ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_Monchai-S

มลทินดอกไม้-ตอนที่52

เริ่มโดย Monchai-S, ธันวาคม 06, 2021, 01:24:15 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

Monchai-S



มลทินดอกไม้-ตอนที่52




"เราคงจะไม่มีโอกาสได้พบกันอีกแล้วสินะ" เฉยโฉดย้ำ
เด็กสาวพยักหน้ารับแววตาหมอง

"คุณคงจะแต่งงานกับรองพลเร็วๆ นี้"  สายตาของเฉยโฉดเลื่อนมามองที่
แหวนทองคําขาวลงยาบนนิ้วนางข้างซ้ายของลูกเนียง วงแหวนกอดรัด
นิ้วเอาไว้แน่นบอกความหมายมีคนจับจอง แต่มันก็ไม่อาจช่วยอะไรได้

"เขาจะพาฉันไปเรียนต่อที่อังกฤษ"
"หนูจะไปกี่ปี"
"สามหรือสี่ปี"
"นานเหลือเกิน"
"ถึงยังไงเราก็คงไม่มีโอกาสได้พบกันอีกแล้ว ถ้าฉันแต่งงาน"
"อาขออวยพรล่วงหน้า"
"ขอบใจ"
"ก่อนแต่งงาน ก่อนไปอังกฤษ หนูจะมาที่นี่อีก...ไหม"
"เห็นจะไม่" เด็กสาวส่ายหน้า
"เบื่ออา    ลืมอาเหรอ"
"ไม่...แต่มันเป็นไปไม่ได้
"อาไปหาหนูได้มั้ย"
"อย่านะ!!"   เด็กสาวทําตาโตเหมือนจะขู่
เฉยโฉดหัวเราะ   "ผมไม่ทําอย่างงั้นหรอก"
"ดีแล้ว"
"เป็นอันว่าสิ้นสุดกันเพียงแค่นี้"
"แค่นี้แหละ...   แค่นี้...ฉันก็แทบจะแย่อยู่แล้ว"
เด็กสาวค้อนน้อยๆ
"เป็นยังไง"
"แทบไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลย..น่ะสิ"
"อาก็เหมือนกัน  ไม่ได้หลับไม่ได้นอน  ไม่รู้..เป็นความผิดของใคร"

"เราจะโทษใครดีล่ะ"
"จะโทษใคร   นอกจากโทษอา..น่ะสิ"
"อย่าเอาตัวรอดสิ   มันประกอบกันหลายอย่าง ธรรมชาติก็ได้ให้
หนูมามากมาย   ไม่ว่าจะเป็นความสวยหรือ...ความเป็นทิพย์"
"เป็นทิพย์เชียวเหรอ..."  เด็กสาวยิ้มแล้วเบ้ปาก
"เนื้อทิพย์ น้ำทิพย์ พลทิพย์ ทิพย์ไปหมดทุกๆ ส่วนของเนื้อตัว"
เฉยโดดพูดพร้อมกับนึกมันเขี้ยว   ทุกคําที่เคี้ยวมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ
"มากไป" เด็กสาวค้อนแล้วเบือนหน้าหลบสายตาวาวของเฉยโฉด ขยับสองไหล่
เล็กน้อย ให้เสื้อม่อฮ่อมซึ่งความจริงก็ผูกมัดรัดแน่นตรงหว่างอกมิดชิดดีแล้ว
ให้เข้าที่  ความรู้สึกมันเหมือนกับว่าปลายเนื้อยอดเต้ามันเต้นเร่าๆ อยู่ในม่อฮ่อม

