ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

Darkness Circle / วงจรแห่งความมืด ตอนที่ 49

เริ่มโดย เจตภูติ, สิงหาคม 04, 2021, 08:46:00 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

เจตภูติ

ช่วงนี้ตันมาก มีอาการปวดหัวร่วมด้วยไม่รู้เป็นอะไรรึเปล่า แต่เนื้อเรื่องก็เดินมาถึงช่วงสุท้ายแล้ว คาดว่าจะจบเรื่องได้เร็วๆ นี่ ก็หวังเหล่านักอ่านจะยังคงติดตามผลงานกันต่อไปนะครับ

สำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกเว็บอยากอ่านส่วนที่ซ่อนไว้ ในนั้นจะลงช้ากว่าที่เว็บนี้หนึ่งตอนนะครับ
https://www.tunwalai.com/v2/story/499798

Darkness Circle / วงจรแห่งความมืด ตอนที่ 49

อ๊อดหลังจากเจอเล็กที่คาเฟ่ของเจณิตาวันถัดมาเขาก็ได้ทำการนัดหมายให้เล็กมาเจอที่ร้านอาหารเพื่อที่จะได้พูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันต่อ เพราะก่อนหน้านั้น แต่ละคนก็มากับผู้หญิงเลยคุยกันไม่สะดวก ที่ร้านอาหารนอกเมืองผู้คนในร้านบางตาทำให้คุยกันได้อย่างสบายทั้งเรื่องอดีตและปัจนันโดยไม่ต้องวางมาดปิดบังอะไรกันเพราะไม่มีคนนอก ทั้งคู่กินดื่มกันอยู่พักใหญ่พูดคุยกันอย่างออกรสหลังจากที่ไม่ได้คุยกันมานาน หลังจากกินดื่มไปสักพักเล็กที่มีความสามารถในการดื่มเหล้าอย่างหาตัวจับได้ยากกลับมีอาการมึนหัวและทิ้งตัวหลับคาโต๊ะไปอย่างน่าสงสัย

เล็กรู้สึกตัวขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองถูกมัดติดกับเก้าอี้ ภายในห้องที่เขาถูกจับสว่างมองเห็นเตียงใหญ่ไร้ผู้คนที่น่าจะเป็นคนจับตัวเขามา จนกระทั่งประตูห้องที่อยู่ด้านหลังของเขาเปิดออกพร้อมกับหารมาของชายสองคน ที่เดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขา

"อ๊อดนี่มันเรื่องอะไรกัน..." เล็กถามอ๊อดทันทีก่อนจะหันไปเจษฎาก็เข้าใจเรื่องทุกอย่างจึงได้หันไปตวาดใส่อ๊อดด้วยความโกรธเกรี้ยว "อ้อ...นี่มึงก็ร่วมมือกับมันเหรอ"

"ไม่ใช่แบบนั้นพี่" อ๊อดส่ายหน้าโบกมือปฏิเสธเป็นพัลวัน ไม่อยากให้เล็กเข้าใจผิดมากไปกว่านี้

"ไอ้เล็กมึงฟังกูก่อน" เจษฎาพยายามทำให้เล็กสงบลงแต่เหมือนเสียงของเขาจะเป็นการราดน้ำมันลงบนกองเพลิง ทำให้เล็กยิ่งมีปฏิกิริยาต่อต้านมากขึ้นมากกว่าเดิม

"กูไม่ฟัง..." เล็กกัดกรามแน่นพยายามดิ้นออกจากพันธนาการอย่างแรงจนทั้งตัวเขาและเก้าอี้ล้มลงฟาดพื้นเขาก็ยังไม่หยุดที่จะกระเสือกกระสนพาร่างเข้าไปหาเพื่อที่จะทำร้ายเจษฎาให้ได้

"มึงลองคิดดูดีๆ นะ ถ้ากูฆ่าพี่ใหญ่จริงกูจะเก็บมึงไว้ทำไม จัดการซะตั้งแต่ตอนที่มึงสลบอยู่ไม่ดีกว่าเหรอ" เจษฎาพยายามอธิบายด้วยเสียงเข้มพร้อมกับย่อตัวลงจะพยุงร่างเล็กให้กลับขึ้นมานั่งก็ยังไม่วายถูกเล็กยืนหน้ามาจะกัดเข้าใส่ จนเขาต้องเบี่ยงตัวหลบแล้วเสียหลักล้มหงายหลัง

"ใจเย็นๆ ก่อนนะพี่เล็กฟังที่พี่เจษเขาพูดก่อน" อ๊อดรีบเข้าไปขว้างและดึงเก้าอี้ขึ้นมา พร้อมกับจับเก้าอี้ไว้แน่นกันไม่ให้เล็กดิ้นจนล้มลงไปอีก

