ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

สางแค้นภาค2 (3/ตะวันลับ)

เริ่มโดย twintower, สิงหาคม 03, 2021, 04:38:58 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

twintower

มันเริ่มขึ้นเมื่อวันเกิดเธอเมื่อ 5ปีที่แล้ว นุ่มนิ่มที่เรียนอยู่ที่อังกฤษรอรับโทรศัพท์จากพ่อทั้งวันทั้งๆที่รู้ว่าพ่อกำลังหลบหนีการจับกุมจากทางตำรวจอยู่ แต่ก่อนหน้านั้นไม่กี่วันกำนันน้อมโทรมาบอกเธอว่าปลอดภัยดีตอนนี้อยู่กับพวกว้าแดงและกำลังหาทางต่อสู้คดีอยู่เธอไม่ต้องกังวลอะไร แม้จะเป็นเพียงคำปลอบใจแต่เธอก็สบายใจได้ระดับหนึ่งซึ่งทุกคนในครอบครัวเธอนั้นรู้ดีกว่ากำนันน้อมไปหลบอยู่ที่ไหน  แต่พอพ่อไม่ติดต่อมาและเธอโทรไปหาแต่ติดต่อไม่ได้  เธอได้โทรไปหาแม่เธอและไม่ได้คำตอบเหมือนกันเช่นเดียวกับพี่สาวและพี่ชายที่ไม่สามารถติดต่อกับกำนันน้อมได้ ทำเอาเธอร้อนรนอย่างมากที่ไม่ได้ข่าวจากพ่อจนผ่านไป 2 วัน พี่ชายเธอโทรมาบอกข่าวร้ายว่าพ่อน่าจะตายแล้วจากข่าวลือเรื่องโรงงานผลิตเฮโรอีนของว้าแดงถูกทำลายโดยกองกำลังไม่ทราบฝ่าย  ทำเอาเธอจะกลับมาเมืองไทยทันทีแต่ทุกคนคัดค้าน ว่ากลับมาก็จะทำอะไรไม่ได้และตำรวจเริ่มเข้ามาตรวจค้นที่บ้าน พร้อมกับยึดทรัพย์สินไปหลายอย่างรวมทั้งบ้านที่เชียงราย จนแม่เธอต้องมาอยู่กับพี่สาวที่กรุงเทพก่อน มันทำเอาเธอแทบเป็นบ้า แต่ทำอะไรมากไม่ได้

จนผ่านไป 2เดือนเศษ ทางครอบครัวจึงให้เธอกลับมาที่เมืองไทยซึ่งทุกอย่างนั้นเปลี่ยนไปหมด แม่กับพี่ชายและพี่สาวเธอถูกตำรวจเรียกไปสอบอยู่หลายครั้ง รวมทั้งทรัพย์สินเกือบทั้งหมดถูกยึดเพื่อไปตรวจสอบ กิจการการค้าของพ่อที่ทำมาถูกปิดตายชื่อเสียงทางสังคมของครอบครัวนั้นป่นปี้ย่อยยับไปหมด สังคมตราหน้าครอบครัวของเธอว่าเป็นครอบครัวที่เลวร้าย ตามด้วยชีวิตสมรสของพี่สาวนั้นพังพินาศถูกสามีขอหย่ารวมถึงเรื่องลูกที่สามีของใช้สิทธิเลี้ยงดู เพราะอ้างว่าครอบครัวทางพี่สาวนั้นมีเรื่องเสื่อมเสียเกี่ยวกับยาเสพติด  และการจัดการงานศพให้กับกำนันน้อมหลังจากที่มั่นใจว่ากำนันได้เสียชีวิตไปแล้ว  งานศพที่มีแต่โลงเปล่าๆไม่มีร่างของกำนัน นั้นเงียบเหงามากมีแต่คนคุ้นเคยไม่กี่คนที่มาร่วมงาน หลายๆคนไม่กล้ามาทั้งๆที่เคยมาขอความช่วยเหลือกับพ่อและแม่เธออยู่บ่อยครั้ง เพราะกลัวถูกจับตามองจากทางเจ้าหน้าที่

หลังจากงานศพ เธอได้ติดสินใจบอกความลับที่เธอเก็บมาตลอด ว่าบัญชีเงินฝากของกำนันน้อมที่หมู่เกาะเคย์แมนกับที่สวิตเซอร์แลนด์นั้น กำนันให้เธอคอยช่วยดูแลมาตลอดรวมถึงสิทธิในการถอนเงินได้ ทุกคนในครอบครัวต่างรู้ดีว่ากำนันน้อมนั้นรักลูกสาวคนเล็กมาจึงไม่แปลกที่จะไว้ใจให้ดูแลในเรื่องพวกนี้ยิ่งนุ่มนิ่มนั้นเป็นคนที่ฉลาดและเก่งอยู่แล้ว แม่นั้นไม่พูดอะไรในเรื่องนี้แต่พี่สาวและพี่ชายเธอบอกตรงกันว่าอย่าไปยุ่งกับเงินพวกนี้ปล่อยให้อยู่ในธนาคารอย่าไปแตะต้อง ทุกคนรู้มานานแล้วว่าพ่อนั้นทำธุรกิจอะไร แต่พูดอะไรไม่ได้เพราะเงินพวกนี้ทำให้คนในครอบครัวได้ใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือยมาตลอด แต่พอเกิดเรื่องขึ้นพี่สาวกับพี่ชายเธอนั้นต่างปลงตก ทั้งคู่มองว่าเงินพวกนั้นคือผีร้ายที่ทำให้ครอบครัวเป็นแบบนี้ ทั้งๆที่มันเป็นเงินจำนวนมหาศาลถึง 3 หมื่นกว่าล้านบาท เป็นเงินที่ได้มาจากการทำธุรกิจที่ผิดกฎหมายของกำนันน้อมทั้งนั้นและทางราชการไทยไม่สามารถตรวจสอบได้

ตอนนั้นเธอเชื่อพวกพี่ของเธอก่อนจะกลับมาเรียนต่อที่อังกฤษเพื่อจะได้จบปริญญาโทใบที่ 2 แต่หลังจากนั้นไม่ถึงปี แม่ของเธอได้เสียชีวิตเพราะตรอมใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น  ทำให้ใจของเธอนั้นแตกสลายหลังจากงานศพแม่ พี่ชายเธอที่เป็นลูกคนกลางได้ตัดสินใจครั้งสำคัญคือปิดกิจการธุรกิจที่ทำทางด้านดีไซน์เนอร์และไปบวชที่วัดป่าในจังหวัดอุดรโดยไม่สนเรื่องทางโลกอีกต่อไป ส่วนพี่สาวเธอนั้นเป็นโรคซึมเศร้าและเก็บตัวไม่เข้าสังคมอีกเลย ทำให้เธอคิดว่าครอบครัวของเธอนั้นสูญสิ้นแล้ว เธอแทบไม่เหลือใครอีกแล้ว มันกลายเป็นความโกรธและความแค้นของผู้หญิงสาวคนหนึ่ง เธอมามาทบทวนหลายเรื่องที่ได้ฟังมา และข้อมูลของทนายความชื่ออดิศรที่เคยทำงานกับพ่อของเธอมาเล่าให้เธอฟังตอนงานศพแม่ของเธอว่า กำนันน้อมไม่น่าจะตายที่โรงงานเพราะวันนั้นกำนันต้องเดินทางมาที่บ่อนคาสิโนเพราะนัดเจอกับตนเองในวันรุ่งขึ้น และช่วงสายวันนั้นกำนันยังได้โทรมาหาว่ากำลังจะเดินทางออกจากโรงงานแล้ว พอรู้เรื่องนี้มันเป็นการจุดไฟแค้นให้กับเธอ รวมถึงเรื่องของจิตที่กำนันบอกเองว่าถูกฆ่าตายคาคลังสินค้าไปก่อนเพราะข่าวที่ออกมาก่อนหน้าคือกำนันตายพร้อมไปกับจิต นุ่มนิ่มกลับไปอังกฤษก่อนแล้วเริ่มคิดวางแผนเพื่อจะหาให้ได้ว่า ใครเป็นคนฆ่าพ่อของเธอ เธอตัดสินใจถอนเงินในบัญชีธนาคารที่สวิตฯมาจำนวนหนึ่งเพื่อจะเป็นทุนในการสืบหาข้อมูลในเรื่องนี้

