ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

บันทึกความชั่ว เมื่อผมใช้เมียน้อยร่วมกับลูก ๆ ตอนที่ 1

เริ่มโดย ChopdoojimMui, พฤษภาคม 19, 2023, 01:52:59 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ChopdoojimMui

เนื้อเรื่องอาจไม่ได้หวือหวาหรือมีรสชาติเซ็กส์อันจัดจ้านร้อนแรง และอาจมีการเล่นกับความรู้สึกอารมณ์ตัวละครบ้าง รวมถึงบทบางตอนเป็นการเล่าเนื้อหายาวๆ แต่ยังไงก็ ค่อยๆลองเปิดใจอ่านกันดูก่อนนะครับ หวังว่าจะชอบ ติชม-แนะนำได้เลยนะครับ


---------------------------

'มน' เกิดและโตในครอบครัวที่ขัดสน ตั้งแต่เด็กเธอต้องทำงานฝีมือ ให้ป้าห้องข้างๆเอาไปขาย เพื่อจะได้มีเงินกินข้าวกลางวันที่โรงเรียน เธอเคยเล่าให้ผมฟังว่าน้ำตาตกในเลยนะ ตอนรู้ว่าเพื่อนคนอื่นไม่ต้องทำงานอะไรก็มีเงินเหลือเฟือ มากพอซื้อขนมกินหลายถุง แต่ความลำบากไม่ใช่เหตุผลที่ผลักดันให้เธอกลายเป็นตัวเอกของเรื่องนี้หรอกนะ ไม่ใช่เลย ! นั่นยิ่งทำให้ผมชอบเธอ ต่อมา มนได้รู้จักกับ 'เจ๊' ซึ่งเป็นเจ้าของร้านนวดแห่งหนึ่ง เจ๊ไม่ใช่คนดีอะไร แต่เจ๊เมตตาเธอ ให้งานทำ ให้เงินใช้ มนจึงสำนึกบุญคุณเจ๊ตลอดมา ปกติมนจะทำงานอยู่หลังร้าน ซักล้าง ทำความสะอาด แทบไม่ออกมาหน้าร้านให้ใครเห็น แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมไปร้านนวดแห่งนั้นบ่อยมาก ก็เลยได้เจอกับหนูมนเข้าจนได้

เจ๊รีบปรามผม เหมือนที่ต้องปรามผู้ชายคนอื่น เพราะตอนนั้นเธอยังเป็นแค่เด็กมัธยม หนูมนน่ะสวยมากกก น่ารัก งดงาม รูปร่างตรงตามความต้องการของผู้ชายทั่วไปเลย แถมเธอยังโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมที่....หึๆๆ ที่ทำให้เธออัธยาศัยดี ร่าเริง กล้าพูดกล้าคุย ทันคน และเข้าใจความต้องการของผู้ชาย

โคตรโชคดีที่ผมเป็นคนแรกๆที่หนูมนได้พูดคุยด้วย ผมจึงได้รู้จักตั้งแต่วันที่เธอยังไร้เดียงสา แอบมองเข้ามาในห้องนวดวีไอพีด้วยแววตาเบิกกว้างตื่นตลึง แหม่ ก็ไม่ได้มีอะไรเกินเลยครับ แค่นวดเพิ่มสมรรถภาพนิดๆหน่อยๆ

จนถึงวัยที่เหมาะสม เจ๊ก็ชวนเธอออกมานวดให้ลูกค้าที่หน้าร้าน แน่นอนว่ารวมถึงนวดเพิ่มสมรรถภาพพิเศษ ก็อย่างที่ผมบอกไปว่าเจ๊ไม่ใช่คนดีอะไร หนูมนไม่ได้ตอบรับเจ๊ในทันที แต่ก็ฝืนความรู้สึกสำนึกบุญคุณของเจ๊ไม่ไหว จึงเริ่มนวดแบบปกติให้ลูกค้าก่อน แต่ก็แน่นอนหล่ะ ลูกค้าอย่างผมไม่ได้จะยอมนวดดีๆหรอก มีผู้ชายหลายคนที่อวดของลับให้เธอชม รวมถึงผมด้วย

อาการของเธอมันยิ่งทำให้เราเงี่ยน หนูมนทั้งสั่น ทั้งประหม่า แต่เจ๊ก็ไม่เคยว่าอะไรลูกค้าอย่างเรา ตราบเท่าที่ไม่มีอะไรเกินเลย เธอจึงได้แต่ทำทีเป็นไม่สนใจ แล้วพยายามนวดต่อให้จนจบ

ไม่นาน หนูมนก็ยอมนวดเสริมให้ลูกค้าคนพิเศษบางคน มนไม่เคยบอกว่าใครคือควยแรกที่เธอได้จับ แต่เพราะเวลาต่อมาผมมีความสัมพันธ์ที่สนิทกับเธอ ก็เลยรู้ว่าลูกชายของเจ๊นั่นแหละคนแรกที่บังคับให้เธอทำ อิจฉาจัง .. !!

