ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_Monchai-S

มลทินดอกไม้-ตอนที่30

เริ่มโดย Monchai-S, พฤศจิกายน 18, 2021, 10:19:37 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

Monchai-S

        ทักทาย เพื่อนๆพี่ ที่ติดตามเรื่องนี้ครับ ช่วงนี้พอมีเวลา เลยจะมาทยอย ลงเรื่องนี้ให้อ่านกันต่อนะครับ
อาจจะขาดช่วงไปบ้างตามเวลาที่มีนะครับ


มลทินดอกไม้-ตอนที่30


     เสียงเอะอะโวยวายร้องไห้ตีโพยตีพาย ของป้านุ่นเหมือนแกสูญเสียของที่มีค่าอะไร ไปสักอย่างทําให้แววรัตน์นึกฉงน เสียงของ แกดังอยู่ในห้องโถงข้างล่าง แต่ไหนแต่ไร แกไม่เคยได้ขึ้นมาบนตึก แกทํางานอยู่แต่ ในครัว เมื่ออาหาร เรียบร้อยก็จะเป็นหน้าที่ ของอิ่มหลานสาวของแกหรือไม่ก็เป็นลายตอง ส้มเช้า พากันยกขึ้นมา แล้วนี่มันเกิดเรื่อง อะไรขึ้นแกถึงได้ขึ้นมาโวยวายอยู่บนตึก
     แววรัตน์ค่อยๆ ลุกขึ้นยืนรู้สึกเข่ามันอ่อน ชอบกล สองขาตั้งและดูจะเคล็ดเล็กน้อย พอตั้งตัวได้ก็เดินออกมาจากห้อง ครั้นพ้น ห้องแล้วก็มายืนเกาะลูกกรงเพื่อช่วยพยุง การทรงตัวเอาไว้สายตามองลงไปข้างล่าง
ภาพที่เห็นคือกองทุนสามีของตนกําลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ ตัวยาว หน้าตาเครียด ผมยุ่ง โดยมีป้าปุ่นยืนท้องพลุ้ย ยื่นออกมาจากผ้าลายเก่าๆ เสื้อชั้นในสีขาวค่อนข้าง คล้ําไปด้วยน้ําหมากความหลวมของเสื้อทําให้มอง เห็นนมของแกห้อยลงมาต่ํา ในมือของแกกําผ้าสีขาว ดูไม่ถนัดว่าเป็นอะไร ใบหน้าของแกมีคราบ น้ำตาดูจะพอกับคราบน้ำหมากที่ย้อยออกมาทางริมฝีปาก
     ท่าทางของแกบอกชัดว่าเป็นอะไรที่เป็นกัน ไม่ กลัวมันทั้งสิ้นไม่ว่าหน้าอินทร์หน้าพรหม ปกติแกก็ เป็นคนปากคอระรานกับเด็กๆ ในบ้านอยู่เสมอ ด้วย ถือว่าตนเองเป็นคนเก่าแก่อยู่มาก่อน อยู่มาตั้งแต่สมัย คุณเทียมบัวแม่ของเทียมดาวหรือลูกเนียงยังไม่ตาย แต่ว่าแกไม่เคยรุนแรงด้วยการแสดงออกกับนายจ้าง ถึงขนาดนี้
"คุณ คุณไม่น่าทํากับเด็กอย่างงี้เลย" แกยกมือ ข้างที่ไม่ได้ถือผ้าสีขาวขึ้นชี้หน้ากองทุน
"คุณเห็น หลานสาวของฉันเป็นอะไร ฮือ?" แกแผดเสียง แหลม
"เห็นว่าเป็นขี้ข้าแล้วก็ข่มเหง ข่มขืน เอาตาม ใจชอบได้อย่างงั้นเรอะ" แกเปล่งเสียงให้ดังขึ้นอีก เมื่อเห็นร่างของแววรัตน์ยืนเกาะลูกกรงอยู่ข้างบน เหมือนจะบอกให้แววรัตน์รับรู้เอาไว้ด้วย
