ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_Monchai-S

มลทินดอกไม้-ตอนที่33

เริ่มโดย Monchai-S, พฤศจิกายน 21, 2021, 11:54:16 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

Monchai-S




มลทินดอกไม้-ตอนที่33


   เพิ่งจะเป็นวันแรมค่ำหนึ่ง เดือนทําหน้าที่ ส่องฟ้าสีขาวแต่หัวค่ำ จุดประกายความ
สว่างแจ่มฟ้ากว้าง ดวงดาวพากันหลบลี้หนี้หน้าหายไปหมดเมื่อเดือนเปล่งแสงแรงนวล


ดอกแก้วการะเวก กระดังงาราตรี พิกุลจําปี จําปาสลับสีสลับกลิ่นกําจายจัด
หอมเหมือนสาววัย กําดัดเลือดสาวเพิ่งเริ่มจะเดือดปุดๆ แมลงกรีด เสียงเจื้อยแจ้ว
หนาวเบาๆ บางๆ แผ่กระจายไปทั่ว ธรรมชาติต่างแสดงออกถึงความบริสุทธิ์
ให้มนุษย์ได้ รับรู้ได้เสพ แต่บางคนไม่อาจรับสื่อของธรรมชาติได้
ด้วยหัวใจอันสกปรก ปล่อยให้เป็นทาสของกิเลส ตัณหานําพาไปโดยไม่ยอมยับยั้ง
ในตัวตึกอันระโหฐานของนายกองทุน
จึงวุ่นไปหมดด้วยจุด เพียงเล็กๆ ที่นายกองทุนเป็นเหตุ
ทําให้เกิดผลอัน เจ็บปวด

แน่นอนปุถุชนย่อมไม่พ้นกิเลสตัณหา แต่ถ้าหากมีปัญญาย่อมรู้จักเสพ
รู้จักใช้ให้มันเกิดความสุข ความงาม แต่ถ้าตกอยู่ในอวิชชา กิเลสตัณหาย่อม
กลายเป็นสิ่งอันตรายอันน่ากลัว ..

แมลงผึ้งเสพรสหวานของเกสรโดยมิให้ดอก ชอกช้ำถนอมดอกใบมิให้โรย
ตรงข้ามกับหนอนชอนไชเกสรดอกใบยับเยิน

มนุษย์ผู้อ่านธรรมชาติออกย่อมเสพกามเหมือน แมลงผึ้งสพเกสร
ผู้อ่านไม่ออกย่อมสพกามเหมือนหนอนชอนไชดอกใบด้วยไร้ความปรานี

กําบังออกมาจากห้องน้ำด้วยเนื้อตัวเปล่าเปลือย เจ้าหน่อเนื้อชาติเชื้ออาชาไนยของขา
ไม่ลําพองผยองออกมาอย่างเต็มที่ แต่มันก็ตื่นตัว อยู่ตลอดเวลา มันอิ่มเหมือนยางในรถจักรยาน
ที่สูบลมเอาไว้พอประมาณเหมือนกล้ามเนื้อของ นักเพาะกายที่ยังไม่ได้เบ่ง
แต่ก็คงรูปร่าง ของความกระชับสมบูรณ์ให้เห็น

ธรรมชาติดูจะเอื้ออํานวยมาให้กับคนอย่างกําบังไม่ใช่น้อย มันเป็นความภูมิใจของลูกผู้ชายคนหนึ่ง
ที่พึงจะ มีขนาดและช่วงในระดับนี้ นกยูงงามด้วยหาง คชสารงามด้วยงา แม้รูปร่างหน้าตาของกําบัง
จะอัปลักษณ์ แต่งาของเขาก็งามเหลือหลาย มันชดเชยให้กับรูปร่างของเขาอย่างคุ้มค่า