หลังจากนั้นเธอกลับมาเมืองไทย และติดต่อไปที่อดิศรอีกครั้งเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม จากการพูดคุยทำให้คนที่ฉลาดและเก่งอย่างเธอพอจะมองเห็นลู่ทางบางอย่าง อดิศรนั้นพอจะรู้ตื้นลึกหนาบางในหลายๆเรื่องเกี่ยวกับพ่อเธอ เพราะทำงานด้วยกันมานาน และอดิศรบอกเธอตรงๆถึงสาเหตุที่ต้องถอนตัวจากการเป็นหัวหน้าทีมทนายความตอนที่มีเรื่องซึ่งลูกน้องของพ่อเธอโดนจับหลายคน สาเหตุหลักคือเรื่องเงินทุนพอกำนันไม่อยู่แล้วทางทีมทนายไม่รู้ว่าจะเอาเงินทุนมาจากไหนมาต่อสู้คดี ทำให้คนที่ถูกจับต้องช่วยเหลือตัวเอง  และพอเธอบอกว่าอยากจะหาข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องที่พ่อเธอถูกฆ่าตาย อดิศรแนะนำนักสืบเอกชนที่ชื่อบัญชาให้ อดิศรนั้นรับรองถึงฝีมือในการทำงานของบัญชาที่สำคัญบัญชาพูดภาษาพม่าและกระเหรี่ยงได้อย่างคล่องแคล่ว

นุ่มนิ่มตกลงจ้างบัญชาด้วยเงินที่สูงพร้อมสำทับว่ามีงบให้ไม่อั้นเพราะเธอต้องการรู้เรื่องของพ่อให้ได้ว่าพ่อตายที่ไหนและใครเป็นคนฆ่า จากนั้นเธอเริ่มวางแผนที่คิดไว้ เพราะสิ่งที่ได้ฟังจากอดิศรทำให้เธอเห็นลู่ทางที่ฟื้นฟูเครือข่ายที่พ่อเธอเคยทำไว้ ยิ่งเธอมีเงินจำนวนมหาศาลไว้เป็นทุน ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่มีใครรู้เรื่องเงินจำนวนนี้ว่ามีมูลค่าเท่าไหร่กันแน่ เพราะพ่อเธอเป็นคนดูแลเองกับบริษัทจากต่างประเทศที่รับทำเรื่องเปิดบัญชีให้ กำนันน้อมมักจะบอกกับคนใกล้ชิดว่ามีเงินไว้สู้คดีหลักพันล้านแต่ที่แท้จริงคือ 3 หมื่นกว่าล้าน และเธอคิดว่าลงทุนไปแล้วต้องได้ผลตอบแทน เธอจึงบอกอดิศรตรงๆว่าเธอต้องการฟื้นฟูงานของพ่อเธอ อยากให้อดิศรช่วยเหลือและติดต่อกับพวกที่เคยติดต่อกับพ่อเธอทั้งลูกค้าและผู้ผลิต ซึ่งนอกเหนือจากเงินค่าจ้างที่เธอจ่ายให้แล้ว นุ่มนิ่มบอกอดิศรว่าทุกครั้งที่ขายยาเสพติดได้ อดิศรจะได้ส่วนแบ่ง 10 % ทุกครั้ง

เมื่อเจอกับข้อเสนอเป็นเงินก้อนโตขนาดนี้อดิศรทนายความที่เหลี่ยมจัด ไร้จริยธรรมและมีความละโมบอยู่แล้วได้ตกลงทันที พร้อมจัดการเรื่องต่างๆ โดยทำเรื่องจดทะเบียนบริษัทขนส่งบังหน้าให้นุ่มนิ่มเพื่อเป็นที่ฟอกเงิน หลังจากนั้นระหว่างเริ่มวางแผนและติดต่อกับพวกในอดีตในเครือข่ายของกำนันน้อม อดิศรได้รู้เรื่องของประพาสที่เป็นทหารมาก่อนและถูกขอให้ลาออกจากราชการมาไม่นานนี้ ประพาสนั้นเป็นอดีตทหารหน่วยรบพิเศษมาก่อนและเคยเป็นถึงครูฝึกของหน่วยสงครามพิเศษ ผ่านหลักสูตรต่างๆมามากมายตั้งแต่จบจากนักเรียนนายสิบ และได้ร้อยตรีก่อนจะถูกขอให้ลาออก เพราะไปเกี่ยวข้องกับขบวนการขนของเถื่อนและค้ามนุษย์ระหว่างที่ปฏิบัติงานในภาคใต้ แต่ด้วยประวัติการทำงานที่ดีมาในอดีตทางผู้บังคับบัญชาจึงขอให้ลาออก ช่วงนั้นประพาสกำลังเคว้งคว้างพอได้รับการติดต่อจากอดิศรให้มาเจอนุ่มนิ่ม

หลังจากที่คุยกันนานพอสมควรประพาสตัดสินใจทำงานกับนุ่มนิ่ม นอกเหนือจากเงินจำนวนมหาศาลที่จะได้แล้ว ประพาสยอมรับนุ่มนิ่มฉลาดและดูจากแผนการที่เธอกับอดิศรช่วยกันวาง มันจะเป็นหนทางที่ทำเงินได้อย่างดีโดยทางนุ่มนิ่มจะเป็นนายทุนให้กับการเปิดบริษัทรักษาความปลอดภัยบังหน้าและอีกอย่างทีสำคัญประพาสนั้นเป็นญาติกับจิตคนสนิทของกำนันน้อม แม่ของประพาสนั้นเป็นน้องสาวของแม่จิต ประพาสจึงมีศักดิ์เป็นน้องชาย มันเป็นอีกเหตุผลที่ประพาสเข้าร่วมงานกับนุ่มนิ่ม เพราะพี่ชายนั้นก็ตายโดยหาศพไม่เจอ ทางครอบครัวต้องจัดงานศพที่มีแต่โลงเปล่าให้เหมือนกับกำนันน้อม ประพาสก็ต้องการรู้เหมือนกันว่าพี่ชายตายเพราะอะไร