"......" เล็กนั่งนิ่งไปเล็กน้อย แต่ดวงตายังคงดุดันราวกับสัตว์ที่จ้องจะกินเลือดกินเนื้อคนที่เบื้องหน้า

"อ๊อดไปแก้เชือกออกก่อนไป" เจษฎาลุกขึ้นยืนทำท่าเหนื่อยใจ เล็กยังคงเป็นคนอารมณ์ร้อนเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ใช่ความผิดของเล็กจริงๆ แต่เป็นเขาต่างหากที่ใช้อาศัยความสนิทราวกับพี่น้องของคนในกลุ่มจับเขามาแบบนี้ ที่จริงเขาก็ไม่อยากใช้วีธีนี้เพราะมันทำให้เสียความเชื่อใจ ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้ทางเลือกมากนัก ในสถานการณ์ล่อแหลมแบบนี้ถ้ามีคนคิดจะทำร้ายเขาน้อยลงสักคนก็ยังดี โดยเฉพาะคนที่อันตรายที่สุดอย่างเล็ก

"แต่ว่า..." อ๊อดไม่เห็นด้วยเพราะยังเห็นว่าเล็กยังมีอารมณ์ครุกรุ่นอยู่ถ้าร่างกายเป็นอิสระก็คงไม่พ้นที่จะทำการอาละวาดยกใหญ่เป็นแน่

เป็นเจษฎาที่ผงกหัวยืนยันให้อ๊อดทำตามที่บอก ทันทีที่เชือกคลายตัวเล็กก็ทะลึ่งพลวดลุกขึ้นมาแล้วชกหน้าอ๊อดเข้าเต็มจนอ๊อดถึงกับล้มก้นจ้ำเบ้า เจษฎาจะเข้าไปช่วยก็ถูกเล็กมองตาขวางไม่ให้ยุ่ง ทำให้เขาต้องชะงักเท้าปล่อยให้เล็กจัดการตามที่ต้องการ

"ที่หลังอย่าทำแบบนี้พี่" เล็กชี้หน้าว่าพร้อมกับมองอ๊อดด้วยดวงตาดุดัน เขาเข้าใจดีว่าอ๊อดเป็นคนที่อยู่ตรงกลางระหว่างเขากับเจษฎานั้นลำบากใจแค่ไหนและก็พร้อมที่จะยกโทษให้อยู่แล้ว แต่ก็อดที่จะระบายอารมณ์ออกมาไม่ได้ ก็เลยจัดการสั่งสอนไปแค่หนึ่งหมัด

อ๊อดเอามือกุมแก้มข้างที่โดนชกแล้วกล่าวเสี่ยงอ่อยสำนึกผิด "ขอโทษครับ..."

"...มึงมีอะไรก็ว่ามาไอ้เจษ"  เล็กหลังจากจบเรื่องกับอ๊อดก็หันมาหาเจษฎาแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิมเตรียมตัวฟังสิ่งที่เจษฎาจะแก้ตัว

เจษฎาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นให้เล็กฟังอย่างละเอียดด้วยน้ำเสียงเศร้า ในใจเขายังคงอาลัยถึงใหญ่ทุกครั้งเวลาพูดถึง ระหว่าเหล่าก็เหลือบมองทั้งเล็กและอ๊อดเป็นระยะว่าปฏิหิริยาตอบสนองเป็นอย่างไร ซึ่งก้ไม่ได้ผิดจากที่เขาคาดการณ์ คือเล็กยังคงเดือดดาล ส่วนอ๊อดก็ดูสลดไปอย่างเห็นได้ชัด

"มึงมีหลักฐานไหม" เล็กถามเสียงห้วน

"ตอนนี้ยังไม่มี แต่กูเบาะแสแล้วอ๊อดกำลังช่วยหาอยู่" เจษฎาว่าออกมาเสียงอ่อน จนปัญญาเพราะตอนนี้มีแต่มือเปล่าไร้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์

หลังจากเจษฎาพูดจบเล็กก็ลุกพรวดขึ้นมาแล้วจัดการลงมือชกต่อยเจษฎา อ๊อดจะเข้ามาขว้างแต่เจษฎายกมือห้ามไว้ ปล่อยให้เล็กทำร้ายเขาจนกว่าจะพอใจ หวังว่าเพื่อนของเขาได้ละบายอารมณ์ออกมาแล้วจะใจเย็นลงไปบ้าง เล็กออกแรงกระทืบผ่านไปได้ครู่หนึ่งจนเริ่มหอบจึงหยุดการกระทำ