"เดี๋ยวก่อนป่านุ่น ค่อยๆ พูดกันก่อน" กองทุน ยกมือขึ้นห้าม รู้สึกๆ มึนงงอยู่ไม่หายที่อยู่ๆ ป้านุ่นก็ โผล่พรวดเข้ามาแจ้งข้อหาเหมือนโดนชี้ตัวว่าเป็นคนร้าย ก่ออาชญากรรม
"ค่อยๆ อะไรกันไม่ค่อยแล้ว" ป่านุ่นแผดเสียง ลั่นกว่าเดิม นับว่าแกสวมบทบาทได้ไม่เลว แกเดิน ตามบทที่ลายตองแนะนํามาอย่างดีที่สุด
"ไม่ต้องค่อย กันแล้ว วันนี้เป็นไงก็เป็นกัน มีอย่างที่ไหน เรียกให้ ไอ้อิ่มมันเอาผ้าเย็นมาเช็ดตัวให้ แล้วคุณก็ใช้อํานาจ บาตรใหญ่ถือว่าเป็นนายปลุกปล้ําข่มขืนมัน" ถึงตอนนี้ แกบีบน้ำตาออกมาอีกทําให้เสียงของแกสะอึกสะอื้น เพิ่มน้ำหนักความเป็นจริงมากขึ้น
"ข่มขืน" กองทุนคิ้วขมวดพยายามรื้อความ ทรงจํา
"ก็ข่มขืนน่ะซี" "ฉันปะข่มขืน
"ก็คุณน่ะแหละ" ป้านั่นยกสองมือขึ้นเท้าเอว แม้จะมีน้ำตาแต่ใบหน้าของแกเหมือนยักษ์ เหมือน ปีศาจพร้อมที่จะเข้าเล่นงานเหยื่อ
"ฉัน..ฉัน.." กองทุนพยายามนึก แต่นึกเท่าไร ก็นึกไม่ออก
"คุณไม่รู้จักเหรอ ข่มขืนน่ะ ข่มขืนอย่างที่คุณ เคยทํากับเด็กคนอื่นๆ ไงล่ะ" สายตาของป้านุ่น เหลือบขึ้นมามองแววรัตน์เหมือนจะบอกให้ช่วยรับรู้ เอาไว้ด้วยว่าสามีของเธอเป็นคนอย่างไร
"แต่เด็กคน อื่นมันไม่มีปัญญา ไม่มีปากมีเสียงจะเรียกร้องเอาอะไร ได้ คุณเลยย่ามใจใช่มั้ยหรือว่าไม่จริง" ป้านุ่นตั้งคํา ถามซึ่งกองทุนหมดปัญญาที่จะตอบเพราะมันจริงของ แกทุกอย่าง แต่สําหรับอิ่มหลานสาวของป้านุ่น กองทุน ไม่แน่ใจ
"เดี๋ยวๆ ฉันไปทํากับหลานสาวของป้าแต่เมื่อ ไหร่" กองทุนพูดโดยหางตาของเขาปรายมาข้างบน เห็นแววรัตน์ยืนเท้าลูกกรงฟังเหตุการณ์อยู่อย่างสงบ
     ใบหน้าของแววรัตน์เฉยเมย ขาวซีด สองขาขาวที่ยาวออกมาจากกางเกงขาสั้นก็ ดูจะอ่อนซีดไปด้วย มันเหมือนกับหล่อนเกิด ความตกใจที่ได้ยินเรื่องเช่นนี้ เป็นเรื่องที่หล่อน ทนรับรู้ไม่ได้ ริมฝีปากหล่อนสั่นระริก ดวงตา อ่อนระโหยแห้งผากคล้ายกับหล่อนเริ่มจะช็อค เพราะนึกไม่ถึงว่าสามีที่ตนรักเทิดทูนจะกลาย เป็นคนเช่นนี้ไปได้ หล่อนผิดหวังและเสียใจ.. กองทุนคิดเช่นนั้น