"ก่อนไป    อาอยากขอร้องอะไรหนูสักอย่าง"
เฉยโฉดไม่ละสายตาจากหน้าอกของเด็กสาว
"ขอร้องอะไร"  ขนาดเขาได้เห็นจนหมดสิ้น ได้เข้ามาล้วงลึกถึงไหนๆ
ยัง..อดเขินไม่ได้  ถึงกับต้องยกมือขึ้นกอดอกเมื่อสายตาวาวของเขา
จ้องเขม็ง ลมหายใจชักจะผิดไปจากจังหวะเดิม
"หนูจะให้อาหรือเปล่า"
"อะไรล่ะ"
เฉยโฉดก้าวเข้ามาใกล้เด็กสาวจนได้กลิ่นเนื้อเคล้ากลิ่นม่อฮ่อม
"เรา...จะจากกันอย่างง่ายๆ แค่นี้เองรึ"
เฉยโฉดจับข้อมือซ้ายของเด็กสาวขึ้นมาลูนกลางใจมือเบาๆ
ลูกเนียงยิ้มเอียงคอมองหน้าเฉยโฉดรู้ความหมาย...แต่คิดว่าเขาพูดเล่นมากกว่า
เพราะลายตอง ออกไปเรียกแท็กซี่แล้ว เดี๋ยวก็จะมา เด็กสาวดึงมือกลับแต่เขา
ไม่ยอมปล่อยกลับรั้งร่างอิ่มในชุดม่อฮ่อม เข้าไปในอ้อมแขนอันแข็งแรงและ
รัดไว้เหมือนคีม

จูบแรกที่หน้าผาก  ต่อมาเป็นเปลือกตา พวงแก้มอิ่มและปากเนื้อเต็ม

อกแน่นไปด้วยเนื้อภายในเสื้อม่อฮ่อมไม่มียกทรง ลายตองไม่ได้เตรียม
มาให้ ของเก่าก็ขาดลุ่ย ใช้การไม่ได้ไปแล้ว ตาขอหลุดไม่มีอะไรเกี่ยว
เนื้อหน้าอกจึงถูกปล่อยให้เสียดสีกับเนื้อม่อฮ่อมเดี่ยวๆ
ครั้นมาโดนแรงเบียดจากหน้าอกของเอยโฉดเข้า  ก็เกิดการเสียดสี
และระคายอย่างเคย เป็นสื่อพาไปสู่ราคะ

"พอ...พอเถอะค่ะ"
เด็กสาวพูดเหมือนจะสําลักเมื่อเขาปล่อยปาก...ออกจากปาก
"ขออา...ขออาเป็นครั้งสุดท้าย
"เท่าไหร่ แล้ว....จําได้มั้ย"
เด็กสาวเอาแก้มแนบต้นคอของเขาหลบสายตาด้วยความเขิน

หลบจากสายตาเขา แต่สายตาของเธอก็เห็นใบหน้าของตนเองกับด้านหลัง
ของเฉยโฉดในกระจกบานร้าว พยายามสํารวจความผิดปกติก็ไม่พบรอยตําหนิ
มันดูสวยสะพรั่งไปหมดเหมือนสาวทุกๆ คน พิศดูใบหน้าตนเองในกระจก
มักจะเห็นแต่ความงาม ไม่มีใครเหมือน


