื่องตอนนี้ดี น่ารักที่สุดครับ

sun_307

ขนาดดุๆยังน่ารักมี fc มากมาย ไปครานี้ น้องมิ้นต์จะเปลื่ยนเป็นลูกแมวอ้อนน่ารักๆ แบบนี้ FC หลงแทนเทพโทนแน่

Paul K


I2ta3ta3