ผมยังจำครั้งแรกที่มนกำควยของผมได้เลย เธออายและประหม่าจนเบือนหน้าหนี ขณะที่มือของเธอจับ และรูดขึ้นลง มันไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น แต่เธอคือ หนูมน ขวัญใจของผมไง และของอีกหลายๆคน ช่วงนั้นร้านของเจ๊คึกคักมาก มีลูกค้ารอต่อคิว 'นวด' จากมือหนูมนวันละหลายคน ผมเคยหวังเอาใจเธอ ด้วยการจองคิวสุดท้ายของวัน แล้วยอมให้เธอพัก ไม่ต้องทำอะไรเลย แค่นั่งอยู่ในห้องตอนที่ผมช่วยตัวเองก็พอ แต่ว่า ก็เคยมีผู้ชายคนอื่นพูดและทำแบบนี้กับเธอแล้ว เธอไม่ได้รู้สึกซาบซึ้ง หรือขอบคุณอะไรผมเลย สำหรับเธอ ผมก็แค่ผู้ชายหื่นๆอีกคน

และนั่นทำให้ผมเจ็บจึ๊ก !!!

หึๆๆ ผมเฝ้าสอนคนอย่างเธอตลอดว่าอย่าเอาใจลงมาเล่น แต่มันเป็นผมเองหรอกหรอที่พลาดท่า ???

มนโตในร้านนี้ เธอย่อมรู้ดีว่าอะไรคืออะไร ไม่มีทางที่มันจะจบแค่นวดด้วยมือหรอกนะ เธออ้อนและต่อรองเงื่อนไขที่เจ๊พึงพอใจและเธอยังรู้สึกโอเค ฐานลูกค้าจึงต้องขยายออกไป จากแค่ลูกค้าคนพิเศษ ก็กลายเป็นลูกค้าธรรมดาที่แตะราคาถึง ผมยังคงไปนวดบ่อยๆ แต่ไม่ได้รอต่อคิวของเธอ กระทั่งครึ่งปีถัดมา ตอนที่ผมได้คิวเธออีกครั้ง หนูมนก็แกร่งกล้าในวิชาเสียแล้ว

วันนั้น เธอนุ้งผ้าขนหนูผืนเดียวเดินเข้ามา ท่าทางเธอมั่นใจและมืออาชีพมากเลย แต่พอเธอเห็นผมแล้ว กลับสะดุ้งเล็กน้อย เหมือนเจอญาติที่รู้จักมาตั้งแต่เด็ก หึๆ ผมแอบดีใจที่เห็นอาการแบบนั้นของหนูมนนะ เธอทักทายว่าไม่ได้เจอเสียนาน ผมก็แซวว่าเข้าใจละว่าทำไมแพงขึ้น ผมอ้างสายสัมพันธ์เก่าแก่เพื่อขอเป็นฝ่ายปลดผ้านุ่งให้ เธอก็ตกลง หนูมนดูมั่นอกมั่นใจและภาคภูมิใจในตัวเองมาก เธอแอ่นโชว์โดยไร้ความอาย เร้าอารมณ์ฉิบหาย เรือนร่างที่โตวัยกำลังดี นุ่มนิ่ม ชุ่มฉ่ำ อวบเบาๆแบบกำลังดี สำหรับคนที่ชอบอวบเลยอาจไม่พึงใจที่สุด แต่รับรองได้ว่าจะขยำไม่มีเบื่อ ผมต่อรองขอสัมผัสเรือนร่างของเธอดูสักหน่อย ไม่สิ อย่าเรียกว่าต่อรองเลย เพราะเธอมีราคาที่กำหนดเตรียมไว้พร้อมอยู่แล้ว ต้องเรียกว่าขอดูเมนูเสริมจะดีกว่า ผมค่อยๆเลือกทีละอย่าง ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย จนได้จับ ได้จูบ ได้ลูบ หลายอย่างที่อยากจะทำมาตลอด แม้จะมีกฎมากมาย ห้ามกัด ห้ามขยำแรง ห้ามทำพิเลน กฎมากขึ้น ตามประสบการณ์ที่มากขึ้นของเธอ แต่ผมก็ยินยอมทั้งหมด และยิ่งหลงในตัวเธอ จนตกลงกับราคาที่แพงที่สุดเลย นั่นก็คือให้เธอนวดบำบัดด้วยการออรัล !!! มนพยักหน้ารับนิ่งๆ