"หนูนับดูหรือเปล่าล่ะ" เฉยโฉดใช้มือลูบไล้ เส้นผมของเด็กสาวไปมา
ปฏิกิริยาตอบรับออกมาบอกให้รู้ว่า...ไม่ผิดหวังแน่
"เปล่า"   เด็กสาวพูดเบาๆ จากซอกคอของเขา
"อาก็เปล่า"
"แต่ว่า...แต่รู้สึกว่ามันมากเหลือเกิน"
"ไม่มากเท่าไรเลย"
"ทําไมจะไม่มาก"
"ตราบใดที่เลือกไม่หมดตัวมันจะมากได้ยังไง"
"ตายจริง ถึงกับเลือดหมดตัวเชียว"
"เลือกของหนูและของอา   ธรรมชาติสร้างทดแทนชดเชยให้ตลอดเวลา
ไม่มีขาดสาย มันไม่มีวันหมดไปจากตัวหรอก"
"รู้ได้ยังไง"
"เนื้อของหนูยังอุ่นอยู่"
"และของอาล่ะ!"
"หนูไม่รู้สึกหรือ"
"รู้สึกอะไร"
"นี่ไง" เฉยโฉดใช้เจ้าเนื้อเหล็กของเขาบอกแทน
"อุ๊ย" เด็กสาวสะดุ้งแล้วหัวเราะ
"เป็นไง"
"เล่นอะไรไม่รู้"  เด็กสาวขยับจะผละตัวออกแต่เขารั้งไว้
"ขออีกครั้งนะ"
"ม่าย..."
"เถอะน่า"   เขาจับร่างของเด็กสาวยันออกไปจากตัวมองเข้าไปในสายตา
"เดี๋ยว...เดี๋ยวลายตองมาแล้ว"
"ไม่มาง่ายๆ หรอก รถแถวนี้มันหายาก"  แววตาของเฉยโฉดมีพลังพอ
ที่จะทําให้เด็กสาวตอบออกมา
"หนูแต่งตัวแล้ว"
"ไม่ต้องถอดหรอก"
"ไม่เอา..."   เด็กสาวเบือนหน้า แต่เนื้อตัวเหมือนจะหมดเรี่ยวแรงอยู่ในมือเขา
"เชื่ออาสิ อย่าดื้อ"
เฉยโฉดช้อนร่างเด็กสาวขึ้นมาลอยอยู่ในวงแขน เธอขัดขืนแต่ไม่มีความหมาย
อะไร เพราะเรี่ยวแรงไม่รู้มันหายไปไหน อ่อนเปลี้ยไปหมดทั้งตัว
หมดกําลังจะปัดป้อง

ความจริงกําลังวังชายังมีอยู่เหลือเฟือ แม้จะผ่านการตรากตรําจากย่ำค่ำ
มาจนยันรุ่ง แต่เมื่อโดนเขาสัมผัสเข้าในแบบนี้ มันก็ไม่ผิดอะไรกับลูกเขียด
หรือหนูนาถูกงูเห่ารัดเบาๆ ก็หมดแรงเคลื่อนไหว ได้แต่ส่งเสียงร้อง
มันพ่ายแพ้กันด้วยธรรมชาติ ธาตุในตัวหมดแรงอ่อนโรย

ความสมบูรณ์ของร่างกาย การได้ลิ้มรส ซดราคะทําให้เกิดความติด
ไม่ผิดอะไรกับคนเริ่มเสพยาเสพติด คิดว่าขออีกครั้งเป็นครั้งสุดท้าย


เมื่อคืนนี้แม้จะยําแล้วยำเล่า แต่มันอยู่ในความมืดสลัว สายตามอง
ไม่เห็นเนื้อตัวเด่นชัดเหมือนในยามนี้

กระแสเลือดฉีดแรงจนใบหน้าและเนื้อตัวออกสีแดงเรื่อๆ มันสว่างโล่งแจ้งเหลือเกิน

พอหลังสัมผัสเตียง มือสากที่เคยรู้รสแล้วสอดเข้ามาในม่อฮ่อมซึ่งภายใน
ไม่มีอะไรนอกจากเนื้อล้วนๆ เป็นเนื้อซึ่งธรรมชาติสร้างมาให้กับสตรีเพศ
ยื่นออกมาเพื่อรับการสัมผัส เป็นจุดเร้า เป็นจุดเริ่ม

เฉยโฉดใช้มือปาดและเกลี่ยเหมือนช่างใช้เกรียงตกแต่งปูน

เด็กสาวเผลอตัวงับริมฝีปากของเขาเบาๆ
จากนั้น...ชายเสื้อด้านล่างก็ถูกยกขึ้นสูงเลยพ้น หน้าอก
ลูกเนียงอยากจะขัดอยากจะขืน...แต่ทําได้เพียงคิด...เพราะเนื้อเต่งสีแดง
ฉานบนฐานสีขาว...หายเข้าไปในปากหนาของเขาเสียแล้ว...