     แต่ความเป็นจริงแล้ว แววรัตน์มีใบหน้าที่ขาว ซีด เนื้อตัว ดวงตาอ่อนระโหยไปหมดเพราะถูกเจ้า กําบังมันบดมันรีด มันเค้นเอาความหวาน เค้นเอา เลือดเนื้อออกไปจากตัวและฉีดเอาเลือดเนื้อของมัน เข้ามาแช่แข็งคลักอยู่ในอวัยวะทุกชิ้นในหน้าท้องของ เธอต่างหาก เลยทําให้พานจะเป็นไข้ หนาวๆ ร้อนๆ ชอบกล อาการเหล่านี้ที่ปรากฏกับสายตาของกองทุน กลายเป็นสิ่งที่มีประโยชน์กับเธอ ยิ่งเธอเบือนหน้า เล็กน้อย และขยายริมฝีปากนิดๆ ทําให้กองทุนเข้าใจ ว่าหล่อนเชื่อคําพูดทุกคําของป้านุ่น โดยหารู้ไม่ว่า กิริยาที่หล่อนแสดงออกเช่นนั้นเพราะมันเจ็บจากแผล ที่ต้นคอซึ่งโดนเจ้ากําบังมันกัด และดูจะเริ่มอักเสบ อยู่ใต้คอเสื้อเชิ้ตปกสูง..ในความคิดของหล่อน มันจะกลายเป็นบาดทะยักหรือเปล่าก็ไม่รู้ซิ หัวใจที่ เจ็บปวดไม่ได้เกิดจากการได้ยินป่านุ่นแกกล่าวหาว่า สามีข่มขืนหลานสาวของแก แต่มันเจ็บปวดที่โดนเจ้า กําบังทําเอาอย่างโหดร้ายและหยาบคาย แต่เรื่องมันกลายเป็นลงตัวเข้ากันได้อย่างสมเหตุสมผล
เป้านุ่นแกสวมบทบาทของโจทก์ผู้แกล้ง กล่าวหาได้ไม่เลว
     แววรัตน์ก็สวมบทบาทของภรรยาผู้ผิดหวังใน ความประพฤติของสามีได้ไม่ใช่ย่อยและดูเหมือนบท ของหล่อนจะเหนือกว่าป่านุ่น เพราะมันมีความรู้สึก และความเจ็บกายเจ็บใจอยู่ในตัวจริงๆ
กองทุนเองก็งงๆ อยู่เหมือนกัน พอจะรู้เป็น เลาๆ ว่าอิ่มมันเอาผ้ามาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ และตาของ ก็ไขว่คว้าด้วยความเคยชิน เพราะหลายหนที่เมาเข้า ไปแล้วทํากับเด็กๆ สาวอย่างนี้ไม่ว่าจะเป็นลายตอง หรือเด็กสาวคนอื่นๆ ที่ตนใช้เงินใช้เล่ห์เหลี่ยมทําลาย ความเป็นสาว แต่นั่นมันเป็นสมัยที่เทียมบัวยังมีชีวิตอยู่ เทียมบัวเรียบร้อยเกินกว่าที่จะกล้าเอะอะโวยวาย หรือขัดใจเขา แต่เมื่อแววรัตน์เข้ามาแทนที่เทียมบัว หล่อนเคยเอ่ยเป็นนัยๆ ว่าไม่ชอบให้เขาทํากับเด็กๆ สาวๆ อย่างนี้ เขาจึงได้ห่างเหินเรื่องพรรณอย่างนี้มา เป็นเวลานาน
      แต่เมื่อคืนนี้ เขาจําได้ว่าเขาไขว่คว้าและ อิ่มมันดิ้นรน ต่อจากนั้นความทรงจําของเขา ขาดหายไป อะไรมันเกิดขึ้นเขาจําไม่ได้ เขา อยากจะเชื่อว่าตนเองไม่ได้ล่วงเกินอิ่มมาก ไปกว่ากอดจูบลูบคลํา แต่ท่าทีของป้านุ่นน้ำ เสียงของแก และแต่ไหนแต่ไรแกไม่เคยก้าวร้าว ถึงเพียงนี้ แกยืนยันจริงจัง กองทุนจึงสงสัย ตนเองว่าได้ทําลงไปหรือเปล่า ฤทธิ์เหล้าผสม ยานอนหลับทําให้สมองของเขามีนงง เหมือน นักมวยโดนชกลงกองนับสิบ แล้วยังไม่รู้ว่า อะไรเกิดขึ้น