"...มึงไม่ได้ฆ่า...พี่ใหญ่จริงๆ ใช่ไหม..." เล็กถามเสียงหอบก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงกับพื้นอย่างหมดสภาพ ไม่ต่างจากเจษฎาที่นอนอ่วมอรทัยอยู่ห่างออกไปไม่ไกล

"...กูไม่ได้ฆ่า แต่ที่...พี่ใหญ่ตาย...เพราะกูมีส่วนเกี่ยว...ข้องเรื่องนั้นกูไม่ปฏิเสธ กูคงเห็นแก่ตัวเกินไปที่ไป...ขวางงาน...พี่ใหญ่...แบบนั้น" เจษฎาว่าไปอ้าปากพงาบๆ หายใจลำบาก ขณะที่นอนเพดาน

"......" เล็กไม่ตอบยังนั่งทำหน้าเหนื่อยเดาไม่ออกว่ากำลังคิดอะไร สายตายังคงมองเจษฎาที่พยายามขยับตัวเปลี่ยนท่าทาง

"สบายใจ...ขึ้นแล้ว...ใช่ไหม" เจษฎาลุกขึ้นนั่งอย่างอยากลำบาก เพราะเล็กกลงมือหนักมาก ถ้าไม่ใช่เขาอย่าว่าแต่พูดคุยหรือลุกขึ้นมานั่งเลย แค่ประตรองตัวไม่ให้สลบไปก็คงทำไม่ได้แล้ว ดีไม่ดีอาจถึงขั้นพิการหรือเสียชีวิตได้เลย

"เออ..." เล็กตอบห้วนๆ ถึงเขาจะสบายใจขึ้นมาบ้างที่เจษฎายอมพิสูจน์ตัวเองกับเขาได้ขนาดนี้ เมื่อเป็นอย่างนี้เพื่อนของเขาก็คงไม่ได้ลงมือฆ่าพี่ใหญ่จริงๆ แต่เขาก็ยังไม่ได้เชื่อใจเจษฎาทั้งหมดแต่ก็จะรอดูหลักฐานก่อนจะตัดสินใจทำอะไรต่อไป และมีอีกอย่างที่เขาติดใจคือเขาลงมือกับเจษฎาหนักขนาดนั้น กำปั้นของเขากลับไม่มีบาดเจ็บอะไรเลยไม่มีแม้แต่ลอยถลอกเล็กๆ มีแค่อาการปวดเมื่อยจากการออกแรงเตะต่อยเท่านั้น ยังไงซะการใช้หมัดเปล่าๆ ชกทำร้ายคนย่อมไม่ได้มีแต่คนที่ถูกชกเท่านั้นจะได้แผลคนชกเองก็น่าจะมีแผลเหมือนกัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันเหมือนกับว่าเขาชกใส่อากาศธาตุไม่มีผิด

"เรื่องของเราเอาไว้แค่นี้ก่อน เอาไว้จัดการไอ้พวกที่อยู่เบื้องหลังได้ก่อนค่อยว่ากันใหม่" เจษฎาเริ่มหายใจสะดวกการพูดจาไม่หายติดขัดลงไปมาก ก่อนจะกระเถิบร่างเข้าหาขอบเตียงแล้วเอนกายพิงเตียงไว้

"ใช่พี่ รอผมหาหลักฐานได้ก่อนะ" อ๊อดเสริม

"ตกลงตามนั้น" เล็กยอมรับข้อเสนอเพราะเขาเองก็ไม่ได้มีเพื่อนที่จริงใจกับเขาเหมือนสองคนนี้มากนัก อารมณ์ที่ร้อนอยู่ก็เย็นลงยังนึกเสียใจไปว่าถ้าเจษฎาไม่ได้หนังเหนียวแบบนี้เขาคงจัดการส่งเจษฎาไปหาพี่ใหญ่ไปแล้ว ซึ่งนั้นคงจะทำให้เขาเสียใจไปตลอดแน่ๆ ถ้ามารู้ความจริงที่หลัง ก่อนจะหันไปมองเจษฎาแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงทีเล่น่ทีจริง "มึงก็เก็บชีวิตมึงไว้ให้กูดีๆ ก็แล้วกัน อย่าไปโดนไอ้โง่ที่ไหนมาเล่นงานเอาอีก"