กําบังใช้แป้งหอมผสมน้ำชโลมตามตัวของเขา และเจ้าหน่อเนื้อเพื่อนยาก
แม้ขนาดของมันจะงาม แต่รูปร่างหน้าตาของมันไม่ค่อยจะน่าดูแถมสกปรก
ด้วยการขาดความเอาใจใส่ แต่ควงชะตาของมันดีเหลือล้น
มันได้มีโอกาสเปิดโลกบริสุทธิ์ของเด็ก สาวอย่างลูกเนียง
เข้าไปในซอกเนื้อเชื้อผู้ดีของ ผู้หญิงอย่างแววรัตน์ คืนนี้ยังจะมีโอกาสได้ตักตวง
เลือดเนื้อสาวของอิ่มหลานสาวป้านุ่นคู่อาฆาตแค่... นึก มันก็ผงกหัวเชิดหน้าออกมา
ทําท่ายึกยักคล้ายกับจะส่งซีก ว่าพร้อมแล้วครับพี่...

ความคิดของเขาอดพัวพันไปถึงเลือดเนื้อแต่ละคนที่เขาได้มีโอกาสวางยาวเสียมิได้
ลูกเนียง  แววรัตน์ ส้มเช้า ลายตอง นึกถึงสัมผัสที่มันผ่าน เข้ามาในความรู้สึก
และผ่านออกจากตัวของเขา ไปหาหล่อนด้วยความรุนแรง
มันวนเวียนเข้ามาและส่งออกไป แรงรับทําให้เกิดแรงในการส่ง
และแรงส่ง ทําให้เกิดแรงรับเข้ามาแรง ทั้งเสนอและสนอง

พฤติกามเหล่านี้เขาคิดว่า ไม่มีใครเกินคุณแววรัตน์

ลูกเนียงนั้นใหม่ถอดด้ามเกินไปและไม่รู้สีรู้สา เหมือนตบมือข้างเดียวหรือสําเร็จความใคร่
เพียงลําพัง โดยขาดการตอบสนอง

ลายตองก็ไร้ศักดิ์ศรี เลือดเนื้อของหล่อน ดูจืดชื่อแบบธรรมดาๆ
เหมือนงานศิลปะ ธรรมดาที่วางขายกันอยู่ดาดๆ
ส้มเช้ายิ่งไม่ติดอันดับ แม้จะมีการตอบสนองแต่ก็ประเจิดประเจ้อปนจริต

ทั้งลายตองและส้มเช้า มันทําให้เขารู้สึกว่า หล่อนก็เป็นคนธรรมดาๆ
ฐานะศักดิ์ศรีเสมอกับเขา จึงทําให้ต้อยความเมาในอารมณ์
จริงอยู่ เมื่อถึงจุดปล่อยก็เหมือนกันทั้งนั้น ไม่ว่าใคร หากหลังจากนั้น
ความอิ่มอกอิ่มใจมันกระจาย ไม่จับเป็นก้อนซ่อนลึก
พอเก็บเอาขึ้นมานึกก็ไม่ลึกรสหวานเหมือนคุณแววรัตน์

แววรัตน์ ไม่เหมือนลายตองหรือส้มเช้า รสชาติของหล่อนเหมือนเคี้ยวเนื้อนุ่มๆ
ซึมน้ำซับหวาน ฉ่ำชุ่มอยู่ปลายลิ้น เขาจําได้ทุก อิริยาบถที่ร่างของหล่อนบิด
เนื้อตัวสล้างอร่าม ด้วยแววผู้ดีความมีศักดิ์ศรี

ลูกเนียงไม่ผิดอะไรกับทุเรียนผลใหม่ยังไม่ได้ที่ กว่าจะฉีกออกมาจนเจอเนื้อหวาน
ก็แสนจะทุลักทุเล เหงื่อกาฬแตก หนามไหน่บาดเอาเนื้อจนเจ็บไปหมด

แววรัตน์นั้นเป็นทุเรียนกําลังสุกได้ที่ กรีดตรงรอยตะเข็บเบาๆ
ก็แหวะออกพบพูเนื้อในเหลืองอร่ามงามหวานหอม

ลายตองกับส้มเช้าแม้จะกรีดตรงรอยตะเข็บได้ง่าย แต่ก็เป็นทุเรียนพันธุ์ต่ำราคาถูก
มันหวานผิดกันเหมือนหวานน้ำตาลกับหวานผลไม้ ห่างไกลสําหรับความมีรส