     ส้มเช้า องุ่น ลายตอง ต่างนั่งแอบฟังเรื่องราว อยู่ข้างล่างคนละมุมแต่ก็ได้ยินเสียงโต้ตอบระหว่าง ป้านุ่นกับกองทุนได้อย่างถนัด ส้มเช้ากับองุ่นนั้นปักใจเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงอย่าง ที่ป้านุ่นแกพูด เพราะรู้สันดานของ นายกองทุนได้ดีว่าชอบเด็กสาวๆ ใหม่ๆ และรูปร่างของไอ้อิ่มมันก็กําลังอูมได้ที่ มีหรือคนอย่างนายกองทุนจะปล่อยให้ "หลุดมือ
     แต่แล้วในที่สุดก็เจอดีเข้าจนได้ เรื่องมันไม่เงียบหายไปเหมือนคนอื่นๆ ป่านุ่นแก่ยอมใครง่ายๆ เสียเมื่อไหร่ แกหวงไอ้อิ่มหลานสาวของแกยังกะหมา หวงลูก
     ความคิดของส้มเช้าองุ่นผิดกับลายตอง ลายตอง รู้สึกว่ามันช่างสะใจเสียเหลือหลาย ตนได้แก้ลําย้อนรอย เล่นงานนายกองทุนเข้าแล้วอย่างเจ็บปวด นายกองทุน กําลังได้รับผลกรรมที่ตนทําเอาไว้ตอบแทนอย่าง สาสม ลูกสาวคนเดียวถูกหลอกเอาไปให้กําบังฉีกความบริสุทธิ์ถึงในห้องพัก พรหมจารีที่ถือกันว่า มีค่ายิ่งนักสําหรับหญิงสาวไม่มีเหลือแล้ว ยิ่งกว่านั้น เมียของนายกองทุนยังถูกกําบังดอดเข้าไปเล่นงานถึง ในห้องนอนส่วนตัวเกือบตลอดทั้งคืน โดยที่ตัวนาย กองทุนเองนอนหลับไหลอยู่ข้างล่างไม่รู้ว่าเมียของตน โดนคนอื่นเชื่อดอยู่ข้างบน บนหัวของตัวเองก็ว่าได้ รุ่งเช้าตัวนายกองทุนเองยังโดนป้าปุ่นเข้ามากล่าวหาว่าข่มขืนหลานสาวของแกเข้าอีก เรื่องราวมันทยอย เข้ามาหาเขาเป็นระลอก มันเป็นหมากที่ตนเองวางเอา ไว้ อยากดูน้ำหน้าสติปัญญาของนายกองทุนจะแก้ปัญหาอย่างไร มันเป็นบทแรกของการแก้แค้นที่ทํา ให้นายกองทุนเพิ่งรับรู้ความเจ็บปวด ยังจะต้องมีตาม ออกมาอีก เรื่องลูก เรื่องเมียโดนกําบังเลาะตะเข็บเข้า ไปสอยร้อยเนื้อกลีบในยังมีอีก มันช่างสาแก่ใจเสีย จริงๆ ที่คนพวกนี้กลายเป็นบรรเลงตามโน้ต เล่นตาม บทที่ตนเขียนขึ้นมา ลายตองเชื่อว่ามันจะต้องเกิด ความเปลี่ยนแปลงกับชีวิตของนายกองทุนอย่างแน่ นอน มันจะกลายเป็นรอยร้าวลึกในหัวใจของคนอย่างเขาไปจนชั่วชีวิต เขาจะต้องเจ็บลึกเหมือนความรู้สึก ของตนที่โดนข่มขืนมาจนตราบเท่าทุกวันนี้ แต่เขาคง ไม่มีโอกาสจะแก้แค้นหรือทํากับตนให้เจ็บปวดไปยิ่ง กว่าความเจ็บปวดที่เขาได้รับหรอก.ลายตองยิ้มเครียด เมื่อได้ยินเสียงป่านุ่นดังแปรแปริ้นออกมาจากในห้อง
"ดู คุณดูนี้สิ"
     แววรัตน์เห็นป้านุ่นโยนผ้าขาวซึ่งที่แรกดู ไม่ออกว่ามันเป็นอะไร เมื่อตกถึงพื้นต่อหน้า นายกองทุนเธอจึงรู้ว่ามันเป็นเสื้อสีขาวผ้าบางๆ โดนฉีกขาดยับเยิน
     กองทุนหันไปมองแววรัตน์ซึ่งตอนนี้ลูกเนียง ได้ออกมาจากห้องยืนเยื้องไปทางด้านหลังของแววรัตน์ ด้วยใบหน้าที่ตื่นตระหนก เป็นใบหน้าที่ตกใจอย่าง แท้จริงไม่ใช่เป็นบังเอิญเหมือนอย่างแววรัตน์
     กองทุนสังเกตเห็นสีหน้าของแววรัตน์ซีดเผือด ลงไปยิ่งกว่าเดิม เพราะเห็นหลักฐานที่ป้านุ่นแกโยน ลงมา เธอคงได้รับความสะเทือนใจอย่างหนัก
     ความจริงเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันช่าง เอื้ออวยประโยชน์ให้กับแววรัตน์อย่างนึกไม่ ถึง เธอคิดจะฉวยโอกาสนี้ทําทีเป็นผิดหวังใน ตัวสามอย่างหนัก และหนีหลบหน้าเขา ไปสักพักหนึ่งเพื่อรักษาแผลที่โดนเจ้ากําบัง ฝากเขี้ยวเอาไว้ตรงต้นคอจนกว่าจะหาย ใบหน้า ที่กองทุนมองเห็นซีดเผือดยิ่งกว่าเดิม เป็นเพราะแผลมันเริ่มอักเสบ และเกิดอาการ ปวดเจ็บในช่วงหน้าท้อง ความร้อนรุ่มของ อาการไข้เริ่มทวีขึ้น แต่สิ่งเหล่านี้กลายเป็น โชคดีที่เข้ามาช่วยหล่อนเอาไว้ได้ทันท่วงที แววรัตน์จึงสวมบทบาทเหมือนอย่างที่ป้านุ่น แกแสดงออกกลมกลืนกันไปโดยไม่ติดขัด เธอหันไปรั้งร่างลูกเนียงมาโอบกอดคล้ายกับ จะปลอบประโลมมิให้เด็กสาวต้องเกิดความ
หวั่นไหวเศร้าเสียใจไปกับการกระทําอันเลว ร้ายของพ่อ
     จังหวะเดียวกับที่ป้านุ่นเร่งบทให้หนักขึ้น อีกในแบบตายเป็นตาย ท่าทางของแกไม่ผิดอะไรกับ
หมาถูกไล่มาจนตรอกหันกลับมาพร้อมที่จะโดดกัด ไม่เลือกว่ามึงจะเป็นใคร ไม่ว่าคนที่ไล่มันมาจะเล็ก
หรือใหญ่แค่ไหนมีอาวุธอะไรในมือไม่สําคัญ กูไม่มี ทางไปแล้วนี่
"หลานของฉันมันเป็นคน" ป้านุ่นบอกยกมือ ขึ้นตบอกตัวเองเสียงดัง พั่บๆ
"หลานของฉันมันไม่ ใช่สัตว์ ไม่ใช่ถูกขายมาเป็นทาส ซึ่งคุณจะจิกหัวทําอะไรกับมันก็ได้ คุณต้องรับผิดชอบนะ"