นุ่มนิ่มมอบหมายให้ประพาสในการจัดหาคนมาทำงานด้วย    ร้อยตรีประพาสนั้นมีความสามารถและรู้จักกับคนเยอะ จากอดีตที่เคยเข้าไปทำงานลับเพื่อสืบหาข่าวในประเทศเพื่อนบ้านทำให้พูดภาษาของประเทศเหล่านั้นได้คล่องแคล่ว ทำให้มีคนรู้จักพอสมควร ประพาสนั้นต้องการคนมาทำงานจำนวนมากเพราะงานที่นุ่มนิ่มวางแผนไว้นั้นต้องใช้คนจำนวนมาก ซึ่งประพาสต้องการคนที่มีฝีมือเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ส่วนที่เหลือนั้นไม่จำเป็น คนที่มีฝีมือและมีประสบการณ์ในการใช้อาวุธประพาสได้อดีตทหารจากประเทศเพื่อนบ้านมา 3-4 คน เป็น 2คนที่เคยอยู่ในหน่วยรบพิเศษ และจากประเทศไทยที่ประพาสคุ้นเคยดีอีก2-3 คน ทุกคนจะมีประวัติถูกให้ออกจากราชการแต่มีฝีมืออย่างมาก ส่วนที่เหลือประพาสจะหาจากพวกเด็กเร่ร่อนที่หนีออกจากบ้านมาตั้งแก็งส์รวมตัวกัน ประพาสนั้นรวมรวบมาจากหลายที่รวมถึงในประเทศเพื่อนบ้านด้วยโดยพวกอดีตทหารที่มาทำงานด้วยนั้นเป็นคนช่วยหา

หลังจากนั้นจึงมีการเตรียมการหาแหล่งที่อยู่ให้กับคนพวกนี้ ซึ่งตรงนี้อดีตเครือข่ายของกำนันน้อมที่เป็นตำรวจที่ทำงานอยู่ในแถบชายแดนทางภาคเหนือเป็นคนช่วยหาให้และหาบริเวณพื้นที่ ที่เหมาะสมอยู่ในแหล่งรอยต่อของ 2 ประเทศในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ยังไม่การยืนยันที่แน่นอนว่าประเทศไหนเป็นเจ้าพื้นที่ตรงนั้นและไม่ห่างจากประเทศไทยนัก ประพาสเสนอไปยังนุ่มนิ่มซึ่งเธอตกลงทันทีหลังจากไปดูสถานที่ด้วยตัวเอง ซึ่งประพาสและดาบตำรวจณรงค์นั้นเป็นคนเจรจากับบรรดาชนกลุ่มน้อยที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ด้วยเงินที่นุ่มนิ่มทุ่มลงไปไม่อั้นเพื่อเป็นค่าคุ้มครอง และบารมีของดาบณรงค์ที่อยู่ในพื้นที่มานานทำให้รู้จักกับพวกหัวหน้าของชนกลุ่มน้อยและบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงๆในพื้นที่ของลาวและพม่า พร้อมกับเงินสินบนจำนวนมากทำให้ทุกอย่างมันง่ายขึ้น ดาบณรงค์นั้นทำงานให้กับกำนันน้อมมานานมากตั้งแต่สมัยจบโรงเรียนนายสิบใหม่ๆ ตอนนั้นดาบณรงค์ได้ประจำในโรงพักในพื้นที่ ที่ครอบครัวลุงของแคนอยู่ และเข้ามาทำงานให้กำนันน้อมอย่างง่ายดายเพราะเห็นแก่ประโยชน์เล็กๆน้อยๆ จนมาถูกย้ายเพราะถูกตั้งข้อสงสัยว่ามีส่วนในการเป่าคดีที่ครอบครัวลุงของแคนถูกฆ่ายกครัว แต่ดาบณรงค์ไม่สนใจถึงจะโดนย้ายแต่ยังทำงานให้กำนันน้อมอยู่ทั้งส่งข่าวของทางตำรวจไปให้และอำนวยความสะดวกในเรื่องการขนยาเสพติด ขนของเถื่อน พาคนหนีเข้าเมืองถ้าผ่านในพื้นที่ที่ตนเองทำงานอยู่

นอกเหนือไปจากการใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง ดาบณรงค์ได้สร้างอิทธิพลของตัวเองขึ้นมาด้วยพร้อมกับทำหน้าที่ตำรวจซึ่งมีผลงานในการปราบปรามค่อนข้างดี โดยเฉพาะการจับยาเสพติดแต่ถ้าใครรู้เบื้องหลังคือการจับยาเสพติดรายอื่นที่ไม่ใช่ของกำนันน้อม เพราะจะได้กำจัดคู่แข่งให้กำนัน ดาบณรงค์ประพฤติตัวแบบนี้มาตลอดทั้งๆที่เคยถูกตั้งกรรมการสอบหลายครั้งแต่รอดมาได้ทุกทีเพราะไม่มีหลักฐานที่มัดตัวได้ หลังจากกำนันน้อมตายรายได้ของดาบณรงค์ลดไปมากแต่ดาบณรงค์ได้เปลี่ยนไปเป็นคนขนของเถื่อน และรับจ้างคุ้มกันขบวนขนยาเสพติดเสียเอง แต่พอได้รับการติดต่อจากอดิศรซึ่งคุ้นเคยกันดีว่าลูกสาวของกำนันน้อมสนใจจะทำธุรกิจอย่างเดียวกับพ่อ ดาบณรงค์ตกลงทันที

ระหว่างนั้นทางประพาสได้แนะนำให้นุ่มนิ่มต้องมีบอดี้การ์ดไว้คอยคุ้มครองดูแล เพราะเธอนั้นจะต้องใช้ชีวิตที่เสี่ยง การไปเจรจาในเรื่องยาเสพติดอาจถูกหักหลังหรือถูกลอบทำร้ายได้ นุ่มนิ่มเห็นด้วยแต่ไม่อยากได้พวกนักเลงแบบพ่อของเธอ ประพาสได้แนะนำมาให้4-5 คน ก่อนที่เธอจะเลือกมุกดา อดีตนายทหารยศร้อยโทหญิง ประวัติของมุกดานั้นเธอเคยเป็นสารวัตรทหารมาก่อนที่จะได้รับคัดเลือกมาทำงานเป็นหน่วยรักษาความปลอดภัยให้บุคคลสำคัญอยู่หลายปี ก่อนจะลาออกมาทำงานให้บริษัทเอกชนที่ทำงานเกี่ยวรักษาความปลอดภัยให้บุคคลชั้นไฮโซ เพราะรายได้ดีกว่า และมุกดานั้นรู้จักกับประพาสมานานแล้ว เพราะประพาสเคยเป็นครูฝึกให้เธอมาก่อน ด้วยข้อเสนอของรายได้ที่งดงามกว่าที่ได้รับอยู่มุกดาตัดสินใจมาทำงานกับนุ่มนิ่มทันที ส่วนลิซ่านั้นเคยทำงานเป็นเลขาให้พี่ชายเธอมาก่อน มันจึงไม่ยากที่นุ่มนิ่มจะตามให้ลิซ่ากลับมาเป็นเลขาของเธออีกอย่างนุ่มนิ่มกับลิซ่ารู้จักกันมาก่อนในสมัยเรียนมัธยมลิซ่าเป็นรุ่นน้องของนุ่มนิ่ม 1 ปี ยิ่งเคยทำงานให้กับพี่ชายทำให้ทั้งคู่คุ้นเคยกันอย่างดี