"หรือว่า..." เจษฎานึกย้อนไปในคืนที่ถูกทศพลบุกมาทำร้าย แต่เขาสลบไปก่อนจนไม่รู้ว่ารอดออกมาได้ยังไง เมื่อได้ยินเล็กพูดแบบนี้ประกอบกับที่ณัฐฐาเล่าให้ฟังว่ามีคนแอบบมาช่วยพวกเขาไว้ ก็คิดไปว่าคนที่มาช่วยคงจะเป็นเล็ก นั้นก็ทำให้โล่งใจที่เพื่อนรักยังเป็นห่วง ถึงจะเป็นการช่วยชีวิตไว้เพื่อที่จะได้ลงมือเองทีหลังก็ตาม

"มึงไม่ต้องพูดแล้ว กูอยากกลับไปพัก อ๊อดไปส่งพี่หน่อย"
อ๊อดยืนมองพี่ทั้งสองคนหยุดความบาดหมางได้ชั่วคราวก็ยิ้มออกได้บ้างเล็กน้อย เพราะถ้าให้เขาต้องเลือกเข้าข้างใครสักคนเขาคงทำไม่ได้แน่ๆ

"เฮ้ยไอ้เล็กเดี๋ยวก่อน" เจษฎานึกบางเรื่องขึ้นได้รีบทักก่อนที่ทั้งคู่จะออกจากห้อง

"อะไรของมึงอีกวะ" เล็กเริ่มรำคาญเล็กน้อย แต่ยังอยากรู้ว่าเจษฎาจะมีเรื่องอะไรมาพูดอีก

"มึงรู้เรื่องภูมิหลังเกี่ยวกับลุงที่สักให้เราบ้างรึเปล่าวะ"

"...กูก็ไม่รู้เรื่องอะไรของแกนักหรอก อยู่ดีๆ แกก็เข้ามาตีสนิทแล้วก็สักให้ กูก็ชอบแล้วก็เลยไม่ได้ขัดอะไร แต่พอเห็นมึงแล้วก็ต้องยอมรับเลยว่าของลุงแม่งดีจริง"

"มึงสักแล้วมีอะไรเกิดกับมึงบ้างรึเปล่ารึวะ"

"ยังไงวะ แบบยิงไม่เขาแบบมึงนะเหรอ ไม่มีอะไรแบบนั้นนะ เพราะมีใครทำให้กูได้แผลมานานละกูหลบได้หมด ถ้าของมึงเป็นคงกระพันของกูคงเป็นแคล้วคราดมั้ง นอกจากนั้นกูแค่รู้สึกว่าจะเคลื่อนทำอะไรก็ทำได้ตามที่คิดแบบง่ายๆ เลย ว่าแต่มึงถามทำไม"

"กูแค่รู้สึกว่าลุงช่างสักมันแปลกๆ มันดูลึกลับยังไงชอบกล"

"มึงไม่ต้องมาขู่ให้กูกลัวเลย กูจะไปแล้ว" เล็กพูดจบก็โบกมือตัดรำคาญไม่อยากฟังเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องของใหญ่ แล้วเดินออกจากห้องไป

อ๊อดเห็นแบบนั้นก็หันมาขความเห็นเจษฎาว่าจะให้ทำอย่างไรต่อ เจษฎาก็พยักหน้าให้เป็นสัญญาณว่าให้ทำตามที่เล็กต้องการ แล้วค่อยหาหลักฐานมาปรับความเข้าใจกันอีกที ทำให้ทั้งสามแยกย้ายกันออกไป

.................................................

ไม่กี่วันหลังจากที่กำนันได้อาวุธเด็ดมาไว้ในมือก็ไม่รอช้าที่จะใช้สิ่งนั้นจัดการหนามยอกอก เขารีบจัดการส่งข้อมูลนั้นไปให้ลูกจัดการปล่อยข่าวออกไปให้ทั่ว ทั้งแบบปากต่อปาก และทางโซเชียลมีเดีย ในโลกยุคปัจจุบันซึ่งข่าวสารสามารถแพร่ขยายไปได้กว้างไกล เพราะผู้คนสามารถเข้าถึงสื่อใหม่ได้อย่างง่ายดาย ซ้ำยังมีการกลืนเข้าหากันระหว่างสื่อใหม่และสื่อเก่าอีกด้วย ในเวลาเพียงไม่นาน ข่าวการเคยติดคุกข้อหาฉ้อโกงของเจษฎาก็ถูกกระจายออกไปจนทั่วเมือง ยิ่งช่วงเวลานี้เจ้าตัวไม่อยู่แก้ข่าวด้วยแล้วยิ่งทำให้เรื่องมันแย่เข้าไปใหญ่ แม้จะได้อ๊อดที่ใช้บัญชีปลอมหลายบัญชีค่อยแสดงความพูดถถึงความดีที่เจษฎาได้ทำในตอนที่เป็นอาจารย์ใบ้หวยคอยแย้งไว่บ้าง ถึงอย่างนั้นกระแสความไม่พอใจก็ยังกระจายตัวออกไปไวเหมือนไฟลามทุ่งอยู่ดี