กองทุนนิ่งอึ้งเช่นเดียวกับป้านุ่นแกทิ้งระยะเพื่อ ให้เขาโต้ตอบ ครั้นไม่ได้ยินเขาพูดออกมาแกก็รู้ว่า ตนเองเริ่มเป็นต่อแล้วแกจึงรุกคืบหน้าด้วยซุ่มเสียง และทําที่อันน่ากลัว
"คุณจะว่ายังไง ไม่อย่างนั้นฉันจะไปแจ้งความ ให้มันรู้กันไปทั้งเมืองเลยว่านายบ้านนี้มันทํายังไงกับ ลูกหลานของคนใช้ คนอย่างฉันมันแก่แล้วถึงตายก็ ไม่กลัว และไม่อายหมามันด้วย" ช่วงท้ายประโยคป่านุ่นแกลดเสียงให้อ่อนลง และยกซายเสื้อเห็นปลายนมเหี่ยวๆ ขึ้นมาเซ็ตน้ำตา คล้ายกับจะรู้ตัวว่าเกินเลยเจ้านายมากเกินไป เป็นบทเบาที่เอาขึ้นมาสลับบทหนัก  แต่มันก็ทําให้กองทุนเชื่อว่าที่แกแสดงออกอยู่ต่อ หน้าเป็นเรื่องจริง เขาหันหน้าไปหาแววรัตน์ที่กําลัง ยืนโอบกอดลูกเนียงอยู่ข้างบน