ส่วนอิ่มหลานป้านุ่นเป็นทุเรียนที่มองเห็นแต่ผิวนอก
มันนวลบอกถึงความงามความหวานของเนื้อใน มันเป็นทุเรียนเนื้อใหม่
อาจยังไม่ได้ที่เหมือนลูกเนียง หนามของมันคมแต่จะกลัวอะไรเมื่อตนเองชํานาญ
ในการฉีกทุกเรียนอยู่แล้ว เฉพาะรายนี้มันมีแรงอาฆาตเจือปนอยู่ด้วยไม่น้อย
พอนึกถึงตอนนี้ก็เกิดอาการเกร็งขึ้นมาโดยฉับพลัน เหมือนขึ้นนกเตรียมพร้อมที่จะเปิดการยิง

"ว้าย" มีเสียงดังเบาๆ ที่ประตู
กําบังหันมาจึงรู้ว่าเป็นลายตองที่โผล่พรวดพราดเข้ามาเห็นตนยืนแก้ผ้า
ง้างนกเตรียมยิงอยู่หน้ากระจกถนัดตา กําบังยิ้มรับและพยักหน้ารับ
โดยเจ้าหน่อเนื้อของเขา

"ทุเรศ" ลายตองค้อน
"ทีอย่างงี้ล่ะก็ว่าทุเรศนะ"  กําบังพูดอย่างมี ความหมาย

"นี้จัดการกับตัวเองให้เรียบร้อยเสียทีเถอะ"
ลายต้องพูดแล้วมองไปรอบๆ ห้องเพื่อจะสํารวจตรวจดูความเรียบร้อย
มันยังสกปรกและรกรุงรังและมีกลิ่นเหมือนเดิม
มันบอกนิสัยของคนเป็นเจ้าของห้อง เตียงนอนขยุกขยุย ด้วยผ้าปูที่นอนผืนเก่า
สีคล้ำคราบเลือดของลูกเนียงยังอยู่ที่เดิม แต่ดูเหมือนคราบเลือดที่แลเห็นจะไม่สะใจ
เหมือนคราบเลือดของไอ้อิ่มในคืนวันนี้ มันช่างสะใจ เสียเหลือหลาย
เป็นการเพิ่มเติมความเจ็บปวดให้กับนายกองทุนเพิ่มขึ้นอีก

เสียทั้งลูกเสียทั้งเมีย และยังจะต้องมาเสียที เมื่อพรุ่งนี้เช้าหมอตรวจแล้วเจอว่า
ไอ้อิ่มมันโดนข่มขืนจริงๆ เท่ากับคําพิพากษาไม่มีอุทธรณ์ฎีกา นายกองทุน
จะต้องรับผิดชอบกับความสาวของไอ้อิ่ม ที่โดนกําบังทําลายโดยคิดว่าเป็นฝีมือของตนเอง
เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รอง แต่ต้องเอากระดองของเด็กสาวมาแขวนคอ...
มันช่างสะใจอะไรเช่นนี้

วันที่ความจริงเปิดเผยขึ้น ลายตองอยากจะรู้ว่านายกองทุนจะทําอย่างไร
กับความเจ็บปวดที่เขาได้รับ มันจะเป็นความเจ็บ ยิ่งกว่าความเจ็บของตนเอง
ที่โดนนายกองทุนทําลายความสาว โกงเอาที่ดินของพ่อมา ด้วยอุบายอันฉ้อฉล
เขาดูถูกความคิดของ มนุษย์เกินไป เขาไม่รู้ว่ามนุษย์ก็มีความคิด
ความเจ็บปวดที่จะต้องแก้แค้นตอบแทนเท่าที่โอกาสจะอํานวย

"นุ่งผ้าเสียเถอะ น่าเกลียดจะตายไป" ลายตองเอ่ยกับกําบัง
ที่ยังยืนทําไม่รู้ไม่ชี้ยืดอกอวด โฉมอยู่อย่างเดิม