ในเรื่องร้ายก็ยังมีเรื่องดี เพราะเหล่าผู้คนที่อยู่ใกล้ชิด ทั้งที่ได้ประโยชน์จากกระทำของเจษฎา และที่เคยเห็นเจษฎาแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์มาด้วยตาของตัวเอง คนเหล่านั้นยังคงเชื่อถือและศรัทธาในตัวอาจารย์อาคมผู้นี้อยู่ไม่เปลี่ยน

นั้นทำให้ชาวบ้านเสียงแตกออกเป็นสองฝ่าย คือพวกที่ไม่ได้สนใจอดีตเจษฎาเพราะเขาก็รับโทษติดคุกชดใช้ความผิดไปแล้วไปแล้วอีกทั้งตอนนี้เขาก็ยังอุทิศตนทำดีช่วยเหลือชาวบ้าน กับพวกที่เริ่มไม่ใว้ใจเจษฎากลัวว่าจะมาหลอกหาผลประโยชน์เอากับพวกตนเหมือนที่เขาเคยทำในอดีต แต่พวกหลังดูจะสร้างปัญหาได้มากกว่า จากความืั้เคยเชื่อใจก็กลายเป็นความโกรธแค้น

หมู่แมกไม้เขียวขจีหนาตาของสวนผลไม้ใต้แสงสีสนธยางดงามราวกับภาพวาด ทว่าภาพนั้นไม่ได้ช่วยให้จิตใจของผู้ที่กำลังจับจ้องมองภาพนั้นอยู่ให้มีความสุนทรีย์ขึ้นมาแต่อย่างใด ชายหน้าเข้มยืนค้ำราวระเบียง อัดควันที่มีสารเคมีช่วยให้ผ่อนคลายอย่างนิโคตินเข้าไปในปอดครั้งแล้วครั้งเหล่า

"เธอจะทำยังไงต่อ" ณัฐฐาพูดไปก็โบกมือไล่ควันบุหรี่ให้ลอยไปทางอื่น จนเจษฎาต้องดับบุหรี่ให้

"จะให้ทำอะไรก็มันเรื่องจริง ก็ต้องขอบคุณเธอนั้นแหละ" เจษฎาพูดอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะเบือนหน้าหนีไปมองอย่างอื่นให้สบายใจ

"ฉันก็ขอโทษแล้วก็บอกเหตุผลไปหมดแล้วนี่" ณัฐฐาตัดพ้อเล็กน้อย จะโทษเขาที่ยังผูกใจเจ็บก็ไม่ได้ สิ่งที่เธอทำถ้าเป็นคนอื่นคงจะจัดการทำร้ายเธอไปแล้วถ้ามีโอกาส เจษฎาก็ยังถือว่าใจกว้างมากแล้วที่ยังไม่ลงมือทำอะไร แค่พูดจากประชดประชันเป็นบางครั้งเวลาที่ถูกสะกิดปม

"ขอโทษที ฉันคงเครียดเกินไปหน่อย เธอพอจะมีวิธีอะไรไหม" เจษฎาออกปากขอโทษเพื่อรักษาบรรยากาศการสนทนา เขาคงจะมีเรื่องให้คิดมากไปอย่างที่บอกจริง ถึงได้ยินอะไรนิดหน่อยก็รู้สึกหงุดหงิด และสารพัดเรื่องที่เขาแบกไว้ก็ทำให้เขาคิดอะไรไม่ออกจริงๆ

"ตอนนี้ก็คงต้องหาตัวไอ้ทศให้เจอก่อน" ณัฐฐาเองก็คิดอะไรไม่ออกเหมือนกัน แต่ถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมก็น่าจะทำอะไรได้บ้าง จะติดก็ตรงที่ทศพลเหมือนหายเข้าไปในกลีบเมฆเสียดื้อ คนของเธอที่ส่งไปก็ไม่ได้ข่าวอะไรที่เป็นประโยชน์