     แววรัตน์เบือนหน้าหลบสายตาของสามีที่มองมา เพื่อขอความเห็นใจและความคิด หยดน้ำตาเล็กๆ ไหล รินออกมาเหมือนจะบอกความผิดหวัง ความหมด ศรัทธาในตัวสามีมันเป็นน้ำตาออกมาจริงๆ ไม่ใช่ เสแสร้งเพราะรอยแผลจากเขี้ยวของกําบังมัน เริ่มออกอาการเจ็บมากขึ้น พิษร้ายที่มันปล่อยเอาไว้ ร้าวระบมไปหมด พลังความสมบรูณ์ที่เคยมีต้านมัน เอาไว้ไม่อยู่ คล้ายกับจะเกิดอาการแพ้
"ไปกับอาเถอะลูกเนียง" ความเจ็บปวดและไข้ เริ่มจะสูงขึ้นทําให้แววรัตน์คิดจะหลบไปรักษาตัว สักพักหนึ่งก่อน
"ไปไหนคะ" เด็กสาวละสายตาจากพ่อและป้านุ่นหันมามองดูหน้าขาวซีดของแววรัตน์ อุ้งมือท่อน แขนของเธอที่เด็กสาวสัมผัสมันร้อนๆ ลูกเนียง พลอยเข้าใจอาแววรัตน์คงปวดร้าวเพราะการกระทําอันเลวทรามของพ่อไม่ใช่น้อย
"ไปบ้านพี่สาวของอาบ้านของรองพล เธออย่า อยู่รับรู้เรื่องราวแบบนี้เลย ไม่ดีหรอกมันเป็นเรื่องที่ เธอไม่สมควรจะฟัง"
     แววรัตน์พูดเหมือนความหวังดี แต่หารู้ไม่ว่า เดี๋ยวนี้ลูกเนียงรู้เข้าไปแล้วถึงไหนต่อถึงไหน โดน กําบังมันเจาะจนพรุนไปหมด มันเปิดทางสายใหม่ ซึ่งต่อไปนี้ใครจะใช้เส้นทางนี้ก็คงจะง่ายและสะดวกขึ้น ครั้นได้ยินแววรัตน์เอ่ยชื่อของรองพลเข้าด้วยเด็กสาวจึงรีบรับคํา
"ค่ะ ให้หนูเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ"
"ดี อาก็จะเปลี่ยนด้วยเหมือนกัน"
     แววรัตน์พยักหน้าแยกกับลูกเนียงหันเข้ามาใน ห้อง คิดอยู่ว่าจะใช้ชุดไหนดี แต่นึกได้ว่าแผลที่ต้นคอ มันออกมาเป็นรอยเขี้ยวชัด ก็ต้องใช้เชิ้ตสีเทาปกสูง ตัวนี้ไปก่อน จึงเอากระโปรงสีขาวดอกน้ำตาลมานุ่งทับกางเกงขาสั้นสีขาว หันไปรวบรวมของเล็กๆ น้อยๆ ที่จําเป็นลงกระเป๋าถือ ครั้นพอเอี้ยวตัวจะ สํารวจดูตนเองที่กระจกก็พลันรู้สึกเจ็บเสียวต้นคอ ซอกเนื้อและในช่องหน้าท้อง
"พอกันเถอะไอ้บ้า อย่าได้เจอะได้เจอกันอีกเลย"
     แววรัตน์ติดอย่างเดียดแค้น แค้นทั้งเจ้ากําบัง และแค้นใจตนเองที่ปล่อยตัวปล่อยความรู้สึกให้กับมันไปจนหมดสิ้น ถ้าจะต้องเลิกกินเหล้าเสียที เพราะเมาเข้าไปที่ไรแล้วเป็นเกิดความต้องการเพศตรงข้าม ขึ้นมาทุกครั้ง ต้องปลดปล่อยและตอบโต้เหมือนอย่าง เมื่อคืนที่ยอมให้กําบังเข้ามาทะลวงผ่าหมากและปล่อยทุกอย่างให้มันจนหมดเปลือก ตัณหากับสุรามันช่างเข้ากันได้เป็นอย่างดีเสียเหลือเกิน พอสร่างซาทั้งเหล้า และตัณหามันจึงเหลือเป็นความเจ็บปวด เจ็บกาย เจ็บใจเสียดาย เพราะคนที่ตนยอมประเคนให้มันเกือบ ทั้งคืนไม่ใช่สามีตนเป็นนายผู้มีศักดิ์ศรี มีความรู้ มีสายเลือดสกุลรุนชาติที่ดี แต่ยอมให้ไอ้คนที่ไม่มี อะไรเทียบเท่าตนได้เข้ามาลุยในเนื้อตัว มันน่าเจ็บใจเสียจริงๆ ซ้ำมันยังฝากรอยเขี้ยวเอาไว้ที่ต้นคอ รอยช้ำในช่วงหน้าท้องไม่รู้มดลูกจะเป็นอะไรหรือเปล่า
     นับว่าโชคดีไม่มีอะไรเท่าที่มาเกิดเรื่อง ระหว่างป้านุ่นกับสามีของเธอแต่เช้า ไม่เช่นนั้นจะเอาอะไรมาแก้ตัวกับรอยเขี้ยวคม ของเจ้ากําบังที่ต้นคอ ดังนั้นเป็นโอกาสเดียวที่มีอยู่ ต้องหนีไปชั่วคราวจนกว่าแผลจะหาย ความบอบช้ำของอวัยวะภายในจะหมดค่อยกลับมาว่ากันใหม่ในเรื่องของสามี
     แววรัตน์ก้าวออกมาจากห้องพอดีกับลูกเนียง ในชุดกางเกงขายาวสีขาวผ้าค่อนข้างบางรัดข้อแนบเนื้อตัดกับเสื้อสีตองอ่อนชายยาวถูกรวบมัดเอาไว้กับเอว รองเท้าแตะทําด้วยฟางจากญี่ปุ่นดูเป็นสาวเต็มอิ่มกว่าเดิม แม่เลี้ยงและลูกเลี้ยงในวัยและความงามที่ตัดกัน พากันเดินลงบันไดมา
"คุณ..คุณจะไปไหนกัน" กองทุนเอ่ยขึ้นเมื่อ เห็นแววรัตน์กับลูกเนียงเดินมาถึงบันไดขั้น
สุดท้าย
"ฉันจะพาลูกเนียงไปบ้านพี่พัด" แววรัตน์ตอบ เสียงเรียบๆ ราวกับไม่มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้น แต่ใจ จริงอดประหวั่นประสาคนมีพิรุธอดกลัวเขารู้ความ จริงเสียมิได้
"เมื่อไหร่คุณจะกลับ"
"ฮึ, คุณจัดการเรื่องส่วนตัวของคุณให้เรียบร้อย เสียก่อนก็แล้วกัน" แววรัตน์แสร้งพูดเหมือน หยามหยัน
"ผม..ผมไม่ได้ทําอย่างงั้น"
"ต๊ายตาย" เสียงของป่านุ่นขัดขึ้น "งั้นอีแก่ คนนี้มันตอแหลน่ะสิ ฟังคุณฟังดูนะคะ" ป้านุ่น หันมาหาแววรัตน
"คุณต้องจัดการให้ฉันด้วย นะ คุณเองก็เป็นลูกผู้หญิงเหมือนกัน" ป้านุ่นส่งเสียงเหมือนวิ่งวอนขอความช่วยเหลือ