เขาเริ่มนับหนึ่งใหม่อย่างช้าๆ ดูดกินน้ำลายของตนเองโดยอาศัยเนื้อปลายเต้า
ซึ่งชูเด่นขึ้นมาเหมือนพู่น้อยๆ บนหมวกกลมสีขาวเป็นสื่อ
การได้เปลี่ยนชุดจากเนื้อตัวเปล่าเปลือยมาเป็นชุดที่มีม่อฮ่อมรองรับ
ทําให้เฉยโฉดยิ่งเกิดความหื่นระห่ำมากขึ้น

มันเป็นอาหารมื้อสุดท้าย เขากินอย่างตะกรุมตะกราม กินเหมือนสัตว์
กําลังขม่ำ เหยื่อส่งเสียงครางออกมาเบาๆ


ต่อจากนั้น...ผ้าถุงสีเดียวกับเสื้อก็ถูกเลิกขึ้นมา จากข้างล่าง ขาขาวยาวเรียว
ตลอดจนเนินเนื้อทอง และไรขนออกมารับแสงสว่างเต็มตา

เธอเอื้อมมือมาเพื่อตะปบชายผ้าไม่ให้เลิกชะเวิกขึ้นมามากกว่านี้
แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้
มือหยาบหนาของเขาสอดเข้าไปตะปบเนินเนื้อทองใช้เวลาบดบี้
อยู่ไม่นาน เฉยโฉดก็รู้ว่าเลือดในกายของเด็กสาวกําลังระอุได้ที่

เขาจัดการกับสิ่งที่ปิดบังสัดส่วนของร่างกายออกจนหมด
แม้จะเหมือนวัวเคยขาม้าเคยขี่   เคยอ้ำเคยอม เต็มปากเต็มคําแต่ก็อยู่
ในความสลัว ลูกเนียงเพิ่งได้เห็นพ่อทูนหัวของเขาเต็มตาคราวนี้เอง

รูปร่างของมันเหมือนกับถูกดึงถูกขึงจนออกมาตึงเต็มเหยียด ราวกับไม่ใช่เนื้อ
ใบหน้าของมันแผ่ออกกว้างราวกับดอกทานตะวัน ลายเส้นเลือดขมวดอยู่ตาม
ลําตัวไม่ผิดอะไรกับรากไทรระย้าที่พุ่มพวงถ่วงน้ำหนักอยู่ข้างล่าง

มันเป็นผลงานศิลปะชิ้นหนึ่งของธรรมชาติ   สร้างให้มันดูงามและทระนง
มันเหยียดร่างออกมา ยาวระนาบกับความว่างเปล่า

มันซัดส่ายไปมาเหมือนจะหาที่ซุกซ่อนเพื่อความอบอุ่น หรือไม่ก็คงจะร้อนรน
จนหน้าตาแดงเถือก มองหาบ่อน้ำเพื่อหลบลงไปหาความเย็นชุ่มชื่น
ดูใบหน้าและรูปร่างของมันคล้ายกับกําลังโกรธจัด หากคนไม่เคยรู้รส ไม่รู้ใจ
เพียงแต่ได้เห็นมัน ก็จะเกิดความหวาดกลัวในขนาด ช่วง และน้ำหนัก

รังสีในตัวของมันดูจะแผ่ซ่านออกมาร้อนแรง พร้อมจะทะลวงทลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า

แต่ลูกเนียงรู้จักรู้ใจมันดีอยู่แล้ว มันไม่ได้มีอารมณ์รุนแรงน่าหวาดกลัวอะไรเลย
มันดีแต่ทีท่าเท่านั้น แต่หัวใจอันแท้จริงมันนั้นดีแสนดี มันสุภาพ อ่อนโยน
รู้กาลเทศะ รู้จังหวะหนักเบา มันเหมือน พู่กันในมือจิตรกร วาดลวดลายสีสัน
ให้เกิดความงามในอารมณ์