"น่าเกลียดมากเหรอ" กําลังยิ้มปากแสยะ
"ยังจะมาทําเป็นเล่นอีก"
"ไม่ใช่ทําเป็นเล่น ทําจริงๆ นะ"
"ทําเป็นพูดดีเดี๋ยวจับหักคอเสียหรอก"
ลายตองเอื้อมมือมาทําท่าจะคว้าคอเจ้าหน่อเนื้อของเขา จริงๆ
"เฮ้ย อย่า"
กําบังเบี่ยงตัวหลบออกมาอย่างหวุดหวิดแล้วเดินไปเอากางเกงติงต๊อง
ซึ่งแขวนไว้มาสะบัตๆ จาก นั้นจึงจัดการนุ่งแล้วขมวดชายของมันเอาไว้กับเอว
พุงที่ปลิ้นออกมาเลยกลายเป็นที่เกาะยึดของชาย กางเกงเอาไว้
กําบังมองลายตองแล้วส่งยิ้มเผล่
"อย่ามัวแต่ยืนยิ้มอยู่เลย เตรียมตัวเสร็จเรียบร้อยหรือยัง" ลายตองพูดหน้าตาเฉย
"พร้อมแล้วครับผม" กําบังตบเท้าขวาเข้าหาเท้าซ้ายกระตุกตัวตรงหน้าเชิดมือห้อยลงแนบสองขา
เจ้าหน่อเนื้อยื่นหน้าออกมาตุงทํางึกงักบอกความพร้อม
ลายตองอดหัวเราะออกมาไม่ได้เมื่อเห็นอากัปกิริยาของมัน เหมือนสุนักแสนรู้
พร้อมที่จะทําตามคําสั่งของนาย อันที่จริงทุกครั้งที่มันทํางานตามหน้าที่
มันไม่เคยทําให้ผิดหวัง เนื้อตัวของมันอัด แน่นไปด้วยกล้ามและเจ้าของมันก็รู้ใจ
รู้จุดไปหมดทุกส่วนของลาดตอง มันสนองคุณตอบแทนให้อย่างสมรัก
เหนือยิ่งกว่านั้นมันกลายเป็นตัวแทน แก้แค้นให้ได้อย่างถึงเลือดถึงเนื้อ
ของลูกเมียนายกองทุน

การได้เห็นความพินาศย่อยยับไม่ว่าทางใดทางหนึ่งของผู้อื่น เป็นความตื่นตาตื่นใจ
กระตุ้นให้เกิดความสาแก่ใจ สิ่งเหล่านี้มันซ่อนลึกอยู่ในสัญชาติญาณของมนุษย์อยู่แล้ว
ผู้คนพากันวิ่งตามเป็นทิวแถว บางคนอุ้มลูกจูงหลานตามกันไปเป็นพรวนเพื่อดู
ไฟไหม้บ้านของคนอื่น การระเบิด รถชนคนตาย สารพัดที่คนอื่นกําลังได้รับความหายนะ
เหล่านี้ กลายเป็นสิ่งที่อยากดูอยากรู้อยากเห็น และยิ่งเป็นความพินาศหายนะของศัตรูคู่แค้น
มันจะไม่น่าดู น่ารู้ไปยิ่งกว่านั้นอีกหรือ...ลายตองสะใจเหมือนโดนยุงกัดแล้วตบมันเต็มแรง
ร่างของมันบี้แบนเลือดแดงๆ สดๆ ที่มันอดทะลักออกมาติดมือ
ความเจ็บแค้นสาแก่ใจทันทีเมื่อได้เห็นสภาพนี้