"ไม่ต้องไปหาหรอก ข่าวนี้ต้องมาจากมันแน่นอน ตอนนี้คงกำลังตามหาตัวฉันอยู่นั้นแหละ" เจษฎาว่าอย่างรู้เจตนาของอีกฝ่าย เหมือนเขาเพิ่งจะรู้ตัวตนจริงๆของทศพล ที่เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นเหมือนกับงูพิษไม่มีผิด คนแบบนี้ยังไงก็หาทางจัดการเขาแน่และยิ่งมีตังช่วยที่ทรงพลังอยู่ในมือแล้วด้วย ก่อนจะกล่าวออกมาอย่างเหนื่อยใจเมื่อต้องหาทางรับมือกับของนั้น "แต่ก็นั้นแหละเจอแล้วจะทำยังไง มันมีกำไลนั้นอยู่เราจะเข้าใกล้มันได้ยังไง"

"ของนั้นก็ยังมีจุดอ่อน" ณัฐฐาว่าอย่างใจเย็น อย่างน้อยในหัวของเธอก็ยังมีวิธีรับมือกำไลนั้น จากการที่เธอมีข้อมูลของมันตั้งแต่สมัยที่ทำงานให้กับบริษัท

"จุดอ่อนอะไร" เจษฎาตารุกวาวสนใจกับสิ่งที่อดีตคนรักเพิ่งจะพูดออกมาเป็นอย่างมาก เพราะนั้นเหมือนกับแสงสว่างที่ปลายอุโมงเลยทีเดียว

"เอาเป็นว่าฉันมีวิธีจัดการละกัน เอาไว้เจอตัวทศแล้วฉันค่อยบอก" สาวใหญ่หลบสายตา ไม่อยากมองตาของอีกฝ่ายตรงๆ กลัวว่าความลูกสึกผิดจะทำให้เธอใจอ่อน

"เธอไม่ไว้ใจฉันเหรอ..." เจษฎาจ้องไปที่ณัฐฐาอย่างขึงขัง

"ไม่ใช่แบบนั้น เธอก็รู้ว่ากำไลนั้นทำอะไรได้ ฉันต้องระวังไว้ก่อน" ณัฐฐายังคงไม่สสบตาและบอกปัดไปดื้อๆ

"ก็ได้" เจษฎาไม่คาดคั้นอะไรต่อ แต่ก็เริ่มระแวงแล้วว่าณัฐฐาจะมีลูกเล่นอะไรหลังจากได้ของสิ่งนั้นกลับมา ทำให้เขายิ่งต้องระวังตัวมากขึ้นไปอีก พวกเขาปรึกษากันต่ออีกครู่ใหญ่ก่อนที่ณัฐฐาจะขอตัวกลับก่อนที่จะมีใครสงสัย

.................................................

ข่าวเสียหายมักจะกระจายออกไปได้เร็วกว่าข่าวดีเสมอ พ่อบ้านของคฤหาสน์เสี่ยพิพัทธ์แทบจะเป็นคนแรกๆ ที่รู้ข่าว และแน่นอนว่าเขาก็ต้องนำข่าวนี้ไปรายงานให้เจ้านายของเขาได้รับทราบเช่นกัน

"นั้นไงผมว่าแล้วไหมละ" ชายสวมชุดจีนยิ้มอย่างสะใจขณะที่รายงานข่าวให้ผู้เป็นนายที่นั่งหน้าเครียด

"ลื้อจะไม่รอฟังข้อมูลอีกด้านหน่อยเหรอ" เสี่ยพิพัทธ์ท้วง ในใจยังเชื่อมั่นว่าเจษฎานั้นไม่ได้มาหลอกเขาอย่างแน่อน

"จะไปฟังทำไมละครับ เอกสารนั้นก็ของจริง" พ่อบ้านย้ำเสียงจริงจัง

"...เหมือนลื้อจะดีใจนะ" เสี่ยพิพัทธ์หยีตามองพ่อบ้านที่กล่าวโทษเจษฎาจนออกนอกหน้าจนดูไม่ปกติ

"ก็มันจะมาหลอกเสี่ยนะครับ"

"ลื้อเคยเห็นคนที่จะมาหลอกที่ไหนเอาตัวบังมีดบังกระสุนให้บ้างไหมละ"

"....." พ่อบ้านถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเจอความจริงข้อนี้

"เรื่องอาจารย์เจษเอาไว้อาจารย์กลับมาแล้วค่อยว่ากัน ตอนนี้ไปเรียกคนของเราออกมาจากสำนักก่อน"

"ครับเสี่ย"

เสี่ยพิพัทธ์มองออกไปทางหน้าต่าง เสียดายคนมีฝีมืออย่างเจษฎาที่ไม่สามารถเอามาใช้งานได้แล้ว จนกว่าเรื่องจะเงียยบ ทำให้แผนการที่เขาวางไว้เพื่อเอาคืนกำนันประเสริฐต้องพักเอาไว้ก่อน

.................................................