ส่วนเรื่องที่เธอจ้างนักสืบนั้น บัญชาทำงานให้เธอได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นอย่างดี เริ่มจากการรวบรวมข้อมูลในฝั่งไทย บัญชาเริ่มสืบจากพวกข่าวลือต่างๆ จนมาถึงที่ค่ายทหารและค่ายต.ช.ดในเชียงใหม่ บัญชาสืบจากชาวบ้านรอบๆค่ายตามด้วยครอบครัวของทหาร ตำรวจในค่ายและข้อมูลที่ได้มานั้นทุกคนจะบอกเหมือนกันว่าในช่วงเวลานั้นจะมีเฮลิคอปเตอร์ขึ้นลงที่ค่ายตลอดเวลา ไม่เหมือนช่วงเวลาอื่นๆ และบรรดาครอบครัวทหารในค่ายจะบอกตรงกันว่าบริเวณส่วนหนึ่งในค่ายถูกกำหนดให้เป็นเขตหวงห้าม ห้ามคนทีไม่เกี่ยวข้องเข้าโดยเด็ดขาดและมีคนเห็นทหารอเมริกันหลายสิบนายในพื้นนั้นโดยทางค่ายแจ้งว่าเป็นการฝึกซ้อมรบกันตามปกติของไทยกับสหรัฐ ซึ่งหลังจากนั้นมีข่าวลือเรื่องโรงงานผลิตยาของพวกว้าแดงโดนระเบิด บัญชาเริ่มรวบรวมข้อมูลส่วนนี้แล้วเดินทางข้ามไปฝั่งพม่าพร้อมทีมงานอีก2-3คน และมันทำให้บัญชาได้ข้อมูลสำคัญอย่างมาก และได้พบกับนายทหารว้าแดงบางคนที่รอดตายจากโรงงานระเบิดเพราะไปพักผ่อนที่หมู่บ้านที่อยู่ห่างออกไปโดยการประสานจากชาวกระเหรี่ยงที่อยู่ในหมู่บ้านใกล้ๆกับคลังเก็บเฮโรอีนของกำนันน้อมพร้อมหลักฐานสำคัญ

บัญชารีบนำข้อมูลที่ได้ไปรายงานนุ่มนิ่มทันที เริ่มจากเรื่องที่ค่ายทหาร ค่ายต.ช.ด.ในเชียงใหม่ซึ่งตรงนี้ประพาสนั้นได้บอกกับเธอว่าช่วงเวลาเดียวกันมีพรรคพวกของประพาสหลายคนได้ไปอยู่ที่เชียงรายเพื่อทำภารกิจลับซึ่งประพาสไม่รู้รายละเอียดเพราะตอนนั้นตนเองอยู่ภาคใต้แต่พอจะรู้ว่าเป็นการเตรียมการเพื่อคอยช่วยเหลือให้กับทหารอเมริกันที่เข้าไปปฏิบัติงานลับในพม่า ซึ่งมันต้องเกี่ยวข้องกับการระเบิดโรงงานผลิตเฮโรอีนของพวกว้าแดงอย่างแน่นอน  ข้อมูลที่บัญชากับทีมงานได้มาพร้อมรูปถ่ายที่สำคัญมันทำให้นุ่มนิ่มสะเทือนใจมากเพราะเป็นการยืนยันว่าพ่อเธอถูกฆ่าตายกลางป่า และข้อมูลจากนายทหารว้าแดงที่รอดตายนั้นยืนยันว่าเป็นคนสั่งให้จัดทีมคุ้มกันกำนันน้อมที่จะเดินทางเข้าตัวเมืองและเห็นขบวนรถของกำนันออกจากโรงงาน และข้อมูลที่สำคัญที่ได้จากบัญชาคือในวันนั้น มีกระเหรี่ยง 2คนพ่อลูกที่อยู่ในหมู่บ้านใกล้ๆคลังของกำนันน้อม ว่าทั้ง 2 คนนี้มีอาชีพหาของป่าไปขายตัวเมืองขณะกำลังเดินทางกลับมาที่หมู่บ้านทั้งคู่ได้ยินเสียงระเบิดแว่วๆมาแต่ไกล และเห็นกลุ่มควันที่อยู่ไม่ไกลนักพวยพุ่งสู่ท้องฟ้าทั้งคู่รู้ว่ามันเป็นเรื่องไม่ดีแน่

เพราะก่อนหน้านั้นโกดังของกำนันถูกระเบิดและคนที่เฝ้าโกดังโดนฆ่าตายหมด ทั้งคู่รีบขับรถไปทันทีแต่ก่อนจะถึงจุดที่มีควันประมาณ 3กิโล สองพ่อลูกได้ยินเสียงระเบิดหลายลูกจึงตัดสินใจนำรถเข้าไปหลบเข้าไปในป่าข้างทางเพราะไม่กล้าที่จะไปต่อ และภาพที่ได้เห็นต่อจากนั้นคือมีเฮลิคอปเตอร์ 2ลำบินโฉบไปมาพร้อมกับปล่อยอาวุธเป็นระยะ ทำให้สองพ่อลูกนั้นหวาดกลัวอย่างมาก จนเสียงอาวุธนั้นเงียบลง แต่เฮลิคอปเตอร์ทั้ง 2 ลำยังบินวนเหนือพื้นที่และไม่นานนักมีเฮลิคอปเตอร์อีกลำบินมาจากทิศทางที่ตั้งของโรงงานและบินไปที่เนินเขาลูกหนึ่งที่อยู่ไม่ห่างออกไปนัก และหย่อนสลิงลงมาก่อนจะมีร่างคน 2 คนลอยตามเฮลิคอปเตอร์ลำนั้นไป

2 พ่อลูกนั้นรอให้ทุกอย่างเงียบลงและไปตรงจุดปะทะทั้งๆที่หวาดกลัวอย่างมากแต่คิดว่าบริเวณนั้นอาจจะมีคนที่บาดเจ็บรอการช่วยเหลืออยู่  แต่พอไปถึงภาพที่เห็นคือซากรถ6-7คันที่กำลังถูกไฟไหม้อยู่ ทั้งคู่ต่างเดินเข้าไปดูใกล้ๆเผื่อจะเจอคนที่รอดแต่จากที่เห็นมีแต่ศพคนตายที่นอนเกลื่อนไปหมด บางศพมีสภาพเละไปทั้งตัว  และห่างจากด้านหลังรถคันที่ 2นั้นคนที่เป็นพ่อได้เห็นศพหนึ่งที่มีสภาพไหม้เกรียมไปทั้งตัว ซึ่งตอนแรกไม่สนใจเท่าไหร่นักแต่มาสะดุดตาตรงแหวนที่นิ้วนางข้างขวา สภาพของแหวนยังสมบูรณ์มีแต่คราบเขม่าดำจับอยู่  กระเหรี่ยงคนที่เป็นพ่อจำได้ทันทีว่าเป็นแหวนทองที่กำนันน้อมใส่ หัวแหวนเป็นโกเมนเม็ดใหญ่ กระเหรี่ยงคนพ่อเลยตัดสินใจถอดออกจากนิ้วและรีบพาลูกชายขับรถกลับมาที่หมู่บ้าน พอฟังถึงตรงนี้น้ำตาของหญิงสาวไหลออกมาไม่หยุดเธอหยิบภาพแหวนที่บัญชาถ่ายมาให้ขึ้นมาดู เธอจำแหวนวงนี้ได้ดีมันเป็นแหวนที่พ่อของเธอใส่มาตลอดเธอเห็นตั้งแต่เธอยังเด็ก

"แล้วเขาบอกคุณบัญชาหรือเปล่าว่าเก็บไว้เพราะอะไร ถ้าเอาไปขายก็ได้เงินมากอยู่"

"เขาบอกว่ากำนันมีบุญคุณกับเขาและครอบครัวอย่างมากรวมถึงคนในหมู่บ้านด้วยที่กำนันช่วยเหลือมาตลอดเมียเขาก็เป็นแม่บ้านที่กำนันจ้างให้ดูแลโกดังครับ เขาต้องการจะเก็บไว้เพื่อส่งมอบคืนให้กับครอบครัวกำนันแต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง"

"คุณไปเจอเขาได้ยังไง"