กําบังมีส่วนช่วยสร้างความสาแก่ใจให้แก่ตนไม่น้อย ลายตองเอื้อมมือมาคว้าคอ
ของเจ้าหน่อเนื้อเอาไว้ แม้จะอยู่ใต้ร่มผ้าแต่ก็เต็มไม้เต็มมือ
สายตาของลายตองประสานกับกําบัง เนื้อในมือมันตื่นขึ้นมากกว่าเดิม
เหมือนคนเจ้าโทสะ กระทบไม่ได้ กระทบเป็นโผงผางออกมาทันควัน
ดังนั้นมันจึงตื่นตัวขึ้นมาเต็มมือของลายตอง
"บังต้องทําให้สมจริงสมจังนะ" มือลายตองลูบ ไล้ไปมา
"ทํายังไง"
"ก็ข่มขืนคนน่ะ...เขาทํายังไงล่ะ"
"อ๋อ"   กําบังรู้สึกเบาสบายเข้าไปในหัวใจเมื่อมือของลายตองเคลื่อนไหวไม่หยุด
"ไม่ต้องปรานีปราศรัย หลักฐาน บาดแผล มันจะได้ปรากฏชัด
เมื่อหมอมาตรวจจะได้สมเหตุ สมผล"
เสียงและความหมายของคําพูดช่างตรงข้าม กับหน้าตาซื่อๆ
ดูไม่มีพิษสงของลายตอง
"เอาอย่างงั้นเหรอ"
"ก็เอาอย่างงั้นนะซี"     ลายตองเคลื่อนไหว
มือกับเจ้าหน่อเนื้อของเขามากขึ้น คล้ายกับจะเอาใจก่อนที่จะใช้งานมัน
"บังต้องสมมุติตนเองว่าเป็น นายกองทุน ฤทธิ์เหล้า ความสาวของเด็กอย่างไอ้อิ่ม
ทําให้หมดความยับยั้งชั่งใจ หักโหมรุนแรงเอาแต่ใจตัวเอง
ไม่ต้องนึกถึงความเจ็บปวดของเด็ก มันจะเป็นยังไงช่างมัน
ขอให้ตัวสําเร็จสมปรารถนาก็แล้วกัน เข้าใจไหมพ่อทูนหัว"
ลายตองจับมันเขย่าเบาๆ
"ไม่ต้องโอ้โลมปฏิโลม ไม่ต้องเริ่มเบาๆ ค่อยๆเหมือนอย่างคุณลูกเนียง
บังต้องดับเครื่องพุ่งเข้าชน เหมือนกามิกาเซ่เครื่องบินญี่ปุ่นที่ดับเครื่องปักหัว
เข้าชนเรือรบของปรปักษ์แบบตายเป็นตาย"
"ฉันเกรงว่า..."
"เกรงว่าถ้าดับเครื่องแล้วมันจะชนไม่ได้
เพราะมันจะอ่อนตัว ต้องติดเครื่องถึงจะชนได้...โอ๊ย"
กําบังร้องออกมาเบาๆ เมื่อโดนกระตุกหนวดเสือแรงๆ
"อย่าเล่นแบบนี้สิ เสียของหมด เดี๋ยวใช้การ ใช้งานไม่ได้แล้วจะเดือดร้อนนะ"
"ของบังไม่มีเสียหรอก มันแกร่งจนอยู่ตัวเสีย แล้ว"
ลายตองเพลามือแต่ไม่ยอมปล่อยมือ
ลูบไล้ไปมาเหมือนลูบหัวลูกแมวตัวเล็กๆ เล่นด้วย ความเอ็นดู
"เลี้ยงมันเอาไว้ดูเล่นเถอะ แล้วมันจะได้เล่นให้ดูไปอีกนาน"
"ฉันดูมันเล่นเสียจนชินแล้วล่ะ"
"เบื่อมันแล้วเรอะ"
"ก็ไม่เชิง"
"แต่ก็รักมันใช่ไหม ถึงได้หาของแปลกๆ ใหม่ๆ มาให้มันกินเสมอ"
"ไม่รัก แต่ก็อยากให้มันมีความสุขตอบแทนที่ บางครั้ง
ยังอาศัยไหว้วานให้มันช่วยเหลือได้บ้าง เท่านั้นเอง"
ลายตองพูดตามความจริงแต่มายาทําให้ สีหน้าออกมาเหมือนพูดเล่น
"ขอบใจ เดี๋ยวนี้จะต้องการความช่วยเหลือหรือเปล่า"
"เปล่า ยังไม่ต้องการ เรามาพูดเป็นการเป็นงาน กันเถอะ"
"ว่าไง"
"อย่าลืมว่าอิ่มมันอวบหนากว่าคุณลูกเนียง
เพราะเช่นนั้นไม่ต้องปรานีมัน เพราะเราต้องการ หลักฐาน ต้องการให้เห็นรอยบาดเจ็บ" ลายตอง ประโยคเดิม
"ฉันรู้"
"บังกินเหล้าหรือยัง"
"กินเข้าไปหน่อยนึง"
ลายตองมองตามสายตาของกําบังไปที่ขวดเหล้า ซึ่งพร่องไปหนึ่งในสามเห็นจะได้
"บังกินอีกหน่อย แค่ครึ่งขวดก็พอ
มากไปนัก จะไม่เหมาะ
"ตองรู้หรือ ถ้ากินมากเกินแล้วจะไม่เหมาะ"
"รู้สิ"
"รู้ยังไง"
"บังเมามากแล้ว ชอบทะเร่อทะร่า เข้าผิดๆ
ถูกๆ "
"ฉันอยากลองดูบ้างเท่านั้นเอง"
"ไม่เอา...เจ็บ"
"ไม่หรอกน่า"
"อย่าพูดมากเลย ไปกินเหล้าเหอะ" ลายตองตัดบท