"ฉันรู้ ฉันเข้าใจแต่ให้คุณเขาแก้ปัญหาของเขา เองก็แล้วกัน ฉันผิดหวังฉันเสียใจ
     แววรัตน์แสร้งพูดเหมือนเจ็บปวดกับการกระทํา ของสามีเสียเต็มประดา เธอหันมาคว้าข้อมือของลูกเนียงออกเดิน
"คุณ..คุณอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ผม.."
กองทุนลุกขึ้นยืนขยับจะก้าวเท้าตามไป แต่กลับ หยุดชะงักสองมือทิ้งลงข้างตัวอย่างหมดหวัง เพราะ รู้นิสัยของแววรัตน์ดี หากผิดใจอะไรขึ้นมาต้องปล่อย ให้เธอแสดงออกตามความพอใจของเธอไปก่อน อาจจะช้าบ้างเร็วบ้างสุดแท้แต่เธอ ยิ่งแรกเกิดความ ไม่พอใจขึ้นเข้าไปพยายามปรับความเข้าใจเรื่องจะยิ่งไปกันใหญ่ มีทางเดียวคือปล่อยให้เธอเป็นไปตาม อารมณ์ของตนเองจนสุดฤทธิ์ เรื่องจะไปเหนี่ยวรั้งเอา เหตุผลชักแม่น้ำทั้งห้ามาสาธยายให้เธอเข้าใจถูกต้อง นั้นไม่มีทาง ดังนั้นตอนนี้ก็ต้องปล่อยเธอไปก่อน และก็ดีเหมือนกันที่แววรัตน์เอาลูกเนียงไปด้วย เด็ก
สาวจะได้ไม่ต้องอยู่รับฟังเรื่องราวอันแสนอุบาทว์ของตน
"เธอรออาอยู่ที่นี่ก่อนนะ" แววรัตน์บอกกับลูกเนียงเมื่อออกมาหน้าตึก "อาจะไปเอารถมารับเธอที่นี่ เธอไม่ต้องไปกับอาหรอก"
     ลูกเนียงมองตามร่างของแววรัตน์ซึ่งเดินจากไป ในอาการที่ค่อนข้างผิดปกติ ขาดการทรงตัวอันงามสง่าเหมือนเช่นเคย เหมือนเกิดจากความเจ็บหรือขัดยอกชอบกล แต่ลูกเนียงก็คิดไปตามประสาเด็ก ว่าอาแววรัตน์คงเสียใจไม่น้อยในเรื่องที่พ่อของตัวก่อขึ้น