"ผมให้เพื่อนที่เป็นคนพม่าช่วยสืบให้ครับ เลยรู้ว่าจะมีกระเหรี่ยงจากหมู่บ้านนั้นเอาของป่ามาขายเป็นประจำ ตอนแรกเขาก็ไม่ยอมพูดครับเพราะกลัวถูกจับ ผมต้องเกลี้ยกล่อมอยู่นานและเอารูปกำนันที่ถ่ายกับคุณนิ่มไปให้ดูเขาจึงยอมเล่าและช่วยติดต่อพวกว้าแดงที่รอดตายด้วยครับ ส่วนแหวนเขาไม่ยอมให้ผมมาครับ เขาบอกว่าต้องให้กับคนในครอบครัวกำนันเท่านั้นครับ"

นุ่มนิ่มเม้มปากแน่นก่อนจะให้บัญชาเล่าต่อ บัญชาเล่าต่อว่าตนเองกับทีมงานเดินทางไปถึงหมู่บ้านกระเหรี่ยงและพอถึงบริเวณที่เป็นจุดปะทะ  2พ่อลูกชี้บัญชาให้ดูจุดที่กำนันถูกฆ่าและตามด้วยจุดที่เคยเป็นที่ตั้งของโกดัง พอไปถึงหมู่บ้านได้เจอกับเมียของกระเหรี่ยงคนดังกล่าวซึ่งเธอเล่าให้ฟังว่า เธอกับคนในหมู่บ้านถูกขอให้มาช่วยรื้อซากโกดังเพื่อหาศพของคนที่ติดอยู่ในนั้น เธอจำได้ดีว่าเห็นขบวนรถที่กำนันนั่งวิ่งผ่าน แต่หลังจากนั้นทหารว้าแดงที่กำลังช่วยพวกเธอรื้อซากอยู่บอกว่ามีวิทยุขอความช่วยเหลือเพราะขบวนรถของกำนันถูกโจมตี ทำให้พวกทหารว้าแดงรีบจะไปช่วยแต่ได้รับคำสั่งว่าให้ไปพร้อมกับทหารอีกหน่วยหนึ่งที่กำลังเดินทางมาพอทหารหน่วยนั้นมาถึง พวกว้าแดงได้ขนกำลังไปทั้งหมดเหลือแต่พวกชาวบ้านกระเหรี่ยง แต่ไม่นานนักทุกคนได้ยินเสียงระเบิดดังกึกก้องมาจากทิศทางที่ตั้งโรงงาน ทำให้ชาวบ้านหวาดกลัวมากต่างรีบหนีกันกลับไปที่หมู่บ้านทันทีและยังได้ยิงเสียงระเบิดแว่วๆมาจากทิศทางที่ทหารว้าแดงมุ่งหน้าไป หลังจากที่ 2พ่อลูกกลับมาแล้วทำให้คนในหมู่บ้านรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น วันต่อมาได้มีพวกว้าแดงที่รอดชีวิตได้แวะมาสอบถามเรื่องที่เกิดพร้อมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่โรงงานแล้วไปดูจุดที่โดนโจมตี ต่อมาอีก 2-3วันได้มีทหารพม่ามาที่หมู่บ้านและสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น ทุกคนเล่าไปตามความจริงซึ่งทางทหารพม่าไม่ได้ติดใจอะไร และบริเวณที่เป็นจุดปะทะทหารพม่าได้เข้ามาจัดการเคลียร์พื้นที่ ศพกำนันน้อมและพวกว้าแดงถูกขนย้ายไปทั้งหมดพร้อมกับการขนซากรถออกไปด้วย  ภาพถ่ายสถานที่เกิดเหตุทั้งหมดที่บัญชาถ่ายมาตอนนี้อยู่ตรงหน้าเธอ นุ่มนิ่มพยายามกลั้นน้ำตาแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดพร้อมถามไปที่ประพาส

"คุณประพาสว่ายังไงคะ"

"งานนี้งานใหญ่ครับ ผมว่าหน่วยที่เข้าไปทำลายโรงงานอาจจะเป็นหน่วยซีลไม่ก็เดลต้าฟอร์ซของสหรัฐ แต่เรื่องนี้คุณนิ่มคงไม่สนใจเท่าไหร่"

เธอพยักหน้าเห็นด้วยประพาสจึงพูดต่อ

"ที่สำคัญคือตรงที่กำนันน้อมถูกฆ่าตาย และที่กระเหรี่ยง 2พ่อลูกเห็นคือมีคน 2 คนลอยตัวไปกับเฮลิคอปเตอร์ที่มารับ ตรงนี้คือจุดสำคัญ เท่ากับ 2 คนนั้นมาซุ่มอยู่ก่อนหน้าและมีส่วนในการโจมตีขบวนรถของกำนัน ผมจะลองสันนิษฐานแบบนี้นะครับคุณนิ่ม 2 คนนั้นมาดักรออยู่ก่อนแล้ว และระหว่างที่โจมตีพวกว้าได้วิทยุไปขอกำลังเสริมมาช่วยแต่คงมาช้าไป และ คน 2 คนนั้นได้หลบไปอยู่ตรงเนินที่กระเหรี่ยงเห็นเพื่อจะที่เตรียมถอนตัว แต่พอกำลังเสริมของว้าไปถึงคงมีแจ้งไปเพื่อขอกำลังมาช่วย ทางสหรัฐคงเตรียมเฮลิคอปเตอร์ไว้สนับสนุนอยู่แล้วมันก็เป็นแบบที่พวกกระเหรี่ยงเห็นนะครับ เพราะถ้าใช้เฮลิคอปเตอร์โจมตีขบวนของกำนันแต่แรกแล้ว ทางว้าแดงคงวิทยุมาบอกแล้วว่าโดนโจมตีจากเฮลิคอปเตอร์แต่นี่ไม่ใช่ กำนันถูกซุ่มโจมตีแน่นอนครับ และคนที่ทำต้องเก่งจริงๆเพราะมีแค่ 2คน"

ข้อมูลเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว มันทำให้เธอรู้ว่าพ่อเธอตายอย่างอนาถศพคงถูกนำไปทำลาย ยิ่งคิดไฟแค้นยิ่งสุมในอก เธอต้องการรู้ให้ได้ว่า 2 คนนั้นเป็นใครต่อให้มันยากลำบากขนาดไหน ใช้เงินเท่าไหร่เธอก็ไม่สน แต่เธอพยายามข่มอารมณ์แล้วถามไปที่บัญชาต่อ

"แล้วพวกว้าแดงที่คุณคุยละทำไมถึงยังติดต่อได้"

"ตรงนี้ไม่ยากครับ เพราะหลังจากนั้นพวกที่รอดตายก็ไปรวมกลุ่มกันอีก พวกนี้เป็นกองทัพนะครับ แตกพ่ายไปแล้วแต่ก็ยังมีค่ายมีเมืองที่ทำให้พวกเค้ากลับไปรวมกันได้ และก็ยังผ่านไปที่หมู่บ้านนั้นอยู่บ่อยๆครับ"

"เอาแบบนี้นะคุณบัญชา ฉันอยากให้คุณติดต่อว้าแดงพวกนั้นคนที่อยู่ในโรงงานงานวันนั้นนะ นัดเจอให้กับนิ่มหน่อยคะ เป็นที่ฝั่งไหนก็ได้ตามที่เขาสะดวกและบอกกระเหรี่ยง 2พ่อลูกนั้นด้วยฉันจะไปหาเขาที่หมู่บ้าน"

"คุณนิ่มไม่ต้องไปถึงที่นั่นก็ได้ครับเรานัดเจอในตัวเมืองได้เพราะเขาก็เข้ามาขายของป่าเป็นประจำอยู่แล้ว