กําบังผละจากลายตองไปยกขวดเหล้าขึ้นส่องดู แล้วรินใส่แก้ว กะดูแล้วกะดูอีกจนคะเนว่าเหลือ พอดีครึ่งขวดจึงยกขึ้นดื่มช้าๆ ขยักเอาไว้นิดหนึ่ง จึงกรอกเข้าไปคราวนี้รวดเดียวหมด

ครู่เดียว ธาตุทั้งสี่ในตัวก็หมุนเร็วกว่าเดิม กําบังหันกลับมาคว้าลายดองไว้ในอ้อมแขน
จูบอัดหนักๆ ลงไปบนปาก ลายตองผลักออกเต็มแรง
"อย่า ไม่ต้องมาทําเป็นหวังดีกับฉันหรอก" ลายตองบอก
"ฉันขอบใจลายตอง อยากสมนาคุณ
"ยังไม่ถึงเวลา"
"เมื่อไหร่"
"แล้วจะบอก"
"โธ่ตองก็"
"ไปทํางานตามหน้าที่ของบังเถอะ อิ่มมันนอน
รออยู่ในห้องของมันแล้ว"
"ป้านุ่นล่ะ"
"แกไปนั่งรับลมอยู่ที่ท่าน้ำ"
"ถ้าหักโหมอย่างลายตองว่า ฉันกลัวอิ่มมันจะร้อง"
"มันไม่กล้าหรอก ถ้าร้องคุณกองทุนได้ยินเข้า จะว่าไง"
"นัดแนะกับมันดีแล้วรึ"
"ป้านุ่นเขาบอกมันเรียบร้อยแล้ว"
"ตกลง
"ต้องให้ได้แผล ได้เลือดนะ" เสียงลายตองกําชับน่ากลัว
รูปร่างของลายตองเล็กบางไม่มีพิษสง แต่ที่ไหนได้
มันเป็นความเล็กของอสรพิษชนิดกัดติดแล้วตายทันที

กําบังกับลายตองออกจากห้องแล้วต่างแยกกันไปคนละทาง

ขณะเดียวกันนั้น...กองทุนผุดลุกผุดนั่งอยู่คนเดียว
ในห้องนอน ตั้งแต่แววรัตน์เข้ามาอยู่กับเขาในบ้านนี้
คืนนี้เป็นคืนแรกที่เตียงของเขาว่างเปล่าไม่มีหล่อน
มันจะต้องว่างเปล่าอยู่เช่นนี้ไป อีกสักกี่วันกี่คืน
กองทุนคิดอย่างงุ่นง่าน เขายอมรับ ว่าแววรัตน์มีความหมาย
สําหรับชีวิตของเขามาก แววรัตน์เหนือกว่าเทียมบัว
ดีกว่าเด็กสาวๆ หลายคน ที่เขาผ่านมา ฉ่ำปลายช่อของหล่อนงามลออ
อยู่ในความนึกคิดไม่รู้หาย เขาเสียดายราวกับว่า
หล่อนจากเขาไปจนชั่วชีวิต ความจริงตั้งแต่มีหล่อนเข้ามา
อยู่บนเตียงกับเขา เขาไม่เคยได้ข้องเกี่ยวกับคนอื่น
คนที่เคยเป็นตัวแทนหาเด็กๆ มาให้เขาต่างผิดหวัง
เมื่อนํามาเสนอแล้วเขาไม่ต้องการ เขาเลิกราอย่างเด็ดขาด
สําหรับหญิงอื่น เขาต้องการสงวนเอาไว้
เพื่อแววรัตน์คนเดียว เพราะหล่อนทําให้เขาเห็นว่า
หากเขาหมดน้ำยาเมื่อไหร่ เขาจะเหมือนกับตกนรก ทั้งเป็น...