"คุณจะไปไหนหรือครับ"

     เด็กสาวสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงห้าวๆ พูดขึ้นข้างหลัง พอหันหน้าไปหาเด็กสาวก็ถอยหลังกรูดเมื่อเห็นร่างอ้วนใหญ่ของกําบังยืนยิ้ม ปากหนาตาโตใต้กะโหลกศีรษะอันใหญ่
     ความหวาดกลัวเกิดขึ้นอย่างจับจิต มันส่งออกมาทางใบหน้าและดวงตา เพราะ คนๆ นี้เป็นคนแรกที่ขึ้นมาขย่มอยู่บนเนื้อตัว  เป็นผัว..แม้อาการเจ็บเนื้อเจ็บตัวจะหายไปแล้วแต่ก็ยังสยองอยู่ในความคิด โดยเฉพาะ..ไอ้ท่อนทุ่นหน่อเนื้อของเขา..พิษสงของมัน. โอ..เด็กสาวรู้สึกคล้ายกับปวดมวนอยู่ในช่องท้อง...

     ยิ่งเห็นใบหน้า ท่าที แววตา แสดงออกถึงความหวาดกลัวยิ่งกลายเป็นเครื่องยั่วความรู้สึกของกําบัง ยิ่งตอนนี้เนื้อตัวของเด็กสาว หายจากความบอบช้ำ กลายเป็นเนื้ออูมบูม ขึ้นมาเพราะถูกปลุก ถูกเสียดแซะ ถูกขยี้ขยํา ด้วยมือของเขา มันกลายเป็นตื่นตัวเบ่งบาน ออกมารับโดยธรรมชาติ จากการร่วมเพศถ่ายทอดฮอร์โมนให้กันและกัน วัยสาวไม่ผิดอะไร กับไม้ที่กําลังจะให้ผล ลําต้นเริ่มอวบ กิ่ง ก้านเริ่มงาม ใบหน่อเริ่มแตกออกมา อ่อนๆ ดอกเริ่มตูมออกมาสวยสะอาด ส่วนเนื้อของเด็กสาวขาวแน่น แม้จะถูกปิดบังเอา ไว้ด้วยเสื้อกางเกงแต่ตนก็เคย เคยเห็นมาแล้ว จนหมดสิ้น ไม่มีตรงไหนที่ไม่ถูกคว้า ถูกขยํา ถูกขยี้ ถูกบดและแซกสอด ทุกอิริยาบถที่เด็ก สาวบิตตัว ส่งเสียงครวญคราง ความตื่น ตระหนกอกสั่นขวัญหาย มันอยู่ในความทรงจํา เหตุนี้พลังจึงส่งเนื้อหน้าขาของกําบัง ขยายตัวออกเป็นลํา กางเกงติงต๊องขาสั้นส่วนเอวนั้นกว้าง เวลานุ่งต้องทบแบบผู้หญิงนุ่ง ผ้าถุงขมวดชายกลมเกาะไว้กับเอว จึงไม่เป็นรูปรัดเอาไว้ได้ หน่อเนื้อมันดันชูขึ้นมาเด่น เป็นที่สะดุดตาของเด็กสาว..
     ลูกเนียงเบือนหน้าเมื่อเห็นมันเคลื่อน ไหวแม้มันจะถูกคลุมด้วยผ้าแต่ก็จําหน้าตา บทบาทความโหดดิบ และอาถรรพณ์เร้นลับที่ เรียกความรู้สึกพิลึกของมันได้ พิษสงของมัน
ร้ายนัก เพียงแต่เห็นรูปร่างของมันในร่มผ้า มันก็ดูดเอาความเสียวรู้สึกจี๊ดจ๊าดๆ ๆ คล้าย กับมีกระแสไฟช็อตตามร่างกาย ตามเนื้อ หน้าขาหน้าอก...
ยิ่งบทบาทของกําบังด้วยแล้ว..โอ..บอกไม่ถูกว่ามันโหดร้ายหรือมันอ่อนโยน มัน สลับกันเป็นระยะๆ เป็นจังหวะๆ โดยการ สัมผัส กระแทกกระทั้นสลับหนักและเบา นึกไปถึงปากหนาๆ ของเขาที่ดูดกินเฉพาะ ส่วนหน้าอกและหน้าขาอย่างโอชะ เด็กสาวรู้สึกมือเท้าอ่อนไปหมดทําท่าจะยืนไม่อยู่เอา...

"ลูกเนียงขึ้นรถเดี๋ยวนี้" ลูกเนียงไม่รู้ตัวเลยว่าอาแววรัตน์มาจอดรถที่ข้างๆตนตั้งแต่เมื่อไร...

minky way

ขอบคุณครับ รอมานานเลย เกือบปีแล้วมั๊ง ชอบที่เป็นเรื่องเสียวที่ใช้ภาษาได้สละสรวย ไม่หยาบคาย เหมือน อ่านจากหนังสือโป๊บนดิน เช่นระทึก ฯลฯ ย้อนไปราว สี่สิบกว่าปีก่อน วางแผงขาย ...ตอนนั้นถ่าจึหาหนังสือเรท x ต้องไปที่สนามหลวง ตรงแม่พระธรณี แหละครับ

peddo

เรื่องในดวงใจกลับมา ล้ว นึกจะถูกตัดจบซะแล้ว
ถ้ากำบังจะขอขึ้นรถไปด้วยจะทำไง ไหนๆ ก็เมียทั้งคู่ จะช่วยกันรับศึกก็น่าจะดีนะครับ

knutja

ตอนต่อที่นานมากกกกกกกกกกครับ

zaa2518

จะมาเป็นชุดเหมือนเดิมใหมน้อ รอนานมากเลยเรื่องนี้

kimjikung

รอติดตามครับ เขียนได้ดีมากๆครับ

Onena

เรื่องนี้รอนานมากเลย ชอบการใช้ภาษาเขียนมากๆ เขียนได้สละสลวย มีอุปมาอุปมัย สะท้อนอารมณ์ของตัวละครได้สมจริง ให้ผู้อ่านเข้าใจได้อย่างละเอียด ละออดีมากๆๆ 

sofee

ขอบคุณมากๆ ครับ
รอตอนต่อของเรื่องนี้มานานมาก
จนคิดว่าหมดหวังได้ติดตามแล้วครับ

sunnie06

ดีใจได้อ่านต่อแล้ว​ รอมานานเลย​ ขอบคุณมากครับ

swss2511

สองสาวจะรอดมือกำบังได้ยังไงเมื่อเสียวสุขขนาดนั้น

isocPPP

รอมานานแสนนาน
idol เลยจร้า นายกำบัง
::JubuJubu::
::Evil::
sex is my life

kimjung

เรื่องในตำนาน ในที่สุดก็มาต่อ ขอบคุณครับ

cdx

มาแล้ว ผมชอบเรื่องนี้มาก หายไปนาน นึกว่าจะไม่กลับมาแล้ว ขอบคุณยิ่งนัก