หลังจากนวดพอเป็นพิธี เธอก็รวบผมแล้วก้มลงอมมังกร มนโผงกหัวขึ้นๆลงๆ เชี่ยยยยย เสียวเหี้ยๆเลย ดูก็รู้ว่าเธอทำมาบ่อยแล้ว ค่อนข้างเป็นงานเลย แต่...จะบอกว่า ดี ก็ยังไม่ได้ ไม่รู้สิ เหมือนว่ายังขาดอะไรบางอย่างไป แต่ที่แน่ๆ ทำไมเธอดูเชี่ยวชาญขนาดนี้ ไม่กลัว ไม่เกร็ง ไม่ประหม่า อะไรเลย โอยยย ผมเกิดหวงขึ้นมา หวงบ้าอะไรก็ไม่รู้ มันเป็นอาชีพเธอ โอยย หัวใจจะขาด มันโคตรจะรู้สึกบ้า วุ่นวายไปหมด อยากแสดงความเหนือกว่าผู้ชายคนที่ผ่านๆมา จึงอดไม่ได้จริงๆที่จะแซวเธอสักหน่อย ถึงครั้งแรกๆที่เธอยังดูตื่นตลึงตอนแอบดู มาวันนี้เก่งกล้าเลยเชียว มีรอยยิ้มปรากฎขึ้นบนใบหน้านั้นเล็กน้อย หัวใจผมฟู ยิ่งตกหลุมของเธอลึกกว่าเดิม ผมคิดเข้าข้างตัวเอง ระหว่างนั้นจึงพยายามเร้าเธอ หวังให้เธอชอบและมีอารมณ์ร่วม คงเหมือนอย่างที่ผู้ชายคนอื่นพยายามทำ และผมก็พบว่าสิ่งที่เธอดูขาดไป คือ ความมีชีวิตชีวา มนทำเป็น ทำเก่งเลยแหละ แต่เธอก็แค่ทำๆให้มันจบๆไป เธอตั้งใจ แต่ไม่ใช่ด้วยความเสน่หา และถึงแม้ว่าผมอาจทำให้เธอเกิดอารมณ์ขึ้นมาได้ แต่เธอก็จะซ่อนมันเอาไว้อย่างมิดชิดจนผมไม่อาจสัมผัสได้ เธอพร้อมปฏิเสธเมื่อไม่ได้มีผลประโยชน์อะไร

และผมก็รู้สึกจึ๊กอีกรอบ บ้าบอที่สุด !!!

ระหว่างที่มนกำลังบ้วนปาก ผมก็สังเกตุเห็นว่าร่องจิ๋มของเธอนั้นยังไม่เปิดปริ ราวเด็กสาวที่ไม่เคยร่วมรักกับชายใด ผมเลยไถ่ถามว่ายังซิงอยู่รึเปล่า มนยิ้มแบบเสแสร้งตอบว่า ทำงานแบบนี้แล้วจะยังซิงอยู่ได้ยังไงหล่ะ สีหน้าเธอดูไม่สบอารมณ์ ผมแอบดีใจที่เธอแสดงออกกับผม โดยลืมถึงฐานะลูกค้า ไม่รู้นะว่าผมคิดเข้าข้างตัวเองอีกรึเปล่า

ก่อนจะหมดเวลาอย่างสิ้นเชิง ผมบอกกับเธอตามตรง แม้ว่าเธอจะเคยได้ยินมาแล้ว แต่ผมก็ขอชื่นชมฝีมือของเธอด้วยถ้อยคำหื่นหมื่นตัณหา ว่าเธออมได้เก่งมากก โคตรเสียว มือนุ่ม อกนุ่ม ขนหียังนุ่มเลย ชอบเธอทุกอย่าง มนอมยิ้มบอกว่าขอบคุณนะคะสำหรับคำชม แล้วเดินออกไป

.....