แล้วเรื่องเมื่อคืนนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร เขาข่มขืนอิ่มมันจริงหรือ
เขาเชื่อว่าเขาไม่ได้ทํา แต่ป้านุ่นแกยืนยันอย่างแน่นอน...เอาเถอะ
พรุ่งนี้ จะต้องรู้กันแน่ว่าเขาข่มขืนอิ่มจริงหรือเปล่า ตอนนี้ ปัญหาที่ต้องขบคิด
มีอย่างเดียว ถ้าเป็นจริงเขาจะทําอย่างไร จะเลี้ยงมันเอาไว้หรือจะจ่ายเงินให้ไปก้อนหนึ่ง
แล้วให้อิ่มกับป้านุ่นออกไปจากบ้าน ป้านุ่นจะยอมหรือเปล่า
ถ้าป้านุ่นไม่ยอมออกจากบ้าน จะให้เลี้ยงดูอิ่มเป็นน้อย แววรัตน์ล่ะ
หล่อนคงไม่ ยอมแน่ๆ
แน่นอน เขาต้องเลือกเอาข้างแววรัตน์ไว้
อิ่ม ไม่มีความหมายเท่ากับแววรัตน์ ยิ่งคิดยิ่งปวดหัวมองหาทางออกไม่ได้

กองทุนออกจากห้องลงมาข้างล่าง เขาจัดการ
ช่วยตัวเองไม่อยากเรียกลายตองหรือส้มเช้าให้
เอาเหล้ามาเสิร์ฟ เขามองออกไปนอกหน้าต่าง
แสงจันทร์ส่องขาวกระจ่างไปหมดจนเห็นสีเขียวของ
ใบและสีของดอกที่หลากสีสันตามพันธุ์ของมัน
เขาเดินมาที่หน้าต่าง ทอดสายตามองไปอย่างไร้จุดหมาย
คิดถึงคืนฟ้าขาวที่มีแววรัตน์อยู่ แม้ลมหนาว จะเอื้อแต่บางเบาเขาก็ยังรู้สึกร้อน
กองทุนดื่มจนหมดแก้วแล้ววางลงบนโต๊ะตัวเล็กพลางเดินมาที่ ประตูหลัง
แล้วเปิดออกก้าวลงบันไดไปสู่ข้างนอก ความคิดไม่ได้มีทิศทางอยู่ก่อนเขาจึงเดินไปเรื่อยๆ
ตามปูนที่ปูลาด กลิ่นพะยอมพื้นบ้านหอมกรุ่น ความของดอกไม้เหล่านี้
เป็นความหอมเยือกเย็น ลดความร้อนแรงของอารมณ์ตามคติของคนรุ่นเก่า
เป็นความหอมที่บอกนิสัย รสนิยมของผู้คนในยุคนั้น
กองทุนลงนั่งใต้ซุ้มนมแมว...ความหอมของ ดอกไม้เหล่านี้ดูเหมือนจะช่วยให้เขา
เกิดความรู้สึกคลายความเครียด เหมือนได้พบกับความจริงใจ
ของเพื่อนพ้องญาติพี่น้องรุ่นเก่าๆ ที่ให้ความอบอุ่น
และลดความกระวนกระวายของเขาลงได้บ้าง...