มันเป็นสัตว์แสนเชื่องยามที่เธอป้อนอาหารให้
มันกิน ไม่ตะกละมูมมาม ไม่ผิดอะไรกับปรอทสอดเข้ามา
รู้ความร้อนแรงของราคะ
มันรู้ระยะไหนควรหนัก ระยะไหนควรเบา ระยะไหนควรเร่งหรือควรแรง
มันเหมือน...เหมือนสิ่งที่เรียกกันว่าวิเศษสุด มีเพียงมันเท่านั้น
ที่สร้างสรรค์ความสุขได้ยอดเยี่ยม

ตะวันแทงแสงเข้ามาทางหน้าต่าง จับร่างของเฉยโฉดและลูกเนียง
บนเตียงแจ่มชัด


ความเอียงอาย มือที่พยายามรั้งชายผ้า ชายเสื้อ ปิดหน้าอกและ
เนินเนื้อทอง ใบหน้าแผ่ซ่านด้วยสีเลือดของเด็กสาว ดูจะเป็นเครื่อง
ยั่วยุเฉยโฉดมากขึ้น

เขาสอดตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างสองขาขาวยาวเรียว เปรียวเนื้อ
เปล่าของเด็กสาวสัมผัสกับเนื้อเปล่าเปลือยของเขา

เจ้าเนื้อเหล็กของเขาราวกับสุนัขที่ฝึกมาแล้วอย่างช่ำชอง กลิ่นที่เรียกร้อง
ออกมาจากเนินเนื้อทอง ทําให้มันแม่นยําไม่พลาดเป้า...

มันสอยเข้าไปไม่มีผิดแต่ค่อนข้างจะแรงไปสักหน่อย
เด็กสาวเม้มปาก..ถลึงตาจ้องหน้าเฉยโฉดแกล้งทําเป็นโกรธ แต่ดวงตา
กลมโตเบิกกว้างกลับมองเห็นแววหวานแทนที่จะเป็นแววขม..เป็นจริต
ของเยาว์วัยทําให้ออกมาดูน่ารักและน่าลุ้น...และรุน...

เฉยโฉดก้มอกลงไปทาบอก และปากกดลงที่ ปากสีแดงอิ่ม

เจ้าเนื้อเหล็กของเขาก็พลอยตามดําดิ่งลงไปด้วย
ปากของเขาถึงปากของเด็กสาวก่อน
เจ้าเนื้อเหล็กไม่ทันสุดช่วง   ต่อเมื่อลิ้นของเขากวาดเข้าไปในปาก
ของเด็กสาว เจ้าเนื้อเหล็กของเขาจึงสุดทางตันสิ้นทางไป
มันจําเป็นต้องถอนตัวออกมาช้าๆ และค่อยๆทอดตัวกลับเข้าไปใหม่ และบางครั้ง
มันจะถอนตัวออกมาจดๆ จ้องๆ ถลันเข้าไปเล็กน้อยแล้วกลับถอยออกมา คล้ายกับ
จะหลอกล่อพอเนื้อทองเผลอ มันก็จะทิ้งตัวลงไปสุดแรงเป็นชุดๆ ถี่ๆ   ครู่หนึ่ง
ก็กลับออกมาหลอกล่อหาทางเข้าทําอย่างเดิม   บางครั้งหนักและเบาสลับ
ฟันปลาไปเรื่อยๆ

ถึงบทนี้ลูกเนียงหมดแก่จิตแก่ใจจะใช้มือรั้งชายผ้า ปิดป้องเนื้อทองต่อไป
อีกแล้ว เธอยกมือขึ้นมาโอบสองไหล่ของเขาปรือตา...ปล่อยตัวปล่อยใจ
ตามทั้งใจเขาและตามใจตนเอง


ดวงตาปรือที่มองผ่านไหล่ของเขาขึ้นไปบนเพดานเหมือนเห็นรุ้งทอแสง
โค้งงามระยับไหวระริก แดดที่แทงแสงเข้ามาทางรูเล็กๆ ของสังกะสีพราว
ดังดาวกะพริบ

แล้วก็เหมือนเดิม...เตียงส่งเสียงร้องออกมา...เป็นจังหวะ

เตียงเป็นสิ่งไม่มีชีวิตยังทนไม่ได้ถึงกับส่งเสียง ร้อง...
แต่ลูกเนียงมีชีวิตกลับทนได้ ไม่มีเสียง ร้อง...