ผมคิดถึงมนตลอดหลายวันถัดมา และนั่นคงทำให้โชคชะตาเห็นใจ เย็นวันหนึ่ง ผมเห็นคนเหมือนกับเธอเดินอยู่ในห้าง ก็เลยลองเดินตาม จนใกล้ถึงตัว แต่แล้วจู่ๆเธอก็หันหลัง เดินกลับมาทางเก่าทันที ผมเห็นว่าเป็นหนูมนแน่ๆแล้ว ก็เลยเข้าไปทัก เธอดูตกใจ ตระหนกเล็กน้อย แต่เธอควบคุมสติเอาไว้ ในวินาทีถัดมาเธอก็ยกมือไหว้สวยๆ พร้อมทักทายว่า "สวัสดีค่ะคุณพ่อ"

ผมรับไหว้งงๆ แล้วสังเกตุเห็นว่าข้างหลังของเธอเป็นนายธนาคารคนหนึ่งหยุดชะงักเสียก่อนที่จะมาถึงตัวของเธอ ผมเดาสถานะการณ์ แล้วตัดสินใจพูดตอบรับออกไป

"เป็นไงบ้างง นี่ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ แล้วอยู่มหาฯลัยเจอลูกพ่อบ้างป่าว มันดื้อไหม ฟ้องพ่อหน่อย"

เธอทำหน้าโล่งใจที่สุดในชีวิตออกมา แล้วแสร้งยิ้มแสดงละครคุยต่อทันที นายธนาคารคนนั้นจึงถอยห่างออกไป พอผมเห็นว่าเขาหันไปมองทางอื่นชั่วขณะ ก็เลยขยิบตาให้ แล้วชวนเธอเดินไปอีกทางด้วยกัน

ผมพาเธอไปนั่งพักที่ฟู้ดคอร์ทของห้าง พยายามทำตัวเป็นคนดีด้วยการไม่ถามอะไร จนเธอบอกว่าโอเคแล้ว และขอบคุณมากๆนะคะ มันเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าได้รับคำขอบคุณที่จริงใจจากเธอ

นั่นเป็นครั้งแรกเลยนะที่ผมได้ตระหนักว่าเธอต้องเผชิญเรื่องราวมามากมายแค่ไหน ผ่านการกระทำหื่นทรามลามกต่างๆจากลูกค้าและคนในร้าน ซึ่งเป็นเวลาส่วนใหญ่ของชีวิตเธอ แล้วยังต้องมาเจอ...น่าจะใช่นะ ผมเดาว่า ต้องมาเจอลูกค้า ในชีวิตจริง ที่เธอไม่รู้เลยว่าจะสู้หน้าเขายังไง

และนั่นเป็นครั้งแรกเลยมั้งที่ผมรู้สึกว่าเธอไม่ใช่แค่สิ่งของ หรือ วัตถุทางอารมณ์ วันนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นเธอเป็นคน เป็นเพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง ... ผมจำไม่ได้แล้วว่าปล่อยมุกอะไรออกไป แต่ผมมั่นใจมากว่าไม่ใช่มุกหื่นๆ หรือทะลึ้งตึงตัง ไม่ใช่เรื่องต่ำๆ ไม่ใช่เรื่องไม่ดี หนูมนได้ยิน และขำ เหมือนกับตอนที่เธอยังเป็นเด็ก เป็นใบหน้า และรอยยิ้มที่มีความสุขอย่างจริงใจ แม้ว่าจะยังไม่สิ้นความกังวล

เราได้นั่งคุยกันต่ออีกสักพัก คุยแบบ ทั่วไป ฟ้าฝน การเมือง ราคาเงินระหว่างประเทศ ผมไม่ได้แตะต้องเรื่องของเธอเลย แต่เล่าเรื่องของตัวเองบ้าง เช่นว่า เพิ่งหย่าขาดกับเมีย ตอนนี้บ้านรกมากก ไม่มีคนดูแล แล้วไปเรื่องอื่นต่อ ผมคุยกับเธอโดยที่ไม่มีเรื่องแบบนั้นอยู่ในหัวเลย กระทั่งเธอเป็นฝ่ายพูดออกมาเอง เธอเหมือนอัดอั้น เริ่มด้วยการขอบคุณผมอีกครั้ง เหมือนจะตัดจบบทสนทนา แต่กลับพรั่งพรูออกมา "หนูไม่รู้เลยว่าถ้าหันมาไม่เจอ หนูจะทำยังไง" / "หนูไม่เคยชอบเขาเลย แต่หนูปฏิเสธเจ๊ไม่ได้" / "จริงๆหนูก็คิดมาตลอดว่าถ้าเจอคนพวกนี้ข้างนอกหนูจะทำตัวยังไง" แล้วมนก็เกือบจะร้องไห้