"นิ่มอยากไปเห็นตรงที่พ่อถูกฆ่านะคะ"

พอเธอพูดแบบนี้บัญชาจึงไม่คัดค้าน อีก 2อาทิตย์บัญชาได้พาเธอรวมทั้งมุกดา,ลิซ่า,ประพาสและอดิศรได้พบกับว้าแดงที่ร้านอาหารในคาสิโนที่พ่อเธอเคยถือหุ้นอยู่ จากการพูดคุยนายทหารว้าแดงยืนยันเรื่องที่เล่าให้บัญชาฟังกับเธออีกครั้งแต่จากการพูดคุยมันไปจุดประกายความคิดของเธอได้ หลังจากนั้นบัญชาได้พาเธอและคนที่ติดตามไปที่หมู่บ้านกระเหรี่ยง ซึ่งนุ่มนิ่มได้ให้อดิศรกลับไปก่อนไม่ต้องตามไป พอไปถึงบริเวณที่กำนันถูกฆ่า บัญชาได้ชี้ไปตรงจุดที่กระเหรี่ยง 2พ่อลูกบอกว่าเจอศพกำนันน้อม นุ่มนิ่มน้ำตาไหลออกมาอีกครั้งแล้วเธอได้จุดธูปที่เตรียมมา 1ดอกแล้วนั่งลงไปตรงจุดที่กำนันน้อมตาย เธอยกมือไหว้พร้อมกับนึกในใจเพื่อจะบอกไปยังกำนันน้อม

"พ่อคะ หนูสัญญาคะว่าจะเอาคืนคนที่ฆ่าพ่อให้ได้"

เธอนึ่งอยู่ครู่หนึ่งถึงปักธูปลงไปบนพื้นดินแล้วลุกขึ้นมายืนมองไปยังบริเวณรอบๆ  พอเห็นประพาสที่มองมาที่เธอจึงถามไปว่า

"คุณประพาสคิดว่ายังไงคะ"

"ผมดูจากพื้นที่แล้ว อย่างที่เคยบอกมีการวางแผนมาล่วงหน้าแน่นอนครับ ทีมหนึ่งเข้าไปทำลายโรงงานอีกทีมหนึ่งมาลอบสังหารพ่อคุณนิ่ม พื้นที่ตรงนี้เหมาะจริงๆ"

"แล้วทำไมทางสหรัฐถึงอยากฆ่าพ่อของนิ่มด้วยคะ"

"ผมได้แต่เดานะครับ ก่อนหน้านั้นมีการฆ่าเปายุ่นมาแล้ว ผมลองไปค้นข้อมูลดูแล้ว  เปายุ่นถูกตั้งค่าหัวจากทางสหรัฐมันไม่ยากที่จะถูกฆ่าและทีมฆ่านั้นบอกได้ว่ามืออาชีพ ส่วนพ่อของคุณนิ่มผมว่ามันอาจจะเป็นผลพลอยได้ เพราะทางการไทยรู้ว่าถ้ากำนันน้อมจะสู้คดีมันต้องใช้เวลาที่ยาวนาน หรือถ้าไม่ต่อสู้คดีแต่หลบหนีอยู่ในฝั่งนี้มันเป็นหนามยอกอกของทางรัฐบาลไทยแน่นอนครับ กำนันอาจจะเปลี่ยนเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ได้ครับ เรียกว่าตัดไฟตั้งแต่ต้นลมครับ นี่เป็นข้อมูลที่ผมสันนิษฐานเบื้องต้นนะครับ ผมอยากจะรวบรวมข้อมูลให้ได้มากกว่าอีกสักหน่อยครับคุณนิ่ม"

เธอเม้มปากแน่นแล้วส่งสัญญาณให้เดินทางต่อ  พอไปถึงบริเวณที่เคยเป็นที่ตั้งของโกดัง ทุกคนลงไปดูแต่ใช้เวลาไม่นานก่อนจะไปที่หมู่บ้านของพวกกระเหรี่ยง ที่นั่นนุ่มนิ่มเสียน้ำตาอีกครั้งหลังจากที่ได้เห็นแหวนของพ่อเธอ

"บอกเขาไป ว่านิ่มขอบคุณมาก"

เธอบอกไปที่บัญชา และเธอเห็นกระเหรี่ยงคนนั้นส่ายหน้าพร้อมยิ้มมาที่เธอก่อนจะพูดกับบัญชาและบัญชาหันมาบอกกับเธอ

"เขาบอกว่ากำนันน้อมมีบุญคุณกับครอบครัวเขาอย่างมากรวมถึงคนในหมู่บ้านนี้ครับ ภรรยาเขาก็เคยทำงานเป็นแม่บ้านในบ่อนและกำนันดึงมาเป็นแม่บ้านในที่โกดังครับ"

มีการพูดคุยกันอีกยาวนาน ก่อนที่จะกลับนุ่มนิ่มพยายามที่จะให้เงินกับครอบครัวของกระเหรี่ยงที่เก็บรักษาแหวนของพ่อเธอแต่ทางนั้นปฏิเสธไม่ยอมรับ ทำให้เธอซาบซึ้งน้ำใจมากและเธอได้ข้อมูลสำคัญมาพอสมควร หลังจากวันนั้นเธอได้นำแหวนวงนั้นติดตัวตลอดโดยนำมาคล้องกับสร้อยคอ พร้อมกับแผนการทุกอย่างที่เธอวางไว้เริ่มเป็นรูปร่างขึ้น การรวบรวมคน ซึ่งทางดาบณรงค์นั้นก็หาคนมาได้จำนวนหนึ่งและมันเป็นไปตามที่ประพาสต้องการ คือส่วนใหญ่จะเป็นพวกไร้บ้านหรือเด็กกำพร้าที่ชอบใช้ชีวิตแบบนักเลงข้างถนนมารวมตัวกันอายุอยู่ในช่วง 16-25ปีพร้อมกับการก่อสร้างหมู่บ้านซึ่งเธอเป็นคนตั้งชื่อเองว่า"หมู่บ้านตะวันลับ"ซึ่งเธอหมายถึงชีวิตของครอบครัวเธอที่ตอนนี้มันดำมืดเหมือนกับดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ตามด้วยการเข้าไปเป็นนายทุนของการผลิตเฮโรอีนให้พวกว้าแดงจากที่ได้พูดคุยกันมาก่อนและมาจากการประสานงานของอดิศร ซึ่งจังหวะมันพอดีกับที่คำรณนั้นออกจากคุกพอดี และได้ติดต่อมาหาอดิศรจึงมีการทาบทามให้คำรณรับงานในการผสมเฮโรอีนสูตรพิเศษ เพราะคนที่ทำคนเดิมนั้นตายคาโรงงานที่ถูกระเบิดไปแล้ว คำรณนั้นจำสูตรได้ดีจึงตกลงรับงานและเปลี่ยนชื่อไปเป็นอุกฤษก่อนจะเร้นกายหายไปบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ เพื่อดูแลการผลิตเฮโรอีนสูตรพิเศษซึ่งครั้งนี้สถานที่ผลิตจะกระจายไปทั่วสามเหลี่ยมทองคำ ไม่ได้เป็นโรงงานขนาดใหญ่