รอยแตกที่ข้างฝาเล็กๆ แต่เมื่อเอาดวงตาแนบเข้าไปภาพที่มองเห็น
จะใหญ่ แสงแดดจากหน้าต่าง ส่องกราดเข้ามาทําให้ภาพบนเตียงกระจ่าง
แก่สายตาของลายตองที่แนบอยู่กับรอยแตก

แต่ส่วนที่ลายตองมองเห็นชัดมันเป็นด้านหลังของก้นสีขาวตัดด้วยสีดํา
ความบางตัดด้วยความด้าน

สิ่งที่อาเฉยกําลังทํากับลูกเนียงแบบนี้ตนได้เคยเห็นมาแล้ว ตอนที่เจ้ากําบังทํา
กับลูกเนียง
ครั้งนั้นมันไม่ผิดอะไรกับการทําร้าย เป็นการทําที่เอาแต่ใจตนฝ่ายเดียว
แม้แต่เตียงก็ยังไม่ส่งเสียงแบบนี้ แต่มันเป็นเสียงดังโครมครามผสมกับ
ลมหายใจครืดคราดๆ เหมือนวัวเหมือนควายกลั้วไปกับเสียงร้องอย่าง
เจ็บปวดของลูกเนียง จนกระทั่งต้องเผลอร้องเรียก "แม่"
หากครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งนั้น และอาเฉยไม่ใช่คนโง่เหมือนเจ้ากําบัง
ดูไปแล้วมันเป็นการทําด้วยความรัก ความพร้อมที่จะให้กันและกัน
เสียงของเนื้อที่อัดลงบนเนื้อ เสียงครางของเด็กสาวเบาๆ เหมือนโหยหา
และเร่งเร้าให้อาเฉยช่วยควานหาให้พบ ช่วยเอามันออกมา เตียงหรือก็ลั่น
เป็นจังหวะ เป็นแบ๊คกราวน์ดสอดคล้องอย่างงดงามกลมกลืนไปกับบทบาทของคนทั้งสอง

เป็นการแสดงออกอันเหมาะสม เป็นงานศิลป์ เคลื่อนไหวอย่างน่าชม
ศิลปะเคลื่อนขยับใดเล่าจะ งามเหมือนศิลปะที่มนุษย์กําลังปฏิบัติเกมกาม
ให้แก่กันและกันด้วยความพร้อม

วัยไม่ได้เป็นเครื่องกีดขวางของคนทํางานศิลป์กาม

งามราวกับประติมากรรมสลักด้วยหินอ่อนเป็นเรือนร่างของมนุษย์สองเพศ
อยู่บนแท่น เกิดปาฏิหาริย์เคลื่อนขยับขึ้นมาได้

และสี...สีเนื้อขาวอมเลือดฝาดตัดกับสีเนื้อทองแดง แม้จะเก่าคร่ำไปหน่อย
แต่ก็แข็งแกร่ง กลีบเนินเนื้อทองของเด็กสาวแลบออกและหลบเข้าเป็น
สีแดงจัด แดงเหมือนมะเขือเทศเละๆ  มะละกอสุกจนงอม
ผลสตรอว์เบอร์รี่ที่ถูกกวนจนข้นคลั่ก