เธอเป็นแค่เด็กสาว ตัวคนเดียว ไม่ได้รู้สึกว่ามีใครอยู่เคียงข้างเลยจริงๆ ผู้ชายทุกคนก็หวังจะอึ๊บเธอ ถ้าเพื่อนคนไหนได้รู้ว่าเธอทำงานอะไร ก็คิดไม่ดีกับเธอทั้งนั้น เจ๊หรือคนในร้านก็ไม่ใช่เซฟโซน เพราะยิ่งเป็นตัวผลักดันให้เธอมาถึงจุดๆนี้ เธอไม่เคยด้อยค่าตัวเองหรอกนะ เธอเข้าใจดีว่าควรจะคิดอย่างไร แต่เธอก็ยังอายุเพียงเท่านี้ และมันเป็นครั้งแรกๆที่เธอได้เจอเหตุการณ์นี้ มันคงจะยากที่มนจะรับได้ แถมเป็นคนที่เธออี๋ด้วยที่สุด และเขายังเดินตรงมาหาเธอด้วยสีหน้าสุดจะเหี้ย

ผมได้แต่นั่งฟังเธออยู่เงียบๆ เพราะโชคล้วนๆเลยนะ โชคที่ไม่ทักเธอก่อน โชคที่มีทิชชู่ติดกระเป๋า แม้ว่าเธอจะได้ใช้ไม่มากเพราะไม่กล้าร้องไห้ออกมา และโชคที่ดีกว่า...คือผมไม่ได้มาห้างคนเดียว ... เรานั่งอยู่ตรงนั้นนานสักช่วงหนึ่งเลย จนเธอพรรณาทุกอย่างจบ ในระหว่างที่มนพยายามอดกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลรินมากไปกว่าเดิม ก็มีเสียงเด็กน้อยร้องขึ้น

"เฮ้ยพ่อ !! ไปทำอะไรใครมาเนี้ย ทำไม พี่เขาร้องไห้" นั่นคือครั้งแรกที่ 'ซัน' ลูกชายคนเล็กได้เจอกับพี่มน เธอดูแปลกใจ เพราะผมไม่เคยเล่าถึงเรื่องครอบครัวมาก่อน มนรีบเช็ดน้ำตาและปรับสีหน้าให้ดีขึ้นตามมารยาท เธอเงยมองดูเขาเล็กน้อย แล้วในชั่ววินาที ผมก็รู้สึกถึง...การตกหลุมรัก

"เอ้ยพี่ ไม่เป็นไรน้าาา พ่อผมทำไรพี่ บอกมาผมจะจัดการให้" เจ้าซันเพิ่งจะขึ้น ม.2 แต่ตัวสูงพอๆกับพวกเด็กม.ปลายแล้ว เขาเป็นเด็กชายหน้าตาน่ารัก ได้แม่เขามาเลย ผิวนี่ขาวผ่อง ดูสะอาดสะอ้าน รู้จักแต่งตัวและดูแลตัวเองอย่างดี นิสัยดีน่ารกสมหน้าตา และอัธยาศัยดีมาาาก ซันชอบมองโลกในแง่ดี และด้วยความที่เป็นลูกหลง เกิดห่างจากพี่ๆ เลยไม่ทันได้เห็นความเลวระยำของผมจนติดเป็นนิสัยไปด้วย ซันไม่ได้แตะต้องตัวหนูมน เขาเพียงดึงทิชชูจากซองที่วางอยู่ตรงหน้าเธอ ส่งให้เธอ ท่าทางจริงจังของซันทำให้มนมีรอยยิ้ม