แต่หอมกลิ่นเดียวกันนี้ มันหาได้ช่วยลดความ รุนแรงอันต่ำช้าของกําบังลงไม่
มันกลับเป็นตัวเพิ่มให้เกิดความกระหายหนัก กําบังแยกจากลายตองแล้ว
เดินไปที่เรือนครัวซึ่งห้องติดๆ กันกับของของป่านุ่น ในนั้น
เหยื่อกําลังนอนรอเขาอยู่

กำบังไม่ผิดอะไรกับคนฆ่าสัตว์ มีดในมือของ แปล๊บปล๊าบพร้อมที่จะเชื่อด
โดยไม่ต้องปรานีตามความต้องการของลายตอง และโดยเฉพาะสนองความ
เมามันของตนเอง มันให้ความรู้สึกไปอีกแบบ ไม่มีการโอ้โลมปฏิโลม
ไม่ต้องดูเชิง ไม่ต้องสนใจความรู้สึกของฝ่ายตรงข้าม พอเปิดฉาก
ก็บุกใส่ได้ทันที

เจ้าหน่อเนื้อของเขามันรู้หน้าที่ได้ดี...พอก้าวขึ้นบันไดตรงชานเรือนครัว
มันก็ดีดตัวเองออกมาผงาด

อิ่มรู้สึกว่าเรือนไหวเล็กน้อยแล้วก็มี เสียงฝีเท้าหนักๆเดินมาที่หน้าห้อง

มันมาแล้ว...ความรู้สึกบอก...เสียงฝีเท้า มันบอกถึงความไม่มีมารยาท
...มันหนัก แรง... ทั้งๆ ที่อากาศก็หนาวเบาๆ
แต่อิ่มรู้สึกเหมือนจะเป็นไข้...

ทุกอย่างเกิดขึ้นโดยเร็ว

เสียงประตูเปิด...
เสียงใส่กลอน...
กลิ่นเหล้าผสมกลิ่นตัวของกําบังฉุนเข้า ในมุ้ง...เสียงลมหายใจหนักๆ
สัญชาตญาณ...ทําให้เด็กสาวยันตัวลุกขึ้น

สายไปเสียแล้ว ร่างหนาหนักทึบที่เคยเห็น
และรังเกลียดมันโถมทับลงมาทั้งตัว
มันกดทับจนอิ่มดิ้นอีกอัก เพราะรับหนักของมันไม่ไหว
"คว่าก"
เสียงเสื้อชั้นในคอกระเช้าถูกกระชาก ออก
"ว้าย"
อิ่มร้องออกมาเบาๆ
มีเสียงดังตามมาอีก "คว่าก...คว่าก..."
เนื้อหน้าอกออกมารับแสงจันทร์ทะลุ ผ่านมุ้งขาวโพลน

เด็กสาวยกสองมือขึ้นกอดหน้าอก แต่ถูกมือหนาหนักกว่าของกําบัง
จับกระชากออกเหยียด ขึงพืดแล้วปากหนาของมันก็ก้มลงมาหาเต้าเนื้ออิ่ม...

peddo

ลงมือซะหนักเลย หนูอิ่มเละแน่ ดีไม่ดีจะกลัวไปเลย แต่ถ้ากองทุนเดินลงมาจะเจอเหตุการณ์ไหมนะ แล้วจะเป็นยังไง คุณหมอที่มาจะมาช่วยหรือจะกลายเป็นเหยื่อเสียเองถ้าความแตก
เรื่องราวพลิกผันสนุกมากครับ
ขอบคุณครับ

sofee

กำบังคงเล่นงานอิ่มหมดสภาพแน่เลย
ที่ผิดแผนคือนายกองทุนดันออกมาเดินเล่นนี่ล่ะ

1819

อิ่ม เละเเน่ ๆ แหก กระจาย เจอมหากาฬอย่างกำบัง อัดไม่เลี้ยงแน่ๆ แล้วลายตองนี่ มันลายพานกลอน หรือเปล่า แค้นฝั่งหุ่นจริงๆกองทุน จะแก้เกมยังไง จะมีเหตุพลิกผันอะไรไหม
กรุงเทพเป็นเมืองที่มีคนเหงา มากกว่าเสาไฟฟ้า

sunnie06

นายกองทุนอาจได้ยิน​ มีแววความแตกนะ

swss2511

เรื่องคงไม่ง่ายอย่างที่คิดอาจผิดแผนได้