และเนื้อเหล็กของอาเฉยเล่าก็ไม่ผิดอะไรกับ ถ่านที่กําลังติดไฟแดง

ตั้งแต่ลายตองเกิดมาเป็นตัวเป็นตน ตั้งแต่รู้จักกับมือที่สามของบุรุษเพศ
ก็เพิ่งได้เห็นความอะร้าอร่าม สมกับความสําคัญของมันคราวนี้เอง
นึกไม่ถึงว่าอาเฉยจะเหลือเฟือถึงเพียงนี้

สีของเนื้อ สีของผ้า เสียงกระทบกระทั่ง แสงแดดสาดส่อง...
แค่สัมผัสด้วยสายตากับหู หัวใจของลายตองก็หวั่นไหว ราคะซ่อน
อยู่ภายในเริ่มร้อนพล่าน

ถึงช่วงนี้มันก็ให้พล่านไปหมดทั้งเฉยโฉด ลูกเนียง และลายตอง

ห้องเล็กๆ   อากาศเริ่มร้อนอบอ้าว เรียกเหงื่อออกมาซึมและซ่าน...
ความใคร่ครวญกลายเป็นความใคร่ส่งเสียงครวญ ไม่มีความคิดอะไร
เข้ามาแผ้วพานนอกจากมัน...

ใบหน้าของเฉยโฉดกับลูกเนียงกลายเป็นตรงกันข้าม

เฉยโฉดดูถมึงทึง ขบกรามขึ้นเป็นสันราวกับจะคิดพิฆาตฆ่า
ลมหายใจที่ระบายออกมานั้นเริ่มหนัก และจังหวะการทิ้งตัวแรงเร็วขึ้นๆ

ใบหน้าของลูกเนียงกลับดูเหมือนจะอ่อนล้า โหยหา หลับตา สูดลมหายใจลึกๆ
ช้าๆ  คล้ายกับสูดอากาศบริสุทธิ์อยู่ริมทะเลอันกว้างไกล


ความใหญ่โตแข็งแรงจากร่างกายของเฉยโฉดกระหน่ำหนัก
ขึ้นทุกที่และทุกที่... ไม่มีอะไรจะหยุดยั้งเอาไว้ได้แล้ว

แทนที่จะส่งเสียงร้องโอดโอยเด็กสาวกลับสปริงตัวขึ้นรับมิให้ขาดจังหวะ

ฝ่ายที่เจ็บปวดดูจะเป็นเตียงที่มันเริ่มส่งเสียงร้อง...ดังขึ้นๆ

ในที่สุด......

ลายตองได้ยินเสียงลูกเนียงกรีกหวีดร้องออกมาลั่น
สองมือรัดรั้งไหล่ของอาเฉยลงมากัด

ขณะที่ลูกเนียงรู้สึกเสียวไหวเหมือนใจจะขาด...กระแสอุ่นก็เข้ามาเอิบอาบ

เจ้าเนื้อเหล็กของเขามันทําท่ายึกยักๆ อยู่สอง สามครั้ง....
จากนั้นจึงกดเนื้อแช่นิ่ง ฝังแน่น...

ต่างฝ่ายต่างแจ้งยอดให้แก่กันและกันรู้ จนหมดสิ้น...

Darkreader

เป็นฉากที่ยืดยาวต่อเนื่องมาหลายตอน แต่ภาษาสละสลวยมากครับ

cdx

ลายตองจะเจ้ามาแจมใหม่นี่ / ช่างเป็นบทที่สวยงาม

peddo

ไม่ยอมเว้นช่องไฟเลย เฉยโฉดฉวยทุกโอกาส ลูกเนียงเจอแบบนอนสตอปเข้าไป ใจคงจะแตกกระเจิง หวังว่าข้างล่างจะไม่กระจุยไปนะครับ
ลายตองเคยลองของเฉยมาก่อนมั้ยไม่รู้ แต่บังไม่อยู่ น่าจะจะลองแก้คันหูสักทีน่าจะติดใจ

swss2511

เสียวสุขสั่งลาแต่คงไม่ใช่ครั้งสุดท้าย

suriyamahajit

ลูกเนียงได้สั่งลาแล้วคงฟินไปนาน