ที่ห้องรับแขกของคฤหาสน์สองสาวลูกพี่ลูกน้องที่ไม่ได้เจอกันหลายวัน ใช้เวลาว่างมาพูดคุยกัน หลังจากพูดคุยเรื่องทั่วไปกันมาระยะหนึ่ง สุธิภาถามขึ้นด้วยน้ำเสียงประหม่าเล็กน้อย "เรียบร้อนแล้วเหรอคะ"

"อืม" อริสาพยักหน้าน้อยๆ ดวงตาฉายแววความเศร้าปนกับความโล่งใจ

"หมดเวรหมดกรรมกันสักทีเนอะ" สุธิภาเปรยออกมาอย่างลืมตัว หลังจากที่คิดถึงสิ่งที่อดีตพี่เขยทำกับพี่สาวาก็อดที่โกรธแค้นไม่ได้ จนแถบจะอยากพาคนของพ่อยกพวกไปสั่งสอนให้ได้สำนึกเสียใจสักครั้ง แต่เมื่อเห็นพี่สาวไม่ติดใจเอาความอะไรก็ล้มเลิกความคิดนั้นไป

"ทำไมพูดอย่างนั้นละ" อริสาตีหน้าสงสัยว่าน้องสาวเธอไปรู้อะไรมา

"...โสดแล้วสินะ มีใครมาจีบบ้างรึยัง" สุธิภานิ่งไปเล็กน้อยแล้วยิ้มกลบเกลื่อนพร้อมกับเปลี่ยนเรื่อง

"แหม่เพิ่งจะโสดได้แป๊บเดียว ยังมีใครหรอกตอนนี้" อริสาอมยิ้มแต่ก็คิดไปถึงอนาคตแล้ว

"เหรอ..." สุธิภาลากเสียงยาวแซวพี่สาว

"เด็กบ้า" อริสาเขินจนหน้าแดงก่อนจะเอานิ้วจี้ไปที่เอวญาติผู้น้องเป็นการหยอกล้ออย่างสนุกสนาน

"พอก่อนๆ หนู...ยอมแล้ว...มันจั๊กจี้..." สุธิภาร้องขอด้วยเสียงหอบก่อนจะหันไปเห็นพ่อบ้านที่ยืนมองอยู่จึงหันไปต่อว่า "...นี่มายืนฟังคนเขาคุยอะไรกันอยู่ได้ไม่มีมารยาท"

"คุณหนูเห็นข่าวรึยังครับ" พ่อบ้านเดินเข้ามใกล้พร้อมกับรอยยิ้มอย่างผู้ชนะ แต่รอยยิ้มนั้นกลับดุน่ารังเกียจในสายตาของสุธิภา

"ข่าวอะไร" สุธิภาถามเสียงห้วน

พ่อบ้านเปิดเพจที่โพสข่าวคลาวความเคลื่อนไหวของชุมชนในเมืองให้ ลูกและหลานของเจ้านายดู ซึ่งก็เป็นข่าวของเจษฎาซะเป็นส่วนใหญ่

"ไม่จริงอาจารย์ไม่ใช่คนแบบนั้นแน่" สุธิภาโพล่งออกมาเสียงแข็ง ใบหน้าแสเงออกถึงความไม่พอใจอย่างที่สุด แล้วขวางมือถือในมือใส่พ่อบ้าน

พ่อบ้านรับโทรศัพท์มือถือไว้ได้ทันก่อนจะพยายามอธิบาย "มันเป็นคนแบบนั้นแหละครับ มันกำลังมาหลอกคุณหนูกับครอบครัวคุณหนูนะครับ"

"หุบปากไปเลย จะไปไหนก็ไป ฉันไม่อยากฟัง" สุธิภาเอามือปิดหูแล้วหันหน้าหนี

"คุณหนู..."

อริสาโบกมือเบาๆ บอกให้พ่อบ้านออกไปก่อนแล้วเข้าไปกุมมือญาติผู้น้องอย่างอ่อนโยนแล้วยิ้มให้ จากนั้นจึงดึงเธอเข้ามากอดเป็นการปลอบประโลม

.................................................