"ขอบคุณ พ่อเราไม่ได้ทำอะไรพี่" เธอรับและอธิบาย เจ้าซันจึงเริ่มนั่งลงสักที

"แล้วนี่ เกิดอะไรขึ้นหรอครับ .... พ่อ !!!" พอถามแล้วพี่เขาไม่ตอบ เลยหันมาทางผม

"ไม่ใช่เรื่องของเอ็ง ... นี่ เพื่อนของพ่อ ชื่อพี่มน" ผมไม่รู้หนิว่าจะแนะนำยังไง

"เพื่อนหรอ !!!" เขาทำเสียงสูง

"ทำไม เอ็งบอกเองหนิว่าช่วงวัยไม่ใช่อุปสรรค์ของความสัมผันธ์" ผมเหลือบมองหนูมน สังเกตุเห็นรอยยิ้มที่ไม่ปกตินั้น เจ้าซันไม่มีอะไรจะเถียง และไม่กล้าถามต่อจึงเงียบปาก หนูมนอาการดีขึ้นมาแล้ว มีรอยยิ้มที่สดใสบนใบหน้า ผมหยอกล้อเล่นกับเจ้าซันต่อหน้าเธออีกสักหน่อย เธอไม่รู้ตัวเลยสินะว่าหยุดยิ้มไม่ได้แล้ว

พอเห็นว่าบรรยากาศกำลังดี ผมจึงให้กำลังใจเธอไปว่า ทุกคนสามารถเลือกชีวิตของตัวเองได้ แน่นอนว่ามันไม่ได้ง่าย แต่เพื่อนอย่างผมยินดีช่วยเธอนะ เพื่อนใหม่อย่างเจ้าซันก็ยังยินดีจะช่วยเลย ใช่ไหม ? ผมถามนำ ซันก็พยักหน้างกๆ ผมมันไส้ลูกชาย เลยแซวว่าจะเอาเงินค่าขนมของทั้งเดือนมาให้พี่มนแทนนะ แต่ใครจะไปนึกว่ามันจะยังคงพยักหน้าอย่างจริงใจ จนแววตาของเธอมีความประทับใจ

"จริงๆนะ ผมยกให้พี่เลยก็ได้ พี่ลำบากใช่ไหม ผมไม่ลำบากเลย ผมยกให้" ยิ่งมันพูด แม้ว่าจะดูไร้เดียงสา แต่ผมยิ่งรู้สึกว่ามันชนะใจหนูมนมากขึ้น ทีแรกก็มันไส้อิจฉา แต่แล้ว ผมก็วูบ...นึกความคิดเหี้ย ๆ หนึ่งขึ้นมา

"จำได้ว่าหนูเรียนเก่งหนิ สนใจติวหนังสือให้เจ้าซันไหม"

1819

  พ่อเล็งมานาน แต่สาวมน กลับสะดุดใจเจ้าซัน   คงเป็นเพราะวัยไล่ๆกันไม่ห่างกันมาก 
กรุงเทพเป็นเมืองที่มีคนเหงา มากกว่าเสาไฟฟ้า

napalm007

ถ้าหนูมน งาม ซ่ะขนาดนี้

พ่อลูก ใช้ของ ร่วมกัน น่าจะไม่มีปัญหา อะไร

pamaaeng


arsenyo

รออ่านบันทึกตอนต่อไปครับ ถ้ามีภาพประกอบด้วยจะยิ่งดีเลย

kazu36


เสือเฒ่า

ชอบการเล่าเรื่องมากครับ มันเหมือนตัวละครมีชีวิตจริงๆ

peddo

น่าติดตามมากครับ ว่าพ่อกับลูก ใครจะได้ก่อน แล้วสุดท้ายเธอจะเลือกใครจากชื่อเรื่องน่าจะเป็นพ่อเปิด แต่สุดท้ายอาจเตลิดไปกับลูกชาย ยังไง​ๆ ก็แบ่งพ่อบ้างนะ แกสู้อยู่ได้ไม่นานหรอกลูก ลืมไปว่ามีคำว่า ลูกๆ สงสัยหนูมนจะเจอศึกหนัก

therasak

ธรรมชาติ​ของผู้ชาย​ก็หื่นทั้งนั้น​ ต่างกันที่แสดงออกชัดเจนแค่ไหน​ ถ้าเพิ่มรายละเอียดลักษณะ​ตัวละครอีกนิด​ น่าจะเพิ่มความสนุก​ขึ้นอีกครับ

MiddleFinger

เล่าเรื่องได้ดีครับ ไม่เร่งไม่อืดจนเกินไปครับ
แล้วก็ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เว่อวังมากเกินไปด้วยครับ
รอติดตามนะครับ

donki


tommot

อ่านเพลินดีครับ ตัวละครดูมีมิติ มีความรู้สึกนึกคิดดี