ถึงตอนนี้นุ่มนิ่มที่นอนประคองกอดร่างที่เปล่าเปลือยของลิซ่าที่กำลังหลับสนิทได้ค่อยๆขยับตัวออกมาและมองไปที่โต๊ะหัวเตียงที่เธอถอดสร้อยวางไว้นุ่มนิ่มหยิบแหวนที่ห้อยอยู่กับสร้อยขึ้นมาดูแล้วลูบคลำไปมาแล้วสวมที่คอพร้อมดวงตาที่วาวโรจน์ก่อนจะเดินด้วยร่างที่ยังเปลือยกายอยู่ไปที่โต๊ะทำงานและเปิดโน๊ตบุ๊กขึ้นมา

ฝ่ายวิฑูรย์นั้นพอเดินออกจากห้องนอนของนุ่มนิ่ม ระหว่างที่จะลงบันไดวิฑูรย์ได้ยินเสียงจึงหันไปมองและพบว่า มุกดาบอดี้การ์ดของเจ้านายสาวยืนโผล่หน้ามาจากประตูห้องนอนที่อยู่ใกล้ๆบันได

"อ้าวคุณมุกดาวันนี้นอนที่นี่หรือครับ"

"ใช่วันนี้เลิกงานดึกฉันเลยนอนที่นี่แล้วเธอละ เรียบร้อยแล้วหรือ"

"ครับ"

วิฑูรย์รับคำเพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายนั้นหมายถึงอะไร ส่วนมุกดานั้นยิ้มๆแต่มองไปฝ่ายชายด้วยสายตาแบบที่มีความหมายก่อนจะบอกว่า

"พรุ่งนี้ก็ไม่ได้ไปแต่เช้านี่ มีเวลาพอจะมาคุยกับฉันได้ไหม"

"สำหรับคุณมุกดาผมมีเวลาให้ตลอดครับ"

ถึงจะรู้ว่าฝ่ายชายหยอดให้ด้วยคำหวานแต่อดีตผู้หมวดสาวก็อดจะยิ้มไม่ได้ แล้วพยักหน้าให้วิฑูรย์เข้ามาในห้องนอนเธอ ภายในห้องหลังจากวิฑูรย์ล็อคประตูเรียบร้อย มุกดาจัดการถอดเสื้อและกางนอนทันที ร่างของเธอเหลือชุดชั้นใน 2ชิ้นที่ปกปิดร่างแล้วเดินเข้าไปหาวิฑูรย์มือทั้งสองของมุกดาโอบรอบคอชายหนุ่มพร้อมพูดออกมา

"มีแรงเหลือให้ฉันหรือเปล่านี่"

แทนคำตอบใบหน้าของวิฑูรย์ก้มลงมาหาเธอ ริมฝีปากของทั้งคู่แนบสนิทต่างแลกจูบกันยาวนาน  ส่วนของมุกดานั้นเลื่อนลงไปปลดผ้าเช็ดตัวที่วิฑูรย์นุ่งแล้วตัวเธอค่อยๆเลื่อนลงไปด้านล่างพร้อมใช้ปากไล่จูบไปทั่ว จนเธอเลื่อนตัวทรุดลงไปนั่ง มือของมุกดาจับควยที่ยังอ่อนตัวของวิฑูรย์รูดไปมาพร้อมจูบไปเบาๆก่อนจะใช้ลิ้นเลียไปมาแล้วใช้ปากอมพร้อมผงกหัวไปมา ไม่นานนักควยที่อ่อนนุ่มของวิฑูรย์เริ่มแข็งตัวขึ้นด้วยฤทธิ์ฝีปากของอดีตทหารสาว พอควยของวิฑูรย์แข็งตัวเต็มปากเธอ มุกดาจึงลุกขึ้นยืนแล้วกดตัวของฝ่ายชายให้ลงไปนั่ง วิฑูรย์สนองตอบความต้องการของเธอทันที หน้านั้นฝังไปตรงเป้ากางเกงในแล้วถูหน้าไปมา มุกดาใช้มือกดหัวของวิฑูรย์ให้แนบไปที่ตัวเธอด้วย

เธอครางออกมาอย่างแผ่วเบา จนกางเกงในสีขาวถูกรูดลงมากองที่ข้อเท้ามุกดายกขาให้เพื่อให้อีกฝ่ายจะได้ถอดให้พ้นตัว สะโพกที่กลมกลึงได้ขนาดถูกมือที่หยาบกร้านขยำเบาๆ หมอยที่ดกดำถูกใบหน้าของวิฑูรย์ซบลงไปพร้อมถูไถไปมาอีกครั้ง มือของมุกดาจับที่บ่าของฝ่ายชายแน่น ยิ่งพอลิ้นของฝ่ายชายทะลวงเข้าไปในรูหีทำเอาเธอสะดุ้งเล็กน้อย แล้วหายใจถี่ขึ้น ถึงจะโดนมาหลายครั้งตั้งแต่มาทำงานกับนุ่มนิ่ม แต่ลิ้นของวิฑูรย์นั้นสร้างความเสียวให้เธอมากกว่าลิ้นของเจ้านายสาวกับลิซ่า มุกดาปล่อยให้วิฑูรย์สร้างความเสียวให้เธอพักใหญ่ก่อนจะบอกมาด้วยเสียงกระเส่า

"ไปที่เตียงเถอะ ฉันทนไม่ไหวแล้ว"

วิฑูรย์อุ้มร่างของบอดี้การ์ดเจ้านายไปที่เตียง ร่างผิวสีน้ำผึ้งนอนทอดกายอยู่บนเตียงซึ่งเหลือเพียงยกทรงตัวเดียวเท่านั้นที่ปกปิดทรวงอก วิฑูรย์ลงไปนั่งข้างๆ มือลูบไล้ไปตามร่างที่เกือบเปลือย รูปร่างของมุกดานั้นถึงจะไม่อวบอิ่มเหมือนนุ่มนิ่มกับลิซ่า แต่วิฑูรย์กลับชอบรูปร่างของมุกดามากกว่า ร่างกายของเธอนั้นผ่านการออกกำลังกายมาอย่างดี มีกล้ามท้องเนื้อแน่นไปทุกส่วนนมนั้นสมกับตัวไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป มือของวิฑูรย์ลูบไล้ไปมาบนทรวงอกก่อนจะขยำเบาๆ มุกดาดึงหน้าของวิฑูรย์ให้ซบลงมาที่ทรวงอก ชายหนุ่มสนองตอบทันที ใช้ปากงับไปเบาๆบนยกทรงที่บางเบาๆ จนมุกดาทนไม่ไหวขยับกายจัดการถอดยกทรงออกจากตัวแล้วโยนให้พ้นตัว พร้อมแอ่นกายให้วิฑูรย์ดูดดื่มหน้าอกของเธอ หัวนมสีม่วงบานขยายรองรับริมฝีปากของอีกฝ่าย ส่วนเจ้าของครางออกมาด้วยความกระสัน วิฑูรย์ใช้ลีลาดูดสลับไปมา ส่วนมือนั้นเลื่อนไปด้านล่างพร้อมเขี่ยไปมาที่เม็ดแตดของมุกดา

"ซี๊ดดด อูยยยยย"

"69 ไหมครับ คุณมุก"

"เอาสิคะ"

วิฑูรย์พลิกตัวลงนอนหงายพร้อมจับตัวมุกดาขึ้นมาอยู่ด้านบนปากของทั้งคู่ทาบกันสนิทอีกครั้งก่อนที่มุกดาจะพลิกตัว หันหัวไปทางเท้าของวิฑูรย์พร้อมขยับตัว จนได้ที่มือของเธอรูดไปที่ควย2-3 ครั้งก่อนจะใช้ปากครอบ เหมือนกับที่รูหีของเธอถูกลิ้นของฝ่ายชายกวาดเข้าไปภายใน ทั้งคู่ต่างใช้ปากบำเรอรสสวาทให้กับอีกฝ่ายจนพอใจทั้งคู่ มุกดาพลิกตัวกลับมา ควยที่แข็งตัวและชุ่มไปด้วยน้ำลายของเธอมาจ่อที่ปากรูหีแล้วหย่อนกายครอบทับทันที ก่อนจะโยกตัวไปมาช้า