ชาวบ้านนับร้อยมาโวยวายอยู่หน้าสำนักใบ้หวยเรียกร้องให้เจ้าสำนักออกมาให้ความกระจ่างแก่พวกเขา ซึ่งเกือบครึ่งของคนที่มาก็เป็นคนที่ถูกกำนันประเสริฐจ้างมาสร้างความวุ่นวาย ปิยะพงษ์ที่เข้ามรับหน้าแทนพยายามบอกว่าอาจารย์ของเขาไม่อยู่ที่บ้านก็ไม่ใครเชื่อ พวกที่จ้างมาก็ยิ่งกะโดกด่าขับไล่สร้างความปั่นป่วนไม่หยุด จนเจ้าของบ้านถอดใจต้องแอบเข้าไปหลบในบ้านอย่างช่วยไม่ได้

"พี่อ๊อดนี่มันเรื่องจริงเหรอ"

อ๊อดผงกหัวเบาๆ แม้จะไม่อยากให้ใครรู้แต่เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วก็ได้แต่ยอมรับ จากนี้ไปคงได้แต่หวังว่าเจษฎาจะจัดการเรื่องนี้ได้

"ทำไมละ ทำไมไม่บอกผมก่อน"

"พี่เจษเขาคงรู้สึกผิดนะ" อ๊อดรู้เรื่องพ่อของปิยะพงษ์จากเจษฎา และคิดว่าเขาคงจะไม่ชอบใจเท่าไหร่ที่อาจารย์ของเขาเคยทำอาขีพแบบเดียวกันกับพวกที่ทำให้พ่อเขาเป็นหนี้สินจนคิดสั้น ก็เลยไม่กล้าที่จะพูดออกไปเพราะไม่รู้ว่าปิยะพงษ์จะทำยังไง

"ผมแยกแยะได้น่า" ถึงจะพูดออกมาอย่างนั้น ปิยะพงษ์ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะนับถือเจษฎาได้อย่างสนิทใจเหมือนอย่างที่ผ่านมาได้หรือไม่ ทว่าเมื่อคิดย้อนกลับไปเจษฎาก็ไม่เคยทำอะไรให้เขาที่จะเกิดผลเสียกับเขา อีกทั้งยังช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเขาดีขึ้นด้วยซ้ำ

"งั้นเอาไว้พี่เจษกลับมาแล้วคุยกันเองแล้วกันนะ"

"อาจารย์จะยังกลับมาใช่ไหม"

"กลับมาสิ"

ถึงอ๊อดจะบอกไปอย่างนั้นแต่ก็ยังไม่มันใจเท่าไหร่เพราะยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ มาจากเจษฎา

.................................................
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

ชายชรา

อาจารย์เจษเริ่มโดนกดดันกับหลายเรื่องพร้อมๆกันรอติดตามว่าอาจารย์จะเอาตัวรอดยังไงครับ

Ttum1188

ยังดีนะที่อาจจะได้เล็กกลับมาเป็นพวกเพราะศัตรูของเจษเยอะเหลือเกิน

bkambang

จารย์เจษจะรับมือยังใงต่อทีนี้  รอลุ้นต่อครับ

Ttum1188

ยังดีนะที่อาจจะได้เล็กกลับมาเป็นพวกเพราะศัตรูของเจษเยอะเหลือเกิน

teerawatc

ขอให้ผู้แต่งสุขภาพแข็งแรงนะครับ  ยังติดตามเรื่องนี้อยู่ตลอด

ตอนนี้โควิดหนักหนาเหลือเกิน  หวังว่าจะมีการคิดค้นยารักษาได้ในเร็ววัน


btr12345

จารย์เจษจะพลิกสถานการณ์ยังไง รอลุ้นคับ

au2000

จารย์เจษ จะทำอย่างไร โดนกระหน่ำ
อย่างนี้

saranchai

เจษเจอทั้งขึ้นทั้งล่อง​ดีที่เคลียร์​ปัญหา​กับเล็ก​ได้​ไม่​งั้นวุ่นวาย​กว่า​เดิม​อีก​

จรัญ บุญชู

อาจารย์ต้องใช้สติคิดหาทางแก้ไข...ซึ่งมีชาวบ้านบางกลุ่มเท่านั้น...ส่วนพ่อบ้านนั้นน่าจะเป็นไส้ศึกในบ้านเสี่ยแน่ๆ

sunnyman

กำลังเข้มข้นเลย ถ้าถามผม ผมจะจบภาค 1 ด้วยการ clear สถานการณ์ ที่ ตำบล นี้ก่อน น่าจะโอเค เรื่อง บริษัทลับ น่าจะเก็บไว้ภาค 2 ได้ครับ

hunterkung

เจษงานเข้าละ  แก้ยังไงหนอ  รักษาตัวให้ดีนะครับ ขอให้ปลอดโควิท


ภูเขา

คนเลวๆอย่างทศอยากรู้จังจุดจบจะเป็นยังไง

aekkung

อาจารย์เจษจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ยังไง​ แต่คงจะไม่มีปัญหาหรอกสมองดีจะตาย เชื่อหัวไอ้เรืองได้