"ซี๊ดดดดด เสียวไหมครับคุณมุก "

วิฑูรย์ถามไปที่หญิงสาวพร้อมกับกระเด้งตัวขึ้นไปรับจังหวะการโยกตัวฝ่ายหญิง

"เสียวคะ มันแน่นไปหมด ควยของฑูรย์นี่ใหญ่จริงๆให้เย็ดกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ"

"ก็หีของคุณมุกมันฟิตนี่ครับ พอๆกับรูตูดเลย"

"อูยยย คนบ้าหยาบคาย แล้วเมื่อกี้ใครถูกเย็ดตูดละ"

"คุณลิซ่าครับ"

ผู้หมวดสาวพยักหน้าพร้อมโยกตัวต่อไป เธอชอบพูดแบบนี้และฝ่ายชายที่เคยเป็นอดีตเด็กบาร์โฮสนั้นก็ตอบสนองเธอได้อย่างดี ทุกครั้งทีเย็ดกันไม่ว่าจะเป็นแบบหมู่หรือแบบนี้จากความอึดที่มี วิฑูรย์ทำเอาเธอถึงทุกครั้ง เธอจึงติดใจอย่างมาก รสสวาทจากผู้ชายแท้ๆมันดีกว่ารสสวาทของผู้หญิงด้วยกันที่ได้จากเจ้านายกับลิซ่า แต่เจ้านายเธอดูจะติดใจพวกผู้หญิงด้วยกันมากกว่า มุกดาโยกตัวไปมาอีก4-5 ครั้ง แล้วถึงลุกขึ้นมานอนคว่ำข้างๆชายหนุ่ม

"ฑูรย์เย็ดตูดให้หน่อยสิวันนี้ฉันเงี่ยนมาก สงสัยเมนส์ใกล้จะมา"

วิฑูรย์ขยับตัวไปด้านหลังของเธอ ที่ตอนนี้ยกก้นขึ้นสูง แต่โคกหีและขนหมอยที่ชุ่มไปด้วยน้ำเงี่ยนทำเอาชายหนุ่มอดใจไม่ไหวที่จะลงลิ้นให้อีกครั้ง ทำเอาก้นของผู้หมวดสาวส่ายไปมา

"อูยยยย ฑูรย์ขาอย่าทรมานเลยเย็ดเหอะ"

วิฑูรย์จัดการตามคำขอของเธอ  ขยับตัวให้สูงขึ้นเอามือจับที่เอวพร้อมดันควยเข้าไปในรูดตูดของหญิงสาวจนสุดแล้วเริ่มกระเด้าเบา ส่วนมือข้างหนึ่งเลือนไปบีบนมและอีกข้างหนึ่งล้วงเข้าไปในรูหี ทำเอามุกดาครางออกมาอย่างสุดเสียงพร้อมเด้งรับตามจังหวะการกระเด้าของฝ่ายชาย มันสร้างความเสียวให้กับเธออย่างมาก

"ตูดมุกแน่นไหมคะฑูรย์"

"แน่นสิครับ"

"แรงๆเลยก็ได้นะมุกรับ ได้ อูยยยยย ดีคะดี  อุ๊ยๆๆๆๆ"

ฝ่ายชายสนองตอบเธอทันทีพร้อมกับการเด้งรับของมุกดา จนร่างกายส่งสัญญาณว่าจวนจะถึงจุดสุดยอกแล้ว พร้อมกับการเย็ดที่เร็วขึ้นของวิฑูรย์ จนฝ่ายชายกระเด้าส่งท้ายพร้อมหลั่งน้ำกามเข้ารูก้นเธอ ส่วนนิ้วยังชักเข้าออกไม่หยุด จนเธอร้องออกมา

"พอก่อน ฉันถึงแล้ว"

วิฑูรย์ดึงนิ้วออกมา พร้อมถอนควยออกแล้วขยับตัวมานอนหายใจหอบๆข้างเธอเหมือนกับมุกดาที่พลิกตัวมานอนหงายแล้วหายใจถี่ๆแบบฝ่ายชาย ก่อนจะพลิกตัวไปนอนหนุนบนอกของฝ่ายชายพร้อมเอามือลูบไล้ไปที่ใบหน้าเช่นเดียวกับมือของฝ่ายชายที่ตอนนี้มาลูบไปมาตามลำตัวของเธอ แล้วบอกไปว่า

"นอนที่ห้องฉันก็ได้นะ เช้ามืดค่อยไป"

ก้นของเธอถูกขยำแรงๆแทนคำตอบเพราะต่างฝ่ายรู้ว่านี่แค่พักยกก่อนจะมียกต่อไป  
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

ชายชรา

ดูแล้วคุณนุ่มนิ่มคงจะเป็นคู่แค้นที่น่ากลัวที่สุดของแคนแน่นอนเลยเนื้อเรื่องแน่นละเอียดดีครับติดตามครับ

เดช12341

กำนันน้อมมีลูกสาวเหมือนตนเองดังคำลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ

orionnebula

โดนล่อไป2คนแล้ว ว่าแต่ใครคือนางเอก รอลุ้นต่อไปครับ

bossbellbest

ล้างแค้นกันมัน แน่นใครดีเดียวรู้กัน

ชาเลิศ สถิตบุญเลิศ

เรื่องนี้จะมีนางเอกหรือเปล่า  ไอ้คุณวิฒูยร์นี้แรงดีจิงๆล่อ3เลย ::DookDig::

ผู้เฒ่าเซราะกราว

ดูท่าทางนุ่มนิ่มจะแค้นมากมายเลย มีทั้งเงินทั้งความฉลาดแบบนี้ แคนคงจะเหนื่อยมากมายเลย ยิ่งนุ่มนิ่มได้ทั้งประพาสและบัญชาเป็นลูกทีม ได้ทนายอดิศรเป็นมันสมองให้ด้วย ถึงได้ขยายเครือข่ายได้มากมาย งานนี้คงได้หักเหลี่ยมชิงไหวชิงพริบกันยาวแน่ๆเลย

birdramon2

งานหนักแน่นุ่มนิ่มเล่นใหญ่ งานนี้สนุก

weeraj

ลงเอยแบบแคนกับนุ่มนิ่มเข้าใจกันและกลายเป็นคู่รักก็ดีนะครับ

kodzilla

เนื้อเรื่องดุเดือดจนลืมคิดไปว่ากำลังอยู่เว็บไหน

Nobita Nobituta

นุ่มนิ่มนี่ฤทธิ์เดชคงเยอะ พวกตำรวจคงไม่ทันรู้ว่ามีพ่อค้ายาคนใหม่ก่อตัวมาแก้แค้น

outsider

ตอนแรกนึกว่าลูกชายกำนันจะร่วมมือด้วยซะอีก แสดงว่าได้เชื้อโหดกำนันมาแค่คนเดียว

ภูเขา

ที่จริงนุ่มนิ่มน่าจะเข้าใจนะว่าที่ผ่านมากำนันน้อมก็ทำลายชีวิตคนอื่นไปเยอะ

Ritsy


Tik K.

นุ่มนิ่มเก่งและฉลาดนะ หาทางสืบจนรู้อะไรหลายอย่างเลย